บ้านกลางเมือง The Edition สาทร – สุขสวัสดิ์ บ้านแฝดและทาวน์โฮม 3 ชั้น ในซอยสุขสวัสดิ์64 พร้อม Clubhouse ใหม่สไตล์ Modern Tropical จาก AP [รีวิวฉบับที่ 2142]

13 October 2020

• Baan Klang Muang The Edition Sathorn – Suksawat (บ้านกลางเมือง ดิ อิดิชั่น สาทร – สุขสวัสดิ์)
• บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
• MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านปี 2020 ได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่: ซอย สุขสวัสดิ์ 64 เขต ทุ่งครุ กรุงเทพ
• เนื้อที่โครงการ 34-1-34 ไร่ จำนวน 299 ยูนิต
• TERRARIA : ทาวน์โฮม 3 ชั้น
• ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 151 ตร.ม. หน้ากว้าง 5 เมตร
• ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
• ราคาเริ่มต้น 4.98 ล้านบาท
• X-TALE : บ้านแฝด 3 ชั้น
• ที่ดินมาตรฐาน 37 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม. หน้ากว้าง 11 เมตร
• ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
• ราคาเริ่มต้น 8.4 ล้านบาท
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 – 2.60 เมตร / ชั้น 2 – 2.75 เมตร
• ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 150,000 บาท
• โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2562
• คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปี 2565
• เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
• Call Center: 1623

พิกัด Google Maps : 13.652860, 100.512475
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่โครงการ บ้านกลางเมือง The Edition สาทร – สุขสวัสดิ์ ซึ่งปัจจุบันยังค้นหาจาก Google ไม่เจอนะคะ แนะนำให้คลิกลิงค์จากด้านบนได้เลยนะ

ย่านสุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศเป็นอีกโซนที่มีบ้านแนวราบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นทำเลที่เข้าตัวเมืองได้ง่าย แถมราคาบ้านแนวราบราคายังหยิบจับได้อยู่ ซึ่งถ้าใครอยู่ในย่านนี้จะรู้กันดีว่ามีโครงการของ AP มาเปิดครบเกือบทุกแบรนด์ไล่ไปตั้งแต่ Pleno, Grande Pleno, Centro, บ้านกลางเมือง, บ้านกลางเมือง The Edition, The City จนถึง Palazzo ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบ้านแนวราบในย่านนี้มีความต้องการสูงทีเดียว

สำหรับโครงการ บ้านกลางเมือง The Edition สาทร – สุขสวัสดิ์ ตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขสวัสดิ์ 64 และ 62 (ซอยสุขสวัสดิ์ฝั่งเลขคู่ หรือซอยประชาอุทิศฝั่งเลขคี่) ซึ่งเป็นลักษณะซอยใยแมงมุม ที่เชื่อมไปออกได้หลากหลายเส้นทาง ได้แก่ซอยประชาอุทิศ 19, 27, 33, 59, 61, 69, 75 และซอยสุขสวัสดิ์ 62, 64, 66, 70 เรียกว่าไปง่ายทั้งฝั่งพระราม 2 หรือจะใช้เส้นสุขสวัสดิ์ไปยังพระราม 3 วิ่งเข้าอโศก สีลม สาทรก็ง่าย นอกจากนี้ยังใกล้ทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร ทางด่วนวงแหวนกาญจนาฯ และวงแหวนอุตสาหกรรม

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ใกล้ๆโครงการมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ที่ห่างไปประมาณ 260 เมตร เดินไปได้ชิวๆ หรือถ้าจะเรียกแท็กซี่ก็พอมีในซอยสุขสวัสดิ์64 เพราะเป็นเส้นที่มีรถเข้า-ออกเป็นประจำ เนื่องจากเป็นทางลัดที่เชื่อมถนนทั้ง 2 เส้น หรือจะเรียกผ่าน Application ก็สะดวกดีนะ ส่วนถ้าใครใช้รถเมล์เป็นประจำ หน้าปากซอยมีป้ายรถเมล์ให้บริการค่ะ

สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ โดยรวมแล้วถือว่าทำได้สะดวกเพราะอยู่ใกล้กับทางเชื่อมสำคัญๆหลายจุด จุดแรกคือใกล้วงแหวนอุตสาหกรรม หรือสะพานภูมิพล(สีแดง) ที่สามารถวิ่งไปลงพระราม 3 และโซนสำโรงได้เร็วมากแถมไม่ต้องเสียค่าทางด่วนอะไรด้วย จุดที่สองคือทางด่วนเฉลิมมหานคร(สีเขียว) จากโครงการไปด่านสุขสวัสดิ์ประมาณ 3.7 km. ถือว่าไม่ไกลมากและรถไม่ติดเท่าขึ้นจากถนนพระรามที่ 2 จุดที่สามคือทางด่วนกาญจนาภิเษก(สีฟ้า) ถ้าใครที่ทำการค้าขายที่ต้องเดินทางไปสำโรง บางนา บางพลี เทพารักษ์ ก็เดินทางได้สะดวกเลยนะคะ

โครงการถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์ดีในระยะที่ขับรถ จริงๆแล้วบริเวณซอยสุขสวัสดิ์ 64 เป็นซอยที่คนใช้กันเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นเส้นทางลัดที่สั้นที่สุด ทำให้เป็นเส้นที่ค่อนข้างคึกคัก มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อตลอดทาง ถัดไปหน่อยห้างใกล้สุดจะเป็น Big C สุขสวัสดิ์ ที่ติดถนนใหญ่สุขสวัสดิ์ ห้างนี้ถือเป็นห้างหลักของคนย่านนี้เลยหล่ะ(ภายในมีร้านอาหารชั้นนำ และโรงหนังในตัวด้วยนะ)

ส่วนถ้าจะหาของกินแบบร้านอาหารทั่วๆไป ก็วิ่งเข้าประชาอุทิศได้เลย มีมากมายหลายร้านยิ่งไปแถวๆ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นี่ยิ่งเยอะใหญ่เลย เพราะขึ้นชื่อว่ามหาลัยแล้วก็จะต้องมีร้านค้า ร้านอาหารเพื่อรองรับความต้องการของนักศึกษาเช่น Tesco Lotus, Max Valu, ตลาดสด เป็นต้น สำหรับการไปห้างใหญ่ๆมีอยู่ 3 ตัวเลือกที่มีระยะเดินทางเท่าๆ กันคือ เซ็นทรัลพระราม 3 เซ็นทรัลพระราม 2 และ The Mall ท่าพระ เป็นต้น นอกจากนี้ใกล้ๆยังมีสวนธนบุรีรมย์ และศูนย์ฝึกกีฬาเฉลิมพระเกียรติ ที่เป็นสวนสาธารณะให้มาเดินออกกำลังกายได้ด้วย

ทำเลบ้านแนวราบเป็นย่านที่มีการวางแผนรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ “เตาปูน–ราษฎร์บูรณะ” (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ได้รับการอนุมัติจาก ครม. เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าช่วงปี 2564 จะเข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคา และใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 6 ปี โดยคาดว่าสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ “สถานีพระประแดง” (คาดว่าน่าจะอยู่บริเวณหน้าบิ๊กซี) ซึ่งระยะห่างจากโครงการยังไม่แน่ชัดคาดว่าประมาณ 2.4 km. อาจไม่ได้ใกล้มากนักแต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางเข้าเมือง

สำหรับการเดินทางในวันนี้ เริ่มที่สะพานวงแหวนอุตสาหกรรมฯ โดยวิ่งตามป้ายพระประแดงมาเข้าถนนสุขสวัสดิ์ ผ่านแยกพระประแดง และ Big C สุขสวัสดิ์ หลังจากเลยบิ๊กซีมาได้ประมาณ 540 m. ก็จะมีจุดกลับรถ ซึ่งกลับรถมาแล้วให้ชิดซ้าย เตรียมเลี้ยวเข้าซอยสุขสวัสดิ์64 หลังจากนั้นให้ขับตามทาง จะมองเห็นป้ายโครงการให้เลี้ยวขวาเข้าซอย ขับตรงไปสุดทางเลี้ยวขวา แล้วขับตามทางไปเรื่อยๆ จะเห็นโครงการอยู่ฝั่งขวามือค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนลักษณะอยู่อาศัย ซึ่งมีทั้งอาคารพาณิชย์ บ้านเดี่ยว ร้านค้า หมู่บ้านจัดสรร โกดัง ถือเป็นชุมชนอยู่อาศัยที่มีความหนาแน่นปานกลาง ไม่เปลี่ยวจนเดินไม่ได้นะคะ ลองไปดูแต่ละทิศและบรรยากาศกันค่ะ

• ทิศเหนือ : ติดกับหมู่บ้านจัดสรรโครงการ The Connect ประชาอุทิศ27
• ทิศใต้ : ทางเข้าหลักติดกับซอยสุขสวัสดิ์64 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น
• ทิศตะวันออก : ติดกับพื้นที่เปล่ารอการพัฒนา
• ทิศตะวันตก : ติดกับโกดัง และบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น

ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านเดี่ยวพักอาศัย 1-2 ชั้น ส่วนบุคคลนะคะ

มาดูฝั่งที่มาจากซอยสุขสวัสดิ์64 จะเห็นว่าเป็นถนน 2 เลน วิ่งผ่านไปมาได้พอดี และมีทางเดินเท้ายกระดับด้านข้างเหลือไม่ถึง 1 m. เวลาเดินต้องระวังรถกันด้วยนะ / โดยที่ดินโครงการเป็นหน้ากว้าง ที่มองเห็นอาคาร Clubhouse ชัดเจน

ฝั่งตรงข้ามที่วิ่งไปออกซอยสุขสวัสดิ์62 เป็นตึกแถวให้เช่า ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร เปิดให้บริการซื้อของกินได้นิดๆหน่อยนะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• Max Valu ประชาอุทิศ ~ 1.5 km.
• Big C สุขสวัสดิ์ ~ 2 km.
• Tesco Lotus ประชาอุทิศ ~ 2.7 km.
• ตลาดพระประแดง ~ 2.7 km.
• ตลาดทุ่งครุพลาซ่า ~ 3.1 km.
• ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ~ 3.1 km.
• สวนธนบุรีรมย์ ~ 3.9 km.
• Tesco Lotus สุขสวัสดิ์ ~ 5.2 km.
• Big C บางประกอก ~ 8.4 km.
• รพ.บางปะกอก 9 International ~ 8.4 km.
• Central Plaza พระราม 3 ~ 9.2 km.
• Homepro พระราม 3 ~ 10.3 km.
• รพ.บางมด ~ 10.3 km.
• Central Plaza พระราม 2 ~ 12.5 km.
• CBD สาทร ~ 12.8 km.

บ้านกลางเมือง The Edition สาทร – สุขสวัสดิ์ พื้นที่โครงการ 34-1-34 ไร่ จำนวน 299 ยูนิต รูปแบบภายในโครงการมี 2 แบบ แบ่งเป็นบ้านแฝด 3 ชั้น 44 ยูนิต และทาวน์โฮม 3 ชั้น 255 ยูนิต โดยโปรดักส์แบ่งกันชัดเจน เริ่มจากอาคาร Clubhouse ที่ออกแบบมาในสไตล์ Modern Tropical ที่ไม่เคยเห็นทาง AP ทำมาก่อน เดี๋ยวเราจะพาไปดูของจริงกันนะคะ ส่วนฟังก์ชันประกอบด้วยสระว่ายน้ำ, สระเด็ก, ฟิตเนส, สวนหย่อม, สนามเด็กเล่นเป็นมาตรฐานทั่วไป ส่วนพื้นที่สีเขียวกระจายทั่วโครงการทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นดี

สำหรับโปรดักส์ที่ใกล้ซุ้มประตูและพื้นที่ส่วนกลางเป็นบ้านแฝดทั้งหมด ที่ใกล้กับพื้นที่ส่วนกลางใช้งานง่าย ส่วนด้านในที่เลยวงเวียนไปเป็นพื้นที่ทาวน์โฮม ที่ต้องขับรถเข้าไปไกลหน่อย แต่ก็ทดแทนด้วยพื้นที่สวนหย่อมด้านใน รวมไปถึงข้อดีของทาวน์โฮมที่อยู่กับบ้านแฝด ทำให้ได้ใช้ส่วนกลางที่ออกแบบมาสำหรับบ้านแฝดที่ราคาสูงกว่า นอกจากนี้บ้านส่วนใหญ่จะวางในแนวทิศเหนือใต้ ที่ไม่โดนแดดแรงโดยตรง สำหรับถนนหลักกว้าง 12 m. และซอยย่อยกว้าง 9 m. ซึ่งแต่ละซอยไม่ลึกมาก ทำให้ดูแลความปลอดภัยได้ง่าย

ซุ้มประตูทางเข้าขนาดใหญ่ดูอลังการดี โดยมีหลังคาที่ใช้บังแดดบังฝนได้ เวลาเปิดกระจกจะได้ไม่โดนฝนโดยตรง ส่วนฝั่งซ้ายมือเห็นป้ายชื่อโครงการชัดเจนดี

ทางเข้า-ออกแบ่งเป็น 2 ฝั่ง กั้นด้วยซุ้มรปภ. ที่คอยดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

ประตูบานเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน ที่ออกแบบมาให้มองไม่เห็นด้านในโดยตรงได้ความเป็นส่วนตัวดี ด้านข้างมีทางเดินเท้าแยกใช้งาน เพื่อความปลอดภัยค่ะ

สำหรับโครงการนี้ใช้ระบบ KATSAN (คัดสรร) ที่เป็นระบบอัจฉริยะเฉพาะของ AP ช่วย Support ลูกบ้านเมื่อต้องการความช่วยเหลือ เชื่อมต่อรปภ. นิติบุคคล ลูกบ้าน เข้าด้วยกัน ได้แก่ (รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่)

• Pre-Register : ลงทะเบียนรถยนต์ผู้มาติดต่อล่วงหน้า เพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกในการเข้าสู่โครงการโดยไม่ต้องแลกบัตร
• Security Matrix : ประมวลผลการเข้า-ออกอัจฉริยะ ผ่านการจดจำป้ายทะเบียนรถ คัดกรองรถยนต์ลูกบ้านกับรถยนต์สาธารณะ
• Do not Disturb : ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย ด้วยฟังก์ชันการปฏิเสธการเข้าพบทุกกรณี
• Car Directory : ตรวจสอบทะเบียนรถเพื่อตามหาเจ้าของได้ง่าย แก้ปัญหาการจอดรถขวางหน้าบ้าน และกีดขวางจราจร
• Notifications : ฟังก์ชันการแจ้งเตือนอัตโนมัติ เมื่อมีผู้มาติดต่อหรือแจ้งข้อมูลข่าวสาร และประกาศต่างๆจากโครงการ
• Security Alert : แจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ทั้งจากนิติบุคคล และเครือข่ายพันธมิตร เช่น โรงพยาบาล สถานีตำรวจ เป็นต้น
• E-Stamp : ประทับตรายางอีเล็กทรอนิกส์ผ่านโทรศัพท์มือถือ

เมื่อผ่านเข้ามาในพื้นที่โครงการจะเจอกับถนนสายหลักกว้าง 12 m. พื้นที่ด้านข้าง+เกาะกลางปลูกต้นไม้ เพื่อแบ่งการใช้งานเป็นสัดส่วน และทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นดี

ฝั่งขวามือเป็นพื้นที่สวนหย่อม + Clubhouse ขนาดใหญ่ ที่บรรยากาศดูร่มรื่นดีนะ

พื้นที่สวนหย่อมของโครงการนี้เลือกใช้ต้นสนมาใส่ให้บรรยากาศเหมือนสวนต่างประเทศ โดยออกแบบที่นั่งเป็นลักษณะ Amphitheater ล้อมรอบลานกิจกรรมตรงกลาง ทำให้ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น

ด้านข้างมีมุมพักผ่อนหย่อนใจมาให้เพิ่มเติมด้วย

นอกจากนี้ยังมีทางเดินรอบๆสวนหย่อม ที่เอาไว้วิ่ง Jogging หรือเดินเล่นชิวๆได้

บริเวณซุ้มนั่งเล่นด้านนอกแบ่งเป็น 3 อาคาร ที่ออกแบบเป็นกล่องสีเหลี่ยมสีขาว พร้อมพื้นด้านล่างยุบเข้าไปด้านใน ที่ทำให้เหมือนตัวอาคารลอยอยู่ ภายในตกแต่งด้วยระแนงไม้ ช่วยบังแดดขณะใช้งานได้ดี ซึ่งดูไปดูมาก็เหมือน Sculpture สวยๆเลยนะคะ

สำหรับบริเวณนี้มีที่นั่งเล่นมาให้หลากหลายแบบ เหมาะทั้งมานั่งเล่นกับเพื่อนๆ หรือจะมานั่งชิวคนเดียวก็ได้ค่ะ

อาคาร Clubhouse ออกแบบมาในสไตล์ Modern Tropical โดยการผสมผสานระแนงไม้เข้ากับตัวอาคาร เพื่อให้การใช้งานดูเป็นส่วนตัวมากขึ้น และ Feel การใช้งานดูอบอุ่นดี / นอกจากนี้ด้านหน้ายังมีลานพื้นหญ้าขนาดใหญ่ให้เด็กๆได้วิ่งเล่น หรือทำกิจกรรม Outdoor ก็ได้ เช่นเล่นโยคะ เต้นแอโรบิค เป็นต้น

ด้านข้างสนามหญ้ามีเตียง Day Bed มาให้นอนเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ ซึ่งถ้าต้นไม้ตรงกลางโตเต็มวัยเมื่อไหร่บรรยากาศน่าจะร่มรื่นน่าดู

ถัดไปเป็นสนามเด็กเล่น ที่น่าสนใจคือวัสดุที่ใช้ทำเป็นพื้นเลือกใช้วัสดุแบบ Absorption ที่สามารถดูดซับเเรงกระแทกได้ดี เหมาะสำหรับเด็กใช้งานไม่เจ็บตัวแน่นอนค่ะ

สำหรับตัวอาคาร Clubhouse ตีระแนงไม้ที่ช่วยบดบังสายตาจากคนภายนอก ซึ่งเป็นปัญหาของหลายๆโครงการที่สระว่ายน้ำติดกับถนนหลัก ที่ไม่ค่อยได้ความเป็นส่วนตัวมากนัก

ด้านข้างสระว่ายน้ำมี Day Bed และชุดเก้าอี้ ไว้ให้นั่งเล่นชิวๆ รวมถึงวัสดุที่เลือกใช้ไม่อมน้ำ คนเล่นน้ำตัวเปียกๆก็มานั่งเล่นได้นะ

สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 13 x 6.3 m. ไม่ยาวมาก แต่ก็ว่ายน้ำจริงจังได้อยู่นะ ซึ่งพอมีหลังคาก็สามารถช่วยบังแดดได้เพิ่มด้วย ด้านข้างมีต้นไม้ตั้งสง่าที่ดูไปดูมาบรรยากาศคล้ายสวนญี่ปุ่นนิดๆเลยนะ

สระเด็กแยกใช้งานมาให้เรียบร้อยลึก 60 cm. ขนาดถือว่าใหญ่ใช้งานได้สะดวก

ด้านข้างใกล้ๆสระว่ายน้ำ มีจุดชำระล้างตัวก่อนลงสระว่ายน้ำมาให้ 2 จุด

ห้องน้ำแยกชาย-หญิงมาให้ ภายในมีอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ พื้นที่อาบน้ำ และล็อคเกอร์ให้เก็บของเวลาใช้งานได้นะคะ

ชั้นบนมีการดีไซน์ห้องฟิตเนสเอียงเล็กน้อยรับกับดีไซน์อาคาร ที่ทำให้ดูมีมิติมากขึ้น แถมเจาะช่องให้ต้นไม้โตได้เต็มที่ เสมือนธรรมชาติสอดแทรกอยู่ทุกจุดของอาคาร

มองลงไปเห็นพื้นที่สระว่ายน้ำชัดเจนค่ะ

ห้องฟิตเนสติดหน้าต่างฝั่งที่มองเห็นสระว่ายน้ำ ภายในเครื่องเล่นทั้ง Weight Training และ Cardio อย่างเช่นลู่วิ่งและเครื่องปั่นจักรยาน ใช้งานสะดวกดี

มาดูบรรยากาศด้านในโครงการกันต่อ ถนนหลักกว้าง 12 m. ที่วิ่งใช้งานได้สบายๆ ถนน 2 ข้างทางปลูกรั้วต้นไม้ และต้นไม้ใหญ่ ที่ช่วยให้บรรยากาศภายในดูร่มรื่นมากขึ้น

ส่วนซอยย่อยกว้าง 9 m. เวลามีรถจอดรับ-ส่ง ก็ยังขับใช้งานได้ ส่วนบ้านภายในซอยมีไม่เยอะดูแลความปลอดภัยง่าย และได้ความเป็นส่วนตัวดี

ถัดจากวงเวียนนี้ไปจะเป็นโปรดักส์ทาวน์โฮม 3 ชั้นทั้งหมด ซึ่งด้านข้างมีสวนหย่อมเล็กๆมาให้นั่งเล่นเพิ่มเติมด้วย ส่วนถ้าใครจะไปใช้ Facilities ก็ต้องเดินไกลหน่อยนะ

จบกันไปแล้วนะคะ สำหรับสภาพเเวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการนี้ ถือว่าเป็นโครงการที่มีส่วนกลางและสภาพโครงการดูน่าสนใจดีค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse 3 ชั้น + สวนหย่อม 1 จุด
• สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 13 x 6.3 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• แบ่งสระเด็กลึกขนาด 3.75 x 3.2 เมตร ลึก 50 ซม.
• ห้องออกกำลังกาย ขนาด 47.8 ตร.ม.
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 28 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
• Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
• ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วเหล็กเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน

สำหรับ บ้านกลางเมือง The Edition สาทร – สุขสวัสดิ์ เป็นแบบบ้านรุ่นใหม่ที่มีการ Re-Facade จากตัวเดิมๆ พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น X-TALE เป็นลักษณะบ้านแฝดที่เชื่อมกันเฉพาะชั้นล่าง ส่วนชั้นบนที่เป็นส่วนพักอาศัยผนังจะแยกออกจากกัน ที่ได้ความเป็นส่วนตัวดี

พื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ ข้อดีของบ้านแฝด 3 ชั้นคือแบ่งพื้นที่ได้เป็นสัดส่วน ชั้นล่างเป็นส่วนต้อนรับ + 1 ห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ใกล้ห้องน้ำปรับเป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนผู้สูงอายุได้ ส่วนชั้นเป็นส่วนพักอาศัยที่ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้องใช้งานสะดวก และด้วยความที่บ้านหน้ากว้าง 11 m. จึงสามารถจัดที่จอดรถได้ถึง 3 คัน ในร่ม 2 คันและกลางแจ้ง 1 คัน เหมาะกับคนที่มีรถมากกว่า 2 คัน รวมถึงบ้านแฝดยังมีพื้นที่ให้จัดสวนเล็กๆได้ด้วย

ชั้นที่ 1 – มีประตูทางเข้าบ้านแค่ทางเดียวไม่มีเฉลียงหน้าบ้าน เดินเข้ามาฝั่งซ้ายมือเป็นพื้นที่ Common Area (พื้นที่นั่งเล่น+โต๊ะรับประทานอาหาร) เชื่อมต่อกับพื้นที่ครัวเปิด ที่สามารถกั้นเป็นครัวปิดเพิ่มเองได้ ซึ่งภายในครัวเชื่อมต่อกับพื้นที่เก็บของใต้บันไดให้เก็บของได้มากขึ้น นอกจากนี้หลังบ้านเป็นพื้นที่ลานซักล้างที่เทคอนกรีตมาให้เรียบร้อย สามารถทำเป็นครัวไทยได้ อีกด้านหนึ่งของบ้านมีห้องอเนกประสงค์ติดกับหน้าบ้าน ซึ่งปรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ ห้องทำงาน หรือห้องดูหนังพักผ่อนก็ได้ โดยจะติดกับห้องน้ำรวมที่มีส่วนอาบน้ำมาให้ใช้งาน ส่วนบันไดจะอยู่บริเวณกลางบ้านเลยค่ะ

แบบบ้านแฝด 3 ชั้นที่มีการ Re-Facade ใหม่ ออกแบบสไตล์ Modern Luxury เลือกใช้โทนสีขาว-เทา และออกแบบให้หน้าบ้านมีส่วนยื่นเอียงเล็กน้อย เพื่อให้ตัวบ้านดูมีมิติมากขึ้น แถมแบบบ้านนี้สังเกตจะได้หน้าต่างบานใหญ่ พร้อมเฟรมกระจกหนาที่ดูแข็งแรงมากขึ้น โดยตัวบ้าน 2 หลังมีส่วนที่เชื่อมกันบริเวณชั้นที่ 1 บริเวณห้องอเนกประสงค์ + ห้องน้ำ + ห้องครัว ส่วนโครงสร้างเป็นก่ออิฐมวลเบาทั้งหลัง ที่ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้

สำหรับบ้านจริงรั้วประตูเป็นเหล็กสีดำ ฝั่งขวามือเป็นแบบรางเลื่อนสำหรับจอดรถได้ 2 คัน ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นแบบเปิดเอาไว้จอดรถได้ 1 คัน / รั้วหน้าบ้านเป็นแบบ Automatic Digital Gate โดยมีมอเตอร์ควบคุมการปิด-เปิดผ่านรีโมทได้เลย

พื้นที่จอดรถของจริงเป็นคอนกรีต Slab on Ground ซึ่งจะเป็นคนละโครงสร้างกับตัวบ้าน ป้องกันการทรุดตัวในอนาคต

ทางเข้าหลักมีชานพักเล็กน้อยก่อนเข้าบ้าน ประตูหน้าบ้านเป็นไม้สำเร็จรูป HDF สีขาว พร้อมมือจับ Digital Door Lock และยังสามารถเปิดขยายประตูบานเล็กด้านข้างเพิ่มได้อีกประมาณ 30 cm. ทำให้เปิดได้กว้างมากขึ้นนะคะ

มือจับ Digital Door Lock ของ Samsung ตัวนี้นอกจากจะใช้รหัสผ่านและแตะ Key Card Access แล้ว ยังรองรับระบบสแกนลายนิ้วมือ ระบบ Home Automation และมี Sensor ตรวจวัดอุณหภูมิที่คอย Alarm เตือนภัยเวลาเกิดเหตุไฟไหม้ได้ด้วยนะ

เปิดประตูเข้ามาเราจะโถงทางเดินหน้าประตู ที่ทำหน้าที่เหมือนเป็น Foyer ช่วยทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวก่อนเข้าฟังก์ชันอื่นๆภายในบ้าน

หันมาด้านขวาเราจะเจอกับพื้นที่ Common area ขนาดใหญ่ คือพื้นที่ห้องนั่งเล่นอยู่รวมกับโต๊ะทานอาหาร ทำให้เกิดพื้นที่เชื่อมต่อถึงกัน เกิดปฏิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างคนในครอบครัว และให้ความรู้สึกโปร่งโล่งไม่อึดอัด พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดง่าย และความสูงพื้นถึงฝ้า 2.6 m. โปร่งโล่งดี

พื้นที่นั่งเล่นวางชุดโซฟาแบบ 4-5 ที่นั่งได้กำลังดี ระยะดูทีวีจากบ้านตัวอย่างวัดได้ประมาณ 2.9 m. ใช้ทีวีขนาด 40″-50″ ได้สบายๆ ส่วนของจริงอาจจะกระชั้นชิดกว่านี้หน่อย เพราะด้านหลังต้องวางโต๊ะทานอาหารเพิ่มด้วยนะ

สำหรับบริเวณนี้โครงการต่อเติมเพิ่มเอง เนื่องจากบ้านตัวอย่างมีระยะห่างจากรั้วหลังบ้านเกิน 2 m. ซึ่งถ้าเป็นหลังมาตรฐานจะไม่สามารถต่อเติมแบบนี้ได้นะคะ

บริเวณห้องครัวด้านในบ้านเป็นลักษณะพื้นที่ครัวเปิด ที่สามารถกั้นเป็นพื้นที่ครัวปิด และทำอาหารจริงจังได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวกลิ่นติดที่อื่น แถมมีหน้าต่างบานเลื่อนมาให้เปิดระบายกลิ่น และรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้น (สำหรับของจริงเป็นพื้นที่โล่งๆ พร้อมวางงานระบบ)

ลานซักล้างเทคอนกรีตมาให้ โดยเป็นโครงสร้าง Slab on Ground เช่นเดียวกับพื้นที่จอดรถ ซึ่งสามารถต่อเติมเป็นครัวไทยด้านนอกได้ นอกจากนี้บ้านทุกหลังยังวาง Tank น้ำขนาดใหญ่มาให้เป็นมาตรฐาน

มาที่ฝั่งหน้าบ้านมีแนวทางเดินกว้างประมาณ 1.35 m. ที่เดินเชื่อมไปยังห้องอเนกประสงค์และห้องน้ำ สังเกตทั้ง 2 ฟังก์ชันอยู่ติดกันใช้งานสะดวกเลย

เรามาดูภายในห้องน้ำชั้นล่างกันก่อน ซึ่งเป็นห้องน้ำที่มีพื้นที่อาบน้ำ โดยมีการลดระดับพื้นแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้งมาให้ แต่เราแนะนำให้ติดตั้งฉากกั้น หรือม่านพลาสติกเพิ่มเติม ช่วยกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น / อ่างล้างหน้าติดผนัง และโถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Cotto ส่วนพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

ภายในห้องอเนกประสงค์บ้านตัวอย่างจัดไว้เป็นห้องเด็ก ซึ่งในความเป็นจริงสามารถปรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ ห้องทำงาน หรือห้องนั่งเล่นดูหนังได้ตามใจชอบ

หน้าต่างห้องอเนกประสงค์ได้เป็นบานเลื่อนขนาดใหญ่ ที่สามารถเดินออกไปสวนหย่อมหน้าบ้านได้ค่ะ

เดินชมชั้นล่างครบแล้ว เราขึ้นไปดูข้างบนกันต่อค่ะ บันไดทางขึ้นชั้น 2 กว้าง 1 m. ลูกตั้ง 18 cm. ลูกนอน 25 cm. ที่ใช้งานได้สบายๆ โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่มีความแข็งแรงเวลาเดินไม่มีเสียงดังรบกวน ส่วนพื้นผิวปิดด้วยไม้ยางพาราอัดประสาน พร้อมราวจับติดผนังให้ตลอดทาง

ชั้นที่ 2 – เป็นส่วนของ Master Bedroom เต็มพื้นที่ ซึ่งเป็นแบบที่นอกจากวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้แล้ว ยังจัดพื้นที่ Private Living และ Walk in Closet หน้าห้องน้ำได้อีก ซึ่งห้องน้ำใหญ่มีทั้งพื้นที่ยื่นอาบ และนั่งอาบน้ำให้เลือกใช้งาน ส่วนถ้าเดินออกมาบริเวณโถงบันไดหน้าห้องนอน จะมีพื้นที่อเนกประสงค์ หรือ Extra Space ให้จัดฟังก์ชันใช้งานได้ตาม lifestyle เลยค่ะ

ขึ้นมาเจอ Foyer ก่อนเข้าห้องนอน ซึ่งตรงนี้จะมีหน้าต่างช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในบ้าน ส่วนพื้นเปลี่ยนเป็นพื้นไม้ลามิเนต ฝั่งซ้ายมือเป็นประตูห้อง Master Bedroom ส่วนด้านขวาเป็นพื้นที่อเนกประสงค์อีกจุดหนึ่ง (Extra Space)

ขนาดพื้นที่ Extra Space ขนาด 2.1 x 2.2 m. ซึ่งบ้านตัวอย่างทำเป็นมุมพักผ่อน สามารถวางเปียโนได้ + ชั้นวาง ที่เก็บของได้มากขึ้น ซึ่งส่วนนี้จะเรียกว่า Family area ก็ได้นะคะ เพราะเป็นพื้นที่สำหรับสมาชิกในครอบครัว ที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

เราเดินไปดูห้อง Master Bedroom กันต่อนะคะ

ห้อง Master Bedroom นั่นกว้างเต็มทั้งชั้นจากด้านหน้าถึงหลังบ้านประมาณ 7.85 m. โดยห้องนี้ได้กระจกบานใหญ่ รับแสงได้เต็มที่ทำให้ภายในดูโปร่งโล่ง ส่วนพื้นที่ค่อนข้างยืดหยุ่นสามารถจัดฟังก์ชันได้ตามใจชอบ

พื้นที่เหลือจัดเป็น Private Living โดยวางโซฟายาวขนาด 4-5 ที่นั่งสบายๆ เหมาะสำหรับทำเป็นมุมนั่งพักผ่อน หรือนั่งอ่านหนังสือชิวๆ / ความสูงพื้นถึงฝ้า 2.6 m. เช่นกัน

หน้าบ้านจัดเป็นพื้นที่ Walk in Closet ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำด้านใน ส่วนฝั่งขวามือมีประตูเดินออกไประเบียง เอาไว้เดินออกไปสูดอากาศได้ส่วนตัวๆ แถมได้แสงธรรมชาติ ที่ช่วยให้แต่งหน้า แต่งตัวได้ดียิ่งขึ้น

พื้นที่ระเบียงเล็กๆขนาดประมาณ 2.15 x 0.57 m. พอแค่ออกไปยืนสูดอากาศได้ และมีราวกั้นตกระเบียงสูง 90 cm.

กลับมาบริเวณหน้าห้องน้ำ ฝั่งขวามือมีการจัดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งที่สาวๆน่าจะชื่นชอบกัน

ห้องน้ำ Master Bedroom กว้างพอสมควร ภายในแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน โดยเฉพาะพื้นที่อาบน้ำมีทั้งส่วนที่ยืนอาบ(Shower box) และนั่งอาบน้ำ(Bath Tub) ให้แช่ตัวได้กำลังดี

ภายในมีอุปกรณ์ครบครันพร้อมใช้งาน ทั้งอ่างล้างหน้าลอยตัวพร้อมช่องวางผ้าเช็ดตัว โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Cotto ขนาดนั่งได้กำลังดี ส่วนอ่างอาบน้ำขนาด 1.50 x 0.60 m. วางบนขอบยกสูงจากพื้น 50 cm. ใช้งานสะดวก ปิดท้ายที่ Shower Box ขนาด 1.33 x 1 m. ยืนอาบน้ำ 1 คนกำลังดี เฉพาะห้องนี้จะมีฉากกั้นมาให้แล้วนะ

จบแล้วนะสำหรับห้อง Master Bedroom บนชั้น 2 ต่อไปเราจะขึ้นไปยังชั้น 3 ที่เป็นห้องนอนเล็กของบ้าน

บริเวณโถงบันไดของชั้นที่ 2 และ 3 จะมีหน้าต่างบาน Fix สูง ที่ช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาด้านในได้ ที่ได้ขนาดใหญ่กว่าแบบรุ่นเก่านะ

ชั้นที่ 3 – มีห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องจะสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้ พร้อมมีห้องน้ำในตัว ที่ไม่ต้องแย่งกันใช้งาน ห้องน้ำที่อยู่หน้าบ้านมีพื้นที่ปลายเตียงเยอะ จัด Walk in Closet หน้าห้องน้ำได้ ส่วนห้องที่หันออกหลังบ้านจะได้ความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อย เพราะมีทางเดินเล็กๆก่อนเป็นตียงนอน แถมด้านข้างเตียงมีพื้นที่วางสามารถวางตู้เสื้อผ้าเพิ่มเติมได้นะ

ขึ้นมาเจอ Foyer ก่อนแจกจ่ายไปที่ห้องนอน โดยชั้นนี้จะมีห้องนอนเล็ก 2 ห้อง + ห้องน้ำในตัว ที่ลดปัญหาการแย่งห้องน้ำกันใช้งานค่ะ

ห้องนอนที่ 1 (หันออกหน้าบ้าน) วางเตียงขนาดใหญ่ 5-6 ฟุต ไว้กลางห้อง พร้อมพื้นที่เหลือวางโต๊ะหัวเตียงได้แบบนี้เลย ภายในห้องได้ช่องแสงขนาดใหญ่ พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งที่ระบายอากาศภายในห้องได้ดี / ความสูงพื้นถึงฝ้า 2.6 m. ห้องจึงดูโปร่งไม่อึดอัด

บริเวณปลายเตียงนอนเป็นโซนหน้าห้องน้ำ ที่สามารถกั้นเป็น Walk in Closet ใช้งานง่าย แถมถ้ามีฉากกั้นยังสามารถติดทีวีเพิ่มได้อีกนะ

ห้องน้ำแยกฟังก์ชันการใช้งานส่วนเปียกส่วนแห้งด้วยการลดระดับพื้น แนะนำให้ติดฉากกั้นเพิ่มเติมนะคะ ส่วนสุขภัณฑ์ต่างๆยี่ห้อ Cotto ทั้งหมด แถมบริเวณอ่างล้างหน้าทางโครงการก่อเคาน์เตอร์มาให้สามารถวางของได้เยอะขึ้นค่ะ

พื้นที่อาบน้ำขนาด 1 x 1.58 m. ฝักบัว Hand Shower + Junction box ที่สามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มเองได้ ด้านข้างมีช่องหน้าต่างบานกระทุ้ง เอาไว้รับแสงธรรมชาติ และระบายความชื้นได้ดี

ลองเข้ามาดูอีกห้องหนึ่งหันออกหลังบ้าน (ขนาดห้องเล็กกว่าห้องที่แล้ว) แต่ก็มีพื้นที่กว้างวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้นะ พร้อมโต๊ะหัวเตียงด้านข้าง

ด้านข้างเตียงมีพื้นที่เหลือวางตู้เสื้อผ้าเพิ่มได้ เราดูไว้เป็นไอเดียหรือเลือกตกแต่งตามความเหมาะสมในการใช้งานได้ค่ะ

สุดท้ายเป็นทางเดินเข้าห้องน้ำในตัวที่อยู่อีกด้านของห้องค่ะ

ห้องน้ำเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมกว้างใช้งานง่าย ภายในมีอุปกรณ์ครบยี่ห้อ Cotto แยกส่วนเปียกส่วนแห้งด้วยการลดระดับพื้น ป้องกันน้ำไหลแต่ก็ไม่ดีเท่าติดฉากกั้นนะคะ พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.13 x 0.9 m. ยืนอาบน้ำได้สบายๆ

ส่วนสวิตซ์ไฟทั้งหมดจะเป็นแบบ Touch Screen ยี่ห้อ Voltrix หน้าตาแบบนี้เลยค่ะ

สำหรับทาวน์โฮม 3 ชั้น เป็นแบบบ้านที่เราคุ้นเคยกันดีคือแบบ TERRARIA เป็นแบบที่สอดแทรกพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน มี Double Greenery Space และ Pocket Garden อีกจุดเด่น คือผนังชั้นที่ 2 เป็นผนังก่ออิฐมวลเบาที่ปรับ Layout ใหม่ได้ โดยมีพื้นที่ใช้สอย 151 ตร.ม. ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

ชั้นที่ 1 – ที่จอดรถขนาดประมาณ 5.00 x 5.30 m. เหมาะจอดรถ 2 คนเล็กกำลังดี เปิดประตูเข้าไปเป็นส่วน Common Area ยาวจนถึงหลังบ้าน ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นส่วน Service ที่มีทั้งห้องเก็บของใต้บันได ห้องน้ำ(Powder Room) และครัวเปิดที่ติดหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ ส่วนหลังบ้านเทคอนกรีตสำหรับทำเป็นลานซักล้าง หรือครัวไทยเพิ่มเติมได้

ชั้นที่ 2 – บริเวณชานพักกว้างพอทำ Extra Space ที่วางชุดเก้าอี้โซฟาได้ พอขึ้นมาชั้นที่ 2 เป็นพื้นที่ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ที่มีห้องน้ำใช้ร่วมกันด้านนอก ซึ่งผนังระหว่างห้องเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้ ห้องนอนที่หันออกหน้าบ้านมีระเบียงที่จัดเป็น Double Greenery Space ได้ ที่จัดสวนเล็กๆได้ตามใจชอบ ส่วนห้องน้ำเชื่อมกับระเบียง ที่เอาไว้รับแสงธรรมชาติ และระบายความชื้นได้ดี

ชั้นที่ 3 – เป็นห้อง Master Bedroom เต็มพื้นที่ บรรยากาศเหมือน Penthouse หน้าบ้านได้กระจกสูง+ระเบียงที่ออกไปสูดอากาศ หรือจัดพื้นที่สีเขียวเพิ่มเติมได้ ด้านในหน้าห้องน้ำสามารถจัด Walk in Closet ที่เป็นตำแหน่งหยิบใช้งานง่าย ส่วนภายในห้องน้ำมี Pocket Garden ทำให้เรามองเห็นพื้นที่สีเขียวได้ด้วยนะคะ

ตัวอาคารออกแบบสไตล์ Modern เรียบง่าย ใช้โทนสีเทา,น้ำตาล ที่น่าสนใจ คือออกแบบให้มีการยุบยื่นไม่เท่ากัน เกิดมิติกับตัวอาคารที่ดูน่าสนใจมากขึ้น

ประตูรั้วบ้านของจริงเป็นเหล็กกล่องบานพับสี่ตอน (แบ่งฝั่งละ 2 ตอน) เมื่อพับเก็บสุดจะกว้างเท่ากับ หน้ากว้างตัวบ้านเลยนะคะ

บ้านทุกหลังติดกันสาดหน้าบ้านเป็นมาตรฐานเหมือนกัน ช่วยให้มีทัศนียภาพที่ดีทั้งโครงการ ซึ่งเป็นลักษณะผ้าร่มพับเก็บได้ ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามใจชอบ

ประตูหน้าบ้านเป็นบานเลื่อน 2 ตอน สังเกตเฟรมประตูมีขนาดหนาขึ้น ที่แข็งแรงมากกว่าตัวเก่าๆนะคะ โดยบานกระจกเป็นสีเขียวตัดแสง ที่ป้องกัน UV ได้ดี / ส่วนด้านข้างเป็นพื้นที่เก็บของที่โครงการออกแบบเป็นประตูบานเกล็ดให้ระบายอากาศภายในได้ดี

เปิดประตูเจอกับพื้นที่ Common Area ยาวจนถึงหลังบ้าน ที่มีพื้นที่นั่งเล่น+โต๊ะทานข้าว พื้นกระเบื้องเเกรนิตโต้ ความสูงพื้นถึงฝ้า 2.8 m. ซึ่งบ้านมาตรฐานไม่มีหน้าต่างด้านข้างมาให้ ทำให้แสงในบ้านจะไม่สว่างเท่านี้ / ส่วนระยะดูทีวีกว้าง 2.9 m. สามารถเลือกทีวีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 40″- 50″ เป็นระยะที่เหมาะกับสายตา

ฝั่งตรงข้ามบ้านตัวอย่าง Built-in ผนังเต็มมาให้ดูเป็นไอเดีย แต่ในความเป็นจริงจะเป็นผนังโล่งๆนะ โดยบริเวณนี้จะมีห้องเก็บของใต้บันได และประตูทางเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำชั้นล่าง (Powder Room) คือไม่มีพื้นที่อาบน้ำมาให้ โดยพื้นลดระดับจากด้านนอกเล็กน้อย ป้องกันน้ำไหลออกมาข้างนอก / ส่วนพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ด้านหลังโถสุขภัณฑ์มี Low Wall เอาไว้วางของใช้ได้นิดหน่อย นอกจากยังติดพัดลมดูดอากาศมาให้ระบายความชื้น

ด้านข้างเป็นพื้นที่ครัวเปิดที่ไม่เหมาะทำอาหารจริงจัง แต่ก็สามารถกั้นพื้นที่ครัวปิดได้ไม่ยาก เพื่อป้องกันกลิ่นฟุ้งกระจายไปฟังก์ชันอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ ระบายกลิ่นได้ดียิ่งขึ้น หลังจากวาง Built-in มีพื้นที่เหลือใช้งาน 1 m. เดินใช้งานสบายๆ

ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานข้าว สำหรับ 4 ที่นั่งกำลังดี อย่างที่บอกไปว่าบ้านตัวอย่างเป็นเเปลงมุมที่มีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติได้มากกว่านะคะ

หลังบ้านลงเสาเข็มขนาดเท่าตัวบ้านมาให้ พร้อมวางถังเก็บน้ำขนาดใหญ่มาให้ โดยระหว่างตัวบ้านกับรั้วหลังบ้าน มีการกั้นแยกป้องกันการทรุดตัวในอนาคต / ซึ่งนอกจากทำเป็นลานซักล้างยังทำเป็นเคาน์เตอร์ครัวเพิ่มเติมได้ แต่ห้ามมีโครงสร้างหลังคานะ

บันไดลูกตั้ง 17 cm. ลูกนอน 27 cm. เป็นขนาดใช้งานได้กำลังดี โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำให้เวลาเดินไม่มีเสียงรบกวน ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูป พร้อมติดราวจับไว้ด้านข้าง ที่เดินใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

สำหรับชานพักกว้าง 2.00 x 1.8 m. หรือ Extra Space ที่จัดเป็นมุมนั่งเล่นเพิ่มเติมได้ โดยบริเวณนี้มีหน้าต่างบานกระทุ้ง ไว้รับแสงธรรมชาติได้ด้วยนะ

มาที่ชั้น 2 ความสูงชั้นนี้ลดลงเหลือ 2.6 m. พื้นเป็นพื้นไม้ลามิเนต ผนังระหว่างห้องเป็นก่ออิฐมวลเบาที่ทุบแบบบ้านตัวอย่าง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามใจชอบ

ห้องนอนหลังบ้านขนาด 4 x 2.8 m. ที่บ้านตัวอย่างจัดมาเป็น Private Living ซึ่งถ้าใครทำเป็นห้องนอนก็วางเตียง 5 ฟุตสบายๆ โดยห้องนี้มีหน้าต่างบานเลื่อนไว้รับแสงธรรมชาติได้

ห้องนอนฝั่งหน้าบ้าน มีขนาดใหญ่กว่าห้องที่แล้วเล็กน้อยขนาด 3.8 x 3.2 m. พร้อมหน้าต่างกว้าง ซึ่งเป็นลักษณะบานเลื่อนเปิดระบายอากาศได้ โดยห้องสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ พร้อมทางเดินรอบเตียงกำลังดี แถมด้านข้างเหลือวางตู้เสื้อผ้า+โต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วยนะ

ห้องนอนมีประตูออกไประเบียงด้านนอก ตามแนวคิดของแบบบ้าน TERRARIA ที่ต้องการสอดแทรกธรรมชาติเข้าภายในบ้าน โดยได้เป็นประตูกระจกใส ที่มองเห็นพื้นที่สวนจากบนเตียงได้เลย

เปิดออกไปเป็นพื้นที่ใช้งาน และจัดสวนเล็กๆได้ตามใจชอบ ซึ่งต้องบอกว่าช่วงนี้คนหันมาซื้อต้นไม้กันมากขึ้น ตามน้องญาญ่านะคะ

ส่วนของห้องน้ำจะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ห้อง ที่เดินใช้งานได้ง่าย

ภายในแยกส่วนเปียกส่วนแห้งด้วยการลดระดับพื้นที่อาบน้ำเล็กน้อย ซึ่งเป็นห้องน้ำที่ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้ตัวห้องดูสว่างมากขึ้นนะ พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ส่วนพื้นที่อาบน้ำปูด้วยกระเบื้องโมเสคสวยงามดี

ฝักบัว Hand Shower + Junction Box เป็นมาตรฐานพร้อม บริเวณผนังเจาะช่องมาให้วางอุปกรณ์อาบน้ำเพิ่มเติมได้ / พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.35 x 0.88 m. ที่ลดระดับลงเล็กน้อย ซึ่งเราแนะนำให้ติดฉากกั้นมาเพิ่ม ป้องกันน้ำเลอะได้ดีกว่าค่ะ

ถัดไปเราเดินขึ้นไปดูห้อง Master Bedroom กันค่ะ

บันไดวางเป็นรูปตัว U ที่โถงชานพักบันไดมีหน้าต่าง รับแสงธรรมชาติที่ช่วยประหยัดค่าไฟดี ฝ้าเพดานสูงสามารถติดตั้ง Chandelier‎ เหมือนบ้านตัวอย่างได้

ห้อง Master Bedroom กินพื้นที่เต็มชั้น บรรยากาศเหมือนห้อง Penthouse เบาๆ โดยวางเตียง King Size และเหลือพื้นที่เดินรอบเตียงได้ชิวๆ ความสูงพื้นถึงฝ้าปรับเป็น 2.8 m. ที่ทำให้บรรยากาศภายในดูโปร่งโล่งดี

บริเวณหน้าต่างมีช่องแสงกว้างเต็มผนังที่มองเห็นวิวและรับแสงได้เต็มที่

พื้นที่ระเบียงขนาด 3.25 x 70 m. ที่จัดวางกระถางต้นไม้ได้ตามใจชอบ

มองกลับไปด้านใน บริเวณทางเข้าห้องน้ำที่มีพื้นที่เหลือจัด Walk in Closet ได้

ห้องน้ำฝั่งขวามือมีพื้นที่ Pocket Garden ที่มีกระจก 2 ด้านไว้มองเห็นได้ชัดเจน และระบายความชื้นได้ดี แต่ด้วยตำแหน่งการวางบ้านตรงกับหลังบ้านอีกหลัง ดังนั้นแนะนำให้ติดมู่ลี่ หรือม่านเพิ่มเติมด้วยนะคะ

สำหรับห้องน้ำมีการลดระดับพื้นแยกส่วนเปียกกับส่วนแห้ง / พื้นที่อาบน้ำกว้าง 1.48 x 0.90 m. ยืนใช้งานได้สบายๆ ^^

อ่างล้างหน้ามีช่องวางผ้าเช็ดตัวใต้อ่าง โถสุขภัณฑ์ตามมาตรฐาน ซึ่งด้านหลังของ 2 ชิ้นนี้จะมี Low Wall ให้วางของได้เพิ่มเติม ส่วนฝักบัวแบบ Hand Shower เป็นมาตรฐานค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

13 October 2020

• TERRARIA : ทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 151 ตร.ม.
• หน้ากว้าง 5 เมตร : ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
• ราคาเริ่มต้น 4.98 ล้านบาท
• X-TALE : บ้านแฝด 3 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 37 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม.
• หน้ากว้าง 11 เมตร : ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
• ราคาเริ่มต้น 8.4 ล้านบาท
• จองและทำสัญญา n/a บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 150,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 48 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

บ้านกลางเมือง The Edition สาทร – สุขสวัสดิ์ ตั้งอยู่บนระหว่างซอยสุขสวัสดิ์ 64 และ 62 ซึ่งเป็นซอยใยแมงมุมที่เชื่อมไปออกถนนสุขสวัสดิ์ และถนนประชาอุทิศ ทำเลใกล้ทางด่วนเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ทำเลของโครงการเราตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สามารถอิงความอุดมสมบูรณ์สูงที่สุดของถนนสุขสวัสดิ์และประชาอุทิศทั้งสองฝั่งที่ขนานกัน ไม่ว่าจะมาจากทางไหนก็สามารถแวะซื้อของกินของใช้เข้าบ้านได้ไม่ยาก ซึ่งเอาจริงๆแล้วถนนทั้งสองสายนี้ก็มีร้านอาหารอร่อยๆกระจายกันอยู่ทั้งสองเส้นเลยนะคะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

เริ่มที่มีซุ้มประตูทางเข้าขนาดใหญ่ พร้อมติดตั้ง CCTV รวม 28 จุด รอบโครงการ ที่ค่อนข้างเยอะทำให้สบายใจได้เรื่องความปลอดภัย รวมถึงมีการนำระบบ KATSAN ที่เป็น App ของทาง AP เพื่อป้องกันคนภายในแอบแฝง และเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินลูกบ้านสามารถติดต่อรปภ. หรือนิติบุคคลได้ทันที

การออกแบบโครงการ :

โครงการตั้งอยู่บนที่ดิน 34-1-34 ไร่ จำนวน 299 ยูนิต เป็นหมู่บ้านจัดสรรขนาดกลาง แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกด้านหน้าใกล้ทางเข้า-ออก และพื้นที่ส่วนกลางเป็นบ้านแฝดทั้งหมด ที่สะดวกในการใช้งานต่างๆ  ถัดเข้าไปจากวงเวียนไปเป็นทาวน์โฮมทั้งหมด ซึ่งไกลจากพื้นที่ส่วนกลาง แต่ก็มีสวนหย่อมมาให้ใช้งานทดแทนนะ ส่วนที่ 3 เป็นพื้นที่ในอนาคตของโครงการ ที่ต้องมารอลุ้นกันว่าจะเป็นโปรดักส์อะไร สำหรับบ้านวางในแนวทิศเหนือ-ใต้ ที่ไม่โดนแดดแรงโดยตรง แถมซอยย่อยยังมีจำนวนยูนิตไม่มาก ได้ความเป็นส่วนตัวดี และดูแลความปลอดภัยได้ง่าย ถนนหลักกว้าง 12 m. และถนนรองกว้าง 9 m.

การออกแบบบ้านพักอาศัย :

ทาวน์โฮม : มีแนวคิดจากที่ต้องการดึงพื้นที่สีเขียวเข้ามาในบ้านให้ดูใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น ทั้งมุม Double Greenery Space ที่ชั้น 2 โล่งถึงชั้น 3 สามารถวางต้นไม้สูงได้เลย และห้องน้ำชั้น 3 ก็มี Pocket Garden ในห้องน้ำเปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบ นอกจากนี้ยังออกแบบให้มี Extra Space บริเวณชานพักบันได เพื่อให้ใช้งานได้คุ้มค่าที่สุด ส่วนที่น่าสนใจคือห้อง Master Bedroom บรรยากาศเหมือน Penthouse ยาวเต็มพื้นที่ จัดฟังก์ชันการใช้งานได้เป็นสัดส่วนดี พร้อมทั้งความสูงพื้นถึงฝ้า 2.8 m. ที่ทำให้ภายในดูโปร่งโล่ง

บ้านแฝด : ตัวบ้านมีการ Re-Facade ใหม่ ให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น โดยปรับดีไซน์ให้หน้าต่างดูใหญ่มากขึ้น ที่รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ สำหรับบ้านแฝด 3 ชั้น สามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้เป็นสัดส่วนดี ด้วยความที่บ้านมีหน้ากว้าง 11 m. จึงสามารถจัดที่จอดรถได้ถึง 3 คัน ในร่ม 2 คัน กลางแจ้ง 1 คน เหมาะกับคนที่มีรถเยอะๆ ชั้นล่างมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มเข้ามาให้ ที่สามารถทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ ข้อดีคือไม่ต้องเดินขึ้นลงบันไดบ่อยๆ ส่วนชั้นที่ 2 เป็นห้อง Master Bedroom เกือบเต็มพื้นที่ ซึ่งต้องบอกว่าห้องนอนที่นี่วางเตียงขนาดใหญ่ได้ พร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง

วัสดุ :

ทาวน์โฮม : วัสดุตามมาตรฐานทั่วไป โครงสร้างบ้านเป็น Pre-Cast แต่จะมีผนังชั้นที่ 2 สามารถทุบปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ พื้นด้านล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 cm. พื้นชั้น 2 และ 3 เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 mm. ประตูหน้าบ้านได้กรอบอลูมิเนียม Powder coat สีเทาหนา พร้อมกระจกสีเขียวตัดแสง บานประตูสำเร็จรูป HDF ทาสีน้ำมัน บันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีความแข็งแรง สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำครบ

บ้านแฝด : ให้มาได้ดีตามมาตรฐาน โครงสร้างบ้านเป็นก่ออิฐมวลเบา รั้วหน้าบ้านเป็นแบบ Automatic Digital Gate โดยเปิด-ปิดผ่านทางรีโมท วัสดุพื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ พื้นชั้นบนเป็นพื้นไม้ลามิเนต สุขภัณฑ์ต่างๆของ Cotto ห้องน้ำในห้อง Master Bedroom มีทั้งอ่างอาบน้ำ และพื้นที่ยืนอาบ(Shower Box) สามารถใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ สวิตซ์ไฟเป็น Touch Screen สวยงามค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

ภายในโครงการมีสวนหย่อม 2 จุด บริเวณพื้นที่ส่วนกลางด้านหน้า ที่มีทั้งพื้นหญ้าขนาดใหญ่ให้วิ่งเล่น และโซน Amphitheater ที่จัดกิจกรรมได้หลากหลาย อีกจุดคือด้านในบริเวณโซนทาวน์โฮมที่แม้จะอยู่ไกล Facilities แต่ก็มีพื้นที่สวนมาให้ใช้งานทดแทน ซึ่งสวนที่นี่จัดได้ดูดีการเลือกใช้ต้นไม้ที่ทำให้เหมือนสวนต่างประเทศ นอกจากนี้ถนน 2 ข้างทางปูพื้นหญ้า วางรั้วต้นไม้ และต้นไม้ยืนต้นสูง ที่ช่วยสร้างทัศนียภาพสีเขียวให้กับคนที่ผ่านไปมา ดูร่มรื่นดี และยังรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านหลังมุมได้อีกด้วยนะ

สาธารณูปโภค :

ส่วนตัวชอบการดีไซน์อาคาร Clubhouse ของโครงการ ที่เลือกสไตล์ Modern Tropical ที่ทาง AP ไม่เคยทำมาก่อนดูมีสไตล์ดี แถมออกแบบให้ฟังก์ชันการใช้งานดูมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะถ้าสังเกตหลายๆโครงการจะชอบเอาสระว่ายน้ำมาวางติดถนนหลัก ซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่ชอบมาใช้งานกัน นอกจากนี้ยังมีมุมเล่นด้านนอกอาคาร พร้อมทั้งสนามเด็กเล่น ที่เลือกวัสดุ Absorption สีสันสดใสน่าใช้งาน ช่วยลดอาการบาดเจ็บของเด็กได้

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 4 – 8 ล้านบาท, 13 October 2020

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ระหว่างซอยสุขสวัสดิ์ 64 และ 62 ที่ออกได้ทั้งถนนสุขสวัสดิ์และประชาอุทิศ ทำเลใกล้ห้างสรรพสินค้าดังของคนในย่าน
• ความปลอดภัย 7.75/10 – ประตูรั้วเลื่อน รปภ.หน้าหมู่บ้าน CCTV 28 จุด พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยแบบ KATSAN
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย – มีทั้งแบบบ้านแฝดและทาวน์โฮม 3 ชั้น
• ทาวน์โฮม 8/10 – แบบบ้านออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวแทรกในบ้าน ฟังก์ชันการใช้งานยืนหยุ่น ความสูงพื้นถึงฝ้า 2.8 m. ที่ทำให้ภายในดูโปร่งโล่ง
• บ้านแฝด 8.25/10 – ภายในจัดฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วน มีห้องอเนกประสงค์ด้านล่าง เหมาะกับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ ชั้นที่ 2 มี Extra Space ให้จัดการใช้งานได้ตาม lifestyle
• วัสดุ – ให้มาครบตามมาตรฐานเหมาะกับการใช้งาน
• ทาวน์โฮม 7.5/10 – หน้าต่างอลูมิเนียม+กระจกหนาที่ดูแข็งแรงมากขึ้น เหมาะสมตามมาตรฐานของโครงการ AP
• บ้านแฝด 7.5/10 – มีเพิ่ม Digital door lock , Smart Switches , ประตูรั้วที่จอดรถอัตโนมัติควบคุมด้วยรีโมท
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – มีสวนหย่อม 2 จุด พร้อมพื้นที่สีเขียวกระจายรอบโครงการ ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นดี
• สาธารณูปโภค 8.5/10 – อาคาร Clubhouse โดดเด่นออกแบบมาในสไตล์ Modern Tropical ได้ความเป็นส่วนตัว พร้อมฟังก์ชันหลากหลายน่าใช้งานค่ะ

• ทาวน์โฮม : 7.76 / 10.00
• บ้านแฝด : 7.80 / 10.00

BOTTOM LINE

บ้านกลางเมือง The Edition สาทร – สุขสวัสดิ์ เหมาะกับคนที่มองหาบ้านในย่านสุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ ใกล้ทางด่วนเดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก แต่ในอนาคตเป็นทำเลที่มีแผนก่อสร้างรถไฟฟ้า ภายในพื้นที่ส่วนกลางแปลกใหม่ไม่เหมือนที่อื่น โปรดักส์มีให้เลือกทั้งบ้านแฝดและทาวน์โฮม มีงบประมาณเริ่มต้นที่ 4.98 – 8.40 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนที่เดือนละ 35,000 – 65,000 บาท/เดือน

ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving