VEHHA HUA HIN (เวหา หัวหิน) คอนโด High Rise ได้วิวทะเลทุกห้อง ติดสวนน้ำและโรงแรม Holiday Inn Resort Vana Nava Hua Hin จาก Proud Real Estate

VEHHA HUA HIN (เวหา หัวหิน)  ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2568

Highlight

• ติดสวนน้ำและโรงแรม Holiday Inn Resort Vana Nava Hua Hin : ลูกบ้านเดินไปใช้งานได้ และได้สิทธิพิเศษมากมาย
• อยู่ไม่ไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวก : ในระยะ 3-4 กิโลเมตร มีทั้ง Bluport Hua Hin Resort Mall , Cicada Market , Hua Hin Market Village ลูกบ้านจึงหาของกินของใช้ได้ไม่ยาก

พิกัด Google Maps : 12.532997, 99.963332
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากโครงการ VEHHA HUA HIN (เวหา หัวหิน) ค่ะ

โครงการ VEHHA HUA HIN (เวหา หัวหิน) ตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษม ถนนเส้นหลักที่คนมักใช้เดินทางระหว่างกรุงเทพฯ-ราชบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ โดยโครงการจะตั้งอยู่ฝั่งขาออกจากตัวเมืองหัวหิน ทำเลติดกับสวนน้ำและโรงแรม Holiday Inn Resort Vana Nava Hua Hin ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของนักเดินทางที่มาเที่ยวหัวหินค่ะ ทั้งนี้โครงการยังมีดีลสิทธิพิเศษสำหรับลูกบ้านที่ไปใช้บริการโรงแรมและสวนน้ำด้วย

จากโครงการเข้าถึงแหล่งความอุดมสมบูรณ์ได้ไม่ยากเลยนะ เพราะเยื้องๆกับโครงการไปหน่อย ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ มี Cicada Market อยู่ เราสามารถใช้บริการรถรับ-ส่งของโรงเเรม Holiday Inn ไปลงที่สถานีรถไฟแล้วเดินต่อประมาณ 200 เมตรก็ถึงแล้วค่ะ ส่วนใครที่ต้องการเล่นน้ำทะเลก็เดินต่อจากตลาดไปอีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึงชายหาดหัวหินได้เลย แต่ถ้าไม่อยากเดิน จะขับรถไปก็สะดวกเช่นกัน ประมาณ 3-4 กิโลเมตรก็ถึงทั้งตลาด , ชายหาด , ถนนคนเดินหัวหินและห้างอย่าง Bluport huahin

คอนโดที่นี่เหมาะกับการมาพักตากอากาศ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ใกล้แค่เอื้อม เดินไปจากโครงการได้เลย แล้วยังไม่ใกล้จากชายหาดมากนะ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าชายหาดหัวหินที่ใกล้กับโครงการนี้จะไม่วุ่นวายมากนัก เมื่อเทียบกับชายหาดฝั่งพัทยาหรือบริเวณตัวเมืองหัวหิน เพราะไม่ได้มีร้านเหล้าร้านอาหารริมชายหาดมากนัก ส่วนใหญ่เป็นโรงแรม รีสอร์ทที่เจ้าของช่วยการรักษาความสะอาดอยู่แล้ว

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

โครงการ VEHHA HUA HIN (เวหา หัวหิน) ตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษม โดยตัวอาคารตั้งในแนวขนานทะเลกับถนน ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จึงได้วิวทะเลแบบเปิดโล่ง 180 องศา อาคารอื่นๆที่อยู่กับทะเลมากกว่าโครงการนี้ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรือคอนโด มักจะติดข้อกำหนดความสูงอาคาร ห้ามสูงเกิน  23 เมตร  ทำให้ไม่มีอาคารไหนมาบดบังวิวทะเลของเราได้ค่ะ โดยสภาพแวดล้อมรอบข้างโครงการสรุปได้ดังนี้

• ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับ สถานีรถไฟ , โรงแรม 6 ชั้น , คอนโด 8 ชั้น , อาคารพาณิชย์และบ้านพักอาศัย 2-4 ชั้น , ทะเล
• ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับ โรงแรม Holiday Inn Resort Vana Nava Hua Hin ที่มีความสูง 27 ชั้น , ที่ว่างรอการพัฒนา
• ทิศตกเฉียงเหนือ ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนา
• ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับ สวนน้ำ Vana Nava Hua Hin , ตลาด , อาคารพาณิชย์ 3-4 ชั้น , ที่ว่างรอการพัฒนา , ภูเขา

บรรยากาศด้านหน้าโครงการ ติดกับถนนเพชรเกษม ฝั่งออกจากตัวเมืองหัวหิน ด้านข้างโครงการติดกับสวนน้ำและโรงแรม Holiday Inn Resort Vana Nava Hua Hin

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Bluport Hua Hin Resort Mall ~ 3 km.
• Cicada Market ~ 4.1 km.
• Hua Hin Market Village ~ 4.3 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 4 km.
• โรงพยาบาลซานเปาโล ~ 5 km.

โรงเรียน

• โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย ~ 4.7 km.

สถานที่อื่นๆ

• Vana Nava Water Jungle ~ 0 m.
• Intercontinental Hua Hin Resort ~ 3.9 km.
• Marriott Hua Hin Resort and Spa ~ 4.1 km.
• ชายหาดหัวหิน ~ 6 km.
• Centara Grand Beach Hotel Hua Hin ~ 6.1 km.
• Hua Hin Airport ~ 12.7 km.

Highlight

• ส่วนกลางหลากหลาย 28 ฟังก์ชัน : กระจายไว้มากกว่า 13 ชั้น ช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน และมีฟังก์ชันพิเศษ ที่หาได้ยาก เช่น Garden Theater
• มี Sky Facility : Cabana with Hot Tub และ Hangout Court เห็นวิวเมืองหัวหินแบบ 360 องศา

VEHHA HUA HIN (เวหา หัวหิน) เป็นคอนโดมิเนียม High Rise 31 ชั้น บนเนื้อที่ประมาณ 5-1-9.5 ไร่ รวม 364 ยูนิต โครงการมีฟังก์ชันส่วนกลางให้เลือกใช้งานหลากหลายถึง 28 ฟังก์ชัน และเลือกที่จะกระจายพื้นที่ส่วนกลางไว้ 13 ชั้น เพื่อกระจายความหนาแน่นในการใช้งานค่ะ ส่วนกลางเกือบทั้งหมดจะหันหน้ามาฝั่งสวนน้ำและภูเขา เพราะอีกฝั่งที่ได้วิวทะเลจะเป็นห้องพักทั้งหมด ยกเว้นชั้น Rooftop ที่จะได้วิวทั้งทะเลและภูเขาแบบเต็มตา โดยฟังก์ชันส่วนกลางทั้งหมดของโครงการแบ่งเป็นดังนี้ค่ะ

• ชั้น 1 ที่มีสวนส่วนกลาง , Lobby , สระว่ายน้ำและ Kid’s Room
• ชั้น 3 เป็นพื้นที่การทำงานที่หลากหลาย ทั้งแบบเดี่ยวแบบกลุ่มและห้องประชุม นอกจากนี้ยังมีฟิตเนสให้ลูกบ้านมาออกกำลังกายอีกด้วย
• ชั้น 5 มี Laundry Room ให้ลูกบ้านเอาเสื้อผ้าลงมาซักได้ และยังมี Driver Room สำหรับคนขับรถหรือผู้ติดตามลูกบ้านได้มาใช้บริการด้วยนะ
• ชั้น 8 , 12 , 22 , 27 เป็นพื้นที่พักผ่อนที่สามารถชมวิวภูเขาได้ โดยแต่ละชั้นจะมีการออกแบบที่แตกต่างกันออกไป เดี๋ยวเราจะพาทุกคนไปชมแบบละเอียดภายหลังนะ
• ชั้น 17 เป็น Co-Kitchen ให้เราสามารถจองมาทำอาหารสนุกๆกับเพื่อนๆได้
• ชั้น 18 – 21 เป็น Garden Theater ที่เรามองว่าเป็นฟังก์ชันที่หาได้ยาก ให้ลูกบ้านมาดูหนังพร้อมชมวิวทะเล
• ชั้น Roof top เป็น Hangout Court , Cabana with Hot Tub ซึ่งเป็น Highlight ของโครงการและเป็นฟังก์ชันที่ได้วิวทะเล , ภูเขาแบบ 360 องศา

ก่อนอื่นเราต้องพาทุกคนมาดูผังโครงการ VEHHA HUA HIN (เวหา หัวหิน) รวมถึงสวนน้ำและโรงแรม Holiday Inn Resort Vana Nava Hua Hin กันก่อนเลยนะคะ เราจะเห็นได้ว่า แต่ละโครงการมีทางเข้าแยกกันอย่างชัดเจน ทำให้แขกของแต่ละโครงการไม่ปะปนกัน ลูกบ้านจึงได้ความเป็นส่วนตัว

เราจะเห็นว่าโครงการ VEHHA HUA HIN (เวหา หัวหิน) มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นลูกบ้าน แขกที่มาเยี่ยมเยือนก็ต้องผ่านซุ้มประตูโครงการก่อน ตัวซุ้มประตูโครงการอยู่ถัดเข้ามาในโครงการเล็กน้อย เพื่อให้รถยนต์มีที่รอเวลาแลกบัตรเข้าโครงการ ทำให้การจราจรหน้าโครงการไม่ติดขัด โครงการใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียน หมายความว่ารถยนต์ที่เข้าออกได้จะเป็นลูกบ้านเท่านั้น

ชั้น 1 เป็นพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่จอดรถ ไม่มีห้องพักอาศัยอยู่เลยค่ะ ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวและรู้สึกปลอดภัยด้วยค่ะ สำหรับที่จอดรถภายในโครงการมี 38% หรือ 140 คัน โดยเป็นที่จอดในอาคารทั้งหมด ไม่ต้องจอดรถตากแดดลมฝน

ส่วนกลางที่แขกสามารถเข้ามานั่งรอลูกบ้านได้เลย จะมีส่วนของ Lobby และ Creative Outdoor Playground เท่านั้นนะ หากจะไปส่วนอื่นๆของโครงการจะต้องผ่าน Access Control  ซึ่งมีแต่ลูกบ้านที่จะผ่านไปได้

ทางเข้าโครงการใช้ระบบจดจำป้ายทะเบียนในการเข้า-ออกโครงการ ส่วนแขกจะต้องแลกบัตรก่อนนะ โครงการแยกทางเข้าออกอย่างชัดเจนแต่ ไม่ได้แยกช่องระหว่างลูกบ้านกับผู้มาติดต่อ จึงทำให้ต้องรอสักหน่อย หากรถคันหน้าเรามีการแลกบัตร

ระยะจากซุ้มประตูไปถึงตัวอาคารประมาณ 250 เมตร เป็น Buffer Zone ช่วยลดเสียงรถยนต์และฝุ่นควันบนถนน ให้เข้าถึงโครงการได้น้อยลง และยังทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยค่ะ สองข้างทางของทางเข้ามีต้นไม้ปลูกไว้ตลอดแนว ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีให้โครงการ

เมื่อขับรถตรงมาสุดทางจะมีทางเลี้ยวเพื่อไปยังที่จอดรถและจุด Drop-off หน้าอาคาร

ทางขึ้นไปลานจอดรถกว้างพอให้รถสวนกันได้ ส่วนบรรยากาศชั้นจอดรถมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่มีหลายชั้น จึงสามารถจอดรถได้ถึง 140 คัน และมีแสงธรรมชาติเข้าฝั่งหนึ่ง ทำให้ลานจอดรถสว่างปลอดภัย โดยโครงการแบ่งให้ชั้นแรกของที่จอดรถเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถมอเตอร์ไซค์ และพื้นที่สำหรับชาร์ทรถไฟฟ้า 3 คัน ใครที่ใช้รถยนต์ไฟ้าสามารถมาใช้บริการได้สะดวก ส่วนชั้น 2-7 เป็นพื้นที่สำหรับจอดรถยนต์

นอกจากนี้โครงการยังมีฟังก์ชันที่ชาวคอนโดตามหากันมานาน อย่างพื้นที่ล้างรถ 2 จุด ส่วนตัวเราชอบฟังก์ชันนี้มากเลยนะ เพราะคนที่อยู่คอนโดประจำจะรู้ดีว่า ค่าเอารถไปล้างแต่ละครั้งสูงตั้งแต่ 200-400 บาท แล้วยังต้องจัดเวลาไปรถไป Car Care อีกประมาณ 1 ชั่วโมง เพราะต้องต่อคิวด้วย ส่วนใหญ่ชาวคอนโดจึงไม่ค่อยได้ล้างรถกันเท่าไร เมื่อโครงการนี้มีพื้นที่ให้ล้างรถ ลูกบ้านก็จะมาใช้งานได้ง่ายขึ้น ยิ่งใครที่รักรถมากๆ ก็จะชอบล้างรถเอง ยิ่งสะดวกกันไปใหญ่เลย โดยจะมีค่าบริการเพิ่มเติม 50 บาท / คันค่ะ

ถัดจากทางเข้าที่จอดรถ เป็นจุด Drop-off  ที่แขกสามารถส่งลูกบ้าน แล้ววนรถออกได้เลย สะดวกในการมารับ-ส่งทีเดียว

สำหรับทางเข้าอาคารออกแบบเป็น Universal Design มีทั้งทางลาดสำหรับรถเข็น เพื่อให้ใช้งานสะดวกและบันไดสำหรับคนทั่วไป

Lobby ของโครงการให้บรรยากาศเหมือนรีสอร์ท ออกแบบเปิดโล่ง มีลมพัดผ่านตลอดเวลา จึงรู้สึกเย็นสบาย โดย Lobby แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งแรกเป็นพื้นที่นั่งพักคอย ส่วนอีกฝั่งเป็น Reception ให้ลูกบ้านมาติดต่อทั่วไป

ส่วน Lobby โครงการจะไม่มี Access Control ทำให้แขกที่มาเยี่ยมเยือนโครงการสามารถเข้านั่งรอเพื่อนบริเวณนี้ได้ นอกจากนี้ลูกบ้านยังใช้เป็นเพื่อนที่พบปะ พูดคุยกับแขกในกรณีที่ไม่สะดวกให้แขกขึ้นไปบนห้องด้วย หรือจะมานั่งทำงาน เปลี่ยนบรรยากาศก็ได้เช่นกัน

อีกฝั่งหนึ่งเป็น Reception สำหรับต้อนรับแขกหรือให้ลูกบ้านมาติดต่อ

จากที่จอดรถมีประตูเชื่อมต่อมายัง Lobby ด้วย ใครที่จอดรถชั้น 1-2 แนะนำให้เข้าประตูนี้จะสะดวกที่สุดนะ

ข้างๆ Reception มีห้อง Mailbox ที่ถูกจัดไว้อย่างเป็นสัดส่วน ลูกบ้านสามารถแวะเอาจดหมายได้ง่าย ก่อนขึ้นไปห้องพัก

ก่อนเข้าถึงโซนโถงลิฟต์จะมีมุมที่จัดเตรียมไว้ให้ลูกบ้านติดต่อกับนิติบุคคล ซึ่งมุมนี้จะเป็นทางผ่านก่อนขึ้นไปยังห้องพักพอดี ลูกบ้านจึงแวะมาได้สะดวกค่ะ นอกจากนี้ตรงข้ามยังมีตู้กดน้ำอัตโนมัติ เวลาลูกบ้านหิวหรืออยากหาน้ำหวานดื่มก็ลงมาใช้บริการได้ง่ายๆ

สำหรับทางเข้าไปยังโถงลิฟต์จะมีประตูกั้นไว้ ต้องใช้ระบบ Face Scan / Finger Scan / Key Card ในการผ่านเข้าไป จึงมีแต่ลูกบ้านเท่านั้นที่ผ่านเข้าไปได้ค่ะ

เมื่อผ่านประตูเข้ามา จะมีทางแยกไปยังโถงลิฟต์และไปยัง Kid’s Club

ฟังก์ชันส่วนกลางที่มีการกั้นเป็นห้อง จะต้องผ่าน Access Control ก่อน แต่สำหรับห้อง Kid’s Club ต้องใช้ระบบ Finger Scan / Key Card เท่านั้นนะ ไม่สามารถใช้ Face Scan เหมือนบริเวณโถงลิฟต์ได้

ห้อง Kid’s Club ของโครงการนี้มีขนาดใหญ่ทีเดียว ครั้งแรกที่เราเข้ามาในห้องนี้ รู้สึกได้ถึงความแตกต่างจากห้องเด็กเล่นในโครงการอื่นๆ บรรยากาศภายในดูสดใสและสนุกสนานเป็นพิเศษ แต่เมื่อเรารู้ว่า HarborLand เป็นผู้ออกแบบ จัดสรรห้องนี้ขึ้นมา ก็ไม่แปลกใจเลยค่ะ เพราะบริษัทนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการทำสนามเด็กเล่นรวมถึงบ้านบอล ใครมีลูกหลานน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี หรือเคยพาน้องๆไปเล่นกันบ้างนะ  ภายในของเด็กเล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบ้านบอล , สไลด์เดอร์ , ตาข่าย , อุโมงค์และมุมอ่านหนังสือของเด็กๆอีกด้วย

สระว่ายน้ำกลางแจ้งมีขนาด 30 x 5.6 เมตร ลูกบ้านใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้อย่างจริงจัง ภายในสระว่ายน้ำมีการแยก Jacuzzi ไว้ให้เรียบร้อย ส่วนสระเด็กขนาด 4.5 x 5.2  เมตร จะถูกแยกมาอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโซนของเด็กด้วยเฉพาะ เราแนะนำให้มาใช้งานเวลาช่วงเย็นเพราะแดดไม่ร้อนมากนัก

ข้างๆสระว่ายน้ำมีทั้งมุมพักผ่อนแบบกลุ่มและแบบ Private ซึ่งเป็นเตียงริมสระแบบเดี่ยว ให้เราเลือกใช้งาน สำหรับคนที่ไม่อยากลงเล่นน้ำ แต่อยากมาเฝ้าลูกๆหรือเพื่อนๆออกกำลังกาย

ข้างๆสระว่ายน้ำมีพื้นที่อาบน้ำล้างตัวมาให้ 2 จุด ซึ่งเป็นทางผ่านไปห้องน้ำส่วนกลางพอดี ทำให้เราล้างตัวเสร็จก้เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลย

ห้องน้ำส่วนกลางของชั้น 1 แบ่งเป็นห้องน้ำผู้สูงอายุและห้องน้ำชาย-หญิงไว้เรียบร้อย

ห้องน้ำผู้สูงอายุที่มีขนาดใหญ่ ผู้สูงอายุสามารถเข็นวีลเเชร์มาใช้งานได้สบายๆ

ห้องน้ำชั้นล่างมีครบทั้งห้องอาบน้ำและห้องสุขาเลยนะ เราชอบที่ห้องอาบน้ำออกแบบมาเป็นแนวยาว ทำให้มีพื้นที่อาบน้ำและนั่งเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าได้

Creative Outdoor Playground อยู่ด้านหลังอาคารเป็นพื้นที่พื้นที่พักผ่อนรวมถึง สนามเด็กเล่นให้เด็กๆได้ออกมาสูดอากาศ ปีนป่ายเลยสไลด์เดอร์ ท่ามกลางธรรมชาติได้ด้วย โดยพื้นที่ตรงนี้อยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของโครงการ ทำให้ช่วงบ่ายๆก็ได้ร่มเงาจากอาคารพอดี จึงออกมาใช้งานได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายเลย

ระหว่างสระว่ายน้ำผู้ใหญ่และเด็ก จะมีทางเดินลงมายัง Tropical Jogging Track ได้

Tropical Jogging Track เป็นพื้นที่ให้ลูกบ้านได้มาวิ่งหรือเดินเล่นออกกำลังกาย โดยระหว่างทางจะมีมุมพักผ่อนที่ถูกจัดไว้เป็นระยะๆ ให้เราได้นั่งพักเหนื่อยได้ค่ะ

จากโครงการมีทางเชื่อมไปยังสวนน้ำและโรงแรม Holiday Inn Resort Vana Nava Hua Hin ได้ ลูกบ้านของโครงการจะได้สิทธิพิเศษในการใช้สวนน้ำ Vana Nava ฟรี 3 ปี และได้ส่วนลดค่าห้องพักและร้านอาหารบนโรงแรม แต่คนที่มาใช้งานสวนน้ำและโรงแรมจะเข้ามาโครงการเราไม่ได้นะ จึงไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวเลย

เข้ามาในโถงลิฟต์ของอาคารจะมีลิฟต์โดยสาร 4 ตัว ซึ่งโครงการนี้มีอัตราส่วนลิฟต์ 1 : 91 ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่สูงเลยค่ะ ทำให้ลูกบ้านขึ้น-ลงลิฟต์ได้รวดเร็วและสะดวก ภายในลิฟต์ดูสว่างดี มีการเสริมความปลอดภัยด้วยการติดตั้งกล้อง CCTV ไว้ให้  และต้องใช้ Finger Scan และ Key Card ซึ่งเราจะสามารถไปได้เฉพาะชั้นที่มีส่วนกลาง และชั้นห้องพักอาศัยของตัวเองเท่านั้น

ชั้น 3 จะยังไม่มีห้องพักอาศัย แต่เป็นชั้นของ Main Facility ของโครงการ ประกอบไปด้วย Fitness , Library and Co-Creative และ Game Room พร้อมได้วิวภายนอกไปด้วย

โถงลิฟต์ทุกชั้นจะมีช่องเปิดขนาดใหญ่ ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้เต็มที่ พื้นที่ตรงนี้จึงดูสว่าง นอกจากนี้ยังมีที่นั่งพักคอย เวลาเรารอลิฟต์อีกด้วย ไม่ต้องยื่นให้เมื่อยขาเลยนะ

ห้องน้ำส่วนกลางชั้น 3 ไม่ได้แยกชาย-หญิง ภายในมีขนาดใหญ่สามารถหมุนวีลแชร์ได้สะดวก มีทั้งโถสุขภัณฑ์และโถปัสสาวะสำหรับผู้ชายให้ใช้งาน

ส่วนแรกจะเป็น Library and Co-Creative และด้านในจะเป็น Fitness และ Game Room

Library and Co-Creative มีขนาดใหญ่พอสมควร โครงการจัดพื้นที่การทำงานให้ทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม เราสามารถนั่งทำงานได้พร้อมชมวิวเมืองรอบๆได้ด้วยนะ ส่วนห้องประชุมรองรับ 6 ที่นั่ง พร้อมมีจอ Present ให้พร้อมใช้งาน แต่ห้องนี้ต้องจองล่วงหน้านะคะ

ถัดจาก Library and Co-Creative จะเป็น Actice Zone ประกอบไปด้วย Fitness และ Game Room

ห้องฟิตเนสมีขนาดใหญ่วางเครื่องออกกำลังได้ประมาณ 10 กว่าเครื่อง รองรับการออกกำลังกายทั้งแบบ Cardio หรือ Weight training เราสามารถออกกำลังกายไปพร้อมมองวิวสวนน้ำและภูเขา ช่วยให้การออกกำลังกายไม่น่าเบื่อ ใครที่ชอบออกกำลังกายคงถูกใจมุมนี้เป็นพิเศษ นอกจากนี้โครงการยังเตรียมพื้นที่สำหรับนั่งพักคอย สำหรับรอเครื่องเล่นหรือพักเหนื่อยด้วย

Game Room เป็นโซน Entertainment มีทั้งโต๊ะพลูและโต๊ะบอลมือหมุน ให้ลูกบ้านมาเล่นคลายเครียดได้ หรือใครชอบเล่นอะไรเงียบๆ ก็มีมุมบอร์ดเกมส์ให้เรามาเล่นสนุกกับเพื่อนๆได้นะ

ชั้น 4 เป็นชั้นเดียวที่เชื่อมต่อระหว่างที่จอดรถกับโถงลิฟต์ได้ ใครที่ไม่อยากเดินขึ้นลงบันไดแนะนำให้จอดรถชั้นนี้เลยค่ะ ส่วนใครจอดรถชั้นอื่นๆ ต้องเดินขึ้น-ลงบันไดมาชั้น 1 หรือ 4 เพื่อเข้ามายังโถงลิฟต์ค่ะ

ชั้น 5 เป็นโซน Services Zone นอกจากจะเป็นชั้นจอดรถแล้ว ยังมีห้อง Laundry และ Driver Room กรณีที่ลูกบ้านมีคนขับรถส่วนตัวหรือผู้ติดตามมาด้วย ก็สามารถมาใช้บริการห้องนี้ได้ โดยมีค่าบริการเพิ่มเติมคืนละ 500 บาท

ชั้น 8 มีทั้งโซนส่วนกลางและห้องพักอาศัยเลยนะ โดยส่วนกลางเป็น Pocket Garden ที่ออกแบบมาใน Concept Glamping Zone ให้ลูกบ้านได้มานั่งพักผ่อนพร้อม ชมวิวภูเขาและเมืองไปได้ด้วย ส่วนห้องพักทุกห้องของโครงการจะอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งเป็นด้านที่ได้วิวทะเลแบบเต็มๆทุกห้องเลยค่ะ

ห้องพักอาศัยที่น่าสนใจของชั้นนี้คือ โซนกรอบสีแดง เป็นห้อง Type ใหญ่ อย่าง 2 Bedrooms Jacuzzi ที่มีอ่าง Jacuzzi ให้เราได้แช่น้ำแบบส่วนตัวพร้อมชมวิวทะเล ริมระเบียงขนาดใหญ่ ซึ่งห้องแบบนี้มีเพียง 5 ยูนิต แต่ตอนนี้เหลือเพียง 1 ห้องเท่านั้นนะ

Glamping Zone อยู่ตรงข้ามกับห้องพักอาศัยเลย คนที่พักชั้น 8 มาใช้งานได้สะดวกเลยนะ แลกกับความเป็นส่วนตัวเวลาลูกบ้านชั้นอื่นๆมาใช้งานพื้นที่ตรงนี้

Glamping Zone เป็นมุมพักผ่อนให้ลูกบ้านมานั่งพบปะพูดคุยกันได้ นอกจากนี้ยังมีสวนกระถางปลูกไว้ ช่วยสร้างบรรยากาศให้สดชื่น แล้วเรายังสามารถชมวิวสวนน้ำรวมถึงภูเขาด้วย

ชั้นที่เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดคือ ชั้น 9-11 , 12A-16 , 23-26 , 28-31 ซึ่งการวางผังของแต่ละชั้นจะคล้ายกันมากๆ คือเน้นให้ห้อง Type เล็กอยู่ตรงกลาง และห้องหัวมุมเป็นห้อง Type ใหญ่ (โซนกรอบสีเหลือง) ซึ่งโครงการออกแบบให้ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่ อยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเรามองว่าเป็นทิศทางที่ดีที่สุดในการจัดผังห้องพักเลยนะ เพราะไม่ได้รับแดดโดยตรง ห้องจึงไม่ร้อน แล้วยังได้รับลมพัดผ่าน ทำให้ห้องเย็นสบาย

โครงการจัดผังแบบ Single Corridor ซึ่งจะมีห้องพักอาศัยเพียงแต่ฝั่งเดียวเท่านั้น ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม จึงได้ความเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว แต่ห้องพักอาศัยโซนกรอบสีเขียว จะไม่มีฟังก์ชันต่างๆอยู่ตรงข้าม เห็นวิวภูเขาผ่าน Facade ระแนงจึงดูไม่อึดอัด และได้รับความเป็นส่วนตัวมากที่สุดด้วยค่ะ

ชั้นพักอาศัยจัดผังแบบ Single Corridor ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม มีลมพัดผ่านเข้ามาในอาคารได้ อากาศถ่ายเทได้ดีและเย็นสบาย

ชั้น 12 มี Pocket Garden อีกหนึ่งจุด แต่ของชั้นนี้ออกแบบมาใน Concept Nature Lab ซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับ Glamping Zone ที่อยู่ชั้น 8 เลย

Nature Lab เป็นสวนหย่อมเล็กๆที่โครงการปลูกพืชผักสวนครัวไว้ ให้ลูกบ้านมาเก็บไปทำอาหารได้ มีทั้งต้นกะเพรา , โรสแมรี่ , โหระพา , ผักชีฝรั่งและโกฐจุฬาลัมพา นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ให้ลูกบ้านได้มานั่งเล่น สูดอากาศรับลมอีกด้วยนะ

ชั้น 17 มีทั้งห้องพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Co-Kitchen หากเราจะใช้งานแบบ Private ต้องจองล่วงหน้านะคะ โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครั้งละ 500 บาท แต่ถ้ามานั่งกินดื่มทั่วไปๆเพื่อพักผ่อน ก็สามารถมาใช้ได้เลยโดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

Co-Kitchen เป็นพื้นที่ให้เราสามารถมาทำอาหารกับเพื่อนๆ หรือจ้างเชฟมาทำอาหารให้ทานได้ โดยที่พื้นที่ตรงนี้สามารถปิดประตูกั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัวได้ ทำให้เวลาพูดคุยกันเสียงดังไม่รบกวนลูกบ้านคนอื่นๆ  หรืออยากจะเปิดเพื่อเชื่อมต่อระว่างพื้นที่ Co-Kitchen กับสวนกระถางภายนอกได้ด้วย

ด้านหน้า Co-Kitchen มีบันไดขั้นไปชั้น 18

เมื่อขึ้นมาชั้น 18 เราจะเจอกับ Pavilion ที่เหมาะกับการใช้เป็นพื้นที่นั่งคุยกับเพื่อนๆ พร้อมชมวิวภูเขาไปในตัว

ชั้น 18-21 จะเป็น Pocket Garden ขนาดใหญ่ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของอาคาร สามารถมานั่งพักผ่อนชมสวนพร้อมกับวิวทะเลแบบ 180 องศา ต่างจากพื้นที่ส่วนกลางที่ผ่านมาที่ได้วิวภูเขา เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศในการดูวิว ซึ่งฟังก์ชันนี้เรียกว่า Garden Theater เป็นพื้นที่ในการนั่งพักผ่อน และสามารถจองพื้นที่ตรงนี้เพื่อฉายภาพยนตร์ ส่วนตัวเรารู้สึกชอบฟังก์ชันนี้มากเลยนะ เพราะเป็นฟังก์ชันที่หาได้ยากแล้วยังแสดงให้เห็นว่าโครงการให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางมากๆ เพราะยอมเอาพื้นที่ในการขาย มาจัดเป็นส่วนกลางให้ลูกบ้านได้มาใช้ประโยชน์ร่วมกัน

ชั้น 18 มีสวนย่อมขนาดใหญ่ ให้เราได้มาชม สูดอากาศไปพร้อมๆกัน

เรายังสามารถเดินขึ้นบันไดเชื่อมต่อมาจากชั้น 17-21 ได้เลยอีกด้วยนะ

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำให้โครงการนี้ได้บรรยากาศชิลๆ เหมือนรีสอร์ทคือพื้นที่ส่วนกลางแบบ Open Air แม้กระทั่ง Garden Theater ซึ่งเป็นพื้นที่ในการพักผ่อนที่เชื่อมต่อกันด้วยบันไดตั้งแต่ชั้น 18 – 21 โครงการออกแบบพื้นที่พักผ่อนมาในรูปแบบ Pavilion ยื่นออกมาแต่ละชั้น ให้เราได้นั่งเล่นกันแบบเป็นส่วนตัว แล้วแต่ละชั้นก็ไม่บดบังกันขณะชมภาพยนตร์อีกด้วย

นอกจากนี้ขณะเราชมภาพยนตร์หรือนั่งพักผ่อนอยู่ เรายังสามารถชมวิวทะเลได้ด้วยนะ

ชั้น 22 มี Pocket Garden อีกหนึ่งตำแหน่ง ที่เรียกกันว่า Living Studio ซึ่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบกลุ่ม ที่เราสามารถนั่งพูดคุยกับเพื่อนๆ พร้อมชมวิวภูเขาได้ในเวลาเดียวกัน

พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่นั่งเล่น รองรับคนได้ 8 ที่นั่ง เหมาะกับการใช้เป็นพื้นที่นั่งพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆแบบเป็นกลุ่ม หรือน้องๆที่เป็นนักเรียนนักศึกษาจะมาทำงานกลุ่ม ติวหนังสือกันตรงนี้ก็ได้เช่นกัน ฟังก์ชันนี้อยู่ในชายคามาใช้งานได้ตลอดเลยนะ

ชั้น 27 เป็น Sky Meditation พื้นที่อเนกประสงค์แบบเปิดโล่ง ใช้ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นโยคะ

พื้นที่ Sky Meditation เป็นลานกว้างแบบมีชายคาคลุม ให้เรามาทำกิจกรรมต่างๆได้สะดวก

ชั้น Roof top เป็น Highlight ของโครงการ เพราะเป็น Sky facility แบบกลางแจ้งทั้งหมด มีฟังก์ชันหลักๆ 3 โซนคือ ลานจัดปาร์ตี้ BBQ / จุดชมวิวที่สวยที่สุดของโครงการ / โซนแช่อ่างจากุซซี่ โดยทุกฟังก์ชันเห็นวิวรอบเมืองหัวหินแบบ 360 องศา ทั้งภูเขาและทะเลเลย

ฟังก์ชันชั้นดาดฟ้าสามารถขึ้นมาได้จากลิฟต์โดยสาร ไม่ต้องเดินขึ้นบันไดต่อเลย

เมื่อออกมาจากโถงลิฟต์ เราจะเจอกับจุดชมวิว ที่เห็นวิวทะเลเต็มๆ แบบสุดลูกหูลูกตาเลยนะ

พื้นที่ชมวิวเป็นลานอเนกประสงค์โล่งๆ ใช้เป็นจุดชมวิว เล่นโยคะ หรือนั่งปิกนิคได้สบายๆ

ด้านซ้ายของจุดชมวิวสามารถเดินไปยัง Hangout Court และ BBQ Counter ซึ่งตลอดแนวทางเดินโครงการได้จัดพื้นที่สีเขียว เพิ่มความสดชื่นให้คนที่มาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางบนดาดฟ้าด้วย

Hangout Court เป็นพื้นที่พักผ่อนชมวิวเมืองแบบ 360 องศา เราสามารถเอาของกินมาเล็กๆน้อยๆมากินได้ด้วย หากเราสนใจจองพื้นที่โซนนี้เพื่อจัดงานสังสรรค์ แบบเป็นส่วนตัว ต้องจองล่วงหน้าและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 2,000 บาท

นอกจากนี้ฝั่งตรงข้ามยังมี BBQ Counter สำหรับให้เราใช้เป็นพื้นที่จัดเตรียมอาหาร เวลามีงานเลี้ยงค่ะ

ด้านขวาของจุดชมวิวเป็นโซนแช่อ่างจากุซซี่ที่มีทั้งแบบ Private Cabana with Hot Tub และ Family Cabana with Hot Tub

Family Cabana with Hot Tub เป็นพื้นที่พักผ่อนพร้อมแช่จากุชชี่ขนาดใหญ่ เราสามารถมาแช่น้ำและนอนชมวิวทะเล หรือดูพระอาทิตย์ขึ้นได้ด้วย

Family Cabana with Hot Tub อีกฝั่งหนึ่ง มีทั้งจากุชชี่และเบาะนั่งเล่นชิลๆ เช่นกัน แต่ฝั่งนี้จะเน้นวิวภูเขาเป็นหลักนะคะ

ข้างๆโซนแช่จากุชชี่ มีพื้นที่อาบน้ำล้างตัวมาให้ 2 จุด เราสามารถล้างตัวก่อน-หลังแช่น้ำได้สะดวก

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

1 FLOOR (Family Zone)

• Lobby
• Viewpoint Terrace
• Exotic Tropical Lap Pool ขนาด 30 x 5.6 เมตร ลึก 1.2 เมตร
• Tropical Jogging Track
• Kid’s Pool ขนาด 4.5 x 5.2 เมตร ลึก 0.8 เมตร
• Creative Outdoor Playground
• Family Lifestyle Hub
• Kid’s Club
• Wellness Garden
• Mail Room
• Juristic Person Room
• Car Charging
• Car Wash ค่าบริการคันละ 50 บาท

3 FLOOR (Relax Zone)

• Library and Co-creative
• Space Active Zone (Fitness)

5 FLOOR (Services Zone)

• Laundry Room
• Driver Room ค่าบริการคืนละ 500 บาท / คน

8, 12, 17, 22, 27 FLOOR

• Glamping (8 FL.)
• Nature Lab (12 FL.)
• Co-Kitchen (17 FL.) จองใช้บริการครั้งละ 500 บาท
• Living Studio (22 FL.)
• Sky Meditation (27 FL.)

18 – 21 FLOOR

• Garden Theater

Roof Top FLOOR (Retreat Zone)

• Sunrise Deck
• Private Cabana with Hot Tub จองใช้บริการครั้งละ 300 บาท
• Family Cabana with Hot Tub จองใช้บริการครั้งละ 500 บาท
• Outdoor Shower
• Hangout Court จองใช้บริการครั้งละ 2,000 บาท
• Mini Bar
• Viewpoint and Yoga deck
• BBQ Counter

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

• ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 91 :  1
• Service Lift 1 ตัว
• ที่จอดรถประมาณ 140 คันคิดเป็น 38% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card Access / Face Scan access / Finger Scan

บริการต่างๆ 

• ใช้บริการสวนน้ำวานา นาวา ฟรี 3 ปี
• เซอร์วิสจากโรงแรม Holiday Inn เช่น ROOM SERVICE , LAUNDRY SERVICES , HOUSEKEEPING , COMPREHENSIVE PRIVATE CATERING , SPA TREATMENTS AT THE HOTEL , GOLF CART SERVICE (บางรายการมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
• สิทธิ Proud Privilege  ดูเพิ่มเติมได้ > https://www.proudrealestate.co.th/en/privilege/

Highlight

• ห้องพักทุกห้อง ได้วิวทะเล : อาคารออกแบบเป็น Single Corridor จัดให้ห้องพักอยู่ฝั่งใกล้ทะเลทั้งหมด
• ห้องพักได้ห้องน้ำแบบ Sexy Bath : ให้บรรยากาศในการพักตากอากาศ ช่วยเพิ่มแสงสว่างและชมวิวได้ขณะอาบน้ำ
• ห้องพักมี Double skinny Balcony หรือระเบียงแบบ 2 ชั้น : ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลาย และขยายพื้นที่ใช้สอยภายในได้มากขึ้น

โครงการ VEHHA HUA HIN (เวหา หัวหิน) ขายแบบ Fully Furnished ได้ทั้งเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและเฟอร์นิเจอร์ Built-in มาให้ครบครัน ซื้อแค่ฟูกที่นอนเพิ่มก็ย้ายเข้ามาอยู่ได้เลยค่ะ โดยมีราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท  ห้องของโครงการมีให้เลือกหลายขนาด เหมาะกับการอยู่ตั้งแต่ 1-6 คน โดยที่แต่ละแบบมีให้เลือกดังนี้ค่ะ

• 1 Bedroom ขนาด 28 – 30 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus ขนาด 42 – 46 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus Corner ขนาด 44 – 45 ตร.ม.
• 2 Bedrooms ขนาด 56 – 109 ตร.ม.
• 2 Bedrooms Jacuzzi ขนาด 103 ตร.ม.
• Penthouse ขนาด 148 – 153 ตร.ม.
• Penthouse Duplex ขนาด 101 – 349 ตร.ม.

สรุปวัสดุภายในห้อง

วัสดุในห้อง

• รูปแบบการขาย Fully Furnished
• วัสดุปูพื้น SPC
• วัสดุปูพื้นระเบียงกระเบื้องเซรามิกลายไม้
• Digital Door Lock ของ Hafele  ระบบ Finger Print / Key Card /Application / Pin และกุญแจ

ห้องครัว

• ท็อปเคาน์เตอร์หิน Quart stone
• Back splash หิน Quart stone
• ซิงค์ล้างจากของ Teka
• หน้าบานตู้ MDF  ปิดผิวลามิเนต

ห้องน้ำ

• โถสุขภัณฑ์ จากยี่ห้อ Cotto
• อ่างล้างมือ ยี่ห้อ TRUSOL
• ก๊อกน้ำของ Cotto
• ฝักบัวจากยี่ห้อ Cotto
• ฉากกั้นอาบน้ำของ Riviera
• Top Counter เป็นหินสังเคราะห์
• วัสดุปูผนังกระเบื้องพอร์ซเลน 60×90 cm.
• วัสดุปูพื้นกระเบื้องเซรามิก 60×60 cm.

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Plus ขนาด 42.03 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างแรกที่เรากำลังจะพาทุกคนไปชมคือ 1 Bedroom Plus ขนาด 42.03 ตร.ม.  ฟังก์ชันภายในมีให้ครบตามมาตรฐาน คือ 1 ห้องนอน , 1 ห้องน้ำ , 1 ห้องนั่งเล่น , 1 ห้องครัวแบบเปิด และอีกหนึ่งฟังก์ชันที่เป็น Highlight ของโครงการคือพื้นที่ Semi-Outdoor เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 1-2 คน

• ห้องน้ำมีทางเข้าแบบ Jack & Jill : เข้าได้จากห้องนอนและห้องนั่งเล่น ใช้งานสะดวก
• ห้องน้ำแบบ Sexy Bath : ทำให้ได้รับแสงสว่างและชมวิวได้ทั้งหมด
• ภายในห้องน้ำมีพื้นที่แต่งตัว : ทำให้การใช้งานต่อเนื่องและสะดวก
• มีพื้นที่ Semi-Outdoor (Balcony) : ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลาย และขยายพื้นที่ใช้สอยภายในได้มากขึ้น
• ทุกฟังก์ชันกั้นเป็นสัดส่วนชัดเจน : ทำให้คนใช้งานพื้นที่ได้ โดยไม่รบกวนกัน

ภายในห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ

เริ่มต้นจากประตูทางเข้าห้องทุกยูนิตมีขนาด 1x 2.2 เมตร ขนของข้าวเข้า-ออกได้สะดวก ตัวประตูเป็นไม้เนื้อแข็ง ทาสีขาวเซาะร่อง พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock ของ Hafele ที่รองรับถึง 5 ระบบ ได้แก่ Finger Print / Key Card /Application / Pin และ กุญแจ ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายดี

ทางเข้าห้องมีธรณีประตูเพื่อช่วยกันฝุ่นกันน้ำจากทางเดินส่วนกลางไม่ให้เข้าห้อง

เมื่อเข้ามาในตัวห้อง เราจะเจอกับครัวเปิดเป็นโซนแรกของห้อง จากนั้นจะเชื่อมต่อไปยังพื้นที่นั่งเล่นและเห็น Double skinny Balcony ที่เป็น Highlight ของห้องพักอาศัยของโครงการเลย พื้นของห้องปูด้วย SPC ส่วนฝ้าสูงประมาณ 2.7 เมตร ซึ่งสูงกว่าคอนโดส่วนใหญ่ 20-25 เซนติเมตร ห้องจึงดูโปร่งโล่ง

บริเวณหน้าประตูทางเข้าห้องมีพื้นที่ว่างพอให้เราทำ Bulit-in ตู้เก็บรองเท้า เพื่อให้เราหยิบ-เก็บรองเท้าเวลาเข้า-ออกจากห้องได้สะดวก หรืออยากทำเป็นโต๊ะ สำหรับวางของที่ต้องใช้บ่อยๆ เช่น กุญแจรถ , กุญแจบ้าน

ครัวที่โครงการให้มาเป็นแบบเปิด เหมาะกับคนที่มาพักตากอากาศ ทำอาหารไม่จริงจัง แต่ถ้าใครชอบทำอาหารที่ห้องแนะนำให้ ทำฉากกั้นเป็นครัวปิดนะคะ ครัวมีขนาดใหญ่พอสมควร เหลือพื้นที่ให้ยื่นทำอาหารกว้างประมาณ 1.8 เมตร  พื้นที่บริเวณนี้โครงการจะเว้นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นไว้ แล้วให้ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย

ห้องครัวให้ Built-in Top เคาน์เตอร์และ Backsplash เป็นหิน Quartz แข็งแรง ทนความร้อน ทนต่อการขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย บริเวณเคาน์เตอร์แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนทำอาหาร ที่ให้เตาไฟฟ้าชนิด 2 หัวเตา แนะนำให้ติดตั้งที่ดูดควันเพิ่ม ป้องกันไม่ให้กลิ่นและควันไม่ฟุ้งมากนัก ส่วนที่สองคือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารใช้เตรียมอุปกรณ์ทำครัวได้สะดวก ส่วนสุดท้ายคือซิงค์ล้างจานที่มีความลึกเป็นพิเศษ ทำให้เวลาเราล้างจาน น้ำกระเด็นออกเมื่อใช้งาน

ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของด้านล่าง ที่มีบานเปิดตู้เก็บของเป็น MDF กันชื้น ปิดผิวด้วยลามิเนต ทนต่อรอยขีดข่วนและความชื้น ใต้ซิงค์ล้างจานมีพื้นที่สำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด พร้อมถังขยะมาให้ โดยที่เวลาเปิดตู้ ตัวถึงขยะจะเด้งออกมาเอง ใช้งานได้สะดวกมากๆเลยค่ะ  นอกจากนี้ยังมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ใช้งานได้ในห้อง ไม่ต้องส่งเสื้อผ้าไปซักที่อื่น

ตู้ลอยด้านบนจะมีหน้าบานปิดช่วยกันฝุ่น ใช้เก็บพวกเครื่องปรุงอาหารได้ นอกจากนี้ยังมีตู้เป็นแผงควบคุมไฟเตรียมไว้ให้ด้วย ดูเรียบร้อยดีค่ะ

ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวเป็นห้องน้ำ ที่สามารถเข้า-ออกได้ 2 ฝั่ง ทั้งจากฝั่งห้องนั่งเล่นและห้องนอน ทำให้เจ้าของห้องและแขกที่มาเยี่ยมเยี่ยนใช้งานสะดวก

ประตูฝั่งห้องนั่งเล่น เป็นประตูบานเปิดกว้างประมาณ 0.85 เมตร เข้าออกได้สะดวก ตัวพื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงมาเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลย้อน

ส่วนประตูฝั่งห้องนอนเป็นประตูบานเลื่อน เพื่อประหยัดพื้นที่

ภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งที่ชัดเจน ทำให้ใช้งานได้ง่าย ตัวพื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 60×60 เซนติเมตร มีชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำให้ครบครัน โดยโครงการเลือกใช้แบรนด์ Cotto เป็นหลัก

บริเวณอ่างล้างหน้ามีชุดสุขภัณฑ์ครบ โครงการเตรียมก๊อกน้ำแบบผสมและระบบไฟไว้ให้ เราสามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้ หากต้องการล้างหน้าหรือมือด้วยน้ำอุ่น เราชอบที่ตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้ายกสูงจากพื้นห้องน้ำค่อนข้างเยอะ ทำให้เราทำความสะอาดห้องน้ำได้ง่ายขึ้น

โครงการให้อ่างอาบน้ำแบบลอยตัวติดตั้งมาให้ด้วย ส่วนด้านข้างเป็นกระจกขนาดใหญ่ ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องน้ำได้เยอะ ห้องดูสว่างและไม่อับชื้น นอกจากนี้เรายังได้ชมวิวไปพร้อมกับแช่น้ำชิลๆอีกด้วยนะ

ส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.1×0.9 เมตร พร้อมเจาะผนังทำเป็นช่องวางของ แข็งแรงกว่าการติดตั้งชั้นวางของอีกค่ะ เราสามารถวางอุปกรณ์อาบน้ำเช่น แชมพู , สบู่ และหยิบใช้งานได้สะดวก ในส่วนอาบน้ำโครงการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อยแล้ว พร้อมต่อการใช้งาน

ภายในห้องน้ำมีตู้เสื้อผ้าขนาดเล็ก เหมาะกับการใช้งานช่วงพักตากอากาศพอดีค่ะ มีทั้งที่แขวนเสื้อผ้าและลิ้นชักเก็บของใช้ต่างๆ เช่น ผ้าเช็ดตัว

พื้นที่นั่งเล่นเป็นแนวยาวติดกับ Double skinny Balcony และห้องนอน โดยโครงการกั้น Balcony ด้วยกระจก จึงทำให้ได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาอย่างทั่วถึง บริเวณนี้มีระยะดูทีวีประมาณ 2.5 เมตร เหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาด 42-46 นิ้ว เพื่อกันรับชมที่คมชัด หากใครอยากประหยัดพื้นที่แนะให้ติดตั้งเป็นทีวีแบบแขวนนะคะ

โครงการให้เฟอร์นิเจอร์บริเวณห้องนั่งเล่นมาด้วย ซึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สั่งทำขึ้นมาใช้ในโครงการนี้โดยเฉพาะค่ะ จึงดูเข้าและเหมาะกับพื้นที่การใช้งาน

ประตูที่กั้นระหว่าง Double skinny Balcony และพื้นที่นั่งเล่นเป็นประตูกระจกบานเลื่อนสลับ 2 ตอน เมื่อเปิดแล้วมีความกว้างประมาณ 1.15 เมตร เดินเข้า-ออกหรือขนย้ายของได้สะดวก เราสามารถเปิดประตูตรงนี้ไว้เพื่อเชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่นและ Double skinny Balcony ได้นะ

Double skinny Balcony เป็นพื้นที่อเนกประสงค์แบบ Semi Outdoor จะใช้เป็นพื้นที่รับประทานอาหารพร้อมดูทีวีที่ห้องนั่งเล่นก็ได้นะ หรือใครชอบขนงานมาทำตอนมาพักตากอากาศจะทำเป็นห้องทำงาน ที่สามารถพักสายตามามองทะเลก็ดูชิลดีค่ะ

หน้าต่างห้อง Double skinny Balcony เป็นกระจกบานเลื่อน 2 ตอนแบบเต็มบาน ทำให้ได้แสงธรรมชาติอย่างทั่วถึง แต่โครงการก็ให้ราวกันตกกระจากสูงประมาณ 1 เมตรกว่าๆ ดูแข็งแรง เสริมความปลอดภัยให้ลูกบ้าน

พื้นที่บริเวณนี้สามารถปรับเปลี่ยนไปเป็นระเบียงหรือพื้นที่ Semi-Outddor ได้ เพียงแค่เราเปิดหน้าต่างบานเลื่อนออก ก็สามารถนั่งพักผ่อนชิลๆพร้อมรับลมทะเลที่พัดผ่านไปมาได้ แล้วในเวลากลางคืนที่จะเข้านอนก็แค่ปิดหน้าต่างให้พื้นที่ตรงนี้กลายมาเป็นพื้นที่ indoor เช่นเดิมค่ะ

ห้องตัวอย่างที่เราพาทุกคนมาชมอยู่ชั้น 11 ก็มองเห็นทะเลแบบนี้เลยค่ะ ยิ่งใครเลือกชั้นสูงๆก็จะยิ่งเห็นทะเลชัดขึ้นๆนะ

สำหรับห้องนอนเชื่อมกับห้องนั่งเล่นด้วยประตูบานเลื่อน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ห้องนอนมีขนานประมาณ 2.5×4.6 เมตร สามารถแบ่งเป็นโซนพักผ่อนและโซนนั่งเล่นได้นะ โครงการให้เตียง 6 ฟุตแบบลอยตัวมาด้วย โดยหัวเตียงออกแบบให้มีโต๊ะเล็กๆอยู่ด้วย สามารถขยับหรือปรับไปมาได้ ใครชอบดูทีวีก่อนนอนแนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนเพื่อประหยัดพื้นที่นะคะ

ริมหน้าต่างห้องนอนมีพื้นที่ให้เราจัดเป็นมุมพักผ่อนได้นะ ส่วนตัวเราคิดว่าทำเป็น Window seat ไปเลยจะช่วยให้มุมนี้ดูผ่อนคลายยิ่งขึ้น แล้วยังช่วยให้ทำความสะอาดพื้นห้องได้ง่ายอีกด้วย ห้องนอนกับ Double skinny Balcony กั้นด้วยกระจก ช่วยให้ทั้ง 2 ห้องโปร่งขึ้นไปอีก

ห้องนอนมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ที่มีส่วนหนึ่งเป็นบานกระทุ้ง เปิดระบายอากาศได้ ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้ทุกมุม ห้องจึงดูสว่าง เรามองว่าช่วงกลางวันแทบไม่ต้องเปิดไฟเลย ช่วยประหยัดค่าไฟได้ดีนะ

ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom  ขนาด 28 ตร.ม.

อีกหนึ่งห้องตัวอย่างคือห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. ซึ่งเป็น Type ที่มีจำนวนมากที่สุดของโครงการ มาพร้อมฟังก์ชัน 1 ห้องนอน , 1 ห้องน้ำ , 1 ห้องนั่งเล่น , 1 ห้องครัวแบบเปิด และพื้นที่ Semi-Outdoor เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 1-2 คน

• กั้นสัดส่วนภายในด้วยกระจก : ทำให้ทุกฟังก์ชันได้แสงธรรมชาติอย่างทั่วถึง
• ห้องน้ำแบบ Sexy Bath : ทำให้ได้รับแสงสว่างและชมวิวได้ทั้งหมด
• มีพื้นที่ Semi-Outdoor (Balcony) : ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลาย และขยายพื้นที่ใช้สอยภายในได้มากขึ้น

ประตูทางเข้าห้องจะเป็นไม้บานทึบสีขาว พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock ของ Hafele ที่รองรับ 5 ระบบทั้ง Finger Print / Key Card /Application / Pin และกุญแจ มาให้เป็นมาตรฐาน พื้นห้องยกระดับจากทางเดินส่วนกลางเล็กน้อย เพื่อกันฝุ่นและน้ำจากภายนอก

โซนแรกของห้องที่เราจะเจอคือครัวเปิดขนาดเล็ก ที่โครงการ Built-in เคาน์เตอร์มาให้เรียบร้อย แต่ต่างจากห้อง 1 Bed Plus ที่เราเพิ่งพาทุกคนไปชมเล็กน้อย คือขนาดของเคาน์เตอร์เล็กกว่า ทำให้ช่องว่างสำหรับวางตู้เย็นของห้องนี้ เหมาะกับตู้เย็นขนาดเล็ก และไม่มีช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้า ห้องนี้จึงเหมาะกับคนที่มาพักตากอากาศจริงๆ เน้นขนเสื้อผ้ากลับไปซักที่บ้าน ส่วนลูกบ้านที่อยู่ประจำจะลงไปใช้ห้อง Laundry ชั้น 5 หรือใช้บริการเซอร์วิสของโรงแรมที่โครงการดีลไว้ให้ลูกบ้านก็ได้นะ วัสดุปูพื้นเป็น SPC และได้ความสูงฝ้า 2.7 เมตรเช่นเดียวกัน เป็นมาตรฐาน

ใต้ซิงค์ล้างจานเป็นช่องว่างสำหรับวางตู้เย็นและตู้เก็บของ บานเปิดตู้เก็บของเป็น MDF กันชื้น ปิดผิวด้วยลามิเนต ทนต่อรอยขีดข่วนและความชื้น เราชอบที่โครงการให้ถึงขยะแบบเด้งออกมาเวลาเปิดตู้เก็บของพอดี พร้อมต่อการใช้งานแล้วยังเป็นการประหยัดพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ยังช่วยให้เก็บกลิ่นขยะไม่ให้ออกมาสู่ภายนอก

เคาน์เตอร์ฝั่งนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือซิงค์ล้างจานที่มีความลึกพอสมควร ส่วนข้างๆเป็นที่วางของ เหมาะกับการวางที่คว่ำจาน หลังล้างจานเสร็จ หรือเป็นที่เตรียมอาหารเล็กๆ

ด้านบนของเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของ ที่มีบานปิดตู้มาให้ ดูเรียบร้อยดี

ด้านข้างเคาน์เตอร์ครัวเป็นตู้เสื้อผ้าแบบเปิดโล่ง ใครชอบทำอาหารแล้วกลัวว่ากลิ่นอาหารจะติดเสื้อผ้า แนะนำให้ติดหน้าบานเพิ่มนะคะ ตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าอยู่หน้าห้องน้ำพอดี ช่วยให้การใช้งานต่อเนื่อง เราอาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวต่อได้ทันที

ห้องน้ำภายในห้องเป็นแบบ  Sexy Bath หรือห้องน้ำแบบกระจก ทำให้ได้แสงธรรมชาติอย่างทั่วถึง  แล้วห้องยังดูโปร่งโล่งมากขึ้น

ประตูห้องน้ำเป็นบานเลื่อน ใช้งานสะดวก ส่วนพื้นห้องน้ำปูด้วยประเบื้องเซรามิก 60×60 เซนติเมตร และมีการลดระดับลงจากพื้นห้องเพื่อกันฝุ่นและน้ำไหลย้อน

ห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียก-แห้งที่ชัดเจน ภายในมีชุดสุขภัณฑ์มาให้ครบครัน โครงการจัดผังให้อ่างล้างหน้าอยู่ตรงกลาง โดยมีส่วนอาบน้ำกับโถสุขภัณฑ์อยู่คนละฝั่ง

โครงการเตรียมก๊อกน้ำแบบผสมและระบบไฟไว้ให้ที่อ่างล้างหน้า หากใครชอบล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น แนะนำให้ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มนะ ตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้ายกสูงจากพื้นห้องน้ำมากกว่าปกติ ทำให้เราทำความสะอาดห้องน้ำได้ง่ายขึ้น

พื้นที่ส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.65×0.8 เมตร ยืนอาบน้ำได้สะดวก แต่ห้องแบบนี้โครงการจะไม่มีช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำให้ แนะนำให้ติดตั้งชั้นวางของเพิ่มนะ

พื้นที่พักผ่อนมีขนาดประมาณ 3.2×3.4 เมตร  เมื่อวางเตียง 6 ฟุตที่โครงการให้มาแล้วยังเหลือพื้นที่รอบๆเตียงอีกเยอะเลยนะ เดินไปมาได้สะดวก

โครงการติดตั้งชั้นวางทีวีที่มีลิ้นชักภายในตัวมาให้ด้วย เนื่องจากตัวชั้นวางเป็นแบบติดผนัง ทำให้ลายตัวจากพื้น เราจึงทำความสะอาดห้องได้ง่าย

ฝั่งหนึ่งของพื้นที่พักผ่อนเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน แล้วยังทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้เยอะอีกด้วย

พื้นที่บริเวณ Double skinny Balcony ของห้องนี้กว้างพอจะแบ่งเป็นโซนรับประทานอาหารและโซนทำงานอ่านหนังสือได้เลย เราสามารถทำกิจกรรมทั้ง 2 อย่างพร้อมกับชมวิวทะเลไปได้ด้วย

โครงการติดตั้งทั้งหน้าต่างบานเลื่อนแบบเต็มบานและราวกันตกไว้ให้ แบบห้อง  1 Bed Plus เลยค่ะ ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนให้พื้นที่ตรงนี้เป็นแบบ Semi-Outdoor เพื่อรับลมทะเล สูดอากาศได้ เมื่อไม่ได้ใช้งานก็ปิดหน้าต่าง ใช้เป็นพื้นที่ indoor เหมือนเดิม

วิวทะเลที่เรามองจากห้องพักชั้น 11 ซึ่งห้องพักของโครงการนี้จะได้วิวทะเลทุกห้องเลยนะ แต่จะเห็นมากน้อยขึ้นอยู่กับความสูงของชั้นที่อยู่ค่ะ

VEHHA HUA HIN (เวหา หัวหิน) ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2568

• 1 Bedroom ขนาด 28 – 30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท
• 1 Bedroom Plus ขนาด 42 – 46 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.59 ล้านบาท
• 1 Bedroom Plus Corner ขนาด 44 – 45 ตร.ม. sold out
• 2 Bedrooms ขนาด 56 – 109 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท
• 2 Bedrooms Jacuzzi ขนาด 103 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท
• Penthouse ขนาด 148 – 153 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 27.9 ล้านบาท
• Penthouse Duplex ขนาด 101 – 349 ตร.ม.  sold out

• รูปแบบการขาย Fully Furnished
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.7 เมตร
• Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
• ค่าจอง 1 Bedroom = 20,000 บาท / 1 Bedroom Plus = 30,000 บาท / 2 Bedrooms = 50,000 บาท / 3 Bedrooms & Duplex = 200,000 บาท
• ค่าทำสัญญา 5% ของราคาห้อง
• ค่ากองทุน 650 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล : โครงการ VEHHA HUA HIN (เวหา หัวหิน) ตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของตัวเมืองหัวหิน  โครงการติดกับสวนน้ำและโรงแรม Holiday Inn Resort Vana Nava Hua Hin ลูกบ้านสามารถเดินมาใช้บริการได้ง่าย จากทำเลโครงการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกได้ง่าย โดยใกล้ที่สุดคือ Cicada Market ที่เราสามารถใช้บริการรถรับ-ส่งของโรงแรมที่โครงการดีลไว้ให้ แล้วเดินต่อ 200 เมตรก็ถึงแล้วค่ะ นอกจากนี้ยังมีชายหาดหัวหินที่ต้องเดินเลยไปอีก 500 เมตร ส่วนห้างอื่นๆต้องรับรถไปไม่เกิน 4 กิโลเมตรเท่านั้นค่ะ

คอนโดทั่วไปที่อยู่ใกล้ทะเลมากกว่า จะมีข้อกำหนดบังคับการสร้างอาคาร ทำให้สร้างอาคารได้ไม่เกิน 8 ชั้น แต่ทำเลโครงการนี้สามารถสร้างตึกสูงได้ จึงได้วิวทะเลแบบเต็มๆ ไม่มีอาคารมาบดบังทัศนียภาพทะเลในระยะประชิด

การเดินทางโดยใช้รถ : ถนนเพชรเกษมใช้เดินทางระหว่างจังหวัดกรุงเทพฯ-ราชบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ แต่รถไม่ติดเหมือนในกรุงเทพฯ ทำให้เราขับรถมาพักตากอากาศได้สะดวก โครงการเตรียมที่จอดรถได้ให้ 140 คันหรือ 38% ซึ่งอาจดูไม่มากนัก แต่โครงการนี้เป็นคอนโดตากอากาศ คือลูกบ้านส่วนใหญ่ เน้นมาใช้พักผ่อนเป็นครั้งคราว จึงเพียงพอต่อการรับรองลูกบ้าน เว้นแต่ช่วงหยุดยาวที่ลูกบ้านอาจพร้อมใจกันมาพักที่นี่ อาจทำให้ที่หนาแน่นจนต้องจอดซ้อนคัน หรือโครงการจะจัดการให้จอดรถส่วนอื่นๆเพิ่มเติมได้

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการ VEHHA HUA HIN (เวหา หัวหิน) ตั้งอยู่ในตัวเมืองหัวหิน ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว จึงพอจะมีรถสาธารณะคอยให้บริการอยู่บ้าง หรือเรียกรถผ่าน  Application ได้ง่ายๆเลย ส่วนใครที่มาจากโซนไกลๆ ก็มาลงเครื่องที่สนามบิน ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 12.7 กิโลเมตร แล้วเรียกรถต่อมาได้เช่นกัน

วัสดุ : โครงการขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์มาแบบครบชุด เพียงซื้อฟุกมาเพิ่มก็ย้ายเข้ามาอยู่ได้เลย วัสดุต่างๆให้มาสมกับราคา เช่น ประตูหน้าต่างทุกบานที่เป็นกระจก เป็นกระจกเต็มบานสูงตั้งแต่พื้น-ฝ้า ภายในห้องน้ำ 1 Bedroom Plus ได้อ่างอาบน้ำจาก TRUSOL ซึ่งโครงการทั่วไปจะให้อ่างอาบน้ำเฉพาะห้อง Type เช่น 2  Bedroom เป็นต้นไปเท่านั้น

การออกแบบโครงการ : โครงการเป็นตึกสูงในหัวหินท่ามกลางอาคารส่วนมากที่เป็น Low Rise ทำให้เราได้เปรียบให้เรื่องของวิวค่ะ โดยโครงการออกแบบให้ห้องพักอาศัยอยู่ตั้งแต่ชั้น 8 เป็นต้นไป และห้องพักอาศัยทุกห้องในโครงการจะอยู่ฝั่งใกล้ทะเล ทำให้ได้วิวทะเลแบบเต็มตาทุกห้องเลยนะ ส่วนทางเดินภายในโครงการเป็นแบบ Single Corridor คือจะมีห้องพักแค่ด้านเดียว ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ส่วนกลางของคอนโดยังได้วิวไม่ภูเขาก็ทะเลแทบทุกฟังก์ชันอีกด้วย

การออกแบบห้องพักอาศัย : โครงการมีแบบห้องให้เลือกเยอะมาก เราสามารถเลือกให้เหมาะกับจำนวนสมาชิกในครอบครัวได้เลย ห้องพักของโครงการเน้นออกแบบให้มีช่องแสงกว้าง ห้องจึงดูสว่างและโปร่ง แล้วยังทำให้เราเห็นวิวทะเลได้ชัดๆอีกด้วย  แต่ที่เป็น Highlight ของห้องคือ ห้องน้ำแบบ Sexy Bath ทำให้สามารถอาบน้ำพร้อมชมวิวทะเลสวยๆได้ และอีกมุมหนึ่งคือ Double skinny Balcony ที่เป็นระเบียง 2 ชั้น ทำให้เราปรับเปลี่ยนมุมนี้ได้หลายแบบหลากฟังก์ชัน ไม่ว่าจะจัดให้เป็นพื้นที่ Semi-outdoor ไว้คอยรับลมทะเล สูดอากาศ หรือเปิดประตูเชื่อมกับด้านในห้องเพื่อขยายพื้นที่ในการใช้งาน

สาธารณูปโภค : Facilities ของโครงการมีมาให้ครบครันน่าใช้งาน ทั้งยังมีฟังก์ชันใหม่ๆที่เราไม่ค่อยได้เห็นที่อื่นๆ อย่าง Garden Theater , Cabana with Hot Tub รวมถึงฟังก์ชันในส่วนเซอร์วิส อย่างพื้นที่ล้างรถ โดยแบ่งให้ Active Facilities อยู่ที่ชั้น 1 , 3 ส่วนชั้น 8 , 12 , 22 , 27 เป็น Pocket Garden ให้นั่งพักผ่อนชิลๆ ส่วนชั้น 17-21 เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมกลุ่ม เช่น ดูหนัง , ทำอาหาร นอกจากนี้ยังมี Sky Facilities ของที่นี่ได้วิวแบบ 360 องศาเลย

อีกหนึ่งอย่างที่เป็น Benefit ของลูกบ้านโครงการนี้ก็คือ บริการและสิทธิพิเศษอื่นๆที่โครงการดีลกับทางสวนน้ำและโรงแรม Holiday Inn Resort Vana Nava Hua Hin เช่น ส่วนลดห้องพักโรงแรม เวลามีญาติๆหลายคนมาเที่ยวด้วย , ส่วนลดค่อาหารโรงแรมหรือเข้าสวนน้ำฟรี 3 ปี

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 140,000 บาท/ตร.ม., 13 มิถุนายน 2568

• ทำเล 8/10 – ติดสวนน้ำและโรงแรม Holiday Inn Resort Vana Nava Hua Hin
• เดินทางด้วยรถ 8/10 – ติดถนนใหญ่ มีที่จอดรถ 38% เรียกรถง่าย
• ไม่ใช้รถ 7.5/10 – เรียกรถง่าย
• วัสดุ 8.75/10 – ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์ครบ , ช่องเปิดเต็มบาน , ได้อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่
• แบบ 9/10 – ทุกห้องพักอาศัยเห็นวิวทะเล , ได้ Double skinny Balcony ,ได้ Sexy Bath
• สาธารณูปโภค 9/10 – ส่วนกลางหลากหลาย 28 ฟังก์ชัน , มี Sky Facilities และมีฟังก์ชันใหม่ๆอย่าง Garden Theater

• UPPER CLASS
• 8.23 / 10.00

VEHHA HUA HIN (เวหา หัวหิน) เหมาะกับใคร

โครงการ VEHHA HUA HIN (เวหา หัวหิน) เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดสูงในหัวหิน ใช้สำหรับพักตากอากาศ เน้นบรรยากาศสไตล์รีสอร์ท ชอบวิวทะเลแบบกว้างๆ ชอบห้องพักที่ได้ช่องแสงเยอะๆ เน้นความโปร่งโล่ง สามารถมองเห็นวิวได้ทุกฟังก์ชัน และชอบใช้สิทธิพิเศษรับบริการจากสวนน้ำและโรงแรม Holiday Inn Resort Vana Nava Hua Hin ในระยะเวลาภายใน 3 ปีนี้ด้วย โดยมีงบประมาณเริ่มต้น 3.9 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 27,300 บาท/เดือน

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

• CABANAS หัวหิน
• SASA หัวหิน

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่