WhizdomConnect_Cover_resize

รีวิวฉบับที่ 797 … สวัสดีครับ วันนี้จะพาไปดูทำเลโครงการ Whizdom Connect สุขุมวิท หลังจากที่ได้มีข่าวการเข้าซื้อ โครงการปิยรมย์ สปอร์ต คลับ ของกลุ่มแมกโนเลียไปเมื่อปลายปี 2556 หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวความคืบหน้าอะไรเท่าไหร่ มาถึงตอนนี้ตัวโครงการในส่วนคอนโดมิเนียมได้เปิดเผยข้อมูลออกมาแล้ว แต่ส่วนที่เป็น อาคารสำนักงาน กับ Lifestyle & Social Space ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอะไร ดังนั้นผมขออาสาพาไปดูรายละเอียดโครงการพร้อมๆกันเลยครับ

Fact @ 24 March 2015

  • Whizdom Connect Sukhumvit  (วิสซ์ดอม คอนเนค สุขุมวิท)
  • Magnolia Quality Development Corporation Limited
  • UPPER – HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ถ.สุขุมวิท เขตพระโขนง
  • คอนโด High Rise 41 ชั้น 1 อาคาร 673 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 20 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 299 คันคิดเป็น 44% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 55%
  • ที่ดินประมาณ 5-0-4 ไร่
  • เริ่มก่อสร้างประมาณ : 10/2558
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 01/2561
  • 1 Bedroom  26.90 – 29.80  ตร.ม. ราคา 3.08 – 4.29 ล้านบาท
  • Flexi Room 38.30 – 64.60 ตร.ม. ราคา 4.85 – 8.71 ล้านบาท
  • 2 Bedroom 62.80 – 71.80 ตร.ม. ราคา 8.60-8.90 ล้านบาท
  • 3 Bedroom 81.60 ตร.ม. ราคา 10.48-10.50 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.08 ล้านบาทหรือประมาณ 111,600 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • www.mqdc.com
  • สำนักงานขาย : 02-789-9999

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.685149, 100.610558

ตัวรีวิวทำเลผมได้ทำไปแล้วดังนั้นผมจะเริ่มในส่วนของโครงการเลยนะครับ สามารถเข้าไปอ่านได้โดยคลิ๊กที่นี่


เจาะลึกตัวโครงการ

WhizdomConnect_Map_Site

เอาผังที่ลง Google Map มาให้ดูอีกรอบนะครับ ตัวโครงการอยู่ด้านในสุดของที่ดินซึ่งล้อมรอบด้วยพื้นที่ Working Space, Community Mall และ Living Space อีกด้าน ทางเข้าโครงการจะเป็นซอยส่วนบุคคลที่ใช้ร่วมกันกับบ้านพักอาศัยด้านในนะครับ

*เนื่องจากตัวโมเดลของโครงการนำไปจัดแสดงในงาน Whizdom Day เลยไม่ได้ถ่ายมาให้ดูนะครับ

รูปแบบของตัวอาคารจะมาแบบ Modern ตามสมัยนิยมทั่วๆไปรูปด้านของอาคารไม่ได้มีอะไรหวือหวาเท่าไหร่ แต่จากหน้าตาของตึกเราก็พอจะเดาได้ว่า แปลนตึกวางให้มีช่องเปิดเห็นวิวหลักๆแค่ 2 ด้านเท่านั้น

ภาพจำลองสวนหย่อมด้านข้างของอาคาร

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Lobby หลัก

ภาพบรรยากาศจำลองใน Lounge

ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณสระว่ายน้ำที่ชั้น 5

ภาพบรรยากาศจำลองในห้อง Lounge อีกมุมที่หันไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ

มาดูผังอาคารที่ชั้นแรกกันครับ อย่างที่เกริ่นไปช่วงต้นแล้วว่าตัวโครงการอยู่ด้านในของที่ดิน การเข้าโครงการจากถนนใหญ่สุขุมวิทผ่านถนนส่วนบุคคลมาเข้าโครงการ การจราจรภายในจะสามารถวิ่งได้รอบอาคารแบบ 2 เลน และมีที่จอดรถให้ตั้งแต่ชั้น Ground เลย แถมมีแบบภายในและนอกอาคารด้วย ด้านนอกเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบวนรถหลายๆรอบแต่ต้องเจอแดดเจอฝนหน่อยนะ จุด Drop-off จะอยู่ในส่วนหน้า Lobby และเท่าที่ดูจะมีบางส่วนของ Lobby เป็นพื้นที่แบบ Out Door ด้วยติดกับส่วนที่เป็นสระน้ำ สำหรับร้านค้าที่มีอยู่ 4 ร้าน มี 3 ร้านที่อยู่ด้านหน้าและ 1 ร้านอยู่ภายใน Lobby

ระหว่างชั้น 2 – 4 จะเป็นที่จอดรถและชั้น 5 เป็นชั้นหลักของ Facility ต่างๆพื้นที่ส่วนใหญ่จะถูกตกแต่งเป็นสวนหย่อมรอบๆ โดยมี Lounge เป็นห้องแยกส่วนไปต่างหาก และห้อง Fitness กับ Game Room อยู่ภายใต้อาคารส่วนสระว่ายน้ำจะอยู่ในด้านทิศใต้ซึ่งเป็นด้านที่ติดกับพื้นที่รอการพัฒนาในอนาคต

ห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้นนี้เลยแต่มีการทำประตูกั้นมาให้ช่วยให้ผู้ที่อาศัยอยู่ชั้นนี้ยังคงมีความเป็นส่วนตัวไม่พลุกพล่าน เวลาใครมาใช้งานส่วนกลางก็ไม่ต้องเดินผ่านหน้าห้อง แต่… ส่วนระเบียงห้องที่ติดกับสวนคงต้องรอดูของจริงว่าจะมีการทำอะไรมากั้นให้เป็นส่วนตัวและปลอดภัยขึ้นรึเปล่า หรือระดับพื้นของสวนกับห้องที่แตกต่างกันก็สามารถช่วยได้

ผังชั้น 2-29 และ 31-34  หรือจะเรียกว่าเป็นชั้น Typical Floor Plan ก็ได้ ตำแหน่งโถงลิฟต์อยู่ตรงกลางพอดีทำให้ลูกบ้านที่อยู่มีระยะเดินมาที่โถงลิฟต์ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ห้องที่เป็นสีครีมกับสีน้ำตาลเป็นแบบ 2 Bed ซึ่งอยู่ที่หัวมุมและช่วงปลายของอาคาร ส่วนห้องแบบ 1 Bed จะเป็นสีเทาอ่อนและเทาเข้ม ห้องที่เป็นแบบ 1 ห้องนอนสีเทาเข้มมุมซ้ายมือด้านล่างจะมีความเป็นส่วนตัวสูงกว่าห้องอื่นๆ เพราะไม่ติดกับห้องไหนเลยแต่ขนาดห้อง 28.5 ตร.ม.นะ จำนวนห้อง/ชั้นอยู่ที่ 20

สำหรับชั้น 35 จะมีระยะร่นของอาคารเข้ามาทำให้ห้องพักอาศัยลดลงไป 2 ยูนิตเหลือแค่ 18 ยูนิต อัตรส่วนลิฟต์ก็เกินมาตรฐานไปหน่อยอยู่ที่ 168 : 1 ถ้าโครงการเลือกลิฟต์ที่เร็วหน่อยก็คงไม่มีปัญหาอะไรครับ ผังชั้น 36 – 38 ก็จะเหมือนกับชั้นนี้แค่ไม่ได้มีสวนที่ด้านขวามือ

ผังชั้น 38 ห้องพักจะลดลงเหลือแค่ 7 ห้อง แลห้องด้านซ้ายมือจะเป็นห้องใหญ่แบบ 3 Bedroom พื้นที่สีเขียวที่เห็นเป็นหลังคานะครับไม่ใช่สวนหย่อมไม่สามารถออกไปใช้งานได้

ชั้น 39 – 40 จะเหมือนกับชั้น 38 คือมีแต่ห้องใหญ่ๆเป็น 2 Bedroom กับ 3 Bedroom มีความเป็นส่วนตัวสูงกว่าชั้นอื่นๆ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือขนาด 30 x 9 ม.
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
  • Social Connection Lounge ที่ชั้น 5
  • Social Connection Terrace
  • Activities Room
  • Multi-purpose room
  • สวนหย่อมขนาดใหญ่ด้านข้างโครงการ
  • ลิฟต์โดยสาร 4 ตัวต่อ/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 168 : 1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 299 คันคิดเป็น 44% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 55%
  • ระบบ CCTV / Access Card
  • Wi-Fi Internet at Lobby

 


Product Walkthrough

ห้องแรกที่จะพาไปดูเป็นห้องที่เค้าเรียกว่า Flexi คือ 1 ห้องนอน + 1 ห้องอเนกประสงค์ขนาด 38.3 ตร.ม. การวางผังจะแบ่งห้องออกเป็น 3 ตอน โดยวางพื้นที่ส่วนรวมเอาไว้ตรงกลางและห้องน้ำกับห้องครัวที่มีงานระบบเยอะๆจะเอาไว้ที่ด้านหน้าห้อง ถึงแม้ห้องจะแบ่งเป็น 3 ช่วงแต่ห้องอเนกประสงค์จะได้หน้ากว้างที่แคบกว่าห้องอื่นๆเลย พื้นที่ระเบียงมีมาให้ 1 จุดซึ่งติดกับพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ และยังใช้ประโยชน์จากการตำแหน่งที่วางคอมเพรสเซอร์มาทำเป็นชั้นวางทีวีเพราะๆไหนๆตรงนั้นก็ไม่สามารถทำเป็นหน้าต่างรับวิวอยู่แล้ว การขายห้องนี้เป็นแบบ Fully Fitted นะครับ

เนื่องจากวันที่ผมเข้าไปเก็บข้อมูลเป็นช่วงก่อนเปิดขายตัวสำนักงานขายยังสร้างไม่เสร็จเรียกว่าฝุ่นยังคลุ้งอยู่เลย 555 และอาจมีบางจุดในห้องตัวอย่างที่ยังไม่เรียบร้อย แต่อยากเอารูปมาให้เพื่อนๆดูก่อนวันงานจะได้เป็นข้อมูลช่วยในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ ส่วนแรกของแบบนี้เปิดมาจะเป็นส่วนทานอาหารก่อนเลย ถ้าวางโต๊ะกลมแบบห้องตัวอย่างก็ถือว่ายังมีระยะเดินรอบๆได้สบายอยู่แต่ถ้าเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมแบบ 4 ที่นั่งระยะเดินก็จะหดหายไปหน่อย

ถ่ายจากห้องนั่งเล่นย้อนกลับมาให้ดูระยะต่างๆในโซนทานอาหาร

ห้องนี้จะได้กลอนประตูเป็นแบบ Digital Door Lock ของ Yale ที่ใช้ได้ทั้งรหัสและ Key Card ส่วนสวิทช์ไฟดูแล้วค่อนข้างหน้าตาดีกว่าเพื่อนเพราะเป็นระบบสัมผัส ประตูทางเข้าห้องจะสูงกว่างประตูภายในนะครับ สูงประมาณ 2.4 ม. ส่วนบานอื่นๆสูงตามปรกติคือ 2 ม.

WhizdomConnect_2BA_51_WM

สิ่งที่ให้มามากว่าคนอื่นเค้าคือระบบ Home Automation ที่แถมมาให้เพราะตัวระบบรองรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการทำงานด้วย Wi-Fi และ รีโมท ไม่ว่าจะเป็นการปรับแสงสว่างภายในห้องเป็น Scene ต่างๆ การปรับอุณหภูมิแอร์ การเปิด/ปิดม่านภายในห้องพัก และระบบเสียงต่างๆ แต่….ที่เค้าเตรียมไว้ให้มีแค่ระบบไฟส่องสว่างกับแอร์เท่านั้นนะครับ ที่เหลือก็ลูกบ้านต้องไปหามาติดตั้งเอง

พื้นที่ด้านหน้าที่ติดกับประตูทางเข้าห้องจะเห็นว่ามีระยะเหลือให้วางตู้รองเท้าได้

ถ้าจะวางโต๊ะทานอาหารแบบที่เป็นสี่เหลี่ยม 4 ที่นั่งยังพอวางได้อยู่แต่ต้องเผื่อระยะเปิดประตูกับเดินรอบๆด้วย

พื้นห้องจะเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 12 มม.

โซนดูทีวีจะมีระยะที่ไม่กว้างมากประมาณ 1.8 เมตรขนาดทีวีที่เหมาะสมคือ 40″ หรือ 42″ ชั้นวางทีวีไม่ได้ให้มานะครับ

พื้นที่วางโซฟาวางแบบ 2 ที่นั่งขนาดใหญ่แบบนี้ได้ หรือจะวาง 3 ที่นั่งก็ได้แต่ขนาดที่นั่งต้องไม่ใหญ่เกินไปนะ

ถ้าจะวางทีวีแนะนำว่าแขวนแบบในห้องตัวอย่างจะดีกว่าวางที่โต๊ะเพราะช่วยประหยัดพื้นที่ได้เยอะเลย

ช่องแสงตรงนี้จะเป็นบานกระจกเลื่อนสลับนะครับ สามารถเลื่อนได้ทั้ง 2 บาน

ตัวรางจะถูกฟังลงไปที่พื้นเลยเวลาเดินนี่ไม่มีสะดุดเลยแถมเท่าที่ลองเปิดปิดอยู่หลายรอบต้องบอกว่าอุปกรณ์ Fitting ต่างๆทำมาค่อนข้างดีความรู้สึกในการใช้งานค่อนข้างแข็งแรง ส่วนใหญ่ความรู้สึกแบบนี้จะเจอกับของพี่ Land and Houses บานกระจกกรอบอลูมิเนียมทุกบานจะมีซีลสักหลาดติดมาให้ด้วยนะครับ

ราวระเบียงจะเป็นเหล็กทำสีซึ่งความสูงจะสูงหน่อยประมาณ 1.4 เมตร. เนื่องจากตึกนี้สูง 41 ชั้นเค้าเลยต้องการให้มีความปลอดภัยมาหน่อย

ตัวระเบียงมีขนาดประมาณ 0.9 x 1.8 ม.พอวางราวตากผ้าได้อยู่

พื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์จะอยู่ที่ด้านข้างซึ่งตรงนี้ออกแบบมาดีครับ ถึงแม้จะหันเป่าลมร้อนไปด้านข้างแต่ก็เป็นด้านนอกพื้นที่ใช้งานเพราะเค้าวางพื้นที่ส่วนนี้ยื่นออกมาจากแนวกำแพงห้อง

ตัวแผงกั้นเป็นอลูมิเนียมแบบนี้

การออกแบบค่อนข้างให้รายละเอียดดีนะครับเพราะอย่างประตูส่วนนี้ยังมีทำยางกันชนกับตัวระเบียงไว้ให้ด้วย หวังว่าตอนสร้างจริงจะใส่ใจรายละเอียดในการก่อสร้างนะครับ ลูกบ้านจะได้ไม่ต้องปวดหัวกับการแก้ Defect งาน ^_^

เอามุมจากระเบียงมาให้ดูอีกรอบ เดี๋ยวจะพาไปดูห้องอเนกประสงค์ด้านขวามือกันต่อนะครับ

ห้องนี้ถ้าจัดเป็นห้องทำงานดูจะเหมาะสมกว่าเพราะพื้นที่มีไม่เยอะมาก

หรือถ้าจะวางเตียงขนาด 3.5′ แบบนี้ก็ได้อยู่แต่ต้องดันไปชิดผนังห้องด้านนึงนะ

บานกระจกจะแบ่งเป็น 3 ช่วงและมีบานเปิดแบบบานกระทุ้งให้ 2 บาน ถ้ามองผ่านเหมือนจะไม่มีอะไรแต่บานกระจกนี้มีรายละเอียดอยู่นะครับ ส่วนแรกคือการออกแบบให้กรอบกระจกมีแต่แนวตั้งไม่มีแนวนอนทำให้ไม่เกะกะสายตาเวลามองวิว ส่วนที่สองคือการมีช่องเปิดให้ 2 ช่องจะช่วยให้การไหลเวียนของลมทำได้ดีขึ้น

ไปดูห้องครัวที่อยู่ติดกันบ้าง

พื้นที่ห้องครัวต้องบอกว่าเล็กครับเหมาะกับทำอาหารแค่คนเดียวมากกว่า ถ้าจะช่วยกันทำสองคนนี่ต้องเบียดๆกันเอานะ

รางของที่นี่ค่อนข้างแข็งแรงครับ

รางพื้นก็ฝังพื้นและวางเรียบไปกับพื้นห้องเลยแถมตัวรางอีกด้านที่ไม่ได้ใช้งานก็มีการปิดร่องรางเลื่อนไปด้วยทำให้เดินง่ายและฝุ่นไม่ลงไปตามร่องที่ไม่ได้ใช้งานครับ

ตู้เก็บของมีมาให้ 2 ชุด

การแบ่งช่องเก็บของต่างๆของชุดบน หน้าบานทุกบานจะติดตั้ง Soft Close มาให้นะครับ

ตู้ชุดล่างจะมีถังขยะมาให้ในตัวแต่เล็กไปนิดนะใส่ไม่กี่วันก็เต็มแล้วเครื่องซักผ้าที่เห็นก็ประมาณ 7 กก.ครับ

ตัวเคาน์เตอร์จะได้ Top เป็นหินควอทซ์สีขาว อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า เครื่องดูควัน(ออกภายนอกห้อง)ได้ของ TEKA

Back Splash จะมีติดตั้งมาให้แต่ทางโครงการยังไม่ได้ระบุว่าเป็นวัสดุกระเบื้องหรือกระจกนะครับ ด้านข้างกำแพงที่เห็นไม่ได้ติดมาให้นะ

ช่องใส่ตู้เย็นใส่ตามห้องตัวอย่างก็ 8.4 คิวบิกฟุต

ต่อไปเป็นห้องนอนน้ำที่มีแค่ห้องเดียวและไม่มีทางเข้าจากห้องนอนโดยตรง อาจเสียความสะดวกสบายไปบ้างเพราะต้องเวลาจะเข้าห้องน้ำต้องเดินผ่านห้องนั่งเล่นก่อน

ภายในห้องน้ำจะแบ่งโซนแห้งกับเปียกอย่างชัดเจน

ชุดสุขภัณฑ์ได้ของ Mogen ทั้งชุดส่วนก๊อกน้ำได้ของ Englefield ชั้นวางของที่เห็นด้านซ้ายมือของจริงไม่ได้เป็นไม้แบบนี้นะครับเป็นแค่ร่องปูกระเบื้องธรรมดา

ตัวอ่างมีขนาดไม่ใหญ่มากแต่มีที่วางของด้านข้างมาให้ หัวก๊อกจะมีให้ใช้ได้ทั้งน้ำร้อนและเย็นมีงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนที่ฝ้าเพดานด้วย

ตัวอ่างจะมีชั้นใส่ผ้าเช็ดหน้ามาให้ เป็นช่องตื้นๆไม่ลึกมาก

ด้านข้างมีปลั๊กกันน้ำเอาไว้ให้สาวๆไว้เป่าผมได้

โถสุขภัณฑ์เลือกแบบมาดีนะ เป็นแบบชิ้นเดียวหน้าตาดูดีน่าใช้งาน

โซนอาบน้ำมีการกั้นด้วยธรณีกระเบื้องและแถมฉากกระจกกั้นมาให้พื้นที่อาบน้ำก็พอหมุนตัวอาบน้ำได้ไม่ลำบากอะไร

ชุดฝักบัวที่ให้มาก็มีน้ำร้อนเย็นแยกมาให้ และด้านในมี Low Wall ไว้วางของได้เยอะเลย

สำหรับห้องนอนด้านหน้าห้องจะเป็นพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ที่เค้าแถมมาให้นะครับ

ระยะเดินเข้าห้องก็เดินได้สบายๆ ตรงนี้จะวางตะกร้าผ้าก็ได้อยู่นะ

ระยะเหลือรอบๆเตียงขนาด 5′

ช่องแสงจะเป็นบานกระจก Fix กับบานกระทุ้งซึ่งมีการแบ่งช่องให้เป็นช่องใหญ่ไว้ตรงหัวเตียงจะได้นอนมองวิวได้สบายตา

ตรงปลายเตียงถ้าห้องไหนมีการออกแบบเว้นช่องไว้ให้แบบนี้ เค้าจะแถม Built-in ชั้นวางของมาให้ด้วย

ตู้เสื้อผ้าที่แถมมาให้ของจริงหน้าบานจะเป็นแบบทึบนะไม่ได้เป็นกระจกใสแบบนี้ ตัวตู้มีขนาดค่อนข้างใหญ่นะครับ

ตัวตู้ลึกพอจะให้ใส่กระเป๋าเดินทางได้เลยนะ (รูปนี้ถ่ายจากอีกห้องนะครับลืมถ่ายของห้องนี้ไว้…-__-)

หน้าตามือจับบานเปิด

ตัวรางจะอยู่ที่ด้านบนอย่างเดียวส่วนด้านล่างจะเว้นช่องเอาไว้ให้สอดเท้าเข้าไปได้เวลาเลือกเสื้อผ้า คนออกแบบให้รายละเอียดค่อนข้างดีนะ

สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom จะมีให้เลือกทั้งแบบครัวปิดและเปิดก็แล้วแต่ใครจะชอบแบบไหน สำหรับการวางผังห้องมีการออกแบบให้สอดคล้องกับทิศทางของแดดด้วย อย่างที่รู้กันอยู่นะรับว่าทิศใต้เนี่ยมันรับแดดเยอะกว่าทิศเหนือ เค้าเลยจับเอาห้องครัวไปไว้ชิดนอกอาคารเพื่อให้เป็นตัวกั้นความร้อนจากห้องนั่งเล่นและช่วยให้ระบายความชื้นภายในห้องครัวได้ดีอีกด้วย

สำหรับแบบนี้จะดูเป็นสัดส่วนกว่าแบบครัวเปิด แต่การวางโต๊ะทานอาหารดูจะจัดยากซะหน่อย ตำแหน่งที่วางถ้าวางตรงกลางห้องนั่งเล่นก็จะเกะกะหน่อยแต่ว่าวางโต๊ะใหญ่ได้ หรือถ้าจะจัดตามผังคือฝั่งตรงข้ามของเคาน์เตอร์ครัวสามารถจััดได้โต๊ะที่เล็กมากสำหรับ 2 คน แถมนั่งหันหน้าไปทางเดียวกันอีกด้วย ส่วนที่ดีของห้องนี้คือได้ระยะดูทีวีเกือบๆ 3 เมตรกว้างกว่าห้อง Flexi อีกสามารถใส่ทีวี 60″ ได้เลยนะเรียกว่าดูกันสะใจเลย

ส่วนแรกเปิดมาจะให้ความรู้สึกที่โล่งกว่าห้อง Flexi

ระยะทีวีก็จะกว้างอย่างที่บอกเลย

ส่วนพื้นที่วางโซฟาจะไม่กว้างเท่าไหร่แนะนำว่าอย่าเลือกโซฟาที่ใหญ่มากไม่อย่างนั้นจะบังทางเดินเข้าห้องน้ำ

สำหรับผนังส่วนที่วางทีวีจะมีพื้นที่ให้ตกแต่งทำ Built-in ได้เยอะและมีความลึกที่ 40 ซม.นะ (Built-in ชุดนี้ไม่ได้แถมให้นะครับ)

ลืมบอกไปว่าพื้นห้องครัวที่เป็นแบบปิดทั้งหมดจะได้เป็นประเบื้องขนาด 11″ x 23″ นะส่วนครัวเปิดได้เป็นลามิเนตเหมือนห้องนั่งเล่น

บานประตูเป็นแบบกระจกเลื่อน 2 ตอน ช่วยให้มีระยะเดินเข้าออกห้องที่มากขึ้น

ตัวบานเวลาเปิดก็ไม่ต้องกลัวว่าจะกระแทกกันจนสีถลอกเพราะเค้ามียางกันกระแทกติดมาให้ด้วย

ฝั่งนี้แหละครับที่บอกว่าถ้าทำเป็นโต๊ะนั่งทานอาหารจะเล็กเกินไป อย่างในห้องตัวอย่างนี่ทำเป็นตู้เก็บของปนไปด้วย

ตัวเคาน์เตอร์มีขนาดใกล้ๆกัน และวัสดุอุปกรณ์เหมือนกันทุกอย่าง บานประตูเวลาเปิดก็ซ่อยอยู่ในซอกข้างๆเคาน์เตอร์พอดีๆ

การแบ่งช่องเปิดต่างๆ

ช่องใส่ตู้เย็นยังมีที่เหลือให้ขยายตู้เย็นได้อีกหน่อย

ระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 1 x 1 เมตร วางราวตากผ้าไปก็เต็มแล้วครับ

แต่ตัวระบายความร้อนจะเป่าเข้าหาระเบียงนะ

ถ่ายกลับมาให้ดูบรรยากาศในห้องอีกที

ไปดูห้องน้ำกันต่อนะ

ห้องน้ำจะมีระยะที่เล็กกว่าห้อง Flexi อยู่นิดหน่อย ส่วนชุดสุขภัณฑ์ที่เหลือเหมือนกันทุกประการ

ห้องนอนจะให้ความรู้สึกที่กว้างกว่าแบบ Flexi อยู่นิดหน่อย

แบบนี้ยังคงมีชั้นวางทีวีแถมมาให้ แต่ไฟซ่อนใต้ฝ้านั่นไม่มีให้นะครับ และห้องมาตรฐานกำแพงจะเป็นทาสีทั้งหมด

ช่องแสงของห้องนี้จะได้ขนาดใหญ่เอาไว้ดูวิวได้เต็มตาเลย

ระยะเหลือรอบๆเตียงจะเห็นว่ามีขนาดกว้างกว่า Flexi นะ อยู่แล้วสบายตัวกว่า

ตู้เสื้อผ้าจะได้มาเหมือนกันเป๊ะๆ อ่อ ลืมบอกไปว่าว่าราวแขวนผ้าค่อนข้างสูงนะครับ สาวๆที่ตัวเล็กอาจจะลำบากซะหน่อย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

WhizdomConnect_1AB_1_resize

เอาห้องแบบ AB มาให้ดูว่าการวางตำแหน่งห้องเค้าออกแบบให้เหมาะสมกับตำแหน่งทิศแดดนะครับ อย่างห้องนี้เป็นห้องที่หันทางทิศเหนือทั้งหมด เพราะโดนแดดไม่เยอะเค้าเลยจับเอาห้องนอนกับห้องนั่งเล่นไปไว้ติดหน้าต่างแทนเพื่อให้ได้วิวภายนอกแทนที่จะเอาห้องครัวไว้ติดหน้าต่าง แต่ครัวที่ได้เป็นครัวเปิดนะครับ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24 March 2015

  • N/A ราคาแบบระบุยูนิตยังไม่มีนะครับเพราะเปิดขายวันที่ 26/3/858 ในงาน Whizdom Day 26-29 มีนาคม 2558 Siam Paragon ชั้น 1 Fashion Hall

  • Fully Fitted
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
  • Built-in ตู้เสื้อผ้า และ ชั้นวางทีวี
  • ชั้นวางทีวีจะให้ทุกห้องนอนที่ออกแบบไว้ (ห้องเล็กสุดไม่ได้ออกแบบไว้ และ flexi ไม่ใช่ห้องนอนจึงไม่ให้) ตู้เสื้อผ้าก็เช่นกันให้ทุกห้องนอน
  • Kitchen & Sink :TEKA
  • Hob & Hood : TEKA
  • จอง N/A บาท
  • ทำสัญญา N/A บาท
  • ดาวน์ N/A ผ่อนดาวน์ N/A งวด
  • ค่ากองทุน N/A บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง N/A บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลโครงการ Whizdom Connect สุขุมวิท อยู่ในโซนสุขุมวิทตอนปลายที่ข้ามคลองพระโขนงมาแล้ว ที่ดินตรงนี้เดิมทีเป็นของ ปิยรมย์ สปอร์ตคลับ ที่ทาง Magnolia ได้ซื้อมาและตั้งใจจะพัฒนาในหลายๆส่วนทั้งพื้นที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน และ Community Mall โดยส่วนที่อยู่อาศัยถูกดันไปอยู่ด้านหลังสุดทำให้มีระยะเดินจาก BTS ปุณณวิถีเพิ่มมาอีก 200 ม. รวมทั้งหมดเป็น 500 เมตร สำหรับคนที่คิดว่าจะเดินไป BTS แบบใกล้ๆอาจจะผิดหวังหน่อย แต่ถ้าโครงการพัฒนาให้ระหว่างทางเดินมีความปลอดภัยและไม่ร้อน ระยะเดิน 200 ม.ก็จะไม่ค่อยเป็นปัญหาสักเท่าไหร่

ถึงแม้จะไม่ได้ติดรถไฟฟ้าในระยะ 400 ม.เพราะมีระยะเดินจากปากซอยมาถึงตัวอาคาร แต่โครงการนี้มีฟังก์ชันที่ไม่เหมือนคนอื่นตรงที่ตัวโครงการอยู่ในผังรวมที่มีทั้ง อาคารสำนักงาน และ Community Mall ช่วยให้ลูกบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจะหาอะไรกินก็ไม่ต้องเอารถออกเดินทางไปไหน แค่เดินลงมาจากตึกก็หาอะไรกินได้แล้ว เพราะในย่านนี้ไม่ได้มีห้างใหญ่อยู่ใกล้ๆ ตอนนี้ที่พึ่งได้ก็มี เซ็นทรัลบางนา, Seacon Square และ Lotus อ่อนนุช ในอนาคตจะมี Bangkok Mall มาเปิดแต่ก็ต้องรออีกนานพอสมควร เรื่องที่น่าเป็นห่วงคือความเป็นส่วนตัวของโครงการในทางปฏิบัติ ถ้าโครงการบริหารจัดการได้ดีมีการแบ่งทางเข้าออกที่ชัดเจนหรือที่จอดรถไม่ปะปนกันลูกบ้านก็จะอยู่ได้อย่างสบายใจ

การเดินทางด้วยรถถือว่าค่อนข้างสะดวกเพราะวิ่งออกถนนใหญ่ได้เลย และมีทางลัดจากสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) ให้ใช้ไปศรีนครินทร์ได้ หรือจะไปออกซอย อ่อนนุช 46 ก็ได้เอาไว้ใช้เลี่ยงรถติดเวลาอยากไปเส้นเพชรบุรี ปัญหาอย่างเดียวของโครงการนี้คือการเข้าเมืองโดยใช้เส้นสุขุมวิท เพราะจากหน้าโครงการต้องวิ่งข้ามแยกไฟแดงวชิรธรรมสาธิตไปก่อนถึงจะกลับรถได้ หรือไม่ก็ต้องวิ่งเข้าซอย 101/1 ไปก่อนแล้วค่อยกลับรถออกมาอีกที

เรื่องของราคาต้องบอกว่าแรงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เริ่มต้นที่ประมาณ 116,000 บาท/ตร.ม. แต่ก็มีจุดเด่นที่การพัฒนาพื้นที่ในโครงการ ซึ่งถ้าดูราคาแถวนี้ๆก็จะมี Ideo Mobi Sukhumvit Eastgate ซึ่งก็ต้องเลยไปอีก 2 สถานีถึง BTS บางนา หรือถ้าย้อนมาทางอ่อนนุชนี่ก็ยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ราคาโครงการที่อยู่ใกล้ๆสถานีแบบ Resale มี 120,000 – 140,000 บาท/ตร.ม. ถ้าเข้าไปในซอยวชิรธรรมสาธิตโครงการใหม่ราคาก็จะตกลงมาต่ำกว่าแสน แต่จะมีระยะที่ไกลขึ้นไปอีกต้องต่อรถอีกต่อนึง ไม่ได้เป็นระยะที่เดินได้

การออกแบบของโครงการผมยังไม่สามารถสรุปแบบแน่ชัดได้ เพราะยังไม่ได้เห็นภาพรวมของทั้งส่วนอาคารสำนักงานและ Community Mall ถ้าได้เห็น Master Plan ทั้งหมดก็น่าจะพอบอกได้บ้างแต่ตอนนี้ยังไม่มีก็เอาแค่ในโครงการก่อนนะครับ ตัวตึกนั้นจะเน้นให้เห็นวิวด้านทิศเหนือและใต้เป็นหลัก ทางทิศเหนือไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่เพราะเป็นวิวบ้านพักอาศัย แต่ทางทิศใต้นี่ต้องลุ้นพอสมควรเพราะดูจากผังแล้วเหมือนจะมีเฟส 2 เลย อันนี้ก็ต้องรอลุ้นต่อไป ความหนาแน่นก็เกินมาตรฐานไปหน่อยอยู่ที่ 168 : 1 ที่จอดรถได้ 44% ไม่รวมซ้อนคันถือว่าสูงกว่ามาตรฐานนิ๊ดดดดหน่อย เพราะเดี๋ยวนี้ชอบทำแค่ตามกฎหมายกำหนด

สำหรับแบบห้องก็มีให้เลือกตั้งแต่ 1 Bedroom ไปจนถึง 3 Bedroom โดย 1 Bedroom มีให้เลือกทั้งครัวปิดและครัวเปิด การวางฟังก์ชันมีมาให้ครบในทุกแบบ แบบที่มีเพิ่มขึ้นมาจากทั่วๆไปคือห้องแบบ Flexi Room เป็นแบบที่มีห้องนอน 1 ห้องและห้องอเนกประสงค์มาให้อีก 1 ห้องจะมีพื้นที่ตั้งแต่ 38.3 ตร.ม.ไปจนถึง 64.6 ตร.ม. ห้องที่ใหญ่หน่อยนี่จะทำเป็นห้องนอนอีกห้องก็ได้ แต่ถ้าขนาดห้องรวมไม่เกิน 55 ตร.ม.นี่ห้องอเนกประสงค์จะไม่ค่อยน่าทำเป็นห้องนอนเท่าไหร่ แบบ 1 Bedroom พร้อมครัวปิดจะลงตัวกว่าแบบเปิด แบบ Flexi Room โดยรวมจัดผังมาค่อนข้างโอเคเวลาอยู่ในห้องไม่รู้สึกอึดอัดสำหรับขนาด 38 ตร.ม.แต่ติดตรงที่ระยะดูทีวีสั้นไปหน่อย

วัสดุก็ถือว่าให้มากลางๆไม่ได้หวือหวาอะไรมากนัก ได้พื้นไม้ลามิเนต 12 มม. ห้องครัวปิดได้พื้นประเบื้องเซรามิค ชุดครัวได้ของ Starmark เครื่องดูดควัน, เตา เครื่องดูดควันและอ่างล้างจานได้ของ TEKA ชุดสุขภัณฑ์ห้องน้ำได้ของ Mogen แถมตัวโถสุขภัณฑ์ได้แบบชิ้นเดียวด้วยดูสวยดี ฝักบัวได้ของ Englefield พร้อมงานระบบน้ำร้อนเย็นที่ฝ้าเพดานลูกค้าสามารถเอามาติดตั้งได้เลยแถมอ่างล้างหน้าใช้ได้ด้วย กลอนประตูเป็น Digital Door Lock ของ YALE สิ่งที่ชอบของที่นี่คือกรอบประตูที่ให้มาค่อนข้างดีให้ความรู้สึกแข็งแรงเวลาใช้งาน มีรายละเอียดของตัวรางที่ดี

สาธารณูปโภคของโครงการก็ให้มาหลากหลายดีมีทั้งสวนขนาดใหญ่ด้านข้างตึก และร้านค้าที่ใต้อาคาร 4 ร้าน ห้อง Lobby มีทั้งแบบ Outdoor และ Indoor ส่วน Facility หลักๆของตึกนี้จะอยุ่ที่ชั้น 5 ทั้งหมด มีสระว่ายน้ำขนาด 30 x 9 ม. ระบบเกลือ และห้อง Fitness กับ Game Room อยู่ด้วยกัน ห้อง Lounge จะแยกไปอีกด้านของอาคาร โดยฟังก์ชันแต่ละอย่างจะมีสวนหย่อมอยู่รอบๆ

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 120,000 บาท/ตร.ม., 24 March 2015

  • ทำเล 7.25/10 – มีระยะจากถนนใหญ่ 200 เมตรและมีการพัฒนาอาคารสำนักงานกับ Community Mall ภายในพื้นที่
  • เดินทางด้วยรถ 8.0/10 – เกือบติดถนนใหญ่และมีทางลัดให้ใช้เยอะ ใกล้ทางด่วน
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีระยะเดินประมาณ 500 ไป BTS ปุณณวิถี ถือว่าเดินได้ไม่ลำบาก
  • วัสดุ 7.75/10 – ให้มาสมราคาแต่ให้มาน้อยไปนิด กรอบประตูหน้าต่างและอุปกรณ์ Fitting ทำมาดีแข็งแรง
  • แบบ 8.0/10 – ออกแบบมาค่อนข้างลงตัวในหลายๆแบบและใส่ใจในรายละเอียดดี แต่จะมีจุดที่จัดวางเฟอร์นิเจอร์ยากเป็นบางจุด
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ให้ส่วนกลางมาครบตามสมัยนิยมแต่เสียดายน่าจะให้มาทั้ง Floor เลย

  • UPPER – HIGH CLASS
  • 7.57 / 10.00

BOTTOM LINE

 โครงการ Whizdom Connect สุขุมวิท เหมาะสำหรับผู้ที่หาคอนโดแบบเดินไปรถไฟฟ้าไม่ไกลนักและไม่ต้องต่อรถ ในราคาที่กลางๆ แต่ยอมรับได้กับการอยู่ไกลตัวเมืองสักหน่อย ในวันพักผ่อนก็เบื่อที่จะออกไปรถติดเหมือนกับวันทำงานในทุกๆวัน อยากหาของกินง่ายๆใกล้ๆ เพราะในอนาคตโครงการจะมี Community Mall สร้างอยู่ติดกับโครงการอาจจะมีความคึกคักสูงหน่อย มีงบประมาณ 3 – 10 ล้านบาท มีกำลังผ่อน 22,000 – 84,000 บาท/เดือน

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ