ozone

สวัสดีครับ รีวิวฉบับที่ 170 Mr.Oe  ยังอยู่ที่รามอินทราครับ เก็บรีวิวทาวน์โฮม 3 ชั้น Ozone รามอินทรา และ จามจุรีพาร์ค เป็นรีวิวแบบแพ็คคู่มาฝากเป็นตอนต่อเนื่องจากรีวิวฉบับที่ 154 จามจุรีพาร์ค ทาวน์โฮม 2 ชั้นนะครับ ซึ่งจริงๆแล้วโครงการก็ตั้งอยู่ในทำเลเดียวกัน ห่างกันนิดเดียว และ Developer ของทั้ง Ozone และ จามจุรีพาร์ค ก็คือ AssetWise เพียงแต่ Concept ของทั้งสองโครงการต่างกัน เลยต้องใช้คนละ Brand

Fact @ 23 May 2012

  • จามจุรี พาร์ค รามอินทรา – Ozone รามอินทรา
  • Asset Wise
  • Segment การตลาด 3-4 ล้านบาท
  • ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 – 6 เมตร 
  • 3 ห้องนอน 3-4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • พื้นที่ใช้สอย  150 – 220 ตารางเมตร
  • เนื้อที่ดิน 20 – 24 ตารางวา ห้องมุม 28 – 32 ตารางวา
  • ราคาเริ่มต้น 2.99 – 3.88 ล้านบาท 
  • www.jamjureepark.com

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

 

แผนที่ทั้งสองโครงการ อยู่ไม่ไกลกันเลย และอยู่ในทำเลใกล้ๆกับ จามจุรีพาร์ค ทาวน์โฮม 2 ชั้นที่เคยรีวิวไปแล้ว ใครเคยอ่านแล้วก็ข้ามไปได้เลย ส่วนใครที่ยังไม่เคยอ่าน  Click ที่นี่เพื่อดูรีวิว 154 จามจุรีพาร์ค ทาวน์โฮม 2 ชั้นครับ 

ดูแผนที่ใน Google อีกที ตัว Ozone จะอยู่ที่ซอยรามอินทรา 5 ส่วนจามจุรีพาร์ค อยู่ที่ สุขาภิบาล 5 แยก 5 ซึ่งจริงๆ มันก็คือซอยที่ทะลุหากันได้หมดครับ

หน้าโครงการ Ozone

ติดถนนซอยเลยทำการค้าได้นะครับ ถนนหน้าโครงการไปทะลุออกพหลโยธิน 48 ได้

หน้าโครงการจามจุรีพาร์ค

ป้ายซอย สุขาภิบาล 5 แยก 5 ซอย 21

 

เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการทาวน์โฮม Ozone และ จามจุรีพาร์ค แบบ 3 ชั้น จะเป็นโครงการที่ใหญ่ เขยิบขึ้นมาจากจามจุรีพาร์ค ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่เคยรีวิวไปแล้ว Concept เหมือนเดิม คือเป็นโครงการขนาดเล็ก กระจายอยู่ในย่านซอยจามจุรี หรือตั้งแต่ ซอยรามอินทรา 5 ไปจนถึง รามอินทรา 31 (สุขาภิบาล 5 แยก 5) โครงการเน้นความคุ้มค่า ราคาไม่แพง ทำเลใช้ได้ แต่ข้อเสียคือ Facility ส่วนกลางน้อยมากจนถึงขั้นไม่มีเลย ก็ต้องไปดูและเลือกเอานะครับ ว่าเหมาะกับเราไหม ตัวราคาของจามจุรีพาร์คแบบ 2 ชั้น อยู่ในระดับ 2 ล้านบวกลบนิดหน่อยแล้วแต่ขนาดที่ดิน ส่วน 3 ชั้น จะอยู่ระดับ 3-4 ล้านบาท โดยโครงการ Ozone จะแพงสุด เพราะเป็นหน้ากว้าง 6 เมตรและได้พื้นที่ใช้สอยถึง 220 ตารางเมตร

ลักษณะของโครงการเป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอน ตัดปัญหาเรื่องความไม่มั่นใจว่าจ่ายแล้วต้องรอหรือไม่ชัวร์เรื่อง Developer เพราะได้ดูบ้านหลังที่อยากซื้อให้พอใจ ก่อนจ่ายตังค์ ก็ดีครับ แฟร์ดี ส่วนตัว Developer ก็เป็นที่รู้จักเฉพาะคนย่านนี้ เพราะอยู่ในโครงการเอง และมุ่งเน้นทำแต่ทำเลแถวรามอินทรามาหลายปีแล้ว

โครงการโดยรวมออกแบบมาโดยเน้นความคุ้มค่าในการใช้พื้นที่ และให้วัสดุที่คุ้มค่า โดยเผื่อการต่อเติมไว้ให้แล้ว บางโครงการก็มีพื้นที่หลังบ้านเยอะเลย ซึ่งลงเข็ม 21 เมตร เท่าตัวบ้านไว้ให้ เผื่อจะอยากต่อครัว

ตัวโครงการ Ozone จะใหญ่และอยู่ในทำเลที่ดีกว่า จามจุรีพาร์ค อื่น แน่นอนว่าราคาก็จะขยับขึ้นมาสูงกว่าด้วย

ป้ายโครงการ Ozone

สำนักงานขาย Ozone ก็อยู่ที่หน้าโครงการนั่นแหละครับ อยู่ติดป้อมยามเลย

หน้าโครงการ บ้านด้านหน้าที่ติดถนน เหมาะทำการค้า และออฟฟิศมากกว่านะครับ โครงการนี้มีป้อมรปภ และมีรปภเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนของจามจุรีพาร์ค ทาวน์โฮม 3 ชั้น ก็ติดถนนซอยสุขาภิบาล 5 แยก 5 เหมือนกัน ตัวบ้านจะอยู่กันเป็นกลุ่ม 10 หลัง (แถวละ 5) ในซอยแยกตื้นๆ และมีประตูเลื่อนรีโมท ปิดหน้าซอยเข้าบ้านอีกที แต่ไม่มี รปภ นะครับ ต้องดูแลกันเอง

สำนักงานขายของจามจุรีพาร์ค 3 ชั้น อยู่ที่หน้าโครงการเช่นกัน

 

 

Product Walkthrough

เริ่มที่ Ozone ก่อน แบบบ้านด้านหน้าครับ Concept ของโครงการ Ozone คือการดึงเอาพื้นที่สีเขียวและมุมพักผ่อน Outdoor เข้ามาในบ้าน แม้ว่าจะเป็นทาวน์โฮม แต่คนรักต้นไม้ ก็มีพื้นที่เล็กๆให้ปลูกต้นไม้ได้ครับ เนื้อที่ดินเริ่มต้น 24 ตารางวา ห้องมุมได้พื้นที 32 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยรวม 220 ตารางเมตร

ตัวผังชั้น 1 ด้านหน้าจอดรถสองคันได้แบบสบายๆ เพราะกว้างร่วม 6 เมตร ชั้นหนึ่งจัดสรรพื้นที่แบบเบสิค คือเป็นส่วนรับแขก ทานอาหาร มีห้องเก็บของใต้บันได มีห้องน้ำแขก (อาบน้ำไม่ได้) และมีห้องครัวกั้นเป็นสัดส่วนเรียบร้อย ด้านหลังบ้านเป็นเทอเรส และพื้นที่ซักล้าง พื้นปูกระเบื้อง

ชั้นสอง จะเริ่มเห็นความเป็น Concept Ozone แล้ว คือตัวแบบบ้าน แม้จะเป็นทาวน์โฮม แต่พยายามเพิ่มพื้นที่สีเขียว เข้ามาในบ้านด้วย โดยการมี Terrace ในห้องนั่งเล่นชั้น 2 ซึ่งพอจะจัดสวนไม้กระถางได้ มีห้องน้ำสำหรับห้องนั่งเล่นด้วย ชั้นนี้มี  Master Bedroom อยู่ด้านหน้าบ้าน พื้นที่เยอะจัดห้องสนุก มี Walkin Closet ขนาดกำลังดี และมีห้องน้ำในตัว พื้นปูกระเบื้อง

ชั้น 3 นี่มีทีเด็ดอยู่ที่การจัดให้มี 2 ห้องนอน แบบแบบมี ระเบียงทั้งคู่ แถมห้องด้านหน้ามีระเบียงใหญ่มาก ทำสวนและวางเก้าอี้นั่งเล่น Outdoor ได้เลย ห้องนอนด้านหลังมีระเบียงหลังบ้าน ขนาดไม่ใหญ่ และมีห้องพระ หรือจะทำเป็นที่นั่งเล่น ทำงานอ่านหนังสือก็ได้ ไปดูของจริงกันครับ 🙂

หน้าบ้าน หลังนี้เป็นหลังมุม มีเนื้อที่เพิ่มมาจากแบบปกติอีก 8 ตารางวา รวมเนื้อที่ดิน 32 ตารางวา ข้อดีคือนอจากจะมีสวนเล็กๆที่ข้างบ้านได้แล้ว ยังมีหน้าต่างและประตูด้านข้าง เพื่อนำแสงธรรมชาติเข้าบ้าน และอากาศไหลเวียนดี

รั้วที่ติดกับบ้านข้างๆเป็นรั้วโปร่ง ประตูเหล็กด้านหน้าพับได้จนสุดสนิท เปิดออก 2 ด้าน

ความกว้างของบ้าน 6 เมตร ทำให้มีการจัดวาง Function ห้องเก็บของหน้าบ้าน และเฉลียงหน้าบ้านได้ดี ถอยรถเข้าออกได้ไม่ต้องกังวล

พื้นที่จัดสวนเล็กๆด้านข้างบ้าน

เฉลียงด้านข้างบ้าน ตรงกับส่วนรับประทานอาหาร

หลังบ้าน มีสองส่วน ส่วนนี้จัดสวนได้ อีกส่วนเป็นพื้นที่ซักล้าง

หลังบ้านชนกัน ตามสูตร

ประตูและเฉลียงด้านหน้า

ประตูบานไม้ แข็งแรงกว่า กระจกบานเลื่อน แต่อาจจะไม่ได้ดูโปร่งโล่งเหมือนประตูกระจก

หน้าต่าง

มือจับเขาควาย

เปิดประตูเข้ามาเจอห้องนั่งเล่น รับแขก และส่วนรับประทานอาหาร

ถ้าจัดชุดรับแขกแบบนี้ ดูทีวีลำบากหน่อย ต้องปิดม่าน

ออกแบบบันไดทางขึ้นสวยดีครับ วางโต๊ะเก็บของได้ พื้นที่ใต้บันไดเป็นห้องเก็บของ แต่ประตูเปิดเข้าออกอยู่ด้านหน้าบ้าน

ส่วนนั่งเล่นอีกมุม

ส่วนรับประทานอาหาร มีทางออกด้านนอกและช่องแสงสองด้านคือ ด้านหลัง และด้านข้าง ถ้าเปิดประตูก็ระบายอากาศดีมาก

เฉลียงข้างบ้าน

ประตูขาวๆซ้ายมือคือห้องน้ำ สำหรับแขก อาบน้ำไม่ได้ ส่วนประตูกระจกบานเลื่อนคือห้องครัว จัด Pantry มาให้เรียบร้อย

ห้องครัว พร้อมเตาและที่ดูดควัน เป็นสัดส่วนและใช้งานได้จริง การระบายอากาศ ออกด้านหลังบ้าน

ห้องน้ำรับแขก ปูกระเบื้องจรดเพดาน และเจาะช่องวางของให้เรียบร้อย

ห้องน้ำลดระดับเรียบร้อย

โถสุขภัณฑ์ของ Cotto อ่างล้างหน้าของ Nahm

บันไดบ้าน วัสดุเป็นไม้สำเร็จรูปคอนวูดย้อมสี จัดวางตำแหน่งสวยดี

น่าเสียดายที่ชานพักเป็น Step เวลาขึ้นลงระวังหน่อยนะครับ

พอวนขึ้นชั้นสองราวจับบันไดได้เป็นสแตนเลส 🙂

ชั้นสองมี Family room มุมพักผ่อนส่วนตัวของครอบครัว

กว้างขวางวางทีวีแล้วยังเหลือพื้นที่เยอะ

ประตูขาวคือห้องน้ำเล็ก สำรองเผื่อเหลือเผื่อขาด และสะดวกเวลาใช้ Family room พื้นที่ระเบียงออกแบบไว้จัดสวนเล็กๆได้ สำหรับคนชอบปลูกต้นไม้คงจัดสวนกระถางได้พอสมควร

พื้นที่ประมาณนี้

หน้าต่างเล็กๆระบายอากาศจากห้องน้ำ

หลังบ้าน พื้นที่ซักล้างด้านซ้าย พื้นที่จัดสวนด้านขวา

หลังบ้าน

Master Bedroom เปิดประตูมาเป็นส่วนแต่งตัว

อีกด้านเป็นตู้เก็บของ

Master Bedroom ค่อนข้างพื้นที่เยอะ

ช่องหน้าต่างด้สนข้าง

ห้องน้ำพื้นลดระดับ ปูกระเบื้อง

ห้องน้ำมีช่องระบายอากาศและความชื้น 2 ด้าน เพราะเป็นหลังมุม

ส่วนอาบน้ำ ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้นะครับ ส่วนหน้าต่างนั่นเป็นแบบมัว

อ่างล้างหน้าของ Cotto

ชั้นสาม ขึ้นบันไดมาจะเจอห้องนี้ก่อนใคร ตามแบบคือห้องพระ แต่จะปรับเป็นห้องนั่งเล่น อ่านหนังสือก็ได้ ห้องนี้มีระเบียงเล็กๆด้วย

มองไปด้านตรงข้ามห้องพระ เจอช่องแสงสามช่อง เจาะออกมาจากระเบียงใหญ่

ห้องนอนเล็ก ที่อยู่ติดกับห้องพระ มีระเบียงส่วนตัวเหมือนกัน

ข้างเตียงวางโต๊ะวางของ

ระเบียงเล็ก

ปลายเตียงเหลือพื้นที่เยอะ จัดเป็นตู้เสื้อผ้าและตู้ใส่ของ ห้องนี้พื้นที่คบยาว มีระเบียง จะจัดห้องยากหน่อย แต่ถ้าทำงาน Built in ล่ะก็ ง่ายครับ

ห้องนอนเล็กอีกห้อง

ผนังชมพูหวานเชียว ประตูที่เห็นขวาสุดคือประตูออกระเบียง

ปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง ถ้าจัดใหม่แขวนทีวีแล้วเอาตู้เสื้อผ้าไปวางผนังข้างเตียงได้ครับ

ระเบียงใหญ่ที่ชั้นสาม  ใหญ่จริง วางเก้าอี้นั่งเล่นสบายๆ จะจัดสวนก็ได้ แต่ต้องเป็นไม้กระถางและไม้ที่ชอบแดดร่มรำไร พื้นที่ตรงนี้ดีเหมาะสำหรับคนอยากทำอะไรนอกบ้านบ้าง

ห้องน้ำ สุขภัณฑ์เหมือนชั้น 1

พื้นที่ยืนอาบน้ำ และช่องระบายอากาศ

มีปลั๊กไฟให้ด้วย เป็นแบบมีฝากันน้ำ

ต่อด้วยจามจุรีพาร์คแบบ 3 ชั้นครับ

แบบบ้านจามจุรีพาร์คแบบ 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 150 ตารางเมตร บนเนื้อที่ดิน 20 ตารางวา ส่วนห้องมุม 28 ตารางวา จอดรถได้สองคันเบียดๆ

ผังชั้น 1 ค่อนข้างเบสิค แต่ผมชอบเฉลียงและการออกแบบแนวประตูทางเข้าเพราะทำให้พื้นที่หน้าต่างหน้าบ้านได้เต็มดี ประตูห้องเก็บของใต้บันไดก็เอามาไว้ด้านนอกด้วย ครัวแยกเป้นสัดส่วน เปิดปิดด้วยประตูบานเลื่อน มีห้องน้ำรับแขก อาบน้ำไม่ได้ ด้านหลังมีส่วนสวน และพื้นที่ซักล้าง ถ้าจะต่อเติมก็พอจะได้อยู่ ห้องมุมมีประตูเปิดออกเฉลียงข้างบ้านด้วย

ชั้นสอง เป็นห้อง Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว และมี Family Room ชั้นนี้ค่อนข้าง เบสิค แต่ดูดีๆ ห้อง Family Room สามารถทำประตูกั้นได้ครับ

ชั้น 3 มีสองห้องนอน ระเบียงอยู่ตรงกลาง เพราะส่วนตรงกลางเค้าออกแบบเป็นห้องพระครับ แต่สามารถใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้ แค่เอาโซฟามาวางก็สบายแล้ว ไปดูของจริงกันค้าบบบ 🙂

หน้าบ้าน

ประตูรั้วด้านหน้าเปิดได้สุดนะครับ ไม่เกะกะ พื้นที่จอดรถปูกระเบื้องกันลื่นเรียบร้อยแล้ว จอดรถเล็กๆสองคันได้ แต่ถ้าคันใหญ่ คงได้คันเดียว

รั้วข้างบ้านโปร่ง พื้นปรับ Slope เทลาดลงหน้าบ้าน

ชานหน้าบ้าน ประตูเล็กสีขาวเป็นห้องเก็บของใต้บันได ส่วนประตูบ้าน แอบเปิดเข้าแนวข้าง

ใส่กระจกหน้าบ้านได้เต็มๆ

ประตูเข้าบ้าน

ห้องนี้เป็นห้องมุม มีสวนข้างบ้านด้วย

เปิดประตูเข้ามาเจอห้องนั่งเล่น

ทางขึ้นบันได ตีฝ้าเป็นโค้งๆ สวยดีครับ แต่บ้านจริงเป็นแบบธรรมดาไม่โค้งนะ

บันไดทางขึ้นบ้าน ทำสวยดีครับ

ชุดโซฟานั่งเล่น

ตำแหน่งวางทีวี

ประตูกระจกบานเลื่อนออกไปเฉลียงข้างบ้าน

พื้นที่ทานอาหาร

ห้องน้ำชั้นล่าง

พื้นลดระดับเรียบร้อย

ห้องครัวกั้นประตูกระจกบานเลื่อนเป็นสัดส่วน มีชุดครัวให้มาเรียบร้อย

ประตูออกหลังบ้าน ส่วนซักล้าง และหน้าต่างระบายอากาศ

ชุดครัวจัดเต็ม

หลังบ้าน พื้นลดระดับ

ส่วนซักล้างหลังบ้าน

บันไดขึ้นชั้น 2 ชานพักเป็น Step อีกละ

Family Room

ระเบียงห้อง Family Room

ห้อง Family Room นั่งเล่นนอนเล่นสบาย ห้องนี้ใส่ประตูกั้นห้องได้ไม่ยาก

มีแอบโต๊ะทำงานไว้ด้วย

ระเบียงอีกมุม

โถงทางขึ้นชั้น 3

Master Bedroom

ข้างเตียงมีพื้นที่ใส่ตู้ได้

ปลายเตียง ทำฉากตั้งแขวนทีวี จัดให้ดูเป็นไอเดีย ของจริงเป็นห้องเปล่านะจ๊ะ

ฉากตั้งแขวนทีวีอันนี้ ไอเดียคือทำตัวเป็นผนัง เพื่อความเป็นสัดส่วน เพราะอีกด้านเป็นตู้เสื้อผ้าตลอดแนวผนัง ทำให้เกือบจะกลายเป้น Walkin -Closet

ห้องน้ำ

พื้นห้องน้ำลดระดับเรียบร้อย

ห้องน้ำมีระบายอากาศ เพราะเป็นห้องมุม

ส่วนอาบน้ำ ขนาดโอเค แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้

ประตูห้องนอน

ชั้นสาม มีพื้นที่โถงกลาง มีระเบียงช่องแสง เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ แต่ทางโครงการจัดเป็นห้องพระให้ดู เจ้าของโครงการท่าทางจะธรรมะธรรโมนะ เห็นทำห้องพระหลายหลังละ

นี่ครับ พอกั้นพื้นที่ให้ดี ก็ได้ห้องพระเป็นศูนย์รวมจิตใจของบ้านแบบนี้ เอาไว้ชั้นบนสุดหน้าห้องนอนของลูกๆกันเรยทีเดียว

ห้องนอนเล็ก 1

พื้นที่เหลือเฟือ หน้าต่างยาวตลอดแนว

แต่ตู้เสื้อผ้าเล็กไปนิดนะ

ห้องน้ำชั้นสามใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กทั้งสองห้อง

พื้นที่อาบน้ำ ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้ และพื้นลดระดับน้อยไปนิดสำหรับใครที่คิดจะซื้อม่านกั้นผ้าพลาสติกมาแขวน แนะนำให้ลงทุนติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย หรืออคลิลิคก็ยังดี พื้นจะได้ไม่เปียกเลอะเทอะ ไม่ลื่น ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุในห้องน้ำได้ เชื่อผมเถอะครับ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าแน่นอน

อ่างล้างหน้า

ห้องนอนเล็ก 2

ตุ๊กตาจะเยอะไปไหน ..

มีช่องสำหรับ Built ตู้เสื้อผ้าด้วย อันนี้ทำให้ดูไม่แถมนะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย

  • จามจุรีพาร์ค 3 ชั้น พื้นที่ดิน 20 ตรว พื้นที่ใช้สอย 150 ตรม 3 นอน 3 น้ำ  ราคาขาย 2.99 ล้านบาท
  • Ozone ทาวน์โฮม 3 ชั้น พื้นที่ดิน 24 ตรว พื้นที่ใช้สอย 220 ตรม 3 นอน 4 น้ำ  ราคาขาย 3.88 ล้านบาท

โปรโมชั่น

  • จองพร้อมทำสัญญา 19,999  บาท กู้ไม่ผ่านคืนเงิน
  • ฟรีค่าใช้จ่ายในการโอน
  • เพื่อนๆจาก ThinkOfLiving แถมทอง 3 บาท 🙂 คุยเงื่อนไขเพิ่มเติมกับน้องๆฝ่ายขายได้ครับ

เจาะลึกรวบยอด

 

บทสรุปคล้ายกับโครงการ 2 ชั้นนะครับ Ozone และ จามจุรีพาร์ค ทาวน์โฮม 3 ชั้น ทั้งสองโครงการ เหมาะกับคนที่ยังรักทำเลย่านรามอินทราตอนต้น ย่านนี้ ไม่หนีไปไหน เพราะปีที่แล้วท่วมนะครับ หวังว่าจะเป็นบทเรียนที่ไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นอีกง่ายๆ ทำเลตรงนี้เทียบกับราคาที่จ่าย 3-4 ล้านบวกลบนิดหน่อย จัดว่าไม่เลวเลย เพราะเมื่อสะพานข้ามแยกเสร็จ รถหายติดไร้สาระกันไปเยอะ เข้าออกเมืองสะดวกได้สามทาง ทั้งรามอินทราตรงๆ ทางด่วนตรงลัดออกวัชรพล และอีกทางไปโผล่ออกพหลโยธิน 48 ถนนและซอยแถวนี้ชาวบ้านใช้กันสนุกเพราะมันเชื่อมและทะลุออกได้หลากหลายมาก

การเดินทางโดนรถส่วนตัวจัดว่าสะดวกใช้ได้ แม้จะมีรถติดบ้างในช่วงเช้าและเย็น แต่ก็ดีกว่าแต่ก่อนพอสมควร ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ ก็มีทางเลือกทั้งพี่วิน สองแถว แทกซี่ รถเมล์ และพี่ตู้ เรียกว่ามากันครบ แต่อาจจะต้องสองต่อสามต่อ และตอนกลางคืนดึกๆ ก็ไม่สะดวกเท่าไร ในอนาคตมีรถไฟฟ้ามา ก็คงเพิ่มความสะดวกให้อีกมากแบบคาดไม่ถึง

ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการ Ozone จัดว่าสะดวก และสมบูรณ์ใช้ได้ครับ มีร้านค้าและมินิมาร์ทใกล้ๆ ถ้าขับรถออกไปทั้งตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ ด้านพหลโยธิน และ Central อยู่ใกล้นิดเดียวแค่ระยะปากซอย ส่วนจามจุรีพาร์ค 3 ชั้น ความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการ จัดว่าน้อยในระยะเดินเท้า เพราะรอบๆระยะ 300 เมตร มีแต่บ้านคน มีร้านค้าร้านอาหารในซอยเป็นระยะๆ แต่คงต้องใช้จักรยาน เดินไม่ไหว แต่ถ้านั่งสองแถวหรือพี่วิน ออกปากซอยได้ แซ่บเรย เพราะมีทั้งตลาด,  Food Land, Big C Extra, Central รามอินทรา และร้านอาหาร ร้านค้าอีกมากมาย ครบครับ ส่วนพื้นที่สีเขียวมีสวนกีฬารามอินทรา  Ozone เดินไปได้ แต่จามจุรีพาร์ค ต้องจักรยานหรือขับรถไปครับ ไกลไปนิด

การออกแบบหน้าตาไม่โดดเด่น แต่มีลูกเล่นเยอะดี โดยเฉพาะ Ozone จัดพื้นที่มาได้เหมาะกับคนที่ชอบมุมจัดสวนเล็กๆมาก มีมุมเปิดหาพื้นที่โล่งเยอะ ส่วนจามจุรีพาร์ค ค่อนข้างจะเบสิค มีจุดเด่นตรงลูกเล่นหน้าบ้าน น่าเสียดายที่ห้องน้ำด้านล่างอาบน้ำไม่ได้ สำหรับห้อง 3 ห้องนอน ถ้าอาบน้ำข้างล่างได้ด้วย จะช่วยได้มาก

วัสดุอุปกรณ์ และงานโครงสร้างที่ให้มา จัดว่าดี ชอบผนังอิฐมวลเบา และปูแผ่นสะท้อนความร้อน รวมถึงประตูหน้าที่เป็นบานไม้แข็งแรงไม่ใช่บานกระจกเลื่อนบอบบาง รวมถึงพื้นทั้งหมดภายในที่เป็นกระเบื้องแกรนิตโต ที่โครงการจัดมาให้ ถือว่า ดีครับ ทนดี แต่ความสวยงามคงแล้วแต่คนมอง สำหรับราคา ระดับนี้ ที่ทำเลนี้ ถือว่าค่อนข้างโอเคแล้ว

สาธารณูปโภคส่วนกลาง พวกสระสวน ไม่มีนะครับ และรปภ มีแต่ที่ Ozone ทางลูกบ้านต้องดูแลกันเอง เพราะเป็นโครงการขนาดเล็ก มีไม่กี่สิบหลังต่อทำเล ซึ่งถือเป็นข้อเสียเปรียบเมื่อเทียบกับโครงการขนาดใหญ่ Facility จัดเต็ม ดีหน่อยที่ถนนหน้าบ้านค่อนข้างกว้าง และยกระดับสูงกว่าถนนซอยพอสมควร และมีประตูหน้าให้อีกชั้นแต่ลูกบ้านต้องดูแลเอง

Judgement

ผมปรับเกณฑ์การให้คะแนน สำหรับโครงการทาวน์โฮมใหม่นะครับ เริ่มใช้ที่รีวิวนี้เป็นโครงการแรก และจะพยายามปรับปรุงเกณฑ์ ให้มีมาตรฐาน และเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านไปเรื่อยๆครับ

ทำเล 35% , ความสะดวกในการเดินทาง 20%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%,  ความปลอดภัย 10%, และสาธารณูปโภค 10%

Ozone เทียบกับราคา 4 ล้านบาท, 23/05/2012

  • ทำเล 8/10 – ทำเลรามอินทราต้นๆ มีอนาคต ใกล้สวนสาธารณะ
  • ความสะดวกในการเดินทาง 8.5/10 – ทางเลี่ยงทางลัดเยอะมาก เดินทางสะดวกขึ้นเยอะตั้งแต่สะพานข้ามแยกเสร็จ คนพื้นที่จะทราบดี
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – พื้นที่ใช้สอยจัดมาดี หน้ากว้าง 6 เมตร 220 ตรม หาคนทำขายยากในราคานี้ (18,000 บาท ต่อ ตรม + ที่ดิน 24 ตรว) การจัดพื้นที่แบบนี้คนชอบต้นไม้น่าจะชอบ
  • วัสดุ 8/10 – วัสดุตามมาตรฐานราคา
  • ความปลอดภัย 6/10 – เป็นโครงการเล็ก จึงมีแค่ รปภ หน้าโครงการเท่านั้น
  • สาธารณูปโภค 5/10 – น้อย มีแต่สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน

  • 7.68 / 10.00

จามจุรีพาร์ค 3 ชั้น เทียบกับราคา 2.88 ล้านบาท, 23/05/2012

  • ทำเล 8/10 – ทำเลเทียบกับราคาไม่ถึง 3 ล้าน ได้สุขาภิบาล 5 แยก 5 ยังอยู่ต้นๆรามอินทราอยู่
  • ความสะดวกในการเดินทาง 8.5/10 – ทางเลี่ยงทางลัดเยอะมาก เดินทางสะดวก
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – พื้นที่ใช้สอยจัดมาใช้ได้ หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 150 ตรม (19,000 บาทต่อตารางเมตร + ที่ดิน 20 ตรว)
  • วัสดุ 8/10 – วัสดุตามมาตรฐานราคา
  • ความปลอดภัย 5/10 – เป็นโครงการเล็ก มีแค่ประตูรีโมทด้านหน้า ต้องช่วยกันดูแล
  • สาธารณูปโภค 5/10 – น้อย มีแต่สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน

  • 7.50 / 10.00

 

BOTTOM LINE

Ozone และจามจุรีพาร์ค รามอินทรา เหมาะกับคนพื้นที่ย่านนี้ ที่ใช้ชีวิตและคุ้นเคยกับย่านนี้ มีครอบครัว พ่อ แม่ หรือญาติผู้ใหญ่ที่ต้องดูแล มีของสะสม หรือสัตว์เลี้ยง ต้องการบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าคอนโดที่พื้นที่น้อยแต่สะดวก มีงบประมาณ 3-4 ล้านบาท


ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ