วันนี้มาชมโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ 705 ตร.ม. บนถนนพุทธมณฑล สาย 1 กันครับ กับ The Obsidian พุทธมณฑล สาย 1 เป็นโครงการที่มีเอกลักษณ์และจุดเด่นที่แตกต่างจากโครงการใกล้เคียงในย่านนี้หลายจุดเลย ผมลองรวบรวมมาให้แล้วครับ ลองไปดูกัน
- ทำเล : เป็นโครงการบ้านเดี่ยวติดถนนพุทธมณฑล สาย 1 ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับถนนเพชรเกษม และใช้ถนนบางแวกเข้าราชพฤกษ์ต่อเข้าสาทรได้ง่าย หากจะออกเมืองหรือไปกรุงเทพตอนบนก็มีฝั่ง ถ.บรมราชชนนีให้ใช้งานได้ง่าย ทำให้สามารถอิงความเจริญรอบๆได้หลายจุดครับ
- จำนวนยูนิตและส่วนกลาง : ทั้งโครงการมีทั้งหมด 21 ยูนิต ซึ่งจัดว่าน้อยกว่าโครงการใกล้เคียงอื่นๆในละแวกนี้ ภายในให้ส่วนกลางมาดูดีและใช้งานง่าย (เพราะยูนิตน้อย) จัดวางเสาไฟฟ้าลงดินทั้งหมด รวมถึงลงเสาเข็มยาวเท่าตัวบ้านให้ทั่วพื้นที่โครงการเลย (ไม่ใช่แค่เฉพาะตัวบ้าน) ทำให้พื้นที่โครงการจะไม่ทรุดในระยะยาวครับ
- แบบบ้านและวัสดุ : มีสไตล์การออกแบบที่ชัดเจน เป็นเอกลักษณ์ (Modern Classic) เลือกใช้วัสดุหินจริง (หินทราเวอร์ทีน) ไม้จริง (ไม้สักแท้) ระบบรักษาความปลอดภัยและสุขภัณฑ์แบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศ มีลิฟต์โดยสาร และสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดที่ใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริง
ข้อมูลโครงการ
The Obsidian Phutthamonthon Sai 1 (ดิ ออปซิเดียน พุทธมณฑลสาย 1) ณ วันที่ 21 พฤษภาคม 2564
ชื่อโครงการ | The Obsidian Phutthamonthon Sai 1 (ดิ ออปซิเดียน พุทธมณฑลสาย 1) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท วีไอพี เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด |
SEGMENT CLASS | LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนพุทธมณฑล สาย 1 เขต ภาษีเจริญ |
ที่ดิน | 9-2-39.9 ไร่ |
จำนวนยูนิต | จำนวน 21 ยูนิต |
ประเภทบ้าน | บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาดที่ดิน 125 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 706 ตร.ม. – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 6-8 ที่จอดรถ – ราคาเริ่มต้น 39.9 ล้านบาท |
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 3.3 เมตร และ 7.2 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | N/A บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2563 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2564 |
เว็บไซต์โครงการ | https://www.akralandandhouse.com/theobsidian/ |
โทร | 066-115-9961 |
Call Center | N/A |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.739562512189627, 100.42784199724986
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ The Obsidian พุทธมณฑล สาย 1 ครับ
The Obsidian พุทธมณฑล สาย 1 เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑล สาย 1 ครับ เป็นช่วงกึ่งกลางถนนใกล้กับถนนบางแวก สามารถออกได้ทั้ง เพชรเกษมและบรมราชชนนีเลย แถมยังใช้ถนนบางแวกเชื่อมต่อกับถนนราชพฤกษ์หรือไปทะลุถนนจรัญสนิทวงศ์เข้าตัวเมืองกรุงเทพชั้นในได้หลายทาง ดังนั้นในเรื่องของการเดินทางทำได้ค่อนข้างจะหลากหลาย ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ก็สามารถอิงได้หลากหลายฝั่งเช่นกัน ไม่ว่าจะมาจากทางบรมราชชนนี ก็มี เดอะ Paseo Park กาญจนาภิเษก, ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ส่วนถ้าลงมาทางถนนเพชรเกษม ก็จะมี SEACON บางแค มีร้านค้าร้านอาหาร มีตลาดบางแคสำหรับซื้อ-ขายของสดและของแห้ง ส่วนห่างออกไปหน่อยก็จะมี The Mall บางแค, Tesco Lotus, Big C หรือใช้ถนนบางแวกไปหาร้านอาหารบนถนนราชพฤษ์ทานก็ทำได้ไม่ยากครับ
นอกจากนั้นการเดินทางสาธารณะของโครงการ The Obsidian พุทธมณฑล สาย 1 ยังสามารถใช้รถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกรองในการเข้าเมืองได้ เช่นรับส่งลูก ๆ ไปเรียนพิเศษ หรือไปภายในตัวเมือง ไม่อยากขับรถเข้าไปเอง ก็จะมีระยะห่างจาก MRT สถานี ภาษีเจริญ ประมาณ 3.5 กิโลเมตร เป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สามารถไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าได้อีกหลายสาย เพิ่มมิติในการเดินทางให้หลากหลายยิ่งขึ้นครับ
สำหรับการเดินทางไปโครงการ The Obsidian พุทธมณฑล สาย 1 ภายในวันนี้ ผมจะไปจากสะพานตากสินบนถนนสาทรกันเลย เพื่อให้เห็นว่าการเดินทางเข้าออกเมืองไม่ได้ยากเลย และถ้าดูจากในแผนที่ที่ผมนำมาจาก Google Map จะเห็นว่า มีระยะทางประมาณ 11.4 กิโลเมตร และใช้ระยะเวลาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น แต่ผมเดินทางในช่วงเวลาสักประมาณ 10 โมง ไม่ได้เดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนนะครับ ยังไงก็ต้องเผื่อเวลาเดินทางกันอีกด้วยนะ
เริ่มต้นกันที่สะพานตากสินครับ ตรงเข้าถนนกรุงธนบุรีเลย จากนั้นก็ตรงต่อไปเรื่อยๆเพื่อเข้าถนนราชพฤกษ์ ให้ขับตามทางไปเรื่อยๆ จากนั้นชิดซ้ายที่แยกบางแวก เพื่อเลี้ยวเข้าถนนบางแวก ตรงต่อไปจนสุดถนนเลยครับ ทะลุเข้าถนนพุทธมณฑล สาย 1 เลี้ยวซ้ายและตรงไปอีกประมาณ 100 เมตร ก็จะเจอตัวโครงการ The Obsidian พุทธมณฑล สาย 1 อยู่ทางซ้ายมือครับ ลองไปชมภาพบรรยากาศกัน
เริ่มต้นบนถนนสาทรครับ ฝั่งมุ่งหน้าไปยังฝั่งธนบุรี วันนี้อากาศแจ่มใสมากๆ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
มาดูพื้นที่รอบๆโครงการ The Obsidian พุทธมณฑล สาย 1 กันบ้างครับ พื้นที่โครงการทั้งหมดประมาณ 9 ไร่กว่า ๆ มีลักษณะเป็น 4 เหลี่ยมผืนผ้า มีทางเข้าออกโครงการทางเดียวบนถนนพุทธมณฑล สาย 1 พื้นที่โครงก็ถูกร่นเข้ามาด้านใน ทำให้บ้านหลังที่อยู่ด้านหน้าห่างจากถนนพุทธมณฑลสาย 1 ประมาณ 50 เมตร ทำให้ไม่ถูกมลภาวะเรื่องเสียงและฝุ่นรบกวนแน่นอน ได้ความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้นครับ และก็ยังเข้าออกได้ง่าย ไม่ต้องวนในตัวโครงการนาน
หลัก ๆ เลยพื้นที่ในย่านนี้จะเป็นชุมชนพักอาศัย พื้นที่แนวราบ 1-2 ชั้น หรือไม่ก็เป็นพื้นที่ว่างเปล่าทั้งหมดเลย ซึ่งรั้วโครงการจะสูงประมาณ 4 เมตร ทำให้ได้ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวจากพื้นที่ภายนอก รวมถึงตัวบ้านของเราก็จะสูงกว่าเพื่อนบ้านข้างเคียงด้วย ลองไปชมบรรยากาศรอบๆกันครับ
ที่บริเวณติดถนนพุทธมณฑล สาย 1 ฝั่งไปทางถนนบางแวก จะมีแนวทางเดินยกระดับให้เล็กน้อย บ้านพักอาศัยส่วนบุคคล 1-2 ชั้นครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ตลาดบางแค ~ 3.6 km.
- ซีคอนบางแค ~ 5.2 km.
- Tesco Lotus บางแค ~ 5.2 km.
- ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ~ 6 km.
- ปากคลองตลาดใหม่ ~ 6.8 km.
- เดอะมอลล์บางแค ~ 7.4 km.
- Food Villa ~ 7.9 km.
- The Paseo Park กาญจนาภิเษก ~ 8.2 km.
- The Circle ราชพฤกษ์ ~ 8.2 km.
- Big C Supercenter ~ 10.2 km.
- Central ปิ่นเกล้า ~ 13.2 km.
- The Crystal SB ราชพฤกษ์ ~ 14.1 km.
- The Walk ราชพฤกษ์ ~ 16.3 km.
โรงพยาบาล
- รพ. อินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ ~ 4.6 km.
- รพ.เพชรเกษม 2 ~ 5.5 km.
โรงเรียน
- รร.ผดุงกิจวิทยา ~ 2.2 km.
- รร.จันทร์ประดิษฐารามวิทยาคม ~ 5.4 km.
- ม.สยาม ~ 5.9 km.
- รร.อยู่เย็นวิทยา ~ 6.2 km.
สถานที่ราชการ
- สถานีตำรวจนครบาลภาษีเจริญ ~ 3.7 km.
รายละเอียดโครงการ
มาดูพื้นที่ภายในโครงการ The Obsidian พุทธมณฑล สาย 1 กันต่อเลยครับ ผังของโครงการมีขนาดประมาณ 9 ไร่กว่า ๆ ภายในมีเพียง 21 ยูนิต จัดเป็นอัตราส่วนที่ค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวสูงเลย และเมื่อเทียบกับโครงการใกล้เคียงในย่านนี้ ก็จัดว่าเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดเลย นอกจากนั้นภายในพื้นที่โครงการเองจะมีถนนด้านหน้าทางเข้าโครงการกว้าง 12 เมตร เข้ามาจะเจอกับป้อม รปภ. ที่มีประตูเหล็กบานเลื่อนแบบ 2 ตอน และ CCTV ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ด้านในจะมีถนน 9 เมตร เป็น 4 เหลี่ยม วนได้รอบโครงการ ทำให้ภายในโครงการไม่ต้องกลับรถเลย นอกจากนั้นเราจะยังไม่เห็นเสาไฟฟ้าภายในโครงการด้วย เพราะถูกเอาลงดินทั้งหมดเหมือนที่เห็นกันในโครงการระดับ Luxury Class ครับ แต่ไฮไลท์ที่สุดส่วนตัวผมยกให้เรื่องที่ทางโครงการลงเสาเข็มยาวเท่าตัวบ้านให้ทั่วทุกพื้นที่โครงการเลย ใช่ครับ ฟังไม่ผิด ทั่วพื้นที่โครงการขนาด 9 ไร่กว่า ๆ ทำให้ในระยะยาวพื้นที่โครงการจะไม่ทรุด แต่ละพื้นที่ภายในโครงการก็จะคงสภาพได้ยาว ผสมกับแนวคิดในการออกแบบโครงการแบบ Modern Classic และวัสดุที่เลือกใช้เป็นหินแท้ ทำให้โครงการยิ่งดู Timeless (ไม่เก่า ไม่ตกยุค) ยิ่งขึ้นไปอีกครับ
The Obsidian แปลว่า “อัญมณีแห่งความสำเร็จ” ดังนั้นเราจะเห็นการเล่นเหลี่ยมมุม หรือถอดรูปฟอร์ม Pattern บางอย่างของอัญมณีอยู่ในส่วนต่างๆของโครงการและตัวบ้าน
อย่างเช่น ทางเข้าโครงการจะมีป้ายขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยหินและเล่นเหลี่ยมมุมของอัญมณี ทำให้ดูไม่เรียบและน่าเบื่อ แต่ก็ไม่ดูเยอะจนเกินไป รวมถึงลวดลายที่พื้นที่คอนกรีตพิมพ์ลายส่วนด้านหน้านี้ด้วยเช่นกัน ตัดกับสีเขียวของพุ่มไม้และผนัง Vertical Garden ด้านข้างทำให้ออกมาดูค่อนข้างลงตัวเลยครับ
ซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าก็ทำออกมาได้ดู Grand ดีครับ ด้วยการออกแบบที่เน้นสมมาตร (Symetry) และใส่รายละเอียดเล็กๆลงไปใน Details ต่างๆ ในแง่ของการใช้งานก็จัดว่าทำออกมาได้ดีเลยครับ เพราะมีหลังคาผืนใหญ่ดูแลทั้งขาเข้าและขาออก
โดยระบบเข้าออกจะประตูบานเลื่อนเหล็ก 2 ตอน ระบบ Easy Pass ที่ใครมี card ก็ผ่านไปได้เลยเหมือนทางด่วน มีรปภ. และ CCTV ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงครับ
ด้านในเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ภายในโครงการครับ ที่ไม่ได้เข้ามาลึกนัก แต่เป็นระยะที่พอกับการป้องกันเสียงรถและฝุ่นจากถนนหน้าโครงการ ได้แนวผนัง Vertical Garden ยาวตลอดแนวถนน
เมื่อเข้ามาจะพบกับพื้นที่ส่วนกลางก่อนเลยครับ เป็นอาคาร Clubhouse ที่ทำออกมาใหญ่เลย เป็นกิจกรรมที่เน้นไปที่พื้นที่ต้อนรับ และพื้นที่ออกกำลังกายครับ
ด้านหน้าจะมีพื้นที่จอดรถให้เล็กน้อย และสวนสำหรับรับทางเข้าออกโครงการ
ด้านข้างอาคารมีทางลาดรองรับการใช้งานรถเข็นด้วย
เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ Lobby ที่เอาไว้พักคอย หรือรับแขก สำหรับใครที่ไม่ได้อยากให้แขกเข้าไปที่บ้าน ก็สามารถมาใช้พื้นที่บริเวณนี้ได้
อีกฝั่งจะเป็นห้องนิติบุคคล และพื้นที่ลงไปใต้ดินครับ
ด้านล่างจะเป็นพื้นที่ห้องออกกำลังกายครับ จัดมาให้ค่อนข้างใหญ่เลย มีให้ครับทั้งส่วนของ Cardio และ Weight Training
ด้านในจะมีเครื่องเล่นอย่างดี และทางเข้าห้องน้ำแยกชายหญิงครับ
เป็นห้องน้ำขนาดที่สามารถใช้งานร่วมกันได้พร้อมๆกันประมาณ 3-4 คนครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse
- ห้องออกกำลังกาย
- พื้นที่สวนหย่อมหน้าโครงการ
- Sunken Bench (Courtyard)
- Pavillion
- Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
- รั้วรอบโครงการสูงประมาณ 4 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
- สายไฟฟ้าลงดินทั้งหมด
- ลงเสาเข็มยาวเท่าตัวบ้านทั่วพื้นที่โครงการ
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน ระบบ Easy Pass
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Motion Sensor จาก Fibaro
แบบบ้าน
โครงการ The Obsidian พุทธมณฑล สาย 1 จะมีแบบบ้านแบบเดียวนะครับ เน้นที่พื้นที่ใช้สอยแต่ละส่วนค่อนข้างใหญ่ และมีจุดที่น่าสนใจเยอะเลย เริ่มที่หน้าบ้านและหลังบ้านวางเสาเข็มเท่าตัวบ้านมาให้ (จริงๆลงเสาเข็มไว้ให้ทั่วพื้นที่โครงการอยู่แล้ว) ได้ Facade หน้าบ้านเป็นหินทราเวอร์ทีน และอลูมิเนียมทำสี Copper ภายในบ้านจะได้ Digital Door Lock จาก Yale
และ Home Automation จาก Fibaro พื้นจะเป็นแกรนิตโต้และ Engineering Wood ผิวไม้สักแท้ โครงสร้างตัวบ้านเป็นก่ออิฐมอญแดง บันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กปิดผิวไม้สัก ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ให้ไฟ Downlight อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Kohler ได้อ่างอาบน้ำและสุขภัณฑ์อัตโนมัติในห้อง Master Bathroom ได้ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยทุกห้อง ได้ลิฟต์โดยสารขนาด 400 กก. จาก Schneider และสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 9 x 2.5 ลึก 1.2 เมตร พร้อมมุม Jacuzzi และแนวผนังน้ำพุด้านข้าง ให้เครื่องปรับอากาศ Panasonic จำนวน 9 เครื่อง (ทั้ง Cassette Type และ Wall Type) ลองไปชมกันครับ
บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาดที่ดิน 125 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 706 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 6-8 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 39.9 ล้านบาท
ก่อนจะเข้าไปภายในตัวบ้านก็จะเห็นก่อนเลยว่าที่จอดรถของที่นี่ให้มาเยอะมากครับ ถึง 6-8 คัน เข้ามาด้านในจะเจอกับส่วนของ Foyer ก่อน สำหรับใส่และถอดรองเท้าให้เป็นสัดส่วน ถัดมาจะเจอกับห้องอเนกประสงค์ที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำได้ จะเป็นห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ห้องสมุด ห้องออกกำลังกาย แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ ด้านในจะเป็นลิฟต์โดยสารและบันได ใต้บันไดมีห้องเก็บของและห้องน้ำแบบ Powder Room มาให้ (ไม่มีส่วนอาบน้ำ) ส่วนห้องนั่งเล่นจะได้พื้นที่ Double Volume เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำได้เช่นกัน ด้านหลังบ้านจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ที่มีพื้นที่ด้านข้างเป็นลานซักล้าง ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำในตัวมาให้
ขึ้นมาชั้นสองจะมีโถงบันไดที่กว้างเป็นพิเศษ และเชื่อมต่อลงไปยังพื้นที่ห้องนั่งเล่นด้านล่างได้ด้วย ทำหน้าที่แยกพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่ง เป็นห้องนอนหลักฝั่งหน้าบ้านและห้องนอนรองฝั่งหลังบ้านที่มีห้องน้ำในตัวให้ทั้งสองห้อง โดยฝั่งหน้าบ้านจะมีพื้นที่ Family Area พร้อมระเบียงขนาดใหญ่ให้ด้วย
ส่วนของชั้น 3 จะยังคงแยกพื้นที่ห้องนอนออกเป็นฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้านเช่นเดิม แต่ตรงกลางจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ภายในที่จัดได้หลากหลายแบบมากๆ ส่วนตัวผมมองว่ายืดหยุ่นสุดๆ ให้พื้นที่ลานซักล้างสำหรับด้านบนมาให้ด้วย ลองเข้าไปชมภายในตัวบ้านกันเลยครับ
ตัวบ้านออกแบบมาสไตล์ Modern Classic เน้นการใช้ Facade หินแท้ โดยจะใช้หินทราเวอร์ทีน และอลูมิเนียมทำสี Copper ใช้ลวดลาย Pattern ของอัญมณีมาเป็นส่วนประกอบในการออกแบบ มีหลังคายื่นออกมารับพื้นที่จอดรถถึงรั้วประตูบ้านเลย โดยทางเข้าบ้านจะแยกประตูสำหรับเดินเข้าและรั้วสำหรับรถยนต์ให้ด้วย โดยจะเป็นรั้วอัตโนมัติเข้าไปเก็บด้านข้าง
สามารถปลูกต้นไม้ปิดแนวรั้วได้เหมือนในบ้านตัวอย่างครับ เพื่อให้ดูเรียบร้อย รั้วบ้านจะมีแนวรั้วโปร่งขึ้นมาให้ด้วยด้านข้างครับ ทำสวนมาให้ลักษณะนี้ก่อนเบื้องต้น
พื้นส่วนที่จอดรถก็ลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านไว้ให้ตั้งแต่ทั่วทั้งพื้นที่โครงการแล้ว และจะปูกระเบื้องมาให้แบบนี้เลยครับ
ด้านข้างจะมีแนวทางเชื่อมไปยังส่วนของสระว่ายน้ำด้านหลัง มีระยะให้ทำสวนได้สบายๆ
ส่วนอีกฝั่งก็มีพื้นที่ทำสวนหน้าบ้านให้ด้วย ได้รั้วโปร่งอีกเช่นกันครับ
ด้านในเป็นแนวทางเดินยาวเข้าไป จะมีห้องแม่น้ำและแทงค์น้ำในฝั่งนี้
เป็นห้องนอนขนาดใหญ่เลย สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ พร้อมตู้เสื้อผ้า
ด้านในจะมีห้องน้ำมาให้ ซึ่งจัดมาให้ครบ และมีขนาดใหญ่เลยครับ ทำชั้นวางของหรือวางเครื่องซักผ้าในนี้ได้เลย
ด้านหลังจะมีประตูที่เชื่อมกับห้องครัวของบ้านครับ
และมีแนวทางเดินเล็กๆ ที่ทะลุมายังด้านหลังตัวบ้าน มีรั้วบ้านค่อนข้างสูง และตีรั้วโปร่งเสริมมาให้อีก
กลับมาที่ฝั่งหน้าบ้าน จะมีด้านในเป็นตู้เก็บของครับ สำหรับเก็บอุปกรณ์ที่ใช้งานเป็นประจำได้ เช่นถุงกอล์ฟ จักรยาน อุปกรณ์กีฬา หรืออุปกรณ์ช่าง
ประตูบ้านเป็นไม้สักแท้ มาพร้อม Digital Door Lock จาก Yale สามารถเปิดได้กว้างกว่าประตูปกติ
เข้ามาภายในบ้านส่วนแรกจะเจอกับพื้นที่ Foyer ครับ เป็นพื้นที่สำหรับเตรียมตัวเข้าและออกจากบ้าน นั่งใส่และถอดรองเท้า เพื่อให้เป็นสัดส่วน มีพื้นที่สำหรับทำชั้นรองเท้า ที่นั่งด้านข้างได้ด้วย หรือจะวางเป็นชั้นวางของก็ได้ สำหรับวางของที่ใช้เข้าออกเป็นประจำ เช่น กุญแจ Keycard ต่างๆ ภายในตัวบ้านจะมีระดับพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 3.3 เมตร
เข้ามาจะเจอกับส่วนลิฟต์ก่อนเลยตรงนี้สะดวกดีนะครับสำหรับใครที่เข้าบ้านมาแล้วอยากแยกขึ้นห้องเลย ไม่ต้องเข้าไปภายในบ้านลึกนัก
เป็นลิฟต์ของ Schneider แบรนด์ดังจากประเทศเยอรมันครับ ขนาด 400 กก. ขนาดบรรทุกได้ประมาณ 4-5 คน ต่อรอบ และรองรับการใช้งานของรถเข็น
อีกฝั่งของห้องบ้านจะเป็นห้องอเนกประสงค์ครับ ลองเข้าไปดูกันเลย
เป็นห้องอเนกประสงค์ขนาดค่อนข้างกว้าง จะทำเป็นห้องนอนชั้น 1 ห้องนั่งเล่น ห้องสมุด ห้องออกกำลังกาย หรือห้องทำงานก็ได้ พื้นจะปิดผิวด้วย Engineering Wood ผิวไม้สักแท้ ได้ช่องแสงหลักจากด้านข้างที่เชื่อมไปยังสระว่ายน้ำภายนอกครับ
บ้านตัวอย่างทำเป็นห้อง Home Theatre สำหรับดูหนังฟังเพลง สำหรับใครที่ชื่นชอบก็สามารถนำไปเป็นไอเดียได้นะครับ ภายในห้องจะได้แอร์ Cassette Type จาก Panasonic มาให้ 1 ตัว
ผมเชื่อว่าด้านนอกนี้ต้องเป็นมุมโปรดของใครหลาย ๆ คนแน่ ๆ เพราะเป็นพื้นที่ปิดล้อมที่ได้ความเป็นส่วนตัวเฉพาะภายในพื้นที่ตัวบ้าน และมีพื้นที่การใช้งานเยอะ สามารถจัดกิจกรรมริมสระได้หลากหลายเลย จะวางเตาบาบีคิว หรือจัดปาร์ตี้ริมสระก็ทำได้สบายๆ
สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 9 x 2.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร ที่ Built แนวผนังด้านข้างมาให้แบบนี้ด้วย มีน้ำพุและแนวระแนงพร้อมกระเบื้องเว้นร่องซ่อนไฟมาให้ ภายในสระเองยังมีพื้นที่น่าสนใจอีกหลายส่วนเลย
เริ่มที่มีทางขึ้นลงแบบเป็นสัดส่วน เป็นบันไดที่ทอดยาวลงไปในน้ำ เดินขึ้นลงได้ปลอดภัย
ด้านในสระมีที่นั่ง Jacuzzi มาให้ พร้อมด้านข้างเป็น Sunken Seat สำหรับใครที่ไม่อยากลงน้ำ แต่เชื่อมต่อกับพื้นที่ภายในน้ำได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
หลังบ้านมีพื้นที่ทำแนวผนังต้นไม้ ส่วนรั้วบ้านก็สูง 4 เมตร ป้องกันพื้นที่ภายนอกได้ดีเลยครับ
ด้านข้างจะมีพื้นที่เชื่อมต่อกับภายในบ้านค่อนข้างเยอะ เรียกว่าเป็นมุมที่จัดเป็นวิวหลักของบ้านก็ว่าได้ ตัวบ้านฝั่งทิศนี้จะมองเห็นสระว่ายน้ำได้ทุกพื้นที่ทั้ง 3 ชั้นเลย
โดยจะมีการตกแต่ง Facade ด้านนี้มาให้ด้วย ด้วยหินทราเวอร์ทีน และอลูมิเนียมทำสี Copper เช่นเดียวกับฝั่งหน้าบ้าน
กลับเข้ามาดูภายในตัวบ้านกันต่อ มาที่ห้องโถงกลางบ้านครับ เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ มีส่วนของ Double Volume สูง 7.2 เมตรให้ด้วย ที่เปิดรับช่องแสงด้านข้างฝั่งสระว่ายน้ำ
พื้นที่ส่วนแรกเหมาะกับการทำเป็นห้องนั่งเล่น เพราะใกล้ทางเข้าออกบ้านและได้ช่องแสงใหญ่ด้านใน สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้เลย หรือจะเป็น Sofabed ก็ยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะกลางได้ เหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาด 60-70 นิ้วขึ้นไป
ตรงนี้จะอยู่ 7.2 เมตร สามารถติดตั้ง chandelier ขนาดใหญ่ได้เลย ด้านบนจะเปิดช่องแสงให้เข้าสู่ตัวบ้านได้อีก ทำให้บ้านดูโปร่งและโล่งมากยิ่งขึ้น
ส่วนพื้นที่ด้านในเหมาะกับการทำเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร จะทำเป็นครัวด้วยก็ได้ หรือแค่ Pantry และโต๊ะนั่งรับประทานอาหารก็ได้ เพราะมีพื้นที่เยอะ สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 8-10 ที่นั่งได้เลย
ด้านในจะมีมุมที่จัดช่องแสงแบบ 3 ฝั่งมาให้ เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำภายนอก ตรงนี้สามารถทำเป็นมุมอเนกประสงค์ได้ จะวางโต๊ะกินข้าวยาวไปถึงมุมนี้ หรือจะกั้นเป็นห้องอเนกประสงค์เพิ่มก็ทำได้ครับ
ด้านในจะมีพื้นที่ให้ทำมุม Pantry ได้ และมีประตูเชื่อมต่อด้านหลังบ้าน
มีพื้นที่สามารถทำเป็นห้องครัวปิดที่เป็นสัดส่วนได้ครับ จะมีประตูเชื่อมต่อออกไปยังลานซักล้าง และห้องแม่บ้านด้านหลัง
กลับมาที่โถงนั่งเล่น ข้างลิฟต์จะมีบันไดขึ้นไปด้านบนตัวบ้าน มีห้องเก็บของใต้บันได และห้องน้ำแบบ Powder Room ในส่วนนี้ด้วย
ด้านในจะให้มาแบบนี้เลย มีช่องแสงและขนาดค่อนข้างกว้าง สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ Kohler ครับ ได้กระจกแบบติดผนังบานใหญ่ และอ่างล้างหน้าแบบฝังบนเคาน์เตอร์มาให้
บันไดของที่นี่จะเป็นตัว U ครับ ยาว 3 ชั้นเลย เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กปิดผิวด้วยไม้สักแท้ มีราวจับยาวให้ตลอดแนวบันได ด้านข้างมีช่องแสงให้ด้วย
ขึ้นมาที่ชั้นบนพื้นจะเป็น Engineering Wood ผิวไม้สักแท้ ระดับพื้นถึงฝ้าชั้นสองจะอยู่ที่ 3.3 เมตร เท่าเดิมครับ ส่วนโถงบันไดตรงนี้จะได้พื้นที่ค่อนข้างโล่ง ด้วยช่องแสงทั้งสองฝั่ง ทางฝั่งสระว่ายน้ำก็ติดกับพื้นที่ Double Volume ของชั้น 1 ฝั่งโถงบันไดก้มีช่องแสงสว่างให้ และตัวบันไดเองก็กว้างถึง 2 เมตร ทำให้ดูโล่งเป็นพิเศษ
มองลงไปด้านล่างได้ครับ จะมีแนวช่องแสงที่ทำให้โถงบันไดส่วนนี้สว่างในตอนกลางวันด้วย
ไปดูฝั่งหน้าบ้านกันก่อน จะมีลิฟต์ขึ้นมาที่ห้องนอน Master Bedroom ได้เลย
มีพื้นค่อนข้างกว้าง โดยบ้านตัวอย่างจะกั้นผนังไม่เหมือนกับบ้านปกตินะครับ จริงๆ พื้นที่ส่วนนี้จะเป็น Family Area ภายใน ทำหน้าที่เหมือนห้องนั่งเล่นของชั้น 2 ไว้ใช้งานได้หลากหลายขึ้น เช่น เวลาพ่อแม่รับแขกด้านล่าง ลูกๆ ก็ยังสามารถนั่งดูทีวีแบบเป็นส่วนตัวได้
ภายนอกมีระเบียงขนาดประมาณ 4.3 x 3.3 เมตร ซึ่งจัดว่าใหญ่เอามาก ๆ สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ ชุดโต๊ะกาแฟ จัดสวน หรือทำอะไรได้เยอะเลยครับ ล้อมรอบด้วยแนวราวกันตกกระจกใสและได้แนวระแนงด้านบนมาแบบนี้เลย
ตรงนี้จะมองลงไปเห็นพื้นที่ริมสระครับ สามารถเชื่อมต่อกันได้เป็นอย่างดี จัดปาร์ตี้ได้ทั้งสองพื้นที่เลย
ด้านในจะเป็นพื้นที่ห้องนอนหลักขนาดใหญ่ทางฝั่งหน้าบ้าน จุดเด่นคือพื้นที่การใช้งานเยอะ และได้ช่องแสงหลายฝั่ง ติดแอร์แบบ Cassette Type จาก Panasonic มาให้ด้วย
พื้นที่วางเตียงจะมีแสงทั้งสองฝั่ง กว้างขนาดที่วางเตียง 8 ฟุตได้สบายๆ ยังเหลือพื้นที่ด้านข้างไว้ให้วางโต๊ะหัวเตียงแบบใหญ่ๆ ได้ด้วย แถมยังสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ที่ปลายเตียงได้อีกต่างหาก และถ้าจะจัดแบบนี้แนะนำให้ใช้ทีวีขนาดใหญ่หน่อยนะครับ เพราะระยะห่างค่อนข้างไกล
ฝั่งหน้าบ้านจะได้ช่องแสงค่อนข้างกว้าง มาพร้อมแนวระเบียงด้วย
ระเบียงหน้าบ้านมีขนาดประมาณ 4.8 x 1.3 เมตร ซึ่งจัดว่ายาวเลยทีเดียว ออกมายืนสูดอากาศรับลมได้สบาย ได้ราวกันตกแบบกระจกใสมา ยิ่งทำให้ดูโล่งขึ้นไปอีก
ด้านในก็มีช่องแสงที่เชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอกมาให้อีก ทำให้พื้นที่ห้องขนาดใหญ่นี้ได้ช่องแสงอย่างเพียงพอแน่นอน และยิ่งดูโล่งขึ้นไปอีก
ฝั่งผนังจะมีพื้นที่ด้านในอีกนะครับ สำหรับบ้านตัวอย่างจะกั้นผนังแยกพื้นที่ส่วน Walk-in Closet ไว้ ซึ่งจะเข้าได้จากประตูกระจกข้างทีวีครับ
ด้านในเป็นพื้นที่ว่างที่เหมาะกับการทำ Walk-in Closet เพราะมีตำแหน่งหน้าห้องน้ำครับ แยกเป็นมุมได้หลากหลายเลย เอาไปใช้เป็นไอเดียแต่งบ้านได้นะครับ
ด้านข้างเหลือพื้นที่ไว้ทำแนวตู้เสื้อผ้าแบบนี้ได้เลย ใครที่ชอบก็ทำแบบนี้ได้นะครับ
ห้องน้ำ Master Bathroom ของที่นี่จะให้พื้นที่มาใหญ่แบบจัดเต็มมากๆครับ เริ่มที่อ่างล้างหน้าแบบ His & Her บนเคาน์เตอร์พร้อมแนวกระจกบานใหญ่ ด้านในมีอ่างอาบน้ำแบบวางบนพื้นให้ด้วย
อีกฝั่งจะได้พื้นที่ห้องน้ำและอาบน้ำมาให้แบบมีฉากกั้นกระจกนิรภัยแยกสัดส่วน ทำให้เป็นห้องที่สามารถใช้งานพร้อมกันได้หลายคน
อ่างอาบน้ำแบบวางบนพื้นจาก Kohler ให้มาเข้ามุมพอดี
จะได้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก Kohler เช่นกัน แต่ก็ยังติดตั้งสายชำระมาให้ด้วย
ส่วนอาบน้ำมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง วางชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำได้สบายๆ ให้มาทั้ง Hand Shower และ Rain Shower เลย
มาดูห้องนอนฝั่งหลังบ้านกันบ้างครับ ขนาดภายในห้องสามารถเป็นห้อง Master Bedroom ของที่อื่นได้สบายๆ
เป็นห้องที่ค่อนข้างใหญ่ และมีช่องแสงให้มาเยอะ จะมีเหลี่ยมมุมภายในห้องเล็กน้อย ส่วนตัวคิดว่าช่วยทำให้แยกพื้นภายในห้องได้หลากหลายยิ่งขึ้นด้วย สามารถจัดได้หลายแบบเลยครับ
เริ่มที่พื้นที่วางเตียง จะได้ช่องแสงหลายฝั่งเหมือนกันกับห้อง Master Bedroom เลย ทำให้ดูโล่ง และสว่างมากยิ่งขึ้น
มุมด้านในสามารถจัดเป็นพื้นที่ตู้เสื้อผ้าได้ หรือจะทำเป็นมุมนั่งเล่น ทำงานอ่านหนังสือก็ได้
อีกฝั่งจัดช่องแสงมาเต็มพื้นที่เลย ทำให้ได้ช่องแสงภายในห้องเยอะ
ด้านในส่วนทางเข้ามีห้องน้ำให้ใช้งานแบบเป็นสัดส่วน ผนังด้านในทำเป็นตู้เสื้อผ้าได้อีกนะครับ
ห้องน้ำของห้องนี้จะเล็กลงหน่อย แต่ก็ยังจัดว่าใหญ่อยู่ดี ได้พื้นที่ที่เป็นสัดส่วน แยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้พร้อมเลย อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ทุกอย่างของ Kohler ครับ เริ่มที่อ่างล้างหน้าแบบวางบนเคาน์เตอร์พร้อมแนวกระจกเงาขนาดใหญ่ ด้านข้างมีโถสุขภัณฑ์แบบ 2 ชิ้น ส่วนอาบน้ำได้ทั้ง Hand Shower และ Rain Shwer มีฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาให้ด้วย และได้ช่องแสงด้านในครับ
ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเห็นว่าโถงบันไดยาวขึ้นมาถึงด้านบนเลย มีความสูงถึง 10 เมตร สามารถติดตั้ง chandelier ขนาดใหญ่ได้แบบเต็มที่เลย ได้ช่องแสงทั้งฝั่งหน้าบ้านและหลังบ้าน
มองลงไปจะค่อนข้างโล่งและกว้างครับ ทำให้พื้นที่บันไดไม่อึดอัด อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นช่องแสงให้ในแต่ละชั้นด้วย
พื้นที่ด้านบนก็ยังคงมีแนวทางเดินกว้าง 2 เมตร เช่นเดิม ด้านข้างจริงๆจะเป็นพื้นที่ระเบียงภายนอกนะครับ แต่บ้านตัวอย่างกั้นเป็นห้องออกกำลังกาย ก็เป็นอีกไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
ตรงนี้จะกั้นด้วยแนวกระจกบานเลื่อนแบบเปิดได้กว้าง รับลมระบายอากาศได้เต็มที่เลย
พื้นที่จริงจะเป็น Semi-Outdoor ได้หลังคากันแดดกันฝนและให้ราวกันตกแบบกระจกใสมาด้วย สามารถจัดสวน วางโต๊ะนั่งเล่นภายนอกได้ หรือจะกั้นเป็นห้องแบบบ้านตัวอย่างก็น่าสนใจ
ด้านในจะเป็นแนวทางเดินเข้าไปครับ มีพื้นที่ให้ใช้งานอีกเยอะเลย
ได้พื้นที่วาง Condensing Unit ที่จัดเป็นลานซักล้างได้ สามารถซักผ้า ตากผ้า บริเวณนี้ได้สบายๆ
ก่อนจะถึงห้องนอนก็มีห้องอเนกประสงค์ให้อีกจุดครับ
เป็นห้องที่มีขนาดสามารถทำเป็นห้องนอนได้เลย แต่บ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องพระครับ ใครที่ชอบก็นำไปเป็นไอเดียได้ ส่วนตัวผมมองว่าจัดได้ค่อนข้างหลากหลาย ด้วยความที่ติดห้องนอน จะทำเป็นห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย ก็ทำได้หลากหลายเลย
ห้องนอนฝั่งหน้าบ้านก็มีขนาดใหญ่อีกเช่นเคยครับ แบ่งสัดส่วนภายในห้องได้หลากหลายเลย
พื้นที่ห้องนอนจะได้ช่องแสงหลักๆจากฝั่งหน้าบ้าน แต่ก็ยังได้จากด้านข้างอีกเล็กน้อย มีพื้นที่ที่กว้างและจัดได้หลากหลาย ลองมาดูของบ้านตัวอย่างกัน
เขาเริ่มด้วยการวางเตียงไว้กลางห้อง ทำให้ได้ช่องแสงจากระเบียงด้านข้างครับ
เป็นระเบียงขนาดใหญ่ที่สามารถออกมาใช้งานได้จริง
ด้านข้างมีพื้นที่ให้อีกทั้งสองฝั่ง จะวางกระถางต้นไม้แต่งเพิ่มได้สบายๆ
ด้านในหลังเตียงจะมีพื้นที่จัดเป็นโต๊ะนั่งทำงาน เพราะมีช่องแสงให้เพียงพอเลย ด้านข้างวางชุดโซฟาเข้ามุม
เป็นมุมที่นั่งทำงานหลังเตียง และดูทีวีไปด้วยกันได้ สามารถนำไปเป็นไอเดียได้นะครับ
ด้านในฝั่งหน้าห้องน้ำเขากั้นเป็นส่วน Walk-in Closet ซึ่งจัดออกมาได้ดูดีเลย
ห้องน้ำของห้องนี้ขนาดใหญ่เช่นเดิมครับ จัดออกมาได้เป็นสัดส่วนและสามารถใช้งานพร้อมกันได้หลายคนเลย
อ่างล้างหน้าแบบฝังเคาน์เตอร์ยาว พร้อมแนวกระจกเงาบานใหญ่ยาวและสูงเต็มแนวผนัง
ส่วนโถสุขภัณฑ์และอาบน้ำก็เข้ามุมเต็มพื้นที่ แยกกั้นด้วยกระจกกั้นนิรภัยครับ ให้ของ Kohler มาเหมือนเดิม ได้ช่องแสงฝั่งนี้ด้วย
มาต่อกันที่ห้องนอนห้องสุดท้ายของบ้านหลังนี้ทางฝั่งหลังบ้านครับ
เป็นห้องขนาดใหญ่ที่ได้ช่องแสงทางฝั่งหลังบ้าน มีเหลี่ยมมุมเล็กน้อย จัดได้ไม่ยากครับ
วางเตียงขนาดใหญ่กลางห้องได้เลย ด้านข้างก็ทำเป็นมุมนั่งเล่น หรือจัดเป็นแนวตู้เสื้อผ้าก็ได้
ได้ช่องแสงเต็มแนวผนังครับ จัดว่าเพียงพอกับขนาดห้องเลย
ด้านในมีมุมพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า หรือโต๊ะทำงานร่วมกันได้
ด้านในจะมีห้องน้ำให้ที่หน้าทางเข้าห้อง เหมือนห้องนอนรองที่ชั้น 2
เป็นห้องน้ำที่มีหน้าตาเหมือนเดิมครับ ขนาดใหญ่ใช้งานได้สะดวก อุปกรณ์ทุกอย่างของ Kohler เหมือนเดิม
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่าครับ
ราคา
The Obsidian พุทธมณฑล สาย 1 ราคา ณ วันที่ 21 พฤษภาคม 2561
- บ้านเลขที่ 162/20 บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 125.30 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 695.20 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 6-8 ที่จอดรถ
– ราคาแปลงมาตรฐาน 39.9 ล้านบาท - บ้านเลขที่ 162/10 บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 149.40 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 725.50 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 6-8 ที่จอดรถ
– ราคาแปลงมาตรฐาน 49.5 ล้านบาท - ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
Promotion
- ฟรี ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์
- ฟรี ค่าส่วนกลาง 2 ปี
- ฟรี ค่าประกันมิเตอร์น้ำ-ไฟฟ้า
- ฟรี เครื่องปรับอากาศ Panasonic จำนวน 9 เครื่อง (ทั้ง Cassette Type และ Wall Type)
- ฟรี ปั๊มน้ำ และแทงค์น้ำ ขนาด 2,000 ลิตร 2 ถัง
- ฟรี Digital Door Lock จาก Yale
- ฟรี Home Automation จาก Fibaro
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : เป็นโครงการบ้านเดี่ยวติดถนนพุทธมณฑล สาย 1 ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับถนนเพชรเกษม และใช้ถนนบางแวกเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์ต่อเข้าสาทรได้ง่าย หากจะออกเมืองหรือไปกรุงเทพตอนบนก็มีฝั่ง ถนนบรมราชชนนีให้ใช้งานได้ง่ายเช่นกัน ทำให้สามารถอิงความเจริญรอบ ๆ ได้หลายจุด แถมยังมีรถไฟฟ้าในระยะ 3.5 กิโลเมตร เป็นตัวเลือกรองในการเดินทางเพิ่มให้ด้วย
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ตัวโครงการมีเพียง 21 ยูนิตเท่านั้น มีทางเข้าออกทางเดียวที่เป็นป้อม รปภ. พร้อมประตูบานเลื่อนอัตโนมัติแบบ 2 ตอน แยกทางเข้าและออกชัดเจน มี CCTV ทั่วโครงการ รั้วโครงการสูงถึง 4 เมตร ซึ่งจะสูงกว่าพื้นที่ใกล้เคียงรอบๆโครงการ ตัวบ้านเองก็มี Digital Door Lock จาก Yale และ Home Automation และระบบรักษาความปลอดภัย Shock และ Motion Sensor จาก Fibaro และรั้วบ้านต่อรั้วโปร่งรอบๆให้ด้วย ทำให้แต่ละหลังไม่รบกวนกัน
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : ตัวโครงการออกแบบได้ดีที่เดียว การวางผังร่นระยะเข้ามาด้านในเล็กน้อย ไม่ได้รับเสียงและฝุ่นจากถนนใหญ่ แต่ก็เข้ามาไม่ไกล เข้าออกได้สะดวก ภายในมีเพียง 21 ยูนิตที่ออกแบบวางผังเน้นรับทิศเหนือ-ใต้ รับลมและเสี่ยงความร้อนได้ดี วางแนวถนนเป็น 4 เหลี่ยมรอบโครงการ ทำให้ไม่ต้องกลับรถเลย และมีส่วนกลางอยู่ด้านหน้า ทำให้ใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องเข้ามาภายในเพื่อรบกวนความเป็นส่วนตัวของบ้านหลังอื่นๆ อีกเรื่องคือการลงเสาเข็มยาวเท่าตัวบ้านไว้ให้ทั่วพื้นที่โครงการ ทำให้ในอนาคตที่ดินจะไม่ทรุดและคงสภาพที่ใช้งานได้ยาวนาน รวมถึงสายไฟฟ้าเขาก็เก็บลงดินให้หมด ได้ทัศนียภาพที่สวยงาม
ส่วนตัวบ้านหลังนี้มีจุดเด่นหลายส่วนเลย อย่างแรกคือขนาดพื้นที่ใช้สอยในแต่ละห้องค่อนข้างเยอะ ห้องนอนทั้ง 4 ห้องของบ้านหลังนี้มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง ทำให้ดูเหมือนจะเป็นห้อง Master Bedroom ได้ทั้งหมดเลย แถมยังรองรับผู้สูงอายุ เพราะให้ลิฟต์ภายในตัวบ้านมาให้ ทำให้ไม่ต้องทำห้องนอนไว้ที่ชั้น 1 (เพราะลิฟต์รองรับรถเข็น) ใช้พื้นที่ชั้น 1 ในการรับวิวสระว่ายน้ำได้อย่างเต็มที่ ส่วนต่อมาคือสระว่ายน้ำที่ให้มาก็มีขนาดที่สามารถว่ายออกกำลังกายได้ (9 x 2.5 เมตร) ไม่ใช่แค่สระแช่ และพื้นที่ริมสระก็ให้มาเยอะชนิดที่จัดปาร์ตี้ริมสระได้สบายๆ ความสูงภายในบ้านให้มาเยอะที่ 3.3 เมตร ละ 7.2 เมตร ในส่วน Double Volume เปิดช่องแสงหลายฝั่งทำให้ภายในบ้านโล่งและสว่างในช่วงกลางวัน อีกอย่างคือที่จอดรถที่เป็นจุดเด่นของที่นี่ เพราะเป็นโครงการที่จอดรถได้ถึง 6-8 คัน เยอะกว่าโครงการอื่นๆใกล้เคียงในย่านนี้ครับ นอกจากนั้นสไตล์ในการออกแบบหน้าตาบ้านค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ ทำให้คัดกรอกกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่ชอบอะไรเหมือนกันเข้ามาอยู่ร่วมกันในโครงการ
วัสดุ : ให้มาค่อนข้างสมกับราคาเลยครับ เริ่มที่หน้าบ้านและหลังบ้านวางเสาเข็มเท่าตัวบ้านมาให้ (จริงๆลงเสาเข็มไว้ให้ทั่วพื้นที่โครงการอยู่แล้ว) ได้ Facade หน้าบ้านเป็นหินทราเวอร์ทีน และอลูมิเนียมทำสี Copper ภายในบ้านจะได้ Digital Door Lock จาก Yale
และ Home Automation จาก Fibaro พื้นจะเป็นแกรนิตโต้และ Engineering Wood ผิวไม้สักแท้ โครงสร้างตัวบ้านเป็นก่ออิฐมอญแดง บันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กปิดผิวไม้สัก ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ให้ไฟ Downlight อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Kohler ได้อ่างอาบน้ำและสุขภัณฑ์อัตโนมัติในห้อง Master Bathroom ได้ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยทุกห้อง ได้ลิฟต์โดยสารขนาด 400 กก. จาก Schneider และสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 9 x 2.5 ลึก 1.2 เมตร พร้อมมุม Jacuzzi และแนวผนังน้ำพุด้านข้าง ให้เครื่องปรับอากาศ Panasonic จำนวน 9 เครื่อง (ทั้ง Cassette Type และ Wall Type)
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : เป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่ แต่จัดพื้นที่สีเขียวไว้ทั่วโครงการ ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบ Verical Garden ที่มีให้เห็นตั้งแต่ทางเข้าโครงการ ด้านในจะรับสายตาด้วยสวนบริเวณอาคาร Clubhouse ที่จัดออกมาได้ดูดีเลย ขนาดไม่ใหญ่นักแต่ก็เหมาะกับพื้นที่ภายใน ส่วนตัวบ้านเองก็จะมีจัดสวนมาให้ในระดับนึงครับ และมีพื้นที่ให้จัดสวนเพิ่มเติมเองได้อีกหลายจุด ส่วนสภาพโครงการยังเรียกว่าใหม่แบบสุดๆ เพราะยังสร้างไม่เสร็จทั้งหมดเลย แต่ส่วน Clubhouse ที่สร้างเสร็จแล้วรวมถึงซุ้มประตูหน้าโครงการก็ยังใหม่เอี่ยมเลยครับ ลูกบ้านเริ่มทยอยเข้ามาต่อเติมบ้านกันบ้างแล้ว ในส่วนของหลังที่ได้ซื้อไป
สาธารณูปโภค : ถ้าในแงของ Facilities ผมมองว่าอาจจะไม่เยอะนัก เพราะภายในตัวบ้านแต่ละหลังก็มีสระว่ายน้ำและพื้นที่ภายในบ้านเยอะอยู่แล้ว แต่ตัว Clubhouse ของโครงการจะทำหน้าที่เป็นพื้นที่รับรอง ในกรณีที่มีแขกมาแต่ไม่ได้อยากให้เข้าไปที่บ้าน ก็สามารถมาใช้งานได้ รวมถึงมีห้องออกกำลังกายไว้ให้ด้วย ส่วนถ้ามองสาธารณูปโภคในเรื่องอื่นๆ ส่วนตัวผมชอบเลยล่ะครับ เพราะให้เสาเข็มยาวลงดินมาให้ทั่วพื้นที่โครงการ ทำให้โครงการไม่ทรุดในระยะยาว รวมถึงเสาไฟฟ้าก็ลงดินทั้งหมด เข้าออกระบบ Easy Pass และได้ CCTV ที่มองเห็นทุกจุดทั่วโครงการมาให้
Judgement
เป็นโครงการระดับ Super Luxury ที่มีราคาขายระดับ 40 ล้านบาทขึ้นไป ปัจจัยในการเลือกซื้อนอกจากจะต้องดูเรื่องความคุ้มค่าทางการเงินแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่สำคัญ เช่น ความชอบส่วนบุคคล อารมณ์ และความรู้สึกส่วนตัวของผู้ซื้อ ที่ต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณา แต่ปัจจัยดังกล่าวมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลค่อนข้างชัดเจน ดังนั้นทางทีมงานจะขออนุญาตไม่มีการให้คะแนนความคุ้มค่าแก่โครงการนะครับ
The Obsidian พุทธมณฑล สาย 1 เหมาะกับใคร
โครงการ The Obsidian พุทธมณฑล สาย 1 เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่มองหาบ้าน 3 ชั้น 4 ห้องนอน รองรับผู้สูงอายุได้ ชอบทำเลที่เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก มีรถหลายคัน ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง และชื่นชอบในสไตล์การออกแบบของโครงการ คำนึงถึงวัสดุและการอยู่อาศัยในระยะยาว มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 40 – 50 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 280,000-350,000 บาท
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะครับ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc