..กลับมาอีกครั้งกับการรีวิวโครงการบ้านแบรนด์ ‘อภิทาวน์’ ในแคมเปญพิเศษ “อภิทาวน์ทั่วไทย x เชฟกะปอม” ที่เป็นการเดินทางมาจนถึงภาคที่ 5 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นภาคสุดท้ายกันแล้วนะครับ โดยคราวนี้จะเป็นโครงการ Apitown Ubonratchathani (อภิทาวน์ อุบลราชธานี) เอาใจพี่น้องชาวอีสานที่กำลังมองหาแบรนด์บ้านคุณภาพจาก Developer เจ้าใหญ่ และต้องมีมาตรฐานเทียบเท่าบ้านในกรุงเทพฯ
แน่นอนว่าโครงการอภิทาวน์ในแต่ละจังหวัด จะมีการดีไซน์และเลือกใช้โมเดลบ้านที่แตกต่างกันออกไป โดยจุดเด่นที่ต่างจากอภิทาวน์ที่อื่นๆ ของจังหวัดอุบลฯในครั้งนี้ก็คือ จะมีแบบบ้านชั้นเดียวให้เลือกด้วยนั่นเองครับ ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวขยายหรือคนรุ่นใหม่ที่เป็นครอบครัวขนาดเล็ก รวมถึงยังต้องการในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย + ฟังก์ชันส่วนกลางที่มีให้ใช้งานครบครัน
และนอกจากภาพโครงการที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ก็ยังมีข้อมูลเจาะลึกของแบรนด์ ‘อภิทาวน์’ และภาพบรรยากาศในงาน “อภิทาวน์ทั่วไทย x เชฟกะปอม” แคมเปญพิเศษที่จะมาพาขึ้นเหนือ ล่องใต้ ตามรอยรสมือแม่ไปกับ 5 โครงการจากอภิทาวน์ ผ่านเมนูอาหารสุดพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจมาจากในแต่ละจังหวัด ซึ่งเมนูของภาคอีสานที่จังหวัดอุบลฯคืออะไร และรายละเอียดของโครงการจะเป็นอย่างไรบ้าง เราไปชมรีวิวเจาะลึกกันได้เลยครับ
ข้อมูลโครงการ
Apitown Ubonratchathani (อภิทาวน์ อุบลราชธานี) ณ วันที่ 22 มิถุนายน 2567
ชื่อโครงการ | Apitown Ubonratchathani (อภิทาวน์ อุบลราชธานี) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด |
SEGMENT CLASS | MAIN –UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซ.ทุ่งบูรพาใต้ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี |
ที่ดิน | 37-2-51.9 ไร่ |
จำนวนยูนิต | 168 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ราคาเริ่มต้น | บ้านชั้นเดียว = 2.99 ล้านบาท / บ้าน 2 ชั้น = 3.5 ล้านบาท |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 35,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2566 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี n/a |
เว็บไซต์โครงการ | https://pg.thinkofliving.com/ApitownUbonratchathani |
โทร | 1623 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 15.294337, 104.787943
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ Apitown Ubonratchathani (อภิทาวน์ อุบลราชธานี) ตั้งอยู่ภายในซอยทุ่งบูรพาใต้บนถนนแจ้งสนิท และห่างจากตัวเมืองอุบลฯเพียง 10 นาทีเท่านั้นครับ ซึ่งลักษณะการพัฒนาของตัวจังหวัดจะเห็นได้ว่ามีการเติบโตมาทางด้านซ้ายของถนนชยางกูร ที่เป็นถนนสายสำคัญเส้นหลักของจังหวัด โดยจะสังเกตได้จากห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ที่มักจะเกิดขึ้นมาในแถบฝั่งนี้ทั้งหมด (ฝั่งเดียวกับที่โครงการอภิทาวน์ตั้งอยู่) ไม่ว่าจะเป็น Central / Makro / BigC และ Lotus’s รวมถึงศาลากลางจังหวัดแห่งใหม่ของอุบลด้วยครับ
และหากพูดถึงจังหวัดอุบลฯ ก็นับว่าเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย (รองจากนครราชสีมา) และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ นอกจากนี้ยังมีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศอีกด้วย (ไม่นับ กทม.) เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีศักยภาพสูง ซึ่งทาง AP Thailand ก็ได้เข้ามาเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวแห่งใหม่เมื่อปีที่แล้ว และก็ได้รับความสนใจจากคนท้องถิ่นค่อนข้างมาก เพราะจังหวัดนี้ยังไม่ค่อยมี Developer เจ้าใหญ่จากกรุงเทพมาเปิดตัวสักเท่าไหร่นักนั่นเอง
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บริบทโดยรอบโครงการ เนื่องจากเป็นทำเลที่อยู่ภายในซอยทุ่งบูรพาใต้ และรอบๆก็เป็นที่ว่างเป็นส่วนใหญ่ จึงมีความเงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัย แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยวจนเกินไปนัก เนื่องจากภายในซอยนี้ก็จะเป็นชุมชนดั้งเดิม และมีบ้านพักอาศัยกระจายอยู่พอสมควร ส่วนด้านอื่นๆของโครงการก็จะอยู่ติดที่ดินดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ว่าง
- ทิศใต้ : ติดกับ ที่ว่าง
- ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ว่าง
- ทิศตะวันตก : เป็นทางเข้าหลักของโครงการ ติดกับ ซอยทุ่งบูรพาใต้ และฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัย
และนี่ก็จะเป็นภาพบรรยากาศของซอยทุ่งบูรพาใต้ที่อยู่ด้านหน้าโครงการครับ รอบๆข้างยังไม่ค่อยมีอะไรมากนัก แต่ก็มีรถผ่านเข้า-ออกเป็นระยะๆ ไม่ได้เปลี่ยวจนเกินไปนัก
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Makro อุบลราชธานี ~ 7.9 km.
- Home Pro อุบลราชธานี ~ 8.6 km.
- Central อุบลราชธานี ~ 8.9 km.
- Big C อุบลราชธานี ~ 9.3 km.
- Lotus’s อุบลราชธานี~ 11.5 km.
โรงพยาบาล
- รพ.มะเร็งอุบลราชธานี ~ 6.3 km.
- รพ.พระศรีมหาโพธิ์ ~ 8.1 km.
- รพ.เด็กสรรพสิทธิประสงค์ ~ 9.6 km.
- รพ.ราชเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ~ 9.9 km.
- รพ.สรรพสิทธิประสงค์ ~ 11.8 km.
โรงเรียน
- รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ อุบลราชธานี ~ 6.1 km.
- รร.มารีย์นิรมน ~ 6.8 km.
- ม.ราชภัฎอุบลราชธานี ~ 8.9 km.
- รร.นารีนุกูล ~ 9.3 km.
- รร.เบ็ญจะมะมหาราช ~ 9.8 km.
- รร.อัสสัมชัญอุบลราชธานี ~ 11.2 km.
รายละเอียดโครงการ
ทำไมต้อง “อภิทาวน์ (Apitown)” ?
“อภิทาวน์” นอกจากจะเป็นแบรนด์ที่พัฒนาโดยบริษัทอสังหาฯชั้นนำอย่าง AP Thailand แล้ว ก็ยังมีจุดแข็งที่แตกต่างจากตลาดอสังหาฯเดิมในท้องถิ่น และการออกแบบทุกอย่างก็ล้วนได้มาตรฐานเทียบเท่าโครงการบ้านในกรุงเทพ ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชัน , พื้นที่ใช้สอยในบ้าน , สเปควัสดุ , พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่มีให้เลือกใช้งานทั้ง Indoor และ Outdoor ทั้งนี้ก็เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยในทั่วทุกภูมิภาคครับ
อีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นของอภิทาวน์ก็คือ ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN ที่เป็นมาตรฐานจาก AP ซึ่งคนต่างจังหวัดก็ค่อนข้างให้ความสำคัญอย่างมาก ในเรื่องความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินไม่แพ้คนกรุงเทพเลยครับ โดยจะมีตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้า ตลอดจนภายในบ้านก็ติดตั้งนวัตกรรมมาให้ครบ ทั้ง CCTV , Digital Door Lock , Magnetic Sensor และระบบ Home Automation ที่สามารถใช้งานได้จริงผ่าน Application ในมือถือได้ง่ายๆ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายและปลอดภัยในการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น
สำหรับแบรนด์ ‘อภิทาวน์’ เป็นโครงการบ้านแนวราบที่ออกแบบมาเพื่อขยายตลาดที่อยู่อาศัยของ AP Thailand ไปสู่จังหวัดที่มีศักยภาพนอกเหนือจากกรุงเทพและปริมณฑล ภายใต้แนวคิด “อภิทาวน์ – บ้านคุณภาพที่ยกระดับการใช้ชีวิตจากเอพี”
ซึ่งปัจจุบันแบรนด์อภิทาวน์ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 พัฒนาโครงการมาแล้วกว่า 15 โครงการ มูลค่ารวม 13,530 ล้านบาท และในปี 2024 นี้ ยังมีแผนจะเปิดอีก 4 โครงการใหม่ในหัวเมืองใหญ่อย่าง สุพรรณบุรี , ระยอง , หาดใหญ่ และ New Location ซึ่งจะเป็นที่ไหน รอติดตามอัพเดทกันได้เร็วๆนี้
ตั้งแต่ปี 2563 “AP Thailand” เดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพื่อให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค ตั้งแต่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางและภาคใต้ โดยยึด 3 กลยุทธ์หลักเพื่อช่วยยกระดับแบรนด์ “อภิทาวน์” ให้เป็นมากกว่าโครงการที่อยู่อาศัย ดังนี้
1. บุกเจาะพัฒนาโครงการในหัวเมืองใหม่
AP Thailand บุกตลาดแนวราบในจังหวัดเมืองรองที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแรง เพราะถือเป็นตลาด Blue Ocean ที่มีซัพพลายโครงการที่อยู่อาศัยยังไม่หนาแน่น แต่มีดีมานด์สูง ทั้งยังเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการชัดและมีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง มองหาแบรนด์บ้านที่พัฒนาโดยบริษัทอสังหาฯชั้นนำ ซึ่ง “อภิทาวน์” ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ในด้านมาตรฐานของคุณภาพ ทั้งยังสามารถรองรับไลฟ์สไตล์ของคนในทุกจังหวัดได้อย่างหลากหลาย
2. เจาะที่ดิน Location in Location
ถือเป็นแก่นสำคัญสำหรับคนที่มองหาบ้าน โดยทำเลต้องตั้งอยู่บน Location ที่ดี ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้ย่านใจกลางเมือง , ห้างสรรพสินค้า ตลาด , โรงพยาบาลและโรงเรียน เดินทางง่ายเชื่อมต่อถนนหลักได้หลายเส้นทาง ซึ่งโครงการ Apitown Ubonratchathani (อภิทาวน์ อุบลราชธานี) จะอยู่ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานีเพียง 15 – 20 นาทีเท่านั้น
3. พัฒนาโครงการให้เป็นส่วนหนึ่งของเมือง
โครงการ “อภิทาวน์” มีแนวคิดการออกแบบที่ต้องการกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งไปกับบริบทของเมือง โดยทีม AP Design Lab มักจะลงพื้นที่ศึกษาการใช้ชีวิตของคนในภูมิภาค เพื่อพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกบ้านที่หลากหลาย ซึ่งปัจจุบัน “อภิทาวน์” มีแบบบ้านในโครงการทั้งหมด 69 แบบ แบ่งเป็น ทาวน์โฮม 11 แบบ , บ้านแฝด 8 แบบ และบ้านเดี่ยวกว่า 50 แบบ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของครอบครัวตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่เลย โดยจะมีการหยิบยกนำโปรดักส์แบบบ้านที่เหมาะสม กับความต้องการของคนในพื้นที่นั้นๆมาใช้นั่นเองครับ
สำหรับแคมเปญพิเศษ “อภิทาวน์ทั่วไทย x เชฟกะปอม” จะไม่ใช่แค่งานข่าวเปิดตัวโครงการใหม่แบบปกติทั่วไป แต่เป็นกิจกรรมพิเศษที่ทาง AP Thailand จัดทำเพื่อนำเสนอมุมมองการใช้ชีวิตทั่วไทย ภายใต้ความเชื่อที่ว่า “บ้าน คือที่ชาร์จพลังชีวิต”
ซึ่งใครหลายๆคนอาจมองว่า “อาหาร” คือสิ่งเติมเต็มที่ช่วยให้รู้สึกถึงบ้านได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ทั้งความทรงจำที่ได้กินอาหารรสมือแม่ หรือบรรยากาศที่ได้นั่งล้อมวงกินข้าวพร้อมหน้ากับครอบครัว เป็นต้น อีกทั้งห้อง ‘ครัว’ ก็เป็นหนึ่งในฟังก์ชันหลักที่มีอยู่ในบ้านทุกหลังอีกด้วย ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของแคมเปญพิเศษครั้งใหม่นี้ที่ AP Thailand ต้องการจะนำเสนอออกมานั่นเองครับ
ดังนั้นทาง AP Thailand จึงได้จับมือกับ “เชฟกะปอม MasterChef Thailand” ขึ้นเหนือ-ล่องใต้ เดินทางไปพร้อมกับอภิทาวน์ ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวเสน่ห์ครอบครัวไทย อาหารรสมือแม่ และการกลับบ้านที่เป็นพลังให้กับการเดินทางชีวิตของทุกคนในครอบครัว จนเกิดเป็นแนวคิดที่ AP นำมาสานต่อและพัฒนาเป็นรูปแบบพื้นที่ใช้สอยภายในโครงการบ้านแบรนด์ ‘อภิทาวน์’ ซึ่งก็จะมีเอกลักษณ์และความแตกต่างกันออกไปในแต่ละจังหวัดครับ
โดยทาง Think of Living ก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมแคมเปญพิเศษ และรีวิวบ้านแบรนด์อภิทาวน์ไปแล้วถึง 3 โครงการด้วยกัน ได้แก่
และคราวนี้ก็ถึงคิวของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ จังหวัดอุบลราชธานี โดยก่อนหน้านี้เชฟกะปอม MasterChef Thailand ของเราก็ได้รังสรรค์เมนูพื้นถิ่นของทั้ง 3 ภาคกันมาแล้ว แต่ครั้งนี้พิเศษตรงที่เชฟกะปอมเดิมทีก็เป็นคนอีสานด้วยครับ (จังหวัดมหาสารคาม) เรียกได้ว่าหลังจากที่ได้บุกตะลุยมาทั่วไทย ก็เหมือนได้กลับมาบ้านเกิดอีกครั้ง แน่นอนว่าเป็นแนวอาหารที่เชฟถนัดเป็นพิเศษ และได้สร้างชื่อเสียงให้กับเชฟมาอย่างมากมายอีกด้วย
โดยเมนูพิเศษที่เราได้ชิมกันในวันนี้ก็คือ ‘ซี่โครงหมูย่างราดซอสเครื่องแกงอ่อม’ กินคู่กับข้าวจี่หอมๆและแนมด้วยผักย่าง ส่วนตัวผมว่าซอสทำออกมาได้อร่อยมากๆ รวมกับความเซอร์ไพรส์ที่ไม่คิดว่า ‘แกงอ่อม’ จะทำเป็นซอสได้ด้วย นอกจากนี้อาหารอื่นๆของทางร้านก็อร่อยมากๆครับ และถือเป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้มีโอกาสชิมอาหารท้องถิ่นของอีสานแท้ๆหลากหลายเมนูแบบนี้ แต่ทีเด็ดของจังหวัดอุบลเค้าก็คงต้องยกให้กับ ‘หมูยอ’ ที่อร่อยจนต้องแวะซื้อเป็นของฝากก่อนกลับกันทั้งคณะเลยทีเดียว
เอาล่ะ ..หลังจากที่เราได้เกริ่นเรื่องราวและที่มาของบ้านแบรนด์ ‘อภิทาวน์’ กันไปพอสมควรแล้ว ต่อมาผมจะพาไปชมโครงการ Apitown Ubonratchathani (อภิทาวน์ อุบลราชธานี) จะเป็นอย่างไรบ้างเราไปดูกันเลยครับ
Master Plan :
Apitown Ubonratchathani (อภิทาวน์ อุบลราชธานี) เป็นโครงการขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ครับ และมีเพื่อนบ้านรวม 168 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 37-2-51.9 ไร่ ความน่าสนใจคือ เค้าจะมีการกระจายพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ 2 จุด คือบริเวณซุ้มประตูด้านหน้าที่เป็นอาคาร Clubhouse หลักของโครงการ และด้านในจะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ให้เราได้ใช้งานด้วย ซึ่งเป็นการกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน และทำให้ลูกบ้านสามารถเข้าถึงส่วนกลางได้สะดวกมากขึ้น
สำหรับตำแหน่งบ้านค่อนข้างมีการวางคละแบบกันไป แต่ส่วนมากถ้าเป็นบ้านไซส์กลาง-ใหญ่ ก็มักจะอยู่ตำแหน่งที่ดีๆหน่อย เช่น โซนด้านหน้าโครงการและใกล้ๆพื้นที่ส่วนกลาง เหมาะกับคนที่ชอบความสะดวกในการเข้าถึง และสามารถมาใช้ Facilities ได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งบ้านที่น่าสนใจเป็นพิเศษอีก 2 จุด คือ
- กรอบสีขาว : เป็นตำแหน่งบ้านหน้าสวน ที่นอกจากจะหันหน้ารับวิวพื้นที่สีเขียวสวยๆ และสามารถเดินข้ามไปใช้งานได้สะดวกแล้ว ยังมีความเป็นส่วนตัวเพราะไม่ต้องหันหน้าบ้านชนกับใครอีกด้วย
- กรอบสีเหลือง : เป็นตำแหน่งบ้านที่ไม่ต้องหันหน้าบ้านชนกับใคร (อาจเป็นการหันหน้าเข้ากับด้านข้างบ้านหลังอื่นแทน) ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าบ้านอื่นๆระดับหนึ่งเช่นกัน
ภาพบรรยากาศซุ้มประตูทางเข้าโครงการ จะเป็นอาคาร 2 ชั้นสไตล์ Mdern และแบ่งทางเข้า-ออกชัดเจน โดยใช้การจดจำป้ายทะเบียนรถ LPR (License Plate Recognition)โดยระบบ KATSAN มาตรฐานความปลอดภัยจาก AP ส่วนถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องแลกบัตรกับ รปภ. ก่อนตามปกตินะครับ
*KATSAN เป็นระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานของ AP ที่มีในทุกๆโครงการ สามารถคัดกรองคนเข้า – ออกได้ด้วยการสแกนป้ายทะเบียนรถ ซึ่งถือเป็นระบบที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน เพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวภายในโครงการได้ดี อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับ Application ในสมาร์ทโฟนได้อีกด้วยครับ
นอกจากนี้ตัวซุ้มประตูของโครงการยังทำหน้าที่เป็น Clubhouse หรือพื้นที่ส่วนกลางของโครงการด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งใน Sixnature ที่สามารถพบเห็นได้เกือบทุกโครงการของ AP
โดยบริเวณชั้น 1 ของอาคารจะเน้นเป็นพื้นที่ใช้งานแบบ Semi-Outdoor และกลางแจ้งเป็นหลัก ซึ่งสามารถเดินขึ้นมาจากบันไดและมีทางลาดให้ใช้งานได้สะดวกด้วย
พื้นที่ส่วนแรกจะเป็น Living Space ที่เราสามารถมานั่งเล่นพักผ่อน รับลมเย็นๆ และยังชมวิวสระว่ายน้ำไปด้วยได้ โดยจัดเป็นชุดโซฟาและเก้าอี้ให้ไว้ 2 ชุด
ถัดมาจะเป็นโซนของสระว่ายน้ำ ซึ่งพื้นที่ในร่มจะเป็นส่วนของ Kid’s Pool สำหรับเด็กๆให้ได้เล่นกันแบบไม่ต้องกลัวแดดร้อน แถมยังอยู่ใกล้กับการดูแลของผู้ปกครองด้วยครับ
ส่วนสระว่ายน้ำหลักจะอยู่กลางแจ้งขนาด 12 x 16 m. พอจะว่ายออกกำลังกายจริงจังได้ครับ แต่แนะนำว่าให้มาใช้งานตอนแดดร่มๆหน่อยจะดีกว่า
นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำแยกชาย-หญิงให้ใช้งานใกล้ๆกับบันไดด้วยครับ ซึ่งภายในก็จะมีทั้งโถสุขภัณฑ์ และห้องอาบน้ำให้เราได้ล้างเนื้อล้างตัวกันได้เลยด้วย
ขึ้นบันไดมาชั้น 2 เราจะเจอกับโถงทางเดินขนาดใหญ่ โดยจะแบ่งฟังก์ชันออกเป็นหลายๆห้อง ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไล่ไปชมกันตั้งแต่ห้องแรกทางด้านขวามือสุดก่อนเลยครับ
เริ่มจากห้องแรกทางขวาสุดจะเป็น Kid’s Room ที่ภายในจะเน้นเป็นพื้นที่นั่งเล่นสำหรับเด็กเล่น เพื่อให้น้องๆสามารถมาทำการบ้านร่วมกัน หรือหยิบของเล่นมานั่งเล่นกันได้นั่นเอง โดยห้องนี้จะสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้ถึง 2 ด้านอีกด้วย
ถัดมาจะเป็น Co-Working Space ภายในมีขนาดใหญ่และแบ่งพื้นที่นั่งออกเป็นหลายโซนเลยครับ โดยจะมีทั้งโต๊ะนั่งเป็นกลุ่มจริงจัง ชุดโซฟา และโต๊ะบาร์ไว้มองออกไปชมวิวด้านนอก
แต่จุดที่ผมแอบสังเกตเห็นเพิ่มเติมก็คือ อีกด้านหนึ่งของห้องจะมีมุมโซฟาเล็กๆ ที่ผนังด้านหลังเป็นช่องกระจก ซึ่งสามารถมองเห็นห้อง Kid’s Room ก่อนหน้านี้ได้ด้วย
นั่นหมายความว่าผู้ปกครองสามารถมานั่งพักผ่อน และคุยกันเป็นส่วนตัวแยกจากน้องๆได้ โดยที่ยังมีช่องทางให้คอยส่องสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดอยู่ด้วยได้แบบนี้นั่นเอง
ถัดมาจะเป็นโถงทางเดินที่เชื่อมต่อไปยัง Fitness ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของ Clubhouse โดยจะมีจุดที่เหมือนเป็นระเบียงให้เราได้เดินผ่านด้วย ซึ่งสามารถแวะชมวิวและรับลมเย็นๆได้ หรืออนาคตก็อาจมีโต๊ะเก้าอี้มาตั้งเพิ่มเติมได้ด้วยเช่นกัน
ส่วนภายใน Fitness จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และโดยรอบจะเป็นผนังกระจกทั้งหมด นอกจากความสว่างโปร่งโล่งแล้ว ยังทำให้เราสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว และวิวหลักๆของเครื่องออกกำลังกายจะหันเข้าไปด้านในโครงการครับ
ซึ่งวิวจากชั้น 2 ของอาคาร Clubhouse ก็จะเป็นประมาณนี้เลย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse
- Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 12 x 16 เมตร
- Fitness
- Kid’s Room
- Co-Working Space
- สวนสาธารณะ ขนาด 518.5 ตรว.
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 2 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 8.5 ม.
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN มาตรฐานจาก AP
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วเหล็กเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
- เข้า-ออกด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียนรถ LPR (License Plate Recognition)
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ชั้น 1 ทุกหลัง
แบบบ้าน
..โครงการ Apitown Ubonratchathani (อภิทาวน์ อุบลราชธานี) เป็นบ้านสไตล์ Modern ที่มีแบบบ้านให้เราเลือกเยอะถึง 7 แบบ โดยหากใครที่รู้จัก AP เป็นอย่างดีก็พอจะทราบว่าต้นแบบของบ้านโครงการนี้จะมาจากแบรนด์ ‘Centro’ ที่ใช้ในกรุงเทพและปริมณฑลนั่นเอง ซึ่งจะถูกหยิบยกมาใช้ในโซนต่างจังหวัดทั่วประเทศไทย ในนามของแบรนด์ ‘อภิทาวน์’ ที่เราจะมารีวิวกันในวันนี้
แต่จะมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาฟังก์ชันบางอย่าง เพื่อให้เหมาะสมผู้บริโภคในจังหวัดนั้นๆ เช่น พี่น้องชาวอุบลส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการแยกตัวออกมาจากครอบครัวเดิม และอยู่กันเป็นครอบครัวขนาดเล็ก 2 – 3 คน ก็จะเหมาะกับแบบบ้านไซส์เล็กที่มีราคาก็จับต้องได้ และที่พิเศษกว่าอภิทาวน์ทำเลอื่นๆก็คือ จะมีแบบบ้านเดี่ยวชั้นเดียวให้เลือกด้วยนั่นเองครับ โดยแบบบ้านทั้ง 7 Type ก็จะมีดังต่อไปนี้เลย
- ENZO บ้านเดี่ยว 1 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50-59 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - GARBEL บ้านเดี่ยว 1 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 59 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - AKIVA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่ม 50 – 96 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - ARRIS บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 96 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - PORTER บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 96 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - PILAR บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 96 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - CASHEL บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 96 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
วัสดุและโครงสร้างหลักของบ้าน :
- โครงสร้างบ้าน : ก่ออิฐมวลเบา สามารถทุบ/เจาะ/ต่อเติมได้ง่าย
- พื้นที่จอดรถ : Slab on Ground แยกโครงสร้างออกมาจากตัวบ้านแบบทั้งผืน และเป็นพื้นปูนขัดเรียบปกติ
- พื้นที่ซักล้าง : Slab on Ground
- โครงสร้างบันได : คอนกรีตเสริมเหล็ก แข็งแรงทนทาน ปิดผิวไม้ยางพารา
- พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้
- พื้นชั้น 2 : ไม้ลามิเนต
- ครัว : ก่อเคาน์เตอร์ปูน Top หินสังเคราะห์สีดำ มาให้เป็นมาตรฐานทุกหลัง
- สุขภัณฑ์ : American Standard
- Facade ของตัวบ้าน : แผ่น CONWOOD ลายหินอ่อน เป็นวัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์อย่างหนึ่ง
- ระบบรักษาความปลอดภัย : ระบบ Magnetic Sensor ที่ประตูหน้าต่างชั้น 1 และชั้น 2 + กล้อง CCTV ที่จอดรถ 1 ตัว และ Digital Door Lock ทุกหลัง
- CASHEL บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 96 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
สำหรับบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้ จะเป็นไซส์ใหญ่สุดของโครงการ ดีไซน์บ้านหน้ากว้างและแบ่งโซนฟังก์ชันแยกออกจากกันได้ชัดเจน เริ่มจากชั้น 1 จะแยกโซน Common Area เอาไว้ทางด้านขวา เชื่อมต่อกันกลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้าน ทำให้เรามีช่องแสงเยอะถึง 3 ด้าน และยังชมวิวสวนข้างบ้านได้อย่างเต็มที่ โดยตรงกลางจะเป็นครัวที่จะอยู่ติดกับโต๊ะทานอาหาร สามารถยกเสิร์ฟได้สะดวก
ส่วนฟังก์ชันอื่นๆจะมีโถงทางเดินแยกออกไปทางซ้ายมือ จึงมีความเป็นส่วนตัวออกจากกันดีครับ ไม่ว่าจะเป็นบันได ห้องน้ำ และห้องนอนชั้นล่าง ที่สามารถปรับเป็นห้องอเนกประสงค์ต่างๆตาม Lifestyle ของครอบครัวได้ เช่น ห้องทำงาน ห้องดูหนังฟังเพลง หรือถ้าใครจะทำเป็นห้องนอนชั้นล่าง ก็อาจต้องมาแชร์ห้องน้ำร่วมกับแขกที่ด้านนอก แต่ก็อยู่ติดกันที่ด้านหน้าเลย จึงใช้งานได้ไม่ยากและไม่เสียความเป็นส่วนตัวมากนัก
แปลนชั้น 2 จะมีห้องนอนขนาดใหญ่ให้ใช้งาน 3 ห้อง พร้อมกับห้องน้ำเป็นส่วนตัวด้วย โดยที่ Master Bedroom จะมีความพิเศษหน่อยคือ จะมีทั้งอ่างอาบน้ำ / Walk-in Closet และระเบียงส่วนตัวให้ใช้งาน นอกจากนี้บริเวณโถงทางเดินยังมี Family Area ให้ทุกคนในครอบครัวได้มาใช้งานร่วมกันได้ด้วยครับ หรือเราจะกั้นผนังเพื่อเพิ่มอีกฟังก์ชันหนึ่งเลยก็ได้ ซึ่งบรรยากาศของจริงจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยครับ
เริ่มจากพื้นที่จอดรถจะมีความกว้างมากพอที่จะจอดรถ 2 คันได้พอดีๆ โดยจะเป็นการจอดแบบในร่ม และโครงสร้างพื้นแบบ Slab on Ground แยกโครงสร้างออกมาจากตัวบ้านแบบทั้งผืน เพื่อที่หากในอนาคตพื้นเกิดการทรุดตัวก็จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อตัวบ้านนั่นเอง และนอกจากนี้ยังมีการติดกล้อง CCTV มาให้อีก 1 จุดเพื่อความปลอดภัยด้วยครับ
รวมถึงบริเวณชายคาก็จะมีการเซาะร่องไว้รอบๆ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนไหลย้อนกลับเข้าไปในบ้านแบบนี้ด้วยครับ
ทางเข้าบ้านนี้จะมีการติดตั้ง Digital Door Lock มาให้เป็นมาตรฐานทุกหลังเลย ทำให้มีความปลอดภัยและใช้งานได้ง่าย โดยจะเป็นทางที่สามารถเข้าบ้านได้สะดวกจากที่จอดรถ ซึ่งไม่ต้องเสียเวลาเดินอ้อมไปหน้าบ้านครับ
ส่วนทางเข้าหลักจะอยู่ทางหน้าบ้าน ซึ่งติดกับสวนที่ทางโครงการจะปูหญ้า+ต้นไม้มาให้เป็นมาตรฐานทุกหลัง อีกทั้งยังมีระเบียงทางเดินในร่มเชื่อมต่อมาจากพื้นที่จอดรถได้เลยอีกด้วย
เข้ามาภายในเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้านเลยครับ จึงทำให้มีความสว่างโปร่งโล่ง และเรายังได้ช่องแสงถึง 3 ด้านเลยอีกด้วย
พื้นที่ส่วนแรกจะเป็น Living Area ที่สามารถเอาไว้นั่งเล่นพักผ่อน ดูทีวี และรับรองแขกได้ โดยจะอยู่ติดกับประตูกระจกบานเลื่อนที่อยู่หน้าบ้านแบบนี้เลย
ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารแบบ 4 – 6 ที่นั่ง ซึ่งจะอยู่ติดกับช่องแสงขนาดใหญ่ถึง 2 ด้าน จึงสามารถชมวิวสวนข้างบ้านสวยๆที่เราจัดไว้ได้ด้วย ทำให้ฟังก์ชันส่วนนี้สามารถใช้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์อื่นๆ นอกเหนือจากนั่งทานข้าวไปด้วยได้นั่นเองครับ
อีกด้านที่ติดกับโต๊ะทานอาหารจะเป็นประตูห้องครัว ซึ่งเราจะได้เป็นครัวปิดสามารถทำอาหารได้จริงจังเลยครับ แถมยังสามารถยกอาหารมาเสิร์ฟได้สะดวกอีกด้วย โดยเราจะได้เป็นเคาน์เตอร์ปูน Top หินสังเคราะห์สีดำแบบบ้านตัวอย่างนี้เลยครับ
ส่วนอีกด้านจะเป็นประตูที่สามารถเปิดเชื่อมต่อไปยังซักล้างที่อยู่หลังบ้านได้แบบนี้ พื้นที่ซักล้างจะเป็นโครงสร้าง Slab on Ground แยกออกมาจากตัวบ้านเช่นเดิม
ถัดมาจะเป็นโถงทางเดินกลางบ้าน ซึ่งจะแยกฟังก์ชันใช้งานอื่นๆออกไปจาก Common Area ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 / ห้องน้ำ และห้องนอนชั้นล่าง
เริ่มจากห้องน้ำที่อยู่ใกล้กับบันได ภายในมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน โดยจะเตรียมพื้นที่สำหรับอาบน้ำเอาไว้ด้วย เผื่อใครจะทำห้องชั้นล่างเป็นห้องนอน ก็จะได้มาใช้งานห้องนี้ได้เลยนั่นเอง ซึ่งเราอาจต้องติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเอง และได้สุขภัณฑ์จาก American Standard เป็นมาตรฐาน
ติดกันจะเป็นห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งภายในมีขนาดใหญ่พอที่จะวางเตียง 5 ฟุต เพื่อทำเป็นห้องนอนได้เลย เผื่อใครที่มีแขกมาหาบ่อยๆ หรือมีพ่อแม่ที่ขึ้นบันไดไม่ไหวแล้ว ก็ใช้ห้องนี้เป็นห้องผู้สูงอายุได้เลย เพียงแต่อาจต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันที่ด้านนอกนะครับ
นอกจากนี้เรายังสามารถปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ได้ตามต้องการอีกด้วย เช่น ห้องดูหนังเล่นเกมส์ ห้องทำงาน หรือห้องดนตรี เป็นต้น
บันไดทางขึ้นชั้น 2 เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความแข็งแรงทนทาน เวลาเดินขึ้น-ลงจะไม่มีเสียงดังรบกวน ปิดผิวด้วยไม้ยางพารา และมีราวจับเหล็กให้ใช้งานตลอดทางเพื่อความปลอดภัย ซึ่งตรงชานพักจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ ช่วยทำให้สว่างโปร่งโล่งดีด้วยครับ
ขึ้นมาด้านบนเราจะเจอกับ Family Area ที่สามารถปรับเป็นฟังก์ชันอะไรก็ได้ตามต้องการ เช่น จะทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัวแบบนี้ หรือจะกั้นผนังทำเป็นห้องส่วนตัวเพิ่มขึ้นอีกห้องเลยก็ได้ เช่น ห้องพระ ห้องทำงาน เป็นต้น โดยพื้นด้านบนก็จะเปลี่ยนเป็นไม้ลามิเนต ทำให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติมากขึ้นครับ
สำหรับห้องนอนแรกเราจะพาไปดูทางซ้ายมือติดกับบันไดก่อนนะครับ
ภายในคือ Master Bedroom ที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ (เท่าๆกับ Common Area ชั้นล่างก่อนหน้านี้เลย) โดยโซนหน้าบ้านก็สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุต แล้วยังมีพื้นที่เหลือรอบๆให้ใช้งานได้สะดวกแบบนี้
และทางหน้าบ้านจะมีประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ที่ถือเป็นช่องแสงหลักของห้อง และสามารถเปิดออกไปใช้งานระเบียงภายนอกได้ด้วย ซึ่งราวระเบียงจะเป็นกระจกนิรภัย Tempered Glass ที่จะมีความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น
ส่วนโซนด้านหลังของบ้านจะเป็น Walk-in Closet ซึ่งจะอยู่ติดกับห้องน้ำส่วนตัว ทำให้สามารถใช้งานกันได้อย่างต่อเนื่องสะดวก อีกทั้งยังมีช่องแสงถึง 2 ด้าน จึงมีความสว่างโปร่งโล่ง เหมาะกับการแต่งตัวมากๆครับ
ภายในห้องน้ำมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และได้สุขภัณฑ์จาก American Standrad ครบเป็นมาตรฐาน โดยที่พิเศษกว่าห้องอื่นๆก็คือ จะมีฟังก์ชันอ่างอาบน้ำเพิ่มเข้ามาด้วยนั่นเองครับ
สำหรับ Shower Box เราอาจต้องติดฉากกั้นเพิ่มเติมเอง เพื่อที่เวลาอาบน้ำจะได้ไม่กระเด็นเปียกไปทั่วทั้งห้องครับ โดยจะเป็นพื้นที่แบบเข้ามุมให้ใช้งานได้แบบพอดีตัว ส่วนถ้าใครชอบอาบน้ำอุ่นเค้าก็จะมี Junction Box ให้ติดเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้พร้อมใช้งานแล้ว
เอาล่ะ ต่อมาเราจะไปดูห้องนอนอีก 2 ห้องที่เหลือ ซึ่งอยู่แยกออกไปอีกฝั่งของตัวบ้านกันครับ
เริ่มจากห้องนอนที่อยู่โซนหน้าบ้านกันก่อน ซึ่งจะมีขนาดใหญ่รองลงมาจาก Master Bedroom จึงเหมาะที่จะเป็นห้องนอนของลูกคนโตครับ โดยเราสามารถวางเตียง 5 ฟุตไปแล้วก็ยังมีพื้นที่เหลือให้ใช้งานได้สะดวก อีกทั้งยังได้ช่องแสงขนาดใหญ่ทางหน้าบ้านอีกด้วย
ส่วนอีกด้านของห้องจะเป็นพื้นที่ Walk-in Closet เล็กๆบริเวณหน้าห้องน้ำให้เราได้แต่งตัวกันได้สะดวก รวมถึงมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานแบบส่วนตัวได้ด้วย ซึ่งภายในก็จะมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนพร้อมใช้งาน
สุดท้ายจะเป็นห้องนอนที่อยู่ทางโซนด้านหลังบ้านครับ เป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุด แต่ก็สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้แบบพอดีๆ แถมยังมีห้องน้ำส่วนตัวให้ใช้งานเหมือนห้องก่อนหน้านี้ด้วย
- ENZO บ้านเดี่ยว 1 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50-59 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
เป็นแบบบ้านที่เล็กที่สุดของโครงการ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อชาวอุบลราชธานี ที่มักจะเป็นครอบครัวขนาดเล็ก รวมถึงยังสามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้สูงอายุที่อาจไม่สะดวกในการเดินขึ้น-ลงบันไดได้อีกด้วยครับ โดยนี่ก็คือเป็นโครงการแรกของแบรนด์ ‘อภิทาวน์’ ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ที่มีการนำแบบบ้านชั้นเดียวแบบนี้มาใช้อีกด้วยครับ (จังหวัดแรกที่มีการนำมาใช้ของ AP เท่าที่ผมทราบก็น่าจะเป็นที่ระยองแห่งเดียวเท่านั้นนะ)
จุดเด่นของบ้านหลังนี้คือ เราจะได้ Common Area ขนาดใหญ่ตรงกลาง พร้อมกับมีห้องนอนส่วนตัวแยกออกไปอีก 2 ห้อง โดยห้องนอนเหล่านี้จะมีหน้าต่างอยู่ติดกับสวนข้างบ้าน จึงทำให้เราสามารถชมวิวและได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากบ้านชั้นเดียวที่เราคุ้นเคยกันดี และ Master Bedroom ก็จะมีห้องน้ำให้ใช้งานส่วนตัวเลยครับ ในขณะที่ห้องนอน 2 อาจต้องแชร์กับภายนอก เพราะต้องการประหยัดพื้นที่ใช้สอย ให้ภายในห้องมีความกว้างขวางแบบนี้นี่เอง
และที่ผมชอบอีกอย่างคือ ถึงแม้จะเป็นบ้านไซส์เล็กสุด แต่ก็ยังให้ที่จอดรถมา 2 คันเช่นเดียวกับแบบบ้านหลังอื่นๆ จึงสามารถรองรับครอบครัวที่อยู่กัน 2 – 3 คน หรือครอบครัวที่มีลูกได้สบายๆ เพราะเราก็อาจมีรถไว้ใช้งานคนละคันนั่นเองครับ ส่วนถ้าใครที่ชอบทำอาหารเค้าก็จะมีครัวปิดให้ใช้งานด้วยเช่นกัน โดยบรรยากาศของจริงจะเป็นอย่างไรเราก็มีภาพบ้านเปล่ามาตรฐานมาให้ชมกันด้วย สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
- GARBEL บ้านเดี่ยว 1 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 59 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
หลังนี้จะเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวอีก Type ที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย โดยปัจจุบันบ้านแบบนี้ Sold Out ไปแล้วนะครับ แสดงให้เห็นว่ามีคนให้ความสนใจกันไม่น้อยเลย ซึ่งตอนที่ผมเดินเข้าไปชมบ้านเปล่ามาตรฐานแปลงสุดท้ายก็เข้าใจได้เลย ว่าฟังก์ชันของเค้าค่อนข้างน่าสนใจ
เพราะนอกจากจะมีขนาดใหญ่และกว้างขวางมากขึ้นแล้ว ยังออกแบบให้มีโถงทางเดินแยกฟังก์ชันอื่นๆออกจาก Common Area เหมือนบ้านหลังใหญ่ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการใช้งานมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มห้องนอนขึ้นมาอีก 1 ห้อง จึงมีความยืดหยุ่นและรองรับครอบครัวขยายในอนาคต ที่อาจมีลูกมากกว่า 1 คนก็ได้ด้วยนั้นเอง
สำหรับใครที่สนใจแบบบ้านหลังนี้ ก็อาจลองสอบถามกับโครงการดูอีกครั้งได้นะครับ เพราะไม่แน่ว่าอาจมีบ้านที่หลุดจอง/หลุดดาวน์มาให้เราได้เป็นเจ้าของกันอีกก็ได้ โดยบรรยากาศภาพบ้านของจริงจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้กันได้เลย
- AKIVA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่ม 50 – 96 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
แบบบ้านหลังนี้จะเป็นขนาดไซส์เริ่มต้นของบ้าน 2 ชั้น ที่ลักษณะจะเป็นบ้านแบบตอนลึก แต่ก็ยังคงตั้งอยู่บนที่ดินบ้านขนาดมากกว่า 50 ตร.วา ถ้าเราไปดูของจริงก็จะเห็นได้ว่า บ้านแบบนี้เค้าจะมีพื้นที่สวนข้างบ้านเหลือค่อนข้างเยอะมากกว่าบ้านแบบอื่นๆ ใครที่ชอบปลูกต้นไม้หรือมีพื้นที่ให้ทำสวนอยู่แล้วก็น่าจะถูกใจไม่น้อย
แปลนชั้น 1 จะสามารถจอดรถ 2 คันได้ก็จริง แต่คันหนึ่งจะเป็นการจอดแบบกลางแจ้งนะครับ ซึ่งเราอาจต้องเตรียมงบเผื่อทำหลังคาเพิ่มเติมด้วย ส่วนในบ้านจะมี Common Area ขนาดใหญ่ที่ยาวต่อเนื่องไปถึงหลังบ้านเลย และอยู่ใกล้กับครัวปิดที่ทำอาหารได้จริงจัง พร้อมห้องน้ำแบบ Powder Room ให้ใช้งานอีก 1 ห้อง
แปลนชั้น 2 จะมีห้องนอนให้ใช้งาน 3 ห้อง โดยถ้าเป็น Master Bedroom จะมีห้องน้ำและระเบียงส่วนตัวให้ใช้งาน แต่บ้านหลังเล็กนี้จะยังไม่มีอ่างอาบน้ำนะครับ ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะอยู่ทางโซนด้านหลังบ้าน ซึ่งจะใช้งานห้องน้ำร่วมกันที่ด้านนอก เพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอยในห้องให้ใหญ่และกว้างขวาง แต่ถ้าใครมีลูกคนเดียวก็สามารถทุบผนังตรงกลางออก เพื่อเชื่อมต่อกันกลายเป็น Double Master Bedroom อีกห้องหนึ่งไปเลยก็ได้
- ARRIS บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 96 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
ถัดมาจะเป็นแบบบ้านไซส์ใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่มีฟังก์ชันให้ใช้งานครบครันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มห้องนอนชั้นล่างขึ้นมา 1 ห้อง จึงสามารถรองรับครอบครัวที่อาจมีผู้สูงอายุ หรือปรับเปลี่ยนเป็นฟังก์ชันอื่นๆได้ตามต้องการ ส่วนห้องนอนด้านบนก็จะมีห้องน้ำในตัวทุกห้องเลยครับ จึงทำให้เป็นบ้านที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และรองรับครอบครัวที่อาจมีลูก 2 คนได้สบายๆ
- PORTER บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 96 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
หลังนี้จะเป็นแบบบ้านไซส์กลางของโครงการ ที่มีจุดเด่นคือ ห้องนอนชั้นล่างจะเป็นส่วนที่ยื่นออกมาจากตัวบ้าน จึงทำให้มีลักษณะเป็นแปลนคล้ายรูปตัว L Shape และมีสวนข้างบ้านที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น สามารถใช้งานได้แบบจริงจังเลยครับ ส่วนห้องนอนที่อยู่บนชั้น 2 ก็ยังคงมีห้องน้ำเป็นส่วนตัว แต่เพิ่มเติมด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางใช้งานได้สะดวกมากขึ้นแทน โดยหากใครที่สนใจแบบบ้านหลังนี้ก็สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้กันได้เลยครับ
ซึ่งพิเศษหน่อยสำหรับบ้าน Type นี้เค้าจะตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นโปรโมชั่นมาให้เราได้ชมกันด้วย โดยจะเป็นโปร Package มูลค่า 100,000 – 200,000 บาท (แล้วแต่ Type) ที่ทางโครงการจะมีดีลพิเศษกับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำให้ เช่น SB Furniture และเราสามารถเลือกหน้าตาเฟอร์นิเจอร์ได้เองไม่จำกัดรูปแบบ เพียงแต่บ้านตัวอย่างจะลองจัดให้ดูว่ามูลค่า Package ที่แถมให้ถ้าเลือกดีๆ จะได้ของแบบทั้งหลังประมาณไหนบ้างนั่นเองครับ
- PILAR บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 96 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
เป็นแบบบ้านไซส์เกือบใหญ่สุดของโครงการ โดยจะมีฟังก์ชันที่คล้ายกับบ้านตัวอย่างหลังใหญ่ที่เรารีวิวกันไปในตอนแรกเลยครับ เพียงแต่จะมีการลดทอนพื้นที่ใช้สอย และฟังก์ชันบางอย่างออกไป โดยเฉพาะห้องนอนเล็กด้านบนจะต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันที่ด้านนอก เพื่อที่เราจะได้มีพื้นที่ใช้สอยในห้องนอนที่กว้างขวางมากขึ้น
ทำให้บ้านหลังนี้เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก ยิ่งถ้ามีลูกคนเดียวก็จะได้ใช้งานห้องน้ำแบบไม่ต้องแชร์กับใครเลยครับ ส่วนอีกห้องหนึ่งก็อาจทำเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆ เช่น ห้องทำงาน ห้องพระ หรือห้องดูหนัง เป็นต้น รวมถึงอาจเหมาะกับครอบครัวที่เผื่อขยับขยายในอนาคตก็ได้ (อาจยังไม่ใช่ตอนนี้) ก็จะทำให้เรามีฟังก์ชันเอาไว้รองรับแบบไม่ต้องเสียเวลาทำเพิ่ม หรือไปหาซื้อบ้านหลังใหม่นั่นเองครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่า
ราคา
อภิทาวน์ อุบลราชธานี ราคา ณ วันที่ 22 มิถุนายน 2567
- ENZO บ้านเดี่ยว 1 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50-59 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท - GARBEL บ้านเดี่ยว 1 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 59 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– Sold Out - AKIVA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่ม 50 – 96 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท - ARRIS บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 96 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท - PORTER บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 96 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 4.24 ล้านบาท - PILAR บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 96 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 4.84 ล้านบาท - CASHEL บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 – 96 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 5.62 ล้านบาท - ค่าจอง 10,000 บาท
- ค่าทำสัญญา 20,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 35,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 24 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
บทสรุป
“อภิทาวน์” เป็นแบรนด์บ้านแนวราบจาก AP Thailand ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดรองให้ได้มาตรฐานเทียบเท่าโครงการบ้านในกรุงเทพ โดยปัจจุบันแบรนด์ “อภิทาวน์” เติบโตเข้าสู่ปีที่ 5 มีโครงการใหม่ๆ ที่ถูกพัฒนาเพิ่มขึ้นทุกปี ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงผลตอบรับที่ค่อนข้างดี และความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยส่วนตัวผมเองก็เคยมีโอกาสได้ไปรีวิว ‘อภิทาวน์’ ในจังหวัดอื่นๆมาด้วย สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นที่ทำให้ผู้บริโภคให้ความสนใจแบรนด์ ‘อภิทาวน์’ ก็คือ ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN และระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านต่างๆที่ใส่เข้ามาแบบจัดเต็ม แสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ต่างให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินอย่างมาก
รวมถึงยังมีบรรยากาศของโครงการ และพื้นที่ส่วนกลางที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์ Lifestyle คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และ Co-Working Space บางแห่งยังมีบริการ Facilities เปิด 24 ชม. อีกด้วยครับ ซึ่งสิ่งต่างๆที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้สามารถเอาชนะคู่แข่งในแต่ละจังหวัดได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
อีกสิ่งหนึ่งที่จะเป็นตัวตัดสินก็คือ ปัจจัยทางด้าน ‘ราคา’ ที่อาจสูงกว่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับโครงการของผู้พัฒนาในท้องถิ่นนั้นๆ แต่สิ่งที่เราจะได้จากแบรนด์ใหญ่คือ มาตรฐานและคุณภาพชีวิตที่ดีไม่แพ้โครงการในกรุงเทพเลยนั่นเองครับ ส่วนในเรื่องของแบบบ้านและฟังก์ชัน ก็สามารถเลือกให้เหมาะกับ Lifestyle ของแต่ละครอบครัวได้เลย ซึ่งโครงการของ ‘อภิทาวน์’ ก็มีแบบบ้านให้เลือกเยอะถึง 7 แบบ สามารถรองรับทุกความต้องการได้เลยนั่นเอง
อภิทาวน์ อุบลราชธานี เหมาะกับใคร
โครงการ Apitown Ubonratchathani (อภิทาวน์ อุบลราชธานี) เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวใกล้ตัวเมืองอุบลราชธานี โดยจะมีบ้านให้เลือกเยอะถึง 7 แบบ เน้นเป็นบ้านไซส์เล็กสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มักจะเป็นครอบครัวขนาดเล็ก มีทั้งบ้านเดี่ยวชั้นเดียวและบ้าน 2 ชั้นให้เลือก อีกทั้งยังมีระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN และฟังก์ชันส่วนกลางให้ใช้งานครบครัน มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 2.99 – 6 ล้านบาท
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่