รีวิวฉบับที่ 675 … วันนี้พาท่านผู้อ่านมาชมโครงการ Skyline รัตนาธิเบศร์ ของ AJ Property กันค่ะ โครงการนี้เป็นโครงการใหม่ในทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้าสายใหม่ๆทางฝั่งนนทบุรี ตั้งอยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานี “แยกนนทบุรี” ประมาณ 200 เมตร ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี 2559 นี้ค่ะ โครงการเป็นคอนโด High Rise 38 ชั้น ขายแบบ Fully furnished ราคาเริ่มต้นที่ 1.86 ล้าน เราไปดูรายละเอียดโครงการกันเลย
Fact @ 19 September 2014
- Skyline Rattanathibet (สกายไลน์ รัตนาธิเบศร์)
- บริษัท เอเจ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน ตำบลบางกระสอ จังหวัดนนทบุรี
- คอนโด High Rise 38 ชั้น 1 อาคาร 810 ยูนิต ร้านค้า 3 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 26 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 308 คันคิดเป็น 38% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 3-0-44.7 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : กันยายน 2560
- 1 Bedroom 25.65 – 31.42 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,860,625 หรือประมาณ 72,539 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedrooms 41.93 – 59.37 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,998,995 หรือประมาณ 71,524 บาท/ตร.ม.
- ฝ้าเพดานระเบียง 2.6 ม., ฝ้าเพดานห้องนอน 2.5 ม., ฝ้าเพดานห้องน้ำ 2.3 ม
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.87 ล้านบาท
- http://www.skyline-condominium.com/
- โทร 02-526-1888
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.867164,100.490778
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Skyline รัตนาธิเบศร์ นี้เราจะเห็นว่าใช้ถนนรัตนาธิเบศร์เป็นหลัก ซึ่งถนนรัตนาธิเบศร์เป็นถนนเส้นที่มีรถไฟฟ้าสายสีม่วงวิ่งผ่านค่ะ สถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีแยกนนทบุรี 1 ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 200 เมตรจ มีแผนเปิดให้บริการในปี 2559 ค่ะ อ่านรายละเอียดเพิ่มคลิก
ห้างที่อยู่ไม่ไกลไปช้อปปิ้งกันได้ง่ายหน่อยจะมี ห้างเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ (~ 700 m.), Big C รัตนาธิเบศร์ (~ 1.4 km.) และ เอสพลานาด แคราย (~ 3.4 km.) ค่ะ
มาดูเรื่องการขับรถ ใช้รถส่วนตัวกันบ้าง การคมนาคมในทำเลนี้ จะเหมาะกับคนที่ทำงานอยู่ในโซนนนทบุรี หรือมีลูกเรียนแถวนี้นะคะ เพราะอยู่ในจุดที่เรียกว่าเป็นใจกลางเมืองนนท์ก็ว่าได้ มีถนนรัตนาธิเบศร์, งามวงศ์วาน ตัดกับ ถนนติวานนท์ เป็นถนนเส้นหลักฝั่งนี้ หรืออาจจะมีบ้านเก่า, บ้านพ่อแม่ อยู่ฝั่งราชพฤกษ์ สามารถข้ามสะพานพระนั่งเกล้า และ สะพานพระราม 5 ไปได้ โดยไม่ต้องไปผ่านตัวเมือง ส่วนทางด่วนที่อยู่ใกล้ๆคือทางพิเศษศรีรัชค่ะ ขึ้นลงที่ถนนงามวงศ์วาน ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 5.1 km. ถ้าจะเข้าเมืองก็คงต้องใช้ทางด่วนนี้เป็นหลัก เพราะสะดวกกว่าไปวิ่งข้างล่างมากนะคะ
ข้อเสียของทำเลนี้ คือจะอยู่ไกลจากตัวเมืองมาพอสมควร ไม่ว่าจะขับรถ หรือนั่งรถไฟฟ้า ถ้าจะเข้าเมืองก็ต้องมีอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงแหละค่ะ แล้วถึงแม้จะเป็นนนทบุรี แต่ทำเลตรงนี้ก็รถติดหนักๆได้เหมือนกัน ทั้งวันธรรมดา ตามแยกต่างๆ อย่างแยกแคราย หรือ แยกนนทบุรี 1 และรถติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพราะคนก็ออกมาเดินห้างแถวนี้เยอะ ตั้งแต่เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, เอสพลานาด ยันพันธุ์ทิพย์, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน รถเข้า-ออกห้าง ยังไม่รวม Big C และ Lotus อีกนะ แล้วด่านเก็บเงินขึ้นทางด่วนเนี่ย คนแถวๆนี้เค้าก็มาขึ้นที่ด่านนี้กันทั้งนั้นนะคะ ไม่ว่าจะเป็นด่านงามวงศ์วาน หรือประชาชื่น เพราะมันไม่มีทางเลือกอื่น อย่าได้ประมาทเชียว ก็ได้แต่หวังว่ารถไฟฟ้าที่จะสร้างเสร็จนี้ จะมาช่วยทำให้รถหายติดกันได้บ้างนะคะ
การเดินทางไปโครงการวันนี้มาจาก ถนนงามวงศ์วาน อาจจะวิ่งข้ามมาจากเกษตรก็ได้, ลงทางด่วนขั้นที่ 2 มาก็ได้ หรือมาจากถนนวิภาวดีรังสิตก็ได้ วิ่งตรงๆข้ามแยกแคราย เข้ามา ถนนรัตนาธิเบศร์ ชิดซ้ายมาเรื่อยๆก็จะเจอที่ตั้งโครงการแล้วค่ะ
เราเริ่มกันที่บนถนนงามวงศ์วานมุ่งหน้าเข้ามาแยกแครายไปถนนรัตนาธิเบศร์ค่ะ แยกแครายเป็นจุดเชื่อมถนน 3 สายคือ งามวงศ์วาน-รัตนาธิเบศร์-ติวานนท์ แยกนี้เป็นแยกที่เลื่องลือเรื่องรถติดสุดๆนะคะ รวมทั้งถนนติวานนท์ด้วย ไปไหนมาไหนช่วงเวลาเข้าออกเช้าเย็นผ่านเส้นนี้ต้องเผื่อเวลากันไว้เยอะๆค่ะ แยกแครายนี้ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 3.6 กิโลเมตร
พอเข้าถนนรัตนาธิเบศร์มาก็ขับตรงมาเรื่อยๆจะเห็น Big C รัตนาธิเบศร์ อยู่ฝั่งซ้ายมือ จุดนี้อยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 1.4 กิโลเมตรค่ะ ขวามือที่เกาะกลางถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์จะเห็นว่ามีสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ออกมาเป็นรูปเป็นร่างแล้วให้เห็นเป็นระยะๆ
ถัดมาอีกหน่อยจะเห็นสะพานลอยของ Central รัตนาธิเบศร์ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ใกล้ที่ตั้งโครงการอยู่ จะเห็นป้าย Robinson, Central, Index อยู่ทางขวามือ ตรงนี้เป็นแหล่งช้อปปิ้งหลักๆของคนในโครงการและคนย่านนนนทบุรีค่ะ จุดนี้อยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 700 เมตร
ถัดมาหน่อยก็จะเห็นจุดขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้า “แยกนนทบุรี 1” สถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดทางฝั่งขวามือของเราค่ะ จากจุดนี้จะห่างกับที่ตั้งโครงการประมาณ 200 เมตร
พอเห็นป้ายสะพานกลับรถไปแครายสีเขียวๆนั่น เราไม่ขึ้นสะพานนะคะ แต่เราชิดซ้ายตรงต่อไป
ขับมาหน่อยก็จะเห็นบอลลูนของสำนักงานขายโครงการ Skyline ที่อยู่ถัดจากปั๊มแก๊สชื่อ เวิลด์แก๊ส แล้วค่ะ เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลย
ในสำนักงานขายจะมีโมเดลโครงการ และห้องตัวอย่างอยู่ค่ะ เข้าไปดูรายละเอียดตัวโครงการกันต่อเลย
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ห้าง Grand Home Mart (~ 300 m.)
- Central รัตนาธิเบศร์ (~ 700 m.)
- Big C รัตนาธิเบศร์ (~ 1.4 km.)
- เอสพลานาด แคราย (~ 3.2 km.)
- โรงพยาบาลพระนั่งเกล้านนทบุรี (~1.6 km.)
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล สุวรรณภูมิ นนทบุรี (~1.2 km.)
- กระทรวงพาณิชย์ (~ 2.5 km.)
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
ตัวที่ดินของโครงการเป็นที่ดินแนวสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหน้าติดถนนรัตนาธิเบศร์ ด้านหลังติดโครงการ ลุมพินี คอนโดทาวน์ รัตนาธิเบศร์ ที่เป็นกลุ่มคอนโด Low Rise 8 ชั้น ทิศตะวันออกของโครงการอยู่ติดกับร้านอาหารทะเลริมทาง ถัดไปไปเป็นปั๊มแก๊ส ทิศตะวันตกบางส่วนเป็นโครงการ ลุมพินี คอนโดทาวน์ รัตนาธิเบศร์ บางส่วนเป็น อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น หรือ บ้าน 2 ชั้นค่ะ
สำหรับคนใช้รถ ในแผนที่ขยายนี่เราขออธิบายเพิ่มเติมถึงจุดกลับรถรูปเกือกม้าที่เห็นนะคะ ว่าถนนรัตนาธิเบศร์หน้าโครงการเป็นถนนฝั่งขาออกเมือง วิ่งไปทางสะพานพระนั่งเกล้า ซึ่งเลยทางขึ้นจุดกลับรถไปแล้ว แต่ยังดีที่สามารถไปกลับรถใต้สะพานกลับรถรูปเกือกม้าได้ค่ะ ใครจะเข้าเมืองหรืออยากไปเดินเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ก็ไม่ต้องไปกลับรถกันไกลนัก
สำหรับคนไม่ใช้รถ ก็สามารถเดินไปขึ้น MRT แยกนนทบุรี ได้ในระยะเดินสบายๆประมาณ 200 เมตรนะคะ ขณะที่ถ้าจะขึ้นรถเมล์ก็มีป้ายรถเมล์อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 160 เมตรค่ะ รอบๆโครงการในระยะเดิน ก็จะเป็นร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง, โชว์รูมรถยนต์, ปั๊มแก๊ส และห้างขายอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้านอย่าง Grand Home Mart ค่ะ ของกินแถวนี้ใกล้ๆโครงการไม่มีอะไรมากนัก ร้านอาหารทะเลริมทางที่อยู่ติดโครงการก็ดูจะเป็นร้านที่เน้นเปิดช่วงค่ำมากกว่า
ภาพถนนรัตนาธิเบศร์ด้านหน้าโครงการมองออกไปทางฝั่งแยกแครายค่ะ จะเห็นป้ายปั๊มแก๊สเวิลด์แก๊ส และสะพานกลับรถอยู่ด้านข้าง จากตรงนี้เราจะมองเห็นสถานีรถไฟฟ้า สถานีแยกนนทบุรี 1 และทางขึ้นอยู่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร จากหน้าโครงการ
ภาพถนนรัตนาธิเบศร์ด้านหน้าโครงการมองออกไปทางฝั่งสะพานพระนั่งเกล้าค่ะ จากตรงนี้คนขับรถขับไปกลับรถใต้สะพานกลับรถได้ หรือจะตรงไปสะพานพระนั่งเกล้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาออกนอกเมืองไปเลยก็ได้
ด้าน a หรือทางทิศเหนือค่อนไปทางตะวันออกของที่ดินโครงการจะติดฝั่งถนนรัตนาธิเบศร์ค่ะ ตอนนี้จะมีตึกสำนักงานขายของโครงการตั้งอยู่ บนถนนรัตนาธิเบศร์จะเห็นรางรถไฟสายสีม่วงวิ่งผ่าน ตัวรางสูงถึงประมาณชั้น 4 ค่ะ ซึ่งตึกโครงการทำเป็นที่จอดรถไว้ชั้น 1 – 5 ค่ะ ตัวรางเลยไม่บังวิวที่พักอาศัย
ด้าน b หรือทางทิศตะวันออกของที่ดินโครงการจะติดร้านอาหารชื่อ ทะเลริมทาง
ภาพทางเข้าร้านทะเลริมทาง เป็นร้านอาหารที่เปิดช่วงค่ำๆค่ะ ตอนนี้ยังปิดอยู่
ด้าน c หรือทางทิศใต้ค่อนไปทางตะวันตกของที่ดินโครงการจะเป็นโครงการ ลุมพินี คอนโดทาวน์ รัตนาธิเบศร์ ที่เป็นกลุ่มคอนโด Low Rise 8 ชั้น
ด้าน d หรือทางทิศตะวันตกของที่ดินโครงการบางส่วนเป็นโครงการ ลุมพินี คอนโดทาวน์ รัตนาธิเบศร์ บางส่วนเป็น อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น หรือ บ้าน 2 ชั้นค่ะ
ชั้นล่างสุดของอาคารเริ่มจากส่วนทางเข้าออกโครงการ เข้ามาเป็นทางเข้า Lobby แบบ Double Volume และส่วน Shop หรือยูนิตร้านค้าของโครงการ มี 3 ยูนิตเอาไว้อำนวยความสะดวกคนในโครงการ โครงการมีลิฟต์ 4 ตัวค่ะ การเข้าออกเป็นระบบ Access Keycard และลิฟต์ล็อกชั้นค่ะ
ส่วนที่จอดรถชั้น 1 จัดไว้ส่วนด้านหลังค่ะ คอนโดนี้จะจัดชั้น 1 – ชั้น 5 เป็นที่จอดรถ จำนวนที่จอดรถประมาณ 283 คัน หรือ 35% ของจำนวนยูนิต ไม่รวมจอดซ้อนคัน ที่จอดรถไม่ฟิกซ์ห้อง ถนนรอบโครงการกว้าง 6 เมตรในโครงการวิ่งรถทางเดียวทั้งหมดโดยวนรถเข้าโครงการฝั่งซ้ายออกฝั่
ชั้น 6 เป็นพื้นที่ส่วนกลางค่ะ มีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 8 x 28 ม. เป็นสระเด็กกับผู้ใหญ่และมี Jacuzzi, สวน, ห้องซาวน่า มีบันไดขึ้นไป Fitness Center ที่ชั้น 7 ซึ่งมีที่นั่งพักผ่อนให้ด้วย
โดยชั้นนี้จะมียูนิตที่พักอาศัยอยู่ด้วยค่ะ ข้อดีของห้องพักในชั้นนี้ คือ คนอยู่จะรู้สึกเหมือนมีสระว่ายน้ำและพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆเป็นของตัวเอง เพราะไม่ต้องขึ้น-ลงลิฟท์มาใช้งาน เปิดประตูออกจากบ้าน เดินไปกระโดดลงสระได้เลย ถ้าเป็นคนไม่ชอบใช้ลิฟต์ก็พอใช้บันไดเดินขึ้นลงไปที่ล้อบบี้ได้ แถมยังมีความหนาแน่นต่ำด้วยเพราะชั้นนี้มียูนิตที่พักอาศัยแค่ 10 ห้อง แต่ก็จะมีข้อเสียคือจะเจอเสียงรบกวนจากพื้นที่ส่วนกลางและต้องใช้โถงลิฟต์ร่วมกับคนทั้งโครงการที่อาจเข้ามาใช้พื้นที่ส่วนกลางค่ะ
ใน Floor Plan นี้ เราวางไดอะแกรมทิศแดดและลมมาให้ดูเพิ่มนะคะ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ทิศทางลมของประเทศไทยส่วนใหญ่ลมจะมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้ ส่วนในหน้าหนาวลมจะมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้นห้องบริเวณทิศเหนือตะวันออก ( โซนยูนิต 605 – 609) จะได้รับแดดช่วงเช้าที่ไม่จัดมาก รวมทั้งได้รับลมในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ ขณะที่ห้องบริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ( โซนยูนิต 601 – 604 ) จะได้รับแดดช่วงบ่ายที่ร้อนกว่าอีกฝั่งค่ะ
ชั้น 7 ก็แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางค่ะ มี Fitness Center และที่นั่งพักผ่อน แต่ขึ้นลงทางชั้น 6 นะ หมายความว่าต่อให้คนที่อยู่ชั้น 7 จะใช้ Fitness ก็ต้องลงไปชั้น 6 ค่ะ เพื่อเดินขึ้นไปใช้ฟิตเนส
เพราะงั้นข้อดีของห้องพักในชั้นนี้ คือความหนาแน่นของยูนิตไม่สูงมาก คือมี 14 ยูนิตต่อชั้น และโถงลิฟต์ไม่มีคนชั้นอื่นๆมาใช้ มีเฉพาะคนที่พักชั้นเดียวกันเหมือนชั้นบนๆ แต่ก็จะมีข้อเสียคือจะเจอเสียงรบกวนจากพื้นที่ส่วนกลางอยู่ดี
ใน Floor Plan นี้ เราวางไดอะแกรมทิศแดดและลมมาให้ดูเหมือนเดิม เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น จากทิศทางลมและแดดที่อธิบายไปข้างต้น ห้องบริเวณทิศเหนือตะวันออก ( โซนยูนิต 705 – 713) จะได้รับแดดช่วงเช้าที่ไม่จัดมาก รวมทั้งได้รับลมในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ ขณะที่ห้องบริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ( โซนยูนิต 701 – 704, 714 ) จะได้รับแดดช่วงบ่ายที่ร้อนกว่าอีกฝั่งค่ะ
ชั้น 8 – 38 จริงๆนั้นมีผังเหมือนกันแทบทุกอย่างนะคะ ต่างกันแค่ส่วนห้องมุมทิศใต้ (ยูนิต 819, 820) ชั้นสูงๆหน่อยจะรวมเป็นยูนิตเดียว มียูนิตที่พักอาศัยชั้นละ 26 ห้องค่ะ
ห้องบริเวณทิศเหนือตะวันออก ( โซนยูนิต 805 – 818 จะได้รับแดดช่วงเช้าที่ไม่จัดมาก รวมทั้งได้รับลมในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ ขณะที่ห้องบริเวณทิศใต้และตะวันตกเฉียงเหนือ ( โซนยูนิต819, 801 – 804, 820 – 826 ) จะได้รับแดดช่วงบ่ายที่ร้อนกว่าอีกฝั่งค่ะ ตัว corridor หรือโถงทางเดินแจกแต่ละยูนิตนั้นวางตัวเป็นแนวยาวเหมือนตัวอาคาร ขณะที่มีช่องแสงธรรมชาติแค่สุดทางแต่ละฝั่ง ทำให้ต้องเปิดไฟที่โถงทางเดินตลอดเวลาค่ะ
ภาพโมเดลโครงการค่ะ จากทางเข้าโครงการด้านหน้า จะเห็น Lobby แบบ Double Volume อยู่ ส่วน 5 ชั้นล่างเป็นที่จอดรถ ชั้น 6 เป็นพื้นที่ส่วนกลาง และชั้น 7 ขึ้นไปจนถึงชั้น 38 เป็นส่วนยูนิตที่พักอาศัยค่ะ
ภาพทางเข้าด้านหน้า ออกแบบดีเทลงาน Landscape ไว้หมดแล้วรวมทั้งศาลพระภูมิด้วย
สระว่ายน้ำชั้น 6 ค่ะ คั่นหัวท้ายด้วยพื้นที่สีเขียว
ส่วนท้ายตึกเป็นสวน มีที่นั่งใต้อาคาร ที่สวนมีทางเดินเชื่อมระหว่างจุดล้างตัวกับสระว่ายน้ำ
ถ่ายให้เห็นที่นั่งข้างสระว่ายน้ำค่ะ จะเห็นบันไดทางขึ้นไป Fitnes Center อยู่
Fitness Center ชั้น 7 ค่ะ โมเดลโครงการทำมาละเอียดดีนะคะ มีใส่เครื่องออกกำลังกายมาให้ดูด้วย ไม่ได้มาเป็นห้องโล่งๆ
อันนี้ภาพจำลองมุมมองภายใน Fitness Center ค่ะ
ภาพจำลองมุมมองทางเข้าโครงการ
ภาพจำลองมุมมองสวนชั้น 6 กับศาลาไม้และที่นั่งพักผ่อน
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบเกลือ ขนาด 8 x 28 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
- Jacuzzi
- ซาวน่าและล็อกเกอร์แยกชายหญิง
- พื้นที่กิจกรรมการแจ้ง
- ห้องสันทนาการ
- Fitness Center
- WIFI (Lobby และส่วนกลางชั้น 6 – 7 )
- โถงรับแขก
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 4 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 203 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 38% ของจำนวนยูนิต ไม่ฟิกซ์ห้อง
- ระบบ CCTV
- Access Card และลิฟต์ล็อคชั้น
ห้องตัวอย่างมี 2 ห้องค่ะ เป็นแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมด โดยห้องแรกที่เราจะไปดูกันคือ Type A 26 ตารางเมตร
จากทางเข้าห้องเปิดมาจะห้องนั่งเล่น ตัวโซฟาและชั้นวางทีวีมีระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตร มีฉากกั้นห้องนอนมาให้ ในห้องนอนกว้างพอจะวางโต๊ะข้างเตียงและตู้เสื้อผ้ามาให้แต่ขนาดค่อนข้างเล็กค่ะ คนมีเสื้อผ้าเยอะๆไม่น่าจะพอ ส่วนครัวจะมีประตูบานเลื่อนแบบสองบานเปิดออกระเบียงค่ะ มีที่ให้วางโต๊ะแบบสองที่นั่งหันหน้าชนผนังได้ ระเบียงกว้างพอวางเครื่องซักผ้าได้ค่ะ ไปดูของจริงกันเลย
โครงการขายแบบ Fully Furnished นะคะ เฟอร์นิเจอร์ก็ได้ตามที่เห็นไม่รวมพร๊อพนะคะ เข้ามาในห้องก็จะเห็นส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนแบบนี้ค่ะ ช่องหน้าต่างที่ห้องนอนเป็นด้านล่างเป็นบานฟิกซ์ด้านบนเป็นหน้าต่างบานเลื่อนกระจกกรอบอลูมิเนียมสีดำ เป็นช่องนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ส่วนห้องนั่งเล่นด้วย พื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.5 m. พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ไฟได้เป็นดาวน์ไลท์ ผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว ไม่ได้ให้ม่านนะคะ เดี๋ยวไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะว่ามีอะไรบ้าง
เริ่มจากมุมห้องนั่งเล่นกันก่อน โซฟาเป็นแบบ 2 ที่นั่งหุ้มผ้าสีน้ำตาล ด้านข้างมีโต๊ะข้างที่เป็นที่วางรองเท้า และที่เสียบร่มด้วยค่ะ มีโต๊ะกาแฟเข้าชุดกันมาให้ เป็นชุดเฟอร์นิเจอร์จาก Starmark ค่ะ เดี๋ยวเรามาไล่ดูกันไปทีละส่วนเลย
ผนังข้างโซฟาได้ที่วางรองเท้าที่ท้อปด้านบนใช้วางของได้ และมีช่องเก็บของ เสียบร่ม เสียบม้วนกระดาษมาให้ ด้านบนเป็นชั้นลอยใช้เก็บของเพิ่ม พวกสติ๊กเกอร์ skyline สีฟ้านั่นติดไว้หมายความว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องด้วยค่ะ เฟอร์นิเจอร์ปิดผิวเมลามีนลายไม้สีอ่อนเข้ากับพื้นไม้ลามิเนตอย่างที่เห็นค่ะ
ตัวชั้นลอยมีบานเลื่อนกระจกสีดำ เลื่อนตัวบานเข้ามาจะเห็นว่าบังงานระบบไฟที่ติดผนังอยู่
โต๊ะกาแฟมีช่องวางนิตยสารมาให้
ชั้นวางทีวีค่ะ มีช่องเก็บของที่มีความลึกประมาณ 40 เซนติเมตร และกว้างพอวางทีวี 60 นิ้วได้สบายๆ
ด้านบนชั้นวางทีวีมีเครื่องปรับอากาศติดอยู่ เป็นของ Samsung ค่ะ
ไปดูส่วนห้องนอนกันต่อ ห้องนอนมีฉากกั้นห้องเป็นประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอน กระจกใสกรอบอลูมิเนียมสีดำ ฐานเตียงได้ตามที่เห็นค่ะ ไม่รวมฟูก หมอน ผ้าห่มนะคะ ส่วนฐานเตียงมีลิ้นชัก 1 จุด
ข้างเตียงกว้างประมาณ 35 เซนติเมตร วางโต๊ะข้างเตียงมาให้ ปลายเตียงกว้างพอๆกัน ที่ผนังมีที่แขวนเสื้อแขวนหมวกมาให้ ใช้ประโยชน์พื้นที่ผนังได้ดีค่ะ
โต๊ะเครื่องแป้งเป็นแบบติดผนังเพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอย ผนังด้านล่างมีเต้าเสียบไว้สำหรับเครื่องนวดหน้าหรือไดร์เป่าผม บานตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อน จะได้ไม่เกะกะเวลาเปิดใช้งาน
ไปดูส่วนครัวกันต่อ
ครัวเป็นครัวเปิด ได้ชุดครัวของ Starmark ไม่เน้นทำอาหารหนักนะคะ เพราะมันจะระบายกลิ่นลำบาก แล้วกลิ่นก็จะเข้ามาที่ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และออกไปยังโถงทางเดินรวมได้ง่ายแต่ก็สามารถกั้นห้องเพิ่มได้ไม่ยากค่ะ
เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวและเครื่องดูดควันของ MEX เคาเตอร์ครัวเป็นหินคว๊อซ ติดตั้งพร้อม Back Splash กระจกสีขาวนม
ตัวหน้าบานเปิดปิดทั้งหมดมี Soft close hinge แต่พอลองเปิดปิดดูคือต้องเปิดหน้าบานกว้างเกิน 45 องศานะคะ Soft close ถึงจะทำงาน ถ้าเปิดปิดต่ำกว่า 45 องศาจะปิดปึ้งหรือมีเสียงดังตามปกติค่ะ สังเกตตรงมุมด้านในของเซาะร่องบานเปิดเป็นอลูมิเนียมแบน มุมแหลมเชียว แบบนี้ถ้าก้มๆเงยๆไม่ทันระวังอาจทิ่มตาหรือเป็นอันตรายอื่นๆได้นะคะ แนะนำให้หาซิลิโคนมาหุ้มมุมหน่อยนะ
โต๊ะอาหารเป็นแบบ 2 ที่นั่งจัดเข้ามุมแบบนี้ เวลาใช้งานอาจมีศอกชนกันหรือชนผนังบ้างนะเพราะพื้นที่จำกัด ที่ครัวจะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงได้
พื้นกระเบื้องระเบียง ขนาด 30 x 30 ซม. สีตามนี้ค่ะ
ราวกันตกเป็นเหล็กกล่องทาสีดำ ด้านบนเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์เหมือนด้านใน เพดานระเบียงสูง 2.6 เมตรค่ะ ที่ระเบียงวางเครื่องซักผ้ามาให้ดูระยะค่ะ
เข้าไปดูห้องน้ำกันต่อนะคะ
ธรณีประตูห้องน้ำยกสูงขึ้นจากพื้นประมาณ 5 เซนติเมตร
ห้องน้ำเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป Brand Idol (บริษัทในเครือ Mogen) สุขภัณฑ์ใช้ Mogen ติดตั้งพร้อมฉากกระจกกั้นส่วนเปียกค่ะ
ไล่ดูกันจากอ่างล้างมือก่อน เป็นอ่างทรงสี่เหลี่ยมของ Mogen ที่มาพร้อมที่วางของด้านล่าง ด้านข้างผนังเป็นเต้าเสียบแบบมีฝาปิดกันน้ำสำหรับไดร์เป่าผมหรือเครื่องโกนหนวด
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบฝังผนังค่ะ จะเห็นว่ามีท่อระบายน้ำ 2 จุด คือที่ข้างโถสุขภัณฑ์และที่ส่วนเปียกในฉากกั้นห้องน้ำ
ฉากกั้นเป็นกระจกบานเลื่อนขอบเปลือย
หน้าตาฝักบัวอาบน้ำค่ะ
ที่เพดานติดสปริงเกอร์ ไฟดาวน์ไลท์และพัดลมดูดอากาศมาให้ พื้นถึงฝ้าเพดานห้องน้ำสูงประมาณ 2.3 เมตรค่ะ
ห้องตัวอย่างห้องที่ 2 เป็นแบบ 1 ห้องนอนเช่นกันกันคือ Type B 31 ตารางเมตร จุดที่ต่างกับแบบแรกคือห้องนอนเป็นผนังมีประตูเปิดปิด ไม่ใช่ฉากกั้นแบบห้องแรก และมีครัวปิด เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารมากกว่าแบบแรกค่ะ จากทางเข้าห้องเปิดมาจะห้องนั่งเล่น ตัวโซฟาและชั้นวางทีวีมีระยะดูทีวีประมาณเกือบ 3 เมตร ในห้องนอนกว้างพอจะวางโต๊ะข้างเตียงและตู้เสื้อผ้ามาให้ขนาดใหญ่ขึ้นหน่อย และมีที่พอวางทีวีปลายเตียงได้ ส่วนครัวจะมีประตูบานเลื่อนแบบสองบาน จุดแรกกั้นระหว่างครัวกับห้องนั่งเล่น จุดที่สองเปิดออกระเบียงค่ะ ระเบียงกว้างพอวางเครื่องซักผ้าได้ค่ะ เราไปดูของจริงกันเลย
ห้องตัวอย่างห้องนี้ใช้สเป็ควัสดุทุกอย่างเหมือนๆกันกับห้องแรกค่ะ และเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดจาก Starmark เหมือนกัน โดยเปิดประตูห้องเข้ามาภาพเเรกที่เห็นจะเป็นแบบนี้ค่ะ จะเห็นห้องนั่งเล่นและประตูทางเข้าห้องนอนและครัว ซ้ายมือของเราหลังชั้นวางทีวีเป็นห้องน้ำ ขวามือตรงข้ามชั้นวางทีวีเป็นมุมห้องนั่งเล่น ซึ่งเดี๋ยวเราจะค่อยๆไล่อธิบายไปทีละส่วนนะคะ
โซฟาที่ได้เป็นแบบ 2 ที่นั่ง หุ้มผ้าสีน้ำตาลเบาะเดียวค่ะ โต๊ะกาแฟด้านข้างทำเป็นช่องใช้วางของเพิ่มได้ มีโต๊ะข้างสีน้ำตาลจัดมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ
ชั้นวางทีวีค่ะ มีช่องเก็บของที่มีความลึกประมาณ 40 เซนติเมตร และกว้างพอวางทีวี 60 นิ้วได้ ด้านบนชั้นวางทีวีมีชั้นวางของมาให้แบบเดียวกับห้องตัวอย่างห้องแรกค่ะ ประตูเข้าห้องน้ำอยู่ทางขวามือของชั้นวางทีวี
ห้องน้ำเป็นห้องน้ำสำเร็จรูปเหมือนกันกับห้องแรกทุกอย่างค่ะ คือเป็นของ Brand Idol (บริษัทในเครือ Mogen) สุขภัณฑ์ใช้ Mogen ติดตั้งพร้อมฉากกระจกกั้นส่วนเปียก
ส่วนทานอาหารจัดมาเป็นแบบโต๊ะกลม ผสมเก้าอี้ 2 แบบ คือแบบเก้าอี้ทานอาหารหุ้มหนังเทียมสีดำ 1 ตัว และเก้าอี้กึ่งโซฟามีพนักพิงหลังนั่งได้ 2 คน (แต่ต้องตัวเล็กๆหน่อยนะ ถ้าคนตัวใหญ่นั่งคนเดียวก็เต็มค่ะ) มาให้
ด้านล่างของโซฟามีช่องเก็บของมาให้ด้วยค่ะ
ถัดมาเป็นส่วนครัวปิด มีฉากกั้นห้องมาให้ ได้ชุดครัวแบบเดียวกันกับห้องตัวอย่างห้องแรกทุกอย่างค่ะ แต่จัดส่วนตู้เย็นไว้ซ้ายมือ
ออกไปดูระเบียงด้านนอกกันต่อ ใช้วัสดุเหมือนห้องตัวอย่างแรกทุกอย่างค่ะ
ออกไปซ้ายมือจะเห็นกระจกเข้ามุมของห้องนอน ขวามือวางเครื่องซักผ้ามาให้ดูเหมือนเดิม
เข้าไปดูห้องนอนกันต่อเลย ด้านหน้าห้องนอนต่อชั้นเก็บของติดผนังมาให้ดูเป็นไอเดีย ของจริงไม่ได้นะคะ
ห้องนอนเป็นสัดเป็นส่วนมีที่พอวางของได้ค่อนข้างครบ ทั้งตู้เสื้อผ้า เตียง โต๊ะเครื่องแป้ง และชั้นวางทีวี ไล่ดูกันไปทีละจุดนะคะ
จะเห็นว่าที่ปลายเตียงมีระยะประมาณ 60 เซนติเมตร วางชั้นวางทีวีได้ค่ะ ผนังด้านข้างจัดมาเป็นชุดหน้าต่างบานเลื่อนเหมือนห้องแรก และได้หน้าต่างกระจกเข้ามุมเพิ่มมาอีกชุด
ระยะข้างเตียงกว้างประมาณ 40 เซนติเมตรและทำโต๊ะเครื่องแป้งแบบติดผนังมาให้ และตู้เสื้อผ้าห้องนี้มาเป็นแบบบานเปิดค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ห้อง Type C เป็นห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 42 ตารางเมตร ห้องนี้ได้เป็น Fully Furnished เช่นกันนะคะ แต่จะไม่ได้เครื่องเรือนในห้องนอนเล็กหรือ Bedroom 2 นะ ข้อดีของผังห้อง Type C คือเป็นห้องหน้ากว้างค่ะทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น รวมถึงพื้นที่ด้านในจะได้แสงธรรมชาติค่อนข้างทั่วถึงนะคะ ห้องนี้มีระเบียงอยู่ติดห้องนั่งเล่น ครัวมาเป็นแบบเปิดค่ะ พื้นที่การใช้งานแต่ละส่วนจัดมาค่อนข้างลงตัวดีและวางฟังก์ชั่นได้ครบค่ะ ห้องน้ำมีห้องเดียว มีประตู 2 บานคือเปิดจากห้องนอนและเปิดจากห้องนั่งเล่น
ห้อง Type D เป็นห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 44 ตารางเมตร ห้องนี้จัดเหมือน Type C แทบทุกอย่างค่ะ แต่ได้พื้นที่ด้านกว้างเพิ่มขึ้นนั่นเอง
ห้อง Type E เป็นห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 59.37 ตารางเมตร ห้องนี้จัดเหมือน Type C แทบทุกอย่างค่ะ แต่มีห้องน้ำเพิ่มมาอีกห้องและขนาดห้องที่ใหญ่กว่าทำให้การใช้งานพื้นที่ในห้องมีเยอะขึ้นและลงตัวขึ้นค่ะ เช่นส่วนห้องนั่งเล่นจัดเป็นรูปตัว L ได้ ได้ชุดครัวรูปตัว L และห้องนอนเล็ก (หรือ Bedroom 2 ไม่ได้เครื่องเรือนเหมือนเดิมนะ)นั้นสามารถจัดเตียงคู่ลงได้สบายๆค่ะ ห้องนี้เฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะไม่ได้ปิดผิวเมลามีนลายไม้สีอ่อนแบบห้องอื่นๆนะ แต่จะได้เป็นวัสดุปิดผิวไฮกรอสสีขาวมาแทนค่ะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 19 September 2014
- 1 Bedroom Type A ชั้น 8 เนื้อที่ 25.65 ตร.ม. ราคา 1.86 ล้านบาท หรือ 72,539 บาท/ตร.ม. จอง 10,000 บาท ทำสัญญา 40,000 บาท
- 1 Bedroom Type B ชั้น 6 เนื้อที่ 30.4 ตร.ม. ราคา 2.17 ล้านบาท หรือ 71,533 บาท/ตร.ม. จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 40,000 บาท
- 2 Bedroom Type C ชั้น 6 เนื้อที่ 41.93 ตร.ม. ราคา 3.00 ล้านบาท หรือ 71,524 บาท/ตร.ม. จอง 30,000 บาท ทำสัญญา 50,000 บาท
- 2 Bedroom Type E ชั้น 20 เนื้อที่ 59.37 ตร.ม. ราคา 5.34 ล้านบาท หรือ 90,017 บาท/ตร.ม. จอง 40,000 บาท ทำสัญญา 60,000 บาท
- Fully Furnished
- เพดานสูง 2.5 เมตร
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลของโครงการ Skyline รัตนาธิเบศร์ อยู่ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ สำหรับคนไม่ใช้รถก็สามารถเดินไปขึ้น MRT แยกนนทบุรี ได้ในระยะเดินสบายๆประมาณ 200 เมตร ขณะที่ถ้าจะขึ้นรถเมล์ก็มีป้ายรถเมล์อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 160 เมตรค่ะ รอบๆโครงการในระยะเดิน ก็จะเป็นร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง, โชว์รูมรถยนต์, ปั๊มแก๊ส และห้างขายอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้านอย่าง Grand Home Mart ค่ะ ของกินแถวนี้ใกล้ๆโครงการไม่มีอะไรมากนัก ร้านอาหารทะเลริมทางที่อยู่ติดโครงการก็ดูจะเป็นร้านที่เน้นเปิดช่วงค่ำมากกว่า
การเดินทางด้วยรถยนต์ค่อนข้างสะดวกในโซนนนทบุรีค่ะ ข้อดีคือ สามารถข้ามสะพานไปอีกฝั่งนึงได้ง่าย เพราะมีสะพานพระนั่งเกล้า กับสะพานพระราม 7 อยู่ใกล้ๆ มีทางเลี่ยงทางลัดไปใช้ถนนข้างเคียงได้พอสมควร แต่ข้อเสียของถนนรัตนาธิเบศร์ก็คือ รถติด เช่น ที่แยกแคราย, แยกพงษ์เพชร และ ช่วงด่านเก็บเงินขึ้นทางด่วน เพราะตลอดทาง มีทั้งสำนักงาน, โรงเรียน, มหาวิทยาลัย และห้างสรรพสินค้า และข้อเสียอีกอย่างหนึ่งของโครงการนี้ในเรื่องการขับรถ ก็คือที่จอดรถที่มีแค่ 35% ซึ่งอาจจะไม่พอเพียงกับคนในโครงการค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ ในระยะเดินเท้าถือว่าไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ หาของกินยาก ไม่ค่อยมีร้านค้า ไม่มีชุมชนใหญ่ๆ เพราะเป็นถนนที่คนใช้สัญจรมากกว่า ที่อยู่ใกล้ๆหน่อยจะมีห้างเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ (~ 700 m.), Big C รัตนาธิเบศร์ (~ 1.4 km.) และ เอสพลานาด แคราย (~ 3.4 km.) ซึ่งถ้าเปลี่ยนจากระยะเดินเป็นระยะขับรถความอุดมสมบูรณ์จะเพิ่มขึ้นมากพอสมควรเลย เพราะใกล้ๆนี้มีห้างใหญ่ๆอยู่หลายที่ไม่ต้องเข้าไปในเมืองไกลๆ
สำหรับตัววัสดุอุปกรณ์ที่ให้มาของโครงการนี้ เทียบกับราคาในช่วง 70,000 บาทต่อตารางเมตร ได้ Fully Furnished ก็ถือว่ามาตรฐานถึงค่อนข้างดีเลยค่ะ ได้ชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์จาก Starmark ซึ่งช่วนเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้เยอะ ได้แอร์จาก Samsung มีฉากกั้นห้องประตูกระจกบานเลื่อนกับตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in มาให้ พื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.5 m. พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ไฟได้เป็นดาวน์ไลท์ ผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาว ห้องน้ำเป็นห้องน้ำสำเร็จใช้สุขภัณฑ์แบรนด์ Mogen
การออกแบบโครงการ จำนวนยูนิต 810 กว่ายูนิต, 26 ยูนิตต่อชั้น, อัตราส่วนลิฟท์ประมาณ 203:1 ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 3 ไร่ก็ถือว่าหนาแน่นพอสมควร และที่จอดรถให้มาน้อยไปหน่อยคือแค่ 38% เท่านั้น อาจมีแย่งที่จอดกันได้ ตัวห้องตัวอย่างทำ Layout ออกมาค่อนข้างโอเค วางตำแหน่งเฟอร์ไว้ค่อนข้างลงตัว ได้ฟังก์ชั่นครบดี
สาธารณูปโภค และ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆของโครงการมีสระว่ายน้ำระบบเกลือแบ่งสระเด็กลึกสระผู้ใหญ่ , Jacuzzi, ซาวน่าและล็อกเกอร์แยกชายหญิง, พื้นที่กิจกรรมการแจ้ง, ห้องสันทนาการ, Fitness Center , ระบบ CCTV, Access Card และลิฟต์ล็อคชั้น ที่ดูจากโมเดลก็ดูน่าใช้งานดีแต่ว่าด้วยความที่มีจำนวนยูนิตเยอะ คนที่จะมาใช้ Facilities เหล่านี้ก็จะมีเยอะตามไปด้วย ซึ่งอาจจะพอก็ได้ ไม่พอก็ได้ ทั้งนี้ต้องรอดูหลังจากโครงการสร้างเสร็จและมีคนเข้าอยู่ไปแล้วค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 70,000 บาทต่อตารางเมตร, 19 September 2014
- ทำเล 7.5 /10 – ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ ห้างเยอะ แต่ของกินรอบๆโครงการหายาก
- เดินทางด้วยรถ 7.75 /10 – สะดวกในบริเวณนนทบุรี ข้ามสะพานง่าย แต่รถติด ไกลจากตัวเมืองพอควร ที่จอดรถมีน้อยไปหน่อย
- ไม่ใช้รถ 8.0/10 – ระยะ 200 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง (แต่ถ้าจะเข้าเมืองต้องเผื่อเวลาไว้อยู่ดีประมาณครึ่งชั่วโมง)
- วัสดุ 7.75/10 – วัสดุที่ได้อยู่ระดับมาตรฐานค่อนข้างดี ได้มาเป็นแบบ Fully Furnished ซึ่งตัวเฟอร์นิเจอร์ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในห้องได้ดี
- แบบ 8.0/10 – ห้องตัวอย่างจัดเฟอร์ค่อนข้างลงตัว แต่ขนาดโต๊ะกินข้าวจะเล็กไปหน่อย
- สาธารณูปโภค 7.25/10 – ที่จอดรถเพียง 38% ถือว่าค่อนข้างน้อย และความหนาแน่นของโครงการสูง
- MAIN CLASS
- 7.73 / 10.00
BOTTOM LINE
Skyline รัตนาธิเบศร์ เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับคนที่ทำงานอยู่ในโซน นนทบุรี-รัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน มองหาบ้านที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง หวังพึ่งพาความสะดวกของรถไฟฟ้าเส้นใหม่ในการเดินทางในชีวิตประจำวัน ในขณะเดียวกัน ก็อยากจะได้ความสะดวกสบายจากห้างสรรพสินค้า ที่อยู่ในทำเลใกล้เคียง ในระยะที่ขับรถไปได้ไม่ไกล ในงบประมาณ 1 ล้านต้นๆ
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ