รีวิวฉบับที่ 282 ในช่วงวัน Christmas ของปี 2012 ทาง Think of Living ก็ได้โอกาสจะเอาห้องตัวอย่างของ XXXIX (อ่านว่า Thirty Nine หรือ 39) ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมตัวท๊อป เกรด Flag Ship ของแสนสิริในปี 2555 ว่าตึกนี้เป็นอย่างไร แต่งห้องอย่างไร จนเป็นข่าวดังที่ตึกที่แพงที่สุดแต่ขายหมดภายในระยะเวลา 3 วัน เพิ่มเติมจากข่าวและข้อมูลเบื้องต้นที่เราเปิดกันไปในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาครับ
Fact @ 23 December 2012
- The XXXIX by Sansiri
- บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
- ULTIMATE CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด High Rise 32 ชั้น 1 อาคาร 178 ยูนิต
- ที่จอดรถ 100%
- ที่ดินประมาณ 1-3-74 ไร่
- 1-3 Bedrooms / Penthouse
- พื้นที่ใช้สอย 50 – 323 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 10 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 195,000 บาท
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS พร้อมพงษ์ ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS พร้อมพงษ์
อัพเดตข้อมูลปัจจุบัน 13/2/2015
- ราคา Resale ปัจจุบัน ประมาณ 230,000-250,000 บาท ต่อ ตร.ม.
- เมื่อเปรียบเทียบกับราคาเปิดตัวเมือง 2 ปีที่แล้ว อยู่ที่ 180,000-200,000 บาท ต่อ ตร.ม.
- ผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นคนไทย โดยมีอัตราส่วนการซื้อเป็นนักลงทุน
- จำนวนยูนิตทั้งหมด 178 ยูนิตที่ขายไป ราคาเฉลี่ยทั้งหมด คือ 206,269 บาท ต่อ ตรม.ม.
- โดยกว่า 90% ของจำนวนยูนิต ขายที่ Official Pre-Sale
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
แผนที่ของตัวอาคารอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 อย่างที่เห็น
แหล่งชุมชนและสถานที่สำคัญรอบๆตัวอาคาร
สำหรับเรื่องทำเลโดยละเอียดนั้นสามารถอ่านได้จากบทความ มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์…สถานีพร้อมพงษ์ เป็นสถานีบน BTS สายสีเขียวอ่อน (สุขุมวิท) อยู่ระหว่างสถานีทองหล่อและอโศก ที่ตั้งของตัวสถานีอยู่บนถนนสุขุมวิท บริเวณ สุขุมวิท 35-39 เเละ 24-26 สถานีจะมีทางเชื่อมโดยตรงไปยังห้างเอ็มโพเรียม
บทความนี้จะบอกถึงบริเวณรอบข้างสถานที BTS พร้อมพงษ์ ที่น่ารู้ประกอบกับการตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ ซึ่ง XXXIX ก็เป็นหนึ่งในตึกที่ตั้งอยู่บนทำเลนี้ครับ
เรามาดูสภาพซอย 39 กันบ้าง สภาพดูโอเค เดินสะดวก ต้นไม้เยอะ ไม่มีรถจอดกีดขวางการจราจร แต่อาจจะมีรถติดได้บ้าง
เนื่องจากถนนซอยนี้กว้างเกิน 10 เมตร จึงสามารถสร้างตึกสูงได้ เราจะเห็นตึกสูงอยู่เต็มไปหมด เป็นเหตุให้ซอยนี้มีความเจริญคึกคักขึ้นมาในช่วงสิบกว่าปี
บริเวณนี้เป็นแถวสำนักงานขายของ XXXIX by Sansiri แต่จริงๆแล้วตัวตึกไม่ได้ตั้งอยู่ตรงนี้นะครับ จะต้องทุบตึกเก่าทิ้งก่อน
นี่เป็นสำนักงานขาย
ก่อนที่เราจะไปดู XXXIX เดี๋ยวเราไปดู 39 by Sansiri กันก่อน เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จ ปิดโปรเจคกันไปแล้ว อยู่ในทำเลข้างเคียงใกล้ๆกันเลยครับ
หน้าตาตึกเป็นแบบนี้ 39 by Sansiri สมัยก่อนก็จัดว่าล้ำพอดู พอมาสมัยนี้แม้ว่าจะธรรมดาลงไปหน่อย แต่ก็ยังดูดีอยุ่
ให้ดูพวก Water Feature รอบๆโครงการ
มุมสวนด้านข้างและหน้าโครงการ ยังดูแลได้ดี
ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นแถวจุด Drop Off
ตัวตึกและส่วนที่ยื่นออกมา
ข้างๆกันมี Better Being Hospital
ตึกนี้ละครับ ตึกสีขาวข้างๆที่จะทุบออกแล้วสร้างเป็น XXXIX แทน
ดูด้านขวา เห็นมีรอยร้าวไปหมดละ
ฝั่งตงข้ามของโครงการใหม่
แถวๆบริเวณหน้าที่ดินโครงการใหม่
ถัดมาอีกหน่อยเป็นตึก Le Raffine 39 ซึ่งเป็นคอนโดระดับ Top End อีกหนึ่งโครงการ ดูจากหน้าตาตึกก็พอทราบได้
เจาะลึกตัวโครงการ
หน้าตาของตึกที่นี่ เทียบกับ 39 by Sansiri แล้วก็ต้องบอกว่าเป็นคนละ Style เลย
หน้าตาตึกเป็นสีขาวๆเน้นความหรูหรา ดูแกรนด์ๆแบบ Modern + Classic หน้าตาตึกออกไปทางโทนรถยุโรปชั้นดี
หน้าตาของ Lobby แต่งด้วยวัสดุคล้ายๆโรงแรม 5 ดาวยุคใหม่ ใช้หินกับวัสดุมันวาวและเส้นสายสี่เหลี่ยมที่บ่งบอกได้ทั้ง Modern และ Classic
Reception Counter ยังคงให้อารมณ์ของโรงแรม
- 1 ห้องนอน ความกว้าง 50 – 59.5 เมตร จัดว่าเป็นห้อง 1 Bedroom ที่ใหญ่พอตัว
- 2 ห้องนอน มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ Duplex 65 – 106 ตารางเมตร และมีขนาดพิเศษที่มี 3 ห้องน้ำ ที่ 118.5 ตารางเมตร
- 3 ห้องนอน มีขนาด 118 – 132.5 ตารางเมตร
- Penthouse ที่ 300 ตารางเมตรขึ้นไป
สำนักงานขายครับ สร้างมาเหมือนว่าจะใช้งานยาวนาน แต่ขายแป๊ปเดียวหมด เสียดายค่าก่อสร้างจริงๆ สงสัยจะต้องเปิดอีก 1-2 โครงการมาใช้สำนักงานหน่อยแล้วมั้ง
ด้านในทำเสียสวยเลย
ที่ตั้งโมเดลตึกครับ
หน้าตาโมเดลออกมาเป็นแบบนี้ ผืนที่ดินรูปสีเหลี่ยมผืนผ้าสวยเลย เป็นตึกแท่งตรงๆ มี Stack ของชั้นๆเข้าไป
ทางเข้าด้านหน้าถนนติดกับซอย 39 วนรถจากทางขวา มีประตูเล็กสำหรับลูกบ้าน
ให้ดูด้านข้างนะครับ อันนี้เป็นทิศใต้ฝั่งพระราม 4 หันออกไปเห็น Emporium 2 และตึก 39 by Sansiri ส่วนทิศเหนือจะอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
ทิศตะวันตก ฝั่งด้านหลังโครงการ
Master Plan ของตึกนี้ เรามาดูกันก่อนเลย จะเห็นว่าทางด้านขวาบนเป็นทางเข้า ซึ่งจะวนรถรอบอาคารเพื่อมาที่ด้านหลังอาคารได้ ตรงกลางบนเป็นจุด Drop Off Area สร้างเป็นคล้ายๆวงเวียนให้วนได้ ดูแกรนด์เหมือนพวกแปลนโรงแรม ซึ่งชั้นล่างจอดรถได้ประมาณ 23 คัน ถ้าเกินนี้ก็ต้องวนขึ้นชั้น 2 ต่อไป
ทางด้านหน้ามีทางเข้าสำหรับคนเดินเป็นประตูเล็ก เดินเข้ามาที่ Main Entrance – Lobby – Reception และเข้าไปยัง Lift Lobby ด้านหลัง
ลิฟท์ของอาคารนี้มีด้วยกันทั้งหมด 4 ตัว แบ่งเป็นลิฟท์โดยสาร 3 ตัวและลิฟท์บริการ 1 ตัว
ชั้นจอดรถคือชั้น 2 – 6 นับรวมช่องจอดทั้งหมดและชั้น G ได้ 162 คัน ถ้าจอดซ้อนคันก็สามารถจอดได้ครบ 100% ของทุกยูนิต และที่นี่ไม่มีการ Fix ที่จอดรถนะครับ
ชั้น 7 เป็น Facility เต็ม Floor ซึ่งไม่ค่อยมีที่ไหนให้กันเท่าไรนัก
XXXIX มี Business Centre, Kids Pool, Swimming Pool, Sunken, Changing Room และ Pavilion อยู่บนชั้นนี้ โดยตกแต่งรอบข้างเป็นน้ำพุเตี้ยทั้งสองฝั่ง
ชั้นนี้จริงๆแล้วเป็น Double Volumn คือเพดานจะโปร่ง 6 เมตร และมีห้องฟิตเนสแขวนอยู่ส่วนบน เป็นชั้นลอยเดินออกไปได้ เรียกว่าชั้น 7F Upper ที่สามารถเข้าถึงได้ด้วย Lift เหมือนกันนะครับ
สระว่ายน้ำกึ่งๆในร่มและกลางแจ้ง ดูจากแปลนแล้วยาวเลยล่ะ ว่ายออกกำลังสบาย
เตียง Pavilion ลอยอยู่เหนือ Jacuzzi / น้ำพุเตี้ย
มาดู Typical Floor Plan กันบ้าง เริ่มจากชั้น 8 ก่อน ตามมุมๆของตึกเตรียมตำแหน่งให้ช่องแสงและลมผ่านไว้ 3 จุด ซึ่งอยู่บริเวณโถงลิฟท์ ประกอบกับ Corridor ที่สั้นมาก ทำให้ Corridor โปร่งขึ้นด้วย ทั้งแสงและลมธรรมชาติ
จำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดคือ 10 Units / Floor เรียกว่าหนาแน่นต่ำ ซอยห้องเล็กสุดที่ขนาด 50 ตารางเมตร แต่ถ้าเทียบกับ Ultimate Luxury Class ก็ต้องบอกว่าสูงนะครับ
ห้องที่ยื่นๆออกมาจะได้เป็นห้องคล้ายๆห้องมุมตึก เพราะสามารถใส่กระจกได้ในจุดที่ยื่นออกมา ทำให้มีแสงธรรมชาติจากหน้าต่าง 3 ด้าน ดังนั้นตรงนี้จะเป็นห้องแบบ 2 Bedrooms เท่านั้น โดยห้องเล็กๆทั้งหลายจะซอยใส่ไปด้านหน้าและหลังแทน
พอขึ้นไปที่ชั้น 18 ห้องก็หดลงไปสองห้อง เหลือที่ 8 Units / Floor
พอชั้น 24 ก็หดลงไปอีก 2 ห้อง เหลือ 6 Units / Floor
พอขึ้นไปถึงชั้น 31 ก็จะเป็น Duplex Penthouse แล้ว มีพื้นที่กว่า 300 ตารางเมตร พร้อมสระว่ายน้ำในยูนิตของตัวเองด้วย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Facility เต็มชั้น 7F
- สระว่ายน้ำและสระเด็ก
- ห้องออกกำลังกาย
- Wifi ที่ Lobby และชั้น 7F
- Business Centre
- Steam Room
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว + ลิฟท์บริการ 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ที่ 1:60
- ระบบ CCTV / Access Card
Product Walkthrough
ห้องแบบ 3 Bedrooms เป็นห้อง Type 3A และเป็นห้องตัวอย่างแบบเดียวที่มีทำไว้นะครับ โดยมีขนาด 132.5 ตารางเมตร
ห้อง 3A ติดมุมสองด้าน ทิศเหนือและทิศตะวันออก แปลนห้องเป็นรูปตัว S
ส่วนแรกคือห้องรับแขก ที่รวมพื้นที่ครัวและทานอาหารเอาไว้แล้ว ข้างในแจกเป็น 3 ห้องนอนคือ ห้องนอน 1-2-3 โดยห้องนอน 1 หรือ Master Bedroom และห้องนอน 2 นั้นมีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอน 3 นั้นใช้ห้องน้ำร่วมกับห้องรับแขก
ประตูเป็นแบบนี้ มีบานเล็กด้านข้าง สามารถเปิดได้ ถ้าจะเข้าด้วยรถเข็น หรือยกของชิ้นใหญ่ๆเข้าบ้าน ประตูดูแล้วแกรนด์ดีทีเดียว
ช่องประตู หุบร่นเข้าไปจาก Corridor ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวเวลาเดินเข้าออก
มีระบบ Digital Doorlock ของ Yale
การ์ด, Password และกุญแจ
เดินเข้าในห้องมานะครับ มองย้อนกลับไปที่ประตู
บริเวณประตูมีระบบ VDO Door Phone อยู่ด้านบน เอาไว้ดูว่ามีใครมาหาเรา และจะสามารถปลด Lock ที่ชั้น Lobby ให้เพื่อนเราขึ้นมาหาที่ห้องได้
ส่วนตัวล่างนี่เป็นระบบ Home Automation ที่ใช้ควบคุมระบบไฟฟ้าต่างๆ เช่นระบบไฟอย่างที่เห็น
อันนี้เปลี่ยนเป็นระบบแอร์ ปรับได้จากหลายจุด
ห้องรับแขกใหญ่ เป็นพื้นไม้จริงต่อกันไปจนถึงห้องนอน
ห้องนี้แบ่งพื้นที่เป็นหลายส่วน ใช้งานได้หลายฟังก์ชั่น ด้านหน้าสุดเอาไว้นั่งเล่นดูทีวี พูดคุยกัน
ต่อมาจะมีมุมนั่งรับประทานอาหาร และสุดท้ายคือมุมครัวที่อยู่ด้านใน เป็นฟังก์ชั่น 3 ส่วนหลักๆของ “ห้องโถงกลาง” ห้องนี้
ห้องนั่งเล่นจัดวางโซฟาได้แบบนี้ จริงๆ จะวาง Armchair ด้านซ้ายมืออีก 1 ตัวก็ยังได้ เป็นชุด Grand Sofa 5 ที่นั่ง
ครัวด้านหลังแบ่งออกเป็นส่วน Counter Island / Bar ที่อยู่ตรงกลางและ Counter ครัวด้านหลัง
Island ท๊อปด้วยหินสีดำ แบ่งซิงก์เป็น 2 หลุม ทำงานง่าย
ระบบฉีดน้ำตรงนี้ดึงออกมาใช้ทำความสะอาดได้ง่าย
มาดูชุดครัวด้านหลังที่โครงการเตรียมไว้ให้บ้าง ด้านซ้ายของเรามี Microwave และ เตาอบ
เตาไฟฟ้าแบบชุดใหญ่ ของ Siemens
เครื่องดูดควันของ Siemens
ตู้เย็นแบบ Built-in เปิดบานคู่ มี Freezer อยู่ด้านล่าง
ตู้เก็บเครื่องซักผ้า
Accessory ต่างๆของ Counter ครัว
ช่องเปิดใส่เครื่องล้างจานและที่ทิ้งขยะ
มุมของครัวเปิดออกไปเป็นกระจกดูดแสงเข้ามาได้
ข้างห้องรับแขกมีระเบียง รับแดดจากทิศเหนือ-ใต้ แล้วแต่ตำแหน่งของห้อง
ราวกันตกเป็นกระจก Tempered Glass ขนาดระเบียงไม่กว้างนัก ราวๆ 80 ซม.
ช่องกริลด้านซ้าย วาง Compressor Air แบบ Split Type
กรอบกระจก
แอร์ Conceal แบบนี้
ตู้ไฟต่างๆ ก่อนถึงทางเดินไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้อง
ตู้เก็บรองเท้าด้านหน้า
ลายพื้นไม้ Engineering Wood
รางม่านซ่อนไว้ในหลืบ
ตรงนี้เป็นส่วนที่สองของห้องนี้แล้ว คือทางเดินไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ซึ่งจัดเป็น Private Zone ด้านใน
ให้ดูสวิทช์ไฟของ Siemens อีกหน่อย
ห้องน้ำแรกเป็นห้องน้ำที่ห้องนอน 3 ใช้ร่วมกับห้องน้ำห้องนั่งเล่น พื้นและผนังปูด้วยหิน กันพื้นที่แยกส่วนเปียกส่วนแห้งทำเป็น Shower Box
โถสุขภัณฑ์ชิ้นนี้งามมาก ดีไซน์ทรงสี่เหลี่ยม แปลกตา ไม่เคยเห็นมาก่อนในโครงการไหน
ที่ฉีดชำระ
ที่วางกระดาษทิชชู่
ซิงก์น้ำ กรุด้วยหินอ่อนรอบ
หัวก๊อก
Rain Shower ชิ้นใหญ่มาก กับ Hand Shower ชิ้นใหญ่เช่นกัน
ความเจ๋งอยู่ตรงนี้ครับ ระบบปรับอุณหภูมิของ hansgrohe
เลือกความร้อนความเย็นของน้ำได้
นี่เป็นระบบเลือกว่าจะอาบแบบไหน มือหรือฝน
อาบมือด้วยฝักบัวอันนี้ น่าจะปรับความแรงน้ำได้หลายแบบมาก
อาบแบบฝนก็ใช้อันนี้เป็นหลัก หัวของ Rain Shower ยาวและใหญ่กว่าที่อื่น
ดูลายหินที่พื้นกันก่อนออกไปนะครับ
เราเดินเข้ามาด้านในต่อ ไปยังห้องนอน 3
ห้องนอน 3 ขนาดไม่กว้างเท่าไร วางเตียงและอื่นๆนิดเดียวก็เต็มพื้นที่แล้ว
ข้อดีคือได้กระจกสองด้าน คล้ายๆเป็นห้องมุม
แอร์ซ่อนไว้ที่โถงทางเดิน สวยงาม
เดินต่อมาที่ห้องนอน 2 กันบ้าง
สีแดงแรงฤทธิ์ทีเดียว ความกว้างก็เช่นเดิมไม่มาก แต่ก็ได้กระจกสองด้านเป็นห้องมุมสบายๆ
ห้องนอน 2 มีห้องน้ำและมุมแต่งตัวในห้อง
มุมแต่งตัวนะครับ มีตู้เสื้อผ้าอยู่ทางขวา เรียกว่าเป็น Semi Walkin-Closet ก็พอได้
ด้านซ้ายของเรามีห้องน้ำอยู่ สุขภัณฑ์ใช้เหมือนๆกันกับห้องน้ำแรก
สุดท้ายเราเดินมาดูห้องนอนใหญ่กันบ้าง จะเห็นทางเข้าห้องน้ำอยู่ก่อนเลย
มีมุมตู้เสื้อผ้าให้เรียบร้อย เป็นมุมแต่งตัวรูปตัว L
โต๊ะทำงาน และ/หรือ โต๊ะเครื่องแป้ง
วางเตียงติดผนังกระจก แต่ห้องนอน Master Bedroom นี้ติดวิวแค่ด้านเดียว ไม่ได้เป็นห้องมุมเหมือนห้องนอน 2 และ 3
มองย้อนกลับไป ผนังห้องน้ำใช้เป็นกระจก ดั้งนั้นจะมองทะลุไปได้ ของจริงจะใช้เป็น Sticker ฝ้าหรือว่าม่านก็ได้ เพื่อความเป็นส่วนตัว
ฟังก์ชั่นที่เพิ่มมาสำหรับห้องนอนใหญ่ก็คืออ่างน้ำ
แต่อาจจะต้องดูเรื่องการก้าวขึ้นลงหน่อย ตรงนี้ไม่มีขอบอ่าง และทำค่อนข้างสูง คือสูงเกือบขึ้นมาถึงขอบของซิงก์ ต้องระวังตอนเดินขึ้นลง
อุปกรณ์ต่างๆของอ่างน้ำ
ซิงก์ได้ Counter Top ที่ใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย มีการซ่อนไฟใต้กระจก เพิ่มความสว่างด้านล่าง
ห้องอาบน้ำด้านใน มีพื้นที่นั่งอาบน้ำได้ด้านขวา
นั่งตรงนี้ได้เลย
เรียบร้อยแล้วครับกับห้องของ XXXIX
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24/12/2012
- Sold Out
- ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 200,000 บาท ต่อตารางเมตร
- Fully Fitted ครัว แอร์ ตู้เสื้อผ้า
เจาะลึกรวบยอด
ก่อนอื่นเลยจะบอกว่าโครงการนี้ขายหมดแล้ว คือซื้อตรงมือ 1 จากแสนสิริไม่ได้แล้วหากไม่มีลูกค้าคืนห้องกลับมา แต่ผมเชื่อว่าหากท่านต้องการห้องจริงๆและมีความสามารถในการซื้อห้องนี้ ก็รับรองว่าหาห้อง Re-sale ขายใบจองต่อกันได้ไม่ยากนะครับ
สำหรับทำเลของ XXXIX ก็ต้องบอกว่าใกล้เคียงกับ 39 by Sansiri และ Le Raffine 39 ที่อยู่ใกล้กัน แต่คงจะด้อยกว่า Gallerie rue de 39 ของ AP อยู่บ้าง เพราะที่ดินอยู่ข้างในซอยเมื่อเทียบกับของ AP ที่อยู่ต้นซอย ส่วนราคาขายนั้นวิ่งไปโน่น 200,000 บาทต่อตารางเมตรกันแล้ว คิดง่ายๆก็คือห้อง 1 Bedroom ขนาด 50 ตารางเมตรนั้น ราคาอยู่ที่ 10 ล้านบาทนะครับ จัดว่าแพงที่สุดที่แสนสิริเคยทำมา
ถิ่นนี้เป็นย่านคนญี่ปุ่่น ชาวต่างชาติ และผู้คนที่ชมชอบการใช้ชีวิตแถว Emporium การที่มันกลับมาบูมสุดๆอีกครั้งคงจะหนีจากเรื่องอื่นไปไม่ได้ นอกจากเรื่องโปรเจค Emquartier ห้างใหม่ของกลุ่มเดอะ มอลล์ ที่จะปั้นให้หรูแบบ Siam Paragon แต่เน้นลูกค้ากลุ่มสุขุมวิทและชาวต่างชาติ ทำให้ราคาที่ซื้อขายกันอยู่ปัจจุบันนี้วิ่งไปเป็นราคาในอนาคตกันหมด หวังว่า Emquartier จะพลิกทำเลแถวนี้ให้กลายเป็นทองคำกันได้
เรื่องวัสดุ แบบห้อง ดีไซน์ คงจะไม่ต้องพูดกันมากมาย สำหรับโครงการ Flag Ship ของแสนสิริ พวกเราก็หวังว่าคงจะทำให้ไม่ผิดหวัง กับภาพลักษณ์และแบรนด์ที่ลงทุนไปหลายร้อยล้าน ถ้าได้วัสดุเหมือนที่อ้างไว้ในเอกสารประกอบการขาย ห้องตัวอย่างและการเก็บงานเนี๊ยบๆ ก็คงจะวางใจได้นะครับ
สุดท้ายมาดูเรื่อง Facility ที่จัดมาเป็นแบบเต็ม Floor พร้อมกับฟิตเนสชั้นลอย บทความสูง Double Space ที่ชั้น 7L-7U ก็รับรองว่าคงจะไม่ผิดหวัง เพราะมีห้องเพียง 178 ยูนิต ได้ส่วนกลางเท่านี้ผมว่าโอเคมากแล้ว ดีกว่า Quattro by Sansiri ที่ทองหล่อ 4 ด้วยซ้ำไปนะครับ
ปี 2555 นี้เป็นปีที่แสนสิริโด่งดังไปทั่วประเทศ ขยายตลาดจนกวาดยอด Pre-sales ได้ 50,000 ล้าน นับเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกที่ทำได้ในประเทศไทย และพวกเราก็หวังว่าจะสามารถส่งมอบงานดีๆให้กับลูกบ้านแสนสิริในอนาคต ด้วยนะครับ 😉
ตอนนี้พวกเราก็รอชมโปรเจค Flag Ship อีกตัวหนึ่งของแสนสิริที่ย่านวิทยุกันต่อไปละ ว่าทำออกมาแล้วจะเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับ XXXIX
Judgement
หากจะอยู่อาศัยที่โปรเจคระดับราคานี้ ก็ต้องเป็นราคาที่ต้องตัดสินกันด้วยความชอบทางอารมณ์เป็นหลัก กับทำเลที่เป็นความชอบส่วนตัว ทางเวปไซต์ Think of Living จึงไม่ขอให้คะแนนกับโปรเจคระดับนี้นะครับ
- ULTIMATE LUXURY CLASS
- NOT JUDGED
BOTTOM LINE
ใครชอบแบรนด์แสนสิริกับทำเลพร้อมพงษ์ ห้าง Emporium / Emquartier และมีงบถึงสามารถหยิบจับของ 10 กว่าล้าน ก็ลองพิจารณา XXXIX ไว้เป็นทางเลือกได้ครับ
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ