รีวิวฉบับที่ 1938 …  เปิดตัวโครงการใหม่ทาวน์โฮม 3 ชั้นของทาง AP กับโครงการ บ้านกลางเมือง บางนา – วงแหวน ซึ่งเป็น 1 ในโครงการ AP Upper East State ของทาง AP ที่ตั้งอยู่ที่เดียวกับโครงการ The Edition ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว โครงการตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานวงแหวนกาญจนาภิเษก ใกล้ทางด่วน เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิได้สะดวก ส่วนตัวบ้านเป็นแบบ TERRARIA ที่เรารู้จักกันดี มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลาง ครบครัน ในราคาเริ่มต้น 5.39  4.59 ล้านบาท (Update 26/4/2021) เราไปชมกันเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

Fact @ 03 September 2019

  • Baan Klang Muang Bangna-Wongwaen (บ้านกลางเมือง บางนา – วงแหวน)
  • บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: เขต ประเวศ
  • เนื้อที่โครงการ 20-3-13.9 ไร่ จำนวน 217 ยูนิต
  • แบบบ้าน TERRARIA ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม.

  • 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 18 ตร.วา
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 และชั้น 3 – 2.80 เมตร / ชั้น 2 – 2.60 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 5.39 ล้านบาท  ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท (Update 26/4/2021)
  • ช่วงราคาขาย 5.39-8.00 ล้านบาท
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 100,000 บาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2561
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปลายปี 2563
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1623
  • VIP Booking : 7-8 กันยายน 2562
  • ทำเลที่ตั้ง

    แผนที่จากทางโครงการค่ะ

    บ้านกลางเมือง บางนา วงแหวน ตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานวงแหวนกาญจนาภิเษก หรือทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (ถนนหน้าบ้าน) ที่อยู่ระหว่างถนนบางนา-ตราด และถนนลาดกระบัง ซึ่งค่อนมาทางถนนบางนา-ตราดมากกว่า ทำให้เดินทางเข้าเมืองฝั่งบางนาได้สะดวก ตรงข้ามโครงการมีซอยหมู่บ้านทุ่งเศรษฐี และซอยนัมเบอร์วัน-ราม2 ที่ลัดไปออกซอยราม 2 ได้ ภายในมีม.รามคำแหงอยู่ ทำให้บรรยากาศภายในคึกคักทีเดียว มีร้านค้า ร้านอาหาร และตลาดนัมเบอร์วัน-ราม 2 ที่เป็นตลาดใหญ่ของคนละแวกนี้ เรียกได้ว่าหาของกินได้ไม่ยาก แต่ต้องขับรถหน่อยนะ

    ส่วนความอุดมสมบูรณ์หลักๆจะอิงมาทางถนนบางนา-ตราดมากกว่า ที่มีทั้งศูนย์การค้าอย่าง Central บางนา และ Mega Bangna ซึ่งเป็นห้างประจำของคนในย่านนี้เลย หรือถ้าใครกำลังมองหาของตกแต่งบ้าน ต้องบอกเลยว่าเส้นนี้มีเกือบครบทุกแบรนด์เลยนะ ไม่ว่าจะเป็น IKEA, SB Furniture, Chic Republic, Index Living mall, ไทวัสดุ, บุญถาวร และ HomePro ครบครันทีเดียว ส่วนใครที่ชอบทำกับข้าว แล้วกำลังมองหา Hypermarket แถวนี้ก็มีทั้ง Tesco Lotus Extra , Big C, Tops และ Makro ให้จับจ่ายใช้สอยซื้อของเข้าบ้านกันได้อีกด้วย นอกจากนี้เรายังเดินทางไป Central Village ที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน ภายในจะเป็น Luxury Outlet ซึ่งถ้าใครไปแล้วมาคอมเมนต์เล่าบรรยากาศกันด้วยนะคะ > < สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย ใกล้ๆก็มีทั้งสวนหลวงร.9 และสนามกอล์ฟอย่าง Windmill Goft Club และ Thana City ค่ะ

    โครงการเหมาะใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก จากถนนหน้าโครงการสามารถเดินทางไปได้ทั้งถนนบางนา-ตราด และถนนลาดกระบัง โดยไม่ต้องเสียค่าทางด่วน รวมถึงยังมีซอยลัดที่ไปออกถนนกิ่งแก้วได้อีกด้วยนะ หรือถ้าขับข้ามไปฝั่งตรงข้ามก็จะมีซอยลัดไปออกถนนเฉลิมพระเกียรติร.9 และถนนบางนา-ตราดได้ ซึ่งทำให้เรามีตัวเลือกในการเดินทางเยอะขึ้น รวมถึงยังใกล้ทางด่วนทั้งบูรพาวิถีที่วิ่งเข้าเมือง หรือขับออกไปบางพลี-บางปะกง-ชลบุรีได้ เป็นเส้นที่เป็นแหล่งงานของคนนิคมอุตสาหกรรม บริเวณนี้จึงเปรียบเสมือนประตูสู่ภาคตะวันออกของที่สำคัญของกรุงเทพฯเลยทีเดียว

    สำหรับการเดินด้วยรถสาธารณะ เนื่องจากเป็นถนนคู่ขนานทำให้ไม่มีรถประจำทางผ่าน ต้องข้ามฝั่งไปเรียกรถสองแถวที่ซอยหมู่บ้านทุ่งเศรษฐีและซอยนัมเบอร์วัน-ราม2 ซึ่งก็ต้องเดินไกลอยู่ดี แนะนำให้เรียกรถแท็กซี่ผ่าน Application ก็จะสะดวกกว่านะ ส่วนรถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการมากที่สุดตอนนี้คือ Airport Rail Link สถานีลาดกระบัง ข้อดีคือเป็นรถไฟที่เชื่อมกับ BTS สถานีพญาไท, MRT สถานีมักกะสัน และที่สำคัญคือเชื่อมเข้าสนามบินสุวรรณภูมิได้เลยนะ นอกจากนี้ในอนาคตยังมีแผนส่วนต่อขยาย ที่จะเชื่อม 3 สนามบินเข้าด้วยกัน ได้แก่สนามบินสุวรรณภูมิ -สนามบินดอนเมือง-สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งต้องรอติดตามกันต่อไปนะคะ หรือถ้าขยับออกไปทาง Homepro กิ่งแก้วหน่อย ก็จะเป็นอีกจุดคมนาคมที่สำคัญ เพราะมีทั้งวินรถตู้ / รถบัสประจำทาง / รถบัสรับ-ส่งพนักงานนิคมต่างๆอีกด้วย

    สำหรับการเข้าถึงโครงการสามารถใช้ถนนหลักได้ 2 เส้นทาง คือ

    • เส้นทางที่ 1 – ใช้ถนนบางนา-ตราด > เลี้ยวซ้ายเข้าทางคู่ขนาน (ซ้ายมือสุด) > ขับตรงมาทางมุ่งหน้าถนนลาดกระบัง ซึ่งถ้ามาจาดทางนี้ต้องกลับรถใต้สะพาน เราขอแนะนำจุดที่ 2 เพราะเป็นทางที่ไม่ซับซ้อน
    • เส้นทางที่ 2 – ใช้ทางด่วนมอเตอร์เวย์ > เลี้ยวโค้งตามป้ายบอกไปบางนา > วนลงมาตามป้าบอ่อนนุช-ลาดกระบัง > กลับรถเพื่อวิ่งทางคู่ขนาน > โครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือ

    สำหรับการใช้เส้นทางไปยังสถานที่สำคัญๆ

    แนะนำให้กลับรถไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเข้าซอยหมู่บ้านทุ่งเศรษฐี และซอยนัมเบอร์วัน-ราม2 ที่ลัดมาออกถนนบางนา-ตราดได้ ซึ่งพอเลี้ยวซ้ายมาจะเป็น Tesco Lotus Extra ส่วนถ้าขึ้นสะพานฝั่งขวาสุดจะสามารถกลับรถไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเข้าเมืองได้ หรือเลี้ยวเข้า Mega Bangna จากบนสะพานได้เลย ดูแล้วก็ใช้งานง่ายดีนะ

    ส่วนถ้าใครจะเป็นสนามบินสุวรรณภูมิ แนะนำให้ลัดเข้าซอย 01 กาญจนาภิเษก 39 ซึ่งขับไปออกถนนกิ่งแก้ว จากนั้นจะมีทางที่เข้าสนามบินได้เลย หรือจะใช้ถนนบางนา-ตราด หรือมอเตอร์เวย์วิ่งเข้าสนามบินก็ได้นะคะ

    การเดินทางในวันนี้ เราขอเริ่มต้นจากหน้า Central บางนา แล้วเบี่ยงซ้ายออกบริเวณป้ายเทพารักษ์ ขับตามทางมาเรื่อยๆ จะเห็น Tesco Lotus Extra หลังจากขับผ่านมาแล้วให้ชิดซ้ายสุด เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าทางคู่ขนานกาญจนาภิเษก หลังจากนั้นให้กลับรถไปฝั่งตรงข้ามค่ะ

    เริ่มจาก Central บางนา + Big C บางนา ซึ่งถ้าใครจะแวะช้อปปิ้งตรงนี้ต้องหาทางออกก่อน ไม่งั้นจะเลี้ยวเข้าห้างไม่ทันค่ะ ส่วนเราจะขับตรงไปตามทางเลย

    ขับตรงมาสักพักจะมีป้ายเทพารักษ์ ให้เราเบี่ยงออกทางซ้ายเลยนะคะ แต่ถ้าใครขับเลยไปแล้ว หลังสะพานกลับรถจะมีอีก 1 จุดค่ะ

    หลังจากนั้นให้วิ่งตามทางมาเราจะเห็นซอยรามคำแหงที่ไปทะลุ ซอยหมู่บ้านทุ่งเศรษฐี และซอยนัมเบอร์วัน-ราม 2 แต่ภายในซอยจะมีปริมาณรถหนาแน่นหน่อยนะคะ เนื่องจากเป็นเขตชุมชน + สถานศึกษา แนะนำให้ขับเลย Tesco Lotus Extra ไปแล้วเลี้ยวซ้ายค่ะ

    ผ่านโลตัสมาแล้ว ให้เราตบไฟชิดซ้ายสุดเลยนะ เพื่อเข้าถนนคู่ขนานตามป้ายสีเขียว อย่าเผลอเข้าป้ายสีฟ้านะคะ เพราะเดี๋ยวต้องไปกลับรถไกลเลยแหละ

    วิ่งตามทางคู่ขนานมาเรื่อยๆ ฝั่งซ้ายมือจะเจอกับซอยนัมเบอร์วัน-ราม2 ที่ใช้ลัดไปออกถนนบางนา-ตราดได้ค่ะ

    ตรงต่อมาอีกนิด ทางฝั่งขวาจะเห็นป้ายโครงการอยู่ เราต้องตรงไปหาทางกลับรถค่ะ

    ระหว่างทางจะเจอกับซอยลัดอีกซอยหนึ่งคือซอยหมู่บ้านทุ่งเศรษฐี ที่มี Tops daily ตั้งอยู่หน้าปากซอย ที่เราซื้อของก่อนเข้าบ้านได้เลย

    ตรงมาอีกนิด จะเจอจุดกลับรถจุดที่ 1 ซึ่งทางจะซับซ้อนและขนาดไม่ใหญ่มาก โดยกำหนดทั้งความสูงและระยะเวลาเข้า-ออกด้วย แนะนำว่าถ้าใครยังขับไม่ชินทาง ให้ขับตรงไปอีกนิดจะมีทางกลับรถที่ใช้งานง่ายกว่าค่ะ

    จุดกลับรถอีกจุดหนึ่งที่อยู่ใต้สะพานทางจะกว้างหน่อยค่ะ

    พอกลับรถแล้วตรงมาเรื่อยๆก็จะถึงกับซุ้มประตูสีขาว คุ้นๆไหมคะ อันนี้เป็นซุ้มทางเข้าเดียวกับ บ้านกลางเมือง The Edition บางนา-วงแหวน ส่วนของเราต้องขับเข้าไปด้านใน + ข้ามสะพานไปอีกประมาณ 400 เมตรค่ะ

    ขับเข้ามาด้านในบรรยากาศร่มรื่นดี ฝั่งซ้ายมือจะเป็นโครงการบ้านกลางเมือง The Edition ค่ะ ส่วนของเราขับตรงไปตามทางเลย

    ขับมาสุดจะเป็นทางบังคับให้เลี้ยวขวา ตามทางไปเลยนะคะ

    หลังจากนั้นให้ขับข้ามสะพานไปค่ะ

    พอลงสะพานมาเราจะเห็นป้ายโครงการ บ้านกลางเมือง บางนา – วงแหวน ค่ะ ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลย

    มาดูสภาพแวดล้อมของโครงการ บ้านกลางเมือง บางนา – วงแหวน กัน จะเห็นว่ารอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัย จากถนนใหญ่เข้ามาบริเวณซุ้มโครงการประมาณ 400 เมตร บริเวณซุ้มประตูมีรปภ.ดูแลตลอด 24 ชม มีรั้วรอบขอบชิด แยกทั้ง 4 โครงการออกจากกัน บริเวณหน้าโครงการที่ติดถนนใหญ่มีสะพานลอย ข้ามไปซอยหมู่บ้านทุ่งเศรษฐี ที่มี Tops daily ตั้งอยู่ด้านหน้า ภายในมีทั้งร้านค้า + ร้านอาหาร + ตลาด และรถสองแถวไว้บริการรับ-ส่งไปถนนบางนา-ตราดได้ด้วยนะคะ สำหรับพื้นที่รอบๆโครงการจะติดกับสถานที่ดังต่อไปนี้

    • ทิศเหนือ – หมู่บ้าน Windmill
    • ทิศตะวันออก – หมู่บ้าน Windmill
    • ทิศใต้ – ติดกับถนนร่วมของโครงการ + ที่ดินเปล่ารอการพัฒนา
    • ทิศตะวันตก – ติดกับที่ดินเปล่าและคลองสลุด

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ (รวมระยะกลับรถ) เช่น

    • นิคมอุตสาหกรรมอัญธานี เจโมโปลิส ~ 2.2 km.
    • มหาวิทยาลัยรามคำแหง2 ~ 4.5 km.
    • ตลาดนัมเบอร์วัน ราม 2 ~ 4.9 km.
    • เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์ตร้า บางนา ~ 7.2 km.
    • MAGA Bangna ~ 8.4 km.
    • Pan-Asia International School ~ 9.1 km.
    • ร.ร.ราชวินิตบางแก้ว ~ 9.4 km.
    • Paradise Park ~ 10.3 km.
    • ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ ~ 11.2 km.
    • Concordian International School ~ 13.4 km.
    • สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 13.5 km.
    • Central Bangna ~ 19 km.
    • ไบเทค บางนา ~ 19.5 km.
    • รพ. ไทยนครินทร์ บางนา ~ 19.6 km.
    • Berkeley International School ~ 20 km

    รายละเอียดโครงการ

    โครงการ บ้านกลางเมือง บางนา – วงแหวน เป็นโครงการจัดสรรที่มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 217 ยูนิต จากซุ้มประตูโครงการจะมีขนาดใหญ่ + รปภ.ดูแลตลอด 24 ชม. ถัดเข้ามาจะเจอวงเวียน พร้อมน้ำพุตรงกลาง ส่วนพื้นที่ส่วนกลาง มีทั้ง Clubhouse + สวนหย่อมตั้งอยู่ด้านหน้า ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นบ้านพักอาศัยทั้งหมด ซึ่งตัวโครงการมีบ้านแบบเดียวกันหมดเลยนะคะ ส่วนใหญ่จะวางผังหันหน้าตามแนวทิศเหนือ-ใต้ ทำให้บ้านไม่ร้อน มีถนนหลักในโครงการกว้าง 12 เมตร และถนนรองกว้าง 9 เมตรค่ะ

    สำหรับแนวคิดในการออกแบบโครงการนี้คือ “Beyond The Leisure Experience” ที่ต้องการให้ทุกคนสัมผัสบรรยากาศเหมือนอยู่ในเรือสำราญ โดยเน้นไปที่พื้นที่ส่วนกลาง ที่จัดฟังก์ชันมาครบครันทีเดียว รวมถึงมีการคำนึงถึง Universal Design ที่ออกแบบให้ผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องการใช้รถเข็นสามารถใช้งานได้ จึงมีทางลาดมาให้ในบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนดีไซน์บริเวณ Landscape + Interior มีการใช้เส้นโค้งเพื่อสื่อถึงความเคลื่อนไหวของคลื่นทะเลค่ะ

    เข้ามาด้านในจะเป็นถนนโครงการที่ทั้ง 2 ฝั่งมีการปรับทัศนียภาพด้วยต้นไม้ให้ดูร่มรื่น สบายตาสบายใจก่อนกลับเข้าบ้าน

    เข้ามาด้านในก็จะเจอกับซุ้มประตูอีกจุดหนึ่ง บริเวณด้านหน้าทางเข้าก็มีการจัดสวนเช่นกัน พร้อมเห็นป้ายชื่อโครงการชัดเจนค่ะ

    ซุ้มประตูมีการตกแต่งด้วยเส้นโค้ง มาจากความเคลื่อนไหวของคลื่นทะเล ตกแต่งดูแปลกตาดีค่ะ รวมถึงช่วยกันแดดกันฝน เวลาแลกบัตรเปิดกระจกออกมาจะได้ไม่โดนฝนค่ะ

    ทางเข้า-ออกแบ่งเป็น 2 ฝั่งชัดเจน กั้นด้วยซุ้ม รปภ. ที่คอยดูแลคความปลอดภัยตลอด 24 ชม.ค่ะ

    ประตูเป็นรั้วไฟฟ้า 2 ตอน พร้อมมีทางเดินเท้าแยกใช้งานชัดเจน เพื่อความปลอดภัยค่ะ

    สำหรับโครงการนี้จะใช้ระบบ KATSAN (คัดสรร) ผู้คุ้มกันส่วนตัวอัจฉริยะ ตลอด 24 ชั่วโมง จากบริษัท Claymore หนึ่งในบริษัทย่อยในเครือ AP ที่ต้องการยกระดับความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงยังช่วย Support ลูกบ้านเมื่อต้องการความช่วยเหลือ ที่จะเชื่อมต่อตั้งแต่หน้าโครงการ พนักงานรักษาความปลอดภัย นิติบุคคล ลูกบ้าน เข้าด้วยกัน โดยจะมีฟังก์ชันที่น่าสนใจอะไรบ้างไปดูกันค่ะ

    • Pre-Register ฟังก์ชันลงทะเบียนรถยนต์ผู้มาติดต่อล่วงหน้า เพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกในการเข้าสู่โครงการโดยไม่ต้องแลกบัตร
    • Security Matrix : การประมวลผลการเข้า-ออกอัจฉริยะ ผ่านการจดจำป้ายทะเบียนรถ คัดกรองรถยนต์ลูกบ้านกับรถยนต์สาธารณะ พร้อมติดต่อเฝ้าสังเกตรถยนต์สาธารณะที่อยู่เกินเวลา
    • Do not Disturb ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย ด้วยฟังก์ชันการปฏิเสธการเข้าพบ โดยระบบจะแจ้งเตือนไปยังป้อมรปภ.หน้าโครงการ
    • Car Directory ตรวจสอบทะเบียนรถเพื่อตามหาเจ้าของ แก้ปัญหาการจอดรถขวางหน้าบ้านและขีดขวางการจราจร
    • Notifications ฟังก์ชันการแจ้งเตือนอัตโนมัติ เมื่อมีผู้มาติดต่อหรือแจ้งข้อมูลข่าวสาร และประกาศต่างๆจากโครงการ
    • Security Alert เชื่อมต่อ รปภ. แจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ทั้งจากนิติบุคคลหรือเครือข่ายพันธมิตร เช่น โรงพยาบาล หรือสถานีตำรวจใกล้เคียง
    • E-Stamp ประทับตรายางอีเล็กทรอนิกส์ผ่านโทรศัพท์มือถือ

    หรือคลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบ KATSAN (คัดสรร) คลิกที่นี่

    นอกจากนี้ยังมี CCTV บริเวณซุ้มประตูฝั่งละ 2 ตัว ไว้ส่องทั้งเลขทะเบียนรถและหน้าคนขับรถ ส่วนภายในมี CCTV มากกว่า 20 จุดรอบโครงการ

    ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12 เมตร รถวิ่งสวนกันได้สบายๆเลยนะ เข้ามาจะเจอวงเวียนขนาดใหญ่ ที่มีน้ำพุอยู่ตรงกลางสวยงามดี พร้อมพื้น Concrete Stamp และต้นสนรอบโครงการ ทำให้บรรยากาศเหมือนอยู่ต่างประเทศเลยเนอะ ^^ ติดนิดนึงน่าจะเอาเสาไฟฟ้าลงใต้ดิน จะดูเรียบร้อยกว่านี้

    หลังจากนั้นให้ขับวนขวาไปมา เราจะเห็น Clubhouse อยู่ทางซ้ายมือ และถัดไปจะเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมดค่ะ

    เดี๋ยวเราจะพาไปดูบรรยากาศบริเวณ Club House กัน ซึ่งรายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวเล็กใหญ่ โดยรวมแล้วดูร่มรื่น สวยงามดีนะคะ

    โซนแรกนั้นเป็น Welcome Zone ที่มีเก้าอี้ชิงช้า 2 ตัว สำหรับนั่งแกว่งไปมา + น้ำพุด้านหน้า สวยงามดีค่ะ

    ถัดไปเป็นโซน Playful Learning ซึ่งเป็นสนามเด็กเล่น ที่น่าสนใจคือวัสดุที่ใช้ทำเป็นพื้น ที่เราเห็นเป็นสีๆนั่นเเหละค่ะ เขาจะเลือกใช้วัสดุแบบ Absorption หรือ วัสดุที่สามารถดูดซับเเรงกระแทกได้ คือจะเป็นวัสดุที่หยุ่นๆหน่อย ลดเเรงกระเเทกดีกว่าทั่วไป ถ้าวิ่งเล่นเเล้วหกล้มก็จะไม่เจ็บตัวมากนะ

    โดยสนามเด็กเล่นจะไม่ได้มีเครื่องเล่นมาให้เป็นชิ้นๆนะคะ แต่จะมีพื้นลวดลายสัตว์น้ำต่างๆตามคอนเซ็ปต์โครงการ พร้อมทั้งมีบ่อทรายให้น้องๆหนูได้มาเล่นอาศัยจินตนาการอีกด้วย แต่ส่วนตัวมองว่าเล็กไปนิด ถ้าขยายใหญ่จะได้เล่นพร้อมกันหลายๆคนได้ค่ะ

    พร้อมตัวสวนสีเขียวขนาดใหญ่ โดยมีพื้นเป็นหญ้าที่พาเด็กๆมาวิ่งเล่นได้ด้วย หรือใครจะมาทำกิจกรรม Outdoor บริเวณนี้ก็ได้ค่ะ

    ส่วนอีกโซนคือ Resort Visit Park ที่ออกแบบให้เป็นลานขนาดใหญ่ + ที่นั่งด้านข้าง ไว้มาพบปะเพื่อนบ้าน หรือมีกิจกรรมทำร่วมกันที่บริเวณนี้ได้ ซึ่งบริเวณนี้จะมี Universal Design คือทางลาดเพื่อให้ผู้สูงอายุใช้งานได้ด้วยค่ะ

    ส่วน Main Facilities อยู่ที่ตัว Clubhouse มี 2 ชั้น ประกอบไปด้วย พื้นที่รับรอง, สระว่ายน้ำ, เคาน์เตอร์บาร์, ห้องน้ำ+พื้นที่อาบน้ำ, ห้องทำงาน/ห้องสมุด ที่ชั้น 1 ส่วนชั้น 2 จะเป็นฟิตเนสและห้องทำงานของนิติค่ะ เราจะเห็นว่าตัวอาคารออกแบบเป็นรูปตัว U ที่ทำให้ทุกพื้นที่ใช้งานสามารถมองเห็นกันได้

    สำหรับทางเข้าหลักในส่วน Club House จะติดถนน Main ของโครงการ โดยออกแบบให้มีพุ่มไม้สูงล้อมรอบพื้นที่ด้านไนไว้ เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน ซึ่งบริเวณนี้ก็จะมีทางลาดสำหรับผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน

    เข้ามาเจอพื้นที่รับรอง ที่มีการเว้าพื้นที่เข้าไปด้านในเล็กน้อย รายล้อมด้วยกำแพง เพื่อให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น รวมถึงเป็นพื้นที่ Semi-Outdoor ที่สามารถรับลมได้ตลอดเวลา โดยโครงการวางชุดโซฟามาให้แล้วเรียบร้อยค่ะ

    ตัวสระว่ายน้ำของโครงการนี้จะใช้เป็นระบบเกลือค่ะ มีความกว้างยาวเเละลึกรวมอยู่ที่ 16 x 8.6 ม. ลึก 1.2 เมตรค่ะ ไม่ยาวมาก ไม่ถึงกับเป็นสระที่เอาไว้สำหรับว่ายออกกำลังกายจริงจัง เหมาะกับการมาว่ายเล่นมากกว่า ส่วนความกว้างก็สามารถว่ายสวนกัน 4-5 คนสบายๆค่ะ

    ตัวสระแยกสระเด็กมาให้เรียบร้อย โดยมีความลึกอยู่ที่ 60 ซม. + Jacuzzi ที่มาพร้อมที่นั่งแช่ตัวในน้ำ สำหรับนวดผ่อนคลายได้ค่ะ

    Gimmick อีกอย่างเลยคือ Waterfall ที่ทำให้ได้ยินเสียงเหมือนอยู่ในน้ำตกของจริงเลย > < แปลกดีไม่ค่อยได้เห็นมากนัก ส่วนฝั่งขวาจะมีพื้นที่ล้างตัวก่อนลงสระน้ำ ซึ่งมีเพียงจุดเดียวถ้ามีคนใช้งานเยอะอาจจะต้องรอกันสักหน่อยนะคะ

    ด้านข้างสระว่ายน้ำ มี Sun Bed ที่เป็นเก้าอี้ยาวไว้นอนอาบแดดได้ โดยลักษณะเป็นผ้าที่ไม่อมน้ำ คนเล่นน้ำเสร็จตัวเปียกก็มานั่งเล่นได้ค่ะ

    ด้านหลังเก้าอี้ จะมีทางลาดรถเข็นที่ลงไปที่สวนหย่อมได้ด้วยนะ ไม่ต้องไปเดินอ้อมไกลๆ

    หันกลับมาด้านข้างจะมี Counter Bar ไว้รองรับการจัดกิจกรรมสังสรรค์ ในรูปแบบ Pool Party ซึ่งจะต้องขออนุญาตกับทางนิติก่อนนะคะ

    ห้องน้ำส่วนกลางจะมีการเเยกการใช้งานชาย-หญิงมาให้เรียบร้อย โดยเราจะพาไปดูภายในห้องน้ำหญิงกันค่ะ ภายในมีอ่างล้างมือ  2 จุด + Locker ไว้เก็บของเวลามาเล่นน้ำได้ ไม่ต้องกลัวของหายนะ

    ข้างในมีห้องน้ำ 3 จุด + ห้องอาบน้ำ 1 จุด โดยมีการเลือกใช้กระเบื้องแกรนิตลายหินอ่อน เรียบง่าย สวยงามดีค่ะ

    เราไปต่อกันที่ส่วน Indoor ภายใน Club House กันค่ะ

    เข้ามาเจอกับพื้นที่ Double Volume ซึ่งรายล้อมด้วยกระจก ที่เราสามารถนั่งชมวิวสระว่ายน้ำ+สวนไปพร้อมกันได้เลย โดยออกแบบให้เป็น Step ขั้นบันไดขึ้นไป ทำให้สามารถนั่งได้หลายคนมากขึ้น น่าใช้งานดีค่ะ

    โครงการจัดที่นั่งมาให้หลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว มีทั้งแบบนั่งทำงานคนเดียว หรือนั่งทำงานเป็นกลุ่มก็ดีค่ะ

    ขึ้นบันไดมาที่ชั้น 2 บริเวณหน้าห้องฟิตเนสจะมีที่นั่งทำงานมาให้อีก 1 จุดค่ะ

    ห้องฟิตเนสเป็นห้องกว้าง มีพื้นที่ใช้งานได้สะดวก ถ้ามาพร้อมกันหลายๆคนก็ไม่เป็นปัญหานะ ที่รายล้อมด้วยผนังกระจกเปิดมุมมอง 3 ด้าน ซึ่งเราสามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำขณะใช้บริการฟิตเนสไปด้วยค่ะ

    โดยมีเครื่องเล่นทั้ง Weight Training และ Cardio อย่างเช่นลู่วิ่งและเครื่องปั่นจักรยาน ใช้งานสะดวกดี จบกันไปแล้วค่ะกับสภาพเเวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการนี้ ถือว่าเป็นโครงการทาวน์โฮมที่มีส่วนกลางและสภาพโครงการดูน่าสนใจดีค่ะ

    Update พื้นที่ส่วนกลาง (10/9/2020)

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
    • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ

    • สระผู้ใหญ่ ขนาด 16 x 8.6 เมตร ลึก 12 เมตร
    • แบ่งสระเด็กลึกขนาด 0.60 เมตร / พร้อมโซน Jacuzzi

  • ห้องออกกำลังกาย
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด ประมาณ 238.3 ตารางวา
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 25 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
  • Wi-Fi ฟรีที่ Club House
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN
  • ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
  • แบบบ้าน

    โครงการ บ้านกลางเมือง บางนา – วงแหวน จะมีเเบบบ้านอยู่เเบบเดียวชื่อว่า TERRARIA เป็นแบบบ้านของทาง AP ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ชื่อแบบบ้านนี้มาจากคำว่า Terrarium ที่หมายถึงต้นไม้ในขวดโหล ลบภาพเดิมๆของแบบบ้านทาวน์โฮมที่ห่างไกลจากพื้นที่สีเขียวและภายในบ้านที่มืดทึบ ดังนั้นเเบบบ้านนี้จึงถูกออกแบบมาให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น มี Double Greenery Space และ Pocket Garden ที่แทรกตัวอยู่ทุกชั้นของบ้านทั้งหน้าบ้านเเละหลังบ้าน เป็นหนึ่งในไอเดียเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่เข้าถึงผู้อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น อีกจุดเด่นคือใช้ความยืดหยุ่นของพื้นที่ มีทั้ง Extra Space และผนังเบาที่สามารถปรับ Layout ใหม่ได้ด้วย โดยเป็นแบบทาวน์โฮม 3 ชั้นที่มีพื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม. ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดมาตรฐาน 18 ตร.วา พื้นที่การใช้งานจะเเบ่งเป็น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ บ้านหน้ากว้าง 5 ม.

    ชั้นที่ 1 – ที่จอดรถขนาดประมาณ 5.00 x 5.30 เมตร เหมาะจอดรถ 2 คนเล็กกำลังดี หรือถ้าเป็นคันใหญ่จะสามารถจอดได้คันเดียวนะคะ เข้าไปภายในบ้านจะเป็นฝั่งขวากับซ้าย ฝั่งขวาจะเป็นส่วน Common Area ที่เชื่อมต่อถึงหลังบ้านเลย โดยมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.8 ม. ทำให้ภายในดูโปร่งสามารถรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นส่วน Service ที่มีทั้งห้องเก็บของใต้บันได ห้องน้ำ Powder Room ภายในจะไม่มีที่อาบน้ำนะคะ ถัดไปเป็นส่วนครัวหลังบ้าน ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ระบายอากาศได้ หลังบ้านทางโครงการปูพื้นคอนกรีต สำหรับซักล้างหลังบ้านได้

    ชั้นที่ 2 – บริเวณชานพักก่อนถึงชั้น 2 ที่กว้างมากกว่าปกติ โดยเราขอเรียกว่า Extra Space ที่เราสามารถวางเก้าอี้นั่งเล่นได้ พอขึ้นมาที่ชั้น2 จะแบ่งเป็น 2 ห้องนอนมีห้องน้ำให้ใช้ร่วมกันตรงกลาง ผนังระหว่างห้องทั้งสองป็นผนังเบาจึงสามารถทุบเชื่อมห้องนอนทั้ง 2 เป็นห้องนอนใหญ่ได้ โดยที่บริเวณหน้าบ้านจะมีส่วนของระเบียง (Double Greenery Space) ที่สามารถตกแต่งเป็นสวนเล็กได้ตามใจชอบ สำหรับห้องน้ำจะเชื่อมต่อกับสวนด้านหน้า ที่ไว้เปิดรับแสงแดด และช่วยระบายอากาศได้ดี

    ชั้นที่ 3 – เป็นพื้นที่ห้อง Master Bedroom ทั้งชั้นเลย ได้บรรยากาศเหมือน Penthouse เลย บริเวณหน้าบ้านได้กระจกสูง + ระเบียงยาวที่สามารถออกไปสูดอากาศได้ หันกลับมาด้านหลัง มีพื้นที่ทำเป็น Walk-in closet ได้ก่อนถึงห้องน้ำ ภายในห้องน้ำมี Pocket Garden อีก 1 จุด ทำให้เราสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวได้ขณะทำกิจกรรมต่างๆ

    ตัวอาคารจะออกแบบมาดูค่อนข้าง Modern คือเน้นรูปทรงเหลี่ยม ใช้โทนสีขาวเทาเเละน้ำตาล ที่น่าสนใจคือการออกแบบหน้าตาบ้านที่มีการยุบยื่นไม่เท่ากัน ทำให้เกิดพื้นที่และฟังก์ชันที่แตกต่างจากทาวน์โฮมแนวเดิมๆที่เห็นกัน ส่วนประตูรั้วบ้านจะเป็นเหล็กกล่อง บานเปิดสี่ตอนซ้าย-ขวาซ้อนกันได้ เมื่อเปิดสุดจะกว้างเต็มความกว้างของประตูเลยนะคะ

    ระหว่างอาคารมีจุดกลับรถมาให้เรียบร้อย ตามกฎหมายหมู่บ้าน โดยทางโครงการจะเทเป็นพื้นปูนส่วน 1 และพื้นที่สีเขียวอีกส่วน ป้องกันไม่ให้คนเอารถเข้ามาจอดบริเวณนี้ค่ะ

    ของจริงหน้าบ้านมีกริ่ง + ตู้จดหมาย + ถังขยะมาให้ด้วย แต่ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการติดตั้งเป็นมาตรฐานนะคะ โครงสร้างที่จอดรถของจริงจะเป็นพื้นปูน Slab on ground ตัวบ้านหน้ากว้าง 5 เมตร เเต่วัดเเล้วเคลียร์ในก็จะอยู่ที่ประมาณ 4.8 เมตรค่ะ ความลึกของที่จอดรถอยู่ที่ 5.30 เมตร สามารถจอดรถคันเล็ก 2 คันกำลังดีค่ะ

    บ้านทุกหลังจะได้กันสาดหน้าบ้านมาให้เป็นมาตรฐานเหมือนกัน ช่วยให้มีทัศนียภาพที่ดีทั้งโครงการ กันสาดสามารถพับเก็บได้เวลาต้องการให้แสงแดดส่องถึง เช่น จอดรถ ตากผ้าหน้าบ้าน เป็นต้น เวลาอยากได้ร่มเงาก็กางออกได้เลยค่ะ ง่ายมากๆ

    ด้านหน้าบ้านเป็นกระจกบานเลื่อน 2 ตอน มองทะลุไปเห็นด้านหลังบ้านได้ ทำให้บ้านดูโปร่ง ด้านข้างเป็นพื้นที่ห้องเก็บของเปิดใช้งานจากโรงจอดรถได้เลย

    หน้าบ้านจะมีพื้นที่เก็บของให้ เป็นบานเกล็ดที่ระบายอากาศได้ดี ภายในตู้ของจริงได้เป็นตู้โล่งๆนะคะ ใครที่อยากได้ชั้นวางรองเท้าก็สามารถวางตู้รองเท้าเพิ่มได้ค่ะ

    ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อน กรอบบานเป็นอลูมิเนียมสีเทา-ดำ พร้อมบานกระจกสีเขียวตัดเเสง ที่ป้องกัน UV ได้ดีกว่าสีอื่น

    ก่อนเข้าบ้านจะมี Step 1 ขั้น สูงประมาณ 30 เซนติเมตร เพื่อเป็นขั้นให้นั่งใส่รองเท้า หรือเปลี่ยนรองเท้าบริเวณนี้ได้ พร้อมป้องกันไม่ให้ฝุ่นผงจากลานจอดรถเข้ามาในบ้านด้วยค่ะ

    มือจับและตัวล็อคหน้าตาเป็นแบบนี้ เป็นมือจับที่ใช้งานได้ถนัดมือเลย

    ภายในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ที่ยาวจนถึงหลังบ้านเลย ที่เชื่อมต่อส่วนนั่งเล่น+ห้องรับประทานอาหารไว้ด้วยกัน โดยโครงการวางชุดโซฟารูปตัว L มาให้ดูระยะใช้งาน รวมๆแล้วก็ยังดูไม่อึดอัดนะ ยังโล่งๆเดินได้สบายๆเลย ส่วนพื้นเป็นกระเบื้องเเกรนิตโต้ทั้งชั้น พร้อมผนังฉาบเรียบทาสีขาว ความสูงของชั้นนี้จะอยู่ที่ 2.8 เมตรค่ะ

    พาไปเปรียบเทียบกับบ้านของจริงกันค่ะ ซึ่งสำหรับบ้านมาตรฐาน จะไม่มีหน้าต่างด้านข้างมาให้นะคะ ซึ่งอาจจะทำให้แสงธรรมชาติภายในบ้านลดลงค่ะ

    ส่วนระยะดูทีวีกว้างประมาณ 3.50 เมตรเลย สามารถเลือกทีวีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 46″- 50″ จะได้ระยะมองเห็นที่ดีค่ะ

    ตัวอย่างการ Built-in ผนังติดตั้ง TV ช่วยบังบันไดให้พื้นที่ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้นด้วยค่ะ แต่ก็ต้องเว้นระยะหรือทำบานเปิดสำหรับใช้งานพื้นที่เก็บของใต้บันไดด้วยนะคะ

    ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร สามารถวางโต๊ะ 4 ที่นั่งได้กำลังดี อย่างที่บอกไปว่า บ้านตัวอย่างจะเป็นเเปลงมุม ทำให้มีหน้าต่างบานเลื่อนเพิ่ม ทำให้รับแสงธรรมชาติได้มากกว่าปกติค่ะ

    บริเวณฝ้าเพดานของจริงเป็นฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight มาให้ค่ะ

    มาดูส่วน Service กันต่อ ซึ่งเราจะขอพาไปดูห้องน้ำใต้บันไดกันก่อนค่ะ

    ห้องน้ำแบบ powder room มีอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์เท่านั้น ไม่มีพื้นที่ส่วนอาบน้ำ วัสดุภายในห้องน้ำจะปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา ส่วนผนังจะเป็นกระเบื้องเซรามิคสีขาวสลับกับลายโมเสกค่ะ เป็นการเล่นกับโทนสีเเละลวดลายสร้างมิติให้ห้องน้ำดูสนุกมากขึ้น ตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่กลางบ้านพอดีค่ะ

    ขนาดภายในห้องน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 1.3 x 1.5 เมตร ข้างในลดระดับลงไปจากพื้นข้างนอกเล็กน้อย ช่วยป้องกันน้ำไหลออกมาด้านนอกค่ะ

    อ่างล้างหน้าเเบบเเขวนของ American Standard มีพื้นที่วางสบู่ล้างมือได้เล็กน้อย มาพร้อมกระจกเงาติดผนัง ส่องความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านค่ะ

    ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นยี่ห้อ American Standard เช่นกัน ติดตั้งมาพร้อมกับสายฉีดชำระเเละที่ใส่กระดาษทิชชู่ ห้องน้ำนี้จะมีที่เหลืออยู่ที่มุมห้องด้านใน เราจะของตกแต่งเพิ่มเติมเองก็ได้นะคะ ด้านหลังโถจะมี Low Wall ที่สามารถวางของตกแต่ง เทียนหอมหรือวางหนังสือไว้ เผื่ออ่านระหว่างทำธุระส่วนตัวได้

    เนื่องจากตำแหน่งอยู่ตรงกลาง ทำให้ไม่มีผนังส่วนไหนติดกับผนังภายนอกและมีหน้าต่างระบายอากาศ ดังนั้นในห้องนี้จะมีพัดลมระบายอากาศติดตั้งไว้ให้ภายในห้องค่ะ

    มาดูส่วนครัวกันบ้าง พื้นที่ครัวโครงการไม่ได้กั้นเป็นครัวปิดมาให้ บริเวณนี้จึงเหมาะกับการทำเป็นส่วนเตรียมอาหารเหมาะสำหรับทำอาหารประเภท หุง อุ่น ตุ๋น ต้ม นึ่ง มากกว่าหรือถ้าใครอยากกั้นเป็นครัวปิดก็สามารถทำได้ค่ะ ช่วยป้องกันไม่ให้กลิ่นกระจายไปยังฟังก์ชันใช้งานอื่นๆ นอกจากนี้ยังให้หน้าต่างบางกระทุ้งมาให้อีกด้วย ช่วยระบายอากาศได้อีกแรงค่ะ

    สามารถวางชุดครัวเป็นรูปตัว L เหมือนห้องตัวอย่างได้เป็นขนาดกำลังดี ซึ่งพอวางเฟอร์นิเจอร์ไปแล้ว จะมีพื้นที่ใช้งานประมาณ 1.00 เมตร ใช้งานได้ไม่อึดอัดค่ะ

    ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight มาให้ค่ะ

    ประตูด้านหลังบ้านเป็นประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอนเหมือนกับด้านหน้าเลย / ตัวล็อคแบบดึงขึ้น-ลง อยู่ตรงกลาง

    ต่อกันที่หลังบ้านค่ะ พื้นที่หลังบ้านลงเสาเข็มขนาดเท่าตัวบ้านมาให้เรียบร้อย /  มีถังเก็บน้ำและเครื่องปั๊มน้ำเป็นมาตรฐาน สำหรับคนที่ชอบทำอาหารแนะนำให้ติดตั้งเคาน์เตอร์เพิ่มทำเป็นครัวไทยได้ค่ะ

    ระหว่างตัวบ้านกับรั้วมีร่องแยกนิดนึง เพื่อป้องกันการทรุดตัวของบ้านที่มักจะเกิดขึ้นไม่เท่ากัน

    บริเวณด้านหลังบ้าน โครงการแขวน Condensing Unit มาให้แบบนี้เลยนะคะ

    ชั้น 1 เราก็ได้ดูกันหมดแล้วก่อนจะไปชั้น 2 ต่อเรามาดูบันไดกันก่อนค่ะ บันไดทางขึ้นจะอยู่ติดกับด้านหน้าตัวบ้านเลย เข้ามาอยู่ทางขวามือ

    ตัวบันไดของที่นี่จะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำให้เวลาเดินจะไม่มีการสั่นสะเทือนมากนัก ส่วนตัวลูกนอนจะให้มาเป็นไม้สำเร็จรูปค่ะ / พร้อมบัวผนังด้านข้างเรียบร้อย ป้องกันไม่ให้คราบเลอะที่กำแพงบ้าน / ลูกตั้งสูง 17 ซม. + ลูกนอน 27.5ซม. เป็นระยะที่เดินสบายๆ

    ตัวบันไดวางตัวยาวไปตามความลึกของบ้านเลย ทำให้โถงบันไดรับแสงจากชานพักอันนี้ได้ โดยชานพักนี้กว้างประมาณ 2.00 x 1.80 ม. ที่สามารถจัดเป็นที่นั่งเล่นพักผ่อนได้

    มาต่อกันที่ชั้น 2 พื้นเปลี่ยนเป็นลามิเนตแทน โดยของจริงจะแบ่งเป็น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ จุดเด่นเลยคือ ปกติในการก่อสร้างเราจะใช้ระบบ Pre-cast ทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ แต่โครงการนี้ได้ปรับให้ชั้นนี้เป็นผนังเบาที่เราสามารถทุบหรือปรับเปลี่ยน layout ใหม่ได้ตามใจชอบ

    ขอเริ่มที่ห้องนอนหลังบ้านก่อน ความสูงจากพื้นถึงฝ้าจะอยู่ที่ 2.6 เมตร พร้อมหน้าต่างบานเลื่อน 2 ตอน ที่ไว้ระบายอากาศได้

    โดยตัวห้องมีขนาด 2.8 x 4.0 ม. เรียกว่าค่อนข้างลึกทีเดียว เราสามารถวางเตียง 5 ฟุต + วางเฟอร์นิเจอร์สำหรับอยู่อาศัย 2 คนได้สบายๆเลย

    หรือถ้าใครที่ไม่ได้ต้องการห้องนอนหลายห้อง จะปรับเปลี่ยน Layout เป็นห้องอเนกประสงค์ก็ได้นะคะ

    ฝ้าเพดานของจริงเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight มาให้ค่ะ

    มาดูห้องนอนทางด้านหน้ากันบ้าง ห้องนี้จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าห้องด้านหลัง พื้นที่ห้องอยู่ที่ประมาณ 3.8 x 3.2 เมตร มาพร้อมหน้าต่างกว้างเท่าขนาดห้อง + บานเลื่อนที่ใช้ระบายอากาศภายในห้องได้ ส่วนด้านล่างมีผนังทึบ ที่เราสามารถเลือกจัดวางเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมได้ตามใจชอบ

    ห้องนี้สามารถวางเตียงนอนแบบ 5 ฟุตได้ มีทางเดินเหลือเดินรอบเตียงได้เช่นกันค่ะ

    ผนังที่ติดกับประตูทางเข้าห้องก็สามารถจัดเป็นตู้เสื้อผ้า สูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าได้เลย ซึ่งสามารถวางได้ยาว 2 ม. เลยนะ

    โดยถ้าวางตามห้องตัวอย่างจะวางโต๊ะเครื่องแป้งได้อีก โดยมีระยะใช้งานประมาณ  1.00 เมตร เป็นระยะที่ยืนเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ชิวๆเลย

    มาดูพื้นที่ปลายเตียงกันหน่อย ถ้าเราแขวนทีวีตามห้องตัวอย่าง เราจะเหลือพื้นที่ใช้งานประมาณ 1.10 เลยนะ ส่วนพื้นที่ฝั่งริมหน้าต่างก็สามาถวางโต๊ะหัวเตียงได้ ข้อดีของการที่เอาเตียงไว้ตรงกลาง ทำให้เราเดินใช้งานได้สะดวก รวมถึงเราไม่นอนใกล้กำแพงที่ร้อนในเวลากลางวันจนเกินไป

    ห้องนอนนี้สามารถออกไปยังระเบียงด้านนอกได้ ตามแนวคิดของบ้าน TERRARIA ที่ต้องการสอดแทรกธรรมชาติเข้าภายในบ้านค่ะ ประตูระเบียงเป็นกระจกใสสามารถมองเห็นสวนได้จากบนเตียงเลยค่ะ

    เปิดออกไปจะเเบ่งเป็นพื้นที่ใช้งานและพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ พื้นที่ใช้งานจะอยู่ที่ประมาณ 1.4 x 1.35 ม. ส่วนพื้นที่ปลูกต้นไม้จะอยู่ที่ประมาณ 0.88 x 1.40 ม. แต่ของจริงจะไม่มีต้นไม้มาให้นะคะ โดยพื้นภายนอกจะลดระดับลงจากตัวห้องเล็กน้อย ป้องกันฝุ่นผงดินจากนอกห้องปลิวเข้ามาในห้องค่ะ

    ฝ้าเพดานของจริงเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight มาให้ค่ะ

    ส่วนของห้องน้ำจะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 ห้องนอน ภายในแบ่งเป็นส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน มีการลดระดับพื้นที่อาบน้ำเล็กน้อย / มีช่องแสงขนาดใหญ่จะบริเวณสวนเมื่อกี้ ทำให้ห้องสว่างขึ้นและระบายอากาศได้ดี พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 40×40 ซม. ส่วนพื้นที่อาบน้ำปูกระเบื้องโมเสคมาให้สวยงามดี

    ห้องน้ำเป็นแนวยาวกว้างใช้งานสะดวก โดยเรียงลำดับจากแห้งไปเปียกเป็นลำดับค่ะ

    อ่างล้างหน้า + โถสุขภัณฑ์ เหมือนกับห้องที่แล้วเลยนะคะ

    ผนังห้องอาบน้ำฝั่งฝักบัวตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค สีดำเงา ทำให้ห้องน้ำดูมีลูกเล่น ไม่น่าเบื่อ มีช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำที่ผนังมาให้ และโครงการเดินระบบสำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้เลยค่ะ

    พื้นที่อาบน้ำขนาด 1.36 x 0.88 ม. ที่ลดระดับลงเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลออกมาด้านนอก ซึ่งเราแนะนำให้ซื้อฉากกั้นมาเพิ่มจะป้องกันน้ำเลอะได้ดีกว่าค่ะ

    ฝักบัวแบบ Hand Shower ของ American Standard ขนาดใหญ่อาบได้สะใจทีเดียว สามารถปรับรูปแบบการไหลของน้ำได้หลากหลาย ส่วนด้านล่างมีก๊อกน้ำสำหรับซักล้างมาให้ด้วยนะ

    ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight ค่ะ

    ถัดไปเราไปดูชั้น 3 กันบ้างดีกว่าค่ะ ออกจากห้องนอนมาก็จะเจอกับโถงบันไดเลย

    ตัวบันไดจะหักมุมเป็นรูปตัว U ที่โถงชานพักบันไดจะมีช่องเเสงอยู่ช่วยทำหน้าที่ให้เเสงสว่างสำหรับคนเดินขึ้นลงในเวลากลางวันก็ไม่ต้องเปิดไฟ บริเวณนี้ของจริงได้เป็นไฟ Downlight ปกติ แต่ถ้าเราติดตั้ง Chandelier‎ ตามบ้านตัวอย่าง ก็ดูสวยงามดีนะ

    เมื่อมาถึงชั้น 3 จะเจอกับห้องนอน Master Bedroom ซึ่งกินพื้นที่เต็มชั้น บรรยากาศเหมือนอยู่ Penthouse ที่มีครบทั้งส่วนพักผ่อน + แต่งตัว + ห้องน้ำ

    โดยห้องนี้จะวางเตียงขนาด King Size ได้สบายๆเลย ซึ่งพอวางเตียงลงไปแล้วยังเหลือพื้นที่ด้านข้างกว้างพอสมควรเลย

    ส่วนปลายเตียงเหลือพื้นที่ค่อนข้างกว้างมากที่เดียว ประมาณ 2.60 เมตร ที่สามารถวางโซฟาเล็กๆ และชั้นวาง TV ได้ค่ะ

    ฝ้าเพดานของจริงเป็นฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมไฟ Downlight นะคะ

    ตรงส่วนพื้นที่ห้องนอนเชื่อมต่อกับระเบียง มีกระจกกว้างเต็มผนังได้วิวด้านหน้า และรับแสงธรรมาติได้เต็มที่เลยค่ะ

    ตัวระเบียงเป็นระเบียงยาว 3.25 เมตร เลยค่ะ กว้างประมาณ 70 ซม. เราสามารถออกไปสูดอากาศยามเช้านอกบ้านและมองวิวหน้าบ้านได้ รวมถึงเอากระถางต้นไม้มาวาง เพื่อความสวยงามค่ะ

    ส่วนอีกฝั่งจะเป็นพื้นโล่งที่เชื่อมพื้นที่ Double Greenery Space จากชั้น 2 ขึ้นมาชั้นที่ 3

    มองกลับไปอีกฝั่งนึงของห้อง จะเป็นทางเข้าห้องน้ำที่มีพื้นที่กว้างประมาณ 2 x 3 เมตร เราสามารถจัดเป็นพื้นที่ Walk in Closet ได้

    ตัวห้องน้ำจะมีขนาดใหญ่เลย ฝั่งซ้ายมือจะเป็นอ่างล้างหน้าและพื้นที่อาบน้ำ ส่วนขวามือจะเป็นตำแหน่งโถสุขภัณฑ์เเละ Pocket Garden ซึ่งเข้ามุม พร้อมกระจก 2 ด้าน ที่ภายในห้องน้ำสามารถมองเห็นสวนได้เต็มๆ เเละยังช่วยเรื่องการระบายอากาศเเละเเสงสว่างอีกด้วยค่ะ

    สำหรับห้อง Master Bedroom อ่างล้างหน้าจะมีความพิเศษเพิ่มขึ้นมาคือใต้อ่างจะมีตู้ สำหรับวางของมาให้ค่ะ

    พื้นที่ส่วนอาบน้ำจะอยู่ที่ 1.48 x 0.90 เมตร เป็นระยะที่ใช้งานได้สบายๆเลย

    โถสุขภัณฑ์กว้างใช้งานสะดวก + Low Wall ที่สามารวางของได้ / มีหน้าต่างที่มองออกเป็นเห็น Pocket Gardenได้ด้วยนะ

    ตำแหน่ง Pocket Garden หันหน้าเข้าหลังบ้านคนอื่น ยังไงก็อย่าลืมติดมูลี่กันด้วยนะคะ

    Update บ้านตัวอย่าง (10/9/2020)

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคา

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 03 September 2019

    • แบบบ้าน TERRARIA ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม.

    • 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    • ราคาเริ่มต้น 5.39 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาท (Update 26/4/2021)

    • ราคาและเงื่อนไขการขาย Update 1/4/2021
    •  ทาวน์โฮม 3 ชั้น บ้านเลขที่ 96/53 แปลงมุมที่ดินใหญ่ มุมส่วนตัว หันทางทิศใต้ ใกล้คลับเฮาส์ ขนาดที่ดิน 43.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม ราคา 7.99 ล้านบาท ส่วนลด 500,000 บาท เหลือ 7.49 ล้านบาท*
    • ทาวน์โฮม 3 ชั้น บ้านเลขที่ 96/167 แปลงสวย หน้าสวน Pool Villa ทิศใต้ ติดคลับเฮาส์ ขนาดที่ดิน 18.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม ราคา 6.39 ล้านบาท ส่วนลด 500,000 บาท เหลือ 5.89 ล้านบาท*
    • *ทาวน์โฮม 3 ชั้น บ้านเลขที่ 96/86 แปลงหันทางทิศเหนือ ใกล้คลับเฮาส์ ขนาดที่ดิน 20.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม ราคา 5.99 ล้านบาท ส่วนลด 500,000 บาท เหลือ 5.49 ล้านบาท
    • Promotion : ปั้มน้ำ แท็งค์น้ำ กันสาด
    • ลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม 100,000 บาท
    • ค่าจอง 20,000 บาท
    • ค่าทำสัญญา 50,000 บาท
    • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 100,000 บาท
    • ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
    • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
    • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
    • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

    บทสรุป

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง

    ตั้งอยู่บนถนนทางคู่ขนานวงแหวนกาญจนาภิเษก ใกล้ทางด่วน สามารถเดินทางไป Mega Bangna และ สนามบินสุวรรณภูมิได้ง่าย ไปได้ทั้งถนนบางนา-ตราดและลาดกระบังโดยไม่ต้องเสียค่าทางด่วนเพิ่มเติม แถมรถไม่ติดอีกด้วย นอกจากนี้ยังข้ามไปเชื่อมต่อซอยนัมเบอร์วัน-ราม2 ที่ลัดไปออกถนนบางนา-ตราดช่วงก่อนถึงสะพานกลับรถข้ามไป Mega Bangna หรือจะลัดไปออกแถวศรีนครินทร์ พัฒนาการ ที่ไม่ต้องออกถนนใหญ่

    สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถนั้น เนื่องด้วยความเป็นถนนคู่ขนานจึงไม่ค่อยมีรถประจำทางวิ่งผ่านนัก ต้องข้ามฝั่งไปเรียกรถสองแถว หรือจะเรียกผ่าน Application ก็ได้ ส่วนรถไฟฟ้าที่ใกล้มากที่สุด คือ Airport Rail Link สถานีลาดกระบัง

    ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน

    ความปลอดภัยของโครงการค่อนข้างสูงเนื่องจากตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้าโครงการเป็นทางเข้าเฉพาะของ 3 โครงการ ของ AP เท่านั้น จึงไม่มีคนนอกผ่านเข้า-ออก และมีซุ้มประตูทางเข้าแยกแต่ละโครงการอีกชั้นนึง ภายในโครงการติดตั้งระบบ CCTV รวม 25 จุด ค่อนข้างเยอะทำให้สบายใจได้เรื่องความปลอดภัย รวมถึงมีการนำระบบ KATSAN มาใช้ เพื่อป้องกันคนภายในแอบแฝงเข้ามาได้ค่ะ

    การออกแบบโครงการ

    โครงการขนาดกลาง 217 ยูนิต บนพื้นที่ 20-3-13.9 ไร่ จัดเป็นหมู่บ้านขนาดกลางไม่ใหญ่มาก แบ่งออกเป็น 2 เฟส โดยโดยมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลาง เข้าถึงได้ง่ายจากซุ้มประตูทางเข้าเลย มีการวางผังของโครงการบ้านส่วนใหญ่จะหันหน้าตามแนวทิศเหนือ-ใต้ ทำให้บ้านไม่ร้อน รวมถึงในแต่ละช่วงจะแบ่งเป็นทาวน์โฮมติดกัน 6 หลัง ที่ถือว่าไม่หนาแน่นจนเกินไป ยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่นะ ส่วนถนนหลักในโครงการกว้าง 12 ม. และถนนรองกว้าง 9 ม. ซึ่งจะมีบ้านที่อยู่ทั้งเเนวถนนหลัก และซอยย่อย ที่ไม่ได้ซอยย่อยเยอะจนเกินไป ทำให้ดูแลความปลอดภัยในภาพรวมได้ง่ายค่ะ

    การออกแบบบ้านพักอาศัย

    มีแนวคิดจากที่ต้องการดึงพื้นที่สีเขียวเข้ามาในบ้าน ให้ลูกบ้านใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น มีพื้นที่ Extra Space เพิ่มขึ้นที่ชานพักบันได เพื่อให้ใช้พื้นที่ภายในบ้านได้เต็มที่มากขึ้น สำหรับห้องชั้นที่ 2 จะสามารถปรับเปลี่ยนได้ โดยสามารถรวมห้องนอน 2 ห้องเป็นห้องใหญ่ห้องเดียว นอกจากนี้ยังมีส่วน Double Greenery Space ที่สามารถวางต้นไม้ทรงที่สูงๆได้ ให้เราใกล้ชิดธรรมชาติแม้อยู่ในห้องนอน ส่วนชั้นที่ 3 จะเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ ที่เราเรียกกันว่าห้องแบบ Penthouse มีระเบียงออกไปสูดอากาศได้ พร้อมพื้นที่ Walk in Closet, ห้องน้ำในตัว + Pocket Garden ที่ทำให้ชั้น 3 ยังสามารถจัดสวนได้อีกนิดหน่อย เป็นการนำเอาพื้นที่สีเขียวเข้ามาในบ้านได้จริง และพื้นที่มีการใช้งานที่ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยน layout ใหม่ได้ตามใจชอบ

    วัสดุ

    วัสดุมาตรฐานทั่วไป โครงสร้างบ้านเป็น Pre-Cast แต่จะมีผนังบริเวณชั้น 2 ที่สามารถทุบเพื่อเชื่อมพื้นที่ห้องนอนได้ พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม. พื้นชั้น2 และ 3 เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ประตูหน้าบ้านได้กรอบอลูมิเนียม Powder coat สีเทา-ดำ กระจกใสเขียวตัดแสงหนา 6 มม. และบานอื่นเป็นบานประตูสำเร็จรูป HDF ทาสีน้ำมัน ได้บันโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมสุขภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ American Standard

    พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ

    โครงการมีรั้วทึบรอบสูง 3 เมตร สองข้างทางถนนถ้าเป็นด้านข้างของตัวบ้าน จะมีต้นไม้ปลูกเป็นระยะมีทางเดิน+พื้นหญ้า+ไม้พุ่มสูงตลอดเเนว ช่วยสร้างทัศนียภาพสีเขียวให้กับคนที่ผ่านไปมา และยังช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยในบ้านได้อีกด้วย ส่วนที่กลับรถระหว่างบ้านก็จัดพื้นที่สีเขียวมาให้แล้วเรียบร้อยดีค่ะ

    สาธารณูปโภค

    พื้นที่ส่วนกลางถือว่าจัดมาให้ครบตามมาตรฐาน บริเวณสวนของโครงการมีสนามเด็กเล่น ที่เลือกใช้วัสดุพื้นที่มีความยืดหยุ่น ช่วยลดอันตรายที่อาจเกิดจากการที่เด็กเล็กวิ่งเล่นหกล้มได้ในระดับหนึ่ง และมีพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนส่วน Outdoor ค่อนข้างเยอะค่ะ ส่วนตัว Clubhouse ก็จะมีสระว่ายน้ำ ที่จัดฟังก์ชันมาให้หลากหลายดี ส่วนฟิตเนสก็ให้มาครบตามาตรฐาน แต่ที่น่าประทับใจคือ พื้นที่ทำงานที่ให้มาค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะ


    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป ฤโดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 5 – 10 ล้านบาท, 3 September 2019

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 –  ถนนทางคู่ขนานวงแหวนกาญจนาภิเษก ใกล้ทางด่วน มีเส้นทางลัด
    • ความปลอดภัย 7.75/10 –  ประตูรั้วเลื่อน รปภ.หน้าหมู่บ้าน CCTV 25 จุด พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยแบบ KATSAN
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – แบบบ้านออกแบบมาโปร่งโล่ง มีพื้นที่สีเขียวแทรกในบ้าน ฟังก์ชันการใช้งานยืนหยุ่นได้ ตัวบ้านสูง 2.8 ม.
    • วัสดุ 7.5/10 –  เหมาะสมกับการใช้งาน ตามมาตรฐานของโครงการ AP
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 –โครงการขนาดกลาง มีพื้นที่สีเขียวขนาดเหมาะสม ถนนหลักมีพื้นที่สีเขียวตลอดทางทั้งสองฝั่ง
    • สาธารณูปโภค 8.5/10 – พื้นที่ Club House ให้ฟังก์ชันต่างๆมาน่าสนใจดี
    • 7.86/ 10.00

    BOTTOM LINE

    บ้านกลางเมือง บางนา-วงแหวน ทาวน์โฮม 3 ชั้น ติดถนนคู่ขนานวงแหวนกาญจนาภิเษก เดินทางไปทำงานย่านบางนา ชลบุรีหรือสนามบินสุวรรณภูมิได้ง่าย เหมาะกับครอบครัวขนาด 2-6 คน ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง มีระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย ในบ้านสอดแทรกด้วยพื้นที่สีเขียว มีงบประมาณ 5.39-7 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 35,000 – 50,000 บาท


    ติดตามพวกเราได้ที่
    Website: www.thinkofliving.com
    Twitter: www.twitter.com/thinkofliving
    YouTube: www.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagram: www.instagram.com/thinkofliving
    Facebook : ThinkofLiving