
ใครที่ขับรถผ่านไปมาในย่านทองหล่อก็คงจะเคยเห็นโครงการ Park Origin Thonglor กันบ้างแล้วนะคะ เพราะเขาเป็นคอนโดมิเนียม High Rise 3 อาคาร ที่สูงที่สุดในย่านทองหล่อ ด้วยความสูงถึง 59 ชั้น ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 10 หรือเอกมัยซอย 5 สามารถออกได้ทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งโครงการนี้เขามีจุดเด่นที่น่าสนใจหลายอย่าง จะมีอะไรบ้างเราไปดูกันค่ะ
- ทำเล : ใจกลางทองหล่อ จากโครงการสามารถเดินไป Donki Mall ได้สบายๆ นอกจากนั้นยังออกได้ทั้งฝั่งเอกมัยและทองหล่อ มีร้านค้า ร้านอาหาร อาคารสำนักงานในระยะเดินไปได้หลายแห่ง
- ความสูง : โครงการมี 3 อาคาร สูงสุดถึง 59 ชั้น (241 เมตร) ทำให้มองเห็นวิวใจกลางเมืองแบบเปิดโล่งได้ 360 องศา ซึ่งหาได้ไม่เยอะนักในซอยทองหล่อที่มีอาคารสูงหนาแน่น
- พื้นที่ส่วนกลาง : มี Facility ถึง 3 อาคาร กว่า 50 ฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 3 สระ, 2 ห้องออกกำลังกาย, Onsen, ห้องซ้อมดนตรี, 2 ห้องดูหนัง ฯลฯ ทั้ง 3 อาคารสามารถเดินเชื่อมต่อกันได้
- การออกแบบ : ออกแบบโดยสถาปนิกชั้นนำไม่ว่าจะเป็นTandam , DWP และ Trop โถงทางเดินแบบ Single Corridor ยูนิตต่อชั้นไม่เกิน 13 ยูนิตได้ความเป็นส่วนตัวสูง และแบบห้องพักอาศัยหลากหลายกว่า 20 แบบ
- ที่จอดรถ 70% : ที่จอดรถให้มาประมาณ 700 คัน ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างเยอะ เนื่องจากอาคาร A เป็นอาคารสำหรับปล่อยเช่า และชาวต่างชาติ อาจมีจำนวนรถยนต์ในโครงการไม่หนาแน่นมากนัก
ข้อมูลโครงการ
Park Origin Thonglor ณ วันที่ 30 มกราคม 2565
ชื่อโครงการ | PARK ORIGIN THONGLOR (พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จํากัด |
SEGMENT CLASS | SUPER LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอยทองหล่อ 10 เขตวัฒนา |
ที่ดิน | 5-3-90.9 ไร่ |
ประเภทคอนโด | High Rise 3 อาคาร จำนวนทั้งหมด 1,098 ยูนิต |
จำนวนยูนิต | อาคาร A จำนวน 375 ยูนิต / อาคาร B จำนวน 394 ยูนิต / อาคาร C จำนวน 329 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | n/a ยูนิต |
ที่จอดรถ | ประมาณ 700 คัน หรือคิดเป็น 70% เป็นที่จอดแบบ Automatic Parking |
เริ่มก่อสร้าง | Q2/2562 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 3.00 เมตร ในแบบห้องปกติ 3.50 เมตร ในห้อง Penthouse 4.25 เมตร ในแบบห้อง Duo |
ราคาเริ่มต้น | 8.99 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 290,000 – 300,000 บาท/ตร.ม. |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | n/a |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | Website โครงการ |
Call Center | 020 300 000 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.731607551435415, 100.58464684198144
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Park Origin Thonglor ตั้งอยู่บนกึ่งกลางซอยทองหล่อ 10 ซึ่งเป็นซอยหลักที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) และถนนสุขุมวิท 63 (เอกมัย) ทำเลนี้สามารถเดินทางไปเชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายเส้น ไม่ว่าจะเป็น ถนนสุขุมวิท เพื่อใช้เข้าเมืองไปยังสยาม หรือออกเมืองไปยังบางนา , ถนนเพชรบุรี เข้าเมืองไปยังพญาไท หรือออกเมืองไปยังพัฒนาการ , ถนนสุขุมวิท 77 (ปรีดี พนมยงค์)ไปออกรามคำแหง หรือถ้าจะเดินทางไปยังถนนอโศกมนตรี ก็สามารถใช้เส้นทางลัดเลาะไปตามซอยทองหล่อ 13 ไปโผล่ยันกลางอโศกเลยก็ได้ หรือหากใครที่ต้องการเข้าถนนพระราม 4 ก็สามารถเข้าซอยสุขุมวิท 36, 38, 40 หรือ 42 ไปออกที่ถนนพระราม 4 ได้เลยค่ะ
เนื่องจากถนนเส้นทองหล่อและเอกมัยเป็นถนนที่การจราจรหนาแน่นมากทั้งเวลากลางวันและกลางคืน มีปริมาณรถที่วิ่งเยอะและสามารถเลี้ยวเข้าซอยต่างๆทั้ง 2 ข้างทางได้ตลอดเกือบทั้งเส้น ทำให้ต้องเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทางไปยังถนนหลักต่างๆ ค่อนข้างนาน จึงจำเป็นที่จะต้องรู้เส้นทางลัด ซอยต่างๆ เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางนะคะ เส้นทางลัดสำหรับคนที่อยากเข้าถนนสุขุมวิท แต่ไม่อยากรถติดที่ถนนทองหล่อและเอกมัย ให้ใช้เส้นทางเอกมัยซอย 12 ลัดมาออกถนนสุขุมวิทที่ซอย 65 หรือไปยังสุขุมวิท 71 ได้
สำหรับใครที่ต้องการใช้ทางด่วน ก็จะมีทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งทางขึ้นอยู่บริเวณใกล้กับคลองพระโขนง โดยจากโครงการออกมายังถนนสุขุมวิทและขับมุ่งหน้าไปยังอ่อนนุช ก็จะสามารถไปใช้ทางด่วนนี้เพื่อไปยังรามอินทราได้ หรืออีกเส้นทางหนึ่งเราสามารถขับมาเอกมัยและมุ่งหน้าไปทางรามอินทราก็จะมีจุดขึ้นทางด่วนซึ่งตั้งอยู่เลยแยกพระราม 9 ไปไม่ไกลค่ะ
สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถเพื่อไปยังโครงการนั้น ตัวโครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อประมาณ 1.5 กิโลเมตร เราสามารถใช้บริการวิน ที่หน้าซอยทองหล่อ 10 หรือเอกมัยซอย 5 เพื่อเข้าไปยังโครงการได้ หรือเรียกรถผ่าน Application ก็รอไม่นานค่ะ หรือจากตัวสถานีทองหล่อเอง ถ้าเดินทางถัดมา 1 สถานี ก็จะถึงสถานีพร้อมพงษ์ ซึ่งมีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Emporium , Emquartier ถัดจากพร้อมพงษ์มาอีก 1 สถานีก็เป็นจุด Interchange กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท ซึ่งตรงนี้ก็มีห้าง Terminal 21 อยู่ด้วย ใครที่ต้องการเดินทางไปยังฝั่งสยามหรือทำงานยังโซนสีลมก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าต่อได้สบายเลยค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ก็เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วนะคะว่าเป็นทำเลไลฟ์สไตล์ฮอตฮิต หนึ่งในทำเลที่มีค่าครองชีพและราคาที่ดินสูงที่สุดของกรุงเทพฯ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย ธุรกิจการค้า แหล่งท่องเที่ยว ช้อปปิ้งและร้านอาหารระดับ Hi-end มากมาย มีความคึกคักทั้งในเวลากลางวันและมีสีสันในเวลากลางคืน ทองหล่อจึงเป็นย่านสำหรับกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง ส่วนใหญ่ชอบกินดื่มนอกบ้านมากกว่าทำอาหารกินเอง จึงเป็นแหล่งรวมของร้านอาหาร Community Mall ที่เน้น Life Style อย่างเช่น The Commons, J Avenue เป็นต้น
นอกจากร้านอาหารและแหล่งช้อปปิ้งแล้วยังมีสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างโรงเรียน, โรงพยาบาล และสวนสาธารณะอยู่ใกล้เคียง เช่น โรงเรียนนานาชาติ Ekkamai International School, St.Andrews International School, โรงพยาบาลคามิลเลียน, โรงพยาบาลไทยคริสเตียน และ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
สำหรับใครที่มองหาห้างสรรพสินค้าให้เดินซื้อของใกล้ๆ รวดเร็ว ก็ไม่ต้องไปไหนไกลเพราะมี Donki Mall ห้างสัญชาติญี่ปุ่นให้เลือกซื้อของกินของใช้สะดวก แบบเดินไปได้สบายๆ หรือจะขยับออกมาหน่อยก็มี Major Cineplex เอกมัย ห้างเก่าแก่ในย่านนี้ที่เน้นไปที่โรงภาพยนตร์ในชั้นบน และมีร้านอาหารในชั้นล่างให้ได้เลือกกิน ซึ่งจะไม่ได้เน้นไปที่ของแพงมากนัก ส่วนใหญ่คนที่เดินภายในจะเป็นวัยนักเรียน นักศึกษาค่อนข้างเยอะค่ะ หากใครไม่ชอบความวุ่นวายก็ขยับมาที่ Gateway เอกมัย ห้างที่เน้นเอาใจชาวญี่ปุ่นอีกแห่ง ด้วยสไตล์และร้านค้า ร้านอาหารภายในที่มีกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น ที่เป็นแบบนี้เพราะย่านเอกมัย-ทองหล่อปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นอีกย่านดังของชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงาน หรืออาศัยอยู่ในประเทศไทย และหลักๆ ที่เห็นเยอะเลยคือชาวญี่ปุ่นนี่เอง
พาชมบรรยากาศในซอยทองหล่อกันสักนิด
Community Mall ที่ใกล้โครงการที่สุดก็จะเป็น Taste หรือ Starbucks สาขาทองหล่อ ตั้งอยู่ตรงสามแยกค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้
โครงการจะมีทางเข้า-ออกติดกับถนนทองหล่อซอย 10 โดยทางเข้าโครงการจะอยู่ข้างๆ กับสำนักงานขาย ตัวที่ดินจะไปขยายกว้างด้านในค่ะ ทางทิศตะวันตกติดกับโครงการบ้านกลางกรุง เป็นบ้านพักอาศัยความสูง 4 ชั้น เนื่องจากโครงการนี้เป็นอาคารที่สูงมากจะสามารถมองเห็นย่านทองหล่อได้เลย ซึ่งจะมีโครงการ Khun by Yoo สูง 27 ชั้น และโครงการ Tela ทองหล่อสูง 31 ซึ่งไม่ได้อยู่ในระยะประชิด ด้านบนทางทิศเหนือติดกับอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น ไม่ได้มีอาคารสูงอยู่ในระยะใกล้นักเนื่องจากอยู่ด้านในซอย ทางทิศตะวันใกล้กับโรงพยาบาลสัตว์เจริญสุข ทางทิศใต้ติดกับถนนทองหล่อซอย 10 และคอนโด Burgundy สูง 7 ชั้น ซึ่งสามารถเห็นวิวถนนสุขุมวิทและสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อได้ค่ะ
- ทิศเหนือ ติดกับ อาคารพักอาศัยสูงประมาณ 8 ชั้น
- ทิศตะวันออก ติดกับ โรงพยาบาลสัตว์เจริญสุข (CAH)
- ทิศใต้ ติดกับ คอนโด Burgundy สูง 7 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านกลางกรุงสูง 4 ชั้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- DONKI MALL – 110 M.
- FOODLAND @EIGHT THONGLOR – 450 M.
- J AVENUE THONGLOR – 500 M.
- 72 COURTYARD – 550 M.
- THE COMMONS – 650 M.
- MARKET PLACE THONGLOR – 750 M.
- MAZE THONGLOR – 800 M.
- THE 49 TERRACE – 1.2 KM.
- THE EMPORIUM – 2.6 KM.
- THE EMQUARTIER – 2.6 KM.
โรงพยาบาล
- THONGLOR PET HOSPITAL – 350 M.
- SAMITTIVEJ HOSPITAL – 900 M.
- CAMILLIAN HOSPITAL – 1 KM.
- SUKHUMVIT HOSPITAL – 1.7 KM.
- BANGKOK HOSPITAL – 2.3 KM
โรงเรียน
- EARLY LEARNING CENTRE SCHOOLS – 800 M.
- SP INTERNATIONAL KINDERGARTEN – 800 M.
- EKAMAI INTERNATIONAL SCHOOL – 900 M.
- THE AMERICAN SCHOOL OF BANGKOK – 1.3 KM.
- BANGKOK PREP INTERNATIONAL SCHOOL – 1.4 KM.
- BANGKOK ADVENTIST INTERNATIONAL SCHOOL – 1.6 KM.
- WELLS INTERNATIONAL SCHOOL – 1.8 KM.
- IVY BOUND INTERNATIONAL SCHOOL – 1.8 KM.
อาคารสำนักงาน
- MAJOR TOWER – 100 M.
- SORACHAI TOWER – 950 M.
- HUBBA EKAMAI – 1.1 KM.
- T ONE TOWER – 1.4 KM.
- BHIRAJ BURI TOWER – 2.6 KM
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- คอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดในทองหล่อ ด้วยความสูง 59 ชั้น 241 เมตร มองเห็นวิวเมืองได้รอบด้าน ไม่มีอาคารอื่นมาบดบังวิว
- ผ่านการออกแบบโดยสถาปนิกชั้นนำระดับสากลอย่าง Tandam Architect , ออกแบบภายในโดย DWP และ Landscape Design โดย Trop
- มีพื้นที่ส่วนกลางมุมสูง 2 ชั้น ทุกอาคาร สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ รวมประมาณ 50 ฟังก์ชัน ให้เลือกใช้งาน เหมาะกับคนที่ชอบเปลี่ยนบรรยากาศนั่งเล่นพักผ่อน และสันทนาการ
- ผังห้องพักอาศัยแบบ Single Corridor ได้ความเป็นส่วนตัว ยูนิตต่อชั้นไม่เกิน 13 ยูนิต
Park Origin ทองหล่อ เป็นคอนโด High Rise จำนวน 3 อาคาร รวม 1,098 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ดิน 5-3-90.9 ไร่ เป็นโครงการที่มูลค่าสูงสุดจาก Origin Property ในปัจจุบัน มูลค่าโครงการกว่า 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็น
- TOWER A 375 ยูนิต สูง 39 ชั้น
- TOWER B 394 ยูนิต สูง 53 ชั้น
- TOWER C 329 ยูนิต สูง 59 ชั้น
ซึ่งเทียบกับโครงการใกล้เคียงถือว่ามีความสูงที่มากที่สุดในซอยทองหล่อ-เอกมัยเลยค่ะ เนื่องจากภายในอาคารมีห้องแบบ Duo Space ฝ้าเพดานสูง 4.25 เมตร และห้อง Penthouse สูง 3.50 เมตร ทำให้ความสูงแต่ละชั้นเพิ่มมากขึ้นไปอีก Tower A จะเป็น จะเป็นอาคารที่เปิดขายให้กับชาวต่างชาติ สำหรับคนไทยเปิดขายที่ Tower B และ C โครงการมีที่จอดรถประมาณ 700 คัน หรือประมาณ 70 % เป็น Auto Parking ทั้งหมด โดยสามารถจอดรถที่อาคารใดก็ได้ เช่นอาศัยอยู่ Tower B แต่จอดรถที่ Tower A ก็ได้ค่ะ ตัวอาคารจะหันไปทางทิศเหนือ-ใต้ซึ่งเป็นทิศที่ไม่ร้อนและได้ลมดี
แนวคิดการออกแบบ
แนวคิดการออกแบบโครงการมาจากการใช้ชีวิตของผู้คนในทองหล่อที่กลางวันและกลางคืนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จึงเป็นที่มาของคำว่า Extra Ordinary และการใช้ชีวิตของผู้คนที่ต้องเชื่อมโยงกับ Community, Technology และ Nature อยู่ตลอดเวลา โครงการจึงคงต้นไม้ใหญ่บนที่ดินเดิมไว้บางส่วนเพื่อเป็น Nature นำเอา Technology เข้ามาใช้กับห้องพักอาศัยเพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น และทำให้เป็น Community ที่น่าอยู่ การออกแบบอาคารแต่ละ Tower ก็แตกต่างกันออกไป โดยมาจากแนวคิดความเป็น Park ซึ่งเป็นชื่อโครงการแบ่งออกมาเป็น 3 องค์ประกอบหลัก คือ Sculpture, Lake และ Tree มาเป็นธีมหลักในการออกแบบแต่ละอาคารทั้งวัสดุและพื้นที่ใช้สอย ตัวอาคารส่วนที่เป็น Facilities ส่วนกลางมีหลังคาโค้งมาจากรูปทรงเปลือกไม้เวลาอ้าออกแล้วเห็นแก่นภายในแต่ละอาคาร ซึ่งทุกอาคารจะมีพื้นที่ส่วนกลาง 2 ชั้น จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ
ก่อนจะไปชมบรรยากาศจริงภายในโครงการขอพามาดูผังกันคร่าวๆ นะคะ ทางเข้า-ออกจะอยู่ติดซอยทองหล่อ 10 ซึ่งเป็นซอยเชื่อมระหว่างถนนทองหล่อ(สุขุมวิท 55) และถนนเอกมัย(สุขุมวิท 63) หน้ากว้างติดถนนเฉพาะทางเข้า-ออก แล้วไปขยายใหญ่ขึ้นด้านใน มี 3 อาคาร ที่ดินของโครงการคงต้นไม้ใหญ่ดั้งเดิมเอาไว้ มีอายุถึง 70 ปี ทำให้มีความร่มรื่น อีกทั้งยังมีพื้นที่สวนชั้น Ground Floor เชื่อมต่อกับโครงการ Origin Thonglor World ชื่อว่า Thonglor Central Park กว่า 2 ไร่ เรียกได้ว่าเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางทองหล่อเลยค่ะ
เส้นทางการขับรถเข้ามาในโครงการเป็นการเดินรถ 2 ทางสวนกันแต่ละอาคารจะมี Drop Off ด้านข้างอาคารทางทิศตะวันตก เมื่อ Drop Off แล้วสามารถกลับรถไปยังช่องจอดรถ(Auto Parking) ของแต่ละอาคารได้ ซึ่งลูกบ้านสามารถจอดรถที่อาคารใดก็ได้ โดยอาคาร A จะมี 2 ช่องจอด, อาคาร B และ C อาคารละ 3 ช่องจอด รวมที่จอดรถประมาณ 700 คัน หรือประมาณ 70 %
การใช้งาน Lobby เมื่อลงจากรถที่ Drop Off แล้วสามารถเดินเข้ามาใช้งานที่ lobby ได้เลย มีลิฟต์โดยสารเป็นลิฟต์ล็อกชั้นทั้งโครงการอยู่ที่ 11 ตัว อาคาร A 3 ตัว อาคาร B และ C อาคารละ 4 ตัว เฉลี่ยอัตราส่วนลิฟต์ต่อห้องพักอาศัย 100 : 1 ถือว่าไม่สูงมากนักสำหรับโครงการ High Rise ส่วนลิฟต์ Service จะอยู่ที่อาคารละ 1 ตัวค่ะ
บรรยากาศทางเข้าด้านหน้าโครงการมีความร่มรื่น มีระยะร่นจากถนนเพื่อให้เลี้ยวเข้า-ออกได้ง่าย พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
บรรยากาศสวนภายในโครงการ
ทางโครงการเก็บรักษาต้นไม้ขนาดใหญ่ในที่ดินเดิมไว้เกือบทั้งหมดเลยค่ะ ด้านหน้าโครงการมีต้นจามจุรีอายุกว่า 70 ปี ให้ความร่มเงาและบรรยากาศที่ร่มรื่นกับโครงการตั้งแต่วันแรกค่ะ
บรรยากาศบริเวณที่จอดรถ
ในโครงการมีที่จอดรถประมาณ 700 คัน หรือประมาณ 70 % เป็น Auto Parking นะคะ จะมีจอดรถรอบๆ อาคารบ้างเล็กน้อย โดยรวมถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะ และใช้งานได้สะดวก ข้อดีของที่จอดแบบ Auto Parking คือเราไม่ต้องขับไปวนหาที่จอดเอง แค่เข้าไปในช่องจอด ออกมาสแกนบัตรก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ
อาคาร A
อาคาร A ชั้น 1
เราจะพาทุกคนไปชมพื้นที่ส่วนกลางกันทีละอาคารนะคะ ซึ่งทุกอาคารจะมี Lobby แยกจากกันเพื่อความเป็นส่วนตัว มี Smart Locker และ Mail Box เป็นของตัวเอง เริ่มที่อาคาร A ที่แตกต่างจากอาคารอื่นๆ เนื่องจากเป็นอาคารที่เน้นปล่อยเช่าเป็นหลัก จึงมีร้านอาหาร Gin Kitchen เป็นโซน All day Dinning (B) ให้ใช้งานได้สะดวกค่ะ
ที่ชั้น 2 มีห้อง Business Lounge และ Meeting Room รองรับการทำงาน และประชุมออนไลน์ พื้นที่ส่วนกลางทุกส่วนลูกบ้านทุกอาคารสามารถใช้งานร่วมกันได้ค่ะ
โถงหน้าอาคาร A
ทางเข้าของ Lobby ทุกอาคารจะเป็นระบบสแกนใบหน้า ช่วยลดปัญหาการปล่อยเช่ารายวัน และใช้งานได้สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องหยิบบัตรมาสแกนค่ะ
บรรยากาศภายใน Lobby อาคาร A ตกแต่งด้วยวัสดุโทนสี Rose Gold มีความระยิบระยับให้ความรู้สึกโอ่อ่า หรูหรา มีที่นั่งให้หลายชุดรองรับการใช้งานของลูกบ้านได้อย่างเพียงพอ สามารถนั่งพักผ่อนมองเห็นสวนด้านหน้าโครงการได้ จาก Lobby จะเชื่อมต่อไปยังห้องอาหาร All Day Dinning ค่ะ
บรรยากาศภายในห้องอาหาร All Day Dinning
ห้องอาหาร All Day Dinning ให้ลูกบ้านสามารถสั่งอาหารได้สะดวกจากภายในโครงการ เหมือนกับอยู่โรงแรม
บรรยากาศบริเวณโถงทางเดิน
โทนการตกแต่งภายในอาคาร A จะเหมือนกับ Lobby มีความหรูหรา เข้าใช้งานโถงลิฟต์ด้วยระบบ Face Scan หรือ Key Card ที่อาคาร A จะมีลิฟต์ทั้งหมด 3 ตัวค่ะ อัตราส่วนลิฟต์ตึก A อยู่ที่ 125 : 1 ลิฟต์ค่อนข้างเร็วทำให้รอไม่นานมากนัก
Business Lounge
ขึ้นมาชั้น 2 มีห้อง Business Lounge และ Meeting Room สำหรับนั่งทำงาน มีทั้งมุมโต๊ะทำงานเดี่ยวและห้องประชุมให้ใช้งานค่ะ
Facilities ของอาคาร A เริ่มที่ชั้น 38 เป็นพื้นที่สำหรับออกกำลังกาย มีสระว่ายน้ำมองเห็นวิวทางทิศตะวันตก, Fitness, Jacuzzi, Stream Room, Yoga Fly เป็นต้น ชั้นนี้ยังมี Sky Bridge เชื่อมกับชั้นพักอาศัยชั้น 39 ที่อาคาร B ด้วยนะคะ ซึ่งมีประตูกั้นระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและส่วนห้องพักเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยกับผู้อยู่อาศัยที่อาคาร B
บรรยากาศโถงลิฟต์ชั้น Facility อาคาร A
บรรยากาศภายในห้อง Fitness
Fitness ภายในโครงการนี้มี 2 ห้องใหญ่ๆ ด้วยกันค่ะ ห้องแรกอยู่ที่อาคาร A มีเครื่องออกกำลังกายทั้ง Weight Training และ Cardio ให้ใช้งานครบครัน นอกจากนั้นยังมี Highlight อยู่ที่สามารถจัด Yoga Fly หรือ Pilates Class ได้ค่ะ
บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำอาคาร A
สระว่ายน้ำอาคาร A เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือที่มองเห็นวิวทางทิศตะวันตก จะเห็นว่าด้วยความสูงที่ชั้นนี้ก็สามารถมองเห็นวิวใจกลางเมืองได้โดยไม่มีอาคารสูงมาบังแล้วค่ะ
บรรยากาศบริเวณพื้นที่นั่งชมวิว
ด้านบนสระว่ายน้ำมีพื้นที่นั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดินได้ 180 องศา
อีกฝั่งหนึ่งของอาคารก็มีพื้นที่นั่งพักผ่อนมองเห็นวิวเมืองได้อีกโซนหนึ่งค่ะ
บรรยากาศภายในห้อง Private Spa
ด้านข้างบริเวณทางเชื่อมไปยังอาคาร B มีห้อง Private Spa ให้ลูกบ้านสามารถจองใช้งานได้
บรรยากาศภายในห้องน้ำส่วนกลาง
ภายในห้องน้ำส่วนกลางจะมี Locker มาให้ พร้อมกับห้อง Stream ที่มองเห็นวิวได้กว้าง ออกกำลังกายเสร็จมา Stream พักผ่อนได้สบายๆ
อาคาร A ชั้น 38 สามารถเดินเชื่อมไปยังอาคาร B ชั้น 39 ซึ่งเป็นชั้นพักอาศัยได้ค่ะ
ชั้น 39 เป็นชั้นกิจกรรมผ่อนคลาย มีพื้นที่ Business Lounge, Game Room, Private Theater, Golf Simulator และบาร์ชมวิวทางทิศเหนือ ซึ่งชั้นนี้เป็นชั้น Facilities ทั้งหมดค่ะ
บรรยากาศภายในห้อง Golf Simulator
ห้อง Golf Simulator เป็นห้องแบบส่วนตัวพร้อมอุปกรณ์พื้นฐาน โดยจะมีหน้าจอบอกสถานะเวลาการจองห้องอยู่ด้านหน้าค่ะ
บรรยากาศภายใน Private Theater
Theater ภายในโครงการนี้จะมีอยู่ 2 ห้องด้วยกัน ห้องแรกอยู่ที่อาคาร A เป็น Private Theater ที่ลูกบ้านสามารถเลือกภาพยนตร์มาดูกันเองได้แบบเป็นส่วนตัว มีเก้าอี้นั่งได้ 4 คนค่ะ
บรรยากาศภายใน Game Room
ถัดมาเป็น Game Room ที่ภายในมีบอร์ดเกม และเครื่องเล่นเกม PS5 มาให้ใช้งาน สามารถนัดเพื่อนๆ มาเล่นเกมสังสรรค์กันได้เลย
บรรยากาศภายใน Business Lounge
ริมสุดของอาคารเป็นพื้นที่ Business Lounge เหมาะสำหรับนัดพูดคุยธุระ ในบรรยากาศสบายๆ มองเห็นวิวได้กว้าง ภายในมีบาร์เครื่องดื่ม และห้องสูบบุหรี่แยกให้ใช้งานค่ะ
Highlight ของอาคารนี้อยู่ที่ Crystal Box มุมชมวิวที่มองเห็นวิวทางฝั่งทิศตะวันตกและทิศเหนือได้อย่างเต็มที่
อาคาร B
อาคาร B เป็นอาคารพักอาศัยทั่วไป โดยที่ Lobby ชั้นล่างจะมีพื้นที่ร้านสะดวกซื้อให้ลูกบ้านซื้อของใช้ประจำวันก็ได้สะดวก (รายละเอียดร้านค้าสอบถามเพิ่มเติมจากโครงการ) ภายในมี Smart Locker และ Mail Box เช่นกันค่ะ
บรรยากาศด้านหน้า Lobby อาคาร B มีพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน Outdoor เหมือนกับอาคาร A เลยค่ะ
บรรยากาศภายใน Lobby อาคาร B
Lobby ของอาคาร B เน้นการตกแต่งด้วยเส้นโค้งมน แตกต่างจากอาคาร A ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหวเหมือนกับสายน้ำ ภายในมีพื้นที่นั่งแบ่งเป็นโซนๆ ให้เลือกใช้งานได้แบบเป็นส่วนตัว
ชั้น Facilities ของอาคาร B อยู่ที่ชั้น 52 ก็จะมีสระว่ายน้ำยาว 22 เมตร , Lounge, Wine Cellar, Pool Bar เป็นต้น และจะมี Sky Bridge เชื่อมกับชั้นพักอาศัยชั้น 47 ที่อาคาร C ซึ่งเป็นชั้น Facilities เช่นกัน สามารถเดินไปใช้งานทั้ง 2 ฝั่งได้เลยค่ะ
บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์ชั้น Facility ของอาคาร B
บรรยากาศภายใน Lounge
พื้นที่ส่วนกลางของอาคาร B ชั้นนี้เหมาะกับการพักผ่อน สันทนาการ มีพื้นที่พูดคุยธุระ สามารถนั่งทำงานได้นะคะ โดยจะมีโทนการตกแต่งสีเข้ม แบ่งที่นั่งแยกออกเป็นส่วนๆ ได้ความเป็นส่วนตัว และมีห้องสำหรับสูบบุหรี่แยกให้ด้วย
บรรยากาศภายใน Music Room
นอกจากนั้นยังมีห้องซ้อมดนตรีพร้อมเครื่องดนตรีครบวง ที่เรามักจะไม่ค่อยเห็นในคอนโดสักเท่าไหร่นะคะ เรียกว่าโครงการนี้ตอบโจทย์คนที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลายเลย
Game Table
ภายในห้องยังมี Game Table และ Pool Table ให้เล่นด้วยค่ะ
จุดที่เป็น Highlight ของอาคาร B มีพื้นที่ Pool Bar (Wine Cellar) ที่ค่อนข้าง Private ทีเดียวค่ะ ตรงนี้จะมองเห็นวิวสระว่ายน้ำและวิวเมืองในมุมสูงได้พร้อมๆ กัน อีกทั้งพื้นที่บาร์ค่อนข้างใหญ่นัดเพื่อนๆ มาจัดปาร์ตี้กันได้สบายๆ
มาดูสระว่ายน้ำของอาคาร B กันบ้างค่ะ ที่อาคาร B เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ว่ายออกกำลังกายได้จริง และเห็นวิวเมืองแบบ Panorama ฝั่งทิศตะวันออกค่ะ
บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำของอาคาร B ค่อนข้างใหญ่และมีพื้นที่นั่งพักผ่อนชมวิวรอบๆ เยอะทีเดียวค่ะ และด้วยความสูงที่ชั้น 52 ทำให้มีลมค่อนข้างเย็นสบายตลอดทั้งวันเลย
พื้นที่นั่งชมวิวชั้น 52
โครงการนี้มีพื้นที่นั่งชมวิวกระจายอยู่ภายในอาคารค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวค่ะ เหมาะสมกับจำนวนยูนิต ให้ลูกบ้านใช้งานร่วมกันได้สบายๆ
ชั้น 53 เป็นชั้นที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นสำหรับลูกบ้านที่อยากพักผ่อน ชั้นนี้ก็จะมีห้อง Sleep Pod, Essence Room, Sky Theater, Private Dinning เป็นต้น
บรรยากาศภายใน Sky Theater
Sky Theater แห่งที่ 2 อยู่ที่อาคาร B เป็นห้องดูภาพยนตร์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับโรงหนังขนาดย่อมๆ ห้องนี้จะมีภาพยนตร์และรอบฉายไว้แล้ว ให้ลูกบ้านมาใช้งานได้ร่วมกันค่ะ แต่ถ้าใครอยากดูแบบส่วนตัวให้จองห้อง Private Theater ที่อาคาร A นะคะ
บรรยากาศภายใน Essence Room
ห้อง Essence Room เป็นอีกหนึ่งห้องที่เหมาะกับการนั่งพักผ่อน จะเลือกหนังสือสักเล่มมานั่งอ่านสบายๆ พร้อมชมวิวไปด้วยก็เหมาะที่เดียวค่ะ
วิวจาก Essence Room ชั้น 53 อาคาร B
บรรยากาศภายใน Co-Kitchen Space
อีกฝั่งหนึ่งของอาคารเป็นห้อง Co-Kitchen Space และ Private Dinning ขนาดใหญ่ (มากๆ) ทีเดียวค่ะ สามารถทำอาหารหรือจองห้องสำหรับจัดเลี้ยงงานวันเกิดที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 10 คนได้เลย
บรรยากาศภายในห้อง Kid Dinning
นอกจากห้องของผู้ใหญ่แล้วยังมีห้อง Kid Dinning ให้เด็กๆ มาฝึกเรียนรู้การทำอาหารกันได้ด้วยค่ะ โดยขนาดสิ่งของต่างๆ ภายในห้องก็ถูกออกแบบมาให้พอดีกับตัวเด็ก
เราจะขอพาเดินเชื่อมไปยังอาคาร C ที่ชั้น 47 ซึ่งจะเชื่อมกับอาคาร B ที่ชั้น 52 นะคะ ที่เลขชั้นไม่เท่ากันเนื่องจากอาคาร C มีห้องแบบ Duo Space ซึ่งจะสูงกว่าห้องปกติค่ะ
บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำอาคาร C
สระว่ายน้ำอาคาร C จะแตกต่างจากสระของอาคารอื่นค่ะ โดยจะเป็นระบบน้ำแร่ เหมาะกับการแช่น้ำสบายๆ ชมวิวรอบๆ ไม่ได้ว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจังมากนัก
บรรยากาศโถงลิฟต์อาคาร C ชั้น 47
บรรยากาศภายในห้อง Fitness อาคาร C
Fitness ภายในอาคาร C มีขนาดใหญ่ และอยู่ที่ชั้น 47 ความสูงเท่าๆ กับชั้น 52 ของอาคาร B ทำให้มองเห็นวิวเมืองได้กว้างเลยค่ะ ภายในมีเครื่องออกกำลังกายทั้ง Weight Training และ Cardio ให้ใช้งานครบครัน
Highlight ของ Fitness ในอาคาร C คือมีสนามมวยและอุปกรณ์เกี่ยวกับการชกมวยให้ใช้งานด้วย เราสามารถจ้างเทรนเนอร์มาฝึกซ้อมที่คอนโดได้เลย
บรรยากาศภายในห้อง Onsen ผู้หญิง
พื้นที่ส่วนกลางอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจของโครงการนี้คือห้อง Onsen ที่มองเห็นวิวแบบ Panorama เหมาะกับคนที่ชอบแช่น้ำร้อนเลยทีเดียวค่ะ โดยโครงการจะแบ่งเป็นห้องผู้หญิงและผู้ชาย จะอยู่ที่ชั้น 49 ของอาคาร C
บรรยากาศภายในห้อง Onsen ผู้ชาย
ห้อง Onsen ผู้ชายก็จะมีฟังก์ชันเหมือนกับในห้องผู้หญิงเลยค่ะ
ลงจากพื้นที่ส่วนกลางมาดู Lobby อาคาร C กันบ้างค่ะ ที่อาคาร C จะมี Lobby ขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการเลย โดยแบ่งเป็นห้องๆ สามารถนั่งทำงานเป็น Co-Working Space ได้ นอกจากนั้นก็จะได้ Smart Locker และ Mail Box เช่นกันค่ะ
บรรยากาศภายใน Lobby อาคาร C
Lobby อาคาร C เป็นโถงขนาดใหญ่ มีชุดโซฟาแยกเป็นโซนๆ ให้ใช้งานได้แบบเป็นส่วนตัว
บรรยากาศภายใน Lobby อาคาร C
นอกจากนั้นยังมีห้อง Co-Working Space สำหรับคนที่ต้องการความสงบ นั่งทำงานแบบเงียบๆ อีกด้วยค่ะ
สำหรับอาคาร C มีพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้นดาดฟ้า หรือชั้น 59 ให้ขึ้นไปใช้งานด้วยค่ะ เป็นห้อง Star Sphere ที่มีความสูงที่สุดในโครงการ เป็นจุดชมวิวที่มีความสูงที่สุดในโครงการ ซึ่งทางโครงการกำลังตกแต่งอยู่ทางเราจึงไม่ได้เก็บภาพมาให้ชมกันนะคะ
ผังห้องพักอาศัย
อาคาร B ชั้น 15
เรามาดูห้องพักอาศัยกันบ้างนะคะ เริ่มที่อาคาร B มีการวางผังห้องล้อมรอบโถงลิฟต์ตรงกลาง ทำให้ได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor ได้ความเป็นส่วนตัวสูง และเดินจากโถงลิฟต์เข้าถึงห้องพักอาศัยได้ง่าย อีกทั้งยังมีจำนวนยูนิตสูงสุดเพียง 13 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้นเอง
อาคาร B ชั้น 15 – 31 เน้นห้องพักแบบ 1 Bedroom มีห้อง 2 Bedroom เพียง 2 ห้องต่อชั้นคือ ห้องมุมอาครทางทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งห้องทางทิศเหนือมีข้อดีคือ อยู่ในทิศที่แสงแดดไม่ส่องถึงห้องโดยตรงทำให้ไม่ร้อน และห้องทางทิศใต้จะได้รับลมมากกว่าค่ะ
ชั้น 32 – 45 จะมีห้อง 3 Bedroom เพิ่มเข้ามาทำให้จำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดที่ 11 ยูนิต ส่วนในชั้น 39 จะเป็นชั้นที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนกลางอาคาร A จึงมีห้องพักอาศัยเพียง 8 ยูนิต มีประตูกั้นแยกกับโถงส่วนกลาง
ชั้น 47 – 51 มีเพียง 9 ยูนิตต่อชั้น โดยจะมีห้อง 3 Bedroom ขนาด 100 ตารางเมตรเพิ่มเข้ามาค่ะ (สามารถดูบรรยากาศห้องตัวอย่างได้ที่หัวข้อถัดไป)
อาคาร C ชั้น 16 - 26 Simplex
สำหรับอาคาร C ชั้น 16 – 26 เป็นชั้นห้องพักแบบ Simplex วางผังคล้ายกับอาคาร B เลยค่ะ ห้องพักอาศัยล้อมรอบโถงลิฟต์ตรงกลาง ทำให้ได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor แต่จะมีจำนวนยูนิตที่น้อยกว่า อยู่ที่ 9 ยูนิตต่อชั้น
ชั้น 27 – 46 เป็นห้องพักอาศัยแบบฝ้าเพดานสูง (Duo) ความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 4.20 เมตร มีจำนวน 9 ยูนิตต่อชั้นเช่นกันค่ะ
ชั้น 49 – 58 เป็นชั้น Penthouse ห้องขนาดใหญ่ มีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 3.50 เมตร และได้ความเป็นส่วนตัวสูงด้วยจำนวนยูนิตเพียง 5 ยูนิตต่อชั้น
..อัพเดต!! บรรยากาศส่วนกลางและวิวยามค่ำคืน จากวันที่ไปงานข่าวเปิดตึก C (03/02/2566) ซึ่งทั้งโครงการจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100% จะเป็นอย่างไรบ้างไปชมกันเลย
นี่คือ Star Sphere ฟังก์ชันส่วนกลางที่อยู่บนชั้น 59 ของอาคาร C ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่สูงที่สุดของโครงการ ภายในมีชุดโซฟาและเคาน์เตอร์บาร์ให้ใช้งาน เหมาะที่จะมาชมวิวและจัดปาร์ตี้กันได้นะ
และนี่เป็นภาพวิวจากห้อง Star Sphere บนชั้น 59 สามารถมองออกไปได้กว้างไกลมากๆ เพราะนี่เป็นอาคารที่สูงที่สุดในย่านทองหล่อเลยทีเดียว
ส่วนมุมนี้จะเป็นชุดโซฟาอีกด้านหนึ่งของ Star Sphere ซึ่งเป็นชุดโซฟาที่สามารถมานั่งเล่น/พูดคุยกันเป็นกลุ่มได้
ภาพนี้จะเป็นบรรยากาศตอนกลางคืนของสระว่ายน้ำอาคาร C บนชั้น 47 มีการเปิดไฟสวยงาม และสามารถชมวิวออกไปภายนอกได้ด้วย
ส่วนภาพนี้จะเป็นบรรยากาศของ Terrace ที่เชื่อมต่อระหว่างชั้น 47 ของอาคาร C และชั้น 52 ของอาคาร B ซึ่งถูกใช้เป็นพื้นที่จัดงานข่าวในวันที่มาถ่านอีกด้วย
และนี่ก็คือบรรยากาศของวิวแสงไฟยามค่ำคืนของย่านทองหล่อ มีความสวยงามมากๆ มองเห็นห้างสรรพสินค้า Donki Mall ด้วยนะ
ส่วนภาพนี้จะเป็นวิวอีกด้านหนึ่งของอาคาร มีความสวยงามทุกด้านเลยจริงๆ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- BUILDING A : SCULPTURE
– ชั้น 1 : ฟังก์ชัน Lobby
– ชั้น 2 : ฟังก์ชัน Business Lounge
– ชั้น 38 : ฟังก์ชัน Gym / Pool / Outdoor Onsen / Private Spa
– ชั้น 39 : ฟังก์ชัน North Bar / Game Room /Golf Simulator/ Private Theater - BUILDING B : LAKE
– ชั้น 1 : ฟังก์ชัน Lobby
– ชั้น 52 : ฟังก์ชัน Lake Lounge/ Pool Bar/ Sunset / Music room /Pool
– ชั้น 53 : ฟังก์ชัน Essen Room / Sky Theater/ Kid Kitchen / Private Dining - BUILDING C : TREE
– ชั้น 1 : ฟังก์ชัน Lobby
– ชั้น 47 : ฟังก์ชัน Onsen / Ice room/ Pool
– ชั้น 48 : ฟังก์ชัน Gym / Boxing
– ชั้น 59 : ฟังก์ชัน Star Sphere - ลิฟต์โดยสาร A 3 ตัว, อาคาร B และอาคาร 4 ตัว
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 100 : 1
– อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 125 : 1
– อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 99 : 1
– อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 82 : 1 - Service Lift 1 ตัว/อาคาร
- ที่จอดรถประมาณ 700 คัน หรือคิดเป็น 70% เป็นที่จอดแบบ Automatic Parking
- ระบบ CCTV / Face Scan รักษาความปลอดภัยหน้าโครงการ 24 ชั่วโมง
แบบห้อง
ห้องพักอาศัยของโครงการ Park Origin Thonglor มีทั้งหมด 8 แบบ ดังนี้
- 1 Bedroom Simplex พื้นที่ใช้สอย 30 – 36 ตารางเมตร
– ราคาเริ่มต้น 8.99 ล้านบาท - 2 Bedroom Simplex พื้นที่ใช้สอย 35 – 40 ตารางเมตร
– ราคาเริ่มต้น 13.5 ล้านบาท - 2 Bedroom Suit พื้นที่ใช้สอย 64 – 66 ตารางเมตร
– ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท - 3 Bedroom Suit พื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร
– ราคาเริ่มต้น 34 ล้านบาท - 2 Bedroom Penthouse พื้นที่ใช้สอย 66 ตารางเมตร
– ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท - 3 Bedroom Penthouse พื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร
– ราคาเริ่มต้น 39 ล้านบาท - 1 Bedroom Duo X พื้นที่ใช้สอย 32 ตารางเมตร
– ราคาเริ่มต้น 13 ล้านบาท - 2 Bedroom Duo พื้นที่ใช้สอย 46 – 51.5 ตารางเมตร
– ราคาเริ่มต้น 19 ล้านบาท
รูปแบบการขายเป็นแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว Built in Top Stone Quartz อุปกรณ์แบรนด์ Teka (เฉพาะห้อง Simplex, Duo) ,ชั้นวางของ Built in โซนห้องรับแขก , แอร์ Wall Type , ฐานเตียง,Wallk in Closet Built in ,สุขภัณฑ์ แบรนด์ Kasch ,อ่างอาบน้ำ, Smart Mirror
วัสดุอื่นๆ
- พื้นห้องนั่งเล่น, ห้องนอน : Engineering Wood ผิวไม้โอ๊ค
- พื้นห้องน้ำ : Porcelain Tile 60 x 60 cm
- พื้นระเบียง : Ceramic Tile 30 x 30 cm
- กระจก : Test wind load กันเสียงรบกวนภายนอกได้เป็นพิเศษ
- เครื่องปรับอากาศ : Wall Type (Daikin)
- ฝ้าเพดานฉาบเรียบสูง 3.00 เมตรในห้อง Simplex
Home Automation
- SMART GATEWAY : กล่องควบคุมระบบเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ กับ Moblie Application
- DIGITAL DOOR LOCK
- SMART MIRROR
- AC CONTROL : ตัวควบคุมการเปิด-ปิด และปรับอุณหภูมิ เครื่องปรับอากาศ ของ Daikin
- CURTAIN CONTROL : ควบคุมการเปิด-ปิดม่าน
- LIGHTING CONTROL : ดวงโคมแสงสว่าง Dimmer ควบคุมการทำงานโดย Smart Module ที่มีทั้งแบบ 1 และ 2 Chanel โดยจะติดตั้งอยู่หลังสวิตช์ไฟ
- AUTOMATIC NIGHT LIGHT : ควบคุมการเปิด-ปิด ด้วย Motion Sensor เมื่อลงจากเตียงในเวลากลางคืน และเปลี่ยนสีไฟได้จาก RGB
ห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมคือห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 33 ตารางเมตร และห้อง 3 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตรค่ะ
1 Bedroom Simplex พื้นที่ใช้สอย 30 – 36 ตารางเมตร
ห้องนี้เป็น Type ที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการค่ะ โดยจะเป็นห้องขนาดเริ่มต้น เหมาะกับอยู่ 1 – 2 คน ได้ห้องน้ำขนาดใหญ่ มีอ่างอาบน้ำมาให้ และเป็น Sexy Bath ชอบห้องที่ภายในแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ดังนี้
- พื้นที่ครัวอยู่ด้านหน้าห้อง เป็นพื้นที่ส่วนแรกเก็บของกินของใช้ได้สะดวก และเป็นเหมือน Buffer กั้นพื้นที่ส่วนตัวด้านใน
- Common Area มีพื้นที่รับประทานอาหารแยกจากห้องนั่งเล่น วางโต๊ะรับประทานอาหารได้ 2 ที่นั่ง
- มีพื้นที่ระเบียง สามารถตากผ้าวางกระถางต้นไม้ตกแต่ง หรือออกไปชมวิวสูดอากาศด้านนอกได้
- ห้องนอนแยกเป็นส่วนตัว พร้อมช่องแสงใหญ่ทำให้มองเห็นวิวได้กว้าง
- มี Walk-in Closet แยกเป็นสัดส่วนเชื่อมต่อกับห้องน้ำ
- ห้องน้ำ Sexy Bath แบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน พร้อมอ่างอาบน้ำ และ Smart Mirror เปิดเพลง ฟังข่าว ดูหนัง ฯลฯ ขณะใช้ห้องน้ำได้
ด้านหน้าประตูทางเข้าห้องพักอาศัยติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ รองรับได้ถึง 5 Functions ไม่ว่าจะเป็น สแกนลายนิ้วมือ Key Card, ตั้ง Password, กุญแจ แล้วยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อกับ Application ได้อีกด้วย
ซึ่ง Application จะเชื่อมต่อเข้ากับ Smart Mirror ภายในห้องน้ำ หรือภายในโทรศัพท์มือถือ ทำให้สามารถเปิดล็อกประตูได้โดยไม่ต้องออกมาเปิดประตู สะดวกสบายมากๆ
เข้ามาจะเจอกับส่วนครัวก่อนนะคะ เป็นครัวเปิดเหมาะกับการทำอาหารที่ไม่จริงจังมากนัก มีพื้นที่วางตู้เย็นไว้ด้านหน้าติดกับประตูเลย ถ้าซื้อของสดขึ้นมาบนห้องก็สามารถเก็บได้เลยโดยไม่ต้องเดินผ่านห้องอื่นๆ
ระยะทางเดินค่อนข้างกว้างอยู่ที่ประมาณ 1.30 เมตร เดินสวนกัน หรือยืนทำอาหารได้สบายๆ
ด้านหน้าติดกับประตูจะมีตู้เก็บของที่ทางโครงการ Built-in มาให้ด้วย ด้านล่างเป็นชั้นวางรองเท้า และเก็บร่มได้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ช่องตรงกลางเป็นพื้นที่วางของที่หยิบใช้บ่อย เช่น กระเป๋าถือ กุญแจห้อง กุญแจรถ จะได้หยิบใช้งานได้สะดวก
ส่วนด้านบนก็มีช่องเก็บของมาให้ เป็นชั้นวางแบบปรับระดับได้ ใครที่ต้องการเก็บของชิ้นใหญ่หน่อยก็สามารถยกชั้นออกมาให้เป็นช่องใหญ่ขึ้นได้ค่ะ
เคาน์เตอร์ครัว Built-in
เคาน์เตอร์ครัว Built-in เป็นรูปตัว I Top เป็น Stone Quartz สีขาว ด้านหลังติดตั้ง Backsplash มาให้เป็นวัสดุ Bronze Tinted Mirror ทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายเวลาทำอาหารแล้วมีคราบติด เช่นเดียวกับช่องเก็บของด้านบน
อุปกรณ์ภายในครัวจะได้อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดควัน (ระบบดูดอากาศออก) และไมโครเวฟจาก Teka หรือเทียบเท่า (เฉพาะห้อง Simplex, Duo) พร้อมปลั๊กไฟสำหรับเสียบกาต้มน้ำหรือเครื่องปั่น อยู่ด้านบนเพื่อไม่ให้โดนน้ำแล้วเกิดอันตรายได้ ด้านใต้ตู้เก็บของชั้นบนมีไฟติดให้แสงสว่างตอนทำกับข้าวด้วยค่ะ
ชั้นเก็บของด้านบนจะปิดด้วยกระจกเงาสีทองแดง (Bronze Tinted Mirror) ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นและมีความลูกเล่นให้ไม่ดูเรียบเกินไป เหมาะกับเก็บจาน ชาม แก้วน้ำ และของที่ไม่หนักมากนัก ตรงนี้จะมีตู้ควบคุมไฟฟ้าอยู่ด้วยค่ะ
ด้านล่างเป็นตู้เก็บของหน้าบานเมลามีนลายไม้ มีช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้าฝาหน้าขนาดไม่เกินความกว้าง 0.67 สูง 0.90 เมตรให้ ทำให้ไม่ต้องไปวางที่ระเบียงช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับเครื่องซักผ้าค่ะ พร้อมลิ้นชักสำหรับเก็บช้อน, ส้อม อุปกรณ์ต่างๆ ลิ้นชักด้านล่างสำหรับวางขวดเครื่องปรุงหรือขวดน้ำดื่มได้ค่ะ บานใต้อ่างล้างจานติดถังขยะมาให้เป็นแบบเปิดอัตโนมัติ
ภายในห้อง มีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 3.00 เมตร พื้นปูด้วย Engineering Wood ตั้งแต่หน้าประตูเข้ามาถึงภายในห้องนั่งเล่นและห้องนอน มีช่องแสงกว้างเกือบเต็มผนังทำให้ได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาทั่วถึงทั้งห้อง และมองเห็นวิวที่เป็นจุดเด่นของโครงการนี้ได้ชัดเจน
พื้นที่รับประทานอาหาร
ระหว่างส่วนครัวและส่วนนั่งเล่นมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 1-2 ที่นั่งได้ จะวางเป็นโต๊ะกลมแบบห้องตัวอย่างก็ได้หรือจะเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมนั่งหันหน้าไปฝั่งเดียวกันก็ได้ แนะนำให้เลือกโต๊ะแบบที่ขาโปร่ง ไม่ทึบตันจะได้สามารถเก็บเก้าอี้ลงไป ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ได้ค่ะ
พื้นที่นั่งเล่น
ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ประมาณ 2.55 x 2.60 เมตร เหมาะสำหรับวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง มีโต๊ะกลางเล็กๆ ได้ มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.30 เมตร ซึ่งเหมาะสำหรับติดตั้ง TV ขนาดประมาณ 43 – 50 นิ้ว
ทางโครงการจะให้ชั้นวาง TV มาด้วยนะคะ เป็นหน้าบานปิดกระจกเงาสีทองแดงเข้ากับชุดครัว สามารถเปิดเก็บของได้ 3 ช่อง แต่จะระยะมองต่ำไปหน่อยสำหรับนั่งดู TV การติดตั้งแบบแขวนจะให้การมองเห็นสบายมากขึ้นค่ะ
ระเบียงห้องพักอาศัย
ประตูบานเลื่อนที่ผนังภายนอกเป็นกระจกแบบ Test wind load กันเสียงรบกวนภายนอกได้ดี ตัวบานค่อนข้างมีน้ำหนักทีเดียวค่ะ Condensing Units จะถูกยกไปไว้ด้านบนเพื่อให้มองเห็นวิวและใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่นะคะ ช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ระเบียงได้อีกด้วย
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตรสีเทา ขนาดระเบียงกว้าง 0.60 x 2.50 เมตร สามารถวางกระถางต้นไม้ตกแต่ง หรือราวแขวนผ้าได้ มีไฟติดผนังให้แสงสว่างด้านนอกเวลากลางคืน และก๊อกน้ำสำหรับทำความสะอาดอย่างละ 1 จุด
เข้ามาภายในห้องนอนจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือพื้นที่พักผ่อน (วางเตียงนอน) Walk-in Closet และห้องน้ำ
ห้องนอน
พื้นที่พักผ่อนมีขนาดประมาณ 2.50 x 3.15 เมตร วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้พอดีๆ ห้องนอนจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ มีช่องเปิด 1 ช่องเป็นบานกระทุ้งสำหรับเปิดระบายอากาศ ซึ่งทางโครงการได้ติดตั้งรางม่านแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติไว้ให้ด้วย
ปลายเตียงมีพื้นที่เดินประมาณ 50 เซนติเมตร ซึ่งไม่แนะนำให้วางโต๊ะวาง TV เนื่องจากจะทำให้ที่เดินแคบลงไปอีก แนะนำให้ติดตั้ง TV แบบติดผนังจะช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากกว่าค่ะ
อีกฝั่งของห้องนอนเป็นพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำแบบ Sexy Bath เป็นกระจกเข้ามุม ช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้น และสามารถนอนแช่น้ำไปด้วย ดู TV ในห้องนอนไปด้วยก็ได้นะ
Walk-in Closet
Walk-in Closet เป็นตู้ Built-in รูปตัว L เป็นแบบไม่มีหน้าบาน หยิบใช้งานสะดวกและไม่กินพื้นที่ พร้อมลิ้นชักเก็บเครื่องประดับต่างๆ เก็บของได้ค่อนข้างเยอะค่ะ
ห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจน มีฉากกั้นกระจกระหว่างพื้นที่อาบน้ำกับส่วนแห้งมาให้ ด้านซ้ายมือเป็นส่วนอ่างล้างหน้าและกระจก Smart Mirror ตรงกลางเป็นพื้นที่โถสุขภัณฑ์ ด้านขวาเป็นส่วนอาบน้ำ แบ่งการใช้งานชัดเจนด้านบนเหนือส่วนอาบน้ำติดตั้งช่องระบายอากาศมาให้ด้วยค่ะ
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร ผิวด้านทำให้ไม่ลื่น พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อย ช่วยไม่ให้น้ำไหลออกด้านนอกเวลามีน้ำขัง
กระจก Smart Mirror เป็นระบบ Android ใช้งานได้เหมือนกับโทรศัพท์มือถือ แบบ Touch Screen สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ดู Youtube ฟังเพลงขณะแปรงฟันได้ แล้วยังเชื่อมต่อกับ Application ของโครงการให้สามารถจองพื้นที่ส่วนกลางได้เลย จะเช็คค่าน้ำ ค่าไฟ หรือจะเชื่อมต่อกับ Digital Door Lock ของห้องก็ได้เช่นกันค่ะ นอกจากนั้นยังเปิดเก็บของด้านในได้อีกด้วยนะ
อ่างล้างมือวัสดุเป็นเซรามิกสีขาว จาก Kasch หรือเทียบเท่า บริเวณใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือเป็นช่องเก็บของ หน้าบานเมลามีนลายไม้ เอาไว้เก็บพวกอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ค่ะ
สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบที่ได้เป็นสุขภัณฑ์จาก Kasch หรือเทียบเท่า พื้นที่วางสุขภัณฑ์สามารถนั่งได้ไม่อึดอัด มีปุ่มกดฟลัชติดผนังและมีผนัง Low Wall สามารถวางของได้
พื้นที่อาบน้ำ
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นกระจกติดตั้งไว้ให้ มีพื้นที่อาบทั้งแบบฝักบัวและอ่างอาบน้ำ ผนังฝั่งอ่างอาบน้ำเป็นกระจกใส สามารถมองเห็นภายในห้องนอนได้ ส่วนอาบน้ำไม่รวมอ่างมีพื้นที่ประมาณ 0.85 x 1.75 เมตร ซึ่งค่อนข้างกว้างอาบได้สบายเลย เมื่อรวมกับส่วนอ่างอาบน้ำด้วยแล้วถือว่าได้ห้องน้ำขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับคอนโดขนาดใกล้เคียง
ส่วนอาบน้ำจะติดตั้งฝักบัวและ Rain Shower รองรับระบบน้ำร้อนน้ำเย็น แต่โครงการไม่ได้ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนมาให้นะคะ ส่วนอ่างอาบน้ำจาก Kasch ขนาดอ่างค่อนข้างใหญ่สามารถนั่งแช่น้ำได้สบายๆ
3 Bedroom Suit พื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร
ห้องนี้เป็นห้องตัวอย่าง Type 3 Bedroom ที่ขายพร้อมตกแต่งเลยค่ะ เป็นห้องที่มีจำนวนไม่เยอะ และขายได้ค่อนข้างดีเลย เหมาะกับคนที่อยู่เป็นครอบครัว สมาชิก 3- 4 คนได้สบายๆ แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน พร้อมห้องน้ำถึง 3 ห้อง ภายในจะเป็นอย่างไรเราไปดูกันค่ะ
- มี Foyer ด้านหน้าห้อง พร้อมตู้ Built-in สำหรับเก็บรองเท้า เก็บของใช้ต่างๆได้
- Common Area กว้าง จัดพื้นที่ได้ยืดหยุ่น สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ถึง 6 ที่นั่ง มีพื้นที่ Bay Window และระเบียงให้ใช้งาน
- พื้นที่ครัวขนาดใหญ่ พร้อม Island ตรงกลางให้ใช้งานได้เต็มที่
- ห้องน้ำมีพื้นที่อาบน้ำทุกห้อง ในห้องส่วนกลางมีช่องวางเครื่องซักผ้าเป็นระเบียบเรียบร้อย
- Master Bedroom มีขนาดใหญ่ สามารถจัดเป็นโซนนั่งเล่น และมีระเบียงส่วนตัว ภายในแบ่งเป็น 3 ฟังก์ชันชัดเจนคือพื้นที่พักผ่อน Walk-in Closet และห้องน้ำ
- Walk-in Closet เป็นห้องมีประตูกั้นแยกจากห้องนอน เป็นสัดส่วน เชื่อมต่อกับห้องน้ำใช้งานได้สะดวก
- ห้องน้ำใน Master Bedroom แยกเป็นโซนสุขภัณฑ์และโซนอาบน้ำ 2 ฝั่ง พร้อมอ่างอาบน้ำ
- ห้องนอนรอง 1 มีห้องน้ำในตัว
- ห้องนอนรอง 2 มีพื้นที่ระเบียง ใครที่ไม่ต้องการทำเป็นห้องนอนก็สามารถจัดเป็นห้องทำงาน หรือห้องออกกำลังกายได้
โถงทางเข้าด้านหน้าห้อง
เข้ามาในห้องแล้วจะเจอกับพื้นที่ Foyer หรือโถงทางเข้าก่อนเลยค่ะ บริเวณนี้จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ เพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่าย สามารถเดินเข้ามาถอดรองเท้าด้านในได้สะดวก
บริเวณประตูติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ 5 Functions เช่นกันค่ะ รองรับ สแกนลายนิ้วมือ Key Card, ตั้ง Password, กุญแจ และ Application
ด้านหน้าติดกับประตูทางเข้ามีตู้เก็บของขนาดค่อนข้างใหญ่มาให้ เก็บกระเป๋าเดินทาง ถุงกอล์ฟ หรือจักรยานพับได้ ด้านในมีตู้ควบคุมไฟฟ้าให้เข้าถึงได้ไม่ยากนัก
ถัดมาทางฝั่งขวามือเป็นตู้เก็บของ Built-in ที่เก็บของได้เยอะทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า หรือของใช้ส่วนตัว โดยจะมีบานเปิดด้านบน-ล่าง ส่วนตรงกลางเป็นช่องวางของแบบไม่มีหน้าบาน เพื่อให้หยิบใช้งานได้ง่าย
ส่วนตู้เก็บของทางฝั่งซ้ายมือเป็นตู้ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รองรับการอยู่อาศัยได้ถึง 4 คนเลยค่ะ พื้นที่ด้านหน้าตู้มีความกว้างประมาณ 1.20 เมตร ถือว่าค่อนข้างกว้าง
เข้ามาด้านในแล้วเรามาดูทางฝั่ง Common Area กันก่อนนะคะ ภายในห้อง มีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 3.00 เมตร พื้นปูด้วย Engineering Wood สีโอ๊ค ด้านข้างได้ช่องแสงขนาดใหญ่เกือบเต็มผนัง รับแสงธรรมชาติเข้ามาทั่วถึงทั้งห้อง และมองเห็นวิวได้กว้าง
ส่วนครัวเป็นพื้นที่ครัวเปิด เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น ทำให้ภายในเชื่อมต่อกันดูโปร่งกว้าง
พื้นที่ครัวนี้อาจจะไม่เหมาะกับการทำอาหารที่มีกลิ่นจริงจังมากนักนะคะ เนื่องจากไม่ได้มีผนังกั้น ทำให้มีกลิ่นฟุ้งกระจายได้ค่ะ
Island ภายในครัว
ครัวของห้อง Type 3 Bedroom จะมีเคาน์เตอร์กลางหรือ Island มาให้ด้วยนะคะ ช่วยเพิ่มพื้นที่วางของ เตรียมอาหาร และเก็บอุปกรณ์ทำอาหารที่ลิ้นชักด้านล่างได้
นอกจากนั้นยังได้ตู้เย็นแบบ Built-in มาให้ หน้าบานตู้จะเหมือนกับช่องเก็บของตัวไปเลย ทำให้ดูเรียบร้อยสวยงามมากขึ้น
เคาน์เตอร์ครัว Built-in จะได้เป็นแนวตัว L Top เป็น Stone Quartz สีเทาดูเรียบหรู ด้านหลังติดตั้ง Backsplash มาให้เป็นวัสดุ Bronze Tinted Mirror ทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย และเหมือนกับด้านบานช่องเก็บของด้านบนค่ะ
อุปกรณ์ภายในครัวจะได้อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า 4 หัว เครื่องดูดควัน (ระบบดูดอากาศออก) และเตาอบ จาก Kuppersbusch อัปเกรดขึ้นมาจากห้องเล็ก พร้อมปลั๊กไฟสำหรับเสียบกาต้มน้ำหรือเครื่องปั่นอยู่ด้านบน ด้านใต้ตู้เก็บของชั้นบนมีไฟติดให้แสงสว่างตอนทำกับข้าวเช่นกันค่ะ
ช่องเก็บของที่ได้ของห้องนี้ก็จะค่อนข้างใหญ่เลย ด้านบนจะปิดด้วยกระจกเงาสีทองแดง (Bronze Tinted Mirror) ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นไปอีก ชั้นวางของสามารถเลือกปรับขนาดได้เช่นกันค่ะ
ส่วนด้านล่างมีลิ้นชักสำหรับเก็บช้อน ส้อม ทางขวามือ ตรงกลางเป็นพื้นที่ใต้อ่าง มีถังขยะติดตั้งมาให้แบบเปิดอัตโนมัติ โดยรวมแล้วมีพื้นที่เก็บของเยอะทีเดียวค่ะ
สำหรับพื้นที่รับประทานอาหารสามารถวางโต๊ะ 6 ที่นั่งได้สบายๆ มีระยะเดินได้รอบด้าน พร้อมกับมีพื้นที่ Bay Window จะตั้งเป็นโต๊ะทำงานส่วนตัว หรือเป็นมุมเปียโนไว้เล่นดนตรีฟังในห้องนั่งเล่นก็ดีนะคะ
พื้นที่รับประทานอาหารจะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น โดยสามารถทานข้าวไปด้วยพร้อมกับดู TV ไปด้วยได้เลย โดยจะเหมาะกับการวาง TV 55 นิ้วขึ้นไปค่ะ
ห้องนั่งเล่น
พื้นที่นั่งเล่นค่อนข้างกว้าง สามารถวางโซฟา 3 – 4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะน้ำชาตรงกลางได้ ทางโครงการจะให้ชั้นวาง TV มาด้วยนะคะ เป็นหน้าบานปิดกระจกเงาสีทองแดงเข้ากับชุดครัว สามารถเปิดเก็บของได้ค่ะ
ระเบียงห้องพักอาศัย
ประตูบานเลื่อนที่ผนังภายนอกเป็นกระจกแบบ Test wind load กันเสียงรบกวนภายนอกได้ดี ตัวบานค่อนข้างมีน้ำหนัก ตัว Condensing Units จะถูกยกไปไว้ด้านบนเพื่อให้มองเห็นวิวและใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตรสีเทา ขนาดระเบียงกว้าง 0.75 x 2.30 เมตร สามารถวางกระถางต้นไม้ตกแต่ง หรือราวแขวนผ้าได้ มีไฟติดผนังให้แสงสว่างด้านนอกเวลากลางคืน และก๊อกน้ำสำหรับทำความสะอาดอย่างละ 1 จุด พร้อมทั้งมองเห็นตรงส่วน Bay Window ได้
วิวจากระเบียงห้องพักอาศัย 3 Bedroom ชั้น 49 อาคาร B
สำหรับห้องนอนทั้ง 3 ห้องจะแยกออกมาเป็นโซนที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยจะเจอกับห้องนอนรอง 2 หรือห้องเล็กที่สุดก่อนค่ะ
ห้องนอนรอง 2
ภายในห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 2.40 x 3.00 เมตร ทางโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้แล้ว ภายในเหมาะกับการวางเตียง 3.5 ฟุตจะเหลือพื้นที่ด้านข้างพอดีๆ เดินได้รอบ แต่ถ้าวางเตียง 5 ฟุต แบบในห้องตัวอย่างก็จะพอดีกับประตูทางออกไประเบียงเลยค่ะ
ห้องนี้เหมาะกับการปรับเปลี่ยนฟังก์ชัน ใครที่ไม่อยากได้ห้องนอนก็สามารถทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องออกกำลังกายส่วนตัวเพิ่มเติมได้นะคะ เพราะไม่มีห้องน้ำในตัว แต่จะมีระเบียงให้ออกไปยืนชมวิวสูดอากาศด้านนอกได้
ตรงข้ามกับห้องนอนรองที่ 2 จะเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันกับพื้นที่ Common Area ภายในแบ่งเป็นส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจน มีฉากกั้นกระจกระหว่างพื้นที่อาบน้ำกับส่วนแห้งมาให้ พร้อมพัดลมดูดอากาศ พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร แบบผิวด้าน
ข้อดีของห้องน้ำห้องนี้คือมีพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งรองรับการใช้งานของห้องนอนรองที่ 2 ได้ค่ะ
ห้องนี้ก็จะได้กระจก Smart Mirror เช่นกันนะคะ สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ดู Youtube ฟังเพลงขณะแปรงฟันได้ และ Application ของโครงการได้ค่ะ
กระจกสามารถเปิดเก็บของด้านในได้ ส่วนอ่างล้างมือวัสดุเป็นเซรามิกสีขาว จาก Kasch บริเวณใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือเป็นช่องเก็บของมาให้เช่นกัน
ส่วนสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบที่ได้เป็นสุขภัณฑ์จาก Kasch ติดตั้งแบบลอยตัวทำความสะอาดพื้นห้องน้ำได้ง่าย มีปุ่มกดฟลัชติดผนังและมีผนัง Low Wall สามารถวางของได้
พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกติดตั้งมาให้เรียบร้อย พร้อมฝักบัวและ Rain Shower รองรับระบบน้ำร้อนน้ำเย็นค่ะ
ข้อดีของห้องนี้คือมีพื้นที่ Laundry อยู่ภายในห้องน้ำด้วย ช่วยให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และใช้งานได้สะดวกมากขึ้น โดยภายในจะมีระบบรองรับการวางเครื่องซักผ้า และชั้นวางของมาให้ค่ะ
ห้องนอนรอง 1
ห้องนอนรอง 1 เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาค่ะ มีพื้นที่ประมาณ 2.35 x 3.60 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดีๆ มีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เช่นกันค่ะ ข้อดีของห้องนี้ก็คือมีห้องน้ำในตัว ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ซึ่งห้องน้ำก็จะได้เหมือนกับในห้องน้ำบริเวณ Common Area เลยค่ะ แต่จะไม่มี Laundry เท่านั้นเอง
ถัดมาเรามาดูห้อง Master Bedroom กันบ้าง ในห้องนี้จะมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่และมีฟังก์ชันเหมือนกับคอนโดแยกอีกห้องนึงเลยค่ะ โดยเข้ามาแล้วจะเจอกับส่วน Foyer เล็กๆ ที่สามารถ Built-in ชั้นวางของตั้งโชว์ หรือติดภาพเขียนได้
ถัดเข้ามาภายในห้องก็จะมีพื้นที่นั่งเล่น เชื่อมต่อไปยังพื้นที่เตียงนอน ค่อนข้างโปร่งกว้างทีเดียวค่ะ โดยขนาดห้องรวมประมาณ 2.90 x 5.30 เมตร
พื้นที่นั่งเล่นใน Master Bedroom
พื้นที่นั่งเล่นใน Master Bedroom สามารถวางโซฟา 2 – 3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง ชั้นวาง TV ได้โดยมีระยะให้เดินสบายๆ มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.50 เมตร ซึ่งเหมาะสำหรับติดตั้ง TV ขนาดประมาณ 43 – 50 นิ้ว
Master Bedroom
พื้นที่วางเตียงนอนสามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ มีพื้นที่ด้านข้างวางโต๊ะข้างเตียงเพิ่มเติมได้ค่ะ
ในห้อง Master Bedroom จะมีพื้นที่ระเบียงส่วนตัวให้ออกไปกินลมชมวิวได้ โดยระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 0.60 x 1.80 เมตร พร้อมโซน Bay Window เล็กๆ เป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง หรือวางกระถางต้นไม้เพิ่มสีเขียวให้กับห้องได้
วิวจากระเบียงห้อง Master Bedroom ชั้น 49 อาคาร B
Walk-in Closet เป็นตู้ Built-in รูปตัว L เป็นแบบไม่มีหน้าบาน พร้อมลิ้นชักเก็บเครื่องประดับ ความยาวตู้ประมาณ 2.50 เมตร ความกว้าง 0.90 เมตร ใช้งานสะดวก เก็บของได้ค่อนข้างเยอะ
ห้องน้ำภายใน Master Bedroom จะเป็น 3 ส่วน ทางซ้ายมือเป็นโซนสุขภัณฑ์มีฉากกั้นกระจกมาให้ค่ะ ส่วนตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้าและกระจกแบบ Smart Mirror และทางซ้ายมือเป็นพื้นที่อาบน้ำ
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร ผิวด้านทำให้ไม่ลื่น พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อย ช่วยไม่ให้น้ำไหลออกด้านนอกเวลามีน้ำขัง
กระจก Smart Mirror สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ดู Youtube ฟังข่าว ดูหนัง เล่นเกมได้ แล้วยังเชื่อมต่อกับ Application ของโครงการให้สามารถจองพื้นที่ส่วนกลางได้เช่นกันค่ะ
อ่างล้างมือวัสดุเป็นเซรามิกสีขาว จาก Kasch หรือเทียบเท่า บริเวณใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือเป็นช่องเก็บของ หน้าบานเมลามีนลายไม้ เอาไว้เก็บพวกอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ค่ะ
สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบที่ได้เป็นสุขภัณฑ์จาก Kasch หรือเทียบเท่า พื้นที่วางสุขภัณฑ์สามารถนั่งได้ไม่อึดอัด มีปุ่มกดฟลัชแบบติดผนัง
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นกระจกติดตั้งไว้ให้ ไม่รวมอ่างมีพื้นที่ประมาณ 0.80 x 1.60 เมตร ซึ่งค่อนข้างกว้างอาบได้สบายๆ
ติดตั้งฝักบัวและ Rain Shower รองรับระบบน้ำร้อนน้ำเย็น แต่โครงการไม่ได้ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนมาให้นะคะ ต้องติดตั้งเพิ่มเอง
ส่วนอ่างอาบน้ำจาก Kasch ขนาดอ่างค่อนข้างใหญ่สามารถนั่งแช่น้ำได้สบายๆ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
Park Origin Thonglor ราคา ณ วันที่ 30 มกราคม 2565
- 1 Bedroom Simplex พื้นที่ใช้สอย 30 – 36 ตารางเมตร
– ราคาเริ่มต้น 8.99 ล้านบาท - 2 Bedroom Simplex พื้นที่ใช้สอย 35 – 40 ตารางเมตร
– ราคาเริ่มต้น 13.5 ล้านบาท - 2 Bedroom Suit พื้นที่ใช้สอย 64 – 66 ตารางเมตร
– ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท - 3 Bedroom Suit พื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร
– ราคาเริ่มต้น 34 ล้านบาท - 2 Bedroom Penthouse พื้นที่ใช้สอย 66 ตารางเมตร
– ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท - 3 Bedroom Penthouse พื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร
– ราคาเริ่มต้น 39 ล้านบาท - 1 Bedroom Duo X พื้นที่ใช้สอย 32 ตารางเมตร
– ราคาเริ่มต้น 13 ล้านบาท - 2 Bedroom Duo พื้นที่ใช้สอย 46 – 51.5 ตารางเมตร
– ราคาเริ่มต้น 19 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 3.00 เมตร ในแบบห้องปกติ/ 3.50 เมตร ในห้อง Penthouse/ 4.25 เมตร ในแบบห้อง Duo
- Kitchen & Sink วัสดุ Stone Quartz
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
- ค่ากองทุน 900 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง 95 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
โครงการ Park Origin Thonglor อยู่ในทำเลไลฟ์สไตล์ฮอตฮิต เชื่อมต่อระหว่างเอกมัยและทองหล่อ โดยมีที่ดินติดซอยทองหล่อ 10 (ซอยเอกมัย 5) ซึ่งถือว่าเป็นย่านใจกลางเมืองและเป็นทำเลที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ โดยแวดล้อมไปด้วยศูนย์การค้า Community Mall เช่น Donki Mall, The Commons, J Avenue และร้านอาหารชื่อดังหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ เอกมัย และติดถนนสุขุมวิท ถือว่าเป็นย่านที่ไม่ขาดสีสันทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน หาของกินได้ง่ายในระยะที่สามารถเดินได้ค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ :
การเดินทางโดยรถยนต์สามารถออกไปได้ 2 ทาง ทั้งทางทองหล่อ(สุขุมวิท55) และทางเอกมัย(สุขุมวิท63) ไปเชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายเส้น ไม่ว่าจะเป็น ถนนสุขุมวิท, ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ใช้ซอยลัดไปออกอโศก, ถนนสุขุมวิท 71 (ปรีดี พนมยงค์) ได้ แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าทำเลย่านนี้มีการจราจรที่หนาแน่นตลอดทั้งวัน จึงต้องเผื่อเวลาการเดินทางไว้พอสมควรค่ะ
สำหรับคนที่ต้องการใช้ทางด่วนมีทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งทางขึ้นอยู่บริเวณใกล้กับคลองพระโขนง โดยออกจากโครงการมายังถนนสุขุมวิทและขับมุ่งหน้าไปทางอ่อนนุช ก็จะสามารถไปใช้ทางด่วนนี้เพื่อไปยังรามอินทราได้ อีกเส้นทางนึงคือขึ้นทางด่วนที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับแยกพระราม 9 ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้ค่ะ
ที่จอดรถก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ ซึ่งโครงการมีให้ 700 คัน หรือประมาณ 70 % ซึ่งถือพอดีๆ และเป็นที่จอดรถแบบ Automatic Parking ทั้งหมด อาจจะต้องเสียค่า Maintanance ที่สูงกว่าที่จอดรถแบบธรรมดา แต่ก็ได้เรื่องความสะดวกสบายไม่ต้องวนหาที่จอดรถให้เสียเวลาค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
ถือว่าค่อนข้างสะดวกเนื่องจากอยู่ในทำเลที่สามารถเรียกรถผ่าน Application ได้ง่าย มีตัวเลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวินมอเตอร์ไซค์ Taxi หรือรถประจำทางทั้ง สองแถว และรถเมล์ก็มีอยู่ที่ถนนเอกมัยและทองหล่อ ระยะทางจากโครงการไปยัง BTS ทองหล่อ และ BTS เอกมัยพอๆกันอยู่ที่ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ไกลสักหน่อยสำหรับคนที่ต้องการเดิน อาจจะต้องเรียกวินเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าค่ะ
วัสดุ :
วัสดุของโครงการถือว่าให้มาพอสมควรนะคะ เน้นไปที่ Home Automation Smart Mirror และเทคโนโลยีภายในห้อง ที่สามารถควบคุมไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ ม่าน ฯลฯ ได้จาก Application ไม่ว่าอยู่ไหนที่มี Wifi ก็สามารถสั่งการได้ค่ะ พร้อม Digital Door Lock ที่รองรับได้ 5 Functions
โครงการนี้มีรูปแบบการขายแบบ Fully Fitted ได้ชุดเคาน์เตอร์ครัว และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ ซึ่งโครงการได้ให้เฟอร์นิเจอร์บางรายการมาเพิ่มเติมคือ ตู้เสื้อผ้า, ชั้นวาง TV, เตียงขนาด 6 ฟุต 1 เตียง และตู้เก็บรองเท้า ซึ่งอุปกรณ์ภายในครัว ได้เป็น Hood, Sink Undertop , Induction Hob ,Tap และ Microwave Built In ยี่ห้อ Teka หรือเทียบเท่า ภายในห้องน้ำได้ อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์, อ่างอาบน้ำ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ จาก Kasch ฝักบัวและ Rain Shower รองรับระบบน้ำร้อน(ติดตั้งระบบเอง) วัสดุพื้นห้องนั่งเล่น, ห้องนอน เป็น Engineering Wood พื้นห้องน้ำปูด้วย Porcelain Tile 60 x 60 cm และระเบียงปู Ceramic Tile 30 x 30 cm
การออกแบบ :
โครงการ Park Origin Thonglor ผ่านการออกแบบโดยสถาปนิกชั้นนำระดับสากลอย่าง Tandam Architect , ออกแบบภายในโดย DWP และ Landscape Design โดย Trop อาคารแต่ละอาคารมีการออกแบบตามธีมหลักแตกต่างกันไป อย่างอาคาร A มีแนวคิดการออกแบบทั้งวัสดุ และพื้นที่การใช้งานมาจาก Sculpture ให้ความรู้สึกสง่ามั่นคง อาคาร B มาจาก Lake เน้นเส้นสายที่โค้งลื่นไหล ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหวและอาคาร C มาจาก Tree เน้นเส้นสายที่โฉบเฉี่ยว แอคทีฟ ให้ความรู้สึกทันสมัย และมีการออกแบบที่คำนึงถึงต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่เดิม โดยคงต้นไม้ไว้บางส่วนและเน้นพื้นที่สีเขียวทำให้มีความร่มรื่นตั้งแต่ด้านหน้าโครงการ
การออกแบบผังโครงการแบ่งเป็น 3 อาคาร แต่ก็สามารถเชื่อมพื้นที่ส่วนกลางเข้าด้วยกัน โดยอาคารแต่ละอาคาร มี Facilities เป็น Double Floor รวมกว่า 50 ฟังก์ชัน ซึ่งถือว่าให้มาเยอะแบบจัดเต็มเหมาะสมกับจำนวนยูนิตค่ะ แต่ละอาคารมียูนิตต่อชั้นไม่เกิน 13 ยูนิต ส่วนใหญ่เป็น Single Corridor ทำให้มีความเป็นส่วนตัว ส่วน งานระบบถูกออกแบบให้อยู่กลางอาคาร ทำให้ห้องพักแต่ละห้องมีระยะเดินจากโถงลิฟต์เท่าๆกัน จำนวนลิฟต์โดยสารอาคาร A 3 ตัว, อาคาร B และอาคาร 4 ตัว มีอัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 100 : 1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นมากค่ะ
การออกแบบห้องพักอาศัยมีกว่า 20 Layout อาคาร Aและ B จะเป็นห้องห้องพักแบบ Simplex ความสูงฝ้า 3.00 เมตร ส่วนอาคาร C จะมีห้องพักแบบ Duo Space ซึ่งเป็นห้องแบบ Loft สูง 4,25 เมตร (ชั้นล่าง 2.10 เมตร, ชั้นบน 2.00 เมตร) และห้อง Penthouse สูง 3.50 เมตร ในห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Simplex มีความน่าสนใจอยู่ที่ได้พื้นที่ห้องน้ำขนาดใหญ่ มีอ่างอาบน้ำและ Sexy Bath พื้นที่ Walk in Closet เป็นสัดส่วน พื้นที่นั่งเล่นติดกับระเบียง ส่วนห้องตัวอย่างอีกห้องคือ 3 Bedroom มีจุดเด่นอยู่ที่ห้องครัว และพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ มี Island ตรงกลาง วางโต๊ะรับประทานอาหารได้ถึง 6 ที่นั่ง และได้ Master Bedroom ใหญ่ มีพื้นที่นั่งเล่น ระเบียงส่วนตัว พร้อม Walk-in Closet และห้องน้ำ แบ่งฟังก์ชันได้ลงตัวค่ะ
สาธารณูปโภค :
Facilities ของโครงการนี้ถือว่าให้มาแบบจัดเต็ม มีพื้นที่กิจกรรมกว่า 50 ฟังก์ชัน แบ่งเป็นชั้น 1 มีสวนขนาดใหญ่พื้นที่รวมกว่า 2 ไร่ เป็นเหมือนสวนสาธารณะใจกลางเมืองของทองหล่อ และ Sky Facility อาคารละ 2 ชั้น สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ ผ่าน Sky Bridge ได้ มีสระว่ายน้ำและห้องออกกำลังกายทั้ง 3 อาคาร และนอกจากนั้นยังมี Facilities สำหรับพักผ่อนเช่น Business Lounge, Game Room, Private Theater, Golf Simulator, Wine Cellar, Pool Bar, Sleep Pod, Essence Room, Private Dinning เป็นต้น
มี Facilities ให้ได้สัมผัสกับความเป็นธรรมชาติอย่างเช่น Aqua Lounge, Shower Jet, Ice Room, Onsen แยกชาย-หญิง, Experience Shower เป็นต้นสำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายก็จะมี Boxing, Fitness, Yoga Fly, Gym , Jogging Track ให้ใช้งานค่ะ โดยรวมแล้วถือว่าให้มาเหมาะสมกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ เหมาะกับคนที่ชอบเปลี่ยนกิจกรรม ใช้งานพื้นที่สวนกลางบ่อยๆ
Judgement
ราคาของคอนโดนี้ถือเป็นระดับ SUPER LUXURY CLASS ซึ่งความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ ยังมีเรื่องความคุ้มค่าด้านอารมณ์ Emotional ความชอบส่วนบุคคลที่มาเป็นปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งตราบเท่าที่ทางเรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ ทาง Think of Living ขอไม่ให้คะแนนฟันธงในรีวิวเจาะลึกนะคะ เพราะเป็นสินค้าประเภท Unique Item และเราก็เชื่อว่าลูกค้าที่พร้อมจะซื้อคอนโดระดับนี้ ไม่ตัดสินจากคะแนนค่ะ
Park Origin Thonglor เหมาะกับใคร
โครงการ Park Origin Thonglor มองหาคอนโด High Rise วิวสวย ในย่านทองหล่อ-เอกมัย มี Lifestyle หรือแหล่ง Hang-out อยู่ในย่านนี้ ต้องการพื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย มีกิจกรรมให้ทำเยอะ ชอบงานดีไซน์และเทคโนโลยี มีห้องแบบ Loft เป็นตัวเลือก งบประมาณระดับ 9 – 35 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 63,000 – 245,000 บาทต่อเดือน
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc