รีวิวโครงการ

คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.343 – รีวิวคอนโด The HI Riverpark ระยอง

26 กันยายน 2017

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 1427 … สวัสดีครับวันนี้จะไปดูคอนโดต่างจังหวัดอย่าง ระยอง ซึ่งเป็นทั้งเมืองเศรษฐกิจ และท่องเที่ยวในตัว กับโครงการที่ชื่อว่า The HI Riverpark จาก ไตรเมตต์ พร็อพเพอร์ตี้ โครงการนี้เป็นคอนโด Low Rise ที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะ จุดเด่นคือขายแบบพร้อมเฟอร์แต่งครบและวัสดุจัดเต็ม อีกทั้งมีที่จอดรถ 100%  ติดแม่น้ำระยองใกล้สวนศรีเมือง ไปชมกันเลยครับ

Fact @ 5 September 2017

  • The HI Riverpark (เดอะ ไฮ ริเวอร์พาร์ค)
  • บริษัท ไตรเมตต์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ซ.คอนโดศรีเมือง1 ถ.อดุลย์ธรรมประภาส ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง
  • คอนโด Low Rise 7 ชั้น 1 อาคาร 66 ยูนิต
  • ที่จอดรถช่องจอด 66 คันคิดเป็น 100% (จอดรถรอบอาคาร)
  • ที่ดินประมาณ 1-1-12 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : ปลายปี 2556
  • ปัจจุบันสร้างแล้วเสร็จ : โอนตั้งแต่เดือน 11 ปี 2559
  • Type A – 1 Bedroom ขนาด 47 – 50 ตร.ม. ราคา 3.30 – 3.40 ล้านบาท
  • Type B – 1 Bedroom ขนาด 37 – 40 ตร.ม. ราคา 1.89 – 2.50 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท (คิดเป็น 51,081 บาท/ตร.ม.)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ n/a บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 081-872-7003 ถึง 4  และ 038-619-000

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 12.676640, 101.271479

กดคลิกที่แผนที่เพื่อดูภาพขนาดใหญ่

แผนที่จากทางโครงการครับ ทำออกมาได้ละเอียดมาทีเดียวถ้าคลิกซูมดู จะอธิบายคร่าวๆสำหรับคนในระยองย่อมน่าจะรู้จักแยกโรงพยาบาลระยองใช่ไหม ซึ่งฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกันนิดหน่อยจะมีซอยสุขุมวิท 50 และ 46 ที่สามารถเข้ามาเชื่อมต่อถนนพจนากร และมาถนนสายหลักเส้นลงทะเลอย่างอดุลย์ธรรมประภาสนั่นเอง ตัวโครงการจะอยู่ในซอยแยกอีกทีบริเวณแถวคอนโดศรีเมืองเก่า เราเข้าไปในซอยประมาณ 220 เมตร ถ้าดูจากในแผนที่เราจะเห็นว่าจุดเด่นของโครงการนี้คืออยู่ล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียวและธรรมชาติอาทิ สวนศรีเมือง, สวนยูคาฯ, สนามกอล์ฟศรีเมือง และติดกับส่วนนึงของแม่น้ำเจ้าพระยาด้านหลังโครงการนั่นเอง

เราลองมาดูแผนที่ภาพรวมระยะไกลกันหน่อย จังหวัดระยองนั่นขึ้นชื่อเรื่องของแหล่งงานอุตสาหกรรม – การขนส่ง(สนามบินอู่ตะเภา) – และแหล่งท่องเที่ยว(ชายหาดทะเล) ซึ่งทั้งสามอย่างนี้ก็ทำให้ระยองเป็นทั้งเมืองเศรษฐกิจและท่องเที่ยวที่น่าสนใจแล้วล่ะ แหล่งงานหลักๆของที่นี่ขอยกตัวอย่างมา 3 แห่งนั่นคือ 1.นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด(ฝั่งตะวันตกตัวเมือง) 2-3.ไออาร์พีซี และ ทีพีไอโพลีน(ฝั่งตะวันออกตัวเมือง) ซึ่งทางโครงการอยู่ใกล้กับ 2 แหล่งงานยักษ์ใหญ่นี้

แต่เดิมนั้นระยองไม่ค่อยมีห้างใหญ่สักเท่าไร จะมีก็แต่ห้างแหลมทองริมถนนสุขุมวิท(ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น Passione ไปแล้ว) แต่ปัจจุบันความอุดมสมบูรณ์ต่างๆนั้นขยับตัวออกมาทางแยกระยองค่อนข้างเป็นวงกว้าง อาทิเช่น Tesco Lotus ด้านหลังมีขนส่งและตลาดสดขนาดใหญ่ ตลาดสตาร์ อีกทั้งการมาของ Central ระยองบนถนนทล.36 ที่มี Makro กับ BigC อยู่ใกล้ๆทำให้แอเรียนี้เรียกว่าเป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์มากๆ

ทีนี้สิ่งที่ชาวเมืองระยองถือว่ามีไม่เยอะนั่นก็คือ..พื้นที่สีเขียว หรือสวนสาธารณะ ถ้าเราดูจาก google maps เราจะเห็นว่าสวนในพื้นที่ใจกลางเมืองระยองนั่นหายากมาก สวนที่เด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นอย่างสวนศรีเมืองที่ชาวเมืองระยองมักมาออกกำลังกายกันทั้งช่วงเช้าและเย็น เป็นสวนสุขภาพขวัญใจของที่นี่ และอีกทั้งยังอยู่ใกล้กับโครงการมากๆระยะเรียกว่า 1-2 นาทีถึง  นอกเหนือจากนั้นก็ยังมีโรงพยาบาลชื่อดังอย่างรพ.กรุงเทพ สถานศึกษาก็มีทั้งร.ร.อัสสัมชัญและเซนต์โยเซฟ อีกทั้งบริเวณริมชายหาดบนถนนเลียบชายฝั่งยังเต็มไปด้วยร้านอาหารซีฟู๊ดชื่อดังเจ้าต่างๆให้เลือกอยู่หลายร้านมากๆ

แต่ส่วนของเรื่องการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลบริเวณตัวเมืองระยองนั้นค่อนข้างทำได้คล่องตัว เพราะว่ามีทางลัดเลาะอยู่หลายเส้น การจราจรที่นี่จะไม่ค่อยติดขัดเท่าไร ยกเว้นช่วงเวลาเลิกงานช่วงเดียวติดเล็กน้อยไม่นาน ที่น่าจะเป็นปัญหาคือการเดินทางระบบสาธารณะของที่นี่นั้นถือว่าน้อยมาก โดยหลักแล้วจะมีรถเมล์รถสองแถววิ่งผ่านแค่..ถนนสุขุมวิทเท่านั้น (ตามซอยต่างๆนั้นทำไม่ได้เลย) เลยจะสังเกตว่าคนชาวระยองส่วนใหญ่เกือบทุกคนจะมี “รถส่วนตัว” กันทั้งทั้งไม่ว่าจะรถยนต์หรือจักรยานยนต์ครับ

ดูจากภาพโดรนประกอบอีกสักหน่อย จากมุมนี้เราจะเห็นเลยว่าโครงการห่างจากสวนศรีเมืองนิดเดียว ถนนหลักด้านหน้าคืออดุลย์ธรรมประภาส และเข้าซอยคอนโดศรีเมือง 1 ไป 220 เมตรก็ถึงที่ตั้งโครงการครับ โดยรอบๆโครงการนั้นอยู่ในแอเรียเขตพื้นที่สีเขียวที่มีต้นไม้เยอะรดะดับนึงเลย

การเดินทางถ้าเข้ามาจากถนนหลักอย่างสุขุมวิท เลี้ยวเข้ามาซอยสุขุมวิท 50 มาจนถึงแยกต้นมะขามใหญ่และก็สามารถได้ทั้ง 2 จุดนะครับทั้งถนนภักดีบริรักษ์วิ่งผ่านสวนศรีเมือง(แต่จะวันเวย์ช่วงเย็น) หรือไม่ก็เข้าทางพจนากรและเข้าถนนหลักเส้นลงทะเลอย่างอดุลย์ธรรมประภาส ตัวโครงการจะอยู่ในซอยแยกอีกทีบริเวณแถวคอนโดศรีเมืองเก่า(ปากซอยมี 7-11 ขนาดใหญ่) เราเข้าไปในซอยประมาณ 220 เมตร

เริ่มกันที่ถนนหลักเส้นใหญ่อย่างทางหลวง 36 นะครับ บริเวณนี้ด้านหน้ามีห้างใหญ่อยู่ 2 ห้างคือ Big C Supermarket และฝั่งตรงข้ามคือ Central ระยอง ซึ่งให้เราออกเลนขนานด้านนอกไปวิ่งอยู่ด้านหน้าบิ๊กซีนะ

หลังจากออกเลนขนานมาแล้วให้เราอยู่ประมาณเลนขวาเอาไว้ เพราะเดี๋ยวจะเลี้ยวขวาที่สี่แยกไฟแดงข้างหน้า

เลี้ยวขวาที่สี่แยกไฟแดงบริเวณนี้ เพื่อเข้าสู่ถนนจันทอุดม

เข้าสู่ถนนจันทอุดมแล้ว ถนนนี้ถือเป็นถนนที่มีความคึกคักสองฝั่งข้างทางมีตึกแถวตลอดแนวเป็นร้านค้าทั่วไป สลับกับปั๊มน้ำมัน โชว์รูมต่างๆ ให้เราวิ่งตรงไปสุดเพื่อจะออกถนนสุขุมวิทเลย

ก่อนถึงถนนสุขุมวิทนิดเดียวจุดสังเกตคือโรงพยาบาลระยองทางซ้ายมือครับ ตึกใหญ่มาก

พอเจอสามแยกไฟแดงให้เราเลี้ยวขวาได้เลย

พอเลี้ยวขวามาแล้ว ให้พยายามอยู่เลนชิดซ้ายเอาไว้ครับ เพราะนิดเดียวก็จะเจอทางเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 50 แล้ว

ซอยสุขุมวิท 50 หรืออีกชื่อว่า “ภักดีบริรักษ์” ให้วิ่งตรงไปสักเล็กน้อย

จุดสังเกตตรงนี้จะมีต้นมะขามใหญ่อยู่ที่แยก ชาวบ้านเรียกกันว่าแยกต้นมะขาม การจะไปโครงการถ้าดูจากแผนที่ด้านบนที่ประกอบเอาไว้ให้ สามารถไปได้ทั้งสองทางตามลูกศรนะเพราะเดี๋ยวก็มาบรรจบกัน แต่ว่าเส้นของภักดีบริรักษ์จะเป็นวันเวย์ขาไปเท่านั้น(ซึ่งผมเลือกจะไปทางนี้เพราะอยากผ่านดูสวน)

สองข้างทางแถวนี้ก็มีร้านอาหารทั่วไปและตามสั่งให้เห็นอยู่ตลอดเพราะด้านหน้าใกล้สวนจะเป็นแหล่งของราชการอย่างเทศบาลนครระยอง, ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง, รร.อนุบาล, ห้องสมุดจังหวัด และศาลากลางเป็นต้น

มาถึงที่โค้งหน้าสวนศรีเมืองแล้วครับ ให้เราเลี้ยวขวาตรงนี้วิ่งเลียบสวนนะ

สวนศรีเมือง (ทางซ้ายมือ) ชาวเมืองนิยมเรียกว่า เกาะกลาง ตั้งอยู่กลางเมืองด้านหลังศาลากลางจังหวัด เนื้อที่ประมาณ 70 ไร่ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะ และสวนสุขภาพสำหรับประชาชน ด้านหน้าเป็นที่ตั้งของหอพระพุทธอังคีรสซึ่งเป็นอาคารทรงไทย หลังคาจตุรมุข อันเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธอังคีรส ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของระยอง

พอวิ่งมาสุดเขตสวนแล้ว ก็จะมาบรรจบกับถนนอดุลย์ธรรมประภาสอย่างที่บอกไว้ (ถ้าใครมาจากพจนากร)

ออกมาจากสวนวิ่งตรงมาไม่ไกลนิดเดียว เราจะเห็นทางเข้าโครงการอยู่ฝั่งตรงข้ามแล้ว

ตรงมาอีกนิดเดียวจะเจอกับที่กลับรถ  ถนนอดุลย์ธรรมประภาสเนี่ยถ้าตรงต่อไปจะไปลงทางโซนถนนเลียบชายฝั่งซึ่งมีทั้งชายหาดและก็ร้านอาหารซีฟู๊ดอยู่หลายเจ้าเลยนะครับ

กลับรถมาแล้วให้เราเตรียมเลี้ยวซ้ายที่หน้า 7-Eleven ซอยจะอยู่กึ่งกลางกับคอนโดศรีเมืองเก่า

เข้ามาสู่ซอยที่ชื่อว่า ซอยคอนโดศรีเมือง 1 กันแล้ว ให้เราตรงต่อไปอีกประมาณ 220 เมตร

ถึงที่ตั้งโครงการทางขวามือแล้วครับ

มาดูสภาพรอบๆตัวโครงการจากภาพโดรนซะหน่อย ด้านหน้าโครงการนั้นติดกับซอยคอนโดศรีเมือง 1 ฝั่งตรงข้ามเป็นแนวอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง ซึ่งก็ไม่ได้ประชิดกับห้องพักอาศัยมากเพราะมาแนวจากพื้นที่จอดรถมาเป็นตัวเว้นระยะ ห้องพักอาศัยที่นี่จะได้วิวหลัก 2 ฝั่งคือด้านหน้าทิศตะวันตกเฉียงใต้ และด้านหลังโครงการคือทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งติดกับแม่น้ำระยองและข้ามไปเป็นชุมชนบ้านพักอาศัย ทางฝั่งขวาอยู่ใกล้กับคอนโดระยองริเวอร์ไซต์(ไม่มีวิวห้องพักฝั่งนี้) และสุดท้ายฝั่งซ้ายเป็นที่ดินเปล่าบุคคลอื่นและติดกันเป็นสวนป่ายูคาลิปตัส(ไม่มีวิวห้องพักฝั่งนี้เช่นกัน)

สถานที่สำคัญต่างๆใกล้เคียงโครงการ

โรงพยาบาล

  • รพ. ระยอง ~ 1.8
  • รพ. กรุงเทพ ระยอง ~ 6.9

โรงเรียน

  • อนุบาลระยอง ~ 1.5
  • อัสสัมชัญ ~ 5.9
  • เซนต์ฟรังค์ ~ 5.9

ห้างสรรพสินค้า

  • Tesco Lotus ~ 1.9
  • Star Plaza, ตลาดสดสตาร์ ~ 2
  • Home Pro ~ 4.6
  • แหลมทอง ~ 5

ธนาคาร

  • SCB (สุขุมวิท) ~ 1.4
  • กรุงศรีฯ (สุขุมวิท) ~ 1.4
  • KTB (สุขุมวิท) ~ 2.3

ราชการ

  • เทศบาลนครระยอง ~ 1
  • ที่ว่าการอำเภอ ~ 1
  • ไปรษณีย์ ~ 1.4
  • TOT ~ 1.5

ร้านอาหารและอื่นๆ

  • Big Boy Car care ~ 1.2
  • Cameo House/Classic ~ 2.8
  • Bank OK/Tabasco Wine Bar ~ 3
  • แหลมเจริญซีฟู๊ด ~ 4.3
  • Zuuds Pub ~ 5


เจาะลึกตัวโครงการ

เรามาดู Master Plan ของโครงการกัน โดยถนนด้านหน้าโครงการ(ซอยคอนโดศรีเมือง 1 ) นั้นมีความกว้างถึง 11 เมตร เข้ามาด้านในเราจะเจอกับพื้นที่ลานคอนกรีตจอดรถแบบ Outdoor ล้อมรอบอาคาร ช่องจอดรถ 100%(ไม่ซ้อนคัน) ส่วนของฝั่งด้านหลังโครงการที่ติดกับแม่น้ำระยองมีประตูทางออกไปยังพื้นที่ Landscape Garden เอาไว้เป็นสวนหย่อมนั่งเล่นได้

เข้ามาด้านในอาคาร ที่ชั้น 1 นี้จะยังไม่มีส่วนห้องพักอาศัยนะครับ เป็นส่วนของพื้นที่ Facility ทั้งหมด โดยเริ่มตั้งแต่ Lobby, Meeting Room, Fitness, Laundry และ Library การดูแลรักษาความปลอดภัยถือว่าทำได้ดีเลยคือเริ่มจากรั้วกำแพงสูง 3 เมตร, ระบบ Easypass เพื่อให้รั้วไม้กั้นกระดกเปิดเข้าออก, CCTV ทางเข้าออกและภายในโครงการทั้งหมด 23 จุด และกว่าจะเข้าไปถึงส่วนห้องพักอาศัยต้องใช้ Keycard Access ถึง 3 ครั้งเลยทีเดียว

เริ่มกันที่ส่วนทางเข้าออกของโครงการใช้ระบบรักษาความปลอดภัยด้วย Easypass แบบเดียวกับทางด่วน

พอตรวจจับผ่านตัวรั้วไม้กั้นกระดกก็จะเปิดเพื่อผ่านเข้าออก มี CCTV ส่องรถทุกคันที่ผ่านด้วย ด้านหลังจะเป็นส่วนของป้อมรปภ.รักษาความปลอดภัยคนนอกมาก็ต้องแจ้งหมายเลขห้องและแลกบัตรเอา

ความเซฟตี้อีกอย่างของที่นี่คือรั้วกำแพงของโครงการที่ทำเป็นคอนกรีตทึบทาสีเทาสูงถึง 3 เมตร เพื่อไม่ให้ดูทึบไปเลยมีการปลูกต้นไม้ขนานกับรั้วเอาสีเขียวมาตัดสายตา

ระหว่างแก๊ปช่องกำแพงฝั่งด้านหน้าโครงการ มีการเว้นระยะช่องบางส่วน เพื่อช่วยในเรื่องของทั้งการลอดผ่านทั้งทางลมและแสงให้ผ่านเข้ามาได้ อีกทั้งยังมีการติดตั้งโคมไฟส่องสว่างตามช่องนี้

เข้ามาด้านในโครงการกันแล้วทางซ้ายมือเป็นส่วนป้อมรปภ.นะ

พื้นที่โครงการทั้งหมดเทด้วยคอนกรีตเต็มทั้งลาน เดินรถตรงผ่านไปทางใต้อาคาร อ้อมด้านหลังแล้ววนกลับมาทางเข้าอีกครั้ง

ด้านหน้ามีส่วนของทางขึ้นสำหรับผู้ที่ใช้รถเข็นมารองรับ

ส่วน Indoor ใต้อาคารจุดนี้เป็นพื้นที่ Drop Off Area สำหรับแวะมาส่งจอดลูกบ้าน จะได้ไม่โดนแดดโดนฝนครับ

ตรงส่วนนี้เป็นด้านนอกของพื้นที่ Lobby นะ ซึ่งด้านในเค้าดึงมูลี่ลงมาอยู่แต่จะเห็นว่าถ้าเปิดทั้งหมดจะเป็นช่องแสงรอบด้านเลย

มาที่ด้านหลังโครงการกันบ้าง เราจะเห็นส่วนของรั้วกำแพงเป็นเหล็กโปร่ง ซึ่งด้านหลังนี้แหละที่จะติดกับตัวแม่น้ำระยอง

มีประตูทางออกไปยังด้านหลังแบบนี้ เดี๋ยวเราออกไปดูกัน

พื้นที่สวนด้านหลังทางโครงการเค้ามีการปรับทัศนียภาพ และพื้นที่สวนบริเวณนี้ทั้งหมด ให้เป็นเหมือนสวนหย่อมเล็กๆริมน้ำ และอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่

มีการวางโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่นเอาไว้ให้ 3 ชุด ถ้าสังเกตจะเห็นพวกกล้วยไม้ เฟิร์นต่างๆที่โครงการเข้ามาจัดเพิ่มเติมด้วย

ชุดเก้าอี้นอนเล่นแบบนี้เคยเห็นที่โฮมโปรอยู่นะ เห็นแบบนี้มันนอนเล่นสบายดีนะ แถมยังกันน้ำได้อีกด้วย

ออกมาจากสวนด้านหลังโครงการแล้ว จะเป็นพื้นที่ลานจอดรถกลางแจ้งทั้งหมด เอ้อ.. ลืมบอกไปว่า จุดเด่น!!ของที่จอดรถที่นี่คือมีพื้นที่ช่องจอดรถถึง 100% ตามจำนวนยูนิตทั้งหมดเลยนะครับ แลกกับการที่ไม่มีสระว่ายน้ำถือว่าคุ้มพอสมควร เพราะว่าคนอยู่อาศัยที่นี่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นวัยครอบครัวทำงานเต็มตัวที่ต้องมีรถยนต์แน่ๆอย่างน้อยห้องละคัน เลยไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถไม่พอแน่นอนเวลากลับมาถึงบ้าน

พื้นที่จอดรถ รอบๆโครงการ กับพื้นที่ภายในโครงการและโถงทางเดิน สอบถามมาแล้วมี CCTV ประมาณ 23 ตัวทั้งหมด ช่วยเป็นหูเป็นตาได้อีกระดับนึง

ในส่วนฝั่งนี้เราจะเห็นพวกหม้อแปลงไฟฟ้าค่อนข้างใหญ่ที่ประมาณชั้น 2

ซึ่งไม่ต้องกังวลเพราะฝั่งนี้ไม่ได้เป็นวิวห้องพักอาศัยแต่อย่างใด + กับห้องตำแหน่งนี้เค้ามีการเจาะผนังช่องแสงเอาไว้ให้แต่ไม่ต้องการให้เห็นหม้อแปลงไฟก็เลยเป็นกระจกขุ่นเน้นให้แสงส่องผ่านเข้าไปเท่านั้นครับ

ออกมาฝั่งที่จอดรถด้านหน้ากัน

พื้นที่จอดรถจริงๆแล้วจะไม่ได้เป็นแบบจอดตากแดดนะครับ ทางโครงการเค้ามีการเตรียมกำลังจะติดตั้งส่วนของโครงเสาเหล็ก เอาไว้เพื่อบังแดดรถให้ ถ้าใครคิดไม่ออกก็ประมาณแบบที่จอดรถกลางแจ้งของห้างแบบพวกโลตัส บิ๊กซีประมาณนั้นครับ

ฝั่งด้านหน้าโครงการชั้นแรกจะเป็นส่วนของพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดเช่น Lobby, Meeting Room, Fitness, Laundry และ Library

ใหห้ดูภาพหน้าตาภายนอกของอาคารกันชัดๆครับ ที่นี่มีจุดเด่นอีกอย่างที่ห้องพักอาศัยมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานให้มาถึง 2.65 เมตร เลยทำให้การที่คอนโด LowRise ที่สูงได้ไม่เกิน 23 เมตร เลยออกมาแค่ 7 ชั้นเท่านั้น(ถ้าทำห้องเตี้ยลงกว่านี้ จะสามารถสร้างได้ 8 ชั้น และจะหนาแน่นกว่าเดิมครับ)

โดยรูปแบบห้องพักอาศัยหลักๆจะมี 2 แบบเท่านั้นเป็น 1 ห้องนอนทั้งคู่ คือแบบ A ห้องใหญ่(อยู่ตามมุมอาคาร เพราะฉะนั้นจะมี 4 ห้องต่อชั้น) และแบบ B ห้องปกติ จะอยู่ตรงกลางอาคาร

เดี๋ยวเราไปดูกันในอาคารกันบ้าง โดยต่อเนื่องมาจาก Drop Off เดินขึ้นมาจะเป็นส่วนของทางเข้า Lobby ที่ใช้โทนตกแต่งด้วยสีดำแล้วตัดด้วยเส้นลวดลายแนวตั้งสีขาวเป็น Black&White

ส่วนของทางเข้า Lobby ถือเป็น Gate ที่ 2 ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยโดยต้องใช้ Keycard Access เหมือนกัน ใช้แตะเพื่อเข้าออก

เข้ามาด้านในแล้ว อย่างที่เราบอกตอนเดินรอบอาคารว่า Lobby ให้ผนังช่องแสงรอบด้านเลยทำให้ดูโปร่งโล่งสบายตา กลางวันที่แดดแรงๆก็ดึงมูลี่ลงมาแบบนี้ครับ

พื้นที่นั่งเล่น อีกทั้งยังเป็นที่รองรับแขกได้ด้วย มีโซฟารองรับไว้นั่งได้หลายคนอยู่ สำหรับใครที่มีเพื่อนหรือแขกมาเยี่ยมไม่สะดวกให้ขึ้นห้องก็ให้มารอตรงส่วนนี้ มุมนี้เราจะเห็นได้ชัดเลยว่าที่ผนังช่องแสงมีการเจาะช่องในส่วนของหน้าต่างเล็กให้สามารถเปิดออกได้ เผื่อวันไหนนิติฯไม่ได้เปิดแอร์ก็เปิดหน้าต่างเหล่านี้ช่วยในเรื่องให้อากาศถ่ายเทและประหยัดไฟส่วนกลาง

หันมาทางขวามือจะเจอกับส่วน Reception ฝั่งตรงข้ามเป็น Meeting Room ถอดยาวไปเป็นโถงทางเดิน ที่ชั้นนี้จะยังไม่มีห้องพักอาศัยนะครับ

Reception ที่ตกแต่งหน้าตาและไฟออกมาได้เหมือนกับโรงแรมเลยนะ หน้าตาดูดี ประตูห้องทางขวามือเป็นส่วนของออฟฟิศห้องนิติบุคคลครับ

Meeting Room ที่อยู่ตรงข้ามกัน ด้านนอกที่ผนังมีการตกแต่งด้วย Lighting และ ไม้ประดับให้ดูมีลูกเล่น

เข้ามาด้านในห้อง Meeting Room กันแล้ว มีจัดวางโต๊ะหลักไว้อยู่กลางห้องได้ช่องแสงจากฝั่งด้านหน้า

ผนังด้านทางซ้ายทั้งหมดติดกระจกเงาเพื่อช่วยในเรื่องสะท้อนความสว่างให้กระจายทั่วห้อง และทำให้มุมมองสายตาให้ห้องนี้ดูกว้างครับ ด้านบนของโต๊ะก็เลือกโคมไฟมาจัดเต็มถึง 4 ดวงด้วยกัน

ที่โต๊ะหลักใช้งานจะได้เป็นลามิเนตที่ปิดผิวด้วยลวดลายหินอ่อนสีดำหน้าตาดูดีทีเดียวจากจำนวนเก้าอี้ห้องนี้นั่งได้ 8 ที่นั่งนะครับ ก็ถือว่าเป็นห้องอ่านหนังสือ หรือเปลี่ยนบรรยากาศเบื่อทำงานในห้องตัวเองก็งลงมาใช้งานตรงนี้

ออกมาที่ Corridor โถงทางเดินต่อ ทางซ้ายมือที่เห็นประตูจะเป็นส่วนของทางเข้าไปยังโถงลิฟท์ ต้องใช้คีย์การ์ดอีกขั้น ฝั่งตรงข้ามเป็นส่วนห้องออกกำลังกาย

ในส่วนห้องออกกำลังกาย ที่เน้นช่องแสงให้ส่องผ่านทะลุมายังโถงทางเดิน เจาะผนังติดกระจกแบบเช่นนี้

ห้อง Fitness ที่นี่ถึงแม้จะไม่ได้กว้างมากนักแต่เครื่องเล่นที่โครงการเลือกสรรมาก็จัดเต็มโดยเลือกเอาเครื่องเล่นของแบรนด์ LifeFitness ใช้ตัวท็อปๆเลย มาดูฝั่งซ้ายกันก่อนเป็นโซนคาร์ดิโอตั้งอยู่ 3 เครื่อง

ซ้ายสุดจะเป็นที่ยืนปั่นช่วงเอวกับขา  ตรงกลางเป็นลูวิ่ง  และขวามือเป็นเครื่องออกกำลังกายตัวใหม่ที่ออกได้ทุกช่วงตัวเลยครับ

(จะเห็นอีกอย่างที่ผนังด้านหลังมีการติดทีวีให้ด้วยนะ 2 จอ ดูจากตรงนี้ค่อนข้างกลืนไปกับสีของผนัง)

ส่วนฝั่งตรงข้ามจะวางบาร์ดัมเบล  ที่ซิทอัพ  ที่พายเรือจำลอง และสุดท้ายที่ปั่นจักรยานครับ

มาทดสอบลองตัวเครื่องพายเรือจำลอง ระหว่างดึงก็มีน้ำหมุนปั่นอยู่ในนี้ สามารถเพิ่มระดับความหนืดในการดึงได้

ออกมาจากห้อง Fitness ติดกันเลยจะเจอกับส่วนของห้องน้ำ(ขวามือ) แยกส่วนชายหญิง

เข้ามาดูในห้องน้ำชายกันฟังก์ชั่นใช้งานเป็นห้องน้ำมาตรฐาน มีอย่างละ 2 ชิ้น ยังคงแต่งด้วยโทน Black & White เหมือนกัน และผนังมีการเจาะช่องแสงและระบายอากาศได้

ออกมาจากห้องน้ำเราจะเจอกับประตูอีก 3 บาน ซึ่ง 2 บานทางซ้ายเป็นเป็นพวกห้องควบคุม ห้องแม่น้ำ ถ้าเป็นส่วนลูกบ้านต้องห้องขวาสุดครับคือ Laundry

ภายใน Laundry Room ปัจจุบันยังจัดเรียงพวกเฟอร์นิเจอร์ไม่เสร็จนะ แต่เอามาลงไว้ในห้องแล้วละ คือห้องนี้นอกจากจะเป็นห้องซักผ้าแล้วยังเสมือนเป็นห้องนั่งเล่นอ่านหนังสือห้องที่ 2 ที่นอกเหนือจาก Meeting Room อีกห้องก็ว่าได้

หน้าตาชุดโต๊ะที่จัดมาวางหน้าตาดูทีหน้าใช้งาน

พื้นที่เตรียมวางเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญในอนาคต

โต๊ะไม้ตัวยาวขนาดใหญ่ถูกเอาวางไว้ใกล้หน้าต่างช่องแสง

ทีนี้กลับออกมาเราจะเข้าไปสู่โถงลิฟท์กันบ้าง ต้องใช้ Keycard เพื่อนผ่านเข้าไปอีกชั้นนะครับ

เข้ามายังพื้นที่โถงลิฟท์แล้ว ทางขวามือเป็นลิฟท์โดยสารมี 1 ตัว เท่ากับอัตราส่วน 66:1 ถือว่าไม่เยอะครับ ฝั่งตรข้ามเป็นส่วน Mail Box Area

หน้าตา Mail Box Area ก็ติดผนังไว้ตรงจุดนี้ สอดจดหมายลงไปได้

ส่วนถัดมาเราสามารถเดินขึ้นลงด้วยโถงบันไดตรงนี้ก็ได้นะครับ เชื่อมต่อขึ้นไปจนถึงชั้น 7 ได้เลย

ผนังช่องแสงที่เจาะเพื่อให้แสงธรรมชาติส่งผ่านเข้าไปยังตัว Lift Lobby

ขึ้นลิฟท์ไปดูกันครับ

หน้าตาภายในลิฟท์ปูด้วยพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ รอบๆมีราวจับสแตนเลส และผนังติดกระจกเงาตรงกลางครับ

ลิฟท์ที่นี่โครงการเลือกของ Mitsubishi ไซส์ที่จุได้ถึง 11 คนและรองรับน้ำหนักได้ถึง 750 kg กันเลย

ออกมาลิฟท์แล้ว ขึ้นมาที่ชั้น 7 (ห้องตัวอย่างอยู่ชั้นนี้)

เรามาดู Typical Plan กันซะหน่อย โดยหลักๆแล้วที่ชั้น 2-7 รูปแบบของห้องจะคล้ายๆกันทั้งหมด มีการขยับเพิ่มลดลงเล็กน้อยไม่ถึง 2-3 ตร.ม. โดยห้องพักที่นี่จะมีวิวแค่ 2 ด้านคือ ด้านหน้าโครงการทิศตะวันตกเฉียงใต้นั้นติดกับซอยคอนโดศรีเมือง 1 ฝั่งตรงข้ามเป็นแนวอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง และด้านหลังโครงการคือทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งติดกับแม่น้ำระยองและข้ามไปเป็นชุมชนบ้านพักอาศัย

Corridor โถงทางเดินก็เป็นรูปตัว I ตามทรงอาคารโดยจะมีช่องแสงส่องผ่านมา 3 จุดที่ปลายหน้าต่างและก็โถงลิฟท์ครับนอกจากบันได้ขึ้นลงหลักใกล้โถงลิฟท์แล้วยังมีบันไดหนีไฟอีกจุดที่ปลายทางเดินฝั่งซ้าย

ในส่วนของห้องพักอาศัยที่นี่มีแต่ 1 Bedroom เท่านั้น มี 2 แบบคือ Type A (1-3) ขนาด 47-50 ตร.ม. จะเป็นหนึ่งห้องนอนที่ขนาดใหญ่จัดสเกลต่างได้กว้างขวางน่าใช้งานเสมือนอยู่บ้าน ห้องตำแหน่งนี้จะอยู่ตามมุม 4 ด้านของอาคารเลยจะได้ผนังหน้าต่างช่องแสงที่เยอะหน่อย / ห้องอีกแบบ Type B (1-2) ขนาด 37-40 ตร.ม. เป็นหนึ่งห้องนอนเหมือนกัน แต่ขนาดจะเล็กลงมาหน่อยดูกระชับกว่าแต่ฟังก์ชั่นการใช้งานหลักก็ครบไม่ต่างกัน

ประตูทางเข้าสู่ Corridor ชั้นพักอาศัยยังต้องใช้ Keycard Access เป็นด่านสุดท้าย รวมแล้วเราต้องแตะถึง 3 ครั้งกว่าจะถึงห้องนะครับ เหนื่อยหน่อยแต่ปลอดภัย 😀

เข้ามาด้านในแล้วอย่างที่บอก Corridor โถงทางเดินก็เป็นรูปตัว I ตามทรงอาคารโดยจะมีช่องแสงส่องผ่านมา 3 จุดที่ปลายหน้าต่างและก็โถงลิฟท์ครับนอกจากบันได้ขึ้นลงหลักใกล้โถงลิฟท์แล้วยังมีบันไดหนีไฟอีกจุดที่ปลายทางเดินฝั่งซ้าย

จุดที่เด่นอีกอย่างคือความกว้างของโถงทางเดินชั้นพักอาศัยที่ให้มากว้างถึง 2 เมตรเลย คือปกติที่ไปดูมาหลายๆที่มักจะเห็นอยู่ที่ 1.50 – 1.60 เมตร เรียกว่าเป็นมาตรฐานกันไปแล้ว ที่นี่ให้กว้างแบบนี้เดินสบายครับ อีกทั้งยังสามารถยกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ขนย้ายได้ง่ายด้วย

ที่ผนังด้านหน้าห้องพักอาศัยก็ยังมีการตกแต่งกรุด้วยกระเบื้องและเล่น Lighting เพิ่มเติม

ที่ปลายทางเดินจะเป็นส่วนที่เจาะผนังเพื่อให้เกิด “ช่องแสง” ส่องผ่านมายังโถงทางเดิน นอกจากนั้นยังสามารถเปิดหน้าต่างบานกระทุ้งที่ถ้าเปิดทั้งสองฝั่งจะช่วยในเรื่องทางเดินลม ระบายอากาศและความร้อนสะสมภายในอาคาร

ที่หน้าต่างเค้าก็มีการติดตั้งมุ้งลวดมาให้นะครับ ไม่ต้องกลัวพวกแมลง จิ้งจก จะเข้ามารบกวนแบบนี้ดีเลย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Main Lobby
  • Landscape Garden
  • Meeting Room
  • Fitness วางเครื่องออกกำลังกาย 6 เครื่อง (ไม่รวมบาร์ดัมเบล)
  • Laundry Room
  • ลิฟท์โดยสาร 1 ตัว / ไม่มีลิฟท์เซอร์วิส
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 66 : 1
  • ที่จอดรถช่องจอด 66 คันคิดเป็น 100%
  • ระบบ CCTV 23 จุดทั้งโครงการ / Access Card ทุกทางเข้าออก

 


Product Walkthrough

โครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished คือให้ทุกอย่างเลยยกเว้นพร็อตตกแต่งที่เล็กน้อยๆ เฟอร์นอเจอร์ลอยตัว และ Built-In ต่าง, แอร์, วอลเปเปอร์ เรียกว่าหิ้วกระเป๋าพร้อมเข้าอยู่ได้เลย เหมาะสำหรับคนประหยัดเวลาไม่ต้องไปตกแต่งซื้อของเข้าบ้านเองแล้ว (ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.65 เมตร)

ห้องตัวอย่างแรกที่จะพาไปดูคือห้อง Type B ที่มีขนาด (37-40 ตร.ม.) โดยเปิดประตูเข้าห้องไปจะเจอกับส่วน Living Area ที่ติดกับโซนรับประทานอาหารเลย แต่ตรงไปจะเชื่อมต่อกับห้องนอนได้เช่นกัน โดยจะมีฉากกั้นกระจกแยกฟังก์ชั่นห้องนอนได้ ส่วนซีกซ้ายที่เป็นการใช้งานหนักจะแยกประตูกั้นทั้งห้องน้ำ ห้องครัว(ครัวปิด) และระเบียงอยู่ติดกับครัว ช่วยในเรื่องระบายอากาศได้ครับ

บานประตูขนาดใหญ่ที่สูง 2.40 เมตร วัสดุของประตูทางโครงการแจ้งว่าด้านในเป็นโครงของไม้สักเพื่ออยากให้เน้นถึงความแข็งแรงคงทน ผิวหน้าบานปิดด้วยตัวฟอร์ไมก้าลายไม้ที่เน้นทนต่อแรงขูดขีด

เพลทสแตนเลสเงินเล็กๆที่ติดอยู่กลางประตูบอกถึงป้ายบ้านเลขที่ ตัวมือจับเป็นแบบสแตนเลสก้านโยกที่ให้นำหนักในการโยกดูแน่นหนาและแข็งแรงเป็นพิเศษ มีตัวจบขอบเฟรมประตูด้วยเส้นอลูมิเนียมอีกชั้น

พื้นของที่นี่ให้เป็นสมาร์ทไวนิล (กระเบื้องยางลายไม้) ต้องบอกว่าพื้นแบบนี้ปูยากนะครับ ถ้าตอนก่อสร้างไม่ปรับระดับพื้นคอนกรีตเดิมให้เรียบจะปูไม่ได้เลยล่ะ พื้นไวนิลมีราคาสูงกว่าลามิเนตเล็กน้อย ได้สัมผัสใกล้เคียงไม้น้อนยกว่า แต่แลกมากับความแข็งแรงคงทนแรงขีดข่วนและทนน้ำมากกว่าลามิเนตครับ

โดยเปิดประตูเข้าห้องไปจะเจอกับส่วน Living Area ที่ติดกับโซนรับประทานอาหารเลย แต่ตรงไปจะเชื่อมต่อกับห้องนอนได้เช่นกัน

มองย้อนกลับไปทางประตูทางเข้า ถ้าเปิดมาแล้วทางขวามือจะเป็นพวกชั้นวางของต่างๆ

ชั้นวางของที่ติดที่ผนังพร้อมเล่นไฟ Lighting ด้านล่างเป็นตู้เก็บของ

เข้ามาทางซ้ายมือของประตูเป็นชุดตู้ Built-In ติดยาวไปชนขอบผนังแบบนี้ได้พื้นที่ใช้สอยแนวตั้งทั้งหมด

ระหว่างชั้นตู้ก็ยังคงมีการซ่อนไฟที่นี่ซึ่งให้ทุกจุดเป็นมาตรฐาน

สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างคืออย่างลองเปิดหน้าบานตู้ออกมา จะเห็นชั้นวางต่างๆที่เป็นตัวกระจกนิรภัย “อย่างหนา” เอามาเป็นชั้นวางครับ

โซนรับประทานอาหารจัดวางโต๊ะแบบ 4 ที่นั่งเอาไว้ให้อยู่ติดกัน โดยเป็นไม้ลามิเนตผิวปิดด้วยลายหินอ่อนสีขาวหน้าตาดูดี

ที่ผนังห้องฝั่งนี้มีการติดกระจกเงา ถึงจะไม่ใช่แผ่นใหญ่เต็ม แต่ก็ให้มาจากพื้นถึงฝ้าเพดานเลย ช่วยเพิ่มในเรื่องของมุมมองสายตาให้ห้องดูโปร่งโล่งและกว้าง

ตรงข้ามกับโต๊ะทานอาหารเป็นมุมวางโซฟามาแบบ 2 ที่นั่ง มีพนักวางแขนได้

ถัดมาติดกันจะเป็นชุดตู้วางข้างหัวเตียง หน้าบานเป็นกระจกสีชา

ตู้นี้เป็น Built-In นะครับ ไม่ใช่ลอยตัว อ้อมไปยังหลังหัวเตียง จากมุมนี้เราจะเห็นได้เลยว่าหัวเตียงมีการแต่งผนังเบิ้ลขึ้นมาอีกชั้น และเล่นซ่อนไฟไว้ด้านหลังให้แบบนี้

มุมห้องนอนที่เชื่อมต่อกัน ในส่วนนี้ใครต้องการกั้นห้องนอนก็สามารถทำได้นะครับ ใช้เป็นประตูกระจกฉากกั้นบานเลื่อนเอา

ที่มุมปลายเตียงเป็นส่วนของเฟอร์นิเจอร์ชั้นวางทีวี และตู้เสื้อผ้า

ลองเปิดพวกลิ้นชักให้ดูสามารถเก็บของได้เยอะดีครับ

ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ติดกันเป็นของ IKEA หน้าบานเป็นกระจกเงา 3 ตอน ด้านบนสามารถวางของชิ้นใหญ่ได้เหมาะกับพวกกระเป๋าเดินทางนะ

ตัวมือจับเป็นสแตนเลสแบบนี้

ฟังก์ชั่นภายในตู้เสื้อผ้ามีลูกเล่นสามารถปรับเปลี่ยนเพิ่มลดความสูงต่างๆของตัวแขวนได้

ที่หัวเตียงที่เบิ้ลผนังตกแต่งขึ้นมาให้แล้ว ยังติดวอลเปเปอร์แบบนี้ให้ด้วย

มาดูส่วนของหน้าต่างช่องแสงของห้องนี้กัน ผมลองเปิดมูลี่ให้ดูกันเต็มๆ วงกบเฟรมอลูมิเนียมอบขาวแต่จะเป็นอย่างหนาพิเศษ ได้ช่องแสงมาเต็มๆผนังห้องเลย ตำแหน่งจะอยู่ตรงนี้เพราะว่าไม่ต้องการให้เป่าเข้าหน้าตรงๆเวลานอนครับ

ยังมีการเจาะเพื่อให้ช่องแสงส่องผ่านไปยังในห้องให้ได้มากที่สุด

ส่วนของประตูทางเข้าไปยังโซนครัว มีการติดกระจกเงาเอาไว้ ก้เลยจะดูยากหน่อยนะ

พอเข้ามาแล้วพื้นที่ส่วนนี้ทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนเป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้

ทางซ้ายมือเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ วัสดุแบบเดียวกับประตูทางเข้าหลัก

เข้ามาดูในห้องน้ำก่อน การจัดเรียงเป็นแนวยาวไล่ไปตั้งแต่อ่างล้างมือ สุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำ ฟังก์ชั่นครบ (แต่ไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำแบบเต็ม)

ผนังทางขวามือติดกระจกเงาบานใหญ่ พร้อมสามารถวางของที่ Low Wall ด้านล่างได้

หน้าตาชุดอ่างและสุขภัณฑ์ที่นี่จะได้ของ MOYA นะครับ มีพื้นที่วางของรอบๆอ่างได้

ชุดสุขภัณฑ์อยู่ตรงกลางห้องน้ำ ระยะการหยิบจับพวกอุปกรณ์ซ้ายขวามาตรฐาน

พื้นที่อาบน้ำที่หน้าตากระเบื้องเปลี่ยนไป กั้นด้วยธรณีอลูมิเนียมสีดำแบบนี้

ฉากกั้นอาบน้ำได้เป็นแบบผ้าม่านอ่อนแทน ถ้าใครชอบกระจกก็ต้องไปหาติดเพิ่มเองครับ ที่ซ้ายมือมีติดตั้งราวแขวนผ้า วางของมาให้ ตำแหน่งด้านบนมีพักลมดูดอากาศและความชื้น

หน้าตาชุดฝักบัว ปรับรูปแบบน้ำไม่ได้ ด้านหลังมีชั้นวางของกระจกใสติดมาเสร็จสรรพ

ที่โครงการให้ Rain Shower + เครื่องทำน้ำร้อนของ MEX เป็นมาตรฐานสำหรับทุกห้องด้วยนะครับ

ออกมาจากห้องน้ำเป็นส่วนของครัว ที่ทางเดินจะเหลือประมาณ 90 ซม. ซ้ายมือเป็นที่วางตู้เย็นถัดไปเป็น Pantry

ครัวที่นี่จะไม่ได้ Hob&Hood นะครับ แต่สามารถติดตั้งได้มีการเดินท่อรองรับเอาไว้ให้แล้ว (ในส่วนที่ดรอปฝ้านั่นแหละ)

ชุด Pantry ด้านล่างหน้าบานเป็นลามิเนตกลอสสีดำเงา | ชุดครัวที่นี่จะได้เป็นชุดของจาก Starmark นะครับ

ที่ผนังของพื้นที่เตรียมอาหารมีการกรุกระเบื้องเอาไว้ให้เผื่อใครทำครัว ล้างจาน ไม่ต้องกลัวน้ำกระเด็นไปโดนผนัง สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ท๊อปครัวเป็นลามิเนตกันน้ำ

ชุดตู้ด้านล่างมีทั้งลิ้นชักและบานเปิดสามารถเก็บอุปกรณ์ในครัวได้ระดับนึงเลย โดยแยกเป็นหใวดหมู่

ประตูทางออกไปเรียงจะเป็นแบบผลักออก บานกระจกพ่นฝ้า ให้แสงส่องเข้ามาได้แต่คนภายนอกมองไม่เห็นด้านใน

มือจับแบบก้านโยกพร้อมตัวล็อคอีกชั้น

พื้นที่ระเบียงจะได้พื้นแบบเดียวกับพื้นที่ส่วนอาบน้ำในห้องน้ำ ขนาดประมาณ 1.50 x 1.50 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ที่ตรงนี้

ตัวเหล็กราวกันตก พร้อมบังคอมแอร์ฯ

ที่ผนังด้านซ้ายมีคอมแอร์แขวนเอาไว้อยู่แนะนำให้ไปหาซื้อกริลล์บังคับทิศทางลมร้อนให้หันออกนอกอาคารไปเลย จะได้เดินออกมาใช้งานได้สะดวก

ใครที่เลือกฝั่งถนนด้านหน้าโครงการ จะเป็นแนวฝั่งวิวอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง โดยถ้าใครเลือกสูงกว่านั้นประมาณชั้น 5 ขึ้นไปก็น่าจะเห็นพื้นที่สีเขียวของต้นไม้ด้านหลังด้วย

ห้องตัวอย่างอีกห้องก็เป็น 1 Bedroom เช่นกันแต่จะมีขนาดใหญ่กว่า Type-A ขนาด 47-50 ตร.ม. โดยเข้ามาในห้องขวามือเป็นโซนครัว ซ้ายมือเป็นทางเข้าห้องน้ำ(สามารถเข้าจากในห้องนอนได้ด้วย) มองตรงไปจะเป็นส่วนรับประทานอาหาร -> นั่งเล่น -> ระเบียงเลย ที่ระเบียงด้านนอกแยกพื้นที่วางคอมแอร์ออกไปให้พ้นแนวสายตาดูเรียบร้อย ส่วนของห้องนอนอยู่ฝั่งซ้ายติดกับนั่งเล่นกั้นฉากด้วยประตูกระจกทั้งหมดทำให้แสงส่องผ่านถึงกันได้ทั่ว

เข้ามาในห้องขวามือสุดเป็นโซนครัว ซ้ายมือสุดเป็นทางเข้าห้องน้ำ(สามารถเข้าจากในห้องนอนได้ด้วย) มองตรงไปจะเป็นส่วนรับประทานอาหาร -> นั่งเล่น -> ระเบียงเลย ผมขออนุญาตปิดมูลี่ก่อนนะครับเพราะแสงแดดข้างนอกจ้ามาก ทำให้ถ้าเปิดจะไม่เห็นรายละเปียดภายในห้อง

มองย้อนกลับมาทางประตูทางเข้า

ซ้ายมือหลังประตูทำเป็นชั้นวางติดผนังแบบเิดโล่ง ผมว่าสามารถดัดแปลงทำเป็นที่เก็บรองเท้าเต็มรูปแบบได้นะ มุมนี้น่าจะเหมาะ

ในส่วนของโซนครัว ห้องนี้จะได้เป็นครัวเปิดนะครับ จะอยู่บริเวณมุมที่มีพื้นที่ยื่นออกไปเล็กน้อยแบบนี้ แต่ถึงแม้เป็นครัวเปิด ก็ยังมีผนังหน้าต่างบานเลื่อนเล็กเข้ามาช่วยในการระบายอากาศระดับนึงนะ

ด้านบนเป็นชุดตู้ชั้นวางของเก็บของติดผนังมาตรฐาน

ที่ผนังห้องนี้จะไม่ได้ติดกระเบื้องมาให้แต่เป็นจติดวอลเปเปอร์แทน จะมีพื้นที่เตรียมอาหารมากกว่าห้อง Type-B

มุมอ่างล้างจานที่อยู่ใกล้กับหน้าต่างบานเลื่อน ตำแหน่งนี้ดี เพราะฝั่งนี้จะมีการเปียกชื้นของอ่าง สามารถเปิดออกระบายความชื้นได้ดีครับ

ด้านล่างก็เป็นชั้นตู้เก็บของทั่วไป แต่มุมวางเครื่องซักผ้าห้องนี้จะไม่ได้อยู่ที่ระเบียงแต่มาอยู่บริเวณนี้แทน

มุมโต๊ะรับประทานอาหารที่อยู่ติดกันกับโซนครัว วัสดุอุปกรณ์เหมือนกับห้องก่อนหน้าครับ

จุดเด่นคือหน้าต่างช่องแสงที่อยู่ติดกันกับโซนทานอาหาร ทำให้ดูโปร่งสบายตา มีการติดโคมไฟด้านบนเพิ่มให้มุมนี้ดูน่าใช้งาน

ฝั่งตรงข้ามประตูทางซ้ายมือสุดเป็นส่วนของทางเข้าห้องน้ำ (ที่สามารถเข้าออกได้จากในห้องนอนด้วย) ถัดมาเป็นมุมชั้นวางของคล้ายๆแบบห้องแรกแต่สั้นกว่านิดหน่อย ยังคงมีการซ่อนไฟเหมือนกัน และขวามือเป็นประตูทางเข้าห้องนอน

ลองเปิดลื้นชักหน้าบานพวกพื้นที่เก็บของ สามารถเก็บได้เยอะอยู่นะครับห้องนี้

ถัดมาเป็นส่วน Living Area ที่เลือกโซฟามาแบบ 3 ที่นั่งเหมาะกับคนที่มีแขกมาเผื่อได้เลย ระยะดูทีวีประมาณ 2.80 เมตร

นี่ครับจุดเด่นไฮไลท์ของห้องนี้คือ “ช่องแสง” ที่ให้มาเต็มบานทั้งส่วน “ห้องนั่งเล่น-ห้องนอน” และเชื่อมต่อกันได้นั่นเอง

มุมชั้นวางทีวีที่จัดออกมาได้ดูสวยงาม (เราได้มาตรฐานแบบนี้นะ) ตำแหน่งของแอร์อยู่ด้านบน

ชุดตู้ชั้นวางทีวีเคลือบเงาซะด้วย มีไฟส่องสว่างที่ชั้นล่าง

มาดูพื้นที่ระเบียงกัน พื้นที่จะค่อนข้างยาวใช้งานได้จริงจังนะครับ โดยสามารถเอาชุดโต๊ะเก้าอี้ออกไปวางนั่งรับลมชมวิวยามเย็นก็ได้ อีกอย่างราวกันตกของที่นี่สูง 1.10 เมตร และทำซี่ความถี่หน่อยเพื่อสำหรับใครที่มีเด็กเล็กอยู่อาศัยด้วยก็ลอดออกไปไม่ได้

เดี๋ยวไปดูตำแหน่งพื้นที่วางคอมแอร์กัน อยุ่ทางขวามือ

หักหลบมุมเข้าไปอีกแยกส่วนออกมาที่มุมนี้เลยครับ ทำให้คนอยู่ในห้องมองไม่เห็น ไม่รบกวนสายตาทั้งจากภายในและภายนอก

วิวจริงจากห้องฝั่งนี้ที่ชั้น 7 (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) ติดกับแม่น้ำระยอง เลยไปหน่อยเป็นชุมชนพักอาศัย และเห็นโรงเรียน

หันไปทางซ้ายจะเห็นลำแม่น้ำและก็สวนยูคาลิปตัสขนาดใหญ่

กลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง ในส่วนของห้องนอนกับห้องนั่งเล่นที่ติดกัน โครงการกั้นฟังก์ชั่นด้วยกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่แบบ Floor to ceiling 2.65 เมตรแบบนี้ ทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านถึงกันได้ครับ

อีกทั้งยังทำเป็น “รางเลื่อนด้านบน” เวลาเราเดินเข้าออกผ่านไปมาไม่ต้องกลัวสะดุดที่นิ้วเท้า

เข้ามาในส่วนห้องนอนแล้ว ที่นี่มีคอนเซ็ปท์อีกอย่างว่า เตียงต้อง Ling Size เท่านั้น ไม่ว่าห้องไหน คือต้องนอนสบาย ระยะทางเดินต่างรอบเตียงเดินได้สบายไม่ต้องเอียงตัวครับ

หน้าต่างช่องแสงแบบเต็มผนัง ด้านบนเป็นบานเลื่อนซ้ายขวาเปิดออกรับลมได้

พื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งชิดหน้าต่าง มีวางโต๊ะข้างหัวเตียงตัวเล็กเอาไว้ให้

หัวเตียงเบิ้ลผนังพร้อมตกแต่งติดวอลเปเปอร์ให้เช่นกัน

มองไปยังในห้อง ข้างหัวเตียงจะเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ติดกับตู้เสื้อผ้านะ และก็ทางเข้าห้องน้ำ

หน้าตาชุดตู้เสื้อผ้า เหมือนกับห้องที่แล้วครับ

ฝั่งตรงข้ามกับตู้เสื้อผ้าเป็นมุมที่ติดแอร์เอาไว้ พร้อมมุมแบบวางเครื่องสำอางค์ ข้าวของเครื่องใช้ เราจะได้แบบนี้เลยนะครับ

ชั้นวางกระจกเทมเปอร์(นิรภัย) และด้านล่างเป็นชุดตู้บานเลื่อนเก็บของ

เข้ามาในส่วนของห้องน้ำแล้ว พื้นจะลดระดับลงเล็กน้อย ช่วยในเรื่องเวลาทำความสะอาดไม่เข้ามาเลอะในห้องนอนและนั่งเล่น

หน้าตาวัสดุอุปกรณ์ มุมฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆเหมือนกันครับ

พื้นที่อ่างล้างมือและสุขภัณฑ์

สิ่งที่ห้องน้ำนี้พิเศษกว่าห้องก่อนคือ “พื้นที่อาบน้ำ” ที่ได้มากว้างกว่าพอสมควรเลย สามารถอาบกันทั้งพ่อแม่ลูกได้เลยล่ะ 😀

ชุดวัสดุอุปกรณ์ในการอาบน้ำเหมือนกับห้องก่อนหน้าครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 5 September 2017

  • 1 Bedroom Type B : ขนาด 38-39 ตรม.
  • ชั้น 2 เริ่ม 1.89 ลบ. หรือราคาเฉลี่ยประมาณ 49,736 บาท/ตร.ม.
  • ชั้น 4 เริ่ม 2.1 ลบ. หรือราคาเฉลี่ยประมาณ 55,263 บาท/ตร.ม.
  • ชั้น 7 เริ่ม 2.4 ลบ. หรือราคาเฉลี่ยประมาณ 61,538 บาท/ตร.ม.
  • (ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.ของ Type B ประมาณ 52,600 บาท/ตร.ม.)
  • 1 Bedroom Type A: ขนาด 47-50 ตรม.
  • ชั้น 2 เริ่ม 3.2 ลบ. หรือราคาเฉลี่ยประมาณ 68,000 บาท/ตร.ม.
  • ชั้น 4 เริ่ม 3.4 ลบ. หรือราคาเฉลี่ยประมาณ 69,000 บาท/ตร.ม.
  • ชั้น 7 เริ่ม 3.5 ลบ. หรือราคาเฉลี่ยประมาณ 70,000 บาท/ตร.ม.
  • (ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.ของ Type A ประมาณ 68,000 บาท/ตร.ม.)
  • Fully Furnished / เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและ Built-In / แอร์ / วอลเปเปอร์
  • ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 20,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

จังหวัดระยองนั่นขึ้นชื่อเรื่องของแหล่งงานอุตสาหกรรม – การขนส่ง(สนามบินอู่ตะเภา) – และแหล่งท่องเที่ยว(ชายหาดทะเล) ซึ่งทั้งสามอย่างนี้ก็ทำให้ระยองเป็นทั้งเมืองเศรษฐกิจและท่องเที่ยวที่น่าสนใจแล้วล่ะ แหล่งงานหลักๆของที่นี่ขอยกตัวอย่างมา 3 แห่งนั่นคือ 1.นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด(ฝั่งตะวันตกตัวเมือง) 2-3.ไออาร์พีซี และ ทีพีไอโพลีน(ฝั่งตะวันออกตัวเมือง) ซึ่งทางโครงการอยู่ใกล้กับ 2 แหล่งงานยักษ์ใหญ่นี้

แต่เดิมนั้นระยองไม่ค่อยมีห้างใหญ่สักเท่าไร จะมีก็แต่ห้างแหลมทองริมถนนสุขุมวิท(ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น Passione ไปแล้ว) แต่ปัจจุบันความอุดมสมบูรณ์ต่างๆนั้นขยับตัวออกมาทางแยกระยองค่อนข้างเป็นวงกว้าง อาทิเช่น Tesco Lotus ด้านหลังมีขนส่งและตลาดสดขนาดใหญ่ ตลาดสตาร์ อีกทั้งการมาของ Central ระยองบนถนนทล.36 ที่มี Makro กับ BigC อยู่ใกล้ๆทำให้แอเรียนี้เรียกว่าเป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์มากๆ

ทีนี้สิ่งที่ชาวเมืองระยองถือว่ามีไม่เยอะนั่นก็คือ..พื้นที่สีเขียว หรือสวนสาธารณะ ถ้าเราดูจาก google maps เราจะเห็นว่าสวนในพื้นที่ใจกลางเมืองระยองนั่นหายากมาก สวนที่เด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นอย่างสวนศรีเมืองที่ชาวเมืองระยองมักมาออกกำลังกายกันทั้งช่วงเช้าและเย็น เป็นสวนสุขภาพขวัญใจของที่นี่ และอีกทั้งยังอยู่ใกล้กับโครงการมากๆระยะเรียกว่า 1-2 นาทีถึง  นอกเหนือจากนั้นก็ยังมีโรงพยาบาลชื่อดังอย่างรพ.กรุงเทพ สถานศึกษาก็มีทั้งร.ร.อัสสัมชัญและเซนต์โยเซฟ อีกทั้งบริเวณริมชายหาดบนถนนเลียบชายฝั่งยังเต็มไปด้วยร้านอาหารซีฟู๊ดชื่อดังเจ้าต่างๆให้เลือกอยู่หลายร้านมากๆ

เรื่องการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลบริเวณตัวเมืองระยองนั้นค่อนข้างทำได้คล่องตัว เพราะว่ามีทางลัดเลาะอยู่หลายเส้น การจราจรที่นี่จะไม่ค่อยติดขัดเท่าไร ยกเว้นช่วงเวลาเลิกงานช่วงเดียวติดเล็กน้อยไม่นาน ที่น่าจะเป็นปัญหาคือการเดินทางระบบสาธารณะของที่นี่นั้นถือว่าน้อยมาก โดยหลักแล้วจะมีรถเมล์รถสองแถววิ่งผ่านแค่..ถนนสุขุมวิทเท่านั้น (ตามซอยต่างๆนั้นทำไม่ได้เลย) เลยจะสังเกตว่าคนชาวระยองส่วนใหญ่เกือบทุกคนจะมี “รถส่วนตัว” กันทั้งทั้งไม่ว่าจะรถยนต์หรือจักรยานยนต์ครับ และที่โครงการก็มีข้อดีคือมีที่จอดรถ 100%(แบบไม่ซ้อนคัน) ทำให้มั่นใจได้เลยว่ากลับมาบ้านมีที่จอดแน่เหมือนกับบ้าน

วัสดุ ที่นี่โครงการให้มาแบบเรียกว่าจัดเต็มสุดๆเริ่มจากโครงการขายแบบ Fully Furnished ทั้งเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและ Built-In ได้แอร์และติดวอลเปเปอร์ (ถ้าห้อง type b มีติดผนังกระจกเงาให้ด้วย) ตัวห้องมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.65 เมตร  พื้นของห้องมี 3 แบบเลยได้แก่สมาร์ทไวนิล, กระเบื้องแกรนิตโต้ และกระเบื้องผิวด้านไซส์ 30 ซม. ห้องน้ำได้ของ MOYA มี Rain Shower พร้อมเครื่องทำน้ำร้อน MEX / ครัวได้ชุดของ Starmark แต่ไม่ได้ Hob&Hood ถือว่าวัสดุคุ้มค่า

การออกแบบ ตัวอาคารเป็น Design Modern ใช้โทนสีเทาภายนอกอาคาร แต่ภายในจะแต่งด้วยโดน Black&White และเล่น Lighting มาช่วยในการตกแต่ง ผังอาคารของที่นี่ได้วิวสองฝั่งคือ ด้านหน้าโครงการทิศตะวันตกเฉียงใต้นั้นติดกับซอยคอนโดศรีเมือง 1 ฝั่งตรงข้ามเป็นแนวอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นครึ่ง และด้านหลังโครงการคือทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งติดกับแม่น้ำระยองและข้ามไปเป็นชุมชนบ้านพักอาศัย Corridor โถงทางเดินก็เป็นรูปตัว I ตามทรงอาคารโดยจะมีช่องแสงส่องผ่านมา 3 จุดที่ปลายหน้าต่างและก็โถงลิฟท์ครับนอกจากบันได้ขึ้นลงหลักใกล้โถงลิฟท์แล้วยังมีบันไดหนีไฟอีกจุดที่ปลายทางเดินฝั่งซ้าย ในส่วนของห้องพักอาศัยที่นี่มีแต่ 1 Bedroom เท่านั้น มี 2 แบบคือ Type A (1-3) ขนาด 47-50 ตร.ม. จะเป็นหนึ่งห้องนอนที่ขนาดใหญ่จัดสเกลต่างได้กว้างขวางน่าใช้งานเสมือนอยู่บ้าน ห้องตำแหน่งนี้จะอยู่ตามมุม 4 ด้านของอาคารเลยจะได้ผนังหน้าต่างช่องแสงที่เยอะหน่อย / ห้องอีกแบบ Type B (1-2) ขนาด 37-40 ตร.ม. เป็นหนึ่งห้องนอนเหมือนกัน แต่ขนาดจะเล็กลงมาหน่อยดูกระชับกว่าแต่ฟังก์ชั่นการใช้งานหลักก็ครบไม่ต่างกัน

สาธารณูปโภค กับจำนวนยูนิตเพียง 66 ยูนิตที่มี Main Lobby, Meeting Room, Laundry Room, Landscape Garden ที่ชั้น 1 ทั้งหมด ถึงแม้จะไม่สระว่ายน้ำ แต่ก็แลกกับการได้ที่จอดรถ 100% ไม่ซ้อนคันก็คุ้มอยู่นะ

 

Judgement

เนื่องจากเป็นทำเลในต่างจังหวัด ไม่ใช่ทำเลที่เราคุ้นเคยอย่างจริงจัง จึงไม่มีการให้คะแนนในส่วนนี้นะครับ

 

BOTTOM LINE

The HI Riverparkเหมาะสำหรับคนที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม โซนตะวันออกอย่าง IRPC หรือ TPIPL หรือคนที่ทำงานในตัวเมืองระยอง เพราะอยู่ในระยะที่ไม่ไกลมาก อาจเป็นคนที่อยู่คอนโดในช่วงวันทำงานและกลับบ้านในวันหยุดสุดสัปดาห์ เป็นคนต้องมีรถยนต์ส่วนตัว ชอบความสงบหน่อย อยู่ใกล้พื้นที่สีเขียว มีส่วนกลางให้ใช้บ้าง ยกกระเป๋าพร้อมหิ้วตัวเข้าอยู่ได้เลย มีงบประมาณประมาณ 1.89 – 3.6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 13,000 – 25,000 บาท/เดือน