รีวิว แกรนด์ บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ บ้านเดี่ยว-บ้านแฝดโซนบางนา ติดถนนกิ่งแก้ว จาก บริทาเนีย [รีวิวฉบับที่ 2348]

GRAND BRITANIA BANGNA-SUVARNABHUMI (แกรนด์ บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ) ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565

พิกัด Google Maps : 13.682620, 100.723479
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่กิ่งแก้วเลย จัดเป็นทำเลที่ดีกว่าโครงการบ้านส่วนใหญ่ในย่านนี้ที่จะต้องเข้าซอยกันไปอีกนะคะ

โครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ ตั้งอยู่บนทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงและด้วยข้อดีของโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่ จึงเป็นโครงการที่สามารเดินเท้าออกมายังร้านอาหารในปั๊ม Shell ได้ หรือถ้าใช้รถก็จะมีตัวเลือกอีกเพียบทั้งร้านอาหารตามรายทาง, ปั๊มใหญ่ที่มีร้านอาหารมากมายให้ฝากท้องกันได้ แต่เส้นกิ่งแก้วนี่จะไม่ได้มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่นะคะ ต้องขยับออกมาที่เส้นบางนา-ตราด ก็จะมีตั้งแต่ห้างเล็กไปจนถึงห้างใหญ่, คอมมูนิตี้มอลล์, ศูนย์รวมวัสดุต่างๆ และโรงพยาบาล ค่อนข้างครบครัน

สำหรับบรรยากาศในย่านกิ่งแก้วส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม, โกดังสินค้า, บริษัทขนส่งสินค้า ส่วนโครงการพักอาศัยจะเป็นแนวราบเป็นหลักทั้งบ้าน, ทาวน์โฮม, อาคารพาณิชย์, ร้านอาหารตามอาคารพาณิชย์ และจะคึกคักหน่อยบริเวณตลาดบางพลีใหญ่ (กิ่งแก้ว) ซึ่งจะอยู่ตรงแยกติดกับถนนบางนา-ตราด และจะคึกคักอีกที่ตรงแถวรพ.จุฬารัตน์ 9 ซึ่งจะติดกับซอยกิ่งแก้ว 25/1 ที่เป็นซอยลัดไปออกถนนเลียบวงแหวนกาญจนาได้ ทำให้แถวรพ.และซอย 25/1 มีพวกอพาร์ทเม้นต์ ร้านอาหารตามอาคารพาณิชย์ก็เปิดตามมาในบริเวณนั้น เป็นต้น

ทำเลโครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ นี้ตั้งอยู่บนถนนกิ่งแก้วซึ่งเป็นที่ถนนเชื่อมระหว่างลาดกระบัง, บางนา-ตราด, เทพารักษ์ ไปยังสมุทรปราการได้ และเข้าเมืองได้หลายเส้นทาง เช่น ทางถนนมอเตอร์เวย์ สามารถวิ่งตรงไปจนถึงพระราม 9 ได้ หรือใช้ทางพิเศษบูรพาวิถีฝั่งถนนบางนา-ตราดก็สามารถเข้าเมืองฝั่งพระราม 3, พระราม 4 ได้ ส่วนถ้าจะออกเมืองก็ใช้เส้นลาดกระบังวิ่งไปถึงฉะเชิงเทราได้ และสามารถใช้ถนนบางนา-ตราดออกไปชลบุรีได้ค่ะ

ส่วนการเดินทางโดยระบบรถสาธารณะ จะต้องมาพึ่งพิงบนถนนกิ่งแก้ว ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายทั้งรถสองแถว รถแท็กซี่ ผ่านอยู่ตลอด มีทั้งที่วิ่งไปทางลาดกระบังและที่วิ่งไปตลาดบางพลีใหญ่(กื่งแก้ว) หรือถ้าจะใช้ระบบรางที่ใกล้สุดคือ Airport Rail Link สถานีลาดกระบัง ห่างจากโครงการไป 7 km. ใครที่จะเดินทางเข้าเมืองก็สามารถขับรถออกจากโครงการไปจอดแล้วขึ้นรถไฟฟ้าไปได้เลยค่ะ

ตัวช่วยในการเดินทางของโครงการ Stories บางนา สุวรรณภูมิ

ทางพิเศษบูรพาวิถี : หากต้องการเข้าเมืองก็มีตัวช่วยในการเดินทางอย่างทางด่วน โดยทางด่วนฝั่งเข้าเมืองที่ใกล้กับโครงการที่สุดคือทางขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีมีระยะห่างจากโครงการ 12.4 km.

มอเตอร์เวย์ : นอกจากนี้สำหรับใครที่วิ่งเข้าเมืองก็จะมีตัวช่วยอย่างมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี สายใหม่ โดยทางเข้ามอเตอร์เวย์ฝั่งขาเข้าเมืองมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 6.2 km. เป็นอีกทางเลือกไว้เลี่ยงรถติดบนเส้นอ่อนนุช สามารถวิ่งเข้าเมืองไปพระราม 9 ได้สะดวก

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ซูมเข้ามาให้เห็นตำแหน่งของโครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ กันชัดขึ้น โครงการจะอยู่ติดถนนกิ่งแก้วเลยนะคะ และด้วยความที่ตัวโครงการอยู่บนถนนกิ่งแก้ว จึงหนีไม่พ้นที่จะมีบางส่วนของโครงการที่ติดกับโกดังสินค้าและบริษัทโลจิสติกส์ โดยเราสรุปพื้นที่รอบโครงการได้ ดังนี้

• ด้านทิศเหนือ ติดกับบริษัท โชคเจริญ โลจิสติกส์ เป็นโกดังสินค้าและมีรถบรรทุกสำหรับงานขนส่งค่ะ
• ด้านทิศใต้ ติดกับบริษัท ซันไชน์ เอ็กซ์เพรส เซอร์วิส จำกัด เป็นโกดังสินค้าและมีรถบรรทุกสำหรับงานขนส่งเช่นกัน และโซนด้านหลังจะติดกับบ้านพักอาศัยค่ะ
• ด้านทิศตะวันออก ติดกับที่ดินเปล่า และปั๊ม Shell จะติดกับบริเวณ Clubhouse ไม่ติดกับโซนบ้านพักนะคะ
• ด้านทิศตะวันตก ติดกับคลองบัวลอยใหญ่

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ (รวมระยะกลับรถ) เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• The Paseo Mall ~ 6.2 km.
• Att U Park ~ 10.4 km.
• Market Village ~ 11.5 km.
• Mega Bangna ~ 15.5 km.
• Central Village ~ 16.5 km.
• Siam Premium Outlets ~ 19.9 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต ~ 6.7 km.
• โรงพยาบาลสิรินธร ~ 9.4 km.
• โรงพยาบาลลาดกระบัง ~ 9.7 km.
• โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 1 สุวรรณภูมิ ~ 11.8 km.

โรงเรียน

• สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง ~ 9.6 km.
• Charter International School ~ 10.7 km.
• โรงเรียนสาธิตนานาชาติพระจอมเกล้า ~ 11.2 km.
• Versa International School ~ 13.1 km.
• Thai-Chinese International School ~ 13.8 km.
• มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ~ 15.6 km.
• โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ ~ 16.3 km.

อื่นๆ

• ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง ปตท. ~ 12.2 km.
• Sky Lane Suvanabhumi Bicycle ~ 10.1 km.
• สวนหลวง ร.9 ~ 19.1 km.

ตัวช่วยในการเดินทาง

• มอเตอร์เวย์ สาย 7 กรุงเทพ-ชลบุรี ~ 6 km.
• สถานีรถไฟฟ้า Airport Rail Link ~ 6.3 km.
• ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ~ 6.7 km.
• ทางพิเศษบูรพาวิถี ~ 10 km.
• ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ~ 10 km.

มาดูที่ Master Plan ของโครงการกันค่ะ แกรนด์ บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ เป็นโครงการบ้านแนวราบที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว โดยมีจำนวนบ้านภายในโครงการเพียง 107 หลัง ซึ่งถือว่ามีจำนวนบ้านไม่เยอะเมื่อเทียบกับโครงการหมู่บ้านในละแวกนี้นะคะ ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 18 ไร่ครึ่ง ถึงแม้ว่าทางเข้า-ออกของโครงการจะอยู่ติดถนนใหญ่ แต่ตำแหน่งบ้านจะถัดลึกเข้ามาทางด้านในประมาณ 170 เมตร ทำให้ตัวบ้านตั้งอยู่ห่างจากถนนใหญ่ที่อาจจะมีเสียงดังจอแจ และมีฝุ่นควันรบกวนอยู่พอสมควร ตัวบ้านก็จะได้ความสงบมากขึ้นด้วยนะคะ

โครงการจัดวางตำแหน่งของ Clubhouse และสวนไว้ด้านหน้าโครงการใกล้กับ Main Gate รวมพื้นที่แล้วจะได้ส่วนกลางประมาณ 1 ไร่ ก็ถือว่าแชร์กันใช้งานกับลูกบ้าน 107 หลังได้แบบสบายๆ สำหรับอาคาร Clubhouse ของโครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ ณ วันที่เราไปยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อยดี เราจึงขออธิบายโดยใช้ภาพ Perspective ประกอบแทนนะคะ

โครงการวางทิศของบ้านทุกหลังไปทางทิศเหนือ, ใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมสำหรับคนหาบ้านเลยนะคะ เพราะบ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ไม่ค่อยแรงมาก ธรรมชาติหน่อย ส่วนบ้านที่หันไปทางใต้จะได้แสงและลมที่แรงกว่า จะเลือกแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้อยู่อาศัยเลยค่ะ

มาดูบรรยากาศภายในโครงการกันนะคะ เริ่มตั้งแต่หน้าโครงการที่อยู่ติดกับถนนกิ่งแก้วจะมีป้ายโครงการขนาดใหญ่ ตกแต่งสไตล์อังกฤษ พร้อม Landscape 2 ข้างตรงยาวเข้าไปเป็นระยะประมาณ 170 เมตร ก็จะถึงซุ้มประตูโครงการค่ะ

ซุ้มประตูโครงการดูใหญ่โอ่อ่า ทางเข้า-ออกแยกฝั่งกัน โดยมีป้อมยามและพี่รปภ. คอยดูแลอยู่ตรงกลาง และใช้ทั้งไม้กั้นกระดกและประตูบานเลื่อนอัตโนมัติเป็นมาตรฐาน จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้านได้ดียิ่งขึ้น

โดยทางเข้าด้านหน้าจะติดตั้งระบบ Easy Pass สำหรับลูกบ้านสามารถเข้า-ออกได้สะดวก ส่วนทางขวามือสำหรับผู้มาติดต่อแลกบัตรเข้า-ออก มีป้อมยาม รปภ. ประจำอยู่ตลอด และมีกล้อง CCTV คอยบันทึกการเข้า-ออกไว้

สำหรับใครที่เดินเท้าเข้าออกก็จะมีประตูแยกไว้ให้ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยค่ะ

เข้ามาด้านในโครงการจะเจอสวนตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง แล้วจึงแยกถนนหลักออกเป็นซ้ายขวา แต่ตอนนี้ถนนหลักทางฝั่งขวายังล้อมรั้วก่อสร้างอยู่นะคะ ส่วนที่จะพาไปชมในวันนี้คือบ้านตัวอย่างที่อยู่ทางถนนฝั่งซ้าย …แต่ก่อนอื่นเราจะพาไปชมส่วนกลางกันก่อน เริ่มจาก Clubhouse ที่อยู่ทางซ้ายมือติดกับซุ้มประตูค่ะ

Clubhouse ออกแบบเป็นอาคาร 2 ชั้น สไตล์ Luxury English Gable คือจะผสมเอาองค์ประกอบสถาปัตยกรรมแบบอังกฤษมารวมกับดีไซน์หลังคาจั่วที่นำมาเป็นจุดขายของโครงการนี้ค่ะ

โดยจะจัดฟังก์ชันต่างๆ ไว้ …ในส่วนของ Outdoor ก็จะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 5×15 เมตร แยกสระเด็กไว้เป็นสัดส่วน มีขนาด 2×4.8 เมตร ส่วนภายในอาคารจะประกอบไปด้วย Yoga Studio, Wellness Service Room, Fitness, Co-Working Space และ Meeting Room

บรรยากาศจำลองบริเวณ Co-Working Space เผื่อใครอยากเปลี่ยนสถานที่นั่งทำงานก็ Move จากบ้านมาที่ Clubhouse ได้

ภาพจำลองอีกหนึ่งมุมทำงานกับ Meeting Room หากใครมีนัดคุยงานแต่ไม่อยากพาแขกเข้าบ้าน ก็สามารถใช้พื้นที่บริเวณนี้ได้ค่ะ

ในส่วนของ Fitness จะอยู่ที่ชั้น 2 โดยจะออกแบบให้มี Partition กั้นระหว่างเครื่องเล่นเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวด้วยนะคะ

นอกจากนี้ก็จะมี Yoga Studio แยกเอาไว้ให้เป็นสัดส่วน

บรรยากาศจำลองภายในห้อง Salon ซึ่งส่วนใหญ่เราจะเห็นฟังก์ชันนี้ในคอนโดหรือโครงการบ้านหรูๆ ดังนั้นส่วนกลางของที่นี่ถือว่าให้มาดีทีเดียวนะคะ

อีกหนึ่งฟังก์ชันที่ให้มาดีเกินราคาก็คือ Spa ตอบโจทย์กับยุคนี้ที่เรามักจะเห็นบริการนวดคลายเส้น ที่เดินทางมานวดให้ถึงบ้าน ซึ่งเราสามารถใช้ห้องนี้แทนก็ได้ค่ะ

ในส่วนของ Main park จะเป็นพื้นที่สวนสาธารณะตรงกลาง มีขนาดประมาณครึ่งไร่ ใช้คอนเซปต์ของ Hyde Park สวนสาธารณะชื่อดังของอังกฤษ เน้นเรื่องความร่มรื่น ประกอบไปด้วยสนามเด็กเล่น, Garden Zone และ Pavilion สำหรับนั่งพักผ่อน โดยออกแบบให้ตอบรับกับกิจกรรมของทุกช่วงอายุ

สวนส่วนกลาง

สวนส่วนกลางจะมีความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่, ไม้พุ่ม และสนามหญ้า ซึ่งโครงการเตรียมทางเดินขนาดใหญ่เอาไว้ ให้เดินเล่นไปรอบๆ สวนได้

มุมนั่งเล่นในสวน

ภายในสวนจะมีม้านั่งตามมุมต่างๆ ทั้งแบบ Outdoor เลย และแบบที่มีร่มเงาบ้าง อย่างไรก็ตามสวนนี้ก็เหมาะกับการมาใช้งานในช่วงเช้าหรือเย็นที่แดดร่มแล้วนะคะ

โซนออกกำลังกายในสวน

ถัดมาที่กิจกรรมแบบ Active ก็จะมีที่เหมาะกับหลายช่วงวัย ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุเลยนะคะ

สำหรับค่าส่วนกลางของที่นี่จะอยู่ที่ 55 บาท/ตารางวา/เดือน คำนวณคร่าวๆ สำหรับบ้านแฝดจะอยู่ที่ราวๆ 1,900 – 2,200 บาท/เดือน ส่วนบ้านเดี่ยวจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2,900 บาท/เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดที่ดินด้วยนะคะ ซึ่งค่าใช้จ่ายตรงนี้ก็จะเป็นค่าดูแลความปลอดภัย ความสะอาดเรียบร้อยของโครงการโดยรอบบ้าน และค่าใช้งาน Facility ที่ให้มาค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

อาคาร Clubhouse 2 ชั้น บนเนื้อที่ 0-1-78.5 ไร่ บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย

• สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 5×15 เมตร
• สระเด็ก ระบบเกลือ ขนาด 2×4.8 เมตร
• Yoga Studio
• Wellness Service Room
• Fitness ขนาด 6.8×13.5 เมตร
• Co-Working Space
• Meeting Room

พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด ขนาดประมาณ 0-2-28 ไร่ ประกอบด้วย

• Hyde Park
• Playground
• Garden Zone
• Pavilion

• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
• รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 8 เมตร
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและประตูเลื่อนไฟฟ้า
• ผ่านประตูด้วยระบบ RFID (เหมือน Easy Pass บนทางด่วน)
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

การออกแบบตัวบ้านของโครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ มีจุดเด่นตรงที่เค้าจะใช้เทคนิคแบบ Open Plan ในชั้นล่าง เปิดให้สามารถเชื่อมต่อพื้นที่ในแต่ละส่วนต่อเนื่องกัน ทำให้สามารถใช้พื้นที่ได้แบบยืดหยุ่น ปรับเข้ากับกิจกรรมของแต่ละครอบครัวได้ โดยมีจุดเด่นของแบบบ้านในโครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ ดังนี้

• พื้นที่ใช้สอยเยอะ : ดูจากพื้นที่ใช้สอยของบ้านแฝดโครงการนี้ จะมีขนาดที่ใหญ่เป็นพิเศษ เรียกได้ว่าใหญ่กว่าบ้านเดี่ยวหลายๆ โครงการในละแวกนี้เลยนะคะ แต่ที่ดินจะไม่ได้ใหญ่เท่า จึงเหมาะสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ต้องการบรรยากาศภายในที่ดูโปร่งโล่ง มีช่องแสงจากทางข้างบ้าน แต่ก็ไม่ต้องการที่ดินบ้านขนาดใหญ่เพื่อปลูกต้นไม้เยอะหรือว่าต่อเติม แต่ใดๆ ก็ตามราคาก็เทียบกับระดับบ้านเดี่ยวของโครงการในละแวกนี้อยู่เหมือนกันนะคะ
• บ้านที่ไม่เน้นการต่อเติม : โครงสร้างบ้านได้ลงเสาเข็มพื้นที่จอดรถและลานซักล้างหลังบ้านไว้ให้ รวมไปถึงออกแบบฟังก์ชันครัวอยู่ภายในตัวบ้าน เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการต่อเติมในภายหลัง
• ได้เทคโนโลยีและระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน : ภายในบ้านจะให้ Digital Door Lock, IP camera x 2 ตัว, Magnetic&Motion sensor, Smoke/Heat Detector, Smart Siren Alarm, Air Quality ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับ Application HomeHuk ได้ในบางฟังก์ชัน และมีปลั๊กไฟแบบมีช่อง USB ด้วยนะคะ โดยมีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้

• Southwold : บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 35.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ห้องน้ำ / 1 ครัวไทย / 2 ที่จอดรถ
• Greenwich : บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 40.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ครัวไทย / 2 ที่จอดรถ
• Honour : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 53.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 235 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ครัวไทย / 2 ที่จอดรถ

โดยรวมเป็นแบบบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 165 -235 ตร.ม. มีห้องนอน 3-4 ห้องนอน และที่จอดรถ 2 คัน ถ้าดูจากพื้นที่ใช้สอยเรามองว่าเหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง พ่อ-แม่-ลูก อยู่กัน 2 Generation เป็นหลัก แต่ก็มีแบบ Greenwich และ Honour ที่มีห้องนอนชั้นล่างจึงตอบโจทย์ครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วยค่ะ

สรุปโครงสร้างและวัสดุหลัก

• โครงสร้างใช้ผนัง Precast จึงมีข้อจำกัดในการทุบเชื่อมต่อเติม ยกเว้นแบบบ้าน Southwold ที่ใช้ผนังแบบก่ออิฐฉาบปูนกั้นห้องนอน 2 และ 3 เอาไว้ เผื่อครอบครัวไหนอยากได้อยากทุบเชื่อม ให้เป็น Master Bedroom 2 ห้องก็ทำได้ค่ะ
• ลานจอดรถ ในร่มลงเสาเข็มลึกเท่าตัวบ้าน /กลางแจ้งลงเสาเข็มลึก 4 เมตร
• ลานซักล้างและเฉลียงข้างบ้านลงเสาเข็มลึก 4 เมตร
• พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้
• พื้นชั้นบนและในห้องนอนชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้
• หลอดไฟในบ้านใช้หลอด LED ช่วยประหยัดไฟ
• สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำใช้ของ American Standard
• สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic&Motion Sensor
• Digital Door Lock
• IP Camera
• Smoke/Heat Detector
• Smart Siren Alarm
• Air Quality
• USB Outlet

ต่อไปเราจะพาไปชมบ้านตัวอย่างของโครงการกันนะคะ เริ่มจากแบบ Greenwich บ้านแฝดไซส์ใหญ่ของโครงการกันค่ะ

Greenwich

Greenwich เป็นบ้านแฝดขนาด 190 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้น 40.8 ตร.วา ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ครัวไทย และ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท สไตล์การออกแบบ ตั้งแต่รูปแบบของโครงการแบรนด์ Grand Britania จะโดดเด่นด้วยหน้าตาสไตล์อังกฤษ แต่จะมีการนำเอารูปแบบของหลังคาจั่วมาเป็นจุดเด่นเพิ่มเติม (โครงการเรียกว่าเป็นสไตล์ Luxury English Gable) ส่วนตัวเรามองว่าน่าสนใจและแตกต่างกับสไตล์บ้านของโครงการอื่นรอบข้างพอสมควรค่ะ

ชั้น 1 : ตัวบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน ส่วนประตูทางเข้าบ้านจะอยู่ติดกับที่จอดรถทำให้ใช้งานได้สะดวก พอเข้ามาภายในบ้านจะสังเกตได้ว่าเราจะอยู่บริเวณกลางบ้านพอดี จากตรงนี้จะแบ่งได้สองฝั่ง ฝั่งขวาซึ่งอยู่ติดกับเพื่อนบ้านจะเป็นฟังก์ชัน Service อย่างบันได, ห้องน้ำ, ห้องครัว และมีห้องอเนกประสงค์แยกออกมาทางฝั่งหน้าบ้าน ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ Common Area นั่งเล่น กินข้าว อยู่ติดกับพื้นที่สวนด้านข้างบ้านค่ะ ซึ่งพื้นที่ Common Area นี้ก็จะเป็นโซนที่ห่างจากผนังที่ใช้ร่วมกันกับเพื่อนบ้าน ช่วยลดเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้านได้พอสมควร

ชั้น 2 : จะเป็นโซนพักผ่อนแบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน Master Bedroom หรือห้องนอนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้านกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของชั้นนี้เลยค่ะ มีห้องน้ำในตัวและจัดมุมพักผ่อนหรือทำงานภายในห้องนอนได้เลย ส่วนห้องนอนรอง 2 ห้องจะอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน ซึ่งจะมีห้องน้ำในตัวให้ด้วย

เนื่องจากแบบบ้านเป็นบ้านแฝดก็จะมีผนังฝั่งหนึ่งที่ต้องแชร์กับเพื่อนข้างบ้านนะคะ ทางโครงการจึงวางฟังก์ชัน Service อย่างบันได ห้องน้ำ ห้องครัว ระเบียง ไว้ในส่วนที่ติดกัน เพื่อช่วยลดเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้าน เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย แต่ถ้าไม่อยากแชร์ผนังกับเพื่อนบ้านก็สามารถเลือกดูเป็นบ้านเดี่ยวแบบ Honour แทนได้นะคะ

ที่จอดรถกว้าง 5 เมตรจึงสามารถจอดรถได้ 2 คัน แต่ส่วนที่มีหลังคาคลุมลึกประมาณ 2.8 เมตร หากใครต้องการจอดรถในร่มทั้งคันคงต้องต่อเติมหลังคาเพิ่มเติม ซึ่งทางโครงการลงเสาเข็มลึก 4 เมตรเพื่อรองรับการต่อเติมแล้วนะคะ

บ้านทุกแบบในโครงการนี้จะติด IP Camera ให้บริเวณที่จอดรถ และในชั้น 1 ของตัวบ้านด้วยค่ะ

ประตูทางเข้าหลักของบ้าน

ประตูทางเข้าบ้านจะอยู่ติดกับที่จอดรถเลยค่ะ เป็นประตูกระจกบานเลื่อนที่ติด Digital Door Lock ของ HomeHuk มาให้ พร้อมตัวล็อกระหว่างบานอีกชั้นหนึ่ง และบริเวณทางเข้าจะมีเฉลียงยก Step สูงจากที่จอดรถ กันฝุ่นผงจากโซนจอดรถไม่ให้เข้าไปในตัวบ้านได้ระดับหนึ่ง

เข้ามาในตัวบ้าน เรารู้สึกอย่างแรกเลยว่า Common Area นั้นเป็นพื้นที่กว้างๆ ที่รวมเอาโซนนั่งเล่น+ทานข้าว+Pantryครัว รวมไว้ด้วยกัน เป็นเทคนิคแบบ Open Plan ที่ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูกว้าง และเราสามารถจัดวางฟังก์ชันต่างๆ ได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยเลยนะคะ

ผังของบ้านซีรีส์ล่าสุดของแบรนด์ Grand Britania นี้ ค่อนข้างแปลกตากว่าบ้านจัดสรรที่เราเห็นบ่อยๆ คือ ปกติแล้วเวลาเราเดินเข้าบ้านเราจะต้องเดินผ่ากลางระหว่างโซฟากับทีวีเลย แต่บ้านนี้สามารถจัดพื้นที่ตรงนี้ให้เข้ามุมได้ ผนังทางฝั่งหน้าบ้านออกแบบให้เป็นผนังทึบวางชั้นวางทีวีได้ และเปิดช่องแสงไปทางสวนฝั่งข้างบ้านแทน ตรงนี้สามารถจัดวางโซฟาขนาด 3-5 ที่นั่งได้ มี Coffee table ตรงกลางค่ะ

บนฝ้าเพดานบริเวณ Common Area จะมีการติดระบบ Air Purifier ช่วยกรองอากาศให้บริสุทธิ์ ยับยั้งมลพิษอย่างเจ้าฝุ่น PM 2.5 , เชื้อไวรัสโควิด และช่วยดับกลิ่นด้วยค่ะ

เฉลียงข้างบ้าน

ด้านข้างชุดโซฟาจะมีประตูเปิดเชื่อมกับสวนข้างบ้าน ซึ่งมีพื้นที่ให้เราสามารถวางโต๊ะสนามไว้นั่งเล่นในสวนได้ ส่วนพื้นที่สวนรอบบ้านทางโครงการจะปูหญ้ามาให้ พร้อมต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น และปลูกต้นไทรเกาหลีไว้ให้บริเวณที่ติดกับรั้วเหล็กด้านหน้าบ้านค่ะ

โซนทานอาหาร

ต่อเนื่องจากส่วนรับแขกมาทางฝั่งหลังบ้านจะเป็นมุมสำหรับกินข้าว ซึ่งดูโปร่งโล่ง ลมผ่านได้ดีทีเดียว เพราะได้แสงธรรมชาติและวิวสวนจากหน้าต่างทางข้างบ้านและฝั่งหลังบ้าน โซนนี้สามารถจัดมุมกินข้าว 4-6 ที่นั่งได้สบาย / ผนังทางฝั่งข้างบ้านเราสามารถวางโซฟานั่งเล่น หรือเฟอร์นิเจอร์อย่างชั้นวางของเตี้ยๆ ไว้ก็ได้นะคะ

จากที่เกริ่นไปว่า Common Area ใช้เทคนิค Open Plan ในการออกแบบ รวมไปถึงฟังก์ชันของ Pantry ครัวก็จะอยู่ในโซนเดียวกันและดูเป็นสัดส่วนดีค่ะ

Pantry ครัว

ก่อนที่จะเข้าไปยังส่วนครัวจะมีพื้นที่ส่วนเตรียมอาหารอยู่ค่ะ บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่โล่งที่เดินงานระบบน้ำเอาไว้ให้ เจ้าของบ้านสามารถดีไซน์เคาน์เตอร์เองได้ตามใจชอบ อาจจะกั้นเป็นห้องปิดหรือจะเปิดโล่งเชื่อมต่อกับส่วนกินข้าวแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ค่ะ เหมาะสำหรับวางตู้เย็น เครื่องทำกาแฟ ทำอาหารง่ายๆ หรือถ้าใครชอบทำขนมก็จัดส่วนนี้ให้เป็นโซนอบขนมก็น่าจะทำให้กลิ่นขนมอบโชยหอมไปทั้งบ้านเลยนะคะ

ด้านหลัง Pantry ครัวจะมีประตูเปิดเชื่อมกับครัวไทยที่เป็นครัวปิดในบ้าน โดยที่บ้านมาตรฐานก็จะมีการกั้นห้องมาเป็นสัดส่วนแบบนี้เลยนะคะ

ห้องครัวไทย

ครัวไทยของโครงการนี้เป็นครัวปิดมาแล้วนะคะ ไม่ต้องเสียเวลาและกำลังทรัพย์ในการต่อเติมเพิ่ม ซึ่งบ้านมาตรฐานที่ขายจริงจะมีการก่อเคาน์เตอร์ปูนพร้อมปูกระเบื้องไว้เรียบร้อย แต่ไม้ได้มีบานปิดตู้มาให้นะคะ และอุปกรณ์ที่ให้มาอีกอย่างก็คือ ซิงค์ล้างจาน ตามแบบในบ้านตัวอย่าง พร้อมติดตั้ง Smoke/Heat Detector มาให้ นอกจากนั้นครัวก็จะเชื่อมต่อกับลานซักล้างที่อยู่หลังบ้านด้วยค่ะ

ลานซักล้าง

สำหรับพื้นที่หลังบ้านจะได้มาตามแบบในบ้านตัวอย่าง โดยโครงการจะลงเสาเข็มลึก 4 เมตรไว้ให้ พร้อมเทพื้นปูนซีเมนต์ฉาบเรียบ สามารถต่อเติมเพิ่มได้สะดวก

ก่อนที่จะขึ้นไปดูชั้น 2 มาดูอีกมุมทางฝั่งหน้าบ้านกันค่ะ ตรงนี้จะมีห้องนอนชั้นล่างอยู่ 1 ห้อง แต่ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับพื้นที่ส่วนกลางนะคะ

ห้องนอนชั้นล่าง

ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดประมาณ 3.4×2.8 เมตร หากจัดเป็นห้องนอนก็สามารถวางเตียงใหญ่ได้ หรือจะทำเป็นห้องทำงาน ที่ต้องการความสงบเป็นส่วนตัวก็ดีนะคะ เพราะโซนนี้จะแยกห่างจาก Common Area พอสมควร ไม่รบกวนกันนักค่ะ

ห้องน้ำชั้นล่าง

ที่ชั้น 1 จะมีห้องน้ำอยู่ 1 ห้องค่ะ ภายในจะแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกเอาไว้ รองรับสมาชิกที่นอนชั้นล่าง ก็สามารถมาอาบน้ำตรงนี้ได้ มีขนาดพื้นที่อาบน้ำ 0.9 x 1.5 เมตร ให้สุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ครบครันของ American Standard

จุดที่น่าสนใจคือ ปลั๊กไฟที่เป็นแบบ USB Outlet ตอบโจทย์การใช้งานในยุคปัจจุบัน และอีกประเด็นหนึ่งคือ ผนังที่ออกแบบให้มีช่องหน้าต่างมาให้ ตรงนี้จะอยู่ติดกับห้องครัว อาจจะเปิดระบายอากาศและความชื้นภายในห้องน้ำได้นะ

บันได

ตัวบันไดจะใช้โครงสร้างแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูปค่ะ และได้ราวจับไม้เช่นกัน ชานพักบันไดเป็นชานพักสี่เหลี่ยมให้ยืนพักได้สะดวก โทนบ้านดูบรรยากาศอบอุ่นดีนะคะ

ขึ้นมาชั้นบนจะเจอกับโถงทางเดินแยกไปห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ซึ่งมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง

ห้องนอนใหญ่

สำหรับห้องนอนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน กินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของชั้น 2 ก็ว่าได้ค่ะ เข้ามาภายในห้องจะเห็นได้ว่ามีขนาดใหญ่พอสมควร วางเตียงใหญ่ 5-6 ฟุตสบาย ปลายเตียงจัดเป็นชั้นวางทีวีได้ และด้านในสุดก็ยังสามารถจัดโซฟาพักผ่อน หรือจัดเป็นโต๊ะทำงานส่วนตัวที่มองวิวระเบียงได้ด้วย

ส่วนอีกฝั่งของห้องสามารถจัดเป็นมุมแต่งตัวได้ ตรงนี้เรามองว่าอาจจะกั้นให้เป็นห้องปิดแยกโซนออกไปได้ เผื่อใครอยากได้พื้นที่สำหรับ built-in ตู้เสื้อผ้าเพิ่มนะคะ

พื้นที่อเนกประสงค์และระเบียงในห้องนอนใหญ่

มุมสุดของห้องจัดเป็นมุมทำงาน หรือ โซฟาพักผ่อนกำลังดี ได้วิวของระเบียงขนาดใหญ่ประมาณ 1.87 x 2 เมตร ที่อยู่ติดกัน หากเราหาต้นไม้กระถางมาปลูกก็จะช่วยเพิ่มความร่มรื่นให้กับมุมพักผ่อนส่วนตัวภายในบ้านของเราได้

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่

ภายในห้องนอนใหญ่แน่นอนว่าจะต้องมีห้องน้ำส่วนตัวค่ะ โดยจะแยกพื้นที่ส่วนแห้งที่เป็นอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ไว้ตรงโซนที่ใกล้กับหน้าต่าง และโซนด้านในจัดเป็นพื้นที่อาบน้ำขนาด 0.88×1.45 เมตร แยกโซนโดยมีธรณีประตูยกขอบสูงขึ้นมาพร้อมผนังบางส่วน สำหรับสุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ จะได้สเปคเดียวกับห้องน้ำชั้นล่างนะคะ

ห้องนอนรอง 1

เป็นห้องนอนรองที่มีขนาดใหญ่พอสำหรับวางเตียง 5-6 ฟุตได้ และมีพื้นที่สำหรับติดตั้งชั้นวางทีวีและตู้เสื้อผ้าครบถ้วน แต่ถ้าใครอยู่คนเดียวแล้วอยากแบ่งพื้นที่เป็นมุมทำงานหรือมุมเก็บของแทนก็เปลี่ยนขนาดเตียงเป็น 3.5 ฟุตก็ได้นะคะ รวมถึงจะมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานได้สะดวกสบาย

ห้องนอนรอง 2

สำหรับห้องนี้ขนาดห้องก็ใกล้เคียงกับห้องแรกเลย วางเตียง 5-6 ฟุตได้เช่นกัน แต่จะเป็นห้องที่อยู่ในตำแหน่งมุม ได้หน้าต่าง 2 ฝั่ง ตัวห้องเลยจะสว่างกว่า ลมพัดผ่านดีกว่า และมีห้องน้ำในตัวด้วยเช่นกัน

Southwold

ถัดมาที่แบบเริ่มต้นของโครงการกับแบบ Southwold ซึ่งเป็นบ้านแฝดเช่นเดียวกับแบบ Greenwich หน้าตาของบ้านก็ค่อนข้างคล้ายกันด้วยนะคะ รวมถึงจุดเด่นก็ยังเป็นหลังคาจั่วเช่นเคย แต่ว่า Southwold นี้จะมีพื้นที่ใช้สอยย่อมลงมาหน่อยอยู่ที่ 165 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้น 35.9 ตร.วา  เป็นบ้าน 3 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ห้องน้ำ / 1 ครัวไทย / 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่ม 6.99 ล้านบาท

โดยความแตกต่างระหว่างบ้านแบบ Southwold และแบบ Greenwich จะเห็นว่าจุดแต่งต่างที่เห็นได้ชัดจะมีอยู่ 3 จุดค่ะ

อย่างแรกคือ Southwold ได้ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง ส่วน Greenwich ได้ห้องนอนชั้นล่าง โดยแบบ Greenwich จะเป็นห้องที่กั้นไว้มีประตูเปิด-ปิด แต่แบบ Southwold จะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์แบบที่ไม่มีประตู (สามารถติดประตูเพิ่มทีหลังได้นะคะ) แต่เราก็สามารถปรับห้องอเนกประสงค์นี้ไปเป็นห้องนอนได้เช่นกันค่ะ

อีกประเด็นหนึ่งจะอยู่บนชั้น 2 คือ ผนังห้องนอนรองทั้งสองของแบบ Southwold จะกั้นด้วยผนังก่ออิฐมวลเบา ซึ่งเราสามารถทุบผนังนี้ทิ้งได้โดยไม่กระทบกับผนังที่เป็นโครงสร้างของตัวบ้านค่ะ กรณีที่ทุบผนังนี้ทิ้งเท่ากับว่าเราจะได้ห้องนอนใหญ่ถึง 2 ห้องเลย เหมาะกับครอบครัวที่จำนวนสมาชิกไม่เยอะ ลูก 2 คนก็อาจจะนอนห้องเดียวกันได้ ได้พื้นที่กว้างขึ้นด้วยค่ะ

ประเด็นสุดท้ายคือ ห้องนอนรอง 2 ห้องของแบบ แบบ Southwold จะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน ส่วนแบบ Greenwich ห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องจะได้ห้องน้ำในตัวค่ะ

ชั้น 1

ชั้น 2

Honour

หากใครชอบบ้านบนที่ดินกว้างๆ แนะนำให้มาขยับมาดูแบบ Honour เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ไซส์ใหญ่สุดในโครงการ พื้นที่ใช้สอย 235 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้น 53.3 ตร.วา ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ครัวไทย และ 2 ที่จอดรถ

สำหรับดีไซน์ของบ้านก็ยังคุมตีมหลังคาจั่ว ในสไตล์ Luxury English Gable ซึ่งหากดูจากฝั่งหน้าบ้านอาจจะมองว่าเล็กกว่าความเป็นจริงอยู่ เนื่องจากการดีไซน์สัดส่วนของบ้านที่ได้ฝ้าเพดานสูง 2.85-3 เมตรในแต่ละชั้นทำให้ทั้งความกว้างและสูงของบ้านดูแล้วเป็น Form ของสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่จริงๆ แล้วตัวบ้านก็มีความลึกพอสมควร ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ซึ่งจะแตกต่างจากบ้านในโครงการอื่นที่ฝ้าเพดานอาจจะสูงน้อยกว่าหรือว่าตัวบ้านลึกน้อยกว่าค่ะ

ผังบ้านจะเป็นบ้านหน้ากว้างที่มีผังแตกต่างจาก 2 แบบแรกที่เราพาไปรีวิวพอสมควรค่ะ จุดเด่นของแบบบ้านที่นี่อยู่ที่การจัดสรรพื้นที่ใช้สอยให้แตกต่างจากโครงการอื่นๆ ที่เราเห็นจนคุ้นตา เช่น เราจะไม่ได้เห็นประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่ติดกับโซนรับแขก แต่ที่นี่ออกแบบใหม่ให้เป็นประตูบานสวิง และโซนแรกที่จะเข้ามาเจอก็คือ Foyer เป็นพื้นที่พักคอย และให้นั่งใส่รองเท้าแบบเป็นสัดส่วน

ถัดเข้ามาด้านในจึงเป็น Common Area วางพื้นที่ด้วยเทคนิค Open Plan เช่นกัน เชื่อมโซนรับแขก นั่งเล่น ทานอาหาร และ Pantry ครัว เชื่อมต่อกันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำให้เจ้าของบ้านสามารถ Customize Functions ได้ตามไลฟ์สไตล์เลย ส่วนครัวได้เป็นครัวปิด ที่ทำอาหารได้จริงจัง ไม่ต้องต่อเติมเพิ่ม และมีห้องนอนที่ชั้นล่าง จึงรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ ด้วยระยะที่ห่างกันเรามองว่าคนที่นอนหลับพักผ่อนอยู่ชั้นล่างก็ไม่ถูกรบกวนโดยคนที่นั่งดูทีวีอยู่เท่าไหร่นะคะ

ส่วนชั้นบนมีจะมีทั้งหมด 3 ห้องนอน ซึ่งมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 3-5 คน แบบพ่อแม่ลูก ไม่ได้เน้นจำนวนห้องเยอะแต่เน้นให้พื้นที่แต่ละห้องมีขนาดใหญ่ให้ใช้งานได้สบายๆ เสียมากกว่า หรือจะมีผู้สูงอายุมาเพิ่มก็อาศัยอยู่ร่วมกันได้

Honour เป็นแบบบ้านที่จอดรถ 2 คัน โดยที่จอดรถจะมีขนาดกว้างถึง 5.4 เมตร จึงมีพื้นที่ให้ขึ้นลงรถได้สะดวกขึ้น หากใครต้องการจอดรถในร่มทั้งคันคงต้องต่อเติมหลังคาเพิ่มเติม ซึ่งทางโครงการลงเสาเข็มลึก 4 เมตรเพื่อรองรับการต่อเติมแล้วนะคะ

ทางเข้าบ้านมีอยู่ทางเดียวจากที่จอดรถค่ะ เป็นประตูสวิงที่มีช่องหน้าต่างมาช่วยลดความทึบตัน มาพร้อม Digital Door Lock ของ Homehuk เป็นมาตรฐาน

Foyer หน้าบ้าน

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับโถงต้อนรับด้านหน้าหรือเรียกว่า Foyer เป็นลำดับแรก ซึ่งเป็นมุมที่สามารถวางม้านั่งสำหรับนั่งใส่รองเท้าได้สะดวก และมีพื้นที่อีกฝั่งให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างเช่น ตู้ใส่รองเท้าสวยๆ ตู้เก็บของที่ต้องหยิบใช้ก่อนออกจากบ้านบ่อยๆ หรือตู้โชว์ของสะสมสวยๆ ได้

เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่โล่งๆ สูง 2.85 เมตร เชื่อมต่อกันเป็น Common area หรือพื้นที่ใจกลางบ้านที่ให้สมาชิกมาใช้งานร่วมกัน โดยพื้นที่ตรงนี้จะเป็นพื้นที่โล่ง Open Plan สามารถไปจัดฟังก์ชันได้เองตามใจค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นมีตำแหน่งอยู่กลางบ้านเลยนะคะ ชุดโซฟาของบ้านตัวอย่างจึงจัดไว้เป็นแบบลอยตัว เพื่อให้ใช้งานง่ายเดินเข้าถึงได้สะดวก ผนังด้านข้างของโซนนี้จะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกเชื่อมต่อออกไปยังสวนที่อยู่ข้างบ้านได้ ส่วนภายในบ้านก็สามารถจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ มี coffee table ตรงกลาง เหมาะกับการเป็นมุมพักผ่อน ชวนทั้งครอบครัวมาดูหนังกันก่อนนอนมากค่ะ

พื้นที่ด้านหลังโซฟาสามารถจัดเป็นมุมทำงานอดิเรก หรือจะเป็นโต๊ะทานอาหาร ก็สามารถนั่งดูทีวีไป ทานอาหารไปพร้อมๆ กันได้  หรือจะเอางาน เอาการบ้านมานั่งทำบนโต๊ะนี้ ก็ยังได้เห็นสมาชิกคนอื่นๆ อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ดูอบอุ่นดีค่ะ

เฉลียงข้างบ้าน

ด้านข้างตัวบ้านออกแบบให้มีประตูกระจกขนาดใหญ่ ให้เชื่อมต่อกับพื้นที่สวนข้างบ้านได้ โดยพื้นที่นั่งเล่นจะมีทั้งช่วงที่มีหลังคาคลุมขนาด 4.7×1 เมตร และยังมีเฉลียงที่เป็นแบบ Outdoor ซึ่งทางโครงการลงเสาเข็มไว้ให้เรียบร้อย วางชุดเฟอร์นิเจอร์หนักๆ ได้ไม่มีปัญหาค่ะ

เราไปต่อยังอีกฝั่งของตัวบ้านกันบ้างค่ะ เป็นโซนสำหรับทำเป็น Pantry ครัว หรือจะวางโต๊ะทานอาหารก็ได้ ติดๆกันก็จะมีห้องครัวไทย, ห้องน้ำส่วนกลาง, บันได และห้องนอนชั้นล่าง

บ้านตัวอย่างวางโต๊ะทานอาหารไว้แทนโซน Pantry ครัว ซึ่งหากใครอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ต้องการพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารขนาด 6-8 ที่นั่ง ก็สามารถจัดเฟอร์ฯ ตามแบบในบ้านตัวอย่างได้นะคะ

โดยมุมนี้จะอยู่ติดกับหน้าต่างหลังบ้าน ซึ่งเรามองว่าบริเวณหนังอาจจะทำเป็นชั้นวางหนังสือหรือจะทำให้เป็น Snack bar ก็ดีนะ

ห้องครัวไทย

สำหรับครัวของบ้านแบบนี้ก็ยังเป็นครัวปิดภายในบ้านกันแดดกันฝนได้ และมีประตูเปิดเชื่อมไปยังลานซักล้างหลังบ้านระบายอากาศที่เกิดจากการทำอาหารได้เช่นกัน ทางเดินภายในครัวกว้างประมาณ 1.2 เมตร สามารถเดินทำอาหารได้สะดวก ภายในครัวมีหน้าต่าง 2 บานจึงสามารถเปิดระบายกลิ่นควันได้ดี ซึ่งบ้าน Standard จะจัดเคาน์เตอร์ครัวเข้ามุมเป็นรูปตัว L ตามแบบในบ้านตัวอย่าง แต่จะไม่มีหน้าบานตู้มาให้นะคะ

ลานซักล้างหลังบ้าน

บริเวณที่เชื่อมกับประตูหลังบ้านจะเป็นลานซักล้าง 2 ระดับ ระดับแรกจะปูกระเบื้องมาเรียบร้อยและมีหลังคากันแดดกันฝนได้นิดหน่อย ซึ่งใช้เป็นตำแหน่งวางเครื่องซักผ้าต่างๆ ได้ ส่วนลานซักล้างอีกระดับหนึ่งจะเทปูนและก่อขอบกั้นมาเรียบร้อย ไว้พร้อมใช้งาน ซึ่งโครงการลงเสาเข็มลึก 4 เมตรไว้ให้ด้วยเช่นกัน

ห้องนอนชั้นล่าง

ห้องนอนชั้นล่างของบ้าน Type นี้จะแตกต่างจากบ้านอื่นๆ เพราะเป็นห้องที่ได้ทั้งหน้าต่างหน้าบ้านและมีประตูกระจกให้เปิดเชื่อมกับสวนข้างบ้านได้ ทำให้ห้องนี้ได้ความเป็นส่วนตัวพอสมควร และมีขนาดใหญ่พอให้วางเตียง King Size รวมถึงเฟอร์ฯ อื่นๆ ทั้งโต๊ะเขียนหนังสือ, ชั้นวางทีวี, ตู้เสื้อผ้า ครบครัน หากใครไม่ได้ใช้เป็นห้องนอนก็อาจจะปรับเป็นห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย หรือห้องสำหรับทำงานอดิเรกอื่นๆได้นะคะ

ห้องน้ำชั้นล่าง

ถัดมาที่ห้องน้ำก็จะอยู่ใกล้ๆ กับห้องนอนนี่แหละค่ะ และเป็นห้องน้ำที่ออกแบบให้มีพื้นที่อาบน้ำ รองรับการใช้งานของห้องนอนชั้นล่างเอาไว้ด้วยค่ะ ภายในแยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งจากกัน มีหน้าต่างเล็กๆ ระบายอากาศความชื้นได้ ขนาดพื้นที่ต่างๆถือว่ามาตรฐาน ได้สุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ของ American Standard และมี Gimmick ดีๆ ของแบรนด์นี้อย่าง USB Outlet ด้วยค่ะ

บันไดของตัวบ้านให้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก และปิดผิวพื้นบันไดด้วยไม้สำเร็จรูป รวมถึงราวจับก็เป็นไม้เช่นกัน บรรยากาศรวมๆ ในตัวบ้านเลยดูอบอุ่นด้วยนะ

บริเวณโถงบันไดบนชั้น 2 มีการออกแบบช่องโล่งไว้ให้สามารถ Built-in Pantry เล็กๆ สำหรับชงเครื่องดื่ม เผื่อเวลากลางคืนจะได้ไม่ต้องลงไปถึงครัวชั้นล่าง หรือจะทำเป็นตู้โชว์ ตู้เก็บของ หิ้งพระ ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยเลยค่ะ

สำหรับห้องนอนต่างๆ บนชั้นนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน ซึ่งมีขนาดใหญ่ทุกห้องและได้ห้องน้ำในตัวค่ะ

ห้องนอนใหญ่

ห้องนอนใหญ่หรือว่า Master Bedroom วางตำแหน่งห้องไว้อยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ได้พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่กินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของชั้น 2 โดยจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายๆส่วน วางเตียงขนาดใหญ่ 6 ฟุตได้ มีพื้นที่ปลายเตียงกว้าง วางชั้นวางทีวีได้ และมีมุมสำหรับวางโซฟาพักผ่อนส่วนตัวภายในห้อง /ส่วนที่เป็นจุด Highlight ก็คือได้ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่งดีทีเดียว

Walk-in Closet ในห้องนอนใหญ่

บริเวณหน้าทางเข้าห้องน้ำจะมีพื้นที่ที่เหมาะสำหรับจัดเป็น Walk-in Closet มีขนาดประมาณ 2.4×2.6 เมตร เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนังฝั่งหนึ่ง ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นทางออกระเบียงนะคะ ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งจะมีตำแหน่งเหมาะๆ อยู่ตรงมุมติดหน้าต่าง เราก็จะได้แสงธรรมชาติที่จำเป็นสำหรับการแต่งหน้าด้วยนะคะ หรือจะวางเป็นโต๊ะทำงานแทนก็ได้

ในส่วนของระเบียงจะเหมาะกับการออกมาเดินเล่น เปลี่ยนบรรยากาศเท่านั้น จะไม่ได้กว้างอย่างระเบียงของแบบบ้านแฝดนะคะ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่

ภายในห้องน้ำก็ยังคงแยกพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียกเอาไว้ให้ ดีไซน์การตกแต่งก็ยังเป็นโทนเดียวกับห้องน้ำห้องอื่นๆภายในบ้านค่ะ

ห้องนอนรอง 1

ถึงจะเป็นห้องนอนรองแต่ก็ยังได้ฝ้าสูง 3 เมตรด้วยนะคะ ภายในห้องมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่สามารถจัดวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ + มุมสำหรับวางตู้เสื้อผ้า + โต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้ง เรียกได้ว่าอยู่สบายตั้งแต่เล็กยันโตเลยค่ะ นอกจากนี้ก็เป็นห้องที่ได้ห้องน้ำในตัว ใช้งานสะดวกดีนะ ตัวห้องมีหน้าต่างอยู่ 2 ฝั่ง บรรยากาศเลยจะดูสว่างและโปร่ง ระบายอากาศได้ดี

ห้องนอนรอง 2

สำหรับห้องนอนรองห้องต่อมาจะเป็นห้องที่อยู่ตำแหน่งติดกับบันได ขนาดจะย่อมกว่าห้องนอนรองก่อนหน้าสักหน่อยแต่จัดฟังก์ชันได้ครบเหมือนกัน และมีห้องน้ำในตัวด้วยเช่นกันค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

แกรนด์ บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ ราคา ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565

• Southwold บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 35.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ห้องน้ำ / 1 ครัวไทย / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท
• Greenwich บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 40.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ครัวไทย / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท
• Honour บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 53.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 235 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ครัวไทย / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 10.59 ล้านบาท
• จองและทำสัญญา n/a บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 130,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

โครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ ตั้งอยู่บนทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงและด้วยข้อดีของโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่ ซึ่งต่างจากโครงการส่วนใหญ่ที่มักจะต้องเข้าซอยลึกนะคะ จึงเป็นโครงการที่สามารถเดินทางได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ หรือจะเดินเท้าออกมาพึ่งพิงร้านอาหารในปั๊ม Shell ก็ได้ ส่วนความอุดมสมบูรณ์บนเส้นกิ่งแก้วเองค่อนข้างครบครัน แต่เส้นกิ่งแก้วนี่จะไม่ได้มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่นะคะ ต้องขยับออกมาที่เส้นบางนา-ตราด ก็จะมีตั้งแต่ห้างเล็กไปจนถึงห้างใหญ่, ศูนย์รวมวัสดุต่างๆ และโรงพยาบาล ค่อนข้างครบครัน พูดถึงเรื่องการเดินทางเข้าออกเมืองจะมีตัวช่วยอย่างทางพิเศษบูรพาวิถีและมอเตอร์เวย์ค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ทางเข้า-ออกโครงการจะมีอยู่จุดเดียวใช้ระบบ RFID ผ่านเข้าออกสะดวกเหมือนใช้ Easy Pass บนทางด่วน รักษาความปลอดภัยโดยใช้ไม้กั้นกระดกและประตูรั้วบานเลื่อนอัตโนมัติ และมี CCTV ติดตั้งไว้ทั้งซุ้มประตูและภายในโครงการ, มีรปภ.ประจำโครงการตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นในตัวบ้านจะมี Digital Door Lock ของ Homehuk, IP Camera ให้มา 2 จุด มีสัญญาณกันขโมย Magnetic&Motion Sensor รวมถึงสัญญาณเตือนภัยอย่าง Smart Silen และ Smoke/Heat Detector ค่ะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

เมื่อเราเห็นราคาบ้านเดี่ยว-บ้านแฝดของโครงการที่อยู่ในช่วง 6.99-11 ล้านแล้ว ทำให้เราคาดหวังงานออกแบบและรายละเอียดในส่วนต่างๆ ไว้พอสมควรนะคะ เพราะหากจะพูดกันตามตรงก็ทำราคาออกมาค่อนข้างสูงกว่าโครงการอื่นในละแวกเดียวกัน นับเป็นโครงการพรีเมี่ยมที่มีความน่าสนใจในหลายๆ ส่วน…

ประเด็นแรก จะเป็นรูปลักษณ์ของโครงการที่นำเอากลิ่นอายความเป็นอังกฤษมาใช้ไปจนถึงแบบบ้าน ทำให้หน้าตาบ้านจะแตกต่างจากโครงการรอบๆ พอสมควร ประเด็นถัดมา คือ จำนวนยูนิตที่น้อยกว่าโครงการส่วนใหญ่ในละแวก โดยจะมีเพื่อนบ้านเพียง 107 หลัง ตอบโจทย์ครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความสงบ เป็นส่วนตัว

ประเด็นที่ 3 คือ การออกแบบตัวบ้านของโครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ มีจุดเด่นตรงที่เค้าจะใช้เทคนิคแบบ Open Plan ในชั้นล่าง เปิดให้ลูกบ้านสามารถเชื่อมต่อพื้นที่ในแต่ละส่วนต่อเนื่องกันได้ ทำให้สามารถใช้พื้นที่ได้แบบยืดหยุ่น ปรับเข้ากับกิจกรรมของแต่ละครอบครัวได้

ประเด็นที่ 4 คือ ขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ให้มากว้างขวาง ดูจากพื้นที่ใช้สอยของบ้านแฝดโครงการนี้ จะมีขนาดที่ใหญ่เป็นพิเศษ เรียกได้ว่าใหญ่กว่าบ้านเดี่ยวหลายๆ โครงการในละแวกนี้เลยนะคะ แต่ที่ดินจะไม่ได้ใหญ่เท่า จึงเหมาะสำหรับคนที่อยากได้พื้นที่ใช้สอยในบ้านเยอะๆ ต้องการบรรยากาศภายในที่ดูโปร่งโล่ง มีช่องแสงจากทางข้างบ้าน แต่ก็ไม่ต้องการที่ดินบ้านขนาดใหญ่เพื่อปลูกต้นไม้เยอะหรือว่าต่อเติมแต่อย่างใด

วัสดุ :

ในเรื่องของวัสดุต้องขออ้างอิงกับเรื่องราคาบ้านของที่นี่พ่วงด้วย ราคาของโครงการนี้ต้องบอกว่าไม่ได้ถูกสุดในย่าน แต่ก็ได้วัสดุโครงสร้างและเทคโนโลยีต่างๆที่พ่วงเข้ามาหลายรายการ เช่น ตัวพื้นที่จอดรถและลานซักล้างก็มีลงเสาเข็มให้ แล้วยังมีครัวไทยภายในบ้านทุกแบบ เรียกได้ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องต่อเติมบ้านเพิ่มเติมเลย ส่วนเทคโนโลยีต่างๆ ก็จะได้ Digital Door Lock, IP camera x 2 ตัว, Magnetic&Motion sensor, Smoke/Heat Detector, Smart Siren alarm, Air Quality และปลั๊กไฟแบบมีช่อง USB ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับ Application HomeHuk ได้ในบางฟังก์ชัน

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

ถ้าดูจากผังเรามองว่าขนาดพื้นที่สีเขียวและ Clubhouse ที่รวมกันประมาณ 1 ไร่ก็ถือว่าไม่มากไม่น้อย ในสวนส่วนกลางแต่ละจุดก็ไม่ได้ลงต้นไม้ให้อย่างเดียวแต่จะมีดีเทลน่าสนใจแทรกเอาไว้ เช่น สนามเด็กเล่น , Pavilion

สาธารณูปโภค :

ในวันที่เราไปโครงการยังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง จึงอาจจะพูดถึงหัวข้อนี้ได้ไม่เต็มปากเต็มคำ ซึ่งทางโครงการให้ข้อมูลไว้ว่าจะมี สระว่ายน้ำ, สระเด็ก, Yoga Studio, Fitness, Co-Working Space, Meeting Room และที่เป็น Highlight สำหรับเราเลยคือ Wellness Service Room เป็นห้อง Spa+Salon ที่เราสามารถจ้างช่างภายนอกเข้ามาให้บริการเราที่โครงการได้ ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่มักจะเห็นตามหมู่บ้านหรูนะคะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 6.99-11 ล้านบาท, 28 กุมภาพันธ์ 2565 

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนใหญ่กิ่งแก้ว ถนนส่วนตัวของโครงการเข้าจากถนนใหญ่ 170 เมตร
• ความปลอดภัย 8.5/10 – มีให้ทั้งตัวโครงการและตัวบ้าน
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – ดีไซน์เหมือนอยู่ต่างประเทศ ฟังก์ชันดีอยู่สบาย
• วัสดุ 8/10 –ให้มาค่อนข้างดี ไม่ต้องต่อเติมเพิ่ม
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – โครงการขนาดเล็ก มีพื้นที่สีเขียว+Clubhouse ประมาณ 1 ไร่
• สาธารณูปโภค 8.25/10 – ครบครันและมี Facility บางอย่างที่ให้มาเกินระดับราคา
• 8.15 / 10.00 

แกรนด์ บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ เหมาะกับใคร

โครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ เหมาะกับคนที่กำลังมองหาบ้านในโซนบางนา หาทำเลติดถนนใหญ่เดินทางได้ทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ มีของกินในระยะเดิน แต่ก็อยากได้โครงการที่ภายในไม่วุ่นวายมาก จำนวนยูนิตไม่เยอะ ชอบบ้านสไตล์อังกฤษ หลังคาทรงจั่วดูโดดเด่น พื้นที่ใช้สอยใหญ่อยู่สบาย จัดฟังก์ชันยืดหยุ่นให้สามารถปรับได้ตามไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ อยู่กัน 3-5 คนกำลังดี มีงบประมาณ 6.99-11 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อน 49,000-77,000 บาทต่อเดือน

ทางโครงการจะมีงาน Presale ในวันที่ 5-6 มีนาคม 2565 นี้นะคะ ใครสนใจสามารถเข้าไปชมบรรยากาศจริงภายในโครงการกันได้ค่ะ

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc