การกู้ซื้อคอนโดสไตล์มนุษย์เงินเดือน Part 2 : เลือกแบบไหนเหมาะกับเรา
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหากเราสามารถเลือกที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน หรือสามารถเดินทางถึงกันได้สะดวกสบายนั้น จะสามารถประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ไม่น้อย สำหรับเหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลายที่ส่วนใหญ่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อวางแผนการเดินทางเข้าสู่เมือง หรือย่านธุรกิจเพื่อทำงานในแต่ละวัน การเลือกคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับระบบขนส่งมวลชล โดยเฉพาะรถไฟฟ้าใต้ดินและลอยฟ้าจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจเป็นอย่างมาก แล้วจะเลือกยังไงตรงไหนถึงจะเหมาะกับเรา คงต้องเริ่มจากการดูเงินในกระเป๋าของตนเองเสียก่อน เราตั้งงบประมาณสำหรับการลงทุนเพื่อที่อยู่อาศัยของเราเองไว้เท่าไหร่ ความสามารถในการจ่ายระยะยาว สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดว่าเราสามารถเลือกซื้อคอนโดสักห้องที่ทำเลไหนของเมือง
จากบทความ การกู้ซื้อคอนโดสไตล์มนุษย์เงินเดือน Part 1 ซึ่งได้เคยแบ่งกลุ่มมนุษย์เงินเดือนตามระดับของรายได้ เอาไว้ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
- มนุษย์เงินเดือนน้องใหม่ (Junior) เงินเดือนโดยประมาณ 15,000-30,000 ถ้าพิจารณาเงินกู้ 50 เท่าของรายได้จะกู้ได้ 750,000-1,500,000 บาท
- มนุษย์เงินเดือนรุ่นพี่ (Senior) เงินเดือนโดยประมาณ 30,000-60,000 ถ้าพิจารณาเงินกู้ 50 เท่าของรายได้จะกู้ได้ 1,500,000 – 3,000,000 บาท
- มนุษย์เงินเดือนระดับบอส (Manager) เงินเดือนโดยประมาณ 60,000 ขึ้นไป ถ้าพิจารณาเงินกู้ 50 เท่าของรายได้จะกู้ได้ 3,000,000 บาทขึ้นไป
เอาหละ เมื่อรู้แล้วว่าเราอยู่ในกลุ่มไหน ลองมองเป็นภาพกว้างๆ ในย่านทำเลต่างๆ ของเมือง ว่าระดับรายได้ของเราเหมาะสมจะอยู่ตรงไหนกัน ซึ่งแต่ละย่านก็จะมีภาพลักษณ์และอัตภาพในเชิงของพื้นที่ต่างกัน ส่งผลให้ระดับราคาของที่อยู่อาศัยในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันไปด้วยเช่นกัน เราลองมาดูข้อมูลจากคอนโดมิเนียมที่เริ่มเปิดขายในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา กันว่าในแต่ละย่านจะเป็นอย่างไร แบ่งเป็น ขนาดห้องพื้นที่เริ่มต้น , ช่วงราคาขายเริ่มต้น (บาท) , ช่วงราคาขายเริ่มต้น (บาท/ตารางเมตร) และราคาขายสูงสุด (บาท/ตารางเมตร) ที่พบในแต่ละย่าน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เปิดตัว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
ย่านสีลม-สาทร
เริ่มตั้งแต่ BTS ช่องนนทรี -สุรศักดิ์ – ตากสิน พื้นที่นี้จัดเป็นย่านศูนย์กลางทางธุรกิจ เปรียบเสมือน แลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ เป็นที่รู้จักดีของกลุ่มชาวต่างชาติ เป็นที่ตั้งอาคารสำนักงานมากมาย รวมไปถึงอาคารสำนักงานด้านธุรกิจการเงินการธนาคาร และสำนักงานของบริษัทต่างชาติ ที่อยู่อาศัยในย่านนี้ จะหนาแน่นไปด้วยโครงการที่อยู่อาศัยระดับสูง และอาคารสำนักงานเกรด A ทำให้ย่านนี้ มีราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยปัจจุบันจะหาพื้นที่ว่างในย่านนี้ก็มีน้อยมาก ส่วนพื้นที่ที่ทำเลดี ระดับราคาตารางวาละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท จากราคาที่ดินที่สูงมากจึงส่งผลให้ โครงการใหม่ที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้า มีราคาประมาณ 100,000-350,000 บาท/ตร.ม. และมีการเปลี่ยนแปลงของราคาประมาณ 13% นับจากวันเปิดขาย
ดังนั้น ถ้าจะเลือกคอนโด ที่มีพื้นที่เริ่มต้น 25-55 ตร.ม. เป็นอย่างน้อย จะต้องมีเงินหรือเงินที่กู้ได้ ประมาณ 2,200,000 – 4,480,000 บาท ก็จะเป็น มนุษย์เงินเดือนรุ่นพี่ (Senior) ที่พอจะมีกำลังกู้ได้ที่ 2-3 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถเลือกขนาดพื้นที่ห้องเป็นแบบ Studio หรือ 1 Bed ในราคาต้นๆได้ กับกลุ่มมนุษย์เงินเดือนระดับบอส (Manager) ที่น่าเหมาะกับพื้นที่ในย่านนี้ เพราะด้วยฐานรายได้แล้วสามารถเลือกห้อง ที่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นได้สบายๆ
โครงการที่อยู่ในย่านนี้ได้แก่ The Bangkok Sathorn , Centric สาทร-เซนต์หลุยส์ , The Ritz-Carlton Residences , The Hudson Sathorn 7 , The Seed Mingle เป็นต้น
ราคาขายคอนโดมิเนียมย่านสีลม-สาทร ตามแนวรถไฟฟ้า
นับตั้งแต่ BTS ราชดำริ – ศาลาแดง ขึ้นชื่อว่าเป็นพื้นที่ ที่มีทัศนียภาพและสภาพแวดล้อมที่สวยงามติดอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ เป็นย่านใจกลางเมืองที่มีความสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัย ทั้งที่อยู่ใกล้กับสยามฯ และเซ็นทรัลเวิลด์ที่มีคนเยอะและการจราจรหนาแน่น แต่ราชดำริกลับมีความเงียบสงบ อีกทั้งย่านนี้ยัง เป็นย่านที่มีคอนโดมิเนียมราคาเฉลี่ยสูงแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ปัจจัย ที่ทำให้คอนโดมิเนียมในย่านนี้มีราคาสูง ส่วนหนึ่งมาจากต้นทุนราคาที่ดิน เพราะที่ดินส่วนใหญ่เป็นที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะไม่ขายขาดแต่จะให้เช่า โดยส่วนใหญ่จะนิยมให้เช่า 30 ปี หรือที่เราเรียกกันว่า Leasehold คือ สิทธิในการเช่า ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้จะไม่ได้กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ตนซื้อ และเมื่อครบกำหนดสัญญาเช่า ผู้ซื้อก็จะต้องคืนอสังหาริมทรัพย์นั้นให้กับเจ้าของ ร่วมกับปัจจัยในเรื่องทำเลที่ตั้ง ย่านนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯแวดล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ได้แก่ RBSC (Royal Bangkok Sport Club) และสวนลุมพินี ทำให้คอนโดมิเนียมในย่านราชดำริและหลังสวนได้วิวทั้งพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่และวิวเมืองอยู่เป็นฉากหลัง และยังแวดล้อมด้วยโรงแรมระดับ 5 ดาวทั้งนั้น จึงไม่น่าแปลกใจกับราคาขายคอนโดมิเนียมที่มีราคาสูงแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
คอนโดมิเนียมในย่านนี้ มีระดับราคาประมาณ 100,000-300,000 บาท/ตร.ม. ที่มีพื้นที่เริ่มต้น 25-70 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องขนาดค่อนข้างใหญ่ ตั้งแต่ 1 Bedroom ขึ้นไป ในย่านนี้จะไม่ค่อยพบเห็นห้องแบบ Studio ขนาดเล็ก เพราะกลุ่มผู้อยู่อาศัยในย่านนี้จะมีกำลังทรัพย์เพียงพอที่จะซื้อพื้นที่มากขึ้นและราคาสูงขึ้นได้ แตกต่างจากทำเลในย่านอื่นๆ ก็คงมีเพียงกลุ่มกลุ่มมนุษย์เงินเดือนระดับบอส (Manager) ที่น่าเหมาะกับพื้นที่ในย่านนี้
โครงการที่อยู่ในย่านนี้ได้แก่ 185 ราชดำริ , Magnolias Ratchadamri Boulevard , The Ratchadamri , Saladaeng One เป็นต้น
นับตั้งแต่ BTS ชิดลม-เอกมัย ย่านนี้จัดเป็นศูนย์กลางย่านการค้าของห้างขนาดใหญ่ระดับ SUPER LUXURY โรงแรมและร้านอาหารสุดหรู ย่านนี้จึงมีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยวกระจายตัวอยู่ทุกพื้นที่ เป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวกลุ่มคนที่มีฐานะและนักธุรกิจ ซึ่งคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สุขุมวิท จะมีรูปแบบหลากหลายทั้งแพงระดับ LUXURY และแพงมาก ระดับ SUPER LUXURY โดยระดับราคาจะไล่ระดับความแพงจากลำดับของสถานีปลายทาง สำหรับโครงการใหม่ตามแนวรถไฟฟ้า แบ่งเป็น
สุขุมวิทตอนต้น ราคาประมาณ 110,000 – 280,000 บาท/ตร.ม. โดยไล่ตามระดับความใกล้ไกลของสถานี ดังนั้น ถ้าจะเลือกคอนโด ที่มีพื้นที่เริ่มต้น 25 – 35 ตร.ม. เป็นอย่างน้อย จะต้องมีเงินหรือเงินที่กู้ได้ ประมาณ 3,400,000 – 5,100,000 บาท ยังคงเป็นกลุ่มมนุษย์เงินเดือนระดับบอส (Manager) ที่พอจะสู้กับราคาประมาณนี้ไหว
โครงการที่อยู่ในย่านนี้ ได้แก่ Klass Langsuan , The Tempo ร่วมฤดี , O2 Condo เพลินจิต , Noble เพลินจิต , Hyde สขุมวิท 11 , สินธร เรสซิเดนซ์ , Circle Rein , Ashton Asoke , The Diplomat 39 , Rhythm Thonglor , M Thonglor Ten เป็นต้น
ราคาขายคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิทตอนต้น ตามแนวรถไฟฟ้า
สุขุมวิทตอนปลาย ราคาประมาณ 50,000-150,000 บาท/ตร.ม. โดยไล่ตามระดับความใกล้ไกลของสถานีกับโครงการ ระดับของราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงของราคาประมาณ 10% นับจากวันเปิดขาย ถ้าจะเลือกคอนโด ที่มีพื้นที่เริ่มต้น 22.5 – 25 ตร.ม. เป็นอย่างน้อย จะต้องมีเงินหรือเงินที่กู้ได้ ประมาณ 890,000 – 1,950,000 บาท ซึ่งจากระดับราคานี้กลุ่มมนุษย์เงินเดือนที่สามารถจะเป็นเจ้าของคอนโดในย่านนี้ จะมีตั้งแต่ มนุษย์เงินเดือนน้องใหม่ (Junior) ที่สามารถเลือกโครงการที่ราคาเริ่มต้นไม่สูงมากนัก ราคาเริ่มต้นที่หลักหมื่นปลายไปจนถึงล้านต้นๆ และมนุษย์เงินเดือนรุ่นพี่ (Senior) จะสามารถเลือกโครงการระดับกลางที่มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น แต่ยังอยู่ในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ไปมากนัก
โครงการที่อยู่ในย่านนี้ ได้แก่ The Room สุขุมวิท 69 , The Base Park West , Hasu Haus , The Escape สุขุมวิท 101 , The Base สุขุมวิท 77 เป็นต้น
เริ่มตั้งแต่ MRT เพชรบุรี-รัชดาภิเษก หรือ New CBD (New Central Business Distric ) ย่านธุรกิจใหม่ เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญในเชิงธุรกิจต่างๆ ทั้ง อาคารสำนักงาน สถานทูตจีน และสถานบันเทิง ย่านนี้นับเป็นทำเล เกิดใหม่ของคอนโดมิเนียม สืบเนื่องมาจากเส้นทางของรถไฟฟ้า MRT, เซ็นทรัลพลาซา พระราม 9 ตลาดหลักทรัพย์ใหม่ และการมาของกลุ่ม G Land ที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่ รวมไปถึงอาคาร Super Tower ที่คาดว่าจะสูงที่สุดในประเทศไทย หากมองดูคนที่อยู่อาศัยในย่านนี้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวทำงาน คอนโดมิเนียมจะมีรูปแบบเป็น City Condo และ Luxury Condo ตามไลฟ์สไตล์ของคนในพื้นที่ หากเปรียบเทียบราคาที่ดินกับทำเลอื่น ที่ดินในย่านนี้ยังคงราคาไม่สูงมากนัก เพราะนับว่าเป็นทำเลเกิดใหม่ ยังมีพื้นที่ริมถนนรอการพัฒนาอยู่บ้างแต่ส่วนมากก็จะถูกจับจองโดยกลุ่มนายทุน สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า มีราคาประมาณ 50,000-150,000 บาท/ตร.ม. และมีการเปลี่ยนแปลงของราคาประมาณ 10% นับจากวันเปิดขาย มีพื้นที่เริ่มต้น 21 – 26 ตร.ม.
พื้นที่ในย่านนี้จะมีระดับราคาที่แตกต่างกับย่านธุรกิจใจกลางเมือง เป็นระดับราคาที่คนทำงานที่มีรายได้ 15,000 บาท ขึ้นไปยังพอกู้ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ระดับราคาก็จะลดหลั่นไปตาม ความสำคัญของพื้นที่และเส้นทางของแนวรถไฟฟ้า เช่น สถานีสุทธสาร หรือห้วยขวาง ที่ราคาเริ่มต้นของ คอนโด studio และ 1 bed ยังคงอยู่ที่ล้านปลายๆ เป็นทางเลือกให้กลุ่มมนุษย์เงินเดือนน้องใหม่ (Junior) และมนุษย์เงินเดือนรุ่นพี่ (Senior) ที่ต้องการจะหาคอนโดราคาไม่แพงและมีกำลังในการผ่อนส่งในระยะยาวได้ อีกทั้งเดินทางเชื่อมต่อเข้าเมืองและย่านธุรกิจกลางเมืองได้สะดวกและง่ายขึ้น
โครงการที่อยู่ในย่านนี้ ได้แก่ Condolette Midst , IDEO Mobi พระราม 9 , Noble Revolve , L Loft รัชดา19 , Fuse Miti สุทธิสาร-รัชดา , Life รัชดาภิเษก , Centric รัชดา-ห้วยขวาง เป็นต้น
นับตั้งแต่ BTS ลาดพร้าว – พหลโยธิน ถือเป็นเขตที่อยู่อาศัยรองรับการขยายตัวของเมือง ทางทิศตะวันออก (ตอนเหนือ) เป็นจุดที่มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่นมากแห่งหนึ่งในกรุงเทพ โดยเฉพาะซอยโชคชัย 4 ที่มีความเจริญมากที่สุดบนถนนลาดพร้าว บริเวณนี้มีแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ตั้งแต่ต้นถนนลาดพร้าว ได้แก่ เซ็นทรัลลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ โฮมโปร บิ๊กซี ฟู้ดแลนด์ ตะวันนา แมคโคร รวมถึงเดอะมอลล์บางกะปิที่ตั้งอยู่ปลายถนนลาดพร้าว มีตลาดขนาดใหญ่ซึ่งเป็นแหล่งอาหารมากมาย เช่น ตลาดโชคชัย 4 และตลาดสะพาน 2 ที่ช่วยสร้างความคึกคักให้กับบริเวณนี้เป็นอย่างมาก มีแหล่งงานอยู่เป็นจำนวนมาก เชื่อมต่อกับพื้นที่ย่านรัชดาภิเษก พระราม 9 ย่าน New CBD และจตุจักร เดินทางไปได้สะดวกทั้งจากรถยนต์หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า
มีราคาขายเริ่มต้นประมาณ 70,000-140,000 บาท/ตร.ม. หรือต้องมีงบประมาณอยู่ที่ประมาณ 1.9 – 3.9 ล้านบาท ด้วยราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาทต้นๆ ทำเลในย่านนี้จึงเหมาะกับกลุ่มมนุษย์เงินเดือนน้องใหม่ (Junior) และมนุษย์เงินเดือนรุ่นพี่ (Senior)
โครงการที่อยู่ในย่านนี้ ได้แก่ Whizdom Avenue , Chapter One Midtown , The Saint Residences , Chapter One The Campus Ladprao 1 , The Issara , M Ladprao เป็นต้น
ราคาขายคอนโดมิเนียมย่านลาดพร้าว ตามแนวรถไฟฟ้า
ย่านพญาไท – ปทุมวัน – สามย่าน
พญาไท-ปทุมวัน เป็นทำเลยอดนิยม ไม่แพ้ย่านไหนๆ โดยเฉพาะ สยาม ที่เป็นจุดเชื่อมการเดินทางรถไฟฟ้า 3 สายหลัก ที่มุ่งหน้าไปยัง สีลม-สาทร , สุขุมวิท และพหลโยธิน ที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับแอร์พอร์ตลิ้งก์ จึงทำให้บริเวณนี้มีคนหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านวันละเป็นหลักหมื่นคน ใกล้ศูนย์การค้า สถาบันการศึกษา สถาบันกวดวิชาชื่อดัง อย่างตึกวรรณสรณ์ และสถานที่สำคัญต่างๆ ทำให้ย่านนี้เป็นทำเลทองที่ใครก็อยากจับจอง มีความอุดมสมบูณร์ทั้งด้านการคมนาคม การค้าพาณิชยกรรม อยู่ในย่านกลางเมือง ที่อยู่อาศัยในย่านนี้มีความหลากหลาย เช่น ในพื้นที่ใกล้สนามกีฬาแห่งชาติ จะเห็นโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise เป็นส่วนใหญ่ และในพื้นที่ย่านพญาไทจะเป็นอาคารสำนักงาน มีแหล่งที่พักอาศัยไม่มากนัก คอนโดมิเนียมที่พบจะเป็นคอนโด High Rise ในบริเวณสามย่านก็กำลังถูกพัฒนาให้เป็นคอนโดมิเนียม High Rise ที่มารองรับการอยู่อาศัยของบุคคลกรทางการศึกษา นิสิตและนักเรียน
ในบริเวณโดยรอบ สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า มีราคาประมาณ 100,000-200,000 บาท/ตร.ม. ต้องมีงบประมาณขั้นต้น 2.5 – 6.7 ล้านบาท กลุ่มมนุษย์เงินเดือนน้องใหม่ (Junior) และมนุษย์เงินเดือนรุ่นพี่ (Senior) จึงน่าจะเป็นกลุ่มที่สามารถเลือกทำเลอยู่อาศัยในย่านนี้ได้
โครงการที่อยู่ในย่านนี้ ได้แก่ IDEO Q ราชเทวี , Supalai Elite พญาไท , Ideo Q สยาม-ราชเทวี , Wish Signature Midtown Siam , The Reserve , The Seed Memories Siam . Ashton จุฬา เป็นต้น
ราคาขายคอนโดมิเนียมย่านพญาไท-ปทุมวัน ตามแนวรถไฟฟ้า
ย่านพหลโยธิน นับตั้งแต่ BTS สนามเป้า-อารีย์-หมอชิต พื้นที่ในย่านนี้ส่วนมากจะป็นที่ดินรับต่อเนื่องกันมาแต่รุ่นก่อนหรือที่ดินมรดก และที่ดินของทางราชการ ทำเลนี้จึงถูกใช้เป็นที่พักอาศัยของกลุ่มข้าราชการทหาร กลุ่มเจ้านายเก่า นักการเมือง เป็นย่านอยู่อาศัยของคนนามสกุลเก่าแก่ รวมทั้งเป็นศูนย์รวมของสถานที่ราชการสำคัญๆ เช่น กรมทหาร ททบ.5 และกระทรวงการคลัง ที่อยู่อาศัยบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ จึงมีบรรยากาศร่มรื่นสงบ ไม่พลุกพล่าน น่าอยู่และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกับทำเลอื่น เป็นทำเลในเมืองที่มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่จากกรมทหาร แต่ด้วยข้อจำกัดของที่ดินในทำเลนี้ที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตกรมทหาร ทำให้คอนโดมิเนียมที่มีส่วนใหญ่มักจะอยู่ในซอยย่อยอารีย์ ราชครู และสายลม ไม่ค่อยพบคอนโดมิเนียมริมถนนใหญ่มากนัก โดยเฉพาะซอยอารีย์ถือเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมจากคนไทยและชาวต่างชาติ ส่วนบริเวณปากซอยนั้นค่อนข้างคึกคัก เพราะมีโครงการ La Villa (ลาวิลล่า อารีย์) ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามซอยอารีย์ ติดทางขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้าอารีย์ พื้นทีที่เชื่อมต่อถึงกันคือย่านสะพานควาย ที่เป็นย่านพาณิชย์และชุมชนเดิมที่เต็มไปด้วยร้านค้าและผู้คนอยู่อาศัยกันหนาแน่น พื้นที่จึงมีความอุดมสมบูรณ์พร้อมสำหรับการใช้อยู่อาศัย ส่วน หมอชิต บริเวณนี้จัดเป็นศูนย์กลางการเดินทางของกรุงเทพฯตอนเหนือที่สำคัญ เชื่อมต่อไปถนนวิภาวดีรังสิต เป็นเส้นทางเข้าสู่เมือง หรือออกนอกเมืองไปทางรังสิต ปทุมธานีก็ได้ ใกล้แหล่งจับจ่ายซื้อของและพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ จากสวนสาธารณะขนาดใหญ่ อาทิ สวนจตุจักร สวนวชิรเบญจทัศ(สวนรถไฟ) สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
สำหรับโครงการใหม่ตามแนวรถไฟฟ้า มีราคาประมาณ 70,000-160,000 บาท/ตร.ม. และมีการเปลี่ยนแปลงของราคาประมาณ 18% นับจากวันเปิดขาย มีพื้นที่เริ่มต้น 25.5 – 31 ตร.ม. เนื่องจากย่านพหลโยธินจัดได้ว่าเป็นย่านเมืองชั้นรองถัดมาจากย่านศูนย์กลางธุรกิจ จึงเป็นย่านที่น่าสนใจในการเลือกที่พักอาศัยของคนที่ไม่เน้นว่าต้องอยู่กลางใจกลางเมืองแต่จะต้องสามารถเดินทางเข้าสู่เมืองด้วยระบบขนส่ง เชน รถไฟฟ้าได้ ส่วนระดับราคาของคอนโดในย่านนี้ จะเหมาะสมกับผู้ที่เริ่มการทำงานหรือต้องการหาดอนโดราคาไม่แพงจนเกินไปและยังสามารถมีโอกาสได้เลือกขนาดห้องได้หลากหลายยิ่งขึ้น จึงเหมาะกับกลุ่มมนุษย์เงินเดือนน้องใหม่ (Junior) และมนุษย์เงินเดือนรุ่นพี่ (Senior)
โครงการที่อยู่ในย่านนี้ ได้แก่ Siamese ราชครู , Noble RE:D , The Remarkable Condo อารีย์-พหลฯ , D’Memoria พหลโยธิน 8 , Noble Reform , Onyx , The Line จตุจักร – หมอชิต , M Jatujak เป็นต้น
ราคาขายคอนโดมิเนียมย่านพหลโยธิน
เป็นอย่างไรกันบ้างพอจะมองหาทำเลที่ถูกใจกันได้บ้างหรือเปล่า ที่อยู่อาศัยเป็นการลงทุนระยะยาว หลักสิบปีขึ้น ทำให้ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ดูเรื่องทำเลให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวันของตัวเอง การเดินทางไปทำงานหรือไปยังที่ต่างๆ เพราะเราจะสามารถประหยัดค่าเดินทางแล้วเอามาชดเชยเป็นค่าที่พักอาศัยได้ ใครๆก็อยากมีบ้านมีคอนโดเป็นของตัวเองแต่ก็ต้องไม่เป็นภาระที่หนักเกินไปเช่นกัน การเลือกให้พอดีกับรายรับรายจ่าย ตลอดจนภาระหนี้สิ้นอื่นๆที่มีอยู่คงจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด