The Symphony บางพระ – ศรีราชา คอนโด High Rise ริมหาด ห่างจากตลาดหนองมน 3.5 กิโลเมตร จาก ทรีโอเนส [รีวิวฉบับที่ 1985]

รีวิวฉบับที่ 1985 … ใครที่กำลังหาคอนโดตากอากาศวันนี้เราจะพามาชมโครงการใหม่ The Symphony บางพระ – ศรีราชา เป็นโครงการขนาดใหญ่จากทรีโอเนส ที่มีมูลค่าโครงการกว่าหมื่นล้าน ที่ภายในมีคอนโดมิเนียม 6 อาคาร พื้นที่ Community & Wellness Center และโรงแรม โดยวันนี้เราจะพาไปชมคอนโดมิเนียมสูง 42 ชั้นที่มาพร้อมกับสระว่ายน้ำ 2 สระ วิวทะเลมุมสูง และห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ ได้ระเบียงกว้าง ในราคาเริ่มต้น 2.77 ล้านบาท

Fact @ 7 November 2019

• The Symphony Condominium (เดอะซิมโฟนี คอนโดมิเนียม)
• บริษัท ทรีโอเนส อินดัสเทรียล จำกัด
• MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่: ถนน สุขุมวิท อำเภอ เมือง จังหวัด ชลบุรี
• ที่ดินประมาณ 87-2-09 ไร่
• คอนโด High Rise 42 ชั้น 6 อาคาร อาคารละ 760 ยูนิต
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 25 ยูนิต
• ที่จอดรถประมาณ 292 คัน คิดเป็น 38.4% (ถ้ารวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น n/a%) รถจักรยานยนต์ 115 คัน
• เริ่มก่อสร้าง :  กุมภาพันธ์ 2562
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ : เมษายน 2565 (อาคาร B)
• 1 Bedroom 39.31 – 56.56 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.77 ล้านบาท
• 2 Bedrooms 61.59 – 84.01 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.27 ล้านบาท
• 3 Bedrooms 119.52 – 123.77 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 10.48 ล้านบาท
• Penthouse 464.50 – 564.51 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 69.67 ล้านบาท
• ฝ้าเพดานสูง 2.70 เมตร
• ราคาห้องเริ่มต้น 2.77 – 84.60 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 85,000 บาท/ตร.ม.
• ช่วงราคาต่อตารางเมตร ต่ำสุด – สูงสุดประมาณ 71,000 – 150,000 บาท/ตร.ม.
• EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
• เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
• โทร  : 061 568 9999
• Pre-Sale : 23-24 พฤศจิกายน 2562

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.252323, 100.929693
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่ 

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ The Symphony บางพระ – ศรีราชา อยู่ในทำเลที่เข้าถึงได้ไม่ยาก เนื่องจากมีทางเข้า-ออกอยู่ติดถนนสุขุมวิท เลยตัวเมืองชลบุรีมา ผ่านตลาดหนองมนเพียง 3.5 กิโลเมตร ก็จะเจอกับทางเข้าโครงการทางฝั่งขวามือแล้วค่ะ ซึ่งถนนสุขุมวิทเองเป็นถนนเส้นหลักที่เชื่อมระหว่างกรุงเทพฯกับจังหวัดภาคตะวันออกอย่างชลบุรี ระยอง เป็นต้น ทำให้สามารถใช้ถนนเส้นนี้ตรงเข้ากรุงเทพฯ ได้เลย ถือว่าเดินทางสะดวก อีกทั้งยังไม่ไกลจากแหล่งงานย่านนิคมอุตสาหกรรม ทำให้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยแบบถาวรก็ได้เช่นกันค่ะ

บรรยากาศรอบๆทำเลที่ตั้งโครงการเป็นบรรยากาศที่สงบ อยู่ติดชายทะเลถัดจากหาดบางแสน(วงเวียนบางแสน) ลงมาประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นหาดที่มีความเป็นส่วนตัวเนื่องจากชาวบ้านทั่วไปจะเข้ามาใช้งานพื้นที่ได้ค่อนข้างยาก จะต้องผ่านทางเข้าของโครงการมาเท่านั้นค่ะ หรือไม่ก็เข้าถึงได้จากด้านนอกทางเรือเลย ซึ่งโดยรวมแล้วเหมาะกับเป็นพื้นที่พักผ่อนที่ค่อนข้างสงบทีเดียวค่ะ

ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ ค่อนข้างครบครันไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า หรือตลาดให้เลือกซื้อของได้ง่าย อยู่ไม่ไกลจาก  Central Plaza ชลบุรี, Tesco Lotus, Big C, HomePro และตลาดขึ้นชื่ออย่างตลาดหนองมน ที่ใครๆผ่านมาชลบุรีก็ต้องได้แวะซื้อข้าวหลาม ขนมหม้อแกงไปฝากที่บ้านกัน นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น หาดบางแสน, หาดวอนนภา, แหลมแท่น สามารถขับรถไปได้ไม่เกิน 10 นาทีค่ะ และสำหรับคนที่ต้องการอยู่อาศัยแบบจริงจัง ก็มีสถานที่สำคัญอย่างสถานศึกษา อย่างม.บูรพาและ โรงเรียนต่างๆ รวมถึงโรงพยาบาลอยู่ไม่ไกล

เส้นทางที่เราจะพาไปวันนี้ เริ่มจากตัวเมืองชลขับลงมาบริเวณห้าง Tesco Lotus ชลบุรี ตรงมาเรื่อยๆตามถนนสุขุมวิท ผ่านตลาดหนองมน มาประมาณ 3.5 กิโลเมตร แล้วกลับรถ เพื่อเข้าซอยสุขุมวิท 20 ซึ่งเป็นทางเข้าของโครงการ รวมระยะทางประมาณ 13.7 กิโลเมตรค่ะ

เส้นทางการเดินทาง

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ The Symphony บางพระ – ศรีราชา ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่โล่ง มีความเงียบสงบคนไม่พลุกพล่านค่ะ ซึ่งที่ตั้งโครงการอยู่ติดกับชาดหาดเลย ทำให้เข้าถึงได้จากทางถนนสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 20 และจากทางเรือ เท่านั้นค่ะ ซึ่งอาคารทุกๆอาคารในโครงการจะเห็นวิวทะเลเป็นวิวเปิดโล่งทั้งหมด เนื่องจากอาคารรอบๆไม่มีอาคารสูงอยู่เลย จะมีก็แต่ทิศใต้ที่ใกล้กับโครงการ Casalunar ค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า, บ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 2 ชั้น
• ทิศตะวันออก ติดกับ  ที่ดินเปล่า, ถนนสุขุมวิท
• ทิศใต้ ติดกับ โครงการ Casalunar Paradiso 3 อาคารสูง 19-25 ชั้น
• ทิศตะวันตก ติดกับ ชาดหาดทะเลอ่าวไทย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• ตลาดหนองมน ~ 3.5 กิโลเมตร
• ตลาดบางพระ ~ 5 กิโลเมตร
• มหาวิทยาลัยบูรพา ~ 6.6 กิโลเมตร
• หาดบางแสน ~ 8 กิโลเมตร
• อ่างเก็บน้ำบางพระ ~ 9.2 กิโลเมตร
• Big C ชลบุรี ~ 10 กิโลเมตร
• Robinson ศรีราชา ~ 10.4  กิโลเมตร
• Lotus ชลบุรี ~ 13.3 กิโลเมตร
• ห้าง Central ชลบุรี ~ 13.9  กิโลเมตร
• โรงพยาบาล ชลบุรี ~ 14.4 กิโลเมตร
• แหลมฉบัง ~ 21 กิโลเมตร

เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ The Symphony บางพระ – ศรีราชา เป็นโครงการ Mix-Used ขนาดใหญ่ภายในมีคอนโดมิเนียม 6 อาคาร, Community Mall, โรงแรม และสำนักงาน อย่างละ 1 อาคาร ซึ่งวันนี้เราจะพามาชม อาคารที่เป็นคอนโดมิเนียมกันค่ะ อาคารแรกที่กำลังก่อสร้างและจะเปิดขายก่อนก็คืออาคาร B ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ใกล้กับส่วนโรงแรม และใกล้ชายหาดอีกด้วย

โดยคอนโดมิเนียมทั้ง 6 อาคารจะมีการวางหันทิศทางแตกต่างกัน โดยแต่ละอาคารสามารถมองเห็นวิวทะเลได้ ซึ่งแต่ละอาคารนั้นจะแยกทางเข้า – ออกและนิติบุคคลกันชัดเจนค่ะ ตรงกลางจะเป็นพื้นที่ของ Community Mall & Wellness Center ขนาดใหญ่ สามารถเดินมาใช้งานร่วมกันได้สะดวก มีโรงแรมเป็นโรงแรมขนาดเล็กสูงประมาณ 3-4 ชั้น อยู่ริมชายหาดสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวหรือแขกของลูกบ้านในคอนโดมิเนียมได้ นอกจากนั้นภายในโครงการยังมีท่าเรือส่วนตัวให้บริการด้วยค่ะ

มาดูทางเข้าโครงการกันก่อนค่ะ เมื่อเข้ามาจากถนนสุขุมวิท (ซอยสุขุมวิท 20) แล้วจะเจอกับวงเวียน แยกเส้นทางไปยังทางเข้าแต่ละอาคารเพื่อลดความหนาแน่นในการสัญจรเข้าแต่ละอาคารลงค่ะ

ถัดจากวงเวียนเข้ามาเป็นพื้นที่ Community Mall & Wellness Center ภายในมีร้านค้าหลากหลาย มีบริการสปา นวด และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เหมาะกับการมาพักผ่อนทีเดียวค่ะ

ริมชายหาดจะมีอาคารสูง 3-4 ชั้นอยู่ด้านหน้าเป็นพื้นที่ของโรงแรม และอาคารสำนักงานค่ะ

นอกจากนั้นยังมีท่าเรือส่วนตัวให้สำหรับคนที่มีเรือส่วนตัวหรือเจ็ทสกีมาจอดได้

คอนโดมิเนียมทั้ง 6 โครงการจะมีการออกแบบสถาปัตยกรรมเหมือนกันหมดทุกอาคาร ซึ่งวันนี้เราจะพามาดูอาคาร B ที่เปิดการขายเป็นอาคารแรกกันค่ะ ซึ่งพื้นที่ดินต่ออาคารประมาณ 6 ไร่ ความสูง 42 ชั้น จำนวนห้องพักอาศัย 760 ยูนิต แบ่งเป็นชั้น 1-5 เป็นพื้นที่จอดรถ สามารถจอดได้ทั้งหมด 292 คันต่ออาคาร คิดเป็น 38.4 % และมีที่จอดรถสำหรับรถจักรยานยนต์ 115 คัน ชั้น 6 เป็นชั้นรวม Facility ต่างๆภายในโครงการ ชั้น 7-38 เป็นชั้นห้องพักอาศัยทั่วไปประกอบด้วยห้อง 1-3 Bedroom ค่ะ ส่วนชั้น 39-42 จะเป็นห้อง Penthouse แบบความสูง 2 ชั้น (Duplex) มีสระว่ายน้ำส่วนกลางอีกจุดอยู่ที่ชั้น 41 ซึ่งเป็นชั้นส่วนกลางที่ได้วิวสูงมากทีเดียวค่ะ การออกแบบสถาปัตยกรรมของอาคารเน้นการใช้เส้นโค้งเป็นแนวคลื่นบริเวณระเบียงฝั่งที่หันหน้าเข้าหาทะเล แต่ละชั้นมีเส้นโค้งที่สลับกันไปมา ซึ่งห้องที่หันหน้าเข้าหาทะเลจะเป็นห้องที่ได้ระเบียงค่อนข้างกว้างเลยค่ะ 

มาดูพื้นที่อาคารชั้น 1 กันก่อนนะคะ ชั้นนี้ภายในอาคารส่วนใหญ่จะเป็นที่จอดรถ แบบ Conventional สามารถจอดได้ประมาณ 292 คัน คิดเป็น 38.4% สำหรับคนที่เข้าอาคารที่จุด Drop Off เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ Lobby ต้อนรับ ซึ่งบริเวณนี้จะมีลิฟต์ 2 ชุดเชื่อมต่อกันระหว่างชั้น 1-6 ค่ะ เมื่อเข้ามาอีกจะเจอกับโถงลิฟต์ มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 4 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการประมาณ 190 : 1 ซึ่งถือว่าค่อนข้างหนาแน่นสำหรับคอนโดมิเนียมทั่วไป แต่สำหรับคอนโดพักตากอากาศที่อาจจะมีคนเข้ามาใช้งานไม่พร้อมกันนัก ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่พอใช้ไม่หนาแน่นมากค่ะ

ชั้น 6 เป็นชั้น Facility รวมของโครงการ เมื่อออกมาจากลิฟต์จะเจอกับส่วน Lobby Lounge ก่อน ซึ่งจะมีทางเดินไปยังห้อง Library และ Kid room ซึ่งสามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำและวิวทะเลได้ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นพื้นที่วิวภูเขา ตรงนี้จะมีห้องนิติบุคคลอยู่ด้วยค่ะ ส่วนพื้นที่ภายนอกอาคารจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งขวามือเป็นห้อง Fitness พร้อมห้องอาบน้ำ และด้านในมีห้อง Classroom สำหรับจัดบรรยาย สัมมนาเล็กๆได้ ส่วนฝั่งซ้ายมีพื้นที่ Semi Outdoor เป็นบาร์นั่งดื่ม เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ และมีห้อง Meeting Room แยกเป็นห้องเล็กๆได้ 3 ห้องค่ะ สระว่ายน้ำบริเวณชั้น 6 เป็นสระขนาดใหญ่ระบบเกลือ มีความยาวมากที่สุดอยู่ที่ 60 เมตรเลย ด้านข้างก็มีพื้นที่นั่งเล่นชมวิวทะเลได้ค่ะ

บรรยากาศจำลองบริเวณ Lobby ชั้น 6 เมื่อขึ้นมาบนอาคารแล้วจะเจอกับ Reception เป็นโถงสูงเน้นการตกแต่งโทนสีครีม ตัดกับสีทองดูเรียบหรู มีพื้นที่นั่งพักคอยก่อนจะเข้าไปยังโถงลิฟต์ค่ะ

บรรยากาศจำลองบริเวณ Lobby ชั้น 6 มีพื้นที่นั่งเล่น และส่วนที่เป็นแนวกระจกโค้งมองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกริมทะเลได้

ภายในห้อง Fitness มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ภายในมีเครื่องออกกำลังกายหลากหลาย พร้อมกับผนังกระจกสูง ตลอดแนวทำให้มองเห็นวิวฝั่งทะเลได้แบบพาโนรามา

ภายในห้อง Library จะแยกออกมาจากส่วนของ Lobby ให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เหมาะกับการมานั่งอ่านหนังสือหรือนั่งทำงาน ที่มีความสงบ แต่ก็ยังสามารถชมวิวได้เต็มที่เช่นกันค่ะ

สระว่ายน้ำที่ชั้น 6 เป็นสระรูปทรงโค้ง Free Form ระบบเกลือขนาดประมาณ 60 x 10 เมตร ลึก 1.2 เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริงๆ พร้อมกับแบ่งสระเด็กมาด้วยค่ะ ด้านข้างมีพื้นที่นั่งเล่นสามารถมองวิวพระอาทิตย์ตกริมทะเลได้

ชั้น 7 – 15 เป็นชั้น Typical Floor จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละชั้นตรงความโค้งเป็นคลื่นของระเบียงทำให้แต่ละห้องได้พื้นที่ระเบียงที่แตกต่างกันค่ะ โดยแต่ละชั้นจะมีห้องพักอาศัยอยู่ที่ 25 ยูนิต แบ่งเป็นฝั่งขวา 14 ยูนิต และฝั่งซ้าย 11 ยูนิต มีโถงทางเดินแบบ Double Corridor มีการวางผังให้ประตูไม่ตรงกันทำให้มีความเป็นส่วนตัว มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลางอาคารทำให้เดินไปยังห้องพักอาศัยทั้ง 2 ฝั่งได้สะดวก และการที่ทำอาคารเป็น 2 ฝั่งเหลื่อมกันทำให้มีห้องมุม (ห้อง 2 Bedroom สีชมพู) เพิ่มขึ้นมาค่ะ

ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 1 Bedroom โดยจะมีห้อง 1 Bedroom ขนาดเล็ก (สีเทาอ่อน) หันหน้าไปทางฝั่งถนนสุขุมวิท ได้วิวภูเขาอยู่ไกลๆค่ะ ส่วนห้อง 1 Bedroom ขนาดใหญ่ (สีครีม) จะหันหน้าไปทางทะเล ได้พื้นที่ระเบียงกว้าง มีห้อง 2 Bedroom อยู่ตรงมุมกลางอาคาร (สีน้ำตาล) และห้องใหญ่อย่าง 3 Bedroom เห็นวิวได้ทั้ง 3 ทิศทางอยู่ที่มุมอาคารทั้ง 2 ฝั่งค่ะ

ชั้น 16 – 38 เป็นชั้นพักอาศัยที่เป็น Typical Floor เช่นกันค่ะ มีการวางผังแบบเดิมแต่จะมีจำนวนยูนิตอยู่ที่ 23 ยูนิตต่อชั้น เนื่องจากมีห้องขนาดใหญ่ 2 Bedroom (สีน้ำตาลอ่อน) เพิ่มขึ้นมาในฝั่งที่หันหน้าเข้าหาทะเลค่ะ ส่วนโถงทางเดินจะได้แบบ Double Corridor เช่นกัน

ชั้น 39 – 40 เป็นชั้นห้องพักอาศัยแบบ Penthouse Duplex ซึ่งจะมีเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น และได้โถงทางเดินเป็น Single Corridor ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง ภายในห้อง Penthouse แต่ละยูนิตจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัว เป็นห้องหน้ากว้างหันหน้าเข้าหาทะเล มีห้องนอน 4 ห้องและมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง จัดแบ่งพื้นที่การใช้งานภายในให้มีระเบียงส่วนตัวทุกๆห้องนอน และสามารถชมวิวทะเลได้ทุกกิจกรรมภายในห้องเลยค่ะ

ชั้น 41 – 42 เป็นชั้นห้องพักอาศัยแบบ Penthouse Duplex เช่นกันแต่จะแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำทางฝั่งซ้ายมือ ส่วนฝั่งขวาจะเป็นพื้นที่ห้อง Penthouse จำนวน 2 ยูนิตค่ะ ชั้นนี้จะมีลูกบ้านที่อยู่ชั้นอื่นๆเข้ามาใช้งานได้ อาจจะทำให้คนที่อยู่ Penthouse เสียความเป็นส่วนตัวไปบ้างเนื่องจากไม่ได้มีประตูกั้นแยกระหว่างพื้นที่ส่วนกลางกับส่วนพักอาศัยมาให้ค่ะ

ส่วนสระว่ายน้ำจะได้เป็นสระยาวประมาณ 45 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กมาให้ และมีพื้นที่ห้องอาบน้ำมาให้เรียบร้อยค่ะ การที่มีพื้นที่สระว่ายน้ำมาให้ 2 จุดจะช่วยลดจำนวนความหนาแน่นในการใช้งานลง ทำให้คนไม่พลุกพล่านเหมาะกับการมาพักผ่อนมากขึ้นค่ะ

บนชั้น 41 จะมีสระว่ายน้ำส่วนกลางที่ลูกบ้านสามารถขึ้นมาใช้งานได้ มองเห็นวิวมุมสูง และคงได้ลมแรงตลอดทั้งวัน เหมาะกับการมานั่งเล่นพักผ่อน ชมบรรยากาศค่ะ

บรรยากาศจำลองบริเวณสระว่ายน้ำส่วนกลางชั้น 41 เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาดประมาณ 45 x 10 เมตร ลึก 1.2 เมตร มองเห็นวิวทะเลในมุมสูงแบบพาโนรามาเลย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• Lobby Lounge
• สวนหย่อมที่ชั้น 1 และ 6
• สระว่ายน้ำระบบ เกลือ

• ชั้น 6 ขนาด 60 x 10 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• ชั้น 41 ขนาด 45 x 10 เมตร ลึก 1.20 เมตร

Product Walkthrough

ห้องพักอาศัยภายในโครงการมีทั้งหมด 4 ประเภท คือ

• 1 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 39.31 – 56.56 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.77 ล้านบาท
• 2 Bedrooms ขนาดตั้งแต่ 61.59 – 84.01 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.27 ล้านบาท
• 3 Bedrooms ขนาดตั้งแต่ 119.52 – 123.77 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 10.48 ล้านบาท
• Penthouse ขนาดตั้งแต่ 464.50 – 564.51 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 69.67 ล้านบาท

ทางโครงการมีรูปแบบการขายแบบ Fully Furnished ซึ่งจะมีโปรโมชั่นพร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in , เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และเครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้ด้วย ถือว่ามีครบพร้อมหิ้วกระเป๋ามาเข้าอยู่ได้เลย โดยจะได้เฟอร์นิเจอร์ ดังนี้ (รายการเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ภายในห้อง 1 Bedroom อาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามเงื่อนไขการขายค่ะ)

• Built-in

• ผนังตกแต่งหัวเตียงและฐานเตียง
•  ชุดโต๊ะเครื่องแป้ง
• ชุดครัว
• ตู้เสื้อผ้า
• ผนังตกแต่งและชั้นวาง TV
• ตู้รองเท้า

• โซฟา
• ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร
• โต๊ะกลาง

• เครื่องปรับอากาศ
• ตู้เย็น
• TV
• เครื่องดูดควัน(แบบดูดอากาศออกภายนอก)
• เครื่องปรับอากาศ
• เครื่องทำน้ำอุ่น (ถ้าห้อง 2 Bedroom ภายในห้อง Master Bedroom จะได้เครื่องทำน้ำร้อน)

เรามาดูห้องแรกเป็นห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการกันก่อน นั่นก็คือห้อง 1 Bedroom ขนาด 46.17 – 56.56 ตารางเมตร เป็นห้องระเบียงกว้างหันหน้าเข้าหาทะเล ภายในแบ่งพื้นที่การใช้งานค่อนข้างเป็นสัดส่วนค่ะ เข้ามาภายในห้องจะเจอกับส่วนครัวซึ่งเป็นครัวเปิด ไม่เน้นการทำอาหารที่จริงจังมากนักเนื่องจากกลิ่นสามารถฟุ้งกระจายภายในห้องได้ แต่เนื่องจากเป็นคอนโดมิเนียมตากอากาศอาจจะไม่ได้ใช้งานบ่อยนัก หรือทำอาหารทั้งทีก็สามารถเปิดประตูระเบียงออกเพื่อระบายอากาศและรับลมเข้าได้เลยค่ะ ซึ่งพื้นที่ครัวจะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นทำให้ห้องดูกว้าง รับแสงธรรมชาติเข้ามาจากทางระเบียงได้เต็มที่ มีห้องน้ำที่สามารถเข้าได้จากทั้ง 2 ทาง คือทางห้องครัวและห้องนอนทำให้สามารถเดินเข้าใช้งานได้สะดวก ส่วนห้องนอนจะแยกเป็นสัดส่วนอยู่ด้านหลังห้องนั่งเล่นซึ่งจะกั้นด้วยผนังกระจกใส สามารถนอนดู TV ที่ห้องนั่งเล่นได้ ภายในห้องนอนมีพื้นที่ Walk-in Closet เป็นสัดส่วน และสามารถเดินออกไปยังระเบียงได้เช่นกันค่ะ ซึ่งพื้นที่ระเบียงที่ได้ฝั่งทะเลจะได้ค่อนข้างกว้าง (มีขนาดตั้งแต่ 9-16 ตารางเมตร ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง) สามารถเอาโต๊ะรับประทานอาหารหรือที่นั่งสบายๆ ออกไปนอนชมวิวที่ระเบียงได้เลย ซึ่งบรรยากาศภายในห้องจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ

ประตูทางเข้าห้องเป็นประตูบานไม้แดง HDF มีตาแมวและมือจับแบบก้านโยกมาให้

เข้ามาภายในห้องแล้วจะเจอกับครัวเปิด เชื่อมต่อไปยังห้องนั่งเล่นทำให้พื้นที่กว้าง และโปร่งมากขึ้น ซึ่งภายในห้องจะปูด้วยพื้นลามิเนตลายไม้ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.70 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่พอดีๆกับการอยู่อาศัยทั่วไปค่ะ ซึ่งผนังห้องจะเป็นแบบก่ออิฐฉาบเรียบทาสีขาว ทำให้ใครอยากทุบหรือต่อเติมเพิ่มก็จะสามารถทำได้ ภายในห้องยังได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาจากประตูระเบียงซึ่งค่อนข้างทั่วถึงทั้งห้องเลยค่ะ

ย้อนกลับไปดูที่ทางเข้าห้องจะเจอกับเคาน์เตอร์ครัวทางฝั่งขวามือ และห้องน้ำทางฝั่งซ้ายมือค่ะ

เมื่อเข้าห้องมาแล้วจะเจอกับตู้รองเท้า ซึ่งโครงการ Built-in มาให้เรียบร้อยหยิบใช้งานได้สะดวก ส่วนชั้นด้านบนจะเป็นช่องระบบควบคุมไฟ (Breaker)ภายในห้องค่ะ

เราเข้ามาดูห้องน้ำกันก่อนนะคะ ภายในห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน ภายในจะมีการตกแต่งด้วยโทนสีและอุปกรณ์มาให้เหมือนกับภายในห้องตัวอย่างเลย

พื้นห้องน้ำปูด้วยประเบื้องเซรามิค มีการลดระดับลงเล็กน้อยเพื่อให้น้ำไม่กระเด็นออกด้านนอกเวลาทำความสะอาดค่ะ และภายในห้องน้ำยังสามารถเข้าถึงได้จากทั้ง 2 ทางคือจากห้องนอนและจากบริเวณห้องครัวค่ะ

บริเวณอ่างล้างหน้ามีกระจกเงามาให้ พร้อมเคาน์เตอร์ติดตั้งอ่างเซรามิคสีขาวมีชั้นเก็บของด้านล่าง สามารถเก็บของเล็กๆน้อยๆหรืออุปกรณ์ทำความสะอาดได้ จาก American Standard หรือเทียบเท่า(Kohler)

โถสุขภัณฑ์เป็นโถสีขาว จาก American Standard หรือเทียบเท่า พร้อมอุปกรณ์ประกอบระยะโถสุขภัณฑ์ถือว่าทั่วไปนั่งได้พอดีๆ แต่อาจจะต้องเอื้อมมือไปด้านหลังเพื่อหยิบสายชำระหรือกระดาษทิชชูสักเล็กน้อยนะคะ

พื้นที่สำหรับอาบน้ำมีฉากกั้นกระจกมาให้ เป็นแบบเปิดเข้าด้านในเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

พื้นที่ห้องอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.20 x 0.95 เมตร สามารถยืนอาบได้สบายๆ มีการติดตั้งฝักบัวสายอ่อน และ Rain Shower มาให้จาก Karat พร้อมติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เลยค่ะ ส่วนพื้นที่วางของก็ไม่ต้องห่วงไปเพราะทางโครงการได้เว้าผนังด้านข้างมาให้สามารถวางของได้ 2 ชั้นไม่ต้องติดตั้งชั้นวางเพิ่มเองค่ะ

ออกมาดูครัวกันบ้าง ซึ่งภายในห้องนี้จะได้เป็นครัวเปิด สำหรับใครที่ชอบทำอาหารจริงจังและอยากได้ครัวปิดก็สามารถกั้นเพิ่มเติมเองได้ ซึ่งเคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะเป็นเคาน์เตอร์แนวยาว มีพื้นที่ด้านข้างเว้นสำหรับวางตู้เย็นมาให้ พร้อมชั้นเก็บของ Built-in ด้านบนด้วยค่ะ

Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาวมีติดตั้งอ่างล้างจานและเตาไฟฟ้ามาให้ แต่จะไม่ได้ Backsplash ด้านหลังนะคะ แนะนำให้ติดตั้งเพิ่มเติม เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาดและลดคราบสกปรกจากการทำอาหารได้ค่ะ ซึ่งบริเวณเคาน์เตอร์จะมีพื้นที่เตรียมอาหารค่อนข้างเยอะสามารถวางของ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น กาต้มน้ำ ฯลฯ เพิ่มเติมได้ค่ะ

บริเวณเคาน์เตอร์ติดตั้ง อ่างล้างจานสเตนเลส เตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันแบบดูดอากาศออก จาก Teka มาให้เรียบร้อยหน้าตาเหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ชั้นเก็บของด้านบน (ภาพซ้าย) มีพื้นที่เก็บของที่เป็นบานเปิดมาให้ 2 ช่อง พร้อมชั้นวางของที่หยิบของได้สะดวกบริเวณเหนือตู้เย็น และฝั่งขวามือจะมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟมาให้ (มีปลั๊กไฟ) ช่วยประหยัดพื้นที่เตรียมอาหารบนเคาน์เตอร์ได้ค่ะ

ช่องเก็บของด้านล่าง (ภาพขวา) จะแบ่งเป็นช่องใต้อ่างล้างจานสามารถเก็บของขนาดใหญ่ หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆได้ ตรงกลางเป็นลิ้นชักสำหรับเก็บ จาน ชาม ช้อน ส้อม เพื่อให้หยิบใช้งานได้สะดวก ส่วนฝั่งขวาสุดเป็นพื้นที่สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าได้ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามจะมีพื้นที่สำหรับโต๊ะรับประทานอาหารมาให้ สามารถวางได้ประมาณ 2 ที่นั่งค่ะ

ถัดมาเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น มีขนาดประมาณ 2.80 x 2.50 เมตร สามารถวางโต๊ะกลางขนาดเล็กได้ แต่แนะนำให้เลื่อนไปใกล้กับโซฟาเพื่อความสะดวกในการเดินเข้า-ออกค่ะ พื้นที่นั่งเล่นมีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.50 เมตร เหมาะกับวาง TV ขนาดประมาณ 32 นิ้วค่ะ และห้องนั่งเล่นจะได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากระเบียงเข้ามาเพียงพอเลย

ซึ่งทางโครงการได้มีการตกแต่งผนัง และ Built-in ชั้นวาง TV มาให้เลย เพื่อความสวยงาม พร้อมเข้าอยู่ได้จริงๆเลยค่ะ ด้านข้างชั้นวาง TV มีพื้นที่เหลือสามารถ Built-in ชั้นวางของเพิ่มเติมได้ หรือถ้าใครอยากให้ห้องดูกว้างขึ้นก็สามารถย้ายโต๊ะรับประทานอาหารมาวางไว้ชิดผนังด้านนี้ก็ได้เช่นกันนะคะ

ชั้นวาง TV ที่ได้จะเป็นลิ้นชักเลื่อนออกมา 4 ช่องแบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ สามารถหยิบของใช้งานได้สะดวก

ส่วนด้านหลังโซฟาจะเป็นห้องนอนมีผนังเป็นกระจกใสกรอบบานอลูมิเนียม มีบานเลื่อนเปิด 1 ช่อง สามารถดู TV ได้จากห้องนั่งเล่น แต่เสียดายนิดนึงตรงที่ไม่สามารถเปิดประตูสุดได้ อาจจะไม่ได้ยินเสียง TV ชัดเจนค่ะ

จากห้องนั่งเล่นและห้องนอนสามารถเชื่อมต่อมายังระเบียงขนาดใหญ่ได้เลย โดยประตูระเบียงจะเป็นบานเลื่อนกระจกใส กรอบบานอลูมิเนียม Powder Coat สีเทาผิวซาฮาร่ามาให้แบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

พื้นระเบียงลดระดับจากพื้นห้องประมาณ 5 เซนติเมตร ปูกระเบื้องเซรามิคมาให้ทำความสะอาดได้ง่ายและมีช่องระบายน้ำมาให้กันน้ำไหลเข้าสู่ตัวห้องได้ค่ะ

ส่วนราวกันตกระเบียงจะได้เป็นกระจกใสไร้กรอบ มีราวจับสเตนเลสมาให้ ทำให้มองเห็นวิวได้กว้าง ไม่มีขอบกระจกมาบังสายตาค่ะ

ผ้าเพดานบริเวณระเบียงจะเป็นทางโค้งรูปคลื่นซึ่งจะเป็นรูปร่างของระเบียงชั้นบน ซึ่งจะไม่ตรงกับระเบียงชั้นของเราค่ะ ทำให้มีพื้นที่ระเบียงบางส่วนได้รับแสงแดดบ้าง เป็นความรู้สึกที่แตกต่างกันไปในแต่ละตำแหน่งห้องค่ะ ส่วนผนังบริเวณระเบียงที่ติดกับห้องอื่นๆจะได้เป็นผนังสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานเลยนะคะ

เรามาดูห้องนอนกันบ้างค่ะ

ภายในห้องนอนเมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ตรงกลาง ฝั่งขวามือเป็นตู้เสื้อผ้าซึ่งทางโครงการ Built-in มาให้เลยค่ะ และทางซ้ายเป็นพื้นที่สำหรับวางเตียงซึ่งจะได้ผนังตกแต่งลายไม้หัวเตียงและฐานเตียงมาให้

โต๊ะเครื่องแป้งจะได้ชั้นวางของและลิ้นชักมาให้ 2 ช่อง เก็บของเล็กๆน้อยๆได้ ซึ่งขนาดจะพอดีกับพื้นที่ไม่ต้องหาซื้อเองให้ยุ่งยาก หน้าตาที่ได้เหมือนกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ส่วนเตียงจะมีพื้นที่เดินปลายเตียงได้แต่เนื่องจากเป็นผนังกระจกทำให้ไม่สามารถติด TV ในห้องนอนได้นะคะ จะต้องดู TV ที่ห้องนั่งเล่นแทน แต่ก็อาจจะไม่เหมาะนักเนื่องจากมีผนังกั้นทำให้ไม่ได้ยินเสียงมากนัก จึงเป็นห้องที่เหมาะกับการนอนชมวิวทะเลเสียมากกว่าค่ะ

พื้นที่ด้านข้างเตียงสามารถเดินได้รอบ และวางโต๊ะข้างเตียงเล็กๆสำหรับวางโคมไฟอ่านหนังสือได้ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะถ้าใครที่ใช้ตู้เสื้อผ้าไม่พอก็สามารถ Built-in ตู้อีกฝั่งเพิ่มเติมได้นะคะ

ซึ่งตู้เสื้อผ้าที่โครงการ Built-in มาให้จะได้เป็นบานเปิด 3 บาน มีบานกระจกด้านข้างมองเห็นของด้านในได้ เมื่อเปิดออกมาแล้วจะมีไฟติดอัตโนมัติค่ะ ด้านในมีราวแขวนผ้าและชั้นเก็บของลิ้นชักมาให้หน้าตาเหมือนกับห้องตัวอย่างเลย

ห้องที่ 2 เป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 77.72-81.34 ตารางเมตร แบ่งการใช้งานเป็นสัดส่วน เมื่อเข้าห้องมาแล้วจะเจอกับ Common Area ก่อน ซึ่งเป็นพื้นที่ครัวเปิด เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น ทำให้ห้องดูโปร่งและได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากทางระเบียง โดยรวมแล้วผังห้องเหมือนกับห้อง 1 Bedroom ที่ผ่านมาเลยค่ะ แต่จะเพิ่มห้องนอน Master Bedroom ขึ้นมา อีกฝั่งหนึ่ง ได้ผนังทึบทั้ง 2 ห้องนอน มีความเป็นส่วนตัว ซึ่งห้อง Master Bedroom ที่ได้เป็นห้องที่มีห้องน้ำในตัว มีอ่างอาบน้ำและระบบทำน้ำร้อนเพิ่มมาให้ มีระเบียงยาวเชื่อมต่อกันทั้ง 3 ส่วน ห้องนี้เหมาะกับอยู่เป็นครอบครัว 2-4 คนสำหรับเป็นบ้านหลังที่ 2 หรือบ้านพักตากอากาศค่ะ

เข้ามาภายในห้องแล้วจะเจอกับครัวเปิดก่อนมีพื้นที่เชื่อมต่อไปยังห้องนั่งเล่นทำให้พื้นที่กว้าง ซึ่งภายในห้องจะปูด้วยพื้นลามิเนตลายไม้ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.70 เมตร เหมือนกับห้อง 1 Bedroom ค่ะ ซึ่งผนังห้องจะเป็นแบบก่ออิฐฉาบเรียบทาสีขาวมีผนังตกแต่งให้ที่ห้องนั่งเล่น ภายในห้องยังได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาจากประตูระเบียง

มองกลับไปที่ด้านหน้าห้องจะเจอกับเคาน์เตอร์ครัวทางฝั่งซ้ายมือ และห้องน้ำทางฝั่งขวามือค่ะ สำหรับโต๊ะรับประทานอาหาร สามารถวางชิดผนังฝั่งชั้นวาง TV ได้จะช่วยให้ห้องมีพื้นที่ทางเดินเพิ่มมากขึ้นค่ะ

เมื่อเข้าห้องมาแล้วจะเจอกับตู้รองเท้า ซึ่งโครงการ Built-in มาให้ ด้านบนเป็นช่อง Breaker ค่ะ หน้าตาเหมือนกับห้องตัวอย่างค่ะ

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีฉากกั้นกระจกมาให้ และสามารถเข้าได้จากทางห้องครัวและห้องนอนเล็กค่ะ

บริเวณอ่างล้างหน้ามีกระจกเงามาให้ พร้อมเคาน์เตอร์ติดตั้งอ่างเซรามิคสีขาวมีชั้นเก็บของด้านล่าง จาก American Standard หรือเทียบเท่า(Kohler)

โถสุขภัณฑ์เป็นโถสีขาว พร้อมอุปกรณ์ประกอบ จาก American Standard หรือเทียบเท่า มีระยะที่สามารถนั่งได้สบายๆค่ะ

พื้นที่สำหรับอาบน้ำมีฉากกั้นกระจกมาให้ ด้านในมีขนาดประมาณ 1.35 x 0.80 สามารถยืนอาบได้สบายๆ ผนังมีช่องสำหรับวางของสบู่ แชมพู และมีการติดตั้งฝักบัวสายอ่อน, Rain Shower มาให้จาก Karat พร้อมติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เลยค่ะ

ภายในห้องจะได้เป็นพื้นที่ครัวเปิด ไม่มีพื้นที่สำหรับกั้นครัวปิดมาให้นะคะ เหมาะกับคนที่ไม่ทำอาหารจริงจังมากนัก ซึ่งเคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะเป็นเคาน์เตอร์แนวยาว มีพื้นที่ด้านข้างเว้นสำหรับวางตู้เย็นมาให้ พร้อมชั้นเก็บของ Built-in ด้านบนเหมือนกับในห้อง 1 Bedroom

Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาวมีติดตั้งอ่างล้างจานสเตนเลส เตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันแบบดูดอากาศออก จาก Teka มาให้แต่จะไม่ได้ Backsplash ด้านหลังค่ะ แนะนำให้ติดเพิ่มเติมเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาดค่ะ  ซึ่งบริเวณเคาน์เตอร์จะมีพื้นที่เตรียมอาหารค่อนข้างเยอะสามารถวางของ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น กาต้มน้ำ ฯลฯ เพิ่มเติมได้เลย

โต๊ะรับประทานอาหารของห้อง 2 Bedroom จะได้เป็นโต๊ะ 4 ที่นั่ง แนะนำให้วางติดผนังจะช่วยให้มีพื้นที่สำหรับทำครัวมากขึ้นค่ะ

พื้นที่ห้องนั่งเล่น มีขนาดประมาณ 3.00 x 2.50 เมตร สามารถวางโต๊ะกลางขนาดเล็กได้มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.70 เมตร เหมาะกับวาง TV ขนาดประมาณ 32-40 นิ้วค่ะ และห้องนั่งเล่นจะได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากระเบียงมีการดรอปฝ้าบริเวณห้องนั่งเล่นมาให้เพื่อซ่อนรางม่านให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น

ทางโครงการได้มีการตกแต่งผนัง และ Built-in ชั้นวาง TV มาให้เรียบร้อย อาจจะคนละลายและชนิดกับห้องตัวอย่างนะคะ แต่มีการตกแต่งมาให้ นอกจากนั้นพื้นที่ด้านข้างชั้นวาง TV สามารถ Built-in ชั้นวางของเพิ่มเติมได้ หรือถ้าใครอยากให้ห้องดูกว้างขึ้นก็สามารถย้ายโต๊ะรับประทานอาหารมาวางไว้ชิดผนังด้านนี้ก็ได้ค่ะ

ชั้นวาง TV ที่ได้จะเป็นลิ้นชักเลื่อนออกมา 4 ช่องแบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ สามารถหยิบของใช้งานได้สะดวก

จากห้องนั่งเล่นและห้องนอนสามารถเชื่อมต่อมายังระเบียงขนาดใหญ่ได้เลย โดยประตูระเบียงจะเป็นบานเลื่อนกระจกใส กรอบบานอลูมิเนียม Powder Coat สีเทาผิวซาฮาร่ามาให้เช่นเดียวกับห้อง 1 Bedroom ซึ่งพื้นที่ระเบียงแต่ละห้องของฝั่งทะเลจะมีพื้นที่ตั้งแต่ 9-16 ตารางเมตรเลยค่ะ

ราวกันตกระเบียงจะได้เป็นกระจกใสไร้กรอบ มีราวจับสเตนเลสมองเห็นวิวได้กว้าง เหมาะกับการเอา Sofa Bed หรือโต๊ะทานข้าวออกมานั่งทำบาร์บีคิวกิน หรือจัดปาร์ตี้กับเพื่อนๆโดยใช้พื้นที่ระเบียงได้เลยค่ะ

มาดูห้องนอนรองกันก่อนนะคะ แม้จะเป็นห้องนอนรองแต่ก็มีพื้นที่พอๆกับห้อง Master Bedroom เลย เมื่อเข้าห้องมาแล้วจะเจอกับโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า ซึ่งห้องนี้ก็จะได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in มาให้เช่นกันค่ะ

ห้องนี้มีขนาดประมาณ 3.30 x 2.60 เมตร มีฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ สามารถติดตั้ง TV ที่ผนังปลายเตียงได้เลยค่ะ แนะนำเป็น TV แบบแขวนผนังจะทำให้มีพื้นที่เดินได้รอบเตียงสบายๆค่ะ ซึ่งห้องนอนห้องนี้ก็จะได้แสงธรรมชาติและมองเห็นวิวผ่านประตูระเบียงเช่นกันค่ะ

ผนังบริเวณหัวเตียงทางโครงการมีการตกแต่งมาให้ (ลวดลายและแบบอาจจะแตกต่างจากห้องตัวอย่างนะคะ)

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำที่เข้าได้ร่วมกันกับ Common Area ค่ะ

ตู้เสื้อผ้าที่โครงการ Built-in มาให้จะได้เป็นบานเปิด 3 บาน มีบานกระจกด้านข้างมองเห็นของด้านในได้ เมื่อเปิดออกมาแล้วจะมีไฟติดอัตโนมัติค่ะ เหมือนกับห้อง 1 Bedroom เลย ซึ่งถือว่าใส่เสื้อผ้าได้ค่อนข้างเยอะนะคะ

ถัดมาเรามาดูห้อง Master Bedroom กันบ้างซึ่งทางเข้าจะอยู่ด้านหลังโซฟาของห้องนั่งเล่นนั่นเองค่ะ ห้องนี้เราจะได้ผนังของห้องนอนเป็นผนังทึบ เพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่ถ้าใครอยากปรับเปลี่ยนเป็นผนังกระจกก็สามารถทำได้เนื่องจากเป็นผนังแบบก่ออิฐค่ะ (ต้องขออนุญาติจากทางโครงการก่อนนะคะ)

เข้ามาภายในห้อง Master Bedroom จะมีการวางผังคล้ายกันกับห้องนอนรองค่ะ มีพื้นที่วางเตียงนอนอยู่ชิดกับระเบียง และมี Walk-in Closet ทางฝั่งขวามือ เชื่อมต่อกับห้องน้ำทำให้ใช้งานได้สะดวก ส่วนตรงกลางจะเป็นพื้นที่สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ (ซึ่งรูปแบบของโต๊ะเครื่องแป้งจะไม่ใช่แบบที่เห็นในภาพนะคะ หน้าตาเป็นแบบไหนเดี๋ยวเราพาไปชมกันต่อค่ะ)

ห้องนอนห้องนี้มีขนาดประมาณ 3.00 x 2.60 เมตร ซึ่งทางโครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ มีพื้นที่เดินได้รอบเตียง และสามารถติดตั้ง TV แบบแขวนผนังได้เช่นกันค่ะ ซึ่งห้องนอนห้องนี้ก็จะได้แสงธรรมชาติและมองเห็นวิวผ่านประตูระเบียงขนาดใหญ่ได้

ด้านข้างเตียงมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเล็กๆ หรือโคมไฟประดับเพิ่มเติมได้

ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำ ซึ่งจะมีโต๊ะเครื่องแป้งติดตั้งมาให้ดู แต่ในห้องจริงที่ได้จะได้โต๊ะเครื่องแป้งบริเวณด้านข้างเตียง อย่างที่กล่าวไปตอนแรกค่ะ

โต๊ะเครื่องแป้งจะได้ชั้นวางของและลิ้นชักมาให้ 2 ช่อง เก็บเครื่องสำอางหรือเครื่องประดับต่างๆได้ ซึ่งขนาดจะพอดีกับพื้นที่ พร้อมกระจกเงาปรับองศามาให้เลยค่ะ

ส่วนตู้เสื้อผ้า จะได้เป็นตู้ Built-in บานเปิด 3 บาน มีบานกระจกด้านข้างมองเห็นของภายใน บริเวณด้านในตู้จะมีราวแขวนผ้าและชั้นเก็บของลิ้นชักมาให้หน้าตาเหมือนกับห้องอื่นๆเลยค่ะ

มาถึงห้องน้ำในห้อง Master Bedroom เป็นห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีการแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีความแตกต่างจากห้องอื่นๆตรงที่มีอ่างอาบน้ำมาให้และติดตั้งระบบเครื่องทำน้ำร้อนให้เพิ่มเติมค่ะ

บริเวณอ่างล้างหน้ามีกระจกเงามาให้ พร้อมเคาน์เตอร์ติดตั้งอ่างเซรามิคสีขาวและช่องเก็บของด้านล่าง จาก American Standard หรือเทียบเท่า

โถสุขภัณฑ์เป็นโถสีขาว จาก American Standard หรือเทียบเท่า มีระยะนั่งได้สบายๆไม่อึดอัดค่ะ

ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่อาบน้ำซึ่งจะแยกเป็นพื้นที่อาบน้ำ และอ่างสำหรับนอนแช่น้ำสบายๆค่ะ โดยพื้นที่อาบน้ำจะมีฉากกั้นกระจกมาให้เป็นบานกระจกเปลือยเหมือนในห้องตัวอย่าง ช่วยกันไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาเลอะส่วนแห้งค่ะ

พื้นที่ห้องอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.00 x 0.90 เมตร สามารถยืนอาบได้พอดี มีการติดตั้งฝักบัวสายอ่อน และ Rain Shower มาให้จาก Karat พร้อมระบบทำน้ำร้อนค่ะ แต่ห้องนี้จะไม่ได้พื้นที่วางของด้านในผนังนะคะ แต่สามารถวางของที่ขอบผนังบริเวณอ่างอาบน้ำ หรือติดตั้งชั้นวางเพิ่มเติมได้ค่ะ

ส่วนอ่างอาบน้ำเป็นอ่างแบบธรรมดาสามารถนั่งยืดขาได้สบาย มีฝักบัวสายอ่อนติดตั้งมาให้เรียบร้อย ใครไม่ชอบห้องน้ำเปียกบ่อยๆก็สามารถติดม่านเพิ่มเติมได้ค่ะ

บริเวณอ่างอาบน้ำจะได้หน้าต่างรับแสงธรรมชาติเข้ามา และมองเห็นภายในห้องนอนได้ เหมือนกับเป็น Sexy Bath เล็กๆ ไม่โป๊มากนัก ถ้าใครรู้สึกเขินก็ติดม่านบังสายตาเพิ่มได้ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 7 November 2019

• 1 Bedroom ขนาด 39.31 ตารางเมตร ราคา 2.77 ล้านบาท หรือ 70,465 บาท/ตร.ม.
• 2 Bedroom  ขนาด 61.59 ตารางเมตร ราคา 4.27 ล้านบาท หรือ 69,329 บาท/ตร.ม.
• 3 Bedroom  ขนาด 119.52 ตารางเมตร ราคา 10.84 ล้านบาท หรือ 90,696 บาท/ตร.ม.
• Penthouse ขนาด 464.50 ตารางเมตร ราคา 69.67 ล้านบาท หรือ 149,989 บาท/ตร.ม.

• รูปแบบการขาย Fully Fitted
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร
• Kitchen & Sink / ท๊อปหินสังเคราะห์
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
• จอง 20,000 บาท
• ทำสัญญา 5% บาท
• ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

ทำเล :

โครงการ The Symphony บางพระ – ศรีราชา  อยู่ในทำเลที่เข้าถึงได้ไม่ยากเมื่อมาจากกรุงเทพมหานคร มีทางเข้า-ออกอยู่ติดถนนสุขุมวิท เลยตัวเมืองชลบุรีมา ผ่านตลาดหนองมนเพียง 3.5 กิโลเมตร อยู่ในระยะที่ขับรถไปทำงานในเมือง หรือนิคมอุตสาหกรรมย่านนี้ได้สะดวก ทำให้สามารถอยู่ประจำหรือจะใช้เป็นบ้านพักตากอากาศก็ได้ค่ะ บรรยากาศทำเลค่อนข้างเงียบสงบ มีชายหาดที่มีความเป็นส่วนตัว ทางโครงการมีการดูแลปรับปรุงทัศนียภาพหาดให้มีความสวยงาม สามารถลงเล่นน้ำได้(ตามฤดูกาล ซึ่งน้ำจะใสในช่วงหน้าหนาวค่ะ)  ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างครบครันทีเดียวมีทั้งห้างสรรพสินค้าและตลาดอยู่ไม่ไกล นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น หาดบางแสน, หาดวอนนภา, แหลมแท่น มีสถานที่สำคัญอย่างสถานศึกษาและโรงพยาบาลอยู่ในละแวกนี้ด้วยเช่นกันค่ะ

การเดินทาง :

การเดินทางเข้าถึงโครงการทำได้สะดวกเนื่องจากทางเข้าโครงการอยู่ติดกับถนนสุขุมวิทซึ่งเป็นถนนเส้นหลัก จากกรุงเทพมหานครสู่เมืองทางฝั่งตะวันออกอย่างชลบุรี พัทยา ระยอง จันทบุรี และตราดได้ หรือถ้ามาจากกรุงเทพฯเองก็สามารถใช้เส้นทางอื่น เช่นถนนบายพาสชลบุรี มอเตอร์เวย์ ฯลฯ ได้หลายเส้น ส่วนทางด้านหน้าโครงการมีรถเมล์และรถตู้สาธารณะวิ่งผ่านเพื่อเข้าหรือออกเมืองอยู่บ้าง แต่อาจไม่สะดวกและมีป้ายรถเมล์ให้เรียกได้ง่ายเหมือนในกรุงเทพฯ นะคะ เนื่องจากเป็นทำเลตากอากาศจึงเหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัวมากกว่าค่ะ  โดยทางโครงการมีที่จอดรถทั้งหมดประมาณ 292 คัน คิดเป็น 38.4% ถือว่าไม่มากไม่น้อยสำหรับโครงการตากอากาศซึ่งอาจจะมีความหนาแน่นในการเข้าใช้งานไม่เยอะค่ะ

วัสดุ :

วัสดุภายในโครงการให้มาค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับราคา ซึ่งจะได้เป็นรูปแบบ Fully Furnished แม้จะไม่ได้ Digital Door Lock แต่ภายในได้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมอยู่ และมีเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ด้วย(โปรโมชั่น) ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวกับราคาเฉลี่ย 85,000 บาท/ตารางเมตร พื้นห้องเป็นพื้นลามิเนตลายไม้ มีเครื่องปรับอากาศติดตั้งมาให้ ได้เคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์ พร้อมอุปกรณ์ประกอบจาก Teka , ห้องนั่งเล่นได้ผนังตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ครบ, ภายในห้องนอนได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ทั้งผนังตกแต่ง ฐานเตียง โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า ส่วนห้องน้ำมีฉากกั้นกระจกและติดตั้งสุขภัณฑ์จาก  American Standard หรือเทียบเท่า(Kohler),  Karat และเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ (ห้อง 2 Bedroom จะได้อ่างอาบน้ำและเป็น Sexy Bath เล็กๆด้วย)  ฝ้าเพดานห้องฉาบเรียบทาสีและมีโคมไฟ Down Light ค่ะ

การออกแบบ :

การออกแบบโครงการภาพรวม เป็นโครงการ Mix-Used ขนาดใหญ่ ภายในมีคอนโดมิเนียม 6 อาคาร, Community Mall & Wellness Center , โรงแรม และสำนักงาน ทำให้มีพื้นที่ใช้งานส่วนกลางได้หลากหลายนอกจาก Facility ในตัวอาคารแล้วสามารถออกมาใช้บริการต่างๆภายใน Community Mall & Wellness Center ได้ นอกจากนั้นยังมีท่าเรือส่วนตัวให้สำหรับคนที่มีเรือส่วนตัวหรือเจ็ทสกีมาจอดได้ เมื่อเปิดให้ใช้งานทั้งหมดแล้วโครงการนี้จะกลายเป็นแหล่งชุมชนแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ 

ส่วนการออกแบบอาคารเน้นการใช้เส้นโค้งเป็นแนวคลื่นบริเวณระเบียงฝั่งที่หันหน้าเข้าหาทะเล ทำให้ดูล้อไปกับคลื่นทะเล ชั้น 1-5 เป็นลานจอดรถ มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 6 ซึ่งเป็นระยะความสูงที่มองเห็นวิวทะเล และไม่มีอาคารอื่นมาบังทัศนียภาพค่ะ และที่เป็นจุดเด่นอีกจุดของโครงการคือสระว่ายน้ำชั้น 41 เป็นสระที่มองเห็นวิวแบบพาโนรามาในมุมสูงเลย

ส่วนการออกแบบห้องพักอาศัยเน้นความโปร่งสบาย ออกแบบเป็นครัวเปิดมี Common Area ค่อนข้างกว้าง ได้พื้นที่ระเบียงเยอะ(ห้องฝั่งทะเล) มีห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวใช้งานได้สะดวก โดยรวมแล้วค่อนข้างเป็นสัดส่วน เน้นการใช้งานพื้นที่ระเบียงเหมาะแก่การมาพักผ่อนค่ะ

สาธารณูปโภค :

สาธารณูปโภคในโครงการมีมาให้ค่อนข้างเยอะเหมาะกับจำนวนยูนิต ซึ่งจะเน้นไปที่ชั้น 6 มี Lobby Lounge, Library, Kid room , Fitness ขนาดใหญ่, Classroom และมีพื้นที่ Semi Outdoor เป็นบาร์ ริมสระว่ายน้ำระบบเกลือ ยาว 60 x 10 เมตร และมีห้อง Meeting Room สำหรับจัดสัมมนาได้ นอกจากนั้นยังมีสระว่ายน้ำที่ชั้น 41 เป็นสระระบบเกลือ ขนาด 45 x 10 เมตร ด้วย ภายในโครงการ มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 4 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการประมาณ 190 : 1 ซึ่งถือว่าค่อนข้างหนาแน่นสำหรับคอนโดมิเนียมทั่วไป แต่สำหรับคอนโดพักตากอากาศที่อาจจะมีคนเข้ามาใช้งานไม่พร้อมกันนัก ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่พอใช้ไม่หนาแน่นมากค่ะ

Judgement

สำหรับโครงการ The Symphony บางพระ – ศรีราชา เราจะไม่มีการให้คะแนนนะคะ เนื่องจากโครงการประเภทตากอากาศ มีปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อที่แตกต่างจากคอนโดเพื่อการอยู่อาศัยทั่วไปที่ต้องมีเรื่องของความคุ้มค่าทางการเงินและความคุ้มค่าทางอารมณ์ผนวกกัน เป็นการซื้อเพื่อพักผ่อนหย่อนใจมากกว่า ทำให้บรรทัดฐานการให้คะแนนแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลทั้งผู้อ่านและผู้รีวิวค่ะ

BOTTOM LINE

โครงการ The Symphony บางพระ – ศรีราชา เป็นคอนโดมิเนียมแบบตากอากาศ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคอนโดเพื่ออยู่อาศัย หรือใช้สำหรับพักผ่อนในวันหยุด ชอบโครงการขนาดใหญ่ ติดทะเล อยู่ในทำเลเดินทางสะดวก ไม่ไกลจากตัวเมืองและแหล่งงาน มีความอุดมสมบูรณ์สูง ชอบห้องพักอาศัยที่มีระเบียงขนาดใหญ่ มีห้องให้เลือกหลากหลายขนาด  มีงบประมาณระดับ 2.8 – 70 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 19,600 – 490,000 บาท/เดือน

ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving