รีวิวฉบับที่ 1983 … ชวนชื่น ไพร์ม วิลเลจ บางนา บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จาก มั่นคงเคหะการ บ้านซีรีย์ใหม่ของแบรนด์ ชวนชื่น ไพร์ม บนทำเลบางนา-ตราด ช่วงกม. 29 ใกล้กับมหาวิทยาลัยเอแบคและนิคม Wellgrow แบบบ้านรองรับครอบครัวขยาย 3 – 5 คน และต่อเติมได้เพราะสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน ในราคาเริ่มของบ้านทั้ง 4 แบบ 3.99 – 5.89 ล้านบาท จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ
Fact @ 12 November 2019
- Chuen Chuen Prime Ville Bangna (ชวนชื่น ไพร์ม วิลเลจ บางนา)
- บริษัท มั่นคงเคหะการ จํากัด (มหาชน)
- MAIN – UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: ซอยเกียรติพิพัฒน์ธานี ถ.บางนา-ตราด กม.29 บางบ่อ, สมุทรปราการ
- เนื้อที่โครงการ 63-0-16.5 ไร่ จำนวน 293 ยูนิต
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
- Botanical พื้นที่ใช้สอย 179 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Botanica พื้นที่ใช้สอย 168 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Botanic พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม. 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Botani พื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด Google Maps : 13.600232, 100.877588
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
ชวนชื่น ไพร์ม วิลเลจ บางนา ตั้งอยู่ในซอยเกียรติพิพัฒน์ธานี ที่เชื่อมกับถนนบางนา-ตราด ช่วงกม. 29 โดยต้องเข้าซอยจากถนนหลักไปประมาณ 2.6 กม. บริเวณนี้จะอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) และนิคมอุตสาหกรรม Wellgrow
ที่ตั้งโครงการ ชวนชื่น ไพร์ม วิลเลจ บางนา ตั้งอยู่ในช่วงถนนบางนา-ตราด กม. 29 บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นชุนชนและทำเลโครงการแนวราบทั้งหมด จัดเป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างตัวเมืองสมุทรปราการที่อยู่บนถนนสุขุมวิทและออกเมืองไปทางฉะเชิงเทรา เป็นช่วงที่มีสถานที่สำคัญทั้ง สถานศึกษา โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล สนามบินสุวรรณภูมิ และก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งงานขนาดใหญ่อย่าง โตโยต้าไดฮัทสุ TDEM, นิคมอุตสาหกรรมบางพลี และนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ ด้วย ทำให้ทำเลโครงการนี้ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวที่มองหาบ้านเดี่ยวที่เน้นทำงานบนถนนบางนา-ตราด และอีกจุดสำคัญๆ คืออยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง สำหรับใครที่มีลูกหลานเข้าเรียนอยู่ที่นี่อยู่โครงการนี้ก็เดินทางได้สะดวกเช่นกัน
ความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้ๆ ขับรถไปได้ง่ายๆ เลยคือ ตลาดเสริมสุข มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 10.7 กม. ส่วนห้างใหญ่ และพวกซุปเปอร์มาร์เก็ตก็จะมีอยู่ทั้งถนนบางนา-ตราด และถนนเทพารักษ์ อย่างถนนบางนา-ตราด ก็จะมีทั้ง Mega Bangna, Market Village Tesco Lotus, HomePro และ Makro สามารถมาช็อปปิ้ง จับจ่ายซื้อของได้โดยไม่ต้องเข้าเมืองไปไกล แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องอาศัยขับรถไปอีกหน่อยนะคะ สำหรับถนนอีกฝั่งที่คู่ขนานกับถนนบางนา-ตราดก็คือ ถนนเทพารักษ์ ก็จะมีลักษณะที่เป็นชุมชนมากขึ้น จึงมีพวกตลาดสด, Lotus, Big C บนถนนเส้นนี้แต่ทั้งหมดต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางเป็นหลักค่ะ
สำหรับการเดินทางหลักๆ ของโครงการจะใช้ ถนนบางนา-ตราด เป็นหลัก ซึ่งเป็นถนนใหญ่ใช้เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก และมีจุดตัดกับถนนเส้นหลักหลายเส้นทาง ทั้งถนนสุขุมวิทที่แยกบางนา ตัดถนนศรีนครินทร์ที่แยกศิครินทร์ ตัดกับวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้รวมทั้งถนนกิ่งแก้วที่สามารถตรงไปยังสุวรรณภูมิได้อีกด้วย ทำให้การเดินทางเข้าไปยังโครงการหรือจากโครงการไปยังจุดต่างๆ ได้ไม่ยาก แต่ถนนเส้นนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นถนนที่มีรถค่อนข้างหนาแน่นทีเดียวนะคะ เหตุผลส่วนหนึ่งก็คืออยู่ใกล้ย่านอุตสาหกรรม ทำให้มีรถบรรทุกเยอะ ดังนั้นอาจจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางด้วยนะคะ
ทำเลที่ตั้งของโครงการ จะอยู่บริเวณถนนบางนา-ตราดช่วงกม.ที่ 29 ซึ่งถ้าใครที่ใช้ทางด่วนบูรพาวิถี ในการกลับบ้าน ให้เราลงที่จุดลงบางบ่อ ซึ่งพอเราลงมาแล้วซึ่งพอเราลงมาแล้วจุดสังเกตจะเห็นทางเข้า มหาวิทยาลัยเอแบคอยู่ซ้ายมือ ให้ตรงเลยมาประมาณ 2.8 กิโลเมตร ก็จะเจอถนนทางเข้าโครงการ ที่ชื่อว่าซอยเกียรติพิพัฒน์ธานี โครงการจะอยู่ลึกเข้าไปในซอยประมาณ 2.6 กม. ทำให้การเดินทางโดยรถสาธารณะต่างๆ จะไม่สะดวกมากนักเพราะอยู่ในถนนซอย หากออกไปที่ถนนบางนา-ตราดแล้วจะเรียกรถต่างๆ ได้สะดวกและมีหลากหลายมากขึ้น
เราซูมมาดูในซอยเกียรติพิพัฒน์ธานีกันหน่อย ซอยนี้เป็นซอยที่ค่อนข้างเงียบสงบ ส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านและที่ดินเปล่า มี Mini Big C ให้พึ่งพิงอยู่นิดหน่อย และด้านในสุดเป็นสนามกอล์ฟ Kiarti Thanee Country Club
อีกอย่างนึงก็คือเรื่องบรรยากาศบนถนนเกียรติพิพัฒน์ธานี ก็จะมีเพื่อนบ้านรุ่นพี่ก่อนหน้านี้อยู่ใกล้ๆ ที่เป็นโครงการของมั่นคงเคหะการเหมือนกัน ได้แก่ โครงการสิรีนเฮ้าส์, ชวนชื่น ไพร์ม บางนา และโครงการชวนชื่นบางนา ก็ทำให้มีเพื่อนบ้านช่วยดูแลความปลอดภัยกันและกันได้ด้วยนะ
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มบนทางด่วนบูรพาวิถีที่ลงตรงบางบ่อ (ที่ทางออก 26) วิ่งบนเส้นบางนา-ตราดไปเรื่อยๆ แล้วไปเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเกียรติพิพัฒน์ธานีไปอีกประมาณ 2.6 กม. ก็จะถึงโครงการชวนชื่น ไพร์ม วิลเลจ บางนา รวมระยะทางจากทางด่วนทั้งหมด 6.8 กม.
เริ่มเดินทางจากบนทางด่วนบูรพาวิถี แล้วเลือกลงที่ทางออกเลข 26 ตามป้ายบางบ่อค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
มาถึงบริเวณด้านหน้าโครงการกันแล้ว เรามาดูสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการกันสักนิดจะเห็นว่าที่ดินโดยรอบของโครงการติดกับหมู่บ้านทั้งหมด ก็การันตีไปได้ส่วนหนึ่งแล้วว่า ทำเลที่ตั้งจะเงียบสงบ เหมาะกับการอยู่อาศัย มีแค่บริเวณด้านหน้าโครงการที่ติดกับซอยเกียรติพิพัฒน์ธานี ซึ่งที่ดินฝั่งตรงข้ามถนนเป็นที่ดินเปล่า ก็ต้องรอดูในอนาคตว่าที่ดินแปลงนี้จะถูกใช้ประโยชน์เป็นอะไรนะคะ
เส้นประสีเหลืองคือขอบเขตของโครงการ ส่วนด้านข้างฝั่งขวาของโครงการจะติดกับที่ดินเปล่าขนาดใหญ่
อีกฝั่งหนึ่งของโครงการจะติดกับซอยย่อย ที่เป็นทางเข้าของหมู่บ้านชวนชื่นทาวน์ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นโครงการที่เป็นที่ดินเปล่า รอการพัฒนาค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Toyota Daihatsu ~ 500 ม.
- Mini Big C ~ 1.2 กม.
- โรงพยาบาลรวมชัยประชารักษ์ ~ 7.5 กม.
- นิคมอุตสาหกรรม Wellgrow ~ 9.2 กม.
- ตลาดสดเสริมสุข ~ 10.7 กม.
- โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษา ~ 11.7 กม.
- รพ.บางนา 2 ~ 13 กม.
- มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค บางนา) ~ 13.4 กม.
- มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ~ 19.7 กม.
- โรงพยาบาล เซ็นทรัล ปาร์ค ~ 20.3 กม.
- Mega Bangna ~ 28 กม.
- Big C ~ 28.9 กม.
- สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 33.1 กม.
- ม.รามคำแหง 2 ~ 35.3 กม.
- เซ็นทรัล บางนา ~ 35.7 กม.
- BITEC บางนา ~ 35.9 กม.
มาดูที่ตัวโครงการ ชวนชื่น ไพร์ม วิลเลจ บางนา เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 293 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการประมาณ 63 ไร่ ที่กำลังจะพาไปชมนี้เป็นเฟสแรกของโครงการ มีระบบรักษาความปลอดภัยทั้งที่บริเวณซุ้มทางเข้าออกด้านหน้าโครงการ และก็ CCTV ภายในโครงการตามจุดสำคัญต่างๆ พื้นที่ส่วนกลางในโครงการนี้ ให้มาเป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่พื้นที่ประมาณ 2 ไร่ แลกมากับค่าส่วนกลางเพียง 15 บาทต่อตร.วา ก็แฟร์ๆ กันดี เหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นใช้ส่วนกลางมากนัก
ที่ดินของตัวโครงการเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่ได้เป็นแปลงยาวแบบเส้นก๋วยเตี๋ยว ทำให้บ้านแต่ละหลังมีระยะจากซุ้มหน้าประตูโครงการไม่ไกลมาก โดยมีระยะจากทางเข้าวงเวียนที่จะแยกเข้าซอยย่อยๆ ของบ้านประมาณ 100 ม. ซึ่งแน่นอนว่าบ้านที่อยู่ด้านในสุดต้องเข้ามาจากหน้าโครงการลึกกว่าบ้านอื่นๆ หน่อย แต่ก็แลกมากับความเป็นส่วนตัวที่แต่ละซอยจะได้ความสงบที่มากขึ้น เพราะจะมีบ้านเพียงไม่กี่หลังใน 1 ซอยค่ะ
จากถนนหลักตรงเข้ามาในโครงการ บ้านเฟส 1 จะอยู่ทางซ้ายมือของถนนหลักทั้งหมด เข้ามาเรื่อยๆ ประมาณ 100 ม. จะเป็นที่ตั้งของสวนส่วนกลาง ซึ่งการจัดสวนไว้บนถนนหลักแบบนี้ก็มีข้อดีตรงที่ลูกบ้านทั้งหมดจะได้เข้าใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย (แต่ถ้าบ้านอยู่หลังในสุดก็คงต้องออกแรงเดินกันหน่อยไม่ก็ต้องขับรถมาค่ะ)
การวางตัวของบ้านแต่ละหลัง จะหันหน้าเข้าหาถนนซอยภายในโครงการที่กว้าง 9 ม. ส่วนถนนหลักกว้าง 12 ม. นั้น จะเป็นถนนที่ใช้ผ่านเข้าไปในเฟสอื่นๆ ไม่ได้มีบ้านติดกับถนนหลักเลยนะ ทำให้บ้านทุกหลังอยู่ในซอยทั้งหมด มีความเป็นส่วนตัวระดับนึง การเลือกตำแหน่งของบ้านก็จะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล สำหรับลูกบ้านที่ชอบความสงบแนะนำให้เลือกหลังที่อยู่ท้ายโครงการก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะจะไม่มีเพื่อนบ้านผ่านเข้าออกเยอะ ส่วนผู้ที่เน้นเข้าออกสะดวก ก็เหมาะจะเลือกหลังที่อยู่ด้านหน้าโครงการ นอกจากนี้ก็จะมีบ้านหน้าสวนด้วย ซึ่งจะเป็นบ้าน Type ใหญ่สุด (Botanical) เป็นส่วนใหญ่
สำหรับทิศของบ้านในโครงการส่วนใหญ่จะหันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมในการเลือกบ้านเลยทีเดียว บ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ธรรมชาติหน่อย ไม่ค่อยแรงมาก ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศใต้จะได้แสงที่แรงกว่าและลมที่แรงกว่าด้วย แบบบ้านของโครงการเป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมด 4 แบบ แต่ละแบบจะมีฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของบ้าน ซึ่งบ้านตัวอย่างทุกแบบสร้างเสร็จแล้วสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ การเลือกบ้านก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้สอยและความชอบ สำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่มีพื้นที่สวนรอบบ้านกว้างๆและมีงบประมาณเพิ่มขึ้นได้อีกหน่อยก็เลือกบ้านหลังมุมก็ได้
ซุ้มประตูหลักของโครงการออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่มากทำให้ตัวโครงการดูดี ทางเข้าโครงการเป็นคอนกรีตแสตมป์ถูกยกพื้นให้มีระดับที่สูงกว่าถนนด้านหน้าโครงการเล็กน้อย เพื่อช่วยในการระบายน้ำและป้องกันน้ำไหลเข้าโครงการได้
ประตูหน้าโครงการนอกจากจะแยกทางเดินรถและจะมีประตูทางเข้า-ออก สำหรับคนเดินแยกไว้ต่างหากอีกประตูหนึ่ง ทำให้เกิดความปลอดภัยสำหรับลูกบ้าน
ทางเดินรถเข้าโครงการจะแยกออกเป็น 2 ช่องทาง โดยช่องฝั่งซ้ายจะเป็นทางเข้าสำหรับผู้อยู่อาศัยภายในโครงการช่วยให้ลูกบ้านไม่เสียเวลาต่อคิวรอนานถ้ามีบุคคลภายนอกมาแลกบัตร ลูกบ้านสามารถใช้ระบบ Easy Pass ผ่านเข้าออกได้เลย
ส่วนช่องฝั่งขวาที่ติดกับป้อมยาม เป็นช่องทางเข้าสำหรับผู้มาติดต่อแลกบัตรเข้า-ออกก็จะต้องทำการยื่นบัตรให้กับพี่ รปภ. เพื่อบันทึกข้อมูล แล้วก็จะได้ใบกระดาษมาให้เจ้าของบ้านที่เรามาเยี่ยมแสตมป์และยื่นให้พี่ยามในขาออก และมีกล้อง CCTV ส่องคนขับในระยะใกล้ เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านด้วย
อีกฝั่งหนึ่งของซุ้มประตูที่เห็นเป็นอาคารหลังคาจั๋วหลังจิ๋วๆ นี้คือ อาคารนิติบุคคลของหมู่บ้าน ในอนาคต
ผ่านซุ้มโครงการเข้ามาที่ถนนหลักภายในโครงการมีความกว้าง 12 ม. ซึ่งถนนหลักเส้นนี้จะตรงยาวเข้าไปด้านในเพื่อเป็นทางเข้าของเฟสอื่นๆ ในอนาคต ส่วนโครงการเฟสแรกจะอยู่ทางซ้ายมือ หลังแนวต้นไม้ทางฝั่งซ้าย
ตรงเข้ามาจากซุ้มโครงการประมาณ 100 ม. จะถึงวงเวียน ให้เราเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่พื้นที่เฟส 1 นะคะ
บ้านตัวอย่างในโครงการทั้ง 4 แบบสร้างเสร็จหมดแล้ว เป็นบ้านติดสวนนี่แหละ ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชมทุกแบบเลย
บรรยากาศภายในซอยบ้านที่ติดสวนจะมีฟุตบาทให้เดินทั้ง 2 ฝั่งถนน และต้นไม้ใหญ่ไปตลอดแนว ซึ่งโครงการเพิ่งลงต้นไม้ไปไม่นานยังต้องใช้ไม้ค้ำอยู่ ถ้าผ่านไปสัก 2-3 ปี เราน่าจะได้เห็นบรรยากาศที่ร่มรื่นขึ้นนะ
พื้นที่ภายในสวนส่วนกลางถูกจัดไว้ทั้งไม้ใหญ่และไม้พุ่ม โดยจะมีทางเดินภายในสวนที่ลาดยางมะตอยให้สามารถเดินเล่นได้สะดวก
บริเวณ Co-Living Area ของที่โครงการนี้จะเป็นแบบ Outdoor ซึ่งเค้าจะเน้นต้นไม้ใหญ่ให้เยอะหน่อย เพื่อให้เกิดร่มเงา
และบริเวณนี้ก็จะมีมุมสำหรับนั่งเล่นไว้ด้วย แต่ก็ยังแนะนำให้มาใช้งานในช่วงเย็นๆ ที่แดดร่มลมตกหน่อยนะ อากาศเมืองไทยช่วงนี้มันร้อน ต้นไม้ครึ้มขนาดไหนก็ยังมีเหงื่อออกกันนะ^^ มองผ่านมุมนี้ออกไปจะเห็นโรงเรือนปลูกผักสวนครัวที่เป็นหลังคาสามเหลี่ยม
เป็นโรงเรือนโปร่งๆ ที่มีโครงหลังคากันแดดกันฝนให้แบบนี้
ด้านในทำพื้นที่ไว้ให้วางกระถางต้นไม้ ซึ่งในส่วนนี้ต้องรอทางนิติบุคคลเป็นผู้จัดการดูแล ว่าจะใช้ประโยชน์อย่างไร
เส้นทางเดินรอบสวน ก็ไม่ใช่ทางเดินปกติ แต่ที่เค้าลาดยางมาให้ เพื่อให้เราวิ่งได้สะดวก พื้นลาดยางนี้จะนุ่มกว่าพื้นคอนกรีตทำให้ช่วยลดแรงกระแทกเวลาเราวิ่งได้
ตามทางไปเรื่อยๆ ก็จะมีจุดบอกระยะ ไปเรื่อยๆ
ผ่านเข้ามาด้านสวนเรื่อยๆ ก็จะมีสนามเด็กเล่น ซึ่งมีอุปกรณ์ของเล่นเด็กติดตั้งไว้ด้วย
พื้นที่สนามเด็กเล่นปูด้วยพื้นยางกันกระแทกนุ่มกว่าพื้นที่ลาดยางสำหรับวิ่งขึ้นมาอีกระดับนึง เพราะโครงการออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานของเด็ก ซึ่งมีลวดลายต่างๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้เด็กๆ ได้ด้วย
มีพื้นที่ให้ปีนป่าย เสริมทักษะของกล้ามเนื้อ
มีเครื่องเล่นไว้ให้ปีน ให้กระโดด และมีระดับของพื้นที่แตกต่างกัน แต่เวลาเล่นก็ต้องมีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่ดีนะ
เข้ามาในสวนเรื่อยๆ จะมีอุปกรณ์ออกกำลังกายสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเครื่องออกกำลังกายง่ายๆ 4 เครื่อง ให้มายืดเส้นยืดสายกันได้
สำหรับใครที่เลือกตำแหน่งบ้านท้ายๆ อยู่ในซอยลึกหน่อย ถ้าไม่อยากเดินมาใช้สวน ก็สามารถขี่จักรยานมาจอดที่ตรงนี้ได้
สุดท้ายคือมีลานหินนวดเท้า กิจกรรมนี้ดูว่าเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน และเป็นที่ฮอตฮิตในหมู่ผู้สูงอายุ แต่วัยรุ่นก็ทำได้นะ ว่ากันว่าจะช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนดีขึ้นค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- พื้นที่สีเขียวภายในโครงการขนาดประมาณ 2 ไร่
- สนามเด็กเล่น
- Jogging Loop
- ลานนวดเท้าเพื่อผ่อนคลาย
- รั้วรอบโครงการสูง 2.45-3 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
- Key Card Access ระยะไกล
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- CCTV ทั่วโครงการ
โครงการ ชวนชื่น ไพร์ม วิลเลจ บางนา เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ขายแบบบ้านเปล่า ดังนี้
- Botanical พื้นที่ใช้สอย 179 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Botanica พื้นที่ใช้สอย 168 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Botanic พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม. 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Botani พื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
สำหรับวันนี้เราจะพาไปชมแบบบ้านทั้ง 4 แบบ เราจะพาไปชมแบบ Botani แบบเจาะทีละจุดเพราะเป็นแบบที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดในโครงการ ส่วนบ้านอีก 3 แบบจะพาไปชมแบบเป็นภาพรวมแต่งละห้องของบ้าน เพื่อให้เราได้ดูทุกๆ แบบอย่างครบถ้วนนะคะ ตามไปชมกันเลยค่ะ
ก่อนอื่นเราจะขอแนะนำบ้านซีรีย์ใหม่จากชวนชื่น ไพร์ม วิลเลจ บางนา กันก่อนว่ามีการปรับเปลี่ยนอะไรกันบ้าง อย่างแรกคือหน้าตาของบ้าน ที่มาในสไตล์ Modern ที่มีกลิ่นอายแบบ Cottage ผสมอยู่ด้วย คือไม่ได้ดูสมัยใหม่จ๋าๆ จะยังคงมีลูกเล่น มีหลังคาบ้านทรงจั่ว มีการตกแต่งด้วยราวระเบียงเล็กๆ มีหน้าต่างที่ทำให้ดูเหมือนมีห้องใต้หลังคา และดีเทลของหน้าต่างที่มีการตีตารางลูกฟัก นอกจากนี้ยังมีการออกแบบเพื่อให้เกิด Living in Well-Being ที่จะสะท้อนในรายละเอียดของบ้านเช่น ช่องระบายอากาศใต้หลังคา เป็นต้น ซึ่งจุดเด่นของตัวบ้านที่น่าสนใจสำหรับเราคือระบบการก่อสร้างแบบ Conventional ซึ่งหากเปรียบเทียบกับ Precast แล้ว จะเด่นในแง่ของการต่อเติม เพราะระบบ Conventional สามารถต่อเติมได้ในอนาคตนะคะ นอกจากนี้บ้านซีรีย์ใหม่ยังมีการปรับแปลนในบ้าน Type ใหญ่สุดคือแบบ Botanical ด้วย ซึ่งจะขอไปอธิบายรายละเอียดอีกทีตอนที่เราพาไปชมบ้านจริงกันนะคะ ตอนนี้เรามาไล่ดูตั้งแต่ Type เล็กสุด ที่มีจำนวนมากสุดและเป็นที่ฮอตฮิตในโครงการนี้กันก่อน
ผังพื้นแบบบ้าน Botani พื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ จุดที่น่าสังเกตคือการจัดตำแหน่งของโซนครัวไว้อยู่ใกล้กับที่จอดรถ ทำให้ในเวลาที่เราไปช้อปปิ้งของสดหรืออาหารเข้าบ้าน ทำให้เราสามารถหิ้วเข้าครัวได้สะดวก
พื้นที่ในชั้นล่างเปิดเชื่อมกันจากห้องนั่งเล่นถึงพื้นที่ทานอาหาร และเชื่อมมายังห้องครัว แถมยังมีพื้นที่หน้าห้องครัวที่สามารถทำเป็น Pantry ครัวเล็กๆ ได้ด้วย ชั้นล่างมีห้องน้ำที่ออกแบบมาให้มีขนาดที่ใหญ่พอสมควรและแบ่งเป็นสัดส่วน ทำให้สามารถใช้อาบน้ำได้ ชั้นบนแบ่งพื้นที่เป็นห้องนอนอีก 3 ห้องและแชร์ห้องน้ำร่วมกัน หากในกรณีตอนเช้าที่ต้องใช้ห้องน้ำพร้อมๆ กัน ก็ยังแบ่งสมาชิกลงมาอาบน้ำที่ชั้นล่างได้ เหมาะกับครอบครัวขยาย ที่มีสมาชิก 3-4 คน แบบพ่อแม่ลูกค่ะ
ตามที่เล่าไปว่าโครงการปรับหน้าตาของตัวบ้านใหม่ ทำให้ภายนอกของบ้านแบบ Botani มาในสไตล์ Modern ที่มีกลิ่นอายแบบ Cottage ผสมอยู่ด้วย นอกจากหน้าตาบ้านแล้วจุดเด่นอีกอย่างของตัวบ้านโครงการนี้คือ ก่อสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน ซึ่งจะมีข้อดีในเรื่องของการต่อเติม หรือ Built-In เฟอร์นิเจอร์ ที่สามารถเจาะ ยึดเพิ่ม ตามจุดต่างๆได้เลย ซึ่งจะต่างจากระบบก่อสร้างแบบ Precast ค่ะ
ประตูรั้วหน้าบ้านใช้วัสดุเป็นเหล็กรูปพรรณทาสี ลักษณะรั้วโปร่งซี่ห่างๆ ไม่กันสายตา เป็นบานเลื่อนยาวๆ ไม่มีแบ่งเป็นประตูเล็กสำหรับคนเดินเข้า-ออก รั้วระหว่างบ้านมีความสูง 1.5 ม. ซึ่งเป็นระยะที่ไม่สูงนักมีข้อดีที่ทำให้บ้านดูโปร่ง สามารถมองวิวด้านนอกบ้านได้สะดวก แต่ก็สามารถปีนข้ามได้ง่าย
บริเวณด้านหน้ารั้วจะมีบ้านเลขที่ ช่องใส่จดหมาย และถังขยะของบ้าน เตรียมไว้ให้อย่างนี้เป็นมาตรฐาน
เปิดประตูรั้วเข้ามาด้านใน มีพื้นที่ให้จอดรถได้ 2 คัน เป็นที่จอดในร่ม 1 คันและจอดกลางแจ้งอีก 1 คัน พื้นลานจอดรถเทคอนกรีต ไว้ให้ แต่ไม่ได้ลงเสาเข็มนะ ถ้าใครกลัวพื้นบริเวณนี้ทรุดก็แนะนำให้จ้างช่างมาลงเสาเข็มเพิ่มตั้งแต่แรกๆ เลยนะคะ
ระยะจอดรถจากรั้วบ้านถึงผนังอาคารลึก 7.5 ม. และด้านข้างของแต่ละช่องกว้าง 2.7 ม. ซึ่งเป็นระยะที่สามารถจอดรถกระบะได้ไม่มีปัญหา จอดรถ 2 คันได้แต่จะเปิดประตูรถกว้างๆไม่ได้ ก็เป็นปกติของบ้านเดี่ยวส่วนใหญ่ในสมัยนี้แหละ เวลาถึงบ้านก็เอาของลงจากรถก่อนแล้วค่อยถอยรถเข้าบ้านจะสะดวกกว่าค่ะ
ด้านข้างบ้านในส่วนที่ติดกับที่จอดรถ จะมีประตูเดินเข้าห้องครัวที่อยู่ด้านหลังบ้าน พอจัดแปลนแบบนี้ดีนะ คือถ้าไปช้อปปิ้งของสดหรืออาหารมา เราก็สามารถหิ้วเข้าครัวได้สะดวกเลย ไม่ต้องเดินอ้อมเข้าทางหน้าบ้าน
พื้นที่โดยรอบบ้านจะปลูกต้นไม้ไว้ให้ โดยจะปลูกหญ้าและลงต้นโมกตามแนวรั้วมาให้ และแถมต้นไม้ใหญ่อีก 1 ต้นค่ะ
รอบตัวบ้านจะเหลือพื้นที่เท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับแปลงที่ดินที่เลือก แต่ละแปลงจะได้ไม่เท่ากันนะคะ อย่างบ้านตัวอย่างเป็นบ้านแปลงมุมจะมีพื้นที่ข้างบ้านมากหน่อย เหมาะกับคนที่ชอบทำสวน ปลูกต้นไม้ หรืออยากได้พื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนในสวนข้างบ้าน
มาถึงบริเวณด้านหน้าบ้าน ก็จะมีพื้นที่ให้จัดสวนอีกเช่นกัน ซึ่งโครงการนี้บ้านจะหันทางทิศเหนือใต้เป็นหลัก แนะนำเลยว่าบ้านที่หันทางทิศใต้ ให้ปลูกต้นไม้หรือต่อเติมกันสาดสำหรับบังแดดไว้หน่อยนะคะ เพราะแดดจะเข้าในส่วนของห้องนั่งเล่นที่อยู่ทางด้านหน้าบ้านพอดีเลย
พื้นเฉลียงหน้าประตูบ้านถูกยกระดับขึ้นจากสนามหญ้ามานิดหน่อย เพื่อแยกเป็นพื้นที่สำหรับถอดรองเท้าหน้าบ้าน บริเวณนี้จะปูกระเบื้องมาให้เรียบร้อย ทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย
ประตูทางเข้าหน้าบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อน แบบบาน Fixed ผสมบานเลื่อน จึงสามารถเปิดได้ฝั่งเดียว ทำให้ช่องทางเดินเข้า-ออกบ้านกว้างประมาณ 0.8 ม. พื้นภายในบ้านจะยกระดับสูงขึ้นจากเฉลียงอีกนิดหน่อย ปูด้วยกระเบื้อง Porcelain สีขาวขนาด 60×60 ซม. ก็เป็นไปตามมาตรฐานของบ้านราคาระดับนี้ จุดที่สังเกตเห็นเลยคือดีเทลของประตูที่มีการตีตารางลูกฟัก ดูแบบ Cottage น่ารักอบอุ่นดี
ลักษณะของมือจับบานประตูหน้าบ้านมีพื้นที่ให้จับได้พอดีมือค่ะ ประตูเป็นแบบล็อก 2 ชั้นคือ ตัวล็อกที่มือจับประตู และตัวล็อกก้นหอยระหว่างบานเลื่อนอีกชั้นหนึ่งค่ะ
เข้ามาด้านในเข้ามาในบ้านตัวอย่างแล้ว สิ่งแรกที่ต้องพูดถึงเลยคือเรื่องระบบ Security ที่โครงการจะมีการติดตั้งระบบ Magnetic Sensor มาให้ ที่ประตูหน้าต่างทุกบานบริเวณชั้น 1 ถือว่าเรื่องความปลอดภัยมีให้ครบไม่แพ้โครงการอื่นในย่านนี้
สำหรับพื้นที่ส่วนแรกที่เข้ามาจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ถัดไปด้านในเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ที่ชั้น 1 จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร ผนังในบ้านตัวอย่างจะมีวัสดุตกแต่งไว้ ซึ่งบ้านจริงจะได้เป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาวธรรมดานะคะ ส่วนดวงไฟในบ้านตัวอย่างจะติดไฟดาวน์ไลท์และโคมไฟแขวน ส่วนบ้านจริงจะให้เฉพาะไฟดาวน์ไลท์นะคะ
มาดูรายละเอียดทีละห้องกัน เริ่มจากห้องนั่งเล่นที่อยู่หน้าสุดของตัวบ้าน โซฟาที่จัดไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างเป็นโซฟา 3 ที่นั่ง ซึ่งหากมีสมาชิกมากกว่านี้ พื้นที่ตรงนี้ก็สามารถวางชุดโซฟาที่ใหญ่กว่านี้ได้ เพราะยังมีพื้นที่เหลือให้วางโซฟาเพิ่มได้
ส่วนระยะดูทีวีมีความกว้างประมาณ 3.3 ม. จึงเลือกทีวีขนาดใหญ่ได้ตามใจชอบ บ้านที่ได้มาเป็นบ้านเปล่าทำให้เราสามารถออกแบบชั้นวางทีวีได้เต็มผนังเลย
ด้านหลังโซฟาจะมีหน้าต่างบานเลื่อน เป็นช่องแสงอีกตำแหน่งหนึ่งของบ้าน ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ดูโปร่งโล่งขึ้น
ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ในบ้านตัวอย่างวางโต๊ะทานข้าวขนาด 6 ที่นั่ง ด้านหลังโต๊ะอาหารมีช่องแสงทั้ง 2 ฝั่งของตัวบ้านที่รับแสงธรรมชาติเข้ามา ทำให้เวลานั่งทานข้าวเวลากลางวันจะร้อนสักนิดต้องติดม่านช่วย แต่ถ้าทำสวนรอบๆ และมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาจะช่วยสร้างบรรยากาศได้ดี ส่วนระยะโดยรอบโต๊ะทานข้าวมีระยะให้ดึงเก้าอี้ออกมานั่งได้พอสมควรเลย
ช่องแสงฝั่งหนึ่งเป็นประตูบานเลื่อนให้เชื่อมต่อออกไปบริเวณรอบบ้านได้ โดยสเปคของประตูบานเลื่อนข้างบ้านเป็นประตูบานเลื่อนแบบเปิด 2 ข้างเหมือนแบบประตูหน้าบ้าน ขอบวงกบประตูบานเลื่อนจะถูกฝังให้อยู่ระดับเดียวกับพื้นบ้าน จึงใช้งานได้ง่าย ถ้าต่อเติมเฉลียงออกไปด้านนอกก็ต้องลดระดับพื้นเฉลียงลงไม่ให้เท่ากับพื้นในตัวบ้านนะคะ เพื่อให้น้ำจากภายนอกไม่ไหลเข้าสู่ตัวบ้าน
จากโต๊ะทานข้าวมองมาทางฝั่งห้องครัวก็จะเห็นพื้นที่ใช้สอยอีกฝั่งหนึ่งของบ้าน คือห้องครัวที่อยู่ทางขวา ได้เป็นครัวปิด ตรงกลางเป็นทางไปห้องน้ำ ส่วนด้านซ้ายสุดเป็นบันไดขึ้นชั้นบนของตัวบ้าน
เรามาดูไอเดียจากบ้านตัวอย่าง ที่ทำ Pantry เล็กๆ บริเวณหน้าห้องครัว สำหรับเตรียมอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ หรือแค่ทำเครื่องดื่มก็ใช้ตรงนี้ได้เลย ไม่ต้องเดินเข้า-ออก ห้องครัวบ่อยๆ
ห้องครัวที่ได้เป็นครัวปิดกั้นพื้นที่ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เหมาะกับการใช้ชีวิตของคนไทย ที่ชอบทำอาหารที่มีกลิ่นและควันแรงๆ นะคะ
พอเปิดประตูแล้วจะมีพื้นที่ให้เดินเข้าออกกว้างประมาณ 80 ซม. มีสันขอบวงกบลอยเหนือพื้นขึ้นมาเล็กน้อย เวลาเดินผ่านเข้าออกก็ระวังสะดุดนิดนึงค่ะ
ภายในห้องครัวที่ได้จริงจะเป็นห้องเปล่าที่เดินท่อน้ำ ระบบไฟรอไว้ให้ ไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์เหมือนในบ้านตัวอย่างนะคะ
ถ้า Built-in ห้องครัวตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ลงตัวดีนะ ฝั่งเคาน์เตอร์สำหรับติดตั้งซิงค์ล้างจานก็จะมีหน้าต่างบานเลื่อน 2 มาให้ เพื่อให้แสงแดดเข้ามาภายในครัวได้ และยังสามารถเปิดเพื่อระบายกลิ่น ควัน จากการทำอาหารได้ด้วย
อีกฝั่งหนึ่งของห้องครัวก็ใช้เป็นเคาน์เตอร์สำหรับทำอาหาร และวางตู้เย็น
ถ้า Built-in ห้องครัว เป็นครัวขนานตามแบบบ้านตัวอย่างจะเหลือพื้นที่ทางเดินภายในครัว ประมาณ 1.1 ม. ไม่กว้างมาก แต่ก็พอใช้งานพร้อมกัน 2 คน ได้ ไม่อึดอัด
ด้านในสุดของห้องครัวจะมีประตูทางออกไปยังลานซักล้างหลังบ้าน ตัวบานประตูเป็นบานไม้สำเร็จรูปตามแบบในบ้านตัวอย่าง ตัวล็อกเป็นลูกบิด และมีการติด Stopper ไว้ให้เรียบร้อยเพื่อกันประตูกระแทกค่ะ
พื้นที่ซักล้างหลังบ้านจะถูกลดระดับลงไปจากพื้นห้องครัว เพื่อแยกพื้นที่ซักล้างออกจากพื้นที่อยู่ด้านในตัวบ้าน ทำให้น้ำจากลานซักล้างไม่ไหลเข้าไปในตัวบ้าน และจะมีปลั๊กไฟและก๊อกน้ำมาให้อย่างละ 1 จุด ในส่วนนี้ทำไว้ให้สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้านะคะ
พื้นที่ซักล้างหลังบ้านมีขนาด 1.7 x 1.2 ม. และปูกระเบื้องมาให้เรียบร้อยทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด
กลับเข้ามาในบ้าน จะพามาชมห้องน้ำส่วนกลางและพื้นที่บริเวณบันได บานประตูห้องน้ำเป็นบานสำเร็จรูป UPVC มือจับประตูเป็นแบบลูกบิดเช่นเดียวกับมือจับของประตูหลังบ้าน
สำหรับห้องน้ำของบ้านโครงการนี้ทุกห้องจะได้แบบ Full Option คือมีพื้นที่อาบน้ำมาด้วย โดยมีการออกแบบที่แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกเอาไว้ด้วยการทำระดับพื้นที่ต่างกัน จะไม่ได้ให้ส่วนของฉากกั้นอาบน้ำมา และทุกห้องจะมีการเจาะช่องหน้าต่างเล็กๆ ให้แสงเข้าและให้สามารถเปิดระบายอากาศได้
พื้นที่ส่วนแห้งจะเป็นโซนสำหรับอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะถูกลดระดับลงไปอีกเล็กน้อย เพื่อไม้ให้น้ำไหลออกมาพื้นที่ส่วนอื่นๆ ได้
อ่างล้างมือและก๊อกน้ำของ American Standard ด้านหลังของผนังมีการก่อ Low Wall ขึ้นมาเป็นส่วนของงานระบบ ซึ่งเราสามารถเอาไว้ใช้วางข้าวของเครื่องใช้ได้
โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบสองชิ้นยี่ห้อ American Standard หรือเทียบเท่า มาเป็น Set กับที่แขวนกระดาษชำระและสายฉีดชำระ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.80 x 1.30 ม. เป็นระยะมาตรฐานที่สามารถใช้งานได้จริง
ภายในมีการติดตั้งอุปกรณ์อาบน้ำมาให้เรียบร้อย และมี Built-in ชั้นวางของให้ด้วย
หน้าตาของฝักบัวที่ได้ของ American Standard อีกเช่นกัน
ต่อมาที่บันไดขึ้นชั้น 2 ตัวโครงบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กซึ่งดีกว่าหลายๆ โครงการที่มักจะใช้เป็นบันไดโครงสร้างเหล็กนะ ..เคยขึ้นบันไดแล้วรู้สึกว่ามีเสียง ข้างใต้พื้นกลวงๆ และสั่นเล็กน้อยมั้ย แบบนั้นคือบันไดโครงสร้างเหล็ก ซึ่งหากเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก จะให้ความรู้สึกที่มีความแน่นของพื้นมากกว่า ไม่มีการสั่นไหวค่ะ
วัสดุพื้นของบันไดเป็นไม้สำเร็จรูป ความกว้างของพื้นที่เดินอยู่ที่ประมาณ 0.8 ม. ราวกันตกเป็นลูกกรงเหล็กทาสีเทา มือจับเป็นไม้สำเร็จรูป ตามมาตรฐานของบ้านระดับนี้
บันไดจะมีราวกันตกอยู่ตลอด แม้ตัวราวจับด้านบนจะไม่ได้เชื่อมต่อกันโดยตรงแต่ถือว่าดีที่ให้มาตลอดแนวค่ะ
โครงการเค้าพยายามออกแบบให้ประหยัดพื้นที่บริเวณบันไดมากๆ เพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ใช้สอยในส่วนอื่นๆ ของบ้านได้เต็มที่ ทำให้ชานพักบันไดต้องแบ่งเป็นขั้นสามเหลี่ยมอยู่บ้าง เวลาขึ้นลงก็เดินระวังกันนิดนึง แต่โดยรวมก็ยังใช้งานได้สะดวกอยู่ และระดับของลูกตั้งลูกนอนยังถือว่าได้มาตรฐาน
ช่องแสงของบันไดจะจัดไว้ตรงกลางโถงบันได ทำให้ตัวโถงบันไดได้แสงธรรมชาติไปเต็มๆ ซึ่งตำแหน่งของหน้าต่างจะอยู่บริเวณหน้าบ้าน ถ้าเราปลูกต้นไม้ใหญ่บริเวณหน้าบ้าน ก็จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นเวลาที่เรามองผ่านกระจกออกไปได้
ขึ้นมายังโถงชั้น 2 ฝั่งที่ติดกับทางขึ้นบันไดจะเป็น Master Bedroom ตรงกลางเป็นห้องน้ำของชั้นบน ส่วนห้องที่ติดถัดเข้าไปด้านในเป็น Bedroom 2 และ 3 วัสดุพื้นชั้นบนจะเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ทั้งชั้นตั้งแต่หน้าบันไดถึงภายในห้องนอนค่ะ
มาดูฝั่ง Bedroom 2,3 กันก่อน ทั้ง 2 ห้องมีขนาดพอๆ กัน ต่างกันที่ Bedroom 3 จะได้วิวทางหน้าบ้าน และ Bedroom 2 จะได้วิวทางด้านหลังนะคะ
ภายใน Bedroom 2 มีขนาดกว้างพอสมควร ภายในห้องดูโปร่งด้วยหน้าต่าง 2 ฝั่งของผนังห้องเลย
ห้องที่ได้จะเป็นห้องเปล่า โล่งๆ จากห้องตัวอย่างก็สามารถใช้เป็นไอเดียในการแต่งห้องได้ โดยวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ไว้ชิดผนังทำให้ภายในห้องเหลือพื้นที่ใช้งานที่กว้างขึ้น
ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับชั้นวางทีวี หรือใครจะติดตั้งแบบแขวนก็ได้นะคะ
พอวางเตียงชิดผนังทำให้ด้านข้างเตียงมีพื้นที่พอสำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือด้วย
Bedroom 3 จะมีขนาดเท่ากับ Bedroom 2 เลย ต่างกันแค่ตำแหน่งที่ห้องนี้จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน
ภายในมีพื้นที่ใช้สอยเท่ากับห้องก่อนหน้านี้ คือถ้าวางเตียงเดี่ยวชิดผนังก็เหลือพื้นที่ปลายเตียงให้ทำชั้นวางทีวีได้และเหลือพื้นที่ด้านข้างสำหรับทำตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือได้เช่นกัน
ส่วนที่ต่างกันคือจำนวนบานหน้าต่างที่ห้องนี้จะมีเยอะกว่า และจากตำแหน่งที่อยู่หน้าบ้านทำให้บานหน้าต่างมีดีเทลเป็นตารางลูกฟัก
ออกมาที่โถงทางเดินจะพาไปชมห้องน้ำที่อยู่ตรงกับทางขึ้นบันได และติดกันคือ Master Bedroom ที่กินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของชั้นเลยทีเดียว
ห้องน้ำบนชั้น 2 เป็นห้องน้ำรวมสำหรับ 3 ห้องนอน มีขนาดใหญ่กว่าห้องน้ำชั้นล่างนิดหน่อย แต่ก็ยังมีการจัดฟังก์ชันโดยรวมเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่าง สำหรับกระเบื้องปูพื้นและผนังจะใช้เป็นกระเบื้องเคลือบทั้งหมด แต่พื้นและผนังจะใช้คนละสี
ห้องน้ำบนชั้น 2 เป็นห้องน้ำที่ต้องใช้แชร์ร่วมกันระหว่างห้องนอนทั้ง 3 ห้อง จึงมีประตู 2 ทาง จะเข้าจากโถงทางเดินก็ได้ หรือจะเข้าจาก Master Bedroom ก็ได้ค่ะ
สำหรับพื้นที่ส่วนแห้งในห้องน้ำก็จะมีอ่างล้างหน้า กระจกเงาและสุขภัณฑ์เหมือนห้องน้ำชั้นล่างค่ะ
แต่อ่างล้างมือจะมีขนาดใหญ่กว่าห้องน้ำที่ชั้นล่างขึ้นมาหน่อย ซึ่งก็ยังใช้ของ American Standard
พื้นที่อาบน้ำจะมีการละระดับลงไปนิดหน่อย เพื่อกั้นพื้นที่อาบน้ำให้เป็นสัดส่วน
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.8 x 1.8 ม. กว้างกว่าที่ชั้นล่างจึงใช้งานสะดวกขึ้น
สุดท้ายคือ Master Bedroom เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบ้าน มีครบทุกฟังก์ชัน ได้แก่ ห้องน้ำในตัว พื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet และระเบียง ภายในห้องมีช่องหน้าต่างและประตูกระจกบานเลื่อนช่วยให้แสงธรรมชาติจากด้านนอกผ่านเข้ามาได้มาก ทำให้บรรยากาศค่อนข้างโปร่งและอบอุ่น
พอวางเตียง 6 ฟุตไว้ในห้องก็ยังเหลือพื้นที่ให้เดินรอบเตียงได้สะดวก และยังสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่งด้วย
ด้านบนหัวเตียงมีหน้าต่างอีก 2 บาน เป็นช่องแสงของห้องและยังใช้เปิดระบายอากาศได้
ระยะทางเดินปลายเตียงมีความกว้างพอสมควรเลย ถ้าเราติดตั้งชั้นวางทีวีตามบ้านตัวอย่างก็ยังเหลือพื้นที่ให้เดินผ่านได้สบาย
ด้านข้างมีประตูทางออกไประเบียงด้วย ระเบียงของห้องจะอยู่ติดกับฝั่งหน้าบ้าน ถ้าจัดสวนหน้าบ้านสวยๆ ก็จะช่วยเพิ่มบรรยากาศเวลาที่มองจากห้องนอนลงไปด้วยค่ะ
ระเบียงด้านนอกมีขนาดไม่กว้างนัก แค่พอให้ได้บรรยากาศ ไม่ได้ใช้งานจริงจัง พื้นระเบียงปูกระเบื้องไว้ให้ ทำให้เราสามารถทำความสะอาดได้ง่าย
จากหน้าต่างมองย้อนกลับไปในห้องจะเป็นพื้นที่ให้เราสามารถทำ Walk-in Closet ได้
พื้นที่บริเวณนี้สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เยอะทีเดียว ส่วนทางซ้ายมือเป็นทางเข้าห้องน้ำค่ะ
สำหรับใครที่อยากให้มีโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ในพื้นที่นี้ด้วย ก็สามารถตกแต่งแบบบ้านตัวอย่างได้ ดูเป็นสัดส่วนดี
ถ้า Built-in ตามบ้านตัวอย่างก็ยังเหลือพื้นที่พอให้ ยืนเลือกเสื้อผ้า หรือแต่งตัวได้สบายๆ ตามเส้นประสีเหลืองก็มีพื้นที่ขนาด 3 x 1.3 ม. เลยแหละ กว้างทีเดียวนะคะ
หน้าตาของปลั๊กไฟที่ให้เป็นไปตามมาตรฐานโครงการ และต่อไปเราจะพามาชมแบบบ้านที่เหลืออีกทั้ง 3 ซึ่งวัสดุก็จะเหมือนๆ กับบ้านหลังแรกนี่แหละ ขายแบบเป็นบ้านเปล่าเหมือนกัน เราจึงจะนำแปลน และถ่ายเป็นภาพรวมของบ้านมาให้ จะได้ดูกันครบทุกแบบเลยนะคะ
แบบบ้าน Botanic พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม. 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เป็นบ้าน 4 ห้องนอนที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่มากนัก ทำให้ราคาของตัวบ้านยังหยิบจับง่าย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการห้องนอนหรือห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นล่าง ที่มีสมาชิก 4-5 คน
แปลนชั้นล่างจะไม่ต่างจากบ้าน Type แรกมากนัก แค่จะเพิ่มห้องนอนอีก 1 ห้อง ซึ่งจะเชื่อมกับห้องรับประทานอาหาร และห้องนี้สามารถเปิดออกไปสวนได้ด้วย จึงเหมาะกับการทำเป็นห้องผู้สูงอายุหรือห้องนอนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เพราะสามารถเข้าออกได้โดยไม่ต้องผ่านพื้นที่ส่วนอื่นๆ ภายในบ้านเลย สำหรับพื้นที่ครัวยังคงได้เป็นครัวปิด ส่วนชั้นบนยังมีการวางแปลนที่คล้ายกับบ้าน Type แรก ที่มีห้องน้ำชั้น 2 เพียงห้องเดียว ใช้แชร์กันระหว่างห้องนอนทั้ง 3 ห้องค่ะ
หน้าตาของแบบบ้าน Botanic ที่มาในสไตล์ Modern Contemporary
ภาพบรรยากาศของแบบบ้าน Botanic
แบบบ้าน Botanica พื้นที่ใช้สอย 168 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ แบบบ้านนี้จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย ทำให้มีประตูหน้าบ้าน 2 บาน คือประตูหลักที่เชื่อมกับห้องนั่งเล่น และประตูเล็กที่เชื่อมกับที่จอดรถ ซึ่งโครงการออกแบบให้วางบันไดใกล้กับประตูฝั่งที่จอดรถ ทำให้เวลากลับบ้านมาแล้วอยากขึ้นไปพักชั้น 2 ก็สามารถขึ้นไปได้สะดวกเลย ไม่ต้องอ้อมไปเข้าทางหน้าบ้าน และจุดที่น่าสังเกตอีกอย่างคือ เค้าวางตำแหน่งของห้องนอนที่ชั้น 1 ไว้คนละโซนกับห้องนั่งเล่นและทานอาหาร ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ครัวของบ้าน Type นี้ยังได้เป็นครัวปิดอีกเช่นเคย รวมถึงห้องน้ำชั้นล่างแบบ Full Option ใช้อาบน้ำได้
ส่วนพื้นที่ชั้นบนจะได้ห้องน้ำเพิ่มเป็น 2 ห้อง ทำให้ Master Bedroom มีห้องน้ำในตัวแบบที่ไม่ต้องไปแชร์กับใคร ส่วน Bedroom 2 และ 3 ยังต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันอยู่ บ้านนี้จึงเหมาะกับครอบครัวใหญ่แบบ 4-5 คน หรือจะมีผู้สูงอายุอยู่ด้วยก็ลงตัวนะคะ
หน้าตาของแบบบ้าน Botanica
ภาพบรรยากาศของแบบบ้าน Botanica
แบบบ้าน Botanical พื้นที่ใช้สอย 179 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เป็นแบบบ้านใหญ่สุดในโครงการที่มีการจัดฟังก์ชันคล้ายๆ กับแบบ Botanica เลย คือในพื้นที่ชั้นล่างจะวางตำแหน่งของประตูไว้ใกล้กับบันได หากเวลากลับบ้านแล้วอยากขึ้นไปพักชั้นบน ก็สามารถขึ้นไปได้สะดวกเลย ส่วนห้องนอนที่ชั้น 1 ก็ได้ความเป็นส่วนตัวจากตำแหน่งที่อยู่ด้านข้างของตัวบ้าน คนละโซนกับห้องนั่งเล่นและทานอาหาร
ส่วนที่เป็นจุดเด่นอีกอย่างของบ้าน Type นี้คือ ห้องนอนชั้นบนทั้ง 3 ห้อง จะมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด และมี Family Area เป็นพื้นที่นั่งเล่นบนชั้น 2 เผื่อเวลาที่ชั้นล่างมีแขกมาหาคุณพ่อคุณแม่ ลูกๆ ก็ยังสามารถนั่งเล่น ดูทีวีที่ชั้นบนได้
หน้าตาของแบบบ้าน Botanical ซึ่งเป็นแบบบ้านใหญ่สุดในโครงการ จอดรถในที่ร่มได้ 2 คัน
ภาพบรรยากาศของแบบบ้าน Botanical
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 12 November 2019
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ Botanical ที่ดิน 58.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 179 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน/ 4 ห้องน้ำ/ 2 ที่จอดรถ
– ราคา 5.89 ล้านบาท - บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ Botanica ที่ดิน 53.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 168 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน/ 3 ห้องน้ำ/ 2 ที่จอดรถ
– ราคา 5.05 ล้านบาท - บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ Botanic ที่ดิน 53.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน/ 2 ห้องน้ำ/ 2 ที่จอดรถ
– ราคา 4.39 ล้านบาท - บ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบบ Botani ที่ดิน 50.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 115 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน/ 2 ห้องน้ำ/ 2 ที่จอดรถ
– ราคา 3.99 ล้านบาท - จอง 2,000 บาท และทำสัญญา 20,000 บาท*
- ค่าส่วนกลาง 15 บาท/ตร.วา/เดือน
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ฟรี ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง*
ฟรี ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ*
ฟรี ค่าส่วนกลาง 3 ปีแรก*
*โปรโมชัน ณ วันที่ 11 พ.ย. 2562 เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการ ชวนชื่น ไพร์ม วิลเลจ บางนา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวได้หลายรูปแบบ เพราะแบบบบ้านมีให้เลือกหลายขนาดด้วยกัน ตั้งแต่ขนาดเล็กที่เหมาะกับกลุ่มครอบครัวขนาดเล็ก มีสมาชิก 3-4 คน แบบพ่อแม่ลูก และมีแบบบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ตอบโจทย์ครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกเยอะถึง 3 ช่วงวัยได้ เหมาะกับกลุ่มที่อยากอยู่ใกล้แหล่งโรงงาน นิคมอุตสาหกรรมในย่านนี้ แต่อยากอยู่ออกมาจากพื้นที่โรงงานหน่อย เพื่อความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศที่ดีขึ้น ซึ่งในละแวกใกล้เคียงส่วนใหญ่บ้านเดี่ยว ขนาด 50 ตร.วา ในราคา 4 ล้านกว่าๆ จะมีให้เลือกไม่มากนัก แลกมากับพื้นที่ใช้สอยภายในตัวบ้านที่เล็กลงหน่อย แต่ก็ยังมีการออกแบบพื้นที่ในแต่ละห้องที่ใช้ฟังก์ชันได้ครบถ้วน และตอบโจทย์กลุ่มคนที่ไม่ได้เน้นใช้พื้นที่ส่วนกลางมากนัก แค่มีสวน มีพื้นที่ให้พักผ่อนบ้างก็พอ และพอใจที่ได้ประหยัดค่าส่วนกลางไปตามสัดส่วน Facilities ที่โครงการจัดให้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : เป็นช่วงที่มีสถานที่สำคัญทั้ง สถานศึกษา โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล สนามบินสุวรรณภูมิ และก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งงานขนาดใหญ่อย่าง โตโยต้าไดฮัทสุ TDEM, นิคมอุตสาหกรรมบางพลี และก็ นิคมอุตสาหกรรม Wellgrow ด้วย ทำให้ทำเลโครงการนี้ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวที่มองหาบ้านเดี่ยวที่เน้นทำงานบนถนนบางนา-ตราด อย่างไรก็ตามความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินไม่มีเลยนะคะ ที่ใกล้ที่สุดจะต้องอาศัยรถออกไป Mini Big C, ไปตลาดเสริมสุข หรือไปศูนย์การค้าขนาดใหญ่, Hyper Market ก็มีเพียบเลยบนเส้นบางนา-ตราด แต่จะต้องใช้รถไปเท่านั้น จึงเป็นทำเลที่เหมาะกับคนที่ใช้รถยนต์เป็นหลักแต่ปัญหาคือการจราจรในช่วงเวลาเร่งรีบที่มักจะหนาแน่นมาก และยังมีรถบรรทุกวิ่งผ่านตลอดทำให้การจราจรไม่โล่งนัก
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการมี รปภ. ดูแลตลอด มีไม้กระดกกั้น การผ่านเข้า – ออกด้วยระบบ RFID (แบบเดียวกับ Easy Pass บนทางด่วน) นอกจากนี้ยังมีระบบ CCTV ที่ Main Gate ส่วนความสูงรั้วรอบโครงการ 2.45-3 เมตร ส่วนตัวบ้านได้ Magnetic Sensor ที่ประตูหน้าต่างชั้น 1 ก็เป็นไปตามมาตรฐานของบ้านระดับราคานี้
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : โครงการนี้เป็นแบบบ้านซีรีย์ใหม่ จึงมีการปรับหน้าตาให้ดู Modern ขึ้น มีกลิ่นอายแบบ Cottage นิดๆ ด้วยดีเทลของประตู หน้าต่าง ราวระเบียงที่มีลูกฟัก ทำให้ดูน่ารักอบอุ่น ไม่ใช่ทันสมัยจ๋าๆ เลยนะ แต่เรื่องความสวยงามจึงขอข้ามไปเพราะแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน สำหรับการจัดฟังชั่นถือว่าลงตัวในทุกแบบบ้าน เน้นพื้นที่นั่งเล่น ทานอาหาร ให้กว้างหน่อย ดูโปร่งโล่ง สามารถวางโซฟาชุดสำหรับครอบครัวได้ และเน้นห้องนอนใหญ่ให้มีพื้นที่พอสำหรับทำ Walk-in Closet ได้ทุกแบบบ้าน ส่วนห้องครัวทุกหลังได้ครัวปิด และห้องน้ำอาบน้ำได้ทุกห้อง ส่วนที่ออกแบบได้ดีคือบ้านใหญ่ที่มีการปรับแบบให้ บันไดอยู่ติดกับประตูทางเข้าที่จอดรถทำให้เวลากลับบ้านดึกๆ ก็สามารถเดินขึ้นชั้นบนได้สะดวก ไม่ต้องเดินผ่านห้องนั่งเล่น และมีการจัดตำแหน่งห้องนอนที่ชั้น 1 ให้อยู่ห่างจากส่วน Living & Dining Area ทำให้ห้องนอนบนชั้นนี้จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนะ
วัสดุ : วัสดุที่ให้มาก็ถือว่ามาตรฐานตามระดับราคานี้ สำหรับบ้านคือพื้นชั้น 1 ปูกระเบื้องPORCELAIN ชั้นบนเป็นลามิเนต ประตูบานไม้สำเร็จ กระจกตัดแสง ส่วนที่ต้องชมคือบันไดที่เป็นโครงสร้างแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งดีกว่าโครงการส่วนใหญ่ที่ใช้เป็นโครงสร้างเหล็กนะคะ พื้นที่นอกบ้านตรงสวนก็ให้มาจัดว่าดีทีเดียวเพราะจัดสวนมาให้ ลงหญ้า มีต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มให้บางส่วนด้วย ส่วนที่ชอบคือดีเทลประตูหน้าต่างที่ตีตารางลูกฟักมาด้วย
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการทำได้ดี มีพื้นที่รวม 63 ไร่ มี กับจำนวนยูนิตทั้งหมดแค่ 293 ยูนิต ถือว่าเป็นอัตราส่วนที่สบายๆ ไม่แน่นมากนะคะ โดยถนนหลักและถนนรองในโครงการมีขนาด 12 และ 9 ม. ซึ่งโครงการทำแนวต้นไม้ใหญ่ตลอดถนนหลัก ส่วนถนนรองก็มีฟุตบาทและแนวพุ่มไม้ให้ตลอดแนว
สาธารณูปโภค : ให้มาเฉพาะพื้นที่สวน ซึ่งภายในสวนก็จะจัดฟังก์ชันไว้หลากหลาย ทั้ง Co-Living Area/ Jogging Loop/ สนามเด็กเล่น/ เครื่องออกกำลังกาย/ ลานนวดเท้าเพื่อผ่อนคลาย แลกมากับค่าส่วนกลาง 15 บาท/ตร.วา
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจราคาขายเริ่มต้นของบ้านทั้ง 4 แบบ 3.99-5.89 ล้านบาท, 12 November 2019
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอยลึก 2.6 กม. ใกล้ทางด่วน ห่างตลาดเสริมสุข ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่ใกล้สุดประมาณ 10 กม.
- ความปลอดภัย 7.75/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, รปภ.หน้าหมู่บ้าน, CCTV, Magnetic Sensor ที่ชั้น 1
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.25/10 – แบบสวย คอนเซปท์ดี ขนาดพื้นที่ใช้สอยเหมาะสมกับราคาบ้าน
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของบ้านระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – มีพื้นที่สีเขียว 2 ไร่ มีต้นไม้ใหญ่ตามเส้นถนนหลัก ออกแบบพื้นที่สีเขียวได้น่าใช้งาน
- สาธารณูปโภค 7/10 – มีเฉพาะสวน 2 ไร่ แต่ออกแบบฟังก์ชันของสวนมาหลากหลายดี
- 7.63 / 10.00
BOTTOM LINE
ชวนชื่นไพร์ม วิลเลจ บางนา เหมาะสำหรับคนในพื้นที่ที่ต้องการขยับขยายครอบครัว หรือคนทำงานในทำเลนี้หรือใกล้เคียง เดินทางโดยเน้นใช้รถยนต์เป็นหลัก ต้องการหาบ้านเดี่ยวที่มีราคาหยิบจับง่ายหน่อย ไม่เน้นส่วนกลาง เลือกสินค้าตามที่จำเป็นต้องใช้ อย่างสมเหตุสมผล มีงบประมาณ 3.99-6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 28,000 – 42,000 บาท
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving