IMG_01702.jpg

รีวิวโครงการ

รีวิวฉบับสมบูรณ์ของ The Room สุขุมวิท 40

20 พฤษภาคม 2012

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 156 … The Room สุขุมวิท 40 เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ตัวล่าสุดจาก Land & Houses นับเป็น 1 ใน 4 โครงการที่จะเปิดตัวพร้อมกันในวันที่ 5  พ.ค. 2555 ซึ่งโครงการ The Room สุขุมวิท 40 นี้ใช้คอนเซปท์ของ “Peace” หรือความสงบ ที่อิงกับซอยสมานฉันท์ที่ไม่วุ่นวายไม่จอแจตลอดจนการที่มียูนิตอยู่อาศัยเพียง 128 ยูนิต จัดเป็นโครงการเดอะรูมที่ค่อนข้างเล็กมาก แต่ยังคงมาตรฐานและ Facility ระดับ The Room ไว้ครับ

Fact @ 20 April 2012

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

The Room สุขุมวิท 40 ตั้งอยู่บนซอยสมานฉันท์ ซึ่งเป็นซอยเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 40 และซอยสุขุมวิท 42 ซึ่งใกล้กับ BTS เอกมัย ในระยะประมาณ 570 เมตรจากหน้าโครงการไปยังสถานีรถไฟฟ้าที่ปากซอยสุขุมวิท 42

ซอยสมานฉันสามารถเข้าได้จากทั้งฝั่งถนนใหญ่พระราม 4 และถนนใหญ่สุขุมวิท โดยถนนพระราม 4 จะต้องเลี้ยวผ่านซอยสุขุมวิท 42 ซึ่งเป็นถนนวันเวย์ และถนนสุขุมวิทจะต้องเลี้ยวผ่านสุขุมวิท 40 ที่เป็นถนนวันเวย์เช่นกัน

จากพระราม 4 เลี้ยวซ้ายที่แยกกล้วยน้ำไท เข้ามาที่ถนนสุขุมวิท 42 ที่จะวิ่งไปออกสุขุมวิทได้เท่านั้น ไม่สามารถวิ่งย้อนกลับมาพระราม 4 ได้

โดยซอยสุขุมวิท 40 และ 42 มีทางเชื่อมเป็นซอยเล็กทั้งสิ้น 3 ซอย คือ

  1. ซอยแสงจันทร์
  2. ซอยสมานฉันท์
  3. ซอยสุขใจ

วิ่งมาที่แยกที่สอง จะเห็นซอยสมานฉันท์อยู่ทางซ้าย

หากตรงไปอีกหน่อยก็จะเจอซอยสุขใจ

ปากซอยเป็นรถไฟฟ้า สถานี BTS เอกมัย

ด้านขวาของ BTS เป็นห้างใหม่ Gateway เอกมัย ที่กำลังจะเปิดให้บริการในช่วงครึ่งหลังของปี 2555

เรามาดูจากทางสุขุมวิทกันบ้าง ต้องเข้าจากซอยสุขุมวิท 40 เท่านั้น จึงเป็นสาเหตุที่โครงการนี้ถูกเรียกว่า The Room สุขุมวิท 40 (ตัวเลขมันน้อยกว่า 42 ด้วยแหละ)

วิ่งเข้ามาในซอย 40 หรือซอยบ้านกล้วยใต้ ด้านซ้ายเป็นคูคลอง

ผ่านหน้า Condo One สุขุมวิท 40

ทางซ้ายเป็นที่จอดรถเมล์หน้าโรงเรียนปทุมคงคา

ตรงไปอีกหน่อยแถวที่มีโครงเหล็กทางซ้ายนี่แหละคือซอยสมานฉันท์ (แยกที่สอง)

เลี้ยวเข้ามาได้

ในซอยเป็นซอยแคบๆ วิ่งได้เพียงสองเลน แต่สามารถสวนไปมาได้ทั้งจาก 42 ไป 40 หรือ 40 ไป 42

จะเห็นว่ามีรถจอดเต็มไปหมด ทำให้การวิ่งยิ่งยากขึ้นไปอีก ถ้ามีรถสวนมาก็หมดสิทธิ์ ต้องหาซอกทางซ้ายหักแล้วจอดรออย่างเดียว

มองย้อนกลับไปทางสุขุมวิท 40 สภาพเดียวกัน รถจอดเยอะแยะ

วิ่งตรงไปประมาณครึ่งซอย จะเจอป้ายของ L&H อันใหญ่เบ้อเร่อเลย ตรงนี้แหละครับสถานที่ตั้งของโครงการ The Room สุขุมวิท 40 … ต้นไม้ของบ้านทางขวาแอบสวย (มาก)

หน้าโครงการกว้างเหมือนกัน กับคอนเซปท์ของ “PEACE”

แปลงที่ติดกันทางตะวันออกของ The Room สุขุมวิท 40 เป็นโครงการ Tree Condo สุขุมวิท 40 ที่จะเปิดตัวหลังจาก L&H สักประมาณ 1 เดือน เป็นคอนโด Low Rise เหมือนกัน ที่จะบังวิวกันเต็มๆทั้งสองตึก

ซอยสมานฉันท์ทะลุไปออกซอย 42 อีกรอบ หากตรงไปโน่นเลยจะเป็นซอยบาร์โบส 2 ทะลุไปออกซอย สุขุมวิท 44 ได้

เจาะลึกตัวสินค้า

หน้าตาตึกของ The Room สุขุมวิท 40 ทำออกมาได้โอเคเลย เป็นตึกแนว Modern Contemporary ที่เสริมองค์ประกอบของระแนงสีน้ำตาล ให้ตัวตึกดู Soft ลง ดูอบอุ่นและน่าอยู่มากขึ้น เข้ากับคอนเซปท์ของ Low Rise Condo และความสงบที่นำมาโฆษณา

แปลนตึกของ The Room สุขุมวิท 40 ทำออกมาเป็นรูปตัว U โดยมี Courtyard ตรงกลางเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีส่วนที่เป็น Pavilion หรือเรือนรับรองในสวนแบบ Semi-Outdoor อยู่ทิศเหนือของสวน (ส่วนที่เป็นไม้ๆ เห็นเด่นๆตรงกลางละครับ)

ทำให้ห้องพักส่วนใหญ่นั้นไปอยู่ทางด้านหลังของโครงการ (ทิศเหนือ) และด้านขวาของโครงการ (ทิศตะวันออก) โดยทิศตะวันตกและทิศใต้จะหันเข้าหามุมสวนสาธารณะและสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำ ฟิตเนสและห้องอ่านหนังสือนั้นตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ดังภาพ ตึกนี้มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัวแต่ไม่มี Service Lift แยกต่างหาก (ซึ่งเป็นธรรมดาของตึก Low Rise นะครับ เป็นแบบนี้เหมือนกันหมด)

มาดูกันที่ชั้น 4 บ้าง ส่วนที่เปลี่ยนไปคือส่วนด้านขวามือ เพิ่มห้องใหญ่ขนาด 2 ห้องนอนติดมุม 3 ด้านมาให้อีก 1 ห้อง และห้องเล็กอีก 1 ห้อง เหนือชั้นของ Fitness และห้องอ่านหนังสือ

ผังตั้งแต่ชั้น 5-8 เป็นต้นไปจะเหมือนกัน โดยตัวห้องทั้งหมดแบ่งออกมาได้ 3 แบบใหญ่ๆคือ 1 Bedroom, 2 Bedrooms ขนาด 79 ตารางเมตรทางด้านซ้ายมือ และ 2 Bedrooms ใหญ่ขนาด 89 ตารางเมตรทางด้านขวามือ ซึ่งระเบียงของทั้งสองห้องสามารถมองเห็นสระว่ายน้ำได้ทั้งคู่

ดูๆแล้วห้อง 2 Bedrooms ที่นี่มีน้อยมาก น่าจะแค่ 10 ห้องเศษๆเท่านั้นเอง เพราะชั้นหนึ่งมีไม่เกิน 2 ห้อง และคอนโดก็มีแค่ 8 ชั้น

หน้าตาของ Pavilion ที่สวนตรงกลางตึก มี Seat และ Sofa นั่งให้บรรยากาศ Semi-Outdoor

มองจากสวนตรงกลางออกไปยัง Courtyard ด้านบนจะเห็นเป็นสระว่ายน้ำและ Fitness อยู่ที่ชั้น 2

สระว่ายน้ำที่ชั้น 2 และฟิตเนส หักเป็นรูปตัว L มาปิดล้อมโครงการ เหมือนมี Courtyard ตรงกลางเป็นไข่แดงธรรมชาติ

หน้าตา Interior Design ของฟิตเนส นับๆจากภาพ Perspective ดูก็มีเครื่องเล่นประมาณ 5 ชุด ทั้ง 4 ด้านใช้เป็นผนังกระจก

ห้องอ่านหนังสืออยู่ฝั่งตรงข้ามของห้องฟิตเนส  มีส่วนที่เป็น Wifi Internet

มองจากสระว่ายน้ำลงไปจะเห็น Pavilion อยู่ทางซ้ายล่าง และ Deck รอบสระว่ายน้ำระบบโอโซนก็จะมีเก้าอี้ Day Bed ให้นั่งรอบสระวางอยู่

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • ห้องออกกำลังกาย
  • ห้องอ่านหนังสือ
  • Wifi Internet ที่ส่วนกลาง
  • สระว่ายน้ำระบบโอโซน
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว, ไม่มี Service Lift
  • สวนส่วนกลางที่ชั้น G คอนเซปท์ Garden Pavilion
  • Lobby
  • ที่จอดรถ 81% หรือ 104 คัน
  • รั้วโครงการสูง 5 เมตร
  • ระบบ CCTV / Access Card

Product Walkthrough

สำหรับห้องตัวอย่างเรายังไม่มีของจริงให้ดูนะครับ จะเอา Plan จากในเวปไซต์ของ The Room สุขุมวิท 40 มาวิเคราะห์กันดีกว่า ที่นี่ขายแบบ Fully Furnished ด้วย จึงไม่รู้ว่าเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นไหนจะได้บ้าง ดังนั้นรายละเอียดจริงๆอาจจะต้องรอหลังงานวันที่ 5/5/55 นะครับ

แบบห้องของ The Room สุขุมวิท 40 แบ่งออกเป็นใหญ่ๆด้วยกัน 4 แบบคือ

  1. แบบ 1 ห้องนอน 42 ตารางเมตร
  2. แบบ 1 ห้องนอน 50 ตารางเมตร
  3. แบบ 2 ห้องนอน 79 ตารางเมตร
  4. แบบ 2 ห้องนอน 89 ตารางเมตร

ขนาด 42 ตารางเมตรเป็นขนาดห้องส่วนใหญ่ของ The Room สุขุมวิท 40 พอเรามาดูแบบบ้านจริงจังแล้วจะพบว่า รอบนี้ Land & Houses ดีไซน์มาดี ห้องนี้ผ่านการคิดมาเยอะครับ เป็นห้องหน้ากว้าง 7.4 เมตร แบ่งออกเป็น 3 ตอน คือห้องครัว, ห้องนอน, ห้องรับแขก ที่จะได้หน้าต่างครบทั้ง 3 ส่วน พื้นใช้ลามิเนต 12 มม. ที่ดีกว่า ลามิเนต 8 มม. ธรรมดาแต่ยังไม่เท่า Engineering Wood (หน้าไม้จริงปิดผิว)

  • ครัว แพนทรี่ ตู้เย็น แยกส่วนออกไปข้างนอกห้อง เลือกเปิดหรือปิดได้ เพิ่มความต่อเนื่องของบ้านหรือจะ กั้นเป็นสัดส่วนขณะทำครัวเพื่อระบายอากาศออกไปทางระเบียงซักล้างได้
  • ระเบียงซักล้างแยกต่างหากจากระเบียงใหญ่ พร้อมพื้นที่ตากผ้า มีการแยกส่วนพื้นที่นี้กับที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์เรียบร้อย ข้อควรระวังนิดนึงคืออย่าตากผ้าตอนทำกับข้าว ไม่อย่างนั้นกลิ่นอาหารจะระบายออกไปใส่เสื้อผ้าที่ตากไว้
  • คอมเพรสเซอร์แอร์วางในตำแหน่งปิดมิดชิด เป่าลมออกไม่รบกวนพื้นที่ระเบียง
  • โต๊ะอาหารเป็นสัดส่วนไม่รบกวนพื้นที่ห้องนั่งเล่น ระยะเก้าอี้นั่งได้จริงไม่อึดอัด
  • ห้องนั่งเล่นสามารถดูทีวีไว้เต็มๆ มีกระจกเข้ามุมเพิ่มมุมมองของวิวหน้าต่างภายนอก
  • บานเลื่อนที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนสามารถเลื่อนปรับพื้นที่มาเชื่อมกันได้ รวมพื้นที่ให้เป็นห้องใหญ่ เวลาต้องการ Big Space และบานเลื่อนก็ซ่อนมิดชิดอยู่ด้านหลังกำแพง
  • ห้องนอนถ้าเลื่อนบานเลื่อนออกมาตำแหน่งหัวนอนจะตรงกับ TV ในห้องนั่งเล่นพอดี ดังนั้นสามารถใช้ทีวีชุดเดียวดูในห้องนอนได้เลย แต่ข้อเสียก็คือถ้าอยากจะติดตั้ง TV สองชุด การติดเพิ่มอีกชุดในห้องนอนต้องทำแขนจับทีวียื่นออกมาจากผนัง
  • ห้องนอนมีระเบียงส่วนตัว แยกต่างหากจากลานซักล้างข้างห้องครัว
  • ห้องน้ำใหญ่ แยกส่วนเปียกส่วนแห้ง มีช่องระบายอากาศพร้อม
  • ข้อเสียมีข้อเดียวคือไม่มีโต๊ะเครื่องแป้ง

สรุปง่ายๆว่าการออกแบบห้อง 42 ตารางเมตรนี้ทำได้เยี่ยมครับ

ต่อมาเป็นห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 50 ตารางเมตร ที่ออกแบบเหมือนห้อง 42 ตารางเมตรแทบจะเป๊ะๆ จึงมีความเห็นว่า พื้นที่ห้องรับแขกและห้องนอนที่กว้างขึ้นนั้น ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพิ่มเติมเลย คือมี Function เท่าเดิม แต่ขนาดห้องใหญ่ขึ้น หน้ากว้างขึ้น ไม่ได้เพิ่ม Value ให้กับการใช้สอยครับ

พูดง่ายๆคือ L&H จับ เฟอร์ของห้อง 42 ตารางเมตรมาใส่ลงห้อง 50 ตารางเมตรเลย โดยไม่ได้คิดอะไรเพิ่ม เสียดายพื้นที่ครับเสียดาย ขนาดโต๊ะเครื่องแป้งที่น่าจะหาที่วางได้สบายๆกับ 8 ตารางเมตรที่เพ่ิมขึ้นมาก็ยังไม่ใส่ลงไปในผังเลย

ต่อมาเป็นห้องแบบ 2 Bedrooms ยูนิตที่หันหน้าเข้าหาสระว่ายน้ำที่ทิศใต้ ห้องนี้คิดมาเยอะอีกแล้ว  โดยใช้คอนเซปท์ดีไซน์คล้ายๆกันกับแบบ 1 Bedroom ครับ

  • ครัว แพนทรี่ ตู้เย็น แยกส่วนออกไปข้างนอกห้อง เลือกเปิดหรือปิดได้ กั้นเป็นสัดส่วนขณะทำครัวเพื่อระบายอากาศออกไปทางระเบียงซักล้างได้
  • มีหน้าต่างเข้ามุมที่บริเวณครัวและโต๊ะอาหาร ช่วยเชื่อมต่อพื้นที่ของห้องครัวได้ทำให้ไม่ถูก Disconnect ออกไปจากบ้านขณะทำอาหาร โดยพื้นที่โต๊ะอาหารสามารถนั่งมองครัวได้เลยว่าตอนนี้ใครทำอะไรอยู่ข้างใน
  • ครัวมี Counter ด้านหลังเตา เอาไว้เตรียมอาหารได้สะดวกมากขึ้น
  • ระเบียงซักล้างแยกต่างหากจากระเบียงใหญ่ พร้อมพื้นที่ตากผ้า มีการแยกส่วนพื้นที่นี้กับที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์เรียบร้อย ข้อควรระวังนิดนึงคืออย่าตากผ้าตอนทำกับข้าว ไม่อย่างนั้นกลิ่นอาหารจะระบายออกไปใส่เสื้อผ้าที่ตากไว้
  • คอมเพรสเซอร์แอร์วางในตำแหน่งปิดมิดชิด เป่าลมออกไม่รบกวนพื้นที่ระเบียง
  • ห้องนั่งเล่นสามารถดูทีวีไว้เต็มๆ มีกระจกเข้ามุมเพิ่มมุมมองของวิวหน้าต่างภายนอก
  • ระเบียงภายนอกห้องนั่งเล่นเป็นระเบียงกว้างยื่นออกไปจากตัวตึก สามารถชมวิวได้รอบทิศ โดยจะเห็นสระว่ายน้ำด้วยแน่นอน
  • ห้องนอนใหญ่ได้พื้นที่วางทีวี โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า Built-in มีห้องน้ำแยกสัดส่วนครบ แต่ไม่มีระเบียง
  • ห้องน้ำใหญ่ แยกส่วนเปียกส่วนแห้ง มีช่องระบายอากาศพร้อม
  • ห้องน้ำเล็ก ขนาดเล็กไปนิด ไม่มีตำแหน่งระบายอากาศออกนอกยูนิต
  • ห้องนอนเล็กวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ได้กระจกเข้ามุมใช้เป็นมุมทำงาน

ต้องบอกว่าห้อง 2 Bedrooms นี้ทำออกมาได้ดูดีระดับหนึ่งเลย … แต่ผมว่าแบบถัดไป 89 ตารางเมตรทำออกมาได้ดีกว่าอีกครับ

ห้องแบบ 89 ตารางเมตร มีทุกอย่างที่แบบ 79 ตารางเมตรพึงมี โดย

  • ห้องนี้ติดหน้าต่าง 3 ด้าน ได้วิว 270 องศา
  • ห้องน้ำเล็กถูกปรับเป็นห้องน้ำใหญ่แล้ว มีตำแหน่งระบายอากาศเรียบร้อย
  • ห้องน้ำใหญ่มี Counter ยาวข้าง Sink เพ่ิมเข้ามา วางของได้เยอะขึ้น
  • ห้องนอนใหญ่มี Sofa Bed Built-in ไปที่กระจกมุม นอนมองวิวออกได้สบาย แต่น่าเสียดายตรงนี้ทิศตะวันตก คงจะร้อนพอดู
  • ห้องนอนเล็ก มีระเบียงเป็นของตัวเอง

ห้องนี้จัด Layout ได้ลงตัวมากๆ แต่ข้อเสียอย่างเดียวคือระเบียงหันไปทางทิศตะวันตก (เพราะมีตำแหน่งเดียวในอาคาร)

ระเบียงห้องแบบ 2 Bedrooms

ส่วนรับแขกมองไปยังส่วนรับประทานอาหารและครัวของ 2 Bedrooms

ห้องนอนใหญ่ของ 2 Bedrooms 89 sq.m. ตรงโน้นเป็น Sofa Bed Built-in เข้ามุมกระจก

ห้องนอนเล็กของห้อง 2 Bedrooms

ห้องนอนเล็กของห้อง 2 Bedrooms มุมกลับ

เรามาดูห้องจริงกันดีกว่า นี่เป็นภาพแรกที่เห็นหลังจากเดินเข้าไปห้องตัวอย่าง เนื่องจากโครงการเดอะรูม สุขุมวิท 40 เป็นโครงการแบบ Fully Furnished ทำให้ทุกอย่างที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ รวมอยู่ในราคาขายทั้งหมด ยกเว้นของประดับบ้านเท่านั้น

สีและโทนออกเป็นแบบ Cool Modern ชุดโซฟาตรงกลางกับชั้นวางทีวี หน้าต่างบานใหญ่ ด้านซ้ายฉากกั้นห้องสามารถเปิดเชื่อมห้องนอนได้

ประตูบานสีขาว มีลวดลายเล็กน้อย ติดตั้งตาแมว

ด้านขวาของประตูเป็นครัวแยกส่วน บาน Slide สามารถเลื่อนมาปิดได้

หน้าตาครัว ท๊อปเป็นหินสีดำ

ทีเด็ดอยู่ที่ส่วนของลานซักล้าง ที่มีพื้นที่ให้ใช้งานเพียบพร้อมมากๆ ด้านไกลมองทะลุออกไปจะเห็นเป็นระแนงขาวเอาไว้ซ่อน Air Compressor ส่วนซี่ระแนงเหล็กริมสุด เอาไว้ช่วยบังแดด

เตาใช้เตา Ceramic ของ Smeg สองหัว

ซิิงค์แบบ 1 หลุม สเตนเลส

ไมโครเวฟฝัง Built-in ของ smeg

เครื่องดูดควันและ Accessory ครัว

ฉากกั้นระหว่างห้องครัวและห้องนั่งเล่น

พื้นปูลามิเนต 12 มม. และกระเบื้องเซรามิค ใช้สีแนว Cool Modern เลย

 

เรามาดูลานซักล้างกันอีกที ตั้งเครื่องซักผ้า แขวนผ้า ตากผ้า ไม่เป็นภัยต่อสายตาเราและสายตาห้องข้างเคียง

Compressor สองตัวเป่าออกไปข้างนอก ไม่เสียพื้นที่ระเบียง แยกส่วนด้วยระแนงขาวบังสายตาไว้ให้ด้วย

มองกลับไปยังครัว ใช้บานเลื่อนกระจกสีเขียวเหมือนเดิม

ก๊อกน้ำและ Floor Drain สวยดี

มุมโต๊ะอาหารสองที่นั่ง

โซฟา โต๊ะกลาง และโต๊ะข้างโซฟา

ผ้าม่านและหน้าต่างบานใหญ่

เตียงนอนและหน้าต่างข้างเตียง มีระเบียงแคบๆเปิดได้ แต่ออกไปทำอะไรไม่ค่อยได้

ตู้เสื้อผ้า

ข้างๆตู้เสื้อผ้าเป็นห้องน้ำ

สุขภัณฑ์ดูดี

ตกแต่งแบบนี้ทำให้ผนังดูหรูขึ้นมาเลย

ให้ดูลายกระเบื้อง

ข้างบนเพดานเป็น Rain Shower ติดให้ที่ Ceiling

กระจกห้องน้ำซ่อนไฟไว้ข้างในแล้ว มีชั้นวางของเสร็จสรรพ

ซิงก์และสุขภัณ์ของ American Standard

หัวกดข้างบนโถสวยดีนะ สายฉีดแบบชุบโครเมียม

กลับไปดูห้องรับแขกใหม่ กระจกเข้ามุมด้วย

ชั้นวางทีวี

หลังประตูมีที่วางรองเท้า

บานเลื่อนที่เป็นฉากกั้นห้องนอนสามารถดึงออกมาได้แบบนี้

ขนาดระเบียงเล็กจิ๋ว

 

Price vs Performance

  • 1 ห้องนอน 42.5 ตารางเมตร ขาย 3.84 ล้านบาท ประมาณตารางเมตรละ 90,000 บาทในทิศตะวันออกที่ถูกตึกข้างเคียงบัง
  • 1 ห้องนอน 42.5 ตารางเมตร ขาย 4 – 4.2 ล้านบาท ประมาณตารางเมตรละ 95,000 – 100,000 บาท ในทิศเหนือและทิศใต้ ที่จะได้วิวที่โอเคหรือหันเข้าหา Inner Courtyard

เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของ The Room สุขุมวิท 40 ไม่ได้จัดว่าสุดยอด แต่อยู่ในแหล่งที่ยอมรับได้ คือช่วงฝั่งตรงข้ามซอยทองหล่อและเอกมัย (38 ตรงข้ามทองหล่อ และ 42 ตรงข้ามเอกมัย) ซึ่งจัดว่าเป็นทำเลที่พื้นที่รอบข้างเจริญแล้ว ในซอยสมานฉันท์นี้เป็นซอยที่สงบและร่มรื่น ขนาดกว้างพอที่รถสองคันจะสวนกันเพื่อไปออกสุขุมวิท 40 (ไปพระราม 4) หรือสุขุมวิท 42 (ไปเอกมัย) ก็ได้

การเดินทางด้วยรถยนต์ทำได้ดี แต่ก็ยังติดอยู่นิดหน่อยตรงที่ถนนสุขุมวิท 40 และ 42 เป็นถนน One Way ที่เข้าออกได้ทางเดียว โชคดีที่ซอยสมานฉันท์เข้าและออกได้ทั้งสองถนน เลยทำให้เรา “เลือก” ได้ว่าจะใช้ One Way เส้นไหน ข้อจำกัดของถนน One Way จึงน้อยลงไปเยอะ และการที่มีที่จอดรถเกิน 80% ก็ทำให้การใช้รถใช้ถนนสะดวกขึ้นด้วย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถทำได้พอประมาณ ระยะห่างจากหน้าโครงการไป BTS เอกมัยที่ 570 เมตร ไม่ได้เป็นระยะทางใกล้ๆที่พอจะเดินไหวแบบเหงื่อไม่ตก และซอยนี้ด้วยความที่เป็นซอยสงบ ร่มรื่น ในเวลากลางวัน ในทางกลับกันตอนกลางคืนก็จะกลายเป็นซอยที่ค่อนข้างมืดและเปลี่ยว เพราะมีแต่เขตที่อยู่อาศัยไม่ได้เป็นชุมชนร้านค้าคึกคักเหมือนอ่อนนุช-เอกมัย-ทองหล่อ กับระยะทาง 570 เมตร ก็ไม่แนะนำให้สุภาพสตรีเดินในเวลากลางคืนนะครับ

โครงการ The Room สุขุมวิท 40 เป็นโครงการที่ Land & Houses คิดใหม่ทำใหม่ โดยปรับปรุงตัวสินค้าในเรื่องการออกแบบพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก ปรับให้พื้นที่ขนาด 42.5 ตารางเมตร นำมาใช้ได้จริงแทบทุกตารางเมตร ใช้แบบเฟอร์นิเจอร์ที่ดู Cool Modern ในลักษณะของ L&H รุ่นใหม่ ลบภาพลักษณ์เชยๆของ L&H ในอดีตไปมาก ผู้ประกอบการเจ้าไหนก็ตามที่สนใจทำห้อง 1 Bedroom ขนาด Sizing ที่อยู่สบายและมีฟังก์ชั่นครบจริงๆ อยู่ 1-2 คนแล้วไม่อึดอัด ก็อยากให้มาดูที่ The Room โครงการนี้เป็นตัวอย่างนะครับ ยกตัวอย่างเช่นผู้ประกอบการจะชอบตัด “ลานซักล้าง” ออกไป ทำให้ต้องไปตากผ้าอยู่ที่ระเบียง แล้วก็มองดูไม่สวยงามกันทั้งโครงการ อะไรแบบนี้เป็นต้น

วัสดุอุปกรณ์ที่นี่จัดว่าให้มาพร้อม ในราคา 90,000 – 100,000 บาทต่อตารางเมตร ให้ครบทุกอย่าง Fully Furnished และของแต่ละชิ้นที่ให้ก็จัดว่าได้มาตรฐาน พื้นลามิเนต 12 มม. , ครัว smeg ท๊อปหินสีดำ, ห้องน้ำ American Standard กระจกนิรภัย, Rain Shower จาก Ceiling, กระจกบานเลื่อนภายในสามบานใหญ่กั้นระหว่าง ห้องนอน-ห้องนั่งเล่น-ห้องครัว และ ลานซักล้าง, ตู้รองเท้า ตู้เสื้อผ้า โซฟา ชั้นวางทีวี เตียงและ Built-in ในจุดอื่นๆ ส่วนที่ดูแล้วไม่ค่อยประทับใจก็เป็นโต๊ะอาหารที่เล็กเกินไปนิด กับเก้าอี้นั่งทานข้าวที่ดูแล้วเฉยๆ

สุดท้ายคือสาธารณูปโภค ให้มาพอสมควร สระว่ายน้ำ, Inner Courtyard, สวนบนดินที่ไม่ต้องขึ้นไปใช้ลอยฟ้าและสามารถมองเห็นเป็นวิวได้, Fitness, ห้องพักผ่อน พร้อม Wi-fi Internet ในส่วนกลาง เรียกว่าเยอะเลยก็ได้สำหรับโครงการขนาดเล็ก เพียง 100 กว่ายูนิต

อีกนิดนึงคือเรื่องของราคา ที่ L&H ตั้งสูงกว่าชาวบ้านข้างเคียงอยู่นะ Developer อื่นๆ อาจจะเป็นเจ้าไม่ดังอย่าง Tree และ Zenith ที่เค้าขายกันอยู่ในตลาด ราคาตกราวๆตารางเมตรละ  80,000 บาท สำหรับตึก Low Rise ในทำเลที่พอจะเทียบเคียงกันได้ แต่ด้วยความที่เป็น L&H มีบริการหลังการขายและให้โน่นนี่เยอะ เลยทำให้ตั้งแพงกว่าคนอื่นได้อยู่บ้างครับ

Judgement

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 95,000 บาทต่อตารางเมตร, Q1/2012

  • ทำเล 7.5/10 – ทำเลกลางๆ แต่อยู่ในแหล่งที่มีศักยภาพ
  • เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – สะดวก ออกไปทั้งสุขุมวิทและพระราม 4
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – เดินไป BTS ค่อนข้างไกลนิดนึง ซอยของซอยไม่ค่อยมี Taxi วิ่งผ่าน ต้องออกไปเรียกที่ซอยหลัก
  • วัสดุ 9.25/10 – คุณภาพกลางๆ แต่ให้เยอะมาก
  • แบบ 10/10 – แบบห้องทำได้ดีมาก เรียกว่าเป็น Benchmark สำหรับโปรเจคที่เน้นความอยู่สบาย
  • สาธารณูปโภค 9/10 – ให้เยอะเมื่อเทียบกับจำนวน Unit

  • UPPER CLASS
  • 8.28/10.00

BOTTOM LINE

โครงการ The Room สุขุมวิท 40 เหมาะกับครอบครัวที่ชอบความครบถ้วนและอยู่อาศัยจริง ชอบความสงบและความเป็นส่วนตัว มีเฟอร์นิเจอร์พร้อมและการจัดวางในยูนิตที่ดี แต่ก็ต้องใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในการเดินทางเป็นหลัก BTS เป็นรอง

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ