รีวิวโครงการ
คิดเรื่องอยู่ Ep.617 : ศุภาลัย ไลท์ ท่าพระ – วงเวียนใหญ่
27 มีนาคม 2022
รีวิวฉบับที่ 1949 … Supalai Lite ท่าพระ วงเวียนใหญ่ เป็นคอนโด High Rise ที่เปิดตัวรับการมาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย โดยโครงการจะห่างจากสถานีท่าพระประมาณ 570 เมตร โครงการนี้ออกแบบในสไตล์ Modern Colonial ห้องพักมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ Studio – 3 ห้องนอน พร้อมระบบ Home Automation ในราคาเริ่มต้น 1.98 ล้านบาท เราไปชมกันค่ะ
Fact @ 25 September 2019
- Supalai Lite Thaphra-Wongwian Yai (ศุภาลัย ไลท์ ท่าพระ – วงเวียนใหญ่)
- บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : ถนน เพชรเกษม เขต บางกอกใหญ่
- ที่ดินประมาณ 2-2-42.1 ไร่
- คอนโด High Rise 22 ชั้น (รวมดาดฟ้า) 1 อาคาร จำนวน 421 ยูนิต (ห้องพักอาศัย 419 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต)
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 30 ยูนิตที่ชั้น 6-8
- ที่จอดรถประมาณ 50% (ไม่รวมซ้อนคัน)
- เริ่มก่อสร้าง : ปี 2562
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปี 2565
- Studio ขนาด 28.0 – 28.5 ตร.ม.
- 1 Bedroom ขนาด 34.0 – 35.0 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาด 43.0 – 47.0 ตร.ม.
- 2 Bedrooms ขนาด 52.0 – 63.5 ตร.ม.
- 3 Bedrooms ขนาด 99.5 ตร.ม
- ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 1.98 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 74,600 บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1720
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด Google Maps : 13.728131, 100.480287
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
Supalai Lite ท่าพระ วงเวียนใหญ่ ทำเลตั้งอยู่ฝั่งธนฯ บนถนนเพชรเกษมฝั่งขาออกไปยังบางแค ห่างจากแยกท่าพระ ประมาณ 650 ม. สภาพแวดล้อมบริเวณนี้เป็นเสมือนจุดต่อของแถบย่านวงเวียนใหญ่และย่านจรัญสนิทวงศ์ที่มีความหนาแน่นของชุมชนสูงและมีความอุดมสมบูรณ์สูงเช่นเดียวกัน เมื่อเป็นจุดต่อแบบนี้จึงมีความอุดมสมบูรณ์เบาบางกว่าหน่อย โดยส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบที่อยู่กันมานาน และมีคอนโด High Rise มาเกาะติดถนนบ้าง แต่ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงต่อขยายสร้างเสร็จแล้ว เชื่อว่าในแถบนี้ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัยและความอุดมสมบูรณ์
ในส่วนของการเดินทางด้วยรถยนต์นั้น ถือว่ามีความสะดวกเพราะตัวโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นถนนหลักสายใหญ่ที่เชื่อมต่อและมีถนนอีกหลายสายตัดผ่าน และอยู่ใกล้แยกท่าพระที่สามารถใช้ไปออกฝั่งปิ่นเกล้าหรือพุทธมณฑลได้ ถ้าจะเข้าเมืองข้ามฝั่งแม่น้ำบริเวณสะพานพุทธและสะพานพระปกเกล้า อาจจะต้องทนติดหน่อยในช่วงเช้าเย็นแต่ก็ไม่ไกลจากโซนค้าขายเดิมอย่างเยาวราช พาหุรัดค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการในรัศมี 300-500 ม. ส่วนใหญ่จะเป็นร้านซ่อมต่างๆ และห้องแถวอยู่อาศัยแทบทั้งหมด ไม่ค่อยมีร้านอาหารเท่าไหร่ โดยจะมี 7-11 อยู่บริเวณซอยเพชรเกษม 5/1 ที่อยู่ห่างโครงการไปประมาณ 230 เมตร หากจะหาแหล่งพึ่งพิงปากท้องนั้นแนะนำให้ขับรถหรือนั่งรถไปยังถนนเทอดไทที่มีแหล่งพัก(พุง) อย่างตลาดวัดกลางและตลาดพลู หรือจะไปยังวงเวียนใหญ่ + ถนนลาดหญ้าที่มี Platform วงเวียนใหญ่ Community Mall ที่ชั้นล่างมี Starbucks ย่านนี้ขึ้นชื่อเรื่องร้านอาหารอร่อยๆเช่น หอยแครงลวกเจ๊ภา(ข้างๆ Platform) ทับทิมกรอบ (ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆPlatform) สมศักดิ์ปูอบ และ เจริญไทยสุกี้เจ้าเก่า เป็นต้น ส่วนห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น The Mall ท่าพระ บริเวณนี้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์มากถือเป็นศูนย์รวมเรื่องอาหารการกินและสิ่งอำนวยความสะดวกของคนในย่านนี้เลยค่ะ หรืออีกจุดหนึ่งคือขับขึ้นไปแถวซอยพาณิชยการธนบุรี หรือ ซอยพาณิชย์ฯธน (จรัญสนิทวงศ์ 13) ที่มีทั้งตลาด HomePro , Tesco Lotus และร้านค้าร้านอาหารอีกเพียบ
โครงการอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าท่าพระ ซึ่งเป็นสถานี Interchange ที่ตั้งอยู่บริเวณแยกท่าพระ ทำให้การเดินทางโดยไม่ใช้รถของโครงการนี้มีความสะดวกสบายมาก โดยจากตัวโครงการมีระยะห่างจากสถานีประมาณ 570 ม. ถือว่ายังเป็นระยะที่พอเดินได้อยู่หรือถ้าใครขี้เกียจเดินก็เรียกวินมอเตอร์ไซค์ได้สะดวก
ก่อนจะพาไปชมทำเล เราจะขออธิบายการเดินรถไฟฟ้าเพิ่มเติมกันอีกหน่อยนะคะ สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายนี้ แบ่งออกมาเป็น 2 ช่วง คือ
- ช่วงบางซื่อ – ท่าพระ เริ่มสถานีบางซื่อผ่านสถานีเตาปูนซึ่งเป็นสถานีร่วมกับโครงการฯ สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – บางซื่อ เข้าสู่ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ผ่านสี่แยกบางโพ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เลี้ยวซ้ายเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์บริเวณโรงเรียนเทคโนโลยีพระราม 6 ผ่านแยกบางพลัด แยกบรมราชชนนี แยกไฟฉาย และสิ้นสุดที่แยกท่าพระ
- ช่วงหัวลำโพง – บางแค โครงการจะเริ่มต้นที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพง เป็นเส้นทางตามแนวถนนพระราม 4 ผ่านถนนเจริญกรุง วังบูรพา ถนนสนามไชย ลอดใต้แม้น้ำเจ้าพระยาที่บริเวณปากคลองตลาด ลอดใต้คลองบางกอกใหญ่ ถนนอิสรภาพ เข้าสู่สี่แยกท่าพระ ซึ่งจะมีสถานีร่วมกับโครงการฯ สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ – ท่าพระ ไปตามแนวถนนเพชรเกษม ผ่านบางไผ่ บางหว้า บางแค และสิ้นสุดสายทางที่บริเวณวงแหวนรอบนอกถนนกาญจนาภิเษก
ถ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมด เส้นทางการเดินรถจะวิ่งวนครอบคลุมพื้นที่ใจกลางเมืองที่สำคัญๆ เชื่อมฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนครเข้าด้วยกัน เน้นอำนวยความสะดวกให้กับคนในเมือง ถือว่าเป็นรถไฟฟ้าสายเดียวในประเทศไทยในตอนนี้ที่วิ่งเป็นวงกลม ซึ่งจะต่างกับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายอื่นๆที่เป็นเส้นยาวเน้นขนส่งคนจากนอกเมืองเข้าสู่ในตัวเมืองค่ะ
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มจากถนนรัชดาภิเษก บริเวณหน้า The Mall ท่าพระ มุ่งหน้าไปยังแยกท่าพระแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรเกษม จากนั้นให้หาที่กลับรถมายังโครงการค่ะ
เราเริ่มจากบริเวณ The Mall ท่าพระ ซึ่งถือว่าจุดนี้เป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ของคนย่านนี้เลยทีเดียว
ขับตรงมาจะผ่านแยกที่ตัดกับถนนราชพฤกษ์ บริเวณนี้จะมีรถไฟฟ้า BTS และ BRT ให้ใช้
ตรงข้ามสะพานตามป้ายวงเวียนใหญ่ไว้ค่ะ ถ้าเราชิดขวาไปลอดอุโมงค์จะเป็นทางไปถนนจรัญสนิทวงศ์เลย
พอลงสะพานมาเราจะเห็นโครงสร้างรถไฟฟ้าที่ทำมาเตรียมเชื่อมต่อแล้ว
จากนั้นตรงมาเรื่อยๆจะถึงแยกท่าพระซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีท่าพระ สถานีนี้เป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ – ท่าพระ และ ช่วงหัวลำโพง – บางแค พอถึงแยกให้เราเลี้ยวไปทางขวาค่ะ
พอเลี้ยวมาจะเป็นถนนเพชรเกษมฝั่งมุ่งหน้าไปยังวงเวียนใหญ่ บรรยากาศส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนดั้งเดิมบ้านเป็นตึกแถวและแนวราบเป็นส่วนใหญ่ โดยจะมีคอนโดเกาะตามแนวรถไฟฟ้าเกิดขึ้นบ้าง
จากนั้นให้สังเกตทางฝั่งขวาไว้ให้ดีๆ เราจะเจอกับสำนักงานขายโครงการค่ะ สำหรับถนนเส้นนี้ถ้าเรามุ่งหน้าไปเรื่อยๆจะไปเจอวงเวียนใหญ่ค่ะ
พอเห็นโครงการแล้วให้เราตรงไปหาที่กลับรถ ซึ่งจะเป็นทางกลับรถใต้สะพานบริเวณโรงเรียนฤทธิณรงค์รอน
กลับรถแล้วให้ตรงมาตามทางก็จะถึงกับโครงการ Supalai Lite ท่าพระ – วงเวียนใหญ่ ค่ะ
สำนักงานขายเค้าสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วนะ มีการออกแบบให้เข้ากับ Concept ของโครงการค่ะ ใครสนใจสามารถเข้าไปชมหรือสอบถามรายละเอียดกันได้ โดยโครงการจะมีกำหนดเปิดตัว Pre-Sales อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 19 – 20 ตุลาคม 2562
เรามาดูสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการกันซึ่งถ้าซูมดูในระยะที่กว้างหน่อยจะเห็นว่ารอบๆโครงการในรัศมีประมาณ 500 เมตรส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนที่พักอาศัยแนวราบทั้งหมด โดยจะมีคอนโดมิเนียมมาขึ้นรอบๆสถานีท่าพระ ในอนาคตคาดว่าทำเลนี้น่าจะมีการพัฒนาขึ้นอีกมาก และน่าจะมีคอนโดทยอยมาเปิดตัวเรื่อยๆค่ะ
สำหรับเพื่อนบ้านในระยะใกล้ของโครงการ Supalai Lite ท่าพระ – วงเวียนใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยแนวราบ โดยจะมีทางทิศตะวันตกที่มองวิวออกไปจะเห็นคอนโด High Rise ข้างเคียง ซึ่งทางโครงการก็มีการออกแบบบิดตัวอาคารให้ไม่หันออกไปรับวิวทางฝั่งนี้มากนัก เรามาดูว่าแต่ละทิศจะติดกับอะไรบ้างกันค่ะ
- ทิศเหนือ – ติดกับถนนเพชรเกษม ซึ่งฝั่งตรงข้ามจะเป็นตึกแถวและที่อยู่อาศัยแนวราบ
- ทิศตะวันออก – ติดกับ B Quik ตึกแถวและที่อยู่อาศัยแนวราบ
- ทิศใต้ – ติดกับที่อยู่อาศัยแนวราบ
- ทิศตะวันตก – ติดกับตึกแถวและที่อยู่อาศัยแนวราบ
ทางทิศเหนือของโครงการจะติดกับถนนเพชรเกษมเลย ซึ่งทำให้โครงการมีความสะดวกในการเดินทาง โดยฝั่งตรงข้ามจะเป็นชุมชนดั้งเดิม ฝั่งที่ติดกับถนนใหญ่จะตึกแถวและเปิดเป็นร้านค้ากันที่ชั้นล่างค่ะ
ทางทิศตะวันออกติดกับ B Quik ตึกแถวและที่อยู่อาศัยแนวราบ
ทางฝั่งทิศตะวันตกด้านข้างโครงการเป็นแนวตึกแถว ร้านค้า และบ้านแนวราบ
ทิศใต้หรือด้านหลังโครงการเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ (รวมระยะกลับรถ) เช่น
- โรงพยาบาลพญาไท 3 ~ 2 กม.
- The Mall ท่าพระ ~ 2.5 กม.
- วงเวียนใหญ่ ~ 2.6 กม.
- โรบินสัน ลาดหญ้า ~ 2.8 กม.
- Platform วงเวียนใหญ่ ~ 2.9 กม.
- HomePro จรัญสนิทวงศ์ ~ 2.9 กม.
- มหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี ~ 3 กม.
- Big C อิสรภาพ ~ 3.2 กม.
- ตลาดพลู ~ 3.3 กม.
- มหาวิทยาลัยราชภัฎสมเด็จเจ้าพระยา ~ 3.6 กม.
- โรงพยาบาลกรุงธนบุรี 1 ~ 4.4 กม.
- โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ~ 4.5 กม.
- โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ~ 4.7 กม.
- โรงพยาบาลตากสิน ~ 5.8 กม.
Supalai Lite ท่าพระ วงเวียนใหญ่ ออกแบบในสไตล์ “Modern Colonial” ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากอดีตของถนนในย่านนี้ โดยนำเอางานสถาปัตยกรรม Colonial มาตกแต่งตัวอาคารและพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ซุ้มโค้ง (Arch) กับลวดลายสัญลักษณ์ผนังฉลุลายหน้าทางเข้าอาคาร ส่วนสวนหย่อมโดยรอบและบนอาคาร ถูกออกแบบด้วย สไตล์ English และเชื่อมต่อพื้นที่สีเขียวไปยังชั้นต่างๆ ของตัวอาคารด้วย Pocket Garden บนชั้น 9 , 14 , 18 และ 21 เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น ทั้งยังลดความร้อนเข้าสู่อาคาร ด้วยการเลือกใช้กระจกสีเขียวตัดแสง และวางผังให้เหมาะสมกับทิศทางลมและแสงค่ะ
โครงการเป็นคอนโด High Rise 22 ชั้น (รวมดาดฟ้า) 1 อาคาร จำนวน 421 ยูนิต (ห้องพักอาศัย 419 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต) พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้นล่างได้แก่ Lobby
Meeting Room และ Playground ชั้น 5 จะมี Swimming Pool + Kids’ Pool & Jacuzzi Fitness & Sauna และสวนหย่อม ชั้นบนสุดจะมีพื้นที่เอนกประสงค์ทั้ง 2 ชั้น ประกอบด้วย Co – Living Space และ Co – Working Space สามารถรองรับได้หลายกิจกรรมเหมาะกับทุก Lifestyle ของทุกคนในครอบครัว และมีการแทรกพื้นที่สีเขียวไว้ในส่วนพักอาศัย เพื่อให้ลูกบ้านได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นโดยจะมี Pocket Garden อยู่ที่ชั้น 9 , 14 , 18 และ 21 และชั้นบนสุดเป็น Rooftop Garden ให้เราออกมาใช้พื้นที่พักผ่อน ชมวิวมุมสูงได้ ส่วนห้องพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 5-21 ยิ่งชั้นสูงๆก็จะมีจำนวนยูนิตที่น้อยลงตามระยะร่นของอาคาร ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ
พอเข้ามาในโครงการด้านหน้าจะมีสวนหย่อมและยังมีสวน Playground ที่อยู่ด้านข้างอาคารอีก ทำให้บรรยากาศจะค่อนข้างร่มรื่น ใครที่ขับรถเข้ามาสามารถเข้าไปจอดในอาคารที่ชั้น 1-4 โดยจะจอดได้ประมาณ 50% แบบไม่รวมซ้อนคัน สำหรับในอาคารจะมีพื้นที่ส่วนกลางคือ Lobby และ Meeting Room ซึ่งในผังไม่ได้โชว์ไว้นะคะ
ด้านหน้าโครงการจะมีการจัดสวนซึ่งทำให้บรรยากาศดูสวยงามและร่มรื่น และยังเป็นตัวบังสายตาให้ลูกบ้านที่อยู่ด้านในมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยค่ะ สังเกตว่าตัวอาคารจะมีการตกแต่งด้วยซุ้มโค้งสไตล์ Colonial
พอวนรถมาด้านข้างอาคารจะเจอกับสวนหย่อมที่มีสนามเด็กเล่น (Playground) ดูจากภาพเป็นสวนที่มีขนาดใหญ่อยู่พอสมควร สามารถพาลูกๆหลานๆลงมาเดินเล่นได้ค่ะ ถ้าโครงการเสร็จแล้วต้นไม้ใหญ่โตเต็มที่ บรรยากาศน่าจะร่มรื่นมากเลย
บรรยากาศ Lobby ในอาคารตกแต่งด้วยสไตล์ Colonial เช่นเดียวกัน คือมีซุ้มโค้งและลวดลายต่างๆ โทนสีที่ใช้จะเป็นสีขาว ดูสบายตา มีพื้นที่นั่งพักคอยมาให้ทั้งแบบนั่งกันเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ หรือ นั่งกัน 1-2 คนค่ะ
ชั้น 5 จะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ปนกับห้องพักอาศัย โดยขึ้นมาจะเจอกับโถงลิฟต์ ซึ่งมีประตูกั้นแยกพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักอาศัยออกจากันชัดเจน คนที่ผ่านประตูได้ต้องมีคีย์การ์ดเท่านั้น โดยพื้นที่ส่วนกลางจะมีห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำระบบเกลือที่แบ่งออกเป็นสระผู้ใหญ่และสระเด็ก มีสวนพร้อมสนามเด็กเล่น มาให้ด้วย ห้องพักชั้นนี้จะมีโซนที่อยู่ทางทิศใต้ (ห้องแบบ 1 Bedroom Plus) ที่มองวิวที่ระเบียงเห็นพื้นที่ส่วนกลาง และบริเวณมุมของอาคารที่เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ส่วนรอบนอกของอาคารส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ Studio และ 1 Bedroom ค่ะ โดยในทิศเหนือจะมีห้อง 1 Bedroom Plus แทรกอยู่บ้าง และถ้าลองสังเกตจะเห็นว่า ห้องพักที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของแปลนจะมีบางส่วนเป็น single corridor หรือโถงทางเดินฝั่งเดียว เนื่องจากพื้นที่บางส่วนถูกแบ่งไปเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งโซนนี้จะค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพราะเปิดประตูออกมาจะไม่เจอเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม แต่จุดที่ต้องรอดูตอนอาคารสร้างเสร็จคือช่องแสงบริเวณโถงบันไดว่าจะสว่างมากน้อยแค่ไหนค่ะ
Facilities จุดแรกจะอยู่ที่ชั้น 5 ซึ่งจะประกอบด้วย Swimming Pool + Kids’ Pool & Jacuzzi Fitness & Sauna และสวนหย่อม นอกจากนั้นยังมี Pocket Garden อยู่ที่ชั้น 9 , 14 , 18 และ 21 ด้วย
สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือแบ่งออกเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่ โดยจะมี Jacuzzi มาให้นอนแช่ตัวเพื่อผ่อนคลายความเครียดด้วย บริเวณริมสระจัดเป็นที่นั่งพักผ่อน และมีสวนหย่อมอยู่โดยรอบดูร่มรื่นดี ห้องพักที่อยู่ชั้นนี้มองออกมาจะเห็นวิวเป็นพื้นที่ส่วนกลาง แต่จากในรูปจะเห็นว่ามีไม้พุ่มกั้นบังสายตาอยู่ ช่วยให้มีความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น
ห้องฟิตเนสที่อยู่ในชั้นนี้ด้วยค่ะ มีเครื่องออกกำลังกายมาให้ครบครัน สามารถออกกำลังไปพร้อมกับดูวิวพื้นที่ส่วนกลางด้วย
ชั้น 6-8 จะมีการวางผังคล้ายกับชั้น 5 เลยแต่จะมีจำนวนยูนิตเพิ่มขึ้นเป็น 30 ยูนิตต่อชั้น เนื่องจากไม่มีพื้นที่ส่วนกลางแล้ว ส่วนที่เพิ่มมาคือห้องที่อยู่ทางทิศตะวันออกโดยจะเป็นห้อง Studio และ 1 Bedroom ค่ะ โถงลิฟต์ของโครงการนี้อยู่ตรงกลางทำให้สามารถเดินไปยังห้องพักทั้ง 2 ฝั่งโดยใช้ระยะทางพอๆกัน ลิฟต์โดยสารมีอยู่ 3 ตัว (Service Lift อีก 1 ตัว) อัตราส่วนลิฟต์เท่ากับ 140 : 1 อาจจะมีต้องรอลิฟต์บ้างในช่วงเวลาเร่งด่วน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วของลิฟต์ที่ทางโครงการจะเลือกใช้ด้วยนะ
ชั้น 9-12 วางผังคล้ายกันค่ะ แต่ในชั้น 9 จะมี Pocket Garden สามารถออกมาสูดอากาศ นั่งเล่น ชมวิวได้
ชั้น 17 จะมีห้องบางส่วนหายไปตามระยะร่นของอาคาร
ส่วนชั้น 18 จะเป็นอีกชั้นที่มี Pocket Garden ค่ะ
ชั้น 19-20 จะมีจำนวนยูนิตต่อชั้นเท่ากับ 22 ยูนิต โดยห้องที่อยู่มุมบนทางทิศเหนือปรับมาเป็นห้องแบบ 2 Bedroom 63.5 ตารางเมตรแทน
ชั้น 21 จะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่อีก 1 จุดคือ Co – Living Space และ Co – Working Space การจะเข้าโซนนี้ต้องมีคีย์การ์ดเช่นเดียวกัน โดยห้องพักจะลดลงเหลือ 11 ยูนิตต่อชั้น เพราะว่าห้องส่วนใหญ่ถูกปรับมาเป็น 2 Bedroom และ 3 Bedroom ค่ะ ชั้นนี้จะเน้นห้องใหญ่ซึ่งจะสามารถเห็นวิวชั้นบนสุดได้นั่นเอง
Co – Living Space และ Co – Working Space จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง 2 ชั้นต่อเนื่องกัน ทำให้ได้ความโปร่งและสามารถชมวิวชั้นบนสุดได้ด้วย โดยจะมีพื้นที่สวน Pocket Garden แบบ Outdoor ด้วย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้น 1
- Lobby
- Meeting Room
- Playground
- Swimming pool , Kids’ pool & Jacuzzi
- Fitness
- Sauna
- Co-Living Space
- Co-Working Space
โครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted โดยจะเราจะได้ชุด Home Automation , Digital Door Lock , เครื่องปรับอากาศ , Smart Kitchen ชุดเฟอร์นิเจอร์ครัวพร้อม Hob & Hood เครื่องทำน้ำร้อน และฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้คือห้องแบบ 1 Bedroom 35 ตารางเมตร และ 1 Bedroom Plus 43.5 ตารางเมตรค่ะ
เรามาดูห้อง 1 Bedroom 35 ตารางเมตร กันค่ะ ห้องนี้พอเข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร ซึ่งบริเวณด้านข้างของโซฟามีพื้นที่พอที่จะวางตู้รองเท้าได้ ห้องน้ำวางเอาไว้หน้าห้องซึ่งสะดวกต่อการให้แขกใช้โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนของเรา หรือสะดวกเวลาที่เราใช้ห้องนั่งเล่นอยู่ แต่ถ้าเรานอนอยู่ในห้องนอนอาจจะเดินไกลสักนิดค่ะ ถัดมาคือห้องครัวที่กั้นเป็นครัวปิด เนื่องจากไม่ได้อยู่ติดกับระเบียงจึงต้องใช้การระบายอากาศผ่านเครื่องดูดควันซึ่งทางโครงการก็มีมาให้เรียบร้อย ส่วนห้องนอนจะมีจุดที่ทางโครงการออกแบบแปลนนี้มาเป็นพิเศษคือบริเวณ Walk-in Closet ซึ่งหลบมุมอยู่ด้านในสุด สามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง อีกทั้งยังมีหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศ และห้องนอนจะมีระเบียงด้วยค่ะ เวลานอนมองออกไปจึงเห็นวิวด้านนอกได้ด้วย ห้องนี้สามารถวางเตียงและโต๊ะข้างเตียงได้ เป็นการจัดฟังก์ชันที่เป็นสัดส่วนพอสมควรเลย
ห้องนี้เข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร ซึ่งถัดไปจะเป็นห้องนอนที่กั้นแบ่งด้วยประตูบานเลื่อนกระจก สังเกตว่าแสงสว่างจะเข้ามาถึงพื้นที่นั่งเล่นเลยทำให้ห้องดูโปร่ง ฝ้าเพดานของห้องนี้จะอยู่ที่ 2.65 เมตร พื้นเป็นไม้ลามิเนต 12 มม. ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านหน้าซึ่งเวลาแขกมาสามารถให้เข้าได้โดยไม่รบกวนส่วนนอนพักผ่อน
ทุกห้องจะได้ Digital Door Lock มาด้วยของ Samsung สามารถใช้งานได้ทั้งคีย์การ์ด การตั้งรหัส และกุญแจค่ะ
สวิตช์และปลั๊กเป็นของ Schneider โดยลูกบ้านจะสามารถควบคุมการปิด-เปิดไฟและแอร์ ในห้องนั่งเล่นและห้องนอนใหญ่ ผ่านระบบ Home Automation ค่ะ
มองกลับไปที่หน้าห้องจะเห็นซุ้มโค้ง อันนี้เป็นการตกแต่งของสำนักงานขายเฉยๆนะคะ ของจริงจะมีประตูมาให้ด้วย ซึ่งฝ้าเพดานบริเวณหน้าห้องจะมีการลดระดับลงมา เนื่องจากทางโครงการติดตั้งแอร์แบบ Cassette Type มาให้
ทางโครงการให้แอร์ Cassette Type ของ Carrier แบบนี้เลย
ห้องน้ำแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน พื้นและผนังกรุกระเบื้องแกรนิตโต้มาให้ สุขภัณฑ์ต่างๆเราได้ตามนี้เลย รวมถึงฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัยด้วย
ทางเข้าห้องนี้มีติดตั้งธรณีหินแกรนิตมาให้ ซึ่งสามารถกันน้ำไหลไปโดนส่วนอื่นๆของตัวห้องได้
อ่างล้างหน้าเป็นแบบที่มีตู้ด้านล่าง สามารถเปิดออกมาเก็บของได้ และเป็นตำแหน่งติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อยด้วยค่ะ
กระจกเงาส่องหน้า ด้านหลังเป็นตู้เปิดออกมาเก็บของได้ ถือเป็นการเพิ่มฟังก์ชันให้กับเฟอร์นิเจอร์ให้ใช้จัดเป็นของได้เต็มที่มากขึ้น ข้อดีคือจะทำให้ไม่มีของมาวางรกเกะกะรอบๆอ่างค่ะ
โถสุขภัณฑ์เป็นของ COTTO ติดตั้งมาพร้อมกับอุปกรณ์ ระยะการใช้งานต่างๆสามารถใช้งานได้สบายๆค่ะ
พื้นที่ส่วนเปียกกั้นเป็นสัดส่วนด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย
พื้นที่ส่วนเปียกไม่ได้มีการลดระดับแต่มี Drain ระบายน้ำติดตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของส่วนแห้งและส่วนเปียก อันนี้ต้องลองใช้งานว่าถ้าเปิดน้ำแรงๆแล้วการระบายน้ำจะเป็นอย่างไรนะคะ
พื้นที่อาบน้ำมีให้ทั้งฝักบัวแบบ Rain Shower และ แบบมือจับ ข้างๆมีชั้นสำหรับวางแชมพู สบู่มาให้ด้วย
ฝักบัวที่ทางโครงการให้มาค่ะ ของ COTTO เป็นระบบน้ำร้อน
ข้างๆโซฟาสามารถจัดเป็นโต๊ะอาหารได้ 2 ที่นั่ง แนะนำให้เลือกขนาดไม่ใหญ่มากและเลือกให้ขาโปร่ง จะทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น
ฝั่งตรงข้ามเป็นครัวปิดที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ซึ่งการใช้งานจะสามารถกันกลิ่นและควันได้พอสมควรค่ะ
ภายในครัวจะมีทั้งเคาน์เตอร์ครัวและส่วนซักล้างรวมไว้ด้วยกันตรงนี้เลย ข้อดีคือระเบียงจะสามารถใช้งานได้เต็มที่เพราะเครื่องซักผ้าถูกนำมาไว้ตรงนี้แล้ว แต่แนะนำว่าซักผ้าเสร็จอย่าเอามาแขวนในห้องนี้ตอนทำอาหารอยู่นะคะ เดี๋ยวกลิ่นติดผ้า
ฟังก์ชันที่แบ่งเป็น 2 ส่วน ซักล้างและทำอาหารค่ะ ด้านบนเครื่องซักผ้าจะมีพื้นที่ให้ Built-in ชั้นได้เล็กๆน้อยๆ
ตู้ด้านล่างสามารถเปิดออกมาเก็บของได้ตามภาพ โดยวัสดุ Top จะเป็นหินสังเคราะห์สีขาว หน้าบานกรุด้วยลามิเนต พร้อมติดตั้ง Soft Close มาให้
อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียวของ Franke ค่ะ
เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวของ Häfele เหมาะกับการใช้งานในห้อง 1 Bedroom
สำหรับตู้ด้านบนจะเปิดออกมาเก็บของได้ตามนี้เลยค่ะ
ถ้าเราเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ปัญหาที่เกิดจากการหยิบของบ่อยๆคือเอื้อมไม่ถึง ซึ่งทางโครงการได้มีติดตั้งอุปกรณ์อันนี้มาให้ เป็นการออกแบบภายใต้แนวคิด Smart Kitchen เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านค่ะ
ทางโครงการจะมีที่วางโทรศัพท์มือถือมาให้แบบนี้ด้วยค่ะ เราสามารถดูหนังฟังเพลง หรือเปิดดูสูตรอาารต่างๆเวลาทำอาหารได้
เครื่องดูดควันเป็นแบบต่อท่อออกนอกอาคารของ Häfele เช่นเดียวกัน ซึ่งเหมาะกับการเอามาใช้ในครัวปิด ที่เน้นการทำอาหารบ่อยๆ
ด้านในสุดคือห้องนอนที่กั้นประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน แบ่งห้องทั้งสองออกจากกันเป็นสัดส่วน เนื่องจากประตูเป็นกระจกแสงสว่างจึงส่องเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นด้วย ถ้าเราต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถติดผ่านเพิ่มได้ค่ะ
ห้องนอนในห้องตัวอย่างวางเตียงแบบ Queen Size ทำให้สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง แต่ถ้าเราอยากวาง King Size ก็สามารถทำได้แลกกับพื้นที่ด้านข้างเตียงจะหายไปค่ะ
ถ้าเราวางเตียง Queen Size จะมีพื้นที่วางโต๊ะข้างเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง
ปลายเตียงมีระยะห่างจากผนังประมาณ 60 ซม. สามารถเดินผ่านได้สบายๆ แต่ถ้าอยากติดตั้งทีวีแนะนำให้แขวนผนังเอาจะประหยัดพื้นที่และสะดวกต่อการใช้งานกว่าค่ะ
ฝั่งปลายเตียงนอกจากตำแหน่งติดตั้งทีวีแล้ว ยังมีพื้นที่ Walk-in Closet ที่เป็นอยู่ร่นระยะเข้าไปเป็นสัดส่วน
พื้นที่บริเวณนี้สามารถ Built-in รูปตัว L ได้เลย และยังได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างด้านข้าง ซึ่งแสงธรรมชาตินี้เป็นแสงที่เหมาะกับการแต่งหน้าและช่วยให้เสื้อผ้าไม่อับชื้นอีกด้วย
ห้องนี้จะมีระเบียงอยู่บริเวณห้องนอน สามารถนอนชมวิวได้ และผนังทึบฝั่งข้างเตียงจะเป็นตำแหน่งของ Condensing Unit ของแอร์ จากมุมนี้จะเห็นว่าผนังบังไว้พอดี ดูสวยงามค่ะ
แอร์ห้องนี้เป็นแบบ Wall Type ของ Carrier นะคะ
พื้นที่ระเบียงสามารถออกไปใช้งานยืนสูดอากาศได้สบายๆ พื้นปูด้วยกระเบื้อง Ceramic แบบผิวด้านเหมาะสมกับการใช้งานค่ะ
อย่างที่บอกไปว่า Condensing Unit ของแอร์ จะถูกซ่อนอยู่ด้านข้างและมี Grill เพื่อให้ด้านนอกของอาคารดูเป็นระเบียบเรียบร้อย
ต่อมาคือห้อง 1 Bedroom Plus 43.5 ตารางเมตร บริเวณหน้าห้องจะเป็นครัวซึ่งไม่ได้กั้นผนังปิดไว้ แต่ด้วยตำแหน่งที่ค่อนข้างเป็นสัดส่วน เราสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้นะคะ โดยผนังฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวมีพื้นที่พอสำหรับวางตู้วางรองเท้า และถัดเข้ามาด้านในจึงเป็นโต๊ะอาหารแบบ 2 ที่นั่งและพื้นที่นั่งเล่น สำหรับห้องอเนกประสงค์ที่เพิ่มขึ้นมาจะอยู่ต่อจากพื้นที่นั่งเล่น ถ้าเปิดประตูที่กั้นจะเป็น Space ที่ต่อเนื่องกันเลย แต่ถ้าปิดก็จะมีความเป็นส่วนตัวสามารถจัดได้ทั้ง ห้องนอน ห้องทำงาน และ ห้องนั่งเล่นอีกห้องค่ะ อีกฝั่งของห้องคือห้องนอนที่มี Walk-in Closet ห้องน้ำ และระเบียงในตัว เฟอร์นิเจอร์ต่างๆจัดได้เป็นสัดส่วนดี สามารถวางได้ทั้งเตียง โต๊ะข้างเตียง โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าแบบแยกการใช้งานเป็น 2 ฝั่งค่ะ
ห้องนี้เข้ามาจะเจอกับครัวก่อน ซึ่งถ้าถือของมาเตรียมทำอาหารหนักๆก็สามารถวางบนเคาน์เตอร์หรือเก็บในตู้เย็นได้เลย ส่วนถ้าใครอยากทำเป็นครัวปิดก็สามารถกั้นผนังเพิ่มได้ค่ะ
ครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ สามารถเช็ดล้าง ทำความสะอาดได้ง่าย
ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้า
ส่วนเคาน์เตอร์ครัว ทางโครงการมีมาให้แบบนี้ วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆเหมือนกับห้องแบบ 1 Bedroom เลยค่ะ ไมโครเวฟไม่ได้ให้ค่ะ
อุปกรณ์ครัวเราได้ตามนี้เลยค่ะ อ่างล้างจานของ Franke และ เตาไฟฟ้า+เครื่องดูดควันของ Häfele
ชั้นที่มีมือจับดึงลงมาและที่วางโทรศัพท์มือถือห้องนี้ก้ได้เช่นเดียวกัน
หน้าห้องจะเป็นพื้นที่ครัวและโต๊ะรับประทานอาหารแบบนี้ค่ะ
โต๊ะและเก้าอี้ชุดนี้ทางโครงการไม่ได้ให้ ถ้าสังเกตจะเห็นว่าเคาน์เตอร์ครัวอยู่ในระยะกระเบื้องพอดี ซึ่งหมายความว่าเราสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ และดันโต๊ะทานอาหารให้อยู่ด้านใน ฝั่งที่พื้นเป็นไม้ลามิเนตค่ะ
ระหว่างกระเบื้องแกรนิตโต้และพื้นลามิเนตจะมีคิ้วไม้เก็บงานมาให้เรียบร้อย
แอร์ Cassette Type ของ Carrier แบบเดียวกับห้อง 1 Bedroom
ระหว่างครัวและพื้นที่นั่งเล่นจะมีพื้นที่เหลือ บริเวณนี้สามารถ Built-in เป็นตู้เก็บของ หรือหาโต๊ะทำงานเล็กๆมาวางได้นะ อีก Option คือถ้าใครชอบโซฟาใหญ่ๆก็พอจะขยายมาเป็น 3 ที่นั่งได้ค่ะ
พื้นที่นั่งเล่นมีระยะดูทีวีประมาณ 2.2 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 46″ ได้ ด้านในสุดเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งถ้าเปิดออกก็จะได้พื้นที่ต่อเนื่องกับห้องนั่งเล่นแบบนี้เลยค่ะ
แต่ถ้ากั้นปิดก็จะมีความเป็นส่วนตัว สามารถใช้ทำเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนอีกห้องหนึ่งได้
ภายในห้องตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงาน จริงๆแล้วสามารถวางเตียงเล็กๆได้นะคะ ห้องนี้มีหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศได้อีกด้วย
อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะเป็นห้องนอนค่ะ
ห้องนอนห้องนี้มีพื้นที่ออกไปที่ระเบียงด้วย เป็นห้องที่ดูโปร่งโล่ง สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆได้ลงตัว
ถ้าวางเตียงแบบ Queen Size จะมีพื้นที่ข้างเตียงให้วางโต๊ะข้างเตียงได้
ปลายเตียงมีระยะให้พอเดินผ่าน ถ้าจะติดทีวีแนะนำให้แขวนผนังเช่นเดียวกัน
ประตูทางออกไปที่ระเบียงเป็นกรอบบานอลูมิเนียม กระจกสีเขียวตัดแสง
พื้นที่ระเบียงสามารถใช้งานได้เต็มที่ ไม่ต้องเสียพื้นที่ให้กับเครื่องซักผ้าค่ะ
อีกฝั่งของระเบียงเป็นพื้นที่สำหรับวาง Condensing Unit ของแอร์เป็นสัดส่วน แต่เนื่องจาก CDU หันเป่าลมร้อนเข้าด้านใน เราอาจจะหา Grill เปลี่ยนทิศทางลมมาติดตั้งเพิ่มเติมได้ค่ะ
อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นห้องน้ำ ซึ่งพื้นที่หน้าห้องน้ำเราสามารถจัดวางเป็น Walk-in Closet ได้
Walk-in Closet ทางโครงการไม่ได้ให้ แต่แต่งเอาไว้ให้เป็นไอเดียค่ะ ถือเป็นการแบ่งการใช้งานที่ดีนะ ตู้ของใครของมันไปเลย
ห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย วัสดุอุปกรณ์ต่างๆได้เหมือนกับห้องก่อนหน้าค่ะ
ด้านหลังกระจกเงาส่องหน้าก็มีตู้เก็บของนะคะ
โถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างหน้าของ COTTO ค่ะ
พื้นที่อาบน้ำที่กั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัยเป็นสัดส่วน
เอาบรรยากาศในห้องนอนมาให้ดูปิดท้ายอีก 1 รูปค่ะ ^^
มาดูผังห้องที่ไม่มีห้องตัวอย่างกันค่ะ อย่างห้องนี้คือ Studio 28 ตารางเมตร เราชอบที่พอเข้าห้องมาจะเจอกับส่วน Service ของห้องคือครัวกับห้องน้ำก่อน ส่วนพื้นที่พักผ่อนจะอยู่ด้านในทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น นอนพักผ่อน และยังสามารถจัดมุมทำงานแบบหันหน้าโต๊ะออกไปชมวิวได้ มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ห้องนี้มีระเบียงขนาดพอออกไปยืนสูดอากาศได้ด้วยค่ะ
ห้อง 2 ห้องนอน 52 ตารางเมตร ห้องนี้เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับโต๊ะอาหารที่จัดได้ประมาณ 3 ที่นั่ง ซึ่งการเปิดมาแล้วเจอกับโต๊ะอาหารเลยอาจจะไม่เป็นส่วนตัวเท่าไร แต่เนื่องจากโครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted ไม่ได้ให้เฟอร์นิเจอร์มาด้วย เราจะแนะนำให้วางตู้เก็บของ+ตู้เก็บรองเท้าแทนตำแหน่งของโต๊ะอาหาร แล้วย้ายโต๊ะอาหารมาอยู่ข้างๆชุดโซฟาแทน ส่วนครัวห้องนี้เป็นครัวปิดเป็นสัดส่วนและมีหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศออกสู่ภายนอกซึ่งถือว่าดีมากๆเลย อีกฝั่งเป็นห้องนอน 2 ห้องที่ต้องใช้ห้องน้ำแชร์กัน ทั้ง 2 ห้องมีหน้าต่างบานใหญ่ให้เปิดระบายอากาศและจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบทั้งคู่ โดยห้องนอนใหญ่จะมีขนาดใหญ่เป็นห้องหน้ากว้างค่ะ
ห้อง 2 ห้องนอน 56.5 ตารางเมตร ห้องนี้ฟังก์ชันลงตัว เข้ามาเป็นพื้นที่นั่งเล่น+ทานข้าว อีกฝั่งเป็นครัวที่สามารถกั้นปิดได้และห้องน้ำ ห้องนอนอยู่ด้านในทั้ง 2 ห้อง โดยห้องนอนเล็กจะมีระเบียงด้วยช่วยให้บรรยากาศภายในดูโปร่ง ไม่อึดอัด ส่วนห้องนอนใหญ่ขนาดกว้างพอสมควร มีมุมให้วางตู้เสื้อผ้าได้เต็มทั้งผนังค่ะ
ถัดมาคือห้องแบบ 3 ห้องนอน 99.5 ตารางเมตร ที่อยู่ในชั้นบนของโครงการ ฟังก์ชันแบ่งออกเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวคือ พื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหาร และครัวอยู่ตรงกลาง โดยระเบียงจะมีขนาดยาวพอมควร และมีการออกแบบให้ Condensing Unit ซ่อนอยู่ด้านข้าง เราจึงมีพื้นที่ให้ออกไปนั่งเล่นสูดอากาศได้เต็มที่ ห้องครัวเป็นครัวปิดนะคะ สามารถทำอาหารได้เต็มที่ ด้านซ้ายและขวาเป็นห้องนอน โดยฝั่งขวาเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องที่ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว สามารถจัด Walk-in Closet และมุมโซฟาเอาไว้ในห้องนอนได้ และเตียงสามารถวางได้แบบ King Size ด้วยค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 25 September 2019
- Studio ขนาด 28.0 – 28.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.98 ล้านบาท
- 1 Bedroom ขนาด 34.0 – 35.0 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.32 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus ขนาด 43.0 – 47.0 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.85 ล้านบาท
- 2 Bedrooms ขนาด 52.0 – 63.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.45 ล้านบาท
- 3 Bedrooms ขนาด 99.5 ตร.ม ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.65 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง n/a บาท (รอรายละเอียด ณ วัน Pre-Sales)
- ทำสัญญา n/a บาท (รอรายละเอียด ณ วัน Pre-Sales)
- ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด (รอรายละเอียด ณ วัน Pre-Sales)
- ค่ากองทุน 450 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเล : Supalai Lite ท่าพระ วงเวียนใหญ่ เป็นคอนโด High Rise ที่อยู่ห่างจากสถานีท่าพระประมาณ 570 เมตร ซึ่งถ้าเทียบกับโครงการที่อญุ่รอบๆสถานีนี้ถือว่าปัจจุบันมีระยะที่ห่างที่สุด แต่ราคาที่ย่อมเยาที่สุดเช่นเดียวกัน ทำเลตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษมระหว่างแยกท่าพระ และ วงเวียนใหญ่ในระยะที่พอๆกัน ซึ่งรอบๆโครงการในรัศมี 300-500 ม. อาจจะไม่ค่อยมีของกินแต่ถ้าไปยังย่าน ตลาดพลู วงเวียนใหญ่ + ถนนลาดหญ้า ที่อยู่ใกล้ๆถือเป็นชุมชนเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านอาหารอร่อยๆเยอะทีเดียวค่ะ ถ้าอยากไปเดินเที่ยวเล่นจะมี Platform วงเวียนใหญ่ Community Mall ที่อยู่ตรง วงเวียนใหญ่ และ The Mall ท่าพระ นอกจากนั้นยังสามารถไปยังเส้นจรัญสนิทวงศ์ที่มีครบทั้ง ตลาด ร้านค้า ร้านอาหาร และ Hypermarket
การเดินทางโดยใช้รถ : มีความสะดวกเพราะตัวโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นถนนหลักสายใหญ่ที่เชื่อมต่อและมีถนนอีกหลายสายตัดผ่าน และอยู่ใกล้แยกท่าพระที่สามารถใช้ไปออกฝั่งปิ่นเกล้าหรือพุทธมณฑลได้ ถ้าจะเข้าเมืองข้ามฝั่งแม่น้ำบริเวณสะพานพุทธและสะพานพระปกเกล้า อาจจะต้องทนติดหน่อยในช่วงเช้าเย็นแต่ก็ไม่ไกลจากโซนค้าขายเดิมอย่างเยาวราช พาหุรัดค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : โครงการอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าท่าพระ ซึ่งเป็นสถานี Interchange สามารถนั่งเชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ – ท่าพระ และ
ช่วงหัวลำโพง – บางแค และสายสีเขียวที่สถานีบางหว้าได้ค่ะ ดังนั้นจึงทำให้การเดินทางโดยไม่ใช้รถของโครงการนี้มีความสะดวกสบายมาก โดยจากตัวโครงการมีระยะห่างจากสถานีประมาณ 570 ม. ถือว่ายังเป็นระยะที่พอเดินได้อยู่
วัสดุ : โครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted โดยจะเราจะได้ชุด Home Automation , Digital Door Lock , เครื่องปรับอากาศแบบ Cassette Type , Smart Kitchen ชุดเฟอร์นิเจอร์ครัวพร้อม Hob & Hood จาก Hafele และ Franke เครื่องทำน้ำร้อน และฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย วัสดุพื้นเป็นไม้ลามิเนต พื้น-ผนังห้องน้ำเป็นแกรนิตโต้ สุขภัณฑ์จาก COTTO
การออกแบบ : โครงการนี้มีสไตล์การออกแบบที่ค่อนข้างชัดคือ Modern Colonialโดยนำเอา ซุ้มโค้ง (Arch) กับลวดลาย มาตกแต่งอาคาร ส่วนสวนหย่อมทำออกมาในสไตล์ English จุดที่ชอบคือการวางผังที่แบ่งพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักอาศัยออกจากกันชัดเจน มีประตูกั้น และมีการจัดพื้นที่สีเขียวแบบ Pocket Garden แทรกไปยังชั้นต่างๆ แทนที่จะปล่อยให้ระยะร่นเสียการใช้ประโยชน์ ถือว่าทำได้ดี ตัวอาคารมีการเลือกใช้กระจกสีเขียวตัดแสงและวางผังให้เหมาะสมกับทิศทางลมและแสง ตัวอาคารจะวางเฉียงเล็กน้อยเพื่อทำให้ไม่ชนกับวิวที่เป็นอาคารสูงข้างเคียง
สาธารณูปโภค : จัดมาให้ค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับราคา โดยจะมี Lobby และ
Meeting Room อยู่ที่ชั้นล่าง ชั้น 5 จะมี Swimming Pool + Kids’ Pool & Jacuzzi Fitness & Sauna ชั้นบนสุดจะมี Co – Living Space และ Co – Working Space มี Pocket Garden อยู่ที่ชั้น 9 , 14 , 18 และ 21 และชั้นบนสุดเป็น Rooftop Garden นอกจากนั้นยังมีสวนหย่อมรอบๆอาคารและ Playground ให้เด็กๆอีกด้วย
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 70,000-90,000 บาท/ตร.ม., 25 September 2019
- ทำเล 7.75/10 – อยู่ติดถนนใหญ่ทำเลระหว่างแยกท่าพระและวงเวียนใหญ่
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – สะดวกเพราะติดถนนใหญ่ มีเส้นทางให้ใช้หลากหลาย ที่จอดรถ 50%
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ห่างจากสถานีท่าพระ (Interchange) ประมาณ 570 ม.
- วัสดุ 7.75/10 – ให้มาตามมาตรฐาน ขายแบบ Fully Fitted
- แบบ 8/10 – ออกแบบมาได้ดี มี Concept ชัดเจน วางผังห้องพักลงตัว
- สาธารณูปโภค 8.25/10 – มี Facilities หลักให้ใช้ครบและมี Co – Living Space และ Co – Working Space ด้วย
- MAIN CLASS
- 7.86 / 10.00
BOTTOM LINE
Supalai Lite ท่าพระ วงเวียนใหญ่ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดที่เดินทางไปย่านท่าพระ และ วงเวียนใหญ่ได้สะดวก ยอมห่างจากตัวสถานีท่าพระมาหน่อยแลกกับราคาที่ย่อมเยากว่า ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง และ ชอบห้องที่วางผังลงตัว มีงบประมาณเริ่มต้น 1.98 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นที่ 14,000 บาท/เดือน
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving