รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.66 – The Seed Mingle สาทร-สวนพลู by พฤกษา
23 กุมภาพันธ์ 2014
รีวิวฉบับที่ 511 … วันนี้เราจะแวะไปดูคอนโด The Seed Mingle สาทร-สวนพลู จากพฤกษากันครับ ซึ่งเป็นโครงการที่ติดค้างแฟนเพจกันมาน้านนนนนนนนนนนนนน จนเขาขายเกือบจะหมดโครงการอยู่แล้วก็พึ่งจะมีโอกาสได้เข้าไปรีวิวมาให้ชมกันครับ โครงการนี้เป็นคอนโด High Rise อยู่ในซอยสวยพลู หรือ สาทรซอย 3 ซึ่งปัจจุบันโครงการก็สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว มีลูกบ้านเข้าอยู่พอสมควรแล้วด้วยครับ จะเป็นแบบไหนเดี๋ยวผมพาเข้าไปดูกัน … (ปล.เนื่องจากโครงการนี้เปิดมานาน ขายเกือบหมดแทบจะปิดโครงการอยู่แล้ว อาจจะมีข้อมูลทาง Technical/Spec บางอย่างที่หามาได้ไม่ครบ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ถ้าใครเป็นลูกบ้านโครงการนี้จะมาช่วยเช็คข้อมูลให้ก็จะขอบพระคุณมากเลยคร้าบบบ)
Fact @ 15 JANUARY 2014
- The Seed Mingle สาทร-สวนพลู (เดอะ ซี้ด มิงเกิ้ล สาทร-สวนพลู)
- พฤกษา เรียล เอสเตท
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขตสาทร
- คอนโด High Rise 31 ชั้น 1 อาคาร 531 ยูนิต + อาคารจอดรถ 8 ชั้น
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 22 ยูนิต
- อาคารจอดรถแยกต่างหาก 8 ชั้น 1 อาคาร สามารถจอดรถได้ประมาณ 40% ไม่รวมซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 2-3-50 ไร่
- สร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2556
- Studio 25 – 31 ตารางเมตร
- 1 Bedroom 34 – 52 ตารางเมตร
- 2 Bedrooms 64 – 72 ตารางเมตร
- ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร (รอตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง)
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.2 ล้านบาท (ม.ค. 57)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 90,000-100,000 บาท (ม.ค. 57)
- http://www.pruksa.com
- Cell Center 1739
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกทำเล ที่ตั้ง และการเดินทาง
พิกัด : 13.719708,100.53915
เริ่มต้นจากแผนที่โครงการกันก่อนครับ ซึ่งอาจจะดูยากซักหน่อย แต่ยังดีที่วางแผนที่ถูกทิศ ที่ตั้งของโครงการตั้งอยู่ใน ซอยสวนพลู หรือ สาทรซอย 3 อยู่ในซอยย่อย ซอยสวนพลู 8 อีกทีนึงครับ ซึ่งทางนี้จะเป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการด้วย แต่ตัวซอยสวนพลูยังเป็นซอยลัดจากถนนสาทรไป ถนนนราธิวาสฯ แปลว่าเราก็เข้าออกทางถนนนราธิวาสฯได้เช่นเดียวกัน
พูดถึงตัวย่านสาทร คงไม่ต้องท้าวความกันยืดยาวนะครับ ทุกคนรู้จักอยู่แล้วว่าย่านสาทร เป็นหนึ่งในย่านที่มีความสำคัญที่สุดย่านหนึ่งของกรุงเทพมหานคร เพราะเป็นย่านเศรษฐกิจ ที่เป็นแหล่งที่ตั้งของอาคารสำนักงาน โรงแรม สถานฑูต โรงเรียน และสถานที่สำคัญๆต่างๆมากมาย ความเจริญของย่านสาทรนี้จะออกไปในเชืงพาณิชย์ ธุรกิจๆ ออกแนวโกอินเตอร์ๆหน่อย มีความเป็น “เมืองใหญ่” สูง และพวกนี้จะอยู่บนถนนใหญ่ๆที่เป็นถนนสายหลักอย่าง สาทร/นราธิวาสฯ
ในขณะที่ผู้คนดั้งเดิมจริงๆ จะไม่ค่อยมาอาศัยอยุ่ในโซนถนนใหญ่มากอย่างที่คิด แต่จะมีส่วนที่เป็นชุมชนเก่าแก่ดั้งเดิมทั้งหลาย กระจายตัวอยู่ตามซอยเล็กซอยน้อยต่างๆ อย่างเช่นซอยสวนพลู หรือ สาทรซอย 3 นี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของชุมชนเก่าแก่ดั้งเดิม ที่แฝงอยู่ท่ามกลางเมืองใหญ่ ซึ่งอารมณ์จะเป็นเชิงบ้านๆหน่อย มีความคึกคักแบบชุมชน มีผู้คนหนาแน่นกว่า และเหมาะกับการอยู่อาศัยมากกว่า ใครที่ไม่คุ้นเคยกับทำเลโซนนี้แนะนำอย่างยิ่งว่าควรจะไปลองสำรวจพื้นที่ดูเองเสียก่อน ก่อนที่จะเลือกหยิบจับโครงการใดโครงการหนึ่งในบริเวณนี้ ทั้งบนถนนใหญ่และในซอย จะได้เข้าใจลักษณะของชุมชนแถวๆนี้ และจะได้เลือกถูกว่าอยากได้แบบไหนนะครับ
การไปโครงการ จากถนนสาทร เลี้ยวเข้าซอยสาทร 3 หรือ ซอยสวนพลู (ตามกฎหมายถูกอัพเกรดจาก “ซอย” เป็น “ถนน” ไปแล้ว) ตรงเข้าไปประมาณ 600 เมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย สวนพลู 8 เข้าไปอีกประมาณ 100 เมตร ก็จะเจอโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ รวมระยะทางจากโครงการถึงปากซอยประมาณ 700 เมตรครับ
เริ่มต้นเดินทางไปโครงการจากหัวถนนสาทร ตัดพระราม 4 ครับ เลี้ยวซ้ายจากพระราม 4 เข้าสาทรไปเลย
วิ่งผ่านสาทรซอย 1 และตึก Q House ลุมพินี/LH Bank ฯลฯ
ถนนสาทร อย่างที่รู้จักกันเป็นอย่างทีครับ ว่าเป็นถนน 4 เลน มีไฟแดงเยอะ มีที่กลับรถตลอดทาง มีทางแยก ทางลัดเพียบ การคมนาคมด้วยรถยนต์สะดวกมาก แต่รถก็ติดมากเป็นเรื่องปกติ
ขับรถผ่านซอยสถานฑูตมาเลเซียทางซ้ายมือ ก่อนหน้านี้ก็จะมีสถานฑูต ฝรั่งเศสอีกอัน
แนวรั้วสีขาวในภาพ คือ สถานฑูตออสเตรเลียครับ … สถานฑูตเต็มไปหมด นี่ยังแค่ที่ใหญ่ๆนะครับ ตามตรอกซอกซอย บนถนนสาทร (รวมไปถึงย่านใกล้เคียง) จะเป็นแหล่งรวมสถานฑูตเลยแหละ
มาถึงปากซอยสวนพลูแล้วครับ จะมีป้ายเขียนว่า เส้นทางลัด ไปถนนจันทน์/นางลิ้นจี่ เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปครับ (ปากซอยมีจุดสังเกตคือ ปั๊มเชลล์ ทางซ้ายมือครับ)
บรรยากาศบริเวณปากซอย แสดงให้เห็นสภาพจราจรช่วงสายๆของวัน
เลี้ยวเข้าซอยไปครับ บริเวณปากซอยถนนจะกว้างหน่อย แล้วไปแคบข้างใน
ซอยสวนพลูเป็นซอยที่มีถนน 2 เลนครับ รถวิ่งสวนไปมาได้ ถือว่าเป็นซอยที่ค่อนข้างใหญ่ซอยหนึ่ง เพราะเป็นทางลัดไปออกถนนอื่นๆได้ ริมสองฝั่งข้างทางส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ ที่มีสำนักงานมาตั้งมากมาย มีคนทำงานในซอยนี้เยอะครับ
รูปข้างบนจะเป็นช่วงกลางๆซอย แถวๆปากซอย 6-8 ครับ จะเห็นว่ามีความคึกคักมากกก กลางวันมีพนักงานออฟฟิศ ออกมาเดินซื้อของ กินข้าว จับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคักเลยทีเดียว
บริเวณปากซอยสวนพลู 8 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการครับ
เลี้ยวเข้าซอยสวนพลู 8 ไป ซอยนี้จะเงียบกว่าถนนเส้นหลัก แต่ก็ยังมีร้านค้า มีคนเดินมากินข้าว ซื้อของในซอยอยู่บ้างเหมือนกัน
เข้ามาถึงด้านในจะเป็นโซนที่อยู่อาศัยแล้ว จะเริ่มสงบๆหน่อยครับ อันนี้เข้ามาประมาณ 100 เมตร จากถนนสวนพลู
แล้วก็จะมาถึงหน้าโครงการ The Seed Mingle ครับ
นอกจากทางเข้าฝั่งสาทรแล้ว ก็จะมีทางเข้าฝั่งนราธิวาสฯด้วยครับ ถ้าเข้าทางถนนนราธิวาสฯ เราก็เลี้ยวเข้า ซอยนราธิวาสฯ 17 ครับ ซึ่งจะเป็นซอยที่อยู่ติดกับ ม.เทคนิคกรุงเทพฯ ซึ่งซอยนี้มันก็จะมาเชื่อมกับซอยสวนพลู เสมือนเป็นซอยเดียวกันนั่นเอง แล้วเราก็เลี้ยวเข้าซอยสวนพลู 8 เหมือนเดิม
บนถนนนราธิวาสฯนี้จะมี BRT ให้ใช้ด้วยนะครับ กรณีที่เราเดินทางไปโซนพระราม 3 แล้วไม่อยากขับรถส่วนตัว การใช้รถบัส BRT ก็อาจจะเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งที่ไม่เลวทีเดียว แต่การออกจากบ้านอาจจะต้องนั่งมอเตอร์ไซค์ออกมาต่อ BRT อีกทีนะครับ เพราะเดินออกจากซอยอย่างเดียวก็เกือบๆกิโลแล้ว (เดินลัดๆมาขึ้น BRT อาคารสงเคราะห์ได้ครับ) น่าจะไกลเกินระยะเดินไปหน่อย ยกเว้นว่าเป็นคนแข็งแรง+ขยันเดิน+ไม่กลัวร้อนครับ
ซอยสวนพลูยังมีทางหนีทีไล่อีกหนึ่งทาง ใช้ในกรณีที่ถนนสาทร หรือ นราธิวาสฯ รถติด ก็คือเราสามารถขับรถผ่านกรมการบินพลเรือน หรือที่คนแถวๆนั้นเค้าเรียกว่า “วิทยุการบิน” เพื่อลัดไปออก ซ.งามดูพลี ไปยังถนนพระราม 4 ได้, ไป ซ.เย็นอากาศ ทะลุไปถนนนางลิ้นจี่ได้ หรือจะไปออก ซ.สาทร 1 ก็ได้เหมือนกัน (จากที่ส่วนตัวผมเคยใช้เส้นทางนี้ โดยปกติก็จะสามารถใช้เป็นทางผ่านได้ตลอดเวลานะครับ แต่ไม่แน่ใจว่ามีเวลาที่เขาปิดไม่ให้ผ่านหรือเปล่า ตรงนี้ฝากคนพื้นที่ช่วยมายืนยันด้วยครับ :D)
การเดินทางโดยไม่ใช้รถส่วนตัว จะมี BTS ที่ใกล้ที่สุดคือ BTS ศาลาแดง ครับ อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.4 กิโลเมตร แน่นอนว่าเดินไปคงไม่ถึง ต้องใช้วิธีนั่งมอเตอร์ไซค์/แท็กซี่ ไปต่อรถไฟฟ้าอีกทีครับ โดยเส้นทางที่ไปสามารถวิ่งทะลุซอยคอนแวนต์ไปโผล่ BTS ศาลาแดงได้ (แต่บางคนอาจจะมีออฟฟิศอยู่แถวๆนั้นอยู่แล้ว) จาก BTS ศาลาแดง ถ้าจะไป MRT สีลม ก็จะใช้วิธีเดินเท้าต่อไปอีก 350 เมตรก็ได้ครับ หรือจะให้มอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านซอยศาลาแดง ไปส่งใกล้ๆสถานีก็ได้
ส่วน BTS ช่องนนทรี จะอยู่ไกลกว่าหน่อยครับ จะห่างไปประมาณ 1.7 กิโลเมตร การไปจากโครงการก็คล้ายๆกันครับ ออกถนนสาทร แล้วเลี้ยวเข้าซอยพิพัฒน์ ไปทะลุออกทางซอยพิพัฒน์ 2 มันจะไปโผล่ข้างๆ BTS ช่องนนทรีพอดีครับ
ขากลับบ้าน ถ้าใช้ MRT ก็มาลง MRT ลุมพินีครับ แล้วต่อรถเอา วิธีนี้น่าจะง่ายที่สุดสำหรับคนที่ใช้ MRT เป็นหลักนะครับ
ส่วนขาออกจากบ้าน MRT ลุมพินีไม่ใกล้เท่าไหร่ เพราะต้องไปเสียเวลากลับรถที่แยกคอนแวนต์ แถมเพิ่มระยะทางไปอีกหน่อยด้วย (แต่จริงๆถ้านั่งมอเตอร์ไซค์ ก็อาจจะลัดๆ ออกทางสาทรซอย 1 ได้ครับย่นระยะทางไปได้อีกหน่อย)
ดูคร่าวๆแล้ว การเดินไปรถไฟฟ้า อาจจะยากสักหน่อยสำหรับโครงการนี้ เพราะระยะทางค่อนข้างห่างจากรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT อยู่พอสมควร แต่ถ้าใช้วิธีต่อรถ ทั้ง Taxi/มอไซค์ ก็ถือว่าอยู่ในระยะที่ยังโอเคอยู่ครับ ซึ่งก็ไม่ต้องกลัวว่าอยู่ในซอยแล้วจะเรียกรถยาก เพราะซอยสวนพลูเป็นซอยใหญ่และเป็นซอยทางลัด มีรถวิ่งผ่านเข้าออกตลอดเวลา วินมอเตอร์ไซค์ประจำอยู่ใกล้ๆหน้าโครงการอยู่ตลอด ส่วน Taxi ก็วิ่งผ่านไปมา เข้ามาส่งผู้โดยสารเรื่อยๆ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการเรียกรถเท่าไหร่ครับ (ถ้าขี้เกียจเรียกเอง ให้พี่ รปภ. ช่วยเรียกก็ยังได้)
ส่วนในเรื่องทางด่วนที่อยู่ใกล้โครงการ ก็คือทางขึ้น-ลงทางด่วนพระราม 4 ตรงแยกบ่อนไก่ครับ ไปได้ทั้ง ดินแดง-พระราม 9-บางนา-ดาวคะนอง ครับ ห่างจากโครงการไปประมาณ 3.1 กิโลเมตร
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
มาดูสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการกันบ้างครับ เริ่มจากภาพข้างบนเป็นบรรยากาศในซอยสวนพลู บริเวณปากซอยสวนพลู 8 ครับ
การจราจรในซอย เป็นไปอย่างคึกคัก ในช่วงกลางวันของวันธรรมดา ในชั่วโมงเร่งด่วนก็มีรถติดได้
รถกระบะสองแถวสีแดงที่คอยวิ่งรับส่งในโซนนี้ มีหลายสาย วิ่งตั้งแต่สาทร-เซ็นต์หลุยส์-สวนพลู-ถนนจันทน์-สาธุประดิษฐ์-บางรัก เป็นพาหนะที่พึ่งพาได้ ที่คนในโซนนี้จะรู้จักกันดี
ริมถนนสวนพลู จะมีตึกแถว อาคารพาณิชย์ร้านค้า ขายของกันเยอะแยะ มีความอุดมสมบูรณ์มาก โดยเฉพาะของกินมีให้เลือกเพียบ โดยเฉพาะช่วงเที่ยงๆของแต่ละวัน
มีร้านค้าหลากหลายรูปแบบมากครับ ให้พูดหมดคงจะไม่ไหว ลองไปเดินดูจะดีกว่านะ
CP Fresh Mart ก็มีมาเปิดแถวนี้ด้วย
ถัดจากโครงการมาไม่ไกล เป็นที่ตั้งของ สน.บางโพงพาง
มาดูที่หน้าซอยสวนพลู 8 กันบ้างว่ามีอะไรน่าสนใจ
อันดับแรกคือ 7-Eleven ที่อยู่หน้าปากซอย เดินมาจากโครงการประมาณ 100 เมตร เปิด 24 ชม. ถือว่าไม่อดตายแน่ๆละ
วินมอเตอร์ไซค์ประจำการอยู่หน้าเซเว่น เรียกใช้ได้ตลอด
มองจากปากซอยเข้าไป เห็นตึกของโครงการตั้งอยู่ ที่เห็นเป็นขั้นบันไดนั่นแหละครับ
เดินเข้าซอยไป ริมสองฝั่งบริเวณปากซอยยังมีร้านค้า ร้านอาหาร เปิดเรียงๆกันอยู่
เข้าซอยต่อไปอีกหน่อย เริ่มจะเงียบๆ สงบๆมากขึ้น
ด้านซ้าย (ทิศตะวันตก) ของโครงการ อยู่ติดกับซอยเล็กๆครับ มีตึกแถวอยู่ๆข้าง ถ้าอยู่ชั้น 6-7 ขึ้นไปไม่โดน Block วิวแน่นอน
ตึกตรงข้ามโครงการ (ทิศใต้) เป็นคอนโดเหมือนกัน
โซนนี้ก็เป็นร้านขายของ มี Laundry ซักแห้งด้วย
ถ้าขี้เกียจเดินไปเซเว่นที่อยู่ปากซอย ใต้ตึกนี้ก็จะมี Family Mart นะครับ
ตึกตรงข้ามสูงประมาณ 8-10 ชั้น แต่มีถนนคั่น
ด้านหน้าทางเข้าโครงการ หน้าตาประมาณนี้ครับ
ให้ดูอีกมุมหนึ่ง
ริมรั้วโครงการ ปลูกต้นไม้บังรั้วไว้หนาแน่น ส่วนต้นไม้ใหญ่ที่เห็นนั่น เป็นต้นไม้ที่อยู่แต่เดิมในที่ดินของโครงการอยู่แล้ว โครงการใช้วิธีสร้างอาคารขึ้นมาล้อมต้นไม้ใหญ่เอาไว้
มีการทำ Vertical Garden เป็น Facade ให้กับอาคารจอดรถ เพื่อให้ดูร่มรื่นขึ้น และเวลามองมาจากด้านนอกจะได้ดูออกแนวสวนๆ ธรรมชาติๆ
เยื้องโครงการมีอาคารเก่าๆ ร้างๆอยู่ตึกหนึ่ง ที่จะถูกทำเป็น 7-Eleven ในอนาคต
ล้อมรั้ว แปะป้ายไว้แล้วเรียบร้อย เตรียมระบุวันที่เปิดร้านเลย
ติดกับโค้งนี้มีตึกเก่าของป้าศุอยู่ด้วย Supalai Oriental Place
เดินเข้าซอยไปอีกหน่อย มองไปข้างหน้าเห็นตึกของ The Sukhothai Residences ตารางเมตรละ 250k++ อยู่ตรงโน้น ด้านขวาจะเป็นตึกแถวทาวน์เฮาส์
ทางขวาเป็นโรงเรียนคริสต์ศาสนศาสตร์แบ๊บติสต์ครับ
ตรงข้ามโรงเรียนแบ๊บติสต์ เป็นตึกเก่าอีกตึกหนึ่งของ LPN คือ Lumpini Place สวนพลู-สาทร ครับ เป็น Low Rise
ด้านในๆของซอยนี้ จะมีกลุ่ม Taxi มาจอดเรียงเต็มเลยครับ สงสัยเป็น Community ของเค้า
เดินมาจนสุดซอย 8 จะเจอกับทางออกด้านหลังของ The Sukhothai Residences ครับ
ตัวที่ดินของสุโขทัย จะมีทางออกฝั่งซอยสวนพลู 8 แล้วอีกด้านหนึ่งก็จะทะลุไปออกซอยนันทาที่เชื่อมสาทรซอย 1 ได้ด้วยครับ คนทั่วไปเดินผ่านได้ช่วงกลางวัน แต่ถ้าเป็นรถยนต์จะผ่านไม่ได้ ได้เฉพาะรถของลูกบ้านสุโขทัยเท่านั้น แต่ตรงนี้ก็ไม่ใช่ทางตันนะครับ ทางขวามีซอยเล็กๆ เลี้ยวเข้าไปทะลุซอยงามดูพลีได้
มีซอยเล็กๆอยู่ข้างๆประตูของสุโขทัยครับ เป็นซอยเล็กมากๆ รถสวนกันไม่ได้
ดูทำเลคร่าวๆประมาณนี้ละกันครับ กลับไปดูที่โครงการกันดีกว่า
เจาะลึกตัวโครงการ
โครงการ The Seed Mingle เป็นโครงการ Condominium High Rise 1 อาคาร สูง 31 ชั้นครับ และมีอาคารจอดรถ 8 ชั้นแยกไว้อีกหนึ่งอาคาร ตัวอาคารที่พักอาศัยจะจอดรถได้ชั้นเดียวคือชั้น G ที่เหลือจะต้องไปจอดที่อาคารจอดรถทั้งหมด ทั้งสองอาคารอยู่แยกกัน เชื่อมกันที่ชั้น G ปกติ ไม่มีทางเชื่อมระหว่างอาคารที่ชั้นอื่นๆ โดยชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถ (ชั้น 8) จะเป็นชั้น Facilities ในขณะที่อาคารพักอาศัยจะมีห้องพักตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปถึงชั้น 31 เลยครับ
จุดเด่นอย่างหนึ่งของโครงการ คือ ต้นไม้ขนาดใหญ่ 2 ต้นที่อยู่บริเวณ Courtyard ตรงกลางระหว่างอาคารทั้ง 2 ตึก ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีมาแต่ดั้งเดิมของที่ดินบริเวณนี้ ซึ่งถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง เพราะต้นไม้นี้ให้ร่มเงาที่ดีมากแก่ลูกบ้าน และสร้างความร่มรื่นแบบเป็นธรรมชาติได้ครับ
เดี๋ยวเราเข้าไปดูโครงการกันครับ เนื่องจากเป็นโครงการตึกเสร็จแล้ว เริ่มกันตั้งแต่ป้ายโครงการเลยแล้วกันนะ
ด้านหน้าทางเข้าโครงการเป็นแบบนี้ครับ Circulation ของรถที่ขับเข้าไปในโครงการจะเป็นแบบ One-Way นะครับ ทางขวาจะเป็นทางเข้า ทางซ้ายจะเป็นทางออก เข้าออกคนละทางกัน วิ่งย้อนศรไม่ได้นะครับ มีป้อมรปภ.อยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้า-ทางออก ตรงนี้ดูแล้วอาจจะไม่ชินนิดนึง ตรงที่ป้อมรปภ.จะอยู่ทางซ้ายของคนขับรถครับ
ผ่านทางเข้ามาแล้ว ทางซ้ายมือ บริเวณชั้นล่างสุดของตึกจะเป็นที่จอดรถครับ ตรงนี้จอดได้ไม่กี่คันแหละ ใครมาก่อนก็ได้จอดไป
ตรงเข้ามาอีกหน่อยก็จะเป็นตัวตึก ซึ่งมีชั้นพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 2 เลยครับ ส่วนอาคารจอดรถจะแยกไป อยู่อีกตึกหนึ่ง ด้านหน้าตึกที่เห็นจะเป็นทางเข้า Lobby แต่เดี๋ยวเรายังไม่เข้าครับ ดูส่วนอื่นกันก่อน
ทางด้านหน้า Lobby มีที่จอดรถอีกหน่อย
ด้านขวาตรงนี้จะเป็นสวนหย่อมครับ และเป็น Court ที่อยู่ตรงกลางระหว่างตึกห้องพัก กับตึกจอดรถ
ลานตรงนี้จะมีต้นไม้ใหญ่อยู่ 2 ต้น ที่มีมาแต่ดั้งเดิม บนที่ดินบริเวณนี้ครับ ซึ่งทางโครงการก็ไม่ได้โค่นต้นไม้ลง แต่มีการตกแต่งกิ่งก้าน และ สร้างตึกขึ้นมาล้อมเอาไว้
ต้นไม้นี้ใช้เป็นร่มเงาให้กับพื้นที่สวนตรงนี้ได้ดีทีเดียว ทำให้ดูร่มรื่นขึ้นมาก
ใต้ต้นไม้ทำเป็น Party/Barbeque Deck ครับ เป็นพื้นที่ที่สามารถมานั่งเล่นได้ และคิดว่าน่าจะมาใช้จัดปาร์ตี้สังสรรค์เล็กๆได้ ถ้ามีการขออนุญาตนิติบุคคลก่อน
มีส่วนที่เป็น Bar และ มีเก้าอี้นั่งพักผ่อน
ทางขวาสุดฝั่งทิศตะวันออก จะเป็นอาคารจอดรถของโครงการ สูง 8 ชั้น ชั้น 1-7 เอาไว้จอดรถ ส่วนชั้น 8 ทำเป็นพื้นที่ Facilities ที่ลูกบ้านขึ้นไปใช้ได้ อาคารสองอาคารนี้แยกส่วนกันชัดเจนครับ ไม่มีทางเดินเชื่อมระหว่างชั้นใดๆ แปลว่าทุกคนเท่าเทียมกันหมด ไม่ว่าจะอยู่ชั้นไหนก็ต้องลง Lift มาที่ชั้น G เดินออกจาก Lobby มาที่ตึกจอดรถ หรือเวลาจอดรถเสร็จ ก็ต้องลงลิฟท์มาเดินเข้าตึกพักอาศัยที่ด้านล่างเหมือนกัน
ทางเข้าตึกจอดรถครับ
ภายในอาคารจอดรถหน้าตาประมาณนี้ จอดเข้าซองได้สองฝั่ง จอดซ้อนคันค่อนข้างลำบากครับ
นิติบุคคลออกมาแปะป้ายไว้แล้ว “ห้ามจอดรถซ้อนคัน” ถือว่าชัดเจนดีครับ
ห้องน้ำในลานจอดรถ แยกชายหญิง
บันไดหนีไฟ ในอาคารจอดรถ อยู่ข้างๆห้องน้ำ
โถงลิฟท์จอดรถ มีลิฟท์ 2 ตัว
ลิฟท์ของ Schindler แบบ Touch Interface นะครับ
ด้านในของลิฟท์จอดรถ แผงกดเป็นแบบ Touch ดูสวยดีครับ
ขึ้นมาที่ชั้น 8 เป็นชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถ ซึ่งบนนี้เขาทำเป็นชั้น Facilities ของลูกบ้านครับ มีสระว่ายน้ำ/สนามเด็กเล่นอยู่โซนหนึ่งหันหน้าไปทางตึกพักอาศัย และอีกโซนนึงจะเป็น Fitness กับ Mingle Lounge ครับ
พื้นที่บริเวณโถงหน้าลิฟท์ชั้น 8
ขึ้นบันไดก็ได้นะครับถ้าไม่อยากขึ้นลิฟท์
บนนี้ประกอบไปด้วยห้อง Fitness/ห้อง Mingle Lounge/Locker & Changing Room/สระว่ายน้ำ/สนามเด็กเล่น มีตามนี้ครับ
ออกจากลิฟท์มาปุ๊บจะมี Step เดินขึ้นไปสระว่ายน้ำ
ออกมาที่สระว่ายน้ำด้านนอก
มี Deck และเก้าอี้นั่งริมสระน้ำ
วิวของสระว่ายน้ำด้านหนึ่งจะหันไปเจอตึกตัวเอง
มองขึ้นไปมุมสูงเห็นแบบนี้
ที่ล้างตัวก่อนลงสระ
ทางเดินลงสระน้ำจะทำเป็น Step ขั้นบันไดเอาไว้ ไม่ต้องกระโดดลงตูมๆนะจ๊ะ
ฝั่งนี้เดินมาจะเป็นสนามเด็กเล่นอยู่อีกฝั่ง
แต่งพื้นที่ริมสระไว้ด้วยต้นไม้ ไม้พุ่มต่างๆ จัดสวนให้ดูเขียวๆ ไม่แห้งแล้งเกินไป
สนามเด็กเล่นมีเครื่องเล่น 1 อัน วางไว้ พอให้เด็กตัวเล็กๆมาปีนป่ายได้นิดหน่อย แต่ควรจะอยู่ในการดูแลของผู้ปกครองหน่อยนะครับ
อีกฝั่งของสนามเด็กเล่นเป็นที่นั่งเล่น แต่แอบร้อนไปหน่อย นั่งจริงไม่ค่อยได้นะ นอกจากจะชอบแดดจริงๆ
ทางนี้เป็นบันไดขึ้นไป Water Slider
Water Slider ริมสระ เด็กๆชอบเลยแบบนี้ น่าพาเพื่อนๆของลูกมาเล่นที่บ้านนะเนี่ย
สระเด็กจะถูกแยกไว้แบบนี้ แต่ไม่ได้แบ่งเป็นสองสระ
วิวฝั่งทิศตะวันออกของสระว่ายน้ำ จะมองเห็นตึกของสุโขทัย
มองลงไปด้านล่างจะเห็นซอยสวนพลู 8
มองไปทางซ้ายหน่อย จะเห็นวิวตึกทั้งหลายริมถนนสาทร
ลงจากสระว่ายน้ำ เดินมาอีกทางหนึ่ง จะเป็นห้องฟิตเนสครับ
ด้านในวางเครื่องเล่นไว้พอสมควร น่าจะเพียงพอต่อการใช้งาน ประมาณ 500++ ยูนิต
อีกมุมหนึ่งของฟิตเนส ห้องใหญ่พอสมควร
ห้องน้ำอยู่ด้านในฟิตเนสอีกที
มี Locker พร้อมกุญแจให้เสร็จสรรพ มีอยู่ 10 กว่าตู้
ห้องน้ำ และ ห้องอาบนำ้
ห้อง Steam Room จะอยู่ด้านในสุด ไม่มี Sauna นะครับ
นอกฟิตเนสจะมีพื้นที่สีเขียว ปูหญ้าไว้ แต่ร้อนน่าดู ตอนกลางวันคงไม่มีใครออกไปใช้ ต้องรอตอนเย็นๆ/กลางคืน ตรงนี้น่าจะทำเป็นลานเอนกประสงค์ได้ แต่ถ้าจะออกไปใช้คงต้องคุยกับนิติบุคคลก่อนนะรับ
ถัดมาส่วนที่อยู่ด้านในสุด เลยฟิตเนสเข้ามาจะเป็น Mingle Lounge ครับ ประกอบไปด้วย Games Room และ บาร์เครื่องดื่ม รอบๆทำเป็นกระจก 360 องศา สามารถรับวิว City View ได้เต็มที่
มีบาร์ตั้งอยู่กลางห้อง แต่ไม่มี Bartender … สงสัยต้องลงมือเองแล้วล่ะครัส …
มีโต๊ะเกม (ไม่รู้ว่าจะเรียกเกมนี้ว่าอะไร) ตั้งอยู่ด้วย ไปขออุปกรณ์มาเล่นได้
มี “โต๊ะบอล” ด้วยนะครับ 555+
โต๊ะ Pool ก็มี พร้อมอุปกรณ์ครับ
สุดท้ายคือที่นั่งพักผ่อนใน Mingle Lounge ครับ เท่านี้ก็เป็นอันจบ Facilities บนอาคารจอดรถ
จบจากอาคารจอดรถทั้ง 8 ชั้น ทีนี้มาดูตัวตึกที่เป็นห้องพักอาศัยบ้างครับ
เดินจากอาคารจอดรถมาที่ Lobby
ทางเข้า Lobby หน้าตาแบบนี้ครับ
เปิดประตูเข้ามาเจอส่วนต้อนรับ/Reception บริเวณด้านหน้าก่อน
เพดานของ Lobby เปิดเป็น Double Volume ครับ
ทางเข้าด้านหน้า มองจากใน Lobby
เดินผ่าน Reception เข้ามาทางซ้าย จะเป็นส่วน Lounge รับแขกด้านล่าง พร้อมห้อง Library ในตัว มีที่นั่ง มีหนังสือให้อ่าน
ที่นั่งมีอยู่หลายจุดเหมือนกัน สามารถกระจายกันนั่งได้หลายกลุ่ม
ให้ดูอีกมุมหนึ่ง
ด้านนี้ก็มีที่นั่งอีกชุดหนึ่ง ที่นั่งโซนนี้ โซนติดหน้าต่างจะมีแดดส่องเข้ามา ทำให้อาจจะร้อนหน่อยนะครับ แก้ปัญหาได้โดยการติดม่านเพิ่ม ไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ
ทางซ้ายของ Reception จะเป็นทางเข้าไปยังโถงลิฟท์ครับ ด้านซ้ายท่ีเป็นช่องนั่นคือส่วนของออฟฟิศนิติบุคคล และห้องประชุม
ห้องนิติบุคคลหลบมุมอยู่ทางด้านนี้
Meeting Room อยู่ทางด้านขวาของห้องนิติฯ
ก่อนเข้าไปยังโถงลิฟท์จะมี Security 1 ชั้น คือ ต้องใช้ Key Card ในการผ่านเข้า-ออกครับ
ผ่านประตูเข้ามาปุ๊บจะเจอกับโถงทางเดินไปยังโถงลิฟท์ และที่เห็นเรียงรายอยู่นี้คือตู้ Mailbox ครับ และเดินไปสุดทางจะเห็นห้อง Laundry
Mailbox จะเป็นตู้แนวตั้งแบบนี้ มีบ้านเลขที่กำกับอยู่ด้านหน้า ดูแล้วไม่เหมือน Mailbox ทั่วไป
พอเปิดประตูตู้ออกมาแล้วจะเจอ Mailbox เรียงไว้แบบนี้ครับ ส่วนด้านบนที่เป็นช่องใหญ่ๆ เอาไว้สำหรับเก็บพัสดุที่มาส่ง ที่ใหญ่เกินกว่าตู้จดหมายจะรับได้
ยังไม่ขึ้นลิฟท์นะครับ จากตู้จดหมาย เดินมาจนสุดทางจะเจอประตูกระจกบานหนึ่ง…
เปิดเขามาจะเจอกับห้อง Laundry ครับ
มีเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญขนาดต่างๆให้เลือกใช้ ตั้งแต่ 10-40 บาท
ฝั่งนี้เป็นเครื่องเล็ก
มีตู้กดน้ำด้วย
ก่อนที่จะขึ้นไปดูห้องตัวอย่าง เดี๋ยวพาไปดู สวนลอยฟ้าก่อนนะครับ ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชั้น คือ ชั้น 17 ชั้น 26 ที่เป็น Pocket Garden และจะมีชั้น 32 ที่เป็นดาดฟ้า ก็เป็นสวนเหมือนกัน
เริ่มจากชั้น 17 ก่อน
ชั้นนี้ปกติเป็นชั้นพักอาศัยนะครับ แต่จะมีสวนด้วย
ตัวสวนจะกั้นด้วยประตูอีกชั้นหนึ่ง
หน้าตาสวนชั้น 17
ให้ดูอีกมุมหนึ่งครับ
มีชุดโต๊ะ-เก้าอี้วางไว้ให้ด้วย สำหรับมานั่งเล่นได้ แต่กลางวันแบบนี้ร้อนน่าดูครับ
วิวฝั่งทิศใต้ ของชั้น 17 ครับ (คลิกที่ภาพเพื่อดูรูปใหญ่)
อันนี้เป็นวิวทิศตะวันตกของชั้น 17 ดูจากสวน (คลิกที่ภาพเพื่อดูรูปใหญ่)
ชั้น 26 เป็นอีกชั้นที่มีสวนหย่อม Pocket Garden
มีประตูเปิดออกไปแบบนี้ สวนอยู่ทางทิศใต้เหมือนเดิม
ชั้นนี้จะสวนเล็กกว่าชั้น 17 หน่อยนึง
มีที่นั่งวางไว้เหมือนกัน
มีทางลงเดินไปบันไดหนีไฟได้ด้วย
ที่ชั้น 26 นี้ถ้ามองไปไกลๆจะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยนะครับ แต่อยู่ไกลจริงๆ …
ขึ้นมาที่ชั้น 31 ชั้นบนสุด เพื่อที่จะเดินขึ้นไปยังสวนดาดฟ้า
ชั้นนี้ต้องเดินขึ้นบันไดไปชั้น 32 อีกทีนะครับ
เปิดประตูบันไดหนีไฟออกไป
ห้ามดื่ม Alcohol บนนี้นะครับ
ออกมาที่ดาดฟ้าแล้ว
วิวชั้น 32 นี่ก็มองเห็นแม่น้ำเหมือนกันนะครับ
มองเห็นสะพานพระราม 9 ด้วย
ทางเดินไปยังสวน
บรรยากาศประมาณนี้ ขึ้นมารับลมได้เลย
วิวทางด้านทิศเหนือของชั้น 32 ครับ ได้วิวประมาณนี้ (คลิกที่ภาพเพื่อดูรูปใหญ่)
มีทางเดินไปยังสวนอีกจุดหนึ่ง
ฝั่งนี้จะเป็น Deck เอาไว้นั่งอาบแดดได้เลยครับ แดดดีทีเดียว
มีพื้นที่เอาไว้นั่งเล่นพักผ่อนได้ แต่ควรมาช่วงเย็นๆที่แดดร่มลมตกไปแล้วนะครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคารจอดรถ 8 ชั้น จอดรถได้ 40% ไม่รวมซ้อนคัน
- สระว่ายน้ำบนชั้น 8 ของอาคารจอดรถ พื้นที่ 300 ตารางเมตร
- ห้องออกกำลังกาย บนชั้น 8 ของอาคารจอดรถ
- ห้อง Mingle Lounge บนชั้น 8 ของอาคารจอดรถ
- ห้อง Steam
- Lobby แบบ Double Volume ที่ชั้น G
- ห้องสมุดที่ชั้น G ติดกับ Lobby
- ห้อง Laundry ที่ชั้น G ติดกับ Mailbox
- Pocket Garden ที่ชั้น 17, 26
- Roof Garden ที่ชั้น 32
- สวนหย่อมรอบโครงการ พร้อมต้นไม้ใหญ่
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว
- อัตราส่วนลิฟท์ 177:1
- Service Lift 1 ตัว
- ระบบ CCTV / Access Card
- บริการ Shuttle Service รับ-ส่งที่รถไฟฟ้า
Product Walkthrough
ถัดไปเราจะไปดูส่วนที่พักอาศัยกันบ้างครับ ตอนนี้มีห้องตัวอย่างเหลืออยู่ที่ชั้น 22 อยู่ห้องนึง เราจะไปดูชั้นนี้กัน
สภาพโถงทางเดินครับ กว้าง 1.5 เมตรปกติ แต่มืดไปหน่อย
ก่อนจะถึงห้องเจอทางหนีไฟ ออกไปดูกันซักแว้บ
บันไดหนีไฟครับ
ที่อยู่ใกล้ๆกันจะมีห้อง Lift ขนของครับ ซึ่งอยู่ติดกับห้องทิ้งขยะ และห้อง Maintenance ประจำแต่ละชั้น
Service Lift นี้ ใช้เป็นลิฟท์ขนของด้วย รับน้ำหนักได้ 800kg ครับ
ห้องทิ้งขยะอยู่ข้างๆกัน มีประตูปิด
เปิดประตูออกมาเป็นแบบนี้ ดูเรียบร้อยดีใช้ได้ มีไฟเปิดปิดได้ ไม่มืด (แต่ต้องเปิดนะ)
ตัวห้องขยะมีช่องระบายอากาศ ไม่ให้เหม็นอับ
เข้ามาดูในห้องบ้าง ห้องนี้เป็นห้อง 1-Bedroom ขนาด 34 ตารางเมตรครับ ห้องนี้ขายแบบ Standard Room ครับ มีแค่ครัว/แอร์/ห้องน้ำ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ
ภาพ Floor Plan มีแต่ขนาดเล็กครับสัดส่วน Scale ของรูปนี้ไม่เท่ากับ Scale ของห้องนะครับ ห้องจริงจะหน้ากว้างกว่านี้ ไม่ใช่ผอมๆ แต่ตรงนี้ให้ดู Function ก่อนครับ ตัวห้องแบ่ง Layout ออกเป็นส่วน Living และส่วน Bedroom อย่างละครึ่งต่อครึ่ง เข้าห้องมาเป็นครัวเปิดอยู่ทางด้านหน้าห้อง ต่อกับส่วนโซฟาดูทีวีที่อยู่ติดกับระเบียง ห้องนอนอยู่อีกด้านหนึ่ง มีผนังทึบกั้นเป็นสัดส่วน และมีห้องน้ำอยู่ในห้องนอนอีกทีครับ ดูจาก Floorplan จะเห็นว่ามีอ่างอาบน้ำด้วย แต่ห้องที่จะพาไปดูเป็นห้องที่ไม่มีอ่างอาบน้ำครับ มีแต่ Shower Box ธรรมดา แต่ Layout เหมือนกันนะครับ
ประตูเข้าห้องหน้าตาแบบนี้ ด้านนอกสีเทา
มือจับประตูแบบก้านโยก
ด้านในประตูทางเข้าสีขาวนะ
เข้ามาปุ๊บจะเจอห้องโล่งๆแบบนี้ เพราะนี้คือห้องจริงพร้อมขาย เปิดเข้ามาเจอครัวก่อนเป็นอันดับแรก ความสูงพื้นถึงฝ้าของห้องนี้ อยู่ที่ 2.60 เมตรครับ
กล่องไฟ Breaker ต่างๆ อยู่ที่หน้าทางเข้า ติดอยู่ด้านบนแบบนี้
ครัวที่ให้มา หน้าตาแบบนี้เลย เป็น Pantry รูปตัว L มีอ่างล้างมือ, เตาไฟฟ้า, ที่ดูดควัน ให้มาตามนี้ ฟังก์ชั่นเป็นครัวเปิด ไม่สามารถกันกลิ่นได้ ทำอาหารได้ไม่จริงจังมากนัก ไม่งั้นกลิ่นจะฟุ้งไปทั่วห้องเลย
เหนือ Pantry ด้านบนทำเป็นตู้เก็บของ
ด้านขวาสุดเป็นตำแหน่งเอาไว้วางตู้เย็น มีพื้นที่ประมาณหนึ่ง อาจจะใส่ตู้เย็นได้ขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่มาก
เตาไฟฟ้าของ Franke เอามาอยู่ชิดกับตู้เย็นเลย อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ เวลาทำอาหาร ก็ต้องระวังตู้เย็นเลอะเทอะด้วยนะครับ
ด้านบนเป็นที่ดูดควันของ Franke
ระบบดูดควันเป็นแบบระบบเปิด ดูดเอาไปปล่อยด้านนอกอาคารครับ ซึ่งจะดีกว่าระบบปิดที่ดูดแล้วกรองอากาศไว้ภายใน
ผนังบริเวณครัวปูกระเบื้องเพื่อป้องกันการเลอะเทอะไว้ให้เรียบร้อย
อ่างล้างจานของ Franke แบบ 1 หลุม พร้อมที่วางภาชนะด้านข้าง
ตู้เก็บของด้านบน
ชุดครัวเป็นของ Starmark ครับ
ใต้เคาน์เตอร์ครัวเป็นที่วางเครื่องซักผ้าครับ ใส่เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้ แต่ใส่แบบฝาบนไม่ได้
ท้อปครัวเป็นหินแกรนิต
ใต้อ่างล้างจาน เตรียมท่อเอาไว้สำหรับต่อกับเครื่องซักผ้า มีรูสำหรับใส่ท่อเรียบร้อยไม่ต้องเจาะ
ตัวเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L เอาเก้าอี้มานั่งกินข้าวได้โดยไม่ต้องมีโต๊ะกินข้าวแยก
ใต้ Pantry มีตู้เก็บของอีกอัน
พื้นที่ข้างๆครัว เป็นส่วนของโซฟาวางทีวี ในห้องตัวอย่างเป็นห้องเปล่าพร้อมขายเลยไม่ได้ใส่เฟอร์นิเจอร์ไว้ให้ดู เลยอาจจะดูยากหน่อยนะครับ ตรงนี้จากที่กะเอา คาดว่าระยะดูทีวีมีพอประมาณ ถ้าวางโซฟาไปแล้ว ไม่ต้องเอาทีวีแขวนผนัง สามารถวางทีวีบนตู้วางทีวีได้ โดยไม่ทำให้ชิดเกินไปนัก
โซนดูทีวี จะอยู่ติดกับประตูเปิดออกไประเบียง
ด้านบนแขวนแอร์แบบ Wall Type ยี่ห้อ Daikin
ระเบียงเป็นแบบมีธรณีก่อกั้นไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำ, ฝุ่น เข้าสู่ระเบียง
ความกว้างของระเบียงประมาณ 1 เมตร พอจะตากฝ้าได้สะดวกหน่อย เพราะความยาวของระเบียงค่อนข้างโอเค
Compressor แอร์ แขวนผนัง เป่าออกไปทางด้านนอกอาคาร ทำให้ระเบียงใช้งานได้ดีขึ้น ไม่ร้อน สามารถปลูกต้นไม้ที่ระเบียงได้สบายๆ
มี Grille บังสายตาจากภายนอก ให้ดูสวยงาม
ประตูเข้าห้องนอน
ห้องนอนในห้องตัวอย่าง ก็มาแบบโล่งๆ เหมือนกัน
พื้นที่ในห้องนอนค่อนข้างเยอะ วางเตียง 6 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าได้สบายๆ โดยแถมโต๊ะหัวเตียงให้อีกสองฝั่งด้วย ถ้าไม่ใช้โต๊ะหัวเตียง อาจจะเอาออกไปหนึ่งตัว แล้วเพิ่มขนาดตู้เสื้อผ้าได้
พื้นที่บริเวณปลายเตียง สามารถวางชั้นวางทีวี หรือวางตู้เก็บของได้ ไม่ต้องเอาทีวีแขวนผนังนะครับ
งานระบบเอาขึ้นไปใส่ฝ้าด้านบน ที่เป็นกล่องอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น ไม่ได้เอาขึ้นเพดาน ทำให้ต้องติด Sprinkler ไว้ที่ผนังด้านข้าง แทนที่จะเป็นด้านบนแทน
เตียงจะอยู่ติดกับประตูกระจกที่เปิดออกไปที่ระเบียงได้
ด้านบนเป็นแอร์ ยี่ห้อ Daikin เหมือนกัน ห้อง One-Bed จะได้แอร์ 2 เครื่องนะครับ ส่วน Two-Bed ก็จะได้ 3 เครื่อง
ห้องนอนมีระเบียงด้วย
ระเบียงในห้องนอนเป็นระเบียงเล็กๆ ทำอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่การที่มีระเบียงตรงนี้ก็เพื่อที่จะทำให้สามารถใส่ประตูกระจกได้ จะได้มองเห็นวิวโล่งๆ ถ้าไม่มีระเบียงตรงนี้ ก็จะใส่ได้แค่หน้าต่างบานเล็กๆเท่านั้น (หรือไม่งั้นต้องทำเป็นผนังกระจกไปเลย แล้วจะไม่สามารถเปิดระบายอากาศได้ แถมแพงกว่าด้วย)
ระเบียงห้องนอน กับระเบียงห้องนั่งเล่น จริงๆแล้วเชื่อมถึงกัน แต่มี Grille กั้นเอาไว้
วัสดุประตูระเบียงเป็น Aluminium พ่นสีดำ มีการติดขนเพื่อช่วยให้ประตูปิดได้สนิทยิ่งขึ้น กันเสียง กันแมลง กันฝุ่น ได้ดีขึ้น
นอกระเบียง ติดโคมไฟแบบซาลาเปาไว้ด้วย ไม่ใช่แบบ Downlight นะจ๊ะ เพราะระเบียงไม่มีฝ้า
สุดท้ายไปดูส่วนของห้องน้ำ ที่เข้าจากในห้องนอน (บางยูนิตจะมีห้องน้ำที่เข้าได้จากทั้งในห้องนอน และจากทางห้องนั่งเล่นนะครับ)
ห้องน้ำห้องนี้จริงๆแล้วต้องบอกว่าไม่เหมือนห้องอื่นๆของโครงการ เพราะเป็นแบบ Shower Box แต่โดยปกติแล้ว จะเป็นห้องน้ำแบบที่มีอ่างอาบน้ำครับ เดี๋ยวจะมีรูปให้ดูด้วย
พื้นห้องน้ำปูกระเบื้อง ขนาด 30×30 ซม.ธรรมดา
ธรณีประตูห้องน้ำ เป็นแบบ ลดระดับ ไม่มีธรณีก่อ ไม่ต้องกลัวสะดุด
อ่างล้างหน้า จาก Mogen ให้มาเป็นชุดแบบนี้เลย
ใต้อ่างล้างหน้าเป็นช่องสำหรับเก็บอุปกรณ์ในห้องน้ำทั่วไป
ยี่ห้อ Mogen
ก็อกน้ำ หน้าตาแบบนี้ ยี่ห้อ COTTO
ติดกระจกเงามาให้แบบนี้
ข้างๆก็อกน้ำมีเต้ารับสำหรับเสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่น ไดร์เป่าผม, แปรงสีฟันไฟฟ้า (อย่าเอามือถือมาชาร์จในห้องน้ำนะ…)
ไฟในห้องน้ำมี Downlight มาให้ 2 ดวง และติดพัดลมดูดอากาศไว้ด้วย
โถสุขภัณฑ์จาก MOGEN
หัวฉีด สายฉีดชำระ
ปุ่ม Flushing
ที่ใส่กระดาษชำระ Mogen
Shower Box มาลักษณะนี้ ขนาดค่อนข้างเล็ก ไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ (ไม่แน่ใจว่าติดได้หรือเปล่า ด้วยพื้นที่ที่ค่อนข้างแคบ)
มีธรณีก่อกั้นส่วนเปียกส่วนแห้ง ซึ่งช่วยได้ไม่มากเท่าไหร่ ยังไงก็คงต้องติดม่านอาบน้ำ หรือหาฉากกั้นบานสไลด์
ราวแขวนผ้าเช็ดตัว
หัวก็อกสำหรับ Shower
Hand Shower
เว้นช่องไว้สำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่น
ที่วางสบู่อันเล็กมาก … อันนี้เปลี่ยนด่วน …
เดี๋ยวพามาดูอีกห้องนึง (ซึ่งกำลังเก็บงานอยู่) ห้องนี้จะมีห้องน้ำแบบ Standard ให้ดูครับ
ห้องน้ำของห้อง One-Bed ปกติทั่วไปจะหน้าตาแบบนี้ครับ เป็นแบบ Sexy Bath มีกระจกกั้น
พื้นที่หน้าห้องน้ำ เว้าเข้าไป สามารถบิ๊วตู้เสื้อผ้าตัว L ได้เลย
หน้าห้องน้ำอีกมุมหนึ่ง
ประตูเข้าห้องน้ำเป็นแบบบานสไลด์ เพราะพื้นที่ไม่มีจะให้ใส่บาน Swing
เข้ามาปุ๊บจะเจอกับอ่างล้างหน้าด้านหน้า ขวาเป็นโถสุขภัณฑ์ ซ้ายเป็นอ่างอาบน้ำ
ประตูทางเข้าห้องน้ำค่อนข้างแคบ เปิดออกได้ไม่กว้างเท่าไหร่ คนตัวใหญ่ๆอย่างผม เดินเข้าแล้วไหล่ชน ต้องตะแคงเข้า
อ่างล้างมือ หน้าตาคล้ายๆห้องน้ำห้องที่แล้ว แต่มีพื้นที่วางของเยอะกว่า
กระจกเงาบานใหญ่ประมาณเดียวกัน
Spec อื่นๆเหมือนกัน แต่เปลี่ยนตำแหน่งการวาง
มีช่องวางของด้านข้าง เหนือโถสุขภัณฑ์ แถมมาให้ด้วย
พัดลมดูดอากาศ
ส่วนที่จะแตกต่างมากคือส่วนนี้ครับ อ่างอาบน้ำแบบ Sexy Bath แต่ถ้าปกติไม่ค่อยแช่น้ำก็ต้องบอกว่า ต้องไปยืนอาบน้ำในอ่างนะครับ เพราะเขารวม Function สองอันเข้าด้วยกัน
อ่างอาบนำ้หน้าตาประมาณนี้
ผนังกระจก สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้ (และคนข้างนอกก็มองเข้ามาได้ด้วย ถ้าไม่ชอบคงต้องติดม่าน หรือมูลี่นะครับ)
Hand Shower
ปลายอ่างอาบน้ำมีพนักสำหรับพักคอ เอาหัวพิงได้
ขอจบการพาชมโครงการและห้องตัวอย่างของ The Seed Mingle สาทร-สวนพลู ไว้เท่านี้ก่อนครับ 😀
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 15 JAN 2014
- 1-Bedroom ชั้น 8 ห้อง A00810 เนื้อที่ 39.72 ตารางเมตร ราคา 3.899 ล้านบาท หรือ 98,162 บาทต่อตารางเมตร
- 1-Bedroom ชั้น 8 ห้อง A00813 เนื้อที่ 40.06 ตารางเมตร ราคา 3.930 ล้านบาท หรือ 98,103 บาทต่อตารางเมตร
- 1-Bedroom ชั้น 10 ห้อง A01018 เนื้อที่ 38.33 ตารางเมตร ราคา 4.053 ล้านบาท หรือ 105,740 บาทต่อตารางเมตร
- 1-Bedroom ชั้น 14 ห้อง A01410 เนื้อที่ 39.90 ตารางเมตร ราคา 4.146 ล้านบาท หรือ 103,910 บาทต่อตารางเมตร
- 1-Bedroom ชั้น 18 ห้อง A01808 เนื้อที่ 38.57 ตารางเมตร ราคา 4.036 ล้านบาท หรือ 104,641 บาทต่อตารางเมตร (SOLD)
- 2-Bedroom ชั้น 26 ห้อง A02604 เนื้อที่ 64.33 ตารางเมตร ราคา 6.776 ล้านบาท หรือ 105,332 บาทต่อตารางเมตร (SOLD)
- Standard Room (ครัว+แอร์)
- เพดานสูง 2.6 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง 30,000 บาท
- ทำสัญญา 50,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
เจาะลึกรวบยอด
ในเรื่องของทำเลโครงการ The Seed Mingle สาทร-สวนพลูนี้ จัดว่าเป็นทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองทีเดียว เนื่องจากอยู่ในย่านสาทร-สวนพลู ความเจริญของทำเลในภาพกว้างถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก เป็นทำเลโซนออฟฟิศ อาคารสำนักงาน ใกล้โรงเรียนชื่อดัง โรงแรมหรู มีสถานฑูตหลายชาติ ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าและความเจริญทั้งปวง ใครทำงานแถวๆนี้น่าจะได้รับความสะดวกเลยแหละ
ในภาพย่อยของทำเล คือโซนสวนพลูนี้ จะเป็นทำเลเฉพาะตัว ซึ่งจะมีความแตกต่างจาก “สาทร” ที่เราทุกคนคุ้นชินกัน เพราะเป็นทำเลที่ขยับเข้ามาอยู่ในซอย มีความเป็น “Local” เพิ่มเข้ามา คนที่คุ้นเคยอยู่แล้วก็จะเข้าใจดีว่าแถวๆนี้เขาอยู่กันยังไง มีทางหนีทีไล่ยังไง ทางลัดตรงไหน สภาพแวดล้อมเป็นยังไง แต่คนที่ไม่เคยมาอยู่อาจจะต้องทำความคุ้นเคยกับมันสักหน่อย แต่คิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ทำเลในโซนสวนพลูจะเหมาะกับการอยู่อาศัยมากกว่าโซนสาทร ที่จะดูออกไปทาง Commercial มากกว่า
ความอุดมสมบูรณ์ของโซนสวนพลูนี้จัดอยู่ในเกณฑ์ดี มีร้านค้า ของขาย เต็มไปหมด ไม่มีคำว่าอดตายแน่ๆ อย่างน้อยๆรอบๆโครงการก็มี minimart ตั้ง 3-4 แห่ง เป็นซอยที่คึกคัก และอยู่ใกล้สถานีตำรวจด้วย ความปลอดภัยค่อนข้างโอเค ทั้งกลางวันกลางคืน เนื่องจากตอนกลางคืนก็ยังมีร้านค้า ร้านของกินเปิดอยู่จนถึง 3-4 ทุ่ม ถ้าในซอยสวนพลูยังไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต บนถนนนราธิวาสฯ, สาทร ก็ยังมีร้านอาหารแบบ อัพเกรดขึ้นมาอีกหน่อย เป็นร้านจริงจัง นั่งดริ๊งค์ มีหมด
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว เนื่องจากเป็นทำเลในเมือง ความสะดวกก็มีมาก ระยะทางจึงไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ แต่ประเด็นสำคัญคือการจราจรที่ติดขัด ต้องเลือกเวลาออกจากบ้านให้ดี เพราะว่าแถวๆสาทร-พระราม 4-นราธิวาสฯนี่รถติดแบบไม่ขยับกันได้ง่ายๆเลย ทางที่ดีควรจะทำความรู้จักทางเลี่ยงทางลัดในซอยสวนพลูนี้เอาไว้ ซึ่งถือเป็นซอยทางลัดที่สำคัญในโซนนี้เลย เพราะไปถนนโซนนี้ได้หมด สาทร, นราธิวาสฯ, พระราม 4, นางลิ้นจี่, ถนนจันทน์ ฯลฯ ตัวโครงการมีจุดด้อยอีกอย่างหนึ่งคือ ที่จอดรถที่มีประมาณ 40% แบบไม่รวมซ้อนคัน (เพราะซ้อนคันไม่ได้ นิติห้ามเอาไว้ แต่ถ้าจอดไม่พอจริงๆจะมีการจัดระเบียบกันใหม่ก็อีกเรื่องนึง) ถึงแม้จะมีอาคารจอดรถแยกไว้ ก็อาจจะยังไม่พอได้ …
การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ในโซนนี้ เริ่มจากรถไฟฟ้าก่อน ซึ่งอยู่เกินระยะเดินเท้าไปแล้ว แต่ละสถานีอยู่ห่างไปเป็นกิโลๆ ต้องใช้วิธีนั่งมอไซค์/Taxi ไปต่อรถไฟฟ้าแทน ซึ่งตรงนี้ทางโครงการก็เตรียม Shuttle Service ไว้ให้บริการแก่ลูกบ้านด้วย ก็น่าจะพอช่วยเหลือไปได้บ้าง แต่ถ้าไม่ติดว่าต้องนั่งรถไฟฟ้า จริงๆแล้วโครงการอยู่ในจุดที่เรียกมอเตอร์ไซค์/Taxi ง่ายมาก เราอาจจะนั่งตรงไปยังที่ทำงาน/สถานศึกษา ของเราได้เลย เพราะนี่ก็อยู่ในโซนใกล้แหล่งออฟฟิศและโรงเรียนอยู่แล้ว หรือถ้าจะ Save Cost หน่อย ก็มีรถกระบะสองแถวสีแดง ที่วิ่งวนๆอยู่ในโซนนี้อยู่แล้ว ลองศึกษา Loop การวิ่งของรถสองแถวดู จะทำให้เรารู้ว่า เราสามารถนั่งไปลงตรงไหนที่ใกล้จุดหมายปลายทางของเราได้หรือเปล่า แล้วก็เดินต่อเอา ถ้าเคยนั่งจะรู้ว่าค่อนข้างสะดวกทีเดียวครับ และมีให้เรียกเรื่อยๆด้วย
รูปแบบของโครงการ The Seed Mingle ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี จุดที่เด่นคือความร่มรื่นของโครงการ ที่มีต้นไม้ใหญ่มาช่วย และความพยายามเพิ่มพื้นที่สีเขียว ใส่สวนแนวตั้งลงไปบนตัวอาคารที่จอดรถ Pocket Garden และ สวนดาดฟ้า ทำให้ไม่ดูแห้งแล้ง การแยกอาคารที่จอดรถเอาไว้ต่างหาก ทำให้มีที่จอดรถเพิ่มขึ้นก็จริง แต่ตัวตึกพักอาศัยก็มีห้องขายมากขึ้น ทำให้ % ที่จอดรถอยู่ที่ 40% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก สำหรับคอนโดราคานี้ ที่ลูกบ้านมักจะมีรถยนต์ส่วนตัวกัน และอยู่บนทำเลที่เหมาะกับการใช้รถยนต์ด้วย
ความหนาแน่นของโครงการทำออกมาอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ 500 กว่ายูนิต ใน 1 อาคาร บนที่ดินเกือบๆ 3 ไร่ จำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดที่ 22 ยูนิต ถือว่าโอเค แต่จะมีน่าเป็นห่วงหน่อยคือ อัตราส่วนลิฟท์ อยู่ที่ 177:1 เพราะมีลิฟท์ 3 ตัว ช่วง Rush Hour อาจจะต้องรอลิฟท์กันนานหน่อยนะครับ
การออกแบบในห้องของโครงการ ก็ถือว่าทำออกมาค่อนข้างโอเค ที่นี่เริ่มต้นที่ Studio ขนาด 25 ตารางเมตร ถ้าเป็น One-Bed จะประมาณ 35 ตารางเมตรขึ้นไป เป็นห้องขนาดใหญ่หน่อย ถ้าเทียบกับคอนโดเปิดใหม่สมัยนี้ ทำให้จัดพื้นที่ในห้องมาค่อนข้างโอเค ครบฟังก์ชั่น ไม่มีมุมหรือพื้นที่แปลกๆ ให้เห็นเท่าไหร่ แถมให้ฝ้าเพดานมา 2.60 เมตร คิดว่าการ Built-in Furniture ดีๆ จะทำให้ห้องออกมาลงตัวทีเดียว จะติดก็เรื่องห้องน้ำนิดหน่อย ที่เอาฝักบัวไปอยู่ในอ่างอาบนำ้แบบไม่แยกส่วน เข้าใจว่าพื้นที่ไม่อำนวย แต่คนไทยหลายคนคงไม่ชอบยืนอาบน้ำในอ่าง แต่ถ้าเล็งขายชาวต่างชาติก็อีกเรื่องนึง
วัสดุอุปกรณ์ที่ให้มา ก็ต้องบอกว่าให้มาตามราคาที่จ่ายไป ทำเลแบบนี้ ต่อตารางเมตรไม่ถึงแสน ก็เลยได้ห้องแบบไม่มีเฟอร์ มีมาแต่ครัวกับแอร์ Daikin ซึ่งวัสดุครัวก็คือว่าโอเค ได้ท้อปหินแกรนิต มีอ่างล้างจาน, Hob, Hood ครบชุด ของ Franke และได้เป็น Pantry ตัว L ด้วยของ Starmark ส่วนที่อยากจะติก็คือห้องน้ำ วัสดุพวกกระเบื้องพื้น กระเบื้องผนัง ดูดรอปไปจากสิ่งที่ควรจะได้ไปหน่อย อย่างน้อยๆน่าจะให้เป็นแกรนิโต้ขนาด 30×60 แต่เข้าใจว่าน่าจะเอาต้นทุนไปลงกับอ่างอาบน้ำ และผนังกระจก Sexy Bath แล้ว ก็เลยต้องปรับ Spec ตัวอื่นให้คงต้นทุนเอาไว้ แต่ทีนี้ห้องไหนที่ไม่ได้อ่างอาบน้ำเลยดูขาดทุนไปหน่อย
สุดท้ายคือส่วนของสาธารณูปโภค และ Facilities ต่างๆในโครงการ ที่จัดให้มาค่อนข้างเยอะ เนื่องจากมีพื้นที่บนดาดฟ้าของอาคารจอดรถ ที่สามารถใส่ Facilities ขนาดใหญ่ๆลงไปได้ ให้ใช้งานได้จริง รวมถึง Lobby+Library ขนาดใหญ่ และสวน Rooftop ชั้น 32 อีก ทำออกมาสวยดูน่าใช้และก็น่าจะเพียงพอกับการใช้งานของลูกบ้าน 500 ยูนิตนะครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 90,000-100,000 บาทต่อตารางเมตร, 24 JAN 2014
- ทำเล 8/10 – ทำเลใจกลางเมืองย่านสาทรในราคาต่ำกว่า 100,000 บาท/ตร.ม. แต่เข้าไปอยู่ในซอยลึกหน่อย
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – สะดวกเพราะอยู่ใกล้แหล่งออฟฟิศ แต่รถติดมาก ที่จอดรถน้อยไปหน่อย
- ไม่ใช้รถ 8/10 – เดินทางด้วยรถไฟฟ้าไม่ค่อยสะดวกนัก แต่มีสองแถว เรียกมอไซค์ง่าย เรียก Taxi ง่าย มี Shuttle Service
- วัสดุ 7/10 – ไม่ใช่แบบ Fully Furnished / วัสดุห้องน้ำน่าจะดีกว่านี้ได้
- แบบ 8/10 – โครงการหนาแน่นปานกลาง แต่จัดพื้นที่สีเขียวเยอะดี
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – จัดมาค่อนข้างเยอะ ดูน่าใช้ และน่าจะเพียงพอกับจำนวนลูกบ้าน แต่ที่จอดรถที่อาจไม่พอ
- MAIN CLASS
- 7.90 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ The Seed Mingle สาทร-สวนพลู เป็นโครงการที่เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาคอนโดในเมือง ที่สามารถเดินทางไปทำงาน/เรียน ได้สะดวกในโซนสาทร-นราธิวาสฯ มองหาทำเลที่สงบหน่อย ยอมเข้าไปอยู่ในซอยไม่ต้องติดถนนใหญ่ แต่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ และในชีวิตประจำวัน เดินทางโดยใช้รถและไม่ใช้รถผสมกัน และไม่ต้องเน้นรถไฟฟ้ามากนัก
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ