รีวิวฉบับที่ 2109 …  บริทาเนีย คูคต สเตชั่น จาก ออริจิ้น เป็นอีกโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในย่านลำลูกกาค่ะ โดยโครงการนี้เรามองว่าจุดเด่นจะเป็นเรื่องทำเลที่อยู่ในซอยลำลูกกา 13 ที่สามารถออกไปยังถนนลำลูกกาได้ในระยะ 600 เมตร และยังเป็นทำเลที่มีตลาด ร้านอาหารอยู่ใกล้ๆในระยะเดินสะดวกอีกด้วย ตัวโครงการจะเป็นบ้านแฝด และ บ้านเดี่ยว ราคาเริ่มต้น 5-7 ล้านบาท ถ้าเทียบกับรอบๆก็จะสูงกกว่าโครงการอื่นนะคะ แต่ว่าพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ถือว่าทำได้ดีเลย ได้ Facility ที่เหมือนกับคอนโดใหญ่ๆ และรายละเอียดที่ให้มากับตัวบ้าน เช่น เสาเข็มที่จอดรถ เสาเข็มหลังบ้าน ครัวไทย ระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านก็ได้มาดีเลยค่ะ รายละเอียดโครงการนี้จะเป็นอย่างไร เราไปชมกันเลย

ข้อมูลโครงการ

13 August 2020

  • Britania Khukot Station ( บริทาเนีย คูคต สเตชั่น )
  • บริษัท บริทาเนีย จำกัด
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถนนลำลูกกา ซอย ลำลูกกา 13 จังหวัดปทุมธานี
  • เนื้อที่โครงการ 21-1-63.2 ไร่ จำนวน 138 ยูนิต
  • BRIXTON บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 35.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ครัวไทย 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 5.29 ล้านบาท
  • HAMILTON บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ครัวไทย 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 7.35 ล้านบาท
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 – 2.65 เมตร / ชั้น 2 – 2.75 เมตร
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 93,500 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2019
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ 2021
  • เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-300-0000

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.9470032 , 100.6284334
หรือสามารถคลิกที่นี่

บริทาเนีย คูคต สเตชั่น

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

ตัวโครงการ บริทาเนีย คูคต สเตชั่น จะอยู่ในซอยลำลูกกา 13 ซึ่งเป็นทำเลที่อยู่ระหว่างถนนลำลูกกากับถนนรังสิต-นครนายก โดยจุดเด่นของทำเลนี้คือการเดินทางที่เข้า-ออกได้หลายเส้นทาง นอกจากการใช้งานถนนลำลูกกาและถนนรังสิต-นครนายกแล้ว ก็ยังเชื่อมต่อไปยังถนนลำลูกกาคลอง 3 และลำลูกกาคลอง 4 ได้ค่ะ

อันที่จริงแล้วพื้นที่บริเวณนี้จะเป็นอีกทำเลที่มีบ้านแนวราบให้เลือกอยู่ค่อนข้างเยอะ แต่ว่าโครงการบริทาเนีย คูคต สเตชั่น นี้จะเป็นโครงการที่มีจุดเด่นเรื่องทำเลที่อยู่ใกล้กับถนนลำลูกกาหลัก และอยู่ในช่วงต้นลำลูกกา เดินทางไปใช้งานถนนพหลโยธินและถนนรังสิต-นครนายกได้สะดวกกว่าโครงการที่อยู่คลอง 3 คลอง 4

นอกจากนั้นก็ถือว่าเป็นโครงการที่ใกล้กับรถไฟฟ้าสถานีคูคตเช่นกัน จากโครงการห่างจากสถานีประมาณ 3 กม. แต่การไปใช้งานไม่ลำบากเพราะหน้าโครงการเป็นจุดที่ไม่เปลี่ยว พอเดินไปยังถนนลำลูกกาได้(600 เมตร) และใช้รถสาธารณะที่ผ่านถนนลำลูกกาเพื่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าได้ค่ะ

ในส่วนของอาหารการกินนั้น เดิมทีทำเลแถวนี้เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว ตามซอยที่เลียบคลองต่างๆก็จะมีตลาดอยู่แทบทุกซอยค่ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องของกินเลย ส่วนตัวโครงการเราเองก็จะมีตลาด ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ๆในระยะเดินถึง มีโลตัสอยู่ไม่ไกล หรือถ้ามองภาพใหญ่ขึ้นทั้งลำลูกกาและสายไหมเองก็มีทั้งตลาดสด ตลาดกลางวัน ตลาดกลางคืนให้เลือกเดิน แต่ถ้าใครอยากเดินห้างใหญ่ ดูหนัง Shopping ก็ไปยังโซนฟิวเจอร์ ปาร์ค รังสิตได้เลยค่ะ

เส้นทางการเดินทาง

สำหรับเส้นทางการเดินทางเราจะมีอยู่ 2 เส้นทางให้ดูกันในวันนี้นะคะ โดยเส้นทางแรก เราจะมาจากสนามกีฬาธูปะเตมีย์ เข้าถนนลำลูกกาประมาณ 2 กม.นิดๆ เจอซอยลำลูกกา 13 เลี้ยวซ้ายเข้ามา โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือห่างจากปากซอยประมาณ 600 เมตรค่ะ ส่วนเส้นทางที่ 2 เราจะออกจากโครงการไปยังรฟฟ.สถานีคูคตกัน เส้นทางนี้จะสั้นกว่าหน่อย แต่จะเห็นว่าการเดินทางไม่ได้ยากมาก จากหน้าโครงการประมาณ 600 เมตร ก็จะเป็นถนนลำลูกกาเส้นหลักแล้ว หลังจากนั้นอีกประมาณ 2.3 กม. ก็จะถึงสถานีคูคตแล้วค่ะ ไปดูบรรยากาศการเดินทางกันค่ะ (เราจะลงเป็น Gallery เอาไว้นะ คลิกเลื่อนดูแต่ละเส้นทางได้เลย)

เส้นทางที่ 1 > เข้าไปโครงการ เริ่มจากสนามกีฬาธูปะเตมีย์

Image 1/3
ในกรณีที่มาจากเส้นถนนพหลโยธินนะคะ ตัวโครงการจะห่างจากถนนพหลโยธินหรือว่าสนามกีฬาธูปะเตมีย์ ประมาณ 3 กม.เท่านั้น เลี้ยวเข้าถนนลำลูกกา เจอลำลูกกาซอย 13 เลี้ยวเข้าไปประมาณ 600 เมตรตัวโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

ในกรณีที่มาจากเส้นถนนพหลโยธินนะคะ ตัวโครงการจะห่างจากถนนพหลโยธินหรือว่าสนามกีฬาธูปะเตมีย์ ประมาณ 3 กม.เท่านั้น เลี้ยวเข้าถนนลำลูกกา เจอลำลูกกาซอย 13 เลี้ยวเข้าไปประมาณ 600 เมตรตัวโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

เส้นทางที่ 2 > ออกจากโครงการไปสถานีคูคต

Image 1/6
ทีนี้เราจะลองออกจากโครงการไปยังสถานีรถไฟฟ้าดูนะคะ เรามองว่าค่อนข้างไม่ไกลเลย

ทีนี้เราจะลองออกจากโครงการไปยังสถานีรถไฟฟ้าดูนะคะ เรามองว่าค่อนข้างไม่ไกลเลย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น 

  • ห้างสรรพสินค้า

  • Tesco Lotus ลำลูกกา คลอง 2 ~ 1 km.
  • Big-C ลำลูกกา ~ 7 km.
  • ZPELL ~ 9 km.
  • Future Park รังสิต ~ 9 km.
  • เมเจอร์ รังสิต ~ 9.3 km.
  • Tesco Lotus รังสิต ~ 10.2 km.

  • สถานศึกษา
    • รร.โชคชัยรังสิต ~ 7.2 km.
    • ม.นอร์ทกรุงเทพ ~ 11 km.
    • ม.รังสิต ~ 11.8 km.
    • ม.กรุงเทพ ~ 15 km.
    • ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ~ 20 km.

  • สถานพยาบาล
    • รพ.สินแพทย์ ลำลูกกา ~ 5 km.
    • รพ.บางปะกอก-รังสิต2 ~ 7.4 km.
    • รพ.ภูมิพลอดุลยเดช ~ 8.5 km.
    • รพ.เปาโล รังสิต ~ 9.5 km.

    รายละเอียดโครงการ

    บริทาเนีย คูคต สเตชั่น เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดขนาดกลาง มีบ้านอยู่ 138 หลัง ตั้งบนที่ดินขนาดประมาณ 21 ไร่ครึ่ง โดยแรงบันดาลใจในการออกแบบนั้นมาจากสไตล์ที่มีชื่อว่า English Modern Classic โดยการนำเอาองค์ประกอบสถาปัตยกรรมในอังกฤษมาลดทอนรายละเอียดลงให้ดูทันสมัยมากขึ้นค่ะ โดยสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยคือตัวพื้นที่ส่วนกลางและ Clubhouse ที่ส่วนตัวเรามองว่าให้ฟังก์ชันมาได้หลากหลาย และการตกแต่งดูสวยงามน่าใช้งานเทียบเท่ากับ Facility ของโครงการที่เป็นคอนโดมิเนียมสมัยใหม่หลายๆตัวได้เลย ซึ่งจุดนี้ก็ค่อนข้างแตกต่างกับโครงการจัดสรรอื่นที่อยู่ในละแวกนี้ค่ะ

    **รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะ

    มาดูที่ Master Plan ของ บริทาเนีย คูคต สเตชั่น กันก่อน ตัวโครงการจะมีทางเข้าออกอยู่จุดเดียวจากลำลูกกาซอย 13 ซึ่งเป็นถนน 2 เลน ทางค่อนข้างเรียบ ห่างจากถนนลำลูกกาหลักประมาณ 600 เมตร ซึ่งโครงการนี้จะมีโปรดักส์อยู่ 2 แบบคือบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด บ้านเดี่ยวจะถูกจัดวางให้อยู่แปลงที่ใกล้กับถนนหลักในโครงการค่ะ หน้าบ้านทุกหลังจะหันหน้าไปยังทิศเหนือ-ใต้ เพื่อรับลม ทางฝั่งขวาของถนนที่เห็นจะเป็นโซนที่เปิดขายก่อน ตอนนี้ขายเกือบหมดแล้วค่ะ เป็นฝั่งที่ในแต่ละซอยจะมีจำนวนยูนิตไม่มาก ได้ความเป็นส่วนตัวกว่า ปัจจุบันกำลังเปิดขายเฟสทางฝั่งซ้ายด้านในอยู่ค่ะ โดยโครงการนี้เป็นโครงการที่ไม่ได้ใหญ่มาก และจัดส่วนกลางไว้กลางโครงการ จะอยู่ตำแหน่งไหนก็มาใช้งานได้สะดวกนะคะ

    โดยพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้เราจะขอแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ พื้นที่กลางแจ้งที่จะมีสวนสาธารณะ สนามบาส สนามเด็กเล่น และสระว่ายน้ำที่อยู่ติดกับอาคาร Clubhouse และอีกส่วนจะเป็นฟังก์ชันที่อยู่ในร่มประกอบด้วยฟิตเนส, Living Space, Function Room, Yoga Room และ Kids room เราลองไปดูพื้นที่ส่วนกลาง และบรรยากาศภายในโครงการกันค่ะ

    เริ่มกันที่ประตูทางเข้าโครงการกันก่อนเลยค่ะ ตรงนี้จะเป็นซุ้มประตูทางเข้าขนาดใหญ่ มีหลังคาปกคลุม แยกทางเข้า-ออกคนละฝั่งและมีป้อมยามอยู่ตรงกลางค่ะ สำหรับทางเข้าที่อยู่ซ้ายมือก็จะแบ่งออกเป็น 2 ช่องเช่นกัน สำหรับลูกบ้านช่องซ้ายริม และผู้มาเยือนที่ต้องแลกบัตรอยู่ใกล้กับรปภ.

    บริเวณนี้จะมีทั้งไม้กั้นกระดกและประตูบานเลื่อนอัตโนมัติค่ะ

    วิธีการเข้า-ออก ก็จะใช้ Key card ระยะใกล้(เปิดกระจกแตะบัตร) เพื่อที่จะให้กล้องวงจรปิดเห็นหน้าตาคนเข้า-ออกด้วยค่ะ และไม่ต้องกลัวเปียกนะคะเพราะบริเวณนี้จะมีหลังคาปกคลุมอยู่ค่ะ ส่วน CCTV จะติดตั้งที่บริเวณทางเข้า-ออกทั้งหมด 6 ตัว

    นอกจากทางเข้ารถแล้วยังมีทางเดินคนเป็นประตูและทางเดินแยกมาให้ค่ะ เผื่อใครอยากเดินไปซื้อของกินที่ 7-eleven ใกล้ๆ ก็มีทางเข้า-ออกแยก

    จากประตูรั้วเข้ามาจะเจอกถนนช่วงแรกที่กว้าง 14.8 เมตรค่ะ โดยพื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ทางซ้ายมือของเรา ส่วนทางขวามือและลึกเข้าไปจะเป็นส่วนของที่พักอาศัย

    บ้านทุกหลังจะตั้งอยู่ในซอยย่อยที่มีถนนขนาดกว้าง 8 เมตรค่ะ การที่ตัวบ้านหันหน้าเข้าในซอยย่อยทั้งหมดก็จะช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวของบ้านแต่ละหลังด้วย ไม่มีรถผ่านหน้าบ้านวุ่นวาย และจะถอยรถเข้า-ออกจากตัวบ้านก็สะดวกมากขึ้นค่ะ

    เราจะพาไปดูพื้นที่ส่วนกลางกันก่อนนะค่ะ พื้นที่ส่วนกลางของที่นี่ได้ขนาดค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ รวมแล้วประมาณ 2 ไร่ เป็นพื้นที่ Clubhouse 1 ไร่ และพื้นที่สีเขียวอีก 1 ไร่

    กลางสวนจะมีป้ายแบรนด์โครงการตั้งอยู่หน้าน้ำพุที่อยู่ด้านหลัง ตัวน้ำพุนี้เรามองว่าในการใช้งานจริงจะช่วยให้พื้นที่รอบๆได้ความเย็นเพิ่มขึ้น ชุ่มชื้นขึ้นนะคะ

    หันมาทางซ้ายมือ จะมีสนามบาสอยู่ เหมาะกับการใช้งานทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยค่ะ ใช้ออกกำลังกายหรือสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัวหรือกับเพื่อนบ้านได้ด้วย

    สนามดูแล้วสามารถใช้งานออกกำลังกายได้นะคะ มีรั้วรอบกันไม่ให้ลูกบาสกระเด้งกระดอนไปไกลด้วย

    เดินกลับมาที่สวนอีกครั้ง นอกจากสนามหญ้าและต้นไม้แล้ว ยังมีซุ้มทางเดินกับเครื่องเล่นให้เด็กวางอยู่กลางสนามด้วยค่ะ

    เครื่องเล่นเด็กสีสันสดใส รองรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก มาวิ่งเล่นใช้งานได้ทุกวันไม่ต้องไปไหนไกลค่ะ

    อีกส่วนที่เป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยก็คือ Clubhouse 2 ชั้นที่ตั้งอยู่กลางโครงการ สิ่งที่เราว่าดีคือในโครงการบ้านที่มีจำนวนยูนิตประมาณนี้ (ไม่ถึง 150 หลัง) และเป็นบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอย 140-160 ตร.ม.ด้วย เราไม่ค่อยเจอโครงการที่ให้ Clubhouse ขนาดเท่านี้มาเลยนะคะ ตัวอาคารก็ถือว่ามีการออกแบบดี อิงกับแนวคิด English Modern Classic ดูสวยงาม เป็นหน้าเป็นตาของหมู่บ้านได้

    ตัวอาคารจะมีผังรูปตัว L โอบล้อมสระว่ายน้ำเอาไว้ค่ะ ตำแหน่งจะอยู่ใกล้กับพื้นที่สีเขียว ฟังก์ชันข้างในก็สามารถใช้งานและมองเห็นวิวสวนได้ด้วยค่ะ

    สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ ขนาด 17.5 x 8 เมตร แยกสระเด็กด้วยค่ะ

    พื้นที่รอบๆสระก็จะมีการวางเตียงริมสระ มีจุดล้างตัวก่อนและหลังลงสระ และมีต้นไม้ปลูกเพื่อสร้างบรรยากาศให้ตัวสระว่ายน้ำร่มรื่นมากขึ้น

    ในอาคาร Clubhouse นี้จะรวมตำแหน่งห้องน้ำไว้ที่ชั้น 1 ค่ะ แยกชาย-หญิง และมีห้องสุขาสำหรับคนพิการไว้ให้

    ดูที่ห้องน้ำชายก่อนด้านในตกแต่งออกมาดูดีนะคะ มีฟังก์ชันใช้งานครบ ขนาดกว้างขวาง

    นอกจากห้องสุขา ห้องอาบน้ำแล้ว ยังมีส่วนที่เป็น Locker ให้เก็บของด้วย สำหรับคนที่มาออกกำลังกายหรือว่ายน้ำ

    ส่วนห้องน้ำหญิงนั้นก็จะตกแต่งด้วยโทนเดียวกันค่ะ

    มีมุมที่เป็นกระจกเงาไว้ให้ ส่องได้เต็มตัว

    ห้องอาบน้ำ / ห้องสุขา / Locker Area

    เราลองมาดูบรรยากาศภายใน Clubhouse ส่วนอื่นๆกันต่อค่ะ ในการออกแบบองค์ประกอบทางสถาปัตย์ของ Clubhouse นั้นก็มีการดึงเอาเส้นโค้งมาใช้ เช่น ชุดประตูกระจกเป็น ต้น (จุดนี้ค่าก่อสร้างจะสูงกว่ารูปแบบที่เป็นเหลี่ยมทั่วไปนะคะ)

    ส่วนแรกที่เราจะเจอเมื่อเข้ามาเลยคือ Living Space ค่ะ เป็นส่วนที่มีความสูงแบบ Double  Volume สูง 7 เมตร บรรยากาศจึงดูโปร่งโล่ง

    มีการจัดมุมโซฟาพักผ่อนเอาไว้ให้หลายชุด ใครที่มีแขกมาหาที่บ้านแต่รองรับไม่พอก็ชวนมานั่งคุยที่ Clubhouse แทนได้นะคะ

    เราว่าการออกแบบพื้นที่ส่วนนี้นั้นไม่ได้มีกระจกล้อมรอบเยอะจนร้อนและสูญเสียความเป็นส่วนตัว ถือว่ามานั่งใช้งานได้ไม่เขินค่ะ

    เข้าไปด้านในจะมีฟังก์ชันอื่นๆอีก ที่ชั้น 1 จะเป็น Kids Room และชั้น 2 เป็น Function Room, Yoga Room และ Fitness

    ภายใน Kids Room จะมีการตกแต่งด้วยสีสันสดใส และเฟอร์นิเจอร์ขนาดที่เหมาะกับการใช้งานของเด็กเล็ก

    มีกระดานไว้ให้ใช้งานด้วยค่ะ คุณพ่อ คุณแม่สามารถมาสอนอะไรสนุกๆให้ลูกที่ตรงนี้ได้นะ

    ขึ้นมาดูที่ชั้น 2 กันค่ะ ส่วนนี้จะเป็น Function Room เป็นพื้นที่เหมาะกับการมานั่งทำงานหรือคุยงาน ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

    ภายในห้องจะมี Counter Bar เอาไว้ด้วย ซึ่งตรงนี้ก็จะมีอ่างล้างจาน ไมโครเวฟ ตู้เย็น เผื่อใครมานั่งทำงานหรือคุยงานนานๆ ก็สามารถเอาอาหารเครื่องดื่มมาแช่ไว้ หิวแล้วค่อยอุ่นเพื่อทานรองท้องได้ด้วยค่ะ

    ใกล้ๆกันจะมี Yoga Room อยู่ ห้องนี้เรามองว่าเป็น Studio โล่งที่เหมาะกับการมาเล่นโยคะ หรือว่าจะเต้นออกกำลังกายก็ได้นะคะ เพราะนอกจากอุปกรณ์ที่ให้มาอย่างบอล และเสื่อโยคะ ก็จะมีทีวีติดตั้งเอาไว้ให้ด้วย เผื่อมีใครจะเปิดคลิปดูแล้วเล่นตาม ไม่ต้องเสียเงินไปฟิตเนสข้างนอกค่ะ

    ตัวห้องมีขนาดใหญ่พอสมควรเลย จะชวนเพื่อนบ้านรวมตัวกัน จ้างเทรนเนอร์มาสอนเป็นกลุ่มด้วยก็ได้นะคะ ตรงนี้มี Locker เอาไว้ให้เก็บของเช่นกันค่ะ

    และห้องสุดท้ายของ Clubhouse ที่เราจะพาไปดูกันคือฟิตเนสค่ะ ห้องนี้เป็นอีกห้องที่ใหญ่เลย

    มีอุปกรณ์เตรียมไว้ให้เยอะและหลากหลายประเภทมากค่ะ เราชอบนะคะ ไม่ต้องกลัวรถติดถ้าจะต้องออกจากบ้านไปฟิตเนส และไม่ต้องมีข้ออ้างว่าบ้านไกลไม่มีที่ออกกำลังกายอีกต่อไปด้วยค่ะ

    จากห้องฟิตเนสมองลงมาเป็นวิวสระว่ายน้ำ

    และวิวอีกฝั่งจะเป็นสวนสาธารณะค่ะ

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • พื้นที่ส่วนกลางรวม 2 ไร่ แบ่งเป็น Clubhouse 1 ไร่ และพื้นที่สีเขียว 1 ไร่
    • Clubhouse

    • Living Space สูง 7 เมตร
    • Yoga Room
    • Function Room (Meeting Room)
    • Kids Room
    • Fitness
    • สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 17.5 x 8 เมตร

  • ถนนหลักในโครงการ 12 – 15 เมตร
  • ถนนรองในโครงการ 8 เมตร
  • ระบบรักษาความปลอดภัย

    • (ในโครงการ) ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและประตูเลื่อนอัตโนมัติ
    • (ในโครงการ) Key Card Access ระยะใกล้
    • (ในโครงการ) ระบบ CCTV ที่ Main Gate 6 ตัว
    • (ในโครงการ) เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
    • (ในโครงการ) รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
    • (ในบ้าน) ประตู Digital Door Lock เปิดโดย pin code, key card and key
    • (ในบ้าน) สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor ที่ประตูหน้าต่างชั้น 1 ทุกหลัง
    • (ในบ้าน) IP Camera  2 จุด (ที่จอดรถ และ Living Area)

    แบบบ้าน

    สำหรับแบบบ้านในโครงการ บริทาเนีย คูคต สเตชั่น จะมีอยู่ทั้งหมด 2 แบบค่ะ เป็นบ้านแฝดที่ชื่อว่า BRIXTON และบ้านเดี่ยวที่มีชื่อว่า HAMILTON โดยจะมีแบบบ้านแฝดมากกว่าบ้านเดี่ยวนะคะ 

    • BRIXTON บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 35.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม.
      – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ครัวไทย 2 ที่จอดรถ
      – ราคาเริ่มต้น 5.29 ล้านบาท
    • HAMILTON บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม.
      – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ครัวไทย 2 ที่จอดรถ
      – ราคาเริ่มต้น 7.35 ล้านบาท

    บ้านทุกหลังของโครงการนี้จะมีระบบรักษาความปลอดภัยมาให้ด้วย คือ Digital Door Lock, IP Camera 2 จุด ที่จอดรถและ Living Area, Magnetic Sensor ที่ประตูหน้าต่างชั้น 1 ค่ะ โดยเราสามารถดูภาพจากกล้องวงจรปิดผ่านทาง Application ได้ และจะมีระบบ Home Automation ภายในบ้านด้วย(สอบถามข้อมูลเพิ่มกับโครงการอีกครั้งนะคะ)

    ความแตกต่างของบ้านทั้ง 2 แบบมีดังนี้ค่ะ

    1. พื้นที่ใช้สอย บ้านเดี่ยวจะใหญ่กว่าบ้านแฝด 20 ตร.ม. ที่ชั้น 1 จะมีพื้นที่เพิ่มมาตรงส่วนรับประทานอาหาร จุดนี้สามารถปรับพื้นที่ กั้นห้องเพิ่ม เพื่อใช้งานเป็นห้องนอนอีกห้อง หรือห้องทำงานได้ค่ะ
    2. ขนาดที่ดิน ตามกฎหมายแล้วบ้านแฝดต้องมีที่ดินอย่างน้อย 35 ตร.วา ส่วนบ้านเดี่ยวจะต้องมีที่ดินอย่างน้อย 50 ตร.วา แต่ด้วยตัวบ้านขนาดต่างกันไม่มาก คนที่ซื้อบ้านเดี่ยวก็จะได้ข้อดีที่มีพื้นที่ดินข้างบ้านที่มีขนาดใหญ่ ลงต้นไม้ใหญ่ได้ และถือว่าเป็นพื้นที่ที่สามารถก่อสร้าง ต่อเติมได้อีกในอนาคตค่ะ(เดี๋ยวมีรูปให้ดูจากบ้านตัวอย่างค่ะ)
    3. ส่วนครัวไทยถ้าเป็นบ้านแฝดจะมีผนังที่ติดกับข้างบ้าน แต่ถ้าเป็นบ้านเดี่ยวจะเว้นระยะเอาไว้ให้ค่ะ
    4. ฟังก์ชันและตำแหน่งการจัดวางของทั้ง 2 แบบจะเหมือนกัน แต่ว่าขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในแต่ละห้องของบ้านเดี่ยวจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อยค่ะ

    BRIXTON

    รีวิวนี้เราจะพาไปดูบ้านแบบ BRIXTON ที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดในโครงการ บริทาเนีย คูคต สเตชั่น ก่อนค่ะ สำหรับแบบบ้านนี้จะเป็นบ้านแฝด ที่ออกแบบให้ส่วนที่อยู่ติดกับข้างบ้านเป็นผนังของส่วนครัวไทยค่ะ โดยที่ตำแหน่งของครัวไทยนี้จะอยู่ภายนอกบ้านด้วย ดังนั้นแบบบ้านนี้จะเป็นบ้านแฝดที่ยังเดินได้รอบบ้านเหมือนกับบ้านเดี่ยวเลยนะคะ

    มาดูที่ชั้น 1 กันก่อน ตัวบ้านจะถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งค่ะ ฝั่งที่จอดรถจะเป็นพื้นที่ส่วนบริการของบ้าน เป็นตำแหน่งบันได ห้องน้ำ ครัว ในขณะที่อีกฝั่งจะจัดเป็นพื้นที่โล่ง มีกระจกสามฝั่ง หน้าบ้าน หลังบ้าน และข้างบ้าน ตรงนี้จะเป็น Common Area จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น/รับแขก พื้นที่กินข้าว และเพิ่มเติมมุมทำงานได้สบายค่ะ ลมพัดผ่านได้ แสงสว่างทั่วถึง

    ส่วนที่ชั้น 2 จะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องที่ใช้ห้องน้ำร่วมกัน และห้องนอนใหญ่ 1 ห้องค่ะ โดยทั่วไปเรามักจะเจอการจัดห้องที่นำเอาห้องนอนใหญ่มาไว้ฝั่งหน้าบ้าน เพื่อให้เห็นวิวที่กว้างขึ้น แต่ว่าในบางครั้งบางฟังก์ชันที่ไม่จำเป็นห้องเห็นวิว เช่น พื้นที่แต่งตัว ก็ถูกนำมาไว้ฝั่งหน้าบ้านเช่นกันค่ะ ซึ่งในบ้านของโครงการนี้นั้น จะมีห้องนอน 2 ห้องที่ได้วิวหน้าบ้าน ซึ่งดีเลยค่ะ และอีกจุดที่น่าสนใจคือ ห้องนอนทุกห้อง จะมีหน้าต่างสองด้านผนังห้อง ช่วยให้ระบายอากาศภายในห้องได้ดีขึ้นด้วยค่ะ

    สำหรับบ้านแบบนี้เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก 2-4 คน และมีข้อคำนึงตรงที่บ้านก่อสร้างโดยใช้ระบบ Pre-cast จึงมีข้อจำกัดเรื่องการต่อเติม ทุบ ดัดแปลง และในบางห้องที่มีขนาดกะทัดรัด เช่น ห้องนอนเล็ก การจัดวางภายในอาจจะต้องจัดตามแบบที่ลงไว้ในแปลนเท่านั้น เพราะทางโครงการได้คำนึงถึงการใช้งานและออกแบบช่องแสง งานระบบต่างๆสำหรับใช้งานได้พอดีค่ะ (สังเกตจากขนาดเตียง ตำแหน่งโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าจะเปลี่ยนตำแหน่งได้ยาก และไม่พอดีกับการใช้งานเท่าแบบที่วางเอาไว้ให้นั่นเอง)

    มาดูตัวบ้านกันค่ะ รูปแบบบ้านดูแล้วเป็นบ้าน 2 ชั้น หน้ากว้างประมาณ 11 เมตร เน้นโทนสีขาว-เทา ตรงรั้วบ้านจะมีห้องขยะไว้ให้ด้วย จุดนี้ถือว่าเป็นข้อดีค่ะ ในซอยบ้านก็จะดูเรียบร้อย

    รั้วบ้านจะเป็นบานพับเลื่อนได้สองฝั่ง เปิดได้สุดเลยค่ะ ส่วนรั้วจะมีทั้งส่วนทึบและโปร่งสูง 1.70 เมตร

    ที่จอดรถกว้าง 3 เมตร ส่วนที่อยู่ในร่มจะอยู่ที่ระยะ 3.5 เมตร โดยพื้นที่จอดรถจะมีการลงเสาเข็ม 6 เหลี่ยม ลึก 3 เมตร ตำแหน่งตามที่เห็นเลยค่ะ

    สำหรับบ้านแฝดส่วนที่อยู่ติดกับเพื่อนบ้านจะเป็นส่วนครัวที่ชั้น 1 เท่านั้น และพื้นที่ส่วนนี้ถือว่าเป็นพื้นที่นอกตัวบ้าน ดังนั้นเราสามารถเดินได้รอบบ้านอยู่นะคะ

    พื้นที่ด้านข้างบ้านจะเว้นระยะไว้ประมาณ 2 เมตรค่ะ ยังสามารถลงต้นไม้ได้นะคะ ส่วนพื้นที่หลังบ้านก็จะจัดเป็นมุมซักล้าง ลงเสาเข็มไว้ให้เช่นเดียวกับที่จอดรถ เพื่อป้องกันการทรุดตัวนั่นเอง

    ถัดไปก็จะเดินผ่านครัวไทยกลับไปยังที่จอดรถได้ค่ะ ส่วนครัวไทยนี้ ถ้าบ้านไหนอยากทำเป็นครัวปิดก็แค่หาประตูมาติดเพิ่มก็จะได้ครัวปิดแล้วค่ะ แต่ถ้าไม่ติดประตูเพิ่มก็จะมีข้อดีที่ระบายอากาศ กลิ่น ควันจากการทำอาหารได้ง่าย

    ก่อนที่จะเข้าไปดูในตัวบ้าน หน้าบ้านจะมีเฉลียงยกระดับขึ้นมาจากสวนด้านหน้าค่ะ ข้างๆจะออกแบบเป็นม้านั่งไว้ให้ เผื่อใครนั่งเล่น วางของ หรือใส่รองเท้าก่อนออกจากบ้านก็ได้

    ประตูทางเข้าจะเป็นบานเลื่อน 2 ตอน เลื่อนได้ทั้งซ้ายและขวาค่ะ มี Digital Door Lock มาให้ด้วย เปิดได้ 3 ระบบ password, keycard และกุญแจ

    ที่ชั้น 1 เมื่อเข้ามาจะเป็นส่วน Common Area หน้ากว้าง 3.4 เมตรลึก 7.25 เมตรค่ะ พื้นที่ส่วนนี้จะสูง 2.65 เมตร พื้นเป็นกระเบื้องขนาด 60×60 cm. ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ไฟดาวน์ไลท์ LED

    จัดเป็นมุมนั่งเล่น/รับแขก และมุมรับประทานอาหารต่อเนื่องกันไปได้ค่ะ ส่วนรับแขกมีขนาดประมาณ 2.4 x 3.4 เมตร

    ระหว่าง 2 ฟังก์ชันจะมีประตูบานเลื่อน เปิดเชื่อมไปยังสวนด้านข้างบ้านได้

    ด้านในสุดเป็นตำแหน่งรับประทานอาหาร จัดโต๊ะกินข้าวได้ 6-8 ที่นั่งเลยทีเดียว

    หันไปทางขวาจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ของบ้าน ห้องน้ำ และห้องครัวค่ะ เราชอบที่การออกแบบกั้นบังทางเข้าห้องน้ำเอาไว้ดูแยกเป็นสัดส่วนดีค่ะ

    โดยระหว่างพื้นที่กินข้าวกับครัวที่อยู่ในบ้านจะเจาะช่องเอาไว้ เป็นเหมือนช่องส่งอาหารเล็กๆ เพื่อเชื่อมต่อพื้นที่สองส่วนเข้าด้วยกัน

    เดินเข้ามาจะเจอกับห้องน้ำและห้องครัวในตัวบ้าน

    ห้องน้ำถือว่ากว้างเลยค่ะ มีพื้นที่อาบน้ำให้มาด้วย ถ้าบ้านไหนคิดว่าใช้งานบ่อยแน่ๆก็อาจจะติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มก็ดีนะคะ

    ชุดสุขภัณฑ์เป็นของ Cotto ค่ะ อ่างล้างหน้าเป็นแบบแขวนผนังแต่ก็มีขอบผนัง Low wall ด้านหลังวางอุปกรณ์ล้างมือหรือของตกแต่งได้ด้วย ส่วนบริเวณโถสุขภัณฑ์จะมีปลั๊กแบบมีฝาครอบไว้ให้ด้วย นอกจากนั้นจะเป็นรุ่นที่ใช้ USB Port ได้ นั่งทำธุระส่วนตัวไปได้พร้อมกับเล่นและชาร์จโทรศัพท์ไปพร้อมกัน

    มาดูที่ครัวภายในบ้านกันค่ะ ส่วนนี้จะไม่ได้ก่อเคาน์เตอร์ไว้ให้ แต่จะมีการเดินงานระบบเอาไว้ เผื่อก่อเคาน์เตอร์ทำอ่างล้างจาน วางเตาอบ เตาไมโครเวฟ ตู้เย็น หรือจะวางเครื่องซักผ้าก็ได้นะคะ พื้นที่ตรงนี้มีขนาด 3.35 x 1.6 เมตร

    เปิดประตูออกมาจะเชื่อมกับครัวไทยข้างบ้านค่ะ จุดนี้เรามองว่าดีเลยค่ะ เพราะในบ้านส่วนใหญ่ที่ขายกันมักจะไม่มีให้ ในการอยู่อาศัยจริงก็ต้องเผื่องบประมาณและเวลาสำหรับก่อสร้างต่อเติมครัวอีก แต่โครงการนี้ที่ราคาสูงกว่ารอบๆก็จะมีครัวไทยให้มาด้วยนะ โดยจะก่อเคาน์เตอร์ให้แบบนี้ มีอ่างล้างจาน และผนังด้านหลังที่ติดกระเบื้องไว้ให้เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาดค่ะ

    ส่วนตัวบันไดของที่นี่จะเป็นบันไดคอนกรีตเสริมเหล็กค่ะ เวลาเดินจะได้สัมผัสที่ดูมั่นคงกว่าบันไดโครงสร้างเหล็กนะคะ ขึ้นมาที่ชั้นสอง วัสดุที่จะเปลี่ยนจากชั้น 1 คือพื้นค่ะ จะเป็นลามิเนตหนา 8 มม. และความสูงอยู่ที่ 2.70 เมตร

    มาดูห้องแรก จะเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่ติดกับบันไดเลย เป็นห้องเดียวที่อยู่ฝั่งหลังบ้านค่ะ ห้องนี้มีขนาด 2.50 x 3.20 เมตร ในบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นไอเดียว่า ถ้าไม่ใช้เป็นห้องนอน ก็สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นเพิ่มเติมได้ค่ะ

    จุดที่เราชอบคือหน้าต่าง 2 ฝั่งผนัง ที่จะช่วยให้การระบายอากาศภายในห้องทำได้ดีขึ้น และได้แสงสว่างเพิ่มขึ้นค่ะ

    ส่วนข้อจำกัดของห้องนี้คือหน้ากว้างที่กว้าง 2.5 เมตร ทำให้สามารถวางเตียงได้ไม่เกิน 3.5 ฟุตนะคะ

    ติดกันจะเป็นห้องน้ำค่ะ โดยห้องนี้จะใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ภายในแยกพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้งเอาไว้ มีหน้าต่างเป็นช่องแสงและช่วยระบายอากาศค่ะ พื้นที่ส่วนอาบน้ำมีขนาด 86 x 140 cm. จัดว่าเป็นระยะที่ใช้งานหมุนตัวสะดวก ได้กระจกเงาบานใหญ่ด้วยค่ะ นอกจากส่องได้เต็มที่แล้วยังช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นด้วยนะ

    ก่อนที่จะไปดูห้องนอนใหญ่ เราดูห้องนอนเล็กทางฝั่งหน้าบ้านกันค่ะ ห้องนี้จะมีพื้นที่มากกว่าห้องที่แล้วนะคะ มีขนาด 2.5 x 3.7 เมตร การจัดวางอาจจะไม่ได้ปรับอะไรได้มาก แต่จะมีพื้นที่ปลายเตียงมากขึ้นค่ะ

    จุดเด่นของห้องนี้คือกระจกบานใหญ่ที่เปิดมุมมองได้กว้าง และทำให้ห้องนี้สว่างมากค่ะ ในการจัดวางใช้งานจริงอาจจะต้องเว้นระยะติดผ้าม่านเอาไว้ด้วยนะคะ เพราะกระจกเองมีทั้งข้อดีและข้อเสียนะ อย่างข้อเสียคือสำหรับคนนอนตื่นสายก็อาจจะได้รับไอความร้อนมาก นอนไม่สบาย

    พื้นที่ปลายเตียงที่กว้างขึ้นเราจะวางตู้เสื้อผ้าหรือชั้นวางของ วางทีวีเพิ่มได้ค่ะ มีระยะเดินปลายเตียงสบาย

    มาดูห้องสุดท้ายกันนั่นคือ Master Bedroom ค่ะ ห้องนี้จะกินพื้นที่ตั้งแต่หน้าบ้านไปถึงหลังบ้านเลย และมีระเบียงส่วนตัวในห้องด้วยค่ะ

    พื้นที่ส่วนพักผ่อนจะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน มีขนาด 3.40 x 3.85 เมตร ตำแหน่งการวางเตียงค่อนข้างตายตัวค่ะ เพราะมีหน้าต่างและปลั๊กไฟขนาบข้างเตียงพอดี แต่เราสามารถเลือกขนาดเตียงเล็กหรือใหญ่ได้นะคะ

    พื้นที่รอบๆเตียงมีระยะกว้างพอสมควร เดินรอบได้สบาย วางตู้วางของหรือชั้นวางทีวีไว้ที่ปลายเตียงได้ รวมไปถึงโต๊ะหัวเตียงทั้งสองฝั่งค่ะ

    ระเบียงจะยาวเต็มความกว้างของห้อง กว้างประมาณ 60 cm. ปลูกต้นไม้กระถางเล็กๆเพิ่มความสดชื่นหรือมุมมองสีเขียวให้กับภายในห้องนอนได้ค่ะ

    มองเข้าไปอีกฝั่งทางหลังบ้านจะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำและ Walk-in Closet

    หน้าห้องนี้จะกั้นผนังเอาไว้ให้สำหรับจัดเป็นตู้เสื้อผ้า สามารถวางตู้ที่มีความยาว 2.6 เมตรได้พอดีค่ะ

    เข้ามาดูภายในห้องน้ำกันค่ะ ในห้องน้ำจะมี Layout คล้ายกับห้องน้ำที่พาไปดูก่อนหน้า แต่จะมีการอัพเกรดรุ่นของสุขภัณฑ์ให้ดีขึ้นค่ะ

    ด้านหลังอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์มีขอบผนังที่วางของได้ มีปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบให้มาพร้อม USB port เผื่อชาร์จโทรศัพท์หรือไดร์ผมก็ใช้ในห้องน้ำได้เลยค่ะ พื้นที่อาบน้ำจะกั้นผนังไว้ส่วนหนึ่ง หาฉากกั้นมาติดเพิ่มก็จะดีนะคะ อาบน้ำอะไรก็จะไม่ไหลเลอะมายังด้านนอก พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 80×160 cm. ใช้งานหมุนตัวได้สะดวกค่ะ


    HAMILTON

    มาต่อกันกับบ้านเดี่ยว HAMILTON ค่ะ อย่างที่บอกไปตอนต้นคือแบบบ้านจะเหมือนกันกับบ้านแฝดค่ะ โดยที่ชั้น 1 จะมีพื้นที่ด้านข้างบ้านยื่นออกมา และขนาดของแต่ละห้องที่ใหญ่ขึ้นทำให้การใช้งานก็จะสบายมากขึ้นค่ะ โดยชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ Common Area ที่โล่งต่อเนื่องกันตั้งแต่พื้นที่รับแขก/นั่งเล่นที่อยู่ฝั่งหน้าบ้าน ไปยังพื้นที่กินข้าวด้านหลังบ้าน และยังสามารถจัดมุมของพื้นที่ที่เพิ่มมาเป็นมุมทำงาน หรือจะกั้นเพิ่มเป็นห้องนอนก็ได้นะคะ ส่วนอีกฝั่งของตัวบ้านจะเป็นที่จอดรถ ครัว ใช้งานสะดวกเลย ซื้อของเข้าบ้านก็เดินตรงจากที่จอดรถไปยังครัวได้ ส่วนชั้น 2 จะเป็นห้องนอนค่ะ ฝั่งหนึ่งเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน และอีกฝั่งเป็น Master Bedroom

    บ้านเดี่ยวจะเป็นบ้านที่อยู่ตำแหน่งมุมถนนค่ะ ติดกับถนนหลักภายในโครงการ ใกล้กับ Clubhouse แต่ยังหันหน้าบ้านเข้าซอยเล็กอยู่นะคะ ได้ความเป็นส่วนตัวอยู่

    ตัวบ้านจะสูง 2 ชั้น ดีไซน์และขนาดพื้นที่ใช้สอยใกล้เคียงกับบ้านแฝด แต่ว่าบ้านเดี่ยวจะมีข้อดีเรื่องที่ดิน ที่จะได้ใหญ่ขึ้นค่ะ

    ส่วนประตูรั้วของบ้านเดี่ยวก็จะมีส่วนที่เป็นประตูที่จอดรถแบบบ้านพับรางเลื่อน เปิดสุดได้

    มีห้องวางถังขยะเป็นที่เป็นทาง มีกริ่งบ้าน ตู้จดหมายพร้อมบ้านเลขที่ และไฟส่องสว่างให้พร้อม และที่เพิ่มเติมมาจากบ้านแฝดคือประตูสำหรับคนเดินเข้าบ้านแยกจากประตูรั้วที่จอดรถ

    ที่จอดรถมีขนาดกว้าง 5 เมตร สามารถจอดรถขนาดปกติกับรถเล็กแบบ Eco car ได้ (เป็นรถที่พอดีจอดกับขนาดที่จอดรถค่ะ) > Check ขนาดที่จอดรถกับประเภทของรถเพิ่มเติมได้

    บริเวณที่จอดรถจะมีห้องเก็บของด้วย มีปลั๊กไฟ เผื่อต้องใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าบริเวณนี้ และก็จะมี IP camera ติดตั้งไว้ด้วยค่ะ สามารถดูผ่าน Application ได้นะ

    ทางเข้าบ้านจะอยู่ข้างกับที่จอดรถ มีเฉลียงหน้าประตูและม้านั่งเล็กๆค่ะ

    ด้านข้างบ้านฝั่งนี้จะมีพื้นที่เยอะหน่อยค่ะ จะมีจัดสวนมาตรฐานไว้ให้ ปูหญ้านวลน้อย ต้นมะฮอกกานี และไทรเกาหลีค่ะ แต่ด้วยขนาดที่ดินแล้วก็สามารถจัดสวน หรือจัดเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมอื่นๆได้นะคะ หรือใครจะต่อเติมเป็น Glass house ก็ดูดี

    ด้านหลังบ้านจะเป็นพื้นที่ซักล้าง โดยจะลงเสาเข็มไว้ให้เหมือนกับที่จอดรถ มี Tank น้ำให้มาพร้อมค่ะ

    เราลองเข้ามาดูภายในบ้านตัวอย่างกันค่ะ Common Area จะอยู่ตั้งแต่หน้าบ้านไปยังหลังบ้านนะคะ ครัวจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ

    ส่วนนั่งเล่น/รับแขกจะอยู่ใกล้กับทางเข้าบ้าน มีพื้นที่ประมาณ 3.4×2.6 เมตรค่ะ วางโซฟารูปตัว L หรือจัดชุดโซฟา 3-4 ที่นั่งได้นะคะ

    ถัดเข้าไปจะเป็นพื้นที่กินข้าวค่ะ ในบ้านตัวอย่างจะกั้นห้องเพิ่มเป็นไอเดียการตกแต่งและปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติม ดังนั้นจึงจัดโต๊ะกินข้าวขยับขึ้นมาใกล้กับโซฟาค่ะ เป็นโต๊ะกินข้าวขนาด 4 ที่นั่ง

    ติดกันจะเป็นประตูที่ออกไปยังสวนข้างบ้านได้

    เข้าไปด้านในสุดจะกั้นห้องนอนไว้อีกห้องเป็นไอเดียในการจัดพื้นที่ค่ะโดยหน้าห้องก็ยังสามารถจัดมุมนั่งเล่น ทำงาน หรือทำเคาน์เตอร์เก็บของเพิ่มเติมได้นะคะ

    ในห้องที่กั้นเป็นตัวอย่างนี้จะมีขนาด 2.5 x 2.375 เมตรค่ะ วางเตียง 3-3.5 ฟุตได้

    ตรงกันข้ามจะเป็นผนังที่เจาะช่องเชื่อมไปยังครัวเหมือนกับบ้านแฝดค่ะ ตรงนี้ตกแต่งเป็นพื้นที่เก็บของ และเคาน์เตอร์บาร์ส่วนตัวในบ้าน

    ห้องน้ำและครัวจะอยู่ด้านหลังผนังเมื่อสักครู่ค่ะ

    ภายในห้องน้ำมีขนาดกว้างเลย มีอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำค่ะ สุขภัณฑ์จะใช้ของ Cotto ห้องน้ำมีขนาด 1.90×1.80 เมตร

    ครัวที่อยู่ในบ้านจะมีขนาด 1.60 x 3.35 เมตร จัดวางเคาน์เตอร์ได้ 1 ฝั่งยาวเลย มีเดินงานระบบต่างๆให้พร้อม

    ออกจากครัวไปจะเป็นครัวไทยที่อยู่ด้านข้างบ้าน ใช้งานได้เต็มที่ ระบายอากาศได้ดี ไม่ต้องกลัวกลิ่นหรือควันไหลเวียนในบ้าน

    ขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ของบ้านค่ะ ตัวบันไดจะเป็นบันได คสล.กว้าง 90 cm. มีราวกันตกให้พร้อม

    มาที่ชั้น 2 ห้องแรกทางฝั่งหลังบ้านค่ะ ห้องนี้จะมีขนาด 2.5 x 3.2 เมตร

    วางเตียง 3.5 ฟุตได้แต่ต้องชิดผนังนะคะ เราชอบไอเดียการจัดที่ทำชั้นวางของและที่นั่งข้างหน้าต่างที่เก็บของด้านใต้ได้

    ปลายเตียงจะเป็นชั้นวางทีวีหรือว่าจะนำทีวีแขวนผนังก็ได้ค่ะ

    ห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันจะแยกพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้ง กว้าง 1.45 เมตร ใช้งานเข้า-ออกสะดวกค่ะ

    มาดูห้องนอนที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านกันต่อ ห้องนี้จะมีขนาด 2.5 x 3.75 เมตร

    พื้นที่รอบๆเตียงก็จะกว้างขึ้นจัดพื้นที่เก็บของ นั่งเล่น อ่านหนังสือ ตู้เสื้อผ้าได้เยอะเลย ถือว่าเป็นห้องที่โอเคเลยนะคะสำหรับการอยู่คนเดียว

    มาที่ห้องนอนใหญ่ค่ะฝั่งหน้าบ้านเป็นตำแหน่งวางเตียงนอน ฝั่งหลังบ้านเป็นห้องน้ำและพื้นที่แต่งตัว

    พื้นที่ส่วนพักผ่อนจะมีขนาด 3.415 x 3.9 เมตร ถือว่ากว้างเลย วางเตียงขนาดใหญ่ได้ มีทางเดินรอบๆ และสามารถจัดชั้นวางของไว้ข้างผนังฝั่งห้องน้ำ หรือที่ปลายเตียงได้อีก

    ตัวอย่างระยะข้างเตียงจากบ้านตัวอย่างถือว่ารอบๆกว้าง เดินได้สบายเลยนะคะ

    นอกจากนั้นห้องนอนนี้จะเป็นห้องเดียวของบ้านที่มีระเบียงส่วนตัวภายในห้องนอน ตัวระเบียงก็กว้างเต็มความกว้างของห้องเช่นกัน

    เข้าไปฝั่งด้านหลังห้องจะเป็นห้องน้ำ และพื้นที่ Walk-in Closet

    ส่วน Walk-in Closet จะยาว 2.5 เมตร มีทางเดินหน้าห้องน้ำและตู้เสื้อผ้าประมาณ 90 ซม. แนะนำให้เลือกดีไซน์ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนนะคะ จะได้ไม่เกะกะทางเดิน

    ภายในห้องน้ำก็จะมีหน้ากว้าง 1.6 เมตร ลึก 2.5 เมตร แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งจากกัน

    สุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto แต่จะอัพเกรดรุ่นให้ดีขึ้นกว่าห้องอื่นในบ้านค่ะ

    พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.80 x 1.60 เมตร ฝักบัวเป็นแบบมือจับ มี Junction Box เตรียมไว้ให้ สามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้สะดวกค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ใครอยากดูบ้านแบบ 360 องศา > คลิก

    ราคา

    August 2020

    • BRIXTON บ้านแฝด 2 ชั้น
      ที่ดินเริ่มต้น 35.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 140 ตร.ม. ราคา 5.XX ล้านบาท
    • HAMILTON บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
      ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม. ราคา 7.XX ล้านบาท
    • จองและทำสัญญา 10,000 บาท
    • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 93,500 บาท
    • ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
    • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
    • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
    • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้คะ

    บทสรุป

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
    โครงการตั้งอยู่ในซอยลำลูกกา 13 ห่างจากถนนลำลูกกาหลัก 600 เมตร ค่อนไปทางถนนพหลโยธิน ถือว่าเป็นทำเลที่เดินทางไปทางฝั่งดอนเมืองได้สะดวก และเป็นตำแหน่งที่อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีคูคตประมาณ 3 กม. ส่วนตัวจึงมองว่าการใช้รถก็ถือว่ามีตัวเลือกเส้นทางหลากหลาย แต่ถ้าไม่ใช้รถก็ยังเดินไปใช้งานรถสาธารณะที่เข้า-ออกลำลูกกาได้อยู่ไม่ลำบากมาก
    ส่วนความอุดมสมบูรณ์จัดว่ามีตัวเลือกเยอะ และมีตลาดและร้านสะดวกซื้ออยู่ในระยะที่เดินได้ แต่ถ้าจะมองในภาพใหญ่ขึ้นบนถนนลำลูกกา และ สายไหมเองก็มีตลาดค่อนข้างมาก Hyper Market อย่าง Lotus, Big-C ก็มีให้เห็นตลอด แต่ถ้าจะไปห้างใหญ่โซนนี้ก็คงหนีไม่พ้นโซนฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ที่มีให้ดูหนัง Shopping พักผ่อนวันหยุดได้ค่ะ

    ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
    ที่ทางเข้า-ออกของโครงการจะมีไม้กั้นกระดกและประตูบานเลื่อนอัตโนมัติอยู่ ใช้ Key-Card ในการเข้าออก และมีการติด CCTV ที่ทางเข้า 6 จุด ส่วนด้านในโครงการจะเน้นไปที่ตัวบ้านที่ให้ Digital Door Lock มา และมี IP Camera 2 จุดที่จอดรถและ Living Area ส่วนประตูหน้าต่างชั้น 1 ก็จะติด Magnetic Sensor ให้ด้วยค่ะ

    การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
    ตัวบ้านทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดออกแบบมาเหมือนกัน แตกต่างกันที่พื้นที่ใช้สอย 20 ตร.ม. ข้อดีคือการที่คิดถึงการใช้งานที่กำลังพอดีและครบมาในหลายจุด เช่น ลงเสาเข็มที่จอดรถและลานซักล้างมาให้เลย รวมไปถึงครัวไทยนอกตัวบ้าน ทำให้ไม่ต้องเผื่องบประมาณและเวลาในการออกแบบ หาช่างมาก่อสร้างต่อเติมทีหลัง นอกจากนั้นในตัวบ้านก็คำนึงถึงงานระบบที่ออกแบบมารองรับฟังก์ชันใช้งานพอสมควร เช่น การวางตำแหน่งปลั๊กไฟที่หัวเตียง ระดับความสูงของปลั๊ก หรือว่า Usb Port ที่เหมาะกับยุคสมัยในปัจจุบัน แต่ข้อจำกัดของบ้านสำหรับเราคือห้องนอนเล็กที่มีขนาดค่อนข้างกะทัดรัด อยู่ได้แค่ห้องละ 1 คน สำหรับเด็กเล็กอาจกำลังดี แต่ถ้าโตขึ้นอาจจะอึดอัดได้สำหรับห้องขนาดเล็ก (ความคิดเห็นส่วนตัว) ดังนั้นจึงเหมาะกับครอบครัวขนาด 2-4 คนไม่เกินนี้สำหรับบ้านแฝด และอาจเพิ่มห้องนอนที่ชั้น 1 ได้อีก 1 ห้องในกรณีที่ซื้อบ้านเดี่ยวค่ะ

    วัสดุ :
    ตัวบ้านก่อสร้างด้วยระบบ Pre-cast วัสดุให้มามาตรฐาน พื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้อง พื้นชั้น 2 ได้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ไฟได้เป็น LED ดาวน์ไลท์ ส่วนที่เป็นครัวไทยมีก่อเคาน์เตอร์และติดตั้งอ่างล้างจานให้ พร้อมกรุกระเบื้องที่ผนังเอาไว้ อาจจะทำชั้นวางของด้านบนและหน้าบานใต้เคาน์เตอร์เพิ่มเพื่อความเรียบร้อยและเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ค่ะ ส่วนในห้องน้ำได้กระจกเงาบานใหญ่ ขนาดห้องน้ำกำลังดี ปูกระเบื้องพื้นและผนังเรียบร้อย เลือกใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto เป็นส่วนใหญ่

    พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
    พื้นที่สีเขียวหลักในโครงการจะเป็นพื้นที่สวนที่อยู่ด้านหน้าโครงการ ส่วนด้านในโครงการที่เป็นโซนบ้านจะเห็นพื้นที่สีเขียวที่จัดไว้ให้ในบ้านแต่ละหลังแทน ส่วนตัวถนนขนาดกว้างใช้งานสะดวก หน้าบ้านทุกแบบมีห้องขยะออกแบบไว้ช่วยให้สองข้างถนนดูเรียบร้อยสวยงามขึ้น

    สาธารณูปโภค :
    ถือว่าให้มาหลากหลาย ออกแบบมาสวย น่าใช้งาน เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตพักอาศัยที่ไม่ถึง 150 หลัง โดยพื้นที่ส่วนกลางจะมีทั้ง indoor และ outdoor ส่วนที่อยู่กลางแจ้งมีขนาดประมาณ 1 ไร่ มีสวน มีน้ำพุ มีสนามเด็กเล่น และมีสนามบาสให้ออกกำลังกาย และส่วนที่อยู่ในร่มจะเป็น Clubhouse 2 ชั้น มีสระว่ายน้ำ มี Living ที่สูงแบบ Double space 7 เมตร มีห้องเด็กเล่น มีห้องทำงานที่เป็นสัดส่วนพร้อมเคาน์เตอร์บาร์ภายใน มีห้องโยคะ (จะเต้นก็ได้) และมีฟิตเนสที่ขนาดใหญ่พร้อมเครื่องเล่นหลายประเภท โดยที่มี Locker ให้เก็บของและมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำให้บริการที่ฟิตเนสด้วยค่ะ เรามองว่าส่วนกลางของที่นี่จัดเต็มมาให้เลยนะคะ

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 5 – 8 ล้านบาท, 20 August 2020

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – แม้จะอยู่ในซอยย่อย แต่ก็ใกล้กับถนนหลัก และใกล้รถไฟฟ้า ทำให้เดินทางด้วยรถสาธารณะสะดวก
    • ความปลอดภัย 8/10 – ทางเข้าเป็นรั้วไม้กั้นกระดกและรั้วบานเลื่อนอัตโนมัติ มี CCTV ที่ทางเข้า ตัวบ้านให้ Digital Door Lock, IP Camera และ Magnetic Sensor
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – ตัวบ้านออกแบบมาดีหลายจุด แต่มีข้อจำกัดเรื่องห้องนอนเล็กวางได้แต่เตียงเล็ก
    • วัสดุ 7.75/10 – มีการลงเสาเข็มที่จอดรถและลานซักล้าง พร้อมกับการทำครัวไทยให้
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.25/10 – เน้นไปที่สวนขนาดใหญ่ด้านหน้า ส่วนด้านในจะเป็นต้นไม้ที่ปลูกให้ในตัวบ้านแทน
    • สาธารณูปโภค 8.5/10 – Clubhouse 2 ชั้น ฟังก์ชันหลากหลาย ตกแต่งสวย น่าใช้งาน
    • 7.78 / 10.00 

    BOTTOM LINE

    บริทาเนีย คูคต สเตชั่น เป็นโครงการที่เหมาะกับคนที่มองหาบ้านย่านลำลูกกา อยู่ 2-4 คน  เป็นคนที่ชอบทำเลที่สะดวก เดินเท้าไปตลาดหรือร้านสะดวกซื้อได้ ทำเลใกล้รถไฟฟ้า เน้นเดินทางไปทางฝั่งดอนเมือง ตัวบ้านขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก แต่ได้ความสะดวกเรื่องไม่ต้องต่อเติมให้วุ่นวายภายหลัง และเน้นการใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง มีงบประมาณซื้อบ้าน 5-8 ล้านบาท (ยังไม่รวมค่าตกแต่งประมาณ 1-2 ล้านบาท) หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 35,000 – 56,000 บาทต่อเดือน


    ติดตามพวกเราได้ที่
    Websitewww.thinkofliving.com
    Twitterwww.twitter.com/thinkofliving
    YouTubewww.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagramwww.instagram.com/thinkofliving
    Facebook ThinkofLiving