รีวิวโครงการ Cote Maison พระราม 3 จาก ซิตี้ รีสอร์ท ลิฟวิ่งโฮม โครงการนี้เป็นทาวน์โฮม 4 ชั้นบนถนนนนทรี ย่านพระราม 3 เป็นที่ทราบกันดีว่าที่ดินในย่านนี้หาได้ค่อนข้างยากแล้วนะคะ ปัจจุบันโครงการนี้กำลังเปิดขายเฟสใหม่เพิ่มเติม เพียง 21 ยูนิต ใกล้โซนคลับเฮาส์ กับราคาเริ่มต้น 17.9 ล้านบาท
- ทำเล : ตั้งอยู่ในทำเลเมือง ติดถนนวงแหวนอุตสาหกรรม เชื่อมถนนพระราม 3 ได้ เดินทางเข้าไปทำงานย่านสีลม, สาทร, พระราม 4 ฯลฯ ได้ง่าย รายล้อมไปด้วยสถานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน
- ขนาดและพื้นที่ : ทาวน์โฮมหน้ากว้าง 6.5 เมตร ออกแบบมาเป็น 4 ชั้น ได้พื้นที่ใช้สอยกว้าง 290-300 ตารางเมตร สามารถจัดฟังก์ชันปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ โดยเฉพาะชั้น 2-3 จะได้เป็นห้องกว้างโล่ง กั้นเพิ่มหรือต่อเติมได้ เพราะโครงสร้างบ้านเป็นอิฐมวลเบาทั้งหลัง ได้ห้องน้ำภายในตัวทุกห้อง และยังได้หน้ากว้างบ้านถึง 6.5 เมตร จอดรถได้ 2 คันแบบสบายๆ ไม่อึดอัด
- บรรยากาศภายในโครงการ : โครงการนี้มีเพียง 79 ยูนิต จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูง บรรยากาศเงียบสงบ เนื่องจากด้านหน้าโครงการติดกับถนนนนทรี ซึ่งเป็นซอยตัน ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก ส่วนภายในร่มรื่นด้วยพื้นที่สีเขียวบริเวณกลางโครงการ พร้อมอาคารคลับเฮาส์ที่มีฟังก์ชันต่างๆ ให้ลูกบ้านใช้งานครบครัน
ข้อมูลโครงการ
Cote Maison Rama 3 (โคเต้ เมซอง พระราม 3) ณ วันที่ 18 สิงหาคม 2564
ชื่อโครงการ | Cote Maison Rama 3 (โคเต้ เมซอง พระราม 3) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท ซิตี้ รีสอร์ท ลิฟวิ่งโฮม จำกัด |
SEGMENT CLASS | LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนนนทรี เขตยานนาวา |
ที่ดิน | 8-1-6.2 ไร่ |
จำนวนยูนิต | จำนวน 79 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.6 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 300,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ไตรมาสแรก ปี 2563 จำนวน 21 ยูนิต (เฟสสุดท้าย โซนคลับเฮ้าส์) และเปิดขาย เฟสสุดท้าย เดือนเมษายน 2564 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปัจจุบันสร้างเสร็จพร้อมอยู่ |
เว็บไซต์โครงการ | cityresortgroup.com |
โทร | 090-518-1111 |
Call Center | N/A |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.683441, 100.545552
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Cote Maison พระราม 3 ตั้งอยู่บนถนนนนทรี เป็นถนนเส้นรองที่เชื่อมมาจากถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ลึกเข้ามาประมาณ 200 เมตร ซึ่งซอยนี้เป็นชุมชนอยู่อาศัยเดิมและมีลักษณะเป็นซอยตันด้วย จึงไม่ค่อยมีรถราผ่านมากนัก โดยรอบเป็นบ้านเรือน และที่ทำการของบริษัทเล็กๆ บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ เป็นส่วนตัว แตกต่างจากบริเวณถนนพระราม 3 และถนนสาธุประดิษฐ์ ช่วงนั้นจะมีความคึกคักมากกว่า
แม้ทำเลที่ตั้งจะอยู่ถัดจากเส้นหลักออกมาเล็กน้อย แต่ก็สามารถเดินทางเข้าถนนพระราม 3 ได้ง่ายค่ะ หากขับมาทางถนนพระราม 3 พอถึงแยก เลี้ยวเข้าถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ขับตรงมาเพียง 250 เมตร ก็จะถึงถนนนนทรีแล้วค่ะ เลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลย จากปากทางถนนนนทรีเข้ามาเพียง 200 เมตรก็จะถึงโครงการ Cote Maison พระราม 3 หาได้ไม่ยาก และไม่ไกลจากถนนเส้นหลักค่ะ
ส่วนใครที่ต้องขับรถเข้าเมืองไปทำงาน ไปโซนพระราม 3-4 รวมถึงสีลม สาทร ก็สามารถวนรถใต้สะพาน แล้วย้อนกลับมาเข้าเส้นพระราม 3 ได้ง่าย รวมระยะทางก็ราวๆ 1 กิโลเมตรกว่าๆ เท่านั้นเอง นอกจากนี้ยังเชื่อมไปถนนนางลิ้นจี่ และถนนนราธิวาสราชนครินทร์ได้ ไม่ไกลจากเส้นทางรถโดยสาธารณะ BRT และรถไฟฟ้า BTS ได้อีกด้วยค่ะ อย่าง BTS ที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีช่องนนทรี อยู่ห่างจากโครงการ 6.4 กิโลเมตร ส่วนในอนาคตจะมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเทาตัดผ่านใกล้โครงการในระยะ 1.9 กิโลเมตร (สถานีวัดด่าน) ซึ่งก็ต้องรอดูความคืบหน้ากันต่อไป
และใครที่จะไปโซนสุขสวัสดิ์ ประชาอุทิศ ราษฎร์บูรณะ หรือแถบปู่เจ้าสมิงพราย เรามองว่าค่อนข้างสะดวก เพราะสามารถวิ่งไปบนถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ข้ามสะพานภูมิพลแล้วเชื่อมไปโซนเหล่านี้ได้เลย
ทำเลที่ตั้งโครงการ Cote Maison พระราม 3 มีความอุดมสมบูรณ์ครบครันในตัวอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นทำเลเมือง ไม่ไกลจากศูนย์กลางธุรกิจ อย่างสีลม-สาทร อีกทั้งในโซนพระราม 3 เองก็ยังมีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ และแหล่งจับจ่ายต่างๆ อาทิเช่น Tesco Lotus, The Up พระราม 3, Int Intersect พระราม3, เซ็นทรัลพระราม 3, Makro สาทร เป็นต้น ในอนาคตจะมีห้างใหญ่อย่าง Terminal 21 พระราม 3 เปิดให้บริการอีก คาดว่าน่าจะราวๆ ปี 2565 น่าจะเปิดให้บริการได้ พร้อมสถานศึกษาชื่อดังอยู่ใกล้เคียงหลายแห่ง ใครมีบุตรหลานก็ไปรับไปส่งได้ง่าย ใกล้บ้านค่ะ
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มต้นจากทางด่วนเฉลิมมหานคร เชื่อมมาลงถนนพระราม 3 จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนวงแหวนอุตสาหกรรม และชิดซ้ายเข้าถนนนทรีค่ะ ระยะทางจากถนนวงแหวนอุตสาหกรรมเข้าไปตัวโครงการ ลึกเข้าไปประมาณ 200 เมตร
เริ่มต้นจากทางด่วนเฉลิมมหานคร มุ่งหน้าเข้าถนนพระราม 3
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บรรยากาศโดยรอบโครงการ Cote Maison พระราม 3 เป็นบ้านเรือน มีตึกสูงอยู่ติดถนนใหญ่บ้าง โดยรอบโครงการทางทิศเหนือจะเป็นคลองหีบและอะพาร์ตเมนต์สูง 4-5 ชั้น มีร้านค้าปลีกในชุมชนอยู่ด้วย ด้านหลังโครงการทางทิศตะวันออก จะเป็นอาคารศุภาลัย ทาวเวอร์ สูง 33 ชั้น ซึ่งมีระยะห่างจากโครงการพอสมควร ตึกนี้อยู่ติดถนนพระราม 3 ค่ะ ด้านทิศใต้เป็นที่ดินของบุคคลอื่น และฝั่งตรงข้ามทางเข้าโครงการทางทิศตะวันตก เป็นที่ทำการของบริษัท Trocadero Group Showroom ซึ่งเป็นบริษัทนาฬิกานำเข้า
โครงการนี้ ทาง Thinkofliving เคยมาทำรีวิวแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นช่วงที่เปิดขายในเฟสแรกๆ แต่สำหรับแบบแปลนบ้านในเฟสปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนใหม่ เราจึงมารีวิวให้ชมกันอีกครั้งค่ะ
บรรยากาศบนถนนนนทรี ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมจากถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ซอยนี้แบ่งเป็น 2 เลน ค่อนข้างเงียบสงบและเป็นส่วนตัวค่ะ เนื่องจากเป็นซอยตัน จึงไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่านมากนัก มีรถตู้และรถสองแถวจอดอยู่ภายในซอย รวมถึงมีวินมอเตอร์ไซต์วินออนป้า อยู่ถัดจากโครงการเข้าไป 50 เมตร ส่วนใครอยากเรียกแท็กซี่แนะนำให้ออกมาเรียกที่ถนนวงแหวนอุตสาหกรรมก็ได้ เดินไม่ไกลมากค่ะ นอกจากนี้ยังมีรถประจำทางสาย 195 ผ่านอีกด้วย
หากเข้ามาในซอยนนทรี ขับผ่านสะพานข้ามคลองมาแล้ว ตัวโครงการ Cote Maison พระราม 3 จะตั้งอยู่ทางซ้ายมือ มีป้ายบอกอย่างชัดเจนค่ะ จากจุดนี้ห่างจากถนนใหญ่ลึกเข้าไปประมาณ 200 เมตรเท่านั้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้าและแหล่งจับจ่าย
- Int Intersect พระราม 3~ 2.1 กม.
- Tesco Lotus ~2.3 กม.
- The Up พระราม 3 ~2.4 กม.
- เซ็นทรัลพระราม 3 ~2.8 กม.
- Makro สาทร ~3.5 กม.
- เอเชียทีค ~8.8 กิโลเมตร
สถานศึกษา
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ~3.8 กม.
- โรงเรียนสารสาสน์พัฒนา ~4.1 กม.
- โรงเรียนสารสาสน์พิทยา~4.3 กม.
- โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา~4.4 กม.
- โรงเรียนเซนต์ยอแซฟ~4.4 กม.
- โรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจ กรุงเทพฯ~4.6 กม.
- โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี~7.5 กม.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลบีเอ็นเอช~6.6 กม.
- โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์~6.8 กม.
- โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน~7.7 กม.
- โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์~8.4 กม.
การคมนาคม
- รถไฟฟ้าสายสีเทา สถานีวัดด่าน (โครงการในอนาคต) ~ 1.9 กม.
- ทางด่วนขั้นที่ 1 ~ 4.2 กม.
- ทางด่วนขั้นที่ 2 ~ 4 กม.
- รถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน BTS ช่องนนทรี ~ 6.4 กม.
รายละเอียดโครงการ
จากผังโครงการ Cote Maison พระราม 3 ทางเข้าออกจะอยู่ที่จุดเดียว ติดกับถนนนนทรี การวางตำแหน่งของบ้านส่วนใหญ่ จะหันหน้าไปในแนวเหนือ-ใต้ เพื่อไม่ให้ร้อนจนเกินไป พื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งประกอบไปด้วยสวนหย่อมและอาคารคลับเฮาส์ 2 ชั้น วางไว้ที่บริเวณกลางโครงการ เพื่อให้ลูกบ้านสามารถเข้ามาใช้งานได้ง่าย ถนนภายในโครงการกว้าง 9 เมตร หลายๆ จุดมีการปลูกต้นไม้ แทรกพื้นที่สีเขียวเพื่อสร้างบรรยากาศความร่มรื่น บ้านที่กำลังเปิดขายในเฟสปัจจุบัน จะเป็นโซนทางทิศใต้ค่ะ
บริเวณทางเข้าออกโครงการ แยกทางเข้าออกอย่างละช่อง มีกล้อง CCTV ติดตั้งไว้ด้านหน้า รวมถึงภายในโครงการด้วย รวม 22 จุด ตรงกลางเป็นซุ้มพี่ๆ รปภ. ซึ่งจะคอยดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ
จุดนี้จะมีไม้กั้นกระดก สำหรับลูกบ้านสามารถเข้าผ่านระบบ Key Card Access ระยะใกล้ ส่วน Visitor ต้องแลกบัตรก่อนเข้าโครงการทุกครั้ง ส่วนหลัง 4 ทุ่มเป็นต้นไปจะมีการปิดประตูรั้วเลื่อนเหล็กที่อยู่ทางด้านในอีกชั้น เพื่อความปลอดภัยค่ะ ส่วนรั้วรอบโครงการสูง 5 เมตร
เข้ามาภายในโครงการ ส่วนแรกที่เจอจะเป็นพื้นที่สวนหย่อม ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางเลยค่ะ แยกซอยซ้าย-ขวาจะเป็นโซนบ้านพักอาศัย ข้อดีคือลูกบ้านไม่ว่าจะอยู่โซนไหนก็เข้ามาใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย เดินไม่ไกล
ด้านซ้ายมือจะเป็นบ้านในเฟสเดิม ซึ่งปัจจุบันขายหมดแล้ว มีลูกบ้านย้ายเข้ามาอยู่แล้วค่ะ
สำหรับเฟสใหม่จะแยกอยู่ทางขวามือค่ะ บ้านเพิ่งสร้างเสร็จพร้อมอยู่ จำนวน 21 ยูนิต อีกทั้งโครงการนี้เค้ายังเอาสายไฟฟ้าลงดินทั้งหมดเลยค่ะ สร้างทัศนียภาพเรียบร้อย สวยงามยิ่งขึ้น ส่วนถนนหลักด้านหน้าบริเวณทางเข้าโครงการจะเป็นพื้นคอนกรีตแสตมป์สีอิฐ
ถนนภายในโครงการกว้าง 9 เมตร เทเป็นพื้นคอนกรีต ขนาดความกว้างรถสวนกันไปมาได้สบายๆ ไม่อึดอัดจนเกินไป ด้านหลังสุดของโครงการจะเห็นวิวของอาคาร ศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ ด้วยนะ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า สูง 33 ชั้น
มุมหันออกไปด้านนอกโครงการ ตรงบริเวณซุ้มทางเข้า บรรยากาศจะประมาณนี้
ทางเข้าไปในสวนหย่อม จะมีทางเข้าอยู่ทั้ง 2 ด้านของสวน เป็นทางลาดเข้าไปแบบนี้ โดยมีไม้พุ่มถูกปรับแต่งให้เสมือนเป็นกำแพงอยู่ล้อมรอบ ได้ความเป็นส่วนตัวดีค่ะ
พื้นที่สวนหย่อม ขนาดประมาณ 400 ตารางเมตร ตั้งอยู่บริเวณกลางโครงการ ให้ความร่มรื่น สบายตา ด้วยสนามหญ้าและต้นไม้ใหญ่สีเขียวชอุ่ม และอย่างที่บอกยังมีสวนหย่อมย่อยๆ กระจายอยู่ทั่วโครงการอีก 5 จุด จุดละ 60 ตารางเมตร
ทางโครงการจัดวางเครื่องเล่นเด็กสไลด์เดอร์ให้ พร้อมม้านั่งใต้ต้นไม้หลายๆจุดเลย สามารถมานั่งเล่นพักผ่อนได้
ส่วนอาคารคลับเฮาส์จะอยู่ขยับเข้าไปทางด้านใน โดยจะเป็นอาคาร 2 ชั้น มีต้นไม้ปลูกประดับให้ความสวยงามอยู่โดยรอบ
ด้านล่างอาคารจะเป็นสระว่ายน้ำค่ะ โดยจะวางขนานไปกับตัวอาคาร ช่วงเวลาที่เราเข้าไปถ่ายรีวิวประมาณ 10 โมงเช้า จะสังเกตได้ว่าเงาอาคารจะทอดยาวบังเป็นร่มเงาให้กับสระว่ายน้ำ ทำให้พื้นที่ส่วนนี้ไม่ร้อนค่ะ
ขนาดสระว่ายน้ำอยู่ที่ 6×15 เมตร ลึก 1.5 เมตร ทางด้านหนึ่งของสระว่ายน้ำ จะแยกสระเด็กให้ด้วย ขนาด 2.5×3 เมตร ลึก 0.8 เมตร เป็นสระระบบเกลือค่ะ
ทางขึ้นอาคารคลับเฮาส์จะมีอยู่ 2 ด้านเช่นกัน โดยจะเป็นพื้นยกสูงขึ้นไปประมาณหนึ่ง
ด้านข้างสระว่ายน้ำจะเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น ทางโครงการวางชุดโต๊ะเก้าอี้ไว้ให้ สามารถใช้วางของหรือจะนั่งเล่นพักผ่อนชิลล์ๆ ได้
หรือผู้ปกครองคนไหนพาเด็กๆ มาว่ายน้ำ ก็มานั่งรอที่จุดนี้ได้เลย บรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย
สระที่นี่เป็นระบบเกลือ ปูพื้นด้วยกระเบื้องสีดำ พร้อมตกแต่งด้วย Water Feature หรือม่านน้ำตกเล็กๆ บริเวณเสาละต้น ว่ายน้ำไปได้ยินเสียงน้ำตกไปด้วย รู้สึกผ่อนคลายไปอีกแบบ ส่วนอีกด้านก็มองเห็นวิวสวนด้วยค่ะ
มาดูด้านในอาคารกันบ้าง ลักษณะจะเป็นโถงทางเดิน และมีห้องน้ำอยู่ด้านข้าง แยกชาย-หญิง ว่ายน้ำเสร็จก็เข้ามาล้างตัวในนี้ได้
บรรยากาศภายในห้องน้ำ
มีอ่างล้างมือ 2 อ่าง พร้อมกระจกบานใหญ่ติดผนัง
ภายในแยกเป็นห้องสุขา 1 ห้อง พร้อมหน้าต่างระบายอากาศและให้แสงสว่าง
ส่วนอีกห้องจะเป็นห้องอาบน้ำค่ะ
บรรยากาศในห้องน้ำชาย แยกเป็น 2 ห้องเช่นเดียวกัน
เดินตรงต่อมาจะเป็นสำนักงานขายและนิติบุคคล ซึ่งจะเป็นห้องแยกอยู่อีกด้าน ตรงกลางมีบันไดขึ้นไปห้องฟิตเนสที่ชั้น 2
ห้องฟิตเนสอยู่บนชั้น 2 ขนาดห้องค่อนข้างกว้าง โดยอยู่ที่ 61 ตารางเมตร และบรรยากาศโปร่งค่ะ เนื่องจากได้ผนังชุดกระจกขนาดใหญ่ตลอดรอบด้าน รับแสงสว่างเข้ามาได้อย่างเต็มที่ มีห้องน้ำแยกชาย-หญิง อยู่ภายในด้วยค่ะ
ภายในห้องวางเครื่องเล่น ออกกำลังกายไว้หลายชิ้น หลายมุมด้วยกัน
มีทั้งเครื่อง Cardio เช่น ลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน เครื่อง Elliptical เป็นต้น รวม 11 ชิ้นโดยวางหันหน้าออกไปด้านนอก มองเห็นวิวสวนด้วย
บรรยากาศสวน และสระว่ายน้ำทางด้านล่าง เห็นวิว 180 องศาเลยทีเดียว
ส่วนมุม Weight Training ก็มีให้เช่นกัน พร้อมกระจกติดให้บานใหญ่ ค่าส่วนกลางของที่นี่อยู่ที่ 150 บาทต่อตารางวาต่อเดือนค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 6×15 เมตร ลึก 1.5 เมตร
- แบ่งสระเด็กลึกขนาด 2.5×3 เมตร ลึก 0.8 เมตร
- ห้องออกกำลังกายขนาด 61 ตร.ม.ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 11 เครื่อง
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ ประมาณ 400 ตร.ม.
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 22 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 5 เมตร
- ถนนภายในโครงการ กว้าง 9 ม.
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และรั้วเลื่อนไฟฟ้า
- บ้านทุกหลังภายในบ้านมีระบบ Smart Home Automation
แบบบ้าน
ทาวน์โฮมในโครงการ Cote Maison พระราม 3 ออกแบบมาในสไตล์ Post Modern Contemporary เน้นความเรียบง่าย ทันสมัย ด้านหน้าบ้านมี Facade กันแสงที่เลื่อนไปมาได้ ส่วนเฟสใหม่ที่กำลังเปิดขายในปัจจุบัน มีจำนวนรวมทั้งหมด 21 ยูนิต ซึ่งวันที่เราเข้าไปรีวิวเหลือขายไม่เยอะแล้วนะคะ เรียกได้ว่าใกล้ปิดโครงการแล้ว ใครที่สนใจสามารถเข้าไปดูบ้านตัวอย่างได้ค่ะ
บทความนี้ แบบบ้านที่เราพามารีวิวแบบเจาะลึกจะเป็นแบบขนาดเริ่มต้น Chatelet Villa ทาวน์โฮม 4 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 22.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 290 ตร.ม. หน้ากว้าง 6.5 เมตร ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 17.9 ล้านบาท
แบบบ้านนี้ได้หน้ากว้างถึง 6.5 เมตร จอดรถได้ 2 คัน และด้วยความกว้างขนาดนี้ทำให้ระยะห่างของรถเหลือๆ เลยค่ะ ไม่อึดอัดจนเกินไป โครงสร้างบ้านเป็นอิฐมวลเบาทั้งหลัง รองรับการต่อเติมหรือทุบรวมได้โดยไม่กระทบโครงสร้างโดยรวม หลังคาเป็นเหล็กรีดลอนได้วัสดุเมทัลชีท นอกจากนี้บ้านนี้ยังมีการติดตั้งฉนวนกันความร้อนชนิด PU หนา 5 ซม. ลดอุณภูมิเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 5-7 องศาให้ด้วย
ภายในบ้านโซน Common Area สามารถจัดฟังก์ชันใช้งานได้หลายส่วน เช่น พื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร พื้นที่ห้องครัว ห้องน้ำแบบ Powder Room อยู่ติดกับมุมครัว โดยรวมแล้วบรรยากาศภายในบ้านจะกว้างและโปร่ง ได้ช่องแสงทางด้านหน้าบ้านและหลังบ้าน ทำให้ภายในบ้านสว่าง ดูไม่ทึบ ส่วนด้านหลังสุดของบ้านจะเป็นพื้นที่ซักล้าง ทางโครงการเค้าลงเสาเข็มให้และวางระยะจากตัวบ้านถึงกำแพงกว้าง 3 เมตรเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งเป็นระยะที่กว้างกว่ามาตรฐานทั่วไป
ชั้น 2 ของบ้านจัดมาให้เป็นห้องโล่งๆ กว้างๆ ทั้งชั้นเลยค่ะ ซึ่งเราสามารถกั้นห้องหรือ Built ผนังให้เป็นสัดส่วนได้ เช่น ทำเป็นห้องทำงาน หรือจะวางโซฟา ทำเป็นมุมนั่งเล่น รับแขกที่เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้นได้ ด้านข้างก็ทำ Pantry เล็กๆ ไว้เตรียมอาหารเบาๆ พร้อมวางโต๊ะรับประทานอาหารเพิ่มก็ได้ ตามสะดวกเลยค่ะ ห้องนี้มีห้องน้ำภายในตัว ใช้งานได้อย่างสะดวก
ชั้น 3 เป็นห้องนอน Master ขนาดใหญ่ทั้งชั้นเลยค่ะ วางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ พร้อมวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้อีกหลายชิ้น มาพร้อมพื้นที่แต่งตัว ทำ Walk-in Closet ได้ โดยจะอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำได้ขนาดค่อนข้างกว้าง สุขภัณฑ์ครบและที่พิเศษคือ จะได้อ่างอาบน้ำด้วย
ปิดท้ายกันที่ชั้น 4 จะได้ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง แยกโซนหน้า-หลัง ขนาดห้องด้านหน้าจะกว้างกว่า วางเตียง 5 ฟุตได้ ส่วนห้องนอนด้านหลังขนาดจะเล็กลงมา สามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้กำลังดี เหมาะสำหรับทำเป็นห้องนอนลูกๆ มีห้องน้ำภายในทั้ง 2 ห้อง พร้อมพื้นที่แต่งตัวจัดได้เป็นสัดส่วน ของจริงจะเป็นยังไง ไปดูกันค่ะ…
เริ่มต้นจากบริเวณหน้าบ้าน จะได้ประตูรั้วเหล็กสีดำแบบนี้ให้มาเป็นมาตรฐาน
เปิด-ปิดจากตรงกลาง โดยพับได้ด้านละ 3 ตอนค่ะ ยาวเท่าหน้ากว้างบ้าน
พื้นที่จอดรถหน้าบ้านได้ 2 คัน โดยหน้ากว้างของบ้านอยู่ที่ 6.5 เมตร ซึ่งค่อนข้างกว้างนะ เวลาจอดรถก็จะไม่เบียดกันจนเกินไป มีระยะระหว่างคันรถ ส่วนหลังคาจอดรถทางโครงการก็ติดมาให้เพิ่มเป็นมาตรฐานทุกหลัง กันแดดกันฝนได้ค่ะ ด้านหน้าบ้านนี้ติดไฟไว้ให้ด้วย โดยเป็นโคมไฟกิ่ง หลอด LED
พื้นลานจอดรถจะได้เป็นคอนกรีตแสตมป์ สีส้มอิฐ โครงสร้าง On Beam ลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านมาให้เรียบร้อย ความลึก 22 เมตร ได้ความแข็งแรง ไม่ทรุดตัวง่าย ส่วนบริเวณทางเข้าบ้านจะมีเฉลียงยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย ถอดวางรองเท้าได้ หรือใครอยากให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น ก็สามารถ Built ตู้เก็บรองเท้าวางไว้ด้านข้างก็ดีเหมือนกัน ส่วนประตูตรงด้านริมจะเป็นห้องเก็บของ ผนังบ้านด้านนอกเป็นฉาบเรียบ ทาสีชนิดสีน้ำอะคริลิกภายนอก
ตำแหน่งห้องเก็บของจะอยู่ใต้บันไดพอดี ทางโครงการเค้าทำเป็นห้องลึกเข้าไป สูงพอสมควร สามารถเก็บของได้เยอะ เช่น อุปกรณ์ทำความสะอาด อุปกรณ์ล้างรถ เป็นต้น
มาดูประตูทางเข้าหลักกันต่อ จะได้เป็นประตูบานเลื่อนกระจก กรอบอะลูมีเนียม อบสี Powder Coat สีขาว
เข้าไปภายในบ้านจะเป็นโซน Common Area กว้างๆ จัดฟังก์ชันได้หลายส่วน ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.6 เมตร และจะสังเกตได้ว่าแสงสว่างเข้ามาเยอะแม้จะไม่ใช่บ้านแปลงมุมก็ตาม เพราะจะได้ช่องแสงบานใหญ่ผ่านประตูทางด้านหน้าบ้านและหลังบ้านนั่นเองค่ะ เราขอแนบภาพบ้านจริงที่ได้ให้ดูไปพร้อมๆ กันเลยนะคะ
ส่วนแรกจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น รับแขกได้ วางโซฟาใหญ่สักตัว ด้านข้างสามารถจัดวางโซฟาเล็กอีก 2 ตัวก็ยังไหว วางโต๊ะกลางไว้วางของเพิ่มได้ ไม่อึดอัดจนเกินไป วัสดุพื้นที่ชั้น 1 เป็น
กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60X60 ซม. ส่วนผนังบ้านด้านในเป็นฉาบเรียบ ทาสีชนิดสีน้ำอะคริลิกภายใน
ส่วนฝั่งตรงข้ามสามารถ Built ผนังแบบบ้านตัวอย่างเพิ่มได้ค่ะ กั้นเป็นห้องเล็กๆ เพิ่มด้านหลังทีวีได้อีกห้องหนึ่ง เอาไว้นั่งทำงานหรือไว้เก็บของก็ได้ อีกทั้งจะได้ระยะดูทีวีที่ใกล้ขึ้นด้วย สามารถติดทีวีจอใหญ่ตรงผนังที่ Built ขึ้นมานี้น่าจะพอดี ไม่ไกลเกินไป
มองออกไปทางประตูทางเข้าบ้าน จะเห็นได้ว่าแม้บ้านตัวอย่างหลังนี้ จะ Built ผนังเพื่อย่นระยะขึ้นมาแล้ว แต่ก็ยังได้ระยะเดินผ่านในส่วนพื้นที่นั่งเล่นนี้ ค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว พร้อมแสงสว่างเข้ามาภายในบ้านได้อย่างเต็มที่ ส่วนระบบไฟได้เป็นโคมดาวน์ไลท์ หลอด LED และโคมฟลูออร์เรสเซนต์แบบกลม
ตรงกลางบ้านเป็นบันไดขึ้นไปชั้น 2 ส่วนพื้นที่หลังบ้านจะเป็นมุมครัวและห้องน้ำ
ขยับเข้าไปโซนด้านใน จะเชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหาร เราสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4-6 คนนั่งไว้ได้ ใกล้กับโซนครัว และยังได้แสงสว่างผ่านประตูหลังด้วย บรรยากาศโปร่งโล่ง สว่าง
พื้นที่บริเวณนี้จะเชื่อมกับโซนซักล้างทางด้านหลังบ้าน เปิดประตูออกไปได้
ลานซักล้างหลังบ้าน ลงเข็มลึก 22 เมตร โครงสร้างแบบ On Beam เช่นกัน ระยะห่างจากตัวบ้านจนถึงกำแพงอยู่ที่ 3 เมตร ซึ่งมากกว่าระยะมาตรฐานตามกฎหมาย ปกติจะต้องไม่น้อยกว่า 2 เมตร บ้านตัวอย่างเค้าปูพื้นไม้ทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น ปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่น ส่วนบ้านมาตรฐานจริงนั้น พื้นของลานซักล้างจะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กทำผิวหยาบ รอปิดผิวพื้น ส่วนระบบป้องกันกำจัดปลวก มีการวางท่อใต้ดินพร้อมจุดอัดน้ำยา (PST) ให้เรียบร้อยค่ะ
บ้านตัวอย่างจัดมุมครัวไว้ใกล้กับโซนรับประทานอาหาร ติดเคาน์เตอร์ ทำตู้ Built-in เก็บของให้ดูเป็นไอเดียว่ามุมนี้สามารถทำครัวได้ พร้อมทั้งวางตู้เย็นเครื่องซักผ้าไว้เพิ่มก็ลงตัว หากใครไม่ได้ทำครัวหนักมาก สามารถจัดแบบบ้านตัวอย่างได้เลย
ส่วนฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัว ยังสามารถ Built ตู้เก็บของเพิ่มได้ ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ดีค่ะ ห้องด้านในจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง วัสดุประตูเป็นไม้เนื้อแข็งกรุผิวบานด้วยลามิเนตพิมพ์ลาย ชนิดกันชื้น
ห้องน้ำชั้นล่างนี้จะเป็นรูปแบบ Powder Room ไม่มีพื้นที่อาบน้ำนะคะ
ด้านข้างจะเป็นช่อง เปิดระบายอากาศได้ สามารถติดมู่ลี่หรือฟิล์มฝ้าเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ค่ะ ผนังห้องน้ำได้เป็นวัสดุกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 30X60 ซม. พื้นผิวชนิดเงา
โถสุขภัณฑ์ เป็นของแบรนด์ American Standard เช่นเดียวกันอ่างล้างมือ วัสดุพื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60X60 ซม. พื้นผิวชนิดกันลื่น
สายฉีดชำระ ติดให้ทางผนังด้านข้าง
พร้อมกับที่ใส่กระดาษทิชชู ติดให้เรียบร้อย
ต่อมาขึ้นบันไดไปดูชั้น 2 กันค่ะ ตำแหน่งบันไดจะอยู่ตรงกลางบ้าน โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ได้ความแข็งแรงและแน่น ขึ้นลงไม่เสียงดัง ส่วนวัสดุปิดผิวเป็นไม้ยางประสานเคลือบผิวด้วยยูริเทนชนิดเงา ได้ชานพักสี่เหลี่ยม ขึ้นไปถึงชั้น 2 จะได้ 1 ห้องใหญ่ทั้งชั้นเลย ได้ความเป็นส่วนตัว
ห้องนี้ บ้านตัวอย่างทำเป็นห้องอเนกประสงค์ค่ะ ขนาดค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว สามารถจัดพื้นที่ได้หลายส่วน ทางโครงการเค้าออกแบบมาให้เป็น Open Plan นั่นคือไม่ได้เจาะจงฟังก์ชันว่าจะต้องเป็นอะไรลงไป เราสามารถจัดพื้นที่ได้ตามความต้องการ พื้นกระเบื้องห้องเอนกประสงค์ชั้น 2 นี้ ขนาด 80×80 ซม. ส่วนของ Facade หน้าบ้าน บริเวณหน้าต่างสามารถเลื่อนไปมาได้ เพื่อปรับตำแหน่งบดบังแสงแดดได้ตามองศาที่ต้องการ
อย่างส่วนแรก บ้านตัวอย่างเค้าทำเป็นพื้นที่ครัวหรือเอาไว้จัด Pantry เตรียมอาหาร เครื่องดื่มเบาๆ ได้ค่ะ โดยติดเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L แบบนี้ หรือถ้าใครอยากได้ห้องครัวจริงจัง ก็สามารถกั้นห้องปิดบริเวณนี้ได้ค่ะ อาจใส่เป็นประตูบานเลื่อนกระจก อีกทั้งจุดนี้อยู่ใกล้กับระเบียงด้วย เปิดระบายอากาศได้ง่าย ส่วนประตูทั่วไปภายในบ้านจะมีทั้งวัสดุอะลูมิเนียม อบสี Power Coat สีขาว เช่นเดียวกับหน้าต่าง รวมถึงบางจุดจะได้ประตูไม้เนื้อแข็งกรุผิวบานด้วยลามิเนตพิมพ์ลาย
ระเบียงที่ได้อยู่บริเวณมุมห้อง ขนาดประมาณ 0.8×1.5 เมตร เปิดไปใช้งานได้จริง
ส่วนพื้นที่ด้านในจะเป็นโซนนั่งเล่น วางเป็นโซฟาขนาดใหญ่ๆ ไว้ได้ พร้อมโต๊ะกลาง ส่วนผนังอีกด้านก็วางชั้นวางทีวี หรือวางตู้โชว์ของก็ได้ค่ะ มีพื้นที่เหลือค่อนข้างกว้าง
ห้องนี้ทางโครงการวางโซฟาขนาดใหญ่ รูปตัว L ไว้นั่งสบายๆ มุมนี้ทำเป็นมุมนั่งเล่นที่ 2 ของบ้านได้นะ เวลามีแขกมาที่บ้าน สมาชิกคนอื่นๆ สามารถขึ้นมาที่ชั้น 2 เพื่อใช้งานห้องนี้แทน เป็นส่วนตัวดีค่ะ ไม่ไปวุ่นวายกับแขกที่อยู่ด้านล่างด้วย
ห้องจริงที่ได้จะเป็นห้องเปล่าโล่งๆ ซึ่งเราสามารถกั้นผนังขึ้นมาให้เป็นสัดส่วนยิ่งขึ้นได้ค่ะ เช่น กั้นด้วยชั้นวางทีวี พร้อม Built ชั้นวางของโชว์ต่างๆ ทำให้ได้อีกห้องหนึ่งเพิ่มเข้ามาทางด้านหลัง
มุมที่ถูกกั้นทางด้านหลังจะเป็นห้องประมาณนี้ สามารถจัดเป็นมุมนั่งทำงาน Work from Home ได้อย่างเป็นสัดส่วน ความกว้างอยู่ที่ประมาณ 3 เมตรได้
ด้านข้างยังได้ช่องแสงบานใหญ่ บรรยากาศจึงโปร่งสว่าง ไม่ทึบ ใครที่มีเสื้อผ้าเยอะ ปรับเปลี่ยนมุมนี้ทำ Walk-in Closet เพิ่มก็ยังได้
ส่วนด้านในสุดจะได้ห้องน้ำ 1 ห้อง สุขภัณฑ์ครบครัน ทั้งอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ พร้อมพื้นที่อาบน้ำ
ตรงพื้นที่อาบน้ำจะได้ช่องแสงด้วย เปิดระบายอากาศได้ เพื่อไม่ให้ห้องน้ำอับชื้น เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยการติดมู่ลี่หรือฟิล์มฝ้าตรงบานหน้าต่าง
พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1×2.3 เมตร มีการยกระดับพื้นโดยรอบสูงขึ้นมาเล็กน้อย เราสามารถติดฉากกั้นเพิ่มได้ค่ะ เพื่อแยกโซนแห้งโซนเปียก
ฝักบัวแบบ Hand Shower ที่ทางโครงการติดมาให้เป็นมาตรฐาน หน้าตาจะประมาณนี้
ขึ้นมาต่อกันที่ชั้น 3 จะได้ห้องใหญ่ แปลนคล้ายกับชั้น 2 อีกห้องหนึ่ง ซึ่งบ้านตัวอย่างเค้าจัดฟังก์ชันเป็นห้องนอน Master วางเตียงใหญ่ขนาด 6 ฟุตไว้กลางห้องได้สบายๆ เลยค่ะ ด้านข้างได้หน้าต่างชุดกระจกบานใหญ่ สูงจากพื้นจนเกือบถึงฝ้า รับแสงสว่างเข้ามาได้อย่างเต็มที่ วัสดุพื้นจะเปลี่ยนมาใช้ Engineering Wood ผิวหนาเป็นไม้แดงน้ำ ให้ความเรียบหรูมากขึ้น
มุมข้างเตียง วางตู้เสื้อผ้า หรือติดตั้งเป็น Walk-in Closet แบบตัว L ได้ ซึ่งมุมนี้จะอยู่ใกล้กับห้องน้ำ เข้าไปใช้งานได้สะดวก
บรรยากาศห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ขนาดค่อนข้างกว้าง สุขภัณฑ์แบบบจัดเต็ม
ทั้งในส่วนของอ่างล้างหน้า ที่จะได้แบบ His&Her ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ ไม่ต้องแย่งกัน พร้อมติดกระจกให้บานใหญ่
พร้อมกับอ่างอาบน้ำ ยาวประมาณ 150 เซนติเมตร ให้มาเป็นมาตรฐานในห้องน้ำนี้ด้วยค่ะ
ซึ่งบริเวณอ่างจะได้ช่องแสงด้วยจุดหนึ่ง มองเห็นวิวด้านนอก อาบน้ำไปชมวิวไป พร้อมเปิดระบายอากาศได้ ทั้งนี้สามารถติดมู่ลี่ปิดเปิดได้ตามความต้องการ
อีกด้านของห้องน้ำจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์ และมีพื้นที่อาบน้ำจะอยู่ด้านในสุด
โถสุขภัณฑ์ที่ได้ในห้องน้ำห้องนี้จะเป็นแบบฝาอัตโนมัติ ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
พื้นที่อาบน้ำจะอยู่ถัดเข้าไป ได้ขนาดกว้างพอสมควรเลยค่ะ โดยอยู่ที่ประมาณ 1.3×1.7 เมตร ด้านข้างได้ช่องแสงระบายอากาศอีกจุดหนึ่ง
บริเวณพื้นก่อระดับยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย ป้องกันไม่ให้น้ำไหลออกเวลาอาบน้ำ ทั้งนี้ติดฉากกั้นกระจกเพิ่มได้
ฝักบัวอาบน้ำของห้องนี้ได้ทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower ติดมาให้คู่กันเลย
ปิดท้ายด้วยชั้น 4 ของบ้าน จะแยกออกเป็น 2 ห้องนอนเล็ก พร้อมมี 2 ห้องน้ำอยู่ภายในตัว โซนด้านหน้า 1 ห้อง และโซนด้านหลังอีก 1 ห้อง
มาดูห้องแรกโซนหน้าบ้าน ได้แสงสว่างเข้ามาเต็มที่ ส่วนวัสดุพื้นยังคงใช้ Engineering Wood เหมือนชั้นก่อนหน้า
วางเตียง 5 ฟุตได้ ด้านข้างเตียงมีพื้นที่ว่าง สามารถวางโต๊ะขนาดเล็กไว้วางโคมไฟได้ ด้านข้างได้ช่องแสงบานใหญ่
ส่วนมุมห้องตรงข้ามเตียง ก็สามารถ Built ผนังขึ้นมา แยกเป็นโซนแต่งตัว วางตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งได้เป็นสัดส่วน
บ้านตัวอย่างเค้า Built ตู้เส้อผ้าสูงๆ แบบนี้ไว้เต็มผนังเลยค่ะ เหมาะสำหรับคนที่มีเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายเยอะๆ ก็เก็บไว้ที่มุมนี้ได้
ห้องน้ำภายในห้องนอนนี้ ได้สุขภัณฑ์ต่างๆ ครบครัน ส่วนขนาดก็กว้างพอสมควร ใช้งานได้สบาย
ตำแหน่งของอีกห้องอยู่ด้านหลังบ้าน ขนาดเล็กกว่าห้องแรก แต่ยังสามารถจัดวางเตียง 3.5-5 ฟุตได้ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เหมาะสำหรับทำเป็นห้องนอนของลูกๆ บ้านตัวอย่างทำห้องนี้คุมธีมมาในโทนสีฟ้าขาวสดใส
ปลายเตียงวางเป็นโต๊ะทำงาน โต๊ะทำการบ้านเหมือนบ้านตัวอย่างก็ได้
ริมหน้าต่างก็วางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ อย่างโต๊ะเก็บของ โต๊ะเครื่องแป้ง หรือตู้เสื้อผ้าไว้ได้อย่างพอดี
ห้องน้ำเดินตรงไป โดยจะอยู่อีกด้านของห้อง
สเปกสุขภัณฑ์ต่างๆ เหมือนห้องก่อนหน้านี้เลยค่ะ แถมยังได้ที่วางของติดให้เป็นแนวยาว วางของได้เยอะ ส่วนพื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1.2×0.9 เมตร
มาพร้อมช่องแสง เปิดระบายอากาศได้เช่นเดิม
พูดถึงโถงบันไดเล็กน้อย ด้วยความที่ทาวน์โฮมในโครงการนี้สูงถึง 4 ชั้น และบริเวณโถงบันไดไม่ได้ทำช่องแสงมาให้ ดังนั้นทางโครงการจึงติดเป็นหลอดไฟเพิ่มความสว่างในแต่ละชั้นให้อย่างทั่วถึงแทนค่ะ ประกอบกับขั้นบันไดจะเป็นชานพักแบบสี่เหลี่ยม ขึ้นลงได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น
อีกแบบบ้านได้แก่ Antoine Villa ทาวน์โฮม 4 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 26.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม. หน้ากว้าง 6.5 เมตร ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ซึ่งเป็นขนาดใหญ่สุดของโครงการ แบบแปลนของบ้านนี้จะเหมือนกับแบบก่อนหน้านี้เลย ต่างกันแค่ขนาดพื้นที่ใช้สอยที่จะใหญ่ขึ้นมาจากเดิมเล็กน้อย
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
Cote Maison พระราม 3 ราคา ณ วันที่ 18 สิงหาคม 2564
- Chatelet Villa ทาวน์โฮม 4 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 22.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 290 ตร.ม. หน้ากว้าง 6.5 เมตร
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 17.9 ล้านบาท - Antoine Villa ทาวน์โฮม 4 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 26.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม. หน้ากว้าง 6.5 เมตร
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 19.9 ล้านบาท - จองและทำสัญญา โปรดสอบถามทางโครงการอีกครั้ง
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 300,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 150 บาท/ตร.วา/เดือน
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- โปรโมชั่นเดือนสิงหาคม 2564 จองรับส่วนลดสูงสุด 1.5 ล้านบาท
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ทำเลที่ตั้งโครงการ Cote Maison พระราม 3 เป็นทำเลใกล้เมือง อิงไปกับเส้นพระราม 3 และวงแหวนอุตสาหกรรม ที่ดินในย่านดังกล่าวค่อนข้างหาได้ยากและราคาสูง หากเปรียบเทียบโครงการทาวน์โฮมใหม่ๆ ในละแวกใกล้เคียงกัน พบราคาขายเริ่มต้นราว 20 ล้านบาทขึ้นไปแทบทั้งหมด หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องขยับไปหาแถวโซนสาธุประดิษฐ์แทน ก็ยังพอเจอโครงการทาวน์โฮมต่ำกว่า 20 ล้านบาท
สำหรับที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนนนทรี ซึ่งมีบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบสงบ ขณะเดียวกันก็เชื่อมไปออกถนนวงแหวนอุตสาหกรรมได้เพียง 200 เมตร แม้โครงการจะไม่ได้อยู่ติดถนนพระราม 3 ซะทีเดียว แต่ก็เดินทางไม่ลำบากค่ะ เพราะสามารถวนรถกลับมาเข้าพระราม 3 ได้ง่าย เชื่อมไปโซนสาทร สีลม และพระราม 3-4 สะดวก ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้ชีวิตเข้าเมืองอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะไปทำงานหรือส่งลูกหลานไปโรงเรียนก็ตอบโจทย์ ส่วนอีกด้านของวงแหวนอุตสาหกรรมใช้เดินทางข้ามสะพานภูมิพลออกไปทางฝั่งธนบุรี รวมถึงโซนสุขสวัสดิ์ ประชาอุทิศ หรือแถบปู่เจ้าสมิงพรายก็ไม่ยาก พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ในละแวกครบครัน
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ทางโครงการมีระบบรักษาความปลอดภัยให้ครบตามมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นกล้อง CCTV ติดให้ทั่วโครงการรวม 22 จุด พร้อมเข้าออกผ่าน Key Card Access มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และด้วยตัวโครงการมีขนาดไม่ใหญ่มาก จำนวนบ้านเพียง 79 หลังเท่านั้น จึงดูแลได้ค่อนข้างง่าย และได้สังคมเพื่อนบ้านในระดับเดียวกัน
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : โครงการนี้ออกแบบเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ โดยอยู่ที่ 290-300 ตารางเมตรเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานภายในบ้านได้ตามความต้องการ อย่างพื้นที่ชั้น 2-3 จะออกแบบเป็น Open Plan หรือไม่ได้เจาะจงฟังก์ชันว่าต้องจัดเป็นอะไร ผู้อยู่อาศัยอาจเลือกทำเป็นห้องนอน ห้องอเนกประสงค์ หรือจะกั้นผนังเพิ่มก็ได้ตามสะดวก ได้ช่องแสงเยอะด้วย เปิดระบายอากาศได้ดี
ส่วนพื้นที่ใช้สอยก็ถือว่าเทียบเท่าบ้านเดี่ยวหรือบ้านแฝดค่ะ แต่ก็ต้องแลกด้วยไม่มีพื้นที่รอบบ้านให้ใช้งาน และมีเพื่อนบ้านอยู่ติดๆ กัน ซึ่งเป็นธรรมดาของโครงการทาวน์โฮมอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เราชอบอีกอย่างนึงของที่นี่คือมีความเป็นส่วนตัวสูง เพียง 79 ยูนิตเท่านั้น ได้บรรยากาศเป็นชุมชนขนาดเล็ก เงียบสงบดีค่ะ
วัสดุ : วัสดุบางส่วนที่ได้สมกับราคาค่ะ เช่น พื้นชั้น 3-4 ได้เป็น Engineering Wood ดูเรียบหรู เงางาม มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขูดขีดและแรงกระแทกกว่าพื้นลามิเนต นอกจากนี้ยังได้อารมณ์แบบ Homie ดูอบอุ่นมากขึ้นด้วย ส่วนโถสุขภัณฑ์ในห้องน้ำของห้องนอน Master ได้เป็นฝาเปิดอัตโนมัติ ใช้งานได้อย่างสะดวก พร้อมอ่างอาบน้ำภายในตัว
ส่วนวัสดุตามมาตรฐานอื่นๆ ที่ทางโครงการมีให้ลูกบ้านอยู่แล้ว ไม่ต้องไปทำหรือต่อเติมเพิ่มก็เช่น หลังคาลานจอดรถจะมีติดมาให้ พร้อมเทพื้นคอนกรีตแสตมป์สีอิฐ ส่วนเสาเข็มก็ลงไว้ให้ทั้งบริเวณลานจอดรถและลานซักล้าง ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากเลยทีเดียว หากใครอยากทุบผนังหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างอะไรก็ทำได้ง่าย เพราะระบบการก่อสร้างของบ้านจะเป็นก่ออิฐมวลเบาทั้งหลังค่ะ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : พื้นที่สีเขียวหลักๆ จัดมาให้ที่บริเวณกลางโครงการค่ะ ขนาดประมาณ 400 ตารางเมตร ปัจจุบันต้นไม้โตแล้ว แผ่ร่มเงาปกคลุมและอยู่ล้อมรอบสนามหญ้า ใครมาใช้งานพื้นที่สวนหย่อมก็จะได้ความเป็นส่วนตัวด้วย ทั้งนี้ทางโครงการเค้าก็จัดที่นั่งเล่นและเครื่องเล่นเด็กมาให้ใช้ที่จุดนี้แต่ไม่เยอะมาก…พอใช้ได้ นอกจากนี้ยังมีแทรกพื้นที่สีเขียวให้จุดอื่นๆ ตามซอยบ้านพักอาศัยเพิ่มเติมแม้พื้นที่ส่วนกลางจะมีจำกัด เพื่อสร้างบรรยากาศร่มรื่นยิ่งขึ้น
สาธารณูปโภค : พื้นที่ส่วนกลางอย่างอาคารคลับเฮาส์ 2 ชั้น จะอยู่บริเวณเดียวกันกับสวนหย่อมเลยค่ะ ตำแหน่งตรงกลางโครงการ ลูกบ้านไม่ว่าอยู่โซนไหนก็เข้ามาใช้งานได้ง่าย โดยในส่วนของคลับเฮาส์ก็มีฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ มาให้ครบครันตามมาตรฐาน แม้จะไม่ได้มากแต่ก็เพียงพอสำหรับจำนวนลูกบ้านที่มีเพียง 79 ครอบครัว แต่ด้วยจำนวนยูนิตที่น้อย ก็ทำให้ลูกบ้านต้องเฉลี่ยชำระค่าส่วนกลางสูงขึ้นมา โดยอยู่ที่ 150 บาทต่อตารางวาต่อเดือน
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 15-20 ล้านบาท, 18 สิงหาคม 2564
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7/10 – อยู่ในถนนย่อย เชื่อมกับถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ไม่ไกลจากถนนพระราม 3
- ความปลอดภัย 7.25/10 – ตามมาตรฐาน มีรั้วกั้นไม้กระดกและรั้วเลื่อนไฟฟ้า พร้อมรปภ.ดูแล 24 ชั่วโมง มีกล้อง CCTV ให้ 22 จุดทั่วโครงการ
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – เน้นการใช้งานพื้นที่ใช้สอยภายในเต็มพื้นที่ ได้พื้นที่ใช้สอยเทียบเท่าบ้านแฝดหรือบ้านเดี่ยว ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามต้องการ
- วัสดุ 7.5/10 – คุณภาพของวัสดุที่ได้มาตรฐาน บางส่วนได้สมราคา
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – ให้พื้นที่สีเขียว 400 ตารางเมตร ตรงบริเวณกลางโครงการ
- สาธารณูปโภค 6.5/10 – ครบครัน แต่ไม่มากนัก เมื่อเทียบกับค่าส่วนกลาง ถือว่าราคาค่อนข้างสูง
- 7.23 / 10.00
Cote Maison พระราม 3 เหมาะกับใคร
โครงการ Cote Maison พระราม 3 เหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาบ้านย่านพระราม 3 เน้นเดินทางเข้าเมืองได้ง่าย เช่น สีลม สาทรและพระราม 4 ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร ความอุดมสมบูรณ์ครบครัน แต่ก็ยังได้บรรยากาศที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัว เพื่อนบ้านไม่เยอะมาก มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 17-20 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 126,000-140,000 บาท
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc