รีวิวฉบับที่ 593 … วันนี้ Mr.Boom พาไปดูบ้านเดี่ยวโซนราชพฤกษ์ของ SC Asset กันอีกซักหนึ่งโครงการละกันครับ ช่วงนี้พี่ SC Asset ก็ดูจะ Active ในโซนราชพฤกษ์นี้เป็นพิเศษ เปิดไล่มาหลายโครงการเลย มีทั้งบ้านเดี่ยวระดับ สูง กลาง ต่ำ ติดๆๆๆกันหลายแห่ง หลายๆคนอาจจะตาลาย ดูแล้วงงว่าแบรนด์ไหนดีกว่าอันไหนยังไง อันที่ผมจะพาไปดูอันนี้เป็นแบรนด์ระดับ Middle High ของเค้า มีชื่อว่า Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์-พระราม 5 (โครงการ 2) คืออยู่เหนือกว่าแบรนด์ “LIFE” Bangkok Boulevard และต่ำกว่าแบรนด์ “GRAND” Bangkok Boulevard นั่นเอง โครงการนี้เป็นบ้านเดี่ยวระดับราคาประมาณ 9.75 – 15 ล้าน ซึ่งจัดเป็นระดับ HIGH CLASS ของเว็บ ThinkofLiving ของเรานะฮะ (คือราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้านขึ้นไป เข้าไปดูรายละเอียด Segment ที่นี่) ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ 2 แล้ว หลังจากที่โครงการ 1 ที่อยู่ใกล้ๆกัน ขายหมดปิดตัวไปแล้วครับ ทำเลของที่นี่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ บริเวณใกล้ๆกับถนนบางกรวย-ไทรน้อย และอยู่ห่างจากวงเวียนพระราม 5 ประมาณ 2 กิโลเมตรนิดๆ ใครกำลังรอรีวิวอยู่ ณ บัดนี้ก็นำมาให้ชมกันแล้วนะครัชชช ไปดูกันเลย
Fact @ 8 JUNE 2014
- Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์-พระราม 5 (บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์-พระราม 5)
- SC Asset
- Segment : HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
- เนื้อที่โครงการประมาณ 47 ไร่
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 161 ยูนิต
- ขนาดแปลงที่ดิน 54 – 91 ตารางวา
- พื้นที่ใช้สอยในบ้าน 235 – 328 ตารางเมตร
- ราคาเริ่มต้น 9.75 ล้านบาทหรือประมาณ 180,000 บาท/ตร.วา
- สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว
- http://scasset.com/House/Bangkok-Boulevard-Ratchaphruek-Praram-5
- Call Center : 1749
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.844075,100.448689
แผนที่จากทางโครงการครับ ตัวหมู่บ้านจะตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ ฝั่งตะวันออก มีทางเข้าอยู่ติดถนนใหญ่ อยู่ใกล้ๆกับถนนบางกรวย-ไทรน้อยครับ ตำแหน่ง อยู่ห่างจากวงเวียนพระราม 5 ประมาณ 2 กิโลเมตรนิดๆ
ในแง่ของความสะดวกในการเดินทาง (ด้วยรถยนต์) จากตำแหน่งที่โครงการตั้งอยู่ ในรัศมีประมาณ 4-5 กิโลเมตร จะมีถนนสายสำคัญๆอยู่หลายเส้น ได้แก่
- ถนนราชพฤกษ์ที่โครงการตั้งอยู่ ถนนเส้นนี้ตัดจากเหนือลงใต้ เริ่มต้นที่แถวๆปทุมธานี (ถนนหมายเลข 345) ตัดลงใต้ไปจนถึงโซนเพชรเกษม, กัลปพฤกษ์ ก่อนที่จะวกเข้าเมืองไปทางตะวันออก ไปสุดที่ถนนกรุงธนบุรี ที่แยกตากสิน ก่อนที่จะข้ามสะพานตากสินไปยังถนนสาทร ถนนราชพฤกษ์นี้ เป็นถนนสายหลักของโซนนนทบุรีและกรุงเทพฝั่งตะวันตกไปแล้วก็ว่าได้ ด้วยความที่เป็นถนนที่ไปเชื่อมกับถนนเส้นอื่นๆที่มีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาหลายแห่ง ทำให้เป็นถนนที่มีความเจริญกระจุกตัวอยู่ และค่อนข้างเหมาะแก่การอยู่อาศัย
- ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก (ฝั่งตะวันตก) เป็นถนนที่อยู่คู่ขนานกับถนนราชพฤกษ์ ใช้วิ่งขึ้นเหนือไปบางบัวทอง หรือ ลงใต้ไปพระราม 2 เป็นถนนอีกเส้นที่มีความเจริญค่อนข้างมาก เพราะเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งสายหลักของประเทศ มีความกว้าง และยาวเหนือจรดใต้ บริเวณรอบนอกของกรุงเทพมหานคร ถึงได้มีชื่อว่า ถนนวงแหวนรอบนอก
- ถนนนครอินทร์ เป็นถนนที่ตัดผ่านถนนราชพฤกษ์ อยู่ทางทิศใต้ของโครงการ ที่วงเวียนพระราม 5 มีความสำคัญคือ เป็นถนนที่เชื่อมกับ สะพานพระราม 5 ซึ่งเป็น สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะข้ามไปยังถนนติวานนท์ และต่อไปยังถนนกรุงเทพ-นนทบุรีได้ และเป็นถนนที่เชื่อมจากราชพฤกษ์ ออกนอกเมืองไปยังถนนวงแหวนได้ด้วย
- ถนนรัตนาธิเบศร์ เป็นหนึ่งในถนนอีกเส้นที่ตัดผ่านถนนราชพฤกษ์ ทางด้านทิศเหนือของโครงการ เป็นถนนที่ยาวต่อมาจากถนนงามวงศ์วาน ผ่านสี่แยกพงษ์เพชร ที่ถนนประชาชื่น และ สี่แยกแคราย ที่ถนนติวานนท์ และข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ สะพานพระนั่งเกล้า ก่อนจะมาถึงถนนราชพฤกษ์ และผ่านราชพฤกษ์ยาวต่อไปจนถึงถนนวงแหวน มีลักษณะคล้ายๆกับถนนนครอินทร์ ถนนรัตนาธิเบศร์นี้ยังมีความพิเศษตรงที่ เป็นถนนที่มี รถไฟฟ้าสายสีม่วง ตัดผ่านด้วย และเป็นอีกถนนที่มีความเจริญไปกระจุกตัวอยู่ สังเกตได้จาก ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ระหว่างทาง ตามเส้นรัตนาธิเบศร์ และ งามวงศ์วาน
- ถนนบางกรวย-ไทรน้อย เป็นถนนที่ออกจะ Local หน่อยๆ เป็นถนนที่ใช้สัญจรในจังหวัดนนทบุรีเป็นหลัก เพราะไม่มีสะพานข้ามแม่น้ำ แต่เป็นถนนที่ยาวมากๆ ตัดจากจังหวัดปทุมธานี (ถนนหมายเลข 346) เป็นเส้นเฉียงๆ ตะวันตกเฉียงเหนือ ลงไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ผ่านถนนราชพฤกษ์ และไปโผล่แถวๆ ถนนจรัญสนิทวงศ์ ก่อนขึ้น สะพานพระราม 7
- ถนนท่าน้ำนนทบุรี-วัดโบสถ์ดอนพรหม (หมายเลข 2002) ถนนเส้นนี้อาจจะไม่คุ้นกันซักเท่าไหร่ เพราะเป็นถนนที่ค่อนข้างจะ Local สำหรับคนพื้นที่ แต่ในอนาคต ถนนเส้นนี้จะเชื่อมกับ สะพานนนทบุรี 1 (ชื่อไม่เป็นทางการ) สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างครับ ข้ามแม่น้ำมาจาก ถนนนนทบุรี 1 ใกล้ๆกับท่าน้ำนนท์ ข้ามมาฝั่งธน บริเวณ อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก ที่เป็นสวนสาธารณะริมน้ำขนาดใหญ่ ข้างๆ วัดเฉลิมพระเกียรติ ใครสงสัยเกี่ยวกับสะพานนี้ให้ลองเข้าไปที่ www.nonthaburi1bridge.com ดูครับ จะมีรายละเอียดโครงการสร้างสะพานบอกอยู่ รวมถึงความคืบหน้าของโครงการด้วย
โดยรวมแล้วจัดว่าการคมนาคมบริเวณรอบๆโครงการนี้ มีเส้นทางให้เลือกใช้อยู่หลายจุดทีเดียว รวมถึงมีสะพานข้ามแม่น้ำให้ใช้ใกล้ๆอยู่ 2-3 แห่ง แต่ข้อเสียของทำเลตรงนี้คือ รถติดมากกกกกก เพราะปัจจุบัน ทำเลโซนราชพฤกษ์ เป็นทำเลที่ต้องรองรับการขยายตัวของที่อยู่อาศัยในกรุงเทพ และนนทบุรีเป็นอย่างหนัก เพราะมีโครงการมาเปิดเยอะเหลือเกิน ทำให้ปริมาณรถที่หลั่งไหลเข้ามาในโซนนี้มีจำนวนมาก คนที่อยู่ฝั่งนี้อยู่แล้วจะเข้าใจถึงธรรมชาติของทำเลตรงนี้ดีนะครับ ติดทั้งเช้า กลางวัน เย็น วันธรรมดา และวันหยุด อาห์ … ทำใจอย่างเดียวครับ ไม่งั้นต้องเตรียมตื่นเช้าๆออกจากบ้านเลย
สถานที่ที่น่าสนใจในบริเวณรอบๆโครงการ จะเกาะอยู่กับเส้นราชพฤกษ์ พวกห้างสรรพสินค้า และ Community Mall ต่างๆ เช่น HomePro, The Walk, The Crystal สาขาใหม่ หรือ HomeWork เป็นต้น … ถ้าเลยถนนสวนผักไปอีกก็จะมี The Circle ราชพฤกษ์ อีกแห่ง นอกจากนี้ยังมีร้านค้า และร้านอาหาร เรียงรายอยู่ตามทาง ตลอดถนนราชพฤกษ์เลย สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้อยู่ในระยะที่ขับรถไปไม่ไกลนัก แต่ว่าถ้าจะเดินไปก็คงจะไม่ถึง เพราะเป็นระดับกิโลเมตร ไม่ใช่แค่ร้อยสองร้อยเมตร ดังนั้นจะเหมาะสมกับคนที่ใช้รถมากกว่า
บนถนนเส้นอื่นๆ อย่าง ถนนรัตนาธิเบศร์ ถ้าข้ามสะพานพระนั่งเกล้าไปได้ก็จะมีเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ ที่อยู่ติดกับ Index และห้างโรบินสันรัตนาธิเบศร์ ซึ่งมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงเสียบเข้าห้างเลย เป็นไปได้ว่าเราอาจจะนั่ง Taxi ไปต่อรถไฟฟ้า เพื่อไปยังห้างเหล่านี้ได้ หรือ ถ้าเราขับรถเข้าไปทางถนนบรมราชชนนี ก็จะมีเซ็นทรัลปิ่นเกล้า กับเมเจอร์ปิ่นเกล้าด้วย สองห้างนี้ หน้าห้างรถค่อนข้างติด แต่ยังดีตรงที่ไม่ต้องข้ามสะพานไป และอยู่บนเส้นบรมฯ ซึ่งก็น่าจะมีโอกาสได้ใช้ประโยชน์เหมือนกัน
สรุปสถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ โดยคร่าวๆ
- The Walk (+Big C + Index Living Mall)
- HomePro (+ Villa Market)
- The Crystal ราชพฤกษ์ (+ Gourmet Market + โรงหนัง SF) – ระหว่างก่อสร้าง –
- HomeWork (+Tops Supermarket)
- Tesco Lotus นครอินทร์
- The Circle ราชพฤกษ์
- Central รัตนาธิเบศร์/Robinson รัตนาธิเบศร์/Index (ถนนรัตนาธิเบศร์)
- Central ปิ่นเกล้า/Major ปิ่นเกล้า (ถนนบรมราชชนนี)
- โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า สาขาพระราม 5
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ บางใหญ่
การเดินทางไปยังโครงการ ทำได้หลักๆสองวิธี ก็คือ ต้องมาจากถนนราชพฤกษ์แน่ๆแหละ แต่มาจาก ฝั่งขาเข้า (ตะวันออก) หรือมาจาก ฝั่งขาออก (ตะวันตก) นั่นเอง
- ถ้ามาจากฝั่งขาเข้า เช่น มาจากถนนรัตนาธิเบศร์ ก็ง่ายมาก แค่ขับตรงๆๆๆๆ มาอย่างเดียวก็ถึง ตามลูกศรสีแดง ไม่ต้องกลับรถใดๆทั้งสิ้น แต่!!! อย่าลืมชิดซ้ายออกทางขนาน นะจ๊ะ (เดี๋ยวจะมีรูปให้ดู)
- ถ้ามาจากฝั่งขาออก เช่น มาจากวงเวียนพระราม 5 เราก็ต้องไปกลับรถมา ซึ่งจุดกลับรถที่ใช้บ่อยๆ จะมีอยู่สองจุด คือ จุดกลับรถใต้สะพานข้ามคลองอ้อมนนท์ ซึ่งจะอยู่ใกล้โครงการมากกว่า (แต่ปัจจุบัน มิ.ย.57 ทางกลับรถนี้กำลังปิดซ่อมอยู่นะฮะ) ถ้าขับรถเลยไปอีกหน่อย (ประมาณ 2 กิโล) ก็สามารถใช้สะพานกลับรถ บนถนนรัตนาธิเบศร์ได้ พอกลับรถเสร็จก็ชิดซ้ายออกทางคู่ขนานเหมือนเดิม ก็จะมาถึงโครงการได้ไม่ยาก 🙂
อย่างไรก็ดี การเดินทางไปโครงการ เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้รถส่วนตัว หรือ แท็กซี่ นะครับ รถเมล์นี่หายาก ป้ายรถเมล์หน้าโครงการอยู่ตรงไหนผมยังเดินหาไม่เจอเลย = = รถไฟฟ้าก็ไม่ผ่าน ยังไงถ้าถึงขนาดจะซื้อบ้านราคา 10 ล้านก็คงจะมีรถใช้กันอยู่แล้ว ดังนั้น ขับรถเถอะจ้ะ
เดินทางไปโครงการ
ต่อไปจะพาไปดูเส้นทางการไปโครงการนะครับ ผมขับรถมาจากถนนรัตนาธิเบศร์ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชพฤกษ์ฝั่งขาเข้า
ซ้ายมือจะผ่าน “ธนานนท์ ฟิตเนส” ที่เป็น Fitness Club แบบ Local ก่อนจะถึงโครงการ ซึ่งที่นี่จะมีสนามแบดมินตัน, ร้านนวด และ 7-Eleven ด้วย สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายแถวบ้าน
เรามุ่งหน้าต่อไปทางวงเวียนพระราม 5 ซ้ายมือจะเห็นป้ายที่เขียนว่า “ถนนท่าน้ำนนทบุรี-วัดโบสถ์ดอนพรหม / ถนนบางกรวย – ไทรน้อย” ตรงนี้เราเตรียมชิดซ้ายไว้นะครับ
ระหว่างทางผ่านหมู่บ้านธนานนท์ อยู่ติดกับ SCG Home Solution สีแดง ใหญ่ๆ สังเกตง่าย
ตรงนี้มี U-House Fitness อีกที่นึง เป็น Local Fitness Club ใกล้ๆโครงการ ท่าทางจะฮิตนะ ฟิตเนสแบบนี้
เจอทางเบี่ยงซ้าย เข้าทางคู่ขนาน ให้เรา ออกซ้าย เลยนะครับ
ระหว่างทางจะเห็นโครงการ Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์-พระราม 5 โครงการ 1 ครับ ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดมาก่อน ขายหมดปิดโครงการไปแล้ว
(แอบเลี้ยวผิด เข้าโครงการแรกไปแล้ว เลยต้องกลับรถออกมาใหม่ = =”)
ตรงนี้เราจะเห็นป้ายทางไป ท่าน้ำนนทบุรี
แยกซ้ายนี้จะเป็น ถนนท่าน้ำนนทบุรี-วัดโบสถ์ดอนพรหม ครับ (แฮ่กๆ ชื่อยาว อ่านแล้วเหนื่อย) จำถนนนี้ไว้ดีๆนะครับ เพราะในอนาคต ถนนเส้นนี้อาจจะกลายเป็นเส้นหลักอีกเส้นหนึ่ง เนื่องจากในอีกไม่กี่ปี เราจะใช้เส้นนี้ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาได้ โดยข้าม สะพานนนทบุรี 1 ที่กำลังก่อสร้างอยู่ ซึ่งก็ถือเป็นข่าวดีสำหรับคนที่ไปมาแถวๆเมืองนนท์บ่อยๆ หวังว่าจะทำให้รถติดน้อยลงนะ หลังจากมีสะพานนี้แล้ว
สะพานที่เราเห็นอยู่เหนือหัวเรา จะเป็นสะพานที่เชื่อมถนนราชพฤกษ์ เข้ากับถนนเส้นนี้ คือเลี้ยวขึ้นสะพานได้เลย ไม่ต้องกลับรถ ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างครับ พอเลยสะพานนี้แล้ว ก็ใกล้ถึงโครงการแล้วครับ
พอเลยสะพานมาแล้ว ก็เตรียมตัวชิดซ้ายไว้ครับ เพราะใกล้จะถึงโครงการแล้ว
ตรงนี้มีร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา เหล่าเฮง เป็นจุดสังเกต ร้านนี้อยู่ใกล้ทางเข้าโครงการแบบเดินถึง แต่แนะนำให้ขี่จักรยานออกมาจะสะดวกกว่าครับ กรณีที่อยู่บ้านแล้วไม่มีอะไรกิน
ข้างๆร้านก๋วยเตี๋ยวมีเซเว่นสาขาใหญ่ใช้ได้อยู่หนึ่งแห่ง มีที่จอดรถหน้าร้าน แวะก่อนเข้าบ้านได้สบาย
บริเวณด้านข้างเซเว่นตรงนี้ เป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์ติดถนน ดูท่าทางพึ่งเปิดไม่นาน สีพึ่งทายังใหม่อยู่เลย ตอนนี้มีโรงพยาบาลสัตว์มาเปิดอยู่สองห้อง
ตรงต่อมาอีกนิดนึงก็จะเจอทางเข้าโครงการแล้ว ตรงที่มีป้ายส้มๆอยู่นั่นแหละ ถ้าใครไปตอนนี้จะสังเกตค่อนข้างง่าย
ทางเข้าโครงการมองแบบชัดๆ
ถ้าเลยโครงการไปหน่อย จะมีแนวตึกแถวรุ่นเก่าอยู่อีกเต็มเลย
ตึกแถวโซนนี้เปิดร้านขายของ ทำธุรกิจ หรือทำโฮมออฟฟิศกันเยอะมาก สังเกตได้จากรถที่มาจอดเรียงริมถนนเต็มไปหมด ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง, ของแต่งบ้าน, อุปกรณ์ช่าง ฯลฯ เนื่องจากแถวๆนี้มีโครงการบ้านมาเปิดเยอะ จึงมีร้านพวกนี้เยอะ ถ้าใครคิดจะมาซื้อบ้านอยู่แถวนี้ ลองมาเดินๆดูก็ดีเหมือนกันนะ จะได้รู้ว่ามีอะไรเป็นที่พึ่งได้บ้าง
กลับมาที่หน้าโครงการ จะมีป้ายโครงการที่อยู่ด้านหน้า
โครงการนี้จะมีประตูรั้วทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน เป็นแบบ Triple Gate ชั้นแรกของโครงการจะอยู่ที่ด้านหน้าติดถนนราชพฤกษ์
พอแลกบัตรกับรปภ. ก็จะผ่านเข้ามาที่ประตูด้านหลัง บริเวณโซนด้านหน้านี้บรรยากาศจะเริ่มเปลี่ยนแล้ว เพราะมีการวางต้นไม้ และไม้พุ่ม เรียงกันเพื่อต้อนรับลูกบ้าน
ขับรถต่อเข้าไป ผ่านประตูอีกชั้นหนึ่งที่มีรปภ.ยืนคอยเปิดประตูให้
ก่อนจะเข้าไปถึง Gate ที่ 2 เราจะเจอถนนสาธารณะที่ตัดผ่านที่ดินโครงการ 1 จุด (ชื่อ ซอยร่มพฤกษ์) ซึ่งชาวบ้านทั่วไปสามารถใช้ถนนเส้นนี้ได้ (แต่เดินผ่านที่ดินโครงการไม่ได้นะครับ) เป็นสาเหตุว่าทำไมต้องมีประตูหลายชั้น
ทางซ้ายของถนนเส้นนี้เป็นทางตัน
ส่วนทางขวาเป็นซอยเล็กๆ ซึ่งมีบ้านคนอยู่เรียงสองฝั่ง ซอยเล็กๆนี้ใช้ไปออกถนนบางกรวย-ไทรน้อยได้
ซอยนี้ก็จะแคบหน่อย รถพอวิ่งสวนกันได้ แต่อาจจะต้องหลบๆกันนิดนึง
ข้ามถนนสาธารณะอันนี้มา ก็จะเข้าสู่ตัวโครงการจริงๆแล้ว ที่เห็นในรูปนี้ก็จะเป็น ป้อมรปภ.ชั้นที่ 2 ที่จะกั้นเอาไว้ไม่ให้คนทั่วไปเข้าไปในโครงการ นอกจากลูกบ้านเท่านั้น และเป็นการดูแลความปลอดภัยในซอยด้วย
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆ ไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
แผนผังคร่าวๆของที่ดินโครงการ หน้าตาแบบนี้ครับ จากทางเข้าด้านหน้าติดทางคู่ขนานถนนราชพฤกษ์ มีป้อมรปภ. 1 ชั้น (อยู่ในที่ดินของโครงการ) และผ่านเข้ามาที่ซอยร่มพฤกษ์ ซึ่งเป็นถนนสาธารณะ แล้วค่อยเป็นป้อมรปภ.ชั้นที่ 2 ที่จะเข้ามาในเขตของที่ดินโครงการด้านใน ที่ดินของโครงการรวมมีขนาดประมาณ 47 ไร่
ถัดจาป้อม รปภ. ป้อมที่ 2 เข้ามาแล้ว จะเป็นโซน Visitor Area และ โซน Club House ที่อยู่ทางด้านหน้า ซึ่งจะเป็นการกั้นส่วนระหว่างลูกบ้าน กับ ผู้มาติดต่อให้แยกออกจากกัน โดยถ้ามีแขกมาหาเราที่บ้าน รปภ.ก็จะให้ ผู้ที่มาติดต่อจอดรถรออยู่ที่ด้านหน้าก่อน หรือไม่ก็เข้าไปนั่งรอในห้องรับแขกของ Club House จากนั้นก็จะไปถามเจ้าของบ้านก่อน ว่าสะดวกจะให้เข้าพบรึเปล่า ถ้าไม่ใช่คนที่รู้จัก หรือไม่ได้นัดไว้ก่อน เราอาจจะปฏิเสธไม่ให้เข้าพบก็ได้ รปภ.ก็จะเชิญให้กลับ ซึ่งวิธีนี้ก็จะเป็นการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยให้กับลูกบ้านได้อีกขั้นหนึ่ง
ด้านหน้ามีที่จอดรถของ Visitor อยู่ส่วนหนึ่ง ติดกับ Club House สามารถใช้เป็นที่จอดรถในกรณีที่ลูกบ้านที่อยู่ข้างในลึกๆ ขับรถออกมาใช้งาน Club House ก็ได้
และนี่ก็คือป้อมรปภ.ชั้นในสุด ที่ข้างในจะเป็นโซนที่อยู่อาศัย ซึ่งเรายังไม่ได้เข้าไปนะครับ ไปดูคลับเฮาส์กันก่อน
จากลานจอดรถจะมีทางเดินไปยังคลับเฮาส์ สองข้างทางปลูกต้นไม้และจัดสวนเอาไว้ด้วย
คลับเฮาส์ที่อยู่ด้านหน้าโครงการ วางสระว่ายน้ำเอาไว้หน้าสุดเลย ต้อนรับแขกที่พึ่งมาถึง สระว่ายน้ำมีขนาด 19 x 11 x 1.2 เมตร เป็นระบบเกลือครับ
ตัวสระน้ำเป็นสระน้ำล้น ซึ่งจะมี Step ด้านข้างอยู่รอบสระเลย กระโดดเข้าสระได้จากทุกทิศทาง 😀
รอบๆวางสระน้ำพุเอาไว้ เป็นน้ำพุที่ไม่ได้หวือหวามาก แต่ส่วนสำคัญคือ เป็นการสร้างเสียงน้ำไหลให้กับพื้นที่รอบๆสระน้ำ
ตามทางเดินก็มีประดับด้วยน้ำพุเช่นเดียวกัน
มีการวาง Art Objects เป็นรูปก้นหอยเอาไว้ ให้ดูหรูหราขึ้นมา
ดูสระว่ายน้ำจากอีกมุมหนึ่งบ้าง อันนี้มองออกมาจากคลับเฮาส์
โซนนี้กั้นไว้เป็นสระเด็ก ตื้นๆ ลึกแค่ 60 เซ็นติเมตร
Deck ทางเดินริมสระน้ำ วางเก้าอี้นั่งเอาไว้มองดูลูกๆเล่นน้ำ
ที่นั่งริมสระ อีกชุดหนึ่ง
เตียงอาบแดด ที่ขอบสระ น่าจะมีร่มให้ซักอันนึงนะ … มันร้อน …
พื้นข้างๆของสระ ปูด้วยระแนงไม้เทียม
ทางเข้าห้องน้ำ และห้องเปลี่ยนชุด
ด้านในห้องน้ำ ตกแต่งแบบเรียบๆ มีห้องให้อาบน้ำได้
ที่ล้างตัวก่อนลงสระ มี 3 จุด ไม่ต้องแย่งกันนะเด็กๆ
อาคารชั้นเดียวข้างๆสระน้ำนี่เป็นอาคารฟิตเนส
ผนังห้องฟิตเนสเป็นผนังกระจก ใช้กระจกเขียวตัดแสง
เข้ามาดูในห้องฟิตเนสกันหน่อย วางเครื่องออกกำลังกายไว้ 4-5 ชิ้น ติดกระจกเงาไว้ด้านหนึ่ง เพื่อให้คนที่เล่นฟิตเนส มองเห็นวิวด้านนอก แม้จะต้องหันหน้าเข้าหากำแพง ในเวลากลางวันห้องนี้ไม่ต้องเปิดไฟก็ได้ เพราะว่าผนังรอบๆมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้
มองออกไปนอกห้องฟิตเนสก็จะเห็นวิวสระว่ายน้ำ
มองไปไกลๆจะเห็นพื้นที่สวนสาธารณะของโครงการที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ วิวนี้ก็สวยเหมือนกันนะ
เดินเข้ามาดูในคลับเฮาส์กันต่อ ทางเข้าคลับเฮาส์อยู่ด้านนี้
ด้านหน้าจะเป็นห้องรับแขก ปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขายด้วย แต่ในอนาคตก็คงจะกลายเป็นพื้นที่รับแขกแบบเต็มตัวสำหรับลูกบ้าน
ชุดโซฟารับแขก มีจัดเอาไว้แล้วส่วนหนึ่ง
จากโถงรับแขก เดินเข้ามาทางด้านข้าง จะเจอกับห้องประชุม
ห้องประชุมมีโต๊ะเก้าอี้ มีกระดาน White Board และอุปกรณ์ต่างๆให้ใช้งานได้ ซึ่งเหมาะมากสำหรับลูกๆชวนเพื่อนมาติวหนังสือที่บ้าน สร้างกิจกรรมให้กับลูกๆหลานๆ หรือเพื่อนฝูงด้วยกันเองได้ หรือจะเชิญใครมานั่งคุยงานที่นี่ ก็ไม่น่าเกลียดเลย
พอเดินออกมาจาก Club House ทางประตูเล็ก จะเจอกับห้องสมุดอยู่ทางด้านข้าง
ห้องสมุดนี้พื้นที่ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็สามารถเข้ามานั่งอ่านหนังสือ หรือทำงานอย่างอื่นที่อยากจะใช้สมาธิหน่อยได้ เปิดแอร์ได้ และมี WIFI ให้ใช้ฟรี
มีชุดโต๊ะเก้าอี้อยู่สองตัว ผนังรอบๆเป็นกระจก เปิดออกมาเห็นสวนด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งมองเห็นสระว่ายน้ำ เพิ่มความผ่อนคลายให้กับคนที่นั่งอยู่ในห้องนี้
ข้างๆห้องสมุดมีห้องน้ำอยู่ด้วย ใช้ร่วมกันกับห้องรับแขก และ ห้องประชุม ไม่ต้องเดินไกล
ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นส่วนคลับเฮาส์ของโครงการ เราไปดูส่วนอื่นกันต่อ
จากส่วนคลับเฮาส์ จะมีทางเดินลงไปยังโซนสวนสาธารณะของโครงการ ที่ปัจจุบันใช้เป็นโซนบ้านตัวอย่างด้วย เราไปดูสวน และพื้นที่รอบๆโครงการกันก่อน
สวนสาธารณะส่วนกลางของที่นี่ มีพื้นที่รวมประมาณ 1 ไร่กว่าๆ ปัจจุบันอายุประมาณ 2 ปีแล้ว นับตั้งแต่โครงการเริ่มเปิดขาย (ที่นี่สร้างบ้านเสร็จก่อนขาย) ทำให้ต้นไม้ในสวนเจริญเติบโตมาพอสมควรแล้ว ดูเขียวๆดีทีเดียว 😀
ทางเดินในสวนมีการตกแต่งด้วยรั้วเตี้ยๆ เวลาอากาศเย็นลงแล้ว จะใช้เป็นที่นั่งก็ได้
มีสนามเด็กเล่นให้ด้วย
ใกล้ๆกับป้อมรปภ.จะมีส่วนที่เป็นศาลพระภูมิด้วยนะครับ (ช่วงไหว้ตรุษจีน ตรงนี้คงจะเต็มไปด้วยถาดผลไม้)
ในสวนวางม้านั่งไว้ตามใต้ต้นไม้ที่ให้ร่มเงาดีหน่อย
เข้ามาถึงด้านในจะมีส่วนที่เป็นสระน้ำพุอยู่ตรงกลางด้วย ล้อมรอบสระน้ำด้วยไม้พุ่มเตี้ยๆ
ใกล้ๆกับสระน้ำจะมีศาลาสำหรับนั่งเล่น และเป็นลานเอนกประสงค์ เผื่อลูกบ้านจะจัดกิจกรรมอะไรบางอย่างได้ หรือใช้ประโยชน์อื่นๆ ตามแต่จะคิดออก
วิวที่มองออกมาจากใต้ศาลาก็สวยดีเหมือนกัน
ต่อมาเราเดินผ่านสวนเข้ามาในโซนหมู่บ้านบ้าง ถนนเมนด้านหน้าตรงนี้กว้าง 12 เมตรครับ สองข้างทางปลูกต้นไม้เป็นรั้วเอาไว้เยอะมาก
ส่วนถนนซอยกว้าง 9 เมตร ซอยนี้เป็นซอย 1 เป็นโซนพิเศษที่อยู่แยกออกมา จะค่อนข้าง Private และมีแปลงบ้านแค่ด้านซ้ายด้านเดียว ด้านขวาเป็นแนวรั้วของโครงการ แน่นอนว่าโซนนี้ขายหมดไปแล้ว
ป้ายซอยในโครงการ
รั้วโครงการสูง 3 เมตร ใช้อิฐศิลาแลงในการก่อสร้าง มีเหล็กปลายแหลมสำหรับป้องกันข้าศึกที่จะโจมตีได้
เวลามองเข้าไปในซอยต่างๆที่มีบ้านแล้ว ก็จะเป็นแบบนี้
รั้วโครงการบางจุด มีการต่อเติม เพิ่มระแนงไม้ขึ้นไปอีก 1.5 เมตร กลายเป็น 4.5 เมตร แถมปลูกต้นไม้สูงๆไว้บังสายตาอีก กรณีที่รั้วนี้อยู่ติดกับบ้านอื่นๆนอกโครงการ พวกทาวน์โฮมที่สูง 3-4 ชั้นก็จะได้มองเข้ามาไม่เห็น ถือว่าโครงการเน้นความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านพอสมควรเลย
ส่วนโซนนี้เป็นโซนที่กำลังก่อสร้างอยู่ และพึ่งจะเปิดขายเพิ่ม ใครอยากจะดูก็ไปลองบอกพนักงานขายแล้วจิ้มๆแปลงดูนะครับ ว่าอยากได้แปลงนี้ๆๆ เค้าก็จะพาเรานั่งรถกอล์ฟเข้าไปดูได้ 😀 ส่วนผมขอสิ้นสุดการเจาะลึกเนื้อโครงการไว้เท่านี้ก่อน เราไปดูบ้านตัวอย่างกันเถอะ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 19 x 11 เมตร รวมสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.20 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายไว้ประมาณ 5-6 เครื่อง
- พื้นที่สวนสาธารณะส่วนกลางประมาณ 1 ไร่กว่าๆ พร้อม Bike Track สำหรับขี่จักรยานรอบๆ
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ รวม 40 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่มอีก 1.5 เมตร
- Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
- Key Card Access ระยะใกล้ + สติกเกอร์ติดรถยนต์
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า 3 ตอน (Triple Gate Security)
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง ที่วงกบประตูและหน้าต่าง
แบบบ้านของที่นี่จะมีทั้งหมด 3 แบบครับ เริ่มจาก Blue Danube เป็นบ้านหลังเล็กสุด พื้นที่ใช้สอย 235 ตารางเมตร ฟังก์ชั่นเป็นแบบ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มีครัวไทยแยกส่วน หลังนี้ขนาดที่ดินเริ่มต้น 54 ตารางวา ที่ราคาเริ่มต้น 9.75 ล้านบาทครับ
Plan ของหลังนี้ เริ่มจากทางเข้า มีทางเข้าสองจุด ที่ด้านหน้าบ้าน และที่ติดกับที่จอดรถ จากหน้าบ้านเข้ามาจะเจอกับส่วนห้องนั่งเล่น แบบ Double Living Area คือจะมีห้องรับแขกอยู่ 2 ชุด** ส่วนที่ใช้นั่งดูทีวี กับ ส่วนที่เป็นชุดโซฟาต้อนรับแขกโดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถแยกฟังก์ชั่นการต้อนรับแขก ออกจากการนั่งดูทีวีของสมาชิกในบ้านได้ ถัดเข้ามาเป็นส่วนรับประทานอาหาร ที่อยู่ติดกับ Pantryด้านข้าง ส่วนนี้จะอยู่ติดกับสวน ให้มองออกไปด้านนอกได้
ถัดจากโซน Living Area เข้ามาแล้วจะเป็นส่วนโถงบันไดที่มีห้องเก็บของอยู่ใต้บันไดด้วย ติดกับโถงบันไดตรงนี้จะเป็นทางเข้าบ้านจากที่จอดรถ ซึ่งเมื่อเปิดเข้ามาแล้วจะเจอกับห้องน้ำหนึ่งชุด (อาบน้ำได้) และเข้าห้องครัวได้ทันที มีประโยชน์ในกรณีที่เราไปซื้อของที่ซุปเปอร์มา เราก็สามารถขนของเข้าไปเก็บใครครัวได้เลย ไม่ต้องผ่านห้องนั่งเล่น ห้องครัวนี้ก็จะให้มาเป็นครัวไทยแบบแยกส่วน มีประตูกั้น และเปิดออกจากครัวไปด้านหลังก็จะเป็นลานซักล้างอยู่นอกบ้าน
**ขออธิบายส่วน ห้องรับแขก Double Living Area นี้เพิ่มเติมนิดนึงครับ ส่วนที่เป็นห้องรับแขกที่สองนี้ จริงๆแล้วเป็นห้องเอนกประสงค์ ที่ทางโครงการปกติจะกั้นห้องแยกไว้ให้โดยใส่ผนังเบากับประตูบานสวิงไว้เลย เราสามารถจัดเป็นห้องอื่นๆได้ตามใจชอบ โดยที่ถ้าเราอยากได้ผนังเชื่อมกัน อาจจะต้องทำเองนะครับ
ขึ้นมาชั้นสอง จะเจอกับ Family Area หรือห้องนั่งเล่นที่อยู่ด้านบนก่อน แล้วก็จะเป็นห้องนอน 3 ห้องที่มีห้องน้ำในตัว โดยที่ห้อง Master Bedroom จะพิเศษหน่อย ตรงที่มีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet และมีระเบียงส่วนตัวในห้องด้วย
ต่อมาเป็นแบบ Silver Rhine หลังนี้พื้นที่ใช้สอย 269 ตารางเมตร จะเป็นฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน พื้นที่ที่เพิ่มมาหลักๆคือ ห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างเพิ่มมา 1 ห้อง และห้องแม่บ้านที่อยู่ด้านหลังบ้านอีก 1 ห้อง หลังนี้ขนาดที่ดินเริ่มต้นที่ประมาณ 60 ตารางวา ราคาเริ่มต้นประมาณ 10.5 ล้าน
แปลนชั้นล่าง จากหน้าบานเข้ามาจะมี Living Area ด้านหน้าที่เป็นส่วนรับแขก ส่วน Living Area 2 จะเข้าไปอยู่ด้านหลัง สำหรับคนในบ้านมานั่งพักผ่อน ซึ่งแบบนี้จะแยกจากกันได้ชัดเจนและเหมาะสมกว่า เมื่อเทียบกับบ้าน Blue Danube หลังเล็ก โต๊ะรับประทานอาหาร วางอยู่ติดกับ Pantry เหมือนเดิม แต่จะอยู่ระหว่างห้องนั่งเล่นทั้งสองห้อง ถัดเข้ามาเป็นโถงบันไดสำหรับขึ้นชั้นสอง
ตรงทางเดินจากโถงบันได ไปยังส่วนครัวที่อยู่ด้านหลัง จะมีห้องนอนชั้นล่าง คั่นอยู่ตรงกลาง ห้องนอนชั้นล่างนี้จะใช้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุก็ได้ หรือจะใช้เป็นห้องนอนสำหรับแขกที่มาพักที่บ้านก็ได้เหมือนกัน โดยห้องน้ำจะอยู่ด้านนอกห้องนอน ใช้ร่วมกับห้องรับแขก แต่สามารถอาบน้ำได้
ส่วนพื้นที่ครัวจะอยู่ด้านหลังติดกับประตูทางเข้าลานจอดรถ เปิดประตูออกจากครัวไปจะเป็นลานซักล้างด้านหลังเหมือนเดิม แต่ที่อยู่ติดกับครัวจะมีห้องนอนของแม่บ้านอยู่ด้านนอกด้วย มีประตูเข้าจากนอกบ้านแยกต่างหาก และมีห้องน้ำให้ในตัว
ที่ชั้น 2 จะมี Family Area อยู่ตรงกลางเหมือนกัน แล้วก็จะแบ่งเป็นห้องนอน 3 ห้องเหมือนกับบ้านหลังแรก แต่ในห้องนอนใหญ่สุด กับห้องนอนรอง จะเพิ่มฟังก์ชั่นที่เป็นห้องนั่งเล่น “Relax Area” ที่อยู่ในห้องนอนมาด้วย สำหรับเป็นมุมนั่งเล่นส่วนตัวของใครของมัน อยู่ในบ้าน
สุดท้ายเป็นบ้านแบบ Golden Thames ขนาด 328 ตารางเมตร ฟังก์ชั่นแบบ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ที่ได้ที่จอดรถในร่มเพิ่มมาอีก 1 คัน เทียบจากบ้านหลังกลาง แต่ฟังก์ชั่นของห้องต่างๆในบ้านจะถูกขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น และใช้งานได้สมบูรณ์มากขึ้น ขนาดที่ดินเริ่มต้นของบ้านใหญ่สุดนี้จะเริ่มที่ 72 ตารางวา ซึ่งจะขนาดใหญ่กว่าบ้านแบบที่ 2 ค่อนข้างมาก เนื่องจากจะเน้นพื้นที่สวน และพื้นที่รอบๆตัวบ้านมากขึ้น (และที่จอดรถ Outdoor ที่จอดได้มากขึ้นด้วย) ราคาเริ่มต้นของหลังนี้เลยจะอยู่ที่ประมาณ 13-14 ล้าน
หลังนี้แปลนชั้นล่างจะคล้ายๆกับหลังกลาง แต่จะมีส่วน Living Area 2 ที่ถูกดันออกไปทางซ้าย และเปิดให้เห็นพื้นที่สวนรอบด้าน (น้ำพุด้านซ้ายข้างๆบ้าน กับ Deck ไม้ข้างบ้าน ไม่ได้ทำไว้ให้นะครับ) ซึ่งจะอยู่ห่างจาก Living 1 มากขึ้น ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า และได้ห้องรับประทานอาหารที่ใหญ่ขึ้นด้วย ห้องนอนชั้นล่างยังขนาดประมาณเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก แต่ถูกย้ายตำแหน่งมาไว้หน้าบ้าน ส่วนห้องครัวไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ แต่จะมีห้องแม่บ้านที่ถูกขยายขนาดขึ้นอีกนิดนึง เพื่อให้สามารถรองรับแม่บ้าน 2 คนนอนห้องเดียวกันได้
พอขึ้นมาที่ชั้นสองแล้ว ห้อง Family Room ยังขนาดเท่าเดิมเลย ซึ่งความจริงผมคิดว่าน่าจะให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นกับมันหน่อย เพราะว่าพื้นที่ทั้งหมดที่เพิ่มมาแทบจะไปลงกับห้องนอนอย่างเดียว แต่ห้องนอนทั้ง 3 ห้องใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน พื้นที่ห้องน้ำ พื้นที่วางตู้เสื้อผ้า พื้นที่วางโต๊ะทำงาน จะสมบูรณ์กว่าบ้านหลังกลาง แต่ทีเด็ดคือห้องนอน Master Bedroom ที่ใส่ Walk-in Closet แบบ Full-Size มาให้ 2 ฝั่ง และขยายขนาดของห้อง Relax Area ในห้องนอนให้กว้างขึ้น และใช้งานได้ดีขึ้น ส่วน Master Bathroom จะเพิ่มฟังก์ชั่นอ่างอาบน้ำเข้ามา
เนื่องจากแปลงของทั้ง 3 หลังค่อนข้างคล้ายกัน ผมจะขอพาไปดูบ้านหลังใหญ่สุดหลังเดียว คือแบบ Golden Thames นะครับ
เริ่มจากพาไปดูบ้าน Standard ที่จะส่งมอบให้ลูกค้าก่อน เพราะบ้านหลังนี้ใส่ประตูรั้วมาให้ครบแล้ว หน้าตาบ้านเป้นแบบนี้ โครงสร้างของบ้านก่อด้วยอิฐมวลเบา Q-CON ครับ และจะมีการใช้วัสดุต่างๆที่ช่วยลดความร้อนของบ้าน เช่น ที่ใต้ฝ้าเค้าจะใส่ฉนวน Stay Cool หนา 3 นิ้ว (ปกติมีตั้งแต่ 3-6 นิ้ว), ใต้หลังคาใส่แผ่นอลูมิเนียมสะท้อนความร้อน, ใช้หลังคาเป็น CPAC Monier และใช้สี Bayer Cool รวมๆกันก็คือต้องการจะช่วยให้บ้านเย็นขึ้นน่ะเอง
พื้นลานจอดรถเป็นพื้นกรวดล้าง ทรายล้าง เล่นลวดลาย ปูทับบนพื้นคอนกรีต
รั้วบ้าน เหล็กสีดำ ปลูกต้นไม้ริมรั้วให้อย่างที่เห็นนี้เลย
ประตูเล็กสำหรับคนเดินเข้าบ้าน
กริ่งหน้าบ้าน
มือจับประตูเล็ก
ประตูรั้วเป็นประตูแบบอัตโนมือ (manual) นะครับ ดึงเปิด-ปิดเอง แต่เขาจะมีตำแหน่งสำหรับติดตั้งประตูไฟฟ้ามาให้
หลอดไฟหน้าบ้าน สำหรับเวลากลางคืน
ถังขยะหน้าบ้าน มีฝาปิด ทิ้งได้จากด้านในบ้านเท่านั้น ไม่ต้องกลัวว่าจะมีหมาแมวมาคุ้ยขยะ หรือจะมีคนแปลกหน้าเอาขยะมาทิ้งบ้านเรา
ด้านหน้าบ้านมีช่องเปิด สำหรับคนเก็บขยะ ให้เอาขยะไปทิ้ง โดยไม่ต้องเข้ามาในบ้าน
ทางเดินหน้าบ้าน มีจัดสวนไว้ให้แล้ว นี่คือบ้านที่จะส่งมอบให้ลูกค้านะครับ ได้อย่างนี้เลย
ทางเดินหน้าบ้าน ปูด้วยแผ่นคอนกรีต โรยกรวดรอบๆ
ภายในบ้าน ลงต้นไม้ใหญ่ให้ด้วย (จำนวนต้นแล้วแต่ขนาดของที่ดิน อย่างหลังนี้ได้ 3 ต้น)
พื้นที่สวนด้านข้าง ปูหญ้าและจัดสวนให้แล้ว รั้วรอบบ้านสูง 2 เมตร จากระดับถนน
ทางเดินไปยังหลังบ้าน มีแผ่นคอนกรีตวางเรียงไว้ สลับกับโรยกรวดกลมรอบๆ
เมื่อกี๊จะเป็นบ้าน Standard นะครับ ทีนี้เรามาดูบ้านตัวอย่างบ้าง หน้าตาจะแตกต่างกันอยู่บ้าง ลองดูๆกันไปนะ
ตัวบ้าน Golden Thames นี้จะเพิ่มความพิเศษมานิดนึงด้วย โดยที่เราจะสังเกตได้จากเสาคู่หน้าสองต้นที่อยู่หน้าบ้าน เพื่อบ่งบอกว่าหลังนี้ใหญ่สุด
ทางเข้าลานจอดรถ ปูด้วยวัสดุเดียวกัน คือกรวดล้าง/ทรายล้าง แต่คนละสี ลวดลายที่พื้นจะแตกต่างจากบ้านจริง
พื้นที่ลานจอดรถที่อยู่ในร่ม จะลงเสาเข็มด้วยครับ กดเข็ม 21 เมตร on beam เท่ากับตัวบ้าน เผื่อไว้ว่ากรณีบางบ้านอยากจะต่อเติมส่วนลานจอดรถ ก็สามารถทำเพิ่มได้
ส่วนพื้นที่ลานจอดรถที่อยู่นอกบ้าน จะลงเสาเข็ม 6 เมตร on pile แยกกับตัวบ้านครับ สังเกตได้จากแนวหินกรวดที่โรยเอาไว้ เพราะส่วนนี้จะไม่ได้รับน้ำหนักมาก เวลาทรุด มันจะได้ทรุดแยกจากตัวบ้าน ไม่เกิดรอยร้าวตรงขอบๆ
ที่เพดานลานจอดรถ จะมีอุปกรณ์ motion sensor ติดไว้ให้ทุกหลัง ต่อเข้ากับหลอดไฟหน้าบ้าน เวลามีคน (หรือโจร) เดินเข้าบ้าน หรือมีรถยนต์ถอยหลังเข้ามา ไฟหน้าบ้าน และโรงรถ ก็จะสว่างขึ้นโดยอัตโนมัติ
ตรงนี้จะมีประตูทางเข้า ฝั่งลานจอดรถอยู่ด้วย พร้อมกับ Step บันได 1 ขั้น
ห้องเก็บของติดกับโรงรถ ปิดด้วยบานประตูสีขาว มีช่องระบายอากาศ
เป็นช่องเก็บของตื้นๆ ไม่ลึกมาก แต่สามารถเก็บของชิ้นยาวๆ สูงๆได้ กรณีเรามีอุปกรณ์ล้างรถ หรืออุปกรณ์ทำสวน เราก็สามารถนำมาเก็บไว้ตรงนี้ได้ โดยไม่ต้องขนเข้าไปในบ้าน
ด้านหน้ามีปลั๊กไฟสำหรับต่อเครื่องใช้ไฟฟ้านอกบ้านเอาไว้ให้ พร้อมฝาปิด กันฝุ่น/น้ำ/แมลง
ที่โรงรถจะมีเสาหนึ่งต้นตรงกลาง เนื่องจากจอดรถได้ 3 คัน
เดินมาที่หน้าบ้าน ตรงนี้จะเป็นประตูทางเข้าบ้านหลัก
เฉลียงหน้าบ้านปูด้วยหินแกรนิตสีดำ (ถ้าบ้านหลังเล็ก-หลังกลางจะเป็นกระเบื้องผิวหยาบ)
ประตูหน้าบ้าน แบบบานคู่ วัสดุเป็นไม้สัก เคลือบผิวด้าน
Door Stopper ติดมาให้เรียบร้อย
มือจับประตูแบบ Stainless มีลวดลายสีดำ
ความสูงพื้นถึงฝ้า ชั้นล่างอยู่ที่ 2.80 เมตร เข้าบ้านมาปุ๊บ ส่วนแรกที่เจอก็จะเป็นห้องรับแขกก่อน ซึ่งจะเป็นห้องรับแขก 1 สำหรับต้อนรับแขกโดยเฉพาะ แต่ถ้าเป็นโซฟานั่งดูทีวีจะอยู่แยกออกไปอีกส่วนหนึ่ง
บ้านหลังใหญ่สุดนี้ Spec วัสดุในบ้านจะถูกอัพเกรดขึ้นมาจากบ้านสองแบบแรกอยู่หลายส่วน อย่างเช่น พื้นบ้าน บริเวณส่วนรับแขกตรงนี้ จะปูด้วยหินอ่อน Carrara Marble จากอิตาลี
ภาพรวมห้องรับแขกหน้าบ้าน
ให้ดูอีกมุม มองไปทางนี้จะเห็นโต๊ะกินข้าวด้านขวา
ผนังด้านหลังของโซฟารับแขก เป็นผนังกระจก มีหน้าต่างเป็นบานเลื่อนเปิด-ปิดได้ เพื่อให้สามารถมองออกไปที่สวนรอบบ้านได้ ผนังกระจกพวกนี้จะเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง เพื่อลดปริมาณแสงสว่างที่จ้าเกินไป และช่วยลดปริมาณแสง UV ได้บางส่วนครับ วัสดุกรอบกระจกเป็น Aluminium อบสีขาว
ที่ผนังอีกด้าน สามารถวางทีวีได้ เพื่อใช้เป็นพื้นที่ดูทีวีอีกจุดหนึ่ง พื้นที่การวางโซฟา และระยะดูทีวี จัดว่าเหลือเฟือมาก ใส่ทีวีจอใหญ่ๆ 60-70 นิ้วได้สบาย ส่วนโซฟาจะจัดเป็นตัว U ก็ยังได้
ถัดจากโซฟารับแขก เข้ามาเป้นส่วนของโต๊ะรับประทานอาหาร และ Pantry ซึ่งวางอยู่ติดกัน
โต๊ะรับประทานอาหารนี่ก็ยังจัดเป็นส่วนกึ่งๆรับแขกได้อยู่ จึงเอามาไว้ติดกับห้อง Living 1 แต่ในบ้านหลังนี้ใส่โต๊ะแบบ 4 ที่นั่งมาให้ดูเท่านั้นเอง ในความเป็นจริง บ้านนี้ขายแบบบ้านเปล่าอยู่แล้ว พื้นที่ก็ค่อนข้างเหลือเฟือ เราจะจัดเป็นโต๊ะยาว 8 ที่นั่ง หรือ 10 ที่นั่งก็ได้ (ถ้าไม่ใส่ Pantry) หรือใครจะอยากจัดโต๊ะกลม ก็ยังพอมีพื้นที่ให้ทำได้ครับ แต่แนะนำเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมดีกว่า จะได้มีพื้นที่รอบๆโต๊ะเยอะหน่อย
ผนังด้านหลังโต๊ะกินข้าว มองเห็นสวนรอบบ้านเหมือนกัน
ถัดจากโต๊ะรับประทานอาหารเข้ามา เป็นส่วนที่เรียกว่า Living Area 2 ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ จริงๆแล้วเป็นฟังก์ชั่นที่ไม่ต้องมีก็ได้ เราสามารถกั้นห้องตรงนี้ทำเป็นห้องเอนกประสงค์อื่นๆได้ตามใจชอบ แต่ในบ้านตัวอย่างเขาใส่มาให้ดูเป็นไอเดีย เพื่อที่จะแยกฟังก์ชั่นการใช้งานห้องรับแขก กับการนั่งเล่นดูทีวีบนโซฟาออกจากกัน เช่น บางทีพวกผู้ใหญ่อาจจะนั่งคุยกัน อยู่ที่โซฟารับแขก จิบน้ำชา กินขนม พวกเด็กๆอาจจะมานั่งรวมตัวกันที่โซฟาดูทีวี นั่งเล่นเกม หรือทำกิจกรรมอื่นๆ แยกกลุ่มออกไป แต่ก็ยังอยู่ในจุดที่ไม่ห่างไกลกันมาก มี Space ที่เชื่อมต่อกันได้อยู่
แต่ห้องนี้ทีวีแอบวางเบี้ยวๆไปหน่อยนะ 😛 ไม่ค่อยเซ็นเตอร์กับโซฟา แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ พื้นที่เรามี พอขยับได้
ผนังของห้องนั่งเล่น 2 นี้ อยู่ติดกับพื้นที่สวนข้างบ้าน 3 ด้านเลย และมีประตูให้เปิดออกไปที่สวนได้ ซึ่งถ้าใครไม่ชอบฟังก์ชั่นห้องนั่งเล่น 2 เราจะกั้นห้องนี้เป็นห้องทำงานก็เหมาะเหมือนกัน หรือจะเป็นห้องอ่านหนังสือ ห้องสมุดเล็กๆในบ้าน ก็จะได้มุมที่ผ่อนคลาย แบบส่วนตัวๆอีกมุมหนึ่ง ซึ่งก็แล้วแต่เจ้าของบ้านครับ
ถ้าเรานั่งอยู่บนโซฟาแล้วมองออกไปตรงๆ ก็จะเห็นทีวี กับสวนได้พร้อมๆกันแบบนี้
พื้นที่สวนด้านนอก ในบ้านตัวอย่างมีการปูระแนงไม้เอาไว้ แต่บ้านจริงๆจะไม่ได้ทำแบบนี้ให้นะครับ เพราะว่าบางบ้านก็ไม่สามารถทำได้ เพราะพื้นที่รอบตัวบ้านมีไม่เพียงพอ แต่โดยปกติจะปูหญ้า กับจัดสวนไว้ให้
บางบ้านจะทำเป็นบ่อเลี้ยงปลาข้างๆแบบนี้ก็ทำได้
โดยปกติ หลังบ้านก็จะวางแผ่นคอนกรีตเป็นทางเดินเอาไว้ให้ ลักษณะคล้ายๆแบบนี้ สำหรับเป็นทางเดินรอบตัวบ้าน
ด้านบนติดหลอดไฟเอาไว้ให้ด้วย สำหรับส่องสว่างข้างๆตัวบ้าน
ในบ้านจะมีการเดินท่อแนบคาน เป็นระบบกันปลวก เอาไว้ในบ้านด้วย โดยจะใช้วิธีเติมน้ำยากันปลวก ผ่านกล่องนี้ (อันนี้พนักงานขายบอกผมนะ) น้ำยาก็จะไหลไปตามท่อ ที่วางเอาไว้รอบบ้านครับ
กลับเข้ามาในบ้าน มาดูส่วน Pantry ที่อยู่ข้างๆโต๊ะกินข้าวบ้าง ตรงแพนทรี่มีการวางโต๊ะ Island ไว้หนึ่งตัว สำหรับใช้งานเอนกประสงค์ เช่น วางถาดขนม วางอาหารที่เตรียมจะเสิร์ฟขึ้นโต๊ะอาหาร หรือใครจะใช้เป็น Breakfast Bar ก็ทำได้
พื้นที่ตรงนี้ จริงๆแล้วก็ให้มาเป็นพื้นที่โล่งๆนะครับ จะไม่ใส่อย่างที่เค้าทำให้ดูก็ได้ เผื่อว่าใครจะอยากได้พื้นที่ของโต๊ะรับประทานอาหารที่ใหญ่ขึ้น ก็จะได้ขยับมาแทนที่
ต่อมาเป็นทางเดินเข้าไปยังโถงบันได ระหว่างทางจะเจอห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างก่อน
ห้องนอนชั้นล่างนี้เป็นห้องนอนที่ไม่มีห้องน้ำในตัวครับ เหมาะสำหรับให้ผู้สูงอายุที่ไม่ชอบเดินขึ้นชั้น 2 หรือให้แขกที่มาพักที่บ้าน พักที่ห้องนี้ ถ้าใครไม่ได้ใช้อาจจะทำเป็นห้องอื่นๆ เช่นห้องรีดผ้า ห้องเก็บของใช้ต่างๆ หรือบางคนบุผนังห้องนี้ด้วยฉนวนกันเสียง แล้วทำเป็นห้องดูหนังส่วนตัว หรือ ห้องซ้อมดนตรีก็มีนะ
ห้องนี้อยู่ติดกับหน้าบ้าน มีหน้าต่างเปิดออกระบายอากาศได้ มีแสงสว่างธรรมชาติส่องเข้าในห้อง
พื้นห้องนอน เป็นพื้นปาร์เก้ ไม้มะค่า พื้นที่ในห้องก็เรียกว่าใหญ่พอที่จะทำเป็นห้องนอนได้สบายๆ มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า เตียง 6 ฟุต โต๊ะหัวเตียง แล้ววางโต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทำงานได้อีก
ผนังหน้าห้องของจริงมีบานประตูเป็นช่องเปิดบานเดียวนะครับ ไม่มีช่องแสงด้านข้างอย่างที่เห็น
ออกจากห้องนอน เดินต่อมายังโถงกลางบ้าน ทางขวาจะเป็นประตูเปิดออกไปยังโรงรถ ด้านซ้ายเป็นทางเข้าห้องน้ำ ส่วนตรงไปเป็นทางเข้าครัว เราไปดูห้องน้ำกันก่อน
ห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่ใกล้กับครัว ซึ่งจะแชร์กันใช้ ระหว่างห้องรับแขก ห้องครัว และห้องนอนชั้นล่าง
ฟังก์ชั่นของห้องนอนห้องนี้ ก็คือว่าครบ เพราะสามารถอาบน้ำได้ ใช้งานจริงจังได้เลย พื้นที่ก็ให้มาหลวมๆ วางสุขภัณฑ์ต่างๆได้ 3 Fixtures ตามปกติ
ผนังตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสก … สีม่วง … อาห์ … ถามพนักงานขายแล้ว เค้าบอกว่าให้ตามนี้เลย คงจะถูกใจใครหลายๆคนสินะ
ชุดอ่างล้างมือ ที่ติดตู้เก็บของใต้อ่างมาให้ด้วย รอบๆมีพื้นที่วางของพอประมาณ
หัวก็อกหน้าตาประมาณนี้ครับ ยี่ห้อ Cotto เหมือนกับอ่างล้างหน้า (ขอยืมรูปมาจากอีกห้องนึงนะ)
พื้นที่อาบน้ำ เป็นพื้นลดระดับ ไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำไว้ให้ แต่สามารถติดเพิ่มได้ครับ พื้นที่มีเพียงพอให้สามารถติดบานสวิงก็ได้ หรือจะใช้เป็นบานเลื่อน 3 ชิ้นก็ได้
ต่อมาเป็นห้องครัว ประตูทางเข้าห้องครัวของจริงจะเป็นประตูไม้บานสวิงปกตินะครับ ไม่ใช่ประตูบานเลื่อนอย่างที่เห็นในห้องตัวอย่าง
ห้องครัวของบ้านจะเป็นครัวไทยแบบปิด แยกส่วนออกไป มีประตูกั้น พื้นที่ครัวของจริงที่ให้มาจะมีแค่เคาน์เตอร์ครัว 2 ฝั่ง ท้อปหินแกรนิต ไม่ใส่หน้าบาน ไม่มีตู้เก็บของด้านบน และไม่มีเตา ไม่มีเครื่องดูดควันนะครับ
ใกล้ๆตำแหน่งวางตู้เย็น มีหน้าต่างหนึ่งบาน เชื่อมกับส่วนลานจอดรถหน้าบ้าน สำหรับเปิดระบายอากาศ ส่วนตู้เย็นสามารถวางตู้เย็นขนาดใหญ่ หน้าบานคู่ แบบที่เห็นนี้ได้
พื้นที่เคาน์เตอร์ครัว และส่วนเตรียมอาหาร ของจริงไม่ได้ใส่หน้าบานนะครับ
อ่างล้างจานหน้าตาแบบนี้ เป็นอ่าง Stainless วางบนเคาน์เตอร์ธรรมดา (ซึ่งผมเห็นว่าถ้าเป็นบ้านระดับ 13 ล้าน ก็น่าจะใส่เป็นแบบฝังได้แล้ว) ผนังด้านหลังปูกระเบื้องให้ แต่จะเป็นกระเบื้องเซรามิกสีขาวธรรมดา ไม่ใช่แบบลายๆอย่างที่เห็นในห้องตัวอย่างครับ
ส่วนฝั่งนี้จะเป็นพื้นที่ทำครัว ซึ่งก็ให้มาเฉพาะเคาน์เตอร์เหมือนกัน ไม่มีเตา ไม่มีเครื่องดูดควัน ไม่มีตู้เก็บของ และไม่ใส่หน้าบานมาให้ แต่จะมีการเดินตำแหน่งสายไฟเอาไว้ เพื่อซื้อมาติดตั้งภายหลังครับ
ประตูเปิดออกไปยังลานซักล้างด้านหลังครัว ด้านข้างมีหน้าต่างบานกระทุ้งสองบาน สำหรับให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ และสำหรับการเปิดระบายอากาศ
ตัวล็อคเป็นลูกบิดสปริง และมี Bolt ด้านล่างเพิ่มอีก 1 จุด ยี่ห้อ Colt
เมื่อเปิดออกจากครัวมาแล้ว เราจะเจอกับลานซักล้างที่อยู่หลังบ้านแบบนี้
ตัวลานซักล้างจะยกสูงจากพื้นดินประมาณ 20 ซม. และพื้นส่วนนี้จะกดเสาเข็มลึก 6 เมตร เวลาพื้นทรุดจะได้ทรุดแยกจากตัวบ้าน
พื้นผิวปูด้วยแผ่นกระเบื้องมีลวดลายตารางลักษณะนี้
ด้านข้าง วางท่อเอาไว้สำหรับต่อกับเครื่องซักผ้า
ปั๊มน้ำแถมให้ ยี่อห้อ Hitachi รุ่น Inverter แรงดันคงที่ กำลัง 300 Watt แถมถังน้ำให้ด้วย ยี่ห้อ Cotto ความจุ 1,000 ลิตร
ด้านหลังมีประตูเปิดไปยังห้องแม่บ้าน ซึ่งเข้าได้จากทางนอกบ้าน มีประตูแยกต่างหาก
พื้นห้องแม่บ้านยกระดับขึ้นมาประมาณ 15 ซม.
ห้องแม่บ้าน ใหญ่พอที่จะใส่เตียงสองชั้น หรือวางเตียงคู่ได้ และวางตู้เสื้อผ้า, ทีวีเล็กๆได้สบายๆ ประตูที่เห็นในรูปคือทางเข้าห้องน้ำ
มองย้อนกลับออกมา ห้องแม่บ้านจะมีหน้าต่างหนึ่งบานเล็กๆ สำหรับระบายอากาศ
พื้นที่ห้องน้ำในตัวห้องแม่บ้าน ซ้ายเป็นส่วนเปียก ขวาเป็นส่วนแห้ง
พื้นที่พอใช้งานได้
ขอดีคือ ห้องน้ำแม่บ้านหน้าต่างใหญ่ดี ระบายอากาศง่ายหน่อย แถมเป็นบานกระทุ้งบานใหญ่ 1 บาน บานเล็ก 1 บานด้วย
ต่อมาเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 มีห้องเก็บของใต้บันได ใส่ตู้ไฟ และงานระบบต่างๆไว้ใต้บันไดด้วย
โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นบันไดของบ้านหลัง Golden Thames จะเป็นไม้แดงเต็มแผ่น ในขณะที่บ้านหลังเล็กอีก 2 หลังจะเป็นพื้นไม้จริงชิ้นเล็กๆประกอบเข้าด้วยกัน
ลักษณะของบันไดบ้าน Type เล็กอีก 2 แบบ จะเป็นชิ้นไม้ต่อเข้าด้วยกันแบบนี้
ราวบันไดของบ้านทั้ง 3 แบบจะเหมือนกัน คือเป็นราวบันไดไม้แดง ต่อกับเหล็ก Wrought Iron นำเข้า
ชานพักบันไดเต็มพื้นที่ เป็นชั้นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว ไม่มีขั้นบันไดสามเหลี่ยม ที่โถงบันได มีการติดบานหน้าต่างเพื่อให้แสงส่องเข้ามาได้ ให้โถงบันไดสว่างในเวลากลางวัน
ตรงหน้าต่างนี้จะมีบานกระทุ้งเล็กๆอยู่อีกหนึ่งบาน เพื่อเปิดรับลมธรรมชาติ ที่จะไหลเข้าบ้านได้ ในกรณีที่เปิดหน้าต่างบานอื่นๆควบคู่กันไปด้วย ซึ่งการที่ใส่เป็นบานเล็กแบบนี้จะได้ไม่ต้องเปิดบานใหญ่ทั้งบาน (แต่ควรจะไปติดมุ้งลวดเพิ่มเติมนะครับ พวกแมลง หรือ จิ้งจก จะได้ไม่เข้ามาในบ้าน
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ความสูงพื้นถึงฝ้าของชั้นบนอยู่ที่ 2.60 เมตร ตรงกลางจะเป็นพื้นที่ Family Area ทางซ้ายสุดที่ใกล้กับโถงบันไดเป็นห้องนอนขนาดเล็กสุด ถัดไปไกลๆ ที่อยู่ด้านหน้าบ้าน เป็นห้องนอนขนาดกลาง ส่วนทางขวาเป็นห้อง Master Bedroom
พื้นที่ห้องนอนชั้น 2 นี้เป็นพื้นปาร์เก้ ไม้มะค่าทั้งหมด
พื้นที่ Family Area ที่อยู่ชั้น 2 นี้จะเป็นเหมือนห้องนั่งเล่นของคนที่อยู่ชั้นบน ทำหน้าที่หลักๆคือ เอาไว้ดูทีวีเวลาขี้เกียจเดินลงไปข้างล่าง หรือเวลาที่อยากจะดูทีวีพร้อมกัน แต่คนนึงอยากดูบอล อีกคนอยากดูละคร หรือไม่ก็เวลาที่ด้านล่างคุณพ่อคุณแม่มีแขกมาหาที่บ้าน แล้วไม่อยากให้ลูกๆลงไปรบกวน ก็ให้เด็กๆอยู่ที่ชั้น 2 นั่งเล่นกันไปตรงนี้ แต่ผมว่าบ้านหลังนี้พื้นที่ 328 ตารางเมตร พื้นที่ Family Area ตรงนี้น่าจะใหญ่กว่านี้หน่อย เพื่อให้สามารถทำกิจกรรมได้ร่วมกันได้หลากหลายขึ้น แต่เข้าใจว่าอาจจะอยากให้ลงไปใช้พื้นที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างมากกว่า จึงไม่เน้นพื้นที่ข้างบนมากนัก ซึ่งมันก็แล้วแต่ความชอบของผู้อยู่อาศัยจริงๆครับ
โถงชั้น 2 จะมีหน้าต่างบานเล็ก-ใหญ่อยู่ 6 บานด้วยกัน เลือกเอาว่าจะเปิดกว้าง-แคบแค่ไหนตามใจชอบ สลับๆได้ ถ้าเราเปิดหน้าต่างตรงนี้ แล้วเปิดหน้าต่างอีกจุดตรงโถงบันได ก็จะทำให้มีลม Flow ผ่านพื้นที่โถงชั้น 2 ที่มักจะร้อนได้ แล้วจะได้ไม่ต้องเปิดแอร์บ่อยๆ
ที่วงกบประตูและหน้าต่างทุกบ้าน ของบ้านทุกหลัง จะติดระบบป้องกันการโจรกรรมด้วย โดยจะเป็นระบบ Shock Sensor ตรวจจับการกระแทก และ Magnetic Sensor ที่ตรวจจับการงัดแงะ ซึ่งมันจะร้องเตือนถ้ามีคนพยายามจะเข้ามาในบ้าน
ตัวสัญญาณกันขโมย จะเชื่อมกับแผงควบคุมที่ติดอยู่ที่ชั้นสอง ซึ่งตัวแผงควบคุมนี้จะส่งสัญญาณไป 2 จุด ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์บ้าน โดยจะโทรไปยังป้อมรปภ.กลางของหมู่บ้าน และโทรเข้ามือถือของเจ้าของบ้าน กรณีที่เราไม่อยู่บ้าน ก็จะสามารถรู้ได้ แต่เราต้องเสียบสายโทรศัพท์บ้านเอาไว้นะครับ
เข้าไปดูห้องนอนแต่ละห้องกัน เริ่มจากห้องเล็กสุดก่อน ไล่ไปถึงห้องใหญ่สุด
ห้องนอนแรก อยู่ทางมุมด้านหลังบ้าน เข้ามาในห้องแล้วจะเห็นแบบนี้ ทางซ้ายเป็นเตียงนอน ทางขวาเป็นพื้นที่ที่วางโซฟานั่งเล่น ด้านในเป็นห้องน้ำ กับ ตู้เสื้อผ้า
มองย้อนกลับมาที่ทางเข้า
เตียงห้องนี้ วางเป็นเตียงขนาด 3.5 ฟุต เอาไว้ เกือบจะชิดผนัง ซึ่งจริงๆแล้ว วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้เลย นอนสบายกว่า แม้จะนอนคนเดียวก็ตาม
พื้นที่หัวเตียง วางโต๊ะข้างได้ ถ้าใส่เตียง 3.5 ฟุต แต่ถ้าใส่เตียง 5 ฟุตลงไป อาจจะวางไม่พอ ไม่งั้นก็ต้องหาเตียงที่มี Built-in หัวเตียงแบบมีที่วางของมาให้เสร็จสรรพ
พื้นที่ปลายเตียงยังเหลือให้เดินผ่านได้ค่อนข้างกว้าง วางตู้เก็บของ หรือใส่ชั้นวางทีวีเต็มผนังได้เลย
ผนังด้านข้างเป็นหน้าต่าง
ตัวกลอนหน้าต่างเป็นแบบ Double Lock กรอบหน้าต่างเป็นอลูมิเนียมอบสีขาว
ด้านนอกวาง Compressor แอร์ ชิดผนังห้อง
มุมด้านนี้เป็นโต๊ะนั่งทำงาน และวางอาร์มแชร์ไว้อีกตัวหนึ่ง ซึ่งผมมองว่าไม่ต้องมีก็ได้ แล้วใส่เป็นโต๊ะทำงานที่ยาวขึ้น หรือเพิ่มขนาดตู้เก็บของ/ตู้เสื้อผ้าให้ใหญ่ขึ้น ดูจะมีประโยชน์มากกว่า
ตู้เสื้อผ้าอยู่ทางด้านในสุดหน้าห้องน้ำ ที่ปลายสุดของทางเดิน มีบานหน้าต่างอีกหนึ่งบาน ช่วยเพิ่มปริมาณแสงธรรมชาติในห้องนอนได้
เข้ามาดูพื้นที่ในห้องน้ำบ้าง จัดเป็น 3 ฟังก์ชั่นมาตรฐาน วางอ่างล้างหน้า ไว้คู่กับโถสุขภัณฑ์ทางด้านหน้า และมี Shower Box อยู่ทางด้านใน
พื้นที่รอบๆโถสุขภัณฑ์ให้มาแบบเหลือๆ นั่งได้แบบไม่อึดอัด ผนังรอบๆปูกระเบื้องสีขาว แบบมี Texture หน่อยๆ
ข้างๆโถสุขภัณฑ์ มีหน้าต่างบานกระทุ้งอีกหนึ่งบานสำหรับระบายอากาศในห้องน้ำ และสำหรับให้แสงส่องเข้ามาได้ เผื่อใครชอบอ่านหนังสือระหว่างทำธุระไปด้วย 😀 ข้างๆมีชั้นวางของสำหรับวางของกระจุกกระจิกได้ด้วย
พื้นที่ Shower Box ขนาดใหญ่เหลือเฟือ แต่ไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ซึ่งควรไปหาติดเอง เพื่อกั้นส่วนเปียกส่วนแห้งออกจากกันนะครับ เพราะไหนๆเขาก็จัดสรรพื้นที่มาให้แล้ว
ชั้นวางสบู่และแชมพู อยู่ตรงข้ามกับฝักบัว ข้างๆติดกระเบื้องโมเสกสีแดงเข้มสลับดำมาให้ เพิ่มความ Modern ลงไป
ต่อมาไปดูห้องนอนขนาดกลาง ที่อยู่หน้าบ้านบ้าง ห้องนี้จัดมาเป็นเหมือนให้ลูกสาวคนโตของบ้าน ดูจากสี และลวดลายสไตล์ Vintage ที่ใช้ ห้องนี้ Layout จะตรงข้ามกับห้องแรกเหมือนกลับจากซ้ายเป็นขวา แต่จะมีพื้นที่ในห้องที่ใหญ่กว่า
มองย้อนกลับมาทางประตูเข้าห้อง
พื้นที่เตียง ในห้องนี้ใส่เตียง 3.5 ฟุตไว้อีกแล้ว แต่ผมก็ยังจะแนะนำให้ขยายขนาดเป็นเตียง 5 ฟุตอยู่ดี แล้วใส่โต๊ะหัวเตียงข้างเดียวก็พอ ถ้านอนคนเดียว ไม่ต้องมี 2 ด้านก็ได้ แล้วก็เอาเตียงไปชิดผนัง ฝั่งที่ติดกระจกเลย จะทำให้ได้พื้นที่ในห้องมาอีกหน่อยด้วย
ตรงข้ามเตียง ที่อยู่หน้าห้องน้ำ เป็นตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้า ที่ดูเหมือนจะไม่พอสำหรับคุณลูกสาว แต่ก็ถือว่าใหญ่แล้วนะสำหรับห้องนอนลูกทั่วๆไป ที่มักจะได้ตู้แค่บานเดียว แต่นี่ได้ถึง 2.5
ผนังด้านข้างเป็นผนังกระจกหลายๆบานประกอบกัน มีบานหน้าต่างสไลด์เปิดได้ พร้อมกับกระจกแบบเข้ามุม ให้สามารถมองเห็นวิวได้กว้างขึ้น
ด้านนอกฝั่งนี้เป็นเหมือนระเบียง ที่เดินออกไปไม่ได้ เหมือนจะไม่ได้ใช้ทำอะไร จึงโรยกรวดเอาไว้เพื่อความสวยงาม แต่จริงๆแล้วนี่คือที่วาง Compressor แอร์นั่นแหละ แต่เค้าเลือกที่จะไม่วางคอมฯแอร์ด้านนี้ของบ้าน เพราะมันอยู่หน้าบ้าน ดูแล้วไม่สวยงาม เลยเอาไปไว้หลังบ้านแทน แต่ถ้าบ้านไหนอยากเอามาวางไว้ตรงนี้ก็สามารถทำได้
ข้างๆทางเข้าห้องน้ำในห้องนอนกลาง จะมีเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนของคุณลูกสาวด้วย ที่ในแปลนจะเขียนว่าเป็น Relax Area นั่นแหละ ซึ่งถ้าห้องนี้ลูกชายคนโตยึดไป ก็จะกลายเป็นมุมนั่งเล่นเกมแน่นอน หรือาจจะเอาโต๊ะทำงานมาตั้ง แล้วใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงาน ที่ได้แสงธรรมชาติ ก็สามารถทำได้ด้วยนะ
หน้าต่างเข้ามุม มีบานกระทุ้งอีก 2 บาน สามารถเลือกเปิดให้เหมาะสมกับความต้องการได้ จริงๆก็แอบเสียดายนะ ที่ไม่ใช่หน้าต่างกระจกบานใหญ่แผ่นเดียว
ห้องน้ำของห้องนี้ Layout แอบแปลกๆหน่อย พอเข้ามาแล้วเจออ่างล้างมือทางซ้ายแบบนี้ แล้ววางโถสุขภัณฑ์ทางขวา เหมือนกับว่าห้องน้ำมันกว้างไม่สุด ยาวไม่สุด ยังไงอย่างนั้น เลยจะดูมีพื้นที่เหลือๆที่ไม่ได้ใช้งาน
ถ้ามองย้อนกลับไปทางประตูเข้าห้องน้ำ ก็จะเห็นเป็นลักษณะนี้
เหนือโถสุขภัณฑ์ เจาะช่องที่ผนังเพื่อทำเป็นชั้นวางของเล็กๆ
พื้นที่ Shower Box ที่อยู่ทางด้านใน
ผนัง Shower Box ฝั่งนี้ติดตำแหน่งเสาพอดี จึงก่อเป็นที่นั่ง สำหรับนั่งอาบน้ำเอาไว้ซะเลย ด้านหลังมีหน้าต่างเปิดได้บานนึง
ส่วนฝั่งที่ติดฝักบัว เจาะช่องผนัง ทำที่วางสบู่ตั้ง 4 จุด ถ้าอาบคนเดียวแล้วใช้ครบทั้ง 4 ช่องจนเต็มได้นี่ ต้องถือว่าเก่งมากเลยนะ
ต่อไปเป็นส่วนสุดท้ายของบ้านหลังนี้ และเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดด้วย ซึ่งก็คือ Master Bedroom
ห้องนอนใหญ่พื้นที่จัดมาเหลือเฟือมากจริงๆ ดูจากการที่วางเตียงขนาด 6 ฟุตพร้อมฐานเตียง และโต๊ะข้างลงไปแล้ว ยังมีพื้นที่ทั้ง 3 ด้านรอบเตียงเหลือให้กลิ้งได้อีก ไม่รู้ว่าเหลือพื้นที่ขนาดนี้จะเหลือเยอะไปรึเปล่า
พื้นที่ปลายเตียงในห้องตัวอย่างเหมือนขี้เกียจแต่งไปหน่อย วางตู้เก็บของเล็กๆสีดำไว้ให้ดูระยะเฉยๆ แต่ถ้าจะจัดจริงๆแล้ว สามารถใส่ตู้ Side Board วางทีวีเต็มผนังได้เลย นอกจากวางทีวีได้แล้ว ยังใช้เป็นตู้เก็บของได้อีก ระยะเปิดตู้ ระยะเดินผ่าน ก็ยังมีเหลืออยู่
เตียงวางขนาด 6 ฟุตเอาไว้ ใส่โต๊ะข้างเตียงกว้างประมาณ 60 ซม. ได้อีกสองด้าน แบบหลวมๆ
พื้นที่ระเบียงด้านข้าง กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน
พื้นที่ระเบียงเล็กๆ ไม่มีอะไรมาก ถ้าจะปลูกต้นไม้ ลงไปปลูกในสวนข้างล่าง เพราะพื้นที่รอบบ้านก็มี พื้นที่ตรงนี้ก็เอาไว้วางไม้กระถางเล็กๆได้ หรือใครจะตากกางเกงใน?
ถัดจากทางขวาของเตียงเข้าไปจะแยกเป็นห้องๆอีกที
ทางซ้ายจะแยกมาเป็นห้อง Relax Area หรือเป็นเหมือนห้อง Living Room ขนาดเล็กๆ ส่วนตัวๆสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เอาไว้พักผ่อน หรือเปลี่ยนอิริยาบท เราไม่จำเป็นต้องจัดเป็นโซฟาดูทีวีก็ได้ จะทำเป็นมุมทำงานก็ได้
ถ้ามองย้อนจากในห้อง Relax Area ออกมา ก็จะเห็นว่าผนังของ Relax Area ที่อยู่ติดกับตัวห้องนอนหลัก จะมีเจาะช่องหน้าต่างไว้ ให้สามารถมองทะลุเห็นกันได้ ไม่ทึบจนเกินไป
ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นทางเข้าห้องน้ำ และห้องแต่งตัว
หน้าห้องน้ำจะเป็น Walk-in Closet แบบ Full-Size ใส่ตู้เสื้อผ้าได้ 2 ด้านเต็มที่เลย
ด้านหน้าวางโต๊ะเครื่องแป้งได้อีกตัว
พื้นที่ตรงนี้พอลองใส่ตู้แบบเต็มๆขึ้นมาแล้ว ก็จะทำให้เก็บของอื่นๆเพิ่มได้ นอกเหนือจากเสื้อผ้าด้วย เช่นพวกกระเป๋า หรือ Accessory ต่างๆ แล้วแต่เราว่าจะจัดแบบไหนนะครับ
ที่ปลายสุดของทางเดินยังมีช่องแสงอีกหนึ่งจุดด้วย ต้องบอกว่าโครงการพยายามจะใส่ช่องแสงเพิ่มเข้าไปในทุกๆห้อง เพื่อลดการใช้แสงจากหลอดไฟ และเพิ่มความสามารถในการถ่ายเทอากาศในบ้านได้เป็นอย่างดี
สุดท้ายของท้ายสุด คือห้องน้ำ Master Bathroom ครับ ห้องนี้จะใส่ฟังก์ชั่นอ่างอาบน้ำเพิ่มเติมเข้ามาด้วย
พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องขนาด 30×60 ซม. ผิวด้าน
อ่างล้างหน้าขนาดใหญ่กว่าห้องอื่น
เรียกว่าเอาหมาชิวาว่าลงไปอาบน้ำได้เลยอ่ะ … แต่ก็ไม่ได้แบบ His & Hers นะจ๊ะ
ด้านล่างเป็นช่องเก็บของ พวกอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในห้องน้ำ กระดาษทิชชู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน มีพื้นท่ีสำหรับติดเครื่องทำน้ำร้อนในห้องน้ำมาให้ด้วย ในขณะที่ห้องอื่นๆจะติดเครื่องทำน้ำอุ่น
พื้นที่วางโถสุขภัณฑ์ อยู่ข้างๆ Shower Box ตัวโถสุขภัณฑ์ของห้องน้ำใหญ่นี้จะดู Premium ขึ้นมานิดหน่อย เทียบจากขนาดและรูปร่างของถังน้ำด้านหลัง ถ้าสังเกตดูที่ผนังจะติดกระเบื้องโมเสกเพิ่มให้ด้วย
ตำแหน่งวาง Shower Box อยู่ตรงกลางห้องน้ำเลย ห้องนี้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้แล้ว (เย้) เป็นแบบกระจกนิรภัย กรอบ Stainless
หัวก็อก COTTO
หัวฝักบัวแบบ Hand Shower หมุนปรับระดับได้
ด้านใน Shower Box มีหน้าต่างบานกระทุ้งเล็กๆหนึ่งบาน
อ่างอาบน้ำ วางอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ ตรงข้ามกับอ่างล้างหน้า ยี่ห้ออ่าง, ก็อก และสุขภัณฑ์ต่างๆ เป็นของ COTTO ทั้งหมดครับ
มีหน้าต่างตรงเหนืออ่างอาบน้ำอีก หน้าต่างเยอะจริงๆ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 25 May 2014
- แบบบ้าน Enhance Blue Danube พื้นที่ใช้สอย 235 ตารางเมตร 57.20 ตารางวา ราคา 9.75 ล้านบาท
- แบบบ้าน Enhance Blue Danube พื้นที่ใช้สอย 235 ตารางเมตร 59.90 ตารางวา ราคา 9.95 ล้านบาท
- แบบบ้าน Enhance Silver Rhine พื้นที่ใช้สอย 269 ตารางเมตร 63.90 ตารางวา (มุม) ราคา 10.69 ล้านบาท
- แบบบ้าน Enhance Silver Rhine พื้นที่ใช้สอย 269 ตารางเมตร 60.20 ตารางวา ราคา 10.80 ล้านบาท
- แบบบ้าน Enhance Golden Thames พื้นที่ใช้สอย 328 ตารางเมตร 72.10 ตารางวา ราคา 13.99 ล้านบาท
- บ้านสร้างเสร็จก่อนขาย
- ขายแบบบ้านเปล่า/ห้องน้ำ/เคาน์เตอร์ครัว/จัดสวน/ถังน้ำ/ปั๊มน้ำ/โทรศัพท์บ้าน 1 เบอร์/ระบบสัญญาณกันขโมยทั้งหลัง/ติด Wallpaper
- จองและทำสัญญา 20%
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 80,000 บาท
- แปลงมุม ราคาเพิ่มอีก 200,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 23 บาทต่อตารางวาต่อเดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเลของโครงการ Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์-พระราม 5 ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ ซึ่งอยู่ติดถนนใหญ่ ไม่ต้องเข้าซอยลึก อยู่ใกล้กับจุดกลับรถสองแห่ง นั่นคือ วงเวียนพระราม 5 และ จุดกลับรถใต้สะพานข้ามคลองอ้อมนนท์ ทำให้ค่อนข้างสะดวกกับการเดินทางด้วยรถยนต์ ซึ่งทำเลโซนราชพฤกษ์-นครอินทร์-รัตนาธิเบศร์นี้ คงไม่ต้องถามแล้วว่าต่อไปจะเจริญขึ้นมั้ย เพราะปัจจุบันก็มีการพัฒนาต่างๆเกิดขึ้นให้เห็นมากมาย ทั้งสะพานข้ามแม่น้ำที่จะเพิ่มเข้ามา ทั้งรถไฟฟ้าที่เฉียดเข้ามาใกล้ และยังมีห้างสรรพสินค้าอื่นๆอีกมากมายที่รอการเปิดตัวอยู่ ยิ่งถ้าสะพานข้ามแม่น้ำนนทบุรี 1 และรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้ใช้เมื่อไหร่ ความเจริญของถนนราชพฤกษ์เส้นนี้ก็จะได้รับอานิสงส์ไปด้วยแน่ๆ แต่ข้อเสียหลักๆ (ที่รุนแรง) ของโครงการบนถนนราชพฤกษ์นี้ก็คือ รถมันติดมาก ติดจนหงุดหงิด และต่อให้อยู่มานานแล้วก็ยังไม่มีทาง “ชิน” ดังนั้นต้องแก้โดยการตื่นเช้าๆ ออกจากบ้านเร็วๆ นะจ๊ะ
ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินถึงรอบๆโครงการมีไม่มาก และน้อยกว่าโครงการที่อยู่เลยวงเวียนพระราม 5 ลงไปถึงบรมราชชนนี หน้าโครงการพอมี 7-Eleven และร้านอาหารเล็กๆแก้ขัดได้ แต่ถ้าสิ่งอำนวยความสะดวกในระยะขับรถ 5 – 10 นาที (ถ้ารถไม่ติดมาก) จัดว่ามีเยอะทีเดียว เพราะมี Community Mall มาปักธงไว้แล้วหลายแห่ง เช่น The Walk, HomePro, HomeWork, The Circle หรือ The Crystal ที่กำลังจะเปิด ซึ่งก็ยิ่งส่งเสริมให้การใช้รถยนต์สะดวกมากขึ้นไปอีก แต่ในทางกลับกัน การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ หรือ Taxi ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าป้ายรถเมล์หน้าโครงการก็ไม่มี รถไฟฟ้าก็ไม่ใกล้
ตัวโครงการออกแบบมาโดยค่อนข้างเน้นเรื่อง Security กับ Privacy สังเกตได้จากเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆที่มีมาให้ในโครงการ ไม่ว่าจะเป็น Triple Gate Security (ที่ผมแอบคิดว่าอาจจะต้องรอเปิดประตูกันนานเกินไปรึเปล่า), การแบ่งโซนลูกบ้านกับโซนผู้มาติดต่อ, กล้อง CCTV 40 ตัวรอบโครงการ, รั้วโครงการที่ต่อเติมขึ้นไปสูงๆ และใส่ระบบกันขโมยให้ทุกบ้าน ทุกบานประตูหน้าต่าง สำหรับบ้านราคา 10-15 ล้านแล้วก็ถือว่าให้มาสมน้ำสมเนื้อกัน และจำนวน 161 หลังเทียบกับที่ดิน 47 ไร่แล้ว ก็ถือเป็นจำนวนที่กำลังเหมาะสม ไม่เยอะเกินไป เทียบกับราคา
อีกสิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือ พื้นที่สีเขียวในโครงการ ที่ตั้งใจใส่มาเยอะพอสมควร ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะผมเข้ามาดูโครงการที่เปิดขายมาแล้ว 2 ปี แต่จะสังเกตเพิ่มเติมได้จากพื้นที่สวนสาธารณะ, แนวรั้วต้นไม้ตลอดทั้งโครงการ แม้แต่รั้วบ้าน หรือภายในบ้าน ก็จัดสวนให้ ใส่ต้นไม้มาแน่นดี สร้างความร่มรื่นในหมู่บ้านได้ดี
ตัวบ้านออกแบบมาถึงจะมีพื้นที่ใช้สอยอยู่ในระดับ 230-320 ตารางเมตร แต่ไม่ได้เน้นให้มีฟังก์ชั่นเยอะๆ แบบมีห้องเยอะๆอยู่กันหลายๆคน แต่ให้จำนวนฟังก์ชั่นมีเท่าๆกับครอบครัวปกติ 3-4 ห้องนอน แต่เน้นขยายขนาดของห้องให้ใหญ่ขึ้น และให้ใช้ฟังก์ชั่นแต่ละจุดได้สะดวกสบายขึ้น ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง มีห้องนั่งเล่น 2-3 แห่งในบ้านหลังเดียว ซึ่งอาจจะตอบโจทย์หรือไม่ตอบโจทย์ของแต่ละครอบครัวอันนี้ต้องดูตัวเองนะครับ ส่วนตัวผมจากที่ดูแล้ว ตัวบ้านขนาดกลาง 269 ตารางเมตร ดูจะตอบโจทย์กับระดับ อยู่ในจุดที่ Optimal ที่สุด เนื่องจากฟังก์ชั่นแทบไม่ต่างจากบ้านหลังใหญ่ 328 ตารางเมตร เพียงแค่พื้นที่จะเล็กกว่า แต่บ้านหลังใหญ่จะดูมีพื้นที่บางส่วนที่เกินๆมาที่อาจจะไม่ได้จำเป็นมาก เทียบกับเงิน 2-4 ล้านที่ต้องจ่ายเพิ่มจากบ้านขนาดกลาง ซึ่งคนที่เลือกบ้านหลังใหญ่สุด อาจจะมีความจำเป็นอย่างหนึ่งคือ ขนาดที่ดินที่ใหญ่กว่า กับจำนวนที่จอดรถที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นจุดขายที่น่าสนใจของบ้านหลังใหญ่ครับ ส่วนคนที่กำลังเลือกระหว่างบ้านหลังกลาง กับหลังเล็ก ก็ให้มาดูความสำคัญของห้องแม่บ้าน กับห้องนอนชั้นล่างเป็นหลัก ซึ่งผมคิดว่า ถ้าจะต้องมีแม่บ้านมาอาศัยอยู่ในบ้านด้วย การมีห้องแม่บ้านก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี หรือถ้ามีสมาชิกผู้สูงอายุในบ้าน ความจำเป็นของห้องนอนชั้นล่างก็ควรจะให้อาศัยอยู่อย่างจริงจังได้มากขึ้นครับ
วัสดุที่ให้มาในบ้านก็ถือว่าให้มาสมราคาค่าตัว พื้นห้องนอนเป็นปาร์เก้, กระเบื้องแกรนิโต้ 60×60 ผสมพื้นหินอ่อนสำหรับบ้านหลังใหญ่, บันไดไม้จริง, ประตูไม้สัก, สุขภัณฑ์ COTTO ทั้งหลัง, ติดสัญญาณกันขโมยที่ประตูหน้าต่างทุกบาน, จัดสวนให้รอบบ้าน, กระเบื้องห้องน้ำแต่งลายโมเสก รวมๆแล้วก็จัดว่าโอเค เพียงแต่ติดว่าไม่แถมแอร์ในราคามาตรฐานเนี่ยแหละ ดันแถมเฉพาะช่วงโปรโมชั่น ซึ่งคิดว่าก็น่าจะให้มาด้วยเลยนะ กี่ตัวก็ว่าไป อ้อแล้วห้องครัวผมคิดว่าใส่หน้าบานให้หน่อยก็ดีนะ ถึงจะรู้ว่าต้องการให้แต่งเองก็เถอะ
ส่วนสาธารณูปโภคในโครงการก็ถือว่าให้มาโอเค น่าใช้งาน มีพื้นที่สวนเยอะ เมื่อเทียบกับราคาบ้าน, จำนวนยูนิต, ขนาดของที่ดิน และราคาค่าส่วนกลางที่ 23 บาท/ตร.วา/เดือน ครับ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 10 – 15 ล้านบาท, 25 May 2014
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ใกล้วงเวียนพระราม 5 แต่อยู่ในโซนที่ไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์เท่าไหร่ รถติด
- ความปลอดภัย 9/10 – Triple Gate Security/CCTV 40 จุด/ระบบกันขโมยทุกหลัง/รั้ว 3-4.5 เมตร
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – บ้านหลังเล็กและหลังกลางใส่ฟังก์ชั่นมาดี แต่บ้านหลังใหญ่ยังมีพื้นที่ส่วนเกินเยอะ น่าจะเพิ่มฟังก์ชั่นได้มากกว่านี้
- วัสดุ 7.75/10 – วัสดุส่วนใหญ่ อยู่ในเกณฑ์ มาตรฐานของบ้านระดับราคา 10-15 ล้าน เสียดายของแถมน้อยไปนิด
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.75/10 – ใส่ต้นไม้มาค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะตามริมรั้วโครงการและพื้นที่ส่วนกลาง
- สาธารณูปโภค 8/10 – คลับเฮาส์พร้อมสระว่ายน้ำ และ สวนอีก 1 ไร่ จัดว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานบ้านระดับนี้ และครับ
- 8.00 / 10.00
BOTTOM LINE
Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์-พระราม 5 น่าจะเหมาะสมกับคนที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวบนถนนราชพฤกษ์ โซนพระราม 5 หรือโซนที่ใกล้กับถนนท่าน้ำนนท์, ถนนบางกรวย-ไทรน้อย, ใช้รถส่วนตัวเป็นหลักและมีสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบในระยะขับรถไม่ไกลมาก มองดูโครงการที่เน้นเรื่อง Security และ Privacy ของลูกบ้านเป็นส่วนสำคัญ และยอมจ่ายเงินเพิ่มส่วนหนึ่ง เพื่อให้ได้สินค้าแบรนด์ และเพื่อความสบายใจในคุณภาพสินค้าและบริการหลังการขาย
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ