Origin Place Taopoon Interchange (ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์) คอนโด High Rise ใกล้ MRT เตาปูน มีห้องเพดานสูงและเลี้ยงสัตว์ได้ จาก Origin

Origin Place Taopoon Interchange (ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์)  ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568

พิกัด Google Maps : 13.810052923679295, 100.53151473044477
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Highlight

• ติดถนนใหญ่กรุงเทพ-นนทบุรี มีรถสาธารณะให้ใช้งานหลากหลาย ใกล้ทางด่วน 3 สาย เข้า-ออกเมืองง่าย
• ใกล้ MRT สถานีเตาปูน 300 เมตร เป็น Interchange Station ของสายสีน้ำเงิน-สีม่วง เดินทางเชื่อมต่อได้ง่าย
• ย่านชุมชนมีความคึกคักสูง หาของกินสะดวก ใกล้ตลาดเตาปูน 300 เมตร นอกจากนั้นยังไปตลาดบางซ่อน, ตลาดบางโพ, Lotus’s ประชาชื่นและ Gateway บางซื่อได้
• ใกล้แหล่งงานโซนจตุจักร-ลาดพร้าว เป็นตัวเลือกคอนโดที่น่าสนใจสำหรับคนที่ทำงานในย่านข้างเคียง
• วิวเปิดโล่งรอบด้าน ไม่มีตึกสูงในระยะใกล้ๆ ซึ่งชั้นสูงๆของโครงการจะมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

Origin Place Taopoon Interchange (ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์) ตั้งอยู่ติดถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ใกล้แยกเตาปูน ซึ่งเป็นจุด Interchange ของรถไฟฟ้าของสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน โดยโครงการนี้มีระยะห่างจากสถานีเตาปูนประมาณ 300 เมตร จึงเดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ ไปโซนจตุจักร ลาดพร้าวและพระราม 6 ได้ง่าย อยู่ไม่ไกลจากทางพิเศษศรีรัชและทางยกระดับอุตราภิมุข

สำหรับอุดมสมบูรณ์ของทำเลถือว่าสูงเลย เพราะเป็นย่านชุมชนเก่า จึงมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่ตลอดแนวถนน เดินไปตลาดเตาปูน (ตลาดมณีพิมาน) ที่มีทั้งของสด ของแห้ง ของใช้ ร้านค้า ร้านอาหารได้ในระยะเพียง 300 เมตร นอกจากนั้นยังมีตลาดบางซ่อนและตลาดบางโพอยู่ไม่ไกล  หรือใครอยากไปเดินห้างก็สามารถไปยัง Lotus’s ประชาชื่น และ Gateway บางซื่อได้

ส่วนโรงพยาบาลและสถานศึกษาก็อยู่ในระยะ 2 กิโลเมตร อีกทั้งใกล้แหล่งงานในละแวกข้างเคียงอยู่หลายแห่ง เช่น SCG สำนักงานใหญ่, รัฐสภาใหม่ เกียกกาย, PTT สำนักงานใหญ่, TTB สำนักงานใหญ่, Sun Tower และ SCB Park Plaza ทำให้กลุ่มลูกค้าของคอนโดเตาปูนนอกจากจะเป็นคนรุ่นลูกรุ่นหลานที่แยกตัวออกมาจากบ้านเก่าบนทำเลเดิม ยังมีคนที่มองหาคอนโดใกล้ที่ทำงานด้วยนั่นเอง

นอกจากนั้นด้วยตัวทำเลที่เป็น Interchange Station ของรถไฟฟ้า 2 สาย ทำให้ถือเป็นที่ต้องการของ Developer แต่พอเป็นย่านชุมชนเก่าแก่ การหาที่ดินเปล่ามาพัฒนาเป็นคอนโดจึงค่อนข้างยาก ทำให้ส่วนใหญ่คอนโดในปัจจุบันจะไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามากนัก และบางโครงการจึงมี Shuttle Bus คอยบริการรับ-ส่ง แต่ Origin Place Taopoon Interchange (ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์) มีระยะห่างจากสถานีเตาปูนประมาณ 300 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่เดินได้สบายและไม่มีคอนโดหรือตึกสูงมาบล็อกวิวในระยะใกล้ อีกทั้งออกแบบเน้นเป็นห้องเพดานสูงกว่า 70% จากยูนิตทั้งหมด  และยังสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ด้วย จึงถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยค่ะ

สำหรับทางด่วนบนทำเล มีให้เลือกใช้งานได้ 3 สายเลยค่ะ ได้แก่

• ทางพิเศษประจิมรัถยา มีระยะห่างจากโครงการ 2.5 กิโลเมตร สามารถใช้เดินทางไปยังโซนปิ่นเกล้า ตลิ่งชัน พุทธมณฑลและนครปฐมได้
• ทางพิเศษศรีรัช ด่านพหลโยธิน มีระยะห่าง 2.8 กิโลเมตร ทำให้เดินทางไปยังโซนอนุสาวรีย์ ราชเทวี สาทรได้สบาย
• ทางด่วนโทลล์เวย์ ใช้เพื่อวิ่งออกเมืองไปทางรังสิต ปทุมธานีได้ หรือจะเข้าเมืองไปดินแดง-เพลินจิต จุดขึ้นทางด่วนมีระยะห่าง 5.9 กิโลเมตร

ที่ตั้งโครงการ Origin Place Taopoon Interchange (ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์) ใกล้  MRT สถานีเตาปูน 300 เมตร มีวินมอเตอร์ไซค์และรถ Taxi ผ่านไปมาให้เรียกใช้บริการได้ แต่ยังมีข้อดีอีกอย่าง คือ ใกล้จุดกลับรถ จึงใช้งานง่าย ไม่ว่าจะขับรถเข้าหรือออกเมืองก็สะดวก แต่สำหรับจุดกลับรถออกเมืองจะมีระยะห่างเพียง 65 เมตร ทำให้เราจะต้องรีบขับเบี่ยงเพื่อเข้าจุดกลับรถให้ทันนะคะ นอกจากนั้นยังมีสะพานลอยอยู่ด้านหน้าโครงการด้วย จึงสามารถเดินไปช้อปปิ้งที่ฝั่งตรงข้ามโครงการได้นั่นเอง

ภาพบรรยากาศริมถนนกรุงเทพ-นนทบุรีที่มีร้านค้า ร้านอาหารเรียงรายตลอดแนวถนน

ภาพบรรยากาศตลาดเตาปูนที่เปิดขายตั้งแต่เช้า-เย็น ถือเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยหลักของคนบนทำเล มีให้เลือกซื้อหลากหลายทั้งของสด ของแห้ง ร้านค้าและร้านอาหาร ทำให้ลูกบ้านสามารถเดินมาจับจ่ายใช้สอยได้ง่าย มีระยะห่างจากโครงการ 300 เมตร

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ Origin Place Taopoon Interchange (ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์) ส่วนใหญ่เป็นชุมชนพักอาศัยเดิม มีความสูงอาคารประมาณ 2-4 ชั้นทำให้บรรยากาศทำเลค่อนข้างคึกคัก มีคนเดินอยู่ตลอด อีกทั้งไม่ค่อยมีอาคารสูงบังวิวในระยะใกล้ ทำให้ได้วิวโดยรอบโครงการค่อนข้างโปร่งโล่งเลย ส่วนห้องที่หันไปทางทิศตะวันตกจะเห็นวิวแม่น้ำอยู่ไกลๆค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัยแนวราบ
• ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักอาศัยแนวราบ
• ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัยแนวราบ
• ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี และบ้านพักอาศัยแนวราบ

ภาพบรรยากาศ Sales Gallery ของโครงการ Origin Place Taopoon Interchange (ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์)

ภาพบรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ Origin Place Taopoon Interchange (ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์)

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ตลาดเตาปูน ~ 300 เมตร
• Lotus’s ประชาชื่น ~ 1.2 กิโลเมตร
• Gateway บางซื่อ ~ 1.2 กิโลเมตร
• ตลาดบางซ่อน ~ 1.4 กิโลเมตร
• ตลาดบางโพ ~ 1.5 กิโลเมตร
• BigC วงศ์สว่าง ~ 2.5 กิโลเมตร
• Marketplace วงศ์สว่าง ~ 2.5 กิโลเมตร
• Central ลาดพร้าว ~ 6.1 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

• รพ.บางโพ ~ 1.3 กิโลเมตร
• รพ.เกษมราษฎร์ประชาชื่น ~ 3.7 กิโลเมตร
• รพ.วิชัยยุทธ ~ 4.2 กิโลเมตร
• รพ.วชิรพยาบาล ~ 5.5 กิโลเมตร

สถานศึกษา

• รร.โยธินบูรณะ ~ 1.8 กิโลเมตร
• รร.ราชินีบน ~ 3.6 กิโลเมตร
• ม.พระจอมเกล้าพระนครเหนือฯ ~ 4.4 กิโลเมตร
• รร.สตรีนนทบุรี ~ 4.6 กิโลเมตร
• รร.เซนต์คาเบรียล ~ 6.1 กิโลเมตร
• รร.เซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ ~ 6.1 กิโลเมตร
• ม.สวนดุสิต ~ 6.1 กิโลเมตร
• ม.ราชภัฎสวนสุนันทา ~ 6.4 กิโลเมตร
• รร.หอวัง ~ 7.2 กิโลเมตร

อื่นๆ

• SCG สำนักงานใหญ่ ~ 2.0 กิโลเมตร
• รัฐสภาใหม่ เกียกกาย ~ 3.2 กิโลเมตร
• PTT สำนักงานใหญ่ ~ 6.1 กิโลเมตร
• TTB สำนักงานใหญ่ ~ 6.1 กิโลเมตร
• Sun Tower ~ 6.6 กิโลเมตร
• SCB Park Plaza ~ 6.9 กิโลเมตร

Highlight

• โครงการห้องเพดานสูงแห่งเดียวในเตาปูน โครงการคอนโดอื่นๆบนทำเลมีแต่ห้องแบบ Simplex นอกจากนั้นยังออกแบบห้องเพดานสูงมากถึง 70%
• Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ เป็นโครงการเดียวในย่านที่เลี้ยงสัตว์ได้ เอาใจ Pet Parent พร้อมส่วนกลางให้น้องๆสัตว์เลี้ยงมาใช้งานได้
• ส่วนกลางหลากหลาย กระจายอยู่ 3 ชั้นหลักๆ ได้แก่ ชั้น 1 เน้นพื้นที่ต้อนรับและสวน, ชั้น 8 เป็น Active Faclities และชั้น 32 เป็น Passive Faclities
• ออกแบบพื้นที่สวนสีเขียวกระจายหลายจุด ได้แก่ บริเวณด้านหน้าโครงการ, ชั้น 25 ที่เป็น Hidden Yard และ Rooftop Garden ชั้นบนสุดของโครงการ

Origin Place Taopoon Interchange (ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์) เป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 32 ชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 673 ยูนิต ตั้งอยู่ติดถนนกรุงเทพ-นนทบุรี โดยเป็นโครงการแรกและโครงการเดียวในโซนเตาปูนที่มีห้องเพดานสูง 4.25 เมตรให้เลือก จึงทำให้ได้บรรยากาศภายในห้องที่โปร่งสบาย ไม่อึดอัด อีกทั้งยังออกแบบเน้นเป็นห้องเพดานสูงประมาณ 70% ของโครงการ โดยอยู่ตั้งแต่ชั้น 14-32 จึงเปิดรับวิวเมืองรอบด้านได้กว้างเลยค่ะ

นอกจากนั้นยังเป็นคอนโด Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้แห่งเดียวในเตาปูนด้วย ทางโครงการจะแบ่งชั้นพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 12-17 เป็นห้องพักของลูกบ้านที่เลี้ยงสัตว์ ซึ่งมีให้เลือกทั้งห้องแบบ Simplex (ชั้น 12-12A) และห้องเพดานสูง (ชั้น 14-17) ทำให้ลูกบ้านที่เลี้ยงสัตว์มีตัวเลือกห้องที่หลากหลายดีเลยค่ะ

โครงการถูกออกแบบภายใต้แนวคิด Extend Living on Cloud ในสไตล์ Modenr Luxury และเพิ่ม Element ของสไตล์ Art Deco ทำให้โทนสีของอาคารเป็นสีขาว-เทาเข้ม พร้อมเส้นสายสร้างลูกเล่นให้ตัวอาคารดูไม่เรียบจนเกินไป รวมถึงใช้เส้นโค้งเพิ่มความอ่อนนุ่ม เบาสบาย

การจัดฟังก์ชันส่วนกลางภายในโครงการสรุปได้ดังนี้

• ชั้น 1 : เน้นพื้นที่ต้อนรับ พักผ่อนและสวนสีเขียว ได้แก่ Aspen Garden, Amphitheater Lawn, Pet & Play Yard, Muse Garden, Semi-Outdoor, Welcome Lobby, Private Meeting Room, Co-Create Space, Entertainment Room, Pet & Play Lounge, Grab & Go, Lift Hall & Mail Room
• ชั้น 8 : Active Facilities ฟังก์ชันออกกำลังกาย ได้แก่ Infinity- Edge Pool, Pool Lounge, Co-Dining, Active Fitness, Cardio Zone, Weight Zone, Refreshment, Laundry, Sauna, Steam
• ชั้น 25 : สวนสีเขียว Hidden Yard
• ชั้น 32 : พื้นที่พักผ่อน สวนสีเขียวและจุดชมวิว ได้แก่ Cloud Night Lounge, River View Deck, Cloud Top Garden

MASTER PLAN

Origin Place Taopoon Interchange (ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์) มีทางเข้า – ออกของโครงการอยู่ติดถนนกรุงเทพ-นนทบุรีเลย เมื่อเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ Drop Off รับส่งลูกบ้าน พอเลี้ยวซ้ายไปเจอกับพื้นที่จอดรถรอบอาคารและมีทางขึ้นที่จอดรถชั้น 2-7 สำหรับสวนสีเขียวที่อยู่ด้านหน้าโครงการก็เป็นเหมือนจุดพักสายตาและส่วนกลางภายในชั้น 1 จะเป็น Passive Facilities ที่เน้นการนั่งพักผ่อนพูดคุยหรือทำงานค่ะ สำหรับการเดินเข้าออกและขึ้นลงในอาคารจะใช้ระบบ Keycard Access เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้าน

ทางโครงการจะมีทั้ง Main Entrance สำหรับรถยนต์ รวมถึงมี Pedestrian Entrance เป็นประตูเดินเข้า-ออกโครงการ สำหรับด้านหน้าโครงการจะเป็นพื้นที่สีเขียวทั้ง Aspen Garden, Amphitheater Lawn และ Pet & Play Yard สวนของสัตว์เลี้ยง ทำให้นอกจากจะสร้างบรรยากาศสดชื่นตั้งแต่เข้ามาภายในโครงการแล้ว ยังเป็น Buffer Zone กันเสียงรถยนต์และฝุ่นควันจากถนนด้านหน้าโครงการด้วยค่ะ

ส่วนบริเวณ Drop off จะมี Muse Garden ให้มานั่งพักผ่อนได้ อีกทั้งยังเป็นวิวสีเขียวให้กับ Lobby ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบ Lobby เป็น Welcome Lobby พื้นที่ต้อนรับแขก และ Semi-Outdoor Lobby พื้นที่นั่งคอยแบบไม่เป็นทางการนัก มีความเป็นกันเอง ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนั้นส่วนกลางในชั้น 1 ยังมีพื้นที่นั่งทำงานอย่าง Private Meeting Room และ Co-Create Space หากเบื่อๆก็มี Entertainment Room ให้มาดูหนังได้ รวมถึงมี Pet & Play Lounge รองรับน้องแมวมาเล่นและ Grab & Go ตอบโจทย์กับเทรนด์สมัยใหม่ที่มักสั่งอาหาร Delivery บ่อยๆค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 1 บริเวณ Main Entrance โดยจะมีป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเจนจากถนน รวมถึงมี Pedestrian Entrance เป็นประตูเดินเข้า-ออกโครงการอยู่ด้านข้างด้วย

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 1 บริเวณ Aspen Garden ที่อยู่ด้านหน้าโครงการ เป็นพื้นที่ให้มานั่งพักผ่อนท่ามกลางสวนสีเขียว สูดอากาศบริสุทธิ์ได้ ซึ่งทางโครงการได้ปลูกต้นไม้สีสันสดใสและต้นไม้ต้นใหญ่ที่บังแสงแดดและให้ร่มเงา ทำให้ลูกบ้านมานั่งใช้งานตอนกลางวันได้นานขึ้นด้วย

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 1 บริเวณ Amphitheater Lawn ออกแบบมี Pavilion ศาลานั่งพักผ่อนในสวน จึงเปลี่ยนบรรยากาศนั่งเล่น-นั่งทำงานมาอยู่บริเวณนี้ได้ นอกจากนั้นยังคงปลูกต้นไม้เล็ก-ใหญ่ เพิ่มบรรยากาศร่มรื่นให้ภายในโครงการ

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 1 บริเวณ Pet & Play Yard จะอยู่ด้านข้างกับ Amphitheater Lawn เลย โดยจะเป็นพื้นที่ให้น้องสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นกันได้นั่นเอง ซึ่งมีการออกแบบรั้วกั้นและอ่างล้างมือ-ล้างเท้าน้องๆมาให้ด้วย ส่วนด้านข้างก็มีพื้นที่ให้นั่งเฝ้าดูแลน้องๆได้อย่างใกล้ชิด ลูกบ้านจึงพาน้องๆมาวิ่งเล่นตรงนี้ได้ทั้งวันโดยไม่ต้องออกไปด้านนอกเลย

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 1 บริเวณด้านหน้าอาคาร เมื่อขับเข้าโครงการมาแล้วก็สามารถรับ-ส่งลูกบ้านตรง Drop off ได้เลย จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายเพื่อขึ้นไปชั้นลานจอดรถหรือวนรอบอาคารเพื่อออกโครงการนั่นเอง

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 1 บริเวณ Drop Off หากนั่งรถสาธารณะอย่าง Taxi กลับมาที่โครงการ ก็ทำให้รถ Taxi สามารถวนรถออกจากโครงการโดยไม่ต้องวนรอบอาคาร ถือเป็นการออกแบบป้องกันบุคคลภายนอก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยแก่ลูกบ้านภายในโครงการค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 1 บริเวณ Drop Off เชื่อมต่อกับ Lobby ของโครงการ ซึ่งพอทางโครงการออกแบบมีหลังคาปกคลุมตรงบริเวณนี้ก็ช่วยกันแดด กันฝนเวลารอรถมารับ-ส่งได้ดีเลย

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 1 บริเวณ Welcome Lobby และ Semi-Outdoor Lobby ออกแบบในโทนสีขาว ดูสบายตา ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบเป็นพื้นที่ต้อนรับ 2 จุด โดยฝั่งซ้ายของภาพจะเป็น Welcome Lobby จัดเป็นชุดโซฟา สามารถรับแขกได้ความเป็นทางการดี ส่วน Semi-Outdoor Lobby จะอยู่ทางฝั่งขวาของภาพ เปิดรับวิวจาก Muse Garden ที่อยู่ด้านข้าง จึงได้บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติและเป็นกันเองมากขึ้น

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 1 บริเวณ Co-Create Space ออกแบบมีที่นั่งหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานได้ตามการใช้งาน ทั้งเป็นพื้นที่นั่งเล่นและนั่งทำงาน นอกจากนั้นเพิ่มสีสันด้วยการเลือกใช้สีน้ำเงินและสีส้ม ทำให้ได้บรรยากาศในการทำงานที่ไม่เคร่งเครียดเกินไป

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 1 บริเวณ Private Meeting Room เป็นพื้นที่ให้มานั่งประชุม รองรับได้ 8 ที่นั่ง เพื่อระดมความคิด นำเสนอไอเดียได้ เหมาะกับการทำงานที่ต้องการโฟกัสมากขึ้น ซึ่งทางโครงการได้ตกแต่งห้องคล้ายๆกับ  Co-Create Space ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเลยนะ

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 1 บริเวณ Entertainment Room เป็นพื้นที่ให้ลูกบ้านมานั่งดูหนังร่วมกันได้ พร้อมจัดโซฟายาวที่นั่งได้สบาย จึงดูหนังได้ยาวๆเลยค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 1 บริเวณ Pet & Play Lounge เป็นห้องที่ออกแบบมาสำหรับน้องแมวโดยเฉพาะ เพราะว่า Pet & Play Yard สวนสีเขียวด้านหน้าโครงการจะเป็นพื้นที่ให้น้องสุนัขมาวิ่งเล่นกันมากกว่า ทางโครงการจึงออกแบบห้องนี้เพื่อน้องแมวจะได้มีพื้นที่มาเล่นบ้าง รวมถึงยังสร้าง Community ของเหล่าทาสแมวมาพูดคุย แลกเปลี่ยนการเลี้ยงดูแมวด้วย

ชั้น 8

สำหรับชั้น 8 จะเป็น Active Facilities เน้นการออกกำลังกาย ประกอบด้วย Infinity- Edge Pool สระว่ายน้ำพร้อม Jacuzzi , Pool Lounge พื้นที่นั่งริมสระว่ายน้ำ, Co-Dining พื้นที่ทำอาหาร, Active Fitness มีทั้ง Cardio Zone, Weight Zone และ Refreshment นอกจากนั้นยังมี Laundry, Sauna และ Steam ให้ลูกบ้านมานั่งผ่อนคลายได้

แต่ชั้น 8 นี้จะมีห้องพักอาศัยอยู่ด้วย ทำให้ห้องพักในชั้นนี้อาจจะมีเสียงดัง ความพลุกพล่านและไม่ค่อยส่วนตัวมากนัก เพราะมีลูกบ้านอื่นๆมายังชั้นนี้เพื่อใช้งานส่วนกลางบ่อยๆ แต่ก็แลกมากับตัวลูกบ้านในชั้นนี้เองก็เดินมาใช้งานส่วนกลางได้สะดวก ทำให้ห้องพักในชั้น 8 จะเหมาะสำหรับสายออกกำลังกาย ชอบออกกำลังกายที่ Fitness ทุกวันหรือว่ายน้ำเป็นประจำค่ะ

ถึงแม้ทางโครงการจะไม่ได้ยกสระว่ายน้ำไปไว้ชั้นบนสุด เพื่อเปิดรับวิวเมืองมุมสูงเหมือนคอนโด High Rise หลายๆโครงการ แต่ด้วยบริเวณโดยรอบตัวโครงการนี้ที่ไม่มีตึกสูงในระยะประชิด ทำให้ตำแหน่งสระว่ายน้ำที่อาจจะไม่ได้อยู่ชั้นสูงมากนัก แต่ก็สามารถเปิดรับวิวเมืองได้กว้างเลยค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 8 บริเวณ Infinity- Edge Pool เป็นสระว่ายน้ำให้ลูกบ้านมาว่ายน้ำออกกำลังกายกันได้ พร้อมมุม Jacuzzi มานั่งนวดผ่อนคลายและชมวิวเมืองสวยๆ

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 8 บริเวณ Pool Lounge เป็นพื้นที่นั่งริมสระว่ายน้ำ ซึ่งทางโครงการก็จัดมุมโซฟามาให้เลือกนั่งได้หลากหลาย ส่วนด้านข้างของ Pool Lounge จะเป็น Co-Dining พื้นที่ทำอาหาร จึงสามารถใช้ Pool Lounge เพื่อจัดงานสังสรรค์ ปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำได้นั่นเอง

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 8 บริเวณ Active Fitness ออกแบบหันรับวิว 2 ฝั่ง ทั้งวิวสระว่ายน้ำและวิวเมือง จึงทำให้มาออกกำลังกายพร้อมชมวิวได้เพลินๆ นอกจากนั้นทางโครงการได้เตรียมอุปกรณ์ออกกำลังกายไว้ครบครันทั้ง Cardio Zone และ Weight Zone

ชั้น 25

ทางโครงการมีออกแบบ Hidden Yard เป็นพื้นที่สวนสีเขียวตรงชั้น 25 ให้ลูกบ้านมานั่งเล่นท่ามกลางสวนสีเขียวตรงนี้ได้ ซึ่งชั้นสูงๆของโครงการจะมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย

ชั้น 32-Rooftop

สำหรับ Sky Facilities อยู่ชั้นบนสุดของโครงการ ทุกฟังก์ชันเปิดรับวิวเมือง โดยมี Cloud Night Lounge พื้นที่นั่งพักผ่อน เปิดรับวิวกว้าง พร้อม Cloud Top Garden พื้นที่สวนสีเขียวพร้อมมุมนั่งพักผ่อนและ River View Deck จุดชมวิวมุมสูงที่มองเห็นทั้งวิวเมืองและวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย

แต่ชั้น 32 ก็จะมีโซนห้องพักอาศัยอยู่ด้วย ทำให้ตัวห้องพักอาจจะไม่ได้ความเป็นส่วนตัวมากนัก แต่ยังดีที่ Sky Facilities จะเน้นเป็นพื้นที่พักผ่อนและจุดชมวิวที่ไม่ได้มีเสียงดังรบกวนการอยู่อาศัยมากนักค่ะ ทำให้ลูกบ้านในชั้นนี้แลกมากับข้อดีที่มาใช้งานส่วนกลางนี้ได้สะดวกและเป็นห้องที่ได้วิวมุมสูงสุดของโครงการนั่นเอง

ทางโครงการได้ออกแบบ Sky Facilities  เป็นจุดชมวิวได้ทุกทิศเลย เพราะโดยรอบโครงการไม่มีตึกสูงมาบล็อกวิวในระยะใกล้ๆค่ะ ทำให้ได้วิวเปิดโล่งรอบด้าน ยิ่งเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกน่าจะสวยงามมากๆค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 32 บริเวณ Cloud Night Lounge พื้นที่นั่งพักผ่อน พร้อมเปิดรับวิวเมืองได้กว้าง ทำให้มานั่งชมวิวได้เพลินๆ

ภาพจำลองบรรยากาศชั้น 32 บริเวณ River View Deck ที่เป็นจุดชมวิวของโครงการ โดยสามารถมองเห็นทั้งวิวเมืองและวิวแม่น้ำเจ้าพระยานั่นเอง

ภาพจำลองบรรยากาศ Sky Facilities ของโครงการ ไม่มีตึกสูงในระยะใกล้ๆ จึงได้วิวโดยรอบแบบเปิดโล่งค่ะ

ชั้นพักอาศัย

ลักษณะการวางผังอาคารจะเป็นรูปตัว L ออกแบบให้มีโถงลิฟต์เยื้องมาทางฝั่งขวา จึงทำให้ห้องทางปีกซ้ายอาคารมีระยะเดินที่ไกลกว่านิดหน่อย ส่วนโถงทางเดินจะเป็นแบบ Double load Corridor ที่ออกแบบประตูห้องไม่ชนกัน เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และมีช่องแสงอยู่ 3 จุด ช่วยดึงแสงเข้ามาภายในอาคาร ไม่ให้มืดทึบเกินไป โดยชั้น 14-24 จะเป็น Typical Floor Plan มีจำนวนห้องพักอาศัย 30 ยูนิตค่ะ ส่วนชั้นสูงๆของโครงการจะมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย

สำหรับชั้น 8, 14-32 จะเป็นห้อง High Ceiling เพดานสูง 4.25 เมตร คิดเป็น 70% ของยูนิตทั้งหมด ส่วนห้อง Simplex สูง 2.60 เมตร จะอยู่ที่ชั้น 9-12A นอกจากนั้นยังเป็นคอนโด Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ได้ โดยแบ่งชั้น 12-17 เป็นห้องพักของลูกบ้านที่เลี้ยงสัตว์ จึงมีให้เลือกทั้งห้องแบบ Simplex (ชั้น 12-12A) และห้องเพดานสูง (ชั้น 14-17) อีกทั้งยังออกแบบแยกลิฟต์โดยสารสำหรับ Pet-Friendly เพื่อให้ Pet Parent พาสัตว์เลี้ยงขึ้น-ลงลิฟต์ไป Pet & Play Yard และ Pet & Play Lounge ตรงชั้น 1 ได้โดยไม่รบกวนลูกบ้านคนอื่นๆค่ะ

งั้นเรามาดูตำแหน่งที่ห้องพักที่น่าสนใจกันค่ะ

• กรอบสีแดง – ห้องที่แชร์ผนังกับเพื่อนบ้านเพียงด้านเดียว ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดี
• กรอบสีน้ำเงิน – เป็นแบบห้องขนาดเล็กที่ติดกับเพื่อนบ้านด้านเดียว จึงเป็นห้องราคาดีที่ได้ความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังขึ้น-ลงอาคารได้สะดวกด้วย
• กรอบสีเขียว – ห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด เพราะนอกจากจะติดกับเพื่อนบ้านด้านเดียวแล้ว ยังได้โถงทางเดินหน้าห้องแบบ Single load Corridor ที่ไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามค่ะ
• กรอบสีม่วง – โซนที่มีเพื่อนบ้านน้อย ได้ความเป็นส่วนตัว อีกทั้งขึ้น-ลงลิฟต์ได้ง่าย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• ชั้น 1
  – Aspen Garden
  – Amphitheater Lawn
  – Pet & Play Yard
  – Muse Garden
  – Semi-Outdoor
  – Welcome Lobby
  – Private Meeting Room
  – Co-Create Space
  – Entertainment Room
  – Pet & Play Lounge
  – Grab & Go
  – Lift Hall & Mail Room
• ชั้น 8
  – Infinity- Edge Pool พร้อม Jacuzzi
  – Pool Lounge
  – Co-Dining
  – Active Fitness
  – Cardio Zone
  – Weight Zone
  – Refreshment
  – Laundry
  – Sauna
  – Steam
• ชั้น 25
  – Hidden Yard
• ชั้น 32
  – Cloud Night Lounge
  – River View Deck
  – Cloud Top Garden
• ที่จอดรถคิดเป็น 40% (ไม่รวมซ้อนคัน)
• EV Station
• ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว/อาคาร (แบ่งเป็นลิฟต์สำหรับ Pet Family 1 ตัว)
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 168 :  1
• Service Lift 1 ตัว
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ
  – รูปแบบประตูทางเข้า-ออกโครงการ (รถยนต์) : รั้วไม้กระดก
  – ระบบในการเข้า-ออก (รถยนต์) : License Plate Recognition System (ระบบจดจำทะเบียนรถผู้พักอาศัย) /  สติกเกอร์ / keycard
  – ระบบในการเข้า-ออก (เดินเข้าออก ขึ้นลงอาคาร) : Keycard Access
  – CCTV ส่วนกลาง
  – เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

Highlight

• ห้องเพดานสูง 4.25 เมตร ถือเป็นโครงการเดียวในโซนเตาปูนที่มีห้องเพดานสูงให้เลือก ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งสบายเหมือนอยู่บ้าน
• แบบห้องเยอะถึง 7 แบบ สามารถรองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย
• Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์บางส่วน ช่วยประหยัดงบในการตกแต่งห้อง
• ชั้น Pet-Friendly มีทั้งห้อง Simplex และห้องเพดานสูง ทำให้ Pet-Parent มีตัวเลือกห้องที่หลากหลายดี

Origin Place Taopoon Interchange (ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์) เป็นโครงการแรกและโครงการเดียวในโซนเตาปูนที่มีห้องเพดานสูง 4.25 เมตรให้เลือก จึงทำให้ได้บรรยากาศภายในห้องที่โปร่งสบาย ไม่อึดอัด อีกทั้งยังออกแบบเน้นเป็นห้องเพดานสูง High Ceiling ประมาณ 70% ของโครงการเลยนะ โดยอยู่ตั้งแต่ชั้น 14-32 จึงเปิดรับวิวเมืองรอบด้านได้กว้างเลยค่ะ

นอกจากนั้นยังมีแบบห้องให้เลือกมากถึง 7 แบบ จึงเลือกได้ตรงตามไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของแต่ละคนเลยนะคะ รวมถึงยังได้เป็นครัวแบบปิดทั้งหมด จึงเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารค่ะ มีให้เลือกตั้งแต่ 1 Bedroom-2 Bedroom แต่ปัจจุบันห้อง 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ของโครงการได้ Sold Out หมดแล้วนะคะ ทำให้เหลือขายแต่ห้องขนาดเล็กเหมาะอยู่อาศัย 1-2 คนค่ะ

เราชอบที่ทางโครงการออกแบบห้องพักอาศัยในชั้น Pet-Friendly (ชั้น 12-17 รวม 6 ชั้น) ที่มีให้เลือกทั้งห้องแบบ Simplex (ชั้น 12-12A) และห้องเพดานสูง High Ceiling (ชั้น 14-17) ทำให้ Pet Parent เลือกห้องได้เหมาะกับการอยู่อาศัย โดยเฉพาะคนที่มีงบจำกัดก็มองเป็นห้องแบบ Simplex ได้นั่นเอง

ทางโครงการได้ตกแต่งห้องแบบ Fully Fitted+เฟอร์นิเจอร์บางส่วนมาให้ โดยจะได้ทั้ง ตู้รองเท้า, เคาน์เตอร์ครัว พร้อมอ่างล้างจาน Hop & Hood, ฐานเตียง 5 ฟุต พร้อมลิ้นชักใต้เตียง, ตู้เสื้อผ้าและแอร์ในทุกแบบห้อง แต่ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์และจำนวนชิ้นจะขึ้นอยู่กับแบบห้องนะคะ ดังนั้นจึงช่วยให้เราประหยัดงบตกแต่งไปได้ประมาณนึงเลย เพียงซื้อของเพิ่มอีกเล็กน้อยก็อยู่อาศัยได้เลยค่ะ

วัสดุภายในห้อง
– พื้นห้อง : พื้น SPC ลายไม้
– พื้นระเบียง : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 30×30 เซนติเมตร
– ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาว
– ไฟดาวน์ไลท์ (จำนวนและตำแหน่งไฟจะมีการปรับเปลี่ยนนะคะ)
– เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type จาก LG (จำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
– Digital Door Lock รองรับ 5 ระบบ ได้แก่ Keycard, Password, Finger Scan, กุญแจ และ Wireless Access ผ่านแอปพลิเคชัน
– เทคโนโลยีฟอกอากาศ nanoe™ X จาก Panasonic (เฉพาะห้องของ Pet Family)

วัสดุห้องครัว
– Top Counter หินสังเคราะห์
– อ่างล้างจาน, Hob และ Hood จาก HAFELE

วัสดุห้องน้ำ
– พื้นและผนังห้องน้ำ : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร
– ก๊อกน้ำ, อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์ และฝักบัว จาก COTTO

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ทางโครงการมีห้องตัวอย่างให้ชมทั้งห้อง Simplex และห้องเพดานสูง โดยเราจะเจาะลึกที่ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.55-30.10 ตร.ม. และ 1 Bedroom ที่เป็นห้องเพดานสูง พื้นที่โฉนด 28.55-30.10 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่ชั้นลอย) นอกจากนั้นเราได้เก็บภาพบรรยากาศของ 1 Bedroom Plus พื้นที่โฉนด 34.55-34.95 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่ชั้นลอย) มาให้ชมกันด้วยนะคะ

1 Bedroom พื้นที่โฉนด 28.55-30.10 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่ชั้นลอย)

สำหรับห้องแรกที่เราพามาดูคือ 1 Bedroom พื้นที่โฉนด 28.55-30.10 ตร.ม.(ไม่รวมพื้นที่ชั้นลอย) ซึ่งออกแบบเป็นห้องเพดานสูง 4.25 เมตรและมีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการ ทำให้มีตำแหน่งห้องให้เลือกได้หลากหลายทั้งห้องที่ติดเพื่อนบ้านด้านเดียว โซนที่มีเพื่อนบ้านน้อย ได้ความเป็นส่วนตัวสูง และห้องโซนใกล้ลิฟต์ ขึ้น-ลงอาคารได้ง่าย เราได้สรุปจุดเด่นของห้องนี้มาดังนี้

• ห้องเพดานสูง เพิ่มบรรยากาศโปร่งโล่ง เปิดรับแสง-วิวได้กว้าง
• ห้องครัวแบบปิด ทำอาหารจริงจังได้ ช่วยป้องกันกลิ่นและควันลอยเข้าไปห้อง
• ห้องน้ำ แบ่งเป็นสัดส่วนทั้งอ่างล้างมือ สุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำ
• ระเบียง มีพื้นที่ด้านล่างทำมุมนั่งเล่นได้ โดยแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน
• ห้องนอนอยู่ตรงชั้นลอย ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ทางโครงการได้ติดตั้ง Digital Door Lock จึงสามารถรองรับการใช้งาน 5 ระบบ ได้แก่ Keycard, Password, Finger Scan, กุญแจ และ Wireless Access ผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้ใช้งานได้ง่ายดี ไม่ต้องพกกุญแจหรือ Keycard ให้วุ่นวายค่ะ

ออกแบบโซนห้องครัวและห้องน้ำอยู่ด้านหน้าห้องเหมือน Buffer Zone ช่วยกันเสียงดังจากโถงทางเดินไม่ให้รบกวนพื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ด้านในห้อง นอกจากนั้นพอจัดส่วนนั่งเล่นติดริมหน้าต่างก็เปิดรับแสงและชมวิวได้กว้าง เพิ่มบรรยากาศผ่อนคลายได้ดีเลย

เมื่อเดินเข้ามาในห้องจะเป็นบริเวณของห้องครัวค่ะ มีขนาดประมาณ 2.50×2.50 เมตร สูงประมาณ 2.10 เมตร ปูพื้นด้วยพื้น SPC ลายไม้ โดยทางฝั่งขวาจะเป็นตู้เก็บของและตู้เก็บรองเท้า เวลาเข้าห้องมาก็เก็บรองเท้าและวางของบนชั้นได้เลย ส่วนทางด้านซ้ายจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวและห้องน้ำค่ะ

ทางโครงการได้ทำ Built-in ตู้เก็บของ ที่นั่งใส่รองเท้าและตู้เก็บรองเท้าตรงบริเวณด้านหน้าห้องมาให้แบบนี้เลยนะคะ ทำให้ช่วยเก็บของได้เยอะและเป็นระเบียบดี นอกจากนั้นเราชอบที่มีพื้นที่นั่งใส่รองเท้ามาให้พร้อมเลยค่ะ ทำให้เราสามารถนั่งใส่รองเท้าได้สะดวกดีนั่นเอง ส่วนด้านข้างจะมีเว้นช่องสำหรับตั้งตู้เย็นได้ด้วยค่ะ พอทางโครงการได้ตกแต่งส่วนนี้มาให้แล้ว เราก็ประหยัดเงินไปได้หลายหมื่นเหมือนกันนะ

สำหรับอีกฝั่งจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวและห้องน้ำค่ะ ซึ่งออกแบบเป็นห้องครัวแบบปิด ช่วยป้องกันไม่ให้กลิ่นจากการทำอาหารลอยไปด้านในห้องนั่นเอง เราจึงสามารถทำอาหารได้หนักในระดับนึงเลยนะ

ชุดเคาน์เตอร์ครัว Top ด้วยหินสังเคราะห์ที่ทนทานและทำความสะอาดได้ง่าย มีชั้นเก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง สามารถเก็บเครื่องปรุงและอุปกรณ์ทำอาหารต่างๆ รวมถึงตั้งถังขยะสำหรับทิ้งเศษอาหารและวางอุปกรณ์ทำความสะอาดได้ด้วย พร้อมเว้นช่องตรงกลางไว้ตั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้า

พื้นที่บนเคาน์เตอร์กว้าง ทำให้เตรียมอาหารได้ง่าย พร้อมติดตั้งอ่างล้างจาน, Hob และ Hood จาก HAFELE มาเรียบร้อย แต่ Hood ไม่ได้เป็นระบบหมุนเวียนที่ดูดควันไปปล่อยนอกอาคาร ทำให้พอใช้ไปนานๆอย่าลืมเปลี่ยนไส้กรองกันด้วยนะคะ จะได้สามารถดูดซับกลิ่นและควันได้อย่างเต็มที่

นอกจากนั้นเราแนะนำให้ติดตั้ง Backsplash บริเวณผนังด้านหลังเคาน์เตอร์เพิ่มนะคะ จะได้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายและผนังไม่เป็นคราบจากการทำอาหารด้วยค่ะ รวมถึงทางโครงการออกแบบมีที่ใส่กระดาษทิชชูในตู้ด้านบน ทำให้ดึงใช้งานได้สะดวกดีค่ะ

สำหรับเรามองว่าแบบห้องนี้เหมาะทำอาหารได้จริงจังระดับนึงแต่ไม่ได้ใช้งานหนักมากนัก เพราะว่าอีกฝั่งของห้องจะเป็นตู้เก็บของ ทำให้กลิ่นหรือควันอาหารอาจจะติดอยู่กับตัวตู้เก็บของได้นั่นเอง เราจึงต้องคอยเช็ดทำความสะอาดหน้าบานตู้บ่อยๆหน่อยนะคะ

ด้านข้างของเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นห้องน้ำค่ะ โดยมีขนาด 1.50×2.40 เมตร ออกแบบมีธรณีประตูกั้นสูงขึ้นมาจากระดับพื้นห้อง เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้ามาภายในห้องได้ ส่วนภายในห้องน้ำก็มีแยกพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจน สำหรับพื้นและผนังภายในห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร

สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งก๊อกน้ำ, อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์และฝักบัวเลือกใช้จาก COTTO แต่ที่เราชอบคือมี Low Wall ก่อกำแพงด้านหลังเคาน์เตอร์อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ ทำให้ได้พื้นที่วางของตกแต่งและอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำได้เยอะขึ้น รวมถึงมีกระจกเงาที่มีขนาดใหญ่และมีความยาวเกือบเต็มผนังห้อง ทำให้เราส่องกระจกได้ชัดเจนดี

ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.90×1.00 เมตร พร้อมเจาะช่องตรงผนังด้านข้าง เพื่อวางอุปกรณ์อาบน้ำและหยิบใช้งานได้สะดวก อีกทั้งติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้เรียบร้อย ทำให้เวลาอาบน้ำไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะกระเด็นไปเลอะบริเวณอื่นค่ะ

ทางโครงการออกแบบประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เพื่อกั้นระหว่างห้องครัวและ Common Area ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะมีกลิ่นควันจากการทำอาหารเข้าไปภายนให้อง รวมถึงเวลาเรานั่งอยู่ตรงพื้นที่นั่งเล่นก็จะมองไม่เห็นประตูห้องน้ำและไม่มีความชื้นจากห้องน้ำเข้าไปรบกวนภายในห้องด้วยนั่นเอง นอกจากนั้นยังดึงแสงธรรมชาติจากด้านนอกเข้ามาภายในห้องได้ทั่วถึงดี

Common Area มีขนาดประมาณ 4.00×4.60 เมตร ออกแบบเป็น Double Volume พื้นที่เพดานสูง 4.25 เมตร ที่เป็นจุดเด่นของโครงการนี้นั่นเอง ทำให้ได้พื้นที่แบบโปร่งโล่งมากๆ เพราะจะได้บานหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ ดึงแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ อีกทั้งเปิดรับวิวได้กว้าง นอกจากนั้นยังได้ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะยกห้องนอนไปตรงชั้นลอย ทำให้เราใช้พื้นที่ชั้นล่างสำหรับต้อนรับแขกได้โดยไม่รบกวนพื้นที่นอนหลับพักผ่อนแบบส่วนตัวนั่นเอง

พื้นที่นั่งเล่นก็ปูด้วยพื้น SPC ลายไม้ ที่ทนรอยขีดข่วนและความชื้นจากสัตว์เลี้ยงได้ ทำให้ Pet-Parent ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลรักษาเลยนะ ส่วนผนังและเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบ ทาสีขาว และไฟแบบดาวน์ไลท์ค่ะ (จำนวนและตำแหน่งไฟจะมีการปรับเปลี่ยนนะคะ) ซึ่งเราสามารถตกแต่งเหมือนห้องตัวอย่างได้เลย วางโซฟายาว พร้อมโต๊ะกลางและชั้นวางทีวี มีระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.90 เมตร จึงวางทีวีขนาด 50 นิ้วขึ้นไปได้ จะดูซีรีส์หรือดูข่าวก็เห็นได้ชัดเจนดี รวมถึงมีพื้นที่เดินผ่านไปมาได้สบายๆด้วย

นอกจากนั้นทางโครงการติดตั้งเครื่องปรับอากาศจาก LG มาให้เลยนะคะ แต่จำนวนชิ้นจะขึ้นอยู่กับแบบห้อง อย่างห้องนี้จะได้มา 2 ตัว ติดตั้งบริเวณ Common Area และห้องนอนตรงชั้นลอยค่ะ

พอออกแบบตัวห้องเป็นเพดานสูง ก็ทำให้บริเวณ Common Area นี้ได้กระจกขนาดใหญ่ เปิดรับแสงและวิวได้เยอะดี ส่วนด้านข้างของพื้นที่นั่งเล่นก็มีพื้นที่ให้เราสามารถจัดเป็นโต๊ะนั่งทำงานริมหน้าต่างเหมือนห้องตัวอย่างได้เลย หรืออาจจะตั้งเป็นโต๊ะรับประทานอาหารเล็กๆก็ได้เหมือนกันค่ะ สำหรับห้องพักในชั้น Pet-Friendly จะมีเทคโนโลยีฟอกอากาศ nanoe™ X จาก Panasonic มาให้ทุกยูนิต เพื่อช่วยลดกลิ่นของสัตว์เลี้ยงภายในห้องค่ะ

ทางโครงการได้ตกแต่งมุมนั่งทำงานริมหน้าต่างมาให้เป็นไอเดีย เผื่อเอาไปปรับใช้กันได้ มีพื้นที่ประมาณ 0.70×2.40 เมตร ทำ Built-in โต๊ะทำงานและชั้นวางของด้านข้าง เราจึงสามารถนั่งทำงานพร้อมชมวิวเมืองได้เพลินๆ ส่วนระเบียงจะอยู่ติดกับพื้นที่นั่งทำงานนี้ ทำให้เวลานั่งทำงานนานๆก็ออกมายืดเส้นยืดสาย สูดอากาศบริสุทธิ์และยืนชมวิวตรงระเบียงนี้ได้ค่ะ

สำหรับระเบียงมีขนาดประมาณ 0.65×1.35 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 30×30 เซนติเมตร โดยออกแบบเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้เปิดได้กว้าง เดินเข้า-ออกได้ง่าย มีธรณีประตูกั้นสูงจากระดับพื้นขึ้นมา เพื่อป้องกันน้ำฝนไหลท่วมเข้ามาภายในห้องนั่นเอง

เราชอบที่ทางโครงการได้แขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้ทั้งปลูกต้นไม้ ตากผ้าหรือตั้งเก้าอี้นั่งรับลม รวมถึงมีออกแบบเป็นระแนงพรางสายตาตรงพื้นที่ Condensing Unit ทำให้ดูสวยงามเรียบร้อยดีเมื่อมองจากด้านนอกอาคาร

ด้านข้างของห้องจะเป็นบันไดเดินขึ้นไปยังชั้นลอย มีความกว้างประมาณ 0.75 เมตร ส่วนขนาดลูกตั้งประมาณ 18 เซนติเมตรและลูกนอนอยู่ที่ 24 เซนติเมตร  ทำให้เดินขึ้น-ลงได้ง่ายดี พร้อมราวบันไดเป็นโครงเหล็กพร้อมกระจก ดูสวยงาม

ทางโครงการมีออกแบบห้องเก็บของบริเวณใต้บันไดด้วยนะ แต่มีการกั้นชั้นวางของ ทำให้เราเก็บของชิ้นใหญ่อย่างกระเป๋าเดินทางไม่ได้นะ แต่ก็ถือว่าทางโครงการพยายามออกแบบพื้นที่เก็บของภายในห้องมาค่อนข้างเยอะ

เรามองว่าถูกใจชาวคอนโดเหมือนกันนะ เพราะชาวคอนโดชอบเจอปัญหาเรื่องไม่มีพื้นที่เก็บของ พอทางโครงการได้เตรียมพื้นที่เก็บของมาให้ประมาณนึงก็ทำให้เก็บของได้เยอะและเป็นระเบียบ ทำให้ห้องดูเรียบร้อยดีเลย

พื้นที่ชั้นลอยจะออกแบบมาเป็นพื้นที่นอน มีขนาดอยู่ที่ 2.40×3.50 เมตร และสูงประมาณ 2.20 เมตร ส่วนพื้นปูเป็น SPC ลายไม้เหมือนกับชั้นล่าง พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศจาก LG มาให้ 1 ตัวค่ะ

ทางโครงการได้ให้ฐานเตียง 5 ฟุตพร้อมลิ้นชักด้านล่าง ไว้เก็บหมวก ถุงเท้า หรือหนังสือได้ ส่วนด้านข้างจะทำ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เลย ซึ่งตามมาตรฐานแล้วจะได้ตู้เสื้อผ้าที่มีบานปิดและไม่มีโต๊ะแต่งหน้ามาให้นะคะ แต่ทางโครงการได้ตกแต่งห้องตัวอย่างให้เป็นไอเดียนำไปปรับใช้กันได้ค่ะ

ทางโครงการได้ทำราวกันตกตรงพื้นที่ชั้นลอยนี้เป็นโครงเหล็กพร้อมกระจกต่อเนื่องมาจากราวบันได ซึ่งเราแนะนำสำหรับคนที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนมากขึ้น ก็สามารถเปลี่ยนราวกันตกเป็นผนังกระจกแทนได้นะคะ ทำให้ยังได้แสงธรรมชาติจากด้านนอก อีกทั้งความเย็นของแอร์ก็ไม่ไหลลงไปชั้นล่างด้วยค่ะ

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.55-30.10 ตร.ม.

ต่อมาเราพามาดูห้อง Simplex ความสูง 2.60 เมตรกันบ้าง โดยจะอยู่ที่ชั้น 9-12A เท่านั้น และชั้น 12-12A จะเป็นชั้น Pet-Friendly เราชอบที่ทั้งคนทั่วไปและ Pet Parent มีตัวเลือกเป็นห้อง Simplex และห้องเพดานสูง จึงเลือกได้ตรงตามไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยค่ะ ทำให้คนเลี้ยงสัตว์ที่มีงบจำกัดก็มองเป็นห้องแบบ Simplex ได้ด้วยนั่นเอง

ห้องที่เราจะพาไปเจาะลึกกันจะเป็นห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.55-30.10 ตร.ม. ออกแบบภายในห้องออกเป็น 2 ฝั่ง ได้แก่ ฝั่งพักผ่อนและฝั่ง Service แยกกันชัดเจนดี ส่วนตำแหน่งของห้องนี้จะเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลย เพราะทางโครงการออกแบบตำแหน่งห้องในชั้น Simplex เหมือนกับชั้นห้องเพดานสูงนั่นเอง ทำให้มีทั้งห้องที่ติดเพื่อนบ้านด้านเดียว, โซนเพื่อนบ้านน้อยและโซนใกล้ลิฟต์ให้เลือกค่ะ โดยจุดเด่นของแบบห้องนี้มีดังนี้

• พื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารเชื่อมต่อกัน ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี
• ห้องนอนขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว้างและอยู่ติดริมหน้าต่าง เปิดรับแสงและวิวได้กว้าง
• ห้องครัวแบบปิดติดระเบียง ทำอาหารจริงจังได้ ถูกใจคนชอบทำอาหาร ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและควันลอยเข้าไปในห้อง
• ห้องน้ำ แบ่งเป็นสัดส่วน ใช้งานสะดวก
• ระเบียง แขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้

เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเป็น Common Area ที่ออกแบบเป็น Open Plan พื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อเนื่องกันขนาดใหญ่ มีขนาด 2.50×3.50 เมตร ความสูงจากพื้นถึงเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตร ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งสบายตั้งแต่ก้าวเข้ามาภายในห้องเลยนั่นเอง วัสดุปูพื้นเป็น SPC ลายไม้ ที่นอกจากจะทำให้ได้บรรยากาศเหมาะแก่การพักผ่อนแล้ว ยังทนความชื้นและรอยขีดข่วนของสัตว์เลี้ยงได้ด้วย ส่วนผนังและเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบ ทาสีขาว และไฟแบบดาวน์ไลท์ค่ะ

ทางโครงการได้ทำ Built-in ชั้นวางรองเท้าบริเวณด้านหน้าห้องมาให้เหมือนภาพด้านบนเลยนะคะ ทำให้พอเราเข้าห้องมาแล้วก็เก็บรองเท้าได้สะดวกเลย อีกทั้งยังมีพื้นที่ให้วางกุญแจ บัตรหรือกระเป๋าได้ด้วย ทำให้หยิบใช้งานได้ง่ายดีค่ะ

เราสามารถตกแต่งพื้นที่นั่งเล่นเหมือนห้องตัวอย่างได้เลยนะคะ ทั้งวางโซฟา 2 ที่นั่ง โต๊ะกลางและชั้นวางทีวี ซึ่งมีระยะดูทีวีอยู่ที่ 2.30 เมตร ทำให้วางทีวีขนาด 50 นิ้วได้อยู่นะคะ ส่วนพื้นที่ทางเดินเข้า-ออกห้องก็กว้างดี เดินผ่านได้สบายๆค่ะ

ด้านข้างของพื้นที่นั่งเล่นจะมีพื้นที่เล็กๆให้เราตั้งเป็นมุมนั่งรับประทานอาหาร พร้อมชั้นวางของด้านข้างเหมือนห้องตัวอย่างได้เลยนะคะ หรือจะปรับเป็นมุมนั่งทำงานก็ได้เหมือนกันค่ะ จะได้ใช้พื้นที่ภายในห้องได้คุ้มค่าดี

ถัดจาก Common Area จะเป็นห้องนอนนะคะ โดยจะมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กั้นแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนดี ซึ่งพอเลือกใช้เป็นประตู 3 ตอนก็ทำให้เปิด-ปิดได้กว้าง อีกทั้งดึงแสงธรรมชาติจากด้านนอกเข้ามาภายในห้องได้ทั่วถึงดี  แต่เราแนะนำให้ติดผ้าม่านตรงประตูนี้ด้วยนะคะ เพราะเวลามีแขกหรือเพื่อนมาเยี่ยมที่ห้อง เราก็สามารถปิดผ้าม่านไม่ให้มองเห็นห้องนอนเพื่อได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ

ห้องนอนมีขนาด 2.70×3.50 เมตร ซึ่งทางโครงการได้ให้ฐานเตียง 5 ฟุตพร้อมลิ้นชักด้านล่างและ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เหมือนห้องตัวอย่างเลยนะคะ บริเวณหัวเตียงก็มีพื้นที่ตั้งโต๊ะเล็กๆได้ ส่วนพื้นที่ตรงปลายเตียงกว้าง 0.65 เมตร เดินผ่านไปมาได้ เราชอบที่ตัวบานตู้เสื้อผ้ามีกระจกมาให้เราส่องแบบเต็มตัว อีกทั้งมีพื้นที่ยืนแต่งตัวกว้าง จึงยืนเลือกชุดหรือลองเสื้อผ้าได้สบายๆค่ะ

ต่อมาเราจะพาไปดูอีกฝั่งของห้องที่เป็นโซน Service กัน ได้แก่ ห้องน้ำ ห้องครัวและระเบียงค่ะ ซึ่งบริเวณด้านหน้าของห้องน้ำจะมีพื้นที่กว้างประมาณ 0.80 เมตร ที่เราสามารถทำเป็นชั้นวางของเหมือนห้องตัวอย่างเพื่อเก็บของได้เยอะ หรือจะทำเป็นโต๊ะแต่งหน้าก็ดีเหมือนกัน เวลาเช็ดเครื่องสำอางเสร็จแล้วก็มาล้างหน้า ล้างแปรงแต่งหน้าได้สะดวกดีค่ะ งั้นเราขอพาไปดูห้องน้ำที่อยู่ฝั่งซ้ายกันก่อนแล้วค่อยพาไปดูฝั่งขวาที่เป็นห้องครัวและระเบียงนะคะ

สำหรับห้องน้ำออกแบบเหมือนห้องก่อนหน้านี้เลยนะคะ มีขนาดประมาณ 1.50×2.40 เมตร ปูพื้นและผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 เซนติเมตร มีธรณีประตูกั้นสูงขึ้นมาจากระดับพื้นห้อง ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำไหลท่วมเข้ามาภายในห้อง

ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดจาก COTTO พร้อม Low Wall เป็นพื้นที่วางของได้เยอะและมีกระจกเงาขนาดใหญ่เกือบเต็มผนัง สำหรับพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.90×1.00 เมตร และเจาะช่องตรงผนังด้านข้าง หยิบของใช้ในห้องน้ำได้ง่ายดี อีกทั้งติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้เรียบร้อย ทำให้น้ำไม่กระเด็นไปเลอะบริเวณอื่นค่ะ

ก่อนจะไปห้องครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนกั้นแบ่งไว้อยู่ ทำให้ได้ห้องครัวแบบปิด จึงไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นหรือควันอาหารจะลอยเข้ามาภายในห้องนั่นเอง อีกอย่างเราชอบที่ทางโครงการเลือกใช้ประตูได้เหมาะกับความกว้างห้องครัวดี เพราะพอเลือกใช้ประตู 3 ตอนที่เปิด-ปิดได้กว้างก็ทำให้เดินผ่านได้ง่ายกว่าประตู 2 ตอนค่ะ

ห้องครัวมีขนาดประมาณ 1.35×2.45 เมตร มีพื้นที่ยืนทำอาหารประมาณ 0.80 เมตร พร้อม Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาเหมือนห้องก่อนหน้านี้เลยทั้ง Top ด้วยหินสังเคราะห์ที่ทนทานและทำความสะอาดได้ง่าย มีชั้นเก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง พร้อมเว้นช่องตรงกลางไว้ตั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้า

พื้นที่บนเคาน์เตอร์ก็กว้าง ติดตั้งอ่างล้างจาน, Hob และ Hood จาก HAFELE และมีที่ใส่กระดาษทิชชูในตู้ด้านบนมาให้เรียบร้อยเลย ถึงแม้ Hood จะไม่ได้เป็นระบบหมุนเวียนที่ดูดควันไปปล่อยนอกอาคาร แต่ด้วยตำแหน่งห้องครัวที่อยู่ติดกับระเบียงอยู่แล้วจึงสามารถเปิดประตูให้ควันลอยออกไปนอกอาคารได้เลยค่ะ นอกจากนั้นด้านหลังเคาน์เตอร์จะไม่ได้ติด Backsplash มาให้ ซึ่งเราแนะนำให้ซื้อติดเพิ่มนะคะ เพราะทำให้ผนังไม่เป็นคราบและเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายด้วย

ทางโครงการออกแบบเป็นห้องครัวแบบปิด สามารถทำอาหารได้จริงจัง ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นอาหารจะลอยเข้าไปในห้อง เพราะมีทั้ง Hood และอยู่ติดระเบียงจึงเปิดระบายอากาศได้สะดวกเลยนั่นเอง

ทางโครงการเลือกใช้ประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนที่เปิด-ปิดได้ง่ายมากั้นระหว่างห้องครัวและระเบียง นอกจากจะทำให้เราเดินเข้า-ออกได้สะดวกแล้ว ยังช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องครัวด้วยค่ะ

ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.00×1.35 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 30×30 เซนติเมตร มีธรณีประตูกั้นสูงจากระดับพื้นขึ้นมา ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำฝนไหลเข้ามาภายในห้อง ซึ่งออกแบบแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้ ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบให้เราตั้งเครื่องซักผ้าอยู่ตรงห้องครัวแล้ว เราจึงใช้พื้นที่นี้เป็นมุมปลูกต้นไม้ ตากผ้า หรือตั้งเก้าอี้เล็กๆมานั่งรับลมได้นั่นเอง

หลังจากเราพาไปดู 1 Bedroom ทั้งแบบ Simplex และห้องเพดานสูงกันมาแล้ว เราได้เก็บภาพบรรยากาศของ 1 Bedroom Plus ที่เป็นห้องเพดานสูงมาให้ชมกันด้วย แต่ปัจจุบันห้องใหญ่อย่าง 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ทั้งแบบ Simplex และห้องเพดานสูงจะ Sold Out ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ แต่เราสามารถหาซื้อใบจอง รอห้องหลุดโอนหรือห้องมือสองได้อยู่ค่ะ ดังนั้นทุกคนลองติดต่อสอบถามกับทางโครงการโดยตรงอีกครั้งนะคะ

1 Bedroom Plus พื้นที่โฉนด 34.55-34.95 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่ชั้นลอย))

ห้องตัวอย่างห้องสุดท้ายที่เราได้เก็บภาพบรรยากาศมาให้ชมกัน ได้แก่ 1 Bedroom Plus พื้นที่โฉนด 34.55-34.95 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่ชั้นลอย) มีตำแหน่งห้องอยู่ตรงมุมอาคาร ทำให้แชร์ผนังติดเพื่อนบ้านเพียงด้านเดียว แต่มีตำแหน่งที่น่าสนใจ คือ ตำแหน่ง 24 ที่นอกจากจะติดกับเพื่อนบ้านเพียงด้านเดียวแล้ว ยังได้โถงทางเดินหน้าห้องที่ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม จึงถือเป็นห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดเลยนั่นเอง แต่ปัจจุบันแบบห้องนี้ได้ Sold Out ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ แต่ทางโครงการแอบบอกมาว่ามีห้องหลุดโอนอยู่นะ ดังนั้นทุกคนลองติดต่อสอบถามกับทางโครงการได้เลยค่ะ

ภายในห้องออกแบบ Double Volume พื้นที่เพดานสูงมาให้ 2 จุด ทั้งบริเวณพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน ทำให้ได้บรรยากาศแบบโปร่งโล่งมากๆ นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ชั้นลอยทำเป็นมุมนั่งทำงานหรือห้องนอนอีกจุดก็ได้เหมือนกันค่ะ

• Double Volume 2 จุด เพิ่มบรรยากาศโปร่งโล่ง เปิดรับแสง-วิวได้กว้าง
• ห้องครัวแบบปิด พร้อมพื้นที่นั่งรับประทานอาหาร ใช้งานได้ต่อเนื่อง ทำอาหารและนั่งกินข้าวภายในบริเวณเดียวกันเลย
• ห้องนอนแบบ Double Volume ได้ความโปร่งโล่ง อีกทั้งตั้งอยู่ชั้นล่าง จึงเดินไปใช้ห้องน้ำได้ง่าย
• พื้นที่อเนกประสงค์ตรงชั้นลอย ปรับเป็นพื้นที่นั่งทำงานหรือห้องนอนอีกห้องได้
• ห้องน้ำ แบ่งเป็นสัดส่วน ใช้งานสะดวก
• ระเบียง ออกแบบแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน มีพื้นที่ด้านล่างใช้งานได้

ห้องนี้ออกแบบเป็นพื้นที่นั่งเล่นอยู่ด้านหน้าห้องพร้อมเพดานสูง 4.25 เมตร จึงได้บรรยากาศโปร่งสบายตั้งแต่เข้าห้องมาเลยและมีห้องน้ำอยู่ด้านข้างจึงใช้งานได้ง่าย ส่วนห้องนอนจะอยู่ด้านในและได้เพดานสูงเหมือนกัน พร้อมหน้าต่างกระจกเกือบเต็มผนัง เปิดรับแสงและวิวได้กว้าง สำหรับห้องครัวจะได้เป็นครัวปิดขนาดใหญ่ มีพื้นที่รับประทานอาหารภายในห้อง ส่วนบันไดขึ้นชั้นลอยจะอยู่ตรงกลางจึงแบ่งพื้นที่ชั้นลอยออกเป็น 2 ฝั่ง ทำให้แยกเป็นมุมเตียงนอนฝั่งนึงและมุมทำงานหรือแต่งตัวอีกฝั่งได้ค่ะ

Origin Place Taopoon Interchange (ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์) ราคา ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568

Simplex สูง 2.60 เมตร

• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.35-26.70 ตร.ม.
  – ราคาเริ่มต้น 2.45 ล้านบาท
• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.55-30.10 ตร.ม.
  – ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท
• 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.55-34.95 ตร.ม.
  – Sold Out

High Ceiling (ห้องเพดานสูง) สูง 4.25 เมตร

• 1 Bedroom พื้นที่โฉนด 25.35-26.70 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่ชั้นลอย)
  – ราคาเริ่มต้น 3.35 ล้านบาท
• 1 Bedroom พื้นที่โฉนด 28.55-30.10 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่ชั้นลอย)
  – ราคาเริ่มต้น 3.65 ล้านบาท
• 1 Bedroom Plus พื้นที่โฉนด 34.55-34.95 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่ชั้นลอย)
  – Sold Out
• 2 Bedroom พื้นที่โฉนด 34.55-34.95 ตร.ม. (ไม่รวมพื้นที่ชั้นลอย)
  – Sold Out

• รูปแบบการขาย Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์บางชิ้น ได้แก่ ตู้รองเท้า, เคาน์เตอร์ครัว พร้อมอ่างล้างจาน Hop & Hood, ฐานเตียง 5 ฟุต พร้อมลิ้นชักใต้เตียง, ตู้เสื้อผ้าและแอร์ (ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์และจำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60-4.25 เมตร
• ชุดเคาน์เตอร์ครัว Top Counter หินสังเคราะห์ /อ่างล้างจาน, Hob, Hood จาก HAFELE
• ก๊อกน้ำ, อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์ และฝักบัว จาก COTTO
• เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type จาก LG (จำนวนชิ้นขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
• ค่าจอง 5,000-25,000 บาท
• ค่าทำสัญญา 25,000-50,000 บาท
• ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน (ห้องของ Pet Family 55 บาท/ตร.ม./เดือน)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล :

ตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ใกล้แยกเตาปูน ซึ่งเป็นจุด Interchange ของรถไฟฟ้า 2 สาย สายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน ห่างจากโครงการประมาณ 300 เมตร  ซึ่งเป็นระยะที่เดินได้สบาย อีกทั้งมีความอุดมสมบูรณ์สูงทั้งตลาดเตาปูน, ตลาดบางซ่อน, ตลาดบางโพ, Lotus’s ประชาชื่นและ Gateway บางซื่อ อยู่ไม่ไกลจากแหล่งงานโซนข้างเคียงทั้งจตุจักร-ลาดพร้าว

การเดินทางโดยใช้รถ :

ถือว่าสะดวก เพราะอยู่ติดกับถนนใหญ่ ใกล้ทางพิเศษประจิมรัถยา, ทางพิเศษศรีรัช และทางด่วนโทลล์เวย์ในระยะ 2.5-5.9 กิโลเมตร อีกทั้งยังมีจุดกลับใกล้ๆโครงการจึงเดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ส่วนที่จอดรถในโครงการคิดเป็น 40% (ไม่รวมซ้อนคัน) ถือว่าให้มาพอสมควร เพราะมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถสาธารณะค่อนข้างเยอะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

เดินไป MRT สถานีเตาปูนได้ในระยะ 300 เมตร ซึ่งเป็นจุด Interchange ของรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน นอกจากนั้นด้วยตัวโครงการที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ จึงมีรถสาธารณะผ่านไป-มาเยอะทั้ง Taxi วินมอเตอร์ไซค์ รถเมล์ หรือเรียกผ่าน Application ก็สะดวกค่ะ

วัสดุ :

รูปแบบห้องจะเป็น Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์บางชิ้น ทำให้ประหยัดงบตกแต่งไปได้ประมาณนึงเหมือนกัน ส่วนการเลือกใช้วัสดุในโครงการถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานของระดับราคาทั้งพื้น Spc ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบ ทาสี มีไฟดาวน์ไลท์ ได้ชุดครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครบจาก COTTO และมีแอร์ให้มาเรียบร้อย

การออกแบบ :

ออกแบบในสไตล์ Modenr Luxury และเพิ่ม Element ของสไตล์ Art Deco ทำให้โทนสีของอาคารเป็นสีขาว-เทาเข้ม พร้อมเส้นสายสร้างลูกเล่นให้ตัวอาคารดูไม่เรียบจนเกินไป อีกทั้งยังเป็นคอนโดเดียวในเตาปูนที่มีห้องเพดานสูงให้เลือกและสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ด้วย สำหรับส่วนกลางก็มีมาให้ครบและหลากหลาย รวมถึงออกแบบพื้นที่สวนสีเขียวกระจายอยู่หลายจุด

รูปแบบห้องมีให้เลือกทั้ง Simplex และห้องเพดานสูง รวมทั้งหมด 7 แบบ ทำให้สามารถรองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย โดยจะเน้นเป็นห้องเพดานสูงเป็นหลัก ได้บรรยากาศในห้องโปร่งโล่ง มีพื้นที่ใช้สอยตรงชั้นลอย ส่วนตัวห้องก็ตกแต่งแบบ Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์บางส่วน ช่วยประหยัดงบในการตกแต่งห้อง รองรับการอยู่อาศัย 1-2 คนได้สบายๆ แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ได้ครัวปิดและระเบียงในทุกยูนิต

สาธารณูปโภค :

ส่วนกลางของโครงการนี้มีมาให้ครบครันและจัดมาให้หลากหลาย โดยชั้น 1 จะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อน พูดคุยและทำงาน รวมถึงสวนสีเขียว ส่วนชั้น 8 จะเป็น Active Faclities เน้นฟังก์ชันออกกำลังกายทั้ง Fitness และสระว่ายน้ำ, ชั้น 25 จะเป็นพื้นที่สวนสีเขียว และชั้นบนสุดจะเป็น Sky Facilities มี Lounge , จุดชมวิวและสวนหย่อม ให้มานั่งพักผ่อนได้วิวมุมสูงเปิดโล่งรอบโครงการค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 90,000-120,000 บาท/ตร.ม., 11 กุมภาพันธ์ 2568

• ทำเล 8/10 – ตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพ-นนทบุรี มีความอุดมสมบูรณ์สูง หาของกินง่าย
• เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน 3 สาย
• ไม่ใช้รถ 8/10 – ใกล้ MRT เตาปูน 300 เมตร เดินไปได้
• วัสดุ 7.75/10 – ตกแต่งแบบ Fully Fitted + เฟอร์นิเจอร์บางชิ้น ซื้อเพิ่มอีกนิดหน่อยก็พร้อมเข้าอยู่เลย
• แบบ 8.5/10 – ออกแบบมีห้องเพดานสูงและเลี้ยงสัตว์ได้แห่งเดียวในโซนเตาปูน
• สาธารณูปโภค 8.5/10 – ให้มาครบครันหลากหลาย ได้วิวเปิดโล่ง มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

• MAIN-UPPER CLASS
• 8.04 / 10.00

Origin Place Taopoon Interchange (ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์)  เหมาะกับใคร

โครงการ Origin Place Taopoon Interchange (ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์) เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดย่านเตาปูน เดินทางได้สะดวกทั้งรถยนต์และรถไฟฟ้า พร้อมพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานหลากหลาย มีห้องเพดานสูงให้เลือก แบ่งฟังก์ชันชัดเจน ได้ครัวปิดทุกยูนิต รวมถึงสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ มีงบประมาณเริ่มต้น 2.45-3.65 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 14,700 – 29,200 บาท/เดือน

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

• Lumpini Place Taopoon Interchange
• Niche Pride Taopoon Interchange
• The Privacy Taopoon Interchange
• The Privacy Parc เตาปูน

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่