รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.219 – รีวิวคอนโด Plum Condo ปิ่นเกล้า สเตชั่น
30 มิถุนายน 2016
รีวิวฉบับที่ 1106 … สวัสดีครับ วันนี้จะพาไปชมคอนโดแบรนด์พลัม ตัวใหม่จาก พฤกษา ชื่อว่า Plum Condo ปิ่นเกล้า สเตชั่น ซึ่งอยู่ในย่านปิ่นเกล้า บริเวณแยกบรมราชชนนี ที่ตั้งอยู่ติดถนนหลักอย่างสมเด็จพระปิ่นเกล้า ใกล้กับห้างพาต้าซึ่งเป็นย่านชุมชนอยู่อาศัยหลักเก่าแก่มีความเจริญอุดมสมบูรณ์มาแต่ช้านานแล้ว Plum Condo ตัวนี้ถือเป็นตัวที่ราคาแพงที่สุดที่ทำมานะครับ แต่ก็แลกกับทำเลที่ติดถนนใหญ่และได้ของรายการต่างๆที่อัพเกรดขึ้น ไปชมกันเลย
Fact @ 15 June 2015
- Plum Condo Pinklao Station (พลัมคอนโด ปิ่นเกล้า สเตชั่น)
- บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน)
- MAIN-UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางพลัด แขวงบางยี่ขัน
- คอนโด High Rise 22 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น 1 อาคาร 964 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 51 ยูนิต ที่ชั้น 6-21
- ที่จอดรถประมาณ n/a คันคิดเป็น n/a% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 41%
- ที่ดินประมาณ 4-0-38 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : ตุลาคม 2559
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q3 ปี 2561
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 24.5 , 26.5 ตร.ม ราคาเริ่มต้น 1.95 ล้านบาท (ห้องโปรโมชั่น)
- 2 Bedroom (Combine) พื้นที่ใช้สอย 49.5 ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
- ราคาเฉลี่ย(AVG) ของห้อง 1 Bed ขนาด 24.5 ตร.ม. ราคา 2.4 ล้านบาท หรือ 97,959 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ย(AVG) ของห้อง 1 Bed ขนาด 26.0 ตร.ม. ราคา 2.7 ล้านบาทราคา 101,886 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ย(AVG) ของห้อง 2 Bed ขนาด 49.5 ตร.ม. ราคา 4.7 ล้านบาท ราคา 94,949 บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1739
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.772539, 100.483309
แผนที่จากทางโครงการ Plum Condo ปิ่นเกล้า สเตชั่น ตั้งอยู่บนนถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถ้ามาจากถนนจรัญสนิทวงศ์เลี้ยวซ้ายที่แยกบรมราชชนนีมาแค่นิดเดียวก็จะถึงที่ตั้งโครงการเลย อยู่ก่อนถึงห้างพาต้าประมาณไม่เกิน 100 เมตรครับ ในอนาคตจะมีส่วนของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างให้พอใช้ได้ในระยะประมาณ 600 เมตร
Plum Condo ปิ่นเกล้า สเตชั่น จะเห็นว่าเดินทางได้หลากหลายเส้นทางมาก เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนหลักอย่างสมเด็จพระปิ่นเกล้า ใกล้กับห้างพาต้าซึ่งเป็นช่วงต้นๆของฝั่งธนฯที่จะกระจายตัวไปได้ทั้งในเมือง หรือออกเมืองไปยังโซนต่างๆของฝั่งธนบุรีนี้ อยู่ใกล้ๆกับถนนหลักต่างๆอาทิเช่น ถนนบรมราชชนนี, ถนนพระราม 8, ถนนจรัญสนิทวงศ์, ถนนอรุณอัมรินทร์ เป็นต้น ถือว่าเดินทางสะดวกมาก(ถ้าไม่นับการจราจรที่ติดขัดเวลาเข้างานเลิกงานนะครับ) โดยหลักๆก็เกาะเส้นถนนบรมราชชนนีซึ่งถนนเส้นนี้ยาวไปถึงนครชัยศรี เป็นถนนที่ตัดใหม่เพื่อบรรเทาปัญหาคลาสสิคการจราจรของกรุงเทพฯ หรือต้องการจะใช้ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีต้องไปขึ้นบริเวณสะพานพระราม 8 นะครับ ซึ่งช่วยได้ในระดับนึงนะ
การออกเมืองกลับรถเข้าถนนบรมฯแล้วตรงๆ ยังสามารถขับไปออกราชพฤกษ์ หรือ ยาวไปวงแหวนกาญจนาภิเษกก็ได้นะ จากแผนที่ด้านบนจะเห็นว่า การเดินทางข้ามฝั่งเข้าเมืองมีให้เลือกหลายสะพาน สะพานที่ใกล้ๆก็สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และสะพานพระราม 8 หรือจะไปทางสะพานซังฮี้ก็ได้ ส่วนเลยไปทางบางพลัดวิ่งจรัญฯไปเรื่อยๆ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ก็จะไปข้ามสะพานพระราม 7 ได้ครับ ซึ่งสะพานที่กล่าวมาทั้งหมดนี่รถติดมากนะครับใช่ว่ามีสะพานเยอะๆแล้วปัญหาการจราจรจะหมดไป แต่ช่วยระบายให้ไม่คับคั่งไปได้เยอะ ถนนบรมราชชนนีกับถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้านี่ช่วงเช้า-เย็น ก็ติดปกติอยู่แล้วตามเวลาทำงาน โดยรวมของเลเวลการติดขัดแล้ว ไม่สาหัสเท่าในเมือง
จุดที่ตั้งอยู่ระหว่างแยกใหญ่อย่าง “แยกบรมราชชนนี” กับ “แยกอรุณอัมรินทร์” ในทำเลที่ตั้งของโครงการ นับว่าคึกคักมากๆนะ อยู่ในชุมชนที่อาศัยอยู่มีทั้งเก่าและใหม่ แถมยังมีห้างสรรพสินค้าอย่างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า โรงหนังเมเจอร์ ตลาดปิ่นเงินปิ่นทอง เทสโก้โลตัส ยังมี Community mall ที่มาเปิดใหม่อีกอย่าง The Sense ปิ่นเกล้าติดกับเซ็นทรัลกระจุกนี้ที่สถานที่เรียนพิเศษก็เพียบเหมือนกัน แต่ถ้าใครชอบบรรยากาศราชพฤกษ์ มีร้านกินเที่ยวหรือกินดื่ม มีให้เลือกเยอะเลย แต่ที่เห็นทีเด็ด..ใช้งานในการหาของกินง่ายที่สุดโดยไม่ต้องไปไหนไกลก็ห้างพาต้าแหล่งอารยธรรมยุคบุกเบิกในย่านนี่แหละครับ โดยมีระยะเดินไปประมาณ 90 เมตร เท่านั้นเอง
สำหรับรถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการมากที่สุด คือ สถานีบางยี่ขัน รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วง(บางซื่อ – ท่าพระ) ตั้งอยู่บริเวณแยกก่อนถึงแยกบรมราชชนนี บนถนนจรัญสนิทวงศ์(บริเวณปากซอยจรัญฯ 40/1) ซึ่งตอนนี้โครงการรถไฟฟ้ากำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างคาดว่าน่าจะเปิดให้ใช้กันประมาณปี 2562 ซึ่งระยะห่างจากตัวโครงการไปรถไฟฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 610 เมตร โดยวัดจาก Google Map
ทำเลตรงนี้ นอกจากรถส่วนตัวแล้ว รถเมล์เล็กใหญ่ สองแถว แท๊กซี่ มีให้เรียกใช้บริการเพียบ หาง่ายแบบไม่ต้องรอนานในช่วงเวลาปกติ เพราะอยู่ติดถนนใหญ่อย่างสมเด็จพระปิ่นเกล้า และไม่ไกลจากห้างอย่างพาต้าซึ่งเป็นจุดรอรถหลักๆในละแวกนี้ โดยเริ่มจากแถวหน้าโครงการมีป้ายรถเมลล์อยู่ และที่จุด A นั้นเป็นจุด Drop Off กดให้เรียก Taxi อัจฉริยะ ทีนี้ถ้าต้องการใช้พี่วินก็เดินไปที่หน้าห้างพาต้าจะมีพี่วิน 2 จุด(C, D) ระยะทางประมาณ 90-100 เมตรเท่านั้น และถ้าต้องการออกเมืองก็จะมีคิวรถตู้อยู่ที่ตรงนี้ด้วย จากที่สอบถามคร่าวว่ามีไปไหนบ้างก็ส่วนใหญ่เป็นออกเมืองทั้งหมดอย่างสามพราน มหาชัย พุทธมณฑล-ศาลายา เป็นต้น
การเดินทางในวันนี้ ตัวผมเริ่มมาจากทางสะพานพระราม 7 มุ่งหน้าเข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงส์แล้วก็ตรงยิงยาวอย่างเดียว ลอดใต้อุโมงค์แยกสิรินธร ต่อจากนั้นจะเจอกับแยกบรมราชชนนี ให้เราชิดซ้ายเอาไว้นะครับไม่ลงอุโมงค์ หลังจากนั้นเลี้ยวซ้ายจะเข้าสู่ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า วิ่งไปแค่ประมาณ 100 เมตรเท่านั้นก็จะถึงที่ตั้งโครงการอยู่ซ้ายมือแล้วครับ(ไม่เลยห้างพาต้านะ)
แต่เดิมถนนจรัญสนิทวงศ์มี 3 เลน แต่ลดลงเหลืองเพียง 2 เลน เนื่องจากก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินตรงกลาง สองข้างถนนใหญ่ส่วนมากเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3-4 ชั้น โดยชั้นล่างสุด ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าต่างๆ จะมีสะพานลอยข้ามอยู่เรื่อยๆ ผมเริ่มจากบริเวณหน้ารพ.ยันฮีมุ่งหน้าตรงไปเรื่อยๆ
ผ่านหน้าห้าง Tesco Lotus ทางซ้ายมือ
หลังจากนั้นจะเจอป้ายเป็นทางอุโมงค์ ให้เราเตรียมชิดขวาลอดใต้อุโมงค์ ตามป้ายบรมราชชนนีครับ
อุโมงค์ที่เราจะลอดนี้เป็นแยกถนนสิริธร ซึ่งถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปสะพานซังฮี้ ส่วนเลี้ยวขวาจะไปห้างตั้งฮั่วเส็ง
พอขึ้นอุโมงค์มาจะเห็นว่าถนนค่อนข้างกว้างเพราะตรงนี้ยังไม่มีการก่อสร้างฐานเสาของรถไฟฟ้า
หลังจากนั้นให้เน้นตามป้ายพระปิ่นเกล้าเอาไว้
ตรงจุดนี้จะเป็นที่ตั้งของ MRT บางยี่ขัน ซึ่งอยู่บริเวณปากซอยจรัญ 40/1 เป็นสถานีที่ใกล้กับโครงการที่สุดนะครับ โดยวัดระยะจาก Google Map ประมาณ 610 เมตร
หลังจากพ้นสถานีมาเราจะเจออุโมงค์ที่ลอดแยกบรมราชชนนี แต่คราวนี้ให้เราชิดซ้ายเอาไว้นะครับไม่ลงอุโมงค์
ข้างหน้าจะเป็นแยกบรมราชชนนีให้เราชิดซ้ายตามป้าย “พระปิ่นเกล้า” เอาไว้
ทีนี้ให้เราเลี้ยวซ้ายจากถนนจรัญสนิทวงศ์จะเข้าสู่ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้าแล้ว
พอเลี้ยวซ้ายมาปุ๊ปจะเจอกับกับคอนโดรุ่นพี่อย่าง Lumpini Suite ปิ่นเกล้าก่อน
และติดกันเลยก็เป็นที่ตั้งของโครงการแล้วครับ ซึ่งห่างจากแยกบรมมาประมาณ 110 เมตรเท่านั้นเอง จะเห็นว่าตัวทางเข้าโครงการถ้ามาจากเมเจอร์ปิ่นเกล้าจะใช้สะพานข้ามแยกบรมฯไม่ได้นะ ต้องรอไฟแดงข้ามมาเท่านั้น
ทีนี้จากหน้าโครงการจะขอพาเดินไปจุดคิวที่รอรถ หรือแหล่งหาของกินง่ายๆใกล้ๆอย่างห้างพาต้าปิ่นเกล้าให้ดูสักหน่อย ซึ่งระยะทางประมาณ 90 เมตร
ถนนริมฟุตบาทด้านหน้าโครงการค่อนข้างขวางเดินง่าย ไม่มีร้านค้ารถเข็นบนทางเท้า
เดินมาได้ยังไม่พ้นรั้วโครงการ ก็เจอกับจุด Drop Off ของ Taxi เป็นจุดที่กดปุ่มเรียก Taxi อัจฉริยะได้
หลังจากนั้นเดินต่อมาประมาณ 80 เมตร ถ้าเราเห็นแมคโดนัลด์ละก็แสดงว่าเราถึงพาต้าแล้วล่ะ 😀
บริเวณทางเข้าหน้าห้างพาต้าปิ่นเกล้า จะมีสะพานลอยอยู่ด้านหน้าเชื่อมมาจากฝั่งตรงข้ามและเดินเข้าห้างได้ และเจอพี่วินจุดแรก คิดว่าถ้าจะไปรถไฟฟ้าบางยี่ขันถ้าเสร็จแล้วก็มาขึ้นพี่วินตรงนี้ได้ แกบอกว่าเดี๋ยวจะพาวิ่งไปเส้นด้านหลังห้างพาต้าไปทะลุซ.จรัญ 40 ไปออกจรัญ แล้วเดินต่อไปสถานีอีกประมาณ 150 เมตร
ภายในซอยทางเข้าเดี๋ยวนี้ร้านค้าด้านหน้าพาต้าเค้าถูกย้ายมาที่ด้านข้างและด้านหลังแทนแล้วนะครับ (เต้นท์ขาวคลุมอยู่) ก็มีร้านอาหารของกินเพียบเต็มไปหมด ผมเดินเข้าไปดูมีประมาณ 10 ร้านของกิน+ ได้
ริมฟุตบาททางเท้าด้านหน้าห้างปัจจุบันไม่มีร้านค้าแผงลอยแล้ว ทำให้ยืนรอรถกันง่ายหน่อยดูเป็นระเบียบมากขึ้น
Supermarket ที่ใกล้ที่สุดของโครงการคงจะเป็นที่นี่ละครับ Tesco Lotus Super อยู่ชั้นใต้ดิน และด้านหน้าจะเป็น Food Court ด้วย แอบเดินลงไปดูคนเพียบเป็นร้อยคนเลย เหมือนเป็นจุดนับพบกินข้าวของผู้ใหญ่ที่อยู่ชุมชนแถวนนี้นะฮะ 😀
เดินถัดมาอีกหน่อยจะเจอพี่วินอีกคิว กับคิวรถตู้ที่พาไปออกเมืองอย่างที่บอกตอนต้น อยู่ติดกับ 7-11
อัตราค่าโดยสารพี่วินคิวนี้ครับ
ทีนี้ลองเดินขึ้นมาบนสะพานลอยจะข้ามไปดูทางป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามหน่อย สะพานลอยทางเดินคอ่นข้างกว้างอยู่มีหลังคากันแดดกันฝนและไฟส่องสว่างให้
มองย้อนกลับไปทางที่ตั้งโครงการครับ ช่วงกลางวันเห็นถนนกว้างหลายเลน รถโล่งๆแบบนี้ เจอตอนเย็นเข้าไปเต็มทุกเลนเหมือนกันนะ
มองไปอีกฝั่งทางแยกอรุณอัมรินทร์ครับ จะเห็นว่าด้านหน้าห้างพาต้าเค้ามีกรวยกั้นเลนเอาไว้สำหรับรถเมล์และ Taxi ที่จะดรอปเข้ามารับส่งผู้โดยสาร และมีตำรวจประจำอยู่เช้าเย็นดูแลให้เป็นระเบียบหน่อย
ทางลงสะพานลอยฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นป้ายรถเมล์พอดีเลยเช่นเดียวกัน จะเป็นที่ Drop จอดทั้ง Taxi สองแถว และรถตู้ด้วย
จุดทางขึ้นลงสะพานลอยนั้นมีร้านเกาเหลาเนื้อเจ้าดังเก่าแก่ตั้งอยู่ที่คนแถวนี้น่าจะรู้จักกันหมดคือร้านรสดีเด็ดนั่นเองครับ ถือว่าเป็นร้านฝากท้องที่ไม่ไกลจากโครงการนะเดินมาง่ายๆสบายๆ
7-11 และแผงลอยร้านค้าริมฟุตบาทฝั่งนี้ยังมีอยู่ครับผม ใกล้ๆก็มีวัตสันด้วย
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
มาดูรอบๆโครงการกันบ้าง ผมทำแผนที่ให้ดูว่ารอบๆโครงการระยะใกล้ๆมีอาคารสูง (ประมาณ 10 ชั้นขึ้นไป) อะไรบ้าง
ทิศเหนือ(หมายเลข 1) ในระยะประชิดติดกันจะเป็นส่วนของที่ดินเปล่าบุคคลอื่นขนาดค่อนข้างใหญ่อยู่เหมือนกัน โดยจากการสังเกตด้วยตาเปล่าที่ใหญ่ขนาดนี้สามารถทำเป็นคอนโดได้นะครับ แต่ทางเข้าออกของที่ดินแปลงนี้จะอยู่ในซอยของจรัญ 40 ซึ่งพอมองไกลออกไปหน่อยประมาณสัก 250 เมตร จะมีคอนโดสูงประมาณ 22-23 ชั้นอย่างธนาทาวเวอร์ และธนาอาร์เคเดีย
ทิศตะวันออก(หมายเลข 2) ตึกที่ใกล้จะเป็นส่วนของห้างพาต้าปิ่นเกล้าสูงประมาณ 10 ชั้นในระยะประมาณ 100 เมตรครับ หลังจากนั้นพ้นไปจะเห็นเป็นคอนโด Iyv ปิ่นเกล้าแทนประมาณ 20 ชั้น
ทิศใต้(หมายเลข 3) จะติดกับถนนใหญ่ด้านหน้าอย่างถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้าและทางคู่ขนานลอยฟ้าบรม ข้ามไปก็เป็นแนวตึกแถวร้านค้าและก็ที่อยู่อาศัยตามซอยสูงไม่เกิน 8 ชั้น
ทิศตะวันตก(หมายเลข 4) จะเป็นฝั่งที่โดนบล็อควิวด้วยคอนโดรุ่นพี่อย่าง Lumpini Suite ที่สูง 21 ชั้น ด้วยระยะห่างจากอาคารประมาณ 50 เมตร ตัวโครงการเค้าเลยจัดฝั่งนี้เอาไว้เป็นฝั่งที่ได้วิวจาก Facility โครงการแทนครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ห้างพาต้า ~ 90 เมตร
- เมเจอร์ปิ่นเกล้า+ตลาดปิ่นเงินปิ่นทอง ~ 900 เมตร
- Tesco Lotus ~ 1.6 กิโลเมตร
- ตลาดบางขุนนนท์ ~ 1.8 กิโลเมตร
- Central ปิ่นเกล้า ~ 1.9 กิโลเมตร
- Makro ~ 2.1 กิโลเมตร
- The Sense ปิ่นเกล้า ~ 2.1 กิโลเมตร
- รพ.ศิริราช+ตลาดวังหลัง ~ 2.2 กิโลเมตร
- ตลาดบางขุนศรี ~ 2.3 กิโลเมตร
- สนามหลวง+ม.ธรรมศาสตร์ ~ 2.6 กิโลเมตร
- รพ.เจ้าพระยา ~ 3 กิโลเมตร
- Foodland ~ 3.2 กิโลเมตร
Plum Condo ปิ่นเกล้า สเตชั่น เป็นคอนโด High Rise สูง 22 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น 1 อาคาร 964 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 4-0-38 ไร่ ตัวอาคารเป็นรูปตัว U แต่มีจุดที่ยืดออกมาอีกทางมุมขวาบน ใช้โทนสีเหลืองทองตัดกับสีเทา มี Facility อยู่ที่ชั้น 1, 5 และชั้นดาดฟ้า ส่วนของที่จอดรถจอดรอบอาคารชั้น 1 และในอาคารชั้นใต้ดินถึงชั้น 4 รวมซ้อนคันทั้งหมด 41%
สภาพด้านหน้าโครงการตอนนี้สร้างเป็น Sale Office เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ที่ดินภายในโครงการตอนนี้เป็นลานคอนกรีตกลางแจ้ง เคลียพื้นที่ออกแล้วทั้งหมด ระหว่างนี้เป็นพื้นที่จอดรถชั่วคราวสำหรับผู้มาติดต่อเยี่ยมชมโครงการก่อนครับ
ฝั่งของ Sale Office สร้างอยู่ชิดกับฝั่งที่ติดกับคอนโดลุมพินี สวีท
เข้ามาดูภายใน Sale Office กันบ้าง ภายในค่อนข้างสูงโปร่งนะครับ เน้นกระจกเยอะ เปิดเข้ามาจะเจอกันเคาน์เตอร์ต้อนรับสอบถามข้อมูลมูลรายละเอียดโครงการกับทางเซลล์ได้
หันมาทางขวาจะเจอที่กับที่ตั้งโมเดลของโครงการ และติดผนังซ้ายมือเป็น VDO Presentation โครงการและ Floor Plan
ผนังส่วนนี้ติดรายละเอียดข้อมูลโครงการและแผนที่แนวตั้งขนาดใหญ่เอาไว้ให้ดู
รายละเอียดแผนที่จากทางโครงการให้ดูสถานที่สำคัญรอบๆ (กดที่แผนที่เพื่อขยายขนาดได้ครับ)
มาดูโมเดลของโครงการกันบ้างถนนด้านหน้าโครงการคือถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า
ด้านหน้ามีป้านโลโก้โครงการติดเป็นสัญลักษณ์เด่นชัด พอเข้ามาในโครงการแล้วจะเจอกับ Lobby โครงการที่ใช้ชื่อเรียกว่า “The Living” เป็น Double Volume ครับ ติดกันทางซ้ายมือเป็นส่วนของร้านค้า 4 ยูนิต ซึ่งตอนนี้โครงการยังไม่คอนเฟิร์มว่าเป็นร้านใดๆ
การเดินรถภายในโครงการเป็นการเดินรถทางเดียวววนรอบๆอาคารตามลูกศรแบบนี้นะครับ พอเลี้ยวมาฝั่งที่ติดกับคอนโดลุมพินีจะเจอกับ Facility กลางแจ้งอย่างสนามแบดมินตัน และก็สวนหย่อมภายในโครงการที่มีทางเดินและที่นั่งพักผ่อนให้ รอบๆตามแนวรั้วกำแพงลงต้นไม้ใหญ่เอาไว้
อ้อมมาฝั่งด้านหลังทางทิศเหนือ จะเป็นทางเดินรถอย่างเดียว สามารถจอดรถใต้อาคารมีช่องจอดได้
สุดท้ายฝั่งทิศตะวันอกกเฉลียงใต้ทางวิวพาต้า ฝั่งนี้ก็มีช่องจอดรถใต้อาคารเหมือนกัน แต่จะมีส่วนของทางเข้าไปในอาคารในส่วนของที่จอดรถได้ครับ ภายในสามารถจอดรถชั้นใต้ดิน ชั้น 1-4 ได้ รวมแล้วมีที่จอดรถ 41% รวมซ้อนคัน(โครงการเคลมไว้)
มาดูด้านข้างของส่วนที่จอดรถกันบ้าง ซึ่งถึงแม้ว่าจะจอดรถได้จนถึงชั้น 4 แต่ชั้น 2-4 นั้นก็มีห้องพักอาศัยด้วยนะครับ เลยทำให้มีช่องแสงส่องเข้าไปในส่วนของที่จอดรถได้ฝั่งเดียวคือฝั่งทิศตะวันตก(ติดลุมพินี) โดยมีการแต่ง Facade ส่วนของที่จอดรถเป็นไม้ระแนงสีน้ำตาลแนวตั้งแบบนี้บังสายตาเอาไว้ส่วนนึง
ทีนี้ Facility หลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 5 นะครับ ได้แก่ สระว่ายน้ำผู้ใหญ่ขนาดประมาณ 10 x 30 เมตร ลึกประมาณ 1.10 เมตร แยกสระเด็ก และสระแช่ตัวอีกสระแบบมีจากุชชี่ในตัวซึ่งมีขนาดประมาณ 6 x 20 เมตร ลึก 90 ซม. มีห้องออกกำลังกายที่วางเครื่องเล่นเอาไว้ได้ประมาณ 8 เครื่อง และมีห้องซาวน่าในตัว ส่วนของด้านบนห้องออกกำลังกายมีบันได้ขึ้นไปเป็นลานโยคะยกระดับกลางแจ้ง สุดท้ายส่วนของ “The Club” ที่มีพื้นที่ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ประกอบด้วย ห้องอ่านหนังสือ และห้องสันทนาการ ห้องประชุม ห้องเกมส์ และโต๊ะพูล
ตัวสีของอาคารโทนสีเหลืองทองตัดกับสีเทา และมีบางส่วนที่ใช้สีขาวมาตัดขอบเพิ่มให้ดูลวดลายเพิ่มขึ้นมาหน่อย
สุดท้ายที่ชั้นดาดฟ้า จัดทำเป็นสวนหย่อมลอยฟ้า ไม่ได้ลงต้นไม้เอาไว้ให้แต่จะเป็นเป็นลานอเนกประสงค์เอาไว้ขึ้นมาชมวิว นั่งเล่นพักผ่อน หรือเป็นพื้นที่เดินวิ่งออกกำลังกายเป็น Jogging Track ในตัวได้เพราะทางเดินรวมแล้วค่อนข้างยาวประมาณ 100 เมตรได้
ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกโครงการส่วนของ Facility Ground Floor และที่ชั้น 5
ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกโครงการส่วนของ Facility ที่ชั้น 5 ห้อง Fitness วิว 360 องศา พร้อมห้องซาวน่าในตัว
ภาพจำลองบรรยากาศโครงการส่วนของ Facility ที่ชั้น 5 สระว่ายน้ำผู้ใหญ่ขนาดประมาณ 10 x 30 เมตรลึก 1.10 เมตร แยกสระเด็ก และสระแช่ตัวแบบมีจากุชชี่ในตัวอีกสระซึ่งมีขนาดประมาณ 6 x 20 เมตร ลึก 90 ซม.
ภาพจำลองบรรยากาศโครงการส่วนของ Facility ที่ชั้น 1 “The Living” ซึ่งเป็น Lobby พื้นที่ Double Space สูง 5 เมตร
ภาพจำลองบรรยากาศโครงการส่วนของ Facility ที่ชั้น 2 “The Living” ซึ่งเป็น Lobby พื้นที่ Double Space สูง 5 เมตร
ภาพจำลองบรรยากาศโครงการส่วนของ Facility ที่ชั้น 5 “The Club” พื้นที่ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ประกอบด้วย ห้องอ่านหนังสือ และห้องสันทนาการ ห้องอเนกประสงค์ สำหรับประชุมและทำงาน ห้องเกมส์ และโต๊ะพูล
มาดู Plan โครงการกันบ้าง เริ่มจาก Ground Floor เข้าโครงการมาจากถนนหลักอย่างสมเด็จพระปิ่นโครงการวนรถทางเดียวคือเลี้ยวซ้ายก่อนแล้ววนรอบอาคาร เข้ามาถึงจะเจอกับ Lobby ที่เป็นจุด Drop Off ด้านหน้าได้ Lobby ส่วนนี้โครงการเรียกชื่อเล่นว่า The Living เป็น Double Volume สูง 5 เมตร ติดกันด้านข้างเปป็นส่วนของ ยูนิตร้านค้า 4 ห้องซึ่งยังไม่กำหนดว่าเป็นร้านอะไร ในตัวอาคารยังมี Lobby เล็กอีกจุดนึงซึ่งติดกันเป็นห้อง Laundry และยังมี Facility อื่นกลางแจ้งได้แก่สนามแบดมินตันและสวนหย่อมนั่งเล่นพักผ่อน ที่ชั้น 1 นี่สามารถจอดรถใต้อาคารได้นะครับมีช่องจอดรถให้ และมีทางเข้าไปในอาคารเพื่อนเข้าไปจอดรถในอาคารได้ชั้นใต้ดิน และชั้น 1-4 ครับ รวมที่จอดรถทั้งหมด 41% (รวมซ้อนคัน โครงการเคลมไว้)
ส่วนของชั้น 2-4 ที่เป็นชั้นที่จอดรถก็มีห้องพักอาศัยแล้ว ซึ่งจะสามารถเข้ามาจากที่จอดรถได้เลยมีจุดทางเข้าโถงลิฟต์ได้ 2 จุด Corridor ทางเดินจะเป็นตามรูปอาคารคือเป็นตัว U และมีหางยื่นออกมานิดหน่อย(ทางล่างซ้าย) ซึ่งจะมีจำนวนความหนาแน่นยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ประมาณ 34-36 ห้อง/ชั้นครับ
มาดูที่ชั้น 5 กันบ้างชั้นนี้มีห้องพักอาศัยแบบเต็ม Floor แล้วนะครับ และก็เป็นชั้นพื้นที่ Facility หลักเช่นกัน ได้แก่ สระว่ายน้ำผู้ใหญ่ขนาดประมาณ 10 x 30 เมตร ลึกประมาณ 1.10 เมตร แยกสระเด็ก และสระแช่ตัวแบบมีจากุชชี่ในตัวอีกสระซึ่งมีขนาดประมาณ 6 x 20 เมตร ลึก 90 ซม. มีห้องออกกำลังกายที่วางเครื่องเล่นเอาไว้ได้ประมาณ 8 เครื่อง และมีห้องซาวน่าในตัว ส่วนของด้านบนห้องออกกำลังกายมีบันได้ขึ้นไปเป็นลานโยคะยกระดับกลางแจ้ง สุดท้ายส่วนของ “The Club” ที่มีพื้นที่ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ประกอบด้วย ห้องอ่านหนังสือ และห้องสันทนาการ ห้องประชุม ห้องเกมส์ และโต๊ะพูล ชั้นนี้มีห้องจำนวนห้องพักอาศัยอยู่ที่ 43 ยูนิต/ชั้น
ที่ชั้น 6-21 จะเป็นชั้นที่พักอาศัยหลักนะครับ โดยจำนวนห้องพักต่อชั้นจะอยู่ที่ 51 ห้องต่อชั้น เป็นจำนวนที่เยอะพอสมควรเลย ทางโครงการเค้าแยกโซนลิฟท์ขึ้นลงเป็น 2 โซน จะได้ไม่หนาแน่นและเดินไกลเกินไป ลิฟท์โดยสาร มี 4 ตัว + ลิฟท์บริการ 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์โดยสารคือ 241 ต่อ 1 ซึ่งเกินค่ามาตรฐานที่ใช้งานสบายๆไปร่วม 2 เท่ากว่า (100:1) การใช้งานลิฟท์ คงจะรอนานหน่อย โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน
สุดท้าที่ชั้นดาดฟ้า ชั้นบนสุดของอาคารจะมี Faciliites ด้วยคือ Roof Garden จัดทำเป็นสวนหย่อมลอยฟ้า ไม่ได้ลงต้นไม้เอาไว้ให้แต่จะเป็นเป็นลานอเนกประสงค์เอาไว้ขึ้นมาชมวิว นั่งเล่นพักผ่อน หรือเป็นพื้นที่เดินวิ่งออกกำลังกายเป็น Jogging Track ในตัวได้เพราะทางเดินรวมแล้วค่อนข้างยาวประมาณ 100 เมตรได้
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- พื้นที่สีเขียวภายในโครงการประมาณ 1.5 ไร่ สวนพักผ่อน และสนามแบดมินตันพื้นหญ้าเทียม
- สวนลอยฟ้า วิวสะพานพระราม 8 พร้อมลานบาร์บีคิว และลู่จ๊อกกิ้ง
- ล็อบบี้ 2 ชั้น สูง 5 เมตร 3 โซน 3 สไตล์
- พื้นที่ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ประกอบด้วย ห้องอ่านหนังสือ และห้องสันทนาการ
- ห้องอเนกประสงค์ สำหรับประชุมและทำงาน ห้องเกมส์ และโต๊ะพูล
- สระว่ายน้ำผู้ใหญ่ขนาดประมาณ 10 x 30 เมตร ลึกประมาณ 1.10 เมตร แยกสระเด็ก
- สระแช่ตัวแบบมีจากุชชี่ในตัว อีกสระซึ่งมีขนาดประมาณ 6 x 20 เมตร ลึก 90 ซม.
- ฟิตเนสวิว 360 องศา พร้อมห้องซาวน่า ลานโยคะยกระดับ ริมสระว่ายน้ำ
- ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว / Service Lift 1 ตัว
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 242 : 1
- ที่จอดรถประมาณ n/a คันคิดเป็น n/a% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 41%
- ระบบ CCTV / Access Card
สำหรับรีวิวฉบับนี้จะขอพาไปดูห้องตัวอย่าง 2 Type ด้วยกันครับ เริ่มจากห้อง 1 Bedroom ขนาด 24.5 ตร.ม. กันก่อน ห้องนี้ขายแบบ Fully Fitted ได้ชุด Pantry ครัวท๊อปหินสังเคราะห์ (Hob&Hood แอร์ทุกห้องและ Built-In ตู้เสื้อผ้าในห้องนอน เป็นโปรโมชั่นเฉพาะ Presale เท่านั้น!) โคมดาวน์ไลท์ห้องรับแขก และโคมไฟซาลาเปาห้องน้ำ ผนังติดวอลเปเปอร์สีขาวเป็นมาตรฐาน ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตาแปลนนี้บ้างแล้ว จากโครงการแบรนด์พลัมอื่นๆ แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยดูห้อง type นี้ เดี๋ยวเราไปดูพร้อมๆกันเลย
สำหรับแปลนห้อง ขนาด 24.5 ตร.ม.นี้เป็นห้องที่มีจำนวนยูนิตมากที่ในโครงการ ด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอยนี้ถือว่าเป็นขนาดห้องไซส์เล็กที่สามารถอยู่พอได้ 2 คนครับ เนื่องจากขนาดและฟังก์ชั่นต่างๆนั้นลงตัวพอสมควร เริ่มจากห้องนั่งเล่นที่แยกส่วนออกมาพร้อมกับพื้นที่โต๊ะกินข้าว ชุดครัวที่ไม่ต้องไปเบียดเสียดกันเท่าไร เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนพอสมควร สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ได้ ส่วนห้องน้ำเป็นห้องน้ำสำเร็จรูปมีขนาดเท่ากันทุกห้องแบ่งพื้นที่โซนเปียกและแห้งเรียบร้อย
เข้ามาภายในจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นก่อนที่เชื่อมกับพื้นที่ส่วนครัวด้านใน ตรงข้ามครัวก็เป็นพื้นที่ทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง พื้นเป็นลามิเนต 8 mm. ส่วนเรื่องความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.55 ม. เพิ่มมาจากความสูงฝ้ามาตรฐานขึ้นมาหน่อย ช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้นครับ
ฝั่งที่วางทีวีสามารถทำ Built-in ชั้นวางได้ ถ้าอยากได้พื้นที่ใช้สอยคุ้มค่าหน่อยต้องเอาทีวีแขวนผนังแบบห้องตัวอย่าง เพื่อได้ชั้นวางของที่มากขึ้น อันนี้ลองถ่ายจากฝั่งที่นั่งโซฟาให้ดูครับระยะดูทีวีประมาณ 1.8 เมตร จัดทีวีไซส์ประมาณ 40-47 นิ้ว กำลังดีครับ
ฝั่งที่นั่งโซฟา คงได้เต็มที่แบบ 2 ที่นั่ง ก็พอดีกับฟังก์ชั่นขนาดห้องไซส์นี้ครับ ด้านข้างโซฟาอีกนิดเดียวจะเป็นเสาแล้วนะครับ ด้านข้างห้องของจริงจะไม่มีเสานะครับ เหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะข้างได้หรือจะขยายโซฟาเป็นแบบ 3 ที่นั่งไปเลยก็ได้
ถัดมาจะเป็นพื้นที่วางตู้เย็นครับ ระยะพื้นที่ความกว้างวางได้ประมาณ 85 ซม. ด้านบนของจริงเป็นผนังโล่ง สามารถ Built ตู้เก็บของเพิ่มได้
พื้นที่โต๊ะรับประทานอาหารตำแหน่งจะอยู่ตรงข้ามกับ Pantry พอดีนะครับ เป็นแบบ 2 ที่นั่งชิดผนังเอา เวลากางเก้าอี้ออกมาใช้งานก็ไม่ติดผนังอะไร
ชุดครัวเป็นอีกส่วนที่โครงการแถมมาให้พร้อมกับห้องนี้ ประกอบด้วยเคาน์เตอร์ Top หินสังเคราะห์สีขาว และชั้นวางของด้านบน ติดตั้งซิงก์น้ำมาให้ชุดหนึ่งและช่องวางไมโครเวฟ (** HoB&Hood ของ Mex เป็นโปรโมชั่นได้เฉพาะคนที่จอง Presale เท่านั้นนะครับ)
ส่วนผนังด้านนี้จะไม่ได้ติดกระเบื้องโมเสคแบบห้องตัวอย่างนะครับ ห้องจริงจะได้เป็นติดกระเบื้องเซรามิกให้ ง่ายต่อการทำความสะอาดดีครับ
Sink สแตนเลสหลุมเดี่ยวจาก Hafele และ *เตาของจริงได้เป็นแบบเซรามิกธรรมดานะครับไม่ใช่แม่เหล็กไฟฟ้า และที่ดูดควันของ MEX
ลิ้นชักมีให้ 2 ชั้น ด้านบนวางอุปกรณ์ช้อน-ส้อม ด้านล่างเก็บจานได้เล็กน้อย และมีชุดตู้ใต้อ่าง สำหรับหน้าบานเปิดได้เป็นลามิเนตสีขาว บานเปิดธรรมดา
ถัดจากพื้นที่ครัวจะเป็นส่วนระเบียงซักล้างด้านหลังกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียมสีดำ
ทางจะออกไประเบียงก่อธรณีกั้นขึ้นมาถ้ารวมกับวงกบกรอบบานแล้วจะสูงประมาณ 10 ซม. เดินเข้าออกก็ระวังหน่อยครับ แต่แบบนี้ทำให้เวลาฝนตกหนักๆ น้ำจะไม่กระเด็นเข้ามาในห้องง่าย ขนาดของพื้นที่ระเบียงประมาณ 0.90 x 2.3 เมตร
ทางซ้ายมือด้านล่างเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้ และมีติดตั้งก๊อกน้ำและปลั๊กแบบมีฝาครอบกันน้ำมาให้
ด้านบนเป็นส่วนของพื้นที่แขวนคอมแอร์ฯแอบบนี้ 2 ตัว แต่ไม่ได้ติดกริลล์บังคับลมร้อนให้หันออกด้านนอกอาคาร ไปหาติดเองก็ได้ครับ แอร์จะมีระแนงเหล็กบังสายตาจากภายนอกเอาไว้ให้ดูไม่เกะกะสายตาถ้ามองจากด้านนอก
ต่อไปส่วนห้องนอนกัน สำหรับห้องจริงจะมีประตู HDF กั้นสัดส่วนไว้ให้ ส่วนพื้นห้องนอนก็เป็นลามิเนตปูเป็นผืนเดียวกับด้านนอกครับ เนื่องจากแปลนห้องนอนเป็นลักษณะแปลนแนวยาว ซึ่งจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่ง ด้านซ้ายเป็นส่วนเตียงนอนและขวาเป็นห้องน้ำในห้องนอน
ในส่วนของขนาดเตียงที่วางได้นั้นคือไซส์ 5-6 ฟุต หากใครชอบเตียงใหญ่ๆ ก็ต้องยอมแลกกับพื้นที่ด้านข้างที่เป็นที่วางตู้เสื้อผ้าโต๊ะเครื่องแป้งที่จะมีพื้นที่น้อยลงไปด้วยนะ ส่วนทางเดินปลายเตียงนี้มีความกว้างอยู่ที่ 45 ซม. เดินได้อยู่แต่อย่าทำ Built-in ชั้นวางทีวีหรืออะไรเพิ่มเติมส่วนผนังจะไม่เหลือพื้นที่ทางเดินเลย หากจะดูทีวีก็ใช้แบบแขวนไปจะเหมาะกว่าครับ
บานกระจกนี้ให้เป็นกระจกสูงจากพื้นเกือบถึงฝ้าเพดาน ด้านล่างเป็นบานฟิคส่วนด้านบนเป็นบานกระทุ้งสองตอน ช่วยให้แสงธรรมชาติภายนอกเข้ามาในห้องได้มากส่งผลให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับห้องขนาดเล็ก
พื้นที่ด้านข้างที่เป็นที่วางโต๊ะหัวเตียงและติดกันทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งซึ่งตำแหน่งจะอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ซึ่งโครงการเค้า Built-In ตู้เสื้อผ้ามาให้นะครับ
ตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าผนังจะอยู่ชิดกับห้องน้ำแบบนี้ หน้าบานด้านนึงจะเป็นกระจกเงา
ซึ่งเวลาเปิดฝั่งทางขวาไม่มีปัญหาหยิบง่ายปกติ
แต่ถ้าเลือกที่จะวางตำแหน่งโต๊ะเครื่องแป้งตรงนี้จะติดปัญหาเรื่องหยิบของจากตู้เสื้อผ้าฝั่งซ้ายหน่อย **จุดนี้ขอเสริมหน่อย ไหนเราก็ต้องหาซื้อโต๊ะเครื่องแป้งเองแล้ว ลองหาเลือกแบบพับเก็บชิดกับผนังดูครับ เดี๋ยวนี้มีให้เห็นบ่อยหลายๆเจ้าแล้ว จะแก้ปัญหาการหยิบเสื้อผ้าตรงจุดนี้ได้
ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน สำหรับส่วนแห้งนี้จะได้กระจกบานใหญ่ ก่อ Low Wall สำหรับวางของได้เล็กน้อย และด้านล่างของ Low Wall นี้แหละ ที่เป็นส่วนติดตั้งท่อ หากมีการซ่อมก็สามารถยก Top ของ Low Wall นี้แล้วซ่อมแซมได้เลยไม่ยาก
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ไซส์ 30 cm. ผิวด้าน ตามภาพ พื้นกั้นเป็นธรณีก่อขึ้นมาช่วยไม่ให้น้ำกระเด็นออกมา
สุขภัณฑ์ต่างๆ และอุปกรณ์ห้องน้ำจาก Cotto และชุดก๊อกน้ำของ Prema ขนาดของสุขภัณฑ์ก็จะกระทัดรัดตามที่เห็น
เทียบขนาดอ่างล้างมือให้ดูจากฝ่ามือซะหน่อย ดูกระจิ๋วไปนิดสำหรับผู้ชายในการใช้งาน
ระยะของสุขภัณฑ์กับตำแหน่งของสายฉีดชำระมันชิดกันไปหน่อย เวลาหยิบจับออกมาใช้งานคิดว่าน่าจะใช้งานยากแน่นอน
ในส่วนพื้นที่อาบน้ำไม่ได้มีฉากกั้นมาให้ ใครงบน้อยแนะนำให้ใช้ราวแขวนม่านพลาสติก ใครมีงบมากหน่อยก็จัดหาติดตั้งกระจกไปเลยห้องน้ำจะได้ดูกว้างหน่อย ส่วนขนาดพื้นที่อาบน้ำนี้อยู่ที่ 0.8 x 1.0 เมตร ยกธรณีขึ้นมาเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อน
ฝักบัวสายอ่อนจาก Preme ด้านข้างติดตั้งปลั๊กและท่อเรียบร้อยสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น
ขนาดหัวฝักบัวใหญ่ดี และมือจับก็จับได้ถนัดมือ สามารถปรับรูปแบบระดับได้
ไฟในห้องน้ำเป็นโคมไฟซาลาเปา และมีพัดลมดูดอากาศมาให้
มาดูห้อง 2 Bedroom ขนาด 49.5 ตร.ม. กันต่อครับ ห้อง Type นี้จะเป็นห้อง Combine เหมือนเอาห้องขนาด 24.5 + 24.5 ตร.ม. และทุบผนังออกให้เชื่อมอยู่ติดกันเหมือนเป็นห้อง 2 ห้องรวมกันปกติ โดยเอาพื้นที่ครัวออกไป 1 จุด ก็จะไปเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องให้มากขึ้นครับ
ลักษณะแปลนห้องเป็นห้องแบบหน้ากว้าง ข้อดีของห้องแบบนี้คือมีช่องเปิดรับแสงธรรมชาติหรือเห็นวิวได้มากกว่าห้องหน้าแคบลึก ซึ่งส่งผลให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น การจัดวางห้อง เมื่อเข้ามาในห้องจะเป็นพื้นที่ส่วนรวมประกอบด้วยพื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมกับโซนครัวและออกไปยังระเบียงได้ พื้นที่นั่งเล่น และอีกด้านจะเป็นส่วนของห้องรับแขกที่เชื่อมต่อกับโซนโต๊ะทำงานอ่านหนังสือที่ได้ช่องแสงติดกันกับประตูทางออกไประเบียง จากนั้นจะแบ่งห้องนอนเป็น 2 ฝั่ง โดยห้องนอนใหญ่จะได้ห้องน้ำในตัว ส่วนอีกด้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเท่ากันกับห้องนอนใหญ่จะถูกซอยย่อยออกมาเป็น 3 ฟังก์ชันคือห้องนอนเล็ก พื้นที่วางเครื่องซักผ้าและห้องน้ำ
จากทางเข้าห้อง เข้ามาจะเจอกับพื้นที่รับประทานอาหารด้านขวามือ ด้านในเป็นส่วนพื้นที่ครัวและออกไปยังระเบียงซักล้างด้านนอกได้
มองย้อนกลับไปประตูทางเข้าส่วนชิดกับประตู(ขวามือ)จะทำเป็นชั้นเก็บรองเท้าก็ได้ครับ ส่วนทางฝั่งตรงข้ามสามารถโต๊ะทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งได้
พื้นที่ด้านหลังประตูสามารถ Built ตู้เก็บรองเท้าของใช้ได้เต็มผนัง
พื้นที่รับประทานอาหารถ้ากางเก้าอี้ออกมามาพื้นที่ใช้งานนั่งได้สบายไม่ติดผนังหรือทางเดิน
ต่อมาดูส่วนของครัวกันบ้างครับ อ้อตำแหน่งแอร์จะอยู่เหนือประตูทางออกไประเบียงพอดีนะครับ
โดยฝั่งซ้ายมือจะเป็นพื้นที่วางตู้เย็น และเหลือพื้นที่บ้างส่วนสามารถหาเป็นชั้นวางเก็บของเพิ่มเติมก็ได้ หรือทำชุดตู้แขวนผนังด้านบนก็ได้
Pantry ครัวที่ได้หน้าตาเหมือนกับห้องก่อนหน้าที่พาไปดูทุกอย่างเลยนะครับ (ก็มันเป็นห้อง Combine นิ >_<) แต่ห้องตัวอย่างเค้าทำให้ดูว่ายังมีพื้นที่เหลือ Built ชุดตู้เพิ่มได้อีกนอกจากที่ให้มา (ชุดตู้ที่หน้าบานสีดำนั่นแหละ)
ถ้าเรา Built เพิ่มตามแบบห้องตัวอย่างจะได้ชั้นเก็บของใช้ที่เพิ่มขึ้นมากทีเดียว
ชุดซิงค์และ Hob&Hood เหมือนกัน
มาดูพื้นที่ระเบียงด้านนอกกันบ้าง พื้นที่ขนาดประมาณ 0.90 x 2.3 เมตร มีเดรนระบายน้ำมาให้
ฝั่งผนังทางซ้ายมือมีติดไฟกิ่งส่องสว่างมาให้ 1 จุด ส่วนฝั่งขวาเหมือนกันด้านล่างห้องนี้ไม่ได้วางเครื่องซักผ้าเอาไว้ให้เนื่องจากในห้องจะมีฟังก์ชั่นห้องเก็บเครื่องซักผ้าเอาไว้ให้เป็นกิจลักษณะ ส่วนนี้เลยอาจจะทำเป็นสวนกระถางแทนก็ได้ครับ ส่วนด้านบนแขวนคอมแอร์ได้ 2 ตัว
ทีนี้มาดูตรงกลางระหว่างชั้นวางรองเท้ากับครัว สุดทางเดินจะเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า ด้านในปูพื้นกระเบื้องเซรามิกสีเทาขนาด 30 x 30 ม. ซึ่งบานเปิดที่ได้จะเป็นบานเปิดธรรมดาตามมาตรฐานโครงการให้มาเหมือนในห้องตัวอย่าง การที่ให้บานเปิดมาด้วยนี้ช่วยให้ดูเรียบร้อยและเป็นสัดส่วน
ภายในพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้า
ภายในห้องน้ำส่วนที่ห้องนอนเล็กใช้ร่วมกับโถงรับแขกนั่งเล่น หน้าตาเหมือนเดิมเป๊ะแต่จะกลับด้านจากห้องแรกที่พาไปดู ขออนุญาตไม่อธิบายรายละเอียดซ้ำนะครับ
พื้นที่อาบน้ำอยู่ทางขวามือ ไม่ได้ฉากกั้น
เข้ามาส่วนห้องนอนเล็กขนาดประมาณ 2.5 x 2.1 ม. วางเตียงแบบ Single Bed จะลงตัวสุดและมีพื้นที่เหลือด้านข้างวางตู้เสื้อผ้าขนาดกระทัดรัดได้ และห้องนี้ก็ได้บานหน้าต่างขนาดใหญ่เหมือนกันกับทุกห้อง นอนชมวิวได้สบาย
ขนาดของตู้เสื้อผ้า รูปแบบเหมือนกัน
ถ้าใครชอบนอนดูทีวีก็เอาทีวีแขวนผนังแบบนี้ได้ แต่ไม่แนะนำให้ติดชั้นวางที่ผนังเพิ่มเพราะจะเดินไม่ได้เอานะครับ ระยะนอนดูทีวีประมาณ 2.0 เมตรครับ
เอาล่ะเดี๋ยวไปดูฟังก์ชั่นของห้องที่เชื่อมต่อกันถัดไปบ้าง
เข้ามาแล้วในส่วนนี้จัดส่วนนั่งเล่นดูทีวีรับแขกไว้ทางขวามือ และก็โต๊ะทำงานเอาไว้ทางซ้ายอยู่ติดกับประตูระเบียงช่องแสงครับ
พื้นที่นั่งเล่น Living Area ได้ระยะที่กว้างขวางเหมาะสม ระยะดูทีวีประมาณ 2.4 เมตร ห้องตัวอย่างเค้าเอากระจกเงามาติดด้านข้างผนังเพื่อช่วยมุมสายตาทำให้ห้องดูกว้างขึ้นครับ ใช้เป็นไอเดียได้นะ
พื้นที่ติดตั้งชั้นวางของดูทีวีฝั่งผนัง
พื้นที่วางโซฟาความกว้างคงได้แค่แบบ 2 ที่นั่งเท่านั้น แต่สามารถเลือกโซฟาเป็นรูปทรงตัว L แบบนี้ได้ นอนดูทีวีเหยียดขาได้ครับมีพื้นที่พอ และวางโต๊ะกลางเล็กได้ด้วย
มองไปฝั่งตรงข้ามติดกับระเบียงกันบ้าง เค้าจัดไว้เป็นมุมโต๊ะทำงานอ่านหนังสือ เพราะใกล้กับช่องแสงธรรมชาติ
ผนังฝั่งนี้แนะนำว่าทำเป็นชั้นวางหนังสือแบบเต็มผนังไปเลยก็ดีครับ สำหรับคนชอบอ่านหนังสือนะ หรือใครไม่ชอบอ่านหนังสือก็ทำเป็นชั้นโชว์วางของสะสมก็ได้
ด้านนี้ทำเป็นโต๊ะทำงานอ่านหนังสือเก๋ สามารถเลือกได้ตามใจเจ้าของห้องเลยมีพื้นที่ความกว้างประมาณ 1.5 เมตร
ติดกันเป็นประตูทางออกไปส่วนของระเบียงอีกอันนึงครับ มุมนี้แหละที่ผมคิดว่าเหมาะสำหรับจัดสวนกระถาง สวนแขวนเล็กๆสวยๆ มองออกไปเวลาพักสายตาจะได้สบายๆตาหน่อย อันนี้แล้วแต่คนชอบนะครับ
ตำแหน่งแขวนคอมแอร์จะอยู่ด้านบนเหมือนเดิมครับ
เข้ามาในส่วนห้องนอนใหญ่กันบ้าง ห้องนี้จะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาวไปเลย มีห้องน้ำในตัวนะครับ
สิ่งที่พิเศาหน่อยคือเจ้าห้องแบบ 2 Bedroom Combine นี้มักจะเป็นห้องตามมุมอาคารเกือบทั้งหมด ดังนั้นห้องนอน Master จะมีตำแหนน่งหน้าต่างช่องแสงเพิ่มมาอีกจุดนึงบริเวณผนังปลายเตียงแบบนี้ ทำให้ลม Flow ไหลเวียนได้ดีและได้แสงธรรมชาติมากกว่าด้วย
แต่ระยะทางเดินปลายเตียงยังเท่าเดิมนะ ยังแนะนำเช่นเดิมว่าไม่ควรจะ Built ชั้นวางที่ติดผนังปลายเตียงแบบนี้ เวลาจะเดินไปเปิดปิดหน้าต่างม่านหรือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนจะลำบากเอาครับ
ลองเปิดหน้าต่างบานกระทุ้งให้ดูสักหน่อย ว่าสามารถเปิดออกได้ประมาณ 30 องศาแบบนี้ครับ
ส่วนของหัวเตียงฝั่งชิดกับประตูทางเข้าห้องนอน มีพื้นที่เหลือวางโต๊ะหัวเตียงได้อยู่กว้างประมาณ 50 ซม.แบบนี้ครับ
ไอเดียจากห้องตัวอย่างอยากให้ห้องดูกว้างหน่อยเลยติดกระจกเงาไว้ที่หัวเตียง ส่วนตำแหน่งแอร์จะอยู้บริเวณนี้นะครับ
มองไปอีกฝั่งจะมีพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้า ติดกันกันเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและห้องน้ำในตัว
ตำแหน่งโต๊ะเครื่องแป้งแอบบังหน้าบานตู้เสื้อผ้านิดหน่อย
ภายในห้องน้ำหน้าตา ขนาด วัสดุ ฟังก์ชั่นเหมือนเดิมครับ
ส่วนของแอร์ที่โครงการแถมมาให้จะเป็นของยี่ห้อ Daikin ทั้งหมดครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 15 June 2015
- ราคาเฉลี่ย(AVG) ของห้อง 1 Bed ขนาด 24.5 ตร.ม. ราคา 2.4 ล้านบาท หรือ 97,959 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ย(AVG) ของห้อง 1 Bed ขนาด 26.5 ตร.ม. ราคา 2.7 ล้านบาทราคา 101,886 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ย(AVG) ของห้อง 2 Bed ขนาด 49.5 ตร.ม. ราคา 4.7 ล้านบาท ราคา 94,949 บาท/ตร.ม.
- Fully Fitted
- ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
- Kitchen & Sink ท็อปหินสังเคราะห์
- (HoB&Hood + ตู้เสื้อผ้า Built-In ในห้องนอน + แอร์ทุกห้อง)(เป็นโปรโมชั่
น เฉพาะงานพรีเซลวันที่ 6-7 ส. ค. 59) - ห้อง 1 Bed จอง 10,000 บาท / ห้อง 2 Bed จอง 20,000 บาท
- ห้อง 1 Bed ทำสัญญา 20,000 บาท / ห้อง 2 Bed ทำสัญญา 40,000 บาท
- ห้อง 1 Bed ดาวน์งวดปกติ 20 งวดๆละ 7,000 บาท และงวดพิเศษ(บอลลูน) 3 งวดๆละ 20,000-25,000 บาท
- ห้อง 2 Bed ดาวน์งวดปกติ 20 งวดๆละ 14,000 บาท และงวดพิเศษ(บอลลูน) 3 งวดๆละ 40,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
Plum Condo ปิ่นเกล้า สเตชั่น จะเห็นว่าเดินทางได้หลากหลายเส้นทางมาก เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนหลักอย่างสมเด็จพระปิ่นเกล้า ใกล้กับห้างพาต้าซึ่งเป็นช่วงต้นๆของฝั่งธนฯที่จะกระจายตัวไปได้ทั้งในเมือง หรือออกเมืองไปยังโซนต่างๆของฝั่งธนบุรีนี้ อยู่ใกล้ๆกับถนนหลักต่างๆอาทิเช่น ถนนบรมราชชนนี, ถนนพระราม 8, ถนนจรัญสนิทวงศ์, ถนนอรุณอัมรินทร์ เป็นต้น ถือว่าเดินทางสะดวกมาก(ถ้าไม่นับการจราจรที่ติดขัดเวลาเข้างานเลิกงานนะครับ) โดยหลักๆก็เกาะเส้นถนนบรมราชชนนีซึ่งถนนเส้นนี้ยาวไปถึงนครชัยศรี เป็นถนนที่ตัดใหม่เพื่อบรรเทาปัญหาคลาสสิคการจราจรของกรุงเทพฯ หรือต้องการจะใช้ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีต้องไปขึ้นบริเวณสะพานพระราม 8 นะครับ ซึ่งช่วยได้ในระดับนึงนะ
การออกเมืองกลับรถเข้าถนนบรมฯแล้วตรงๆ ยังสามารถขับไปออกราชพฤกษ์ หรือ ยาวไปวงแหวนกาญจนาภิเษกก็ได้นะ จากแผนที่ด้านบนจะเห็นว่า การเดินทางข้ามฝั่งเข้าเมืองมีให้เลือกหลายสะพาน สะพานที่ใกล้ๆก็สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และสะพานพระราม 8 หรือจะไปทางสะพานซังฮี้ก็ได้ ส่วนเลยไปทางบางพลัดวิ่งจรัญฯไปเรื่อยๆ ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ก็จะไปข้ามสะพานพระราม 7 ได้ครับ ซึ่งสะพานที่กล่าวมาทั้งหมดนี่รถติดมากนะครับใช่ว่ามีสะพานเยอะๆแล้วปัญหาการจราจรจะหมดไป แต่ช่วยระบายให้ไม่คับคั่งไปได้เยอะ ถนนบรมราชชนนีกับถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้านี่ช่วงเช้า-เย็น ก็ติดปกติอยู่แล้วตามเวลาทำงาน โดยรวมของเลเวลการติดขัดแล้ว ไม่สาหัสเท่าในเมือง
จุดที่ตั้งอยู่ระหว่างแยกใหญ่อย่าง “แยกบรมราชชนนี” กับ “แยกอรุณอัมรินทร์” ในทำเลที่ตั้งของโครงการ นับว่าคึกคักมากๆนะ อยู่ในชุมชนที่อาศัยอยู่มีทั้งเก่าและใหม่ แถมยังมีห้างสรรพสินค้าอย่างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า โรงหนังเมเจอร์ ตลาดปิ่นเงินปิ่นทอง เทสโก้โลตัส ยังมี Community mall ที่มาเปิดใหม่อีกอย่าง The Sense ปิ่นเกล้าติดกับเซ็นทรัลกระจุกนี้ที่สถานที่เรียนพิเศษก็เพียบเหมือนกัน แต่ถ้าใครชอบบรรยากาศราชพฤกษ์ มีร้านกินเที่ยวหรือกินดื่ม มีให้เลือกเยอะเลย แต่ที่เห็นทีเด็ด..ใช้งานในการหาของกินง่ายที่สุดโดยไม่ต้องไปไหนไกลก็ห้างพาต้าแหล่งอารยธรรมยุคบุกเบิกในย่านนี่แหละครับ โดยมีระยะเดินไปประมาณ 90 เมตร เท่านั้นเอง
สำหรับรถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการมากที่สุด คือ สถานีบางยี่ขัน รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วง(บางซื่อ – ท่าพระ) ตั้งอยู่บริเวณแยกก่อนถึงแยกบรมราชชนนี บนถนนจรัญสนิทวงศ์(บริเวณปากซอยจรัญฯ 40/1) ซึ่งตอนนี้โครงการรถไฟฟ้ากำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างคาดว่าน่าจะเปิดให้ใช้กันประมาณปี 2562 ซึ่งระยะห่างจากตัวโครงการไปรถไฟฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 610 เมตร โดยวัดจาก Google Map
ทำเลตรงนี้ นอกจากรถส่วนตัวแล้ว รถเมล์เล็กใหญ่ สองแถว แท๊กซี่ มีให้เรียกใช้บริการเพียบ หาง่ายแบบไม่ต้องรอนานในช่วงเวลาปกติ เพราะอยู่ติดถนนใหญ่อย่างสมเด็จพระปิ่นเกล้า และไม่ไกลจากห้างอย่างพาต้าซึ่งเป็นจุดรอรถหลักๆในละแวกนี้ โดยเริ่มจากแถวหน้าโครงการมีป้ายรถเมลล์อยู่ และที่จุด A นั้นเป็นจุด Drop Off กดให้เรียก Taxi อัจฉริยะ ทีนี้ถ้าต้องการใช้พี่วินก็เดินไปที่หน้าห้างพาต้าจะมีพี่วิน 2 จุด(C, D) ระยะทางประมาณ 90-100 เมตรเท่านั้น และถ้าต้องการออกเมืองก็จะมีคิวรถตู้อยู่ที่ตรงนี้ด้วย จากที่สอบถามคร่าวว่ามีไปไหนบ้างก็ส่วนใหญ่เป็นออกเมืองทั้งหมดอย่างสามพราน มหาชัย พุทธมณฑล-ศาลายา เป็นต้นครับ
การออกแบบโครงการถือว่าทำออกมาค่อนข้างหนาแน่นกับยูนิตต่อชั้นที่ 51 ยูนิต(ที่ชั้น 6-21) และอัตราส่วนลิฟต์ 241 : 1 แต่ก็มีการจัดวางแบ่งเป็น 2 โซนวางตำแหน่งลิฟต์แบ่งเป็น 2 ฝั่ง เพื่อร่นระยะทางในการเดินใช้งานถึงแม้จะไม่ได้กั้นประตูสแกนบัตร ซึ่งการแบ่งโซนนี้ก็ถือว่าช่วยลดความพลุ่กพล่านต่อชั้นได้ดี ส่วนการออกแบบห้องพักอาศัยนั้นก็จะมีรูปแบบแปลนคล้ายกับโครงการพลัมคอนโดอื่นๆ โดยมีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 24.5-49 ตร.ม. ภายในห้องจัดวางฟังก์ชันได้ลงตัวดี และใช้พื้นที่ใช้สอยได้ค่อนข้างคุ้มค่า
วัสดุที่ได้อยู่ในระดับมาตรฐานของแบรนด์พลัม ขายแบบ Fully Fiited เริ่มจาก ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.55 ม. พื้นลามิเนตหนา 8 มม. พื้นภายนอกและห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิก 30×30 ซม. ชุดครัวพร้อม Sink จาก Hafele ท็อปหินสังเคราะห์ และห้องน้ำสำเร็จรูปใช้ยี่ห้อ Cotto ทั้งหมด และติดวอลเปเปอร์สีขาวมาตรฐานให้ ถือว่ามาตรฐานแบรนด์พลัม (**Hob&Hood ของ Mex / Built-In ตู้เสื้อผ้าในห้องนอน / ให้ได้แอร์ทุกห้อง นี่เป็นโปรโมชั่นเฉพาะจอง Presale เท่านั้นครับ)
สุดท้ายในเรื่องของสาธารณูปโภคถือว่าให้มาเยอะพอสมควร The Garden พื้นที่สีเขียวภายในโครงการประมาณ 1.5 ไร่ สวนพักผ่อน และสนามแบดมินตันพื้นหญ้าเทียม “The Living” ล็อบบี้ 2 ชั้น สูง 5 เมตร 3 โซน 3 สไตล์ / ยูนิตร้านค้า 4 ยูนิต(ยังไม่คอนเฟิร์มร้าน) / “The Club” พื้นที่ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ประกอบด้วย ห้องอ่านหนังสือ และห้องสันทนาการ ห้องอเนกประสงค์ สำหรับประชุมและทำงาน ห้องเกมส์ และโต๊ะพูล / สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ยาว 30 เมตร แยกสระเด็ก และสระแช่ตัวแบบมี Jacuzzi อีกสระซึ่งมีขนาดประมาณ 6 x 20 เมตร ลึก 90 ซม. / ฟิตเนสวิว 360 องศา พร้อมห้องซาวน่า ลานโยคะยกระดับ ริมสระว่ายน้ำ / สวนลอยฟ้า วิวสะพานพระราม 8 พร้อมลานบาร์บีคิว และลู่จ๊อกกิ้ง / ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว – Service Lift 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 242 : 1 ถือว่าสูงมากๆ ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 41% ให้มาพอประมาณและเทียบกับความสะดวกในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะนั้นก็พอหักลบให้ได้อยู่
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 98,000 บาท/ตร.ม., 15 June 2015
- ทำเล 8.25/10 – ติดถนนใหญ่ มีความอุดมสมบูรณ์ในระยะรอบๆโครงการ
- เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – สะดวก เข้า-ออกเมืองง่าย สามารถเชื่อมเข้าถนนได้หลายสาย แต่ก็เป็นช่วงที่รถติดสุดๆในย่านนี้เช่นกัน ที่จอดรถ 41% รวมซ้อนคัน
- ไม่ใช้รถ 8.25/10 – ติดถนนใหญ่เรียกรถสาธารณะง่ายมาก พี่วิน รถเมล์ Taxi รถตู้ อนาคตมีรถไฟฟ้าสีน้ำเงินบางยี่ขันระยะ 600 เมตรมาเสริมเพิ่ม
- วัสดุ 7.25/10 – ได้มาเยอะกว่ามาตรฐานแบรนด์พลัม แต่เมื่อเทียบกับราคาแล้วถือปกติ
- แบบ 7.5/10 – จัดวางฟังก์ชั่นในห้องได้ดี ใช้พื้นที่คุ้มค่า ส่วนอาคารมีความหนาแน่นสูง
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – ให้มาครบครันหลากหลาย แต่ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิตแล้วถือว่ามาตรฐาน
- MAIN-UPPER CLASS
- 7.9 / 10.00
BOTTOM LINE
Plum Condo ปิ่นเกล้า สเตชั่น เหมาะกับคนที่เคยชินกับสภาพความเป็นอยู่ของชาวฝั่งธนฯครอบครัวเดิมอยู่แถวนี้ หรือสถานที่ทำงานอยู่บริเวณนี้ ใกล้ถนนหลักอย่างถนนบรมราชชนนี ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นเส้นหลักเดิมมีความเจริญมานานแล้ว เดินทางด้วยรถยนต์สะดวกหรือจะเลือกใช้รถสาธารณะก็ง่าย เช่นรถเมล์ รถตู้ สองแถว วินมอเตอร์ไซด์ และมีงบประมาณในราคา 2.2 – 4.4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 15,400 – 30,800 บาท
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )