รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.54 (2/2) – Urbano Absolute สาทร-ตากสิน by พฤกษา
1 ธันวาคม 2013
รีวิวฉบับที่ 457 … โครงการ URBANO ABSOLUTE สาทร-ตากสิน ของ พฤกษา เพิ่งเสร็จหมาดๆนะครับ และมี Request มาเยอะมากสำหรับโครงการนี้ ตัวโครงการอยู่เชิงสะพานตากสิน ไม่ได้อยู่ติดแม่น้ำ แต่อยู่ในจุดที่เห็นวิวแม่น้ำสวยหลายด้าน และทางโครงการทำ Facility มาค่อนข้างโดดเด่น โดยจัดมาเต็มทั้งด้านล่าง และยกขึ้นไปไว้ที่ชั้น 40 แบบเต็ม Floor ซึ่งการออกแบบหลายๆอย่างได้คำนึงถึงการใช้งานให้สมกับที่อยู่ในจุดที่รับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาสวยมากที่สุดจุดหนึ่งของกรุงเทพมหานคร โครงการจะเป็นอย่างไรเราไปดูกันเลยครับ ヾ(^-^)ノ~♪
Fact @ 22 October 2013
- URBANO ABSOLUTE Sathon-Taksin (เออบาโน่ แอปโซลูท สาทร-ตากสิน)
- บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
- UPPER CLASS – (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด High Rise 40 ชั้น 1 อาคาร 593 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 22 ยูนิต
- ที่จอดในช่องจอด 338 คันประมาณ 57% ถ้ารวมจอดซ้อนคันจอดได้ 473 คัน คิดเป็น 79.7%
- ที่ดินประมาณ 4 ไร่
- Studio 30 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.8 ล้านบาท
- 1 ห้องนอน 38 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.4 ล้านบาท
- 2 ห้องนอน 74.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 7.1 ล้านบาท
- 3 ห้องนอน (Duplex) 114.4 -164 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 16-24 ล้านบาท
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.8 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 90,000 – 150,000 บาท (ราคาโครงการ)
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS สะพานตากสิน ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS สะพานตากสิน
- www.urbanoabsolute.com
- โทร 1739
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
พิกัด : 13.72086,100.506968
แผนที่โครงการ Urbano Absolute จะเห็นว่า อยู่ในทำเลที่แปลกหน่อย คืออยู่เชิงสะพานตากสิน แต่เป็นจุดที่ต้องวนเข้ามาซึ่งแนวการเดินทางผมจะค่อยๆอธิบายจากแผนที่สเกลจริงนะครับ… ทำเลตรงนี้ ข้ามแม่น้ำไปเป็นถนนสาทร สีลม และเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ง่ายมาก แต่มีความลำบากแค่ “ต้องข้ามสะพาน” ซึ่งในบางวันและบางช่วง ได้ชื่อว่าติดสนั่นไม่เกรงใจใครเหมือนกัน
Urbano Absolute โครงการนี้ตั้งอยู่ในทำเลใกล้แม่น้ำเจ้าพระยามากและเป็นแหล่งชุมชนเก่าแก่สภาพอาคารแวดล้อมจึงมีรูปแบบของตึกแถวเป็นส่วนมาก ด้วยความเป็นย่านชุมชนและมีท่าเรือสำคัญๆอยู่ถึง 2 ท่าบนถนนเจริญนครคือท่าเรือ คลองสาน และ ท่าเรือเป๊ปซี่ ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่บริเวณย่านนี้มีมาก ประกอบกับการขยายตัวของแหล่งชุมชนในเมืองทำให้บริเวณมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก เช่น มีการสร้างโรงแรมระดับหรูขึ้นหลายแห่ง รวมถึงร้านอาหารน้อยใหญ่ก็มาเปิดกิจการบนถนนเจริญนครอย่างหนาแน่น การเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า BTS เป็นอีก 1 ส่วนสำคัญที่ทำให้บริเวณนี้มีความคึกคักมากขึ้นเยอะ เพราะการเข้าออกกรุงเทพชั้นในแบบสะดวกๆไม่ได้จำกัดอยู่แค่การขับรถข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาอีกต่อไป
ในอนาคตพื้นที่บริเวณย่านนี้จะมีโครงการขนาดใหญ่ริมแม่น้ำอีก 2 แห่งคือ เอเชียทีค 2 และ บางกอก เจ้าพระยา ริเวอร์ฟร้อนท์ ไอ-ซิตี้ ที่เป็นการร่วมทุนกันระหว่าง2บริษัทยักษ์ใหญ่คือ “ซีพี” และ “สยามพิวรรธน์” (เจ้าของ สยามเซ็นเตอร์ สยามดีสคัฟเวอรี่ และสยามพารากอน) การพัฒนาที่อยู่อาศัยในย่านนี้คงจะทำได้ยากขึ้น อันเนื่องมาจากปัจจัยราคาที่ดินซึ่งเขยิบล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ซึ่งคงคาดเดาไม่ยากว่าคุณค่า และมูลค่าของที่อยู่อาศัยในย่านนี้จะขึ้นไปมากไหม…
ขอต่อด้วยเรื่องการเข้าถึงโครงการนะครับ ถ้าใครไม่เคยมาแถวนี้อาจจะงงเรื่องเส้นทางการเข้าโครงการนิดหน่อยแต่ถ้าใครเคยใช้ถนนบริเวณนี้บ่อยๆก็จะไม่งงครับ ขอใช้แผนที่จริงกันครับจะได้เห็นสเกลจริงและสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร
จากแผนที่จะเห็นว่าตัวโครงการอยู่ในช่วงโค้งของสะพานตากสินขาเข้า ตัวโครงการนั้นมีถนนล้อมรอบเป็นเส้นทางที่เป็นโค้งขึ้นสะพานตากสินที่ผม Highlight เป็นสีแดงไว้ ตรงจุดนี้แหละครับที่ทำให้การใช้เส้นทางบางครั้งต้องวนนิดหน่อย แผนที่ด้านบนจะเป็นการแสดงเส้นทางสู่โครงการและสภาพพื้นที่แบบกว้างๆ ในอนาคตมีโครงการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 10 จุดและมี 2 จุดที่เชื่อมจากฝั่งพระนครมายังถนนเจริญนครถึง 2 จุด จุดแรกคือ ถนนมหาพฤฒาราม ฝั่งพระนคร —> ถนนลาดหญ้า ฝั่งธนบุรี จุดที่ 2 คือ ถนนจันทน์ ฝั่งพระนคร —> ถนนเจริญนคร ฝั่งพระนคร หลังจากมีการก่อสร้างสะพานแล้วคาดว่าการจราจรบริเวณนี้จะคล่องตัวขึ้นและยังจะช่วยลดความหนาแน่นการจราจรของสะพานตากสินได้ด้วย
แผนที่แบบ Close up มาอีกนิด พื้นที่รอบๆที่ติดกับที่ดินโครงการจะเป็นตึกแถว, โรงแรม, ที่ดินว่างเปล่า และ อาคารสำนักงาน ความสูงอาคารรอบๆจะสูงไม่เกิน 8 ชั้นแต่จะมีอาคารพักอาศัยด้านทิศเหนือที่ติดกับถนนอยู่ตึกเดียวเท่านั้นที่สูง 18 ชั้นซึ่งจะบดบังวิวจากห้องพักในตำแหน่งนั้นแบบเต็มๆ ส่วนด้านอื่นๆจะไม่เป็นปัญหามากครับเพราะความสูงของห้องพักที่นี่เริ่มตั้งแต่ชั้น 10 ขึ้นไป ที่เหลือก็แค่เลือกเอาว่าอยากเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศเหนือหรือใต้เท่านั้นครับ วิวแต่ละด้านเป็นอย่างไรขอนำมาให้ดูเรียกน้ำย่อยก่อนจะถึงช่วง เจาะลึกตัวโครงการ ครับ
ด้านทิศเหนือ หันไปทางโรงแรม มินเลนเนียมฮิลตัน
ด้านทิศใต้ หันไปทาง เอเซียทีค ครับ
วิวจากหลายๆมุม เดี๋ยวค่อยๆดูเพิ่มใน เจาะลึกตัวโครงการครับ 🙂
กลับมาต่อกันเรื่องเส้นทางสัญจรรอบโครงการ ผมจะพาเดินวนรอบๆโครงการก่อนนะครับส่วนเส้นทางการเข้า-ออกโครงการด้วยรถยนต์จะอยู่ในลำดับถัดไปนะครับ
จุดเริ่มต้นคือทางเข้า Club House ของโครงการครับผมจะเดินไป BTS กรุงธนบุรีก่อนแล้วกลับมาเดินในเส้นทางรอบโครงการ
ออกมาจากโครงการก็เจอโรงแรม Sarasinee All Suites อยู่ข้างๆปากทางเข้าเลยครับ
จุดที่ยากในหารเดินทางไป BTS กรุงธนบุรีคือตรงนี้แหละครับที่ต้องข้ามถนนบริเวณหัวโค้งซึ่งระยะที่รถมองเห็นมันจะกระขั้นมาก เส้นทางสีแดงคือเส้นทางที่เดินมาจากโครงการ ถ้าใครไม่อยากข้ามตรงนี้ก็ต้องเดินไกลซักหน่อยคือเลยไปถึงทางแยกเข้าซอยเจริญนคร 14 ถ้าใครมองไม่ออกลองดูภาพด้านล่างครับ
เห็นไหมครับว่ามันต้องข้ามถึง 2 โค้งเลยถ้ามีสะพานลอยตรงนี้จะช่วยได้มาก(ซึ่งได้ยินมาว่าอาจจะมีการสร้างสะพานลอยให้นะครับ ซึ่งคงต้องรอให้เห็นเป็นรูปธรรมจริงๆก่อน) เส้นสีดำคือทางเดินที่ต้องข้ามทางโค้ง และเส้นสีแดงแสดงทางเดินไปที่ทางม้าลาย คนปกติทั่วไปที่ไม่ได้ระเบียบจ๋า คงเดินตามเส้นดำล่ะครับ ซึ่งคงต้องระมัดระวังรถให้มาก และตอนกลางค่ำกลางคืน เดินผ่านส่วนที่แคบของสวนมาทางขวามือจะดูปลอดภัยกว่าครับ
หลังจากข้ามถนนมาแล้วทางเดินที่เหลือก็สบายๆครับ มีร่มเงาต้นไม้ให้เกือบตลอดทางที่เหลือ ทางเดินค่อนข้างเดินสบายครับ จะมีเปลี่ยวหน่อยก็คือตอนมืดๆ ซึ่งในอนาคตคงจะดีกว่านี้
ไหนๆก็เดินมาถึงสถานีแล้วเลยถ่ายรปจากสถานีมาให้ดูกันครับ จากรูปนี้จะเห็น Urbano Absolute อย่างชัดเจนตึกที่สูงๆถัดไปคือ The River และอาคารสีส้มข้างซ้าย Uebano คือตึก 18 ชั้น ที่บังวิวห้องพักตำแหน่งที่บอกไปช่วงต้นครับ
กลับมาต่อกันที่เส้นทางเดิมนะครับ ทางเท้าบริเวณนี้ค่อนข้างกว้างทีเดียว
ถนนเส้นนี้จะเป็น 2 เลยทั้ง 2 ฝั่งมีเกาะกลาง ซ้ายมือด้านหน้าจะเป็น 3 แยกเข้าซอยเจริญนคร 14
ด้านซ้ายจะเป็นอาคารสำนักงานสูง 6 ชั้น
มองไปด้านขวามือจะเจออาคารพักอาศัย 18 (King Royal II) ชั้นสีส้มที่บังวิวไปบางยูนิตครับ
เดินมาจนสุดจะเจอ 3 แยกไฟแดงถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปท่าเรือคลองสาน เลี้ยวขวาไปท่าเรือเป๊ปซี่
ฝั่งตรงข้ามของถนนนี้คือโครงการ The River ที่มี Community mall อยู่ด้านหน้าชื่อว่า Vue Lifestyle Mall
ถ้าเลี้ยวซ้ายเดินไปทางฝั่งท่าเรือคลองสานจะเจอ Community Mall อีกแห่งชื่อว่า The Light House
กลับมาเดินด้านขวาทางไปท่าเรือเป๊ปซี่ต่อนะครับ จากปากซอยเจริญนคร14/1 ซึ่งเป็นซอยตันจะเห็นตัวอาคารของโครงการอย่างชัดเจน เป็นแท่งมาเลยทีเดียว
เดินมาอีกนิดจะเจอกับทางเข้าท่าเรือเป๊ปซี่ ซึ่งอยู่ติดกับสวนป่าเฉลิมพระเกียรติ
นี่คือเส้นทางเดินเข้าไปยังท่าเรือเป๊ปซี่ ถ้าไม่ใช่ช่วงเวลาเข้างานหรือเลิกงานก็จะคนจะน้อยอย่างที่เห็นนี่แหละครับ จากท่าเรือก็มีพี่ิวินให้ใช้บริการนะครับ
และนี่คืออัตราค่าบริการครับ
มาถึงท่าเรือแล้วครับ ฝั่งตรงข้ามท่าเรือเป็นโรงแรม Changri-La มาถึงที่ท่าเรือนี้แล้วก็ขอพูดเรื่องการใช้งานท่าเรือนี้ในอนาคตกลุ่มลูกค้าอาจเปลี่ยนไป เพราะทางกทมจะมีการยกเลิกรถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานตากสินเพื่อขยายเส้นทางรถไฟฟ้าเป็นรางคู่และพื้นที่บางส่วนจะสร้างเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยว, พื้นที่สีเขียว รวมถึงการทำ Sky Walk ทางเลื่อนอัตโนมัติเชื่อมระหว่างสถานีสุรศักดิ์ ถึงสถานีสะพานตากสิน
ขาออกจากท่าเรือผมจะแวะสวนป่าเฉลิมพระเกียรติดูว่ามีอะไรบ้างนะครับ
ลานเพาะกายที่มีอุปกรณ์มากมาย พี่ๆเค้าล่ำกันน่าดูครับ
สนามมวย
สนามเด็กเล่น
สนามฟุตซอล แบบมีกำแพงตาข่ายล้อมรอบ
สนามบาสเกตบอล
ลู่วิ่งภายในสวนเป็นทางไม่ใหญ่มาก 2 คนสวนกันพอดีๆ
ออกมาจากสวนเดินมาอีกหน่อยจะเจอ Sena Fest ที่มีร้านอาหารเครื่องดื่มแบรนด์ชั้นนำมาเปิดบริการมากมายครับ
จากที่นี่ก็มองเห็น Urbano Absolue นะครับเด่นใช้ได้เลย
ขากลับเข้าโครงการผมเข้าทางซอย เจริญนคร 14/2 ซึ่งเป็นซอย One Way ใช้ออกจาโครงการอย่างเดียว
ก่อนถึงโครงการจะเจอโรงแรม Grand Tower
หน้าตาทางเข้าที่จอดรถของโครงการครับ
เอาล่ะครับมาถึงเส้นทางการเดินรถแล้ว ถ้าใครมาจากกรุงเทพชั้นในก็มาทางถนนสาทรแล้วข้ามสะพานมาก็วิ่งวนๆตามเส้นทางสีน้ำเงินนี้เลยครับ
เริ่มต้นที่สะพานสาทร
เจอทางโค้งให้ขับไปตามทาง
เจอ 3 แยกกรุงธนบุรีให้เลี้ยวซ้ายมีจุดสังเกตคือด้านซ้ายจะเป็น Sena Fest
เลี้ยวให้ตรงไปเรื่อยๆจะรอดใต้สะพานตากสิน
ผ่านปากซอยเจริญนคร 14/2 เข้าทางนี้ไม่ได้นะครับเป็น One way ขาออกอย่างเดียว
เจอ 3 แยกที่ 2 ให้เลี้ยวซ้ายจะเป็นทางเดียวกับที่จะไปขึ้นสะพานตากสิน
ให้ขับตรงไปเรื่อยๆแต่ชิดซ้ายไว้
พอถึงทางแยกให้ชิดซ้ายไม่ขึ้นสะพานนะครับ ด้านซ้ายจะเป็นทางเข้าออกที่ตอนนี้ปิดไว้ ให้คนเข้าออกอย่างเดียว เราขับชิดซ้ายสุดตรงต่อไปครับ
ตรงมาอีกนิดจากทางโค้งเมื่อกี๊ จะเจอทางเข้าออกหลักของโครงการแล้วครับ
ส่วนเส้นนี้คือเส้นทางที่จะเดินทางไป Sena fest แบบถูกกฎกติกาไม่เลี้ยยูเทิร์นมั่วๆนะครับ พอออกจากซอยเจริญนคร 14/2 แล้วให้ขับตรงไปทางท่าเรือคลองสานแล้วกลับรถที่ปั๊ม Petronas กลับรถแล้วให้ขับตรงมาเรื่อยๆจะเจอปั๊มเชลล์ให้กลับรถอีกทีแล้วตรงไปก็จะเข้า Sena Fest ได้แล้วครับเส้นทางจะงงๆนิดหน่อยนะครับเลยทำไว้ให้เผื่อใครงง
ปั๊ม Petronas จุดกลับรถจุดแรกครับ
ปั๊มเชลล์ จุดกลับรถจุดที่สองครับ
เจาะลึกตัวโครงการ
Concept ในการออกแบบอาคารนี้คือ Absolute Urban Living เน้นการใช้การชีวิตในสังคมเมืองได้อย่างลงตัวด้วยการสร้างความสมดุลให้กับการทำงานและการพักผ่อน ซึ่งโครงการก็ทำตามแนวคิดนี้ได้ออกมาครบถ้วนดีตั้งแต่การออกแบบผังอาคารไปจนถึงผังห้อง อีกทั้งการใช้ศักยภาพของตำแหน่งที่ตั้งทำได้คุ้มค่ามากเพราะยกเอา Facility ส่วนใหญ่ไปไว้บนชั้นสูงสุดของอาคารและทุก Facility จะเห็นวิวที่เหมาะสม Match กับการใช้งานได้หมด ที่ดินของโครงการคือ 4 ไร่ มีห้อง 593 Units ถือว่าสัดส่วนหลวมๆสบายๆ
รูปแบบของห้องก็มีให้ครบถ้วนตั้งแต่ Studio ยัน Duplex ทำให้ราคาเริ่มต้นมีตั้งแต่ 2.8 ล้านบาท (93,333 บาทต่อตารางเมตร) ไปจนถึง 24 ล้านบาท (143,712 บาทต่อตาราเมตร) ช่วงราคานั้นมีการกระโดดข้าม Segment ไปเพราะตำแหน่งที่มีวิวสวยสุดๆ กับ รูปแบบของห้อง
ตัวโครงการประกอบด้วยอาคาร 2 อาคารคืออาคารพักอาศัยสูง 40 ชั้นและอาคาร Club House (โครงการเรียกว่า The Cubic Hub) สูง 1 ชั้น และมีทางเชื่อมต่อถึงกัน รอบๆโครงการจะมีการทำ landscape ที่สอดคล้องกับแบบของตัวอาคาร
หน้าตาอาคาร Club House (Cubic Hub) ที่เป็นตึกแยกออกมาต่างหาก….ทำออกมาแนว Modern หลังคาสูง โดยเน้นที่ขอบของอาคาร โทนสีแนวเดียวกับตัวอาคารพักอาศัย landscape มีการวางแนวไม้ประดับเป็นเส้นนำสายตาไปยัง Club House ตัว Cubic House นี่ไม่ใช่ Lobby นะครับ อย่าได้เข้าใจผิดไป หากแต่เป็นส่วนพื้นที่ที่ประกอบไปด้วย Mini Theatre โรงหนังขนาดเล็กนั่นแหละ, Library, พื้นที่นั่งเล่น ที่มีที่ให้นั่งเล่นกระจายๆกันเยอะใช้ได้เลย ทั้ง indoor และด้านข้างที่เป็น Outdoor มี Meeting Room และ Snack Bar ด้วย… เค้าตั้งใจทำเป็นพื้นที่ที่ลูกบ้านสามารถชวนเพื่อนมานั่งเล่น ทำกิจกรรม หรือแม้แต่ติวหนังสือได้ เลยเรียกตรงนี้ว่า “HUB” นะครับ … ส่วน Lobby จะอยู่ชั้นล่างของตึกพักอาศัย
ด้านข้าง Cubic Hub จะเป็นพื้นที่ Deck นั่งเล่น Outdoor ตอนค่ำๆ หรือกลางคืนนั่งสบายครับ แต่กลางวัน ก็แดดแบบนี้ล่ะ วันที่ผมมาดูนี้ Cubic Hub กำลัง Renovate อยู่นะครับ เก็บงานยังไม่เรียบร้อย เลยไม่ได้ถ่ายภายในส่วนต่างๆมาให้ดู ต้องขออภัยด้วยนะครับ ถ้ามีโอกาสได้รูปที่อัพเดท จะนำมาใส่เพิ่มครับ
หน้าอาคาร Cubic Hub จะเป็นสวน และเป็นทางเดินเข้าออกนะครับ ซึ่งตรงนี้ในตอนนี้ จะเดินผ่านเข้าออกได้เท่านั้น รถผ่านไม่ได้ (ดีแล้วครับ ถ้ารถเลี้ยวเข้าออกตรงนี้จะเป็นช่วงโค้งอันตรายหน่อย)
ส่วนทางเข้าหลักด้านที่มี่ป้อม รปภ ซึ่งจะมีวงเวียน ปลูกต้นไม้ใหญ่นั่นแหละครับ ถ้าเราเลี้ยวซ้ายจะไป Cubic Hub หรือรับส่งคนหน้า Lobby ส่วนถ้าจะขึ้นอาคารไปจอดรถ ก็วนขวาครับ
Lobby ของอาคารจะดูเรียบๆมีลูกเล่นไฟนิดหน่อยตามกำแพง เริ่มมีลูกบ้านมาตรวจรับห้องกันเรื่อยๆ
ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มา เน้นความเรียบ ไม่ฉูดฉาด
ก่อนถึงทางเข้าโถงลิฟท์ด้านซ้ายจะเป็น โซนตู้จดหมาย ทีวีทางด้านขวาติดตั้งไว้แจ้งข่าวสารให้กับลูกบ้าน
ตัวตู้จดหมายมีการเล่นกับระดับความสูงของแต่ละแถวซึ่งมีลักษณะคล้ายๆกับการวางผังห้องและโทนสีที่ใช้คือขาวแล้ว Highlight สีดำที่บางบานประตูแบบสุ่มตำแหน่ง ตัวโคมไฟที่ฝ้าเพดานมีการใช้รูปทรงที่มีลักษณะคล้ายๆกัน
บริเวณโถงลิฟท์ วัสดุปูพื้นจะเปลี่ยนไป
บริเวณผนังหน้าลิฟท์มีการเบิ้ลผนังซ่อนไฟทำให้พื้นที่ดูมีความน่าสนใจมากขึ้น รูปนี้เป็นรูปที่ชั้น 10 นะครับ
ลิฟท์ เป็นระบบแตะบัตร lock ชั้น นะครับ หน้าตาปุ่มแผงกดในลิฟท์จะแบ่งเป็นโซนต่างๆ
- ชั้น L จะอยู่ด้านล่างแยกไว้
- ชั้น 3-9 เป็นที่จอดรถ
- ชั้น 10-39 เป็นห้องพักอาศัย
- ชั้น 40 จะเขียนด้วยตัว C ทางโรงการเรียกชั้นนี้ว่า Crown Floor (ชั้นมงกุฎ) เป็นชั้น Facility ต่างๆ (ใครไม่เคยมาหรืออ่านภาษาอังกฤษไม่ได้มีหวังจิ้มมั่ว หาชั้น 40 ไม่เจอ)
ชั้นลานจอดรถจะมีจุดขึ้น-ลงด้านเดียวและสุดทางอีกด้านจะเป็นทางตัน
ทางวนขึ้นที่จอดรถหน้าตาเป็นแบบนี้ครับ เป็น 2 เลยวิ่งสวนกัน
ตรงบริเวณทางโค้งทางลาดชันจะมีปัญหาเวลารถวิ่งสวนกันครับ เพราะว่าระยะความกว้างของถนนทางโค้งค่อนข้างแคบ เวลาเลี้ยวโค้งขึ้นรถจะต้องตีวงกว้างหน้ารถเลยข้ามไปเลยอีกเลน ทำให้รถที่วิ่งสวนลงมาต้องคอยเบี่ยงหลบ
ทางโครงการได้แก้ปัญหานี้โดยการเพิ่มความกว้างของถนนช่วงโค้ง ทำให้รถที่วิ่งขึ้นชิดซ้ายได้มากขึ้น ระยะที่เพิ่มจะเป็นตามแนวโค้งในรูปนะครับ
การแก้ไขจะทำทั้ง 2 โค้งด้านใน
และทำทุกชั้นเลยครับ การแก้ไขครั้งนี้ทำให้วิ่งสวนกันได้ง่ายขึ้นแต่ลูกบ้านก็ควรใช้ความระมัดระวังตอนใช้ทางลาดครับ
ด้านที่เป็นทางตันจะมีทางเข้าลิฟท์ของอาคารและลิฟท์ Service อยู่ซ้ายมือ เราขึ้นไปดู Facility ชั้นบนสุดกันดีกว่าครับ
ผังชั้นบนสุด หรือ Crown Floor ชั้น Facility ชั้น 40 นี้ ไม่ใช่แค่ว่า มี Facility เยอะเต็ม Floor นะครับ แต่ตำแหน่งการจัดวางห้องต่างๆของ Facility ถือว่าคิดมาละเอียดมาก เดี๋ยวเราค่อยๆไปดู Facility เค้าทีละอย่างครับ …. ส่วนที่ดีที่สุดเด่นที่สุดคือสระว่ายน้ำ เอาไว้ด้านตะวันออกสุดของชั้น (ขวามือ) ซึ่งทำให้ได้วิวที่ดีที่สุดของโครงการ ตรงส่วนบริเวณสระว่ายน้ำทิศเหนือส่งยิ้มให้เพื่อนบ้าน The River พร้อมรับวิว City ย่านสาทร มองเห็นสะพานตากสินและแม่น้ำด้วย ส่วนทิศเหนือเค้าทำเป็น Deck สำหรับนั่งเล่น นอนเล่น เพราะด้านนั้นได้วิวเมืองเก่า วัดอรุณ และพระบรมมหาราชวัง ในวันที่มีการเฉลิมฉลอง สามารถนั่งๆนอนๆที่ Deck นี้ ชมพลุ และความสวยงามยามค่ำคืนได้ ส่วนทางด้านทิศใต้ของสระ จะดูวิวเอเชียทีค ซึ่งโล่งๆ กว่า
ด้านทิศตะวันตกของชั้น (ซ้ายมือ) ที่เราเห็นเป็นสีเทาๆ นั่นคือ Fitness ขนาดอันเบ้อเร่อ ได้วิว 3 ด้าน คือทิศเหนือ และใต้ ได้วิวคล้ายกับสระว่ายน้ำ แต่ Fitness จะได้วิวทิศตะวันตก ซึ่งเป็นวิวทางด้านวงเวียนใหญ่ … ส่วนลานโบว์ลิ่งมี 2 เลน และมีโซนนั่งเล่นจีบกันเป็นชุดโซฟาใหญ่อีกจุดหนึ่ง วางไว้ด้านทิศเหนือ ซึ่งจะมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาตรงจุดที่โค้งมาขนานกับเลนโบว์ลิ่งเกือบจะพอดี และแน่นอนว่า วันที่มีการจุดพลุเฉลิมฉลอง เราสามารถนั่งมองจากตรงนี้ได้แบบเต็มๆ… ห้องโยคะจะอยู่ด้านทิศใต้ ได้วิวเอเชียทีค… ส่วนห้องน้ำและ Locker แยกชายหญิง มีซาวน่าและห้องอาบน้ำให้ครับ
ออกจากโถงลิฟท์มาจะเจอกับลานโบว์ลิ่งเลยครับ มีอยู่ 2 เลน จริงๆแล้วลานโบว์ลิ่งนี่เสร็จแล้วนะ แต่มีการแก้ไขเพื่อปิดส่วนที่อาจจะเป็นอันตรายคือกระจกซะใหม่ เผื่อเจอมือใหม่โยนพลาดน่ะ…ช่วงนี้ เวลาเข้าไปดูจะเจอการเก็บงานส่วนต่างๆเยอะนะ เพราะเป็นช่วงตรวจงานส่งมอบงาน อันไหนที่ดูแล้วแปลกๆ หรืออาจจะมีปัญหาในการใช้งาน เค้าก็แก้ให้ด้วยเลยทีเดียว
ทางโครงการได้มีการตรวจสอบแรงกระแทกจากการเล่นโบว์ลิ่งแล้วนะครับ ว่าแรงสั่นสะเทือนจะไม่มีผลกระทบกับโครงสร้าง และเสียงจากการโยนลูกโบว์ลิ่งก็ไม่ลงไปถึงห้องพักอาศัยชั้น 39 ด้วยถ้าทำได้จริงตามมาตรฐานที่กล่าวมาถือว่าน่าชมเชยล่ะครับ ซึ่งอันนี้ ต้องรอลูกบ้านมาโยนเล่นกันจริงๆครับ 🙂
ติดกับลานโบว์ลิ่งจะมีเก้าอี้โซฟาขนาดใหญ่ให้นั่งเล่นหรือรอโยนโบว์ลิ่ง ส่วนนี้จะได้วิวด้านทิศเหนือ จุดนี้ ทำผนังกระจกเปิดโล่งรับวิวเต็มที่ครับ
มาต่อกันที่ Fitness ครับ ส่วนนี้จะเป็นห้องที่ด้านทิศตะวันตกของตึก ได้วิว 3 ด้าน ตะวันตก-เหนือ-ใต้ ใครชอบยกเวท ได้วิวทิศใต้ … นักปั่นได้วิวทิศเหนือ… นักวิ่งได้วิวทิศตะวันตกครับ 🙂 แต่จะย้ายหรือจัดเครื่องเล่นใหม่ก็ได้นะครับ ไม่มีใครห้าม
มีการยกระดับพื้นตรงกลาง พื้นที่ตรงกลางจะวางอุปกรณ์ประเภทยกน้ำหนักต่างๆ และมีทีวีติดไว้ให้ดูคุณลำยองขณะยกน้ำหนักด้วยครับ 1 เครื่อง
พื้นที่รอบๆจะวางเป็นลู่วิ่งและจักรยาน
วิวที่เห็นจากจักรยานครับ เป็นทิศเหนือ
วิวสำหรับนักยกน้ำหนัก เป็นวิวทิศใต้ด้าน เอซียทีค
ต่อไปเป็นห้องโยคะซึ่งอยู่ตรงข้ามกับลานโบว์ลิ่ง
วัสดุพื้นแต่ละส่วนก็จะมีรูปแบบไม่เหมือนกัน ส่วนประตูก็จะเป็นบานกระจกมือจับสแตนเลสยาว บริเวณจุดหมุนจะเป็นไม้ครับ อุปกรณ์บานเปิดประตูเป็นของ Hafele
ภายในห้องจะมีผนังด้านนึงเป็นกระจกทั้งผนังเลย มีชั้นวางทีวีและทีวีให้ 1 ชุด ฝ้าเพดานห้องนี้สูงมากและมีการเล่นระดับกับฝ้าเพดานซ่อนไฟโทนสีเหลือง ซึ่งเป็นโทนสีที่ใช้ทั้งโครงกับการซ่อนไฟครับ
วิวที่เห็นจากห้องโยคะ เค้าเจตนาให้ห้องนี้ได้ความสงบที่สุดครับ จะเป็นวิวที่สงบกว่าวิวของโซนโบว์ลิ่งและไม่เห็นความวุ่นวายของถนนสายหลัก รูปนี้คือวิวจากมุมมองปกติของการใช้งานห้องโยคะครับ … อาจจะเห็นในมุมมองที่ต่างไป ถ้าทำท่าที่มันประหลาดเหนือมนุษย์นะครับ
หันมาดูทางออกจะเห็นว่ากำแพงที่ติดทางเดินจะเป็นผนังกระจกสลับผนังทึบ
โซนถัดมาก่อนถึงสระว่ายน้ำจะเป็นห้อง Locker ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำและซาวน่า รูปนี้ผมเดินเลยห้องซาวน่ามาแล้วถ่ายย้อนกลับไปทางลานโบว์ลิ่งให้ดูครับ
ภายในห้อง Locker แยกชายหญิง จะเป็นห้องใหญ่ ที่แยกสัดส่วนการใช้งานด้วยฉากกั้นและตู้ต่างๆ จะมีการใช้งานอย่างอื่นประกอบด้วย ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ตู้ล็อคเกอร์ โซนแต่งตัว และซาวน์น่า ครับ
ห้องซาวน่าจะอยู่ติดกับห้องอาบน้ำ อ้อแสงสว่างในส่วนห้อง Locker นี้ค่อนข้างน้อยถ้าเพิ่มไฟอีกสักหน่อยจะดีมากครับ
ภายในห้องซาวน่ามีอุปกรณ์ครบ ห้องนี้นั่งได้ 5 คนเบียด แต่ถ้านั่งตักกันอาจจะเพิ่มได้อีกสักสองสามคน
ภายในห้องอาบน้ำจะมีฝักบัวอาบน้ำมาให้ 2 ชุด กำแพงด้านนึงเป็นกระจกฝ้า รับแสงธรรมชาติ
ผนังด้านที่ติดฝักบัวเป็นทรายล้างและเซาะร่องด้วยสแตนเลสเส้น พื้นที่ระบายน้ำมีการทำเซาะร่องโรยด้วยหินแม่น้ำดูเก๋ไปอีกแบบ
หน้าตากลอนประตูห้องน้ำ ถ้าจะล็อคใช้ดันนะครับไม่ได้หมุน
ประตูห้องน้ำจะเป็นกระจกขุ่นนะครับแอบ Sexy นิดๆ … ดีนะที่ lock ได้….
ห้องน้ำมีการเบิ้ลกำแพงยื่นออกมาซ่อนไฟดูสวยดีแต่เวลาใช้งานดูมืดไปหน่อยครับ พื้นเป็นทรายล้างเช่นกัน ตำแหน่งที่แขวนทิชชู่ เอี้ยวตัวไปหยิบช้าๆนะครับ เดี๋ยวจะเจ็บกล้ามเนื้อหลังได้
โถสุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ของ American Standard
เมื่อเดินออกจากโซนนี้จะมีบันไดขึ้นสระว่ายน้ำ และด้านขวาจะเป็นที่ล้างตัวซึ่งเห็นวิวอีกเช่นเดียวกัน
ชั้นบนสุดจะเป็นสระว่ายน้ำแบบ Infinity-Edged Pool ระบบเกลือ มีที่นั่งอาบแดดอยู่ช่วงกลางของสระ สระแบบนี้ เห็นวิวแบบสบายตาไม่มีอะไรขวางครับ
ดูกันเต็มๆ
รูปนี้จากกล้องของ Mr.Oe นะครับ ถ่ายตอนเย็น อยากจะให้ดู Infinite Edge pool ว่ามันน่าโดดลงไปว่ายขนาดไหน
กำแพงของชั้นนี้จะเป็นกระจกทั้งหมดครับ และมีการปลูกไม้พุ่มขั้นระหว่างพื้นระแนงไม้กับแนวกระจกทำให้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น การยึดกระจกหนาแน่นครับ อาจจะดูเสียวๆหน่อยนะครับเพราะมันสูงแล้วผนังกันตกก็ใสเชียว แต่วิวที่ได้ เรียกว่า คุ้มสุดๆ
บริเวณทางเดินมีการตกแต่งด้วยไฟที่ริมทางเดินและพื้นระแนง วัสดุดีนะครับ เป็นพวกเทอร์โมพลาสติก ที่จะทนทานมาก ยืดหยุ่น ไม่แตกง่ายๆครับ
เมื่อเทียบกับระดับราคาโครงการ ในส่วน Facility เกือบทั้งหมด โครงการจัดวัสดุและของใช้มาให้ค่อนข้างดีเกินราคาครับ ไปหยิบจับลองใช้ดูเองได้เลย อย่างเก้าอี้ที่ทางโครงการให้มาจัดได้ว่าคุณภาพดีครับ ยามเย็นลูกบ้านสามารถมานั่งดื่มด่ำบรรยากาศกับวิวแบบนี้ได้สบายๆ
เก้าอี้นอนอาบแดด มีมาให้ 7 ตัวครับ 3 ตัวนี้เป็นชุดด้านหลัง
ทางลงสระว่ายน้ำทำเป็น Step ติดไฟใต้น้ำเรียบร้อย แต่สงสัยกลัวไม่สวย เลยไม่ใส่ราวจับมาให้
จากุซซี่ในสระ … แหม่ วางไว้เกือบสุดสระเลย ใครชอบวิวแต่ไม่กลัวความสูง นอนแช่จากุชชี่ตรงตำแหน่งนี้ ได้วิวสุดๆแล้วครับ
นอนแช่จากกุชชี่จริง จะได้วิวในมุมมองประมาณนี้
เดี๋ยวเราไปดูวิวในมุมและทิศต่างๆกัน…
วิวด้านทิศตะวันออก จากสระไปยังฝั่งพระนครจะเห็นตึก The River เป็นแท่งเด่นเชียว ถัดไปจะเป็นย่านสาทร และสีลมที่อยู่ซ้ายมือ
วิวทิศใต้จากบริเวณสระว่ายน้ำครับ หันไปทาง เอเซียทีค
ถ้าอยู่มุมสระด้านนอกวิวที่เห็นจะประมาณนี้ครับ เป็นสะพานตากสิน
จากบนนี้ก้มลงไปดู จะเห็น Sena Festและพื้นที่รอบๆได้ครบเลยครับ ด้านนี้คือทิศใต้
วิวด้านทิศตะวันตกครับ วิวนี้หันไปทางฝั่งธนบุรีนะครับจะเห็นสถานี BTS กรุงธนบุรี ไปถึงวงเวียนใหญ่เลย
วิวด้านทิศเหนือ เป็นวิวด้านโรงแรม มินเลนเนียมฮิลตัน พื้นที่สีเขียวข้างๆโรงแรมนั่นคือพื้นที่ๆจะมีโปรเจคใหญ่ตามที่ได้บอกไว้ช่วงต้นนะครับ
วิวด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้านที่เห็นนี้เป็นด้านวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร เป็นวิวที่สวยมากๆครับ
ยืมรูป จาก Mr.Oe อีกรูปครับ จะเห็นช่วงโค้งที่สวยที่สุด ช่วงหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา … ซึ่งไม่ได้สวยแค่แม่น้ำและตึกรามบ้านช่อง แต่สวยเพราะเป็นวิวที่มีคุณค่าทางใจสำหรับคนไทยทุกคนครับ นั่นคือวิวพระบรมมหาราชวัง วัดอรุณ และวัดพระแก้วครับ….
ปิดท้าย Facility ชั้น 40 ด้วยรูปที่มองจากด้านปลายสระว่ายน้ำมายังตัวอาคารครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
Facility ส่วนแรกในอาคารพักอาศัยบนชั้น 40 เรียกว่า The Azure
- Sky Bowling Lanes
- Infinity-Edged Swimming Pool
- Fitness
- Steam / Sauna
- Yoga Studio
Facility ส่วนที่สองเป็นอาคารแยกเรียกว่า The Cubic Hub
- Living Room
- Meeting Room
- Mini Home Theatre
- Snack Bar
อื่นๆ
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- Self-Service Laundry Room
- ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์ 148 ยูนิตต่อลิฟท์ 1 ตัว
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถไม่รวมซ้อนคัน 40%
- ระบบ CCTV / Access Card แบบแบ่งตามชั้น
Product Walkthrough
ขอยกเอา Floor Plan มาไว้ตรงส่วนนี้นะครับ จะได้อธิบายให้ต่อเนื่องกับตัวห้องไปได้ง่ายหน่อย
ผังชั้น 10-35 เป็นแบบ Studio, 1ห้องนอน และ 2ห้องนอน ทางเดินจะอยู่ตรงกลางและยูนิตถูกแบกออกเป็น 2 ข้างอย่างชัดเจนทำให้แยกเป็นห้องที่ได้วิวทิศเหนือ และห้องที่ได้วิวทิศใต้ ซึ่งเกือบทั้งหมด ได้วิวเปิดโล่งสวยๆ รอบๆอาคาร ยกเว้นด้านที่ติดกับอาคารพักอาศัย King Royal II เท่านั้นที่จะโดน Block วิว ถึงชั้น 18 …. ห้องที่อยู่หัวมุม 4 ห้อง สีส้มๆ จะเป็นห้องแบบ 2 Bedroom ลิฟท์โดยสารมีมา 4 ตัว + Service Lift 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์โดยสารคือ 149 : 1 ถือว่าเยอะเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งอัตรานี้อาจจะต้องรอลิฟท์นานนิดนึงในช่วงเร่งด่วน แต่ในการใช้งานในเวลาทั่วไปคงไม่ได้ช้ามากครับ ลิฟท์ทั้ง 4 ตัวจะอยู่ค่อนมาทางด้านตะวันตกของอาคารรวมทั้งลิฟท์ขนของด้วย พื้นที่ห้องในละแบบนั้นมีการยื่นตัวออกจากตัวอาคารไม่เท่ากันด้านที่เป็นหน้าต่างรอบนอกส่งผลให้รูปลักษณ์ภายนอกอาคารไม่ทึบตันเกินไป
- สีม่วงคือห้องแบบ Studio
- สีเขียวคือห้องแบบ 1 ห้องนอน
- สีส้มคือห้องแบบ 2 ห้องนอน
ผังชั้น 36-39 จะเป็นแบบ Duplex เท่านั้นซึ่งห้องที่ไม่ใช่หัวมุมของอาคารขายหมดแล้วนะครับ ห้องDuplexที่อยู่ตรงหัวมุมจะได้วิวที่ดีที่สุดของโครงการนี้ไปครับ การจัดห้อง Duplex ไว้ชั้นสูงสุด และวิวดีสุด เลยทำให้มีห้องราคาโดดมาแตะ 150,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งคงต้องบอกว่า ไม่ใช่ห้องหลักและไม่ใช่ราคาขายหลักของโครงการนะครับ
มาดูห้องตัวอย่างด้วยกันนะครับมีทั้งหมด 3 แบบคือ Studio, 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ส่วนแบบ Duplex ไม่มีครับแบบแรกคือ Studio ขนาด 30 ตารางเมตร ห้องนี้แยกครัวห้องน้ำและระเบียงไปอยู่ด้วยกัน ตัวระเบียงจะเล็กหน่อยนะครับ และการกั้นห้องครัวด้วยประตูบานเลื่อนยังทำได้ไม่สนิทนัก … ข้อดีของห้องนี้คือถ้าอยากจะกั้นห้องนอนให้เป็นสัดส่วน ก็พอจะทำได้ครับ ซึ่งจะทำให้ห้องนี้แปลงร่างจาก Studio เป็น ห้อง 1 Bedroom ได้เลย
เปิดประตูหน้าห้องมาจะเจอโซนห้องนั่งเล่นและโซนห้องนอนอยู่ติดกัน วัสดุพื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.ครับ
บ้านประตูหน้าห้องจะเป็นลายไม้โทนสีเทา มือจับแบบก้านโยก
การแบ่งช่องตู้เก็บรองเท้าที่ติดอยู่กับประตูหน้า
มีฉากกั้นสีขาวมาให้ตามในรูปเลยครับ โครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished เรียกว่าให้มารบพร้อมอยู่ครับ โทนที่ใช้ตกแต่งจะเน้นเป็นสีขาว
มุมจากที่โต๊ะนั่งทานข้าวครับประตูที่กั้นระหว่างส่วนนี้กับห้องครัวเป็นบานเลื่อน ซึ่งในห้องตัวอย่างช่างทำมาไม่ดีครับเปิดปิดลำบากพอควรซึ่งนน่าจะเกิดจากการเก็บงานบริเวณรางเลื่อนไม่ดี
โซนที่นอนนั้นจะเหลือที่ข้างเตียงแค่ด้านเดียวอีกด้านจะแค่พอความกว้างของม่านครับ
มุมจากห้องนอนไปยังห้องรับแขก
ตัวฝ้าด้านที่ติดกับหน้าต่างมีการเว้นช่องไว้ใส่รางม่านให้ครับดูเรียบร้อยดี
โต๊ะวางทีวีเป็นบานเปิด 4 บานและมีตัวชะลอการปิดมาให้ (Soft Close) ซึ่งตัว Soft Close นี้มีติดมาให้กับบานเปิดทุกบานทุกห้องครับจัดว่าดีมาก แต่ที่น่าเสียดายคือวัสดุปิดผิวนั้นผิวสัมผัสค่อนข้างหยาบและบริเวณมือจับไม่มีการลบเหลี่ยมมุมของบานประตูมาให้เลยทำให้เวลาจะเปิด-ปิดลำบากหน่อย
ตู้ที่เป็น Build-in มาให้ด้านในจะมีหน้าตาแบบนี้ครับ
มือจับจะเป็นเส้นตลอดแนวความสูงตู้ครับ
โต๊ะเครื่องแป้งจะมีกระจกแบบสูงถึงฝ้าเพดานมาให้ครับ
ตำแหน่งปลั๊กไฟหัวเตียงมีมาให้ครบตามมาตรฐานครับ
โต๊ะทานข้าวแบบ 2 ที่นั่งจะมีผนังเป็นกระจกเงามาให้พร้อมชั้นวางของด้วย
หน้าตาบานเลื่อนกั้นส่วนครัวครับ ซึ่งมันจะไม่ค่อยสนิทเท่าไรนะครับ
มือจับเป็นแบบเซาะร่องเข้าไปภายในประตูเลย
มาดูห้องครัวกันบ้าง ซึ่งชุด Pantry ที่ให้มานี่ถือว่า เด่นสุดในของที่จัดมาให้สำหรับส่วนในห้องนะครับ รูปแบบของชุด Build-in ชิ้นบน-ล่างจะใช้วัสดุปิดผิวคนละลายกันนะครับด้านบนเป็นสีขาวด้านล่างเป็นลายไม้มีโทนเข้มมีช่องไว้ใส่เครื่องซักผ้าตรงกลาง ด้านหลัง Top ครัวเป็นกระจกซ่อนไฟทำให้ชุดครัวดูสวยขึ้นเยอะครับ
Top เคาน์เตอร์ครัวพื้นที่และตำแหน่งการวางเตาและอ่างล้างจาน เป๊ะแล้ว อ่างล้างจานแบบเจาะ งาน Pantry ชุดนี้ ได้ของดีครับ
ลิ้นชักเหนือเต้าไมโครเวฟมีช่องแบ่งใส่ของมาให้ครับ
เตาไมโครเวฟแถมมาให้พร้อมกับ Build-in ห้องครัวเเลยทำออกมาแล้วดูเข้ากันดีครับ
เตาไฟฟ้าเซรามิคของ Teka ครับรูปนี้ไฟเตาแรงไปหน่อย…เอ๊ยไฟจากด้านนอกแรงไปหน่อยครับ
ชุดอ่างล้างจานของ Teka เช่นกัน
ฝาตู้ด้านบนเป็นแบ่งแบบนี้ครับ
มาดูส่วนของระเบียงกันบ้าง พื้นที่ระเบียงมีมาให้ไม่เยอะครับ ส่วนวิวที่เห็นเป็นด้านหันไปทางสะพานตากสินห้องตัวอย่างอยู่ที่ชั้น 10 นะครับ
ที่ระเบียงจะมีก๊อกน้ำมาให้
ด้านบนของระเบียงจะเป็นตะแกรงไว้สำหรับซ่อนคอมเพรสเซอร์แอร์ การที่ซ่อนไว้ด้านบนแบบนี้มีทั้งข้อดีและเสีย ข้อดีคือเวลามองจากในห้องจะไม่เห็นคอมเพรสเซอร์มาบังวิวให้เกะกะแต่ข้อเสียคือต้องยอมลดความสูงของหน้าต่างลงมาระยะนึง
ส่วนของห้องน้ำจะอยู่ด้านในของห้องครัว
พื้นห้องน้ำจะลดระดับลงมานิดเดียวครับประมาณ 3 ซม.
ส่วนที่เป็นอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์จะมีการเบิ้ลกำแพงออกมาเพื่อเก็บงานท่อต่างๆ และทำเป็นที่วางของได้ตลอดแนว กระเบื้องปูผนังจะเป็นสีขาวมีผิวขรุขระเล็กน้อยและบริเวณหัวก๊อกปูด้วยกระเบื้องโมเสคโทนน้ำตาล
ตัวก๊อกจะฝังเข้ากับผนังเลยครับ เป็นระบบแยกน้ำร้อนเย็น
เครื่องทำน้ำร้อนจะอยู่ใต้อ่างล้างหน้าครับเหมือนกันทุกห้อง
โถสุขภัณฑ์เป็นของ Cristina มีรูปทรงเหลี่ยมมุมอย่างชัดเจนเข้ากับก๊อกและอ่างล้างจานได้ดีครับ ส่วนฝักบัวมีมาให้ 2 ชุดทั้งแบบธรรมดาและแบบ Rain Shower
ห้องอาบน้ำแบ่งโซนเปียก-แห้งด้วยบานกระจก
ฝาท่อระบายน้ำเป็นแบบ 4 เหลี่ยม วางอยู่ข้างโถสุขภัณฑ์
ส่วนประตูห้องน้ำจะมีร่องเป็นแนวยาวไว้ระบายอากาศครับ
ต่อมาเป็นแบบ 1 ห้องนอนครับ ห้องนี้เป็นห้องขนาด 38 ตารางเมตร ห้องนี้ออกแบบมาแบบเน้นพื้นที่ Living Area และการเปิดโล่งนะครับ เพราะผนังห้องนอนส่วนแต่งตัวกับ Living เป็นผนังกระจก เวลาเดินออกมาจากห้องน้ำ สามารถเช็คเรทติ้งจากคนที่โซฟาได้ครับ แต่ถ้าชอบความมิดชิดเป็นสัดส่วน ก็ติดม่านหรือมู่ลี่ได้นะครับ หรือจะติดฟิล์มขุ่นที่กระจกไปเลยก็ได้ ระเบียงห้องยังเล็กเช่นเคย และห้อง Type นี้ จะเอาคอมแอร์ไปวางชิดผนังด้านขวานะครับ ไม่ได้ยกไว้ด้านบนหลบสายตาเหมือนห้องแบบอื่นๆ
เข้ามาในห้องจะเจอเคาน์เตอร์ครัวก่อนเลยครับด้านขวาเป็น Pantry ครัว ถัดไปเป็นห้องรับแขกที่กระจกให้เห็นในห้องนอนครับ
มุมมอง จากระเบียงมาทางด้านประตูเข้าห้อง
โต๊ะทานข้าวสำหรับ 2 ที่นั่งซึ่งไม่ได้หันหน้าชนกันนะครับนั่งหันหน้าด้านเดียวกันถ้าใช้จริงความลึกของโต๊ะจะเป็นปัญหาครับ
ปลายเคาน์เตอร์ครัวมีช่องเก็บของให้แต่ไม่มีบานประตูปิดนะครับ
Pantry ครัวแบบ 1 ห้องนอนจะเข้ามุมครับมีพื้นที่เยอะกว่าห้อง Studio มาก ทั้ง Counter และที่เก็บของ และเช่นเคยครับ Pantry ของ Urbano Absolute เป็นส่วนเฟอร์ที่แถมมาดูดีโดดเด่นที่สุดสำหรับของในห้อง ทั้งในแง่วัสดุและการใช้งานครับ โปรดสังเกต ผนังหลัง Pantry ซึ่งกรุกระจกมาให้เรียบร้อยครับ เช็ดล้างทำความสะอาดง่ายเลย
ชุด Hob & Hood (เตาและเครื่องดูดควัน) เป็นของTekaครับ
อ่างล้างจานแบบฝัง ของ Teka เช่นเดียวกัน… งาน Pantry ทำออกมาได้ค่อนข้างเรียบร้อยที่สุดเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆของห้องครับ
การแบ่งช่องตู้จะเป็นอย่างที่เห็นครับ ส่วนเตาไมโครเวฟก็แถมมาให้เหมือนเดิมแบบ Built-in ในตัว
โต๊ะวางทีวีในแบบนี้จะมีโต๊ะทำงานมาให้ด้วยในตัว Built-in เลย
ช่องเก็บของด้านล่างเปิดด้านข้างเหมือนกันครับ
ประตูห้องนอนจะเป็นแบบทึบติดมือจับก้านโยกแบบนี้นะครับ
ในห้องนอนจะมี Built-in ตู้มาให้พพร้อมกระจกสูงถึงฝ้าเพดาน สังเกตุที่หัวเตียงนะครับ วางลงช่องพอดีเป๊ะ ดังนั้นจะขยับขยายหรือย้ายตำแหน่ง คงลำบาก อันนี้ลงพื้นที่พอดีแล้ว
ตู้ข้างเตียงมีลิ้นชักให้ 3 ช่องครับ
เมื่อวางเตียงแล้วยังมีปัญหาเดิมครับ คือพื้นที่ด้านข้างที่ติดหน้าต่าง
ด้านปลายเตียงมีที่เหลือพอเดินได้ครับไม่ติดอะไร
ตู้ Built-in จะเป็นแบบเปิดขึ้นนะครับ เวลาจะปิดก็กดลงมาเลยครับแต่ต้องใช้แรงนิดนึง
ช่องไฟต่างๆมีมาให้ตามปรกติครับ
วิวจากห้องงตัวอย่างชั้น 10 ด้านโรงแรมมินเลนเนียมฮิลตัน
มุมมองจากเตียงไปยังห้องรับแขก ที่บอกว่าเป็นผนังกระจกครับ
ตู้เสื้อผ้าเป็นสีโทนน้ำตาลเข้มขนาดใหญ่ระหว่างทางเดินไปห้องน้ำครับ ใครที่กลัวโป๊เวลาออกจากห้องน้ำมาแต่งตัวก็อย่างที่บอกนะครับ ม่าน มู่ลี่ หรือฟิล์มขุ่น ช่วยท่านได้
เมื่อเปิดประตูตู้แแล้วที่จะเหลือแค่นิดหน่อย
ห้องน้ำมีลักษณะเหมือนแบบ Studio เป๊ะๆเลยครับ
แบบสุดท้ายคือแบบ 2 ห้องนอนครับ ขนาด 74.4 ตารางเมตร ห้องนี้ Master Bedroom ค่อนข้างเด่น มีระเบียงส่วนตัว และห้องน้ำใหญ่ Full Function ที่มีกระจก Bay window เปิดโล่งรับวิวตอนนอนแช่น้ำในอ่างด้วยครับ
ด้านหน้าห้องจะเป็นโซนห้องครัวเลยและแบบนี้จะมีโต๊ะทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่งด้านในจะเป็นห้องรับแขกติดกับหน้าประตูกกระจกบานเลื่อน
มุมจากห้องระเบียงมมาห้องครัวจะเห็นว่ามีพื้นที่เหลืออีกเยอะบริเวณโต๊ะทานอาหาร
เคาน์เตอร์ครัวมีขนาดใหญ่กว่าแบบ 1 ห้องนอนและมีลิ้นชักเก็บของให้มากกว่า
เตาเซรามิคไฟฟ้าจะเป็นแบบ 4 หัวเตา
แต่อ่างล้างจานมีขนาดเท่ากันกับแบบ 1 ห้องนอน ซึ่งอาจจะเล็กไปนิดสำหรับห้องนี้
ช่องเก็บของด้านบน
ห้องนี้มีปัญหาเล็กๆน้อยๆจากการออกแบบอยู่บ้างนะครับ ซึ่งแก้ไขได้ เช่น ตู้เย็นที่ต้องมาอยู่ด้านซ้ายสุดเพราะด้านมือจับสำหรับจะเปิด-ปิดอยู่ด้านซ้ายทำให้ไม่สะดวก ถ้าจะเลือกห้องแบบนี้ควรเลือกแบบที่กลับด้านกันปัญหานี้จะหมดไป
ส่วนที่เป็นระเบียงของห้องรับแขก คอมเพรสเซอร์แอร์ถูกซ่อนไว้ด้านบนเหมือนกันครับ
อีกจุดนึงที่เป็นปัญหาคือชุด Built-in วางทีวีในห้องรับแขก จะไม่สามารถวางทีวีให้มัน Center สวยๆกับโซฟาได้ ทำให้เวลาคนนั่งบนโซฟาด้านติดหน้าต่างต้องดูมุมเฉียง ซึ่งถ้าเอาชั้นวางของด้านซ้ายมือของทีวีออกไป ก็จบละ แก้ได้
ทางเดินภายในห้องเชื่อมไปยังห้องนอนอีก 2 ห้อง
มาดูห้องนอนเล็กก่อนมีที่เหลือรอบๆเตียงแบบสบายๆครับ จากรูปจะเห็นว่าห้องตัวอย่างนี้อยู่ด้านที่มีปัญหาเรื่องวิวโดน Block พอดีครับ เพราะนี่คือชั้น 10 ด้านที่ติดกับตึก 18 ชั้นพอดี ถ้าเป็นด้านอื่นๆ ก็ไม่มีตึกบังแบบนี้
มีชุด Built-in มาให้พร้อมโต๊ะทำงาน
บานประตูตู้เปิดด้านข้างครับ
ตู้เสื้อผ้าที่อยู่อีกด้านของเตียงมีขนาดใหญ่พอสมควร
ส่วนพื้นที่จะเหลือไม่พอเดินถ้าเปิดประตูตู้ไว้
ฝ้าเพดานมีการซ่อนรางม่านไว้ให้ครับ แต่ผนังส่วนรับวิวได้หน้าต่างมาขนาดไม่เต็มพื้นที่
ห้องน้ำเล็กจะอยู่ตรงข้ามกับห้องนอนเล็ก ใช้ร่วมกับส่วน Living Area
อ่างล้างมือให้ห้องน้ำนี้จะมีขนาดเล็กมากครับล้างแล้วมีกระเด็นออกมาแน่ๆครับ
โถสุขภัณฑ์ และชุดฝักบัวอาบน้ำเหมือนกับแบบ 1 ห้องนอน
สุดท้ายคือห้องนอนใหญ่ มีพื้นที่เหลือเฟือครับห้องนี้ และมีระเบียงให้ด้วย
มุมมองจากระเบียงมายังตู้เสื้อผ้าครับ
ตู้เสื้อผ้าเปิดแล้วมีที่เดินสบายๆครับ
ตู้ข้างๆก็เหมือนกับแบบ 1 ห้องนอนครับ
ชั้นวางทีวีในห้องนี้ชุดบนเป็นแบบเปิดด้านข้าง ชุดล่างเป็นเปิดจากด้านบน งงไหม๊ครับถ้างงดูรูปต่อไป
เปิดแบบนี้ครับเวลาปิดก็ออกแรกดันปิดเลยครับ
Highlight อีกส่วนนึงของห้องแบบนี้ืคือห้องน้ำครับเพราะจัดมาไว้อยู่ในตำแหน่งมุมของอาคารทำให้เห็นวิวได้สวยเลยทีเดียว
อ่างล้างหน้า Counter แกรนิตดำ มีอ่าง 2 อันใช้งานได้พร้อมกัน
โถสุขภัณฑ์จะอยู่ตรงข้ามกับอ่างล้างหน้าครับ เวลาเปิดประตูระวังกระแทกนะครับ ไม่ได้ติด Door Stoper มาให้
ชุดฝักบังอาบน้ำมีมาให้เหมือนกันครับ
ที่มีมากว่าแบบอื่นๆคืออ่างอาบน้ำครับแบบเข้ามุมพอดี
ห้วก๊อกเป็นแบบผสมน้ำร้อนเย็นแบบนี้ครับของ Cristina
วิวจากอ่างอาบน้ำ ถ้าอยู่ห้องงชั้นบนๆนี่อาบน้ำเพลินเลยครับ เพราะนี่เป็นห้องมุมด้วย
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 22/10/2013
เนื่องจากโครงการเหลือห้องขายไม่มาก ราคาขายได้ปรับขึ้นมาจากตอนเปิดตัวพอสมควร และสามารถหาซื้อห้องได้ทั้งจากโครงการและ ห้อง Resales ได้หลากหลายราคา ราคาในที่นี่ทางเราจึงขอยกเอาราคาห้องของโครงการในปัจจุบัน (22/10/13) ที่ยังคงเหลืออยู่มาให้ดูกันนะครับ
- Studio ขนาด 30 ตารางเมตร ชั้น 31 ราคาขาย 3.12 ล้านบาท หรือ 104,000 บาทต่อตารางเมตร
- 1 ห้องนอน ขายหมดแล้ว
- 2 ห้องนอน ขนาด 74.5 ตารางเมตร ชั้น 10-16 ราคาขายเท่ากันหมด 7.10 ล้านบาท หรือ 95,300 บาทต่อตารางเมตร (กลุ่มนี้เป็นห้องที่อยู่ติดกับตึกสีส้มสูง 18 ชั้น)
- Duplex ขนาด 164 ตารางเมตร ชั้น 39 ห้องมุมด้านทิศตะวันออก ราคาขาย 25 ล้านบาท หรือ 152,400 บาทต่อตารางเมตร
- Fully Furnished
- เพดานสูง 2.6 เมตร
- จอง 20,000 / 30,000 / 100,000 สำหรับห้อง Studio+1Bedroom / 2 Bedroom / Duplex
- ห้องพร้อมโอน
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
เจาะลึกรวบยอด
URBANO ABSOLUTE สาทร-ตากสิน เป็นโครงการที่อยู่เชิงสะพานตากสินเขตฝั่งธน ข้ามแม่น้ำมาแล้วนะครับ ตัวโครงการไม่ได้อยู่ติดแม่น้ำ แต่ได้วิวแม่น้ำที่สวยมากที่สุดจุดหนึ่งของกรุงเทพมหานคร สำหรับคนที่ใช้รถ การวนรถเข้า-ออกโครงการอาจจะงงอยู่นิดหน่อยสำหรับคนที่ไม่ชำนาญทางแต่ถ้าคุ้นเคยแล้วก็ถือว่าไม่ยากและไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย เพราะโครงการก็อยู่ติดถนนใหญ่ ไม่ได้ซอกแซกไปไหน เพียงแต่ต้องวนอ้อมเข้าโครงการเท่านั้นเอง การเดินทางเข้าเมืองยังไงก็คงต้องพึ่งการข้ามสะพานตากสิน ที่ขึ้นชื่อว่ารถติดมากโดยเฉพาะตอนเช้า แต่โชคดีที่ตัวโครงการอยู่เชิงสะพานอยู่แล้ว เมื่อวนมาขึ้นสะพาน ก็คงจะมีช่วงระยะการติดที่ไม่ได้นานเท่าไรครับ
ส่วนคนที่ไม่ใช้รถมี BTS ให้เลือก คือ สถานีกรุงธนบุรี ซึ่งเดินไปได้ในระยะ 400 เมตร ซึ่งเป็นเส้นทางเดินที่เดินได้ ร่มรื่น จะไม่ค่อยน่าเดินก็ตอนค่ำคืน เพราะมีจุดที่ต้องเดินผ่านสวน และข้ามถนนซึ่งเป็นทางโค้งสองจุด ต้องระมัดระวังให้ดีครับ สาวๆถ้ามีรูปหล่อกล้ามใหญ่ใจดี เดินมาส่ง ก็คงไม่ต้องกังวลอะไร ในอนาคตสถานีกรุงธนบุรีจะมีความน่าสนใจ ตรงที่แผนการทำ Sky Walk นะครับ ซึ่งน่าจะทำให้น่าเดิน และสร้างความสะดวกให้ได้อีกมาก อย่างไรก็ดี นี่เป็นแผนงานในอนาคต ซึ่งคงต้องรอดูครับว่าจะได้ใช้จริงไหม และได้ใช้เมื่อไร … ส่วนคนที่ต้องการนั่งรถเมล์ หรือใช้พี่วิน ก็มีอยู่แถวๆ ใกล้หน้าโครงการ เดินออกมาสัก 200 เมตร ก็มีแล้วครับ Taxi เยอะ เรียกไม่ยาก … นอกจากนี้ ยังสามารถนั่งเรือไปไหนต่อไหนได้อีกนะ เช่น นังเรือไป เอเชียทีค จากท่าเรือใกล้ๆได้ด้วย …ทำเลโครงการนี้ คนไม่ใช้รถ และขยันเดินหน่อย ก็เรียกว่าอยู่ได้สบายโดยไม่ต้องพึ่งพารถยนต์ครับ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการเป็นอาคารพาณิชย์เก่าแก่ซะส่วนมาก ซึ่งทำให้มีร้านค้าร้านอาหาร อยู่ในย่านนี้หลายร้าน เพียงแต่มันไกลเกินระยะเดินสบายๆ (300 เมตร) และด้วยความเจริญของชุมชนเมืองที่แผ่ขยายออกมาทำให้พื้นที่บริเวณนี้เปลี่ยนแปลงเป็นโรงแรม, ร้านอาหาร, Community Mall, ตลาดนัด และอื่นๆซึ่งมีระยะจากโครงการประมาณ 400 เมตรขึ้นไป พอเดินได้ สำหรับคนขยันนะ แต่ถ้าใช้จักรยานหรือรถยนต์จะสะดวกกว่าการเดินแน่ๆ ส่วนที่อยู่ใกล้ๆพอเดินได้จะเป็น The Light House และ Senafest ที่สามารถดึงเอาร้านอาหารชั้นนำต่างๆมาไว้ที่นี่ได้เยอะมากทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเข้าเมืองให้รถติดหรือต้องไปไกลถึงห้างสรรพสินค้า แต่สิ่งที่อยู่ไกลจากโครงนี้ซักหน่อยคือ Hyper mart ต่างๆทำให้ต้องใช้รถไปไกลซักหน่อย… ในอนาคต แถวนี้จะมีโครงการขนาดใหญ่มากขึ้นอีก 2 แห่งคือ เอเชียทีค 2 และ บางกอก เจ้าพระยา ริเวอร์ฟร้อนท์ ไอ-ซิตี้ ซึ่งน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่ทำให้ย่านฝั่งธนบริเวณนี้ เจริญขึ้นอีกมากครับ
Facility ของโครงการนี้จัดเต็มเกินราคา แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่อยู่ชั้นบนสุดของอาคารประกอบด้วยสระว่ายน้ำที่ได้วิวสวยโดดเด่นสุดๆสำหรับคนรักวิว เป็น Value ที่ดีมากสำหรับโครงการนี้, ห้องโยคะ, ห้องซาวน่า, Fitness ขนาดใหญ่ที่เห็นวิว 180 องศา และ ลานโบว์ลิ่ง 2 เลน ซึ่ง Facility ด้านบนชั้น 40 นี้ เป็นแบบ เต็ม Floor ที่เลือกตำแหน่งวางให้ได้วิวที่เหมาะสมกับกิจกรรมมาก ….Facility อีกส่วนจะอยู่ชั้นล่างเป็นอาคารแยกออกมาประกอบด้วย ห้องประชุม, โรงหนัง, Snack Bar, Sunken Relax Area และ Living Area ตัวอาคารออกแบบมาดู Modern ทันสมัย และเป็น Hub สำหรับลูกบ้านรับแขกพบปะเพื่อนฝูงได้จริงๆนะ เนื่องจากมันเป็นอาคารแยก และมีพื้นที่ใช้งานเยอะมาก
การออกแบบทำออกมาได้ดีในทุกส่วนของโครงการจนได้รับรางวัล ASIA Pacific Property awards ลักษณะภายนอกของโครงการจะใช้โทนสีขาว, เทา, ดำ โดยใช้สีขาวเป็นหลักแล้วใช้สีเทากับดำมาสร้างเส้นสายทำให้ตัวอาคารดูมีมิติมากขึ้น ตัวอาคาร Facility ที่แยกออกมาจากอาคารพักอาศัยมาในแนวเรียบง่ายและเน้นกรอบของอาคารให้ดูเด่นขึ้นมา การวางอาคารแยกออกมาบวกกับทำ Landscape ต่างระดับทำให้ภาพรวมของโครงการดูไม่อึดอัดและมีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งการออกแบบโครงการนี้มีความโดดเด่นมากที่สุดในเรื่อง Facility และพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนการออกแบบห้อง ยังมีรายละเอียดเล็กน้อยหลายอย่างที่ไม่ลงตัวบ้าง แต่สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ไม่ยากจนเกินไปครับ ซึ่งในส่วนของรูปแบบห้อง มีให้เลือกครบทุกแบบตั้งแต่ Studio ไปจนถึง Duplex แม้ว่าในห้องจะมีหลุดๆบ้างในบางจุด แต่ก็มีส่วนที่มีรายละเอียดที่ดี เช่น การทำฝ้าเพดานไว้ซ่อนรางม่าน, ไฟซ่อนในชุด Built-in ครัวและทำที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ด้านบนของระเบียง ทำให้ไม่บังวิวจากภายในห้องดูเรียบร้อยดี
คุณภาพวัสดุของโครงการนี้ต้องขอแบ่งเป็น 2 ส่วนเพราะมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร ส่วนแรกคือพื้นที่ส่วนกลาง หรือ Facility ที่เลือกของให้มาแบบคุ้มค่าสมราคาวัสดุบางชิ้นอาจไม้ได้มีมูลค่าแพงมากมายแต่ทางโครงการเลือกมาใช้กับแบบได้ดีทำให้ภาพรวมของพื้นที่ส่วนกลางดูดีมีราคา การเลือกใช้สีสันของวัสดุก็อยู่ในโทนเดียวกันกับภายนอกอาคารดูกลมกลืนดี และวัสดุอุปกรณ์อย่างเช่นเครื่องเล่น Fitness เก้าอี้ต่างๆ นอกจากจะเลือกของที่โอเคแล้ว ยังจัดมาซะเยอะเต็มที่ … ส่วนกลางของที่นี่ เรียกว่า จัดเต็มจริงครับ…..ส่วนต่อมา คือในห้องพักอาศัย วัสดุมีทั้งดีมาก ดีสมราคา และธรรมดา มาปนๆกันนะครับ ตัว Pantry ครัว โดดเด่นสุด รองมาเป็นพวกในห้องน้ำ ส่วนพวกตู้ Built-in และ เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงพื้นและหน้าต่างถือว่าธรรมดา ตัวหน้าบานเฟอร์นิเจอร์ติด Soft Close แต่ไม่มีการเซาะร่องหรือลบมุมตามบานเปิดต่างๆมาให้ ซึ่งเราสามารถทำให้ดีขึ้นเปิดง่ายขึ้นได้ง่ายๆ ด้วยการติดมือจับนะครับ
สิ่งที่น่าเสียดายในเรื่องวัสดุคือ แม้ว่าโครงการจะพยายามจัดของดีมาให้ทั้งส่วน Facility และในห้อง แต่ก็พบว่าในหลายๆส่วน รวมถึงตัวห้อง ยังมีการเก็บงานที่ยังไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าที่ควร ทำให้วัสดุหลายตัว มันดูด้อยค่าลงไป …ซึ่ง ณ.วันนี้ ก็ยังคงมีช่างเข้าทำการเก็บงาน เก็บรายละเอียดอยู่ตลอด ซึ่งในส่วนนี้ ทางโครงการเค้ารับผิดชอบนะครับ เจ้าของห้องก็ช่วยกันตรวจดูและพูดคุยกันดีๆ
ข้อควรระวังคือ โครงการนี้ ราคาแตกต่างกันมากในแต่ละห้อง เพราะแต่ละห้องได้วิวและความสะดวก ที่แตกต่างกัน ยังกับอยู่กันคนละโครงการ ซึ่งห้องวิวสวยชั้นสูงแน่นอนว่าต้องราคาสูงกว่าห้องชั้นล่างๆที่โดน Block วิวแน่ๆ ดังนั้น การเลือกซื้อห้องที่โครงการนี้ ผมแนะนำว่า “ต้องไปดูห้องจริง” เสมอ เพื่อเห็นด้วยตาตัวเองว่า วิวด้านนี้มุมนี้ เราชอบไหม เพราะโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วครับ ไปดูได้เลย
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เนื่องจากราคาของที่นี่ มีช่วงที่กว้างมาก สำหรับคนที่ซื้อตอนเปิดตัว อาจซื้อกันได้ในราคา 8x,xxx บาท แต่ในปัจจุบัน 22/10/13 ราคาขยับไป 9x,xxx – 11x,xxx บาทแล้ว (ไม่นับห้องพิเศษอย่างพวก Duplex ที่ไป 150,000 บาทต่อตารางเมตรแล้วนะครับ) ดังนั้นการให้คะแนนจึงขอใช้ที่ราคา 100,000 บาทต่อตารางเมตร โดยท่านที่ซื้อถูกกว่าราคานี้ สามารถบวกคะแนนเพิ่มได้เอง ส่วนท่านที่จ่ายแพงกว่านี้ ก็ลดคะแนนเองได้ตามอัธยาศัยครับ
- ทำเล 8.0/10 – ทำเลโดดเด่นดีมากในเรื่องวิว แต่การเดินทางและสภาพแวดล้อมรวมถึงความอุดมสมบูรณ์ ยังจัดอยู่ในระดับดี และไม่ได้เด่นกว่าเพื่อนบ้านย่านเดียวกัน อย่างไรก็ดี “ทำเลห้อง” ของแต่ละห้องแตกต่างกันมาก ต้องดูรายละเอียดเรื่องห้องด้วยนะครับ
- เดินทางด้วยรถ 8.0/10 – ดูเหมือนยาก แต่ไม่ยากนะครับ แย่หน่อยที่ต้องผ่านสะพานสาทร ซึ่งขาเข้าเมืองไม่เท่าไร แต่ขากลับนี่บางจังหวะใช้เวลานานมาก ข้อดีของที่นี่คือที่จอดรถรวมซ้อนคันระดับ 79.7% ที่น่าจะพอ
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – มีความสะดวกพอประมาณ ความอุดมสมบูรณ์พอใช้สำหรับคนทั่วไป แต่ถ้าเป็นคนเดินเก่งและขยันเดิน จะเรียกว่า สะดวกและมีทางเลือกมากก็ได้ครับ (คนชอบเดินจะให้คะแนนส่วนนี้เพิ่มเองก็ได้)
- วัสดุ 8.0/10 – วัสดุในที่นี้คือในห้องนะครับ ให้ของมาเยอะและครบดีแต่ติดตรงที่รายละเอียด Built-in บางจุดยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง
- แบบ 9.0/10 – ออกแบบมาละเอียดดีมาก ตั้งแต่ภาพรวมโครงการไปจนถึงพื้นที่ส่วนกลาง ถ้าออกแบบห้องมาดีกว่านี้อีกนิด เอา 10/10 ไปเลย
- สาธารณูปโภค 10/10 – ให้มาเยอะจัดมาเต็มและทำออกมาดีมาก และอัตราส่วนลิฟท์ ที่เกินค่ามาตรฐานไป แต่อยากให้กำลังใจ เพราะทำออกมามันน่าใช้จริงๆ
- UPPER CLASS
- 8.26 / 10.00
BOTTOM LINE
Urbano Absolute เป็นโครงการที่เหมาะกับคนฝั่งธน หรือทำงานย่านสาทร สีลม ที่เป็นคนรักวิว อยากได้บ้านวิวแม่น้ำสวยๆ และ Facility ที่น่าใช้งาน เป็นคนเดินทางเข้าออกบ้านได้ตามเวลาตัวเองสะดวก มองหาโครงการที่พร้อมเข้าอยู่ ในงบประมาณ 3-25 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนระดับ 20,000 บาทขึ้นไป
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ
(ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧