รีวิวฉบับที่ 1193 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการทาวน์โฮมในย่านลาดพร้าว-เหม่งจ๋ายกันกับโครงการ SPACE ลาดพร้าว-เหม่งจ๋าย ทาวน์โฮม 3 ชั้น ในซอยลาดพร้าว 80 ลึกเข้าไป 1.4 กม. สามารถลัดไปออกถนนได้หลายสายทั้ง ลาดพร้าว-ประชาอุทิศ-สุทธิสารวินิจฉัย-รัชดาภิเษก ใครที่กำลังมองหาทาวน์โฮมในย่านนี้เราไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
Fact @ 23 September 2016
- SPACE Ladprao – Mengjai (สเปซ ลาดพร้าว – เหม่งจ๋าย)
- AEH Company Limited
- UPPER – HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : เขต วังทองหลาง
- เนื้อที่โครงการ 10-2-51 ไร่ จำนวน 94 ยูนิต
- A1 ทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่ดิน 23 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 201 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.5 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 7.4 ล้านบาท
- A2 ทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่ดิน 23 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 201 ตร.ม. หน้ากว้าง 5.5 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 7.4 ล้านบา
- C ทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่ดิน 26 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 307 ตร.ม. หน้ากว้าง 6 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 9.3 ล้านบา
- E ทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่ดิน 30 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 340 ตร.ม. หน้ากว้าง 7.5 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 11.4 ล้านบาท
- ราคาเริ่มต้น 7.4 ล้านบาท
- ขนาดที่ดินมาตรฐาน 23 ตร.วาขึ้นไป
- ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 100,000 บาท
- โครงการเริ่มก่อสร้าง : 2554
- โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- สำนักงานขาย : 02-530-4477
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ
พิกัด : 13.775115, 100.602143
ที่ตั้งโครงการ SPACE ลาดพร้าว-เหม่งจ๋าย อยู่ในซอยลาดพร้าว 80 ลึกเข้าไปจากถนนลาดพร้าว ประมาณ 1.4 กม. โดยซอยนี้สามารถลัดไปออกถนนหลักๆ ได้ทั้ง ลาดพร้าว, ประชาอุทิศ, สุทธิสารวินิจฉัยและรัชดาภิเษก
ทำเลโครงการ SPACE ลาดพร้าว-เหม่งจ๋าย อยู่ในทำเลลาดพร้าว-เหม่งจ๋ายตามชื่อโครงการเลยค่ะ สภาพแวดล้อมและบรรยากาศบนทำเลนี้เป็นแหล่งชุมชนมาแต่ดั้งเดิม มีความอุดมสมบูรณ์สูง ส่วนใหญ่ละแวกนี้ก็จะเป็นโครงการแนวราบอย่างบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมที่อยู่กันมานาน และโครงการแนวราบขึ้นใหม่ก็มีให้เห็นไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดมิเนียมใกล้ถนนใหญ่หรืออยู่ตามซอยใหญ่มากกว่าค่ะ การเข้าถึงโครงการสามารถเข้าถึงได้จากทั้งจาก 4 ถนน คือ ถนนลาดพร้าว, ถนนประชาอุทิศ, ถนนรัชดาภิเษกและถนนสุทธิสารวินิจฉัยค่ะ แต่หลักๆ แล้ววิ่งเข้าถนนลาดพร้าวจะเป็นเส้นทางหลักและสะดวกที่สุด
สำหรับทำเลนี้นั้นเหมาะกับคนที่ทำงานละแวกนี้หรือต้องการอยู่อาศัยในย่านนี้แบบมีลัดไปถนนใหญ่ต่างๆได้ง่าย ใช้ซอยเล็กซอยน้อยเพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางได้มากขึ้น ทำให้การเดินทางโดยใช้รถโดยรวมแล้วสะดวกมีตัวเลือกเยอะ แต่เรื่องของรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วนจะมีอยู่บ้างเป็นบางเวลาเพราะแต่ละซอยบนละแวกนี้ก็เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและมีโรงเรียนอยู่เยอะ เวลาเลิกเรียนจะมีรถผู้ปกครองมารับพร้อมๆกัน ส่วนตอนเลิกงานคนจะใช้เส้นนี้หนีรถติดทำให้มีปริมาณรถค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นถ้าจะเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนก็ควรจะเผื่อเวลาในการเดินทางมากขึ้นหน่อยนะคะ ส่วนการเดินทางโดยพึ่งพิงรถสาธารณะถือว่าไม่ได้สะดวกมากนัก เพราะอยู่ในซอยลึกเข้าไป 1.4 กม. ไม่ได้มีรถแท็กซี่ หรือรถเมล์วิ่งผ่านหน้าโครงการแน่ๆ แต่ก็พอเรียกพี่วินมอเตอร์ไซต์ในซอยไปออกหน้าปากซอยแล้วค่อยไปต่อรถบนถนนใหญ่อีกที
การเข้าถึงโครงการเข้าได้จากหลายทางอย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นนะคะ
- เส้นทางที่ 1 เข้าจากถนนลาดพร้าว บริเวณแยกจันทิมา เลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 80 และตรงยาวมาเรื่อยๆ สุดซอย มีความลึกประมาณ 1.4 กม.
- เส้นทางที่ 2 เข้าจากถนนรัชดาภิเษก สามารถเข้าได้ 2 ทางคือ ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ บริเวณแยกตลาดห้วยขวาง หรือ ซอยรัชดาภิเษก 18 จากนั้นทะลุเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญแล้วเลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 80 แยก 22 ซึ่งเป็นซอยหลักที่เชื่อมเข้าซอยลาดพร้าว 80 ได้ จากนั้นเมื่อเลี้ยวขวาเข้าซอยลาดพร้าว 80 แล้วก็ตรงจนสุดซอยก็จะถึงโครงการแล้วค่ะ
- เส้นทางที่ 3 เข้าจากถนนสุทธิสารวินิจฉัย สำหรับใครที่มาจากพหลโยธิน, วิภาวดีรังสิต ก็ตรงยาวเลยแยกสุทธิสารมาแล้วเลี้ยวเข้าซอย 20 มิถุนา เพื่อตรงเลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 80 แยก 22 อีกที จากนั้นก็เลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 80 ตรงไปสุดซอยตามลำดับ
- เส้นทางที่ 4 เข้าจากถนนประชาอุทิศ สามารถเข้าได้ 3 ทางค่ะ โดย 2 ทางแรกคือเข้าจาก ซอยประชาอุทิศ 19 บริเวณแยกเหม่งจ๋าย และซอยยอดทอง เพื่อลัดไปเข้าซอยลาดพร้าว 80 แยก 22 แล้วเลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 80 อีกที ส่วนอีกทางคือเข้าจากซอยสหการประมูล ซึ่งเป็นซอยที่เข้าจากถนนประชาอุทิศแล้วใกล้ที่สุด แต่ต้องผ่านถนนส่วนบุคคลที่มีค่าผ่านทาง 10 บาท ก่อนจะลัดเข้าซอยลาดพร้าว 80 ได้
ย่านลาดพร้าว-เหม่งจ๋ายถือเป็นย่านที่มีความเจริญและความอุดมสมบูรณ์สูง มีร้านค้ามาเปิดเพื่อรองรับความต้องการของชุมชนในย่านนี้ที่อยู่กันค่อนข้างคึกคักหาทำให้ของกินได้ง่ายในระยะขับรถไม่ไกล ส่วนใหญ่ร้านจะอยู่แถบถนนประชาอุทิศแยกเหม่งจ๋ายและบนถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญซึ่งมีทั้งร้านค้าใต้ตึกแถว ร้านอาหารนั่งสบายเจ้าดังๆ หลายเจ้า ร้านคาเฟ่ชิคๆ รวมทั้งสวนอาหารขนาดใหญ่มีห้องคาราโอเกะพร้อม ตอบโจทย์จำนวนเงินในกระเป๋าทั้งแต่ต้นเดือนไปจนถึงท้ายเดือนรอเงินเดือนออกกันเลยทีเดียวค่ะ
นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญสำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กยังเรียนกันอยู่ ก็คือเรื่องโรงเรียนของลูกๆ ซึ่งละแวกนี้ก็มีโรงเรียนให้เลือกเยอะมาก ทั้งโรงเรียนรัฐ โรงเรียนเอกชน ไปจนถึงโรงเรียนนานาชาติอยู่หลายโรงเรียน ซึ่งก็ช่วยผู้ปกครองร่นระยะเวลาการเดินทางไปส่งลูกได้ดี ไม่ต้องไปเสียเวลารถติดนานๆตอนขับรถส่งลูกนะคะ
ขยับออกมาหน่อยอย่างบนถนนรัชดาภิเษกที่ถือว่าเป็นย่านธุรกิจอีกย่านนึง มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ให้เลือกเดินเล่นช็อปปิ้งได้อย่างเซ็นทรัล พระราม 9 , เอสพลานาด , ฟอร์จูนทาวน์ และ ตอนนี้มีการสร้าง The Street ไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งใหม่อยู่ใกล้ๆ บิ๊กซี รัชดาฯ และถนนเส้นนี้ช่วงหลังๆมีอาคารสำนักงานเกิดขึ้นมากมาย ทั้ง ตึก AIA , ตึกตลาดหลักทรัพย์ และ กลุ่มอาคาร“เดอะ แกรนด์พระราม 9” ของ บริษัท จีแลนด์ ซึ่งจะทำให้ถนนเส้นนี้มีความเจริญขึ้นมาก
ส่วนถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือเลียบทางด่วนรามอินทราเส้นนี้จะเป็นที่ตั้งของโครงการบ้านระดับหรู ร้านอาหารประเภทนั่งชิว และ Community mall ชิคๆ อย่าง CDC , Crystal park , Chic Republic , The Walk ไว้ออกไป Hangout กับเพื่อนได้ โดยเดินทางไม่ไกลสะดวกในการกลับบ้าน หากออกมาทางถนนลาดพร้าว ฝั่งตรงข้ามเยี่ยงไปอีกหน่อยก็จะเป็น Big C ลาดพร้าวและ Foodland เอาไว้ไปจับจ่ายซื้อของใช้กันได้ หรือจะไปกินข้าวแถวโชคชัย 4 ลาดพร้าววังหิน และซอยลาดพร้าว 101 ก็ไม่ได้ไกลมากนักค่ะ
เส้นทางแรกที่จะพาไปเริ่มต้นจากถนนลาดพร้าว บริเวณแยกแฮปปี้แลนด์ ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านจุดขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์แล้วเริ่มชิดซ้ายเลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 80 บริเวณแยกจันทิมา เข้าไปในซอยลึกประมาณ 1.4 กม. ก็จะเห็นโครงการฝั่งขวามือแล้วค่ะ สำหรับเส้นทางเข้า-ออกโครงการด้วยถนนลาดพร้าวนั้นเหมาะกับคนที่ทำงานบนถนนลาดพร้าวไปจนถึงแถบย่านบางกะปิ รวมทั้งคนที่ใช้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์
เริ่มกันบนถนนลาดพร้าวฝั่งแฮปปี้แลนด์ ผ่านเดอะมอลล์บางกะปิ, Makro และมาถึงตะวันนามาร์เก็ต เป็นศูนย์ขายเสื้อผ้าราคาถูกและร้านอาหารแฟนไชน์ต่างๆ
ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านซอยลาดพร้าว 101 ซอยใหญ่ในย่านนี้ที่ค่อนข้างคึกคักมีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโด Low Rise รวมทั้งร้านค้าร้านอาหารและตลาดหน้าซอย ถือเป็นอีกหนึ่งซอยที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใครเบื่อๆ อาหารย่านเหม่งจ๋าย ก็สามารถขับออกมาทางลาดพร้าวเปลี่ยนบบรยากาศมากินข้าวในซอยลาดพร้าว 101 ก็ได้นะคะ ถ้าในระยะขับรถก็ถือว่าไม่ไกลมากถ้ารถไม่ติดก็ขับได้สบายค่ะ
เลยมาอีกหน่อยเจอซอยลาดพร้าว 112 เป็นซอยที่ใช้ลัดเพื่อไปทะลุออกถนนรามคำแหงได้ ส่วนเราจะตรงไปอีกหน่อยนะคะ ผ่านโรงพยาบาลลาดพร้าว
ผ่าน Community Mall อย่าง Omni Buainess Mall ที่มีทั้ง Tesco Lotus Express ร้านอาหารต่างๆ
ตรงมาหน่อยจะเป็น Foodland เปิดตลอด 24 ชม.
และใกล้ๆ กันคือ Imperial ลาดพร้าวและ BigC ซูเปอร์เซ็นเตอร์
ขับตรงมาหน่อยจะเป็นจุดตัดเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรมและจุดตัดกับทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ สำหรับใครออกมาจากโครงการก็ต้องไปกลับรถกันก่อนจะขึ้นทางด่วนซึ่งจุดกลับรถก็ไม่ไกลมากค่ะ ห่างจากซอยลาดพร้าว 80 ไปประมาณ 1 กม.
เลยมาหน่อยก็จะเห็นทางลงจากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์
จากนั้นตรงมาอีกประมาณ 450 ม. ก็จะถึงซอยลาดพร้าว 80 แล้วค่ะ เลี้ยวซ้ายกันเลย
บริเวณหน้าซอยจะเห็นเป็นตึกแถว ร้านค้า และร้านสะดวกซื้อประปราย พอมีความคึกคักระดับนึงค่ะ ส่วนถนนทางเข้าซอยนี้เป็นซอยเล็กมี 2 เลยสวนทางกัน แต่ก็เป็นซอยที่มีรถขับเข้า-ออกตลอดเพราะเป็นซอยลัดที่สามารถไปออกรัชดาภิเษก และถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญได้
ขับตรงเข้ามาจะเห็นแยกที่ตัดเข้าลาดพร้าว 80 แยก 22 กับซอยลาดพร้าว 80 ซึ่งเป็นซอยหลัก โดยเราจะเลี้ยวซ้ายกัน
ขับตรงมาอีกหน่อยก็จะเริ่มเห็นป้ายโครงการ และฝั่งขวาเป็นถนนส่วนบุคคลที่สามารถทะลุไปออกถนนประชาอุทิศได้แต่ต้องเสียค่าผ่านทาง 10 บาทนะ ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาทะลุออกไปดูกัน แต่เดี๋ยวเราตรงไปโครงการกันก่อนนะ
ทางเข้าโครงการจะอยู่ด้านข้างซอยลาดพร้าว 80 ซึ่งมีการทำถนนเพื่อใช้เบี่ยงเข้าโครงการได้ง่าย โดยรวมถนนทางเข้า-ออกโครงการถือว่าไม่มีปัญหา และเข้าออกได้สะดวกดีค่ะ
เส้นทางต่อไปที่จะพาไปชมกันคือเส้นทางลัดอีกเส้นทางที่จะออกไปยังถนนประชาอุทิศ โดยผ่านถนนส่วนบุคคล ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายครั้งละ 10 บาท เพื่อซื้อความสะดวกในการเดินทางแทนที่จะไปอ้อมออกซอยลาดพร้าว 80 แยก 22 ซึ่งจะมีระยะไกลกว่า ต่อมาเมื่อออกมาถนนประชาอุทิศแล้วเราจะตรงไปถึงแยกเหม่งจ๋ายซึ่งเป็นแยกที่ตัดกับถนนประชาอุทิศที่ไปตัดเข้าถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญและถนนเทียมร่วมมิตรซึ่งไปออกถนนพระราม 9 ได้ค่ะ
จากโครงการออกมาประมาณ 140 ม. ก็จะเจอทางเข้าถนนส่วนบุคคลที่จะไปทะลุออกซอยสหการประมูล โดยเสียค่าใช้จ่าย 10 บาทต่อครั้ง อย่างที่บอกไว้ข้างต้น
ถนนส่วนบุคคลเป็นถนน 2 เลน สวนทางกัน วิ่งได้สะดวกค่ะ
วิ่งมาจากต้นถนนส่วนบุคคลสุดทางประมาณ 700 ม. แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสหการประมูลกันต่อ
ภายในซอยนี้ค่อนข้างคึกคักอยู่เหมือนกัน มีร้านอาหารอย่างแดงแหนมเนือง ร้านค้าต่างๆ และหมู่บ้านค่อนข้างเยอะ
ผ่าน All Star Golf Complex ซึ่งเป็นสนามไดร์ฟกอล์ฟขนาดมาตรฐาน และนอกจากนี้ก็มีทั้ง Fitness สระว่ายน้ำ สปาและร้านค้าต่างๆ สำหรับใครที่สนใจมาพัตต์กอล์ฟ หรือมาออกกำลังกายที่นี่ก็เป็นตัวเลือกใกล้บ้านที่ดีค่ะ
สุดซอยสหการประมูลไปทะลุออกถนนประชาอุทิศ โดยเลี้ยวซ้ายจะไปออกถนนรามคำแหงได้ แต่เดี๋ยวเราจะเลี้ยวขวาไปแยกเหม่งจ๋ายกันนะคะ
บรรยากาศบนถนนประชาอุทิศจะค่อนข้างคึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน ด้วยทำเลที่มีร้านอาหารตั้งแต่ใต้ตึกแถวไปจนถึงสวนอาหารขนาดใหญ่ ซึ่งแถบนี้ก็จะมีทั้งพนักงานออฟฟิศและคนในย่านนี้มาซื้อมากินกันเยอะ
ตรงมาหน่อยผ่านอีกโรงเรียนนานาชาติอย่าง KIS International School
ขับต่อมาอีกหน่อยก็จะถึงแยกเหม่งจ๋ายแล้วค่ะ โดยเลี้ยวซ้ายจะไปออกถนนเทียมร่วมมิตร ทะลุถนนวัฒนธรรมและไปออกถนนหลักอย่างถนนพระราม 9 ได้ค่ะ ส่วนใครที่มุ่งหน้าตรงไปก็จะเชื่อมไปยังถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญและถนนรัชดาภิเษก ส่วนเลี้ยวขวาจะเลี้ยวเข้าซอยประชาอุทิศ 19 เป็นซอยเล็กที่สามารถไปทะลุออกถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญได้เช่นกัน รวมทั้งยังลัดเข้าซอยลาดพร้าว 80 แยก 22 ไปทะลุออกซอยลาดพร้าว 80 เพื่อเข้าโครงการได้
และเส้นทางสุดท้ายที่จะพาไปดูกันเริ่มต้นจากแยกประชาราษฎร์บำเพ็ญ สำหรับใครที่ทำงานแถบรัชดาภิเษก จากนั้นจะพาลัดเข้าซอยลาดพร้าว 80 แยก 22 ดูบรรยากาศซอยนี้ ซึ่งถือเป็นอีกซอยที่สำคัญในการเชื่อมไปออกถนนต่างๆ ได้ เดี๋ยวเราไปดูกันค่ะ
เริ่มต้นกันที่แยกประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซึ่งเป็นแยกที่เลี้ยวขวาจะไปออกถนนรัชดาภิเษกบริเวณแยกตลาดห้วยขวาง ใกล้กับ MRT ห้วยขวางค่ะ ส่วนใหญ่คนที่มาจากเส้นรัชดาภิเษกก็จะใช้เส้นทางนี้ในการลัดเลาะไปลัดออกถนนใหญ่อีกทีนึง เพื่อหลีกเลี่ยงรถติด ส่วนเส้นทางที่จะไปดูกันเรายังคงมุ่งหน้าไปตามถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญนะคะ
บริเวณช่วงนี้ของถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญที่ใกล้กับถนนรัชดาภิเษกจะคึกคักมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร คอนโดมิเนียม และอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าเยอะ เพื่อตอบโจทย์คนทำงานบนถนนรัชดาภิเษกเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็นทำเลที่เดินทางไปทะลุออกถนนรัชดาภิเษกได้ง่ายและหาของกินไม่ยากค่ะ ส่วนเส้นทางนี้เมื่อเราขับเลยแยกประชาราษฎร์บำเพ็ญมาอีกนิดหน่อยจะเห็นแยกนี้นะคะ ถ้าเราตรงไปก็จะไปเชื่อมเข้าซอย 20 มิถุนา ที่สามารถไปทะลุออกถนนสุทธิสารวินิจฉัยได้ แต่เดี๋ยวเราจะเลี้ยวขวาไปดูซอยย่อยนี้ที่มีลักษณะเป็นซอยรูปตัว U ไปจบบริเวณจุดตัดซอย 20 มิถุนาและซอยรัชดาภิเษก 18 ซึ่งเป็นซอยหลักอีกซอยที่สามารถทะลุไปออกถนนรัชดาภิเษกได้ รวมทั้งซอยย่อยนี้ยังสามารถเชื่อมกับซอยลาดพร้าว 80 แยก 22 ที่ไปออกซอยลาดพร้าว 80 ซอยเข้า-ออกของโครงการได้ด้วย เดี๋ยวเราไปดูบรรยากาศในซอยนี้ตามเส้นทางกันค่ะ
สำหรับซอยนี้เป็นซอยที่มีความคึกคักเช่นเดียวกับบนถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญเลยค่ะ มีทั้งร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆ ตลอดทาง
ขับมาเรื่อยๆ เราจะเห็นร้านค้า และร้านอาหารตลอดทาง ซึ่งนอกจากนี้ก็มีหอสมุดเพื่อการเรียนรู้ห้วยขวางมาตั้งบริเวณนี้ด้วย
ติดกับหอสมุดจะเป็นที่ตั้งของโรงเรียนจันทร์หุ่นบำเพ็ญโรงเรียนรัฐชื่อดังของย่านนี้
เลยจากโรงรียนมาหน่อยบริเวณโรงพยาบาลสัตว์จันทร์หุนฝั่งซ้ายมือจะเห็นซอยลาดพร้าว 80 แยก 22 ทางขวา
เมื่อเลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 80 แยก 22 มาแล้ว เราก็จะตรงไปสุดซอยเพื่อไปทะลุออกลาดพร้าว 80 กันนะ สำหรับซอยนี้นะคะ ถือเป็นซอยหลักที่คนแถวนี้มักใช้ไปทะลุออกลาดพร้าวกันได้ ถนนก็จะเป็นถนน 2 เลนสวนทางกัน ในซอยนี้ช่วงต้นซอยมีตลาดใหญ่อยู่ตลาดนึงใกล้โครงการจันทร์หุ่นบำเพ็ญ ก็จะมีความคึกคักหน่อย แต่เลยไปหน่อยตั้งแต่ผ่านตลาดนี้ไปส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยซึ่งมีบรรยากาศเงียบสงบพอสมควร
ความสำคัญของซอยหลักที่ใช้ไปทะลุออกถนนใหญ่ได้หรือซอยหลักได้คือจะมีสะพานข้ามคลองแบบนี้
ข้ามสะพานมาแล้วตรงมาสุดซอยจะไปทะลุออกซอยลาดพร้าว 80 ที่เป็นซอยเข้า-ออกโครงการ เลี้ยวขวาจะมุ่งหน้าไปทางโครงการนะคะ ส่วนเราจะเลี้ยวซ้ายไปออกถนนลาดพร้าวกันอีกที
บรรยากาศบริเวณต้นซอยก็จะคึกคักพอสมควรมีทั้งพี่วิน ตึกแถว และร้านค้าเล็กๆ
ทะลุออกมาที่ถนนลาดพร้าวบริเวณแยกจันทิมาค่ะ แต่เป็นแยกที่ไม่สามารถกลับรถได้เลยนะ จากที่เห็นกรวยกั้นอยู่ไกลๆ นี่แหละค่ะ ทำให้เราต้องไปวนกลับรถประมาณ 1 กม.
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
กลับมาดูที่สภาพแวดล้อมโครงการกันนะคะ โดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นโครงการทาวน์โฮมด้วยกัน และที่ดินเปล่าค่ะ บรรยากาศก็จะไม่พลุกพล่านมากนักเพราะเป็นซอยตัน แต่จะมีปัญหาเรื่องเสียหน่อยนะคะเพราะในทิศเหนือนั้นเลยจากที่ดินเปล่ามาแปลงนึงจะเป็นสนามฟุตบอลและพื้นที่จัด Event ในร่ม ซึ่งเมื่อมีการจัด Event ในแต่ละครั้งก็ค่อนข้างมีเสียงรบกวนส่งมาถึงโครงการพอสมควรอยู่เหมือนกัน
- ทิศเหนือ : ที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันออก : ซอยลาดพร้าว 80, โครงการบ้านกลางเมือง เหม่งจ๋าย-ลาดพร้าว
- ทิศใต้ : โครงการบ้านกลางเมือง เหม่งจ๋าย-ลาดพร้าว
- ทิศตะวันตก : ที่ดินเปล่า
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- สนามกอล์ฟ All Star ~ 1.3 กม. (ผ่านถนนส่วนบุคคล), 5.7 กม. (ไม่ผ่านถนนส่วนบุคคล)
- Town in Town ~ 4 กิโลเมตร
- KIS International School ~4.1 กิโลเมตร
- SISB (Singapore International School) ~4.7 กิโลเมตร
- The Regent’s International School ~4.9 กิโลเมตร หรือ ~1.3 กิโลเมตร (ผ่านถนนส่วนบุคคล)
- โรงเรียนสมาคมไทย-ญี่ปุ่น ~5.6 กิโลเมตร
- Big C รัชดาภิเษก ~ 5.6 กิโลเมตร
- Cyber World ~ 5.9 กิโลเมตร
- ศูนย์วัฒนธรรม ~ 6 กิโลเมตร
- เอสพลานาด รัชดาภิเษก ~ 6 กิโลเมตร
- CDC ~ 6.2 กิโลเมตร
- อาคาร AIA ~ 6.8 กิโลเมตร
- Crystal Park ~ 7.4 กิโลเมตร
- ฟอร์จูนทาวน์ ~ 7.6 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลพระราม 9 ~8 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลปิยะเวท ~8.9 กิโลเมตร
- เซ็นทรัลพระราม 9 ~ 9.4 กิโลเมตร
ก่อนไปดูผังโครงการกันขออธิบายก่อนว่าโครงการนี้เค้าเปิดขายมาประมาณ 5 ปีโดยเค้าจะค่อยๆเปิดขายทีละเฟสจากด้านในสุดไล่มาหน้าโครงการ รูปลักษณ์มีลักษณะคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้า บนเนื้อที่ดิน 10 ไร่กว่า มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 94 ยูนิต เริ่มจากทางเข้า-ออกโครงการจะอยู่ทางฝั่งขวามือ โดยตรงเข้ามาจากซอยลาดพร้าว 80 เมื่อเข้ามาผ่านป้อมรปภ.แล้วจะเจอส่วน Club House ก่อน แล้วแบ่งถนนออกเป็น 2 ทาง คู่ขนานกัน ถัดมาในส่วนของด้านหลังโครงการ (เฟสแรก) มีพื้นที่สวนสาธารณะอยู่ตรงกลางขนาดทั้งหมดประมาณ 200 ตร.วา เพื่อเป็นพื้นที่สีเขียวให้กับลูกบ้านได้มาเดินเล่น หรือพาเด็กๆ มาวิ่งเล่นได้ รวมทั้งยังช่วยบังสายตาบ้านตรงข้ามกันได้ดี ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
พูดถึงการจัดวางตำแหน่งบ้านในเฟสล่าสุดคือเฟส 3 ส่วนใหญ่จะอยู่ด้านหน้าโครงการใกล้ Club House เดินไปใช้งานได้ง่าย ทิศทางบ้านส่วนใหญ่หันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นทิศที่เหมาะสมกับการหันหน้าบ้านค่ะ แต่ก็จะมีข้อดีแตกต่างกันไปนะคะ แล้วแต่ลูกบ้านคนไหนให้ความสำคัญกับปัจจัยเรื่องอะไรมากกว่า เช่น ทิศเหนือ เป็นทิศที่ได้รับแดดอ่อนๆ ยามเช้า บ้านไม่อมแดด ส่วนทิศใต้ เด่นในเรื่องของทิศทางลม ซึ่งจะพัดผ่านเข้ามาได้ดีค่ะ และจะมีอีก 4 ยูนิตหลัง Club House ซึ่งจะหันหน้าบ้านไปทางทิศตะวันตกด้านนี้ก็จะร้อนกว่าทิศเหนือ-ใต้เพราะเป็นด้านที่หันหน้ารับแดดช่วงบ่าย-เย็น
จากทางเข้าโครงการมีการยกระดับพื้นโครงการขึ้นสูงมาจากถนนซอยลาดพร้าว 80 ซึ่งช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ระดับนึงค่ะ
ทางเข้า-ออกโครงการใช้ระบบเปิด – ปิดด้วย Key Card Access ระยะใกล้ ด้วยไม้กระดกอัตโนมัติ แต่ที่เห็นฝั่งขาเข้าไม่มีไม้กระดกนั้นเนื่องจากอยู่ในช่วงชำรุดพอดีค่ะ หากมีการซ่อมแซมแล้วก็จะนำกลับมาใช้ใหม่อีกที สำหรับด้านข้างทางเข้า-ออกมีป้อมพี่รปภ. คอยรักษาความปลอดภัยและดูแลตลอด 24 ชม.
จากนั้นจะเป็นทางแยก 2 ทาง เลี้ยวขวาเข้าถนนคู่ขนาน ส่วนบริเวณด้านหน้าแยกนี้จะเป็น Club House และสระว่ายน้ำของโครงการค่ะ เดี๋ยวเราเดินไปดูกัน
เดินมาถึง Club House สิ่งที่เด่นสะดุดตาเลยคือหลังคาที่เจาะช่องเป็นวงกลมแบบนี้ เป็นงานดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ดีค่ะ
โดยหลังคาที่เจาะช่องวงกลมนี้ไว้นั้นจะเป็นช่วงทางขึ้นเข้าส่วน Club House พอดี ซึ่งเมื่อมีความสวยงามแล้วเราก็หันกลับมามองในแง่ของใช้งานกันหน่อยนะคะ สำหรับหลังคาเจาะช่องวงกลมนี้นั้นจะไม่สามารถกันแดดกันฝนได้ดีเท่าที่ควร ดังนั้นพื้นที่นั่งเล่นด้านหน้าทางเข้า Club House ก็จะต้องมีหลบแดดหลบฝนอยู่บ้างนะคะ
ด้านซ้ายมือเป็นทางเข้า Club House และตรงไปจะเป็นส่วนสระว่ายน้ำค่ะ เดี๋ยวเราจะเดินไปดูสระว่ายน้ำกันก่อนนะคะ
สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ระบบคลอรีน มีขนาด 17 x 4 ม. สามารถว่ายออกกำลังกายได้ระดับนึง ด้านข้างสระก่อผนังขึ้นมาเพื่อทำเป็นสระเด็กด้านข้างค่ะ
ด้านข้างสระมีพื้นที่ใต้หลังคาร่มๆ วางเก้าอี้สนามให้ สำหรับนั่งเล่นชิวๆ หรือผู้ปกครองมานั่งรอเด็กๆ เล่นน้ำกันก็ได้
เข้ามาดูส่วน Club House กันค่ะ
บริเวณชั้นล่าง Club House เป็นส่วน Fitness ขนาดเล็กๆ มีเครื่องออกกำลังอยู่ 3 เครื่อง ซึ่งไม่น่าพอกับการใช้งานของสมาชิกในโครงการ 94 หลังเท่าไหร่นะคะ ส่วนชั้นบนนั้นปัจจุบันเป็นห้องสำนักงานของโครงการ แต่เมื่อโครงการขายเสร็จจะคืนพื้นที่นี้ให้เป็นห้องนิติบุคคลต่อไป
บริเวณด้านหลังของ Fitness นั้นมีห้องน้ำแยกชาย-หญิงให้เรียบร้อย
จัดเป็นส่วนอ่างล้างมือให้เรียบร้อย
มีห้องอาบน้ำให้สำหรับลูกบ้านมาอายน้ำล้างตัวหลังจากเล่น Fitness หรือว่ายน้ำเสร็จได้
ห้องน้ำจัดมาให้เรียบร้อยสะอาดดี
ออกมาจากส่วน Facilities เข้าสู่ถนนหลักของโครงการที่มีความกว้างถนน 9 ม. กว้างพอสำหรับรถสวนกัน 2 เลน แต่เมื่อมีรถจอดออกมาด้านนอกบ้านบ้างก็ทำให้กินเลนไป 1 เลนเลยเหมือนกัน เวลารถสวนกันก็จะค่อนข้างลำบากอยู่ ส่วนด้านข้างถนนเป็นตำแหน่งเสาไฟฟ้าและไฟส่องถนนวางตรงกลางระหว่างบ้านแต่ละหลังพอดี
เดินมาอีกหน่อยจะเป็นซอยเล็กๆ เชื่อมถนนหลักคู่ขนานเข้าด้วยกัน
ด้านในช่วงเฟสแรกระหว่างถนนคู่ขนานกันนั้นจะคั่นกลางด้วยพื้นที่สวนสาธารณะขนาด 200 ตร.วา ปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ค่อนข้างร่มรื่น และสวนนี้ก็สามารถใช้ความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่บังสายตาจากบ้านตรงข้ามได้ดีด้วย เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ด้านข้างสวนมีทำทางเดินยาวตลอดสวน และมีม้านั่งเป็นระยะๆ
เข้ามาภายในสวนจะเจอศาลพระภูมิก่อน
บรรยากาศภายในส่วนค่อนข้างร่มรื่นให้ไม้ยืนต้นพอสมควร มีปลูกหญ้าทำทางเดินและปลูกไม้พุ่มไว้ด้านข้าง
เดินถัดมาอีกหน่อย ก็จะมีการจัดวางต้นไม้แตกต่างกันไป
ทางเดินเท้าอีกฝั่งของสวน
เราเดินมาออกอีกฝั่งนึงของสวนแล้ว เดี๋ยวเราจะเดินอีกซอยกันต่อนะคะ
ทาวน์โฮมด้านขวามือจากรูปนี้จะเป็นตำแหน่งที่มีความเป็นส่วนตัวดีเพราะหันหน้าไปทางด้านหลังของบ้านอีกฝั่ง ไม่ได้หันหน้าเข้าหากันตรงๆ
จุดนี้ทางซ้ายมือเป็นซอยเล็กๆ เชื่อมกับถนนคู่ขนาน ส่วนตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีก็จะเจอ Club House และทางเข้า-ออกโครงการค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบคลอรีน ขนาด 17 x 4 ม. แบ่งสระเด็กและสระผู้ใหญ่
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกาย 3 เครื่อง
- สวนสาธารณะ 200 ตร.วา
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ n/a จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 3 ม.
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
- ถนนภายในกว้าง 9 ม.
บ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปดูกันนั้นเป็นบ้าน Type A2 ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 ม. บนเนื้อที่ดินเริ่มต้น 23 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอยภายใน 201 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3+1 ห้องน้ำ (รวม Powder Room) 2 ที่จอดรถ การออกแบบของทาวน์โฮม Type นี้นั้นจะแตกต่างกับทาวน์โฮม 3 ชั้นทั่วไปที่เด่นๆ เลยคือ Master Bedroom ชั้น 3 ซึ่งเรามักจะไม่ได้เห็นกันทั่วไป ที่ปกติมักจะวาง Master Bedroom ในชั้น 2 เพื่อให้ง่ายต่อการขึ้น-ลงชั้นล่าง ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใหญ่ในบ้านได้ดี แต่สำหรับแบบนี้มีการวางตำแหน่งห้อง Master Bedroom อยู่บนชั้น 3 ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นกว่าห้องนอนใหญ่ในชั้น 2 แต่ก็แลกกับการเดินขึ้น-ลงเพิ่มอีกชั้นนึงค่ะ
ชั้น 1 เริ่มจากที่จอดรถสามารถจอดรถได้ 2 คันแบบเหลือพื้นที่ด้านข้างเล็กน้อยไว้สำหรับเดินด้านข้างได้ ด้วยความกว้างของทาวน์โฮม 5.5 ม. เข้ามาภายในบ้านเป็นพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานไว้ด้วยกัน โดยสามารถจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่และพื้นที่รับประทานอาหารได้ประมาณ 6 ที่นั่ง ด้วยความยาวภายใน 7 ม. ส่วนด้านข้างพื้นที่รับประทานอาหารนั้นคือส่วนครัว ที่ให้มาเป็นแบบครัวเปิด แต่หากต้องการเป็นครัวปิดก็สามารถทำประตูบานเลื่อนมากั้นเป็นครัวปิดได้แต่ก็จะเสียพื้นที่ส่วน Pantry ไปเล็กน้อย ส่วนด้านหลังบ้านนั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน คือลานซักล้าง และพื้นที่สวนหลังบ้าน โดยจะทำพื้นปูกระเบื้องบริเวณลานซักล้างให้ ส่วนพื้นที่สวนจะถมทรายให้แต่ไม่ได้ปูหญ้าหรือจัดสวนให้
ชั้น 2 เป็นชั้นห้องนอนกลางและห้องนอนเล็กพร้อมห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้อง โดยห้องนอนกลางจะอยู่ทางด้านหน้าบ้าน และห้องนอนเล็กอยู่ด้านหลังบ้าน สิ่งที่น่าสนใจคือมีพื้นที่เก็บของใต้บันไดเพิ่มมาให้ด้วย เป็นการใช้พื้นที่ได้เป็นประโยชน์ดีค่ะ เพราะปกติพื้นที่ใต้ท้องบันไดชั้น 2 นี้จะปิดตายไม่ได้ใช้งาน
ชั้น 3 คือห้อง Master Bedroom ทั้งหมด โดยแบ่งเป็นส่วนเตียงนอน พื้นที่นั่งเล่น และ Walk-in Closet รวมทั้งห้องน้ำส่วนตัว
เรามาดูหน้าตาทาวน์โฮมกัน มีการออกแบบในสไตล์ Modern ชัดเจน เน้นโทนสีเทา-ดำ และการตกแต่ง Facade ด้วยไม้เทียมและอลูมิเนียมสีขาว-ดำ มีช่องเปิดพอสมควรทำให้บ้านดูโปร่งโล่งดี มองขึ้นไปตรงหลังคาจะเห็นว่าเลยจากชั้น 3 จะเป็นผนังยกสูงขึ้นมาก่อนจะเห็นหลังคาทรง Lean ใช่ไหมคะ บริเวณตรงนี้คือช่องว่างระหว่างฝ้าเพดานและหลังคาเพื่อช่วยลดความร้อนจากแสงแดดผ่านหลังคาได้ดี ส่วนหลังคาบริเวณที่จอดรถนั้นเป็นหลัง Polycarbonate ใช้โครงเหล็กเป็นโครงสร้างและรางระบางน้ำเก็บลงเสาให้เรียบร้อย โดยจะได้เป็นมาตรฐานในทุกบ้านค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีนะคะ เพราะจริงๆ แล้วส่วนใหญ่ลูกบ้านก็มักจะต่อเติมเองอยู่แล้วแต่เมื่อทางโครงการทำมาให้เลยก็จะดูเรียบร้อย เหมือนกันทั้งโครงการและลดปัญหาเรื่องรางระบายน้ำที่อาจจะไปกระทบบ้านข้างๆได้ด้วย
ประตูหน้าบ้านเป็นประตูเหล็กบานพับพ่นสีดำ ด้านข้างระหว่างเสาวางถังขยะพลาสติกให้ ซึ่งไม่ได้ทำพื้นที่ทิ้งขยะไว้ให้ในบ้านให้ เนื่องจากความกว้างของบ้านที่พอดีกับที่จอดรถ 2 คัน
พื้นที่จอดรถใช้โครงสร้างแบบ Slab On Beam ใช้เสาเข็มยาว 23 ม. เท่าบ้านจริงทำให้สามารถรองรับน้ำหนักของรถได้ดี และไม่ทรุดตัวง่ายเมื่อเทียบกับพื้นแบบ Slab On Ground ส่วนพื้นด้านบนเป็นพื้นคอนกรีตฉาบเรียบ ทาสีดำสลับเป็นลาย สุดทางมีขั้นบันไดยกขึ้นมา 1 ขั้น ซึ่งเป็นส่วนเฉลียงทางเข้าหน้าบ้าน มีความกว้างระดับนึงสามารถวางชั้นวางรองเท้าได้ ส่วนด้านขวาเป็นตู้เก็บของภายนอก สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดรถได้เยอะพอสมควร
ส่วนใหญ่เราจะเห็นตู้จดหมาย กริ่ง และหลอดไฟติดอยู่บริเวณหน้าบ้าน แต่สำหรับโครงการนี้จะนำมาติดบริเวณผนังข้างบ้านแทน ข้อดีคืออยู่ใต้หลังคากันแดดกันฝนได้ระดับนึง อย่างน้อยจดหมายก็ไม่เปียกชุ่มแน่ๆ หากตอนฝนตก แต่ในเรื่องของความสะดวกในการใช้งาน เวลาคนนอกจะกดกริ่ง หรือบุรุษไปรษณีย์จะมาส่งจดหมายก็จะไม่สะดวกเท่าการวางตำแหน่งตู้จดหมายและกริ่ง ไว้หน้าบ้าน
ทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนกระจกกรอบบาน UPVC ด้านข้างเป็นกระจกบาน Fixed สำหรับรับแสงธรรมชาติเข้าไปภายในบ้านได้มากขึ้น
ด้านข้างมีโคมไฟติดผนังไว้ให้เพื่อเพิ่มแสงสว่างให้กับพื้นที่จอดรถมากขึ้น เนื่องจากหลังคาโรงจอดรถไม่ได้ติดดวงโคมไว้ให้ ดังนั้นการมีโคมไฟด้านข้างบริเวณทางเข้าหน้าบ้านก็สามารถช่วยเพิ่มแสงสว่างหน้าบ้านได้ดี
มือจับเป็นก้านโยกมาตรฐาน ด้านข้างบุยางเพื่อให้ปิดได้แนบสนิท สามารถลดเสียงจากภายนอกได้ดี ส่วน Fitting ของประตูแข็งแรง มีน้ำหนักดีค่ะ
เข้ามาภายในบ้านจะเจอกับส่วนพื้นที่นั่งเล่นซึ่งเชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหารด้านหลังบ้าน ภายในดูโปร่งโล่งด้วยความสูงฝ้าเพดาน 2.8 ม. และมีช่องเปิดขนาดใหญ่สามารถรับแสงธรรมชาติภายนอกเข้ามาได้ดี
หันกลับมาดูบริเวณพื้นที่นั่งเล่นหรือพื้นที่รับแขกกันนะคะ ขนาดพื้นที่บริเวณนี้มีขนาด 3.65 x 3.8 ม. ถือว่ามีขนาดใหญ่พอสมควรสำหรับทาวน์โฮม สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้ และมีระยะห่างระหว่างโซฟาและทีวีอยู่ที่ประมาณ 3.3 ม. สามารถวางทีวีขนาดใหญ่ได้ดีเลยค่ะ
จากบ้านตัวอย่างชุดโซฟาจะมีขนาดกะทัดรัดกว่าชุดโซฟา 3 ที่นั่งทั่วไปอยู่หน่อยนะคะ แต่ก็ด้วยพื้นที่ด้านข้างโซฟาที่เหลืออยู่ค่อนข้างมาก ดังนั้นหากต้องการจะใส่ชุดโซฟาขนาดใหญ่เลยจริงๆ ก็สามารถวางได้นะคะ หรือใครจะลดขนาดโซฟามาหน่อย ก็มีพื้นที่เหลือพอสำหรับ Built-in ชั้นวางของหรือ Pantry ทำเป็นเคาน์เตอร์บาร์ก็ได้เช่นกัน
หันมาที่ฝั่งตำแหน่งวางทีวีกันบ้างนะคะ จากบ้านตัวอย่างจะมีการ Built-in ฉากยกสูงขึ้นมาถึงฝ้าเพดานเพื่อให้มีพื้นที่วางทีวีมากขึ้น รวมทั้งช่วยบังสายตาจากโถงบันไดได้ดีค่ะ สำหรับบ้านมาตรฐานจะไม่ได้ฉากผนังด้านนี้นะคะ จะเห็นเป็นโถงบันไดโล่งๆ โดยลูกบ้านสามารถ Built-in ฉากอย่างห้องตัวอย่างเพิ่มเติมเองได้ค่ะ ส่วนด้านข้างตำแหน่งทีวีจะเห็นประตูห้องเก็บของอยู่ด้านข้างด้วย แต่ไม่มีมือจับนะเพื่อให้เนียนไปกับผนัง
ด้านในห้องเก็บของเป็นพื้นที่ใต้บันได ดังนั้นก็จะมีฝ้าเพดานเตี้ยหน่อย แต่ด้วยขนาดพื้นที่มีพอสมควรก็พอสามารถเก็บของได้ระดับนึงเลยค่ะ
ถัดมาเป็นส่วนด้านหลังบ้านซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่รับประทานอาหารฝั่งซ้าย และด้านขวานั้นจะเป็นห้องน้ำแบบ Powder Roomและพื้นที่ครัวค่ะ
สำหรับพื้นที่รับประทานอาหารนี้มีขนาด 4 x 3.65 ม. สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4-6 ที่นั่งได้ค่ะ สำหรับตำแหน่งรับประทานอาหารนี้อยู่ติดกับประตูบานเลื่อนที่ออกไปยังส่วนสวนหลังบ้าน ซึ่งลูกบ้านอาจจะทำต่อเติมเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร Outdoor ได้ หรือจัดสวนสวยๆ ได้ จะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศรับประทานอาหารได้ดีเลยค่ะ
ส่วนครัวจะเป็นครัวเปิดมีขนาดประมาณ 1.6 x 2.4 ม. สามารถวาง Pantry ทำเป็นชุดทำครัวในได้ แต่ด้วยลักษณะของครัวเปิดจึงไม่เหมาะกับการทำอาหารหนักมากนัก ด้วยเรื่องของกลิ่นอาหารที่ฟุ้งไปทั่ว ซึ่งหากใครที่ชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจก็สามารถทำพื้นที่นี้เป็นครัวปิดได้นะคะ แต่ก็จะเสียพื้นที่ Pantry และพื้นที่ทางเดินภายในครัวลงไปหน่อย
กลับไปดูห้องน้ำในชั้นล่างกันบ้างค่ะ มีการลดระดับจากพื้นชั้นล่างลงไปเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อนได้ดี
ภายในห้องน้ำเป็นแบบ Powder Room คือไม่มีพื้นที่อาบน้ำนะคะ โดยจะมีส่วนอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ ด้านบนติดพัดลมดูดอากาศให้เรียบร้อย เพราะเป็นห้องน้ำที่ไม่ได้อยู่ติดกับผนังภายนอกที่สามารถเจาะหน้าต่างเพื่อระบายอากาศได้
อ่างล้างมือจาก Cotto พร้อมตู้ Built-in ใต้อ่างสำหรับเก็บของเล็กๆ น้อยๆ ได้ค่ะ
ขนาดอ่างล้างมือกะทัดรัดมีพื้นที่วางของเล็กน้อยบริเวณด้านบน
โถสุขภัณฑ์จาก Cotto เช่นกัน มีระยะระหว่างโถอยู่ประมาณ 0.8 ซม. ถือเป็นระยะที่นั่งได้ค่ะ ไม่อึดอัดไปแต่ก็ไม่ได้กว้างมากนักสำหรับคนตัวใหญ่ๆ
เดี๋ยวเราออกไปดูส่วนหลังบ้านกันบ้างนะคะ สำหรับด้านหลังบ้านนี้แบ่งเป็น 2 ส่วนคือพื้นที่สวนและลานซักล้าง โดยฝั่งพื้นที่สวนจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกซึ่งสามารถมองวิวสวนจากบ้านได้ ส่วนลานซักล้างกั้นด้วยประตูเล็กบานเปิดปกติ
ในส่วนพื้นที่สวนนั้นสำหรับบ้านมาตรฐานจะได้เป็นพื้นถมทรายไว้ให้โล่งๆ อย่างที่เห็นในภาพล่างนะคะ ที่เห็นขนาดหลังบ้านใหญ่ก็เพราะแปลงที่ทำบ้านเปล่าเค้ามีที่ดินเหลือด้านหลังเยอะค่ะ ถ้าใครอยากได้หลังบ้านใหญ่ๆแบบนี้ก็เลือกแปลงที่มีที่ดินเยอะๆได้ค่ะ สำหรับรั้วข้างบ้านยกขึ้นมาค่อนข้างสูงเหมือนกันสร้างความเป็นส่วนตัวได้ระดับนึงเลย ส่วนรั้วรอบโครงการ (รูปบน) มีความสูงอยู่ที่ 3 ม. เป็นรั้วกำแพงทึบตลอดแนว
ลานซักล้างที่ได้ทำพื้นแบบ Slab On Beam ลงเสาเช็ม พร้อมปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.ให้เรียบร้อยดีค่ะ ใช้งานซักล้างต่างๆ ได้ดี บริเวณนี้จะเป็นจุดวางแท็งน้ำกับปั๊มน้ำด้วยนะ
เราขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อ บริเวณโถงบันไดชานพักแรกจะไม่มีหน้าต่างหรือกระจกด้านข้างมาให้เพราะติดกับส่วนตู้เก็บของส่วนที่จอดรถไปแล้ว ทำให้โถงบันไดในส่วนนี้ไม่สว่างมากนัก
ลักษณะบันไดที่นี่จะวางแตกแต่งจากที่อื่นอยู่นะคะ คือเป็นบันไดยาวขึ้นมาตรงๆ จนถึงชั้น 2 และพื้นชั้น 2 เป็นทางเชื่อมเข้าห้องนอนทั้ง 2 ห้อง จากนั้นจะเป็นบันไดรูปตัว U ขึ้นไปยังชั้น 3 ค่ะ ในเชิงของการใช้งานถือว่าโอเคเพราะมีชานพักที่ชัดเจน เดินง่าย ไม่มีขั้นรูป 3 เหลี่ยม แต่จะติดที่เรื่องของแสงบริเวณโถงบันไดชั้น 2 ที่จำเป็นต้องเปิดไฟเนื่องจากไม่มีช่องแสงค่ะ ส่วนวัสดุปิดผิวลูกนอนนั้นเป็นไม้เนื้อแข็งเฉดสีเดียวกับพื้นลามิเนตในชั้น 2 ดูสวยงามดีค่ะ
มาดูที่ห้องนอนเล็กกันก่อนนะ ขนาดพื้นที่ภายในห้องนอนนี้อยู่ที่ 3.2 x 3.5 ม. วางเตียงขนาด 3.5 – 5 ฟุต ได้ แต่ขนาดเตียง 5 ฟุตจะกินพื้นที่ทางเดินไปหน่อย ทำให้ฝั่งที่ติดกับหน้าต่างนั้นไม่มีทางเดินข้างเตียงไปนะคะ ส่วนด้านข้างเตียงได้หน้าต่างบานใหญ่ สามารถระบายอากาศและรับแสงเข้ามาได้ดี
ด้านข้างเตียงอีกข้างเป็นที่วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ สำหรับใครที่ซื้อเตียงขนาด 5 ฟุตมาลง อย่างที่บอกว่าระยะเดินข้างเตียงก็จะน้อยลงไป ซึ่งก็ควรจะซื้อตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนแทนบานเปิดเพื่อให้บานตู้เสื้อผ้าไม่ไปกินพื้นที่ทางเดินค่ะ
ฝั่งปลายเตียงมีตำแหน่งแขวนทีวีได้ โดยติดตั้งปลั๊กให้เรียบร้อย ด้านข้างเป็นห้องน้ำในห้องนอนของห้องนอนเล็กนี้ค่ะ
ภายในห้องนอนแบ่งเป็นส่วนเปียกและแห้งชัดเจน โดยเข้ามาจะเจอกับโถสุภัณฑ์ก่อน ด้านในเป็นอ่างล้างมือ และด้านข้างนั้นเป็นพื้นที่อาบน้ำซึ่งจะก่อผนังกั้นขึ้นมาชัดเจนกั้นระหว่างโถสุขภัณฑ์ ส่วนด้านทางเข้า-ออกพื้นที่อาบน้ำจะยกธรณีขึ้นสูงอย่างเดียวไม่ได้ให้ฉากกั้นกระจกนะคะ สำหรับการกั้นผนังแบบนี้ถือว่าเป็นสัดส่วนดี แต่ก็จะให้ความรู้สึกทึบ และดูขนาดห้องน้ำเล็กลงไปหน่อยเมื่อเทียบกับฉากกั้นกระจกนะ
โถสุขภัณฑ์ใช้รุ่นและยี่ห้อ Cotto เดียวกับห้องน้ำชั้นล่าง
อ่างล้างมือพร้อมกระจกเงา และตู้เก็บของด้านล่างก็เป็นรุ่นเดียวกับห้องน้ำชั้นล่างเช่นเดียวกันค่ะ
ขนาดพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.7 x 0.7 ม. เป็นขนาดกะทัดรัดตามขนาดของห้องน้ำในห้องนอนเล็ก
ฝักบัวสายอ่อนและที่ว่างสบู่จาก Cotto
ขนาดหัวฝักบัวกะทัดรัดไม่ใหญ่มาก ส่วนมือจับขนาดพอดีมือ จับได้ถนัดมือดีค่ะ
เข้ามาส่วนห้องนอนกลาง บริเวณทางเข้าจะเป็นโถงทางเดินกว้างประมาณ 1.2 ม. โดยประตูทางเข้าห้องอยู่ด้านขวา ตรงกลางเป็นพื้นที่โล่งสำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้าหรือวางตู้เสื้อผ้าขนาดเล็กได้ สำหรับด้านซ้ายจะเป็นทางเข้าห้องน้ำในห้องนอนกลางนี้ค่ะ
ห้องน้ำในห้องนอนกลางมีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยจากห้องน้ำในห้องนอนเล็กนะคะ โดยแบ่งพื้นที่เปียกและแห้งเป็นสัดส่วนเช่นเดียวกัน ส่วนสุขภัณฑ์ต่างๆ ใช้ยี่ห้อและสเป็คเดียวกับห้องน้ำห้องอื่นๆ แต่ต่างกันหน่อยตรงอ่างล้างมือที่ไม่ได้ตู้เก็บของด้านล่างอ่างแล้วแต่ทำเป็นเคาน์เตอร์หินแกรนิตสามารถวางของใช้ด้านข้างได้แทนค่ะ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดใหญ่ขึ้นจากห้องน้ำห้องนอนเล็ก ด้านข้างก่อผนังเพื่อกันน้ำกระเด็นได้ระดับนึง แต่ไม่มีฉากกั้นกระจกให้เช่นเดิมค่ะ
ฝักบัวและที่วางสบู่หน้าตาเหมือนเดิมกับห้องน้ำห้องนอนเล็ก
เข้ามาส่วนพื้นที่บริเวณเตียงนอนของห้องนอนกลางมีขนาดประมาณ 3 x 3.2 ม. สามารถวางเตียงขนาด 3.5-5 ฟุตได้สบาย และมีพื้นที่เหลือด้านข้างเตียงทั้ง 2 ด้าน ภายในห้องนี้ดูโปร่งโล่งเนื่องจากได้ช่องเปิดเป็นประตูบานเลื่อนกระจกบานใหญ่ทำให้แสงสว่างเข้าได้ดี
อีกมุมนึงชองห้องนอนมีพื้นที่ด้านข้างเตียงเหลือก็สามารถวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ได้ค่ะ
ปลายเตียงเป็นพื้นที่สำหรับแขวนทีวี มีการเดินระบบและปลั๊กไฟให้เรียบร้อย และด้านข้างมีประตูบานเล็กซึ่งเป็นประตูส่วนห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ
ภายในมีพื้นที่พอสมควรเลย สามารถเก็บของชิ้นใหญ่ได้ด้วย ซึ่งปกติบ้านทาวน์โฮมอื่นๆ เราจะไม่ค่อยได้เห็นฟังก์ชันห้องเก็บของในชั้น 2 กันเท่าไหร่นะคะ สิ่งที่โครงการนี้ทำมาให้ก็ทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์ที่พื้นที่ได้คุ้มค่ามากขึ้นดีค่ะ
ด้านหน้าห้องจะเป็นส่วนระเบียงที่หันไปทางหน้าบ้านนะคะ มีขนาดไม่ได้กว้างมากนัก เหมาะกับเป็นระเบียงออกมาสูดอากาศเล็กๆ น้อยๆ มากกว่าเพราะความกว้างของพื้นที่ไม่สามารถออกไปนั่งชิลริมระเบียงได้
ด้านข้างเป็นที่วาง CDU แอร์ด้วย
ขึ้นมาที่โถงบันไดชั้น 3 กันค่ะ บันไดในชั้นนี้จะเป็นรูปตัว U มีชานพักชัดเจนเดินได้สะดวก บริเวณโถงสว่างด้วยกระจกบานใหญ่ที่รับแสงเข้ามาได้ดี ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาไฟบ้านในช่วงกลางวัน
ขึ้นมาที่ชั้น 3 ก่อนเข้าไปในห้องนอนจะมีพื้นที่สามารถโต๊ะหมูบูชาพระได้ หรือจะ Built-in ชั้นวางของได้เพื่อไม่ให้พื้นที่เหลือเสียเปล่าไปค่ะ
ภายในห้องนอนใหญ่นี้ลักษณะเป็นห้องยาวจากหน้าบ้านถึงหลังบ้านเลย มีขนาด 3.1 x 9.2 ม. แบ่งเป็นส่วนเตียงนอนอยู่หน้าบ้าน ตรงกลางจะทำเป็นพื้นที่ทำงานหรือพื้นที่นั่งเล่นได้ตามใจชอบ ส่วนหลังบ้านนั้นจัดพื้นที่เป็นส่วน Walk-in Closet เป็นสัดส่วนได้เลยค่ะ สำหรับบริเวณเตียงนอนนั้นรองรับเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายเลยค่ะ
สุดทางเป็นระเบียงบริเวณหน้าบ้าน มีขนาดเท่าๆ กับระเบียงชั้น 2 สำหรับวาง CDU แอร์ และออกมาสูดอากาศเล็กๆ น้อยๆ ได้
หันกลับมาส่วนหลังบ้านจะเห็นว่าตรงกลางมีพื้นที่เหลือสามารถเพิ่มฟังก์ชันได้อย่างพื้นที่นั่งเล่นหรือพื้นที่ทำงาน สุดทางเป็นส่วน Walk-in Closet ที่ติดกับทางเข้าห้องน้ำ โดยบริเวณนี้สามารถกั้นประตูให้เป็นสัดส่วนได้เช่นเดียวกับบ้านตัวอย่างเลยค่ะ
บริเวณ Walk-in Closet ได้หน้าต่างบานใหญ่ระบายอากาศและทำให้ห้องดูสว่างดีค่ะ แต่ถ้าทำเป็นส่วน Walk-in Closet แล้วก็ต้องติดม่านบังสายตาไว้หน่อยนะ ^^
ตู้เสื้อผ้าวางขนาดใหญ่ได้จุใจเลย ไม่ต้องเบียดพื้นที่แขวนเสื้อผ้ากัน
เข้ามาในส่วนห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ได้พื้นที่ห้องน้ำค่อนข้างใหญ่ ทั้งพื้นที่อ่างล้างมือก็ได้เคาน์เตอร์หินแกรนิตและกระจกเงาใหญ่ขึ้น มีพื้นที่ระหว่างโถสุขภัณฑ์มากขึ้น
และพื้นที่อาบน้ำมีขนาดใหญ่อาบได้สบาย ด้านบนได้หน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บานระบายอากาศและความชื้นได้ดี รวมทั้งช่วยให้แสงสว่างเข้ามาภายในห้องน้ำได้ด้วยค่ะ ส่วนสุขภัณฑ์ห้องน้ำนี้ใช้สเป็คเดียวกันกับห้องน้ำห้องอื่นๆ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 23 September 2016
- แบบ A2 กลาง ยูนิต 63 พื้นที่ใช้สอย 201 ตร.ม. ที่ดิน 23.80 ตร.วา ราคา 7.42 ล้านบาท
- แบบ A1 กลาง ยูนิต 71 พื้นที่ใช้สอย 201 ตร.ม. ที่ดิน 24.40 ตร.วา ราคา 7.49 ล้านบาท
- แบบ E มุม ยูนิต 91 พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม. ที่ดิน 35.20 ตร.วา ราคา 11.7 ล้านบาท
- จอง 50,000 บาท
- ทำสัญญา 200,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 100,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า n/a ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการ SPACE ลาดพร้าว-เหม่งจ๋าย เป็นโครงการทาวน์โฮม 3-3.5 ชั้น ในช่วงราคา 7.4 – 11.7 ล้านบาท บนทำเลลาดพร้าว-เหม่งจ๋าย ซึ่งเป็นทำเลที่ไม่ค่อยมีโครงการแนวราบใหม่ๆ เกิดขึ้นมากนัก ส่วนใหญ่จะเห็นเป็นโครงการเก่าและคอนโดมิเนียมใกล้ถนนใหญ่เสียมากกว่า ทำเลในย่านนี้เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่มาแต่ดั้งเดิม มีความเจริญและความอุดมสมบูรณ์สูง หาของกินง่ายในระยะขับรถไม่ไกล และเป็นทำเลที่มีโรงเรียนเยอะตั้งแต่โรงเรียนรัฐบาลชื่อดังในย่านนี้ไปจนถึงโรงเรียนนานาชาติอีกหลายแห่ง ซึ่งตอบโจทย์ครอบครัวขยายที่มองหาบ้านใกล้โรงเรียน หาของกินของใช้ง่าย และมีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลาย เพราะอยู่ในซอยลาดพร้าว 80 จึงสามารถลัดไปออกถนนใหญ่ได้หลายสายด้วยกันทั้งถนนลาดพร้าว, รัชดาภิเษก, สุทธิสารวินิจฉัยและประชาอุทิศ ซึ่งช่วยละระยะเวลาในการเดินทางบนท้องถนนในช่วงเวลารถติดดี
ส่วนปัญหาหลักของโครงการนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของเสียงดังที่มาจากสนามฟุตซอลข้างๆในช่วงเวลากลางวัน จริงๆแล้วเสียงจากการเตะบอลไม่ได้มีผลมากนะคะแต่ถ้าวันไหนจัดงาน Event แล้วมีการใช้เครื่องเสียงต้องบอกมาเสียงดังพอสมควรเลยและส่วนใหญ่จะมีงานในช่วงเวลากลางวัน ค่ะ ถ้าเลือกยูนิตที่อยู่ห่างๆหน่อยเสียงก็เบาลงไปพอสมควรยิ่งถ้าอยู่ในบ้านปิดประตูหน้าต่างเปิดแอร์เสียงก็เบาไปเยอะเลย แต่ทางที่ดีแนะนำว่าให้เข้าไปลองฟังเสียงที่โครงการเลยจะดีกว่าค่ะจะได้รู้ว่าเรารับได้รึเปล่า
ส่วนใครที่มักจะพึ่งระบบสาธารณะในการเดินทางไปไหนมาไหนนั้นหากมองในแง่การเดินทางกลับเข้าบ้านถือว่าไม่ยากเพราะหน้าปากซอยลาดพร้าว 80 หรือใครมาจากรัชดาก็สามารถพึ่งพิงพี่วิน แท็กซี่เข้าโครงการได้สบาย แต่จากโครงการเองออกไปถนนใหญ่ระยะประมาณ 1.4 กม. ก็ถือว่าไกลพอสมควรในระยะเดิน และรอบๆ ก็ไม่มีจุดพี่วินให้ออกไปหน้าปากซอยได้ง่าย นอกเสียจากจะเรียก Grab Taxi หรือ Grab Bike กันเอง
สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการทาวน์โฮม มีทั้งหมด 94 ยูนิต บนเนื้อที่ทั้งหมด 10 ไร่กว่า มีการจัดผังค่อนข้างดีคือบ้านโซนด้านหน้าอยู่ติด Facilities ใช้งานได้สะดวก ส่วนบ้านโซนด้านหลังก็ได้พื้นที่สวนตรงกลาง เป็นการแชร์พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันได้ดี ส่วนการออกแบบบ้านนั้นมาในสไตล์ Modern มีแบบให้เลือกหลายแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกบ้านที่แตกต่างกัน ทั้งความสูงชั้น ฟังก์ชันภายใน อย่าง Type A2 ที่พาไปชมบ้านตัวอย่างกันนั้น จะตอบโจทย์ลูกบ้านที่ต้องการให้ห้อง Master Bedroom อยู่ในชั้นบนเพื่อมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แลกกับความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงบันได และด้วยฟังก์ชันในชั้นล่างที่ไม่มีพื้นที่พอต่อเติมหรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องผู้สูงอายุได้ รวมทั้งห้องน้ำที่ได้แบบ Powder Room ไม่มีพื้นที่อาบน้ำนั้นจึงเหมาะกับกลุ่มลูกค้าวัยกลางคน-วัยรุ่น เพราะจะต่อเติมเพิ่มพื้นที่ทีหลังเหมือนบ้านเดี่ยวก็ทำได้ยากเพราะไม่มีพื้นที่ดินด้านข้างบ้านสำหรับยูนิตแปลงกลาง
วัสดุของโครงการที่ให้มามาตรฐาน เริ่มจากงานพื้นที่จอดรถและลานซักล้างเป็นแบบ Slab On Beam วางเสาเข็มให้ ภายในบ้านปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ 60×60 ซม. สำหรับชั้นล่าง ส่วนชั้น 2-3 ปูด้วยพื้นลามิเนตหนา 12 มม. โครงบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกนอนและชานพักเป็นไม้เนื้อแข็งสีเดียวกับพื้นลามิเนต สุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก Cotto แต่จะมีพิเศษขึ้นมาหน่อยคือหลังคาที่จอดรถที่ทำให้มาให้เรียบร้อยทำจากโครงเหล็กส่วนหลังคาเป็น Polycarbonate เดินรางระบายน้ำสวยงามซึ่งจะให้เป็นมาตรฐานในทุกๆ หลัง
สาธารณูปโภค ให้มาครบแต่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากด้วยข้อจำกัดของโครงการขนาดเล็กซึ่งเป็นเรื่องปกติค่ะ สำหรับสาธารณูปโภคที่ได้คือ Club House ที่มี สระว่ายน้ำ ขนาด 17 x 4 ม. ระบบคลอรีน ห้อง Fitness มีเครื่องออกกำลังกาย 3 เครื่อง และมีพื้นที่สวนด้านหลังโครงการสำหรับเป็นพื้นที่เดินเล่นพักผ่อนของลูกบ้าน หรือให้เด็กๆ มาวิ่งเล่นได้ ส่วนเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการนั้นให้มามาตรฐาน คือมีรปภ.รักษาความปลอดภัย 24 ชม. เข้า-ออกด้วยระบบ Key Card Access ระยะใกล้ เปิด-ปิดด้วยไม้กระดกอัตโนมัติ และรอบรั้วโครงการมีความสูง 3 ม. ค่ะ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 7.5 – 11.7 ล้านบาท, 23 September 2016
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอย สามารถลัดไปออกถนนใหญ่ได้หลายสายแต่ติดเรื่องเสียงดังไปหน่อย
- ความปลอดภัย 7.25/10 – มาตรฐาน รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน Key Card Access
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – ตอบโจทย์วัยกลางคน-วัยรุ่น มีแบบให้เลือกเยอะ
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้ มีการทำหลังคาโรงจอดรถเพิ่มให้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – มีพื้นที่สวน 200 ตร.วา
- สาธารณูปโภค 6.75/10 – ครบแต่ไม่เยอะเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต
- 7.38/10
BOTTOM LINE
SPACE ลาดพร้าว – เหม่งจ๋าย เหมาะกับครอบครัวขยาย ที่มองหาทาวน์โฮม บนทำเลลาดพร้าว-เหม่งจ๋าย มีตัวเลือกในการเดินทางได้หลากหลาย มีความอุดมสมบูรณ์สูง หาของกินง่าย มีพื้นที่สวนและ Facilities ไว้ใช้งาน มีแบบบ้านให้เลือกและฟังก์ชันค่อนข้างหลากหลายตามสไตล์การอยู่อาศัยของลูกบ้าน ด้วยงบตั้งแต่ 7.4 – 11.7 ล้านบาท หรือมีราคาผ่อนต่อเดือนประมาณ 52,000 – 94,000 บาท
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )
