รีวิวฉบับที่ 659 … สวัสดีครับวันนี้จะพาผู้อ่านทุกท่านมาชมโครงการ Tempo One รามคำแหง-พระรามเก้า จาก Built Land โครงการนี้จะเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร การออกแบบจะมาใน Style สถาปัตยกรรมยุโรป ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 12 แยก 2 ตรงหัวมุมซอยที่ตัดกับ พระราม 9 ซอย 39 สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง และอยู่ติดกับด้านหลังของห้าง The Mall 2 ห่างจากปากซอยประมาณ 350 เมตร
Fact @ 20 August 2014
- Tempo One Ramkhamhaeng-Rama 9 (เทมโป วัน รามคำแหง-พระราม 9)
- บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน)
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางกะปิ
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น 1 อาคาร 139 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 54 คันคิดเป็น 39% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 45%
- ที่ดินประมาณ 1-0-81 ไร่
- 1 Bedroom 24 – 34.4 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.6 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 36.9 – 49.4 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.53 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.6 ล้านบาทหรือประมาณ 66,500 บาทต่อตารางเมตร
- ปีที่ก่อสร้าง : เดือนกันยายน 2557
- ปีที่คาดว่าจะแล้วเสร็จ : เดือนพฤศจิกายน 2558
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
- สำนักงานขาย :02-584-0046-8
- Call Center : 1783#6
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.749862, 100.612330
จากแผนที่โครงการจะเห็นว่าโครงการอยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญในย่านนั้นทั้ง The Mall, The nine พระราม9 และ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ส่วนเรื่องเส้นทางไปยังพื้นที่ต่างๆก็ถือว่าสะดวกสามารถเดินทางเข้าเมือง ไปเอกมัย ทองหล่อ หรือจะออกนอกเมืองไปรามอินทราหรือบางนาก็ได้ แต่ถ้าจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในบริเวณใกล้เคียงโครงการจะมี Airport Link สถานีรามคำแหงอยู่ใกล้สุด ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้มแนวเส้นรามคำแหงก็ยิ่งสะดวกเข้าไปอีกครับ แต่ก็คงต้องรออีกนานนนน….เลย
Tempo One ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 12 แยก 2 ซึ่งมีทางทะลุออกได้หลายเส้นทาง เส้นทางแรกคือเข้ามาจากซอยรามคำแหง 12 ตรงๆเลย ระยะห่างจากปากซอยถึงโครงการประมาณ 350 เมตร หรือถ้าเข้าทางซอยรามคำแหง 8 จะห่างประมาณ 550 เมตร แต่ถ้าใครอยากเลี่ยงรถติดบนเส้นรามคำแหงไปวิ่งเส้นพระรามเก้าสามารถเข้า ซอยพระราม 9 ซอย 39 ได้ระยะห่างประมาณ 600 เมตร
ถนนที่ใช้เป็นเส้นหลักของโครงการนี้ก็มีให้เลือกได้ทั้ง 2 เส้นทางแล้วแต่ว่าลูกบ้านจะใช้งานทางไหนเป็นหลัก ถ้าจะไปทางโซนลาดพร้าวก็ใช้เส้นรามคำแหงได้ แต่ถ้าจะขึ้นทางด่วนหรือไปเส้นสุขุมวิท, พระราม 4 ก็ใช้เส้นพระราม 9 ได้ ถึงแม้การเดินทางจะสะดวกแต่ปัญหาหลักของการจราจรแถวนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องรถติดอย่างหนักในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ถ้าใครที่อยู่แถวนี้มานานก็คงเริ่มชินกันไปแล้วหลัครับ ทางด่วนมีให้เลือกทั้ง 2 เส้นเลยคือ รามอิมทรา-อาจณรงค์ และทางด่วนศรีรัช
รถสาธารณะบนเส้นรามคำแหงนี่มีเยอะอยู่แล้ว ดังนั้นคนที่ไม่ใช้รถก็ไม่ต้องห่วงว่าจะเดินทางลำบาก แถมยังมีวินรถตู้บริเวณหน้ารามอีก นอกจากนี้ยังมีเรือโดยสารคลองแสนแสบไว้คอยบริการ รวมถึงในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้มเพิ่มขึ้นมากอีก จะเห็นได้ว่าจุดเด่นของโครงการนี้หนีไม่พ้นในเรื่องการเดินทางที่แทบจะครบทั้งบนบก ทางน้ำ และใต้ดินด้วยครับ
มาดูเส้นทางของเรือกันหน่อยดีกว่า จากแผนที่เส้นทางเรือโดยสารคลองแสนแสบสายนิด้า ท่าเรือที่ใกล้โครงการคือ ท่าเรือเดอะมอลล์ 3 อยู่ในซอยรามคำแหง 17 จากโครงการระยะทางเดินประมาณ 700 เมตร ใครที่กลัวรถติดก็เลี่ยงมาใช้บริการเค้าได้ครับ แต่ในชั่วโมงเร่งด่วนจะมีผู้โดยสารหนาแน่นหน่อยนะ
การเดินทางในวันนี้ขอเริ่มจากเส้นพระราม 9 ครับ เราจะขึ้นสะพานลอยไปลงเส้นรามคำแหง
เจอป้ายนี้แล้วชิดซ้ายไปรามคำแหง ถ้าตรงไปจะไปศรีนครินทร์ครับ ที่เห็นตึกสูงๆซ้ายมีนั่น The Base พระราม9 จากค่ายพี่แสนครับ
ลงสะพานลอยมาจะเจอ Food Land ทางซ้ายมือครับ
ตรงมาสักพักจะเจอ เดอะมอลล์ 2 ทั้งสองฝั่งเลยครับ ซอยรามคำแหง 12 ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการจะอยู่ข้างหลังเดอะมอลล์ฝั่งขวามือ
ไม่ต้องขึ้นทางยกระดับนะครับ วิ่งข้างล่างมุ่งหน้าไปทางม.รามคำแหง
ตรงมาจะเจอเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ครับ
เลยเมเจอร์มาประมาณ 100 เมตรแล้วชิดขวาเตรียม U-Turn ครับ
ตรง U-Turn รถมาจะตรงกับซอยรามคำแหง 20 เลยไปประมาณ 100 เมตรเตรียมชิดซ้ายไว้
ตรงมาจะเจอ ศุภาลัยซิตี้รีสอร์ททางซ้ายมือ ชิดซ้ายไว้ครับ
ทางเข้าโครงการคือซอยรามคำแหง 12 จุดสังเกตคือจะเป็นซอยข้างเดอะมอลล์ครับ
ตรงเข้ามาในซอยส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ มีทั้งที่เป็นที่อยู่อาศัย และเปิดร้านอาหารชั้นล่าง บางอาคารเป็นเป็นบริษัทเล็กๆครับ ซอยนี้ค่อนข้างพลุกผล่านมีรถเข้าออกตลอด
จากปากซอยเข้ามาประมาณ 300 เมตรจะเจอ Site โครงการ จะอยู่ตรงปากซอยรามคำแหง 12 แยก 2 เส้นสีแดงคือรั้วโครงการครับ มีของขายที่ติดรั้วโครงการด้วยครับ แต่ถ้าโครงการเสร็จน่าจะไม่ให้ขายของบริเวณนี้ ที่ดินนี้แต่เดิมเป็นบ้านเดี่ยว ซอยรามคำแหง 12 ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น ถ้าตรงไปในซอยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวสุดซอยเป็นทางตันนะครับ ส่วนฝั่งซอยรามคำแหง 12 แยก 2 ตรงข้ามโครงการเป็นพื้นที่ของเดอะมอลลล์ซึ่งเป็นลานจอดรถ เลยไปจะเป็นบ้าน 2 ชั้น และหอพัก 4 ชั้น ครับ ซอยนี้สามารถทะลุออกเส้นพระรามเก้าได้เนื่องจากเป็นซอยเชื่อมกับซอย พระรามเก้าซอย 39 ครับ
ด้านหน้าโครงการ(เส้นสีแดงรั้วโครงการ)จะอยู่ตรงข้ามกับด้านหลังของเดอะมอลล์ราม2 โดยมีซอยรามคำแหง 12 แยก 2 ขั้นกลาง ซึ่งถือว่าสะดวกมากสำหรับนักช้อปปิ้ง หรือจะหาของกินในห้างก็ง่าย เพียงแค่เดินข้ามถนนไม่กี่ก้าวครับ
โครงการจะตั้งอยู่ปากซอยรามคำแหง 12 แยก 2 ซึ่งอยู่ด้านหลังเดอะมอลล์ มีเพียงแค่ถนนซอยขั้นกลาง ในบริเวณพื้นที่โครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย หอพัก 4-5 ชั้น(ค่าเช่า 3,000-6,000/เดือน) อาคารพาณิชย์ โดยเปิดร้านชั้นล่างเป็นร้านอาหาร สถาบันเรียนพิเศษ บริษัทเล็กๆ ร้านเสริมสวย เป็นต้น ภายในซอยรามคำแหง 12 มีความคึกคักพอตัว มีร้านอาหารเล็กๆที่ฝากท้องได้ตั้งแต่เช้าจนค่ำ หรืออยากจะนั่งเย็นๆ และช็อปปิ้งไปด้วยก็แค่ข้ามถนนหน้าโครงการเดินเข้าเดอะมอลล์ก็สะดวกครับ
มาดูเรื่องวิวรอบๆโครงการกันบ้าง โดยทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดกับอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น ใครที่ไม่อยากมีตึกบังในระบะประชิดควรเลือกตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปจะได้มองวิวไกลออกไปอีกหน่อยแต่อาจจะติดตัวอาคารในซอยถัดไป ทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกับคอนโด 5 ชั้น เลือกชั้น 6 ขึ้นไปเช่นกันครับ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดกับบ้าน 2 ชั้น เลือกชั้น 3 หรือ 4 ขึ้นไปก็โอเค ทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะติดกับบ้าน 2 ชั้น และพื้นที่จอดรถของเดอะมอลล์ ระยะประมาณ 200 เมตรจะเห็นตัวอาคารเดอะมอลล์ เลือกชั้น 3 ขึ้นไปครับ ส่วนสำนักงานขายไม่ได้อยู่ที่ Site แต่เช่าพื้นที่ของเดอะมอลล์อยู่ จะตั้งอยู่บริเวณทางรถเข้าที่จอดรถครับ เดี๋ยวเราไปดูพื้นที่รอบๆของจริงกันดีกว่า
ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ หรือฝั่งที่ติดกับซอยรามคำแหง 12 แยก 4 ติดกับคอนโด 5 ชั้น ต้วบ้านทางขวามือจะโดนรื้อออก พื้นที่ยังมีด้านหลังตัวบ้านอีกครับ ส่วนต้นไม้ที่เห็นใหญ่ๆกลางรูปทางโครงการเก็บไว้ ทางโครงการกำลังจะปรับสภาพที่ดินแต่ตอนนี้จะรกๆหน่อย ถ้าสนใจห้องฝั่งนี้เลือกชั้น 6 ขึ้นไปกำลังดีครับ
ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือฝั่งซอยรามคำแหง 12 จะติดกับอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น เลือกชั้น 6 ขึ้นไปจะได้ไม่โดน Block วิวระยะใกล้ส่วนต้นไม้ที่เห็นต้นใหญ่ๆทางโครงการจะเก็บไว้ ซึ่งน่าจะช่วยบังวิวจากฝั่งตรงข้ามได้ส่วนหนึ่งครับ
ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ฝั่งนี้เป็นด้านหน้าโครงการ ติดกับซอยรามคำแหง 12 แยก 2 ทางเข้าจะอยู่ฝั่งนี้ครับ วิวฝั่งนี้ในระยะประชิดไม่มีตึกสูงบัง หน้าโครงการฝั่งตรงข้ามเป็นทางเข้าออกและลานจอดรถของเดอะมอลล์ครับ ซ้ายมือเป็นบ้าน 2 ชั้น ถัดจากบ้านเป็นหอพัก 4 ชั้น
ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ติดกับบ้าน 2 ชั้น สุดพื้นที่โครงการคือรั้วสีเขียวนั่น มีต้นไม้ปกคลุมพอประมาณ เลือกชั้น 3 หรือ 4 ขึ้นไปกำลังดีครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- เดอะมอลล์รามคำแหง2 ระยะทางประมาณ 3 เมตร
- เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ระยะทางประมาณ 550 เมตร
- ท่าเรือเดอะมอลล์ 3 ระยะทางประมาณ 700 เมตร
- Big C ระยะทางประมาณ 800 เมตร
- เมเจอร์ฮอลลีวูด ระยะทางประมาณ 1.1 เมตร
- มหาวิทยาลัยรามคำแหง ระยะทางประมาณ 850 เมตร
- The Nine ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร
- Airport Link สถานีรามคำแหง ระยะทางประมาณ 1.9 กิโลเมตร
- สนามบินสุวรรณภูมิ ระยะทางประมาณ 20.8 กิโลเมตร
รูปภาพจำลองบรรยากาศของโครงการ ด้านนี้จะเป็นด้านข้างโครงการฝั่งซอยรามคำแหง 12 ด้านหน้าโครงการจะอยู่ฝั่งซอยรามคำแหง 12 แยก 2 จะอยู่ตรงข้ามกับลานจอดรถของเดอะมอลล์(มุมขวาบนในรูป) จากรูปตัวโครงการออกแบบเป็นรูปตัว L ลูกบ้านจะมองไม่เห็นกันเอง สวนอยู่ชั้น 1 สระว่ายน้ำและฟิสเนตอยู่ชั้น 2 ครับ ซึ่งอยู่ฝั่งที่ติดกับอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น ความเป็นส่วนตัวจะเสียไปหน่อย น่าจะยกขึ้นไปชั้นบนสุดเลยนะ
รูปด้านหน้าโครงการอยู่ตรงซอยรามคำแหง 12 แยก 2 ครับ
รูปสวนสไตล์ Modren English อยู่ชั้น 1 หน้าตาจะออกมาตามรูปรึป่าวต้องรอดูโครงการเสร็จ
รูป Lobby ของโครงการในสไตล์ Modren English เพดานสูงดูโอ่โถง บานกระกระจกจากพื้นถึงฝ้า ของจริงขอให้ออกมาหน้าตาแบบนี้ครับ
สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 4.5 x 10.4 เมตร ลึก 1.2 เมตร พร้อมฟิสเนตด้านซ้ายมืออยู่ชั้น 2 แต่พื้นจะลดระดับต่ำกว่าพื้นของชั้น 2 การเข้าใช้บริการส่วนกลางของลูกบ้านต้องลงมาชั้น 1 แล้วเดินขึ้นบันไดมาใช้บริการ เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้านชั้น 2 ครับ ส่วนกลางโครงการนี้จะเสียความเป็นส่วนตัวไปครับเพราะมีอาคารพาณิชย์ 5 ชั้นอยู่ข้างๆ และคอดโด 5 ชั้น ฝั่งซอยรามคำแหง 12 แยก 4 Block วิวไว้และสามารมองมายังสระไว้น้ำในโครงการได้ ซึ่งถ้ายกขึ้นไปไว้ชั้นบนสุดจะดีมากครับอย่างน้อยวิวระยะประชิดก็จะโล่งขึ้น เพื่มอารมณ์ผ่อนคลายให้ลูกบ้านได้มากขึ้น ส่วนเรื่องความเป็นส่วนตัวสำหรับยูนิตที่ติดกับสระว่ายน้ำก็ต้องรอดูของจริงว่าทางโครงการจะมีปลูกต้นไม้หรือทำอะไรมากั้นให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นรึเปล่า
รูปแปลนชั้น 1 ทางเข้าโครงการอยู่ฝั่งซฮยรามคำแหง 12 แยก 2 เมื่อเข้าโครงการจะผ่านป้อมยามก่อน ถนนจะเป็น One way ขับเข้าที่จอดรถโดยบังคับให้ขับลงชั้นใต้ดิน แล้ววนขึ้น ซึ่งทางโครงการบอกว่าการทำแบบนี้ทำให้ได้พื้นที่จอดรถเพิ่มขึ้นอีกหน่อยแต่ก็แลกกับการวิ่งวนไกลขึ้นครับ ช่องจอดรถทั้งหมด 54 คัน คิดเป็น 39% รวมจอดซ้อนคันประมาณ 45% ถ้าเทียบกับโครงการ Low Rise อื่นๆแล้วก็ถือว่ากลางๆไม่เยอะแต่ก็ดีกว่าโครงการที่รวมซ้อนคันแล้วได้ไม่เกิน 40% ส่วน Lobby ก็อยู่ชั้นนี้ทางฝั่งทิศตะวันตก หรือฝั่งซอยรามคำแหง 12 แยก 2
รูปแปลนชั้น 2 ยูนิตพักอาศัยเริ่มที่ชั้นนี้ มีทั้งหมด 19 ยูนิต วิวชั้นนี้ยกเว้น 3 ห้องที่ติดสระว่ายน้ำ จะโดน Block วิวในระยะประชิดเกือบหมดครับ ถ้าใครที่รู้ตัวว่าไม่ค่อยเปิดม่านเท่าไหร่ก็เลือกยูนิตในชั้นล่างๆได้ครับ ราคาก็จะถูกกว่าชั้นบนๆ ส่วนที่เห็นเป็นช่องสีขาวมุมตึกทางทิศเหนือเป็นส่วนของโถง Lobby จากชั้น 1 ลิฟท์ทั้งโครงการมี 2 ตัว บันไดหนีไฟมีให้ทั้งสองฝั่ง จะเห็นว่าจากชั้น 2 ไม่สามารเข้ามาใช้บริการส่วนกลางได้ต้องลงไปชั้น 1 แล้วเดินขึ้นบันไดมาเท่านั้น ตัวระดับพื้นส่วนกลางก็ต่ำกว่ายูนิตพักอาศัยชั้น 2 ส่วน Garden ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้หักพักรอบด้านได้มากขึ้น
รูปแปลนชั้น 3 ถึง 8 เหมือนกันครับต่างจากชั้น 2 คือตรงมุมตึกทางทิศเหนือเป็นโถง Lobby เปลี่ยนเป็นยูนิต 2 ห้องนอนเพิ่มขึ้นมา 1 ห้อง และตำแหน่งของ 2 ห้องนอนจะอยู่ที่มุมตึกและมีชั้นละ 3 ห้องเท่านั่นครับจะมีทั้งหมด 20 ยูนิต จากห้องสุดท้ายของอาคารจะมีระยะเดินถึงลิฟท์ประมาณ 20 เมตร นอกนั้นจะเป็น 1 Bedroom หมดเลย
ห้องฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือฝั่งซอยรามคำแหง 12 แนะนำให้เลือกชั้น 6 ขึ้นไปครับ เพราะมีอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น Block วิวอยู่ ฝั่งทิศตะวันออก หรือที่หันมาทางซอยรามคำแหง 12 แยก 4 ก็เช่นกันครับ เลือกชั้น 6 ขึ้นไป เพราะมีคอนโด 5 ชั้น Block วิวอยู่ ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศใต้เลือกชั้น 3-4 ขึ้นไปก็โอเคครับ ระยะประชิดมีแค่บ้าน 2 ชั้น ส่วนฝั่งทิศตะวันตกที่เป็นด้านหน้าโครงการติดกับซอยรามคำแหง 12 แยก 2 จะเห็นเดอะมอลล์ และอาคารพาณิชย์ในระยะไกลประมาณ 100 เมตร ส่วนระยะใกล้มีบ้าน 2 ชั้น
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 4.5 x 10.4 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
- สวนสไตล์ Modren English ชั้น 1
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 69 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 54 คันคิดเป็น 39% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 45%
- ระบบ CCTV / Access Card
โครงการนี้มี Type ห้องทั้งหมด 14 แบบ แต่ละแบบมีขนาดแต่งต่างนิดหน่อยกันเนื่องจากรูปร่างของที่ดินกับโครงสร้างของตัวอาคาร ซึ่งจะแบ่งเป็นแบบ 1Bedroom มี 11 แบบ และ 2Bedroom มี 3 แบบ ผมขอยกตัวอย่างมาให้ดูซัก 3 แบบเพราะการจัดวางฟังก์ชั่นไม่ได้ต่างกันมากครับ
ห้องนี้เป็น Type เล็กสุดของโครงการเดินเข้าห้องมาเจอส่วนของห้องนั่งเล่น เชื่อมกับห้องนอนโดยได้ประตูกระจกเลื่อนแบบสามบานที่ทางโครงการให้ ตรงส่วนครัวไม่มีประตูให้เวลาทางอาหารจะมีกลิ่นรบกวน แนะนำให้ติดประตูเพิ่มครับ พื้นที่ส่วนครัวไม่ใหญ่มาก เนื่องจากรูปแบบของตัวอาคาร ต้องแบ่งพื้นที่ให้ห้องน้ำ และระเบียงด้วยพื้นที่ครัวเลยจำกัด ส่วนขอรูปร่างห้องที่เฉียงทำให้ต้องระวังเรื่องการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ บางมุมอาจทำได้ยากหน่อยควรวัดระยะก่อนซื้อด้วยครับ 
Type N เป็นห้องใหญ่สุดของโครงการนี้ครับ เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอครัวเลย ซึ่งเป็นครัวแบบเปิดเชื่อมกับห้องนั่งเล่น ห้องนี้จากแปลนจะกั้นครัวไม่ได้ครับ ถึงแม้ถ้ากั้นได้ก็ไม่มีช่องให้ระบายอากาศเพราะทางโครงการไม่มีเครื่องดูดควันให้ ถ้าจะระบายอากาศก็ต้องออกระเบียงอย่างเดียว ก็ถือว่าอยู่ไกลจากครัวครับ ห้องน้ำมี 1 ห้องอยู่ซ้ายมือจากประตูทางเข้า กว้างพอสมควรครับ ห้องนอนใหญ่การวางเตียงของแปลนที่เห็นจะเอาเตียงชิดริมหน้าต่างเลยก็ได้ครับเนื่องจากเหลือพื้นที่หัวเตียงซึ่งทำอะไรไม่ได้ ผลจากเสาของตัวอาคาร ถ้าดันเตียงเข้าชิดมุมจะได้พื้นที่บริเวณหน้าตู้เพิ่ม ห้องนอนเล็กพื้นที่หัวเตียงเหลือเหมือนกันซึ่งติดเสาของตัวอาคารแก้ไขโดยการทำตู้หัวเตียงเพิ่มก็ได้ครับ
ห้องตัวอย่างที่มีให้ดูจะเป็นขนาด 25 ตร.ม.ซึ่งเป็นขนาดของห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุด(แต่ละห้องอาจมีขนาดแตกต่างกันนิดหน่อย) เปิดประตูเข้ามาเจอส่วนห้องนั่งเล่นเชื่อมกับห้องนอนครับ มีกระจกบานเลื่อนแบบสามบานให้ ส่วนครัวแยกมาให้แต่ไม่มีประตูกั้นให้แนะนำให้ติดเป็นบานเลื่อนเพิ่ม ครัวจะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องน้ำกับระเบียงห้อง ห้องจะมีลักษณะหน้ากว้างทำให้ได้ระยะดูทีวีเพิ่มขึ้น ทำครัวได้สะดวกขึ้น ระเบียงมีพื้นที่ยาวขึ้น แต่จะเสียความลึกไปจากแปลนพื้นที่ข้างเตียงจะเหลือน้อยลง เมื่อเทียบกับแปลนห้องด้านบนแล้วห้องนี้ออกแบบลงตัวกว่า ไปดูของจริงกันดีกว่าครับ
ทางโครงการไม่ได้ติดประตูห้องให้ดูนะครับ เดินเข้าไปส่วนแรกที่เจอคือห้องนั่งเล่น จะเชื่อมกับห้องนอน ซ้ายมือที่ติดกับชั้นวางทีวีเป็นทางเข้าห้องครัวและห้องน้ำครับ พื้นที่ได้เป็นพื้นไม้ลามิเนต ที่นี่ขายแบบ Fully Furnished ครับ
เดินเข้าประตูมาขวามือวางโซฟาและโต๊ะกลางครับ โครงการให้ทั้ง 2 อย่างเลยครับ พื้นที่รอบๆ เหลือไม่มากทำให้ไม่สามารถวางโต๊ะทำงานลงไปได้ อาจจะต้องไปใช้งานโต๊ะกินข้าวแทนหรือจะเปลี่ยนโต๊ะกลางเป็นแบบปรับความสูงก็ได้ ถ้าใครชอบโซฟาแบบตัวแอลก็ยังวางได้แต่้องวางชิดผนังและยอมเสียพื้นที่ด้านข้างไป ผนังที่ได้ของจริงจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีทั้งห้องไม่ได้เป็น Built-in แบบนี้นะครับ
จากประตูซ้ายมือเป็นชั้นวางทีวี ได้ชั้นแบบนี้ครับ ระยะดูทีวีประมาณ 2.7 เมตรกำลังดี
ชั้นวางทีวีมีลิ้นชัก 2 ฝั่งครับ
ส่วนของห้องนอนทางโครงการให้กระจกบานเลื่อน 3 บานจากพื้นถึงฝ้า เพิ่มความเป็นส่วนตัวเวลาแขกมาเยี่ยมที่ห้อง แนะนำให้ติดม่านเพิ่มครับ
เปิดบานเลื่อนจะได้แบบนี้ ในห้องนอนได้ไฟดาวน์ไลท์แบบวงกลม 2 ดวงครับ
โครงการให้เตียงขนาด 5 ฟุต ไม่รวมฟูกและหมอน โต๊ะข้างเตียงก็ได้ครับ พื้นที่บริเวณปลายเตียงประมาณ 60 cm
พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่าง เหลือประมาณ 20 cm เหลือไว้ให้ม่านหย่อนลงไปได้เท่านั้นครับ เวลาจะลงจากเตียงให้ใช้ปลายเตียงง่ายกว่า
หน้าต่างในห้องนอนเป็นบานเลื่อน เลื่อนได้ฝั่งขวาฝั่งเดียวครับ นอกนั้นเป็นบานติดตาย ของจริงไม่มีซ้อนรางม่านให้ถ้าทำฝ้าจะ Drop ลงมาอีกหน่อย (ผ้าม่านไม่ได้ให้)
ตู้เสื้อผ้าอยู่ปลายเตียงติดกับหน้าต่าง เป็นบานเลื่อนเปิดได้ 2 ฝั่ง มีช่องว่างของด้านบนตู้ให้ด้วยครับ
ติดกับตู้ของจริงจะเป็นผนังเปล่ามีปลั๊กปลายเตียง ห้องแบบนี้จะแถมแอร์ให้ 1 เครื่องซึ่งจะติดตั้งอยู่ตรงทางเข้าห้อง ถ้าจะเปิดให้ความเย็นออกไปตรงส่วนห้องนั่งเล่นอาจต้องใช้เวลานิดนึงครับ เพราะจะโดนบล็อคจากฉากกั้นตรงหัวเตียง แนะนำให้ติดเพิ่มอีกตัวจะดีกว่าเลือก BTU ให้เหมาะกับพื้นที่จะประหยัดไฟในระยะยาวได้ดีกว่า
ไปดูห้องครัวกันบ้าง ไม่มีประตูมาให้นะต้องติดเพิ่มเองแนะนำเป็นบานเลื่อนเพื่อประหยัดพื้นที่แบะได้เป็นครัวปิดด้วยครับ เดินเข้าไปซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ขวามือเป็นโต๊ะกินข้าว ในส่วนครัวก็ให้พื้นไม้ลามิเนตเวลาทำอาหารหรือทำความสะอาดต้องระวังเรื่องความชื้นด้วยครับ
เคาน์เตอร์ครัวหน้าตาแบบนี้ ไม่มีเตาและเครื่องดูดควันให้ ครัวเป็นครัวปิดสามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อระบายอากาศได้ มีพื้นที่ใต้เคาน์เตอร์เพื่อให้เท้ายื่นเข้าไปได้ ทำให้สะดวกเวลายืนทำอาหาร ของจริงไมโครเวฟ และอุปกรณ์ตกแต่งไม่รวมครับ
Sink ล้างจานแบบไม่มีที่พักจานของ Hafele ท๊อปเคาน์เตอร์ได้เป็นปาติเกิ้ลปิดผิวด้วยเมลามีนสำหรับครัว
ติดกับเคาน์เตอร์ครัว มีพื้นที่วางตู้เย็น ทางโครงการวางตู้เย็นขนาด 7.9 คิวให้ดูของจริงไม่ได้แถมให้ครับ
ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัววางโต๊ะอาหารให้ขนาด 2 คน แต่งมาให้ดูหรูดีนะครับ ของจริงได้ชุดนี้แต่ขาโต๊ะจะเป็นอีกแบบเพื่อให้เก้าอี้สามารถเลื่อนเก็บได้ ไฟ Chandelier และอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารไม่รวมนะ
พื้นที่บริเวณทางเข้าห้องครัว เมื่อเลื่อนเก้าอี้ออกนั่งรับประทานอาหาร ยังเหลือระยะให้พอเดินได้ครับ
ไปดูห้องน้ำกันบ้างครับซ้ายมือจะเป็นส่วนเปียก ขวามือเป็นชักโครก
ชุดอ่างล้างหน้าของ Victor หน้าตาธรรมดาแต่ขนาดใหญ่กำลังดี ให้มาพร้อมกระจกตามที่เห็นครับ
ชุดชักโครกพร้อมสายชำระของ Victor เช่นกัน พื้นที่รอบข้างยังเหลือพอประมาณเวลาใช้งานไม่อึดอัดครับ
ส่วนเปียกอยู่ฝั่งซ้ายมือของอ่างล้างหน้า ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้นะครับ แนะนำให้ติดเพิ่มเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ส่วนผนังในห้องน้ำเป็นกระเบื้องตั้งแต่พื้นถึงฝ้าทำความสะอาดง่ายเช่นกันครับ
หน้าตาฝักบัวแบบวงกลมทั่วไป มีที่วางสบู่มาให้ ย้ำว่าวางสบู่อย่างเดียว ส่วนยาสระผมหรืออุปกรณ์ในการอาบน้ำอาจจะต้องติดชั้นวางเพิ่ม
พื้นที่ส่วนเปียกประมาณ 0.70 x 1.35 เมตร ยืนอาบได้สบายๆครับ พื้นในห้องน้ำเป็นกระเบื้องผิวด้าน
ธรณีสูงจากพื้นพอสมควรและวัสดุเป็นหินแกรนิต เวลาใช้งานและทำความสะอาดไม่ต้องกลัวความชื้นและน้ำเลอะออกไปนอกห้อง
ออกไปดูส่วนระเบียง ได้ประตูบานเลื่อนกรอบสีอลูมิเนียม เลื่อนฝั่งขวาได้ฝั่งเดียว
พื้นที่ส่วนระเบียงประมาณ 1.05 x 1.65 เมตร วางเครื่องซักผ้าแล้วเหลือพื้นที่ให้ยืนชมวิวพอสมควร แนะนำให้ใช้ราวตากผ้าติดผนังแบบพับได้เพื่อประหยัดพื้นที่ครับ
ทางโครงการวางเครื่องซักผ้าขนาด 7 kg ให้ดูของจริงไม่ได้แถมให้ มีปลั๊กพร้อมฝาครอบให้ ท่อน้ำดีและท่อน้ำเสียก็มีให้ครับ
คอมเพลสเซอร์แอร์แขวนหันเข้าระเบียง แนะนำให้ติดแผงเปลี่ยนทิศทางลมเพื่อระบายความร้อนออกด้านนอกระเบียงครับ ไฟตรงระเบียงเป็นดาวน์ไลท์ 1 ดวง
ชุดปลั๊กไฟและสวิทซ์ไฟของ Bticino ทั้งหมดครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 20 August 2014
- 1Bedroom ชั้น 2 ห้อง Type D เนื้อที่ 24.09 ตร.ม. ราคา 1.6 ล้านบาท หรือ 66,400 บาท/ตร.ม.
- 1Bedroom ชั้น 8 ห้อง Type D เนื้อที่ 24.09 ตร.ม. ราคา 1.69 ล้านบาท หรือ 70,200 บาท/ตร.ม.
- 1Bedroom ชั้น 6 ห้อง Type B เนื้อที่ 25.42 ตร.ม. ราคา 1.77 ล้านบาท หรือ 69,600 บาท/ตร.ม.
- 1Bedroom ชั้น 5 ห้อง Type H เนื้อที่ 30.35 ตร.ม. ราคา 2.1 ล้านบาท หรือ 69,200 บาท/ตร.ม.
- 1Bedroom ชั้น 4 ห้อง Type G เนื้อที่ 36.99 ตร.ม. ราคา 2.53 ล้านบาท หรือ 68,400 บาท/ตร.ม.
- 1Bedroom ชั้น 8 ห้อง Type N เนื้อที่ 41.51 ตร.ม. ราคา 2.94 ล้านบาท หรือ 70,800 บาท/ตร.ม.
- Fully Furnished
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- Kitchen & Sink
- จอง 20,000 บาท
- ทำสัญญา 50,000 บาท
- ดาวน์ 12% ผ่อนดาวน์ 13 งวด (งวดปกติ 10 งวด งวดพิเศษ 3 งวด)
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 55 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเลโครงการ Tempo One ถือว่ามีจุดเด่นในเรื่องของการเดินทางเนื่องจากถนนเส้นสำสัญที่ใกล้โครงการคือถนนรามคำแหง เป็นเส้นที่สามารถเดินทางไปได้หลายเส้นทางตั้งแต่ พระราม9 ที่สามารถทะลุออกเส้นเพชรบุรี จะไปเอกมัย ทองหล่อ หรือออกเส้นสุขุมวิท, ลาดพร้าว, ศรีนครินทร์, พัฒนาการ ซึ่งเส้นที่กล่าวมาทั้งหมดจะมีปัญหาเรื่องเดียวคือการจราจรที่หนาแน่น นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้กับทางด่วงรามอินทรา-อาจณรงค์ และทางด่วนศรีรัช ดั้งนั้นการเดินทางโดยรถยนต์ถือว่าสะดวกมาก แต่ที่จอดรถของโครงการรวมจอดซ้อนคันมี 45% จากจุดเด่นของทำเลที่เดินทางด้วยรถสะดวกแล้วในอนาคตอาจจะมีปัญหาเรื่องที่จอดรถนะครับ
ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยที่เป็นย่านพักอาศัยทั้งบ้านเดี่ยว และหอพักรวมถึงอาคารพาณิชย์ ซึ่งในซอยรามคำแหง 12 ถือว่ามีความคึกคักพอสมควร อาหารการกินก็มีให้ฝากท้องได้เพราะมีร้านอาหารอยู่ทั้งในซอยและปากซอยพระราม9 ซอย39 ก็มีร้านไก่ย่างชื่อดังอยู่ นอกจากนี้ยังเดินเข้าเดอะมอลล์ 2 จากด้านหลังห้างได้ด้วย หรือจะออกไปเส้นรามคำแหงช่วงหน้าม.รามตำแหงก็มีให้เลือกอีกอื้อเลย แถมมีของให้เลือกช้อปปิ้งด้วยครับ รวมถึงเส้นหลังรามแถว ม.อัสสัมชัญ เส้นนี้ของกินก็เยอะ อยู่แถวนี้ไม่ต้องกลัวอดครับ ของอร่อยเพียบบบบ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถของโครงการเดินออกมาหน้าปากซอยรามคำแหง 12 ป้ายรถเมล์อยู่หน้าเดอะมอลล์เลย รถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย และมีรถตู้โดยสารที่มีให้บริการช่วงหน้าม.รามคำแหงอีกหลายวินเช่นกัน ถ้าเบื่อปัญหารถติดก็มีตัวเลือกอีก 2 ทางก็คือเดินทางด้วยรถไฟฟ้าและเรือ ใครจะใช้บริการ Airport Link ก็นั่งรถโดยสารมาลงสถานีรามคำแหงจะช่วยให้เข้าเมืองได้สะดวกขึ้น หรือถ้าจะนั่งเรือแค่เดินข้ามฝั่งแล้วเดินเข้าซอยรามคำแหง 17 จะมีท่าเรือโดยสารคลองแสนแสบสายนิด้าให้บริการ ซึ่งท่าเรือที่ใกล้โครงการเป็นท่าเรือเดอะมอลล์3 เส้นทางนี้ไปโซนอโศกจะสะดวกกว่า นอกจากนี้ในอนาคตมีแผนเปิดให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้มภายในปี 2562 แต่ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะใช่เวลากี่ปี ส่วนสถานีที่ใกล้โครงการคือ รามคำแหง 12 ครับ
วัสดุที่ให้มาคือให้มามาตรฐานอยู่ในระดับกลางๆ พื้นลามิเนท โคมไฟดาวน์ไลท์ผังฝ้า ผนังฉาบปูนเรียบทาสี ชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลางของ Index ชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้าขนาดไม่ใหญ่มาก ชุดโต๊ะกินข้าวแบบ 2 คน ชุดครัวไม่มีเตาและเครื่องดูดควันให้ ที่มีให้คือ Sink ล้างจานเป็นของ Hafele ห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ของ Victor หน้าตาธรรมดาทั่วไป ที่วางสบู่ในห้องน้ำน่าจะออกแบบให้เป็นช่องว่างมาเลยจะดีกว่าครับเพราะที่ให้มาวางอุปกรณ์ในการใช้งานจริงไม่พอแน่ๆ อีกอย่างแปลนบางห้องที่ออกแบบมาส่วนครัวไม่ได้อยู่ติดระเบียงดังนั้นจะส่งผลต่อเรื่องการระบายอากาศเวลาทำอาหาร
ห้องตัวอย่างตกแต่งมาได้สวยครับ การออกแบบห้องของ Type นี้ถือว่าแบ่งได้ลงตัวใช้งานได้จริงเกือบทุกพื้นที่ในห้องซึ่งห้องตัวอย่างขนาดประมาณ 25.42 ตารางเมตรแต่การวางผังห้องดูแล้วไม่อึดอัด แบ่งเป็นสัดส่วน ห้องน้ำก็ไม่เล็กจนเกินไป แต่บริเวณห้องครัวจะแน่นไปหน่อย เพราะแบ่งพื้นที่ให้ห้องน้ำกับระเบียงไป และยังต้องวางโต๊ะกินข้าวอีกพื้นที่ในห้องครัวเลยเหลือไม่มาก แต่ภาพรวมถือว่าโอเค ข้อเสียคือไม่สามารถวางโต๊ะทำงาน และพื้นที่ในห้องนอนเล็กไปหน่อย ส่วนแบบ 2Bedroom ห้องขนาดใหญ่สุดของโครงการที่ยกตัวอย่างแปลนมาให้ดู จะเหมาพกับคนที่ไม่เน้นทำครัวหนัก เพราะได้ครัวแบบเปิดและการกั้นห้องก็ทำได้ยากสักหน่อยเพราะเหลี่ยมมุมไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่ ส่วนห้องน้ำจะได้มา 1 ห้องและเข้าออกได้ทางเดียวซึ่งต้องเดินผ่านครัวและห้องนั่งเล่นอาจไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวสักเท่าไหร่
Facility ของโครงการ จัดมาให้พื้นฐานที่ควรจะมีทั้งสวน ชั้น 1 ฟิสเนต และสระว่ายน้ำ พื้นที่ของส่วนกลางจะลดระดับให้ต่ำกว่าพื้นยูนิตอยู่อาศัย เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านที่อยู่ชั้น 2 ครับ การวางสระว่ายน้ำไว้ชั้นนี้อาจไม่ค่อยเป็นส่วนตัวสำหรับลูกบ้านเท่าไหร่ เพราะรอบสระว่ายน้ำมีอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น อีกฝั่งเป็นคอนโด 5 ชั้น Block วิวดังนั้นเวลาใช้บริการคนที่อาศัยอยู่ทั้งสองตึกมองมาเห็นแน่นอนครับ ถ้ายกขึ้นไปไว้ชั้นบนสุดจะโอเคกว่านี้ แต่ลูกบ้านก็ต้องแลกกับราคาก่อสร้างที่สูงขึ้นเช่นกัน ส่วนสวนชั้น 1 และล็อบบี้ฝ้าสูงดูโอ่โถงดีตามในรูปซึ่งเป็นสไตล์ Modern English จะออกมาตามในรูปรึป่าวต้องรอโครงการเสร็จครับ ความหนาแน่นของโครงการนี้ถือว่าอยู่ในระดับกำลังดีอัตราส่วนลิฟท์อยู่ที่ 69:1 มาแบบหลวมๆไม่แน่นมาก
Tempo One รามคำแหง-พระรามเก้า เหมาะกับการใช้รถ และไม่ใช้รถซึ่งเป็นจุดเด่นของทำเลนี้ อีกทั้งความอุดมสมบูรณ์หาอาหารทานได้สะดวกทั้งในซอยโครงการเอง หรือจะออกมาเส้นหน้าและหลังรามคำแหง มีร้านอร่อยหลายร้านเลยครับ เลือกของกินได้เยอะไม่เบื่อเลย แหล่งช็อปปิ้งบนเส้นรามคำแหงก็มีหลากหลายแนวให้เลือกเช่นกัน ข้ามซอยหน้าโครงการเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึง The Mall โดยรวมถือเป็น 1 ในตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการอยู่แถวๆนี้แต่ไม่จำเป็นต้องอยู่โครงการที่ติดถนนใหญ่ ราคาก็หยิบจับได้ง่ายขึ้น แถมได้การเดินทางด้วยรถยนต์ที่สะดวกขึ้น
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 66,500 บาทต่อตารางเมตร, 20 August 2014
- ทำเล 7.5/10 – จัดว่าดีครับเดินทางสะดวกหาของกินง่าย
- เดินทางด้วยรถ 8.0/10 -จากโครงการจะเข้าในเมืองหรือออกนอกเมืองก็ไปได้หลายเส้นทาง แต่ปัญหาคือการจราจรหน่าแน่น
- ไม่ใช้รถ 8/10 – ไม่มีรถส่วนตัวใช้ก็อยู่ที่นี่ได้สบายครับมีทั้ง รถเมล์ รถตู้ Airport Link หรือจะเป็นเรือโดยสาร
- วัสดุ 7.25/10 – ให้มาพอสมควร
- แบบ 7.25/10 – ห้องตัวอย่างออกแบบมาลงตัวใช้งานได้จริงเกือบทั้งพื้นที่ของห้องเลย แต่บางห้องออกแบบยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีให้ตามมาตรฐานทั่วไปทั้ง สวนชั้น 1 ฟิสเนต และสระว่ายน้ำชั้น 2 ความหนาแน่นต่ำ
- ECONOMY CLASS
- 7.58 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ Tempo One รามคำแหง-พระรามเก้า คอนโค Low Rise เหมาะกับคนที่อยากมีที่อยู่อาศัยแถวย่านรามคำแหง ไม่ชอบโครงการใหญ่ๆ คนเยอะๆ เน้นความหนาแน่นต่ำ เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก แต่ไม่กลัวรถติด หรือสะดวกเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางบก-ทางน้ำ มีงบประมาณ 1.6 – 3 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือน 11,000 – 24,000 บาท
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ
