รีวิวฉบับที่ 642 … สวัสดีครับ วันนี้จะพาไปดูคอนโด Low Rise ที่ชื่อว่า Tulip Square @Omnoi (ทิวลิป สแควร์ @อ้อมน้อย) ตัวโครงจะแบ่งเป็น 3 โซน โซนหน้าสุดเป็น Community Mall ใช้ชื่อว่า Tulip Shopping Mall กับอาคารพาณิชย์ (Tulip Biz Town) ส่วนตัวคอนโด (Tulip Condominium) จะอยู่คนละฝั่งกับอาคารพาณิชย์ ที่ดินของโครงการอยู่ติดกับถนนเพชรเกษม อยู่เลยแยกที่ตัดกับ ถนนพุทธมณฑลสาย 4 มาไม่ไกลครับ ヾ(^-^)ノ~♪
Fact @ 1 August 2014
- Tulip Square @Omnoi (ทิวลิป สแควร์ @อ้อมน้อย)
- บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : เขตกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 7 อาคาร 2 เฟส 1,030 ยูนิต
- เฟส 1 Grand ที่ดินประมาณ 4-0-40 ไร่ 2 อาคาร 336 ยูนิต
- ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน 170 คันคิดเป็น 50%
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 46,000 บาท
- เฟส 2 Liteที่ดินประมาณ 7-0-40 ไร่ 5 อาคาร 694 ยูนิต
- ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน 230 คันคิดเป็น 33%
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 40,000 บาท
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 23 ยูนิต
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปลายปี 58
- 1 Bedroom 28 ตร.ม.
- 2 Bedrooms 43 ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.05 ล้านบาทหรือประมาณ 37,500 บาท/ตร.ม. (Sold-Out)
- EIA : ผ่านแล้ว
- http://www.tulip-square.com/
- โทร 082-346-9333, 082-346-9444
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.704750,100.322383
แผนที่โครงการก็ทำมาง่ายๆ ดูไม่ยาก ตัวโครงการจะอยู่บนเส้นเพชรเกษมเลย แต่เป็นช่วงที่เลยจากเขตกรุงเทพมาแล้ว อยู่ในอำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และอยู่ระหว่าง ถนนพุทธมณฑลสาย 4 กับ พุทธมณฑลสาย 5 ถนนในย่านนี้จะดูง่ายไม่ซับซ้อนอะไรมาก โดย ถ.บรมราชชนนี จะวิ่งขนานกับ ถนนเพชรเกษมและไปบรรจบกันปลายทางเพื่อเข้านครปฐม และถนนพุทธมณฑล สายต่างๆตั้งแต่ 1 – 7 จะเป็นตัวเชื่อม 2 ถนนใหญ่นี้เข้าด้วยกัน
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการต้องบอกว่า เป็นย่านชานเมืองและเป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมที่มีทั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ดังนั้นการออกแบบโครงการจะตอบสนองกับการอยู่อาศัยของชุมชนแถวนี้ จะไม่เหมือนกับในเมืองซะทีเดียวนะครับ แหล่งที่เป็นโรงงานนอกจากจะอยู่บนเส้นเพชรเกษม, อ้อมน้อย และอ้อมใหญ่แล้ว แหล่งอุตสาหกรรมอีกจุดที่เยอะก็คือแถวๆสาย 5 กับภายในถ.เศรษฐกิจที่ยาวไปจนถึงคลองสี่วาและตัวเมืองสมุทรสาครเลยครับ
ตัวถนนพุทธมณฑลสาย 4 ที่อยู่ใกล้ๆจะคึกคักกว่าหน่อยเพราะสามารถเชื่อมต่อถนนหลักเส้นอื่นๆได้ และตัวถนนเป็นขนาดใหญ่ วิ่งทะลุลงทางใต้จะไปยังแหล่งโรงงานในย่านกระทุ่มแบน และถ้าวิ่งต่อไปจนสุดก็จะไปชนกับถนนใหญ่ พระราม 2 ขึ้นไปทางทิศเหนือไปก็จะไปโซนศาลายาที่มีสถานที่สำคัญอย่างสวนพุทธมณฑลและ มหาวิทยาลัยมหิดลตั้งอยู่ นอกจากนี้ยังมีห้างเซ็นทรัลที่กำลังจะเปิดสาขาใหม่แถวๆสาย 5 อีกด้วยครับ การเปิดห้างใหญ่จะทำให้คนที่อยู่อาศัยในย่านนี้ไม่ต้องวิ่งไปไกลๆเพื่อเดินห้างอีกต่อไป
การเดินทางในวันนี้เริ่มจากแยกที่ตัดกับถนนพุทธมณฑลสาย 4 ให้เราวิ่งตรงไปเรื่อยๆ
พอถึง 3 แยกไฟแดงก็ตรงต่อไปก่อนแต่ให้ชิดขวาไว้เพราะจะได้เลี้ยวกลับง่ายๆ
จุดเลี้ยวกลับจะอยู่ห่างจาก 3 แยกไฟแดงเมื่อกี้ประมาณ 1 กม.
เลี้ยวกลับมาแล้วจะเห็นป้ายล้อมรั้วที่ดินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ก็เลี้ยวซ้ายเข้าสำนักงานขายได้เลยครับ
โครงการนี้เป็นโครงการใหญ่ที่รวมเอา Shopping Mall, Shop House และ Condo เอาไว้ด้วยกัน โดยแบ่งให้โซน Shopping Mall อยู่ตรงกลางเชื่อมต่อกับโซนอาคารพาณิชย์ (Shop House) ส่วนคอนโดจะแยกออกไปต่างหาก ดังนั้นก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความลอดภัยนัก เพราะเค้าแยกสัดส่วนออกจากกันอย่างชัดเจน
จากในผังจะเห็นว่าตัว Shopping Mall มีพื้นที่ใหญ่พอสมควร ดังนั้นบรรยากาศของโครงการจะเป็นแนวคึกคักหน่อย แต่ถ้าใครอยากได้สงบๆก็ต้องเลือกอาคารด้านในๆหน่อย พื้นที่รอบๆด้านนบริเวณจะเป็นอย่างที่บอกไปตอนต้นคือเป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้พื้นที่รอบๆโครงการเป็นหอพักและโรงงานทั้งหมด ส่วนวัดที่อยู่ติดกันก็ไม่ส่งผลอะไรมากนักเพราะอยู่ติดกับฝั่งอาคารพาณิชย์
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Shopping Mall หน้าโครงการ
- Big C อ้อมน้อย 4.7 กม.
- โรงพยาบาล มหาชัย 2 2.9 กม.
จากในรูปจะเห็นตัวโครงการที่เป็นคอนโดอยู่ทางด้านซ้ายบนเป็น Low Rise 8 ชั้น 7 อาคาร ตัว Shopping Mall ตรงกลางและอาคารพาณิชย์ฝั่งขวาผู้คนทั่วไปจะสามารถเข้ามาใช้งานได้เลย ส่วนคอนโดจะมีรั้วรอบกั้นอีกทีและมีทางเข้าแยกต่างหาก การที่มี Shopping Mall อยู่ติดกับโครงการแบบนี้ก็มีทั้งข้อดีและเสียในตัว แต่จะชอบหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วย ข้อดีที่มีคือจะหาของกินของใช้อะไรก็สะดวก เพราะเป็นระยะที่เดินได้ลงมาจากคอนโดก็มีร้านให้เลือก ช่วยให้ประหยัดเวลาปละค่าเดินทางมาก ส่วนข้อเสียก็คือความสงบและเป็นส่วนตัวจะลดลงไปเยอะ เพราะคนทั่วไปจะมาใช้พื้นที่นี้กันเพียบ แถมถ้าเป็นหน้าเทศกาล แล้วมีการจัดงานนี่มีโอกาสเจอมลภาวะทางเสียงได้ครับ
พื้นที่โครงการ Tulip Square @อ้อมน้อย จะแบ่งเป็นโซนอาคารพาณิชย์ 6-3-28.3 ไร่ 95 ยูนิต และคอนโด 11-0-80 ไร่ 1,030 ยูนิต พื้นที่โซน Shopping Mall จะถูกแบ่งย่อยออกเป็นอีก 3 ส่วนย่อยๆคือ Dining (โซนร้านอาหารชั้นนำ), Supermarket(เปิดตลอด 24 ชม.) และ (Trendy สินค้าแฟชั่นต่างๆ) ถนนหลักจะอยู่ทั้ง 2 ฝั่งของตัว Shopping Mall วิ่งวนเข้าไปสุดถึงด้านใน การเข้าส่วนที่เป็นคอนโดจะแบ่งออกเป็น 2 จุดโดยเฟส 1 จะเป็นอาคาร 1 กับ 2 และเฟส 2 จะเป็นอาคาร 3 – 7 ที่อยู่ด้านใน เรื่องทิศแดดของโครงการนี้ดูง่ายๆครับเพราะทิศเหนืออยู่บนตรงๆเลย ดังนั้นห้องส่วนใหญ่จะหันรับกับทิศเหนือและใต้พอดี
ภาพบรรยากาศจำลองภายในโครงการครับ
อาคารที่ 1 – 5 จะมีห้องพักบางส่วนที่หันหาเข้าโซน Shopping Mall โดยตรง ดังนั้นโซนนี้จะมีความสงบน้อยกว่าส่วนอื่นๆ
ส่วนกลางของที่นี่จะแบ่งเป็น 2 ส่วนซึ่งเฟส 1 จะมีความหนาแน่นที่ต่ำกว่าเพราะแชร์กันใช้แค่ 2 อาคาร
แต่เฟส 2 จะต้องแชร์กันทั้งหมด 5 ตึก เดี๋ยวเราไปดูสำนักงานขายกันเลยดีกว่าครับ
ตัวสำนักงานขายก็ทำออกมาตามแนว New Modern European
ตอนนี้ส่วนที่เป็นอาคารพาณิชย์เริ่มก่อสร้างถึงชั้น 3 แล้ว
ด้านข้างส่วนที่เป็นคอนโดจะติดกับอาคารพาณิชย์สีแดง สูง 5 ชั้นครับ
ส่วนด้านหลังจะเป็นอาคารโรงงานและหอพัก สูงประมาณ 3 – 4 ชั้น
ช่วงตรงกลางที่ดินจะถูกตัดด้วยถนนสาธารณะที่เชื่อมไปถึงวัดศรีสำราญราษฎร์บำรุง
ส่วนด้านหลังที่ติดกับอาคาร 6 และ 7 ก็จะเป็นหอพักสูงประมาณ 2 – 3 ชั้น เดี๋ยวเราวนกลับไปดูในสำนักงานขายกันต่อนะครับ
ภายในจะมีโมเดลโซนคอนโดให้ดู
ตัวโมเดลมีให้ดูครบทั้ง 7 อาคาร โดยตัวอาคาร 6 และ 7 จะเล็กกว่าเพื่อนเลย
ถ่ายจากระดับสายตาคนเดินมาให้ดูครับ ถ้าโครงการนี้สร้างเสร็จคงดูเด่นจากอาคารรอบๆข้างแน่นอนครับ
ทางเข้าอาคารของเฟส 1 จะอยู่ตรงสระว่ายน้ำพอดีพอดี
ด้านข้างของตึกที่เห็นเป็นสีฟ้าๆ ตรงนั้นคือลำลางระบายน้ำที่มีถนนสาธารณะอยู่ครับ
พื้นที่ระหว่างเฟสจะมีรั้วกั้นอย่างชัดเจน พื้นที่ระหว่างอาคาร 2, 3, 4 จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด
สระว่ายน้ำของเฟส 2 จะระหว่างอาคาร 4 กับ 5 (ถึงแม้ในโมเดลจะเขียนเป็น A – F แต่ในผังจะเป็น 1 -7 เลยขอเอาตาม Plan หละกันครับจะได้เข้าใจง่ายกว่า)
แปลนของทุกอาคารจะคล้ายๆกัน ยกเว้น 2 อาคารสุดท้ายที่จะมีจำนวนยูนิตน้อยกว่าเพื่อนๆ ถ้าใครอยากได้ความสงบและความหนาแน่นต่ำๆก็เลือก 2 อาคารนี้ได้ครับ
แต่การจะใช้สระว่ายน้ำอาจจะต้องเดินหน่อย เพราะพื้นที่ระหว่างอาคารไม่ได้เป็นสระว่ายน้ำแต่เป็นลานจอดรถแทน
ตัวผังอาคารจะไม่ค่อยชัดนะครับเพราะผมถ่ายมาจากป้ายในสำนักงานขาย ผังที่เห็นอยู่นี้เป็นผังของอาคาร 1 ซึ่งอาคารที่เหลือก็จะมีผังเป็นแบบนี้ครับ ยกเว้นบางอาคารที่มีส่วนกลางอยู่ด้านล้าง ผังชั้น 1 จะเป็นที่จอดรถเกือบทั้งหมด และผังชั้น 2 – 8 จะเหมือนกันหมดมี 23 ยูนิต/ชั้น และห้องแบบ 2 Bedroom จะอยู่หัวมุมอาคารมีชั้นละ 2 ห้อง ลิฟท์โดยสารมีให้ 2 ตัวและตำแหน่งอยู่ตรงกลางอาคารพอดีทำให้ระยะเดินจากห้องพักริมสุด จะเท่าๆกันทั้ง 2 ฝั่ง
อาคาร 2 และ 5 จะเป็นอาคารที่มีส่วนกลางอยู่ด้านล่างคือ ห้อง Fitness และ Lounge
อาคาร 6 และ 7 จะมีห้องพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 1 และจำนวนยูนิตต่อชั้นจะลดลงเหลือแค่ 11 ยูนิตเท่านั้น ทำให้ 2 อาคารนี้มีความหนาแน่นต่ำกว่าเพื่อน
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบคลอรีน ขนาด 8 x 25 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 2 ห้องที่อาคาร 2 และอาคาร 5
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 74 : 1
- อัตราส่วนลิฟท์อาคาร 1-5 xx : 1
- อัตราส่วนลิฟท์อาคาร 6-7 xx : 1
- Service Lift : ไม่มี
- เฟส 1 ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน 170 คันคิดเป็น 50%
- เฟส 2 ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน 230 คันคิดเป็น 33%
- ระบบ CCTV / Access Card
แบบห้องของโครงการนี้จะมีให้เลือกแค่ 2 แบบคือ 1 ฺBedroom ขนาด 28 ตร.ม.และ 2 Bedroom ขนาด 43 ตร.ม.ครับ ถ้าลองดูขนาดจะเห็นว่าแบบ 1 ห้องนอนจะมีขนาดเริ่มต้นที่ใหญ่กว่าคอนโดในเมือง(22.5 – 26 ตร.ม.) ซึ่งนี่เป็นข้อดีอีกข้อนึงของโครงการในย่านชานเมืองไม่ใช่แค่เฉพาะโครงการนี้นะครับ เอาหละไปดูแปลนห้องกันดีกว่า
ห้องแบบ 1 Bedroom จัดผังมาคล้ายๆกับ LPN พอสมควรนะครับ แต่มีพื้นที่การใช้งานที่ดีกว่าหน่อย โซนที่เป็นงานระบบจะถูกจัดวางไว้ด้านซ้ายอย่าง ห้องน้ำและห้องครัว และให้ความสำคัญกับพื้นที่ของห้องนั่งเล่น โดยมีระยะดูทีวีประมาณ 2.8 เมตร ซึ่งถือว่าค่อนขว้างสำหรับคอนโดนะครับ
พื้นที่ที่ดูจะเป็นปัญหาหน่อยคือส่วนทานอาคารครับ เพราะตัวกำแพงห้องทั้ง 2 ด้านถูกลบมุมไปเลยทำให้พื้นที่ส่วนนี้หาเหลี่ยมมุมจะวางโต๊ะทานอาหารยากหน่อย ส่วนห้องนอนก็วางเตียงขนาด 6 ‘ แต่ต้องยอมเสียพื้นที่ข้างเตียงไปด้านนึง ส่วนตู้เสื้อผ้าถือว่าเล็กไปหน่อยการใช้งานจริงอาจต้องหาตู้มาใส่เพิ่มเติมเอง
ส่วนแรกของห้องจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน ที่ผมบอกว่าเชื่อมต่อกันเพราะเค้าให้เป็นบานกระจกใสเลื่อน 3 ตอน ถ้าไม่มีการติดฟิลม์ตรงส่วนนี้จะเสมือนเป็นพื้นที่เดียวกันเลย ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็หาฟิลม์ติดกระจกที่เป็นฝ้ามาติดก็ได้ครับ แต่บรรยากาศในห้องนั่งเล่นจะดูแคบลงไปหน่อย
พื้นที่สำหรับวางทีวีมีเหลือเฟือครับ ถ้าใครพอมีงบประมาณหน่อยแนะนำให้ทำตู้ Built-in ไปเลยจะได้พื้นที่เก็บของเยอะขึ้นด้วย
พื้นที่วางโซฟาสามารถวางแบบ 4 ที่นั่งยังได้เลยครับ หรือจะเอาแบบมี Daybed ก็ดีนะ แต่…ถ้าวางเต็มมันจะมีช่องหลืบระหว่างโซฟากับตัวเสาที่ยื่นออกมาอยู่ตรงกลาง ส่วนถ้าใครอยากได้พื้นที่นั่งทำงานเพิ่มก็หาโต๊ะทำงานมาวางเข้ามุมนั้นไปก็ได้ แต่อาจหาขนาดที่พอดียากซักหน่อยนะ
กลับไปดูห้องนอนกันต่อ รูปนี้ผมลองปิดเปิดให้ดูบรรยากาศว่า…มันแทบไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ระหว่างเปิดกับปิด แต่สิ่งที่ได้มาคือประหยัดค่าไฟแอร์ครับ ถ้าติดแอร์ 2 ตัว เวลานอนก็จะได้เปิดเฉพาะในห้องนอนอย่างเดียวขนาด BTU ของแอร์ก็ลดลงไปด้วย
ตัวรางจะปาดมุมมาให้เลย เวลาเดินหรือลากของใหญ่ผ่านไปมาก อย่างประเป๋าเดินทางก็ทำได้สะดวกขึ้น ตัวเฟรมเป็นอลูมิเนียม Powder Coating สีขาวนะ
ระยะเหลือรอบๆเตียงก็ถือว่าเดินสบายกว่าห้องขนาด 22.5 ตร.ม.อยู่เยอะเหมือนกัน
มุมห้องที่ถูกออกไปตรงนี้จะใช้วางของอะไรไม่ได้นะครับคงต้องปล่อยโล่งๆไปแบบนี้
ระยะพื้นที่หัวเตียงก็ประมาณนี้ครับ มีเสาแถมมาให้หน่อยนึง ;p
ด้านที่ติดกำแพงยังเดินได้สบายๆอยู่
หน้าต่างที่ให้มาแบ่งออกเป็น 2 ชุด เป็นบานเลื่อนสลับเหมือนกันทั้ง 2 ชุด มีการแบ่งช่องกระจกเพื่อให้เข้ากับ Concept ของโครงการด้วย
ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ติดกับหน้าต่างจะทำเป็น Built-in มาให้เลย
มือจับไม่ได้ยื่นออกมาแต่เป็นการเซาะร่องเข้าไปในหน้าบานแทน
อย่างที่บอกไปนะครับ ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวในห้องนอนมากขึ้นก็ควรหาฟิลม์หรือ Sticker ขุ่นมาติดเพิ่มความเป็นส่วนตัวหน่อย
ทางเดินไปยังห้องครัวก็ดูกว้างดี เพราะพี่เค้าเล่นปาดมุมทั้งห้องน้ำและห้องนอนออกไปให้เลย อ่อลืมบอกไป พื้นที่ได้เป็นพื้นไม้ลามิเนต หนา 8 มม.ทั้งห้องรวมถึงส่วนครัวด้วย เพราะฉะนั้นควรระวังเรื่องความชื้นด้วยนะครับ
ชุดครัวให้มาทั้งชุดบนและล่าง แต่ขนาดจะเล็กหน่อย ที่เค้าออกแบบมาให้อย่างนี้เพราะโครงการมีพื้นที่ Shopping Mall มาให้อยู่แล้ว ลูกบ้านเลยสามารถของกินได้ไม่ลำบาก ไม่เน้นทำอาหารกินเอง แต่ถ้าใครชอบทำครัวก็คงอึดอัดหน่อย Top เคาน์เตอร์ได้เป็นปาติเกิ้ลปะเมลามีน ตรงกำแพงก็ไม่ได้ติดกระเบื้องหรือกระจกมาให้ เวลาทำครัวแล้วเลอะควรรีบเช็ดออกนะครับ
ตัวอ่างล้างจานให้มาแบบ 1 หลุมไม่มีที่พักจาน ความลึกก็อย่างที่เห็นครับผมลองเอาหม้อวางลงไปให้ดู ส่วนเตาไม่ได้ให้มานะครับเค้าวางมาให้ดูเป็นไอเดียกับระยะการใช้งาน
ตู้ชุดบนมีบางส่วนเป็นบานผิดมาให้ด้วย แต่การเปิดปิดจะเป็นกดเข้าไปแล้วมันจะเด้งออกมานะครับ
หันกลับมาดูส่วนโต๊ะกินข้าวจะเห็นว่าพอวางโต๊ะแบบนี้ได้ มีพื้นที่วางจานชามได้พอสมควร แต่ต้องนั่งหันข้างให้กันนะ
เวลาขยับเก้าอี้ออกมายังพอมีระยะเดินรอบๆได้อยู่
ส่วนสวิทช์ไฟใช้ของ bticino หน้าตาตามมาตรฐาน
ประตูทางออกระเบียงจะเป็นบานกระจกเลื่อนสลับ มีธรณีสูงประมาณ 10 ซม. ช่วยให้น้ำไม่ไหลเข้ามาเวลารตกแรงๆครับ
พื้นที่ระเบียงด้านนอกจะแขวนคอมเพราเซอร์แอร์แบบนี้ก็ได้นะครับ ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ไปได้เยอะพอสมควร แต่ ควรติดตะแกรงเปลี่ยนทิศทางลม ไม่อย่างนั้นพื้นที่ระเบียงจะร้อนมาก
กลับมาดูในห้องน้ำกันต่อ ห้องน้ำจะมีแบ่งโซนเปียกกับแห้งมาให้และแถมฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วย
พื้นห้องน้ำจะอยู่ระดับเดียวกันกับพื้นที่ส่วนกลาง แต่มีธรณีกระเบื้องกั้นมาให้
ขนาดอ่างล้างหน้าจะไม่ใหญ่มาก และมีกระจกติดมาให้แบบนี้เลย
ชุดสุขภัณฑ์ของที่นี่ใช้ของ Balena ทั้งหมดครับ
พื้นที่ส่วนเปียกมีก่อธรณีมาให้อีกแนว
หน้าตาฝักบัวอาบน้ำเป็นแบบธรรมดาปรับเปลี่ยนการไหลของน้ำไม่ได้
แบบ 2 ห้องนอน 43 ตร.ม.จะเป็นห้องแนวกว้าง 3 ตอนทำให้ห้องต่างๆได้รับแสงธรรมชาติมากขึ้น ส่วนที่ติดระเบียงจะเป็นห้องนอน 2 ห้องและห้องนั่งเล่น การจัดวางฟังก์ชั่นต่างๆดูลงตัวดี ยกเว้นส่วนนั่งเล่นที่ได้ตำแหน่งดูทีวีติดระเบียงมากไปหน่อย ทำให้ไม่สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้ ถึงแม้จะมีระยะดูทีวีเหลือก็ตามอีกจุดที่ยังสามารถปรับได้อยู่คือบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ครัว โดยย้ายโต๊ะทานอาหารมาไว้ตรงส่วนนี้ และยังเพิ่มขนาดเป็นแบบ 4 ที่นั่งได้ด้วย เพราะมีพื้นที่เหลือให้ใช้งานได้อยู่ ถ้าปล่อยว่างๆไว้จะเสียดายได้ ตัวเคาน์เตอร์ไม่ได้เป็นตัว L แบบในผังนะได้แค่ตัว I ตามแนวกำแพงธรรมดา ส่วนบริเวณหน้าห้องก็ใส่เป็นตู้เก็บของกับโต๊ะทำงานได้
เปิดห้องมาจะเจอกับโถงกลางที่เชื่องห้องนั่งเล่น ส่วนทานอาหารและครัว บรรยากาศในห้องจะค่อนข้างโปร่งและโล่งสบายตาเพราะมีพื้นที่เหลือๆแบบไม่แออัด
เห็นระยะที่เหลือระหว่างโซฟากับโต๊ะทานอาหารไหม๊ครับ ถ้าย้ายโต๊ะทานอาหารมาไว้ตรงกลางห้องแล้วจะสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่กว่านี้ได้ด้วย
แต่ถ้าจะไม่ย้ายโต๊ะออกก็ขยายเป็นโต๊ะแบบ 4 ที่นั่งดีกว่า เวลาไม่ใช่ทานข้าวก็สามารถปรับเป็นโต๊ะทำงานได้
พื้นที่วางทีวีมีมาให้ไม่เยอะเหมาะกับการวางโซฟาขนาดไม่ใหญ่ เพราะตำแหน่งทีวีจะยังอยู่ตรงกลาง และระยะดูทีวีก็จะสั้นกว่าแบบ 1 ห้องนอนโดยลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 2.2 เมตร
ช่องแสงบริเวณจะมีอยู่ 2 จุดคือหน้าต่างหลังโซฟาและประตูบานเลื่อนไปยังระเบียง ขนาดประตูก็ให้มาเกือบเต็มความกว้างของกำแพง เหลือระยะไว้ให้ทำ Built-in ชั้นวางทีวีพอดีๆ
เนื่องจากโครงการแถมโต๊ะกลางและชั้นวางทีวีมาด้วย เลยถ่ายมุมต่างๆและบานเปิดมาให้ดูครับ
ลืมบอกไปว่าเฟรมประตูและหน้าต่างของที่นี่ติดซีลสักหลาดมาให้ด้วยนะ ช่วยกันฝุ่นและเสียงได้เป็นอย่างดีเลยครับ ส่วนใหญ่ราคาระดับนี้จะไม่ค่อยให้มานะ
การติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ถ้าไม่อยากให้บังวิวก็จะแบบห้องตัวอย่างนี้ก็ได้ครับ เพราะต้องติดถึง 3 ตัว
หันกลับให้ดูมุมหน้าครัวบ้าง เห็นไหมยังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะกินข้าวได้สบายๆ วางแล้วจะได้ไม่เสียพื้นที่ไปเปล่าๆด้วย
เคาน์เตอร์ครัวให้มาทั้งชุดบนและล่างเหมือนกัน แต่จะมีบางส่วนที่เพิ่มขึ้นมา ตัวเตาไฟฟ้าและที่ดูดควันไม่ได้แถมมาให้นะครับ
การแบ่งช่องเปิดเป็นแบบนี้ครับ ตรงกลางจะมีช่องไว้ให้ใส่ไมโครเวฟ และโต๊ะตัวขวาเป็นบานพับขึ้นมา สามารถขยายพื้นที่การทำครัวได้ดีมากเลยครับ
บานพับด้านใต้ก็ดูแข็งแรงดีครับ
ตัวตู้ชุดบนจะเป็นช่องเก็บของแบบมีหน้าบานปิดมาให้แล้ว
ต่อไปมาดูห้องนอนเล็กกันต่อครับ ขนาดของห้องค่อนข้างเล็กเลยวางได้แค่เตียง 3.5′ เท่านั้น ตัวประตูจะเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน มีข้อดีคือห้องดูโปร่งแต่ข้อเสียคือไม่มีความเป็นส่วนตัวเลยยย
ภายในห้องนี้จะแถมตู้เสื้อมา, เตียง และ โต๊ะหัวเตียงมาให้ ตัวตู้เสื้อผ้าจะได้บานกระจกเงามาหนึ่งบาน
การแบ่งช่องภายในเป็นแบบนี้ครับ ส่วนความกว้างตู้ก็ประมาณ 1 ม.
ใต้เตียงมีช่องเก็บของมาให้ด้วย
ต่อไปมาดูห้องน้ำกันบ้าง ห้องน้ำของยูนิตนี้จะมีให้แค่ห้องเดียว ถึงแม้จะวางตำแหน่งให้ติดกับห้องนอนใหญ่ก็ยังคงเข้าได้ทางเดียวเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ถ้าทำให้เข้าได้ 2 ทางการใช้งานจริงจะดีขึ้นเยอะ
ภายในห้องน้ำยังมีการแบ่งโซนเปียกและแห้งเหมือนเดิม พร้อมฉากกั้นมาให้เรียบร้อย
ชุดสุขภัณฑ์ก็ให้มาแบบเดียวกันหมด ว่าแล้วก็เกือบลืมจับบานเลื่อนให้ดูว่าตัวมือจับเป็นแบบไหน
พื้นที่ห้องน้ำจะได้ขนาดใหญ่ขึ้นอาบได้ 2 คนยืดแข้งยืดขาได้สบายๆ ;p
ส่วนห้องสุดท้ายคือห้องนอนใหญ่ ห้องนี้มีขนาดประมาณ 2.5 x 3.5 พอวางเตียง 6′ ได้แต่ยังคงต้องเสียพื้นที่ข้างเตียงไฟด้านนึงอยู่ดี
ตู้เสื้อผ้าจะวางอยู่ตรงกับประตูทางเข้าห้อง และขนาดตู้ยังคงเท่ากับห้องนอนเล็กครับ
ตัวมือจับจะเป็นเฟรมหน้าบานแบบนี้ครับ
ภายในจะมีการแบ่งช่องให้เก็บของได้นิดหน่อย
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 1 August 2014
- 1BR อาคาร 1 ชั้น 2 ห้อง 12 เนื้อที่ 28 ตร.ม. ราคา 1,286,400 บาท หรือ 45,943 บาท/ตร.ม.
- 1BR อาคาร 4 ชั้น 6 ห้อง 8 เนื้อที่ 28 ตร.ม. ราคา 1,156,600 บาท หรือ 41,207 บาท/ตร.ม.
- 1BR อาคาร 7 ชั้น 3 ห้อง 11 เนื้อที่ 28 ตร.ม. ราคา 1,085,000 บาท หรือ 38,750 บาท/ตร.ม.
- 1BR อาคาร 1 ชั้น 8 ห้อง 22 เนื้อที่ 28 ตร.ม. ราคา 1,335,800 บาท หรือ 47,707 บาท/ตร.ม.
- 2BR อาคาร 7 ชั้น 1 ห้อง 8 เนื้อที่ 28 ตร.ม. ราคา 1,669,050 บาท หรือ 38,815 บาท/ตร.ม.
- 2Br อาคาร 5 ชั้น 5 ห้อง 23 เนื้อที่ 28 ตร.ม. ราคา 1,792,250 บาท หรือ 41,680 บาท/ตร.ม.
- Fully Furnished
- เพดานสูง 2.4 เมตร
- Kitchen & Sink
- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 10,000 บาท
- ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 15 งวด
- ค่ากองทุน Lite 400 บาท/ตร.ม. Grand 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง Lite 30 บาท/ตร.ม./เดือน Grand 35 บาท /ตร.ม.
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเลของโครงการนี้เป็นทำเลที่เรียกย่านชานเมือง และเป็นแหล่งอุตสาหกรรมใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพชั้นในมากนัก ทำให้บรรยากาศและสภาพแวดล้อมแถวนี้จะเต็มไปด้วยร้านค้าและหอพักที่มารองรับ การใช้ชีวิตของหนุ่มสาวโรงงานอยู่เต็มไปหมด การพัฒนาพื้นที่แถวนี้ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีความหนานแน่นของชุมชนเยอะขึ้นซึ่งก็แปรผันตามการจ้างงานของโรงงานแถวนี้ รอบๆข้างโครงการจะเป็นอาคารโรงงาน หอพักคนงาน และบ้านพักอาศัย 2 ชั้นทั่วๆไป มีด้านนึงที่ติดกับ วัดศรีสำราญราษฎร์บำรุง แต่ก็ไม่ต้องกังวลเพราะด้านนั้นเป็นโซนของอาคารพาณิชย์ไม่ใช่คอนโด สำหรับห้างใหญ่ๆแถวนี้จะมีแค่ไม่กี่ห้างเท่านั้น ที่ใกล้ที่สุดจะมีแค่ Big C อ้อมใหญ่เท่านั้น
การเดินทางโดยใช้รถถือว่าสะดวกมากเพราะอยู่ติดถนนใหญ่ไม่ต้องเลี้ยวเข้าซอยไปไหนไกลๆ แต่การกลับรถจะมีระยะเดินทางหน่อยเพราะตัวถนนเพชรเกษมเป็นถนนใหญ่ จุดกลับเลยจะห่างกันหน่อยแต่ก็ไม่ได้ไกลแบบเส้นบางนาที่เป็น Super Highway แบบนั้น รถที่สัญจรไปมาส่วนใหญ่ก็จะเป็นรถส่งของและรถใหญ่ๆ อย่างรถบรรทุกคอนเทนเนอร์ และรถสิบล้อ ตัวโครงการจะอยู่ห่างจากแยกที่ตัดกับ พุทธมณฑลสาย 4 ไม่ไกลดังนั้นการเดินทางไปกรุงเทพตอนเหนือจะง่ายหน่อยเพราไปวิ่งไปถนนบรมราชชนนีได้สะดวก หรือถ้าใครทำงานแถวกระทุ่มแบน ใช้เส้นพุทธสาครที่เป็นถนนตัดใหม่ก็ได้ จะทำความเร็วได้ค่อนข้างดี
การเดินทางโดยไม่ใช้รถยังคงสะดวกเพราะตัวโครงการอยู่เกือบติดถนนใหญ่ มีระยะเดินแค่นิดเดียวมาหน้าโครงการ ยกเว้นอาคาร 6 และ 7 ที่อยู่ด้านในสุดจะเดินไกลกว่าเพื่อน รถสาธาณะก็มีให้เลือกทั้งรถเมล์ และรถสองแถว ส่วนใครที่ทำงานโรงงานย่านนี้หลายๆที่ก็จะมีรถรับส่งวิ่งวนแถวนี้ให้อยู่แล้วก็สบายไป สำหรับใครที่หวังเรื่องรถไฟฟ้าที่จะมาถึง พุทธมณฑลสาย 4 ต้องบอกว่ารออีกนานนนนน ตามกำหนดการก็ปี 2572 นู่นแนะ
วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ของโครงการนี้ให้มาแบบ Fully Furnished ตามมาตรฐานราคา ได้พื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ทั้งห้องรวมทั้งส่วนครัวด้วย ดังนั้นถ้าใครชอบทำครัว ต้องดูแลเรื่องความชื้นกันหน่อยนะ มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นให้ระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น ได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางและชั้นวางทีวี ส่วนครัวได้ Top เป็นปาติเกิ้ลปะเมลามีน ครัวก็ได้ทั้งชุดบนและล่าง โต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งขนาดเล็กพร้อมเก้าอี้ ฉากกั้นห้องน้ำโซนเปียก ชุดสุขภัณฑ์ใช้ของ Balena กรอบหน้าต่างเป็นอลูมิเนียม Powder Coating สีขาว
การออกแบบของที่นี่เป็นโครงการที่ค่อนข้างใหญ่ เพราะรวมเอา Community Mall และอาคารพาณิชย์ มาอยู่ในที่ดินเดียวกัน ทางโครงการเค้าออกแบบให้โซนคอนโดแยกออกมาอยู่อีกฝั่งซึ่งจะมีบางอาคารที่อยู่ลึกจากถนนใหญ่แต่ก็ได้เปรียบเรื่องความสงบและความเป็นส่วนตัว สำหรับ Shopping Mall หน้าโครงการจะเป็นช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านสามารถหาซื้อของกินของใช้ได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาเสียค่าเดินทางออกไปไหนไกลๆ ตัวอาคารก็ใช้แนวคิดการออกแบบที่โครงการเรียกว่า New Modern European ทำให้บรรยากาศจะไม่ได้ดูทันสมัยวันรุ่นซะทีเดียวแต่จะได้อารมณ์ Vintage นิดๆ
สำหรับแบบห้องของที่นี่จะมีมาแค่ 2 แบบคือ 1 Bedroom 28 ตร.ม. และ 2Bedroom 43 ตร.ม. ตัวแบบ 28 ตร.ม. การวางผังจะคล้ายๆกับห้องขนาดเล็กสมัยนี้ที่นิยมทำกัน โดยแบ่งโซนที่มีพวกงานระบบเยอะๆไว้ฝั่งนึงของห้องเช่น ห้องน้ำและห้องครัว ห้องนอนกั้นด้วยบานกระจกเลื่อนทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นแต่ความเป็นส่วนตัวก็ลดลงไปนิดหน่อย ข้อดีอีกข้อของโครงการย่านชานเมืองคือพื้นที่ห้องจะได้เยอะกว่าในเมือง อย่างห้องเล็กสุดขนาด 28 ตร.ม. จะได้ระยะดูทีวีในห้องนั่งเล่น ประมาณ 3 เมตรเลย ซึ่งเป็นระยะที่หาไม่ได้ในตัวเมืองสำหรับห้องขนาดเล็กสุด เพราะเดี๋ยวนี้ห้องเล็กเหลือพื้นที่แค่ 22.5 – 26 ตร.ม.กันแล้ว
สาธารณูปโภคของโครงการมีมาให้ไม่เยอะมาก มีสระว่ายน้ำ, ห้อง Fitness, Lounge และสวนหย่อมรอบๆอาคาร ตัวสระว่ายน้ำจะมี 2 สระขนาดเท่ากัน 8 x 25 ม.ระบบคลอรีน สระแรกจะอยู่ระหว่างอาคาร 1 และ 2 ส่วนทีจุดจะอยู่ระหว่าง อาคาร 4 และ 5 ส่วนห้อง Fitness จะอยู่ใต้อาคารไม่ได้แยกออกมาเป็นอาคาร Club House ต่างหาก โดยห้อง Fitness จะอยู่ภายในอาคาร 2 และ 5 คนที่อยู่อาคารอื่นๆจะต้องมีระยะเดินมาใช้งานหน่อย ส่วนความหนาแน่นของโครงการก็ถือว่ากำลังดีไม่สูง มีอัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่ 74:1
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 42,400 บาทต่อตารางเมตร, 1 August 2014
- ทำเล 8.0/10 – เป็นทำเลย่านชานเมืองและอยู่ในแหล่งโรงงานอุตสาหกรรม เหมาะกับกลุ่มคนทำงานแถวในละแวกโครงการ
- เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – เดินทางสะดวกติดถนนใหญ่
- ไม่ใช้รถ 8.0/10 – มีรถสาธารณะวิ่งผ่านเยอะ และเดินมาหน้าโครงการไม่ไกล
- วัสดุ 8.0/10 – ให้มาครบและเยอะดีถ้าเทียบกับราคา
- แบบ 7.5/10 – แบบค่อนข้างลงตัวได้พื้นที่แบบไม่แออัด แต่มีบางจุดที่ใช้งานจริงอาจไม่สะดวกนัก
- สาธารณูปโภค 7.0 – 7.5/10 – เฟสแรกให้ 7.5 เพราะความหนาแน่นต่ำกว่าและเดินไปหน้าโครงการใกล้กว่า ส่วน 7.0 ของเฟส 2 ครับ
- ECONOMY CLASS
- 7.89 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ Tulip Square @อ้อมน้อย เหมาะสำหรับคนที่ทำงานในย่านอ้อมน้อย แล้วอยากที่อยู่เป็นของตัวเองโดยเป็นราคาหยิบจับได้ไม่ยากเกินไป ไม่ชอบโครงการที่เข้าซอยลึกและไม่เน้นทำอาหารกินเอง ชอบทานอาหารนอกบ้านและเดิน Shopping มีงบประมาณ 1.3 – 2 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 8,000 – 14,000 บาท
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ
(ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧