รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.81 – รีวิว คอนโด Tropicana by Origin Property
8 มิถุนายน 2014
รีวิวฉบับที่ 562 … Mr.Oe จะพาไปดูของแปลกครับ โครงการ Tropicana ของ Origin Property เป็นโครงการที่ออกแบบมาให้กลุ่มคนย่านนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งมีรูปแบบการใช้ชีวิต ที่แตกต่างจากหนุ่มสาวออฟฟิศทั่วไป ตัวโครงการ ออกแบบแนว Tropical เน้นพื้นที่สีเขียวบนดิน และใส่พวก ECO living หลายอย่างเข้ามาในโครงการ ให้มันเข้ากันกับ Target Customer พวกโรงงานรถญี่ปุ่นที่เน้นเรื่องพวกนี้ในชีวิตการทำงานกันอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีการจัดรูปแบบห้อง ที่หลายคนจะไม่เคยเห็น เช่นห้อง 36 ตารางเมตรที่จัดมาได้ 2 ห้องนอนเป็นต้น … โครงการเปิดขายอย่างเป็นทางการปลายเดือน พฤษภาคม 57 นะ ตอนนี้เราค่อยๆดูรายละเอียดไปด้วยกันก่อน 🙂
Fact @ 23 April 2014
- Tropicana (ทรอปิคานา คอนโดมิเนียม)
- Origin Property
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 10270
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 363 ยูนิต ตึก A:197 ยูนิต ตึก B:166 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 29 ยูนิตที่อาคาร A
- ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันประมาณ 109 คันคิดเป็น 30%
- ที่ดินประมาณ 2-0-57 ไร่ ( 2 ไร่ 57 ตารางวา )
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ไตรมาส 4 ปี 2558
- 1 Bedroom 22.5 – 29 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.28 ล้านบาท
- 1+1 Bedrooms 32 – 36 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
- ขายแบบ Partly Furnished ให้เฟอร์ Built-in
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- ราคาต่อตารางเมตร ประมาณ 49,000 – 59,000 บาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 53,000 บาท
- http://www.tropicanacondo.com
- โทร 02-380-6800 , 091-575-8657
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.629327, 100.587091
แผนที่จากทางโครงการครับ ซึ่งเราเคยมีทำรีวิวทำเลโครงการนี้กันไปแล้ว ใครที่ยังไม่เคยอ่านก็สามารถอ่านบทวิเคราะห์ทำเลได้ตาม Link ข้างล่างนี้นะ ส่วนใครที่เคยอ่านแล้ว ก็ข้ามไปได้เลย
ผมอยากจะเพิ่มเติม เรื่องของทำเลอีกสักนิดหนึ่งนะครับ ทำเลโครงการนี้ นับว่าอยู่ท่ามกลางมวลมหาประชาโรงงานกันเลยทีเดียว ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ทราบว่า สมุทรปราการ สำโรงนี้ เป็นแหล่งผลิตรถยนต์ส่งออกที่ใหญ่มากของประเทศไทย เฉพาะโรงงานโตโยต้า เจ้าเดียว ก็ผลิตรถออกจากโรงงานที่นี่ ปีละหลายแสนคัน สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศปีนึงหลายแสนล้าน … เอ่อ มากกว่าตัวเลขของการขายอสังหาทั้งปีของทุกเจ้ารวมกันครับ 🙂 ซึ่งแถวๆนี้ นอกจาก Toyota แล้ว ก็มี AP Honda กับ Isuzu ไม่นับโรงงานอื่นๆอีกหลายโรงอยู่ (กดดูในแผนที่ Google ได้)
คนที่ทำงานในโรงงานผลิตรถยนต์เหล่านี้ จะแตกต่างจากโรงงานย่านนวนครนะครับ เพราะโซนแถวนี้จะเป็นคนงานมีทักษะสูง ระดับรายได้หลักหลายหมื่นกันไปแล้ว และความที่เป็นย่านที่มีโรงงานญี่ปุ่นเยอะ จึงมีชาวญี่ปุ่นอยู่พอสมควร อ้อโรงงานเหล่านี้แทบทุกโรงจะมีออฟฟิศอยู่ในเมืองนะครับ การเดินทางจึงนิยมใช้ทางด่วนวิ่งไปเชื่อมกับวงแหวนอุตสาหกรรม ข้ามสะพานภูมิพล ไปโผล่พระราม 3 ดูแผนที่ข้างล่างครับ
การเดินทางเข้าเมืองเดี๋ยวนี้สะดวกกว่าแต่ก่อนเยอะครับ ไม่ต้องไปหวังพึ่งพิงแต่เส้นสุขุมวิท หรือบางนาตราด … ส่วนในอนาคต ก็คงสามารถใช้รถไฟฟ้า BTS ได้ โดยขึ้นจากสถานี เอราวัณ
คนที่ทำงานในโรงงานแถวนี้ โดยเฉพาะโรงใหญ่ๆและมีมาตรฐานดีๆ อย่าง Toyota และ Honda สวัสดิการดีมาก รายได้สูง โบนัสระดับหลายๆเดือน และเขาทำงานกันเป็นกะนะครับ การเข้าออกงานไม่ใช่เวลาเดียวกับคนทำออฟฟิศ ซึ่งโรงงานจะมีรถรับส่งถึงที่พัก เป็นเวลา ดังนั้นเขาก็มักจะไม่ใช้รถกัน ไม่จำเป็นต้องใช้ (สังเกตปริมาณรถที่จอดตามโรงงานได้ ) พนักงานจะอาศัยรถรับส่งโรงงาน วันไหนมีควงกะหรือโอที ก็แทบจะกลับมาสลบที่บ้านอย่างเดียว ไม่ค่อยเห็นเดือนเห็นตะวันด้วยซ้ำไปสำหรับในช่วงที่เร่งผลิต… รูปแบบการใช้ชีวิตจะไม่เหมือนหนุ่มสาวออฟฟิศย่านใจกลางเมืองแน่ๆ
ส่วนการพักอาศัย ถ้าเป็นต่างชาติ บริษัทก็จะมีการจัดเช่าที่พักให้ ส่วนพนักงานทั่วไป ก็จะอาศัยในละแวกใกล้เคียง ซึ่งจะเช่าอยู่กัน … ใครมีครอบครัว ก็ต้องเขยิบไปซื้อบ้านที่อยู่ไกลออกไปหน่อย…เพราะแถวนี้แทบไม่มีบ้านใหม่ๆแล้ว ถึงมีก็คงหยิบกันยากเต็มทีครับ
Tropicana เป็น Brand ใหม่ของ Origin Property เจ้าถิ่นย่านสมุทรปราการ ที่ทำมาหลาย โครงการแล้ว โดยตัว Tropicana จะถูกวาง Position ให้อยู่ในเขต นิคมอุตสาหกรรม เอาไว้สำหรับพนักงานเจ้าหน้าที่บุคคลากรที่ทำงานในย่านนิคมอุตสาหกรรมเป็นหลักนะครับ … ดังนั้น Product มันจะแปลกๆไปจากที่เราคุ้นชินกันบ้าง ซึ่งผมจะสรุปคร่าวๆ ก่อนว่า Tropicana เขามีแนวยังไง แล้วค่อยๆไปดูรายละเอียดกันว่า มัน Work ไหม
1. ใช้ต้นไม้สีเขียว พื้นที่เปิดโล่ง และคุมโทนสีอ่อน… นี่ผมพยายามรวบให้ชัดที่สุดถึงแนวการแต่งโครงการทั้งด้านนอกและด้านในอาคารนะครับ
2. จัด Layout ห้องใหม่ ให้เหมาะกับการพักอาศัยในวันทำงาน เน้นการใช้งานในห้อง
3. Eco Living มีการนำวัสดุ และระบบใหม่ๆมาใช้ในโครงการเพื่อลดการใช้พลังงานในอาคาร ไล่มาตั้งแต่ด้านบนตึกจะมีการใช้ Solar Cell เพื่อนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้ที่พื้นที่ส่วนกลางบนดาดฟ้า, Recycle น้ำและวัสดุต่างๆ, ติดหลอดไฟ LED ของ Phillips ทั้งโครงการ, ใช้แอร์รุ่น Inverter ในทุกห้อง, ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นรุ่น Air Jet ซึ่งจะประหยัดทั้งน้ำและไฟฟ้า… โดยแต่ละอย่างจะประหยัดได้ราว 30-40% เช่น หลอด LED ประหยัดกว่าหลอดตะเกียบ 38% แอร์ Inverter ประหยัดไฟไป 40% เครื่องทำน้ำอุ่นประหยัดน้ำและไฟรวมไป 42% เป็นต้น
นอกจากของที่เราเห็นๆกัน ก็มีพวกวัสดุที่เราไม่ค่อยจะสังเกตอีกเช่น ผนัง และสีทาอาคาร ที่ใช้ ของ TOA 4 Seasons รุ่น Sun Block คือมันจะสะท้อนความร้อน ช่วยลดอุณหภูมิได้ราว 2-3 องศาเซลเซียส
… นานๆ จะเจอโครงการระดับ Economy Class ทำอะไรแบบนี้ เลยต้องบันทึกไว้ก่อน
ข้อมูลสีที่ค้นมาให้ดู
ส่วนการตกแต่งแนว Tropicana เขียวๆ คงต้องดูจากรูปเอาสำหรับงานภายนอก ส่วนงานภายใน ดูโทนจากในห้องตัวอย่างได้ครับ
รูปด้านหน้าโครงการ
รูปการตกแต่งสวน Land Scape ในโครงการ… ด้านขวามือนั่นจะเห็นส่วน ห้องสมุดด้วย
รูป สวนบนดาดฟ้า
รูปสระว่ายน้ำ Infinite Edge pool ระบบเกลือบนชั้น 8
โมเดลโครงการมองจากด้านหน้า จะเห็นทั้ง 2 ตึกคือ A อยู่ด้านหน้าและ B อยู่ด้านหลัง
ตึก A ทางซ้าย และ B ทางขวา
โมเดล หน้าตาตึก A ครับ
ด้านหน้าจะติดถนนทางรถไฟเก่า
ด้านข้างทิศเหนือจะติดคลองเล็กๆ ซึ่งทางโครงการร่นระยะตึกไป 6 เมตร และจัดเป็นพื้นที่สวนบนดินในด้านนี้ยาวตั้งแต่หน้าโครงการไปถึงด้านหลังครับ
โมเดลด้านหลัง ซึ่งคือตึก B
ตึก B จะยังไม่เปิดขาย และยังไม่เปิดข้อมูลด้วยนะครับ
การเข้าออกจะอยู่ทางด้านข้างตึกนะ
ทางเข้าออก ด้านตึก A
ส่วนการจอดรถ จะเป็นการจอดใต้ตึกทั้งหมด โดยจอดได้ 30% รวมซ้อนคัน
บนดาดฟ้าของตึก A จะมีสวนและสระว่ายน้ำ ส่วนแผ่นสี่เหลี่ยมสีดำๆ 4 แผ่นทางขวานั่นคือ Solar Cell
สวนบนดาดฟ้า
สระว่ายน้ำ
จะมีบันไดวนขึ้นมาที่สระนะครับ
ดาดฟ้าตึก B มีแต่สวน กับพื้นที่นั่งเล่น
สำนักงานขาย อยู่ติดกับแปลงที่ดินนะครับ
Master Plan โครงการ ที่ชั้น G จะมีสวนหลักที่ด้านข้างโครงการ ส่วน Facility มาตรฐานเช่น Lobby และห้องสมุด สนามเด็ก ก็วางไว้ที่ชั้น G ชั้นนี้จะไม่มีห้องพักอาศัย เพราะเป็นที่จอดรถใต้อาคารนะครับ
Floor Plan ชั้น 2-6 ซึ่งเป็นชั้นมาตรฐานที่เปิดขายอยู่ ตัวห้องวางแนว เหนือใต้ มี 29 ห้องต่อชั้น ซึ่งถือว่าเยอะ มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ต่อ 197 ห้อง อัตราส่วนลิฟท์ 99 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว ถือว่ายังอยู่ในมาตรฐาน ห้องทางด้านทิศใต้ จะอยู่ติดถนนซอยด้านข้างโครงการ ซึ่งเป็นซอยเล็ก(ในรูปนี่เขาใส่ทิศผิดนะ) ส่วนห้องทางด้านทิศเหนือ จะติดกับสวนโครงการและคลองข้างโครงการ ซึ่งเจ้าของเขาจะพัฒนาพื้นที่คลองด้านข้างให้ด้วย โดยทำที่ดักขยะและบำบัดน้ำเสียครับ
Floor Plan ชั้นดาดฟ้าของตึก A ซึ่งเป็น Facility ล้วนๆ ประกอบไปด้วย สวนและสระว่ายน้ำ (Fitness อยู่ที่ชั้น 8)
ตอนนี้ เขายังไม่เปิดขาย ตึก B และรายละเอียดของตึก B ยังไม่มีครับ ดังนั้น Facility และปัจจัยต่างๆ ผมจะใช้พิจารณาเฉพาะของตึก A อย่างเดียวไปนะครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- ห้องสมุด
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ บนดาดฟ้า
- ห้องออกกำลังกาย
- สวนหย่อมรอบโครงการ และบนดาดฟ้า
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 90 : 1
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 99:1
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 83:1
- ที่จอดรถ 109 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 30%
- ระบบ CCTV / Access Card / Proxy Lift
ห้องตัวอย่างมีให้ดู 3 ห้องครับ คือห้องขนาด 24-29-36 ตารางเมตร ผมจะพาไปดู 2 ห้องคือ 36 และ 29 ขอเริ่มจากห้อง 36 ตารางเตรก่อนนะ
ผังห้อง 1+1 Bedroom ขนาด 36 ตารางเมตร ที่เรียกว่า 1+1 เพราะมี 1 ห้องนอน กับ อีก 1 ห้องอเนกประสงค์ ซึ่งสามารถจัดเป็นห้องนอนได้ และได้ระเบียงยาวตลอดแนวห้อง โซฟากับโต๊ะทานข้าว วางแนวเดียวกัน และใช้งานร่วมกัน เดี๋ยวดูจากรูปจะชัดเจนกว่า ระยะดูทีวีราวๆ 2.5 เมตร นี่หมายถึงทีวีบางๆ หรือแขวนผนังนะ ทีวีอ้วนๆแบบยี่สิบปีที่แล้วไม่นับ 😀 ครัวจะได้ Pantry เล็กวางอยู่ด้านในหน้าห้องน้ำ แต่มีพื้นที่เตรียมอาหารเล็กๆ วางเสริมอยู่ด้านตรงข้ามกันซึ่งเป็นที่วางเครื่องซักผ้าไปด้วยในตัว ครัวแบบนี้ไม่เหมาะทำอาหารจริงๆจังๆ เพราะเป็นครัวเปิดและมีขนาดเล็ก คงจะเหมาะสำหรับอุ่นอาหาร และทำอะไรง่ายๆเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง ห้องน้ำเล็กหน่อยได้ Shower Box เข้ามุม ซึ่งค่อนข้างเล็กครับ
ชุดเฟอร์นิเจอร์ Built in ที่เขาจัดมาให้
ทุกห้องจะได้ Digital Door Lock ของ Yale ชุดนี้ เป็นระบบใช้ Card หรือจะกดรหัสก็ได้
ชุด Digital door lock ด้านในห้อง
ประตูห้องเขาไม่ได้ใส่มาให้ดูนะครับ ไม่ได้วางตัวจบตรงธรณีประตูให้ดูด้วยว่าเป็นอย่างไร แต่พื้นในห้องเป็นพื้นไวนิล ซึ่งจะทนทานไม่กลัวน้ำ ดีกว่า Laminate สำหรับการใช้งานและการดูแลรักษาครับ
เปิดประตูมาจะเจอส่วน Living Area ก่อน สังเกตว่าเรามองทะลุออกไปถึงระเบียงและนอกห้องได้เลย เพราะห้องนอนทั้งสองห้องเขากั้นด้วยผนังและประตูกระจก เพื่อดึงแสงเข้ามาให้ถึง Living Area ด้านใน
ถ่ายมุมกดให้ดูพื้นที่ใช้สอยด้านใน สังเกตการวางแนวโซฟากับโต๊ะทานข้าวครับ
มองย้อนออกไปด้านนอก เห็นภาพชัดขึ้น ระยะดูทีวี หักพนักพิงโซฟาแล้วเหลือประมาณเกือบ 2.5 เมตร
โซฟาเขาไม่ได้แถมมาให้นะ แต่วางแบบนี้ ทำให้เห็นว่าเราวางโซฟายาวได้
การวางโต๊ะทานข้าวแทรกอยู่กับโซฟาแบบนี้ มีดีมีเสีย … ข้อดีคือประหยัดพื้นที่ และใช้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์วางป๊อบคอร์น โซดา และอื่นๆได้ตอนดูทีวี หรือทำเป็นที่นั่งทำงานเล็กๆน้อยๆได้ ส่วนข้อเสียคือนั่งไม่สบายสำหรับการนั่งทำงานนานๆ และนั่งทานข้าวไม่สบายเหมือนโต๊ะและเก้าอี้ทานข้าวแท้ๆ… การจัดวางแบบนี้ จึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ทานข้าวในบ้านเป็นจริงเป็นจัง ส่วนมากทานข้างนอก อันนี้เอาไว้นั่งกินมาม่า หรืออาหารจานเดียวเป็นครั้งคราวก็พอได้
เวลานั่งที่โซฟา จะเห็นทีวีในมุมแบบนี้ ซึ่งคนที่รูปร่างเล็กตัวไม่สูง จะต้องเงยหน้าเล็กน้อย… การติดทีวีแขวนผนัง จึงน่าจะเลือกตัวยึดผนังที่มันปรับมุมก้มเงยได้ครับ
ชั้นวางของและทีวีชุดนี้ ยกขึ้นมาสูงนะ เผื่อพื้นที่ด้านล่างไว้วางของชิ้นใหญ่ๆ หรือกล่องรองเท้าได้
การออกแบบครัว เอา Pantry ไปวางด้านในแบบนั้น แปลว่า เขาไม่เน้นทำครัวกันครับ มีตู้เย็น อ้างล้างจานและเตาวางเบียดๆกัน แล้วที่เตรียมอาหารวางนู่นนี่นั่นล่ะ?… เขาออกแบบให้วางด้านตรงข้าม Pantry ครับ ที่วางแก้วชาสีขาวๆสองใบนั่นแหละ
นี่ครับ ที่เตรียมอาหารและวางของจุกจิกตอนทำครัว ซึ่งเขาเอาเครื่องซักผ้ามาวางตรงนี้ด้วย
อันนี้ทีเด็ดครับ… มันกางปีกได้ด้วย 😀 ขยายขนาดเพื่อให้ได้พื้นที่วางของมากขึ้น พับเก็บและกางง่าย แต่อย่าถึงกับขึ้นไปนั่งนะ มันไม่ได้รับน้ำหนักขนาดนั้น
พื้นที่อเนกประสงค์ตรงนี้จะใช้เป็นที่นั่งกินมาม่าง่ายๆ หรือชงกาแฟกินกาแฟก็ได้อยู่นะครับ ง่ายๆเร็วๆก่อนออกไปทำงาน
ชุด Pantry ขนาดเล็ก แต่มีครบนะ Sink+เตา+เครื่องดูดควัน ตัวไมโครเวฟวางช่องด้านล่าง หยิบของปลอดภัยกว่าวางด้านบน
ตู้เก็บของด้านบน พอจะเก็บของได้ แต่ไม่เยอะเท่าไร
Counter Top พื้นที่แค่นี้ครับ
ตัว Top ครัว เป็นลามิเนต
Sink+เตา+เครื่องดูดควันของ teka
พื้นที่ยืนทำครัว เตรียมอาหาร ประมาณนี้ และอยู่หน้าห้องน้ำนะครับ
ห้องน้ำมี ธรณีก่อสูงราว 5 ซม กันน้ำเลอะเทอะออกมา แต่เวลาเดินเข้าออกก็ระวังสะดุดกันด้วยล่ะ
ภาพรวมพื้นที่ในห้องน้ำ… เขายังไม่ได้ติดชุดฉากกั้นอาบน้ำให้ดู.. ตำแหน่งส่วนอาบน้ำ จะอยู่ตรงมุมที่มีม้านั่งไม้วางของอยู่นั่นแหละ
อ่างล้างหน้าของ Cotto
ขนาดไม่ใหญ่ พอจะวางของได้เล็กๆน้อยๆ
Counter อ่างล้างหน้ามีลิ้นชักเก็บของได้นิดหน่อย
โถสุขภัณฑ์ของ Cotto รุ่นประหยัดน้ำ
พื้นที่ยืนอาบน้ำแบบเข้ามุม ไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ดู แต่นับกระเบื้องก็รู้ว่า ขนาดเล็กครับ คนตัวใหญ่ๆจะอึดอัดหน่อย
ชุดฝักบัวและ เครื่องทำน้ำอุ่นของ สตีเบล รุ่น Air Jet จะเป็นรุ่นที่ประหยัดน้ำและไฟนะครับ ใช้การอัดอากาศเข้าผสมกับน้ำทำให้ใช้น้ำน้อยลง และการกินไฟต่ำกว่าเครื่องทำน้ำอุ่นทั่วไปราว 40%
ห้องนอน 2 ห้อง ห้องใหญ่ทางขวา ห้องเล็กทางซ้าย… ซึ่งไม่จำเป็นที่เราจะทำเป็นห้องนอนทั้งคู่นะครับ เราจัดเองได้ จะทำเป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องเลี้ยงเด็กสำหรับคนเพิ่งมีลูก หรือจะเป็นห้องทำงาน หรือห้องแต่งตัวก็ได้ครับ
ห้องนอน จะกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนบานใหญ่ ควรติดม่านเพิ่ม เพื่อให้มันมี Privacy หน่อย
ชุดประตูวางรางล่าง วงกบอลูมิเนียม
ภาพรวมพื้นที่ในห้อง ซึ่งจัดเป็นห้องนอนเล็กให้ดู เค้าวางเตียงเล็ก เป็นฟูกบนพื้น ส่วนพวกตู้เก็บของต่างๆยกแขวนผนัง มีโต๊ะอเนกประสงค์ แบบโต๊ะญี่ปุ่น อยู่ด้านหัวเตียง
ที่จัดแบบนี้ได้ เพราะเขายกพื้นห้องมี Step ขึ้นมาหน่อยนะครับ การลงนั่งนอนบนเตียงจะสบายขึ้นหน่อย ดีกว่าพื้นราบธรรมดา และนั่งโต๊ะญี่ปุ่นตรงหัวเตียงได้สบายขึ้น
ปลายเตียง วางตู้ลิ้นชักเล็กๆ ไว้เก็บของส่วนตัว
พื้นที่ด้านข้าง เหลือแค่พอเดินเข้าออกได้
ตู้แขวนผนัง เอาไว้เก็บของ และมีราวแขวนผ้าด้วย …
พื้นที่เขายก Step ขึ้นมา
ให้ดูความฟิต …
โต๊ะญี่ปุ่นตรงหัวเตียง ที่เขาแถมมาให้ด้วย
โต๊ะญี่ปุ่นยกได้นะครับ
พอยกขึ้นแล้ว ก็เดินเข้าออกระเบียงจากด้านนี้ได้ด้วย
ห้องนอนหลักจอยู่ด้านนี้ครับ
ห้องนอนหลัก วางเตียงห้าฟุตมานะครับ
ช่องแสงคือประตูออกระเบียง
ปลายเตียงติดทีวีแขวนผนังพอได้ เพราะเหลือระยะปลายเตียงไม่มาก แค่พอเดินผ่าน
ชั้นวางของข้างหัวเตียงนี่ไม่ได้แถมมา ไม่ได้เอาไว้นั่งทำงาน แต่เอาไว้วางของพวกโทรศัพท์ และของจุกจิกที่ต้องหยิบใช้ง่ายๆ ขณะที่อยู่บนเตียงครับ.. เช่น สำลีปั่นหู เป็นต้น… อ้อ แอบเห็นปลั๊กไฟตรงหมอนนั่นเขาติดผิดตำแหน่งนะครับ ของจริงจะอยู่ชิดผนังซ้ายมือ
ตู้เสื้อผ้า ขนาดแค่นี้ คงไม่พอสำหรับสุภาพสตรี แต่ถ้าเจ้าหน้าที่โรงงาน ชุดไม่เยอะหรอกครับ เขาใส่ชุดฟอร์มเป็นหลักแทบจะทุกวัน
คอมแอร์วางเรียงแขวนผนังแบบนี้ ของจริงจะมีกริลปิด เพื่อบังสายตาด้วย ไม่ได้วางกันโล่งๆแบบนี้
ระเบียงยาวตลอดแนวห้องแต่แคบนะ
โต๊ะญี่ปุ่น จะอยู่ชิดระเบียงแบบนี้เลย เว้นพื้นที่สำหรับม่านไว้เรียบร้อย
ผังห้อง 1 Bedroom ขนาด 29 ตารางเมตร ห้องนี้ จะแปลกและคนละแนวกับห้อง 1+1 เลยนะคือ ได้ครัวปิด และมีพื้นที่ใช้งานที่ระเบียงแบบอเนกประสงค์กว่า เขาวางโซฟา Outdoor ที่ระเบียงมาให้ดู แต่ในการใช้งานจริงถ้าเราไม่ได้ไปทำอะไร Outdoor แบบนั้น ผมว่า ปลูกต้นไม้ หรือจอดจักรยาน ก็น่าจะเหมาะกว่า
ชุดเฟอร์ Built in ที่ให้มาสำหรับห้องนี้
เปิดประตูมาจะเจอส่วน Living Area แบบนี้
ระยะดูทีวีก็ประมาณ 2.5 เมตรนะ
ตู้แขวนวางของจุกจิก ส่วนทีวีแขวนผนังดีแล้ว
โซฟาวางยาวๆได้ และ ฟีเจอริ่งกับโต๊ะกินข้าวเช่นเคย
โต๊ะทานข้าว อยู่กับโซฟาแบบนี้ … เขาไม่ได้แถมมานะ จัดให้ดูเฉยๆ
โต๊ะทานข้าว กับโซฟา มาคู่กันแบบนี้
ห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียม
Concept เดียวกับห้อง 1+1 นะ คือทำผนังและประตูกระจก ดึงแสงเข้า Living Area ถ้าอยากได้ความมิดชิดกว่านี้ ก็ติดม่านเพิ่ม อย่าไปเอาโปสเตอร์ดารามาติดล่ะ 😀
ภายในห้องนอน นี่ก็เตียงห้าฟุต
ช่องแสงคือประตูเปิดออกระเบียง
เตียงมีลิ้นชักเก็บของใต้เตียงด้วย
ที่วางของจุกจิก ข้างเตียง นี่ติดมาให้ดูเฉยๆ
ชองแสง เปิดโล่ง เป็น Bay window
เวลานอนบนเตียง จะเห็นวิวแบบนี้
ส่วนจะเข้าครัว นี่มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นอีกชุด
ชุดประตูกระจกบานเลื่อนกั้นครัว เป็นแบบแขวนรางบน ซึ่งจะกันแมลงและมดไม่ได้ เพราะมีช่องด้านล่างและด้านข้างนิดหน่อย มันไม่สนิทเสียทีเดียวนะครับบอกไว้ก่อน
เข้ามาแล้ว ทางขวาไปห้องน้ำ ทางซ้ายไปครัวและระเบียง
ภาพรวมพื้นที่ในครัว
แคบนะสำหรับคนตัวใหญ่ๆ จะมายืนโอบเอวช่วยแฟนล้างจานนี่ก็ลำบาก… ดังนั้นผมแนะนำให้คุณผู้ชาย รับหน้าที่ล้างจานทำกับข้าวแต่เพียงผู้เดียวครับ 😀
Pantry พื้นที่เล็ก แต่ให้มาครบ อ่างล้างจาน เตา และเครื่องดูดควัน
เครื่องซักผ้าวางตรงนี้ ซึ่งมันอยู่ข้างเตา .. ผมแนะนำให้หาแผ่นไม้มาวางด้านบนเครื่องซักผ้า จะได้ไม่เลอะไอและคราบน้ำมัน
ด้านบนเหนือเครื่องซักผ้า ติดที่แขวนของแบบนี้ก็ดีนะ ราคาไม่แพงหาได้ที่อิเกีย ขับรถจากโครงการไป 15 นาที
ระเบียงอยู่ติดครัว เปิดระบายอากาศได้
ทางเข้าออกระเบียงจะแคบหน่อย และต้องเดินผ่านธรณีสูง … โปรดสังเกต โซฟา Outdoor ที่วางด้านนอก พอวางแล้วมันเกะกะทางเดินมิใช่น้อย
โซฟา .. วางได้นะ นั่งเล่นนอนเล่นได้จริง แต่จะเสียพื้นที่ใช้งาน
โซฟาที่วางให้ดู ถ้าไม่ได้ใช้แน่ๆ เก็บไว้เป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้ หรือจอดจักรยานจะดีกว่าครับ … เอาไว้ขี่ไปบางปูวววววววววว ดูนกนางนวล 🙂
กระจกเข้ามุม Bay Window ที่ช่วยเพิ่ม ช่องแสง และมุมมองทางด้านปลายเตียงให้ห้องนอน … ดังนั้น ถ้าเราปลูกต้นไม้ดอกไม้ ที่ระเบียง หรือแม้แต่ตั้งตู้ปลา เราก็สามารถมองเห็นจากบนเตียงได้
คอมแอร์ ซึ่งจะมีกริลปิดครับ
ห้องน้ำกั้นด้วยธรณีก่อเช่นเคย
ภาพรวมพื้นที่ในห้องน้ำ Spec Cotto ทั้งห้อง
อีกมุม
พื้นที่อาบน้ำ ที่ไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะครับ แนะนำให้ติดเป็นฉากกั้นกระจกนิรภัยนะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 23 April 2014
- 1 Bedroom เนื้อที่ 22.50 ตร.ม. อาคาร A ชั้น 2 ห้อง A201 ราคา 1.28 ล้านบาท หรือ 56,890 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom เนื้อที่ 23.70 ตร.ม. อาคาร A ชั้น 6 ห้อง A613 ราคา 1.39 ล้านบาท หรือ 58,650 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom เนื้อที่ 28.90 ตร.ม. อาคาร A ชั้น 4 ห้อง A429 ราคา 1.54 ล้านบาท หรือ 53,290 บาท/ตร.ม.
- 1+1 Bedroom เนื้อที่ 35.50 ตร.ม. อาคาร A ชั้น 2 ห้อง A202 ราคา 1.74 ล้านบาท หรือ 49,000 บาท/ตร.ม.
- Partly Furnished ให้เฟอร์ Built-in ครัว และแอร์ครบ
- เพดานสูง 2.4 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง 5,000 บาท สำหรับห้อง 1 Bedroom และ 10,000 บาท สำหรับห้อง 1+1 Bedroom
- ทำสัญญา 45,000 บาท สำหรับห้อง 1 Bedroom และ 60,000 บาท สำหรับห้อง 1+1 Bedroom
- ดาวน์ 12% ผ่อนดาวน์ 18 งวด
- ค่ากองทุน 380 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 38 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
Tropicana เป็นโครงการที่ออกแบบมาสำหรับคนพื้นที่นะครับ โดยเฉพาะคนทำงานในโรงงานย่านนี้ เขาออกแบบเนื้อโครงการและ Function ต่างๆ เพื่อทดแทนการเช่าอพาร์ตเมนต์ในย่านนี้เพื่ออยู่อาศัยในวันทำงานอยู่แล้ว ดังนั้นทำเลโครงการมันจะไปอิงใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมนะ ซึ่งคนทำงานเป็นกะ เลิกงานดึกบ้างเช้าบ้าง ถ้าร่นการเดินทางไปได้ ก็จะดีต่อชีวิตตัวเองขึ้นอีกเยอะ สภาพแวดล้อมรายรอบโครงการ จึงเป็นโรงงานและโกดังสินค้าปะปนอยู่มาก ความอุดมสมบูรณ์รายล้อมโครงการในระยะเดินเท้าจะน้อย แต่ถ้านั่งรถใกล้ๆ ก็คงได้พึ่งพา Big C ยังดีที่โครงการอยู่ติดถนนใหญ่ ไม่ได้เข้าซอยเลยไม่ค่อยจะเปลี่ยวหรือน่ากลัวนัก
การเดินทางโดยใช้รถในปัจจุบันถือว่าสะดวกใช้ได้ เพราะติดกับวงแหวนรอบนอก (กาญจนาภิเษก) ซึ่งไปเชื่อมวงแหวนอุตสาหกรรม ตรงเข้าพระราม 3 ผ่านสะพานภูมิพลได้ ทำให้มีทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกกว่าเดิมที่แต่เดิมต้องวิ่งเส้นสุขุมวิท หรือบางนาเป็นหลัก ส่วนถ้าคนพื้นที่ทำงานย่านนี้ เดินทางไปไหนมาไหนช่วงนี้สะดวกอยู่แล้ว เพียงแต่ในช่วงที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย รถมันจะติดๆหน่อยนะ… ทำเลตรงนี้ จะเหมาะกับคนที่ต้องเดินทางเข้าออฟฟิศในเมืองบ้าง ทำงานโรงงานบ้าง หรือสามีทำงานโรงงานภรรยาทำงานในเมือง เพราะมันอยู่ใกล้วงแหวนนี่แหละ…โครงการมีที่จอดรถให้มา 30% ต้องไปลุ้นกันว่า Research ที่เขาทำมามันจริงไหม เพราะถ้าคนโรงงานตอบรับดี และอยู่กันเยอะ คนกลุ่มนี้ไม่ได้ใช้รถนะครับ เดินไปได้ หรือไม่ก็พึ่งรถรับส่งฟรีของทางบริษัทอยู่แล้ว
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ คงหวังพึ่งรถไฟฟ้า BTS ซึ่งขึ้นลง สถานีเอราวัณ อยู่ห่างไปราว ห้าร้อยกว่าเมตร ไกลอยู่นะถ้าอากาศร้อนๆ ส่วนทางเลือกในการเดินทางอย่างอื่นความที่โครงการอยู่ติดถนนใหญ่ เรียกรถง่ายและปลอดภัย ซึ่งนอกจาก Taxi ที่มีเรื่อยๆแล้ว พี่วิน และรถเมล์ ก็มีให้ใช้เยอะครับ
วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มา ถือว่าให้มาเยอะเกินระดับราคามาก 49,000 – 59,000 บาทต่อตารางเมตร ได้ Digital Door Lock พื้นไวนิล แอร์ Inverter ทุกห้อง เฟอร์ Built in และสุขภัณฑ์ Cotto ประหยัดน้ำ ซึ่ง Spec ของนอกจากจะดีกว่าระดับราคาแล้ว ยังเลือกของพวกที่มันประหยัดพลังงานมาให้ เช่น หลอดไฟ ในห้องและทั้งโครงการเป็น LED ของ ฟิลลิปส์ ผนังลดความร้อน และสีสะท้อนความร้อนเป็นต้น … วัสดุและของที่ให้ มันจะราคาสูงกว่าวัสดุมาตรฐานในระดับราคานี้ แต่มันช่วยลูกบ้านลดค่าใช้จ่าย และเซฟค่าส่วนกลางไปได้พอสมควรนะครับ
การออกแบบ เขาออกแบบมาแนวเขียวๆ ต้นไม้เยอะๆ และเน้นโทนสีอ่อน เพราะจับกลุ่มคนโรงงานที่แทบไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน กันอยู่แล้ว ซึ่งด้านนอกและ Land Scape จะมีพื้นที่เปิดเยอะ เพราะต้องลงต้นไม้ ส่วนภายในถือว่าออกแบบห้องมาได้ละเอียดมาก สนองความต้องการของคนโรงงานที่อยู่คนเดียวในช่วงวันทำงาน และกลับไปอยู่บ้านช่วงวันหยุด หรือคนที่ปกติแชร์ห้องกันอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว ห้องเขาจะออกแบบมาเล็กนะครับ ไม่มีห้องใหญ่ๆ เพราะไม่เน้นการอยู่อาศัยแบบครอบครัว คนมีครอบครัวแล้วตั้งหลักจริงจังโซนแถวนี้ เขาไปซื้อบ้านหรือทาวน์โฮม จะเหมาะกว่าครับ… ห้อง 1+1 ขนาด 36 ตารางเมตร ถือว่าเป็นของแปลกอันหนึ่งนะครับ ทำมาได้ละเอียดแทบจะทุกส่วน และใช้งานได้จริงครับ ไปลองดูเองได้
สาธารณูปโภค … ผมเห็นแค่ตึก A เพราะตึก B ยังไม่ Final ยังมีการปรับเปลี่ยนอีก ซึ่งสาธารณูปโภคหลักๆ ถือว่าเยอะ และมีทั้งบนดิน และยกไปไว้ที่ดาดฟ้า เขาจัดมาให้น่าใช้และเยอะกว่าคอนโด Low Rise ราคานี้ ในโซนแถวนี้แน่นอน แต่มีจุดด้อยตรง ที่จอดรถนี่แหละครับ 30% เอง
Judgement
โครงการนี้ เป็น Project เฉพาะ ที่มุ่งเน้นเกาะตามนิคมอุตสาหกรรมนะครับ ไม่เหมือน Project ทั่วไป รูปแบบการให้คะแนน จึงพิจารณาตามคนพื้นที่ครับ ไม่ใช่เอามาเทียบกับทำเลสุขุมวิทตอนปลาย แล้วบอกว่าใกล้ไกลเมืองต่างกันนะครับ ต้องบอกไว้ก่อน เดี๋ยวจะมีปัญหาเรื่องคะแนนกันอีก
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 53,000 บาทต่อตารางเมตร, 23 April 2014 ของตึก A เท่านั้น โดยพิจารณาความเหมาะสมแบบคนพื้นที่นะครับ (คนโรงงาน) ส่วนคนที่ไม่ได้อยู่หรือทำงานแถวนี้ จะยึดคะแนนนี้เป็นมาตรฐานเปรียบเทียบไม่ได้นะครับ ต้องลองให้คะแนนเองตามความเหมาะสมของตัวเอง
- ทำเล 7.5/10 – แม้จะติดถนนใหญ่ และใกล้ที่ทำงาน แต่มีจุดด้อยตรงสภาพแวดล้อมรายรอบและความอุดมสมบูรณ์
- เดินทางด้วยรถ 8.0/10 – สะดวกมาก ถึงมากที่สุดสำหรับย่านนี้ เพราะใกล้วงแหวนสุดๆ น่าเสียดายที่ ที่จอดรถน้อยไปไม่งั้นจะได้คะแนนมากกว่านี้
- ไม่ใช้รถ 8.25/10 – เรียกรถง่าย พอจะเดินไป BTS เอราวัณได้ แต่ไกลหน่อยนะ
- วัสดุ 9.5/10 – วัสดุดี และให้มาคุ้มเมื่อเทียบกับราคา ผมบวกคะแนนเพิ่มให้ เพราะเขาเลือกวัสดุและเครื่องไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานให้ลูกบ้านแทบจะทั้งหมด
- แบบ 8.5/10 – ออกแบบได้ดี ใช้พื้นที่ได้คุ้ม โดยเฉพาะ Room Layout ทำมาคุ้มมาก
- สาธารณูปโภค 8.0/10 – เยอะและน่าใช้สำหรับตึก A น่าเสียดายเรื่องที่จอดรถ
- ECONOMY CLASS
- 8.13 / 10.00
BOTTOM LINE
Tropicana เป็นโครงการที่เหมาะกับคนโรงงาน หรือทำงานย่านใกล้ๆนี้ เป็นคนไม่ใช้รถ ไม่ชอบเดินทางไปกลับไกลๆ และแอบอยากใช้รถไฟฟ้า มองหาโครงการที่มีฟังค์ชั่นที่เหมาะกับตัวเอง และเน้นวัฒนธรรมรักษ์โลก ประหยัดพลังงาน มีงบประมาณระดับ 1.3 – 2.0 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนราว 8,000 – 13,000 บาท
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ