รีวิวฉบับที่ 194 … หลังจากที่เราได้พาไปสำรวจทำเลคอนโดใหม่ติดรถไฟฟ้าทองหล่อจาก SC Asset เมื่อต้นปีนะครับ ทาง ThinkOfLiving ก็ได้รับเชิญไปร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ The Crest สุขุมวิท 34 ในวันพฤหัสที่ผ่านมาพร้อมๆกับพี่ๆนักข่าวทั้งหลาย จึงได้ถือโอกาสทำรีวิวเจาะลึกตัวโครงการมาให้ทางผู้อ่าน Think of Living ได้รับชมคอนโดระดับ Super Luxury ที่ถือว่าแพงที่สุดที่ทาง SC Asset เคยทำมานะครับ

Fact @ 10 July 2012

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

ด้วยราคาขายที่เริ่มต้นที่ 160,000 บาทต่อตารางเมตร ทำให้ The Crest สุขุมวิท 34 ถูกจัดอยู่ในคอนโดประเภท Super Luxury ครับ ชนิดของห้องก็จะมีดังนี้ครับ

  • 1 Bedroom ขนาด 35-53.7 ตารางเมตร
  • 2 Bedroom ขนาด 65.1-78.5 ตารางเมตร
  • Duplex ขนาด 83.2-111.5 ตารางเมตร
  • Penthouse ขนาด 87.9-101.5 ตารางเมตร

ที่เราจะพาไปดูในวันนี้ก็คือห้องแบบ 1 Bedroom และห้องแบบ Duplex ครับ แต่ก่อนอื่นเราไปดูเรื่องทำเลที่ตั้งของโครงการนี้กันก่อนละกัน

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

ตำแหน่งของ The Crest สุขุมวิท 34 ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่สุขุมวิทครับ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อประมาณ 120 เมตร ถ้าคนที่คุ้นเคยกับแถวนี้จะรู้ดีว่าตำแหน่งนี้มันคือปั๊มน้ำมัน Caltex เก่านั่นเอง

ตัวโครงการมีพื้นที่ติดถนนสุขุมวิทและซอยสุขุมวิท 34 ทางเข้าออกหลักคือถนนใหญ่สุขุมวิท จากที่สอบถามในอนาคต “อาจจะ” มีประตูเล็กปิดเปิดเป็นเวลาเอาไว้เข้าออกทางซอยสุขุมวิท 34 ลูกบ้านสามารถใช้ซอยสุขุมวิท 34 เป็นเส้นทางลัด (เส้นประสีฟ้า) เชื่อมไปยังซอยสุขุมวิท 26 หรือซอยอารีย์ ที่จะทะลุไปยังไปถนนพระราม 4 ได้ครับ แต่ปัจจุบัน (ก.ค. 2555) เส้นทางเส้นนี้กำลังทำถนนวางท่อกันอย่างเมามันส์ ตะลุมบอนกันจนไม่สามารถขับรถเข้าไปได้หากรถของท่านไม่ใช่กระบะหรือตระกูลฟอร์จูนเนอร์ขึ้นไป

ถ้าจะไปถนนเพชรบุรีก็ U-Turn ที่ทางกลับรถประมาณ 100 เมตรจากหน้าโครงการแล้ววิ่งเข้า ซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) หรือซอยเอกมัย (สุขุมวิท 63) ตามเส้นประสีม่วงดังรูปเลยครับ

ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆใกล้เคียงก็บริเวณนี้ก็จะเป็น Emporium ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตรพอดี และในซอยอารีย์ก็จะมี K Village ที่เป็น Community Mall ใกล้เคียงครับ นอกจากนี้หากข้ามไปอีกฝั่งก็จะพบกับสถานที่ Lifestyle ในซอยทองหล่อด้วย

การเดินทางไปโครงการ The Crest สุขุมวิท 34 โดยปกติก็มาทางด้านหน้าด้านถนนสุขุมวิทแหละครับ ถ้าเราวิ่งมาจากแยกเอกมัยเราก็จะเห็นทางเข้าหน้าตาแบบนี้

แต่เราเป็น ThinkOfLiving เราจะไปทางธรรมดามันก็ไม่ตื่นเต้นครับ วันนี้ผมก็เลยพาทุกคนมาดูทางลัดที่มาจากสุขุมวิท 26 (ซอยอารีย์) ที่อาจจะได้ใช้กันบ่อยๆครับ

เร่ิมต้นกันที่ทางด่วนขึ้นที่ 1 ทางลงพระราม 4 แยกบ่อนไก่กันเลยครับ เลี้ยวขวาไปโลด

วิ่งตามถนนพระราม 4 มาเรื่อยๆเลยครับ แล้วก็มาเลี้ยวขวาที่ Big C Extra ซอยอารีย์เลยครับ (ซอย K Village นั่นแหละ)  ป้ายบอกทางค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว

จากปากซอยวิ่งตามทางเข้ามาเรื่อยๆเลยครับ แล้วเราจะเจอ “ซอยท่านหญิงพวงรัตน์ประไพ” ป้ายซอยอาจจะหายากซักนิดนึงนะครับ พอเจอแล้วก็เลี้ยวขวาเข้าไปดังรูปเลย พอวิ่งเข้าซอยมานะครับ ถ้าเป็นวันนี้ (10 ก.ค. 55) ก็จะเห็นว่าในซอยมีการทำถนนอยู่ พื้นผิวจราจรอาจจะขรุขระซะหน่อย แต่ไม่เป็นไรครับ เราวิ่งตรงเข้าไปตามทางเรื่อยๆครับ ถ้าผมจำไม่ผิดมันจะมีป้ายกำกับตลอดทางอยู่แล้วว่าไปออกสุขุมวิททางไหน เราก็วิ่งตามป้ายไปนั่นแหละ

วิ่งไปเรื่อยๆจนมันจะมาโผล่ตามรูปข้างบนนี้แหละครับ และที่ลูกศรสีแดงชี้นั่นก็คือที่ดินของโครงการ The Crest สุขุมวิท 34 นั่นเองครับ

ปล. ไอ้ช่องนี้ปกติมันไม่ได้เปิดให้เข้านะครับ เราสะเออะเข้าไปกันเอง -_- เพราะเห็นว่ามันเปิด

แล้วถ้าเราวิ่งตรงต่อไป ไม่เลี้ยวเข้าโครงการก็จะมาโผล่ที่ปากซอยสุขุมวิท 34 ครับ จะเห็นว่ามีพี่วินมอเตอร์ไซค์มาจอดรออยู่ที่ป้ายรถเมล์อยู่แล้ว

มองย้อนเข้าไปในซอยสุขุมวิท 34 ครับ มีร้านอาหารข้างทางอยู่สามสี่ร้านครับ

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้านั้นก็ใช้สถานี BTS ทองหล่อครับ ตัวโครงการอยู่ห่างจากตัวสถานีประมาณ 120 เมตรครับ แต่น่าเสียดายบันไดทางขึ้น-ลงของตัวสถานีบนฝั่งถนนเดียวกันที่ใกล้ที่สุดนั้น อยู่ห่างออกไปอีกประมาณ 80 เมตรครับ ดูจากรูปข้างบนนี้ ผมยืนถ่ายจากฝั่งเดียวกับตัวโครงการครับ ที่เห็นยื่นออกมาไม่ใช่บันไดครับ แต่เป็นทางเชื่อมที่ต่อเข้าไปยังตึกของคอนโด Noble Remix 2 ครับ หากจะไปขึ้นรถไฟฟ้านั้น ก็ต้องเดินไกลออกไปอย่างที่บอกครับ

จากรูปบน บันไดที่อยู่ใกล้กับตัวโครงการดันไปอยู่ฝั่งตรงข้ามเนี่ยสิ แล้วสะพานลอยใกล้ๆก็ไม่มีด้วย เกาะกลางถนนก็มีรั้วลวดขึงไว้อีก จะให้เดินข้ามถนนไปก็จะเกรียนเกินครับ ปลอดภัยไว้ก่อนเดินไปขึ้นอันไกลหน่อยดีกว่าครับ

ที่จอดรถชั่วคราวหน้าโครงการครับ แต่ที่เห็นนั่นตึกที่กำลังสร้างอยู่นั่นคือ Keyne ของแสนสิรินะครับ และที่เห็นอยู่ติดกันนั่นคือ Noble Remix 2 ครับ จากสถานีเราก็จะเดินผ่านสองตึกนี้ก่อน

ถึงแล้วครับ The Crest  สุขุมวิท 34 และนี่ก็คือด้านหน้าของสำนักงานขายครับ

มองจากด้านนอก เราจะมองเห็นเป็นหน้าตาจำลองโครงสร้างภายนอกของอาคาร The Crest ครับ ด้านซ้ายจะเป็นระเบียงของห้องขนาด 1 Bedroom และด้านขวาคือระเบียงของห้องแบบ Duplex ครับ

ถ่ายให้เห็นระเบียงด้านนอกของห้อง Duplex ชัดๆ จะเห็นว่าตรงส่วนที่เป็นกระจกด้านขวานี่มันจะเชื่อมไปถึงชั้นสองเลย เนื่องจากตรงบริเวณนี้ของตัวห้องจะเปิดเพดานทะลุไปถึงชั้นสอง หรือที่เรียกว่า Double Volume ครับ เดี๋ยวเราจะพาไปดูข้างในว่ามันหน้าตาเป็นยังไง

ภาพจำลองด้านหน้าของ The Crest สุขุมวิท 34 ถ่ายจาก Brochure

เจาะลึกตัวสินค้า

The Crest 34 เป็นคอนโดตึกเดี่ยวครับ ตัวอาคารสูง 28 ชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 265 ยูนิต ที่จอดรถมี 180 ซอง ไม่รวมจอดซ้อนได้อีกประมาณ 48 คัน รวม 228 คัน คิดเป็นประมาณ 86% ครับ

ชั้น 1 เป็น Lobby ครับ ตรงทางเข้าบริเวณจุด drop-off ถูกทำเป็นวงเวียนเล็กๆ อยู่ด้านหน้า มีการตกแต่งบริเวณวงเวียน เฉลียงและทางเข้า Lobby โดยใช้น้ำ (Water Feature) ให้ดูแกรนด์ขึ้นหน่อยสมกับราคาระดับ Super Luxury

ด้านหน้าอาคารส่วนที่ติดถนนใหญ่ก็จะใช้เป็นลานจอดรถ และตกแต่งรอบๆเป็นสวนย่อมๆสังเกตรูปนี้บริเวณด้านขวาล่างของ Lobby ที่อยู่ติดกันครับ บริเวณนี้จะทำเป็นห้องสมุดติดกับลานจอดรถด้านหน้าครับ ด้านข้างเป็นทางขึ้นอาคารจอดรถ ส่วนรอบๆตัวตึกก็สามารถใช้จอดรถได้เช่นกัน

ถัดขึ้นมาชั้น 2-5 เป็นลานจอดรถครับ นี่เป็นรูปการวนรถขึ้นลงและล็อคจอดรถ

ชั้น 6-22 นั้นจะหน้าตาเหมือนกันครับ (ยกเว้นห้อง Duplex ที่จะเหมือนกันทุกๆ 2 ชั้น) โดยที่ชั้น 6 จะเป็นชั้นที่พิเศษหน่อย เนื่องจากเป็นชั้นที่มีสวน ห้อง B1, B2, C2 และ D2 ก็จะได้วิวตรงนี้ไปครับ ประเภทของห้องก็จะมี 1 Bedroom, 2 Bedrooms และ Duplex ขนาดต่างๆกันไปครับ ส่วน ชั้น 23-27 จะแตกต่างตรงที่จะมีห้องแบบ Penthouse ด้วยครับ ลิฟท์นั้นมีทั้งหมด 3+1 ตัวครับ (3 โดยสาร 1 บริการ) หารลิฟท์โดยสารออกมาได้ 88 ยูนิตต่อ 1 ตัว ยังพอถือว่าพอรับได้กับมาตรฐานของคอนโดระดับบนที่จะต้องมีแถวๆ 80:1 ไม่เกิน 100:1

เรามาวิเคราะห์เรื่องทิศและตำแหน่งของห้องกันตรงนี้กันครับ ห้องทิศเหนือก็จะมี Duplex D1, D2, D3 และ 2 Bedrooms B1, B2, C2 ครับ ตำแหน่งของห้องที่ดีที่สุด (ไม่สนราคา) ก็คงจะเป็น D2 ครับ เพราะนอกจากจะได้วิวทิศเหนือแล้ว ได้วิวสวนส่วนกลางชั้น 6 ด้วย ผนัง 3 ด้านที่เป็นทิศ เหนือ ใต้ ตะวันออกไม่ติดกับห้องใดๆ แถมยังมีห้องข้างๆมาบังแดดจากทิศตะวันตกให้อีก ส่วนที่รองลงมาก็เห็นจะเป็นห้อง C2 ที่จะได้วิวทิศเหนือและสวนเหมือนกัน แต่วิวบางส่วนก็อาจจะโดนบังโดยห้อง D2 และตึกข้างๆ (Keyne) ครับ

หลายๆคนอาจจะกำลังมองห้องมุม D3 ที่เราจะพาไปชมกันวันนี้อยู่นะครับ เพราะได้รับวิวจากทั้งสองทิศ คือ ทิศเหนือและทิศตะวันตกที่ไม่ติดตึกข้างๆแน่นอนเพราะมีซอยสุขุมวิท 34 กั้นไว้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความร้อนจากแดดทิศตะวันตกครับ ส่วนห้อง 1 Bedroom A1, A1A ก็จะรับแดดทิศตะวันตกไปเต็มๆเลย ความโล่งของวิวอาจจะได้เลยไปจนถึงตึก The Address สุขุมวิท 28 เลยครับ

ส่วนห้องที่เหลือก็จะเป็นห้องทางด้านทิศใต้ ก็คือ A2, B3, B4 และ C1 ทิศนี้จะได้วิวเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา

หลายๆคนอาจจะกำลังคิดว่า ตึก Keyne ที่อยู่ข้างๆทางทิศตะวันออก อาจจะมาบังวิวของตึกเรารึเปล่า แต่ผมคิดว่าน่าจะไม่เป็นปัญหาอะไรครับ เพราะ The Crest มีแค่ 2 ยูนิตเท่านั้นที่ติดทิศตะวันออก คือ C2 และ B4 แล้วทั้งสองห้องก็มีระเบียงหันหน้ารับวิวทางทิศเหนือ และทิศใต้ (ตามลำดับ) อยู่แล้ว ตรงจุดนี้อาจจะเสียมูลค่าเรื่องของ “ห้องมุม” ที่สมควรจะได้วิวสองทิศไปครับ

ถัดมา Floor Plan ชั้น 28 ก็จะเป็นส่วน สิ่งอำนวยความสะดวกครับ ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge (หรือที่บางคนเรียกว่า Fish Tank ไร้ขอบ) แยกสระเด็กด้วย, สระน้ำอุ่น Indoor ที่เรียกว่า Spa Pool, ห้องออกกำลังกาย, สวนหย่อม และ ห้อง Sky Lounge สำหรับนั่งพักผ่อนครับ

ภาพจำลองสระน้ำ, ห้องออกกำลังกาย และ Sky Lounge ชั้น 28 จาก Brochure ครับ

อันนี้เป็นภาพจำลองสวนดาดฟ้าครับ ได้ข่าวว่าโล้นๆไปนิดนึงนะ

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • ห้องออกกำลังกาย ชั้น 28
  • สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ขนาดใหญ่ ชั้น 28
  • สระน้ำอุ่น Spa Pool
  • Sky Lounge
  • ห้องสมุด
  • สวนที่ชั้น 6 และชั้น 28
  • ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว, Service Lift 1 ตัว
  • Lobby
  • ที่จอดรถ 86%
  • ระบบ CCTV / Access Card / ลิฟท์ล็อคชั้น

Product Walkthrough

เริ่มจากห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 44.6 ตารางเมตร กันก่อนครับ

กลอนประตูยี่ห้อ Kaba หน้าตาแบบนี้ครับ ใช้ได้ 3 ระบบ คือ Passcode, คีย์การ์ด และกุญแจครับ

เปิดเข้ามาทางซ้ายมือเราจะเจอครัวก่อนเลยครับ สิ่งที่ได้ก็ตามที่เห็นนะ ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น ไมโครเวฟ (และพร็อพตกแต่ง) อีกอย่างหนึ่งก็คือมีเสากั้นระหว่างครัวที่เข้ามุม เลยทำให้ดูตลกๆไปหน่อย

ตู้ในครัว วัสดุที่ใช้เป็นบาน High Gloss สีดำ

ครัวยี่ห้อ Smeg ครับ  Top เป็นหินแกรนิตสีดำ

ที่ดูดควัน Smeg เหมือนกัน

อ่างล้างจานเป็นแบบถอดหัวก็อกออกมาเป็นสายฉีดได้ครับ แต่จะไม่มีส่วนที่ใช้ผึ่งเครื่องครัวให้แห้งหลังจากล้างครับ ต้องไปซื้อแบบแยกมาวางเอง อันนี้ต้องปรับนิดนึง

ไมโครเวฟไม่มีให้นะครับ

สวิตช์ไฟยี่ห้อ Siemens ไม่มี Wallpaper เป็นผนังฉาบเรียบทาสี

ผนังที่กั้นระหว่างครัวกับห้องนั่งเล่นก็จะมีกระจกให้มองลอดออกไปแบบนี้ได้ ตรงนี้ช่วยเรื่องแสงและความโปร่ง

ถัดมาเป็นมุมรับประทานอาหารครับ สังเกตพื้น วัสดุจะเป็นหินอ่อน Verona จากอิตาลีครับ

ห้องนั่งเล่นถูกตกแต่งไว้เป็นสไตล์ยุโรปกึ่งโมเดิร์นครับ ผ้าม่านและ Wallpaper ที่เห็นไม่มีให้นะครับ เป็นสีขาวเรียบ

ชั้นวางทีวีแบบกระจกเงาครับ ถ้าวางแบบนี้ไว้ในห้องจริงๆจะเดินเตะมั้ยเนี่ย

ให้ดูอีกมุมนึงของห้องนั่งเล่นกันบ้าง อันนี้มองจากห้องนอนออกมาครับ

สวิตช์ไฟ และช่องเสียบสายโทรศัพท์ หน้าตาแบบนี้ครับ ยี่ห้อ Siemens เช่นกัน

ทางออกสู่ระเบียงด้านนอก

และเจ้าสิ่งนี้ก็คือ…

ตู้เก็บเครื่องซักผ้านั่นเองครับ

ถ้า Compressor แอร์จะอยู่อีกด้านนึงครับ

ประตู Compressor ถูกซ่อนไว้แบบนี้

ช่องด้นล่างสำหรับระบายน้ำครับ

และนี่ก็คือระเบียงด้านนอกครับ พอจะมีที่ออกไปให้ยืนรับลมได้ ไม่แคบจนเกินไป

บานเลื่อนออกสู่ระเบียงครับ ตัวล็อคเป็นแบบมาตรฐานทั่วไป

ถัดจากห้องนั่งเล่นก็เข้ามาเป็นห้องนอนกันบ้างครับ

ฝ้าห้องนี้สูง 2.70 เมตรครับ มี Downlight ให้ แต่ไม่ดร็อปฝ้าให้อย่างที่เห็นนะครับ

บัวด้านบน กับ Wallpaper ไม่มีให้นะครับ

มุมแต่งตัว โต๊ะเครื่องแป้ง  และกระจกครับ

ช่องหน้าต่างของห้องนอนครับ หน้าตาแบบนี้

ถัดจากโต๊ะเครื่องแป้งก็จะเป็นตู้เสื้อผ้าครับ และเข้าไปด้านในสุดนั่นก็คือห้องอาบน้ำครับ

มือจับประตูห้องอาบน้ำครับ ห้องน้ำที่นี่จะถูกแยกเป็นส่วนเปียก และส่วนแห้งอย่างชัดเจนครับ เราไปดูส่วนเปียกก่อนละกัน

พื้นห้องน้ำเป็นพื้นกระเบื้อง ขนาด 60×60 cm2 ครับ

ราวตากผ้าเช็ดตัวและ อ่างอาบน้ำครับ ผนังห้องน้ำจะได้อย่างที่เห็นเลยครับ เป็นกระเบื้องขนาด 60×60 cm2 เหมือนกัน

อ่างอาบน้ำ และฝักบัวแบบ Hand Shower ครับ

ที่นี่จะมีฝักบัวให้สองจุดครับ คือส่วนที่เป็น Shower และอ่างอาบน้ำแยกกัน

สุขภัณฑ์ที่ใช้จะเป็น Cotto Premium ครับ หัวก็อกก็จะเป็นแบบนี้

ต่อมาเรามาดูส่วนแห้งกันบ้างครับ ทางเข้าจะเข้าได้สองทางครับ คือจากทางห้องนั่งเล่นตรงที่เป็นโต๊ะกินข้าว กับจากทางห้องนอน ตรงข้ามตู้เสื้อผ้าครับ

โถสุขภัณฑ์ Cotto Premium

อ่างล้างมือสี่เหลี่ยม กับ Top หินแกรนิตครับ

หัวก็อกให้ดูชัดๆกันอีกครั้ง

สวิตช์ไฟในห้องน้ำครับ มีเต้ารับเสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ พวก ไดร์เป่าผม ที่โกนหนวด หรือ แปรงสีฟันไฟฟ้า 😛 มีให้สองช่องครับ

ตู้เก็บอุปกรณ์ในห้องน้ำครับ จะเห็นว่าจะซ่อนไฟที่อ่างอาบน้ำเอาไว้ด้วย

Unit Plan ห้อง D3

ซึ่งเป็นห้อง Duplex

เริ่มจากประตูทางเข้ากันเลย วัสดุที่ใช้ก็จะเหมือนกับห้องอื่นนะครับ ก็คือเป็น Laminate สูง 2.50 เมตรครับ มีระบบล็อค 3 ระบบเหมือนกัน

เดินเข้ามาจะมีโถงทางเข้าก่อนครับ

หันกลับไปมองจะเห็น Door Stopper ครับ ห้องอื่นก็มีเหมือนกันนะครับ

เดินต่อเข้าไปดูข้างในกันเลย

สิ่งแรกที่เห็นก็จะคือประตูสองบานนี้ครับ อันใกล้จะเป็นห้องน้ำนะครับ ส่วนอันที่อยู่ไกลกว่าจะเป็นห้องเก็บของ กับ ช่อง Shaft ครับ ถึงเวลาจะมีบานประตูให้นะครับ

พื้นของชั้นล่างจะเป็นหินอ่อน Verona จากอิตาลีครับ ส่วนพื้นห้องน้ำก็จะเหมือนห้องที่แล้วครับ เป็นกระเบื้องขนาด 60×60 ครับ

พาเข้าไปดูห้องน้ำชั้นล่างกันก่อนครับ ห้องนี้ใช้อาบไม่ได้นะครับ

สุขภัณฑ์ของที่นี่จะเป็น Cotto Premium เหมือนกันหมดครับ วัสดุเดียวกัน

อ่างล้างมือครับ

และนี่ก็คือห้องเก็บของที่บอกครับ ที่เห็นคือช่องชาฟท์ครับ

เดินถัดเข้ามาเราก็จะเห็นแบบนี้ครับ เดี๋ยวเราจะพาไปทางซ้ายไปดูครัวกันก่อนครับ

และนี่ก็คือครัว มองจากด้านนอกเข้าไปครับ ผนังมีการเจาะช่องเป็นกระจกเพื่อให้มองทะลุออกมาได้ครับ

มาดูฝั่งนี้กันก่อน จะมีช่องใส่เครื่องซักผ้าครับ ที่เห็นนี่ขนาดพอดีเป๊ะเลยครับ ใหญ่กว่านี้ไม่ได้แล้ว อ่างล้างมือ และหน้าต่างระบายอากาศจะอยู่ด้านนี้ครับ

เช่นกันกับห้องที่แล้วครับ อ่างล้างมือจะเป็นแบบดึงสายออกมาได้

ด้านตรงข้ามจะเป็นมุมทำครัว และเตรียมอาหารครับ

ครัว Smeg และท็อปหินแกรนิตสีดำอีกเช่นเคย

ที่ดูดควัน Smeg และบาน High Gloss สีดำสำหรับตู้เก็บของ

Compressor แอร์ถูกย้ายจากตรงระเบียงมาอยู่หลังครัวแทนครับ มีบานปิดสีขาวเรียบร้อยดีครับ

จากส่วนที่เป็นครัวก็มาถึงจุดที่เป็นจุดเด่นของห้องนี่ครับ ก็คือมุมรับประทานอาหารติดหน้าต่างครับ บริเวณนี้แหละครับที่เพดานจะเปิดทะลุขึ้นไปถึงชั้นสอง หรือที่เรียกว่า Double Volume

มองขึ้นไปด้านบนจะเห็นโคมไฟด้านบน (ที่ไม่มีให้) และผนังกระจกสูงครับ และที่เห็นตรงด้านล่างก็คือประตูที่เปิดออกไปสู่ระเบียงได้ครับ

มองกลับมาด้านตรงข้ามของมุมรับประทานอาหารจะเป็นห้องนั่งเล่นครับ เช่นเคยนะครับ ฝ้าด้านบนไม่ดร็อป ไม่มีผ้าม่าน และ Wallpaper ครับ

ข้างๆห้องนั่งเล่นก็จะเป็นบันไดขึ้นสู่ชั้นสอง

ขึ้นมาด้านบนก็จะถูกแยกเป็นสองฝั่งแบบนี้ครับ ซ้ายจะเป็นห้องนอนเล็ก ขวาจะเป็นห้องนอนใหญ่ครับ

พาไปดูห้องนอนเล็กด้านซ้ายก่อนครับ

ในห้องนอนเล็กจะมีห้องน้ำในตัว ใช้อาบได้ครับ ห้องน้ำห้องนี้จะพิเศษหน่อยคือ จะแต่งห้องน้ำเป็นสีโทนสว่างครับ

ประตูในห้องน้ำครับ สงสัยรึเปล่าครับว่านั่นคือประตูอะไร?

แทนแท้นน! ประตูเปิดออกสู่ชั้นสองนั่นเอง แต่ว่าด้านนอกจะไม่มีลูกบิดประตูนะครับ ก็คือเข้าจากทางด้านนี้ไม่ได้ครับ ต้องเข้าทางด้านล่างเท่านั้น

เรื่องวัสดุของห้องน้ำจะไม่พูดมากนะครับ เพราะเหมือนกันหมด แต่ขอถ่ายรูปห้อง Shower ตรงนี้มาให้ดูกันครับ

มีการใช้ลูกเล่นผนังด้วยกระเบื้องเล็กๆสีดำตรงนี้ครับ

ถัดมาเป็นห้องนอนใหญ่ครับ

อันนี้เป็นมุมมองจากบนเตียงนะครับ หากเราหันหน้าตรงๆมองทะลุกระจกออกไป นั่นคือส่วนเพดานที่เชื่อมกับห้องกินข้าวด้านล่างครับ

กระจกห้องนอนใหญ่ วางติดกันตลอดแนวผนังเลยครับ มองเห็นวิวทางด้านทิศเหนือ

ทางเดินไปห้องน้ำก็จะเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ครับ

ห้องน้ำของห้อง Duplex จะไม่ได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้งเหมือนห้อง 1 Bedroom ที่ให้ดูเมื่อสักครู่นะครับ แต่ก็จะมีทั้งอ่างอาบน้ำ และห้อง Shower แยกกันเหมือนกัน

มีการเล่นลวดลายผนังให้น่าสนใจดีครับ

สุดท้ายเป็นภาพของโถงบันไดจากชั้นสองลงสู่ชั้นหนึ่งครับ

เจาะลึกรวบยอด

โครงการนี้ได้เปิดขายไปแล้วที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 7-8 ก.ค. ที่ผ่านมา ขายไปแล้ว 52 ยูนิตครับ ซึ่งแน่นอนว่าห้องแจ่มๆบางส่วนโดนสอยไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามสัดส่วนการถือครองกรรมสิทธิ์ในตึกตามกฎหมายจะเป็นของต่างชาติได้แค่ 49% ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะกลายเป็นตึกสิงคโปร์ไปนะครับ

ทำเลของ The Crest สุขุมวิท 34 จัดว่าดีมาก เพราะติดถนนใหญ่สุขุมวิทและติดซอยสุขุมวิท 34 ที่สามารถทะลุไปเส้นพระราม 4 ได้ จากหน้าตึกวิ่งไปนิดเดียวก็จะมีจุดกลับรถซึ่งสามารถเข้าทองหล่อหรือเอกมัยได้ โดยที่ไม่ต้องอ้อมไกลสำหรับคนที่ใช้รถใช้ถนน และซอยสุขุมวิท 34 สามารถเชื่อมต่อซอยสุขุมวิท 26 ไป K Village และ Nohonmachi ได้

การเดินทางโดยไม่ใช้รถถือว่าดีมากเช่นเดียวกัน เพราะหน้าตึกเดอะเครสต์ สุขุมวิท 34 อยู่ห่างจากทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อประมาณ 200 เมตร หากเทียบกับ Keyne ของแสนสิริก็จัดว่าใกล้เคียงกัน แต่ถ้าเทียบกับ Noble Remix 2 ที่มีทางเชื่อมรถไฟฟ้าต่อเข้าตัวตึกจะเสียเปรียบอยู่พอควร

ส่วนกลางและสาธารณูปโภคจริงๆแล้วก็ยังตัดสินอะไรไม่ได้มากเพราะตึกยังสร้างไม่เสร็จ ส่วนใหญ่แล้วพื้นที่ส่วนกลางของคอนโดระดับ Super Luxury จะต้องไปดูของจริง จึงจะเห็นและเข้าใจในความแกรนด์ของตัวอาคาร ดังนั้นก็ยังไม่สามารถวิจารณ์อะไรได้มาก เพราะความที่ “มีครบ” อย่างเดียวยังไม่เพียงพอต่อคอนโดมิเนียมระดับนี้ครับ มันต้อง “ดูดี” ด้วย

เรื่องของวัสดุอุปกรณ์ต้องยอมรับว่าทาง SC Asset จัดมาเต็ม พื้นชั้นล่างหินอ่อน Verona, พื้นชั้นบนหน้าไม้โอ๊คฟอกสี, เพดานสูง 2.7m, Digital Doorlock, ครัว smeg ท๊อปหินแท้ กระจกบานใหญ่เพิ่มความโปร่ง สวิทซ์ Siemens และสุขภัณฑ์ที่ออกแบบมาสวยงาม ซึ่งที่ดูแล้วอาจจะมีแค่เรื่องเพดานที่น่าจะได้สูงกว่านี้อีกนิด ประมาณ 3 m ส่วนเรื่องอื่นๆถือว่าผ่านในมาตรฐานระดับ Super Luxury

Judgement

Not Judge – Super Luxury Class

BOTTOM LINE

The Crest สุขุมวิท 34 เหมาะสำหรับคนที่ชอบคอนโดมิเนียมย่านทองหล่อ โดยยอมจ่ายในราคาระดับ 160,000+ ต่อตารางเมตร เพื่อการเข้าออกที่สะดวกทั้งถนนสุขุมวิทและถนนพระราม 4 

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ