รีวิวฉบับที่ 1400 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ ชีวารมย์ รังสิต-ดอนเมือง บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้นแบบหน้ากว้าง ที่มีจุดเด่นในเรื่องทำเล เพราะอยู่ใกล้กับ Future Park รังสิต เพียง 750 ม. และอยู่ใกล้กับถนนพหลโยธินมากที่สุด เมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ บนถนนรังสิต-นครนายกด้วยกัน โครงการเน้นบ้านขนาดใหญ่มีพื้นที่ใช้สอยมาก ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่ และคนที่ต้องการเดินทางเข้า-ออกเมืองด้วยถนนพหลโยธินเป็นหลัก ไม่อยากได้ทำเลบนถนนรังสิต-นครนายกลึกมากนัก เสียเวลารถติดค่ะ บรรยากาศภายในโครงการจะเป็นอย่างไร ไปชมกัน
Fact @ 02 August 2017
- Chewarom Rangsit-Donmueang (ชีวารมย์ รังสิต-ดอนเมือง)
- บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน)
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ถนนรังสิต-นครนายก อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
- เนื้อที่โครงการ 15-1-79 ไร่ จำนวน 81 ยูนิต
- บ้านเดี่ยว ชีวานันท์ ที่ดิน 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 238 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
- บ้านแฝด ชีวารินทร์ ที่ดิน 39 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- ราคาเริ่มต้น 4.99 ล้านบาท
- ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 80,000 บาท
- โครงการเริ่มก่อสร้าง : เมษายน ปี 2559
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ :ไตรมาส 2 ปี 2560
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1260
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ
พิกัด : 13.987418, 100.622483
ที่ตั้งโครงการ ชีวารมย์ รังสิต-ดอนเมือง ตั้งอยู่ในย่านแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ของชานเมืองตอนเหนือกรุงเทพมหานคร ช่วงตอนต้นของถนนรังสิต-นครนายก ใกล้กับถนนพหลโยธิน ในซอยรังสิต-นครนายก 7 ลึกประมาณ 180 ม. จัดเป็นโครงการที่มีจุดเด่นเรื่องทำเลที่เดินทางจากพหลโยธินมายังโครงการได้ง่ายและใกล้ที่สุด เมื่อเทียบกับโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดบนถนนรังสิต-นครนายกด้วยกัน รวมไปถึงเป็นโครงการอยู่ใกล้กับ Future Park รังสิต, Zpell ห้างใหญ่ประจำย่านรังสิตมากที่สุดอีกด้วย โดยมีระยะห่างจากห้างอยู่ประมาณ 700-800 ม. เท่านั้นค่ะ (ไม่รวมระยะกลับรถ)
เหมาะสำหรับคนในย่านนี้ที่มองหาบ้านเดี่ยว หรือบ้านแฝดเข้า-ออกถนนพหลโยธินและโทลล์เวย์สะดวกที่สุด ไม่อยากเสียเวลารถติดเข้าไปยังช่วงกลางหรือปลายของถนนรังสิต-นครนายก ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าแถบนี้รถติดมากจริงๆ ในช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็น ขนาดช่วงกลางวันยังมีรถเยอะเลยค่ะ เนื่องจากเป็นย่านที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ หลายพันหลายหมื่นครัวเรือนเลยก็ว่าได้ และเหมาะกับคนที่ต้องการอยู่ในย่านรังสิตจุดใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์สูงสุด เพราะ Future Park รังสิตนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ห้างใหญ่ในย่านนี้เท่านั้น แต่เป็น Node (จุดศูนย์กลาง) ของโครงข่ายการคมนาคมระบบสาธารณะขนาดใหญ่ทั้งรถเมล์ และรถตู้ ซึ่งมีทั้งเข้าเมืองและออกเมืองไปต่างจังหวัดอีกด้วย ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลายมากขึ้น
สำหรับความอุดมสมบูรณ์ในละแวกโครงการอย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ว่าอยู่ในจุดศูนย์กลางความอุดมสมบูรณ์ในย่านรังสิตเลยทีเดียว บริเวณโครงการมีทั้งห้างใหญ่ Hyper Market ตลาด โรงพยาบาล รวมไปถึงสถานศึกษา เรียกว่าครบครันมากๆ และอยู่ในระยะห่างจากโครงการไม่เกิน 5 กม. อีกด้วยค่ะ ซึ่งนอกจากนี้เรื่องอาหารการกินก็ไม่ต้องห่วงเพราะนอกจากจะมีตลอดถนนรังสิต-นครนายกแล้ว ก็ยังมีบนถนนคลองต่างๆ ให้เลือกอีกมากมายเลยทีเดียว อย่างที่บอกว่าเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ดังนั้นเมื่อมี Demand ก็มักจะมี Supply เสมอค่ะ
สำหรับการเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มต้นบนถนนพหลโยธิน ถนนสายหลักของโครงการที่ใช้ในการเข้า-ออกเมือง ในบริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติ และสนามกีฬากองทัพอากาศธูปเตมีย์ จากนั้นวิ่งตรงยาวๆ ไปเรื่อยๆ จากนั้นขึ้นสะพานบริเวณจุดตัดกับโทลล์เวย์ แล้วตรงมาไปอีกประมาณ 3.4 กม. ก็จะถึงบริเวณแยก Future Park รังสิต จากนั้นวนรถเข้าถนนรังสิต-นครนายก วิ่งตรงไปอีก 200 ม. ก็จะเห็นซอยรังสิต-นครนายกฝั่งซ้ายมือ เลี้ยวเข้าซอยตรงไปสุดซอยประมาณ 180 ม. ก็จะถึงหน้าโครงการแล้วค่ะ
เริ่มเส้นทางกันบนถนนพหลโยธินฝั่งขาออกมุ่งหน้าไปทางรังสิต ฝั่งซ้ายมือเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติ และฝั่งขวาเป็นสนามกีฬาอากาศธุปเตมีย์ โดยเราจะตรงไปตามป้ายรังสิต ขึ้นสะพานบริเวณจุดตัดกับโทลล์เวย์นะคะ
หลังจากลงสะพานมาแล้วจะเจอกับโป๊เบ๊ทาวเวอร์ รังสิต โดยเราจะตรงไปก่อนค่ะ
ระหว่างทางผ่าน Big C รังสิต 2 และเซียร์ รังสิต ศูนย์รวมร้านขายของไอทีราคาถูก
ผ่าน Makro รังสิต มาแล้วให้เริ่มเบี่ยงซ้ายเลยค่ะ
เมื่อเจอทางเบี่ยงแล้วให้เบี่ยงซ้ายตามป้ายที่มุ่งหน้าไปทางรังสิต ปทุมธานีค่ะ
เบี่ยงซ้ายมาแล้ววิ่งขึ้นสะพานเลย
ลงจากสะพานแล้วตรงมาอีกหน่อยจะเจอป้ายที่ให้มุ่งหน้าไปทางนครนายก ก็เลี้ยวซ้ายได้เลยค่ะ
ก่อนลงสะพานเพื่อเข้าสู่ถนนรังสิต-นครนายกจะเห็น Future Park รังสิต และ Zpell ที่อยู่ติดกันเด่นมาก
ลงสะพานมาแล้วก็เลี้ยวเข้าถนนรังสิต-นครนายกกันเลย
จากนั้นวิ่งตรงมาอีกประมาณ 200 ม. ให้สังเกตสะพานลอยหลังคาสีน้ำเงินแรก จะเป็นบริเวณซอยทางเข้าโครงการ (รังสิต-นครนายก 7)
จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยรังสิต-นครนายก 7 กันเลยค่ะ
บริเวณหน้าปากซอยมีสะพานลอยให้ข้ามไปขึ้นรถได้ง่าย ไม่ต้องเดินไกลสำหรับคนที่ไม่ได้ขับรถ
ภายในซอยนี้เป็นซอยสาธารณะที่ทางชีวาทัยมาปรับทัศนียภาพใหม่ให้ดูสวยงามมากขึ้น โดยแบ่งเป็นทางเข้า-ออกและมีเกาะกลางปลูกไม้พุ่มตรงกลางให้ดูเรียบร้อย สวยงาม
บริเวณด้านข้างของถนนนี้จะเป็นบ้านพักอาศัยที่อยู่มานานแล้ว ซึ่งก็จะร่วมใช้ถนนเข้า-ออกร่วมกับโครงการด้วยนะคะ
อย่างด้านข้างที่เป็นทางเข้า-ออกของบ้านนั้น ทางโครงการก็ได้ทำรั้วกั้นสูงและประตูเข้า-ออกบ้านให้เพื่อให้ด้านข้างของถนนมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น
ตรงมาอีกหน่อยจะเจอซอยรังสิต-นครนายก 13 ซอย 1 ที่ตัดกับซอยโครงการ
บรรยากาศภายในซอย รังสิต-นครนายก 13 ซอย 1 นี้ยังคงเป็นบรรยากาศของชุมชนที่อยู่อาศัยมาแต่ดั้งเดิม มีทั้งบ้านพักอาศัย ร้านขายของชำ ร้านรถเข็นต่างๆ
จากนั้นตรงมาอีกหน่อยก็ถึงทางเข้า-ออกโครงการแล้วค่ะ
บรรยากาศและสภาพแวดล้อมโครงการส่วนใหญ่ยังคงเป็นบรรยากาศของชุมชนดั้งเดิมที่อยู่กันมานานและที่ดินเปล่า ซึ่งค่อนข้างสงบและไม่พลุกพล่านมากนักค่ะ
- ทิศเหนือ : ที่ดินเปล่า,ชุมชนบ้านพักอาศัย
- ทิศตะวันออก : ที่ดินเปล่า
- ทิศใต้ : ซอยรังสิต-นครนายก 13 ซอย 3, ชุมชนบ้านพักอาศัย
- ทิศตะวันตก : ที่ดินเปล่า,คลองหนึ่ง
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ~ 4.5 กม.
- ตลาดพูนทรัพย์ ~ 11.8 กม.
- เซียร์รังสิต ~ 7.8 กม.
- รพ.เปาโล รังสิต ~ 5.8 กม.
- รพ.ปทุมเวช ~ 5 กม.
- รพ.แพทย์รังสิต ~ 6.5 กม.
- ม.ปทุมธานี ~ 13.1 กม.
- ม.รังสิต ~ 13.9 กม.
- ม.กรุงเทพ ~ 10.3 กม.
- ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ~ 15.1 กม.
- วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ~ 14.9 กม.
- รร.หอวังปทุมธานี ~ 24.1 กม.
- นิคมอุตสาหกรรมบางกะดี ~ 15.9 กม.
- สนามบินดอนเมือง ~ 11.4 กม.
ผังโครงการ ชีวารมย์ รังสิต-ดอนเมือง มีเนื้อที่ดินทั้งหมด 15-1-79 ไร่ แบ่งเป็นจำนวน 81 ยูนิต โดยมีบ้านเดี่ยว 15 ยูนิต และบ้านแฝดทั้งหมด 66 ยูนิต เน้นบ้านแฝดเป็นหลักนะคะ ลักษณะการจัดผังค่อนข้างเรียบง่าย เน้นการสัญจรภายในที่สะดวกเป็นหลัก และมีการจัดโซนเป็นสัดส่วนดี เริ่มจากทางเข้า-ออกโครงการมีเพียงทางเข้า-ออกเดียว โดยอยู่ท้ายสุดของซอยรังสิต-นครนายก 7 เข้ามาจะเป็นถนนหลักกว้าง 12 ม. ตรงเข้าไปด้านหลังโครงการ แล้วค่อยขยับเล็กลงมาที่ 8 ม. ฝั่งซ้ายเป็นโซนที่อยู่อาศัย แบ่งย่อยเป็นซอยต่างๆ ปลูกบ้านซ้าย-ขวา หันหน้าเข้าหากัน สำหรับถนนย่อยนี้มีความกว้าง 8 ม. ถือเป็นความกว้างที่ไม่เล็กไปนัก สามารถสวนกันได้สะดวก หรือจะถอยรถก็ไม่ยากค่ะ แต่ถ้ามีจอดรถหน้าบ้านก็จะเหลือใช้เพียงเลนเดียวนะ
สำหรับฝั่งขวาหลักจากผ่านซุ้มทางเข้า-ออกโครงการมาแล้วก็จะเจอพื้นที่ส่วนกลางของโครงการเลยค่ะ ข้อดีของตำแหน่งนี้คือ สามารถใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกได้ เวลาเราติดต่อกับลูกค้าก็ไม่จำเป็นต้นให้ลูกค้าหรือแขกเข้าบ้าน แต่สามารถนัดเจอที่ตรง Club House โครงการได้เลยค่ะ สำหรับ Facilities โครงการนี้ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ Fitness และสวนหย่อม ตามมาตรฐานสาธารณูปโภคโครงการ
สำหรับตำแหน่งหน้าบ้านทั้งหมด จะหันไปทางทิศเหนือ-ใต้ โดยทั้ง 2 ทิศนี้จัดเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมแล้วกับการวางหน้าบ้านนะคะ แต่ก็จะมีข้อดีที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความชอบของลูกบ้านว่าให้ความสำคัญกับเรื่องไหนมากกว่ากัน อย่างทิศเหนือนั้น จุดเด่นเลยคือเรื่องของทิศทางแดดที่หน้าบ้านจะไม่โดนแดดแรงในช่วงกลางวัน ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศใต้ ข้อดีคือเรื่องของทิศทางลม จะได้ลมพัดผ่านเข้าจากทางหน้าบ้านได้ดี ช่วยให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้ดีค่ะ
จากซุ้มหน้าโครงการ ตกแต่งมาในสไตล์ Tropical Modern เน้นความเรียบง่ายและใช้วัสดุไม้เทียม ดูสวยงาม มีหลังคาด้านบนช่วยกันแดดและกันฝนได้ดีทีเดียว ส่วนการแบ่งทางสัญจรเข้า-ออกทำออกมาได้ชัดเจน คั่นกลางด้วยป้อมยามตรงกลาง ดูแลรักษาความปลอดภัยได้ง่ายจากทั้ง 2 ฝั่ง
สำหรับระบบการเข้า-ออกที่นี่จะใช้เป็น Keycard Access ระยะใกล้ เปิด-ปิดด้วยไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ สะดวกในการใช้งานดีค่ะ บริเวณนี้มีกล้อง CCTV ส่องเข้าที่ทะเบียนรถและหน้าคนขับ ถือว่าให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยมาในระดับมาตรฐานนะคะ
ด้านข้างทางรถเข้า-ออกจะเป็นทางเข้า-ออกสำหรับคนเดิน ทำแยกกันให้เรียบร้อยเพื่อความสะดวกและความปลอดภัยของคนเดินค่ะ
เข้ามาภายในโครงการจะเป็นถนนหลักกว้าง 12 ม. ตรงยาวไปจนถึงสุดโครงการ ฝั่งซ้ายเป็นโซนบ้าน ซึ่งจะแบ่งเป็นซอยย่อยทั้งหมด 4 ซอยด้วยกัน ส่วนฝั่งขวาเป็นส่วน Facilities โครงการค่ะ เดี๋ยวเราเดินไปดูกัน
สำหรับตำแหน่งของพื้นที่ส่วนกลางนั้นนอกจากที่กล่าวไปแล้วข้างต้นถึงข้อดีว่าสามารถใช้ต้อนรับลูกค้าหรือแขกที่มาบ้านได้ แทนที่จะต้อนรับที่บ้านนะคะ นอกจากนี้การตั้งในตำแหน่งนี้ก็ดีตรงที่ลูกบ้านทุกซอยสะดวกในการเข้าถึงทั้งหมด มีระยะเดินใกล้ๆ กัน
เข้ามาบริเวณด้านหน้าส่วน Facilities จะเจอซุ้มที่จอดจักรยานก่อนนะคะ ซึ่งปัจจุบันยังมีงานก่อสร้างอยู่บางส่วนเลยจะมีมอเตอร์ไซค์ของพนักงานมาจอดบ้าง การที่ทางโครงการออกแบบซุ้มมาให้ก็เพื่อรองรับลูกบ้านที่อยู่ในซอยย่อยด้านในลึกๆ เผื่อขี้เกียจเดินมาใช้งาน Facilities ก็สามารถขี่จักรยานมาใช้งาน Facilities ได้มีที่จอดให้เรียบร้อยเป็นสัดส่วนไม่ต้องกลัวจักรยานหาย
ถัดมาเป็นศาลพระภูมิ และศาลตายายให้มาบูชาสักการะค่ะ
ตลอดทางนั้นมีฟุตบาทให้เดินเข้าส่วน Club House ได้สบาย ด้านข้างทางเดินตกแต่ง Landscape ออกมาส่วนงามน่าใช้งานและสร้างบรรยากาศได้ดี
บริเวณบันไดทางขึ้นก็มี Details เล่นระดับและการทำขั้นบันไดเฉียงไปมาดูสวยงาม และน่าสนใจ
ขึ้นมาจะเจอกับสระว่ายน้ำกลางแจ้งก่อนเลยค่ะ ด้านข้างจัดพื้นที่นั่งเล่นวาง Day Bed ให้ประมาณ 4-5 ตัว พร้อมร่มแบบ Outdoor ซึ่งนอกจากร่มแล้วยังปลูกต้นไม้ด้านหลังทำให้พื้นที่นั่งเล่นได้ร่มเงาไม่ร้อน สำหรับสระว่ายน้ำนี้มีขนาดพอสมควรเลยนะคะ สามารถใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้ และมีแบ่งส่วนเป็นสระว่ายน้ำเด็กให้ด้วย
บริเวณสระว่ายน้ำหันไปทางถนนโครงการจะโล่งแบบนี้เลย จริงๆ น่าจะมีปลูกไม้พุ่มหรือทำอะไรเพิ่มเติมเพื่อบังสายตาหน่อย เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านที่มาว่ายน้ำนะคะ
ด้านหลังของสระว่ายน้ำจัดให้เป็นพื้นที่สวนหย่อมเล็กๆ ให้เด็กๆ มาวิ่งเล่น หรือจะมานั่งเล่นชิลๆ ได้ค่ะ
ถัดมาที่ส่วน Club House นะคะ ก่อนจะถึงด้านในบริเวณนี้มีทำทางเดินแบบมีหลังคายื่นออกมา นอกจากเรื่องความสวยงามแล้วยังช่วยในเรื่องการกันแดดกันฝนสาดเข้าภายในห้อง Fitness ได้ดีด้วยค่ะ
ภายในห้อง Fitness ประกอบไปด้วยเครื่องออกกำลังกายทั้งหมดประมาณ 5 เครื่อง มีผนังด้านนึงกรุด้วยกระเงาทั้งผนัง และอีกฝั่งให้เป็นประตูบานเปิดกระจก นอกจากจะได้วิวสระว่ายน้ำ แสงสว่างจากภายนอกแล้ว ก็สามารถเปิดรับลมให้เข้ามาภายในห้องได้ดีด้วยนะคะ
เดี๋ยวเราไปดูส่วนห้องน้ำกันต่อนะคะ เดินไปตามทางเดินเลย
ตรงมาในสุดแล้วเลี้ยวซ้ายจะเจอกับ Shower Area เป็นพื้นที่ล้างตัว โดยให้ฝักบัวมา 2 จุดค่ะ ส่วนภายในห้องน้ำเลยจะไม่ได้มีห้องอาบน้ำให้นะคะ ลูกบ้านจะได้ล้างตัวและต้องกลับไปอาบน้ำที่บ้านแทน
มาที่ห้องน้ำแยกหญิง/ชายกันต่อ
ภายในให้อ่างล้างมือ 2 อ่าง บริเวณนี้ติดกระจกเงาขนาดใหญ่ให้เรียบร้อย สวยงาม
สำหรับห้องน้ำผู้หญิงจะได้ห้องน้ำ 2 ห้องค่ะ ส่วนห้องน้ำผู้ชายจะแบ่งพื้นที่ไปสำหรับติดตั้งโถชายและมีห้องน้ำให้ 1 ห้อง
กลับมาที่ถนนหลักอีกครั้ง เดี๋ยวเราไปดูฝั่งบ้านกันนะคะ บริเวณด้านหน้าของซอยจะมีการจัดสวนเป็นสนามหญ้าปลูกไม้พุ่มให้ดูสดชื่นตา ด้านขวามือทำช่องจอดสำหรับผู้เข้ามาติดต่อให้ประมาณ 2 ช่องจอด จะได้ไม่ไปจอดข้างถนนใหญ่ กินพื้นที่สัญจร
สำหรับซอยแรกจะเป็นซอยของบ้านเดี่ยวทั้งหมดค่ะ
ส่วนถัดไปอีก 3 ซอยจะเป็นซอยของบ้านแฝดทั้งหมด
ความกว้างของถนนภายในซอยมีความกว้างอยู่ที่ 8 ม. เข้า-ออกได้สะดวก ถนนภายในเรียบร้อย สะอาด
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ แบ่งสระเด็กและสระผู้ใหญ่
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 5 เครื่อง
- สวนสาธารณะ
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.
โครงการชีวารมย์ รังสิต-ดอนเมือง มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน คือ
- บ้านเดี่ยว ชีวานันท์ ที่ดิน 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 238 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
- บ้านแฝด ชีวารินทร์ ที่ดิน 39 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
แบบบ้านแรกที่เราจะพาไปชมกันคือ บ้านเดี่ยว ชีวานันท์ ลักษณะเป็นบ้านหน้ากว้าง ที่มีความกว้างมากจริงๆ โดยมีความกว้างอยู่ที่ x ม. สามารถจอดรถหน้าบ้านได้ถึง 3 คันเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งข้อดีของบ้านแบบหน้ากว้างคือทำให้ภายในตัวบ้านดูโปร่งโล่ง กว้างขวาง เนื่องจากได้ช่องแสงขนาดใหญ่และเยอะ จากหน้าบ้าน รวมทั้งสามารถจัดฟังก์ชันได้ง่าย สไตล์ตัวบ้านออกแบบมาได้น่าสนใจด้วยรูปแบบ Modern เน้นความเรียบง่ายของโทนสีขาว-เทา ตกแต่ง Facade ด้านหน้าให้น่าสนใจโดยการยื่น Facade ออกมา ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้วยังสามารถเป็นส่วนกันสาด ช่วยกันแดดและกันฝนเข้ามายังส่วนผนังบ้านได้ระดับนึงด้วยนะคะ
ในส่วนของโครงสร้างบ้านนั้นใช้รูปแบบการสร้างแบบ Conventional หรือระบบเสา-คาน ซึ่งระบบ Conventional นี้นั้นจะนิยมเฉพาะบ้านที่มีราคาสูง เนื่องจากราคาค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างค่อนข้างสูง และกินเวลากว่าบ้านสำเร็จรูป ซึ่งก็แลกมากับ ความคงทนและอายุการใช้งานของโครงสร้างที่มากกว่าระบบสำเร็จรูป (ไม่ใช่เรื่องความแข็งแรงนะคะ) รวมทั้งสามารถดัดแปลงหรือจะต่อเติมบ้านได้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดของบ้านที่ใช้ระบบสำเร็จรูปนะคะ
ชั้น 1 – จากแปลนจะเห็นได้ชัดว่าตัวบ้านออกแบบมาเป็นแบบหน้ากว้างชัดมาก ลักษณะแปลนเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า จากหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ถึง 3 คัน ภายในตัวบ้านแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน ในฝั่งซ้ายนั้นจะเป็นโซน Common Area มีทั้งพื้นที่รับแขก/นั่งเล่นบริเวณหน้าบ้าน เชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหารและครัวในบ้าน (จัดเป็น Pantry เตรียมอาหาร หรือ Breakfast Counter ได้ ส่วนโซนกลางบ้านนั้นจะเป็นโถงทางเดินที่เชื่อมระหว่าง Common Area และห้องนอนในฝั่งขวามือ รวมทั้งเชื่อมกับบันไดขึ้นชั้น 2 ด้วยค่ะ สำหรับห้องนอนในฝั่งขวามือนั้นออกแบบให้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุได้ใช้งานมีห้องน้ำพร้อมพื้นที่อาบน้ำอยู่ติดกับห้องนอนเพื่อความสะดวกในการใช้งานมากที่สุด หากบ้านไหนไม่ได้มีผู้สูงอายุก็สามารถปรับเป็นห้องอเนกประสงค์ เปลี่ยนฟังก์ชันในการใช้งานเป็นห้องทำงาน ฯลฯ ได้ค่ะ
จุดเด่นในการออกแบบพื้นที่ของบ้าน Type นี้อยู่ที่บริเวณพื้นที่นั่งเล่นหรือพื้นที่รับแขก ที่ได้ฝ้าเพดานแบบ Double Volume ซึ่งมีความสูงฝ้าถึง 5.7 ม. ด้วยกัน นอกจากนี้ก็ติดหน้าต่างให้บริเวณนี้ค่อนข้างมาก ทำให้พื้นที่นี้ได้รับแสงสว่างจากภายนอกมากขึ้น ประกอบกับปริมาตรในบริเวณนี้มากขึ้นจาก Double Volume จึงช่วยให้มีความโอ่โถง และโปร่งโล่งพอสมควรเลยค่ะ
ชั้น 2 – ออกแบบให้เป็นพื้นที่ของห้องนอนทั้ง 3 ห้อง โดยห้องนอนแต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด ซึ่งสะดวกในการใช้งานและเพียงพอไม่ต้องรอคิวใช้งานห้องน้ำในช่วงเช้าที่ต้องออกไปทำงานหรือเรียนพร้อมๆ กัน ตำแหน่งของห้องนอนแบ่งออกเป็นโซนซ้าย กลาง ขวา โดยห้องนอนใหญ่จะอยู่ฝั่งขวามือสุดยาวตั้งแต่หน้าบ้านไปถึงด้านหลังบ้าน ทำให้มีโซน Walk-in Closet เป็นสัดส่วน พร้อมทั้งมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งขนาดกะทัดรัดได้ด้วยค่ะ ส่วนห้องนอนกลางที่อยู่บริเวณหน้าบ้านนั้น จะเป็นห้องขนาดกะทัดรัด เพราะถูกนำพื้นที่ใช้สอยภายในบางส่วนไปเป็นพื้นที่โล่งเพื่อให้พื้นที่นั่งเล่นด้านล่างได้ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume ซึ่งพื้นที่ใช้สอยที่หายได้นี้ก็แลกมากับความโปร่งโล่งมากขึ้นของพื้นที่นั่งเล่นชั้นล่าง รวมไปถึงห้องนอนกลางและห้องนอนเล็กก็มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะมีผนังที่อยู่ติดกับห้องอื่นน้อยลง อย่างห้องนอนเล็กนี้ไม่มีผนังด้านไหนที่ติดกับห้องนอนอื่นเลย
เริ่มจากประตูหน้าบ้านใช้วัสดุเป็นรั้วเหล็กโปร่งพ่นสีดำแบบบานพับ ทำให้การใช้งานจริงไม่ค่อยสะดวกในการเปิด-ปิดเท่าไหร่นัก เพราะต้องมาเปิดที่ละจุด จะติดตั้งเครื่องเปิดประตูอัตโนมัติเหมือนประตูบานเลื่อนก็ทำไม่ได้ด้วย เนื่องด้วยพื้นที่จอดรถออกแบบให้สามารถจอดรถได้ถึง 3 คัน จึงกินพื้นที่ด้านข้างพอสมควรเลยเหลือไม่มากพอที่จะทำเป็นประตูบานเลื่อนได้นะคะ แต่ก็แลกมากับจำนวนที่จอดรถมากขึ้น 1 คัน
ด้านข้างรั้วเป็นประตูทางเข้า-ออกแบบเหล็กโปร่งพ่นสีดำเช่นกัน มีเลขที่บ้านอยู่ด้านข้างและกริ่งอีกฝั่งนึงติดตั้งให้เรียบร้อย ความสูงรั้วอยู่ที่ประมาณ 1.5 ม.ไม่สูงมาก
เดี๋ยวเราพาเดินไปรอบบ้านมาตรฐานกันก่อนที่จะพาไปชมบ้านตัวอย่างกันนะคะ สำหรับบ้านมาตรฐานทุกหลังของโครงการนั้นมีการทำเฉลียงทางเข้าบ้านให้ทั้ง 2 ทาง โดยมีประตูทางเข้าบ้านจากทั้งส่วนที่จอดรถและหน้าบ้านที่เชื่อมเข้าพื้นที่รับแขกภายในบ้านค่ะ บริเวณเฉลียงใช้วัสดุเป็นไม้เทียมและคอนกรีต ให้ความรู้สึกและสีสันเสมือนไม้เทียม แต่ทนแดดทนฝนและไม่บวม
สำหรับบ้านทุกหลังทางโครงการจะมีจัดสวนให้เป็นมาตรฐาน ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ปูหญ้าให้อย่างเดียวนะคะ แต่มีปลูกไม้พุ่มและไม้ยืนต้นให้ด้วย ดูร่มรื่นระดับนึง
ด้านข้างบ้านปลูกหญ้าให้ มีพื้นที่เหลือสำหรับปลูกต้นไม้ หรือใครจะวางเป็นทางเดินให้เดินง่ายขึ้นก็ได้ค่ะ ส่วนกำแพงรั้วระหว่างบ้านแต่ละหลังสูงประมาณ 1.5 ม.เช่นกัน เป็นกำแพงรั้วทึบสีขาว ใครต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็สามารถปลูกต้นไม้พุ่มสูงบังสายตาได้นะคะ
อีกด้านหนึ่งของบ้าน บริเวณหน้าบ้านจะเป็นถังขยะจากในตัวบ้านเลย และมีประตูเปิดออกจากทางหน้าบ้าน คือสะดวกในการใช้งานดีมาก เพราะทิ้งจากในบ้านได้เลยค่ะและเป็นส่วนตัวไม่ต้องแชร์ถังขยะหน้าบ้านกับบ้านหลังอื่นๆ เหมือนโครงการสมัยก่อนหรือโครงการแบบทาวน์โฮม ส่วนการจัดสวนฝั่งนี้ก็จะได้เป็นสนามหญ้าและมีต้นไม้ให้ 1 ต้นค่ะ
ด้านหลังบ้านให้เป็นสนามหญ้ามาตรฐาน บริเวณด้านหลังที่ติดกับครัวนั้นจะได้ลานซักล้างขนาดกะทัดรัด ใช้โครงสร้างพื้นเป็น Slab on Ground แยกโครงสร้างกับตัวบ้านชัดเจน ส่วนด้านบนของลานซักล้างมีก่อปูนทำเป็น Pantry เล็กๆ สำหรับเตรียมอาหารหรือซักล้างได้
บริเวณที่จอดรถนั้นสามารถจอดได้ถึง 3 คันด้วยกันเลยค่ะ ถือว่าหาได้ยากนะที่จะเห็นบ้านเดี่ยวขนาดที่ดินประมาณ 54 ตร.วาที่จะได้ที่จอดรถ 3 คันเลย แต่ความกว้างนี้จะเหมาะกับจอดรถคันเล็ก 3 คันมากกว่า มีพื้นที่ด้านข้างให้เปิดประตูรถเข้า-ออกได้ง่าย ส่วนความยาวของที่จอดรถนั้นมีความยาวมาตรฐานไม่ลึกเท่าไหร่ค่ะ และด้านบนได้กันสาดที่เป็นส่วนยื่นมาจากพื้นห้องนอนด้านบน ทำให้ได้หลังคากันแดดกันฝนให้กับรถได้เต็มที่ เวลาเราลงจากรถก็ไม่เปียกช่วงฝนตกด้วย แตกต่างจากบ้านทั่วไปที่เราจะต้องมาต่อเติมหลังคาเพิ่มเพื่อกันแดดกันฝน
บริเวณเฉลียงทางเข้าบ้านจากส่วนที่จอดรถ ผนังด้านข้างมีทำช่องไว้สำหรับวางรองเท้า โดยจะติดตั้งบานเปิดให้ด้วยนะ และมีม้านั่งเล็กๆ ให้ด้วย ถือเป็นฟังก์ชันที่ไม่ค่อยเห็นในบ้านทั่วไปและจัดเป็นฟังก์ชันที่ดีเลย เพราะได้ใช้งานจริงแน่ๆ ไม่ต้องยืนใส่รองเท้าหน้าบ้าน รวมทั้งวางรองเท้าหน้าบ้านให้เกะกะ มีตู้เก็บรองเท้าก็ทำให้เราสามารถจัดระเบียบต่างๆ ได้ดี แต่ในขณะเดียวกัน ด้วยความที่ความยาวของกันสาดกับระยะถึงตู้วางรองเท้านั้นไม่ได้ไกลกันมากนัก อาจจะทำให้ฝนสาดมาบริเวณบานเปิดได้ ซึ่งทำให้บานเปิดชื้นและภายในชื้นได้เหมือนกันค่ะ วิธีจัดการเรื่องความชื้นภายในที่เกิดกับรองเท้าได้ง่ายสุดและไม่เปลืองเงินคือซื้อถุง zip lock ขนาดที่ใส่รองเท้าได้มาใส่ก็พอแก้ปัญหาเบื้องต้นได้อยู่ค่ะ
มาเข้าบ้านจากหน้าบ้านกันนะคะ บริเวณทางเข้าหน้าบ้านนั้นเป็นประตูบานเลื่อนกระจก เปิดออกทั้ง 2 ทาง ด้านข้างของประตูบานเลื่อนเป็นกระจกบาน fixed ทั้งสองด้านเพื่อให้แสงสว่างเข้าสู่ภายในบ้านได้ดีมากขึ้น ข้อดีคือช่วยให้ตัวบ้านโปร่งโล่งมากขึ้น ส่วนวัสดุใช้กระจกเขียวตัดแสงและกรอบบานอลูมิเนียมพ่นสีดำค่ะ
เข้ามาภายในบ้านจะเป็นบริเวณพื้นที่นั่งเล่นหรือพื้นที่รับแขกก่อน ซึ่งเชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหารด้านใน โดยในชั้นพื้นชั้น 1 ทั้งหมดจะใช้เป็นพื้นแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ทั้งหมด
จุดเด่นของบ้านนี้คือบริเวณพื้นที่นั่งเล่นที่ได้ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume ที่มีขนาดถึง 5.7 ม. และในชั้น 2 ที่ติดกับฝ้าเพดานสูงนี้จะเป็นห้องนอนกลางค่ะ ทำให้ห้องนอนนี้ได้ช่องเปิดมากขึ้น และมีความเป็นส่วนตัวเพราะมีผนังด้านหนึ่งที่ไม่ติดกับผนังห้องอื่นด้วย
ด้วยความที่ได้ฝ้าเพดานสูง ข้อดีเลยคือความโปร่งโล่งในบริเวณพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งนอกจากฝ้าที่สูงแล้วก็ยังได้กระจกด้านบนด้วย จึงช่วยให้แสงสว่างเข้ามาได้ดีมากขึ้นค่ะ ซึ่งความโปร่งโล่งนี้ก็แลกมากับความร้อนที่เข้ามาพร้อมแสงสว่างเช่นเดียวกันนะ ต้องใช้ม่านโปร่งช่วยกันแดดด้วยนะคะ
บริเวณพื้นที่นั่งเล่นนั้นสามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้สบาย เป็นโซฟา 3 ที่นั่งพร้อม Sofa Bed และโต๊ะกลางค่ะ ส่วนระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.5 ม. ซึ่งเหมาะกับขนาดทีวีประมาณ 55″-60″
ถัดมาเป็นส่วนรับประทานอาหาร บริเวณนี้โปร่งโล่งมากทีเดียวค่ะ เพราะทั้ง 2 ด้านทั้งจากด้านข้างและด้านหลังบ้านได้หน้าต่าง และประตูบานเลื่อนด้วย ซึ่งนอกจากเรื่องของความโปร่งโล่งแล้ว หากติดมุ้งลวดและเปิดประตูหน้าต่างบริเวณนี้ก็มีลดพัดผ่านได้ดีทีเดียวเลยค่ะ ในส่วนของพื้นที่รับประทานอาหารสามารถรองรับโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งได้กำลังพอดีค่ะ หรือใครชอบโต๊ะขนาดใหญ่หน่อยก็สามารถรองรับได้สูงสุดถึง 8 ที่นั่งนะคะ
หันมาอีกฝั่ง ด้านซ้ายจะเป็นประตูจากส่วนที่จอดรถค่ะ ส่วนฝั่งซ้ายที่ติดกับพื้นที่รับประทานอาหารจะจัดให้เป็นส่วน Pantry เตรียมอาหาร
ซึ่งบริเวณ Pantry ในบ้านมาตรฐานนั้นจะได้เป็นพื้นที่โล่งตามรูปล่างนะคะ ลูกบ้านต้องมาตกแต่งเอง ซึ่งขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเลย ว่าอยากจะจัดให้เป็น Pantry เตรียมอาหาร และมี Breakfast Counter ตามบ้านตัวอย่าง หรือใครที่ชอบครัวในบ้านก็สามารถกั้นพื้นที่ด้วยประตูบานเลื่อนกระจกและทำเป็นครัวปิดภายในบ้านก็ได้เช่นกันค่ะ เพราะมีการเดินท่อและงานระบบไว้ให้เรียบร้อยทั้งหมดแล้ว
ถัดมาเป็นโถงทางเดินที่อยู่บริเวณหน้าบ้าน เชื่อมระหว่างฝั่งโซน Common Area ที่มีฟังก์ชันอย่างพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร และส่วน Pantry กับโซน Private ซึ่งออกแบบให้เป็นห้องนอนชั้นล่างค่ะ
บริเวณโถงทางเดินนี้ก็จะมีกระจกให้ด้วย เพื่อให้แสงเข้ามาทางโถงทางเดินได้ดี ไม่จำเป็นต้องพึ่งดวงไฟในช่วงกลางวัน
อีกฝั่งเป็นส่วนโถงบันไดค่ะ ซึ่งมีห้องเก็บของใต้บันไดให้เรียบร้อยเป็นมาตรฐาน
สำหรับห้องน้ำในชั้นล่างนี้ ออกแบบให้เป็นห้องน้ำที่มีพื้นที่อาบน้ำด้วย เพื่อรองรับสำหรับห้องนอนชั้นล่างได้ใช้งาน ซึ่งหากห้องนอนชั้นล่างเป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ ก็สามารถใช้ห้องน้ำด้านล่างอาบน้ำได้เลย ไม่จำเป็นต้องขึ้นชั้นบนให้ลำบากค่ะ ภายในห้องน้ำนี้แบ่งเป็นโซนเปียกและโซนแห้งโดยแบ่งด้วยระดับของพื้นที่ไม่เท่ากัน
โดยบริเวณโซนแห้งนั้นจะมีอ่างล้างจาน และโถสุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก Mogen ส่วนด้านหลังนั้นทำ Low Wall ให้สำหรับวางของใช้ต่างๆ ได้พอสมควรค่ะ
สำหรับพื้นที่อาบน้ำนั้นจะไม่ได้มีฉากกั้นกระจกให้นะคะ ใครที่อยากให้พื้นที่อาบน้ำแยกชัดเจนกับโซนแห้ง และไม่อยากให้น้ำกระเด็นออกมาก็สามารถติดตั้งฉากกั้นกระจกเองได้ค่ะ ด้วยความยาวของพื้นที่นี้สามารถเลือกได้ทั้งแบบบานเลื่อน และบานเปิดเลยค่ะ ส่วนใครงบน้อยหน่อยก็เลือกใช้ม่านพลาสติกได้เช่นกัน สำหรับบริเวณพื้นที่อาบน้ำนั้นจะมีระดับพื้นลดระดับลงมาเล็กน้อยจากโซนแห้งนะคะ ส่วนกระเบื้องใช้เหมือนกันคือกระเบื้องเซรามิกสีเทาค่ะ
บริเวณพื้นที่อาบน้ำด้านข้างจะได้หน้าต่างบานกระทุ้ง ไว้สำหรับระบายอากาศ ความชื้น และช่วงให้แสงสว่างเข้ามายังภายในห้องน้ำได้พอสมควร สำหรับฝักบัวที่นี่จะได้เป็ยแบบสายอ่อน มือจับได้ถนัดและหัวฝักบัวขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ มาพร้อมกับที่วางสบู่เลย ซึ่งฝักบัวนี้จะเป็นของยี่ห้อ American Standard นะคะ
ถัดมาภายในห้องนอนชั้นล่าง ในบ้านตัวอย่างจัดให้เป็นห้องทำงานเป็นไอเดียสำหรับคนที่มีสมาชิกในบ้านไม่มาก และไม่มีผู้สูงอายุก็สามารถจัดให้ห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์ได้ค่ะ ส่วนใครที่จะทำเป็นห้องนอนนั้น ห้องนี้จะเหมาะกับการวางเตียงขนาด Single Bed หรือ 3.5 ฟุต จะกำลังลงตัว และมีพื้นที่เหลือพอสมควรให้เดินได้ง่ายไม่แคบจนเกินไป
ภายในห้องดูสว่างและโปร่งโล่งเพราะได้หน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่ถึง 2 บานด้วยกัน
สำหรับโถงบันไดที่นี่ทำได้ดีทีเดียวค่ะ ด้วยความที่ลักษณะแปลนบ้านที่เป็นบ้านหน้ากว้างจึงค่อนข้างได้เปรียบในเรื่องของการจัดวางฟังก์ชันที่จัดได้ง่ายและลงตัวดี อย่างลักษณะบันไดของบ้านหลังนี้จะเป็นบันไดรูปตัว U มีความกว้างของบันไดพอสมควร ได้ชานพักชัดเจน และมีความสูงลูกนอนไม่มาก เดินได้สบายทีเดียวค่ะ รวมไปถึงด้านข้างของผนังโถงบันไดนั้นมีเจาะช่องเปิดเป็นกระจกบาน Fixed ให้ด้วย เพื่อให้แสงสว่างเข้ามาภายในโถงบันไดได้ดีค่ะ
จากบันไดขึ้นมาชั้น 2 จะเป็นโถงทางเดินยาวตามความยาวของหน้าบ้านเช่นเดิมค่ะ สำหรับฝั่งขวาของบันไดจะเป็นห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) ตรงกลางเป็นห้องนอนเล็กและฝั่งในสุดเป็นห้องนอนกลางค่ะ
เดินไปฝั่งห้องนอนกลางที่อยู่ด้านในสุดก่อนนะคะ
บริเวณด้านในสุดฝั่งตรงข้ามกับประตูทางเข้าห้องนอน เป็นระเบียงเล็กๆ ที่ก้มลงไปก็จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นชั้นล่างค่ะ
เมื่อก้มลงไปก็จะเห็นแบบนี้เลย สำหรับการทำ Double Volume แบบนี้ข้อดีที่ชัดเจนทั้งในชั้นล่างและชั้นบนคือแสงสว่างที่เข้าถึงภายในตัวบ้านได้ดีและความโปร่งโล่ง และที่เพิ่มเติมคือความเป็นส่วนตัวของแต่ละห้องนอนในชั้นบนที่มีผนังด้านนึงไม่ติดกับห้องอื่นด้วย การออกแบบบ้านแบบนี้ถือว่าตั้งใจให้ความสำคัญกับการออกแบบตัวบ้านโปร่งโล่ง สวย ทันสมัยเป็นหลัก ซึ่งต้องยอมแลกกับการใช้พื้นที่ใช้สอยภายในที่น้อยลงเช่นกัน
เข้ามาภายในห้องนอนกลางเป็นห้องนอนที่ได้รับช่องแสงจากทั้ง 3 ทิศ มี 2 ทิศจากภายนอกบ้านเพราะเป็นห้องมุมพอดี และอีกทิศคือจากภายในบ้าน ได้อานิสงค์จาก Double Volume ส่วนพื้นที่นั่งเล่นชั้นล่างค่ะ ห้องนี้เลยดูสว่างดีทีเดียวและแน่นอนว่าระบายอากาศภายในได้ดีเช่นกัน ขนาดของเตียงที่เหมาะกับห้องนี้จะเป็น 3.5 – 5 ฟุต ถ้าวางเตียง 3.5 ฟุตจะมีพื้นที่ทางเดินรอบเตียงได้ แต่หากอยากได้เตียงใหญ่ เหมือนในบ้านตัวอย่างก็จะเป็นไซส์ 5 ฟุตค่ะ ต้องแลกมากับพื้นที่ทางเดินข้างเตียงหายไปฝั่งนึง ส่วนอีกฝั่งมีพื้นที่พอสมควรสามารถจัดเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ
บริเวณเตียงนอน หากวางเตียง 5 ฟุต ก็จะไม่มีทางเดินข้างเตียงฝั่งนึงไป แลกมากับขนาดเตียงที่ใหญ่
บริเวณด้านข้างเตียงและปลายเตียงได้ช่องเปิดใหญ่และเยอะมากทีเดียวค่ะ ข้อดีอย่างที่บอกคือความสว่างที่ได้รับจากแสงธรรมชาติภายนอก แต่ในขณะเดียวกันก็เสียความเป็นส่วนตัวไปอยู่เหมือนกันนะคะ ต้องอาศัยม่านช่วยบังสายตา แนะนำว่าติดม่านโปร่งแสงควบคู่กับม่านทึบมาด้วยนะคะ เพราะก็ตอบโจทย์ได้ทั้งเรื่องแสงสว่างเข้ามาภายในห้องและบังสายตาจากภายนอกได้ระดับนึงค่ะ
ส่วนปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับจัดฟังก์ชันเล็กๆ ได้ เช่น เป็นพื้นที่นั่งเล่นดูทีวีอย่างบ้านตัวอย่างก็ได้ค่ะ
อีกฝั่งข้างเตียงติดกับโต๊ะทำงานเป็นพื้นที่ของตู้เสื้อผ้า และทางเข้าห้องน้ำภายในห้องนอนนี้ค่ะ
ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียกและแห้งออกจากกันและมีการวางผังเหมือนกับห้องน้ำในชั้นล่าง รวมไปถึงยี่ห้อของสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ห้องน้ำด้วยนะคะ
สำหรับพื้นห้องน้ำถูกลดระดับลงมาเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อน ใช้วัสดุเป็นพื้นกระเบื้องเซรามิกเช่นเดียวกับห้องน้ำชั้นล่างค่ะ
จะมีที่แตกต่างจากห้องน้ำชั้นล่างหน่อยคือบริเวณอ่างล้างมือที่ได้คนละสเป็คกันแต่ยี่ห้อเดียวกันคือ Mogen โดยส่วนที่แตกต่างขนาดอ่างใหญ่ขึ้นพร้อมที่ Built-in ชั้นวางของขนาดกะทัดรัดด้านล่างให้ด้วย
ส่วนบริเวณพื้นที่อาบน้ำก็เช่นเดิมค่ะ มีการลดระดับพื้นลงมาเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อน และไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นกระจกให้ ลูกบ้านต้องติดตั้งเองนะคะ
มาดูห้องนอนเล็กกันบ้างค่ะ จะเป็นห้องนอนที่อยู่บริเวณหน้าบ้าน ส่วนกลางของบ้านเลย ห้องนี้มีพื้นที่โซนเตียงนอนค่อนข้างน้อยพอสมควร ทำให้ตำแหน่งของเตียงไม่ลงตัวเท่าไหร่นักประกอบกับห้องขนาดเล็กด้วย จึงสามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต แบบต้องชิดผนังไปอีกฝั่งเลย และค่อนข้างอยู่ติดกับประตูบานเลื่อนเกินไป ซึ่งที่จริงแล้วห้องนี้น่าจะเหมาะกับหน้าต่างมากกว่าการทำเป็นประตูบานเลื่อน เพื่อที่จะสามารถใช้พื้นที่ใช้สอยภายในได้เต็มที่มากกว่านี้ แทนที่จะทำให้ครึ่งนึงของโซนเตียงนอนเป็น circulation ไปนะคะ แต่ถ้าพูดถึงความสวยงามของหน้าบ้านที่ได้เป็นประตูกระจกบานใหญ่แน่นอนว่าการออกแบบแบบนี้ก็ดูสวยกว่า
สำหรับประตูบานเลื่อนนี้จะเชื่อมกับระเบียงหน้าบ้าน ซึ่งจริงๆ เป็นเหมือนระเบียงหลอกนะ ไม่ได้ไว้ใช้งานจริง เพราะส่วนระเบียงนี้เป็นแค่ส่วนยื่นของพื้นออกมาเท่านั้น (Cantiliver) และมีความลาดชันหน่อยเพื่อให้เวลาฝนตกแล้วสาดเข้ามาที่ระเบียงจะสามารถระบายได้เลยทันที ดังนั้นการที่ทางโครงการออกแบบส่วนนี้มานั้นก็เพื่อให้สามารถติดตั้งหน้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนได้ ทำให้รูปลักษณ์ของหน้าบ้านดูโปร่งโล่งและสวยงามกว่าการทำเป็นหน้าต่างที่มีขนาดเล็กกว่าค่ะ
ถัดมาอยู่ติดกับประตูบานเลื่อนเลยจะเป็นส่วน Walk-in Closet ค่ะ สามารถวางหรือ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดกะทัดรัดได้ และติดกับ Walk-in Closet นี้จะเป็นห้องน้ำภายในห้องนอนเล็ก
ขนาดห้องน้ำก็มีความกะทัดรัดตามขนาดห้องนะคะ แต่ก็มีการออกแบบแยกส่วนเปียกและแห้งเช่นเดิม
ส่วนแห้งมีวางอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ไว้ใกล้กัน ด้านล่างก่อ Low Wall สำหรับวางใช้เล็กๆ น้อยๆ ได้ดี และติดกระจกเงาบานใหญ่ให้ด้วยค่ะ
ส่วนอีกฝั่งเป็นพื้นที่อาบน้ำติดตั้งฝักบัวสายอ่อน พร้อมเดินงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้ แต่ไม่ได้ให้เครื่องทำน้ำอุ่นนะคะ
มาที่ห้องนอนใหญ่ที่อยู่บริเวณหน้าบ้านยาวไปถึงหลังบ้านเลยค่ะ โดยสเป็คฝ้าเพดานโซนเตียงนอนจะเป็นฝ้าฉาบเรียบมาตรฐานนะคะ แตกต่างจากบ้านตัวอย่างที่เป็นฝ้าหลุมเล่นไฟ indirect light ซึ่งหากลูกบ้านชอบไอเดียของบ้านตัวอย่างก้สามารถแก้ไขเองได้เลยค่ะ
โซนเตียงนอนมีพื้นที่พอสมควรสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายมาก ด้านข้างเตียงหรือบริเวณหน้าบ้านได้ประตูบานเลื่อนกระจก 2 ชุดเลยค่ะ ติดมุ้งลวดแล้วเปิดหน้าต่างน่าจะระบายอากาศ และได้ลมดีทีเดียว ขาดแต่ระเบียงออกไปใช้ไม่ได้
บริเวณเตียงนอนเมื่อวางเตียงขนาด 6 ฟุตแล้วก็ยังเหลือพื้นที่รอบเตียงพอสมควรให้เดินได้ง่าย
ปลายเตียงมีความกว้างของทางเดินพอสมควรที่จะสามารถ Built-in ชั้นวางทีวีได้ รวมทั้งจัดเป็นโต๊ะทำงานขนาดกะทัดรัดด้วยเช่นกันค่ะ ส่วนที่ติดกับโต๊ะทำงานจะเป็นส่วน Walk-in Closet นะคะ ซึ่งในบ้านจริงนั้นจะไม่ได้ทำประตูบานเลื่อนกั้นพื้นที่ไว้ให้เป็นสัดส่วนแบบบ้านตัวอย่างนะคะ
ลักษณะจะได้เป็นพื้นที่โล่งแบบนี้ ลูกบ้านต้องมา Built-in หรือวางตู้เสื้อผ้าเองแทนค่ะ ส่วนฝั่งขวานั้นเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom)
ภายในห้องน้ำจัดเป็นสัดส่วนเช่นเดิมค่ะ ส่วนพื้นมีความแตกต่างคือใช้เป็นแกรนิตโต้แบบหยาบจะได้ไม่ลื่น ขนาด 60 x 60 ซม.
ฝั่งซ้ายทั้งหมดเป็นพื้นที่ของอ่างล้างมือ ซึ่งมีความยาวพอสมควรที่จะทำ His & Her ได้เลยนะคะ แต่เมื่อให้อ่างล้างมือมาเพียงอันเดียว จึงทำให้ได้พื้นที่ด้านข้างค่อนข้างมากในการวางข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ
ส่วนโถสุขภัณฑ์ก็ยี่ห้อเดิม และด้านหลังก่อ Low Wall ให้ด้วยเผื่อสำหรับวางข้าวของต่างๆ ได้ค่ะ
ส่วนบริเวณพื้นที่อาบน้ำในห้องนอนใหญ่ โดยจะมีความพิเศษคือได้ฉากกั้นกระจกเป็นสัดส่วน แต่ก็มีขนาดค่อนข้างกะทัดรัดไปเหมือนกัน ส่วนบริเวณด้านออกแบบให้ผนังลึกเข้าไปเล็กน้อย เพื่อใช้เป็นพื้นที่วางครีมอาบน้ำ แชมพูต่างๆได้ดีค่ะ
อีก Product นึงของโครงการนี้นอกจากบ้านเดี่ยวแล้วยังมีอีกตัวเลือกคือบ้านแฝด ที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยและที่ดินขนาดเล็กลงมา กะทัดรัดมากขึ้น สำหรับครอบครัวขนาดเล็กมาหน่อย และมีกำลังทรัพย์น้อยลงมาอยู่ที่ 5-7 ล้านบาท แทนที่บ้านเดี่ยวที่มีราคาขายประมาณ 9-10 ล้านบาทนะคะ ข้อดีของบ้านแฝดที่นี่คือเค้าออกแบบให้เป็นเหมือนบ้านเดี่ยวขนาดเล็กแทน ลืมภาพบ้านแฝดออกไปที่เรามักจะคิดว่าต้องมีส่วนใดส่วนหนึ่งของผนังที่เชื่อมติดกัน แต่ที่นี่คือส่วนที่เชื่อมติดกันจะอยู่ใต้ดิน หรือแค่เพียงคานคอดินเท่านั้นค่ะ แล้วเราก็มองไม่เห็นด้วย จึงสัมผัสได้ว่าเป็นบ้านเดี่ยวที่มีขนาดที่ดินน้อยเท่านั้นเอง จึงค่อนข้างเด่นในเรื่องความเป็นส่วนตัวดีทีเดียวค่ะ สำหรับบ้านแฝดนี้มีชื่อว่าชีวารินทร์ ที่ดินเริ่มต้นอยู่ที่ 39 ตร.วา และพื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ลักษณะการออกแบบแปลนจะคล้ายกับบ้านเดี่ยวหลังที่เราพาไปชมมา แต่มีการย่อให้แคบเข้ามาหน่อย และมีขนาดกะทัดรัดมากขึ้น ส่วนพวกโซนและฟังก์ชันต่างๆ โดยรวมมีความคล้ายคลึงกัน ส่วนที่จอดรถจะจอดได้ 2 คัน ภายในบ้านแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซน Common Area ที่มีพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งด้วยขนาดพื้นที่ที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก และต้องการให้พื้นที่ภายในดูโปร่งโล่งมากที่สุด ดังนั้นส่วนครัวจึงเหลือเป็นเพียง Pantry ครัวขนาดกะทัดรัดแทน ซึ่งหากใครอยากจะได้พื้นที่ครัวที่ชัดเจนก็ต้องไปต่อเติมเพิ่มส่วนด้านหลังบ้านแทน เป็นครัวไทยทำอาหารหนัก ส่วนอีกโซนที่อยู่ด้านขวานั้นจะเป็นโซน Private ซึ่งจัดให้มีห้องนอนชั้นล่าง ติดกับห้องน้ำชั้นล่างที่มีพื้นที่อาบน้ำด้านในให้พร้อมค่ะ ซึ่งห้องนอนชั้นล่างนี้จะมีขนาดค่อนข้างเล็กพอสมควร สามารถวางเตียง Single Bed ได้กำลังพอดีๆ
ชั้นบนจากโถงบันไดขึ้นมา จะเป็นโถงกลางที่แจกไปยัง ห้องนอนทั้ง 3 ห้อง และห้องน้ำใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง สำหรับห้อง Master Bedroom นั้นจะมีพื้นที่สำหรับจัด Walk-in Closet และมีห้องน้ำในตัว
เริ่มจากหน้าบ้านใช้รั้วหน้าบ้านเป็นรั้วเหล็กพ่นสีดำ เปิด-ปิดแบบบานพับเช่นเดียวกับบ้านเดี่ยวค่ะ
ภายในที่จอดรถสามารถรองรับรถได้ 2 คันกำลังดี ด้านบนที่จอดรถทำฝ้าเพดานแบบฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้เรียบร้อย ส่วนด้านในสุดฝั่งซ้ายจะเป็นประตูทางเข้าบ้าน และด้านขวาเป็นส่วนห้องเก็บของขนาดเล็ก
มาฝั่งซ้ายมือนั้นจะเป็นเฉลียงทางเข้าบ้าน ซึ่งบริเวณนี้น่าจะทำกันสาดเพิ่มอีกหน่อย ช่วยกันแดดกันฝนได้มากขึ้น ฝนหรือแดดจะได้ไม่สาดเข้าบ้านมากนัก ส่วนประตูทางเข้าหลักของบ้านจะใช้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกเช่นเดียวกับบ้านเดี่ยวค่ะ
เข้ามาภายในบ้านเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร บริเวณนี้มีพื้นที่กว้างพอสมควร รวมไปถึงได้ช่องเปิดด้านข้างจึงทำให้ภายในตัวบ้านดูโปร่งโล่ง แต่สำหรับบ้านแฝดบริเวณพื้นที่นั่งเล่นจะไม่ได้ฝ้าเพดานแบบ Double Volume
สำหรับพื้นที่นั่งเล่นนี้มีพื้นที่พอสมควรสามารถจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้แบบ 3 ที่นั่งได้สบายมาก ด้านหลังโซฟามีกระจกบาน Fixed ให้ทั้ง 2 ด้านของโซฟา เพื่อให้แสงเข้ามาภายในบ้านได้ดีขึ้น
ถัดมาที่พื้นที่รับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งได้สบายค่ะ ติดกับโต๊ะรับประทานอาหารฝั่งขวามือจะเป็นพื้นที่สำหรับ Pantry ครัว เหมาะกับทำอาหารง่ายๆ เบาๆ เหมือนคอนโดมากกว่าการทำอาหารหนัก ไม่ได้เป็นพื้นที่ครัวที่เป็นสัดส่วนชัดเจน เพื่อให้พื้นที่นี้โปร่งโล่ง ดูไม่คับแคบ แต่หากใครที่ต้องการครัวปิดเป็นสัดส่วนเพื่อทำอาหารหนักได้จริงๆ ก็สามารถกั้นพื้นที่เป็นห้องครัวได้นะคะ แต่ก็จะไปกินพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารทำให้พื้นที่ส่วนนี้แคบลง ส่วนด้านข้างติดกับโต๊ะรับประทานอาหารจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก ออกไปยังส่วนเฉลียงด้านนอกได้
หากใครที่จะทำเป็น Pantry ครัว ก็สามารถจัดได้ขนาดพอสมควรนะคะ ไม่ได้เล็กจนเกินไป อย่างบ้านตัวอย่างจัดมาให้เป็นรูปตัว I ปกติ แต่จริงๆ ใครอยากได้ขนาด Pantry ใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็สามารถจัดเป็นรูปตัว L ยาวไปด้านหลังบ้านได้ค่ะ
ถัดมาเป็นส่วนโถงเล็กๆ ที่แจกไปยังห้องน้ำและห้องนอนในชั้นล่างค่ะ
ภายในห้องน้ำชั้นล่างแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้งและเปียกชัดเจนด้วยระดับพื้นที่ทำออกมาคนละระดับกัน แต่ไม่ได้ให้ฉากกั้นกระจกกันน้ำกระเด็นออกไปยังโซนแห้งนะคะ ลูกบ้านต้องซื้อมาติดตั้งเอง ซึ่งวัสดุของฉากกั้นนั้นก็มีหลายรูปแบบตามกำลังทรัพย์เลยตั้งแต่ม่านพลาสติกราคาถูก ฉากกั้นแบบ Fiber และแบบกระจก
มาที่ห้องนอนชั้นล่าง ภายในห้องนี้มีขนาดกะทัดรัดพอสมควรสามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต หรือ Single Bed ได้กำลังพอเหมาะ แต่ไม่สามารถวางเตียงขนาดใหญ่กว่านี้ได้แล้วนะคะ ส่วนผนังด้านข้างนั้นจะได้หน้าต่างบานเลื่อนมาตรฐานไว้ระบายอากาศและให้แสงสว่างเข้ามาภายในห้องได้พอสมควร
ซึ่งห้องนี้จริงๆ แล้วจะได้เป็นห้องเปล่า หากใครไม่ได้จะจัดเป็นห้องนอนก็สามารถจัดเป็นฟังก์ชันอื่นๆ ได้เช่นอย่างบ้านตัวอย่างก็จัดเป็นห้องทำงานค่ะ
ติดกับห้องนอนจะเป็นห้องเก็บของใต้บันไดนะคะ ภายในไม่ได้ตกแต่งอะไรมาให้ แค่ทาสีผนังเท่านั้นค่ะ ส่วนพื้นเป็นปูนเปลือยเลย ใครไม่อยากให้มีฝุ่นพื้น และสามารถทำความสะอาดได้ง่ายก็ซื้อกระเบื้องเซรามิกมาปูเองก็ได้ค่ะ
สำหรับบันไดของหลังนี้จะเป็นรูปตัว U มีชานพักชัดเจนเดินได้ง่าย วัสดุปูพื้นของบันไดใช้เป็นไม้ยางประสานทาสี
บริเวณโถงบันไดโดยรวมดีหมดในแง่การใช้งาน แต่น่าเสียดายคือน่าจะมีช่องเปิดเป็นหน้าต่างหรือกระจกก็ได้ ไว้ให้แสงสว่างจากภายนอกเข้าถึงโถงบันไดได้ จะช่วยให้บ้านดูโปร่งโล่งมากขึ้นและไม่จำเป็นต้องเปิดไฟบริเวณโถงในช่วงกลางวันอีกด้วยนะคะ
ขึ้นมาชั้น 2 เป็นส่วนโถงแจกไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้องและห้องน้ำรวม โดยพื้นในชั้นนี้ใช้วัสดุเป็นพื้นลามิเนต หนา 12 มม. พร้อมขอบบัวเป็นมาตรฐาน
เข้ามายังห้องนอนเล็กฝั่งหลังบ้านมีขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต หรือ Single Bed ได้กำลังพอดีค่ะ ถ้าอยากให้มีด้านนึงสามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้หรือจะวางโต๊ะทำงานขนาดเล็กๆ ข้างเตียง ก็ต้องเอาเตียงไปชิดกับฝั่งหน้าต่างแทน
บริเวณปลายเตียงจัดให้เป็นพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า
ส่วนห้องนอนเล็กอีกห้องที่อยู่บริเวณหน้าบ้านมีขนาดห้องใกล้เคียงกับห้องนอนเล็กฝั่งหลังบ้านเลยค่ะ สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ได้กำลังดี ถ้าวางเตียงชิดกับผนังฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะมีพื้นที่ว่างสำหรับวางโต๊ะทำงานได้
สำหรับห้องนอนนี้จะมีหน้าต่างบริเวณหน้าบ้านให้ เป็นแบบบานเปิดกระทุ้ง 2 บาน
ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ค่ะ หรือจะ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ทั้งแบบรูปตัว I หรือตัว L ก็ได้เช่นกันค่ะ
ห้องน้ำชั้นบนที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนทั้ง 2 ห้อง มีขนาดใกล้เคียงกับห้องน้ำชั้นล่างรวมไปถึงการจัดวางสุขภัณฑ์ และยี่ห้อสุขภัณฑ์เป็น Mogen ค่ะ
มาที่ห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) ได้พื้นที่ใหญ่พอสมควรเลยค่ะ เมื่อเทียบกับห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง โดยโซนพื้นที่เตียงนอนนี้จะอยู่ติดกับประตูระเบียงด้านหน้าบ้าน ทำให้โซนเตียงนอนดูโปร่งโล่ง ส่วนพื้นที่ใช้สอยภายในสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ 6 ฟุตได้สบาย
ส่วนระเบียงด้านนอกนี้ก็เป็นระเบียงที่ไม่ได้ไว้ใช้งานจริงเช่นเดียวกับบ้านเดี่ยวเลยค่ะ เพราะพื้นของระเบียงเป็นเพียงส่วนยื่นของพื้น (Cantiliver) เท่านั้น การที่ออกแบบบ้านมาแบบนี้ก็เพื่อให้สามารถติดตั้งหน้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนได้ จึงได้ช่องเปิดขนาดใหญ่กว่าการไม่ทำระเบียงแล้วต้องใช้ช่องเปิดได้แค่หน้าต่างเท่านั้น รวมทั้งการที่ไม่ได้ให้ระเบียงหน้าบ้านนั้นก็มีข้อดีคือได้พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านมากขึ้นแทนที่จะเอาพื้นที่ไปทำระเบียงหน้าบ้าน จึงเหมาะกับคนที่ไม่ได้ใช้ระเบียงหน้าบ้านอยู่แล้ว
ปลายเตียงสามารถ Built-in หรือวางชั้นวางทีวีได้ บริเวณมุมปลายเตียงสามารถจัดเป็นโต๊ะทำงานขนาดกะทัดรัด ที่ติดกับ Walk-in Closet ได้ค่ะ
บริเวณพื้นที่นี้เหมาะกับการจัดเป็นฟังก์ชัน อย่างโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ดี เพราะอยู่ติดกับหน้าต่างเลย ทำให้บริเวณนี้ค่อนข้างสว่าง จะทำงานก็ดีหรือจะนั่งแต่งหน้าก็เหมาะเช่นกันค่ะ
ถัดมาที่ส่วน Walk-in Closet จะจัดมาให้เป็นพื้นที่โล่ง ให้มาจัดวางตู้เสื้อผ้าเอง และมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้หนึ่งบานค่ะ
มาที่ห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่ของบ้านแฝด จะมีการจัดวางแปลนห้องน้ำคล้ายคลึงกับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ของบ้านเดี่ยวเลยค่ะ เพียงแต่มีขนาดเล็กลงมาหน่อย
ได้บริเวณอ่างล้างมือขนาดใหญ่พร้อมกระจกเงา และหน้าต่างบานกระทุ้งที่ติดฟิล์มฝ้าให้เรียบร้อย มีความเป็นส่วนตัว
ฝั่งตรงข้ามกับส่วนอ่างล้างมือเป็นพื้นที่โถสุขภัณฑ์จาก Mogen ด้านล่างก่อ Low Wall ให้สามารถวางของเล็กๆน้อยๆ ได้
ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะมีการลดระดับพื้นลงเล็กน้อย พร้อมปูด้วยกระเบื้องโมเสก
เฉพาะพื้นที่อาบน้ำในห้องนอนใหญ่เท่านั้นที่จะได้ฉากกั้นกระจกเป็นมาตรฐานค่ะ ภายในพื้นที่อาบน้ำด้านข้างทำช่องเล็กน้อยไว้ให้สำหรับวางครีมอาบน้ำ แชมพูได้ดีทีเดียวค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 02 August 2017
- บ้านแฝด ชีวารินทร์ ทิศใต้ แปลง D07 เนื้อที่ 39.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม. ราคาพิเศษ 5.886 ล้านบาท
- บ้านแฝด ชีวารินทร์ ทิศเหนือ แปลง C11 เนื้อที่ 55.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม. ราคาพิเศษ 6.886 ล้านบาท
- บ้านเดี่ยว ชีวานันท์ ทิศเหนือ แปลง A02 เนื้อที่ 55.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 238 ตร.ม. ราคาพิเศษ 9.586 ล้านบาท
- บ้านเดี่ยว ชีวานันท์ ทิศใต้ แปลง B04 เนื้อที่ 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 238 ตร.ม. ราคาพิเศษ 9.486 ล้านบาท
- จอง 0 บาท
- ทำสัญญา 30,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 80,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
โครงการ ชีวารมย์ รังสิต-ดอนเมือง เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดที่ตั้งอยู่บนถนนรังสิต-นครนายกช่วงตอนต้น (คลอง 1) ที่อยู่ใกล้กับ Future Park รังสิตมากที่สุด และใกล้ถนนพหลโยธินเข้า-ออกได้สะดวก ถือเป็นจุดเด่นของโครงการ เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวหรือบ้านแฝดในย่านรังสิต ต้องการเดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวกด้วยถนนพหลโยธิน ไม่เสียเวลารถติดบนถนนรังสิต-นครนายกมากนัก และอยากอยู่ใกล้ศูนย์รวมความอุดมสมบูรณ์ที่ใหญ่ที่สุดในย่านรังสิต และในส่วนของ Product โครงการก็ทำออกมาได้แตกต่างจากโครงการในละแวกด้วยกัน โดยเน้นบ้านหน้ากว้างและมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเยอะ รองรับครอบครัวใหญ่ได้ แลกมากับราคาบ้านที่ค่อนข้างสูงในทำเลนี้
ทำเล – ทำเลโครงการจัดเป็นจุดเด่นโครงการ ตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางของความอุดมสมบูรณ์และเดินทางสะดวกเพราะใกล้ถนนหลักของประเทศอย่างถนนพหลโยธิน จะเดินทางเข้าเมืองหรือออกเมืองก็ง่าย ตัวโครงการแม้จะอยู่ในซอยรังสิต-นครนายก 7 แต่ก็อยู่ลึกไม่มาก เพียง 180 ม.จากหน้าปากซอยถึงโครงการ ซึ่งคือว่าเป็นระยะที่เดินออกไปเรียกรถ หรือขึ้นรถสาธารณะได้ไม่ยาก ภายในซอยเองมีชุมชนบ้านพักอาศัยที่อยู่กันมานานหลายครัวเรือน บรรยากาศจึงมีความเงียบสงบแต่ยังคงมีชีวิตชีวา เพราะมีร้านค้าขายปลีก รถเข็นอาหารมาเป็นระยะๆ ตามสไตล์ชุมชนขนาดเล็ก ทำให้ภายในซอยไม่เปลี่ยว
การเดินทาง – จัดว่าสะดวกสำหรับคนที่ขับรถเอง เน้นเดินทางบนถนนพหลโยธินและโทลล์เวย์ ไม่ต้องเสียเวลารถติดบนถนนรังสิต-นครนายกมากนัก และสำหรับคนที่เดินทางด้วยรถสาธารณะก็ไม่ลำบาก ด้วยความที่โครงการอยู่ไม่ไกลจาก Future Park รังสิต ที่นอกจากจะเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในละแวกนี้แล้วยังมีศูนย์รวมของรถเมล์ รถตู้ ขนาดใหญ่อีกด้วย มีสายให้เลือกทั้งเข้าเมืองและออกต่างจังหวัด
โครงการ – ตัวโครงการจัดผังได้เรียบง่าย เน้นการสัญจรและการจัดวางตำแหน่งหน้าบ้านให้หันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่เหมาะกับตำแหน่งหน้าบ้าน และวางตำแหน่งของ Facilities ไว้บริเวณด้านหน้าโครงการ และอยู่ตำแหน่งตรงข้ามกับโซนบ้าน ซึ่งข้อดีคือสามารถใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกของลูกบ้านได้ โดยไม่จำเป็นต้องเชิญเข้าบ้าน และอยู่ไม่ไกลจากซอยย่อยทุกซอย เฉลี่ยการเข้าถึง Facilities ได้ใกล้เคียงกันทุกซอย เพื่อให้ลูกบ้านสามารถเข้าถึง Facilities ได้ง่ายมากขึ้น ส่วนสภาพแวดล้อมโครงการทำออกมาในระดับมาตรฐาน มีปลูกต้นไม้เป็นบางจุด เพิ่มความร่มรื่นให้ระดับนึง
แบบ – ตัวบ้านเน้นหน้ากว้างเป็นหลักและขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ค่อนข้างมาก เพื่อรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ได้เทียบกับโครงการในละแวกโซนคลองหนึ่งด้วยกันแล้ว บ้านเดี่ยวที่นี่จัดว่าให้พื้นที่ใช้สอยมามากที่สุดนะคะ และทั้ง 2 แบบบ้านทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดมีการออกแบบห้องนอนชั้นล่างไว้เพื่อรองรับผู้สูงอายุด้วย มาวิเคราะห์แยกกันอีกหน่อย สำหรับบ้านเดี่ยว ชีวานันท์ เป็นบ้านหน้ากว้างที่กว้างมากจริงๆ จนสามารถทำพื้นที่จอดรถได้ถึง 3 คันด้วยกัน ส่วนภายในมีจุดเด่นบริเวณพื้นที่นั่งเล่นที่ทำเป็นฝ้าเพดานสูง (Double Volume) เพื่อให้ภายในตัวบ้านดูโปร่งโล่งมากขึ้น มีข้อด้อยตรงห้องนอนเล็ก ชั้นบนที่อยู่หน้าบ้าน แปลนภายในห้องไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่นัก ไม่มีพื้นที่โซนเตียงนอนที่เป็นสัดส่วน จึงสามารถวางเตียงนอนได้ขนาด 3.5 ฟุตติดผนังห้องด้านนึง และอีกด้านเกยกับประตูระเบียง
ส่วนบ้านแฝด จัดเป็นบ้านแฝดขนาดใหญ่ ด้วยพื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม. เทียบเคียงกับบ้านเดี่ยวขนาดเล็กได้ ซึ่งความตั้งใจในการออกแบบก็ต้องการออกแบบเป็นบ้านเดี่ยวบนที่ดินขนาดเล็กอยู่แล้ว เพราะตัวบ้านแฝดเองไม่มีผนังส่วนไหนที่ติดกับบ้านข้างเคียงเลย ได้อารมณ์บ้านเดี่ยวชัดเจนค่ะ ข้อดีคือมีความเป็นส่วนตัวเมื่อเทียบกับบ้านแฝดทั่วไป ส่วนการจัดวางผังของบ้านแฝดจะใกล้เคียงกับบ้านเดี่ยวเพียงมีความกว้างของหน้าบ้านที่แคบลงมา และมีการจัดฟังก์ชันภายในห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องได้ลงตัวมากกว่าบ้านเดี่ยวค่ะ
วัสดุ – สำหรับวัสดุที่ได้อยู่ในเกรดมาตรฐาน ไม่ดีมากและไม่แย่ไป งานพื้นใช้กระเบื้องแกรนิตโต้ในชั้นล่าง พื้นลามิเนตในชั้นบน และใช้กระเบื้องเซรามิกในห้องน้ำ และลานซักล้าง ส่วนยี่ห้อสุขภัณฑ์ใช้ Mogen และ American Standard
สาธารณูปโภค – จัดมาให้สวย ครบครัน น่าใช้งาน มีขนาดกะทัดรัดตามจำนวนยูนิต โดยประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ Outdoor พร้อมพื้นที่นั่งเล่นวาง Day Bed, ห้องฟิตเนส, สวนหย่อม และห้องน้ำแยกชาย/หญิง ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการใช้งานของลูกบ้านเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตบ้านทั้งหมด 81 ยูนิตค่ะ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 5-9.5 ล้านบาท, 02 August 2017
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 9/10 – อยู่ใกล้ Future Park รังสิต ใกล้ถนนพหลโยธินเดินทางสะดวก
- ความปลอดภัย 7/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – บ้านหน้ากว้าง จัดฟังก์ชันภายในออกมาได้ดี มีจุดขาย Double Volume
- วัสดุ 7/10 – มาตรฐาน
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – จัดมาให้มาตรฐานไม่มากไม่น้อย
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – ครบครัน น่าใช้งาน เพียงพอ แต่เทียบกับโครงการบ้านบนถนนรังสิต-นครนายกกับราคาที่จ่ายยังให้มาไม่มาก
- 8.00 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ ชีวารมย์ รังสิต-นครนายก เหมาะกับ ครอบครัวกลาง-ใหญ่ มองหาบ้านเดี่ยวหรือบ้านแฝดในย่านรังสิต เดินทางด้วยถนนพหลโยธินสะดวก ต้องการอยู่ใกล้ศูนย์กลางความอุดมสมบูรณ์ ใกล้ห้าง ใกล้ Hyper Market ชอบบ้านหน้ากว้าง มีลูกเล่น Double Volume และมีงบประมาณพอสมควร อยู่ที่ 5-9.5 ล้านบาท หรือมีงบประมาณสำหรับผ่อนต่อเดือนประมาณ 35,000 – 76,000 บาท
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )