สวัสดีเจ้า ชาวเชียงรายและชาวภาคเหนือคนไหนที่กำลังมองหาบ้านกันอยู่ วันนี้เราพามาดู Apitown Chiangrai (อภิทาวน์ เชียงราย) โครงการบ้านเดี่ยว เฮือนงามหลังใหญ่ใกล้ตัวเมืองเชียงราย มีห้องนอนชั้นล่างทุกหลังรองรับผู้สูงอายุได้ โดยแบรนด์ “อภิทาวน์” นี้เป็นโครงการบ้านแนวราบที่ทาง AP ปล่อยออกมาเพื่อทำตลาดในต่างจังหวัดโดยเฉพาะ ซึ่งเปิดตัวแบรนด์และพัฒนาโครงการมาตั้งแต่ปี 2563 แล้ว แต่มีหลายๆคน โดยเฉพาะชาวกรุงเทพฯ ที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อแบรนด์นี้เท่าไหร่นัก

ดังนั้นนอกจากจะพาไปดูรายละเอียดโครงการในรีวิวนี้แล้ว เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักโครงการอภิทาวน์ให้เห็นภาพกันมากขึ้น รวมถึงความน่าสนใจของโครงการอภิทาวน์ที่ใช้เวลาเพียง 5 ปี แต่เปิดตัวโครงการไปแล้วรวม 15 โครงการ พร้อมเก็บภาพบรรยากาศแคมเปญพิเศษ อภิทาวน์ทั่วไทย x เชฟกะปอมมาให้ทุกคนมาชม มาผ่อได้เน้อเจ้า

ข้อมูลโครงการ

Apitown Chiangrai (อภิทาวน์ เชียงราย) ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2567

 ชื่อโครงการ   Apitown Chiangrai (อภิทาวน์ เชียงราย)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   MAIN – UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนทางหลวงจังหวัดสาย 1020 ต.ท่าสาย อ.เมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
 ที่ดิน    43-0-78.4 ไร่
 จำนวนยูนิต    จำนวน 155 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • Bravo บ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้ากว้าง 8.20 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – Sold Out
  • Bravo B บ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้ากว้าง 8.20 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 182 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท
  • Emma  บ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้ากว้าง 12.80 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 186 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้นประมาณ 5.xx ล้านบาท
  • Latitude บ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้ากว้าง 11.20 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 57 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 5.69 ล้านบาท (Promotion)
  • Luminance บ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้ากว้าง 12.50 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   ชั้น 1 – 2.60 เมตร / ชั้น 2 – 2.80 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      70,000 บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2563
 เว็บไซต์โครงการ   คลิกที่นี่
 Call Center   1623

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 19.864676, 99.838052
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

Apitown Chiangrai (อภิทาวน์ เชียงราย) ตั้งอยู่บนถนนทางหลวงสาย 1020 ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนพหลโยธินเดิม (เส้นสีน้ำตาล) ตัดผ่านตัวเมืองที่มีทั้ง ตลาด โรงพยาบาล สำนักงานต่างๆ ของรัฐบาลที่กระจุกตัวกันอยู่บริเวณนี้ จึงเป็นเส้นถนนที่ชาวบ้านใช้เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองเชียงรายกันเป็นหลัก

แต่จังหวัดเชียงรายจะมีถนนพหลโยธินอีกเส้น เป็นเส้นทางใหม่หรือที่ชื่อว่าทางหลวงหมายเลข 1 (เส้นสีแดง) โดยตัดคู่ขนานกับถนนพหลโยธินเดิมและเป็นถนนเส้นใหญ่ขึ้น ใช้วิ่งข้ามจังหวัดได้สะดวก ทำให้มีศูนย์การค้าใหญ่ๆหรือห้างใหม่ๆ เกิดขึ้นบนเส้นถนนนี้ เช่น เซ็นทรัลเชียงราย, Big C Super Center เป็นต้น

ซึ่งตัวโครงการที่เชื่อมต่อจากถนนพหลโยธินเดิม ก็ได้ความคึกคักขยายต่อเนื่องจากตัวเมืองมาบนเส้นนี้ โดยมี Homepro เชียงรายอยู่ติดกับโครงการเลย หรือจะไปเส้นถนนพหลโยธินใหม่ (ทางหลวงหมายเลข 1) ที่มีห้างใหม่ๆให้มาเดินจับจ่ายใช้สอยก็ไม่ไกลค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ Apitown Chiangrai (อภิทาวน์ เชียงราย) ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่า ถึงแม้ตัวโครงการจะอยู่ติดโฮมโปร เชียงรายและบริษัท ทีโอที ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการอยู่อาศัยภายในโครงการ ส่วนบริเวณด้านหน้าโครงการจะมีรถยนต์สัญจรผ่านไปมาตลอด แต่ออกแบบตัวบ้านมีระยะห่างจากถนน ทำให้ไม่รบกวนการอยู่อาศัยค่ะ

Image 1/3
ภาพบรรยากาศด้านหน้าโครงการ เมื่อมองไปฝั่งตรงข้าม

ภาพบรรยากาศด้านหน้าโครงการ เมื่อมองไปฝั่งตรงข้าม

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Home Pro เชียงราย ~ 30 เมตร
  • ตลาดล้านเมือง ~ 1.7 กิโลเมตร
  • โกลบอล เฮ้าส์ เชียงราย ~ 2.2 กิโลเมตร
  • ไทวัสดุ ~ 3.3 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัล เชียงราย ~ 4.1 กิโลเมตร
  • ตลาดป่ากอ ~ 4.4 กิโลเมตร
  • บิ๊กซี เชียงราย 4.9 กิโลเมตร
  • ไนท์บาซ่า ~ 6.6 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • รพ. เชียงรายอินเตอร์ ~ 4.8 กิโลเมตร
  • รพ. เชียงรายประชานุเคราะห์ ~ 5.8 กิโลเมตร
  • รพ. เกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ ~ 6.2 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • รร. เตรียมอุดมพัฒนาการจังหวัดเชียงราย ~ 5.4 กิโลเมตร
  • รร. ดำรงราษฎร์สงเคราะห์ ~ 7.4 กิโลเมตร
  • รร. องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ~ 8.1 กิโลเมตร

อื่นๆ

  • สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ~ 12.7 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

ก่อนที่เราจะพาไปดูบรรยากาศโครงการ Apitown Chiangrai (อภิทาวน์ เชียงราย) เราขอเกริ่นถึงแบรนด์ “อภิทาวน์” กันสักหน่อย เพราะว่ามีหลายๆคน โดยเฉพาะชาวกรุงเทพฯ ที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อแบรนด์อภิทาวน์นี้เท่าไหร่นัก เนื่องจาก “อภิทาวน์” เป็นแบรนด์โครงการบ้านแนวราบในทำเลต่างจังหวัดที่ทาง AP มองเห็นศักยภาพในจังหวัดนั้นๆ จึงได้เปิดตัวแบรนด์และพัฒนาโครงการมาตั้งแต่ปี 2563 แล้วค่ะ

 ถึงแม้จะใช้เวลาในการพัฒนาแบรนด์และโครงการเพียง 5 ปี แต่ก็มีโครงการภายใต้ชื่อ “อภิทาวน์” ทั้งหมด 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 13,530 ล้านบาท ซึ่งทาง AP ยังคงเดินหน้าพัฒนาแบรนด์อภิทาวน์ในจังหวัดศักยภาพด้วยการเปิดตัว 4 โครงการใหม่ในปีนี้ด้วย

ทาง AP จะพัฒนาโครงการอภิทาวน์ไปในจังหวัดใหม่ๆในทุกๆปี ครอบคลุมทั่วประเทศไทยตั้งแต่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางและภาคใต้ ผ่าน 3 กลยุทธ์หลักของการพัฒนาแบรนด์อภิทาวน์ ได้แก่

1. บุกเจาะพัฒนาโครงการในหัวเมืองใหม่

ส่วนใหญ่ผู้พัฒนาอสังหาฯในกรุงเทพเลือกพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่หรือเมืองท่องเที่ยว ถึงแม้เมืองเหล่านี้จะมีไลฟ์สไตล์เมืองเหมือนกรุงเทพฯ แต่ก็มีตลาดการแข่งขันที่สูงทั้งผู้พัฒนาอสังหาฯจากกรุงเทพด้วยกันเองและผู้พัฒนาอสังหาฯท้องถิ่นค่ะ

ดังนั้นเราจะเห็นว่าทาง AP พัฒนาโครงการอภิทาวน์ในจังหวัดเมืองรอง แต่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ถือเป็นตลาด Blue Ocean ที่มีโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดน้อย มีความต้องการของลูกค้าชัดและกำลังซื้อต่อเนื่อง รวมถึงมีไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยคล้ายกับคนกรุงเทพฯ อย่างเช่นเป็นคนที่เคยไปเรียน ทำงาน หรืออยู่อาศัยในกรุงเทพฯ มาก่อน นอกจากนั้นการเลือกจังหวัดเมืองรองก็ทำให้แข่งขันเฉพาะกับผู้พัฒนาอสังหาฯท้องถิ่นเป็นหลักนั่นเอง

2. เจาะที่ดิน Location in Location

แน่นอนว่าโครงการอภิทาวน์ตั้งอยู่บนทำเลที่เชื่อมต่อได้หลากหลายเส้นทาง ทำให้เดินทางได้ง่าย ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่างๆ เช่น ใกล้ตัวเมือง, แหล่งทำงาน, ห้างสรรพสินค้าหรือตลาด รวมถึงไม่ไกลจากสถานศึกษาและโรงพยาบาลด้วย อย่าง Apitown Chiangrai (อภิทาวน์ เชียงราย) ก็ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมืองและอยู่ติดกับ Homepro เชียงรายค่ะ

3. พัฒนาโครงการให้เป็นส่วนหนึ่งของเมือง

โครงการอภิทาวน์มีแนวคิดในการออกแบบโครงการที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งและกลมกลืนไปกับเมือง โดยทีม AP Design Lab ลงพื้นที่ศึกษาการใช้ชีวิตจริงของคนในพื้นที่และพัฒนาโครงการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนบนพื้นที่นั้นๆ ซึ่งปัจจุบันมีแบบบ้านของโครงการอภิทาวน์ทั้งหมด 69 แบบบ้าน แบ่งเป็นทาวน์โฮม 11 แบบ, บ้านแฝด 8 แบบและบ้านเดี่ยว 50 แบบ ทำให้สามารถดึงแบบบ้านมาปรับใช้ให้เข้ากับจังหวัดนั้นๆได้และครอบคลุมตั้งแต่ครอบครัวเริ่มต้นไปจนถึงครอบครัวใหญ่เลยค่ะ

นอกจากนั้นยังนำเอกลักษณ์ของจังหวัดนั้นๆในการออกแบบและตกแต่งโครงการอย่าง Apitown Chiangrai (อภิทาวน์ เชียงราย) ที่ถึงแม้ตัวบ้านจะเป็นสไตล์ Modern แต่ก็ผสมผสานและตกแต่งให้ดูมีความเป็นไทยล้านนามากขึ้นอย่างการใช้ระแนงบังสายตา การตกแต่งผนังลายหิน รวมถึงประตูไม้สักแท้ที่คนเชียงรายมักใช้ในการก่อสร้างบ้านนั่นเอง

สำหรับโครงการอภิทาวน์ที่ถึงแม้จะมีราคาสูงเมื่อเทียบกับผู้พัฒนาอสังหาฯท้องถิ่น ด้วยการออกแบบโครงการที่ยกคุณภาพมาตรฐานเหมือนโครงการกรุงเทพฯ ทั้งเรื่องวัสดุและแบบบ้านไปพัฒนาบนจังหวัดนั้นๆ จึงทำให้มีต้นทุนการขายที่สูงกว่า แต่ปัจจุบันผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัด มีความต้องการที่หลากหลายขึ้นทั้งฟังก์ชันบ้านและพื้นที่ส่วนกลางที่สวยงาม อยู่สบายไม่แพ้โครงการในกรุงเทพฯ

ทำให้โครงการอภิทาวน์โดดเด่นในเรื่องแบบบ้านที่หลากหลายเข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ และมีพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่าง Co-Working Space ที่โครงการจากผู้พัฒนาอสังหาฯท้องถิ่นไม่มี รวมถึง Fitness เปิด 24 ชั่วโมง ที่ถือเป็นจุดเด่นของ AP นำไปพัฒนาในโครงการอภิทาวน์ใหม่ๆ ส่วนโครงการที่เปิดตัวมาแล้ว ก็จะมีการประชุมหารือความต้องการกับลูกบ้าน นอกจากนั้นยังมีระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN ที่เป็นมาตรฐานของ AP ในทุกโครงการ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน จึงทำให้โครงการอภิทาวน์ได้รับความสนใจจากคนในพื้นที่นั่นเอง

ทาง ThinkofLiving ได้โอกาสเข้าร่วมแคมเปญพิเศษ อภิทาวน์ทั่วไทย x เชฟกะปอม โดยเชฟกะปอมได้เดินทางขึ้นเหนือ ล่องใต้ไปพร้อมกับโครงการอภิทาวน์ 5 โครงการ และนำเสนอเมนูอาหารสุดพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากแต่ละจังหวัด

เนื่องจากทาง AP ได้ศึกษาและพัฒนาการออกแบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยใหม่ๆให้ดีที่สุด จึงพบว่าคนเชียงรายมักจะทำอาหารกินกันเองภายในบ้าน จึงควรมีพื้นที่ห้องครัวที่รองรับกับการใช้งานมากขึ้น ดังนั้น Apitown Chiangrai (อภิทาวน์ เชียงราย) จึงมีการปรับดีไซน์แบบบ้านใหม่แตกต่างจากโครงการอภิทาวน์อื่นๆ โดยมีห้องครัวขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้เกิดเป็นแคมเปญพิเศษนี้ที่แสดงถึงความใส่ใจในเรื่องการประกอบอาหารภายในบ้าน รวมถึงมองว่าเป็นพื้นที่สร้างความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวมาช่วยกันทำอาหารและรับประทานอาหารร่วมกัน สร้างความทรงจำและรสมือแม่ที่ไม่มีวันลืมค่ะ

Apitown Chiangrai (อภิทาวน์ เชียงราย) เป็นโครงการแรกสำหรับแคมเปญพิเศษนี้ที่เราได้ไปร่วมงานในวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ส่วนอีก 4 โครงการจะเป็น อภิทาวน์ สุราษฎร์ธานี, อภิทาวน์ ฉะเชิงเทรา, อภิทาวน์ นครสวรรค์ และปิดท้ายที่โครงการอภิทาวน์ อุบลราชธานี ซึ่งทาง ThinkofLiving ได้ร่วมเดินทางไปเก็บภาพบรรยากาศภายในโครงการและภายในงานมาให้ชมกันถึง 4 โครงการเลย ฝากทุกคนติดตามอ่านโครงการอื่นกันด้วยนะคะ

Image 1/5
ภาพบรรยากาศภายในงานอภิทาวน์ทั่วไทย x เชฟกะปอม

ภาพบรรยากาศภายในงานอภิทาวน์ทั่วไทย x เชฟกะปอม

Image 1/3
เมนูพิเศษ แรงบันดาลใจจากภาคเหนือ โดยเชฟกะปอม

เมนูพิเศษ แรงบันดาลใจจากภาคเหนือ โดยเชฟกะปอม

Highlight ของแคมเปญนี้ คือ เมนูพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากภาคเหนือ โดยเชฟกะปอมได้ลงพื้นที่ไปเจอแม่อุ้ยซ้อ เรียนรู้วัตถุดิบและอาหารการกินของชาวภาคเหนือ จนได้เป็นเมนูที่จัดจานเสิร์ฟแบบแนวร่วมสมัย แต่ได้รสชาติของวัตถุดิบแบบชาวเหนือด้วยเมนู “ปลาดุกย่างน้ำมันมะเเขว่น น้ำพริกหนุ่ม ทานคู่กับผักย่างและข้าวคลุกงาขี้ม่อน” โดยการคั่วเอาน้ำมันจากมะแขว่นที่เป็นเครื่องเทศของชาวภาคเหนือ คล้ายพริกไทยดำ มาย่างปลาดุก พร้อมซอสน้ำพริกหนุ่มรสจัด ที่มีผักเคียงเป็นผักพื้นบ้านอย่างมะเขือยาวที่นำมาย่างด้วยน้ำมันมะแขว่นและตกแต่งด้วยดอกไม้กินได้ รวมถึงข้าวเหนียวที่คลุกงาขี้ม่อนให้สัมผัสกรุบกรอบและกลิ่นหอมค่ะ


Apitown Chiangrai (อภิทาวน์ เชียงราย) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 155 ยูนิต บนที่ดินกว่า 43 ไร่ โดยมีที่ดินโซนด้านหน้าติดถนนใหญ่เป็นแนวยาวและมีผืนที่ดินขนาดใหญ่อยู่ด้านใน ทำให้บ้านในโซนด้านหลังนี้มีความสงบและเป็นส่วนตัวสูง เนื่องจากไม่มีเสียงดังหรือกลิ่นควันจากรถยนต์ด้านหน้าโครงการนั่นเอง งั้นเราจะพาไปดูความน่าสนใจในการจัด Master Plan ของโครงการกันเลยนะคะ

  • พื้นที่ส่วนกลางบริเวณกลางโครงการ นอกจากลูกบ้านสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ง่ายแล้ว ยังออกแบบให้อาคาร Clubhouse อยู่ด้านในและล้อมรอบด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่พรางสายตาจากถนนในโครงการ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวเวลามาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางนี้ค่ะ
  • โซนบ้านพักอาศัยแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักๆ คือ โซนด้านหน้าโครงการติดกับถนนหลัก เข้า-ออกโครงการได้ง่าย ส่วนโซนที่ 2 จะเป็นซอยตัน ได้ความสงบ และโซนสุดท้ายที่เป็นเฟส 2 จะอยู่ด้านในสุด มีถนนหน้าบ้านแบบวน Loop เข้าออกได้หลายทางนั่นเองค่ะ
  • ทิศของบ้านมีให้เลือกครบทั้ง 4 ทิศ บ้านโซนแรกจะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนบ้านอีก 2 โซนนั้นจะหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งบ้านที่หันไปทางทิศเหนือจะไม่โดนแดดส่องหน้าบ้านในยามบ่าย จึงเหมาะกับคนที่ชอบมานั่งเล่นหน้าบ้านในตอนกลางวัน ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศใต้ เหมาะกับคนที่ชอบบ้านที่ได้ลมเข้าดีๆค่ะ

ปัจจุบันทางโครงการยังเปิดการขายบ้านเฟส 1 อยู่นะคะ โดยเราได้พาไปชมโครงการนี้อย่างละเอียดกันมาแล้วตั้งแต่เปิดโครงการแรกๆเลย ทุกคนสามารถคลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ ซึ่งแบบบ้านหลังเล็กของโครงการได้ Sold Out เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีบ้านหลังใหญ่อยู่เพียงไม่กี่หลัง จึงเป็นแบบบ้านที่น่าสนใจเลย เนื่องจากบ้านเฟส 2 ของโครงการจะเป็นบ้านขนาดเล็ก-กลาง ไม่มีแบบบ้านหลังใหญ่ให้เลือกอีกแล้วนั่นเอง หากใครอยากได้บ้านหลังใหญ่ก็ต้องรีบจับจองกันตอนนี้เลยค่ะ ส่วนแบบบ้านหลังเล็กของเฟส 2 จะใช้โมเดลแบบบ้านใหม่มาลง โดยมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ห้องครัวขนาดใหญ่และมีแบบบ้านหน้ากว้าง 12.80 เมตรให้เลือกด้วย

Image 1/3
ซุ้มประตูทางเข้า

ซุ้มประตูทางเข้า

โครงการถูกออกแบบในสไตล์ Modern ที่ผสมผสานและตกแต่งให้ดูมีความเป็นไทยล้านนามากขึ้น อย่างตรงซุ้มประตูทางเข้าโครงการจะมีรูปแบบฐานเสาปูนย่อมุมและการออกแบบช่องลมให้พัดผ่านอาคาร

ซุ้มประตูของโครงการมีระยะร่นจากถนนหลัก ทำให้รถสามารถต่อแถวเข้า-ออกได้สะดวก ไม่ทำให้การจราจรติดขัดตรงถนนด้านหน้าโครงการ ส่วนประตูทางเข้า-ออกโครงการเป็นรั้วไม้กั้นกระดกและประตูเหล็กบานเลื่อน แยกใช้งานเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 1 ช่องทาง โดยมีป้อม รปภ. อยู่ตรงกลาง พร้อมระบบการเข้า-ออกเป็นแบบจดจำป้ายทะเบียนรถด้วย KATSAN ตามมาตรฐานของ AP และติดตั้งระบบ CCTV ช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในโครงการค่ะ

เมื่อขับผ่านซุ้มประตูโครงการมาแล้ว จะเป็นถนนที่ยาวต่อเนื่องไปจนถึงพื้นที่ส่วนกลางบริเวณกลางโครงการเลยค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางบริเวณกลางโครงการจะออกแบบมีต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบพื้นที่สวนไว้ ช่วยพรางสายตาเวลาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางนี้จากรถยนต์บนถนนและบ้านที่อยู่ใกล้ๆด้วย จึงสามารถมาใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนั้นบ้านที่อยู่ใกล้พื้นที่ส่วนกลางนี้ยังได้วิวสวนสีเขียวในมุมกว้างด้วยค่ะ

Clubhouse ของโครงการออกแบบแยกพื้นที่สระว่ายน้ำและ Fitness ไว้คนละชั้นกัน ทำให้สามารถว่ายน้ำได้โดยไม่ต้องกังวลสายตาของคนอื่นที่มาออกกำลังกายใน Fitness ส่วนคนที่ใช้ Fitness ก็มาออกกำลังกายพร้อมได้วิวสวนสีเขียวด้วย

Image 1/4
สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำ

บริเวณชั้น 1 ของ Clubhouse จะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 5 x 15 เมตร ลึก 1.2 เมตร พร้อมแบ่งเป็นสระเด็ก โดยจะเป็นสระกลางแจ้ง จึงเหมาะมาว่ายน้ำเล่นในตอนเช้าหรือตอนเย็นเลยที่แดดไม่ค่อยแรงมาก บริเวณด้านข้างสระว่ายน้ำจะมีมุมนั่งเล่นแบบ Semi Outdoor ใกล้กับสระเด็กให้คุณพ่อ คุณแม่มานั่งเฝ้าลูกๆตอนเล่นน้ำได้ค่ะ รวมถึงมีพื้นที่อาบน้ำล้างตัว พร้อมห้องน้ำที่อยู่ใกล้สระเลย

สำหรับชั้น 2 ของ Clubhouse จะเป็น Fitness ที่ได้วิวสวนพื้นที่สีเขียวขนาด 1 ไร่นั่นเอง

ทางโครงการได้จัดเตรียมเครื่องออกกำลังกายมาครบครันทั้ง Cardio และ Weight Training พร้อมหันหน้าเปิดรับวิวสวนสีเขียว 1 ไร่ของโครงการ ทำให้มาออกกำลังกายพร้อมชมวิวสวนได้เพลินๆเลยค่ะ

Image 1/5
สนามเด็กเล่น

สนามเด็กเล่น

ส่วนพื้นที่สวนสีเขียวของโครงการมีขนาดประมาณ 1 ไร่ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ จึงสามารถมาใช้งานเดินเล่น วิ่งออกกำลังกาย นั่งปิกนิก หรือพาสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นได้โดยไม่ต้องกังวลสายตาจากรถยนต์หรือโซนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ

โดยภายในสวนนี้จะมีจัดพื้นที่นั่งเล่นไว้หลายจุดเลย ทั้งมุมนั่งเล่นใต้ต้นไม้หรือศาลานั่งพักผ่อน แต่เราชอบมากๆที่ทางโครงการปลูกต้นไม้ไว้หลากหลายสายพันธุ์ มีทั้งต้นไม้ขนาดเล็กและใหญ่ ทำให้ได้บรรยากาศร่มรื่น ผ่อนคลายมากๆเลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือขนาด 5 x 15 เมตร ลึก 1.2 เมตร แบ่งเป็นสระเด็ก
  • ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่อง
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 1 ไร่
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • ถนนหลักกว้าง 10-12 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและประตูล้อเลื่อน
  • เข้า-ออก ด้วยการสแกนป้ายทะเบียนรถ
  • ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

แบบบ้าน

Apitown Chiangrai (อภิทาวน์ เชียงราย) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Modern ที่ผสมผสานและตกแต่งให้ดูมีความเป็นไทยล้านนามากขึ้นอย่างการใช้ระแนงบังสายตา ตกแต่งผนังเหมือนลายหิน รวมถึงประตูไม้สักแท้ที่คนเชียงรายมักใช้ในการก่อสร้างบ้านนั่นเอง

ส่วนโครงสร้างบ้านเป็นแบบ Conventional อิฐมวลเบา จึงสามารถทุบต่อเติมได้ตามการใช้งานเลย รวมถึงการวางตำแหน่งตัวบ้านชิดไปด้านใดด้านหนึ่งของที่ดิน ทำให้ได้พื้นที่สวนด้านข้างขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับ Common Area สำหรับต่อเติมห้องเพิ่มได้ในอนาคต

นอกจากนั้นบ้านเฟส 2 ของโครงการก็มีการปรับดีไซน์บ้านให้มีห้องครัวแบบปิดมีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะมองว่าคนต่างจังหวัดมักทำอาหารกินกันเองในบ้าน ต้องมีพื้นที่เตรียมและประกอบอาหารขนาดใหญ่ อีกทั้งเป็นพื้นที่สร้างความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวมาช่วยกันทำอาหาร กินข้าวร่วมกันค่ะ

  • Bravo บ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้ากว้าง 8.20 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – Sold Out
  • Bravo B บ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้ากว้าง 8.20 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 182 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท
  • Emma บ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้ากว้าง 12.80 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 186 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 5.xx ล้านบาท
  • Latitude บ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้ากว้าง 11.20 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 57 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 5.69 ล้านบาท (Promotion)
  • Luminance บ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้ากว้าง 12.50 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท

สำหรับรีวิวนี้ เราจะพาไปดูแบบบ้านเฟส 2 ของโครงการกัน จะมีแบบบ้าน Bravo B, Emma และ Latitude ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดูแบบบ้าน Latitude ที่มีแปลนบ้านแบบเดียวกับเฟส 1 เลย ส่วนแบบบ้าน Bravo B และ Emma มีการปรับดีไซน์แตกต่างจากโครงการอภิทาวน์อื่น ด้วยการปรับห้องครัวให้มีขนาดใหญ่ขึ้นนั่นเอง

ซึ่งแบบบ้าน Bravo B และ Emma ยังไม่มีบ้านตัวอย่างให้ชม แต่การออกแบบฟังก์ชันของ Bravo B คล้ายกับแบบบ้าน Bravo ดังนั้นเราจะใช้บ้านตัวอย่าง Bravo ในการรีวิวแทนนะคะ รวมถึงมีแปลนและภาพจำลองบรรยากาศของแบบบ้าน Emma มาให้ชมกันด้วยค่ะ


Latitude Latitude บ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้ากว้าง 11.20 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 57 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ เป็นแบบบ้านขนาดกลางของโครงการที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดในโครงการ โดยออกแบบเน้นโทนสีขาว-เทาเข้ม รวมถึงตกแต่งผนังเป็นเหมือนลายหินอีกด้วย

ชั้น 1

  • ที่จอดรถ 2 คันในร่ม ด้านหลังมีประตูทางเข้ารอง
  • โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีซุ้มชายคากันแดดและฝน เป็นพื้นที่วางร่มและถอดเก็บรองเท้า
  • พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry
  • พื้นที่รับประทานอาหาร มีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไปพื้นที่สวนขนาดใหญ่ด้านข้างบ้านได้
  • ห้องครัวแบบปิด มีประตูกั้นทำเป็นครัวไทยได้ พร้อมก่อเคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย
  • ห้องนอนชั้น 1 ปรับเป็นห้องนั่งเล่นหรือทำงานได้
  • ห้องน้ำชั้น 1 มีส่วนพื้นที่อาบน้ำ รองรับการใช้งานพร้อมกัน
  • พื้นที่ลานซักล้าง สำหรับตั้งเครื่องซักผ้าและตากผ้า
  • ห้องเก็บของใต้บันไดขนาดใหญ่

ชั้น 2

  • Family Area พื้นที่นั่งเล่นของครอบครัว
  • ออกแบบแบ่งห้องนอนเป็น 2 ฝั่ง โดย Master Bedroom แยกอยู่ห้องเดียว ได้ความเป็นส่วนตัวสูง
  • ห้องนอนชั้นบนทุกห้องได้ห้องน้ำในตัว ใช้งานสะดวก
  • Master Bedroom ขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่ Walk – in Closet
  • Master Bathroom ได้อ่างอาบน้ำแบบฝัง
  • ห้องนอนรองสามารถวางเตียง 3.5-5 ฟุตได้ มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าด้านข้าง

Image 1/2
ที่จอดรถ

ที่จอดรถ

พื้นที่จอดรถในร่มได้ 2 คัน โดยโครงการสร้างแบบ Slab on Ground มีแยกรอยต่อกับตัวบ้าน ทำให้เวลาพื้นทรุดตัวจะไม่เกิดรอยแตกร้าวหรือดึงตัวบ้านทรุดตามไปด้วย บริเวณด้านหลังพื้นที่จอดรถจะมีประตูทางเข้ารองติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ โดยใช้เป็น Password ทำให้ไม่ต้องพกกุญแจให้วุ่นวาย รวมถึงยังสะดวกเวลากลับบ้านมาตอนกลางคืนก็กดรหัสเข้าบ้านได้เลย และเวลาซื้อของเข้าบ้านก็ยกของจากท้ายรถยนต์เข้าบ้านได้จากทางนี้เลยค่ะ

พื้นที่เฉลียงหน้าบ้านเชื่อมต่อกับพื้นที่จอดรถ พร้อมระแนงบังสายตาที่นอกจากให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแล้ว ยังทำให้หน้าบ้านดูมีมิติและสวยงามดีค่ะ

Image 1/2
ทางเข้าบ้าน

ทางเข้าบ้าน

ประตูหลักของแบบบ้านนี้จะทำมาจากไม้สักแท้ มีความแข็งแรงทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่ต้องกังวลเรื่องปลวกและแมลง รวมถึงออกแบบโถงทางเข้าหน้าบ้านมีหลังคาที่ช่วยกันฝนและแสงแดด ไม่โดนประตูหรือเข้าบ้านตรงๆด้วยค่ะ

เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะเป็น Common Area ที่ออกแบบเป็น Open Plan พื้นที่เชื่อมต่อกันขนาดใหญ่เป็นรูปตัว L ทั้งพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหารและ Pantry ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งสบายตั้งแต่เข้าบ้านมาเลย อีกทั้งยังจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ยืดหยุ่นด้วย โดยบริเวณนี้จะมีหน้าต่างและประตูกระจกต่อเนื่องตั้งแต่หน้าบ้านไปถึงหลังบ้าน ทำให้เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวสวนได้กว้าง

พื้นที่นั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งได้ พร้อมโต๊ะกลาง ก็มีพื้นที่เดินผ่านเข้า-ออกบ้านได้ง่าย อีกทั้งยังมีพื้นที่ว่างด้านข้างวางโซฟาอีกสักตัวหรือทำเป็นมุมนั่งเล่นก็ได้ ส่วนการทำ Built-in ชั้นวางทีวีเหมือนบ้านตัวอย่างก็ดีเหมือนกัน ไว้ตั้งของโชว์ ของตกแต่งสร้างความประทับใจแรกเวลาเข้ามาภายในบ้านได้ดี รวมถึงยังช่วยจับเก็บของได้เป็นระเบียบด้วย

ต่อจากพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่วางโต๊ะ 6 ที่นั่งได้สบายๆ มีพื้นที่เดินรอบโต๊ะกว้าง หากใครที่มีเพื่อนหรือแขกมาเยี่ยมและรับประทานอาหารร่วมกันบ่อยๆ ก็สามารถใช้เป็นโต๊ะ 8 ที่นั่งได้เหมือนกัน โดยด้านข้างของพื้นที่นี้จะมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไปสวนข้างบ้านค่ะ

อย่างที่เราได้บอกไปก่อนหน้านี้นะคะว่าทางโครงการวางตำแหน่งตัวบ้านชิดขอบที่ดินอีกฝั่ง ทำให้มีพื้นที่สวนด้านข้างบริเวณนี้เหลือกว้างเลย อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับ Common Area จึงสามารถต่อเติมเป็นห้องทำงานหรือห้องนั่งเล่นแบบ Glass House ชมสวน หรือจะติดตั้งเป็นหลังคากันสาดและทำเป็นมุมนั่งเล่นแบบ Semi Outdoor นั่งใช้งานได้ตลอดวันเลย

ตามแบบบ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นที่โล่งๆ แต่ด้วยตำแหน่งที่อยู่ระหว่างพื้นที่รับประทานอาหารและอยู่ด้านหน้าห้องครัวแบบปิด จึงเหมาะทำเป็นมุม Pantry เหมือนที่ทางบ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นไอเดียได้เลย โดยทำเป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L ไว้สำหรับวางอุปกรณ์หรือทำอาหารง่ายๆได้ มีพื้นที่ยืนและเดินเข้าห้องครัวได้สะดวก

โครงการออกแบบเป็นห้องครัวแบบปิด ใช้เป็นครัวไทย ทำอาหารได้จริงจังเลย ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นและควันอาหารจะลอยเข้าไปติดเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน โดยแบบบ้านมาตรฐานจะก่อเคาน์เตอร์ครัว พร้อมติดตั้งอ่างล้างมือมาให้แล้วนะคะ เราเพียงตกแต่งและซื้ออุปกรณ์เพิ่มอีกหน่อยก็สามารถใช้งานได้เลยค่ะ ซึ่งห้องครัวนี้จะมีประตูเปิดออกไปยังลานซักล้างด้านนอก ทำให้ใช้เปิดระบายกลิ่นและอากาศได้เลยค่ะ

พื้นที่ซักล้างหลังบ้านสำหรับตั้งเครื่องซักผ้าและตากผ้า แต่ว่าไม่ได้มีการลงเสาเข็มไว้ให้นะคะ หากมีการต่อเติมก็ต้องระวังเรื่องการทรุดตัวของดินด้วยค่ะ เนื่องจากบ้านตัวอย่างมีขนาดที่ดินใหญ่ถึง 116.7 ตร.วา ทำให้ได้พื้นที่สวนด้านหลังบ้านขนาดใหญ่เหมือนที่เห็นในภาพเลยค่ะ สามารถปลูกพืชผักสวนครัวภายในบ้านได้ เวลาจะทำอาหารก็ออกมาเก็บผักนำไปปรุงอาหารได้สะดวก รวมถึงน่าจะถูกใจครอบครัวที่มีสัตว์เลี้ยงเลยนะคะ เพราะว่ามีพื้นที่ให้น้องๆมาวิ่งเล่นได้กว้างและมีพื้นที่ต่อเติมขยับขยายการใช้งานในอนาคตได้

ถ้าเป็นเราจะลงเสาเข็มตรงพื้นที่นี้แล้วต่อเติมเป็นห้องซักรีดแบบ Glass House ทำให้ไม่ต้องตั้งเครื่องซักผ้าตากแดดและมีพื้นที่จัดเก็บเสื้อผ้า ตากผ้าได้เป็นสัดส่วนดี จะทำเป็นบ้านเล็กๆอีกหลังไว้สำหรับรองรับผู้สูงอายุหรือทำเป็นห้องนั่งเล่น ห้องออกกำลังกายที่แยกจากตัวบ้านเลยก็ได้เหมือนกัน อันนี้เป็นไอเดียที่เราแนะนำเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นนะคะ แต่ทุกคนสามารถดีไซน์การใช้งานได้ตามความต้องการเลยค่ะ

ต่อมาเราจะพาไปดูอีกฝั่งของบ้านกันค่ะ เป็นส่วนของห้องน้ำ, ห้องนอนชั้นล่างและบันไดขึ้นไปชั้น 2 โดยเราจะเริ่มที่ห้องนอนชั้นล่างที่อยู่ด้านในสุดกันก่อนนะคะ

Image 1/2
ห้องนอนชั้นล่าง

ห้องนอนชั้นล่าง

ห้องนอนชั้นล่างนี้จะอยู่สุดทางเดิน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวขึ้น โดยใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ โดยวางเตียง 5-6 ฟุต มีพื้นที่ด้านข้างตั้งตู้เสื้อผ้า และตั้งชั้นวางทีวีบริเวณปลายเตียงได้ ถึงแม้จะไม่ได้มีห้องน้ำในตัว แต่ตำแหน่งห้องน้ำก็อยู่ติดกับห้องนอน ทำให้ใช้งานได้สะดวกค่ะ

สำหรับครอบครัวที่ไม่ได้มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย เราว่าห้องนี้เหมาะเป็นห้องอเนกประสงค์เลยค่ะ ใช้เป็นห้องดูหนังของครอบครัว ห้องทำงาน ห้องออกกำลังกายหรือห้องสัตว์เลี้ยงก็ได้ด้วย

Image 1/2
ห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องน้ำชั้นล่าง อยู่ติดกับห้องครัวและห้องนอนชั้นล่าง ออกแบบแบ่งส่วนแห้ง-เปียกและมีพื้นที่อาบน้ำ ทำให้รองรับการใช้งานได้พร้อมกันได้ พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์จาก KOHLER มาครบถ้วนตามบ้านตัวอย่าง

บริเวณด้านข้างบันไดขึ้นชั้น 2 จะมีห้องเก็บของใต้บันได ไว้เก็บของชิ้นใหญ่ได้ ทำให้บ้านดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดี ส่วนโครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีต ปิดผิวลูกนอนด้วยไม้ยางพารา และติดตั้ง Step Lighting ที่เปิด-ปิดไฟอัตโนมัติเวลาเดินขึ้น-ลงในตอนกลางคืน

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับ Family Area ที่อยู่ตรงกลางบ้าน คั่นแบ่งห้องนอนออกเป็น 2 ฝั่ง โดยมี Master Bedroom แยกอยู่ห้องเดียวและได้ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะไม่ต้องแชร์ผนังร่วมกับห้องนอนอื่นเลยนั่นเอง

Family Area จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นของครอบครัว วางโซฟา 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางและชั้นวางทีวีเหมือนทางบ้านตัวอย่างตกแต่งได้ หรือใครที่อยากได้พื้นที่ทำงานก็ใช้พื้นที่นี้และตกแต่งได้ตามใจชอบเลยค่ะ

อย่างที่เราได้บอกไปนะคะว่าห้องนอนชั้นบนจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง โดยเราจะพาไปดู Master Bedroom ที่แยกอยู่ห้องเดียวกันก่อนนะคะ

Image 1/5
Master Bedroom

Master Bedroom

Master Bedroom มีขนาดห้องเกือบครึ่งหนึ่งของชั้น 2 เลยค่ะ โดยเป็นห้องแนวยาวตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้าน ทำให้ได้ช่องแสงตลอดแนวของห้องเลยนั่นเอง ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตและโต๊ะข้างเตียง 2 ฝั่งได้สบาย บริเวณปลายเตียงก็ทำ Built-in ชั้นวางทีวีได้ บริเวณด้านข้างเตียงนอนจะมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงส่วนตัว มีพื้นที่ตั้งโต๊ะ-เก้าอี้เป็นมุมนั่งเล่นกลางแจ้ง

ส่วนฝั่งด้านหลังของห้องจะเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ที่ทำ Built-in ได้ตามบ้านตัวอย่าง เป็นโต๊ะแต่งหน้าและตู้เสื้อผ้าตัว I รวมถึงมีพื้นที่ยืนแต่งตัวกว้าง ซึ่ง Walk-in Closet อยู่ติดกับ Master Bathroom จึงสามารถใช้งานได้ง่าย

Master Bathroom ออกแบบและตกแต่งเหมือนห้องน้ำอื่นเลย ทั้งแบ่งส่วนแห้ง-เปียก พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์จาก KOHLER แต่ที่พิเศษกว่าคือมีอ่างอาบน้ำแบบฝังมาให้ด้วยนั่นเอง จึงสามารถนอนแช่น้ำผ่อนคลายได้

หลังจากเราพาไปดู Master Bedroom กันมาแล้ว เราจะพาไปดูห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องที่อยู่อีกฝั่งของบ้านกันค่ะ

Image 1/4
ห้องนอนรอง 1

ห้องนอนรอง 1

ห้องนอนรอง 1 เป็นห้องที่อยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน ภายในห้องมีพื้นที่วางเตียง 5-6 ฟุต และโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้ บริเวณปลายเตียงตั้งชั้นวางทีวีแล้วยังมีพื้นที่เดินผ่านได้สบาย ส่วนพื้นที่ตั้งตู้เสื้อผ้าอยู่ด้านหน้าห้องน้ำพอดี ทำให้สามารถอาบน้ำและแต่งตัวได้สะดวกดี สำหรับห้องน้ำในตัวก็ออกแบบตกแต่งและเลือกใช้สุขภัณฑ์เหมือนห้องน้ำอื่น

Image 1/4
ห้องนอนรอง 2

ห้องนอนรอง 2

ห้องนอนรอง 2 จะอยู่ฝั่งด้านหลังบ้านและได้หน้าต่าง 2 ฝั่ง จึงเปิดระบายอากาศภายในห้องได้ดี ห้องนี้มีขนาดเล็กกว่าห้องนอนรอง 1 จึงเหมาะวางเตียง 3.5 ฟุต ทำให้มีพื้นที่เหลือภายในห้อง จัดเป็นโต๊ะอ่านหนังสือ มุมนั่งเล่นและมีพื้นที่ตั้งตู้เสื้อผ้าด้วย ส่วนห้องน้ำภายในห้องนอนนี้ก็ออกแบบและติดตั้งสุขภัณฑ์เหมือนห้องน้ำห้องอื่นๆค่ะ


Bravo Bต่อมาเราจะพามาดูแบบบ้าน Bravo B ที่เป็นแบบบ้านของเฟส 2 กัน โดยเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้ากว้าง 8.20 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 182 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีบ้านตัวอย่างให้ชมกัน ดังนั้นเราได้เก็บภาพบรรยากาศของแบบบ้าน Bravo ที่มีการออกแบบและจัดวางฟังก์ชันคล้ายกับแบบบ้าน Bravo B มาให้ชมกันค่ะ

ชั้น 1

  • ที่จอดรถ 2 คันในร่ม ด้านหลังมีประตูทางเข้ารอง
  • โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีซุ้มชายคากันแดดและฝน เป็นพื้นที่วางร่มและถอดเก็บรองเท้าได้สะดวก
  • พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น ทำงานและรับประทานอาหาร
  • พื้นที่รับประทานอาหาร สามารถกั้นเป็นห้องนอนชั้นล่างหรือห้องอเนกประสงค์ได้
  • ห้องครัวแบบปิดขนาดใหญ่ มีประตูกั้นทำเป็นครัวไทยได้ พร้อมก่อเคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย
  • ห้องน้ำชั้น 1 มีส่วนพื้นที่อาบน้ำ รองรับการใช้งานพร้อมกัน
  • พื้นที่ลานซักล้าง สำหรับตั้งเครื่องซักผ้าและตากผ้า
  • ห้องเก็บของใต้บันไดขนาดใหญ่

ชั้น 2

  • ออกแบบแบ่งห้องนอนเป็น 2 ฝั่ง โดย Master Bedroom แยกอยู่ห้องเดียว ได้ความเป็นส่วนตัวสูง
  • Master Bedroom ขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่ Walk – in Closet และห้องน้ำในตัว
  • ห้องนอนรองสามารถวางเตียง 3.5-5 ฟุตได้ มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าด้านข้าง
  • ห้องน้ำส่วนกลาง ใช้งานร่วมกันของห้องนอนรองทั้ง 2 ห้อง

พื้นที่จอดรถในร่ม 2 คัน โครงสร้างแบบ Slab on Ground ไม่เกิดรอยแตกร้าวที่ตัวบ้านเวลาพื้นทรุดตัว และมีประตูทางเข้ารองติดตั้ง Digital Door Lock ทำให้ยกของจากท้ายรถยนต์และเข้าบ้านได้จากทางนี้เลย

โถงทางเข้าหน้าบ้านมีหลังคาที่ช่วยกันฝนและแสงแดด พร้อมก่อที่นั่งให้มานั่งเล่นหน้าบ้านหรือนั่งใส่รองเท้าได้ และมีพื้นที่ตั้งชั้นวางรองเท้าและที่เก็บร่มได้ด้วย ประตูหลักของแบบบ้านนี้จะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในบ้าน และเวลานั่งอยู่ด้านในบ้านก็ได้วิวสวนสีเขียวบริเวณด้านหน้าบ้านด้วยค่ะ

เมื่อเดินเข้ามาด้านในบ้านจะเป็น Common Area เชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ทำงานและพื้นที่รับประทานอาหารเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ รวมถึงออกแบบมีหน้าต่างและประตูกระจกยาวตลอดแนวผนัง จึงทำให้บรรยากาศภายในบ้านโปร่งสบาย ดูสว่าง อีกทั้งเปิดรับวิวสวนด้วย

พื้นที่นั่งเล่นวางโซฟา 3-4 ที่นั่งได้ พร้อมโต๊ะกลางและ Built-in ชั้นวางทีวีเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลย มีระยะดูทีวีสามารถติดตั้งทีวีขนาดใหญ่แบบ 60 นิ้วขึ้นไปได้ค่ะ

พื้นที่นี้ตามแบบบ้าน Bravo B จะเป็นพื้นที่ทำงาน แต่เราปรับเป็นพื้นที่รับประทานอาหารเหมือนบ้านตัวอย่างนี้ได้เลย สามารถวางโต๊ะ 4-6 ที่นั่งได้สบายๆเลย มีพื้นที่เดินรอบโต๊ะกว้าง บริเวณด้านหลังถัดจากพื้นที่นี้ในแบบบ้าน Bravo B จะไม่มีกำแพงกั้นเป็นห้องนอนชั้นล่างเหมือนบ้านตัวอย่างนี้นะคะ ตามแบบบ้านมาตรฐานของ Bravo B จะได้เป็นพื้นที่ว่าง ใช้เป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ทำให้ได้ความโปร่งโล่งของพื้นที่ดีค่ะ แต่ใครที่ชอบความเป็นสัดส่วนหรือห้องนอนชั้นล่างก็กั้นกำแพงเหมือนบ้านตัวอย่างนี้ได้เลย ส่วนบริเวณด้านข้างจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไปสวนด้านข้างบ้าน

อย่างที่เราได้บอกไปนะคะว่าโครงการนี้ออกแบบให้ตัวบ้านชิดด้านใดด้านหนึ่งของที่ดิน ทำให้ได้พื้นที่สวนด้านข้าง Common Area ขนาดใหญ่ สามารถต่อเติมห้องหรือติดตั้งหลังคากันสาดไว้ใช้เป็นที่นั่งเล่นแบบ Semi Outdoor ในสวนได้

สำหรับแบบบ้าน Bravo B จะเป็นพื้นที่ว่าง ใช้เป็นพื้นที่รับประทานอาหาร แต่เราสามารถกั้นเป็นห้องนอนชั้นล่างเหมือนบ้านตัวอย่างนี้ได้เลย ทำให้ได้พื้นที่เป็นสัดส่วนขึ้น วางเตียงใหญ่ 5-6 ฟุตได้สบายๆ หรือจะใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์อย่างห้องนั่งเล่นและห้องทำงาน อีกทั้งได้ช่องแสงมาจากทั้ง 2 ทางด้วย

เราพามาดูอีกฝั่งของบ้านกันนะคะ จะเป็นส่วนของห้องครัวแบบปิด ห้องน้ำและบันไดขึ้นชั้น 2 ซึ่งบริเวณด้านข้างบันไดมีพื้นที่ว่างสามารถ Built-in เป็นตู้เก็บของหรือตู้เก็บรองเท้าได้ค่ะ เพราะว่าอยู่ใกล้กับประตูทางเข้ารองจากที่จอดรถพอดี พอเปิดประตูมาก็สามารถเก็บรองเท้าได้ง่าย และเดินขึ้นไปชั้น 2 ได้เลย

ห้องครัวของโครงการจะเป็นครัวปิดที่ป้องกันกลิ่นอาหารลอยเข้าไปรบกวนภายในบ้านได้ รวมถึงก่อเคาน์เตอร์ครัว พร้อมติดตั้งอ่างล้างมือมาให้เรียบร้อยแล้ว จึงตกแต่งและซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มอีกหน่อยก็ใช้งานได้เลย ด้านข้างมีหน้าและต่างและประตูเปิดออกไปลานซักล้างด้านหลังบ้าน ทำให้เปิดระบายอากาศภายในห้องครัวได้ค่ะ โดยแบบบ้าน Bravo B ที่มีการปรับดีไซน์ใหม่จะได้เป็นห้องครัวที่มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมเว้นพื้นที่วางตู้เย็นมาให้เรียบร้อยค่ะ

หากใครที่ชอบพื้นที่รอบบ้านกว้าง ไว้ปลูกต้นไม้ จัดสวนหรือมีพื้นที่ให้เด็กและสัตว์เลี้ยงวิ่งเล่น ก็สามารถเลือกแปลงที่ดินขนาดใหญ่ได้ อย่างบ้านตัวอย่างนี้มีขนาดที่ดิน 80.7 ตร.วา ทำให้ได้พื้นที่สวนหลังบ้านขนาดใหญ่ตามภาพเลยค่ะ รวมถึงยังสามารถต่อเติมห้อง ตั้งศาลานั่งเล่น หรือทำเป็นบ้านหลังเล็กๆรองรับกิจกรรมต่างๆได้ด้วย แต่แนะนำว่าควรลงเสาเข็มบริเวณนี้ก่อนต่อเติมเพื่อไม่ให้เกิดพื้นทรุดตัวนะคะ

เราพากลับมาด้านในบ้านกันต่อ จะเป็นห้องน้ำชั้นล่างที่อยู่ติดกับห้องครัวเลย มีการออกแบบเหมือนห้องน้ำอื่นค่ะ ทั้งการออกแบบแยกส่วนแห้ง-เปียกชัดเจน รวมถึงมีพื้นที่อาบน้ำ รองรับการใช้งานพร้อมกันได้ พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์จาก KOHLER มาให้เรียบร้อย

โครงสร้างบันไดเป็นโครงเหล็กปูพื้นด้วยไม้ยางพาราอัดประสาน แตกต่างจากบ้านหลังใหญ่ที่จะได้เป็นโครงสร้างคอนกรีตนะคะ แต่ยังคงติดตั้ง Step Lighting ที่เปิด-ปิดไฟอัตโนมัติมาให้ จึงใช้งานสะดวกเวลาเดินขึ้น-ลงในตอนกลางคืน นอกจากนั้นมีห้องเก็บของใต้บันไดที่เปิดได้จากด้านนอกบ้านฝั่งที่จอดรถ ไว้ใช้เก็บอุปกรณ์เกี่ยวกับรถยนต์และทำสวนได้ค่ะ

Image 1/5
Master Bedroom

Master Bedroom

พอขึ้นมาชั้น 2 จะแบ่ง Master Bedroom อยู่ฝั่งด้านหน้าบ้านห้องเดียว ส่วนห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องจะอยู่ฝั่งหลังบ้านค่ะ สำหรับ Master Bedroom มีขนาดใหญ่เต็มความกว้างบ้าน จึงได้ช่องแสงยาวตลอดแนวผนัง ทำให้ภายในห้องดูโปร่งมากๆ

สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตและโต๊ะข้างเตียง 2 ฝั่งได้สบาย รวมถึงมีพื้นที่ทำ Built-in โต๊ะแต่งหน้าและตู้เสื้อผ้า อยู่ติดกับ Master Bathroom สามารถอาบน้ำและแต่งตัวได้ง่ายเลย นอกจากนั้นบริเวณด้านข้างเตียงนอนมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดไประเบียงส่วนตัวได้ด้วย เราจึงใช้พื้นที่ยืนรับลมชมวิวหรือเป็นมุมนั่งเล่นได้ค่ะ

Image 1/2
ห้องนอนรอง 1

ห้องนอนรอง 1

ห้องนอนรอง 1 มีพื้นที่วางเตียง 5-6 ฟุตได้ แต่เรามองว่าวางเป็นเตียง 3.5 ฟุตก็ดีเหมือนกัน จะได้มีพื้นที่เหลือภายในห้องกว้าง มีพื้นที่วางโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง ตั้งชั้นวางทีวีบริเวณปลายเตียงและมีพื้นที่ด้านข้างตั้งตู้เสื้อผ้าได้ด้วย ส่วนที่แตกต่างของแบบบ้าน Bravo และ Bravo B คือห้องน้ำในตัวนั่นเอง เพราะว่าแบบบ้าน Bravo B จะไม่มีห้องน้ำในตัวนะคะ จะต้องใช้งานร่วมกันกับห้องนอนรอง 2 ค่ะ

Image 1/2
ห้องนอนรอง 2

ห้องนอนรอง 2

ห้องนอนรอง 2 วางเตียง 5-6 ฟุตได้ พร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง และมีพื้นที่ตั้งตู้เสื้อผ้าบริเวณปลายเตียงเหมือนที่ทางบ้านตัวอย่างตกแต่งได้เลยค่ะ


EmmaEmma  เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้ากว้าง 12.80 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 186 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ ถือเป็นแบบบ้านที่มีหน้ากว้างบ้านมากที่สุด พร้อมการดีไซน์แบบบ้านใหม่ให้มีพื้นที่ห้องครัวแบบปิดขนาดใหญ่ค่ะ ปัจจุบันยังไม่มีบ้านตัวอย่างให้ชมกันนะคะ

ชั้น 1

  • ที่จอดรถ 2 คันในร่ม ด้านหลังมีประตูทางเข้ารอง
  • โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีซุ้มชายคากันแดดและฝน เป็นพื้นที่วางร่มและถอดเก็บรองเท้าได้สะดวก พร้อมห้องเก็บของที่เปิดได้จากด้านหน้าบ้านเลย
  • ห้องเก็บของใต้บันไดขนาดใหญ่ เก็บอุปกรณ์รถยนต์และทำสวนได้
  • พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร
  • พื้นที่รับประทานอาหาร มีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไปพื้นที่สวนขนาดใหญ่ด้านข้างบ้านได้
  • ห้องครัวแบบปิดขนาดใหญ่ มีประตูกั้นทำเป็นครัวไทยได้ พร้อมก่อเคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย
  • ห้องนอนชั้น 1 ปรับเป็นห้องนั่งเล่นหรือทำงานได้
  • ห้องน้ำชั้น 1 มีส่วนพื้นที่อาบน้ำ รองรับการใช้งานพร้อมกัน
  • พื้นที่ลานซักล้าง สำหรับตั้งเครื่องซักผ้าและตากผ้า

ชั้น 2

  • Family Area พื้นที่นั่งเล่นของครอบครัว
  • ออกแบบแบ่งห้องนอนเป็น 2 ฝั่ง โดย Master Bedroom แยกอยู่ห้องเดียว ได้ความเป็นส่วนตัวสูง
  • Master Bedroom ขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่ Walk – in Closet และห้องน้ำในตัว
  • ห้องนอนรองสามารถวางเตียง 3.5-5 ฟุตได้ มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าด้านข้าง
  • ห้องน้ำส่วนกลาง ใช้งานร่วมกันของห้องนอนรองทั้ง 2 ห้อง

Image 1/7
Common Area

Common Area

 

บทสรุป

หลังจากทาง AP พัฒนาโครงการบ้านแนวราบภายใต้ชื่อ “อภิทาวน์” มาเข้าสู่ปีที่ 5 โดยเจาะตลาดในต่างจังหวัด เน้นเป็นจังหวัดรองที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ มีความต้องการบ้านสูงและมีไลฟ์สไตล์เมืองใกล้เคียงกรุงเทพฯ ทำให้แบรนด์อภิทาวน์มีชื่อเสียง ได้รับผลตอบรับและความเชื่อถือจากคนในจังหวัดจนสามารถพัฒนาโครงการอภิทาวน์ไปในจังหวัดใหม่ๆในทุกๆปีได้อย่างราบรื่น รวมทั้งหมด 15 โครงการ ครอบคลุมทั้ง 4 ภาค ตั้งแต่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางและภาคใต้ เพื่อให้คนในจังหวัดนั้นๆหรือจังหวัดข้างเคียงได้มีบ้านคุณภาพมาตรฐานดีเหมือนบ้านในกรุงเทพฯนั่นเอง

อีกทั้งยังมีปรับแบบบ้านและฟังก์ชันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้เหมาะกับคนต่างจังหวัดมากขึ้น อย่างห้องครัวที่มีขนาดใหญ่ นอกจากนั้นยังเสริมด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่สวยงามและหลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆอย่าง Co-Working Space และโดดเด่นด้วย Fitness ที่เปิด 24 ชั่วโมงภายในโครงการ สามารถมาใช้งานได้ตลอดวัน พร้อมระบบความปลอดภัยอย่าง KATSAN ที่ช่วยอำนวยความสะดวกภายในโครงการนั่นเอง

Apitown Chiangrai (อภิทาวน์ เชียงราย) เหมาะสำหรับครอบครัวกลาง-ใหญ่ที่มองหาบ้านเดี่ยวที่มีห้องชั้นล่างไว้รองรับผู้สูงอายุหรือปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่อเนกประสงค์อย่างห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงาน นอกจากนั้นยังได้พื้นที่รอบบ้านใหญ่ไว้ต่อเติมในอนาคตได้ รวมถึงชอบทำเลที่ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์แต่ก็ยังเป็นพื้นที่ที่มีความสงบ อีกทั้งได้ความเป็นส่วนตัวสูงด้วยจำนวนยูนิตน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับโครงการอื่นค่ะ


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่