รีวิวโครงการ
The Sneak EP.232 : มัณฑนา เพชรเกษม – สาย 4 | บ้านเดี่ยวส่วนกลางใหญ่ ใกล้ถนนใหญ่พุทธสาคร
9 มิถุนายน 2024
วันนี้เรามีรีวิว มัณฑนา เพชรเกษม-สาย 4 มาฝากกัน แบรนด์นี้จัดเป็นบ้านระดับกลางของ Land and Houses จับกลุ่มครอบครัวที่อยากได้บ้านเดี่ยวพร้อมจัดสวนรอบบ้าน ถ้ามีสมาชิก 3-5 คนก็อยู่กันสบายๆ ในราคาเริ่มต้น 6 ล้านบาท ส่วนตัวมองว่าโครงการมีตัวชูโรงที่น่าสนใจดังนี้
- Facility ส่วนกลาง : ถ้าใครเคยเข้ามาในหมู่บ้านนี้จะเห็นว่าโดดเด่นด้วย “บรรยากาศที่ร่มรื่นพร้อมผืนน้ำขนาดใหญ่” เพราะแม้ว่าโครงการส่วนใหญ่ในละแวกนี้จะมี Facility ครบครันเหมือนกันแต่หากยากนะคะที่จะมีผืนน้ำให้ด้วย
- การออกแบบบ้าน : ถูกออกแบบให้รองรับการอยู่อาศัยในระยะยาว มีห้องนอนชั้นล่างจึงอยู่กันได้แบบ 3 Generations
- เทคโนโลยีในตัวบ้าน : เป็นหนึ่งใน Identity ของ Land and Houses ไปแล้วสำหรับเทคโนโลยี Air Plus Square ที่ช่วยระบายอากาศและกรอง pm 2.5 ค่ะ
ข้อมูลโครงการมัณฑนา เพชรเกษม-สาย4
Mantana Phet Kasem-Sai4 (มัณฑนา เพชรเกษม-สาย4) ณ วันที่ 01 ตุลาคม 2564
ชื่อโครงการ | Mantana Phet Kasem-Sai4 (มัณฑนา เพชรเกษม-สาย4) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แอลเอช แอสเซท จำกัด (ในเครือของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)) |
SEGMENT CLASS | UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนพุทธสาคร จังหวัดสมุทรสาคร |
ที่ดิน | 57 ไร่ |
จำนวนยูนิต | จำนวน 228 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ราคาเริ่มต้น | 6 ล้านบาท |
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.55-2.8 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | n/a |
เริ่มก่อสร้าง | ตุลาคม ปี 2562 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ภายใน ปี 2566 |
เว็บไซต์โครงการ | https://www.lh.co.th/th/singlehome/mantana-petchkasem-sai-4 |
Call Center | 1198 |
การออกแบบโครงการมัณฑนา เพชรเกษม-สาย4
เกริ่นถึงแบรนด์บ้าน “มัณฑนา” กันก่อน แบรนด์นี้จัดเป็นบ้านระดับกลางของ Land and Houses จับกลุ่มครอบครัวที่อยากได้บ้านเดี่ยว มีพื้นที่สวนรอบบ้าน มีสมาชิกตั้งแต่ 3-5 คน โดยตัวบ้านจะถูกออกแบบให้รองรับการอยู่อาศัยในระยะยาว มีห้องนอนชั้นล่างจึงอยู่กันได้แบบ 3 Generations ในระดับราคา 6 ล้าน++ ถึง 10 ล้านกว่า
ซึ่งเราคิดว่าตัวชูโรงของโครงการมัณฑนาจริงๆ นั้นเป็นเรื่องของบรรยากาศในโครงการ อย่างโครงการมัณฑนา เพชรเกษม-สาย4 ที่เราพามารีวิวกันนี้ ก็มีส่วนกลางที่ดูโดดเด่นจาก “บรรยากาศที่ร่มรื่นพร้อมผืนน้ำขนาดใหญ่” เพราะแม้ว่าโครงการส่วนใหญ่ในละแวกนี้จะมี Facility ครบครันเหมือนกันแต่เรื่องบรรยากาศส่วนกลางจะไม่ได้ทั้งน้ำและสวนเขียวๆ ค่ะ โดยพื้นที่บริเวณสวนหย่อมและ Clubhouse รวมๆ กันแล้วมีขนาดประมาณ 4 ไร่เลยนะคะ วางตำแหน่งไว้กลางโครงการ จึงกลายเป็นมุมพักสายตาหลักๆ ที่เราจะได้เห็นทุกเช้าเย็นเลยค่ะ
มาดูที่ตัวโครงการ มัณฑนา เพชรเกษม-สาย4 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นจำนวน 228 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการประมาณ 57 ไร่ ที่ดินของโครงการเป็นรูปทรง Free-Form แบ่งโซนที่ดินออกเป็นช่วงด้านหน้าก่อนข้ามคลอง ซึ่งจะได้ความเป็นสงบกว่า เพราะจำนวนยูนิตไม่เยอะ และเมื่อข้ามคลองมาแล้วจะเป็นโซนด้านใน มีสวนและ Clubhouse อยู่ตรงกลางและ แปลงบ้านส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในโซนนี้ จึงมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้สะดวก
โดยตำแหน่งบ้านที่เราคิดว่าได้ Value พิเศษคือกลุ่มบ้านในโซนรอบสวน เพราะได้วิวผืนน้ำและสวนส่วนกลางนั่นเอง การวางทิศทางบ้านจะหันทางทิศเหนือใต้เป็นหลัก ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมสำหรับคนหาบ้านเลยนะคะ เพราะบ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ไม่ค่อยแรงมาก ธรรมชาติหน่อย ส่วนบ้านที่หันไปทางใต้จะได้แสงและลมที่แรงกว่า
ทางเข้าโครงการ มัณฑนา เพชรเกษม-สาย4 เป็นถนนภาระจำยอมที่ใช้ร่วมกันระหว่างหมู่บ้านทั้ง 3 โครงการของ Land and Houses ได้แก่ มัณฑนา, Villaggio และ anya ที่ทำโปรดักส์และราคาออกมาให้แตกต่างกัน ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มผู้อยู่อาศัยในละแวกนี้
โครงการจัดบริเวณซุ้มทางเข้าโครงการไว้ดูร่มรื่นมากทีเดียว โดยมีกลุ่มต้นไม้ใหญ่เป็น Background อยู่ด้านหลังเพื่อกันสายตาจากพื้นที่รอบข้าง สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับหมู่บ้าน ส่วนที่เป็นสนามหญ้าก็ทำมาเป็นทรง Free-Form ล้อไปกับซุ้มประตูโครงการ ซึ่งไม่ใช่แค่การจัดสวนส่วนกลางที่ดูสวยงามอย่างเดียวนะคะ สวนในบ้านเค้าก็จัดมาให้แบบเต็มที่เช่นเดียวกัน
ประตูเป็นไม้กระดกกั้น เข้า-ออกด้วยระบบ Easy Pass แบบทางด่วน ซึ่งแยกช่องทางเข้าไว้เป็น 2 ทาง ถ้าเป็นรถลูกบ้านก็เข้าเลนซ้าย เจ้าไม้กระดกก็จะเปิดออกให้อัตโนมัติ
ส่วนแขกของลูกบ้านก็เข้าเลนขวาไปเพื่อติดต่อแลกบัตร แบบนี้ดีนะคะ ลูกบ้านก็สามารถเข้าโครงการได้ทันที ไม่ต้องมาต่อคิวรถที่รอแลกบัตรค่ะ
ถนนหลักภายในโครงการมีขนาดได้มาตรฐาน เริ่มต้นที่ 16 m. และถัดเข้าไปจะมีขนาด 12 m. รอบข้างก็จะปลูกต้นไม้ใหญ่ ได้บรรยากาศร่มรื่นดีมาก
ขยับเข้ามาบริเวณกลางโครงการที่ สวนหย่อม+Clubhouse เราสะดุดผืนน้ำเป็นลำดับแรกเลย เพราะโครงการบ้านราคา 6 ล้าน+ ที่มีผืนน้ำอยู่สวนด้วยถือเป็น Rare Item อยู่นะคะ เราจะพาไปดูทีละส่วนกันค่ะ
เริ่มจากในสวนมีพื้นที่ขนาดใหญ่เกือบ 2 ไร่ ตอนเราไปเดินช่วงเวลาเที่ยงๆ ร้อนมากจริงค่ะ แต่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาเราว่าช่วยได้เยอะเลยนะ ซึ่งลองคิดว่าถ้าเรามาเดินช่วงเช้าๆ หรือเย็นๆ น่าจะชิลน่าดูนะคะ
ภายในสวนจัดมุมนั่งเล่นไว้เยอะทีเดียว แถมได้เป็นมุมริมน้ำด้วย เราชอบส่วนกลางที่ใช้งานได้จริงแบบนี้นะคะเพราะเป็นพื้นที่สำคัญในโครงการที่เราจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน ลูกหลานจะได้มีพื้นที่สำหรับวิ่งเล่นด้วยกันได้ค่ะ
นอกจากสวนแล้วทางโครงการก็มีสร้างฟังก์ชันการใช้งานไม่ว่าจะเป็นสนามเด็กเล่น พร้อมเครื่องเล่นกลางแจ้งไว้ให้ ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
สำหรับผู้ปกครองที่มาพาเด็กๆ มาวิ่งเล่นก็มีเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งให้ยืดเส้นยืดสายได้ แต่หากอยากออกกำลังกายแบบจริงๆจังๆ ก็มีฟิตเนสรองรับอีกส่วนหนึ่งนะคะ
ก่อนเข้าไปดู Club House กันจะบอกว่ามีพื้นที่จอดรถข้างอาคารไว้รองรับการมาใช้งานของลูกบ้าน ทางเข้า Clubhouse จะมีทางลาดไว้รองรับผู้สูงอายุที่ใช้ Wheel Chair จะได้ขึ้น-ลงง่าย เพื่อให้เป็น Universal Design ใช้งานได้เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย
ส่วนทางเข้าหลักของ Clubhouse มีซุ้มประตูขนาดใหญ่ทำให้ดูโอ่อ่า แต่ก็ยังตกแต่งด้วยไม้ระแนงให้บรรยากาศดูอบอุ่น สบายๆ มากขึ้น
ภายใน Lobby ปัจจุบันทางโครงการจัดให้เป็น Sale Gallery อยู่นะคะ ซึ่งในอนาคตก็จะเป็นพื้นที่ของลูกบ้านอยู่ดีค่ะ ภายในมีชุดที่นั่ง ชุดโซฟาเอาไว้สำหรับมานั่งเล่นหรือใช้รับรองแขกได้ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ได้วิวดีมองเห็นทั้งผืนน้ำและสระว่ายน้ำเลยค่ะ
ถัดมาที่อาคารด้านในได้ความสงบเป็นส่วนตัวขึ้น จัดฟังก์ชันไว้เป็นสระว่ายน้ำและฟิตเนสที่อยู่บนชั้น 2
สระว่ายน้ำที่นี่เป็นสระกลางแจ้งระบบเกลือ ขนาดของสระผู้ใหญ่อยู่ที่ 10 x 20 เมตร ถือว่าใหญ่พอตัว ใช้ว่ายออกกำลังกายได้ดีเลย
เราคิดว่าการวางตำแหน่งของสระว่ายน้ำไว้ด้านในสุดช่วยให้สระน่าใช้งานมากขึ้น เวลาใส่ชุดว่ายน้ำก็ไม่ต้องอายคนเยอะ และจากตัวสระก็ยังได้วิวสวนอีกด้วย
ระบบของสระว่ายน้ำเป็นระบบน้ำล้นช่วยให้น้ำในสระหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเราจะได้ยินเสียงน้ำไหล ช่วยผ่อนคลายอารมณ์เวลาเดินเข้ามาโซนนี้ด้วยค่ะ
สระว่ายน้ำเด็กลักษณะเป็นสระในร่ม ซึ่งเราว่าดีมากเลย เด็กๆ จะได้ไม่ร้อนและมาใช้งานได้ตลอดไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ช่วงเช้าหรือเย็นเท่านั้น คึกเวลาไหนก็มาเล่นได้คลอด
ถัดมาที่ฟิตเนสต้องขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2 ของอาคาร ซึ่งต้องใช้ Keycard ของลูกบ้านในการเข้าไปใช้งานนะคะ
ภายใน Fitness มีเครื่องเล่นอยู่ประมาณ 9 เครื่องนะคะ แบ่งออกเป็นลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน Weight Trainning และมุมดัมเบล นับว่ามีให้ครบค่ะ
วิวจากฟิตเนสก็สามารถมองออกไปเห็นสระและสวนได้พอดิบพอดี วิวดีมากๆ เลย
ส่วนถนนซอยจะมีความกว้างอยู่ที่ 8 m. ซึ่งซอยส่วนใหญ่จัดเป็นซอยตัน มีเพื่อนบ้านประมาณ 10 หลัง จึงได้ความเป็นส่วนตัว แต่ก็มีบางส่วนที่จะเป็นซอยแบบวน Loop ได้ เข้าออกได้สะดวกกว่า แต่ก็จะมีเพื่อนบ้านขับรถผ่านบ่อยกว่าด้วยนะคะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 10×20 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- แบ่งสระเด็กขนาด 4×5 เมตร ลึก 0.6 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย
- Lobby
แบบบ้านมัณฑนา เพชรเกษม-สาย4 น่าสนใจอย่างไร ?
แบบบ้านในโครงการมัณฑนา เพชรเกษม-สาย4 เป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมดมีให้เลือกอยู่ 4 แบบ ซึ่งบ้านส่วนใหญ่ของที่นี่จะเน้นไปที่แบบ Greater และ Amplifly ที่เป็น 2 ไซส์เริ่มต้น ส่วนอีก 2 ไซส์ใหญ่จะมีแปลงให้เลือกไม่เยอะนัก ความน่าสนใจของการออกแบบบ้าน เราสรุปออกมาได้ 5 ประเด็นค่ะ
- แบบบ้านของที่นี่สามารถอยู่กันได้ยาวๆ เพราะมีห้องนอนที่ชั้นล่างในทุกแบบบ้าน รองรับผู้สูงอายุหรือหากในอนาคตคุณพ่อคุณแม่สูงวัยขึ้นก็สามารถย้ายลงมานอนข้างล่างได้ ซึ่งทุกห้องเป็นห้องขนาดใหญ่
- พื้นที่รอบบ้านจัดสวนมาให้ครบทั้ง ไม้ยืนต้น ไม้พุ่มและสนามหญ้า
- แบบบ้าน Amplify, Continuo และ Multiply มีพื้นที่อเนกประสงค์ให้จัดเป็นพื้นที่ทำงาน เหมาะกับยุค Work From Home
- ใช้เทคโนโลยีเข้ามาในตัวบ้านอย่าง Air Plus Square และ Magnetic Censor
- ติดตั้งของจำเป็นในบ้านมาให้อย่างชุดครัว Starmark, มุ้งลวดที่ประตู หน้าต่างค่ะ
- Greater : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - Amplify : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 61 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 158 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - Continuo : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น n/a ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - Multiply : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น n/a ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 2 ที่จอดรถ
โครงสร้างและวัสดุ
- โครงสร้าง Precast แข็งแรงทนทาน แต่มีข้อจำกัดเรื่องการทุบต่อเติม
- ที่จอดรถลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน (เฉพาะในส่วนที่มีหลังคาคลุม)
- พื้นซีเมนต์หน้าบ้านโครงสร้าง On ground
- ลานซักล้างหลังบ้านลงเสาเข็มสั้นลึก 4 เมตร
- พื้นชั้นล่างกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อน
- พื้นชั้นบนไม้ลามิเนต 12 mm.
- ประตูวงกบอลูมิเนียมของ Lixil (เฉพาะแบบ Greater ได้ประตูกระจกบานเลื่อนของ Windsor)
- เคาน์เตอร์ครัว Starmark, Top เคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิตแท้
- Hood ดูดควันของ Teka
- สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำของ American Standard , COTTO, Victor, Grandhome และ Cristina
- ดวงไฟ LED
- ระบบ Air Plus Square ช่วยถ่ายเทอากาศและกรอง PM 2.5
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor
แบบบ้าน Amplify
เราจะเริ่มพาชมจากแบบบ้านยอดฮิตในโครงการ Type นี้มีราคาเริ่มต้น 7.45 ล้านบาท หน้าตาบ้านมาในสไตล์ Modern ด้วยโทนสีขาว-น้ำตาล ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนให้ดูหรูขึ้น แต่ยังคงใช้หลังคาปั้นหยานะคะ ซึ่งสำหรับเราแล้วมองว่าเหมาะกับสภาพภูมิอากาศบ้านเรามากนะ เพราะช่วยเรื่องความร้อนจากหลังคา รวมไปถึงลดน้ำขังบนหลังคาได้เมื่อเทียบกับหลังคาแบบ Lean To แต่ไม่ว่าจะเป็น Type ไหนก็ตาม Theme การออกแบบจะเป็นแบบเดียวกัน ต่างที่ขนาดที่ดิน, พื้นที่ใช้สอย และจำนวนห้องเท่านั้น
แปลนชั้น 1 จะเป็นพื้นที่พักผ่อน+ทานอาหารเป็นหลัก เปิดเป็นพื้นที่โล่งเชื่อมต่อกัน ส่วนครัวไทยได้เป็นครัวปิดพร้อมติดตั้งชุดครัวของ Starmark มาให้ครบถ้วน อย่างที่บอกว่าบ้านทุก Type จะมีห้องนอนที่ชั้นล่างทั้งหมด แต่ต้องแชร์ห้องน้ำกับพื้นที่ส่วนกลางนะคะ รองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุหรือหากครอบครัวไหนไม่ได้อยู่กับปู่ย่าตายาย ก็สามารถจัดเป็นห้องอเนกประสงค์แทนได้
ขึ้นบันไดมาจะมี Gimmick เก๋ๆ เป็นชานพักบันไดกว้างๆ ใช้วางโซฟานั่งเล่น หรือวางโต๊ะทำงานได้เลย ส่วนพื้นที่บนชั้น 2 จะแบ่งออกเป็น 2 ห้องนอนเท่านั้น จึงได้ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัวทั้งคู่ ส่วนตัวเราคิดว่าบ้านหลังนี้อยู่กัน 3-4 คนกำลังดีค่ะ
ประตูบ้านเป็นประตูเลื่อนอัตโนมัติ ดีไซน์เป็นเหล็กโปร่ง ทำให้บรรยากาศดูไม่ทึบตัน แต่ก็ไม่ต้องกลัวจะเสียความเป็นส่วนตัวไปนะคะ เพราะกำแพงบ้านส่วนอื่นที่ตรงกับประตูหน้าต่างบ้านจะเป็นกำแพงทึบค่ะ ส่วนประตูคนเดินเข้า-ออกจะแยกกับประตูที่จอดรถ เป็นประตูทึบเพื่อไม่ให้มองเข้ามาในบ้านได้ แต่ไม่มีหลังคาคลุมในส่วนนี้ให้นะคะ ไว้ต่อเติมเพิ่มได้ค่ะ
ที่จอดรถหน้าบ้านจอดรถในร่มได้ 2 คัน โดยพื้นที่ที่เราทำเส้นประสีเหลืองไว้จะเป็นพื้นที่ที่เสาเข็มยาวเท่ากับตัวบ้าน = เสาเข็มยาว หมายถึงว่าตรงส่วนนี้การทรุดตัวจะน้อยหรือแทบไม่ทรุดเลยนะคะ ดังนั้นก็น่าจะเหมาะกับการรับน้ำหนักรถมากที่สุดแล้ว
แต่หากว่าเรามีรถมากกว่า 2 คัน ก็สามารถทำที่จอดขวางด้านหน้าอีก 1 คันเพราะความลึกที่จอดรถทั้งหมดประมาณ 7.9 m. แต่โครงสร้างส่วนที่เป็น Outdoor จะเป็นแบบ On Ground ซึ่งตัด Joint แยกออกจากโครงสร้างบ้านไว้แล้ว
ด้วยความที่โครงการไม่ได้วางตำแหน่งบ้านไว้กลางแปลงที่ดิน แต่จะขยับให้ชิดด้านในทำให้แต่ละแปลงมีพื้นที่หน้าบ้านให้ทำสวน จัดพื้นที่นั่งเล่นได้ โดยที่สวนในบ้านจะได้มาทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม และสนามหญ้าเป็นมาตรฐานเลย ซึ่งเป็น Identity ของทาง LH อยู่แล้วที่มักจะมีสวนให้ และจัดสวนแบบจัดเต็มเสมอไม่ใช่แค่ปูหญ้าธรรมดา
ถัดมาที่เฉลียงทางเข้าบ้าน ..ส่วนใหญ่แล้วการเข้าบ้านของเราจะมีอยู่ 2 ทางคือ ทางเข้าหน้าบ้านและทางเข้าจากที่จอดรถ แต่ที่นี่รวมเป็นทางเข้าเดียวเลย ซึ่งถ้าพูดในเรื่องการใช้งานจริงเราว่าก็ไม่ได้ติดขัดอะไรค่ะ เราคิดว่าน่าจะเป็นการลดทางเข้าลงเพื่อให้ได้พื้นที่ใช้สอยในบ้านมากขึ้น เพราะการมีทางเข้าเพิ่มก็ต้องมีพื้นที่ที่เสียไปเป็นทางเดินด้วยเช่นกัน
ประตูหน้าบ้านตามแบบฉบับโครงการของ LH คือใช้ประตูจาก LIXIL ประตูนี้มีความน่าสนใจดีนะ อย่างแรกคือช่วยกันเสียงได้ น้ำหนักเบา ตำแหน่งมือจับและการใช้งาน เป็น Universal Design ใช้งานได้ง่าย
เข้ามาภายในบ้านหลักจะเป็นโถงยาวเชื่อมจากหน้าบ้านถึงหลังบ้าน โดยแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้เป็นพื้นที่นั่งเล่น/รับแขก และพื้นที่รับประทานอาหาร
พื้นที่บริเวณพื้นที่นั่งเล่นค่อนข้างโปร่งจะเห็นว่ามีชุดหน้าต่าง ประตู เชื่อมต่อกันจึงได้แสงธรรมชาติเข้ามาค่อนข้างเยอะ โดยพื้นที่โซนนี้สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่พร้อมเก้าอี้โซฟาและโต๊ะกลางได้ มีระยะดูทีวีที่ติดตั้งที่วีขนาดใหญ่ได้สบาย
หน้าต่างและประตูของบ้านโครงการนี้จะมีการติดตั้งมุ้งลวดมาให้พร้อมใช้งาน ไม่ต้องไปติดตั้งเพิ่มเลย
ถัดมาที่บริเวณพื้นที่รับประทานอาหาร ขนาดพื้นที่สามารถรองรับโต๊ะกินข้าว+เก้าอี้ได้ประมาณ 6 ที่นั่ง แต่หากด้านข้างทำ Pantry สำหรับชงกาแฟ ปิ้งขนมปังเล็กๆ น้อยๆ แบบในบ้านตัวอย่างก็จะวางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งได้ลงตัวกว่าค่ะ
ด้านข้างโต๊ะทานอาหารจะมีประตูบานเลื่อนกระจกสำหรับเปิดออกไปที่สวนข้างบ้าน ข้อดีคือเป็นการเพิ่มช่องแสงให้เข้าถึงตัวบ้านได้ดี และตัวเราเองก็ได้เห็นกิจกรรมของสมาชิกในบ้านจากบริเวณพื้นที่ด้านนอกด้วย ไม่รู้สึกว่าอยู่ไกลกัน ซึ่งประตูหน้าต่างของบ้านที่นี่เค้าจะติดมุ้งลวดมาให้แล้วทุกบานนะคะ จึงไม่ต้องจ้างช่างมาติดเพิ่มเลย
พื้นที่สวนข้างบ้านตัวอย่างจะสามารถทำ Pavilion สำหรับนั่งเล่นในสวนได้ เพราะมีที่ดินขนาดถึง 80 ตร.วา
กลับเข้ามาในตัวบ้านเราจะพาไปดูโซน Service ของบ้านกัน นั่นก็หมายถึงห้องครัว ห้องน้ำที่แชร์กันใช้ทั้งบ้าน และมีห้องนอนบนชั้นนี้ที่วางตำแหน่งไว้ติดกับห้องน้ำ เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกด้วย
ห้องครัวที่ได้มาเป็นครัวปิดทำอาหารได้เต็มที่ แต่จะมีช่องกระจกให้มองเห็นกันได้ ไม่อึดอัด และมีการลดระดับพื้นลงมาจากพื้นบ้านปกติเพื่อให้ไม่ต้องกังวลเวลาใช้งาน หรือเวลาทำความสะอาดว่าน้ำจะไหลย้อนเข้าตัวบ้านนะคะ
เคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็นมาตรฐานคือได้ตามบ้านตัวอย่างเลยค่ะ ของยี่ห้อ Starmark ท็อปเป็นหินแกรนิตแท้ซึ่งมีความทนทานและทนความชื้นดี พร้อมกับตู้ Built-in บานเปิดและชั้นวางของด้านบน, Hood ได้ของ Teka แต่เตาแก๊สจะไม่ได้มานะคะ ส่วนซิงค์ล้างจานจะอยู่ในตำแหน่งที่ได้แสงและลมธรรมชาติพัดผ่าน ระบายความชื้นได้ดี
ชุดครัวที่ได้ของ Starmark มีตู้บานปิดให้เก็บของได้เยอะดี
ภายในตู้ลอยด้านบนก็แบ่งเป็นช่องเก็บของย่อยๆ ไว้หลายช่อง
พื้นที่ส่วนอื่นในห้องครัวก็จะมีที่ให้วางตู้เย็น และเครื่องซักผ้าในห้องนี้ได้เลย
ห้องน้ำส่วนกลางไม่ได้เป็นแค่ Powder Room (ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ) นะคะ แต่จัดพื้นที่อาบน้ำมาให้ครบเลย เรียกว่าใครนอนห้องชั้นล่างก็ไม่จำเป็นต้องขึ้นลงบันไดไปใช้ในห้องข้างบนแล้ว เผื่อเป็นห้องสำหรับผู้สูงอายุได้ไปในตัวนะคะ
สุขภัณฑ์ของที่นี่จะให้เป็นยี่ห้อ American Standard เป็นหลัก ด้านหลังทำ Low Wall ไว้ให้สามารถวางของใช้ต่างๆ ได้
ส่วนพื้นที่อาบน้ำก็กั้นฉากกั้นกระจกไว้ให้เรียบร้อยค่ะ ด้านในบริเวณที่อาบน้ำสังเกตว่าจะมีทำที่นั่งให้เรานั่งอาบน้ำได้ด้วย
ห้องนอนชั้นล่างมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 3.9 x 3 เมตร วางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆ ออกแบบไว้สำหรับรองรับเป็นห้องนอนก็ดี หรือถ้าจะปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ก็ได้เช่นกันนะคะ
พื้นห้องนอนปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 12 mm. ให้บรรยากาศที่อบอุ่นมากกว่าพื้นที่ส่วนกลางของบ้าน
เราจะพาขึ้นไปชมชั้นบนกันต่อนะคะ แต่อย่างหนึ่งที่อยากให้สังเกตคือ ที่นี่เค้าคำนึงเรื่องการระบายอากาศ และเรื่องความร้อนภายในบ้านที่ LH ให้มาเป็นมาตรฐานในทุกหลัง หนึ่งในนั้นคือเจ้า Air Intake ที่ติดตั้งอยู่ใต้หน้าต่าง
“Air Intake” หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็นช่องระบายอากาศ ซึ่งก็เป็นอีกนวัตกรรมที่เป็นของ Land & Houses โดยเฉพาะ ตรงนี้ตอบโจทย์มากสำหรับใครที่ไม่ได้อยู่บ้านนานๆ เช่น บางโอกาสไปเที่ยวเป็นเดือน ก็สามารถเปิดช่อง Air Intake ไว้ให้ลม+อากาศได้ระบายเข้าภายในบ้าน ช่วยให้บ้านไม่อับ โดยไม่ต้องเปิดหน้าต่างไว้เลยค่ะ
บันไดที่นี่จะใช้โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กและปิดผิวด้วยพื้น SPC Smartmatt เป็นกระเบื้องยางที่พิเศษกว่าแบบทั่วไปตรงที่ผสมผงหินมาด้วย ทำให้โครงสร้างพื้นแข็งแรงขึ้น อัตราการยืดหดตัวน้อยกว่าพื้นไวนิลธรรมดา จึงใช้งานได้ทนทานกว่านั่นเอง
ชานพักบันไดของบ้าน Type นี้มีขนาดกว้างกว่าบ้านทั่วๆไปนะคะ เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่จัดฟังก์ชันได้เป็นเนื้อเป็นหนังอยู่นะคะ
อย่างในบ้านตัวอย่างจัดเป็นโซนนั่งทำงาน ก็ได้โต๊ะทำงานยาวเข้ามุมเลยค่ะ
จุดที่ดูเก๋ๆ เลยคือความสูงของโต๊ะทำงานที่อยู่ในระดับเดียวกับพื้นชั้น 2 ทำให้พื้นที่ดูลื่นไหลต่อเนื่อง ตรงนี้เก็บเป็นไอเดียในการตกแต่งบ้านได้นะคะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ส่วนแรกเราจะเห็นแผงควบคุม AirPlus Square เป็นเทคโนโลยีที่เป็นสิทธิบัตรของทาง Land & Houses เองเลย ซึ่งเจ้าระบบ AirPlus Square นี้จะช่วยระบายอากาศ ความร้อนภายในห้อง และกรอง pm 2.5 ได้ด้วยค่ะ
ห้องแรกที่เราจะพาไปชมก็คือ Master Bedroom ห้องนี้ยาวตั้งแต่หน้าบ้านไปถึงหลังบ้านกันไปเลย มีห้องน้ำในตัว ได้ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ รวมไปถึงระเบียงในตัวด้วยนะคะ
สังเกตที่หัวมุมห้องด้านบนมีช่องระบายอากาศอยู่ ซึ่งช่องนี้แหละค่ะที่เป็นช่องระบายอากาศ หนึ่งในระบบ AirPlus Square
ระเบียงหน้าบ้านของบ้าน Type นี้กว้างประมาณ 1.15 x 3.8 m. ดูจากขนาดโดยรวมแล้วสามารถออกมาใช้พื้นที่กันได้ ไม่ว่าจะใช้วางโต๊ะนั่งจิบกาแฟยามเช้าชิลๆ หรือจัดเป็นพื้นที่สวนกระถางชั้น 2 ริมระเบียงก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจ ราวกันตกเป็นกระจกใส หากปลูกต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านก็จะได้วิวต้นไม้เขียวๆ ได้แบบไม่มีอะไรบังสายตา
และด้วยความกว้างของห้องนอนนี้ทำให้ข้างเตียงสามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น วางโซฟาเผื่ออยากนั่งดูทีวีก็ทำได้ หรือจะนอนดูทีวีบนเตียงก็ได้เช่นกัน
บริเวณหน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับจัด Walk-in Closet ได้
หาก Built-in ตู้เสื้อผ้าเต็มผนัง 2 ฝั่งแบบในห้องตัวอย่าง จะมีพื้นที่ให้ยืนเลือกเสื้อผ้าสบายๆ อีกประมาณ 1.8 x 1.9 m.
ขยับเข้ามาที่ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ซึ่งขนาดพื้นที่และวัสดุอุปกรณ์ส่วนใหญ่จะได้เหมือนห้องนอนชั้นล่าง ยกเว้นสุขภัณฑ์จะถูกอัพเกรดขึ้นมาเป็นสุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก COTTO
และอ่างล้างมือได้เป็นแบบ Custom Design ที่มีตู้เก็บของกระจุกกระจิกด้านข้างด้วยค่ะ
มาที่ห้องนอน 2 กันต่อห้องนี้ไซส์ใหญ่เหมือนเป็นอีกห้อง Master Bedroom เลย ได้ห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ ขาดแค่ระเบียงเท่านั้น
ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ และมีพื้นที่รอบๆ สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าครบถ้วน
ส่วนในห้องน้ำนั้นมีการจัดฟังก์ชันที่เหมือนๆ กับห้องน้ำอื่น แบ่งโซนเปียกแห้งเรียบร้อย รวมถึงยี่ห้อสุขภัณฑ์และวัสดุต่างๆ ในห้องน้ำด้วย
แบบบ้าน Greater
ลดไซส์ลงมาชมแบบบ้าน Greater กันต่อ เป็น Type เริ่มต้นของโครงการ รองรับสมาชิก 3-4 คน ในราคาประมาณ 6 ล้านบาทค่ะ
พอมาดูแปลนบ้านจะเห็นว่าบ้านนี้จะมีแปลนคล้ายๆ กับบ้านหลังแรกเลยใช่มั้ยคะ? เพราะฟังก์ชันหลักๆ เท่ากัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ ต่างกันที่พื้นที่ใช้สอยเท่านั้น
ตัวบ้านจอดรถในร่มได้ 2 คัน ซึ่งบริเวณที่มีหลังคาคลุมจะลงเสาเข็มไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็มีลาน Out Door หน้าบ้านให้จอดรถแนวขวางได้อีกสักคันหนึ่งเหมือนกันนะ ขนาดรวมทั้งหมดประมาณ 7.4×5.1 m.
หากเป็นแปลงที่ดินขนาดใหญ่แบบบ้านตัวอย่าง การวางตำแหน่งบ้านจะชิดขอบที่ดินไปที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ทำให้เหลือพื้นที่รอบบ้านให้จัดสวนแบบเป็นเนื้อเป็นหนังฝั่งหนึ่ง อย่างในบ้านตัวอย่างก็สามารถสร้าง Pavilion ให้มานั่งเล่น ปิ้งบาร์บีคิวนอกบ้านได้ ซึ่งบริเวณสวนทั้งหมดในบ้านทางโครงการจะปลูกให้เป็นมาตรฐานเลย ไม่ว่าจะเป็น ไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม และสนามหญ้า
อีกเรื่องหนึ่งที่เป็น Gimmick ของสวนที่นี่ คือมีชื่อพรรณไม้ มี QR Code ให้แสกนดูวิธีการดูแลด้วยค่ะ
เฉลียงทางเข้าหน้าบ้านมีหลังคาคลุมให้บังแดดบังฝน วางของตกแต่ง วางตู้เก็บรองเท้าและเก้าอี้นั่งใส่รองเท้าไว้หน้าบ้านได้เป็นสัดส่วนดี
เข้ามาภายในบ้านจะเป็นโถงยาวเชื่อมจากหน้าบ้านถึงหลังบ้าน โดยแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้เป็นพื้นที่นั่งเล่น/รับแขก และพื้นที่รับประทานอาหาร
พื้นที่บริเวณพื้นที่นั่งเล่นค่อนข้างโปร่งจะเห็นว่ามีชุดหน้าต่าง ประตู เชื่อมต่อกันจึงได้แสงธรรมชาติเข้ามาค่อนข้างเยอะ วางโซฟาชุดใหญ่ได้
ถัดมาที่บริเวณโต๊ะรับประทานอาหาร เหมาะกับการวางโต๊ะกินข้าว+เก้าอี้ได้ประมาณ 4 ที่นั่ง ซึ่งมีตำแหน่งติดกับครัวไทยหลังบ้าน จึงเดินเข้าออกครัวได้สะดวก
อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะอาหารจะอยู่ติดกับประตูกระจกบานเลื่อนที่เชื่อมต่อกับสวนข้างบ้าน เวลาทานข้าวก้จะได้วิวต้นไม้ในสวน และเวลาไปนั่งเล่นในสวนก็ได้เห็นกิจกรรมของสมาชิกในบ้านจากบริเวณพื้นที่ด้านนอกด้วย ไม่รู้สึกว่าอยู่ไกลกัน ซึ่งประตูหน้าต่างของบ้านที่นี่เค้าจะติดมุ้งลวดมาให้แล้วทุกบานนะคะ จึงไม่ต้องจ้างช่างมาติดเพิ่มเลย
อีกฝั่งหนึ่งของบ้านเป็นตำแหน่งของห้องครัว ห้องน้ำที่แชร์กันใช้ทั้งบ้าน และมีห้องนอนบนชั้นนี้ที่วางตำแหน่งไว้ติดกับห้องน้ำ เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกด้วย
ครัวไทยที่ได้เป็นครัวปิด แต่ก็มีกระจกเข้ามุมให้มองเห็นภายในครัว ซึ่งช่วยให้บ้านดูโปร่งขึ้นด้วยค่ะ
ภายในครัวจะได้ Built-in เคาน์เตอร์ครัว ตู้เก็บของต่างๆ ยี่ห้อ Starmark ครบเหมือนบ้านตัวอย่าง และได้ Hood ดูดควันยี่ห้อ Teka ค่ะ
สำหรับห้องน้ำบนชั้นนี้จะถูกลดระดับลงไปหน่อยเพราะอยู่ในตำแหน่งใต้บันได
ภายในจัดฟังก์ชันมาครบใช้อาบน้ำได้ สเปควัสดุต่างๆ เหมือนบ้านแบบแรกนะคะ
แต่เสียดายที่ไม่ได้แบ่งโซนเปียกแห้งไว้ชัดเจน ทำให้น้ำกระเด็นไปทั่วเวลาอาบน้ำได้นะคะ
นอนชั้นล่างกว้างทีเดียวนะคะ ขนาดจะอยู่ที่ประมาณ 3.2 x 3.5 เมตร วางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆ แต่ต้องใช้ห้องน้ำส่วนกลางเอานะ ไม่ได้มีห้องน้ำในตัว ซึ่งประเด็นที่เราว่าน่าคิดคือ พอห้องน้ำไม่ได้แบ่งโซนเปียกแห้งไว้เป็นสัดส่วน ห้องนอนนี้ก็ดูเหมาะจะเป็นห้องอเนกประสงค์เสียมากกว่า
ในส่วนของบันไดจะได้สเปคเดียวกับบ้านแบบแรกปิดผิวพื้นด้วย SPC Smartmatt
ส่วนที่แตกต่างจากบ้านหลังแรกชัดๆ ก็คือ พื้นที่อเนกประสงค์บริเวณชานพักบันไดจะถูกตัดออกไปนะคะ แต่ก็ยังมีช่องหน้าต่างเปิดรับแสงธรรมชาติ
Master Bedroomได้พื้นที่บริเวณฝั่งหน้าบ้านทั้งหมด ทำให้มีช่องหน้าต่างหลายบาน ฟังก์ชันภายในมีห้องน้ำในตัว, มีพื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ รวมไปถึงระเบียงในตัวด้วยนะคะ
ระเบียงหน้าบ้านของบ้าน Type นี้มีความยาวเกือบเต็มหน้าบ้านเลยนะคะ ขนาดโดยรวมแล้วสามารถออกมาใช้พื้นที่กันได้ ไม่ว่าจะเป็นวางโต๊ะนั่งจิบกาแฟยามเช้าชิลๆ หรือจัดเป็นพื้นที่สวนกระถางชั้น 2 ริมระเบียงก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจ
บริเวณหน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่ให้ทำ Walk-in Closet ได้อีกแล้ว
ภายใน Walk-in Closet มีช่องหน้าต่างด้วยนะคะ ถ้าแบ่งพื้นที่ด้านในเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้แสงธรรมชาติมาใช้ในการแต่งหน้าด้วย
ติดกันเป็นห้องน้ำซึ่งสเปคสุขภัณฑ์เกือบทั้งหมดจะได้เหมือนห้องน้ำอื่นๆ ยกเว้นสุขภัณฑ์ที่จะถูกอัพเกรดขึ้นเป็นฝาอัตโนมัติของ COTTO และอ่างล้างมือขนาดใหญ่แบบ Custom Design
ปิดท้ายที่ห้องนอน 2 เป็นห้องขนาดใหญ่พอๆ กับ Master Bedroom วางเตียงใหญ่ 5-6 ฟุตได้สบายๆ แต่แปลนจะไม่ได้เหมาะทำ Walk-in Closet นะคะ
พื้นที่ด้านหน้าห้องเป็นตำแหน่งของห้องน้ำ ซึ่งมีพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เลยนะคะ
สำหรับบ้าน Type นี้จะมีห้องน้ำในห้องนอนทั้งหมดเลยนะคะ การจัดฟังก์ชันแบ่งพื้นที่โซนเปียกแห้งมาให้เป็นสัดส่วน และได้สเปคเหมือนห้องน้ำชั้นล่างของบ้านนะคะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ทำเลโครงการมัณฑนา เพชรเกษม-สาย4
พิกัด Google Maps : 13.679321, 100.316385
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ มัณฑนา เพชรเกษม-สาย4 ตั้งอยู่ในย่านกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เป็นทำเลใกล้กรุงเทพฝั่งตะวันตกก่อนจะถึงมหาชัยที่เป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมเล็กและใหญ่ค่อนข้างเยอะ แต่ทำเลนี้จะขยับเข้ามาใกล้ตัวเมืองมากขึ้นหน่อย ได้สภาพแวดล้อมที่เป็นชุมชนที่พักอาศัย ไม่ใช่บรรยากาศในย่านอุตสาหกรรมมากนักเมื่อเทียบกับย่านมหาชัย บรรยากาศแถวนี้ส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่มีความคึกคักและยังความอุดมสมบูรณ์ให้ได้พึ่งพิง ดูจากการพัฒนาที่ดินต่างๆ แล้ว คิดว่าย่านนี้ก็คงจะมีการพัฒนาที่ดินอย่างต่อเนื่องนะคะ
ถ้าพูดถึงเส้นทางการเดินทางของคนแถวนี้ ส่วนใหญ่การใช้งานจะอิงไปที่ ถนนพุทธสาคร, ถนนเพชรเกษม และถนนกาญจนาภิเษก โดย ถนนพุทธสาคร เป็นถนนสายหลักที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดใช้เชื่อมไปทางพุทธมณฑล ซึ่งจะมีมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างม. มหิดลฯ หรือใช้ออกถนนหลักอย่างพระราม 2 ได้ง่าย ถนนเพชรเกษม เป็นอีกเส้นทางที่หลายคนใช้วิ่งเข้าเมืองไปทางบางแค และวิ่งยาวต่อไปสาทรได้ หรือนอกจากจะขับรถแล้วถนนเส้นนี้ก็มีรถไฟฟ้าให้ใช้งานกันด้วย แถมยังเป็นถนนที่ใช้วิ่งเข้าย่านบางบอนซึ่งเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ของชานเมืองกรุงเทพฝั่งตะวันตก ที่มีทั้งแหล่งงาน, โรงเรียน, ศูนย์การค้าต่างๆ ส่วน วงแหวนกาญจนาภิเษก มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 14 – 15 km. เป็นทางเลือกให้ใช้วิ่งรอบเมืองไปยังโซนต่างๆ ได้ไม่ยากค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์รอบๆ โครงการมัณฑนา เพชรเกษม-สาย 4 ยังต้องพึ่งพาโซนที่อยู่อาศัยรอบๆ เป็นหลัก แต่ถ้าไม่ได้ต้องการช้อปปิ้งแบบจริงจังบนถนนพุทธสาครเองก็มีร้านอาหารในปั๊มให้พึ่งพาได้ หรือจะลัดเลาะเข้าไปในซอยสวนหลวง ซึ่งเป็นซอยเดียวกับโครงการนั่นแหละค่ะแต่ต้องวิ่งลึกเข้าไปอีกหน่อย ก็มีความเป็นชุมชน มีร้านค้าราคาย่อมเยา
แต่ความอุดมสมบูรณ์หลักๆในย่านนี้จะอยู่บนถนนบางบอน 3 และ 5 มีครบทุกอย่างทั้งร้านค้าร้านอาหาร โรงเรียน วิทยาลัย และ Hypermarket จัดว่าครบครันทีเดียว นอกจากนี้หากทะลุออกถนนเพชรเกษมก็มีห้างใหญ่ให้ไปเดินเล่นได้อีกด้วย สภาพแวดล้อมของโครงการส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยแนวราบและที่ดินเปล่า จึงไม่ได้มีประเด็นอะไรที่ส่งผลต่อการพักอาศัยค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Tesco Lotus กระทุ่มแบน ~ 7.1 km.
- Big C อ้อมใหญ่ ~ 7.6 km.
- Big C Extra เพชรเกษม 2 ~ 10.2 km.
- The Mall บางแค ~ 14.6 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล หนองแขม ~ 9.3 km.
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ~ 13.3 km.
- ศูนย์การแพทย์ กาญจนาภิเษก ~ 13.7 km.
โรงเรียน
- โรงเรียนสารสาสน์วิเทศพัชรมณฑล ~ 3.2 km.
- โรงเรียนสารสาสน์วิเทศธนบุรี ~ 12.9 km.
- โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ~ 13.2 km.
- มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ~ 13.8 km.
อื่นๆ
- PTT สวนหลวง-พุทธสาคร ~ 500 m.
ราคา
มัณฑนา เพชรเกษม-สาย4 ราคา ณ วันที่ 01 ตุลาคม 2564
- Greater : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 6.15 ล้านบาท - Amplify บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 61 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 158 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 7.45 ล้านบาท - จอง 50,000 บาท
- ทำสัญญา 10%
- ค่าส่วนกลาง 39 บาท/ตร.วา/เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
เปรียบเทียบโครงการมัณฑนา เพชรเกษม-สาย4 กับโครงการรอบๆ
หากเจาะเรื่องโครงการบ้านพักอาศัยในละแวกนี้ ส่วนใหญ่เราจะเห็นเป็นทาวน์โฮมขนาดกะทัดรัดไปจนถึงบ้านเดี่ยวระดับที่ดิน 100 ตร.วาขึ้นไป เพราะเป็นทำเลที่มีการอยู่อาศัยของคนหลายระดับด้วยกันตั้งแต่พนักงานโรงงาน ไปยังถึงเจ้าของกิจการโรงงานทั้งเล็กใหญ่ในย่านกระทุ่มแบน อ้อมน้อย เพื่อที่จะไปทำงานได้สะดวก ใกล้ๆ บ้าน ขับรถใช้เวลาไม่นาน อีกทั้งยังวิ่งเข้าพระราม 2 และขึ้นวงแหวนฯ และทางด่วนเฉลิมมหานครได้ไม่ยากสำหรับการเข้าเมือง ซึ่งเราลิสต์เป็นประเด็นที่น่าสนใจของโครงการมัณฑนา เพชรเกษม-สาย4 ออกมา ดังนี้
บรรยากาศส่วนกลาง : นับเป็นจุดชูโรงของโครงการนี้เลยนะคะ เพราะบรรยากาศของที่นี่ร่มรื่นมีผืนน้ำขนาดใหญ่ มีมุมนั่งเล่นริมน้ำซึ่งเป็น Rare Item ที่โครงการระดับนี้
ราคากับแบรนด์ : ถ้าเทียบเรื่องขนาดพื้นที่ใช้สอยกับราคาแล้วล่ะก็ที่นี่อาจจะราคาสูงกว่าเพื่อนบ้านโครงการอื่นสักหน่อย แต่ก็ต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่าที่นี่เป็นบ้านแบรนด์ Land and Houses จึงมีความน่าเชื่อถือในเรื่องคุณภาพบ้าน, งานก่อสร้างที่ติดตัวมา ทำให้มีราคาสูงกว่าทั่วๆไป
การออกแบบบ้าน : ตัวบ้านถูกออกแบบให้รองรับการอยู่อาศัยในระยะยาว มีห้องนอนชั้นล่างจึงอยู่กันได้แบบ 3 Generations และการวางตำแหน่งบ้านชิดด้านในของรั้ว ทำให้มีพื้นที่จัดสวนกว้างๆ หน้าบ้านด้วยนะคะ
เทคโนโลยีในตัวบ้าน : เป็นหนึ่งใน Identity ของ Land and Houses ไปแล้วสำหรับเทคโนโลยี Air Plus Square ที่ช่วยระบายอากาศและกรอง pm 2.5 ค่ะ
มัณฑนา เพชรเกษม-สาย4 เหมาะกับใคร
โครงการมัณฑนา เพชรเกษม-สาย4 เหมาะสำหรับครอบครัวที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวในโซนอ้อมน้อย กระทุ่มแบน ให้ความสำคัญกับบรรยากาศในโครงการที่ร่มรื่น อยากได้บ้านเดี่ยวที่จัดสวนมาให้รอบบ้าน มีห้องนอนชั้นล่างเผื่อการขยับขยายในอนาคต ใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อช่วยระบายความร้อนในบ้านและกรอง pm 2.5 มีสมาชิกในครอบครัว 3-5 คน มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 6-12 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 42,000-84,000 บาท
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc