รีวิวฉบับที่ 358 … VENTO เกษตร-นวมินทร์ คอนโด 5 ชั้น ในซอยสุคนธสวัสดิ์ 11 หรือ ซอยประเสริฐมนูกิจ 22 ครับ สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมแท่งนี้เค้ามีแนวคิดการออกแบบโดยจะเน้นความเป็นส่วนตัวหน่อย มีจำนวนยูนิตน้อย ออกแบบให้ผนังห้องของแต่ละห้องไม่ติดกันโดยเว้นช่องว่างเอาไว้ครับ ซึ่งทำเลก็มาอยู่ในช่วงถนนสุคนธสวัสดิ์ ใกล้กับแยก ถนนเกษตร-นวมินทร์ ตัดกับ ถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ครับ ใครกำลังมองหาคอนโดในย่านนี้ลองดูเป็นตัวเลือกนะครับ 😀
Fact @ 23 May 2013
- VENTO เกษตร-นวมินทร์
- Greenova Property Co., Ltd.
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด Low Rise 5 ชั้น 2 อาคาร 69 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 8 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 50% รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 0-3-99 ไร่
- Studio 28 ตารางเมตร
- 1 Bedroom 32 – 40 ตารางเมตร
- 2 Bedrooms 40 – 64 ตารางเมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.79 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 55,000 บาท
- http://www.vento-condo.com
- โทร 02-570-9799
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
ทำเลของโครงการ VENTO เกษตร-นวมินทร์ ตั้งอยู่ใน ซอยสุคนธสวัสดิ์ 11 (ซอยพวงทอง) หรือ ซอยประเสริฐมนูกิจ 22 ครับ ซึ่งสองซอยนี้เป็นซอยเดียวกัน เป็นซอยที่เชื่อม ถนนสุคนธสวัสดิ์ กับ ถนนเกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ) เข้าด้วยกัน เป็นสาเหตุว่าทำไมซอยนี้ถึงมีชื่อสองชื่อ ทั้งนี้สำนักงานขายของโครงการไม่ได้ตั้งอยู่ในซอยนะครับ แต่จะอยู่ติดถนนสุคนธสวัสดิ์เลย
เริ่มจากมองเป็นภาพใหญ่ก่อนนะครับ โครงการนี้แน่นอนว่าไม่ได้เป็นโครงการใกล้รถไฟฟ้าแต่อย่างใด ทำเลอยู่ในจุดที่เหมาะกับคนใช้รถส่วนตัวครับ เพราะตั้งอยู่บนถนนเกษตร-นวมินทร์ ซึ่งเป็นจุดที่มีถนนสายสำคัญๆหลายสายล้อมรอบ เช่น วิภาวดีรังสิต, รามอินทรา, พหลโยธิน, รัชดาภิเษก, ลาดพร้าว, นวมินทร์, เลียบทางด่วนฯ เป็นถนนเส้นหลักๆ ซึ่งจะทำให้การไปมาหาสู่ในโซนตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพทำได้ค่อนข้างสะดวกทีเดียว และตรงนี้ก็จะมีซอยเล็กซอยน้อย ถนนทางลัดต่างๆอีกมากมายที่ถ้าจะให้เอามาวิเคราะห์คงจะไม่จบ แล้วตรงนี้ก็ยังมีทางด่วนใกล้ๆให้ใช้ คือ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ วิ่งเข้าเมืองไปเอกมัย, พระราม 9 ได้เลย หรือจะไปใช้ โทลล์เวย์ บนถนนวิภาวดีรังสิตก็ได้ อันนั้นก็จะไกลหน่อย แต่ก็จะสะดวกสำหรับคนที่จะวิ่งเข้าเมืองครับ
ถ้าลองเอาแผนที่โครงการมา Plot ใหม่บน Google Maps ก็จะได้หน้าตาประมาณนี้ครับ จะเห็นว่าตัวโครงการจะตั้งอยู่บริเวณใกล้ๆกับแยก ถนนเกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ) ตัดกับ ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา (ประดิษฐ์มนูธรรม)
การไปโครงการนั้นไปได้จากหลายเส้นทาง แต่ใช้ถนนสองเส้นที่บอกนี้ก็น่าจะง่ายที่สุดแหละครับ ง่ายในที่นี้คือ ไม่ค่อยซับซ้อน ไม่ค่อยงงเท่าไหร่ แต่สองเส้นนี้รถก็อาจจะติดได้ ตั้งแต่ปานกลางถึงหนัก แล้วแต่ช่วงเวลา แต่ถ้ามาจากลาดพร้าว แล้ววิ่งลัดเลาะตามถนนเส้นเล็กๆเข้ามาก็ทำได้เหมือนกัน แต่ถ้าไปครั้งแรกไม่ค่อยแนะนำเดี๋ยวจะหลง แต่ถ้าชำนาญเส้นทางแล้วก็คงไม่มีปัญหา และอาจจะหลบเลี่ยงรถติดได้ด้วย
สำหรับอาหารการกิน และความอุดมสมบูรณ์ รอบๆโครงการ บนถนนสุคนธสวัสดิ์ ถือว่าคึกคักแบบ “Local” ในช่วงกลางวัน มีร้านค้าหลากหลายรูปแบบมาก ทั้งเล็ก ทั้งใหญ่ แต่ไม่มีห้างนะครับ ถ้าอยากได้ห้างที่ดูทันสมัยหน่อย ร้านค้าชั้นน้ำ คอมมิวนิตี้มอลล์ต่างๆ จะอยู่บนถนนเกษตร-นวมินทร์ และ ถนนเลียบทางด่วน มีเยอะเลยตามที่ปักหมุดให้ดูบนแผนที่นะครับ
ทำเลของโครงการอยู่ห่างจาก โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ประมาณ 900 เมตรครับ ซึ่งก็ถือว่าใกล้แล้วแหละสำหรับคอนโดใกล้โรงเรียน เพราะยังอยู่ในรัศมี 1 กิโลเมตร ถ้าคิดจะซื้อไว้ให้ลูกไปเรียนนี่คือ เดินไปส่งลูกที่โรงเรียนยังได้เลย ยิ่งถ้านั่งมอเตอร์ไซค์นี่สบายมาก ทำเลแถวนั้นตอนกลางวันมีคนพลุกพล่านอยู่จำนวนหนึ่ง ค่อนข้างปลอดภัยครับ แต่สภาพตอนกลางคืนตรงนั้นก็จะเปลี่ยนไปพอสมควร เงียบๆ แต่มีรถวิ่งผ่านบ้าง เพราะเป็นซอยที่ทะลุเกษตร-นวมินทร์ได้ แต่การที่อยู่ใกล้โรงเรียนก็มีข้อเสียนะครับ คือช่วงเช้ากับบ่ายแก่ๆที่มีผู้ปกครองมารับส่งนักเรียน แถวนี้จะรถติดเลย
ที่ตั้งสำนักงานขาย กับ ที่ตั้งโครงการอยู่คนละที่กันนะครับ สำนักงานขายอยู่ติดถนนสุคนธสวัสดิ์ แต่ตัวที่ตั้งโครงการจริงจะเข้าไปในซอย 11 ตามที่โชว์บนรูปครับ เส้นสีแดงคือ เวลาเราจะไปโครงการจากถนนเกษตร-นวมินทร์ครับ ส่วนเส้นสีฟ้าคือเวลาเราจะกลับออกไปที่ถนนเส้นเดิมก็สามารถลัดออกไปอีกทางได้เลย ไม่ต้องย้อนกลับทางเดิม
ผมเดินทางจากพหลโยธินมาครับ มาทางเกษตร-นวมินทร์เลย
ผ่านแยกแรก เจอถนนลาดปลาเค้า
แยกที่สอง เลี้ยวซ้ายไปซอยมัยลาภ เลี้ยวขวาไปเสนานิคม ไม่ต้องเลี้ยวนะครับ ตรงปายๆ
ทางซ้ายมือตรงนี้เราก็จะผ่าน Nawamin City Avenue เป็น Community Mall ครับ มี Villa Market, Starbucks, ร้านอาหาร, ธนาคาร และ ร้านค้าต่างๆ
ถัดมาก็จะเป็น Festival Walk ครับ อันนี้จะไม่ใช่แนว Community Mall ครับ แต่จะเป็น Theme Mall ที่จัดออกมาไว้ให้ไปท่องเที่ยว ถ่ายรูป เดินเล่น ทานข้าว บลาๆ สนุกๆ มีร้านแนวนั่งดริ๊งค์ ร้านเบียร์ เป็นต้น
เจอป้ายโชคชัย 4 ก็เตรียมตัวเลี้ยวขวาเลยครับ อย่า! เผลอเลี้ยวซ้ายตามป้าย “ซ.สุคนธสวัสดิ์” นะครับ! เพราะมันอยู่คนละฝั่งกัน ถึงจะชื่อเดียวกัน
จุดสังเกตคือป้าย Big Apple Pub & Restaurant ท้ายซ้ายมือนั่นแหละครับ เลี้ยวขวาที่ไฟแดงเลย
เลี้ยวขวาเข้า ถนนสุคนธสวัสด์ มาแล้ว จริงๆแล้ว ถนนเส้นนี้ ไปทะลุออกได้หลายเส้นเลยครับ ลาดพร้าวก็ได้ เลียบทางด่วนก็ได้ เกษตร-นวมินทร์ก็ได้ เส้นนี้เลยมีคนใช้เยอะเหมือนกันครับ
จากแยกเข้ามาหน่อย ทางซ้ายมือจะมี Local Community Mall เล็กๆตรงนี้อยู่ด้วย มี Supermarket Tops Daily ด้วยนะ อย่าดูถูกเชียว ไม่ต้องขับรถไปไกลถึง Nawamin City Avenue ก็ได้
ขับเข้าไปเจอทางโค้งบังคับเลี้ยวขวา ระวังนะครับ พ้นหัวโค้งตรงนี้จะเจอกับสำนักงานขายแล้ว เป็นโค้งอันตรายเหมือนกัน เป็นห่วงนะจ๊ะ 😀
ผ่านโค้งข้างบนมาก็จะเจอกับสำนักงานขายอยู่ทางขวามือเลยครับ อยู่ใกล้กับซอย สุคนธสวัสดิ์ 13 เราเลี้ยวขวาเข้าไปเลย
หน้าตาสำนักงานขายทำออกมาแบบนี้ ล้อไปกับคอนเซปท์การออกแบบของโครงการ เดี๋ยวเรายังไม่เข้าไปนะครับ ขอไปดูที่ตั้งโครงการจริงกันก่อน
สภาพถนนบริเวณหน้าสำนักงานขาย
ร้านอู่ซ่อมรถใหญ่ๆแบบนี้จะมีให้เห็นเยอะเหมือนกัน
เลยจากสำนักงานขายมาหน่อย ก็จะเจอกับ ซอยสุคนธสวัสดิ์ 11 ซึ่งซอยนี้แหละ คือซอยที่เป็นที่ตั้งของคอนโด VENTO
ยังไม่เข้าซอย เดินไปอีกหน่อย ก็จะเห็นสภาพ บรรยากาศประมาณนี้
สภาพปากซอยแบบนี้ ของจริงไม่ได้กว้างขนาดนี้นะครับ อันนี้ภาพมันหลอก
จริงๆ ชาวบ้านแถวนี้เค้าจะเรียกซอยนี้ว่า “ซอยพวงทอง” เป็นซอยเดียวกัน
ในซอยช่วงนี้ รถสองคันวิ่งสวนกันได้ไม่ยาก ถ้าไม่มีรถมาจอดขวางทางละก็นะ…
ในซอยนี้ส่วนใหญ่เป็นบ้านคนครับ…ที่ผมสังเกตนี่ มีอยู่หลายหลังเลยที่ดูสวย แพง รวย เจ้าของน่าจะมีฐานะพอสมควร
เข้ามากลางๆซอยละ
บ้านหลังนี้ตั้งกำแพงคอนกรีตสูงเชียว… ดูแน่นหนามากๆ
พอถึงแยกตรงนี้ก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการแล้วครับ
เข้าซอยนี้ไปเลย
ถึงแล้ว! ที่ดินของโครงการ
ด้านหลังของ VENTO ติดโครงการ Townhome ชื่อ Prime
เข้าไปอีกหน่อยเป็นซอยตัน
ตรงนี้เป็นโรงงานซักผ้าเล็กๆ
มองกลับออกไปที่ด้านหน้าซอย
พอดีที่สำนักงานขายเขามีโมเดลทำเลให้ดูด้วย อันบนคือตัวโครงการจะอยู่ในซอย 11 และ อันล่างเป็นสำนักงานขายอยู่ติดถนนสุคนธสวัสด์ ใกล้ๆกับซอย 13 นะครับ
ออกจากโครงการบ้าง มุ่งหน้าไปทางเกษตร-นวมินทร์
บรรยากาศในซอยถัดมา …
เจอโครงการ Townhome “Prime” ทางขวามือ
ก่อนออกจากซอยก็ยังเป็นบ้านคนเรียงรายต่อๆกัน
ปากซอย ประเสริฐมนูกิจ 22
ป้ายซอยมาหลบอยู่นี่
ออกมาที่ถนนประเสริฐมนูกิจ หรือ เกษตร-นวมินทร์ แล้วครับ อันนี้ก็จะเป็นการวิเคราะห์ทำเลคร่าวๆครับ ไปดูโครงการกันดีกว่า
เจาะลึกตัวโครงการ
ก่อนที่จะพูดถึงโครงการอยากจะเล่าประวัติของ Developer เจ้านี้กันสักนิดครับ ซึ่งก็คือ “Greenova Property” ซึ่งทางนี้เค้าก็ไม่ใช่นักพัฒนาอสังหาฯหน้าใหม่นะครับ แต่เดิมเจ้าของโครงการนี้เป็นกลุ่มวิศวกร, ผู้รับเหมาก่อสร้างมาก่อน แล้วก็ผันตัวเองมาทำอสังหาฯ เริ่มมาตั้งแต่ปี 2548 เคยทำโครงการที่อยู่อาศัยมาแล้ว 5-6 โครงการ ทั้งแนวราบและแนวดิ่ง ปัจจุบันก็มีโครงการใหม่สุดก็คือ VENTO Condo อันนี้ และนอกจากนี้ก็มีทาวน์โฮมอยู่ที่พัทยาด้วยครับ ชื่อว่า The Oasis ถ้าใครเคยได้ยินนะครับ
โครงการ VENTO Condo เกษตร-นวมินทร์ เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise ขนาด 5 ชั้น 2 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดเกือบๆ 1 ไร่ มีจำนวนยูนิตไม่เยอะมากอยู่ที่ 69 ยูนิต แบ่งเป็นตึก A จำนวน 33 ยูนิต และตึก B อีก 37 ยูนิตครับ
มุมมองจากด้านบนอาคาร ตึกซ้ายเป็นอาคาร A อยู่ติดหน้าโครงการ ตึกขวาคืออาคาร B ที่อยู่ด้านในครับ ระหว่างสองตึกมีสระว่ายน้ำ Outdoor อยู่ตรงกลางที่ชั้น G แบบนี้
มาดูแปลนคร่าวๆกันก่อน ชั้น G มีครบทุกอย่าง ที่จอดรถ/Facilities/ยูนิตพักอาศัย เดี๋ยวจะไล่ให้ดูทีละอย่างนะครับ
ที่จอดรถมี 50% ครับ เทียบกับในคอนโดเกรด MAIN CLASS และ ทำเลเกษตร-นวมินทร์ ก็ถือว่ากลางๆ ไม่เยอะ แต่ก็ไม่น้อย ขึ้นอยู่กับคนอยู่จริง แต่ดูท่าทางแล้ว มีที่จอดรถเฉพาะชั้น G อยู่ใต้อาคาร ถนนหน้าโครงการมีที่ว่างอีกหน่อย อาจจะได้เห็นคนเอารถมาจอดเรียงๆตามซอยด้านหน้าโครงการแน่ๆเลย … เพราะลูกบ้านบางคนก็คงจะไม่ได้มีรถคันเดียวนะครับ
ทางด้าน Facilities มี Lobby ที่ตึก A ตึกเดียวนะครับ ส่วนตึก B ไม่มี Lobby แต่มีฟิตเนสแทน คนที่อยู่ตึก A สามารถเข้า Fitness ที่ตึก B ได้ และคนที่ตึกB ก็สามารถไปใช้ Lobby ที่ตึก A ได้ แต่ลูกบ้านทั้งสองตึกจะไม่สามารถเข้าไปยังส่วนโถงลิฟท์ของกันและกันได้ เพื่อความปลอดภัยครับ สำหรับสระว่ายน้ำจะอยู่ตรงกลางระหว่างสองตึก เวลาใครจะใช้สระ ก็ต้องเดินมาใช้ที่โถงตรงกลางระหว่างสองตึกครับ ซึ่งโถงสระว่ายน้ำตรงนี้จะเป็น Outdoor Space สระว่ายน้ำมีขนาด 6m x 12m และเป็นระบบเกลือครับ
ส่วนยูนิตที่พักอาศัยที่ชั้น G นี้จะไม่เหมือนชั้น 2-5 เพราะว่า ผนังห้องของยูิตชั้น G เกือบทุกห้องจะเป็นแบบผนังติดกันแบบปกติ ไม่เหมือนชั้นอื่นที่ผนังห้องของแต่ละห้องจะแยกจากกัน ซึ่งตรงนี้ก็จะทำให้ไม่ได้ Extra Privacy ที่เพิ่มขึ้นมาเหมือนกับห้องชั้นบนๆนะครับ แต่ว่าชั้นนี้จะมียูนิตพิเศษ คือห้องแบบ Studio 28 ตารางเมตร (สีแดงในรูป) มีเพียงอาคารละ 1 ห้องเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ก็ขายหมดไปแล้วแหละนะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ชั้นนี้ตึก A จะมีแค่ 5 ยูนิตเท่านั้น แต่ตึก B มี 8 ยูนิตครับ
ลิฟท์มีแค่ตึกละ 1 ตัว ก็จริงอยู่ แต่อัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่ 33:1 (ตึก A) และ 37:1 (ตึก B) ซึ่งก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีในระดับ MAIN CLASS แบบนี้นะครับ ยิ่งโครงการนี้เป็นตึกสูงเพียง 5 ชั้น การใช้ลิฟท์จะมีประสิทธิภาพมากกว่าตึกสูงแน่นอน เพียงแต่ปัญหาของลิฟท์ตัวเดียวก็จะมีอยู่บ้าง เช่น เวลาลิฟท์เสีย, ต้องมีการซ่อมบำรุงลิฟท์ หรือ ต้องใช้ลิฟท์ในการขนของ จะทำให้ลิฟท์ซึ่งมีอยู่ตัวเดียวเป็นอัมพาตไป ลูกบ้านก็ต้องใช้บันไดขึ้น-ลงอาคารแทน แต่เอาน่ะ เต็มที่ก็มีแค่ 5 ชั้น พวกเราคงจะยังวัยรุ่นกันอยู่ น่าจะเดินกันได้ถ้าเกิดกรณีแบบนั้นขึ้นมานะครับ 😀
สำหรับแปลนชั้น 3-5 นี่ก็จะหน้าตาเหมือนกันหมดนะครับ แต่ละชั้นจะมีจำนวนยูนิตอยู่ที่ 8 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งก็เรียกว่าอยู่กันแบบหลวมๆเลยแหละ เพราะในคอนโดระดับเดียวกันหลายๆโครงการ มีถึง 25-30 ห้องต่อชั้นก็มี
ถ้าเราสังเกตแปลนนะครับ จะเห็นว่าผนังห้องของแต่ละห้องจะแยกออกจากกัน ทำให้ห้องแต่ละห้องมีลักษณะเป็นเหมือนกล่องๆ เป็นล๊อกๆไป ซึ่งเขาทำแบบนี้ไว้เพื่อลดเสียงรบกวนจากห้องข้างๆที่อยู่ติดกันได้ เพราะมีฉนวนเป็นอากาศอยู่ตรงกลาง ทำให้เราทำกิจกรรมอะไรได้อีกหลายอย่างเลย ที่ต้องใช้เสียง ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมร้องเพลง, เล่นกีตาร์ในห้อง, เปิดเพลง หรือดูหนัง 😀 เสียงดังหน่อยได้ โดยไม่เป็นการรบกวนเพื่อนห้องข้างๆ ซึ่งคิดว่าคนที่ชอบไลฟ์สไตล์แบบนี้ คงจะรู้สึกดีไม่น้อยเหมือนกัน
สำหรับประโยชน์ของช่องว่างระหว่างห้องยังไม่ได้ช่วยแค่เรื่องเสียงอย่างเดียว แต่จะช่วยเรื่องแสงสว่างในโถงทางเดินด้วย เพราะว่าแสงสว่างที่ลอดผ่านเข้ามาตามช่องพวกนั้นจะช่วยให้โถงทางเดินสว่างขึ้น เดี๋ยวเราจะมีภาพให้ดูนะจะได้นึกออกว่าเป็นยังไง
พูดเรื่อง Floor Plan กันมาเยอะแล้ว เราไปดูห้องตัวอย่างในสำนักงานขายกันดีกว่า เค้าสร้างห้องแยกไว้ให้ดูแบบนี้เลยครับ ซึ่งหน้าตานี้ก็จะจำลองมาจากตึกจริงที่เสร็จแล้ว แค่ย่อส่วนลงมา
หน้าตา Grille บังสายตา และรูปแบบ Facade ที่มองเห็นจากด้านนอก
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ขนาด 6m x 12m ระบบเกลือ
- Lobby 1 จุด ที่ตึก A
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องที่ตึก B
- ลิฟท์โดยสาร 1 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์ ตึก A 33:1 ตึก B 37:1 ไม่มี Service Lift
- ที่จอดรถชั้น G ใต้อาคาร จำนวน 50% รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
Product Walkthrough
ห้องของ VENTO Condo มีอยู่มากถึง 18 แบบเลยครับ แต่ห้องตัวอย่างเค้ามีให้ดูแค่ 2 แบบนะครับ
ห้องแรกแบบ 1 Bedroom 34 ตร.ม. ขายแบบ Fully Furnished ครับ เฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้เค้าจะแปะสติกเกอร์ไว้ให้ดูเลยว่าชิ้นไหนได้ ชิ้นไหนไม่ได้
ห้องนี้เป็นห้องหน้ากว้างประมาณ 5 เมตรกว่าๆ เค้าแบ่งห้องออกเป็น 2 ส่วนอย่างละครึ่ง กั้นด้วยผนังกระจกบานเลื่อน ให้ความรู้สึกเป็นกึ่งๆ Studio หน่อย ครึ่งหนึ่งเป็นส่วน Living อีกครึ่งหนึ่งเป็นส่วน Bedroom โดยมีห้องน้ำอยู่ในห้องนอนอีกที ไปดูห้องตัวอย่างกัน
เริ่มจากประตูทางเข้ากันเลย ได้กรอบวงกบสีเทาเข้มแบบนี้
เข้ามาปุ๊บจะเห็นว่าห้องนี้ได้แสงเยอะเลย เพราะเป็นห้องหน้ากว้าง 5 เมตรกว่าๆ ออกแบบโดยเน้นการใช้แสงธรรมชาติเยอะๆ ใส่ผนังกระจกทั้ง Living Room และ Bedroom แบบพื้นจรดเพดาน ความสูงห้องนี้ 2.45 เมตรครับ แล้วห้องนั่งเล่นยังมีหน้าต่างอีกบานเพราะผนังห้องไม่ติดกับห้องด้านข้าง ทำให้แสงธรรมชาติเข้าจากด้านข้างได้ด้วย ตรงกลางห้องแทนที่จะทำผนังทึบ ก็ใช้เป็นผนังกระจกบานเลื่อนแทน ก็จะให้ห้องดูโปร่งขึ้นไปอีก
บริเวณทางเข้า วางครัวด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งเป็น โต๊ะรับประทานอาหารเล็กๆขนาดสองที่นั่ง
พื้นห้องนั่งเล่นเป็น Laminate ทั้งหมด รวมถึงส่วนครัวด้วย ซึ่งความจริงตรงที่เป็นครัวน่าจะปูพื้นกระเบื้องให้เนาะ
ชุดโต๊ะเก้าอี้รับประทานอาหาร ได้ชุดนี้เลยครับ เฟอร์นิเจอร์ในห้องหลายชิ้นก็เป็นของ IKEA นะครับ
พื้นที่ครัวมีแค่นี้เอง เป็นเคาน์เตอร์สั้นๆ ได้พื้นที่ครัวน้อยเพราะใส่ผนังกระจกยาวเข้าไปที่ห้องนอน จะสังเกตว่าไม่มีที่วางไมโครเวฟแหละ…
เคาน์เตอร์ครัว Top เป็นหินสังเคราะห์ครับ ซึ่งวางเตาสองหลุมไว้ คู่กับ อ่างล้างจาน จะสังเกตว่าไม่มีที่พักวางภาชนะครับ เพราะพื้นที่เคาน์เตอร์ครัวมีน้อย ซึ่งแบบนี้จะไม่สะดวกเท่าไหร่เวลาล้างจานเสร็จแล้วก็ไม่รู้จะเอาไปวางตรงไหน … ความจริงเตาไฟฟ้าอาจจะไม่ต้องใส่มาก็ได้นะ เพราะครัวเป็นครัวเปิด ระบายกลิ่นอาหารลำบาก ทำให้ของจริงอาจจะไม่ได้ทำอาหารจริงๆจังๆเท่าไหร่นัก บวกกับพื้นที่ทำครัวมันน้อยอยู่แล้วด้วย สู้เอาเตาออกไปเลยอาจจะทำให้พื้นที่ใช้งานจริงได้สะดวกมากขึ้น
สำหรับคนที่คิดว่าอยากจะได้พื้นที่ครัวมากกว่านี้ แนะนำว่าพื้นที่ข้างๆเคาน์เตอร์ครัวตรงนี้มันเหลืออยู่อีกหน่อย เราอาจจะเอาโต๊ะมาวางข้างๆตรงนี้อีกสักตัวหนึ่งก็ทำได้ เพราะว่า ประตูกระจกมันเปิดจากฝั่งนี้ไม่ได้อยู่แล้ว บานนี้เป็นบาน Fix ทำให้แม้ว่าเราจะเอาโต๊ะมาวาง ก็คงจะไม่ได้ขวางทางเดินแน่ๆครับ แล้วก็จะได้พื้นที่วางภาชนะ หรือจะวางไมโครเวฟ เตาอบ เครื่องปิ้งขนมปัง กระติกน้ำร้อน ฯลฯ จะได้ไม่เสียพื้นที่ไปเปล่าๆน่ะนะ
วัสดุหัวก็อก ของ Teka
เตาไฟฟ้า Teka
ที่ดูดควัน Teka แบบดูดไปปล่อยนอกอาคาร มีพื้นที่เก็บของประมาณนี้
เข้ามาในส่วนของ Living Area ครับ วางโซฟาดูทีวีด้านนี้
ระยะดูทีวีตรงนี้เกือบๆ 3 เมตร ถ้าจะนั่งดูที่โซฟา ใส่ทีวีเต็มที่ก็ไม่เกิน 50 นิ้วนะครับ แต่ว่าห้องนี้มันนอนดูจากที่เตียงได้ ถ้าดูจากเตียงนี่ แนะนำว่าต้องใส่จอใหญ่ๆหน่อย ตั้งแต่ 46 นิ้วขึ้นไป ไม่งั้นจอเล็กไปดูไม่รู้เรื่องนะครับ
โซฟาตัวนี้ ได้แบบนี้เลยครับ
โต๊ะวางทีวีให้ตัวนี้มา … แต่ดันเอาทีวีแขวนผนัง … ความจริงไม่ใช่หรอกครับ เค้าคงตั้งใจจะใช้โต๊ะตัวนี้เป็นโต๊ะกลาง แต่พอวางลงไปแล้วมันเหลือพื้นที่น้อย เลยต้องเอาไปชิดกับผนัง … ของจริง เราจะไม่ใช้โต๊ะตัวนี้ แล้วหาตู้ Side Board มาวางทีวี แทนอาจจะดีกว่านะครับ เก็บของได้เยอะกว่าด้วย
ชั้นวางของเหนือทีวี อันนี้เค้าก็ให้มาด้วยนะครับ เป็นชั้นเปลือยๆแบบนี้ กันฝุ่นไม่ค่อยจะได้ แต่วางของโชว์แล้วสวย ก็ต้องเลือกเอานะครับว่าอยากได้แบบไหน ถ้าไม่ชอบก็ต้องหาตู้แบบมีหน้าบานปิดมาใส่แทน เฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้เราเลือกจะไม่เอาก็ได้ครับ ส่วนถ้าไม่เอาแล้วจะได้ส่วนลดหรือเปล่า อันนี้ไปคุยกันหน้างานเอาเองนะครับ
ส่วนตรงนี้นี่ผมชอบมาก คือข้างๆที่วางทีวีจะมีหน้าต่างบานใหญ่แบบนี้อยู่จุดหนึ่ง สาเหตุที่เขามีตรงนี้ได้ก็เป็นเพราะเค้าออกแบบให้ห้องเรากับห้องข้างๆผนังไม่ติดกันไงครับ แล้วระหว่างห้องก็เลยมีช่องให้แสงเข้าได้ ทำให้ห้องเราจะได้แสงธรรมชาติจากด้านข้างด้วย ดีไซน์ตรงนี้ต้องขอชมเลย เพราะคอนโดอื่นๆในระดับราคาเดียวกันนี่แทบจะไม่เคยเห็นเลยนะที่จะยอมเสียพื้นที่ตรงนี้ไป
หน้าต่างตรงนี้เป็นแบบบานเลื่อนบานไม่ใหญ่นัก ข้างนอกแทนที่จะเป็นผนังสีขาวโล่งๆ เขาก็ทำเป็นสวนแนวดิ่งให้ดูเป็นไอเดียครับ ของจริงเราจะทำตามแบบเค้าก็ได้นะครับ
มองออกไปด้านนอกก็จะเห็นแบบนี้ พื้นที่ตรงนี้ ไม่คิดในพื้นที่ขายของห้องเรานะครับ เสมือนว่าเค้าแถมให้ไปเลยฟรีๆนะ
มองออกไปด้านนอกอาคาร ตรงนี้จะเปิดเป็นช่องลมระบายอากาศก็ยังได้ โดยไม่ต้องเปิดประตูห้องด้วย
มองจากนอกอาคารเข้ามาก็จะเป็นลักษณะนี้
ปลายสุดอีกด้านหนึ่งจะต่อไปถึงโถงทางเดินข้างนอก
ที่โถงทางเดินข้างนอกห้องเราก็จะเห็นช่องผนังตรงนี้เป็นแบบในรูปนี้ครับ มีบานกระทุ้งบานนึง ซึ่งถ้าเปิดแล้ว ก็จะมีลมผ่านมาถึงโถงทางเดินได้ ทำให้โถงทางด้านไม่อับ ระบายอากาศ ระบายกลิ่นได้ อย่างน้อยมันต้องมีซักวันหนึ่ง ที่ห้องไหนทอดปลาเค็ม ผัดกระเพรา แล้วเปิดประตูห้องเอาไว้ ไอ้ช่องพวกนี้ ถ้าเปิดออกพร้อมๆกัน 8-10 ช่อง ก็จะช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ครับ
ถัดมาเป็นส่วนระเบียงที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่น อย่างที่บอกว่าติดประตูกระจกบานเลื่อน สูงพื้นจรดเพดานมาให้ มูลี่เขาไม่ได้ใส่มาให้นะครับ
พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 80 ซม. ใส่กระเบื้อง 60x60cm
พื้นระเบียงลดระดับ วางรางเลื่อนด้านนอก วัสดุอลูมิเนียมพ่นสีดำ
ระเบียงวางเครื่องซักผ้า กับ Compressor แอร์ ที่แขวนด้านบนเป่าเข้าระเบียง
ราวกันตกที่ระเบียงสูงมาก ประมาณ 1.20 เมตรได้เลยนะเนี่ย
ห้องนอนกับห้องนั่งเล่น กั้นด้วยผนังกระจกบานเลื่อน 4 ตอนแบบนี้ ทำให้ห้องดูโปร่งไปเลย นอกจากเรื่องความโปร่งแล้ว ข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือ เราสามารถนอนดูทีวีจากเตียงก็ได้ด้วยนะ
เปิดออกสุดแล้วเป็นแบบนี้ครับ ข้อเสียตรงนี้คือ บานเลื่อนมันเปิดได้แค่ด้านเดียวเนี่ยสิ…แล้วถ้ามันเปิดแค่ด้านเดียว ความจริงมันก็ควรจะเปิดจากซ้ายไปขวาตามธรรมชาติของคนใช้นะครับ ไม่ใช้จากขวาไปซ้าย…ถ้าคุยกับโครงการขอให้เค้าแก้ให้ได้ ผมก็แนะนำให้แก้จะดีกว่านะครับ ลองนึกดูว่าถ้าไม่แก้ เวลาเราเดินเข้าห้องมา เราก็ต้องเดินไปจนสุดโซฟาแล้วถึงจะเปิดเข้าห้องนอนได้
เข้ามาในห้องนอนก็จะเป็นลักษณะนี้ เตียงได้เป็นเตียงขนาด 6 ฟุต ไม่แถมฟูกนะครับ
หน้าตาโต๊ะข้างเตียงเป็นแบบนี้ ได้โต๊ะแบบนี้ 2 อัน
พื้นที่ตรงหน้าต่าง เค้า Build เป็นโต๊ะทำงานตัวยาวติดผนังไปเลย พื้นที่ประมาณนี้ ดูแล้วน่าจะใช้ทำงานทั่วๆไปได้จริงประมาณหนึ่งเลยนะครับ ถ้าแค่จะวางคอมโน้ตบุคซักตัวนี่สบายเลย แต่ถ้าจะวาง Desktop PC อาจจะต้องใช้เป็นพวก All-in-One ไปแทน
วางแอร์ที่ผนังตรงนี้ แอร์เค้าให้ของ Daikin 1 ห้องนอน 1 ตัว ถ้า 2 ห้องนอนก็ 2 ตัว
ช่องแสงด้านล่างทำเป็นกระจกฝ้าครับ เพื่อเพิ่ม Privacy ให้กับห้องนอน แต่ยังได้แสงสว่างอยู่
อีกด้านหนึ่งเป็นห้องน้ำ และ ตู้เสื้อผ้า
ตู้เสื้อผ้าให้เป็นแบบเปลือย ยี่ห้อ IKEA หน้าตาประมาณนี้ แบบนี้มันก็ดูสวยดีไปอีกแบบนะครับ แต่บางคนอาจจะไม่ชอบ เพราะตู้แบบเปลือยมันจะกันฝุ่นได้ไม่ค่อยดีนัก ส่วนตัวไม่เคยใช้เองซะด้วยสิ ใครเคยใช้แบบนี้แล้วดีไม่ดียังไง เอามาแชร์ในคอมเม้นด้วยนะครับ ผมอยากรู้ 😀
ห้องน้ำแบบ 3 ฟังก์ชั่นมาตรฐาน อ่างล้างหน้า โถสุขภัณ์ และ Shower Box
แต่ห้องน้ำห้องนี้เค้าไม่ธรรมดาครับ ห้องน้ำห้องนี้มันไม่มีหน้าต่าง เค้าก็เป็นห่วงเรื่องแสงสว่างในห้องน้ำ เลยทำผนังด้านที่ติดกับห้องนอนเป็นผนังกระจกฝ้าซึ่งจะโปร่งแสง ทำให้ยังได้แสงสว่างเข้ามาที่ห้องน้ำอยู่ครับ … แต่ผมไม่แน่ใจนะ เวลากลางคืน คนที่อยู่ในห้องน้ำเปิดไฟอาบน้ำ มันจะเห็นเป็นเงาๆมั้ย … ความจริงผนังตรง Shower Box ควรจะเป็นผนังทึบมากกว่านะ ยังไงก็ไปทดสอบกันเองนะครับ
พื้นห้องน้ำกั้นด้วยธรณีก่อครับ
อ่างล้างมือหน้าตาประมาณนี้ มีช่องเก็บของใต้อ่าง
ก็อกน้ำของ VRH
ติดกระจกมาแบบนี้ มีชั้นวางของเล็กๆ
โถสุขภัณฑ์ของ MOGEN
แต่รุ่นนี้ผมว่ามันเล็กไปหน่อยนะ … พื้นที่ก็เหลือนะความจริง …
หัวสายฉีดชำระ
ที่วางกระดาษทิชชู่
Shower Box ติดกระจกมาให้เรียบร้อย แต่ตำแหน่งที่ติดตั้งไม่ควรจะอยู่ทางซ้ายเลย เพราะลองนึกสภาพการใช้งาน ติดประตูฝั่งขวาจะดีกว่า เพราะเวลาเดินเข้าออก มันจะได้ไม่ติดโถสุขภัณฑ์นะครับ … แต่ก็เข้าใจได้เพราะการที่เขาติดประตูฝั่งซ้ายนี้ เค้าไม่ต้องการให้เราเปิดประตูไปชนกับผนังกระจกด้านขวา … ที่จริงๆควรจะเป็นผนังทึบ …
พื้นตรงนี้กั้นด้วยธรณีก่อ เพื่อแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง ปูกระเบื้อง 60×60 ซม.
ติด Door Stopper เอาไว้เพื่อกันไม่ให้ประตูไปกระแทก
ที่อาบน้ำแบบ Rain Shower
หัวฝักบัว Hand Shower ที่มาคู่กัน
หัวก็อกน้ำของ VRH
ที่วางสบู่ ที่ไม่ได้ติดมาให้นะครับ
ต่อไปเป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 42 ตารางเมตรบ้างครับ
แปลนห้องนี้เป็นห้องมุมนะครับ อธิบายแปลนห้องคร่าวๆก่อน ภาพรวมของห้องนี้ประมาณเกือบๆครึ่งของห้อง จะเป็นพื้นที่ของ Master Bedroom ครับ ซึ่งมีห้องน้ำ และระเบียงในตัว ห้องน้ำของห้องนี้จะเปิดเข้าจากทางห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นก็ได้ ส่วนพื้นที่ที่เหลืออีกครึ่งนึงก็จะเป็นห้อง Living รวมกับห้องนอนเล็กครับ
จากประตูหน้าห้องมองเข้าไปเป็นแบบนี้ครับ
ซ้ายมือเป็นตู้เก็บรองเท้าBuilt-in ที่มาพร้อมชุดเฟอร์
First Impression เวลาเข้ามาที่ส่วน Living ซ้ายเป็นทางเข้าห้องนอนใหญ่ ขวาเป็นทางเข้าห้องนอนเล็ก
ผนังด้านข้างเหมือนเดิม คือส่วนนี้จะไม่ได้ติดกับผนังห้องเพื่อนบ้าน ใส่หน้าต่างเพิ่มช่องแสงไว้
หน้าต่างด้านข้างของห้อง 2-Bed จะใหญ่กว่าห้อง 1-Bedขึ้นมาอีกหน่อยนึง
หันกลับมาดู Space บริเวณครัว ด้านซ้ายเป็นทางเข้าห้อง ด้านขวาเป็นทางเข้าห้องน้ำอยู่ติดกับครัว และประตูถัดมาเป็นทางเข้าห้องนอน
โต๊ะกินข้าวตัวนี้ เอามาตั้งตรงกลางห้อง ดูอึดอัดไปหน่อย แต่ตัวนี้เป็นของ IKEA แบบพับเก็บได้ เค้าอยากให้เราหยิบออกมาใช้เวลาที่ต้องการเท่านั้น ซึ่งถ้าขยันพับเก็บ ขยันยกหน่อยก็คงจะดีนะ
สามารถพับออกมาเป็นโต๊ะขนาดใหญ่ นั่งกินข้าว 4 คนได้
ขาโต๊ะดีไซน์มาให้กางออกเฉียงๆ เพื่อให้รับน้ำหนักได้
มีลิ้นชักเก็บของตรงกลางด้วย
พื้นที่วางตู้เย็นใส่ตู้เย็นขนาดประมาณนี้ เกือบ MAX แล้วครับ
เคาน์เตอร์ครัวได้พื้นที่เพิ่มมาหน่อยจากห้องเมื่อกี๊
มีพื้นที่เพิ่มเข้ามา แต่ผมก็ยังยืนยันเหมือนเดิมนะครับว่ามันไม่มีที่วางภาชนะ เวลาล้างถ้วยล้างชามเสร็จมันไม่มีที่วางครับ…
หันกลับมาดูที่ส่วนโซฟาดูทีวี … โดยปกติเวลาเราไม่ได้ใช้โต๊ะกินข้าวก็พับเก็บซะนะครับ ไม่งั้นพื้นที่มันจะดูแคบไปเลยแบบที่เห็นนี่… ระยะดูทีวีค่อนข้างไกลนะครับประมาณ 3 เมตรกว่าๆเลย คงต้องใส่ทีวีขนาดใหญ่กว่าที่เห็นในรูปนิดนึงนะครับ ไม่งั้นมันจะตัวเล็กดูไม่ค่อยรู้เรื่อง
ผนังห้องนอนเล็ก กับ ผนังห้องนั่งเล่น เค้าใส่เป็นกระจกฝ้าอีกแล้วครับ อย่างว่า คนออกแบบที่นี่เค้าเน้นเรื่องแสงสว่างและความโปร่งมาก ทำให้ห้องนั่งเล่นที่ปกติจะได้แสงจากหลอดไฟเท่านั้น ก็จะได้เจอกับแสงธรรมชาติบ้าง
ชุดเฟอร์นิเจอร์วางทีวี
โซฟา และ โต๊ะกลาง ได้ตามนี้
เข้ามาดูที่ห้องนอนเล็กกันหน่อย ห้องนี้ติดหน้าต่างบานใหญ่อีกเหมือนกัน หน้าต่างชิ้นล่างเป็นกระจกฝ้าเพื่อเพิ่ม Privacry ครับ วางตู้เสื้อผ้าแบบเปลือยด้วย
โต๊ะทำการบ้าน
เตียงนอนของคุณลูก ขนาด 3 ฟุตครับ (ไม่ใช่ 3.5 นะ) มีที่เก็บของใต้เตียงด้วย ของ IKEA
ตู้เสื้อผ้าแบบเปลือยของ IKEA อีกเช่นกัน
ผนังกระจกฝ้าไม่ใช่ว่าไม่มีข้อเสียนะครับ … ตอนกลางคืน เวลาคุณลูกจะนอนเนี่ย ถ้าห้องนั่งเล่นเปิดไฟสว่างอยู่ ห้องนอนมันก็จะมีแสงเข้ามารบกวนคนที่นอนได้เหมือนกัน … อันนี้ก็ต้องแลกเอาครับ … แต่ถ้าเราไม่ใช้ห้องนี้เป็นห้องนอน ทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์อย่างอื่นไป ก็ไม่มีปัญหาครับ
ประตูทางเข้าห้องน้ำ เปิดเข้าจากห้องนอน หรือ ห้องครัว ก็ได้ทั้งคู่
ห้องน้ำเหมือนกับห้องที่แล้วเด๊ะๆเลย ขอข้ามนะจ๊ะ
มาดูที่ห้องนอน Master Bedroom กันบ้าง ห้องนี้อยู่ติดระเบียง
เตียงนอนขนาด 6 ฟุต
โต๊ะหัวเตียงห้องนี้ได้เป็นแบบกลมแทน … ไม่มีลิ้นชักเก็บของ แถมสูงด้วย … ผมว่าอันของห้องที่แล้วเวิร์คกว่านะ ห้องตัวอย่างแต่งไว้เป็นไอเดีย ห้องจริงถ้าเราไม่ชอบก็ไม่ยากครับไปหามาเปลี่ยนเสีย
แขวนทีวีปลายเตียง และวางตู้เสื้อผ้าหน้าห้องน้ำ มองจากมุมนี้โปร่งดี ตู้เสื้อผ้า IKEA Style จะไม่มีหน้าบาน เราต้องหมั่นทำความสะอาดห้อง ไม่อย่างนั้นฝุ่นจะจับหมดนะ
ปลายเตียงข้างๆทีวีเขาตั้งใจทำช่องเอาไว้เพื่อใส่โต๊ะทำงาน
ขนาดโต๊ะมันก็จะเล็กกว่าห้องเมื่อครู่นะครับ แถมไม่อยู่ติดหน้าต่างด้วย รู้สึกเหมือนนั่งในซอกไปหน่อย แต่ก็ดีครับที่ทำให้พื้นที่ Waste Space ข้างเสานั้นเอามาใช้งาน มี Function ได้
ระเบียงด้านนอกกว้างกว่าห้องที่แล้วครับ ขนาดประมาณ 1 เมตรนิดๆ แต่มันมีปัญหาอยู่เหมือนกันครับ…
นั่นก็คือ เค้าวางเครื่องซักผ้าไว้ในห้องนอนครับ … ซึ่งมันก็คงจะไม่สะดวกเท่าไหร่เวลาจะใช้งาน แถมคอยล์ร้อนของแอร์อีก 2 ตัวยังเป่าเข้าหาระเบียงอีกด้วย แบบนี้เวลาซักผ้าก็ต้องมานั่งตากลมร้อน หรือไม่ก็ต้องปิดแอร์ มันจะแปลกๆอยู่นะ
อีกด้านหนึ่งของระเบียง
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 26/04/2013
- 1 Bedroom อาคาร B ชั้น 2 ห้อง 203 เนื้อที่ 33 ตารางเมตร ราคา 1.756 ล้านบาท หรือ 53,212 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 5 ห้อง 507 เนื้อที่ 40 ตารางเมตร ราคา 2.335 ล้านบาท หรือ 58,375 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedroom อาคาร B ชั้น 3 ห้อง 302 เนื้อที่ 41.5 ตารางเมตร ราคา 2.273 ล้านบาท หรือ 54,771 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedroom อาคาร A ชั้น 5 ห้อง 508 เนื้อที่ 64 ตารางเมตร ราคา 3.782 ล้านบาท หรือ 59,093 บาทต่อตารางเมตร
- Fully Furnished
- เพดานสูง 2.45 เมตร
- จอง 10,000 บาทสำหรับห้อง 1 Bedroom และ 20,000 บาทสำหรับห้อง 2 Bedroom
- ทำสัญญา 30,000/40,000 บาท
- ค่ากองทุน 400 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
เจาะลึกรวบยอด
ทำเลของ VENTO เกษตร-นวมินทร์ นั้นอยู่ในซอยสุคนธสวัสดิ์ 11 ซึ่งซอยนี้มีข้อดีคือ ไม่ใช่ซอยตัน เป็นซอยที่ทะลุไปถนนเกษตร-นวมินทร์ได้ และถนนสุคนธสวัสดิ์ (บางคนยังเรียกว่า “ซอย”สุคนธสวัสดิ์อยู่) ก็ยังเป็นถนนที่เชื่อมออกไปยังถนนเส้นอื่นๆได้อีก เช่น ลาดพร้าว หรือ ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา มีทางเลี่ยงทางลัดเยอะ ความอุดมสมบูรณ์ในซอยค่อนข้างดี และในระยะรัศมี 1-5 กม.จากโครงการ ก็มี Community Mall มีห้าง มี Supermarket อยู่จำนวนหนึ่ง และก็ยังใกล้กับสถานศึกษาชื่อดังในบริเวณใกล้เคียงอย่าง โรงเรียนสตรีวิทยา 2 หรือถ้าห่างออกไปหน่อยก็จะมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วย แต่ก็แน่นอนว่าซอยนี้มันไม่ได้ติดถนนใหญ่ ทำเลอยู่กลางๆซอย บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ ส่วนใหญ่เป็นบ้านคน (ที่ค่อนข้างมีฐานะ) อาจจะมองว่ามีความเป็นส่วนตัวก็ได้ ในขณะเดียวกันก็อาจจะดูเปลี่ยวสำหรับหลายๆคนก็ได้ในตอนกลางคืน แต่ถ้าขับรถเข้าบ้านเป็นหลัก ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
การเดินทางโดยใช้รถยนต์ค่อนข้างสะดวกในระดับหนึ่ง เพราะมีทางด่วนให้ใช้ใกล้ๆสองจุด คือ ทางด่วนรามอินทรา และ โทลล์เวย์ ซึ่งอันหลังนี้จะอยู่ห่างออกไปไกลหน่อย แต่ก็ถือว่าอยู่ในระยะที่ใช้งานได้ดี และในโซน เกษตร-นวมินทร์-เลียบทางด่วน นี้ หลายๆคนก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่ารถติด เพราะเป็นถนนที่คนใช้เยอะ แต่เวลาจะไปไหนมาไหนก็จะมีเส้นทางให้เลือกใช้ได้หลายทาง ถ้าอยู่ไปเรื่อยๆจนชำนาญทางลัดแล้ว น่าจะสะดวกพอสมควรเลยล่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ แน่นอนว่าตรงนี้ไม่มีรถไฟฟ้ามาหานะเธอ แท็กซี่ และ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ดูจะเป็นที่พึ่งของคนแถวนี้เป็นหลัก รถเมล์ก็มีวิ่งเหมือนกัน ซึ่งทั้งสามอย่างก็หาไม่ยาก มอเตอร์ไซค์มีประจำที่ปากซอยทั้งสองด้าน แท็กซี่มีวิ่งผ่านไปมาตลอด มีผ่านมาหน้าโครงการด้วยเพราะซอยสุคนธสวัสดิ์ 11 นี้ชอบมีรถใช้เป็นทางลัด และป้ายรถเมล์ออกไปบนถนนเกษตร-นวมินทร์ตรงปากซอย 22 ก็จะมีอยู่หนึ่งจุด
วัสดุอุปกรณ์ที่ให้มา จัดมาแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ของ IKEA, ครัวของ Teka, ห้องน้ำของ MOGEN และ VRH รวมๆกัน ถือว่าให้มาดีกว่ามาตรฐานคอนโดในราคาระดับนี้ บางชิ้น เช่น ตู้เสื้อผ้าเปลือย, โต๊ะกินข้าวแบบพับเก็บ อาจจะมีคนไม่ชอบอยู่บ้าง แต่คนที่ชอบก็อาจจะมองว่าดีไปเลย
การออกแบบโครงการทำได้ดี ความหนาแน่นน้อย ได้ความเป็นส่วนตัวสูงเพราะทำผนังห้องมาไม่ติดกัน และมีดีไซน์ที่ดีในการดึงแสงธรรมชาติเข้ามาใช้ในอาคาร ติดแค่เรื่องที่จอดรถ 50% ว่าถึงเวลาจะเพียงพอหรือเปล่า แต่ถ้าเทียบกับราคาแล้วก็อยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนการออกแบบห้องนั้นเป็นแบบที่ไม่ค่อยจะพบเห็นในโครงการทั่วๆไปนัก ทั้งเรื่องการนำกระจกทั้งใสและขุ่นมากั้นห้อง การใช้ตู้เสื้อผ้าเปลือย การเชื่อมต่อฟังก์ชั่นห้องนอนและห้องนั่งเล่น ซึ่งแนวคิดแต่ละจุดเป็นแนวคิดที่ดี แต่พอวางเฟอร์นิเจอร์เข้าไปจริงๆ มีรายละเอียดบางจุดที่ยังไม่ได้คิดถึงการใช้งานจริง เช่นการวางพื้นที่ครัว, ผนังห้องอาบน้ำ, เครื่องซักผ้าที่อยู่ในระเบียงห้องนอน เป็นต้น บางคนก็อาจจะชอบและไม่ชอบนะครับ
สุดท้ายคือสาธารณูปโภคในโครงการ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ, Lobby/ห้อง Fitness/สระว่ายน้ำ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 55,000 บาทต่อตารางเมตร, 26/04/2013
- ทำเล 7.75/10 – แม้ไม่ติดถนนใหญ่แต่ทำเลอยู่ในซอยที่ไม่ตันและอุดมสมบูรณ์ดีใช้ได้, ใกล้ รร.สตรีวิทยา 2/ม.เกษตร
- เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – ใกล้ทางด่วนรามอินทรา มีทางเลี่ยงทางลัดพอใช้ได้ รถติดพอควร
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ไม่ใกล้รถไฟฟ้า แต่อยู่ในจุดที่หาแท็กซี่/รถเมล์/มอไซค์ ได้ไม่ยาก
- วัสดุ 8.5/10 – Fully Furnished (IKEA), เทียบกับราคาแล้วดีกว่ามาตรฐานส่วนใหญ่
- แบบ 8.5/10 – ตัวโครงการคอนเซปท์ดี Privacy สูง
- สาธารณูปโภค 7/10 – สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส มาตรฐาน
- MAIN CLASS
- 7.94 / 10.00
BOTTOM LINE
VENTO เกษตร-นวมินทร์ เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับ คนที่กำลังมองหาบ้านในย่านเกษตร-นวมินทร์-เลียบทางด่วน อาจจะทำงานโซนนี้ หรือมีลูกหลานเรียนอยู่ในสถานศึกษาใกล้ๆ ชอบโครงการเล็ก ยูนิตน้อยๆ ที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูง และอยากได้ห้องที่มีพื้นที่ใหญ่หน่อยให้อยู่สบายมากขึ้น ในงบประมาณ 1.7 – 3 ล้านบาท
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ