รีวิวโครงการ
The Niche ID พระราม 2 คอนโด Low Rise 8 ชั้น สร้างเสร็จพร้อมอยู่ จาก SENA [รีวิวฉบับที่ 835]
16 พฤษภาคม 2015
รีวิวฉบับที่ 585 … หลังจากที่ผมได้พาไปดูโครงการประเภทคอนโด Low Rise ในย่านพระราม 2 มาหลายโครงการแล้วคราวนี้มาดูของ SENA กันบ้างนะครับ The Niche id พระราม 2 (เดอะนิช ไอดี พระราม2) โครงการนี้เป็นโครงการที่ใหญ่พอสมควรครับมีทั้งหมด 3 เฟส อยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 17 ไร่ แต่ตอนนี้เปิดขายแค่เฟส 1 ก่อนมี 3 อาคารและอยู่ด้านในสุดของที่ดิน โดยจะมีระยะห่างจากถนน พระราม 2 ประมาณ 300 เมตร แล้วค่อยทำเฟสอื่นๆไล่ขึ้นมาจนถึงด้านหน้าถนนพระราม 2 ครับ โครงการนี้ Mr.Oe และ Boom เคยมาไปชมมาแล้วในรายการ คิด.เรื่อง.อยู่. ซึ่งมาถึงตอนนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดอยู่บ้าง ตัวโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปดูกันเลยครับ ヾ(^-^)ノ~♪
Fact @ 23 May 2014
- The Niche id Rama 2 (เดอะนิช ไอดี พระราม 2)
- บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : จอมทอง
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 616 ยูนิต
- อาคาร A, B 203 ยูนิตและอาคาร C 210 ยูนิต (อาคาร A และ B ขายหมดแล้ว)
- อัตราส่วนลิฟท์เฉลี่ยทั้งโครงการ 102.67/1
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 15 ยูนิตที่อาคาร A
- ที่จอดรถประมาณ 272 คันคิดเป็น 44.16% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น xx%
- ที่ดินประมาณ 4-3-11.7 ไร่ (เฟส 1)
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : อาคาร A ธ.ค. 2557, อาคาร B ม.ค. 2558
- 1 Bedroom 30 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.318 ล้านบาท
- 1 Bedroom 34 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.57 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.318 ล้านบาทหรือประมาณ 44,000 บาทต่อตารางเมตร
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 55,400 บาท
- http://www.thenichecondo.com/main/rama2/home/index.php
- โทร 1775 กด 23
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.676585,100.468651
แผนที่จากทางโครงการครับ ตัวโครงการอยู่บนถนนพระราม 2 เลยจากจุดขึ้นลงทางด่วนมาไม่ไกลมากนัก และไม่ได้อยู่ติดถนนซะทีเดียว เดี๋ยวเราไปดูแผนที่จริงดีกว่าครับ (ตรงนี้ถ้าใครเคยอ่านทำเลบนถนนพระราม 2 มาแล้ว สามารถข้ามไปอ่านส่วนของโครงการได้เลยนะครับ Click ที่เมนูด้านบน)
ทำเลของโครงการตั้งอยู่บนถนน พระราม 2 เลยจากทางลงทางด่วนมาประมาณ 900 เมตร และอยู่ในก่อนถึงที่ที่กลับรถสำหรับขาเข้าพอดี พื้นที่บริเวณนี้เป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยกันมานาน จะเป็นลักษณะบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ซะเป็นส่วนมาก พื้นที่รอบๆโครงการจะมีหมู่บ้านเก่าแก่อยู่หลายแห่ง ส่วนคอนโดที่มีในย่านนี้หรือที่อยู่บนเส้นพระราม 2 จะมีลักษณะเป็น Low Rise ทั้งหมด
มาพูดถึงเรื่องถนนพระราม 2 กันดีกว่าครับ ถนนเส้นนี้เป็นถนนสายสำคัญที่เชื่อมต่อไปยังภาคใต้โดยผ่านจังหวัดสมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, เพชรบุรี, และ ประจวบคีรีขันธ์ ไล่ลงไปเรื่อยๆ จนสุดประเทศไทย ซึ่งเหตุผลหลักที่ถนนนี้ถูกสร้างให้มีขนาดใหญ่โตแบบนี้เป็นเพราะต้องการช่วยลดปริมาณการจราจรบนถนน เพชรเกษม ที่เป็นถนนเพียงเส้นเดียวสำหรับการวิ่งลงไปภาคใต้ แถมยังต้องวิ่งอ้อมผ่าน จังหวัดนครปฐม และ จังหวัดราชบุรี ด้วยถ้าลองสังเกตดูจะเห็นบนถนนเพชรเกษมช่วงอ้อมน้อยจะมีโรงแรมเก่าแก่อยู่มากมายเพราะว่า การเดินทางในสมัยก่อนนั้นไม่สะดวกเท่าสมัยนี้การจะไปจังหวัดต่างๆทางภาคใต้ต้องใช้เวลานาน จึงต้องมีการแวะพักค้างอ้างแรมกันระหว่างทาง หรือหากต้องการมาทำธุระในจังหวัดใกล้เคียงก็จะมาพักอยู่แถวๆนี้ ต่อมาเมื่อมีการสร้างถนนพระราม 2 แล้วเส้นทางหลักที่จะลงภาคใต้ถูกเปลี่ยนมาเป็นถนนเส้นนี้แทน
แต่ก่อนถนนพระราม 2 จะขึ้นชื่อเรื่องระยะเวลาการก่อสร้างเพราะกินระยะเวลาที่ยาวนานมาก เรียกได้ว่าใครที่เดินทางมาเส้นนี้นี่รถจะกลายเป็นสีแดงเลยครับ เพราะถนนช่วงที่ยังสร้างไม่เสร็จจะเป็นดินลูกรัง ที่เป็นแบบนี้ก็ต้องอธิบายก่อนว่าดั้งเดิมเลยถนนเส้นนี้มีขนาดเพียงแค่ 2 เลนเท่านั้นแต่ไม่นานนักถนนเส้นนี้ก็ถูกใช้สัญจรมากขึ้นและมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทางการจึงตัดสินใจขยายความกว้างของถนนออกไปเป็น 4 เลนเริ่มก่อสร้างประมาณปี 2530 และมาสร้างเสร็จประมาณปี 2535 กินระยะเวลาประมาณ 6 ปี ต่อมาในปี 2549 ดูเหมือนการขยายถนนเป็น 4 เลนจะยังไม่เพียงพอต่อการใช้งานของประชาชนจึงทำให้ต้องขยายถนนออกไปอีกเป็น 6 – 8 เลนโดยเริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2549 มาเสร็จตอนปี 2552 กินระยะเวลาประมาณ 4 ปี รวมๆแล้วเวลาในการสร้างร่วม 10 ปีนี่ยังไม่นับช่วงเวลาที่สร้างไปซ่อมไปอีกนะครับ เชื่อว่าคงมีเพื่อนๆหลายคนได้มีโอกาสมีความทรงจำตอนสมัยที่ถนนยังสร้างไม่เสร็จอยู่บ้างนะครับ
ภาพจากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,737 6-9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ในอนาคตถนนเส้นนี้จะคึกคักมากกว่านี้ เพราะจะมีโครงการเชื่อมต่อเส้นทางมายังถนนเส้นนี้เพิ่มเติม 2 โครงการ
โครงการแรกคือ สะพานพระราม2 เชื่อมต่อระหว่าง ถนนพระราม 2 ตรงแยกบางประแก้วจุดตัดถนนสุขสวัสดิ์กับ ถนนพระราม 3 ใกล้จุดตัดถนนตก เพื่อช่วยระบายความหนาแน่นของสะพานกรุงเทพเก่าและใหม่ (สะพานพระราม 3) โดยโครงการอยู่ในแผนแม่บทสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ระยะ 10 ปี(2560-2564)
โครงการที่ 2 คือ โครงข่ายทางพิเศษศรีรัช-ดาวคะนอง เป็นโครงการขยายพื้นผิวการจราจรบนทางด่วนที่เป็นคอขวดช่วงสะพานพระราม 9 โดยจะทำเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาควบคู่ไปกับสะพานพระราม 9 โดยมีระยะทั้งหมดประมาณ 18 กิโลเมตรมีจุดขึ้น – ลงทั้งหมด 6 จุด ทางสนข.กำหนดเป็นโครงการอยู่ในระยะ 20 ปี(2565-2574)
เรามาดูเส้นทางกันบ้างว่าถนนเส้นนี้เชื่อมไปถนนอะไรแล้วไปไหนได้บ้าง ถนนพระราม 2 ตัวถนนหลักจะมีความกว้าง 8 เลน(รวม 2 ฝั่ง) และมีทางคู่ขนานอีกข้างละ 3 เลนรวมทั้งหมดเป็น 14 เลน ถ้าเลยทางแยกที่ตัดกับถนนกาญจนาภิเษกแล้วความกว้างถนนก็จะลดลงเรื่อยๆ ถนนเส้นนี้สามารถเชื่อมไปยังถนนหลักในย่านฝั่งธนบุรีได้หลายสายรวมถึงทางด่วนเฉลิมมหานครด้วย ต้นทางของถนนเส้นนี้เริ่มต้นที่ถนนสุขสวัสดิ์ซึ่งเป็น 3 แยกยาวไปจนเชื่อมกันถนนเพชรเกษมอีกที การเข้าตัวเมืองสามารถเลือกได้หลายเส้นทางเช่นถ้าจะไปสวนจตุจักรสามารถใช้ถนนจรัญสนิทวงศ์ไปข้ามสะพานพระราม7 หรือถ้ารถติดก็เลี่ยงไปใช้ถนนราชพฤกษ์ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้สะพานสาทร หรือถ้าจะไปเดินเที่ยว Mega Bangna ก็ใช้ทางด่วนวงแหวนอุตสาหกรรมได้ครับรถไม่ค่อยติดมากแต่จะเสียเวลาหน่อยตรงด่านจ่ายบัตรครับ
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าในอนาคตก็มีวิ่งผ่านเส้นนี้เหมือนกันคือ MRT สายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ สถานีที่ใกล้ที่สุดจากโครงการคือ ดาวคะนอง สถานีอยู่บริเวณกลางถนนสุขสวัสดิ์ บริเวณซอยสุขสวัสดิ์ 7 ระยะทางประมาณ 4 กม. แต่คงต้องรอกันอีกนานครับกว่าจะได้ใช้กำหนดการที่ รฟม. ได้วางไว้คือปลายปี 2562 (ถ้าไม่มีการเลื่อนนะครับ)
ผมจะพาไปดูกันบ้างนะครับว่าในปัจจุบันถนนเส้นนี้พัฒนาไปมากน้อยแค่ไหน ความเจริญส่วนมากจะอยู่ในช่วงต้นทางจนถึงทางแยกถนนกาญจนาภิเษก ห้างสรรพสินค้าบนถนนเส้นนี้จะมีแค่ Central พระราม 2 แต่ถ้าในละแวกใกล้เคียงก็จะมี The Mall บางแค, The Mall ท่าพระ และ Seacon บางแค(Future Park บางแคเก่า) ให้เลือกเดิน สำหรับ Hyper Market นี่มีให้เลือกเยอะเลยครับ มีทั้ง 2 ฝั่งขาเข้าและขาออก โดยฝั่งขาออกจะมี Big C พระราม 2 และ Tesco Lotus พระราม 2 ส่วนฝั่งขาเข้าจะมี Big C(Carrefour เก่า) อีกสาขา ช่วงปากซอยท่าข้ามจะมี Home Pro และ SB Furniture อยู่ด้วยกันเรามาดูรายละเอียดกันกว่าว่าบนถนนเส้นนี้มีสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร
เส้นทางคราวนี้เริ่มต้นบนทางด่วนนะครับ ถ้าใครใช้ทางด่วนมาจากที่ไหนก็แล้วแต่ให้ขับตามป้าย ดาวคะนอง มาเรื่อยๆครับ จนข้ามสะพานแขวนแล้วขับต่อไปจนเจอป้ายบอกทาง ดาวคะนอง กับ สมุทรสาคร ให้ชิดขวาตามป้ายสมุทรสาคร ก็จะไปลงถนน พระราม 2 พอดี
ก่อนข้ามขึ้นสะพาน พระราม 9 จะเจอป้ายนี้เป็นป้ายสุดท้ายครับ
ระหว่างข้ามสะพาน พระราม 9 จะเห็นอาคารสำนักงานใหญ่ของ ธนาคาร กสิการไทย ตั้งตระหง่านอยู่ด้านขวามือครับ
เมื่อลงสะพานมาแล้วให้ชิดขวานะครับ ถ้าออกทางด้ายซ้ายจะไปถนนสุขสวัสดิ์ที่เชื่อมต่อไปยังถนนพระประแดง
เมื่อเจอป้ายบอกทางไป สมุทรสาครก็ชิดขวาตามป้ายไปเลยครับ
เมื่อลงทางด่วนมาแล้วก็ชิดซ้ายเพื่อใช้ทางออกไปยังโครงการ (เป็นทางออกแรกที่เจอนะครับ)
พอออกมาแล้วจะเห็นทางเข้าโครงการอยู่ใกล้กับทางออกมาก และต้องวิ่งฝ่าไป 3 เลนถึงจะเข้าโครงการค่อนข้างอันตรายพอสมควร ดังนั้นถ้ามาจากทางด่วนแนะนำให้ใช้ทางออกดาวคะนองแล้วไปกลับเอาดีกว่าปลอดภัยกว่าเยอะครับ เดี๋ยวจะพาไปดูทำเลบนถนนพระราม 2 กันก่อนนะครับว่ามีอะไรน่าสนใจบ้างแล้วค่อยกลับเข้ามาดูในโครงการ
เลยโครงการมาไม่ไกลจะเจอกับปั๊มน้ำมัน Petronas
ถัดจากปั๊มจะเป็นซอย วัดยายร่ม ขอออธิบายเพิ่มเติมว่า ซอยต่างๆในบริเวณนี้(ฝั่งขาออก)จะเชื่อมต่อถึงกันหมดคล้ายๆรังมดขนาดใหญ่เลยครับ เส้นทางภายในจะคดเคี้ยวไปมาตลอดทาง ด้านในมีทั้งสำนังงานต่างๆ, โรงเรียน, วัด และโรงงานขนาดเล็ก แต่ส่วนมากจะเป็นแหล่งชุมชนที่อาศัยอยู่กันเยอะพอสมควร มีทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ สถานที่ออกกำลังกายก็มีอยู่หลายที่ มีสวนสาธารณะธนบุรีอยู่ใกล้ๆกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมีสนามบอลกับคอร์ทแบดมินตัน อยู่ด้านใน ซอยต่างๆเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกับ ถนนสุขสวัสดิ์ และ ถนนบางขุนเทียนชายทะเลได้
โครงการนี้ดีหน่อยตรงที่มีจุดกลับรถไว้เข้าเมืองอยู่ใกล้ๆซึ่งถ้าเลยตรงนี้ไปแล้วต้องไปกลับรถที่หน้าเซ็นทรัลเลยครับ
เลยมาอีกหน่อยจะเจอกับ หมู่บ้านชิชา เป็นหมู่บ้านเก่าแก่สไตล์ยุโรปที่ถือว่าเป็นหมู่บ้านราคาแพงที่สุดในย่ายนี้ด้วย ยูนิตที่ใหญ่หน่อยจะมีที่ดินขนาด 555 ตร.วา ( 1 ไร่กับ 155 ตร.วา) พื้นที่ใช้สอย 2,220 ตร.ม.อาคารสูง 4 ชั้นรวมห้องใต้ดิน เรียกได้ว่าเป็นคฤหาสน์เลย ในช่วงแรกๆตอนเปิด(ประมาณ30ปีที่แล้ว)มีการใช้รถม้าสำหรับการสัญจรภายในโครงการด้วย เก๋ไหม๊หละครับ ส่วนด้านขวามือในรูปคือสะพานกลับรถสำหรับไปยัง ถนนตากสิน และ ถนนสุขสวัสดิ์
ปั๊มน้ำมัน ปตท. ที่อยู่โครงการ Plum Extra
ลานปูนด้านซ้ายมือก่อนถึงซอย หมู่บ้านทวีสิน (พระราม 2 ซอย 43) เมื่อก่อนจะมีตลาดนัดแต่ขายไม่ดีเลยเลิกไป
ต่อมาเป็นซอย หมู่บ้านสินทวี ที่อยู่ข้างๆโรงพยาบาล บางมด ภายในซอยนี้จะมีอาหารการกินมากมายให้เลือกเพราะมีแหล่งชุมชนอยู่ด้านใน ตลาดตอนเช้าจะเป็นพวกอาหารสด และช่วงกลางวันจะเป็นอาหารตามตึกแถวริมทางและมีขายขนมบ้างเพื่อ รองรับคนที่มาใช้บริการโรงพยาบาลบางมด ส่วนช่วงเย็นจะคึกคักไปด้วยร้านค้ารถเข็นแผงลอย ที่คนส่วนใหญ่จะซื้อตอนขากลับเข้าบ้านไม่ค่อยนิยมนั่งกินเหมือนอย่างตลาด โอ๋เอ๋ ที่เป็นร้านนั่งกินได้
โรงพายบาล บางมด ที่อยู่ติดกับ ศูนย์สุขภาพและความงาม My Care เป็นโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กับโครงการที่สุดแล้ว
ถัดมาเป็นร้านอาหารจีน เล่ง หงษ์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องเป็ดปักกิ่ง
โชว์รูม NISSAN (บนถนนเส้นนี้มีโชว์รูมรถเยอะมากครับมีเกือบครบทุกยี่ห้อเลย)
ติดๆกันกับโชว์รูม NISSAN ก็มีศูนย์สุขภาพและความงามอีกแห่ง คือ Health land
ร้านอาหาร Bon Hay จะเปิดช่วงเย็นๆ
ธนาคาร ไทยพาณิชย์
โชว์รูม FORD อยู่หน้าปากซอย อนามัยงามเจริญ ซอยนี้ก็ไปทะลุออกซอยวัดยายร่ม, ซอยวัดเลา, ถนนสุชสวัสดิ์และบางขุนเทียน-ชายทะเลได้
ก่อนถึงซอยวัดเลาเจอปั๊มน้ำมัน ปตท. อีกปั๊ม
ซอยวัดเลา
ปั๊มน้ำมัน SUSCO ช่วงปากซอยท่าข้ามจะเป็นแหล่งความเจริญสำคัญของถนนเส้นนี้เพราะมีทั้ง HomePro, SB Furniture, Central พระราม2 และ Macdonald’s DRIVE-THRU
McDonald’s DRIVE-THRU และ McCafe อยู่ด้วยกันมีคนมาใช้บริการเยอะอยู่เหมือนกันครับ ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นเซ็นทรัลพระราม 2 ที่มี Central Park ไว้ออกกำลังกายอยู่ด้านหลังห้าง และร้านอาหาระเลชื่อ น้องเนย อยู่ในสวนสาธารณะเลย
ปั๊มน้ำมันบางจากอยู่ก่อนถึง Big C
จากหน้า Big C ถ้าใครจะเข้าเซ็นทรัลให้ชิดขวาขึ้นสะพานกลับรถแล้วชิดซ้ายไว้เพื่อเข้าห้างได้โดยตรงครับ
ใน Big C สาขาพระราม 2 จะมีสะพานลอยเชื่อมต่อเข้า เซ็นทรัล สามารถเดินทะลุถึงกันได้ครับ
ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ชบา อยู่ติดกับ Big C เปิดตอนเย็นๆครับ
โชว์รูม CHEVROLET
ถ้าเลี้ยวซ้ายเข้า ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ครับในนี้มีร้านอาหารซีฟู้ดเยอะมาก ว่างๆเสาร์-อาทิตย์ก็มานั่งกินข้าวรับลมสบายๆครับ
โชว์รูม HONDA
โชว์รูม ISUZU
โชว์รูม TOYOTA
แหล่งร้านอาหารและร้านค้าข้าง Tesco Lotus
Tesco Lotus จะอยู่บริเวณถนนที่ตัดกับถนนกาญจนาภิเษก
ถ้าเลี้ยวซ้ายไปทางด่วนวงแหวนอุตสาหกรรม ไปบางนาได้สะดวกครับ ทางตรงไปจะไปสมุทรสาคร หรือจะลงภาคใต้ ถ้าจะไปบางแคให้เลี้ยวซ้ายแล้วใช้ช่องกลาง เพราะถ้าเลี้ยวซ้ายแล้วชิดขวาสุดจะเป็นที่กลับรถครับ
กลับรถมาจะเจอโชว์รูม MAZDA
ช่วงหน้าปากซอยการเคหะจะมีตลาดนัดช่วงเช้าและช่วงเย็น ซึ่งมีวินรถตู้ไป รังสิต และ ประตูน้ำ-ถนนเพชรบุรี
Big C ที่อยู่ใกล้ๆกับการเคหะจะมี Community mall อยู่ด้านในให้เดิน Shopping ได้ครับ
ร้านอาหารพระราม 2 ไนท์บาซาร์ อยู่ก่อนถึงทางแยกไปถนนเอกชัย
เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเอกชัยและมีทางลัดเลาะไปออกด้านหลัง เซ็นทรัล พระราม 2 ได้ ในซอยนี้มี Smart Condo อยู่ช่วงต้นซอย
โรงพยาบาลนครธน
สำนักงานเขตบางขุนเทียน
เซ็นทรัลพระราม 2 ตัวอาคารเป็นรูปตัว U อ้อมอาคารพาณิชย์ที่อยู่ตรงกลางซึ่งมีโรงเรียนกวดวิชาและสำนักงานต่างๆตั้งอยู่
เลยเซ็นทรัลมาหน่อยจะเป็น โรงเบียร์ ฮอลแลนด์
โรงพยาบาล บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
สุดถนนพระราม 2 เป็น 3 แยกบางปะแก้วถ้าเลี้ยวซ้ายไปถนนตากสิน, วงเวียนใหญ่, สะพานสาทร ถ้าเลี้ยวขวาไปถนนสุขสวัสดิ์ และพระประแดง ด้านขวาสุดเลี้ยวกลับเข้าถนนพระราม 2
เมื่อเลี้ยวกลับมาแล้วจะผ่านตลาด โอ๋เอ๋ ซึ่งบริเวณนี้จะมีร้านค้าอาหารมากมายตั้งอยู่ริมถนน ถ้าใครนั่งรถเมล์มาก็แวะหาของกินบริเวณนี้ก่อนเข้าโครงการได้
เรื่องอาหารการกินก็มีให้เลือกเยอะครับบนเส้นนี้ ถ้าไม่ได้เป็นร้านอาหารใหญ่ๆเลย ส่วนใหญ่จะอิงอยู่ตามตลาดต่างๆ ผมจะพาไปดู 3 ตลาดนะครับตลาดแรกจะอยู่ก่อนถึงโครงการคือตลาด โอ๋เอ๋ ส่วนตลาดที่ 2 คือตลาดในซอยข้างรพ.บางมด ตลาดที่ 3 คือตลาดข้าง Tesco lotus แต่จริงๆแล้วตลาดแถวนี้ก็มีอีกเยอะนะครับ แต่ผมเอาแค่จุดที่ใหญ่ๆแล้วก็ติดถนน พระราม 2 เป็นหลักนะครับ (อย่างตลาดวัดนาค แถวๆสุขสวัสดิ์ ซ.6 – 12 ก็มีเยอะครับแต่อยู่นอกเส้นทางพระราม 2 แล้วเลยไม่ได้ปักหมุดไว้ให้) ถ้าใครมีตรงไหนที่น่าสนใจก็แนะนำได้ครับ
ตลาดแรกคือตลาดโอ๋เอ๋
ตลาดโอ๋เอ๋ จะเน้นไปทางอาหารจานเดียวครับซึ่งร้านค้าส่วนมากจะอยู่ริมถนนเลย
ร้านบางส่วนจะอยู่ช่วงต้นซอยต่างๆตามทาง
ตลาดในซอยสินทวี ช่วงกลางคืนจะเน้นซื้อกลับบ้านเป็นส่วนใหญ่
ช่วงต้นซอยยังมีขายทั้งวันมีหลายอย่างให้เลือกมากมาย ข้าวมันไก่, ก๋วยเตี๋ยวไก่, น้ำปั่น, ส้มตำ และอื่นๆ
ด้านในซอยจะมีร้านค้าแผงลอย ส่วนใหญ่จะนิยมซื้อกลับบ้าน ช่วงหัวค่ำรถมอเตอร์ไซด์จะเยอะมากครับ
ร้านขายข้าวสารก็มีนะ
ร้านนี้ขายของใช้ต่างๆ ทุกอย่าง 20 บาทเท่านั้น
ผัดไท – หอยทอด
CP Fresh Mart
ร้านยำและส้มตำก็มีหลายร้านให้เลือก
ถ้าใครกินเจหรืออาหารมังสวิรัติ ก็มีร้านอาหารเจขาย
ร้านน้ำเต้าหู้ร้านนี้ก็ขายดีครับ
ช่วงกลางๆของแหล่งร้านค้าจะมี Tesco Lotus Express อยู่
ร้านเบเกอรี่ก็มีครับ ช่วงที่อบขนมนี่กลิ่นลอยมาหน้าร้านเลย
ร้านนี้หมูกรอบก็อร่อยครับ กรอบเกรียวได้ใจ
ช่วงที่เดินในซอยนี้จะเห็นบรรยากาศที่คนขี่มอเตอร์ไซค์มาซื้อของกินแบบเอากลับไปกินที่บ้านตลอดเวลาครับ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยนั่งกินกันที่ร้าน
ช่วงท้ายๆที่จะหมดแหล่งขายของกินจะมี 7Eleven ตั้งอยู่หลังจากจุดนี้ไปจะเหลือไม่กี่ร้านแล้วครับ ลองสังเกตด้านขวาสุดของภาพนะครับจะเห็นว่ามีแต่ไฟท้ายของมอเตอร์ไซด์เต็มไปหมด ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านละแวกนี้แหละครับ
ร้านหนังสือก็มีนะ
ปิดท้ายด้วยผลไม้ครับ
ตลาดถัดมาจะอยู่ไกลโครงการหน่อยแต่ของกินจะมีให้เลือกมากกว่าแถมมีตลาดนัดให้เดินด้วย ตัวตลาดจะอยู่ก่อนถึง Tesco Lotus ผมจะพาเดินจากเส้นสีแดงไปยังสีเขียวแล้วกลับมาสีน้ำเงินนะครับ
ตลาดแห่งนี้จะมีเอกลักษณ์คือมีจักรยาน 3 ล้อไว้คอยให้บริการชุมชนที่อยู่ด้านใน
ร้านแถวนี้มีที่ให้นั่งกินทุกร้านเลย
หรือจะซื้อเป็นกับข้าวก็ได้
อาหารก็มีให้เลือกเยอะหลายอย่างตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยวเรือ, ข้าวขาหมู, ข้าวมันไก่, โจ๊ก, ก๋วญจั๊บญวณ, เป็ดย่าง, เกาเหลา และอีกมากมาย
ช่วงนี้เป็นริมถนน พระราม 2 ซึ่งมีขายทั้งของกินและของใช้ ยาวไปจนถึงสะพานลอยที่ข้ามไปยังการเคหะฝั่งตรงข้ามได้
วนกลับเข้าไปดูด้านในตลาดนัดบ้าง โซนแรกจะเป็นโซนขายของกินเล่นไม่มีร้านให้นั่งนะครับ
บรรยากาศภายในเต้นท์
มีทั้งอาหารคาว, ของหวาน และขนมกินเล่นให้เลือกมากมาย
เดินมาจนสุดจะเป็นตลาดนัดขายเสื้อผ้าและเปิดทุกวันครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (ระยะที่เห็นเป็นระยะรถวิ่งนะครับ ดังนั้นบางที่อาจจะไกลเพราะอาจมีระยะกลับรถด้วย)
- Central พระราม (2 4 กม.)
- Big C พระราม 2 (3.5 กม.)
- HomePro, SB Furniture (3.3 กม.)
- Mc Donald’s Drive Thru (3.4 กม.)
- โรงพยาบาลบางมด (1.5 กม.)
- โรงพยาบาลนครธน (10.8 กม.)
- โรงพยาบาล บางกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล (2.7 กม.)
- ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (9.4 กม.)
- จุดลงทางด่วน (0.9 กม.)
- จุดขึ้นทางด่วน (3 กม.)
ตัวโครงการจะมีทั้งหมด 3 เฟสและเฟสที่เปิดขายจะอยู่ด้านในสุดตามในรูป ส่วนชิ้นที่ดินจะมีรูปร่างแปลกๆหน่อยเหมือนที่ดิน 3 ชิ้น(ประมาณ 17 ไร่)มาต่อกันแบบเยื้องๆ แถมยังมีสะพานข้ามคลองบางขุนเทียนอีก ดังนั้นเส้นทางการเข้าไปยังโครงการจึงมีการเลี้ยวตามแนวที่ดินไปจนถึงหน้าทางเข้า ด้านหลังของโครงการจะติดกับ พระราม 2 ซอย 31 ที่เป็นซอยตันดังนั้นด้านหลังจึงไม่มีความพลุกพล่านเท่าไหร่ ส่วนรอบๆข้างก็เป็นบ้านพักอาศัยที่มีความสูงไม่เกิน 2-3 ชั้น ดังนั้นไม่มีการบังวิวในระยะใกล้แน่นอน จะมีข้อด้อยอยู่นิดหน่อยตรงที่มีระยะเดินจากหน้าโครงการไปยังถนนใหญ่ประมาณ 300 เมตร แต่ก็ยังโชคดีที่ป้ายรถเมล์กับสะพานลอยอยู่หน้าโครงการเลย ถ้าใครไม่ใช้รถก็จะสะดวกและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีกต่อสำหรับเข้าซอย
ส่วนคนที่ใช้รถจะมีเรื่องที่ต้องระวังเวลาลงทางด่วนโดยใช้ทางออก สมุทรสาคร เพราะปากทางเข้าโครงการอยู่ใกล้จุดทางออกมาก ทำให้การเข้าโครงการต้องใช้ความระมัดระวังสูงเพราะต้องวิ่งฝ่า 3 เลนเพื่อเข้าซอยโครงการมีโอกาศเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ถ้าจะใช้ทางด่วนเวลาเข้าโครงการให้ใช้ทางออก ดาวคะนอง แล้วไปกลับรถหน่อยจะดีกว่า ยอมเสียเวลาหน่อยแต่ปลอดภัยกว่ากันเยอะ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
ลองวางผังอาคารลงในที่ดินจะเห็นว่าตัวอาคารทั้ง 3 จะอยู่ติดเขตที่ดิน เส้นทางการสัญจรรถภายในจะอยู่ใต้ตึกรวมถึงที่จอดรถด้วย ลูกบ้านก็จะมีที่จอดในร่มเป็นส่วนใหญ่และมีบางส่วนจอดภายนอกอาาร รอบๆด้านจะเป็นบ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2 ชั้นเป็นส่วนใหญ่ มีด้านนึงที่ติดกับสถานีสูบจ่ายน้ำราษฎร์บูรณะ ส่วนเฟสที่เปิดขายจะไม่ติดคลองซะทีเดียว จึงไม่ค่อยมีผลจากคลองสักเท่าไหร่
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
มาดูผังอาคารกันครับ ตัวอาคารจะวางตัวกับล้อมรอบทำให้เกิด Court ตรงกลาง ซึ่งจะมี Club House, Fitness, สระว่ายน้ำ และสวนหย่อม การวางห้องของโครงการนี้จะเอาห้องแบบ B 34 ตร.ม.ไว้ด้านวิวสวนทั้งหมด และรอบนอกจะเป็น ห้องแบบ A 30 ตร.ม. ถนนภายในโครงการกว้าง 6 เมตร ตอนนี้อาคาร A และ B ขายออกไปหมดแล้วเหลือให้เลือกแค่อาคาร C เท่านั้นครับ
ผังอาคาร ชั้น 2 – 8 จะเหมือนกันทั้งหมด ตัวอาคารอาคาร A และ B จะเป็นทรงตัว L แต่สลับด้านกัน มีจำนวนยูนิต 29 ยูนิต ตัวลิฟท์จะอยู่ตรงมุมตัว L พอดี ห้องที่อยู่ไกลลิฟท์สุดมีระยะอยู่ที่ประมาณ 50 ม. ห้องมุมของโครงการนี้ไม่ได้เห็นวิวจากอีกด้านนะครับ (แต่ส่วนใหญ่คอนโดแนว Low Rise วิวจะไม่ได้แตกต่างกันกันมากอยู่แล้วครับ)
อาคาร B จะมีจำนวนยูนิต่อชั้นเท่ากับ อาคาร A และมีรูปทรงที่เป็นตัว L เหมือนกันแต่แบบจะกลับด้านกัน
อาคาร C จะเป็นแท่ง 4 เหลี่ยมทรงยาวๆ มีจำนวนยูนิตต่อชั้น อยู่ที่ 30 ยูนิต มากกว่าอาคาร A และ B อยู่นิดหน่อย แต่ระยะเดินมาที่ลิฟท์จากทั้ง 2 ฝั่งจะเท่าๆกัน ห้องที่เป็นแบบ B 34 ตร.ม. จะเป็นวิวสวนนะครับ
ภาพบรรยากาศจำลองของตัวอาคาร ตัวอาคารจะเป็น Style ของ SENA ครับถ้าใครเคยเห็นคอนโด Low Rise การออกแบบรูปด้านก็จะเป็นแนวๆนี้หมดครับต่างกันที่สีสันที่ใช้ ด้านซ้ายที่เห็นโล่งๆ ในอนาคตจะไม่โล่งนะครับเพราะจะเป็นพื้นที่ของ เฟส 2 ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลเปิดเผยออกมาครับ
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Lobby จะเน้นการเปิดโล่งให้เห็นสวนด้านนอกโดยใช้ผนังกระจกทั้งหมด ตรงจุดนี้ถ้ามีการปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ก็จะได้วิวสวยๆดูไม่แห้งแล้งแต่ถ้าจัดสวนมาไม่ดีก็ร้อนแน่นอนครับ บริเวณนี้จะมี Free Wi-Fi ให้ลูกบ้านใช้ด้วยถือว่าดีมากๆเลย
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณสระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ขนาด 7 x 17 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร อาคาร A จะไม่ได้วิวสระตรงนี้นะครับ
ต่อไปเรามาดูสำนักงานขายกันดีกว่าครับ สำนักงานขายจะตั้งอยู่ด้านหน้าสุดของที่ดินและอยู่ติดถนนใหญ่เลยภายในจะมีโมเดลและห้องตัวอย่างให้ดู 2 ห้องครับ โทนสีที่ใช้ตกแต่งก็จะเป็นโทนสีใกล้เคียงกับที่จะใช้ในโครงการเลยครับ
คนไหนที่เน้นการเดินทางโดยไม่ใช้รถถือว่าโชคดีครับ เพราะป้ายรถเมล์และสะพานลอยตั้งอยู่ที่ด้านหน้าโครงการเลย ไม่ต้องเดินตากแดดไปไกลๆ (แต่ต้องเดินออกมาจากด้านในประมาณ 300 เมตรนะจ๊ะ^__^)
ถ่ายรูปจากบนสะพานลอยมาให้ดูสภาพด้านหน้าโครงการว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง
ตอนนี้การก่อสร้างตัวอาคารมาถึงชั้น บนสุดแล้วครับ ตัวอาคารสามารถมองเห็นได้จากบนสะพานลอยเลย แต่รูปนี้ซูมเข้าไปที่ตัวอาคารนะครับ ของจริงไม่ได้ใกล้ขนาดนี้
จุดนี้แหละครับที่เคยบอกว่าถ้าใช้ทางออกจากทางด่วนมาบนถนนพระราม 2 ขาออก(ตามป้ายสมุทรสาคร) ทางเข้าโครงการกับทางออกจากถนนหลักนั้นอยู่ใกล้กันมากแถมต้องวิ่งเบียดถึง 3 เลน อย่างในรูปจะเห็นรถเก๋งสีขาวรอวิ่งเข้าปากซอยโครงการอยู่ซึ่งถ้าก็ต้องใช้เวลารอนานพอสมควรและค่อนข้างอันตรายด้วยครับ แนะนำให้ใช้ทางออกทางด่วนตามป้าย ดาวคะนอง ดีกว่า พอลงจากทางด่วนแล้วก็ไปกลับรถหน่อยยอมเสียเวลาอีกนิดแต่ปลอดภัยกว่าเยอะครับ
ภายในสำนักงานก็ตกแต่งโทนสีตาม Concept ของโครงการครับ
ภายในสำนักงานขายมีกลอนประตูของจริงให้ดูด้วย (เพราะห้องตัวอย่างไม่มีการติดตั้งประตูมาให้ดูครับ)
โมเดลจะอยู่ตรงประตูทางเข้าเลยเดี๋ยวเราไปดูกันดีกว่าครับ
ตัวโมเดลจะแสดงมาให้ครบทั้ง 3 อาคาร ทำให้เห็นระยะห่างระหว่างอาคารได้ดีครับ
ทางเข้าโครงการจะมีป้อมยามอยู่แสดงว่าในอนาคต เฟส 2 และ 3 คงจะแยกการทางเข้าออกกันอย่างชัดเจน
เส้นทางการเดินรถก็จะวิ่งผ่านใต้ตึกเอานะครับ ส่วนระยะห่างระหว่างอาคารบริเวณ สวนหย่อม, สระว่ายน้ำ อยู่ที่ 14 เมตร
ที่จอดรถจะมีทั้งแบบในร่มและกล้างแจ้งแต่บางส่วนจะเป็นการจอดแบบกึ่งกลางแจ้ง เพราะตำแหน่งที่จอดอยู่กึ่งกลางของริมอาคารพอดี
ซูมมาให้ดูทางเข้าใกล้ๆจะเห็นว่าพืนที่ๆเป็นลวดลานนั้นจะเป็นทางไปยังส่วนกลางและทางเข้าอาคารต่างๆ
การจอดรถเป็นแบบไม่ Fix ที่จอดแต่ทุกยูนิตจะได้สิทธิจอดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม (ที่จอดรถ 44.16% ไม่รวมซ้อนคัน)
รูปนี้ถ่ายมาให้ดูว่าถ้าอยู่ชั้น 6 – 7 จะเห็นวิวสระประมาณไหน
ส่วนรูปนี้เป็นวิวสวนครับ การก่อสร้างของที่นี่ผนังภายนอกอาคารทั้งหมดจะเป็นแบบ Precast ส่วนผนังกั้นห้องภายในจะเป็นก่ออิฐฉาบปูนแทนครับ
ต่อไปเราไปดูห้องตัวอย่างกันนะครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7 x 17 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาด 35 ตร.ม. ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ xx เครื่อง
- Wi-Fi ฟรีบริเวณ Lobby
- สวนหย่อมระหว่างอาคาร
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 102.67 : 1
- อัตราส่วนลิฟท์อาคาร A และ B 101.5 : 1
- อัตราส่วนลิฟท์อาคาร C 105 : 1
- Service Lift ไม่มี
- ที่จอดรถ 272 คัน คิดเป็น 44.16 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น xx%
- ระบบ CCTV / Access Card
แบบของ 1 Bedroom 30 ตร.ม. จัดมาค่อนข้างดีและลงตัว ได้ระยะดูทีวีประมาณ 2.7 เมตรแยกห้องนอนและครัวเป็นสัดส่วน แต่ครัวไม่ได้ทำเป็นครัวปิดมาให้นะครับ ดังนั้นไม่ควรทำอาหารแบบจัดหนักเพราะกลิ่นจะคละคลุ้งไปทั่วห้องแน่นอน แต่ถ้าใครอยากทำจริงๆก็แนะนำให้ทำประตูบ้านเลื่อนกั้นห้องครัวเพิ่มจะดีกว่า ส่วนตำแหน่งของห้องน้ำก็มีทั้งข้อดีและเสียครับ ข้อดีคือเวลาแขกไปใครมาก็เข้าห้องน้ำโดยไม่ต้องผ่านห้องนอน แต่ข้อเสียคือเวลาเราจะเข้าห้องน้ำก็ต้องเดินผ่านห้องนั่งเล่นและครัวครับ
การขายเป็นการการขายแบบ Fully Furnished หน้าห้องตัวอย่างจะมีป้ายขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่ ซึ่งจะมีการบอกถึงรายละเอียดต่างๆครบถ้วน ไล่ตั้งแต่ตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์, ประเภทและจำนวนเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงวัสดุที่ใช้ในห้อง ถือว่าดีมากๆเลยนะครับเวลาลูกค้ามาดูห้องตัวอย่างก็เข้าใจง่ายดี ไม่ต้องคอยมานั่งถามเซลล์ให้วุ่นวายว่าอันไหนแถมอันไหนไม่แถม
เฟอร์นิเจอร์ที่แถมมาให้มีทั้งหมด 8 ชิ้นเป็นของ SB Furniture ทั้งหมดครับ
ส่วนแรกคือ Living Area ติดกับห้องนอนโดยมีบานกระจกเลื่อนแบบ 3 ตอนกั้นอยู่
โซนทานอาหารจะถูกจัดอยู่ที่มุมหน้าห้อง ความสูงของฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.4 เมตรนะครับ
ลูกเล่นของเฟอร์นิเจอร์ที่เค้าให้มาก็ถือว่าดีนะครับ เพราะสามารถปรับความสูงของหน้าโต๊ะให้ขึ้นมาพอดีกับระยะนั่งทานอาหาร เหมาะสำหรับคนที่ชอบดูทีวีไปหาอะไรกินไปด้วย และยังมีที่ซ่อนของใต้โต๊ะได้อีกด้วย ;p
ส่วนใครที่กังวลว่ามันแข็งแรงไหม๊ มันจะหล่นรึเปล่า ยกยากไหม๊ … ไม่ต้องกังวลไปครับเพราะตัวยะเค้ามีโช๊คและตัวล็อคมาให้เวลายกออกแรงนิดเดียว ส่วนตอนจะเก็บต้องออกแรงกดนิดหน่อย
ตัวล็อคจะมีมาให้ทั้ง 2 ด้านถ้าใครกลัวว่ามันจะรับน้ำหนักหรือแรงกดไม่ไหวก็ปรับตัวล็อคได้ครับ
โซฟาที่ให้มาจะมีขนาดเล็กไปสักหน่อยแถมไม่มีที่พักแขนมาให้ด้วย แต่ก็มีข้อดีคือมีที่เก็บของใต้เบาะนั่งมาให้ เข้ากับยุคสมัยที่พื้นที่เก็บของหาได้ยากยิ่งนักสำหรับการอยู่คอนโด แถมมือจับมีการปาดมุมมาให้ด้วย
ระยะดูทีวีก็อย่างที่เห็นครับประมาณ 2.7 เมตร เรียกว่ามีระยะเหลือเฟือจัดทีวีขนาด 50″ – 55 ” ได้สบายๆ ชั้นวางหนังสือด้านขวามือไม่ได้แถมมาให้นะครับ
ช่องเปิดและลิ้นชักโต๊ะวางทีวีที่แถมมาให้ โต๊ะตัวนี้เอาไว้วางพวกเครื่องเล่นต่างๆจะดีกว่า แล้วติดตั้งทีวีแบบแขวนเอาจะช่วยประหยัดพื้นที่ได้เยอะเลยครับ
หน้าตาสวิทช์และปลั๊กไฟก็มาแบบธรรมดาตามราคาครับ ใช้ของ Bticino
โต๊ะกินข้าวที่แถมมาให้นั้งได้ 2 คนก็จริงแต่ขนาดโต๊ะเป็นแบบวางอาหารจานเดียว ถ้าจะวางกับข้าวด้วยอาจจะแน่นไปหน่อย ตำแหน่งการวางโต๊ะสามารถเลื่อนออกมาจากมุมได้นะครับเพราะยังมีพื้นที่หน้าห้องเหลือพอสมควร พอเลื่อนออกมาแล้วจะนั่งแบบหันหน้าเข้าหากันได้ไม่ต้องไปนั่งเบียดกันตรงมุมห้องให้อึดอัด
เก้าอี้ที่แถมมาให้เป็นหนังเทียมหุ้มทั้งตัวลองนั่งแล้วไม่ค่อยนุ่มเท่าไหร่ แต่ก็เหมาะกับเก้าอี้ไว้นั่งทานอาหาร แต่ที่ต้องระวังคือการดูและรักษาเพราะเล่นใช้สีขาวทั้งตัวเลยอาจต้องคอยหมั่นทำความสะอาดหน่อย
พื้นที่ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นจะถูกแบ่งด้วยฉากกระจกกั้น 3 ตอนตามสมัยนิยม เพื่อช่วยเพิ่มแสงธรรมชาติให้กับห้องนั่งเล่นและไม่ทำให้บรรยากาศโดยรวมดูแคบ
กรอบประตูและหน้าต่างของโครงการนี้จะเป็นสีอลูมิเนียมทั้งหมดไม่ได้ทำสีมาเพิ่มให้แต่อย่างใด รางเลื่อนของประตูจะฝังลงไประดับเดียวกับพื้นห้องเลย ถือว่าใส่ใจในรายละเอียดดีครับ เวลาเดินไม่มีสะดุดแน่นอน
ฐานเตียงนอนที่แถมมาให้เป็นขนาด 5 ฟุต เวลาจะซื้อฟูกมาวางก็อย่าซื้อผิดขนาดนะครับ ^__^
ระยะเหลือรอบๆเตียงจะมีปัญหาแคด้านที่ติดกับประตู เพราะเหลือที่ไม่มากนัก แต่อีกด้านจะมีระยะที่ห่างที่พอดีๆเดินได้สบายๆเพราะหัวเตียงติดระยะเสาพอดี
ถ่ายด้านนี้มาให้ดูจะได้เห็นภาพรวมชัดขึ้น ถ้าใครถ้าทำให้เรียบร้อยก็แนะนำให้ทำ Built-in ที่หัวเตียงเลยก็ได้จะได้มีที่เก็บของมาขึ้น
ปลายเตียงจะเป็นที่วางตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้งแลกกับการไม่สามารถติดทีวีในห้องนอนได้ ที่ตู้เสื้อผ้าจะติดกระจกเงาที่บานเปิดมาให้แบบเต็มตัวช่วยให้สาวๆตรวจความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องได้เป็นอย่างดีครับ ^^ แต่ตอนกลางคืนตื่นมาเข้าห้องน้ำก็อย่าตกใจเงาตัวเองก็พอครับ -__-‘
บานเปิดต่างๆของตู้เสื้อผ้าครับ บานประตูเป็นบานเลื่อนสลับแต่ดันติดมือจับมาให้แค่ด้านเดียวเวลาจะเปิดอีกด้านก็ออกแรงหน่อยนะครับ
โต๊ะเครื่องแป้งให้มาครบชุดเลยครับทั้งชุดบนและล่าง รวมเก้าอี้ Stool ด้วยครับ
ตัวหน้าต่างเป็นบานเลื่อนสลับกับชุดล่างเป็นบาน Fix
หันกลับมาดูในห้องกันอีกที จะเห็นว่าพื้นที่บริเวณโต๊ะกินข้าวมีที่เหลือพอให้ขยับออกมาได้อีกหน่อย และแนะนำให้ติดไฟส่องสว่างบริเวณนั้นเพิ่มเติมนะครับ
วัสดุพื้นห้องนั่งเล่นกับห้องนอนเป็นพื้นไม้ลามิเนต ส่วนพื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาขนาด 12″ x 12″
ห้องครัวของที่นี่จะได้ Pantry ขนาดเล็กพอเหมาะกับการใช้ชีวิตไม่เกิน 2 คนและไม่เน้นการทำครัวหนัก และพื้นที่วางตู้เย็นก็เตรียมมาให้ใหญ่ดีและตู้เย็นที่เห็นในห้องตัวอย่างขนาด 5.9 คิวบิกฟุตครับ
บานเปิดต่างๆของ Pantry ชุดล่าง บานเปิดและลิ้นชักทั้งหมดจะติดมือจับอลูมิเนียมมาให้จับถนัดมือดี ตรงมุมมีลบคมให้นิดหน่อยไม่บาดมือครับ (ถ้าลูกบ้านตรวจห้องเจอคมๆก็บอกให้เค้าลบคมหน่อยก็ได้ครับ)
Top ของ Pantry ครัวเป็นปาติเกิ้ลปะเมลานีนสำหรับใช้ในครัว ดังนั้นควรระวังเรื่องความชื้น อย่าให้มีน้ำขังนานๆเพราะความทนทานของวัสดุแบบนี้มีน้อยกว่าพวกหินแกรนิตครับ
อ่างล้างจานได้มาแบบหลุมเดียวไม่มีที่พักจานมาให้และมีความลึกกำลังดี ตัวอ่างและก๊อกใช้ของ MEX ทั้งคู่
ชุดบนจะได้ชั้นวางของและตู้เก็บของแบบมีประตูปิด
ทางออกไประเบียงจะเป็นบานกระจกเลื่อนเดี่ยว คือเปิดได้แต่บ้านซ้ายมือเท่านั้นบานขวามือเป็นบาน Fix เปิดไม่ได้นะครับ
ระหว่างพื้นระเบียงกับห้องครัวมีธรณีสูง 10 ซม. กั้นอยู่ไม่ต้องกลัวว่าฝนตกหนักๆแล้วน้ำจะไหลเข้าห้องครับ
พื้นที่ระเบียงมีเนื้อที่ไม่มากประมาณ 1 x 1.5 เมตร พอวางเครื่องซักผ้าลงไปแล้วก็เหลือที่ตากผ้านิดเดียว พอวางราวตากผ้าได้ 1 อัน ราวระเบียงเป็นเหล็กทำสีดำ
การติดตั้ง Condensing unit เป็นแบบเป่าข้าง ดังนั้นแนะนำให้ติดตะแกรงเปลี่ยนทิศทางลมไม่งั้นพื้นที่บริเวณนี้จะร้อนมากๆเลยครับ
ส่วนสุดท้ายคือห้องน้ำครับ ให้วัสดุและอุปกรณ์มาตามมาตรฐานราคาเลย พื้นปูกระเบื้องเซรามิคขนาด 12″ x 12″ ผนังเป็นกระเบื้อง 8″ x 8″ และ 12″ x 12″ ปูเต็มความสูงฝ้าเพดาน ภายในมีพัดลมดูดอากาศให้ครับ
หน้าตาชุดฝักบัวอาบน้ำ
บริเวณอ่างล้างหน้าจะมีมาให้แค่ตัวสุขภัณฑ์เท่านั้น ไม่มีชั้นวางของ, เคาน์เตอร์ หรือ Low Wall มาให้แต่อย่างใดลูกบ้านต้องหาชั้นวางของมาติดเพิ่มเองนะครับ
ตัวอ่างมีขนาดค่อนข้างเล็กเวลาใช้งานคงมีกระเด็นออกมาแน่นอนครับ
ชุดโถสุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto หน้าตาบ้านๆอย่างที่เห็นครับ ตำแหน่งที่แขวนทิชชู่อยู่ด้านข้างที่กับโซนอาบน้ำใช้งานได้สะดวก แต่แนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำนะครับทิชชู่ตรงนี้จะได้ไม่เปียก
ต่อมาคือแบบ B 34 ตร.ม.ที่เห็นวิวสวนด้านใน การวางฟังก์ชั่นจะคล้ายๆกับแบบ A 30 ตร.ม.ต่างกันตรงที่สลับตำแหน่งของห้องนั่งเล่นกับห้องน้ำกันเท่านั้น จะพาไปดูบรรยากาศโดยรวมนะครับไม่เจาะรายละเอียดเพราวัสดุและเฟอร์นิเจอร์จะเหมือนกับห้องที่แล้ว
ส่วนที่ได้เพิ่มขึ้นมาคือความลึกของห้องครับเพราะหน้ากว้างของห้องเท่ากัน
เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ก็เหมือนกับแบบ 30 ตร.ม.แต่…ได้เพิ่มขึ้นมา 1 ชิ้นคือเบอร์ 5 โต๊ะวางทีวีในห้องนอนครับ
ส่วนแรกที่เจอยังคงเป็นห้องนั่งเล่นและทานอาหารเหมือนเดิม แต่บรรยากาศจะเปลี่ยนไปหน่อยเพราะว่าห้องนอนถูกสลับด้านกับห้องครัว ทำให้ห้องนอนดูมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น พื้นที่ๆเป็นโซนกิจกรรมก็ดูต่อเนื่องกันดี
ระยะดูทีวียังมีขนาดเท่าๆกันอยู่ครับ แต่ในห้องนี้เค้าจัดเอาโต๊ะกินข้าวมาไว้ติดกับโซนครัว ทำให้ระยะเดินจากครัวมายังโต๊ะกินข้าวเหลือน้อยลง
การจัดวางโต๊ะกินข้าวเค้ายังจัดให้ชิดผนังเหมือนเดิม ซึ่งพื้นที่ในห้องยังพอมีเหลือให้ขยับออกมาแล้วจัดแบบนั่งหันหน้าชนกันได้ แต่ต้องยอมเสียพื้นที่ตรงกลางไปซักหน่อยและระยะเดินจากโซฟามาห้องครัวก็จะถูกขวางด้วยโต๊ะกินข้าว ถ้าใครรับได้ไม่มีปัญหาก็จัดเลยครับ
ความกว้างของระยะวางโต๊ะทีวีจะเหลือน้อยกว่าแบบเมื่อกี้เพราะต้องยอมเสียพื้นที่ส่วนนึงให้กับประตูทางเข้าห้องน้ำครับ
สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างนึงของห้องนี้คือมีประตูทางเข้าห้องน้ำ 2 ทาง ทั้งจากห้องนอนและห้องนั่งเล่น ช่วยเพิ่มความเป็นส่นตัวได้มากเลยครับ
ห้องครัวจะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นมาหน่อย โดยระยะที่ได้เพิ่มขึ้นมานั้นจะเท่ากับชั้นวางจานชามที่เค้าวางเอาไว้ข้างตู้เย็นนะครับ ถ้าใครซื้อช่วงเปิดตัวห้องนี้จะได้ฉากกระจกกั้นมาให้ด้วยนครับ (ลองดูในรายการ คิด.เรื่อง.อยู่. ได้ครับ)
พื้นที่ระเบียงมีเท่าๆกันครับ และตำแหน่งการวาง Condensing unit ก็เหมือนกันทุกประการ
หันกลับมาดูหน้าห้องอีกที ตู้เมนไปจะอยู่ที่หน้าห้องเช่นเคย เค้ามีติด Sticker ให้ดูอย่างชัดเจนว่าแบ่งอะไรบ้าง (ไฟส่องสว่าง, ปลั๊ก 1, ปลั๊ก 2, แอร์ 1, แอร์ 2 และเครื่่องทำน้ำอุ่น)
ภายในห้องน้องเค้ายังคงแถมฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ ถึงแม้ว่าจะมีพื้นที่รอบๆเตียงเหลือให้ขยับขยายได้ บานหน้าต่างเป็นชุดเดียวกันกับห้องที่แล้วครับ
ระยะเหลือรอบๆเตียง จะเห็นว่ามีระยะเหลือให้วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆแล้วยังมีที่เหลือพอให้เดินอีกด้วย
พอได้ความลึกมากขึ้นทำให้มีพื้นที่พอวางทีวีปลายเตียงได้ ส่วนชั้นวางทีวีในห้องนอนที่ได้เพิ่มขึ้นมาหน้าตาจะแตกต่างกันนิดหน่อย
ชุดโต๊ะเครื่องแป้งก็เหมือนกันทุกประการ
หันมาทางเข้าห้อง ตู้เสื้อผ้าถูกขยับมาอยู่หน้าห้องน้ำสะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น แต่ขนาดของตู้เท่ากันนะครับ
ภายในห้องน้งยังคงใช้วัสดุต่างๆเหมือนกันครับ
สิ่งที่แตกต่างไปคือลวดลายกระเบื้องที่เอามาปูด้านหลังของชุดโถสุขภัณฑ์ครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 23 May 2014
- Type A อาคาร C ชั้น 6 ห้อง 629 เนื้อที่ 30.12 ตร.ม. ราคา 1,683,700 บาท หรือประมาณ 55,900 บาท/ตร.ม. (ราคาพิเศษ 1,616,000)
- Type A อาคาร C ชั้น 8 ห้อง 818 เนื้อที่ 30.12 ตร.ม. ราคา 1,751,500 บาท หรือประมาณ 58,200 บาท/ตร.ม. (ราคาพิเศษ 1,679,000)
- Type B อาคาร C ชั้น 2 ห้อง 204 เนื้อที่ 34,69 ตร.ม. ราคา 1,830,600 บาท หรือประมาณ 52,800 บาท/ตร.ม. (ราคาพิเศษ 1,758,000)
- Type B อาคาร C ชั้น 4 ห้อง 415 เนื้อที่ 35.46 ตร.ม. ราคา 1,932,300 บาท หรือประมาณ 54,500 บาท/ตร.ม. (ราคาพิเศษ 1,854,000)
- Fully Furnished
- เพดานสูง 2.4 เมตร
- Kitchen & Sink
- จอง 999 บาท
- ทำสัญญา 25,000 บาท
- ดาวน์ xx% ผ่อนดาวน์ 7 งวด
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตารางเมตร/เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาและ Promotion ต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเลของโครงการ The Niche id พระราม 2 เป็นทำเลที่ติดถนนใหญ่พระราม 2 แต่เฟสที่พาไปดูเป็นเฟสที่อยู่ด้านในสุด โครงการนี้มีลักษณะไม่เหมือนกับคอนโดในเมืองที่เน้นการใช้งานรถไฟฟ้าหรือใกล้สถานที่สำคัญต่างๆ แต่เป็นการรองรับการขยายตัวของชุมชนในย่านชานเมืองหรือคนที่มาทำงานในกรุงเทพและต้องการหาที่อยู่ที่เป็นของตัวเองในราคาหยิบจับได้ไม่ยาก ตัวโครงการแบ่งเป็น 3 เฟส เฟสแรกที่เปิดขายจะอยู่ด้านในสุดของที่ดินโครงการทั้งหมด ถึงแม้โครงการนี้จะไม่ได้อยู่ติดห้างเหมือนกับ คอนโด ในย่านเซ็นทรัลพระราม 2 แต่ก็มีข้อได้เปรียบเรื่องการเดินทางด้วยรถยนต์และการเข้าเมืองเพราะตำแหน่งที่ตั้งอยู่ใกล้ทางเข้าเมืองมากกว่า สภาพแวดล้อมรอบๆในระยะเดินได้จะไม่ค่อยมีอะไรมากนัก ถ้าจะหาแหล่งร้านอาหารของกินแนะนำให้ไปแถวตลาดข้าง โรงพยาบาลบางมด หรือตลาดโอ๋เอ๋ดีกว่าครับ
ด้วยความเป็นทำเลในย่านชานเมืองทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนต้องมีระยะไกลกว่าในเมืองสักหน่อย ซึ่งการเดินทางโดยรถยนต์ของโครงการนี้มีข้อได้เปรียบกว่าคอนโดอื่นๆในย่านพระราม 2 ตรงที่ยังไม่เลยสะพานกลับรถ ทำให้เวลาจะเข้าเมืองหรือจะขึ้นทางด่วนก็สะดวกมากไม่ต้องวิ่งไปกลับรถไกลถึง เซ็นทรัล พระราม 2 สำหรับทำเลที่อยู่บนถนนเส้นใหญ่ๆ มี 6-8 เลนขึ้นไปเรื่องอยู่ใกล้/ไกล สะพานกลับรถนี่มีผลมากเลยนะครับแบบว่าถ้าที่ดินอยู่เลยจุดขึ้นสะพานมานิดเดียวนี่เสียเวลากว่าเยอะเลยนะครับ ยิ่งตอนนี้สภาพการจราจรบนถนนพระราม 2 ในช่วงเวลาเร่งด่วนนี่ติดไม่แพ้ในเมืองเหมือนกันนะครับ อย่าทำเป็นเล่นไปแถมยังมีจุดที่ติดตามซอยต่างๆอีก เพราะแถวนี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและมีชุมชนอยู่เยอะ ทำให้จะมีรถติดเป็นช่วงๆตามจุดเข้าซอยสำคัญต่างๆเช่นซอยวัดยายร่ม หรือซอยท่าข้ามที่มีสะพานกลับรถเข้า เซ็นทรัล
สำหรับคนที่ไม่ใช้รถยนต์ สามารถใช้รถสาธารณะลงที่ป้ายก่อนถึงโครงการ หรือถ้าจะหาของกินก่อนกลับห้องก็ลงป้ายตลาดโอ๋เอ๋แทนก็ได้ครับ รถสาธารณะบนเส้นนี้มีทั้งรถเมล์, รถตู้, รถกระป๋อง(Subaru) และรถสองแถวให้นั่ง ซึ่งรถกระป๋องกับรถสองแถวจะเป็นการวิ่งวนละแวกใกล้ๆ ส่วนวินรถตู้จะอยู่ที่ Central พระราม 2 และ Big C การเคหะ จะเป็นวินที่เน้นการเข้าสู่ใจกลางเมืองต่างๆเป็นหลัก (เช่น อนุเสาวรัย์ชัยสมรภูมิ หรือ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่) แต่ก็มีไปต่างจังหวัดด้วยเช่นกันหาก ระยะเดินจากป้ายรถเมล์มาถึงทางเข้าโครงการจะอยู่ประมาณ 360 เมตรเป็นระยะที่เดินได้ไม่ลำบากครับ
วัสดุที่ให้มาถือว่ากลางๆค่อนไปทางดีถ้าเทียบกับราคาช่วงเปิดตัวของโครงการ ตอนนี้ก็ถือยังโอเคอยู่ถึงแม้จะมีบางอย่างหายไปบ้าง การขายแบบ Fully Furnished ที่ให้มาเยอะดีเรียกได้ว่าลากประเป๋าเข้าอยู่ได้เลยนะ (ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้านะจ๊ะ :p) ข้อดีของเฟอร์นเจอร์ที่นี่คือมีลูกเล่นมาให้นิดหน่อยด้วย อย่างโต๊ะกลางที่สามารถปรับความสูงหน้าโต๊ะได้ และโทนสีของเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ดีกว่าไปวิ่งหาซื้อเองอาจจะได้มาแบบไม่เข้าชุดกัน
การออกแบบห้องถือว่าทำได้ดีจัดวางฟังก์ชั่นได้ครบและลงตัวดี ได้ ความแตกต่างระหว่างห้องแบบ A 30 ตร.ม. และ B 34 ตร.ม. คือความลึกของตัวห้องที่ได้มากขึ้น หน้ากว้างห้องยังคงได้เท่ากัน ส่วนการวางฟังก์ชั่นจะมีการลับด้านกันนิดหน่อยตรงพื้นที่ห้องนั่งเล่นกับห้องน้ำด้านที่ติดหน้าห้อง ถ้าใครอยากให้ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัวหน่อยก็เลือกแบบ 34 ตร.ม.ได้ครับเพราะห้องนอนจะถูกแยกจากห้องนั่งเล่นแล้วก็มีประตูเข้าห้องน้ำได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านห้องนั่งเล่น สำหรับตัวโครงการออกแบบให้พื้นที่จอดรถส่วนใหญ่อยู่ในร่มและพื้นที่ตรงกลางระหว่างอาคารจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด
สาธารณูปโภคจัดมาให้กลางๆ มีครบทั้ง Fitness และ สระว่ายน้ำ รวมทั้ง Free Wi-Fi ที่บริเวณ Lobby ด้วย ได้ที่จอดรถในช่องจอดประมาณ 44% ถือว่าไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ถ้าเทียบกับทำเลในย่านชายเมือง อัตราส่วนลิฟท์ก็อยู่ในระดับตามมาตรฐานของราคาระดับนี้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือขนาดของที่ดินต่อห้องดูจะน้อยไปหน่อย เลยทำให้บรรยากาศโดยรวมของโครงการดูแน่นๆ อีกเรื่องที่ควรระวังคือการเดินรถภายใต้อาคารเพราะถ้าเวลาใช้งานจริงลูกบ้านอยู่กันเยอะแล้วหากมีการบริหารจัดการไม่ดี มีรถมาจอดซ้อนคันเยอะๆเข้าการสัญจรภายในอาจทำได้ลำบากแน่นอนครับ แต่ถ้าบริหารจัดการดีก็ไม่มีปัญหา
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 55,400 บาทต่อตารางเมตร, 23 May 2014
- ทำเล 8.0/10 – ทำเลดีติดถนนใหญ่(ถ้านับรวมพื้นที่ทั้งโครงการ) แต่สำหรับเฟสนี้มีระยะห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 300 เมตร ส่วนทางเข้าโครงการจากการใช้ทางด่วนระยะกระชั้นไปหน่อย
- เดินทางด้วยรถ 8.0/10 – สะดวกเพราะอยู่ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วนและที่กลับรถขาเข้าเมือง ไม่ต้องไปกลับรถไกล
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ยังถือว่าสะดวกแม้จะมีระยะเดินจากโครงการมาถนนใหญ่ เพราะมีป้ายรถเมล์และสะพานลอยอยู่หน้าโครงการเลย
- วัสดุ 7.75/10 – ให้มาแบบกลางๆตามมาตรฐานราคาระดับนี้ แต่ก็ถือว่าให้มาเยอะดี สามารถเข้าอยู่ได้เลย(ถ้าไม่นับเครื่องใช้ไฟฟ้า)
- แบบ 8.0/10 – จัดวางฟังก์ชั่นมาได้ลงตัวดี มีระยะดูทีวีกว้าง และให้พื้นที่ส่วนกลางเต็ม Court ตรงกลาง
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – มีให้ครบตามสมัยนิยม ได้ Fitness, สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ และ Free Wi-Fi ที่ Lobby
- ECONOMY CLASS
- 7.89 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากมีที่อยู่เป็นของตัวเองและมีงบประมาณประมาณ 1.32 – 2 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 11,000 – 20,000 บาทขึ้นไป ทำงานอยู่แถวพระราม 2 – สุขสวัสดิ์ ไม่ชอบต่อรถหลายต่อกว่าจะถึงบ้าน สามารถเดินทางโดยไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ก็ได้
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ
(ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧