รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.124 – รีวิวทาวน์โฮม บ้านภูริปุรี
22 มีนาคม 2015
รีวิวฉบับที่ 765 สวัสดีค่า วันนี้จะพาไปรีวิว BaanPuriPuri หรือ บ้านภูริปุรี โครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่หลายๆคนเห็นจากภายนอกแล้วอาจจะงงว่า นี่หรือคือทาวน์โฮม ภายในตัวบ้านนั้นมีพื้นที่ใช้สอยภายในโครงการแบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ มี Private Courtyard กลางบ้านเป็นของตัวเองในแต่ละหลัง บนที่ดินเริ่ม 30 ตารางวา ในซอยโชคชัย 4 ซอย 78 แยก 11 ที่ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างโดยกลุ่มสถาปนิก แต่ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่า โครงการนี้มีเพียง 6 หลังเท่านั้นและไม่ได้เป็นโครงการจัดสรรค่ะ การเดินทางสามารถเข้าออกได้หลายเส้นทางทั้งถนนลาดพร้าว หรือถนนเกษตร-นวมินทร์ เข้าซอยโชคชัย 4, ถนนพหลโยธิน ซอยเสนานิคม และถนนเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา เอาหล่ะ ตามไปอ่านกันเลยค่ะ
Fact @ 27 January 2015
- BaanPuriPuri (บ้านภูริปุรี)
- กลุ่มสถาปนิกร่วมกันออกแบบ
- Segment : UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ลาดพร้าว
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 6 ยูนิต
- ที่ดินประมาณ 200 ตร.วา
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ
- ขนาดที่ดิน 30-40 ตร.วา
- พื้นที่ใช้สอย 228 ตร.ม
- ราคาเริ่มต้น 6.45-7.35 ล้านบาท หรือประมาณ 215,000 บาท ต่อตารางวา
- เริ่มก่อสร้าง: ปี 2556
- ก่อสร้างแล้วเสร็จ: ปี 2558
- www.baanpuripuri.com
- โทร 081-9195901
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.823446, 100.599375
ที่ตั้งของโครงการ BaanPuriPuri ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าวมุ่งหน้าหัวหมาก ในถนนโชคชัย 4 อยู่ระหว่างแยกรัชดา-ลาดพร้าวและถนนประดิษฐ์มนูญธรรม เข้าถนนโชคชัย 4 ไปประมาณ 3.2 กิโลเมตร จะเจอซอยโชคชัย 4 ซอย 78 อยู่ด้านขวามือ และต้องเข้าซอยโชคชัย 4 ซอย 78 ไปอีก 350 เมตร จะเจอทางแยกเข้าซอยแยก 11 อยู่ทางซ้ายมือ และต้องเข้าซอยแยก 11 ไปอีก 35 เมตรและโครงการอยู่ด้านซ้ายมือ มีสถานีรถไฟใต้ดิน MRT ลาดพร้าว สายน้ำเงิน อยู่ที่แยกรัชดาลาดพร้าว ห่างจากปากซอยโชคชัย 4 2.5 กิโลเมตร หรือประมาณ 6 กิโลเมตรจากโครงการ และอีกไม่ไกลเป็นสถานีรถไฟใต้ดิน MRT สวนจตุจักรที่เป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว มีศูนย์การค้าทั้งเล็กและใหญ่อยู่ในรัศมีไม่เกิน 10 กิโลเมตร
ถึงแม้ว่าตำแหน่งโครงการจะตั้งอยู่ระหว่างถนนใหญ่หลายเส้น และเข้าซอยไปลึกมาก ไม่อยู่ในระยะเดินได้ แต่ในบริเวณรอบๆที่ตั้งของโครงการ BaanPuriPuri มีความเจริญสูง โดยเฉพาะบนถนนโชคชัย 4 ที่ความเจริญตลอดสองข้างทาง เนื่องจากเป็นซอยขนาดใหญ่และตรงเป็นทางยาว เป็นที่พักอาศัยอยู่เยอะ อีกเส้นหนึ่งที่มีความเจริญไม่แพ้กันคือเส้นประดิษฐ์มนูธรรมที่เป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าเล็กใหญ่ ทางขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มีโรงพยาบาล โรงเรียน รวมไปถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ วิทยาเขตบางเขนอยู่ไม่ไกลมากจากโครงการ
ริมถนนใหญ่รอบโครงการรวมไปถึงถนนเกษตร-นวมินทร์เป็นทำเลที่นิยมสร้างโครงการแนวราบขนาดใหญ่ ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ในซอยต่างๆถึงจะเป็นคอนโด Low Rise เหตุที่ไม่ค่อยมีนิยมทำเป็นคอนโดสูงเนื่องจากอยู่ค่อนข้างไกลจากระบบขนส่งสาธารณะ ที่มีโครงการจะสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ตั้งแต่แยกรัชดา-ลาดพร้าว จนถึงสำโรง ที่จะมี MRT รัชดา-ลาดพร้าวเป็นต้นสถานีของสายสีเหลือง แต่ยังไม่ได้เร่ิมการก่อสร้างและคงจะไม่เปิดใช้ภายใน 5 ปีนี้ ปัจจุบันมีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ที่ใกล้ที่สุดคือสถานีลาดพร้าว ที่อยู่ตรงแยกรัชดาลาดพร้าว ซึ่งอยู่ไม่ไกลในระยะขับรถ แต่ต้องผ่านเส้นลาดพร้าวที่รถติดมากตลอดช่วงเวลา ไม่ไกลจากสถานีลาดพร้าวจะมีสถานี Interchange ที่สถานี MRT จตุจักร เพื่อเปลี่ยนไปยังสถานี BTS หมอชิต สายสีเขียว
ดังนั้นลูกบ้านส่วนใหญ่จะต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางประจำวัน และจะอาศัยถนนหลักในการเดินรถ แต่การที่ใช้แค่ถนนใหญ่อย่างเดียวจะทำให้หลีกเลี่ยงรถติดได้ยาก โดยเฉพาะถนนลาดพร้าวที่เป็นถนนตรงยาวมาตั้งแต่สวนจตุจักรเรื่อยไปเรื่อยๆจนถึงแถวบางกะปิ ดังนั้นช่วงเช้า-เย็นจะทำให้ปริมาณรถบนถนนหนาแน่นมาก เพราะต่างจะมุ่งหน้ากลับบ้านกัน โดยเฉพาะทุกแยกไฟเขียวไฟแดงและทางกลับรถที่มีอยู่เป็นระยะๆ ดังนั้นจะแนะนำให้ใช้ถนนประดิษฐ์มนูญธรรมและถนนเกษตร-นวมินทร์ หรือซอยเสนานิคมที่เข้าได้จากถนนพหลโยธินมากกว่า เส้นทางการเดินรถรอบโครงการสามารถไปได้ทั้ง เข้า-ออกนอกเมืองด้วยการใช้โทลล์เวย์ หรือทางด่วนรามอินทรา-อาจรณงค์ หรือไปยังฝั่งตะวันออกด้วยการใช้เส้นลาดพร้าวตัดเข้ารามคำแหง หรือไปคลองรังสิต ปทุมธานีด้วยเส้นทางวัชรพล
การเข้าถึงของโครงการทำได้สองทางคือจากซอยโชคชัย 4 และซอยสตรีวิทยา 2 ซอย 10 โดยส่วนใหญ่แล้วจะสะดวกกว่าถ้ามาจากซอยโชคชัย 4 ด้วยความกว้างของทางเดินรถในซอยและความคึกคัก จะเจอซอยโชคชัย 4 ซอย 78 อยู่ด้านขวามือ และต้องเข้าซอยโชคชัย 4 ซอย 78 ไปอีก 350 เมตร จะเจอทางแยกเข้าซอยแยก 11 อยู่ทางซ้ายมือ และต้องเข้าซอยแยก 11 ไปอีก 35 เมตรและโครงการอยู่ด้านซ้ายมือ ถ้ามาจากซอยสตรีวิทยา 2 ซอย 10 ก็ต้องเข้าซอยโชคชัย 4 ซอย 78 มา 350 เมตรก่อนเจอแยก 11 เช่นเดียวกัน บริเวณรอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น และมีโครงการบ้านเดี่ยวกำลังก่อสร้าง และพื้นที่ว่างเปล่าอยู่หลายแปลงในซอย
ด้วยความสามารถในการเข้าออกของโครงการทำได้จากถนนใหญ่หลายสายล้อมกรอบกันเป็นสี่เหลี่ยม ไม่ว่าจะเป็นถนนพหลโยธินทางตะวันตก, ถนนเกษตร-นวมินทร์ทางเหนือ, ถนนประดิษฐ์มนูญธรรมด้านตะวันออก หรือถนนลาดพร้าวฝั่งใต้ และซอยหลบหลีกรถติดย่อยๆอีกมากมาย ทำให้เราตัดสินใจจะแบ่งการแนะนำเส้นทางออกตามถนนใหญ่เส้นต่างๆ
เส้นทางแรก คือเส้นทางการเข้าถีงโครงการที่อธิบายได้ง่ายที่สุดคือเส้นทางที่มาจากถนนลาดพร้าว ถนนโชคชัย 4 นั้น จะอยู่ระหว่างลาดพร้าวซอย 51 และ 55 มีแยกไฟจราจรเลี้ยวเข้าอย่างเป็นกิจลักษณะ ทางเข้าอยู่ก่อนสถานีตำรวจนครบาลโชคชัยเพียงเล็กน้อย เข้าถนนโชคชัย 4 มาประมาณ 120 เมตร จะเจอตลาดโชคชัย 4 อยู่ทางขวามือ เข้ามาอีกประมาณ 3.2 กิโลเมตร จะเจอซอยโชคชัย 4 ซอย 78 อยู่ด้านขวามือ และต้องเข้าซอยโชคชัย 4 ซอย 78 ไปอีก 350 เมตร จะเจอทางแยกเข้าซอยแยก 11 อยู่ทางซ้ายมือ และต้องเข้าซอยแยก 11 ไปอีก 35 เมตรและโครงการอยู่ด้านซ้ายมือ
ทางแนะนำทางที่สองคือทางจากถนนพหลโยธินและถนนเกษตร-นวมินทร์ ที่ฝั่งถนนพหลโยธินตัดเข้าซอยเสนานิคม หรือซอยพหลโยธิน 32 ระหว่างโรงพยาบาลเมโยและตลาดบางเขน ส่วนจากเส้นเกษตร-นวมินทร์ตัดเข้าที่ซอยเสนานิเวศน์ ตรงข้าม เสนา City Avenue เส้นทางทั้งสองจะมาบรรจบกันที่ถนนโชคชัย 4 ตอนปลาย ขับย้อนมาจากด้านหลังเข้าที่ซอยโชคชัย 4 ซอย 78 อยู่ด้านซ้ายมือ และต้องเข้าซอยโชคชัย 4 ซอย 78 ไปอีก 350 เมตร จะเจอทางแยกเข้าซอยแยก 11 อยู่ทางซ้ายมือ และต้องเข้าซอยแยก 11 ไปอีก 35 เมตรและโครงการอยู่ด้านซ้ายมือ สองข้างทางของถนนโชคชัย 4
ข้อดีของทางเข้าซอยเสนานิคมนี้คือใกล้ทางถนนใหญ่มากกว่า ทำให้ไม่ต้องกลัวรถติดเพราะปริมาณรถสะสมในช่วงซอยโชคชัย 4 ตอนต้น ทั้งยังไม่ต้องลุ้นช่วงเวลารถติดของถนนลาดพร้าวอีกด้วย
เส้นทางแนะนำเส้นสุดท้ายที่ค่อนข้างคดเคี้ยวและใช้ความสามารถของทางลัดเข้า-ออกมากที่สุดคือเส้นทางที่มาจากถนนประดิษฐ์มนูญธรรมมุ่งหน้าวัชรพล หรือเส้นทางรถที่มาจากทางลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ หรือรถที่มาจากเส้นเกษตร-นวมินทร์ ไม่ไกลจากแยกประเสริฐมนูกิจ ขับตามทางมาเรื่อยๆ เลี้ยวซ้ายที่แยกประเสริฐมนูกิจ หรือแยกตรงข้ามกับ The Walk ราชพฤกษ์ เข้าซอยสุคนธสวัสดิ์มาตามทาง ผ่านโรงเรียนสตรีวิทยา 2 เข้าซอยนาคนิวาส เลี้ยวขวาอีกทีเข้าซอยโชคชัย 4 ซอย 72 ก่อนที่จะเข้าถนนโชคชัย 4 หลักอีกครั้ง แล้วต้องเข้าซอยโชคชัย 4 ซอย 78 ทางขวามือไปอีก 350 เมตร จะเจอทางแยกเข้าซอยแยก 11 อยู่ทางซ้ายมือ และต้องเข้าซอยแยก 11 ไปอีก 35 เมตรและโครงการอยู่ด้านซ้ายมือ สองข้างทางของถนนโชคชัย 4
เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่มีความยาวซอยสั้นที่สั้นที่สุด แต่ใช้ทางลัดจากซอยภายในหลายซอยด้วยกัน แต่ก็มีช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยงนั้นก็คือเวลาเข้า-เลิกเรียนของโรงเรียนสตรีวิทยา 2 เพราะถึงแม้ว่าสภาพทางเดินรถจะเป็นถนน 4 เลน แต่ครึ่งหนึ่งของพื้นที่ ได้ถูกจับจองข้างทางเดินเท้าด้วยการจอดรถระหว่างวัน ทำให้การเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าวจะติดหนักเข้าไปอีก สภาพซอยในช่วงหลังถือว่ายังใช้เดินรถได้ปกติ 2 เลน
เร่ิมการเดินทางกันที่ถนนประเสริฐมนูญธรรมมุ่งหน้าวัชรพล เหนือถนนประเสริฐมนูญธรรมขึ้นไปทางด้านขวาเป็นทางยกระดับทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ด้านซ้ายเป็นห้าง Tesco Lotus พร้อมที่จอดรถขนาดใหญ่ สภาพถนนเป็นแบบ 3 ช่องทางการจราจร เดินรถได้สะดวก มีทางกลับรถใต้สะพานอยู่เป็นระยะๆ จากตรงนี้เราจะตรงไปเรื่อยๆนะคะ
มีป้ายรถประจำทางตลอดแนวถนนสองฝั่ง ถนนเส้นนี้ไม่มีทางม้าลาย หรือทางสะพานลอยข้ามไปใช้บริการรถประจำทางฝั่งถนนประเสริฐมนูธรรมมุ่งหน้าเอกมัย จุดกลับรถอยู่ฝั่งขวามือเพื่อไปทางขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ หรือไปเอกมัยเพื่อเข้าเมือง
ด้านซ้ายมือที่มีการล้อมรั้วเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสร้างเป็น Community Mall แห่งใหม่เพื่อเพิ่มเติมความสมบูรณ์ของการกินอยู่ในย่านนี้อีกเช่นกัน
ตรงไปเรื่อยจะเป็นทางเข้าหมู่บ้าน Crystal Park และ Community Mall The Crystal ที่มีร้านอาหารชั้นนำและซุปเปอร์มาร์เกตเปิดให้บริการ ด้านขวามือมีป้ายบอกทางว่าจะมีจุดกลับรถอยู่ไม่ไกล เป็นเส้นทางใช้ในการเข้าเมือง
ด้านขวาเป็นจุดกลับรถที่สามารถกลับได้ทั้งสองเส้นทางของถนนประดิษฐ์มนูธรรม เส้นทางรถเส้นนี้นอกจากจะมีรถเก๋งสี่ล้อปกติแล้ว ยังมีรถ 6 ล้อหรือใหญ่กว่าขับอยู่บนท้องถนนมีให้เห็นได้ทั่วไป
ทางเดินรถ 3 ช่องแบ่งออกเป็นสองเส้นทางคือ ขึ้นสะพานข้ามแยกยกระดับไปรามอินทรา-วัชรพล หรือตรงไปเพื่อกลับรถใต้สะพานไปทางขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ หรือเลี้ยวซ้ายไปถนนประเสริฐมนูกิจมุ่งหน้า ม.เกษตร
จุดกลับรถใต้สะพานข้ามแยก และทางบังคับเลี้ยวซ้ายไปยังถนนเกษตร-นวมินทร์
ทางบังคับเลี้ยวซ้าย ไม่มีไฟจราจร
เลี้ยวซ้ายมาอยู่บนถนนเกษตร-นวมินทร์ เป็นถนนทางเดินรถยาวๆ 4 ช่องทางการจราจร มีเกาะคั่นกลางด้วยเสาของเส้นทางรถไฟฟ้าจากงบประมาณเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ไม่มีทางข้ามม้าลาย แต่มีสะพานลอยอยู่ในระยะไกลๆกัน
จากป้ายบอกทาง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนโชคชัย 4 ตรงไปไปม.เกษตร เลี้ยวขวาไปซอยสุคนธสวัสดิ์ฝั่งเหนือ มีป้ายรถประจำทางอยู่ซ้ายมือ และมีสะพานลอยคนข้ามพาดผ่าน มีรถตู้รับจ้างจอดรับ-ส่งผู้โดยสายตามป้ายรถประจำทาง และทางขึ้น-ลงสะพานลอย อยู่เรื่อยๆ
เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุคนธสวัสดิ์ฝั่งใต้กันนะคะ
สภาพถนนเป็นถนน 4 เลน สองทาง ต้นซอยยังมีพื้นที่บางแปลงแบ่งออกเป็นร้านค้าขายปลีก ร้านอาหาร และการให้บริการอย่างโรงพยาบาลสัตว์ ร้านขายยา ไปจนถึง Family Mart การจราจรติดขัดเล็กน้อยจากการรอสัญญาณไฟ
เลยไปอีกนิดเป็นทางเข้าตลาดสดทรัพย์นิมิตรขนาดใหญ่ ซอยถัดไปเป็นทางเข้าของโรงเรียนสตรีวิทยา 2
เมื่อเข้าซอยลึกขึ้น สองข้างทางเริ่มเปลี่ยนเป็นที่อยู่อาศัยแบบอาคารอพาตเมนต์ให้เช่า โดยเปิดชั้น 1 เป็นร้านค้าและร้านอาหาร ในซอยทรัพย์นิมิตรฝั่งใต้ยังมีรถประจำทางให้บริการ มีป้ายรถเมล์อยู่ทั้งสองฝั่ง โดยมีสะพานลอยเชื่อมอยู่เป็นจุดๆ
ทางโค้งซ้ายตามแนวถนน
สี่แยกตรงนี้คือจุดตัดของถนนซอยสุคนธสวัสดิ์ฝั่งใต้ และซอยสตรีวิทยา 2 เดี๋ยวเราจะเลี้ยวขวาตรงนี้เข้าซอยสตรีวิทยา 2 การจราจรช่วงกลางวันไม่ติดขัดมาก รถเคลื่อนตัวตามสัญญาณไฟจราจรสบายๆ
เมื่อเลี้ยวขวามา ช่องทางการจราจรจะบีบลงเหลือสองช่องสวรกัน สิ่งปลูกสร้างสองข้างทางเริ่มเปลี่ยนสภาพจากร้านค้าที่ยังคึกคัก มีผู้คนเดินผ่านไปมา กลายเป็นอาคารพาณิชย์ และตึกทาวน์โฮมส์สูง 4 ชั้น
ลึกเข้าไปในซอยเริ่มเป็นพื้นที่เก็บของและร้านซ่อมเครื่องยนต์ เราจะเลี้ยวขวาตามทางไปเรื่อยๆนะคะ
แล้วเราจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนโชคชัย 4 ซอย 72 กัน
สภาพสองข้างทางของถนนโชคชัย 4 ซอย 72 เร่ิมมีความคึกคักขึ้นระดับหนึ่ง เพราะว่าเร่ิมใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ในถนนโชคชัย 4 มีร้านซ่อมรถอยู่ด้านซ้าย ส่วนด้านขวาเป็นซอยแยกย่อยต่างๆ
ออกมาที่ปากซอยของถนนโชคชัย 4 ซอย 72 เร่ิมมีรถกระป๊อรับจ้าง มีอาคารพาณิชย์ทั้งสองฝั่งของถนน มีธนาคารสาขาย่อยต่างๆเปิดให้บริการ จากจุดนี้เราจะเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนโชคชัย 4 หลักกัน
ถนนโชคชัย 4 เป็นถนน 4 ช่องทางการเดินรถ แต่สองช่องทางการเดินรถติดทางเดินเท้าทั้งสองด้านก็ถูกจับจองไปเป็นที่จอดรถบางส่วน มีซอยแยกย่อยคู่อยู่ทางด้านซ้าย และซอยแยกย่อยคี่อยู่ทางด้านขวา ไม่มีเกาะกลางถนน มีแต่เขตปลอดภัย
ตรงมาได้นิดหน่อยก็ถึงซอยถนนโชคชัย 4 ซอย 78 ที่อยู่ด้านขวามือ เราจะเลี้ยวเข้าซอยกันค่ะ จากปากซอยถึงโครงการมีระยะทางประมาณ 400 เมตร
สภาพซอยด้านต้นจะมีสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านเดี่ยว 1-2 ชั้นซะเป็นส่วนใหญ่ ซอยแยกย่อยต่างๆจะอยู่ทางด้านซ้ายด้านเดียว ความกว้างของการเดินรถสามารถสวนกันสองคันได้แบบเบียดๆ ไม่มีทางเดินฟุตบาทสองข้างทาง ดังนั้นเวลาเดินไปมาระวังรถกันด้วยนะคะ
ลึกเข้ามาอีกนิดจะเห็นได้ว่ามีพื้นที่หลายแปลงมาก ที่ปล่อยให้ว่างไว้อยู่
ด้านซ้ายมือถึงแล้วกับซอยโชคชัย 4 ซอย 78 แยก 11
จากปากซอยแยก 11 เข้าซอยมาประมาณ 35 เมตร ทางซ้ายมือจะถึงโครงการ BaanPuriPuri ความกว้างของซอยรถสามารสวนกันได้สองคันแบบเบียดๆ ไม่มีฟุตบาททางเดิน
มาดูรอบๆโครงการกันหน่อยนะคะ อย่างที่กล่าวไปว่าในซอยนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวพักอาศัย 1-2 ชั้น ด้านหน้าโครงการเป็นซอยโชคชัย 4 ซอย 78 ที่รถวิ่งสวนกันได้ 2 เลนแบบเบียดๆ ติดที่รถจอดหน้าบ้านพักอาศัยฝั่งซ้ายไป 1 เลนมากกว่า ฝั่งตรงข้ามและด้านซ้ายเป็นที่ดินว่างเปล่า รอบด้าน มีแต่บ้านพักอาศัยขนาดใหญ่ที่มีบริเวณและมีต้นไม้ใหญ่เพิ่มความเป็นส่วนตัว ในซอยโชคชัย 4 ซอย 78 รถไม่พลุกพล่านมาก ไม่ได้เป็นทางผ่านที่นิยมใช้เข้า-ออก เหมาะกับการอยู่อาศัย ที่ดินรอบข้างยังสามารถปลูกสร้างได้ เพราะพื้นที่นี้อยู่ในระยะความเจริญอยู่พอสมควร
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- รพ.เปาโลสยาม 2.7 กิโลเมตร
- วัดลาดพร้าว 3.1 กิโลเมตร
- นวมินทร์ city avenue 3.2 กิโลเมตร
- โรงเรียนสตรีวิทยา2 3.3 กิโลเมตร
- ตลาดโชคชัย4 3.6 กิโลเมตร
- ตลาดทรัพท์นิมิตร 3.8 กิโลเมตร
- Tesco Lotus รามอินทรา 4.5 กิโลเมตร
- ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ 4.6 กิโลเมตร
- The crystal 4.8 กิโลเมตร
- Crystal Design Center (CDC) 5 กิโลเมตร
- ตึกช้าง 5.4 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 5.8 กิโลเมตร
- The Walk ราชพฤกษ์ 6.3 กิโลเมตร
- ศาลอาญา 6.9 กิโลเมตร
- สวนจตุจักร 8 กิโลเมตร
โครงการ BaanPuriPuri เป็นทาวน์โฮมส์ 3 ชั้น จำนวน 6 ยูนิต เรียงต่อกันเป็นหน้ากระดานแถวเดียว ขนาดที่ดินแต่ละหลัง 30-40 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอย 228 ตร.ม แบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ตัวอาคารภายนอกสูงประมาณ 9 เมตร มีพื้นที่จอดรถอยู่ชั้นล่าง สำหรับรถคันเล็กจอดได้ประมาณ 4 คัน 2 ตอนลึก และรถคันใหญ่ประมาณ 2 คัน เหนือขึ้นไปเป็นห้องนั่งเล่นแบบ Double Ceiling Height สูง 5.7 เมตร อยู่ฝั่งหน้าอาคาร
ทั้งโครงสร้างอาคารและการตกแต่งเพิ่มเติมยึดสไตล์ Modern แบบ Minimalist คือมีองค์ประกอบของการออกแบบตัวอาคารด้วยการใช้เส้นตรงในขนาดต่างกัน สลับความห่างมากน้อยเป็นจุดนำสายตาของทาวน์โฮมส์โครงการนี้ อย่างการใช้กระเบื้องดินเผาสีส้มที่เหมือนการนำอิฐมอญมาต่อกันทั้งหลัง ตัดกับสีเขียวของไม้ยืนต้นที่ออกมาจากกระถางชั้น 2 สร้างความแตกต่างจากทั้งทาวน์โฮมส์ทั่วไป รวมไปถึงโครงการแนวราบและคอนโดในยุคนี้
จากโมเดลของทางโครงการ ด้านบนจะเห็นได้ว่ามีช่องว่างกลางบ้าน หรือที่เรียกว่า Void ของแต่ละหลัง โดยเป็นช่องเปิดตั้งแต่พื้นของชั้นล่างสุด ไปจนถึงสุดหลังคา โดยชั้นล่างของพื้นที่บริเวณนี้ จะเป็น Private Courtyard แบบส่วนตัว เหมือนมีสวนเล็กๆอยู่กลางใจบ้าน โดยด้านบนจะแบ่งครึ่งหนึ่งออกเป็นช่องเปิดที่ไม่มีอะไรมุงเลย และอีกครึ่งนึงจะปิดด้วยแผ่นโพลิคาร์บอเนตแบบสีใสที่จะทำให้แสงแดดผ่านเข้าถึงทั่วทุกห้องของบ้าน บางคนอาจจะตั้งคำถามถึงเรื่องของฝนที่จะตกลงมา ก็ตอบคำถามได้เลยว่าด้วยการออกแบบแบบนี้ จุดประสงค์คือต้องการให้ฝนผ่านลงมาจริงๆตามธรรมชาติ แต่ระบบท่อในการระบายน้ำของส่วน Courtyard และการรองรับน้ำของหลังคาด้วยการลาดเอียงทั้งส่วนหน้าบ้านและหลังบ้านจะมารวมกันที่ระบบท่อภายในของทาวน์โฮมส์แต่ละหลัง สุดท้ายแล้วจะไหลมารวมกันที่ท่อน้ำหน้าบ้าน
Diagram รูปตัดของโครงการ แสดงการจัดวางห้องต่างๆและการใช้พื้นที่ตามการตกแต่งบ้านตัวอย่าง กิจกรรมภายในพื้นที่ที่สามารถเกิดขึ้นได้ระหว่างการอยู่อาศัยที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นในส่วนที่จอดรถจะเป็นการกั้นเป็นห้องปิดทำสตูดิโอวาดรูป ห้องทำงาน หรือห้องนั่งเล่นเพิ่มเติม และส่วน Private Courtyard ตรงกลาง ที่สามารถตกแต่งออกมาได้ทั้งการปลูกต้นไม้ใหญ่ตามภาพ สวนหิน เลี้ยงปลา จัดน้ำพุ หรือระเบียงภายใน
Diagram ชุดนี้แสดงถึงจุดประสงค์ของการออกแบบ Private Courtyard ตรงกลาง ที่มีประโยชน์ทั้งในเรื่องการระบายอากาศทั่วบริเวณให้ลมร้อนพัดขึ้นไปด้านบน โดยอาศัยพื้นที่ Courtyard, การคิดคำนวณองศาของแสงแดดธรรมชาติให้เข้าสู่ตัวอาคารได้ในทุกๆห้องของบ้าน และการปลูกต้นไม้ใหญ่ตามจุดต่างๆของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นภายใน Private Courtyard ตรงกระถางต้นไม้ชั้น 2 หรือแนวต้นไม้ด้านหลังบ้าน ทำให้แสงแดดไม่สามารถส่องผ่านเข้าพื้นที่ใช้สอยได้โดนตรง ทั้งยังช่วยในเรื่องของการมองเห็นพื้นที่สีเขียวจากส่วนต่างๆของบ้าน
*เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการทาวน์โฮมส์ขนาดเล็ก เพียง 6 ยูนิต ไม่มี Facility ส่วนกลางที่ต้องแชร์กันระหว่างลูกบ้าน ดังนั้นรีวิวโครงการนี้จะไม่มีสรุปสิ่งอำนวยความสะดวกนะคะ
เริ่มกันจากบ้านตัวอย่างของโครงการกันนะคะ แบบบ้านแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ผ่านรั้วด้านนอกมาจะเจอพื้นที่ส่วนแรกของบ้านคือที่จอดรถ ที่สามารถจุได้ถึง 4 คันเล็ก หรือ 2 คันใหญ่ ขนาด 4.8 x 10 เมตร ครึ่งหนึ่งของความลึกอยู่กลางแจ้ง และอีกครึ่งหนึ่งอยู่ใต้อาคาร มีรั้วบ้านกั้นเต็มความสูงเป็นระบบรักษาความปลอดภัยอีกชั้น ผ่านประตูมาจะออกแบบเป็น Private Courtyard ที่มีทางเดิน บ่อน้ำที่มีสวนล้อมรอบและไม้ยืนต้น ก่อนเข้าไปสู่ห้องทานอาหารด้านหลัง ประตูจากห้องทานอาหารสามารถเข้าถึงห้องน้ำ และห้องครัวที่ไปทะลุถึงส่วนหลังบ้านขนาด 2.3 x 4.8 เมตร ได้
ขึ้นบันไดจาก Private Courtyard ชั้นหนึ่งมาด้านหน้า จะเจอห้องนั่งเล่นที่เป็น Double Ceiling Height สูง 5.7 เมตร ด้านหลังข้างบันไดทางขึ้น เป็นห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำและ Walk-in Closet ในตัว ชั้นสามแบ่งออกเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องและห้องน้ำ 1 ห้องที่แยกออกจากกันทั้งหมด
ทั้งนี้ทั้งนั้น การออกแบบของสถาปนิกยังเอื้อต่อการจัดการพื้นที่ที่เป็นไปตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย อาทิเช่น ห้องทานอาหารสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุในชั้นล่าง ที่มีห้องน้ำอยู่ด้านข้างเรียบร้อย โดยเปลี่ยนพื้นที่จอดรถที่อยู่ใต้อาคารเป็นห้องทานอาหารแทน และลดที่จอดรถเหลือเพียงกลางแจ้ง ในชั้นบนสุด หากห้องนอน 3 ห้องมีจำนวนมากเกินความต้องการ สามารถปรับเปลี่ยนห้องนอนที่ใกล้ส่วน Private Couryard เป็นห้องทำงาน เพราะมีวิวต้นไม้จากส่วนกลาง และแสงธรรมชาติเข้าถึงได้ดีในช่วงกลางวัน
เรามาชมบ้านตัวอย่างของจริงกันนะคะ เร่ิมจากประตูบ้านชั้นแรก ที่เป็นแบบพับเปิด สามารถติดตั้งระบบเปิด-ปิดประตูอัตโนมัติเข้าไปได้ เนื่องจากประตูรุ่นนี้เลือกแบบรองรับอัตโนมัติไว้เรียบร้อย ด้านขวาจะเป็นตู้จดหมายของแต่ละบ้านแต่ในภาพยังทำไม่เสร็จนะคะ ด้านล่างเป็นทางลาดของทางน้ำลงสู่จุดระบายน้ำเสียหน้าบ้าน ส่วนที่ยื่นออกมาบนชั้น 2 คือ กระถางต้นไม้ปูนซิเมนต์ปิดตายตัว รดน้ำต้นไม้ได้จากพื้นที่นั้งเล่นชั้น 2 เท่านั้น จากการสอบถามสถาปนิกได้ความว่าระบบระบายน้ำของกระถางต้นไม้จะมีทางระบายไปยังพื้นที่ระบบใต้พื้นระหว่างอาคาร และสุดท้ายไหลมาลงตรงจุดระบายน้ำด้านหน้าเช่นเดียวกัน
ส่วนระบบไฟฟ้าภายในบ้านนั้นจะมาจากเสาไฟฟ้าแต่ละต้น ที่อยู่ตรงข้ามบ้านแต่ละหลัง โยงตัดผ่านซอยหน้าโครงการเข้ามา ซึ่งไม่เหมือนในรูปถ่ายที่ปัจจุบันโยงสายไฟมาจากบ้านข้างๆต่อกันเป็นแนวยาว
เมื่อเปิดประตูด้านหน้าเข้ามาจะเจอพื้นที่จอดรถขนาด 4.8 x 10 เมตร พอที่จะจอดรถได้ 4 คันเล็กแบบสองตอนลึก หรือคันใหญ่ได้ 2 คัน วัสดุพื้นเป็นแบบคอนกรีตบล็อกที่อัดเข้ากับพื้น ล้อมรอบด้วยหินกรวดขนาดใหญ่
พื้นที่ครึ่งหนึ่งของที่จอดรถอยู่กลางแจ้ง และอีกครึ่งหนึ่งอยู่ใต้อาคารที่มีความสูง 2.5 เมตร ไฟตรงพื้นที่จอดรถ จะได้เป็นไฟหลุบฝ้า เป็นแนวตามทางเดินเข้าไปสู่ประตูบ้าน
ด้านบนของหน้าบ้านเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นแบบ Double Ceiling Height ตกแต่งภายนอกด้วยกระเบื้องดินเผาสีส้ม สลับด้วยหน้าต่างและกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่ การออกแบบให้มีเสาขนาดใหญ่อยู่ภายนอกและหลุบหน้าต่างเข้าไปภายในก็เพื่อให้องศาของแสงธรรมชาติแรงๆของช่วงเที่ยงวันเข้าไปไม่ถึง และความถี่ของเสายังช่วงกันแสงบางส่วนที่มาจาทางด้านข้างอีกด้วย
ต่อกันที่ทางเข้าด้านล่างหลังพื้นที่จอดรถ คือประตูบานใหญ่ที่เหมือนเป็นระบบรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง ข้างๆเป็นไม้ที่ตีเป็นระแนงบังสายตา ด้านขวาสุดเป็นตู้เก็บสำหรับอุปกรณ์กลางแจ้ง ปั้มน้ำ และ Compressor แอร์
ประตูไม้บานใหญ่และมีระแนงไม้ด้านข้างเป็นตัวบังสายตาไม่ให้มองเห็นภายในบ้านโดยตรง แต่ไม่ทึบ เพื่อให้มีการไหลเวียนของอากาศขึ้นไปด้านบน
Digital Door Lock จาก Samsung
ภายในเปิดเข้ามาเป็นพื้นที่ Private Courtyard กลางบ้าน ทางเดินรูปตัว L กว้างประมาณ 1.5 เมตร เพื่อไปสู่ห้องทานอาหาร ที่มีบันไดกลางแจ้งขึ้นไปสู่ชั้น 2 ด้านหน้ามีที่วางรองเท้าเล็กน้อยพร้อมที่นั่ง แต่ตำแหน่งที่วางไม่ดีตรงที่อยู่ใต้ทางบันได วัสดุพื้นเป็นทรายล้างสลับสี ซึ่งทางเดินเข้าไปสู่ตัวบ้านจะมีทางเชื่อมด้านบนคลุมอยู่ดังนั้นเวลาฝนตกอาจจะไม่เปียก แต่ตกแรงๆก็มีโอกาสชื้นๆกันบ้าง
พื้นที่สวนตรงกลางขนาด 3.3 x 4.2 เมตร การตกแต่งสวนขึ้นอยู่กับการความชอบของแต่ละคน อย่างบ้านตัวอย่างหลังนี้แต่งพื้นที่ Courtyard ตรงกลางให้มีทั้งไม้ยืนต้น พื้นพันธุ์ไม้เล็กๆตรงกลางรอบบ่อน้ำ ที่บางคนตั้งคำถามเรื่องการเป็นบ่อเกิดของยุง เลี่ยงไม่ได้จริงๆค่ะในสภาพอากาศของประเทศเรา ทั้งยังเป็นส่วนที่เปิดโล่งขึ้นไปถึงด้านบน น้ำฝนสามารถผ่านลงมาได้ แนะนำว่าถ้าใครไม่อยากได้สวนที่ดูแลและทำความสะอาดยาก ขอให้ตัดการตกแต่งที่เกี่ยวกับน้ำและเลือกพืชพันธุ์ที่ดูแลง่าย ทนแดดทนฝน เพราะพื้นที่ Courtyard ต้องได้รับการดูแลจริงๆ เนื่องจากเป็นพื้นที่ใจกลางของบ้าน เข้าบ้านมาก็เห็น มองจากห้องต่างๆภายในตัวบ้านก็เห็นนะคะ
ด้านหลังของพื้นที่ชั้น 1 แบ่งสัดส่วนออกเป็นห้องทานอาหาร กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่
มีการตกแต่งด้วยเก้าอี้นั่งจิบกาแฟชมความสวยของสวนส่วนตัวภายในบ้านหน้าประตูกระจกบานเลื่อน แตกต่างจากฟังก์ชั่นของระเบียงแบบทาวน์โฮมทั่วไปที่จะอยู่ส่วนหน้าบ้าน ไม่ได้รับความเป็นส่วนตัวเท่าที่ควร สามารถจัดพื้นที่เป็นเหมือนที่ทานอาหารภายนอกตัวบ้านในวันที่อากาศดีๆ
พื้นห้องทานอาหารปูด้วยกระเบื้องสีอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร มีปูนก่อและกรอบประตูบานเลื่อนสูงขึ้นมานิดหน่อย ต้องก้าวเดินข้ามนะคะ
ประตูกระจกบานเลื่อนเป็นแบบล็อกได้จากด้านในห้องทานอาหาร
ห้องทานอาหารขนาด 3.45 x 4.80 เมตร สูง 2.4 เมตร สามารถวางโต๊ะทานข้าวตัวยาวแบบ 6 ที่นั่งได้กลางห้องเหมือนในรูป ทั้งยังมีพื้นที่เดินรอบด้านและมีชั้นวางของหรือหนังสือที่สุดปลายห้องทั้งสองด้าน การปรับเปลี่ยนสามารถทำได้ทั้งพื้นที่วางตู้โชว์ที่ก่อเต็มผนังหรือตู้วางทีวีหรือทีวีแบบแขวนที่ด้านในด้านหนึ่ง
ด้านบนเป็นเพดานฝ้าหลุม เพิ่มมิติให้กับห้องทานอาหาร
ในห้องทานข้าวมีการตกแต่งด้วยกระจกที่ 4 มุมของห้องเพิ่มลูกเล่นและมุมมอง ปลายโต๊ะทานข้าวสามารถเพิ่มเก้าอี้หัวท้ายได้อีก 2 ตัวรวมเป็น 8 ที่นั่งได้นะคะ ที่เหลือเฟือ ต่อไปจะพาไปดูห้องน้ำทางประตูด้านซ้ายกันค่ะ
ทางเข้าห้องน้ำ ประตูทางเข้าเป็นแบบมีแถบช่องแสง ที่เป็นวัสดุกระจกฝ้า ส่องผ่านจากหน้าต่างที่เชื่อมต่อหลังบ้านอีกทีหนึ่ง
ทั้งพื้นและผนังห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีเข้มขนาด 30 x 30 เซนติเมตร สลับกับกระเบื้องลายบนผนังบางส่วน สุขภัณฑ์ประกอบไปด้วยอ่างล้างหน้า ชักโครก และส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำ ด้านบนเป็นกระจกขนาดใหญ่สูงถึงฝ้าเพดาน
อ่างล้างมือเป็นอ่างล้างมือเดี่ยวๆ ไม่มีเคาท์เตอร์เพิ่มสำหรับการวางของใช้ต่างๆ ไม่มีตู้ด้านล่างอ่างล้างหน้า ไม่มีการก่อปูนยื่นออกมาอีกเช่นกัน เป็นการวางสุขภัณฑ์แบบการใช้ฟังก์ชั่นเดียวตามความสามารถนั้นๆเลย แนะนำให้สร้างเคาท์เตอร์ติดผนังด้านซ้ายไปเลย เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการวางของ แต่ถ้ามีของใช้ส่วนตัวเยอะ จะเพิ่มตู้ใต้อ่างล้างหน้าเข้าไปด้วยก็ได้นะคะ
โถสุขภัณฑ์ และสุขภัณฑ์จาก American Standard
พื้นที่อาบน้ำขนาด 0.90 x 1.50 เมตร ลดระดับพื้นลงมาประมาณ 5 เซนติเมตร ไม่ได้มีฉากกั้นแถม ติดเอาถ้าใช้บ่อยๆนะคะ จะได้ไม่เปียก
ฝักบัวและก๊อกน้ำ มีจุดเตรียมติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนไว้ให้
ฝักบัว
ห้องที่เชื่อมกับห้องทานอาหารอีกด้านหนึ่งคือห้องครัว
พื้นที่ห้องครัวขนาด 2.4 x 3.0 เมตร ให้ชุดครัวมาด้วย ยกเว้นเครื่องซักผ้า ไมโครเวฟและตู้เย็น แบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นเคาน์เตอร์พร้อมอ่างล้างจาน ตู้เก็บของด้านใต้ และเครื่องซักผ้าข้างๆ มีหน้าต่างบานเลื่อนให้แสงส่องเข้าถึงในช่วงกลางวัน เหมาะสำหรับทั้งการทำครัวไทยและครัวฝรั่ง เนื่องจากติดกับระเบียงหลังบ้าน สามารถระบายอากาศและกลิ่นได้ดี
อีกด้านหนึ่งเป็นเคาท์เตอร์ขนาดกำลังพอดีสำหรับการเตรียมอาหาร มี Hob and Hood รวมไปถึงเตาอบอยู่ด้านล่าง มีตู้เก็บอาหารแห้งทั้งด้านล่างและด้านบนสูงไปจนสุดเพดาน ริมผนังเป็นช่องสำหรับวางตู้เย็น
พื้นที่ตู้และลิ้นชักเก็บอุปกรณ์การทำครัวและอาหารแห้ง ระยะวงสวิงการเปิด-ปิดของตู้และลิ้นชักต่างๆไม่ชนหรือขวางทางเดินนะคะ
ข้างๆเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าเป็นประตูออกไปสู่พื้นที่หลังบ้าน
พื้นที่หลังบ้านลดระดับลงไป 15 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องลายแบบด้าน ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
พื้นที่หลังบ้านทั้งหมดมีขนาด 2.3 x 4.8 เมตร กว้างพอจะตากผ้าได้สบายๆ ด้านหนึ่งเป็นปั้มน้ำและก๊อกน้ำ ด้านข้างตรงขอบแนวรั้วเว้นพื้นที่ปลูกเป็นต้นไม้พุ่มบังสายตาตลอดแนวสูงประมาณ 2 เมตร
อีกด้านหนึ่งเป็นถังเก็บน้ำบนดินและหน้าต่างห้องน้ำ
มุมประตูเปิดด้านหลังบ้าน ด้านบนมีไฟภายนอกติดอยู่
เงยขึ้นด้านบนเป็นที่วาง Compressor แอร์ของห้องต่างๆและหน้าต่างหลังบ้าน
กลับมาสู่ส่วนหน้าบ้านกันต่อ ความจริงแล้วส่วนสวนกลางบ้านสามารถจัดเป็นพื้นที่ปารตี้ BBQ หรือทำอาหารกลางแจ้งได้เป็นครั้งคราว เพราะมีขนาดที่กำลังพอดี และใกล้กับห้องทานอาหารอีกด้วย
ออกมาด้านนอกเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ขนาดทางเดินประมาณ 1 เมตร ทางตรงเดี่ยวๆไม่มีชานพัก ราวจับสองด้านเป็นแบบซี่ห่างๆและตัวบันไดแต่ละขั้นมีลูกนอนแต่ไม่มีลูกตั้ง ผนังทางเดินด้านขวามีไฟตกแต่ง Up-light และ Down-light สร้างบรรยาการภายในส่วน Courtyard ได้ดี
ราวจับบันไดแบบซี่ ความถี่ไม่มากนัก
การออกแบบบันไดขึ้นชั้น 2 สถาปนิกต้องการให้ลักษณะบันไดโปร่งดังนั้นจึงลดรายละเอียดของตัวบันไดไป เลือกเป็นบันไดโครงสร้างเหล็กที่มีแม่บันไดขนาบซ้ายขวา หน้าตาบันไดที่โปร่ง มีแต่ลูกนอน ไม่มีลูกตั้ง ไม่มีกันลื่น ไม่มีชานพัก ไม่เหมาะสมกับผู้สูงอายุและเด็กเล็ก วัสดุพื้นเป็นแบบทรายล้างสลับสีเอื้อต่อการทำความสะอาดเช่นเดียวกับพื้นทางเดินของ Courtyard ด้านล่าง
พื้นทางเดินด้านนอกของชั้น 2 ปูด้วยกระเบื้องสีเข้มแบบด้านขนาด 30 x 60 เซนติเมตร กว้างประมาณ 1.5 เมตร สามารถใช้เป็นระเบียงนั่งเล่น ที่ปกติจะมีระเบียงอยู่ในส่วนหน้าบ้าน แต่การออกแบบทาวน์โฮมโครงการนี้จะกลับกันคือมี Courtyard กลางบ้าน เลยสามารถใช้วิวพื้นที่สีเขียวตรงกลางให้เป็นประโยชน์ได้ โดยเฉพาะถ้ามีการปลูกต้นไม่ยืนต้น จะช่วยเพิ่มมิติให้กับพื้นที่กลางบ้านได้เป็นอย่างดี
จากบันไดขึ้นมาชั้น 2 ผ่านทางเดินมาห้องแรกที่จะพบคือห้องนั่งเล่นที่เป็น Double Ceiling Height สูง 5.7 เมตร มีไฟภายนอกติดผนังอยู่เป็นจุดๆตามเสา มีตัวเสากรุด้วยอิฐอยู่ภายนอกพื้นที่ห้องนั่งเล่น ที่คล้ายจะมีความดิบของตัววัสดุอิฐมอญ แต่มีความเรียบร้อยในการต่อกระเบื้องแทน สลับด้วยกระจกบานใหญ่ที่สามารถเลื่อนเปิดเข้า-ออกได้
ด้านบนของ Private Courtyard คือพื้นที่เปิดโล่งครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นโครงเหล็กวางทับด้วยแผ่นโพลีคาร์บอเนตสีใส ที่สามารถบังแสงแดดได้บางส่วนและกันฝนได้ โดยบ้านแต่ละหลังจะมีมุมการวางแผ่นวัสดุที่ไม่เหมือนกัน แบ่งออกเป็นสองแบบคือ แบบบ้านที่วางแผ่นวัสดุอยู่ทางทิศใต้ และบ้านที่วางแผ่นวัสดุอยู่ทางทิศเหนือ ข้อดีของบ้านที่มุงด้วยแผ่นโพลิคาร์บอเนตอยู่ในทางทิศใต้ คือทำให้การวางแผ่นวัสดุบังแสงธรรมชาติตามพระอาทิตย์ที่อ้อมใต้ ทำให้องศาแดดร้อนๆในช่วงเที่ยงถึงบ่ายไม่เข้าถึงตรงกลางบ้านได้โดยตรง
กลับมาที่ส่วน Living กันต่อ ทางเข้าห้องนั่งเล่นเป็นประตูแบบดึงออก
มีการล็อคด้วยกุญแจจากภายนอก และการหมุนบิดเปิด-ปิดจากภายใน ด้ามลูกบิดเป็นด้ามจับแบบเขาควาย
ทางเข้ามีกรอบประตูสูงขึ้นมาเล็กน้อย วัสดุปูพื้นภายในห้องนั่งเล่นเป็นกระเบื้องสีอ่อนแบบเงาขนาด 60 x 60 เซนติเมตร
ภายในด้านหนึ่งกว้างมากพอที่จะวางชุดโซฟารูปตัว L ขนาดใหญ่ได้สบายๆ แถมเหลือที่รอบข้างทั้งสองฝั่ง มีโต๊ะกลางและเก้าอี้เดี่ยว ด้านบนตกแต่งด้วยโคมไฟที่ติดตั้งบนฝ้าเพดานสูง 5.7 เมตร
มุมอีกด้านหนึ่งเป็นพื้นที่สำหรับวางทีวี เพื่อการพักผ่อนโดยเฉพาะ แต่ระยะการดูทีวีกว้างมากกว่า 4 เมตร ทำให้ทีวีทั่วไปขนาด 42 นิ้ว คงจะดูได้ไม่จุใจพอ น่าจะจัด Home Theater ขนาดใหญ่ใส่เข้าไปเลย พื้นที่ด้านบนและด้านข้างของทีวีเหลืออีกเยอะมาก สามารถวางเป็นตู้วางของตู้โชว์ได้
หันกลับไปยังส่วน Courtyard กลางบ้านสักหน่อย ด้านขวาเป็นประตูกระจกบานเลื่อน สามารถใช้เข้าออกได้อีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากประตูแบบผลักด้านซ้ายมือ ส่วนตรงกลางเป็นบานกระจกแบบตายตัว
อีกด้านหนึ่งเป็นหน้าต่าง ที่สามารถมองออกไปถึงส่วนหน้าบ้านได้ หน้าต่างทั้งสามบานสามารถเปิดผลักออกไปได้
หน้าต่างสองบานขวาเป็นแบบบานเปิด องศาการเปิดไม่กว้างมาก สร้างขึ้นเพื่อเวลาห้องนั่งเล่นต้องการการระบายอากาศแต่ไม่ใช่ลมแรงๆที่ปะทะเข้าโดยตรง
ส่วนบานซ้ายสุดเป็นหน้าต่างแบบบานเลื่อน สามารถเลื่อนเปิดออกได้ทั้งสองด้าน เราจะรดน้ำต้นไม้กันตรงจุดนี้ โดยที่น้ำที่เรารถจะผ่านลงไปด้านล่างของกระถางต้นไม้ปูนซิเมนต์ปิดตายตัว ไปยังพื้นที่ระบบใต้พื้นระหว่างอาคาร และสุดท้ายไหลมาลงตรงจุดระบายน้ำด้านหน้า แต่มีข้อเสียตรงนี้ห้องนั่งเล่นเป็นจุดเดียวที่เข้าถึงกระถางต้นไม้ได้โดยตรง เพราะถ้าเราจะพรวนดิน ตัดต้นไม้ เคลื่อนย้ายต้นไม้ หรือน้ำขังอยู่ข้างล่าง จะต้องลำบากแน่นอนเวลาแก้ไข
ออกมาส่วนระเบียงภายในกันต่อนะคะ ภายในก็ยังคงตกแต่งด้วยกระเบื้องดินเผาสีส้มที่เป็นเอกลักษณ์ ด้านข้างทั้งสองเป็นผนังปูนทาสีขาว ไม่ฉาบเรียบ แต่เป็นเนื้อหยาบๆเล็กน้อย
ไฟภายนอกทั้งที่ติดบนเสาโครงสร้าง และไฟภายนอกส่องสว่างบนทางเดินด้านล่าง
เข้าสู่พื้นที่ด้านหลังของชั้นที่ 2 เปิดมาจะเจอบันไดยาวที่ขึ้นไปสู่ชั้น 3 และประตูห้องนอนใหญ่ทางด้านขวามือ พื้นทางเข้ายังคงปูเป็นกระเบื้องแบบด้านต่อเนื่องไปจนถึงทางขึ้นบันไดไม่ยกระดับ แค่มีความสูงกรอบประตูกั้น
ประตูห้องนอนใหญ่บนชั้น 2
พื้นห้องนอนเป็นพื้นไวนิลความสูงต่อเนื่องกับพื้นทางเข้า
ห้องนอนใหญ่นับรวมส่วนห้องน้ำและ Build-in Closet ทั้งหมดขนาด 4.80 x 5.85 เมตร แบ่งออกเป็นส่วนห้องนอน และส่วนแต่งตัว วางเตียงนอนไว้ชิดผนังด้านหนึ่ง มีโต๊ะข้างเตียงสองด้าน และยังมีพื้นที่ด้านข้างพอที่จะเดินไปมาได้สบายๆ
ด้านหนึ่งเป็นวิวภายใน Private Courtyard ตรงกลางของบ้าน มีพื้นหลังเป็นห้องนั่งเล่น กั้นด้วยหน้าต่างบานเลื่อน และบานหน้าต่างแบบกระทุ้งด้านล่าง มีรางม่านกั้นให้อยู่ด้านบนฝ้าเพดาน เผื่อต้องการความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ฝั่งตรงข้ามเตียงนอนเป็นชั้นวางทีวี และตำแหน่งแอร์ติดผนัง ความสูงของชั้นวางทีวีควรจะต้องสูงกว่าเตียงนอนเพื่อระดับการดูทีวีที่เหมาะสม อาจจะยังจัดเป็นตู้เก็บของหรือตู้โชว์ได้
ชั้นวางทีวี และตำแหน่งแอร์ติดผนัง มีประตูเป็นทางเข้าห้องใต้บันไดอยู่ด้านข้างของชั้นวางทีวี
ประตูห้องเก็บของใต้บันได
ส่วนพื้นที่ด้านในเป็นพื้นที่ของตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่กินเนื้อที่ด้านนึง และอีกด้านหนึ่งเป็นเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้ายาวเต็มพื้นที่อีกด้านหนึ่งเช่นเดียวกัน ที่สามารถเป็นได้ทั้งโต๊ะเครื่องแป้งไปได้ในตัว ด้านบนเป็นกระจกขนาดใหญ่มาก และช่องแสงบานกระจกปิดตายจากหลังบ้าน ที่จะทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านได้ในช่วงกลางวัน ไม่ได้มาพร้อมความร้อน เนื่องจากองศาของช่องแสงไม่ได้อยู่ในองศาที่ได้รับแดดเต็มๆ พื้นปูด้วยแผ่นไวนิลลายไม้ต่อเนื่องจากส่วนเตียงนอน
ตู้เสื้อผ้าแบบเปิด แบ่งช่องการใช้งานให้ดูว่าสามารถทำได้หลากหลาย ด้านล่างสำหรับแขวนเสื้อผ้า ด้านบนที่หยิบยากหน่อยเป็นพื้นที่สำหรับการวางเครื่องนอนที่หยิบเป็นครั้งคราว แต่แนะนำให้ใช้เป็นตู้เสื้อผ้าแบบปิดจะดีกว่า เนื่องด้วยฝุ่นหรือความเรียบร้อยภายในห้องจะดีกว่ามาก ในส่วนของตู้เสื้อผ้านี้ไม่ได้มีให้ในรายการการขาย ยกเว้นแบบบ้านตัวอย่างเท่านั้นนะคะ
ด้วยการออกแบบมุมชนมุมของตู้เสื้อผ้าและเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า ทำให้เกิดจุดอับขึ้นหนึ่งจุด นั้นก็คือจุดมุมด้านล่างระหว่างพื้นที่ทั้งสอง จะเข้าถึงยากกว่าช่องอื่นๆนิดนึง
การมีเคาร์เตอร์อ่างล้างหน้าที่ไม่ได้เป็นสุขภัณฑ์ส่วนแห้งซะทีเดียว แยกออกมาอยู่ด้านนอกของห้องน้ำถือเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับการออกแบบ ข้อดีคือการใช้งานในเวลาเร่งรีบพร้อมๆกัน 2 คน จะไม่เสียเวลาต้องรอกัน แต่ข้อเสียคือการใช้อ่างล้างหน้าจริงๆนั้นก็ไม่ได้เรียบร้อย แต่มีการกระเด็นของน้ำตามเคาท์เตอร์และพื้นอยู่ดี แต่การมีเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบยาวเต็มพื้นที่ทำให้พื้นที่ว่างด้านขวาสามารถใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วย นอกจากนั้นยังปรับเป็นอ่างล้างหน้าแบบ His and Hers ได้ คือการมีอ่างล้างหน้าสองอ่าง ไม่แย่งกันใช้ พื้นที่บนเคาท์เตอร์อ่างเยอะมาก สามารถวางออกได้อย่างไม่จำกัด ทั้งยังหลังกระจกสามารถเปิดออกเป็นที่เก็บของใช้ ด้านใต้ของเคาท์เตอร์ก็สามารถสร้างตู้เก็บข้าวของเครื่องใช้ได้เช่นกัน
ด้านซ้ายมือของเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นทางเข้าของห้องน้ำ ที่ประตูทางเข้าไม่ได้เป็นแบบผลักเปิด-ปิดทั่วไป แต่เป็นแบบเลื่อนออก อีกทั้งด้านหนึ่งยังปิดตัวกระจกสะท้อนเต็มตัว สามารถดูความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านได้
ล็อคด้วยกุญแจจากด้านนอก และหมุนบิดเปิด-ปิดจากด้านใน
พื้นและผนังห้องน้ำปูด้วยพื้นกระเบื้องสีอ่อนแบบด้านขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ลดระดับพื้นลงไป 5 เซนติเมตร ภายในมีสุขภัณฑ์อยู่สองส่วนคือ ชักโครกอยู่ด้านซ้าย และพื้นที่อาบน้ำอยู่ด้านขวา เนื่องจากได้ย้ายอ่างล้างหน้าไปไว้ด้านนอกแล้ว
โถสุขภัณฑ์ สุขภัณฑ์จาก American Standard
ด้านข้างของชักโครกมีพื้นที่เก็บของใช้ต่างๆ เมื่อปิดกก็จะเป็นกระจกสะท้อนเต็มบาน รวมถึงที่ชั้นวางหนังสือด้านล่าง
ด้านขวามือมีฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกใสความสูง 2 เมตร ภายในมีฝักบัวและเจาะร่องผนังปูเข้าไปเป็นที่วางของใช้
พื้นลดระดับลงจากส่วนแห้ง 5 เซนติเมตร
ฝักบัวและเจาะร่องผนังปูเข้าไปเป็นที่วางของใช้
หน้าต่างสำหรับการระบายอากาศภายในห้องน้ำเป็นแบบบานกระทุ้งด้านล่างไปสู่พื้นที่หลังบ้าน
ออกมาที่ส่วนบันไดอีกครั้งเพื่อไปด้านบนชั้น 3 บันไดเป็นแบบมีทั้งลูกตั้งและลูกนอน ไม่มีชานพัก มีราวจับบันไดอยู่ด้านซ้ายด้านเดียว มีไฟส่องสว่างติดอยู่ตามผนัง
มองจากชั้น 3 ลงมาทางบันได มีหน้าต่างอยู่เหนือประตูทางขึ้นบันได บนชั้น 3 แบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ด้านซ้ายเป็นทางเดินเพื่อเข้าไปสู่ห้องต่างๆ มีราวจับแบบไม่กั้นพื้นที่ด้านข้าง ทำให้อันตรายต่อเด็กเล็ก หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่ก็ตาม แนะนำให้ติดกระจก Temper เพิ่มในส่วนพื้นที่ด้านข้าง หรือถ้าจะอยากให้ดูโปร่งตามการออกแบบ จะต่อเติมเป็นกรอบเหล็กซี่ๆก็ได้ แนวขวางหรือแนวตั้ง มีหน้าต่างตรงช่องบันไดรับแสงสว่างธรรมชาติเข้ามา แต่ตอนกลางคืนต้องเปิดไฟเพิ่มนะคะ
ห้องแรกที่เราจะไปดูกันคือห้องน้ำแยกส่วนออกมาห้องเดียวที่อยู่บนชั้น 3
พื้นและผนังห้องน้ำเป็นแบบกระเบื้องด้านสีเข้มขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ไม่ลดระดับ
ภายในแบ่งออกเป็น 3 ส่วนการใช้งานทั่วไป คืออ่างล้างหน้า ชักโครก และพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำอยู่ด้านหลังประตูทางเข้า
อ่างล้างหน้าแบบไม่มีเคาท์เตอร์และตู้ด้านล่างจาก American Standard
ชักโครก และสายชำระ
กระจกบานใหญ่ขนาดเต็มพื้นที่ผนังด้านหนึ่ง ด้านข้างเป็นหน้าต่างระบายอากาศภายในห้องน้ำแบบบานกระทุ้งด้านล่าง ผลักออกไปเป็นพื้นที่ด้านหลังบ้าน
พื้นที่เปียกของห้องน้ำ ขนาด 90 x 90 เซนติเมตร พื้นลดระดับ 5 เซนติเมตร
ฝักบัวและก๊อกน้ำ มีจุดเตรียมติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนไว้ให้
ต่อไปเราจะไปดูพื้นที่ห้องนอนด้านซ้ายมือกัน
ทางเข้าเป็นพื้นไวนิลลายไม้ต่อเนื่องจากส่วนทางเดินชั้น 3
ห้องนอนเล็กบนชั้น 3 ขนาด 2.60 x 3.70 เมตร ความสูงถึงฝ้าเพดาน 2.4 เมตร เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กที่มีลูก 2 คน นอนกันคนละห้องนอนบนชั้น 3 แต่ถ้าจำนวนห้องนอนเกินพอดี อาจจะเปลี่ยนการใช้งานทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องอ่านหนังสือแทนได้
ภายในมีหน้าต่างบานเลื่อนรับแสงแดดและระบายอากาศจากด้านหลังบ้าน ฝ้าห้องนี้สูง 2.4 เมตรค่ะ เทียบกับห้องอื่นๆนับว่าทึบไปเลย
สุดทางเดินก็เป็นห้องนอนอีกห้องหนึ่งเช่นกัน
ห้องนอนห้องนี้ขนาด 2.60 x 3.00 เมตร ฝ้าสูง 3 เมตรนะคะ มีหน้าต่างสองบานเป็นบานกระทุ้งด้านล่าง ออกไปเจอวิวภายใน Private Couryard กลางบ้าน และห้องนั่งเล่นบนชั้น 2
พื้นที่ห้องนี้อาจจะทำเป็นห้องทำงานได้ เนื่องจากแสงธรรมชาติส่องเข้าถึงตลอดวัน ค่อนข้างสว่างและโปร่งกว่าห้องนอนด้านในบนชั้น 3 อีกห้องหนึ่ง
หน้าต่างสองบานเป็นบานกระทุ้งด้านล่าง ไม่ได้เน้นให้วงสวิงเปิดกว้างมากนัก เนื่องจากจุดประสงค์เพื่อการระบายอากาศมากกว่าลมแรงๆที่จะปะทะเข้ามาภายในห้อง
หน้าต่างบานกระทุ้งออกไปเจอวิวภายใน Private Couryard กลางบ้าน ทางเดินภายใน และห้องนั่งเล่นบนชั้น 2
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ติดตาม BaanPuriPuri บ้านภูริปุรี ทาวน์โฮม 3 ชั้น พร้อม Private Courtyard ในซอยโชคชัย 4 ได้ในรายการคิดเรื่องอยู่ เร็วๆนี้ค่ะ 🙂
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 27 January 2015
- ทาวน์โฮม พื้นที่ใช้สอย 233 ตร.ม. 30 ตารางวา ราคา 6.45 ล้านบาท หรือ 215,000 บาท/ตร.วา
- ทาวน์โฮม (มุม) พื้นที่ใช้สอย 233 ตร.ม. 40 ตารางวา เพิ่มพื้นที่ด้านข้างบ้าน ราคา 7.62 ล้านบาท หรือ 254,000 บาท/ตร.วา
- จอง 50,000 บาท
- ทำสัญญา 330,000 บาท
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
* เนื่องจากเป็นโครงการทาวน์โฮมส์ขนาดเล็กจึงไม่มีค่าส่วนกลางและกองทุน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการ BaanPuriPuri เป็นโครงการขนาดเล็ก ที่ตั้งอยู่บนถนนโชคชัย 4 ซอย 78 แยก 11 ที่ต้องอาศัยการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเกือบเป็นส่วนใหญ่ ภายในซอยย่อยเงียบเป็นส่วนตัว เหมาะกับการอยู่อาศัย ความอุดมสมบูรณ์ในระยะการเดินเท้ามีที่ถนนหลักซอยโชคชัย 4 เพียงจุดเดียวที่ใกล้ที่สุด ห่างจากโครงการประมาณ 400 เมตร มีทั้งร้านอาหารต่างๆเปิดตามชั้นล่างสุดของอาคารพาณิชย์ตามแนวถนนสองด้าน รวมไปถึงร้านค้า ตลาดทรัพย์นิมิตร ตลาดโชคชัย 4 ตลาดบางเขน ธนาคารสาขาย่อย วัด และโรงเรียน ทางเชื่อมอีกทางของถนนโชคชัย 4 ซอย 78 แยก 11 คือซอยสตรีวิทยา 2 ซอย 10 ไม่ค่อยมีอะไรมากนัก รอบบริเวณมีสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านเดี่ยวพักอาศัยเกือบทั้งหมด มีที่ว่างเปล่าบ้าง ส่วนห้างสรรพสินค้าในระยะประมาณ 10 กิโลเมตร ก็มีทั้ง The Crystal, Crystal Design Center และ The Walk ไกลออกไปหน่อยก็จะเป็นเซ็นทรัลลาดพร้าว, Major Cineplex และตลาดนัดจตุจักร
การเดินทางจะสะดวกสุดถ้าใช้รถส่วนบุคคล เพราะระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า หรือรถไฟฟ้าใต้ดินอย่าง สถานี MRT ลาดพร้าว สายสีน้ำเงิน ที่อยู่บนแยกรัชดาลาดพร้าวอยู่ไกลออกไปจากปากซอยโชคชัย 4 2.5 กิโลเมตร หรือประมาณ 6 กิโลเมตรจากโครงการ และอีกไม่ไกลเป็นสถานีรถไฟใต้ดิน MRT สวนจตุจักรที่เป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทำให้การเดินทางไปยังขนส่งสาธาณะจำเป็นต้องใช้แท๊กซี่ พี่วิน รถกระป๊อรับจ้าง หรือรถประจำทางอีกทอดหนึ่งอยู่ดี
การเดินทางด้วยรถส่วนตัว โครงการตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เข้า-ออกได้หลายทาง ถนนใหญ่หลายสายล้อมกรอบกันเป็นสี่เหลี่ยม ไม่ว่าจะเป็นถนนพหลโยธิน, ถนนเกษตร-นวมินทร์, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือถนนลาดพร้าว รถบนถนนลาดพร้าวจะมีปริมาณมากกว่า การเดินทางเข้าโครงการไม่จำเป็นจะต้องเข้าที่ซอยโชคชัย 4 โดยตรง แต่สามารถลัดเลาะผ่านซอยเสนานิคม ที่เชื่อมกันมาถึงโครงการได้จากทั้งสองถนนใหญ่ หรือซอยซอยสุคนธสวัสดิ์ฝั่งใต้ ทางขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ห่างจากโครงการไปทางประดิษฐ์มนูธรรมประมาณ 5 กิโลเมตร และทางด่วนโทลล์เวย์บนถนนลาดพร้าว ส่วนหากจะเข้าเมืองก็ทำโดยการกลับรถใต้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ไปแถวเอกมัย หรือจะขับขึ้นเหนือไปเรื่อยจนถึงคลองรังสิต ปทุมธานี
วัสดุของโครงการตามราคาและรายการโปรโมชั่นวันที่เข้าไปรีวิว ถือว่าดีเมื่อเทียบกับในระดับราคาเดียวกันในส่วนของการตกแต่งโครงสร้างภายนอก ส่วนพื้น ผนัง ฝ้าเพดาน มีอุปกรณ์สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ American Standard และห้องครัวให้ แต่การตกแต่งภายในยังทำได้ไม่ดีเท่าภายนอก ห้องนั่งเล่น Double Ceiling Height ปูพื้นด้วยกระเบื้อง 60 x 60 เซนติเมตรแบบเงา และห้องนอนเป็นแผ่นไวนิลลายไม้สีน้ำตาลอ่อน พื้นส่วนครัวเป็นกระเบื้อง 60 x 60 เซนติเมตร ฝ้าห้องทั่วไปสูง 2.4 เมตร พื้นที่ใช้สอยภายนอกพื้นเป็นทรายล้างสลับสี ง่ายต่อการทำความสะอาด มุงส่วนกลางแจ้งด้วยโครงเหล็กและแผ่นโพลิคาร์บอเนตสีใส กรุโครงเสารับน้ำหนักภายนอกด้วยกระเบื้องดินเผาสีส้ม
การออกแบบทาวน์โฮมมีแบบเดียว เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ยังอยู่กันสองคน ครอบครัวขนาดเล็ก หรือคู่ที่มีลูกอายุราวๆ 6-10 ปี เป็นต้นไป มีการจัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยครบถ้วน ทั้งห้องนั่งเล่นแบบ Double Ceiling Height ที่ดีไซน์ออกมาให้ดูสูงโปร่ง ตกแต่งด้วยกระจกและบานหน้าต่างเปิด แม้จะเสียดายพื้นที่ใช้สอยบางส่วนที่หายไปกับความสูง 5.7 ก็ตาม ครัวด้านหลังบ้านสามารถเป็นได้ทั้งครัวไทยและฝรั่ง รายละเอียดของการตกแต่งเล็กๆน้อยๆอย่างราวบันได และบันไดตรงกลาง ออกแบบมาไม่เหมาะกับผู้สูงอายุและเด็กเล็ก เพราะด้วยด้ามราวจับที่ไม่ค่อยแข็งแรงนัก บันไดมีแต่ลูกนอน ไม่มีลูกตั้ง ตั้งอยู่ตรงส่วนกลางบ้านที่ฝนสาดเข้าถึง ทำให้อาจจะลื่นได้ง่าย บันไดชั้น 2 ขึ้นชั้น 3 ก็เป็นแบบทางตรงทางเดียว ไม่มีชานพัก ฉากกั้นอาบน้ำบางห้องและตู้เสื้อผ้าไม่ได้ให้
การออกแบบตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยบางห้องที่ไม่ได้ใช้งานเช่นห้องนอน 2 ห้องด้านบนอาจจะปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานหรือห้องอ่านหนังสือ หรือการกั้นพื้นที่จอดรถบางส่วนเป็นห้องทานอาหาร แทนห้องทานอาหารเก่าที่สามารถเปลี่ยนเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุ การมี Private Courtyard ตรงกลางที่เปิดโล่งขึ้นไปสู่ด้านบน สามารถทดแทนพื้นที่สีเขียวเหมือนอยู่บ้านเดี่ยวได้พอสมควร ช่วยใช้แสงธรรมชาติเข้าถึงได้ทั่วทุกห้อง อากาศถ่ายเท ทั้งยังสามารถปลูกต้นไม้ยืนต้นภายในบ้าน เพื่อช่วยในการบังแดดและหักเหแสง ทั้งยังถือว่าเป็นรวมสายตา ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนๆของบ้านได้อีกด้วย
เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการทาวน์โฮมส์ขนาดเล็กจึงไม่มี Facility ส่วนกลางที่ต้องแชร์กันระหว่างลูกบ้าน ดังนั้นรีวิวโครงการนี้จะไม่มีสรุปสิ่งอำนวยความสะดวกนะคะ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
แพคเกจ(ทาวน์โฮม) 6 – 8 ล้านบาท, 27 January 2015
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง – 8.0/10 – ทำเลโดยรวมดี สามารถเข้าออกได้หลายทาง มีทางหลบเลี่ยงรถติด ไม่ไกลจากแหล่งของกินของใช้ ใกล้ทางขึ้นลงทางด่วน แต่ไม่ใกล้รถไฟฟ้ามากนัก แต่ยังอยู่ในซอยแยกและมีตัวเลือกในราคานี้พอสมควร
- ความปลอดภัย – 6.0/10 – เนื่องจากเป็นโครงการทาวน์โฮมส์ขนาดเล็กจึงไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยส่วนรวมเหมือนหมู่บ้าน ภายในทาวน์โฮมแต่ละหลังมีระบบรักษาความปลอดภัยภายใน 2 ชั้น คือรั้วบ้านด้านนอกและประตู Digital Door Lock ด้านใน
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย – 10.0/10 – ให้คะแนนพิเศษสำหรับความกล้าออกแบบให้แตกต่างแต่มีฟังค์ชั่นที่น่าสนใจและใช้ได้จริง มี Private Courtyard ของแต่ละหลังเป็นจุดเด่น ทำให้แสงธรรมชาติเข้าถึงทั่วบริเวณ อากาศถ่ายเท มีห้องนั่งเล่นแบบ Double Ceiling Height ทั้งยังออกแบบรองรับการปรับเปลี่ยนการใช้งานในแต่ละพื้นที่ด้วย
- วัสดุ – 8.5/10 – ใช้วัสดุค่อนข้างหลากหลายในแต่ละพื้นที่การใช้งาน วัสดุตกแต่งโครงสร้างดีกว่ามาตรฐาน ของตกแต่งภายในอยู่ในระดับปกติ
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ – 8.0/10 – แม้ว่าโครงการจะไม่มีพื้นที่ส่วนกลางสีเขียวเลยเพราะมีแค่ 6 หลัง แต่การสามารถนำสวนมาไว้ในทาวน์โฮมส์ได้ ถือว่าได้ชดเชยเรื่องพื้นที่สีเขียวได้อย่างฉลาดคิด จะมีทาวน์โฮมสักกี่หลัง ที่ปลูกต้นไม้ไว้กลางบ้านได้
- สาธารณูปโภค – 0.0/10 – เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการทาวน์โฮมส์ขนาดเล็กที่ไม่มี Facility ส่วนกลางที่ต้องแชร์กันระหว่างลูกบ้านเลย ดังนั้นโครงการนี้จึงไม่มีคะแนนสาธารณูปโภคค่ะ
รวมคะแนน 7.25 / 9.00 (ไม่คิดสาธารณูปโภค) เทียบได้ประมาณ 8/10
BOTTOM LINE
โครงการ BaanPuriPuri เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยหรือทำงานในพื้นที่ย่านลาดพร้าว เกษตร-นวมินตร์ มีรถใช้ส่วนตัวเป็นหลัก รู้จักตัวเองและมีนิสัยเลือกของตามใจที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนคนทั่วไป ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่สนส่วนกลาง มีงบประมาณประมาณ 6 – 8 ล้านบาท
ถ้าถูกใจรีวิวตัวนี้ กด LIKE กันหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิก www.thinkofliving.com พร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่ https://thinkofliving.com/