รีวิวโครงการ

Rich Point @BTS วุฒากาศ | ขึ้นบ้านใหม่ [EP.13]

17 ตุลาคม 2024

อ่านรีวิวล่าสุด

Rich Point @BTS วุฒากาศ

รีวิวฉบับที่ 1971 ,, วันนี้ผมมีโครงการติดแนวรถไฟฟ้าชนิดที่ว่าทางขึ้นลงอยู่หน้าโครงการมาให้ชมกันครับ กับ… Rich Point @BTS วุฒากาศ คอนโด High Rise 32 ชั้น บนถนนราชพฤกษ์ ติด BTS วุฒากาศ แบบ 0 เมตร ภายในจะเน้นไปที่ห้องแบบ 1 Bedroom มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 6 และชั้นดาดฟ้า ในราคาเริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท 1.89 ล้านบาท (Update 07/05/21) ตามผมเข้าไปดูรายละเอีดยเพิ่มเติมกันเลยครับ

Fact @ 23 October 2019

  • Rich Point @BTS Wuttakad (ริชพอยท์ แอท บีทีเอส วุฒากาศ)
  • Richy Place 2002
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถนนราชพฤกษ์ เขตธนบุรี
  • ที่ดินประมาณ 2-3-59 ไร่
  • คอนโด High Rise 32 ชั้น 792 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 28 ยูนิต ที่ชั้น 7-32
  • ที่จอดรถประมาณ 316 คัน คิดเป็น 40% ไม่รวมซ้อนคัน
  • เริ่มก่อสร้าง :  2563
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 2565
  • Studio 26-27 ตร.ม. จำนวน 93 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท 1.89 ล้านบาท (Update 07/05/21) 
  • 1 Bedroom 28-30 ตร.ม. จำนวน 402 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 32-34 ตร.ม. จำนวน 93 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท 1.89 ล้านบาท (Update 07/05/21)
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 85,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1343 #9

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.712454, 100.469812
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการครับ

ทำเลที่ตั้งผมขอพูดจากภาพรวมๆของย่านนี้กันสักหน่อยนะครับ ย่านวุฒากาศจริงๆแล้วเป็นย่านของชุมชนที่คึกคักเลยล่ะ ถนนวุฒากาศ เป็นเส้นที่ต่อมาจากถนนเทอดไท บริเวณนี้เป็นแหล่งชุมชน ทั้งบ้านเดี่ยว ห้องแถวไม้กึ่งปูนซะส่วนใหญ่ เปิดเป็นร้านค้าร้านอาหารตามรายทาง ซึ่งเรามักจะพบห้องแถวแบบนี้แถวๆวงเวียนใหญ่ บางยี่เรือ ไล่มาเทอดไท แทบจะไม่มีหมู่บ้านจัดสรรเลย ส่วนถนนจะเป็นถนน 4 เลนส์ ไปกลับข้างละ 2 ไม่มีเกาะกลาง มีทางเท้าด้านข้างให้ ตั้งแต่วงเวียนใหญ่ขยับเข้ามา สิ่งที่ตามมากับแหล่งชุมชนคือตลาดและวัด การจับจ่ายใช้สอยในตลาดแถวๆนี้ ยังมีกันอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะตลาดเวลาเช้า ส่วน”ตลาดพลู” ซึ่งเป็นแหล่งของกินอร่อยๆ ตลาด และสถานีรถไฟ เป็นจุดความเจริญไม่ไกลวุฒากาศ

ทั้งนี้ตัวโครงการของเราไม่ได้ตั้งอยู่บนถนนวุฒากาศนะ แต่อยู่บนถนนราชพฤกษ์ใกล้แยกที่ตัดกับถนนวุฒากาศ ซึ่งก็สามารถพูดได้ว่าโครงการของเราอยู่ในย่าน “วุฒากาศ” และเป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินที่ใกล้ที่สุดครับ

ทำเลที่ตั้งโครงการ Rich Point @ BTS วุฒากาศ ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ ช่วงเชื่อมต่อกับถนนกรุงธนบุรี และถนนเพชรเกษม เนื่องจากถนนราชพฤกษ์เป็นถนนที่มีความยาวเชื่อมต่อจากสาทรไปจนถึงบางบัวทอง ทำให้ตัดผ่านถนนสายสำคัญค่อนข้างเยอะ โดยพื้นที่โครงการจะอยู่ในช่วงที่มีความเจริญพอสมควร เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างฝั่งธนบุรีและฝั่งสาทร พระราม 4 (เข้าเมือง) ทำให้พื้นที่โดยรอบนั้นมีทั้งความเจริญที่ได้รับมาจากฝั่งในเมือง และยังมีความสงบเงียบและความเป็นเอกลักษณ์ของแหล่งชุมชนในฝั่งธนฯ

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัว ต้องบอกว่าการเข้าออกโครงการจะยากเล็กน้อย เพราะที่ตั้งอยู่ใต้ทางยกระดับซึ่งออกจากโครงการมาจะต้องบังคับให้ไปกลับรถใต้สะพาน จากนั้นก็เป็นทางบังคับให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวุฒากาศฝั่งมุ่งหน้าไปถนนเทอดไท หรือถ้าจะพูดง่ายๆคือการเดินทางออกจากโครงการไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะต้องไปเริ่มที่ถนนวุฒากาศและเทอดไทก่อน

ซึ่งถ้าเราจะออกจากโครงการไปยังถนนราชพฤกษ์ฝั่งมุ่งหน้าเข้าถนนเพชรเกษมก็จะต้องไปกลับรถไกลถึงถนนเทอดไทเลยทีเดียว รวมแล้วมีระยะประมาณเกือบ 4 กิโลเมตร

แต่ด้วยทำเลแล้วก็ต้องยอมรับว่าจุดเด่นของโครงการไม่ใช่เรื่องของการเดินทางด้วยรถยนต์ซะเท่าไหร่ แต่ถ้าใครที่มีรถแล้วจะนำมาใช้ก็ควรจะต้องรู้ถึงประเด็นการเข้าออกโครงการในส่วนนี้ไว้ก่อนนะครับ ส่วนพื้นที่อื่นๆโดยรอบมีเส้นทางเชื่อมต่อถนนสายสำคัญเยอะพอสมควร เช่นสามารถใช้ถนนเทิดไทไปยังตลาดพลู วงเวียนใหญ่ วุฒากาศ ซึ่งเป็นย่านการค้าเก่าแก่ชื่อดังของพื้นที่ ส่วนใครที่วิ่งออกเมืองไปทางนครปฐมต่างๆ ใช้ถนนเพชรเกษมวิ่งตรงไปได้ง่ายเลยครับ 

การเดินทางด้วยรถสาธารณะต่างหาก ที่ถือเป็นไม้ตายของทางโครงการนี้อย่างแท้จริง เพราะอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีวุฒากาศ แบบ 0 เมตร มีทางขึ้นลงสถานีอยู่ที่หน้าโครงการเลย และในอนาคต BTS วุฒากาศจะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเข้ม รวมไปถึงเส้นทางรถไฟฟ้าในพื้นที่โดยรอบจะมีจุด Interchange ของรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเข้ม และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่สถานีบางหว้า ห่างจากสถานีวุฒากาศเพียง 1 สถานีเท่านั้นครับ นอกจากนั้น หากรถไฟฟ้าอยู่ในระยะ 0 เมตร พี่วินมอเตอร์ไซค์ก็อยู่แบบ 0 เมตรเช่นกัน เพราะมีตำแหน่งอยู่ที่ทางขึ้นลง BTS หน้าโครงการเช่นกัน รวมไปถึงแท็กซี่ที่ผ่านไปมาตลอด เพราะต้องมากลับรถใต้สะพาน จัดว่าเป็นจุดเด่นในเรื่องของทำเลนี้อย่างแท้จริง

นอกจากร้านค้าที่จะมีภายในโครงการ 2 ยูนิตแล้ว (ทางโครงการจะปล่อยขายให้ผู้ประกอบการสามารถเข้ามาซื้อเปิดเป็นร้านค้าร้านอาหารได้) ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินจะมีตลาด Exit 2 ติด BTS วุฒกาศ ที่จะเปิดเป็นร้านค้าต่างๆตอนช่วงเย็นๆ หรือจะไปทางฝั่งถนนวุฒากาศก็มีร้านค้าร้านอาหารให้ใช้บริการได้ในระยะเดิน ส่วนพื้นที่โดยรอบโครงการรายล้อมด้วยบ้านพักอาศัยซึ่งเป็นชุมชนดั้งเดิมของพื้นที่ ก็มีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร เช่น วัด ตลาด โรงเรียน โรงพยาบาล โดยแหล่งความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้ที่อยู่ใกล้ๆจะมีจุดใหญ่ๆ อยู่หลายจุดเหมือนกัน เช่น ตลาดพลู เป็นตลาดเก่าแก่ขนาดใหญ่ของย่านนี้ที่มีร้านอาหารอร่อยๆ หลากหลายร้าน ปัจจุบันเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวไปในตัว ช่วงเช้าๆ อาหารอร่อยและราคาไม่แพงด้วยครับ

ส่วนอีกโซนคือ เดอะมอลล์ท่าพระ เป็นอีกหนึ่งแหล่งใหญ่ที่มีความคึกคักสูง เพราะนอกจากจะมีห้างไว้ให้เดิน Shopping ใกล้ๆ แล้วนั้น ยังเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ของคนในละแวกนี้ด้วย ทำให้พื้นที่รอบข้าง เราจะเห็นเต้นท์อาหารต่างๆ ตลาดนัด ในช่วงกลางวันจะคึกคักมาก ไปทางฝั่งถนนราชพฤกษ์ ก็มีโซนบางหว้าที่มีตลาดและแหล่งของกินมากมาย หากเลยไปยังถนนราชพฤกษ์ด้านบนอีกหน่อยจะมีพวกร้านอาหาร bar & restaurant ให้เลือกไปลิ้มลองกันหลากหลายทีเดียว อีกจุดหนึ่งคือทางฝั่งถนนเพชรเกษม ที่จะมีซีคอน บางแค และ เดอะมอลล์บางแค ให้บริการอยู่ไม่ไกลครับ ส่วนทางถนนกัลปพฤกษ์ ก็มี Metro West Town ให้ไปเดินเล่น ทานอาหารได้ครับ

เนื่องจากตัวโครงการเราอยู่ติด BTS แบบ 0 เมตร การเดินทางไปโครงการวันนี้เลยจะง่ายหน่อยนะครับ เมื่อเราลงจากขบวนรถไฟฟ้า BTS สถานีวุฒากาศ ให้เราออกมาที่ทางออกหมายเลข 4 ก็จะมองเห็นตัวโครงการตั้งแต่อยู่ด้านบนสถานีเลย

ทางออกหมายเลข 4 จะเป็นการต่อเติม Sky Walk ออกไปจากตัวสถานีที่ยาวสักหน่อยนะครับ

เดินมาจะเห็นว่าต่อเติมมาค่อนข้างยาว ให้ไปถึงแยกที่ถนนวุฒากาศตัดกับถนนราชพฤกษ์เลย

เมื่อเดินมายังทางออกหมายเลข 4 แล้วพบทางลง ก็จะเห็นตัวโครงการของเราอยู่ด้านข้างสถานีเลยล่ะครับ

เมื่อเราเดินลงมาจะมีพี่วินรอให้บริการอยู่ด้วยนะ สำหรับใครที่เดินทางไปบริเวณแถวนี้ก็สะดวกเลย เพราะตำแหน่งนี้ถือเป็นวินหน้าโครงการของเราด้วยเลย

เมื่อลงมาให้เราเลี้ยวซ้ายเขาซอยวุฒกาศ 26 นะครับ ตรงนี้จะเป็นสะพานข้ามคลองเล็กๆนะ

จากนั้นจะพบตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือเลย ปัจจุบันถ้าจะมา Sale Gallery ให้มาทางนี้นะครับ ในอนาคตเส้นทางนี้จะถูกปิด และโครงการจะเปิดทางเข้าจากถนนราชพฤกษ์โดยตรงเลย บริเวณใต้ทางลงเมื่อสักครู่นี้แหละครับ

ถ้าใครนึกภาพไม่ออก ผมจึงลองทำภาพจำลองคร่าวๆมาให้ดูครับ ก็จัดว่าเป็นโครงการติดถนนใหญ่ที่มีเส้นทางเข้าออกจากถนนราชพฤกษ์เลย

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

มาดูพื้นที่รอบๆโครงการกันบ้าง ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่อย่างราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นถนนขนาดใหญ่หลายเลน แถมยังมีรถไฟฟ้าอีกด้วย บริบทรอบๆทางทิศอื่นของโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบทั้งหมด ตัวอาคารมีลักษณะเป็นตัว L ซึ่งไม่ได้ตั้งรับวิวทิศเหนือใต้เป็นหลัก จึงทำให้มีวิวส่วนใหญ่ทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศตะวันออกเฉียงใต้  ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงใต้แทนนะครับ ลองไปดูแต่ละทิศกันเลย

  • ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ – ด้วยความที่เป็นทิศที่ติดถนนใหญ่ และแนวรถไฟฟ้า แน่นอนครับ ต้องสงผลเรื่องเสียงและฝุ่นบ้างแหละ ห้องพักอาศัยชั้นล่างๆในทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเราน่าจะได้รับผลกระทบเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่จะได้วิวที่มีความคึกคักของถนนวุฒากาศและเทอดไทยเข้ามาให้ชมเหมือนกัน
  • ทิศตะวันออกเฉียงใต้ – จะได้วิวค่อยข้างโล่งทางฝั่งถนนวุฒากาศ เพราะระยะประชิดเป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น
  • ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ – วิวฝั่งนี้เป็นทิศเดียวเลยที่มีอาคารสูงในระยะไม่ถึง 1 กิโลเมตร คือโครงการ The Tempo Grand วุฒากาศ แต่ก็มีระยะห่างพอสมควร และอีกอย่างจะได้วิวของพื้นที่ส่วนกลางมาทดแทน ชั้นที่ใกล้กับชั้น 6 (ชั้น Main Facilities) อาจจะได้ผลกระทบเรื่องเสียงไปบ้างนะครับ และจะเห็นห้องพักอาศัยอื่นๆที่เป็นช่วงตัว L ของอาคาร ซึ่งอาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง
  • ทิศตะวันตกเฉียงใต้ – เป็นทิศที่ได้วิวโล่งและวิวพื้นที่ส่วนกลางด้วย แต่ก็จะเห็นห้องพักอาศัยอื่นๆที่เป็นช่วงตัว L ซึ่งอาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง

ลองมาเดินดูพื้นที่รอบๆโครงการกันครับ ขอเริ่มที่ซอย วุฒากาศ 26 ที่อยู่ข้างๆโครงการกันก่อนเลย

หลังจากโครงการสร้างเสร็จจะปิดทางเข้าออกทางฝั่งนี้ไปนะ ซอยนี้เป็นซอยที่ค่อนข้างแคบ แต่สามารถทะลุไปออกถนนวุฒากาศได้นะ

พื้นที่ติดกับรั้วด้านหลังโครงการคืออาคารพักอาศัย 3 ชั้น

ภายในจะมีบริบทเป็นบ้านพักอาศัยซะส่วนใหญ่ จึงจะค่อนข้างเงียบสงบโดยทั่วไปแล้วก็ ไม่ค่อยส่งผลกระทบอะไรกับทางโครงการมากนัก

แต่ที่จะมีผลกระทบบ้างคือโรงเรียนวัดใหม่ยายนุ้ย ที่อาจจะมีการใช้รถของผู้ปกครองในการรับส่งบุตรหลานบ้างในช่วงเวลา เข้าออกโรงเรียน

ฝั่งตรงข้ามโครงการเลยคือสวนสาธารณะใต้ทางยกระดับ จะเปิดให้ใช้งานในช่วง 5.00 – 21.00 และมีกฎเกณฑ์ต่างๆเขียนไว้ค่อนข้างชัดเจน

ลองเดินเข้าไปดูสภาพและบรรยากาศก็ค่อนข้างเรียบร้อยดีนะครับ มีไฟส่องสว่างให้ แต่แอบเห็นคนมานอนตามม้านั่งเหมือนกัน

ทีนี้เราลองเดินไปดูพื้นที่ด้านข้างกันบ้าง ไปทางฝั่งบางหว้ากันก่อนเลยนะครับ ใต้แนวรถไฟฟ้า BTS

จะมีทางเดินให้ค่อนข้างชัดเจน มีไฟให้ในเวลากลางคืน เป็นพื้นที่โล่ง

ส่วนบนถนนก็จะมีสวนสาธารณะอยู่ด้านข้าง มีร่องระหว่างรางรถไฟฟ้าและทางยกระดับเพื่อให้เกิดช่องแสงด้านล่าง

แต่อย่างที่บอกไปในส่วนของการเดินทางด้วยรถยนต์นะครับ ว่าพื้นที่โครงการเราอยู่ติดถนนราชพฤกษ์ที่เป็นพื้นที่กลับรถใต้สะพาน ทำให้การออกจากโครงการจะต้องบังคับให้กลับรถแน่นอน และเมื่อกลับรถไปก็จะถูกบังคับให้เลี้ยวขวาเข้าถนนวุฒากาศ

สวนสาธารณะนี้ก็จะยาวมาจนถึงทางกลับรถใต้สะพานเลย

แต่ถ้าเดินเท้าตรงต่อมาจะพบกับคลองบางขุนเทียน เราสามารถไปต่อได้นะ เพราะมีสะพานข้ามคลองมาให้

ส่วนนี้เป็นสะพานที่สามารถนำจักรยานข้ามได้สะดวกด้วย

เป็นคลองขนาดใหญ่ ไม่ส่งกลิ่นนะ ไม่ต้องห่วง

เมื่อข้ามสะพานมาก็จะเจอกับพื้นที่กว้างขนาดใหญ่ จะเห็นคนนำจักรยานยนต์มาจอดกันเยอะ เพราะใช้รถไฟฟ้าต่อนั่นเอง

มีทางเดินให้ด้านข้างใต้แนวรางรถไฟฟ้า ไม่ต้องกังวลแดดและฝน

ทางฝั่งนี้ก็จะเป็นทางกลับรถใต้สะพานของอีกฝั่งเช่นกัน

มีรถแท็กซี่มาจอดรอให้บริการมากมาย การเดินทางสาธารณะนั้นมีให้ใช้ค่อนข้างสะดวกและครบครันเลย

เดินมาอีกหน่อยด้านข้างจะมีตลาด Exit 2 ซึ่งจะตั้งติดกับทางออกหมายเลข 2 ของ BTS สถานีวุฒากาศ

ภายในจะรวบรวมร้านค้าต่างๆ ให้มาใช้บริการกันได้

มาดูฝั่งตรงข้ามกันบ้าง บริเวณหน้าโครงการเพียงข้ามถนนมาจะมีวินมอเตอร์ไซค์อีกวิน ถือเป็นวินที่ใกล้กันมาก  ไม่ต้องกลัวไม่มีใช้เลยล่ะ

ลองเดินต่อไปทางฝั่งถนนวุฒากาศกันบ้างนะ บริเวณนี้อยู่ใต้ Sky Walk ของ BTS วุฒากาศ มีไฟให้ และไม่ต้องกังวลฝนเช่นกัน

พื้นที่หน้าโครงการบริเวณนี้ในอนาคตจะถูกทำเป็นทางเข้าออกโครงการนะครับ

ลองเดินไปดูต่อไปกัน

เมื่อเดินมาอีกนิดจะมีทางขึ้น BTS อีกจุด แต่เราใช้จุดที่ผมพามาโครงการจะใกล้กว่านะ

หลังทางขึ้นก็มีพี่วินให้บริการอีกจุดด้วย เรียกได้ว่าหน้าโครงการมีพี่วินที่ใกล้ๆกันถึง 3 จุดเลยทีเดียว

เดินต่อมาจะมีทางเท้าเชื่อมต่อไปยังแยกราชพฤกษ์-วุฒากาศ

บริเวณนี้จะเป็นแยกราชพฤกษ์-วุฒากาศ ซึ่งจะมีทางม้าลายให้บริการครับ ภายในถนนวุฒากาศก็มีร้านค้า ร้านอาหารให้บริการมากมายในระยะเดินเช่นกัน

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • The Mall ท่าพระ
  • รพ.บางขุนเทียน1
  • รพ.บางไผ่
  • ม.สยาม
  • Big C ดาวคะนอง
  • รร.จินดามณี
  • Seacon Square บางแค
  • เอเชียทีค
  • รร.นานาชาติบริชติชโคลัมเบีย
  • Sena Fest
  • Icon Siam
  • รร.นานาชาติโชรส์เบอรี่
  • รร.ฐานปัญญา
  • โรบินสัน บางรัก
  • รร.ผดุงกิจวิทยา
  • รร.อัสสัมชัญ
  • รร.เซนต์ปีเตอร์ธนบุรี
  • The Mall บางแค
  • Food villa ราชพฤกษ์
  • Central Plaza พระราม 2
  • The Circle ราชพฤกษ์
  • รร.แม่พระประจักษ์


เจาะลึกตัวโครงการ

ตัวโครงการ The Rich Point @BTS วุฒากาศ เป็นโครงการติดถนนใหญ่และแนวรถไฟฟ้า เป็นอาคาร High Rise สูง 32 ชั้น ออกแบบมาในสไตล์ Modern มีทั้งหมด 792 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต พื้นที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1-5 ของอาคาร ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 2 และมีพื้นที่ส่วนกลางหลักที่ชั้น 6 จากนั้นชั้น 7 จนถึงชั้นบนสุดจะมีห้องพักอาศัยที่ 28 ยูนิต / ชั้น และชั้น Roof Top จะมีสวนขนาดใหญ่ให้ใช้บริการด้วย

ตัวอาคารมีลักษณะเป็นตัว L ทำให้จะมีวิวในแต่ละฝั่งที่ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งวิวแนวรถไฟฟ้าและวิวเมืองทางฝั่งหน้าโครงการ ส่วนพื้นที่ด้านในที่เป็นแนวอาคารที่หันเห็นกัน จะได้วิวพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 6 มาให้ด้วย

พื้นที่โครงการจะมีทางเข้าออกจากถนนราชพฤกษ์ใต้แนว Sky Walk เลย พร้อมพื้นที่สวนที่จะช่วยบังสายตาจากภายนอกได้ด้วย

ทางเข้าออกโครงการจะถูกทำเป็นสะพานข้ามคลองเล็กๆ ใต้แนวรถไฟฟ้านะครับ

จากนั้นรถที่เข้ามาภายในโครงการจะเป็นการวนรถทางเดียวอ้อมแนวอาคารทั้งหมด ซึ่งจะมีทางขึ้นลงพื้นที่จอดรถภายในอาคารอยู่ทางด้านหลัง

ภายในรั้วโครงการด้านหน้าจะมีสวนสำหรับเป็นแนวกั้นความเป็นส่วนตัวแถมยังเป็นพื้นที่รับสายตาสำหรับการเข้าออกของลูกบ้านด้วย

พื้นที่ภายใน Lobby จะค่อนข้างกว้าง ด้วยแนวกระจกใสที่ทำให้เห็นความเคลื่อนไหวภายนอก และกระจกเงาที่ช่วยทำให้พื้นที่ภายในดูโล่งมากขึ้น ตกแต่งด้วยเส้นสายและวัสดุโทนสีสว่างทำให้ดูสะอาดและสบายตา

มีมุม Co-Working Space สำหรับนั่งทำงาน นั่งเล่นอ่านหนังสือ และเห็นวิวภายนอก พื้นที่จะถูกแบ่งไว้เป็นสัดส่วนเข้ามุม เพื่อความเป็นส่วนตัวมากหน่อย

มีมุม Social Club ที่พื้นที่จะมีความเป็นกันเองและดูสบายๆมากขึ้น สำหรับนั่งเล่นพูดคุย นัดเพื่อน หรือนั่งคอย

โถงลิฟต์โครงการจะมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว และมีลิฟต์ขนของให้ 1 ตัว ทำให้มีอัตราส่วนลิฟต์ทั้งโครงการอยู่ที่ 1 : 264 ยูนิต จัดว่าค่อนข้างหนาแน่นเลยนะ

ขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 6 จะเจอกับพื้นที่ Main Facilities ของโครงการ ซึ่งถูกจัดเป็น Landscape เดียวทั้งพื้นที่ ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำแบบ Free Form และพื้นที่สวนด้านข้างที่มีทั้ง Hard Scape และ Soft Scape เป็นรูปทรงล้อไปด้วยกัน บริเวณนี้จะเป็นวิวให้กับพื้นที่พักอาศัยด้านบนอาคารทางฝั่งทิศตะวันตก

สระว่ายน้ำระบบเกลือรูปทรง Free Form ขนาดช่วงยาวที่สุด 25 x 5 เมตร นอกจากจะมีลักษณะเป็น Free Form ที่ช่วยทำให้ดูผ่อนคลาย เข้ากับสวนโดยรอบ แต่ด้วยระยะที่มีความยาวแบบ Half-Olympic ก็สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริงนะ

ด้านข้างจะมี Fitness ที่เป็นแนวกระจกรับวิวสระว่ายน้ำและสวนภายนอกด้วย

ส่วนชั้น Roof Top บนสุดของอาคารจะมีสวนให้เต็มพื้นที่เลย สำหรับออกมายืนรับอากาศบริสุทธิ์หรือชมวิวกันได้ครับ

มาดูผังโครงการกันบ้างครับ ที่ชั้น Ground Floor ของเรา ทางเข้าออกจะอยู่ใต้แนวรถไฟฟ้า หลังจากเข้ามาแล้วจะเป็นการวนรถทางเดียวอ้อมตัวโครงการครับ มี Drop Off เข้าอาคารอยู่ที่ด้านหน้าเลย และมีทางเข้าออกพื้นที่จอดรถที่ด้านหลังโครงการ ซึ่งภายในพื้นที่จอดรถจะเดินรถ 2 คันนะครับ

พื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้จะอยู่ที่ด้านหน้าทางเข้าทั้งหมดเลย เชื่อมต่อกันกับ Lobby แบ่งออกเป็น Co-Working Space, Social Club และร้านค้า 2 ร้าน ซึ่งร้านค้าจะเป็นการเปิดขายพื้นที่ให้ผู้ประกอบการภายนอกเข้ามาเปิดเป็นร้านค้าหรือร้านอาหารนะครับ ส่วนภายในจะมีโถงลิฟต์ที่มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว และลิฟต์ขนของ 1 ตัว

โคตรการนี้จะมีชั้นใต้ดิน 1 ชั้นนะ สำหรับเป็นชั้นงานระบบ พวกห้อง Pump Room, Water Tank, Fire Tank ต่างๆครับ ใช้บันไดหนีไฟในการขึ้นลง

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของอาคารจอดรถ แต่ยังไม่ถึงชั้น 2 ของพื้นที่พักอาศัย จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมดนะครับ

ขึ้นมาที่ชั้น 2-5 ของส่วนพื้นที่พักอาศัยกันบ้าง ชั้นเหล่านี้อาจจะได้รับผลกระทบเรื่องเสียงจากถนนใหญ่และแนวรถไฟฟ้าบ้าง แต่ก็มีข้อดีเรื่องจะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 10 ยูนิต/ชั้น ได้ความเป็นส่วนตัวกว่าชั้นอื่นๆ ภายในเป็นโถงทางเดินแบบ Double Corridor มีช่องแสงท่ีสุดแนวทางเดิน ห้องส่วนใหญ่จะรับวิวฝั่งหน้าโครงการ ซึ่งเป็นแนวรถไฟฟ้า  ส่วน 2 ยูนิตด้านหลังจะเป็นวิวค่อนข้างเงียบสงบกว่า ห้องมุมทั้ง 3 จะเป็นห้อง 1 Bedroom Plus นอกนั้นจะเป็นห้อง 1 Bedroom ส่วนห้อง Studio 1 เดียวของชั้นจะอยู่หน้าโถงลิฟต์ครับ

ขึ้นมาที่ชั้น 6 นะครับ ชั้นนี้มีความพิเศษที่เป็นชั้น Main Facilities จะประกอบไปด้วยพื้นที่สระว่ายน้ำระบบเกลือรูปทรง Free Form ขนาดช่วงยาวที่สุดจะอยู่ที่ 25 x 5 เมตร ด้านข้างจะมีแนวสวนที่ออกแบบให้เข้ากันกับรูปทรงของสระว่ายน้ำ ส่วนภายในอาคารจะมีห้องออกกำลังกายรับวิวสวนและสระว่ายน้ำภายนอก และห้องน้ำแยกชายหญิงให้ ส่วนห้องพักอาศัยจะมีเพิ่มเป็น 24 ยูนิต ส่วนแรกทางฝั่งหน้าโครงการจะยังคงเหมือนกับชั้น 2-5 ที่ผ่านมา แต่จะเพิ่มห้องวิวส่วนกลางมา 2 ห้องข้างโถงลิฟต์และโถงบันได ส่วนห้องพักอาศัยที่เพิ่มมาจะเป็นวิวทิศตะวันออก 8 ยูนิต และวิวสวน 4 ยูนิต เป็นห้อง 1Bedroom และห้อง Studio ผสมกันไป วางสลับกันเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวบริเวณระเบียงห้อง

ชั้นบนสุดของโครงการ หรือ Roof Top จะเป็นสวนสำหรับมีเดินเล่นรับลม มีแนวทางเดินให้ออกมาสูดอากาศ ชมวิวกันได้ พร้อมลิฟต์โดยสารขึ้นมาด้านบน 1 ตัว

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • Mail Box
  • Co-Working Space
  • Social Club
  • ร้านค้า 2 ร้าน
  • สวนหย่อมที่ชั้น 1, 6 และ ดาดฟ้า
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ รูปทรง Free Form ช่วงยาวที่สุดขนาด 25 x 5 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย
  • ห้องน้ำแยกชายหญิงที่ชั้น 6
  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 264 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 316 คัน คิดเป็น 40%
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card


Product Walkthrough

มาดูห้องพักอาศัยกันบ้างครับ โครงการนี้จะเน้นไปที่ห้องอยู่อาศัยแบบ 1-2 คนเป็นหลัก มีขนาดห้องให้เลือกเยอะเลยทีเดียว

  • Studio 26-27 ตร.ม. จำนวน 93 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท 1.89 ล้านบาท (Update 07/05/21) 
  • 1 Bedroom 28-30 ตร.ม. จำนวน 402 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 32-34 ตร.ม. จำนวน 93 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท

ซึ่งทุกแบบห้องจะขายในแบบ Fully Fitted นะครับ ได้แค่เคาน์เตอร์ครัวเท่านั้น Top เป็น High Pressure Laminate เคาน์เตอร์ปิดผิวด้วยไม้ Particleboard ซึ่งจะไม่มี Hob & Hood มาให้ ความสูงพื้นถึงฝ้าจะอยู่ที่ 2.65 เมตร พื้นเป็น Smart Polymer (ไวนิล) พร้อมบัวเชิงผนังลามิเนต ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ประตูห้องจะเป็นบานไม้ MDF พร้อมก้านโยกสเตนเลส กระจกกรอบบานอลูมิเนียม Powder Coat กระจกเขียวตัดแสง ไฟเป็น Downlight ทั้งห้อง

มาดูห้องแบบ 1 Bedroom กันก่อนนะครับ ห้องรูปแบบนี้จะมีมากที่สุดในโครงการ (402 ยูนิต) ห้องนี้จะได้เป็นครัวเปิด ซึ่งไม่มีเตาและเครื่องดูดควันมาให้อยู่แล้ว เป็นครัวที่เหมาะกับการทำอาหารง่ายๆ อาจจะแค่อุ่นไมโครเวฟ หรือใช้เตาไฟฟ้าเบาๆ ช่วยทำให้พื้นที่ภายในห้องโล่ง ห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอน ซึ่งจะเหมาะกับคนที่ชอบใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในห้องนอน เพราะจะเข้าออกได้อย่างสะดวก แต่ถ้ามีแขกมาก็จะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง เพราะต้องเดินผ่านห้องนอนก่อนจะเข้าห้องน้ำ

เปิดประตูเข้ามาจะพบกับพื้นที่หน้าห้องที่จัดเป็นเคาน์เตอร์ครัว และพื้นที่สำหรับวางตู้เก็บรองเท้า ส่วนด้านในจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่ให้วางโต๊ะรับประทานอาหารเล็กๆ ด้านในจะเชื่อมต่อไปยังระเบียงซักล้างได้ ส่วนด้านข้างจะมีห้องนอน ภายในได้ช่องเปิดและมีพื้นที่สำหรับวางเตียงได้ทั้ง 5 และ 6 ฟุต (ถ้าวางเตียง 5 ฟุตก็จะวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่งหรือโต๊ะเครื่องแป้งแบบไม่อึดอัด) พร้อมตู้เสื้อผ้าและพื้นที่ใช้งาน นอกจากนั้นจะมีห้องน้ำภายในด้วย ภายในห้องน้ำก็จัดมาให้ขนาดค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก

ประตูห้องจะเป็นบานไม้ MDF พร้อมก้านโยกสเตนเลส เปิดเข้ามาจะเป็นส่วนของพื้นที่ครัว ด้านข้างมีที่วางตู้รองเท้าไว้ให้ด้วย

พื้นที่ด้านหน้านี้มีพื้นที่ให้ใช้งานได้ค่อนข้างสะดวก มีคนเดินล้างจานอยู่ก็ยังสามารถเดินเข้าออกห้อง และใช้งานตู้รองเท้าได้

เป็นชุดครัวสีเทาทั้งชุดปิดผิวด้วยไม้ Particleboard หนา 16 mm. ซึ่งมีคุณสมบัติเบา แต่ไม่กันน้ำ อาจมีเชื้อราขึ้นได้ ต้องหมั่นคอยดูแลนะ อย่าให้ห้องมีความชื้น

Top ครัว จะเป็น High Pressure Laminate เป็นวัสดุสังเคราะห์แทนไม้จริง มีผิวสัมผัสที่เสมือนจริง มีลวดลายให้เลือกหลากหลาย ติดตั้งง่ายรวดเร็ว และมีคุณสมบัติที่แข็งแรงทนความร้อน ทนต่อการขีดข่วนได้ ทำความสะอาดได้ง่าย

อ่างล้างจานสเตนเลสแบบหลุมเดี่ยวจาก Hafele ครับ

ฝั่งตรงข้ามครัวมีพื้นที่สำหรับวางตู้เก็บรองเท้าได้ ส่วนนี้เราอาจจะทำชั้นวางของด้านบนได้อีกด้วยนะ หรือจะ Built-in  ทั้งชุดเลยก็มีพื้นที่ที่สามารถทำได้นะ

ด้านข้างพื้นที่ครัวมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารชุดเล็กได้ สำหรับ 1 ที่นั่ง หรือถ้าใครที่ชอบใช้งานโซฟา และไม่ค่อยได้รับประทานอาหารในห้อง อาจจะขยายเป็นโซฟาชุดใหญ่ทั้งพื้นที่ส่วนนี้เลยก็ได้นะ

ตรงนี้จะมีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.3 เมตร เหมาะแก่การใช้ทีวีขนาดประมาณ 45-50 นิ้ว ส่วนพื้นที่ดูทีวีตรงกลางนี้ก็สามารถวางโต๊ะกลางแล้วยังมีพื้นที่เดินผ่านไปมาได้นะ ถ้าใครไม่ซีเรียสจะนั่งทานข้าวตรงนี้แทนก็ได้ แล้วใช้เป็นโซฟาขนาดใหญ่เต็มพื้นที่แทน

ผนังฝั่งแขวนทีวีก็สามารถทำชั้นวางของเพิ่มด้านล่างและด้านบนได้นะครับ

ด้านในจะมีช่องแสงที่เชื่อมต่อไปยังระเบียงครับ เป็นประตูกระจกบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียม Powder Coat กระจกเขียวตัดแสง

ภายนอกมีพื้นที่ให้ออกไปยืนสูดอากาศรับลมได้สบาย ราวกันตกเป็นอลูมิเนียมสีดำตีเว้นร่องทำให้ลมสามารถผ่านไปมาได้สะดวก

พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.

พื้นที่ด้านบนแขวน Condensing Unit ให้พร้อมแนวปิดเพื่อความเรียบร้อย เพื่อให้สามารถใช้งานพื้นที่ระเบียงได้อย่างเต็มที่ มีไฟกิ่งมาให้ 1 ดวง

ภายในส่วนนี้จะได้ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight 4 ดวง

มาลองดูอีกฝั่งหนึ่งของห้องกันบ้างครับ ทางเข้าห้องนอนของเรา ซึ่งจะมีห้องน้ำอยู่ภายในด้วย การมีห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอนจะทำให้ห้องน้ำได้ความเป็นส่วนตัว และใช้งานได้ง่ายสำหรับคนที่ชอบใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ภายในห้องนอน แต่ในกรณีที่มีแขกมาห้อง จะต้องเข้าไปห้องน้ำก็ต้องผ่านเข้าห้องน้ำ ซึ่งอาจจะทำให้เสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง

ห้องนอนก็มีขนาดภายในค่อนข้างกว้างนะ จัดเป็นโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าด้านข้างพร้อมพื้นที่ใช้งานได้ มีช่องแสงขนาดใหญ่ภายในห้อง

วางเตียง 5 ฟุตแล้วเหลือพื้นที่รอบๆให้สามารถเดินได้สะดวก จะวางโต๊ะหัวเตียงหรือจะวางโต๊ะเครื่องแป้งด้านข้างแบบในห้องตัวอย่างก็ได้นะ

พื้นที่ปลายเตียงสามารถแขวนทีวีได้นะ แต่จะเหลือพื้นที่ทางเดินจะค่อนข้างแคบ

พื้นที่ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 40 เซนติเมตรให้เดินไปมาได้ แต่ถ้าจะติดทีวีแขวนผนังก็อาจจะทำให้เดินได้ลำบากสักหน่อย

ช่องแสงที่ได้จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ประกอบไปด้วยบาน Fixed 2 บานแนวนอนกับแนวตั้งด้านข้าง และมีบานกระทุ้งบานใหญ่เปิดรับลมระบายอากาศได้

ส่วนด้านในของห้องก็มีพื้นที่ให้สามารถจัดทำตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานแบบในห้องตัวอย่างได้

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight 3 ดวง

มาดูต่อภายในห้องน้ำกันบ้าง ภายในจะเป็นกระเบื้องสีอ่อนทั้งพื้นและผนัง แต่ส่วนอาบน้ำจะเป็นกระเบื้องสีส้มซึ่งเป็นสีของโครงการ อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ต่างๆจะเป็นของ American Standard

ภายในมีขนาดค่อนข้างกว้างนะใช้งานได้สะดวก ลดระดับลงจากพื้นภายในห้องเล็กน้อย

อ่างล้างหน้าแบบแขวนจาก American Standard พร้อมแนวกระจกเงาแนวตั้ง

โถสุขภัณฑ์แบบ 2 ชิ้นจาก American Standard หรือเทียบเท่า พร้อมอุปกรณ์ชำระล้างด้านข้าง

ส่วนอาบน้ำไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำมาด้วยนะครับ แต่สามารถติดตั้งเองได้ มีขอบที่ยกเพื่อกันน้ำให้เล็กน้อย ส่วนผนังจะมีมุมที่สามารถแขวนที่วางอุปกรณ์อาบน้ำได้

พื้นที่ภายในก็มีขนาดค่อนข้างกว้างเลยครับ สามารถยืนอาบได้สะดวก ถ้าใครไม่อยากแขวนที่พื้นก็มีขนาดพื้นที่ที่สามารถวางชั้นวางเครื่องอาบน้ำได้เช่นกัน

ฝ้าเพดานจะฉาบเรียบทาสี ให้ไฟ Downlight มา 2 ดวง พร้อมพัดลมดูดอากาศ

มาดูกันต่อที่ห้องขนาดใหญ่ของโครงการนี้กัน กับห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.63 ตร.ม. ห้องนี้เป็นห้องที่มีตำแหน่งอยู่มุมอาคาร ทำให้สามารถรับแสงได้ 2 ฝั่ง ที่ผมชอบคือห้องอเนกประสงค์อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้ง่าย เพราะใกล้กับช่องแสง และติดกับพื้นที่ภายนอก เป็นได้ทั้งห้องนอนเล็ก หรือห้องทำงานก็ได้ ส่วนห้องน้ำก็ใช้งานได้ง่ายทั้งจากพื้นที่กลางของห้องและห้องนอน

เปิดประตูมาจะเจอกับพื้นที่ส่วนกลางของห้อง แต่ไม่เห็นห้องน้ำและห้องนอน ส่วนตรงกลางห้องจะรวมทั้งครัว พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นอยู่ตรงนี้ด้วยเลยซึ่งเราไม่จำเป็นต้องจัดเฟอร์นิเจอร์แบบในห้องตัวอย่างนะครับ เพราะเป็นห้องที่ขายแบบ Fully Fitted อยู่แล้ว (แอบแปลกๆตรงโซฟาหันไม่ตรงกับทีวี) จากนั้นจึงแบ่งไปอีก 3 ส่วนที่เหลือในห้อง ทั้งห้องอเนกประสงค์ซึ่งเชื่อมต่อไปยังระเบียงซักล้างได้ ห้องน้ำที่มีตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่ายจากทุกพื้นที่ภายในห้อง และห้องนอนที่ได้ช่องแสงพร้อมมีพื้นที่ภายในที่จัดเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วยครับ ลองไปดูกันครับ

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบกับพื้นที่กลางห้องขนาดใหญ่ วัสดุต่างๆจะเหมือนกับห้องที่ผ่านมาทั้งหมด ทั้งความสูงพื้นถึงฝ้าจะอยู่ที่ 2.65 เมตร พื้นเป็น  Smart Polymer พร้อมบัวเชิงผนังลามิเนต ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี เพราะไฟ Downlight ทั้งห้อง ประตูห้องจะเป็นบานไม้ MDF พร้อมก้านโยกสเตนเลส

ด้านหน้าห้องจะมีพื้นที่สำหรับวางตู้ใส่รองเท้า และพื้นที่ใส่รองเท้าให้ ส่วนนี้ต้องหามาเองนะครับ

ถัดเข้ามาจะมีเคาน์เตอร์ครัวหน้าตาเหมือนห้องก่อนหน้านี้ ทั้งชุดจะเป็นสีเทาปิดผิวด้วยไม้ Particleboard หนา 16 mm. Top ครัว จะเป็น High Pressure Laminate ที่มาพร้อมอ่างล้างจานสเตนเลสแบบหลุมเดี่ยวจาก Hafele ครับ

พื้นที่ภายในจัดว่ากว้างนะครับ เพราะมีช่องแสงหลายฝั่ง เป็นจุดเด่นของห้องนี้เลยก็ว่าได้ ทำให้เราสามารถจัดได้หลากหลาย ทั้งการวางชุดโซฟาได้หลายขนาด หรือโต๊ะรับประทานอาหารที่หลากหลายหน่อย แต่ต้องดูตำแหน่งช่องเปิดและผนังกันดีๆนะครับ เพราะพื้นที่จะมีความสัมพันธ์กัน เช่นชุดโซฟา กับแนวผนังฝั่งที่สามารถแขวนทีวีได้ก็ควรจะตรงกัน

ในห้องตัวอย่างเขาวางเฟอร์นิเจอร์แปลกๆนิดนึง ชุดโซฟาไม่ได้ตรงกับแนวทีวี แต่จะเป็นโต๊ะรับประทานอาหารแทน ซึ่งเราก็สามารถเลือกจัดกันเองได้นะครับ แล้วแต่ความชอบ

ที่สำหรับคือมีอแนวกระจกบานกระทุ้งบานใหญ่และบาน Fixed ทั้ง 2 ฝั่ง ช่วยรับแสงและระบายอากาศภายในห้องได้ดีมากๆ

ฝ้าเพดานส่วนนี้จะเป็นฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight 6 ดวงนะ

มาดูส่วนต่อไปในห้องกัน คือห้องอเนกประสงค์ ที่มาพร้อมแนวกระจกขนาดใหญ่ เปิดได้กว้าง และที่สำคัญคือภายในมีช่องแสงและเชื่อมต่อไปยังระเบียงได้ จึงทำให้ห้องสามารถใช้งานได้ง่าย ทั้งใช้เป็นพื้นที่ห้องนอนเล็ก ห้องทำงานอ่านหนังสือ และการติดเครื่องปรับอากาศก็สามารถเดินท่อออกไปได้ง่ายด้วย

ภายในห้องมีขนาดประมาณ 1.75 x 2.55 เมตร ซึ่งจัดเป็นขนาดที่ค่อนข้างกว้างนะสำหรับห้องอเนกประสงค์ สามารถวางเตียง 1.5 ฟุตได้ หรือจะเป็นโต๊ะทำงานแบบห้องตัวอย่างที่เขาจัดมาให้ชมก็มีพื้นที่ในการใช้งานแบบสบายๆ สำหรับแบ่งพื้นที่ความเป็นส่วนตัวภายในห้อง

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight 1 ดวง เครื่องปรับอากาศไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ

ส่วนนี้ยังเชื่อมต่อไปกับระเบียงซักล้างภายนอกได้ด้วยนะ เป็นกระจกบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียมทำสี Powder Coat กระจกเขียวตัดแสง

สามารถเปิดได้ 2 ฝั่ง ภายนอกปิดผิวด้วยกระเบื้องเซรามิคแผ่นเล็กขนาดพื้นที่ภายนอกประมาณ 2.55 x 1 เมตร มีแนวระแนงเหมือนห้องก่อนหน้านี้เลย

ด้านบนแขวน Condensing Unit ได้หลายตัว มีไฟกิ่งมาให้ 1 ดวง

ส่วนด้านในจะมีห้องน้ำทางฝั่งซ้ายมือ และห้องนอนทางฝั่งขวามือครับ ผนังตรงกลางก็สามารถทำชั้นวางของ หรือแขวนรูปภาพตกแต่งได้

ห้องนอนของห้องนี้ก็มีลักษณะคล้ายๆห้องก่อนหน้านี้ครับ มีช่องแสง และพื้นที่ภายในสำหรับใช้งานเพิ่มเติมได้ด้านข้าง

พื้นที่ปลายเตียงติดทีวีแขวนได้ และผนังด้านข้างก็มีช่องแสงขนาดใหญ่

พื้นที่รอบๆ วางเตียง 5 ฟุตแล้วก็สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ สามารถเดินรอบเตียงได้รอบ

ปลายเตียงก็มีพื้นที่ให้แขวนทีวีแล้วก็ยังสามารถเดินผ่านได้สบายๆ

ช่องแสงของห้องนี้จะมีลักษณะเหมือนห้องก่อนหน้านี้เลย จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ประกอบไปด้วยบาน Fixed 2 บานแนวนอนกับแนวตั้งด้านข้าง และมีบานกระทุ้งบานใหญ่เปิดรับลมระบายอากาศได้

ภายในก็มีพื้นที่สำหรับทำตู้่เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้

พื้นที่ส่วนนี้จะดูห้องตัวอย่างเป็นไอเดียในการตกแต่งก็ได้นะครับ

ส่วนห้องน้ำจะมีลักษณะเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้ ภายในจะเป็นกระเบื้องสีอ่อนทั้งพื้นและผนัง แต่ส่วนอาบน้ำจะเป็นกระเบื้องสีส้ม อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ต่างๆจะเป็นของ American Standard

พื้นที่ค่อนข้างกว้าง นั่งโถสุขภัณฑ์แล้วมีระยะด้านหน้าเหลือ ไม่อึดอัด

อ่างล้างหน้าและโุสุขภัณฑ์จาก American Standard หรือเทียบเท่า พร้อมอุปกรณ์ชำระล้างติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมพร้อมใช้งาน

ส่วนอาบน้ำไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เช่นเดิม แต่สามารถติดตั้งเองได้นะครับ

พื้นที่อาบน้ำก็สามารถวางที่วางของได้ ขนาดค่อนข้างกว้างเลย

ส่วนพื้นที่ด้านข้างส่วนอาบน้ำก็มีมุมสำหรับแขวนที่วางอุปกรณ์อาบน้ำเช่นกัน ฝักบัวสเตนเลสเป็นของ American Standard

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight 2 ดวง พร้อมพัดลมดูดอากาศ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 23 October 2019

  • Studio 26-27 ตร.ม. จำนวน 93 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท 1.89 ล้านบาท (Update 07/05/21) 
  • 1 Bedroom 28-30 ตร.ม. จำนวน 402 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 32-34 ตร.ม. จำนวน 93 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.65 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท๊อป High Pressure Laminate
  • จอง 5,000 บาท
  • ทำสัญญา 35,000 บาท
  • ค่ากองทุน 300 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล : เป็นโครงการติดถนนราชพฤกษ์ ที่เป็นถนนหลักอยู่ใกล้กับแยกตัดกับถนนวุฒากาศ บริบทโดยรอบจะเป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้นเป็นส่วนใหญ่ จุดเด่นจริงๆคือติดกับ BTS สถานีวุฒากาศแบบ 0 เมตร ทำให้ใช้งานได้สะดวก ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์จะมีระยะเดินทางฝั่งถนนวุฒากาศ และตลาด Exit 2 ที่ติด BTS วุฒากาศ ออกมากว้างหน่อยก็จะมีตลาดพลู, เดอะมอลท่าพระ, ICONSIAM ที่เป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำของชาวฝั่งธนฯ แล้วก็มีโซนบางหว้าที่มีตลาดและแหล่งของกินอีกเยอะ หรือหากเลยไปยังถนนราชพฤกษ์ด้านบนอีกหน่อยจะมีพวกร้านอาหาร bar & restaurant ให้เลือกไปลิ้มลองกันหลากหลายทีเดียว อีกจุดหนึ่งคือทางฝั่งถนนเพชรเกษม ที่จะมีซีคอน บางแค และ เดอะมอลล์บางแค ให้บริการอยู่ไม่ไกลครับ ส่วนทางถนนกัลปพฤกษ์ ก็มี Metro West Town ให้ไปเดินเล่น ทานอาหารได้ครับ

การเดินทางโดยใช้รถ : เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่บนทางกลับรถใต้สะพานของถนนราชพฤกษ์ ทำให้การออกจากโครงการจะต้องบังคับให้ไปกลับรถใต้สะพาน จากนั้นก็จะโดนบังคับให้เลี้ยวเข้าถนนวุฒากาศอีก สำหรับคนที่ไม่ได้เดินทางไปยังโซนนั้นจึงอาจจะต้องเสียเวลากลับรถไกลหน่อย ส่วนการเดินทางไปยังพื้นที่โดยรอบก็จัดว่ามีเส้นทางเชื่อมต่อถนนสายสำคัญอยู่เยอะพอสมควร เช่นสามารถใช้ถนนเทิดไทไปยังตลาดพลู วงเวียนใหญ่ ซึ่งเป็นย่านการค้าเก่าแก่ชื่อดังของพื้นที่ ส่วนใครที่วิ่งออกเมืองไปทางนครปฐมต่างๆ ใช้ถนนเพชรเกษมวิ่งตรงไปได้ง่ายเลยครับ ทั้งโครงการจะมีที่จอดรถทั้งหมด 316 คัน คิดเป็น 40% ไม่รวมซ้อนคัน

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : เป็นจุดเด่นของโครงการนี้ เพราะมีที่ตั้งติดกับ BTS สถานีวุฒากาศแบบ 0 เมตร ชนิดที่ว่าทางขึ้นลงอยู่หน้าโครงการ และทางเข้าออกโครงการก็อยู่ใต้ BTS กันเลย ซึ่งในอนาคต BTS วุฒากาศจะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเข้ม รวมไปถึงเส้นทางรถไฟฟ้าในพื้นที่โดยรอบจะมีจุด Interchange ของรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเข้ม และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่สถานีบางหว้า ห่างจากสถานีวุฒากาศเพียง 1 สถานีเท่านั้นครับ และจุดขึ้นลง BTS หน้าโครงการก็มีพี่วินให้บริการด้วย แถมแท็กซี่ก็ผ่านไปมาหน้าโครงการกันอยู่ตลอด (เพราะเข้ามากลับรถ)

วัสดุ : ให้มาน้อยไปหน่อยถ้าเทียบกับโครงการใกล้เคียง ห้องพักอาศัยจัดมาให้แบบ Fully Fitted นะครับ ได้แค่เคาน์เตอร์ครัวเท่านั้น Top เป็น High Pressure Laminate เคาน์เตอร์ปิดผิวด้วยไม้ Particleboard ซึ่งจะไม่มี Hob & Hood มาให้ ความสูงพื้นถึงฝ้าจะอยู่ที่ 2.65 เมตร พื้นเป็น Smart Polymer (ไวนิล) พร้อมบัวเชิงผนังลามิเนต ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ประตูห้องจะเป็นบานไม้ MDF พร้อมก้านโยกสเตนเลส กระจกกรอบบานอลูมิเนียม Powder Coat กระจกเขียวตัดแสง ไฟเป็น Downlight ทั้งห้อง

การออกแบบ : จัดว่ามีการออกแบบได้ดีในส่วนของการใช้งานแต่ละพื้นที่ภายในตัวโครงการ ไม่ซับซ้อนและเข้าถึงง่าย ทั้งพื้นที่ส่วนกลางชั้น 1 ที่รวมกันอยู่บริเวณด้านหน้า ทั้งร้านค้า Co-Working Space และ Social Club พอขึ้นมาที่ชั้น 6 ก็แยกส่วนการใช้งานออกจากพื้นที่พักอาศัยอย่างชัดเจน การวางไว้ตำแหน่งนี้ก็จัดว่าเป็นวิวให้กับห้องที่ได้รับวิวที่ตัวอาคารหันชนกัน และมีตึกสูงในระยะไม่ไกลนัก

ส่วนตัวห้องพักอาศัยก็เน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom แถมยังมีให้เลือกหลายแบบ ภายในห้องไม่ได้ให้เฟอร์นิเจอร์มา เหมาะกับคนที่ชอบตกแต่งห้องเอง ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus จะอยู่ที่มุมอาคารได้รับแสงหลายฝั่ง การวางตำแหน่งห้องจะวาง 1 Bedroom สลับกับ Studio เพื่อให้ระเบียงห้องมีความเหลื่อมกัน เป็นระยะที่ช่วยให้ข้างๆห้องมองไม่เห็นกัน ได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น

สาธารณูปโภค :  จัดมาให้ครบตามมาตรฐาน มีทั้งพื้นที่ภายในและภายนอก ส่วนแรกจะอยู่ที่ชั้น 1 คือพื้นที่ภายในประกอบไปด้วย Co-Working Space, Social Club และร้านค้า 2 ยูนิต ส่วน Main Facilities จะอยู่ที่ชั้น 6 ที่ผมชอบคือเขาออกแบบ Landscape ออกมาได้ค่อนข้างดี ทั้งสระว่ายน้ำที่เป็นแบบ Free Form และสอดคล้องไปกับพื้นที่สวนด้านข้าง เป็นวิวให้กับ Fitness ภายในและห้องพักอาศัย ด้านในมีห้องน้ำแยกชายหญิงให้ใช้งาน และชั้นบนของอาคารก็มีสวนให้ขึ้นไปใช้งาน สูดอากาศรับลมกันได้ทั้งชั้นเต็มพื้นที่


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 85,000 บาท/ตร.ม., 23 October 2019

  • ทำเล 7.75/10 – ติดรถไฟฟ้า มีของกินในระยะเดิน แต่เดินทางด้วยรถไม่สะดวกเท่าไหร่
  • เดินทางด้วยรถ 6.75/10 – ทางบังคับให้ต้องกลับรถค่อนข้างไกล รถติด
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – ติด BTS สถานีวุฒากาศแบบ 0 เมตร มีวินและแท็กซี่ให้ใช้งานตลอด
  • วัสดุ 6.75/10 – Fully Fitted และให้ของมาน้อยกว่าโครงการอื่นในระแวกนี้
  • แบบ 7.5/10 – มีห้องให้เลือกหลายแบบ พื้นที่ส่วนกลางมีความเชื่อมต่อกัน
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ส่วนกลางใช้งานง่าย แยกส่วนแบ่งประเภทผู้ใช้ชัดเจน

  • MAIN CLASS
  • 7.43 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ Rich Point @BTS วุฒากาศ เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดในย่านวุฒากาศ เน้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลัก มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ครบตามมาตรฐาน ห้องพักอาศัยเน้นไปที่ 1 ห้องนอน ชอบการตกแต่งห้องเอง มีงบประมาณระดับ 2-3 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 15,000 – 21,000 บาท/เดือน


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving