รีวิวฉบับที่ 264 … The Marvel Residence ทองหล่อ 5 เป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ หนึ่งในคอนโดระดับ Super Luxury ของเมืองไทยด้วยราคาเริ่มต้นที่ 34 ล้านบาท แต่เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise ที่มีเพียง 6 ชั้น จำนวน 9 ยูนิต จัดอยู่ในหมวดสุด Private ที่หาได้ยากกับความเป็นส่วนตัวในระดับนี้ครับ

Fact @ 9 November 2012

  • The Marvel Residence
  • MJR Development Co., Ltd. (ในเครือ Major Development)
  • SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • คอนโด Low Rise 6 ชั้น 9 ยูนิต
  • มีที่จอดรถทุกยูนิต
  • ที่ดินประมาณ 0-2-33ไร่
  • 3 Bedrooms+ Suite Penthouse
  • พื้นที่ใช้สอย 230 – 400+ ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 34 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรเริ่มต้นประมาณ 140,000 บาท
  • เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS ทองหล่อ ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS ทองหล่อ

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

ทำเลที่ตั้งของโครงการ The Marvel Residence อยู่ในซอยย่อยของซอยทองหล่อ 5 สามารถเข้าได้จากทางเข้าหลักทั้งสองซอย ก็คือสุขุมวิท 53 และทองหล่อ

หน้าตาของโครงการค่อนข้างเรียบๆ เป็นตึกที่ผสมระหว่าง Modern และ Luxury เข้าด้วยกัน จะเน้นที่พื้นที่ใช้สอยและยูนิตภายในมากกว่า

ทางเข้าหลักคือซอยทองหล่อ 5 บริเวณ Showroom ของรถยนต์ Peugeot

ซอยทองหล่อ 5 ไม่คึกคัก เป็นซอยร่มรื่นเน้นต้นไม้และบ้านคน ในซอยไม่กว้างเท่าไร จะเห็นว่าวิ่งสวนไปมาได้สองคัน และที่ดีที่สุดก็คือไม่มีรถจอดซี๊ซั๊วข้างทาง

วิ่งตรงเข้าไปนิดนึงแล้วเลี้ยวขวาแถวๆนี้นะครับ

เราพาไปดูจนสุดซอยก่อน

ข้างในมี Alcove 5

ออกมาจะสามารถทะลุซอยสุขุมวิท 53 ได้

ย้อนกลับไปแยกเมื่อครู่ ถ้ามาจากทางสุขุมวิท 53 ให้เลี้ยวซ้าย

เข้าไปนิดนึงก็จะเจอ Marvel Residence

ฝั่งตรงข้ามเป็น Wannapa

ในซอยหน้าโครงการถนนกว้างประมาณนี้

มองย้อนกลับไปทางที่มา

หน้าตาของตึก ไม่ได้มีอะไรมากเลยครับ เพลนๆ แต่ทีเด็ดอยู่ “ข้างใน”

เจาะลึกตัวโครงการ

ที่จอดรถมีเพียงพอสำหรับทุกยูนิต จอดด้านหน้าได้ยูนิตละ 1 คัน

มีการปูบล็อคไว้หมดพร้อมตั้งศาลแล้วด้วย

Lobby ถูกตัดเป็น Part เล็กๆของชั้น G ให้ความสำคัญกับจำนวนที่จอดรถมากกว่า

แต่ Part เล็กๆก็ยังทำออกมาสวยหรู ในระดับโรงแรม

ด้านหลังมีทีเด็ดตรงนี้ละครับ ที่จอดรถแบบยกซ้อนกัน

จอดได้สองคันนะครับ เอาไปยูนิตละ 1 ชุด ด้านล่างคันนึง ด้านบนคันนึง

มีห้อง Security และช่างควบคุมอยู่ด้านหลังอาคาร

พื้นที่รอบๆอาคารกั้นระแนงไม้ไว้หมด เพิ่มความเป็นส่วนตัว

เดินเข้ามาใน Lobby เล็กๆ ไม่มีอะไรมากนอกจากโต๊ะรับรอง 1-2 ชุด

โครงการนี้ไม่เน้น Facility ใดๆมากไปกว่าความเป็นส่วนตัว โดยจัดให้ลิฟท์ทุกตัวเป็น Private Lift ทั้งหมด

หน้าตา Logo โครงการกับกระจกสะท้อนแสงทองๆ

ด้านหลังเป็นห้องนิติบุคคล

เก้าอี้รับรอง 1 ชุด

พื้นที่ใน Lift ตกแต่งแบบหรูๆ

ไม่มีชั้น .. มีแต่ “ชื่อห้อง” กดห้องของตัวเอง แล้วลิฟท์จะไปได้ตามที่กด

พักอาศัยทั้งหมด 5 ชั้นคือ 2-6 โดยชั้น 2-5 นั้นมีห้องพักอาศัย 2 ยูนิต และชั้น 6 มี 1 ยูนิต รวมเป็น 9 ยูนิต

ทุกห้องติดมุมแบบ 270 องศา นี่เป็นฝั่งหน้าโครงการ ขึ้นลิฟท์ตัวแรก

นี่เป็นฝั่งหลังโครงการ ขึ้นลิฟท์ตัวที่สอง

นี่เป็นห้องชั้น 6 ได้ทั้ง Floor เห็นวิว 360 องศา

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ที่จอดรถรอบอาคาร จอดได้ยูนิตละ 3 คัน
  • ลิฟท์โดยสารเป็น Private Lift 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 1:4.5
  • ระบบ CCTV / Access Card

Product Walkthrough

ผมจะพาไปดูทุกซอกทุกมุมนะครับ เราขึ้นมายังห้อง HARRINGTON ชั้น 2 ขึ้นมาจะพบ Private Lobby ซึ่งเป็นจุดวางร่มหรือถอด/ใส่รองเท้าในขณะรอลิฟท์

ฝ้าเพดานก็ยังมีการดรอปลงมาด้วย ความสูงประมาณ 3 เมตรเศษๆ

ปูพื้นด้วยหินอ่อน ตัดลายขอบสวยงาม มีปลั๊กไฟให้ด้วย

ประตูเป็นแบบนี้ มือจับของดี

เปิดประตูเข้ามาเป็นแบบนี้ ห้องจัดออกมาค่อนข้างหรูหราเหมือนโรงแรม

มุมโต๊ะอาหาร

แอร์ของที่นี่เป็นระบบ VRV ใช้กันทั้งอาคาร โดยจะมีแอร์ท้ังหมด 9 ตัว สามารถเลือกเปิดปิดได้ ไม่มี Compressor Unit ที่ต้องวางแยกในแต่ละห้อง ซึ่งระบบนี้จะเงียบและเย็นกว่าระบบแอร์บ้าน Split Type ทั่วไป

มุมรับแขกกับมุมรับประทานอาหารจัดรวมกันเป็น Open Space Area ดูแล้วน่านั่งน่านอน

พื้นทั้งหมดเป็นไม้จริงนะครับ

ห้องชุดฝั่งด้านหลังตึกทั้งหมดจะได้ครัวใหญ่ เป็น Counter ยาว โดยสเปคครัวชั้น 2 และชั้น 3 จะต่ำกว่าชั้น 4-5-6 เล็กน้อย แต่ก็ยังจัดอยู่ในระดับท๊อปของประเทศอยู่ดี

ปลั๊กไฟแบบ Universal เสียบได้ทุกแบบ

ให้ดูลายพื้นไม้ และ กระเบื้องครัว ส่วนรอยต่อทั้งหมดนั้นใช้หินสังเคราะห์คั่น

ฝั่งด้านหลังจะได้ระเบียงใหญ่ เป็นพื้นที่เปิดโล่งขนาดมหึมา ลงไปนั่งปาร์ตี้กันได้สิบคน

นี่ผมเดินไปเปิดกระจก เชื่อมต่อพื้นที่ส่วน Party กับในห้องเข้าด้วยกัน

กระจกพวกนี้หนักมาก ดันอยู่นานทีเดียว

เดินออกมาบริเวณระเบียงลานปาร์ตี้นอกห้อง ได้อานิสงส์ของต้นไม้เพื่อนบ้าน เพิ่มความร่มรื่นไปอีก เยี่ยมยอดไปเลยไม่ต้องปลูกเอง (555)

เดินลงมาดูบริเวณสังสรรค์ ชิลๆ นั่งพักผ่อน จะทำอะไรก็ทำได้หมด

มีสวนหินเล็กๆอยู่ด้านข้าง (ยังไม่ได้โรยหินนะครับ)

ฝั่งโน้นเป็นห้องนอนใหญ่

ฝั่งนี้ทะลุกระจกไปเป็นห้องนั่งเล่นแบบ Indoor

นี่ครับ เป็นห้องนั่งคุย นั่งพักผ่อน นอนอ่านหนังสือ

ความกว้างห้องเพียงพอที่จะใช้งาน

ฝ้าดรอปสองชั้น ชั้นแรกฝังแอร์ ชั้นที่สองสะท้อนแสงเพิ่มอีก 1 ชุด ให้ห้องสว่างพอดีๆ

แอร์ของ Mitsubishi

ย้อนไปดูประตูหน้าห้องอีกที

เวลามองย้อนจากห้องนั่งเล่นไปยังโถงหน้าห้อง

สวิทช์ไฟฟ้าใช้ของ Schneider Electric เป็นระบบ Home Automation

มาดูห้องนอนใหญ่กันบ้าง ตรงนี้อาจจะรู้สึกแคบๆหน่อยเวลาเดินเข้าออก

ด้านขวามีห้องแต่งตัว แยกต่างหากจากห้องนอนใหญ่

ตามด้วยห้องน้ำแบบแกรนด์ๆ มองทะลุกระจกไปยังห้องนอนใหญ่ได้ มีม่านไม้สามารถดึงลงมาปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว

หน้าตาของห้องน้ำที่นี่

กระจกสำหรับกั้นส่วน Shower Box ออกจากห้องน้ำ

Counter และซิงก์แบบคู่ สำหรับคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงแยกกัน

อ่างอาบน้ำวางลอย ดีไซน์ได้งดงาม แต่กรวดรอบๆอาจจะทำความสะอาดยาก ตกแต่งให้สวยๆไว้ในห้องตัวอย่างได้เฉยๆ

ห้องสุขาแยกเป็นสัดส่วนออกจากห้องน้ำ ต้องเปิดประตูเข้าไปอีกทีหนึ่ง

สุขภัณฑ์สวยงาม

ที่วางของในห้องน้ำ

ไฟในห้องน้ำก็ดรอปจากฝ้า ซ่อนเรียบร้อยทั้งหมด มีพัดลมดูดอากาศให้ด้วย

ปลั๊กโกนหนวดแยกไว้เป็นจุดๆ

ก๊อกสัมผัสได้ต่อออกมาจากผนัง

บริเวณหินในห้องอาบน้ำ เซาะร่องเยอะหน่อย กันลื่น

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำ

ชุดคอนโทรล

ฝักบัว … เห็นอย่างนี้อย่าพึ่งคิดว่าน่าเสียดายไม่มี Rain Shower นะครับ

มันมีครับ อยู่บนฝ้า สาดน้ำลงมาเป็นแบบฝนจริงๆเลย

ให้ดูลายหินบนพื้นอีกที

ประตูเปิดปิดห้องน้ำเป็นบานเลื่อน

ห้องนอนใหญ่ จริงๆเตียงไม่ค่อยเรียบร้อย กับมีการเก็บงานฝั่งซ้ายอยู่ เลยออกมาไม่สมบูรณ์แบบ 100%

แต่เท่านี้ก็ถือว่าสวยมากแล้ว

มองย้อนเข้าไปในห้องน้ำได้ จากมุมนี้จะเห็นกระจกที่มองออกไปยังระเบียง Party เมื่อครู่ได้ด้วย

หัวเตียงและหมอนทั้งหลาย

วงกบสีน้ำตาลเข้มอมแดงเล็กๆ

เปิดหน้าต่างมองออกไปได้วิวนี้

มองไปอีกทางหนึ่ง

เพื่อนบ้านและต้นไม้ใหญ่

ตึกนั้นน่าจะเป็น Alcove นะ

ประตูห้องนอน

จบงานปูพื้นกันแบบนี้เลย

มาดูห้องนอนอื่นๆกันบ้าง ห้องนี้แต่แบบคู่แฝด

มีมุมโซฟาเล็กๆสวยน่ารัก

นอนสองคนได้ไม่อึดอัด

ห้องน้ำรอง

ซิงก์และสุขา

อาบน้ำแบบนี้ มีทั้ง Hand และ Rain Shower

โถงทางเข้าห้องนอน 2 และห้องทำงาน

ห้องทำงานแยกเป็นสัดส่วน

มีห้องน้ำ Powder Room สำหรับแขกแยกต่างหากออกจากห้องน้ำในห้องนอนทั้งหมด

ห้องนอนสุดท้าย

มีห้องน้ำในตัวเหมือนกัน

เราไปดูที่ระบบ Service กันบ้าง

ซิงก์สแตนเลสหลุมลึก ครัวท๊อปหิน Quartz

พื้นที่ใช้สอยครัวเยอะมาก กว้างขวาง

ตู้เย็นแบบบานเปิดสองข้าง

ประตูนี้เอาไว้คั่นครัวหนักและครัวเบา

เดินออกไปจะเจอครัวหนักอีก 1 จุด ตรงนี้ต้มผัดแกงทอดกันเต็มที่

วางครัวเป็นรูปตัว L

ช่องกระจกเอาไว้ระบายกลิ่นอาหาร

ซิงก์และที่พักจาน

เตาไฟฟ้าสองหัว

้เทียบกับข้างในเป็นเตาแบบ Magnetic Induction 4 หัว มี Hood ดูดควันเรียบร้อย

ปลั๊กทั้งหลาย

มีส่วนซักล้างอยู่ด้านหลังห้องครัว และห้องแม่บ้านตรงนี้ด้วย

ซึ่งเป็นส่วนที่ต่อเชื่อมกับบันไดหนีไฟและทางขึ้นลงของแม่บ้าน

 

กว่าจะรีวิวจบ 1 ห้อง เล่นเอาเมื่อยมาก

เรามาดูห้องที่ 2 กันบ้าง เป็นยูนิตชั้น 4 ห้อง ELMSTON ที่มีสเปคดีกว่าห้องเมื่อครู่ไปอีกระดับ

มือจับ Baldwin นะครับ

สวิทช์ไฟของ Schneider เป็นระบบควบคุมความสว่างและตั้งโปรแกรมได้

หน้าตาของห้องรับแขกที่นี่

ยูนิต ELMSTON มีระเบียงสั้นกว่า แต่มีสระว่ายน้ำในตัว

ห้องรับรองและห้องนั่งเล่นย้ายไปอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกับระเบียง

วิวของห้องฝั่งด้านหน้าจะเปิดโล่งมากกว่า

ห้องรับรองก็จะได้พื้นที่เป้นส่วนตัวมากขึ้น ใหญ่ขึ้น แต่จะไม่ได้เชื่อมต่อกับพื้นที่รอบข้างแบบยูนิตด้านหลัง

วิวในห้องนี้ก็โอเค ไม่ถูกอะไรบัง

มองออกไปเห็นตึกระฟ้าทั้งหลาย

พื้นที่ตรงกลางจะเชื่อมกับครัวมากขึ้น ยังคงดีไซน์เป็นแบบ Open Plan เหมือนเดิม

สระน้ำด้านข้าง ระเบียงตรงนี้เป็นไม้สักทั้งหมด

ส่วนนั่งเล่นดูทีวี

ห้องน้ำแขกก็จะอยู่เป็นที่เป็นทางมากขึ้น

สังเกตว่าครัวจะเล็กกว่าห้องเมื่อครู่เล็กน้อย แต่สเปคสูงกว่าเพราะใช้ของ Bulthap ท๊อปหิน Quartz

ตู้แช่ไวน์แบบ Built-in เข้าไปเลย

bulthaup ของแท้

Counter Bar แพนทรี่ ตรงนี้นับเป็นส่วนของครัวใน ถ้าเปิดประตูออกไปด้านซ้ายจะเข้าไปในส่วนของครัวนอก

เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้น Built-in เข้าชุดครัวทั้งหมด

ตู้เย็นของ Siemens Built-in อยู่ด้านใน

ลิ้นชักยาวดึงได้ทั้งแผง

ครัวและอุปกรณ์ Accessory ทั้งหลาย

รางเลื่อนแขวน วางเครื่องปรุง

ก๊อกน้ำแบบหมุนได้ ฝังลงไปในผนัง

รางเลื่อนแขวนอีก 1 ชุด

Hood ส่วนเตรียมอาหาร

เตาไฟฟ้า 6 หัว

วางแบบนี้

เปิดประตูด้านข้างออกไปเป็นพื้นที่ซักล้าง

พื้นที่ซักล้าง

ห้องนอนแม่บ้าน

ย้อนกลับมาดูห้องนอนเล็กกั้นบ้าง

โต๊ะทำงานในห้องนอน

ห้องน้ำในห้องนอนเล็ก

สเปคเดียวกับห้องน้ำเมื่อครู่ที่ไปถ่ายมา

ห้องทำงานเหมือนกัน แต่ห้องนี้จะดูกว้างกว่า โล่งกว่า โปร่งกว่า

ห้องนอนคู่แฝดยังทำเหมือนเดิม

มีห้องอาบน้ำในตัว

มาดูห้องนอนใหญ่กันบ้าง

ห้องแต่งตัวในห้องนอน

ห้องนอนใหญ่กว้างขวาง มีกระจกบานใหญ่มองเห็นวิวงามๆ

เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำและระเบียงไม้สักด้านนอก

มีส่วนนั่งเล่นแยกต่างหาก

เฟอร์นิเจอร์พวกนี้ของ Chanintr ทั้งหมด แพงมาก

ตู้สวยๆ

โต๊ะ Coffee Table

ที่เห็นเป็นฝ้าๆนี่ไม่ใช่อะไรนะครับ เป็นระบบในตัวกระจก ที่สามารถยิงฝ้าขึ้นมาได้ ให้กั้นสายตาไม่ให้มองทะลุผ่านห้องน้ำ

ห้องน้ำครับ

อ่างหินแท้

อัพเกรดสเปคไปจากห้องเมื่อครู่อีกขั้น

ห้องน้ำคล้ายๆกัน

แต่ก๊อกและซิงก์ใช้เป็นตัวยาวอันใหญ่ เปิดแล้วน้ำไหลลงมาแบบน้ำตก

ปลั๊กที่โกนหนวด

Rain Shower จากฝ้า

ฝักบัวก็นำเข้าจากอิตาลี ยี่ห้ออะไรไม่รู้จำไม่ได้แล้ว

สุขภัณฑ์เปิดเองของ Toto

มีระบบ Sensor ว่าคนเปิดประตูเข้ามา

เท่านี้ละครับ รีวิวห้องหรูๆ จาก The Marvel Residence

ราคาและเงื่อนไขการขาย

  • ราคาเริ่มต้นที่ห้องละ 34 ล้านบาท มีทั้งแบบ Fully Furnished และห้องเปล่า

เจาะลึกรวบยอด

เห็นแล้วเคลิ้มใช่ไหมครับ

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

  • SUPER LUXURY CLASS
  • NOT JUDGED

BOTTOM LINE

The Marvel Residence เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ Safe House ดีๆสักยูนิตบนทำเลทองหล่อ เน้นความเป็นส่วนตัวสูงๆ และการใช้สอยที่เหมือนบ้าน

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ