FB Cover2 3-4 MoriHaus 2

รีวิวฉบับที่ 1142 สวัสดีค่ะ วันนี้พาไปรีวิวคอนโดใหม่ในย่านอ่อนนนุชอยู่ในกลุ่ม T77 community โดย Sansiri กับโครงการ โมริ เฮาส์ (mori HAUS) เป็นคอนโด  Low rise 7 ชั้น 2 อาคาร ด้วยแนวคิดการออกแบบ Trees of Life เน้นพื้นที่สีเขียวและธรรมชาติภายในโครงการ พร้อมทั้งตัวห้องหน้ากว้างและขนาดห้องพื้นที่ 35 – 117.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาทจากแสนสิริ จะเป็นอย่างไร เราไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

Fact @ 10 August 2016

  • โมริ เฮาส์ (mori HAUS)
  • บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต :  เขตวัฒนา ติดซอยสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช)
  • คอนโด Low Rise 7 ชั้น 2 อาคาร 262 ยูนิต 
  • อาคาร A  143 ยูนิต , อาคาร B 119 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 20 , 24 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 154 คันคิดเป็น 59% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 4 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : พ.ค. 2559
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : พ.ย. 2560
  • 1 Bedroom 35-47.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 66.25-83 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.7 ล้านบาท
  • 3 Bedrooms 116.5-117.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 16 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 4 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 130,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้ BTS อ่อนนุช
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 1685

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วคะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.714769, 100.602492

Screen Shot 2559-08-03 at 9.42.37 PM

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

แผนที่ระยะไกล

ที่ตั้งของโครงการ mori HAUS ในกลุ่ม T77 จาก Sansiri ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) โดยอยู่ติดซอยหลักเลยห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 750 เมตร อยู่เลยโครงการ hasu HAUS ไปนิดนึง การเดินทางโดยใช้รถยนต์ถือสะดวกนะ เพราะอยู่ติดถนนหลักอย่างอ่อนนุช ถ้าจะเข้าเมืองใช้ถนนสุขุมวิทไปเอกมัย ทองหล่อ อโศกก็ไม่ไกลมาก หรือจะไปสีลมก็ตัดเข้าถนนพระรามสี่ได้ อีกจุดสำคัญที่จะมาเสริมการเดินทางโดยใช้รถยนต์ก็คือ มีถนนส่วนบุคคลของแสนสิริที่ตัดผ่านกลุ่มโครงการ T77 community ไปทะลุโผล่ออกซอยปรีดีพนมยงค์ 2 และซอยสุขุมวิท 71 ได้ หรือสามารถใช้ขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ที่สามารถไปพระรามเก้า ศรีนคริทร์ รามอินทรา และลำลูกกาได้ และจุดขึ้นทางด่วนอีกจุดที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการมากนัก เป็นทางด่วนเฉลิมมหานครจะอยู่ตรงซอยสุขุมวิท 62 ประมาณ 4 กม. ไปได้หลายที่ทั้งพระรามเก้า, แจ้งวัฒนะ, พระราม 2, รามอินทรา, รัชดา, ดาวคะนอง การเดินทางโดยรถยนต์สะดวกพอสมควรนะ แต่ปัญหาคือรถติดทุกเส้นที่กล่าวไปแม้บนทางด่วนก็ติดเช่นกันในช่วงเวลาเร่งด่วน หากอยู่แถวนี้จะไปทำงานต้องเผื่อเวลากันไว้หน่อยค่ะ

แผนที่รถไฟฟ้า

การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ไม่สะดวกเท่าไหร่ เนื่องจากตัวโครงการ mori HAUS  ในกลุ่ม T77 ของ Sansiri อยู่ในซอยลึกพอสมควร ซึ่งถึงแม้ทางโครงการจะมีรถตู้บริการรับ-ส่งถึงสถานี BTS อ่อนนุชโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มรวมอยู่ในค่าส่วนกลางแล้ว แต่ในอนาคตการให้บริการของรถตู้จะมีหรือไม่ขึ้นอยู่กับนิติบุคคลที่มาบริหารต่อนะคะ ถ้าไม่ขึ้นรถตู้ด้วยระยะทางจากโครงการถึง BTS อ่อนนุชประมาณ 1.4 km. ต้องเรียกวินมอเตอร์ไซด์หรือไม่ก็ Taxi เอานะคะ

เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ส่วนบุคคล (T77 community by Sansiri) ซึ่งมีการเก็บค่าผ่านทางรถยนต์ 20 บาท และจักรยานยนต์ 10 บาท จากทางขึ้นสะพานแสนสำราญที่ทางแสนสิริทำขึ้นจนถึงทางเข้า-ออกด้านหลังตรงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เพราะฉะนั้นรถที่ไม่จำเป็นจะต้องใช้เส้นทางนี้คงไม่ได้วิ่งผ่าน เราต้องออกมาเรียก Taxi และวินมอเตอร์ไซค์ด้านนอก แต่ออกมาตรง The Base77 และ Blocs ก็มีทั้งรถเมล์ สองแถว Taxi และวินมอเตอร์ไซค์ให้เลือก สำหรับโครงการ mori HAUS  ในกลุ่ม T77 ของ Sansiri นี้คนที่ใช้รถสาธารณะเป็นหลักก็ลำบากหน่อยค่ะ

แผนที่รอบๆ

ในด้านความอุดมสมบูรณ์ ที่ใกล้กับโครงการคอนโดในกลุ่ม T77 ของ Sansiri มากที่สุดจะเป็น Habito เป็น Community mall แห่งใหม่ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 200 m. มี 7-11 ร้านกาแฟ และร้านอาหารให้เลือกพอสมควร ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบเส้นสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) นี่ใครเคยผ่านมาคงพอจะทราบว่าริมฟุตบาททางเดินนี่คึกคักมาก ๆ หาของกินง่าย ร้านค้า ร้านอาหาร เครื่องดื่มต่าง ๆ มีมากมาย ใกล้ ๆ มีตลาดอ่อนนุช, เยื้อง ๆ ตรงข้ามโครงการมี BigC, ในกลุ่มโครงการแสนสิริมีคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง Habito, ออกไปถนนใหญ่สุขุมวิทตรงสถานี BTS จะมี Tesco Lotus อีกด้วย

T77หนึ่งภาพมุมสูงแสดงพื้นที่และตำแหน่งโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่โครงการ T77 community ของ Sansiri

“T77 community” จาก Sansiri จะเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์กับที่อยู่อาศัย ซึ่งอยู่บนเนื้อที่ 41 ไร่ เป็นศูนย์กลางการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตที่ดีใจกลางกรุงในย่านอ่อนนุช ซึ่งประกอบไปด้วย 7 โครงการ ได้แก่ BLOCS 77, The Base สุขุมวิท 77, The Base Park East, The Base Park West, Garden Square ซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 4 ชั้น, hasu HAUS รวมถึงที่อยู่อาศัยโครงการล่าสุดอย่าง mori HAUS

นอกจากนี้ โครงการ T77 community จาก Sansiri ยังตอบรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย พร้อมคอมมูนิตี้ รีเทล แนวคิดใหม่ที่ชื่อ ฮาบิโตะ ซึ่งเป็นการพัฒนา Community Mall แห่งเเรกในพื้นที่ อีกทั้งกำลังจะพัฒนาให้มีแหล่งการศึกษาให้อยู่ในนี้เป็นโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอย่าง Bangkok Prep อีกด้วยค่ะ

เส้นทางเดิน

วันนี้จะเริ่มจาก BTS อ่อนนุชแล้วเดินไปเข้าซอยอ่อนนุช ผ่าน Big C Extra แล้วข้ามไปอีกฝั่งเดินตรงไปทางฝั่ง  The Base สุขุมวิท 77 จะมีซอยทางเข้าของกลุ่ม T77 community ที่อยู่ติดกัน  รวมระยะทางทั้งหมดจาก BTS อ่อนนุช มาถึงบริเวณหน้าโครงการ mori HAUS ทั้งหมดประมาณ 1.4 km. ได้ค่ะ

1

เริ่มจากสถานี BTS อ่อนนุช โดยออกทางออก 1 นะคะ

ลงบันไดมาจะเจอ ideo Verve ทางซ้ายมือ

ลงบันไดมาแล้วหันหลังกลับ เดินย้อนไปทางสุขุมวิท 77 จะเห็นใต้สถานี BTS มีป้ายรถเมล์อยู่ซ้ายมือ ขวามือเป็นรั้วของ ideo Verve

เลยโรงงานวิเศษนิยมมาจะเจอซอยสุขุมวิท 79 ตรงปากซอยมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ให้เรียกใช้บริการอยู่

เลยปากซอยสุขุมวิท 79 มาจะเจอ 7-11 ขวามือ ส่วนซ้ายมือจะเป็นป้ายรถเมล์ค่ะมีวิ่งผ่านหลายสาย และมีรถตู้ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิเลย

ถัดมาจะเจอคอนโด Q House สุขุมวิท 79

เดินมาจนถึงบริเวณปากซอยถนนอ่อนนุช แยกอ่อนนุชจะมีไฟจราจรอยู่เนื่องจากเป็นแยกใหญ่และมีคนใช้ถนนและเส้นทางนี้เป็นจำนวนมาก เพราะภายในถนนอ่อนนุชเองลึกเข้าไปตั้งแต่ปากทางก็จะเจอทั้งชุมชมเดิมในพื้นที่ คอนโดมิเนียม โครงการจัดสรรทั้งใหม่เก่ามากมาย จึงทำให้ในเวลาชั่วโมงเร่งด่วน ช่วงเช้า-เย็น การจราจรแถวนี้ก็รถติดพอสมควรเลยค่ะ

เราเดินตามเส้นทางเท้าเข้ามาด้านในถนนอ่อนนุชกันต่อค่ะ มีร้านขายของทั้งของกินของใช้ ให้เลือกจับจ่ายกันตลอดแนวเส้นทาง

พ้นจากช่วงปากทางถนนอ่อนนุชเข้ามาประมาณ 150 ม. จะเจอกับ Big C Extra

ตรงข้ามกับ Big C Extra จะเป็นตลาดอ่อนนุช ซึ่งเป็นตลาดสดขนาดกลางในพื้นที่ย่านนี้และถือว่าใกล้กับโครงการในกลุ่ม T77 ของ Sansiri มากที่สุด

ด้านในตลาดก็มีขายทั้งอาหารสด อาหารแห้ง แบบตลาดสดทั่วไปค่ะ โดยตลาดนี้จะเปิดขายตั้งแต่เช้าไปจนถึงช่วงเย็นๆ

มีที่จอดรถด้านหลังตลาดสำหรับใครที่เอารถมาก็ถือว่าสะดวกดีค่ะ เข้าไปในตัวตลาดก็จะมีร้านอาหารตามสั่งให้นั่งแวะทานอาหารได้

เดินเข้ามาในถนนอ่อนนุช ก็จะเริ่มเจอกับโครงการพักอาศัยต่าง ๆ สลับกับพวกอาคารพาณิชย์และร้านค้าต่าง ๆ

โครงการ Blocs 77 เป็นคอนโด  High rise สูง 28 ชั้น (ทางซ้าย) ที่อยู่ติดกันเป็น โครงการ The Base Sukhumvit 77 เป็นคอนโด  High rise สูง 39 ชั้น (ทางขวา)

ซึ่งจะมีเส้นทางลัดสามารถขับไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้ อยู่ระหว่าง โครงการ Blocs 77 และโครงการ The Base Sukhumvit 77

3

ก่อนจะเข้าไปในโครงการเดี๋ยวจะพาไปดูทางออกฝั่งพระโขนง ที่ต้องผ่านกลุ่ม T77 community ของ Sansiri เสียหน่อย และจะได้แวะดูคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง Habito ด้วย

เนื่องจากซอยนี้สามารถไปเชื่อมออกซอยสุขุมวิท 71 และขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้เลย จึงมีการเก็บค่าผ่านทางเพื่อเป็นการดูแลรักษาความปลอดภัย มีบริษัทเอกชนเป็นคนเก็บค่าผ่านทาง เฉพาะคนภายนอกที่ไม่ได้เป็นลูกบ้านของ The Base Prak East, The Base Park West, Garden Square, hasu HAUS และ mori HAUS ต้องเสียค่าผ่านทาง ซึ่งลูกบ้าน Blocs 77 และ The Base77 ก็ต้องเสียค่ะ

มียามตลอด 24 ชม. ค่าผ่านทาง 30 นาทีแรก รถยนต์ 20 บาท/เที่ยว จักรยานยนต์ 10 บาท/เที่ยว ถ้าเกิน 30 นาทีคิดค่าจอดรถชั่วโมงละ 100 บาท เศษของชั่วโมงคิดเป็น 1 ชั่วโมง โดยขาเข้าจะต้องรับบัตรและจ่ายเงินตอนขาออก

4

ผ่านป้อมยามเข้ามาจะเจอสะพานแสนสำราญที่ทางแสนสิริสร้างขึ้น เพื่อข้ามคลองพระโขนงไปยังพื้นที่อีกฝั่งของแสนสิริ

5

สะพานเป็น 2 เลนรถวิ่งสวนกัน มีทางเดินเท้าให้ทั้ง 2 ฝั่งและมีราวแยกถนนกับทางเดินเรียบร้อย มีไฟริมราวสะพานให้ด้วย ตอนกลางคืนเปิดไฟสวยน่าใช้

คลองที่เห็นเป็นคลองพระโขนงนะ คลองนี้จากการสอบถามลูกบ้านส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีกลิ่นเท่าไร่ จะมีบ้างเป็นบางช่วงเวลาที่เปิดทางกั้นน้ำเพื่อระบายทางเดินน้ำออกเป็นบางครั้ง

ยืนอยู่กลางสะพานมองย้อนกลับไปจะเห็นโครงการ The Base 77 และ ด้านขวามือจะเห็น Blocs 77

เริ่มลงสะพาน ด้านขวามือเป็น Habito คอมมูนิตี้มอลล์ที่ทางแสนสิริสร้างเสร็จแล้ว จะเห็นว่าลูกบ้านที่อยู่โครงการด้านในจะมีรถกอล์ฟรับส่งจากโครงการไปที่ปากซอยสุขุมวิท 77 (อ่อนนุชด้วย)

ลงสะพานมามีซุ้มแบบนี้อีก ซ้ายมือจะเจอ The Base Park West ส่วนตรงสุดจะเจอ The Base Park East ที่สร้างเสร็จแล้วเช่นกัน

หน้าตาภายนอกโครงการ The Base Park West ซึ่งจำนวนยูนิตจะเยอะกว่า Park East นะ

ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Habito เป็น Community mall แห่งใหม่ที่ทางแสนสิริกำลังสร้าง เดี๋ยวแวะเข้าไปดูข้างในนิดหน่อย

ด้านนอกพื้นที่จอดรถมีร้าน PAPA SHABU FARM

ร้านกาแฟ TOM N TOMS อยู่ชั้น 1 ติดกับสวน แอบเข้าไปข้างในมาคนเพียบเลย

ข้างในมีธนาคาร SCB ด้วยนะ และก็มีพวก shop ร้านค้าเริ่มเปิดแล้ว

มี 7-11 premium และก็ร้านอาหารเกาหลี ช่วงที่เข้าไปเก็บภาพประมาณบ่าย 3-4 ก็มีคนเดินอยู่บ้างนะคะ

ภายในมีเก้าอี้เป็นจุดนั่งพักนั่งรอแบบนี้ มีต้นไม้มาตกแต่งทำให้ดูไม่ทึบจนเกินไป

พวกร้านต่างๆในนี้ก็เปิดเยอะแล้วนะคะ ส่วนใหญ่เป็นร้านของกิน และก็มี Shop AIS ด้วย จากที่ดูๆก็เปิดไปเกิน 70% แล้วล่ะ คิดว่าทาง Sansiri คงดิวให้เสร็จและเปิดครบทุกๆร้านในเร็วๆนี้

สุดท้ายที่ชั้น 3 มี Co Working Space เจ้าดังมาเปิดอย่าง HUBBA TO เอาใจคนชอบทำงานนอกสถานที่และพบปะสังสรรค์เจอผู้คนใหม่ๆ

หน้าตาภายนอกโครงการ The Base Park East ซึ่งถ้ามีโอกาสหวังว่าจะได้เข้ามาเก็บรายละเอียดทำรีวิวกันค่ะ ถนนตรงด้านหน้าโครงการจะเป็นทางสามแยก ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปซอยปรีดีพนมยงค์ 2 หรือเราสามารถขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้ แต่ถ้าจะไปโครงการ mori HAUS ในกลุ่ม T77 ของ Sansiri ต้องเลี้ยวขวาไปตามทางต่อค่ะ

ถ้าเลี้ยวซ้ายมาจะเจอป้อมยามแบบนี้ เก็บเงินค่าผ่านทางเข้า-ออกเหมือนกัน (ทางเข้า-ออกฝั่งพระโขนง) ถ้าออกไปแล้วเลี้ยวซ้ายเป็นทางเข้า-ออกอีกทางไปออกซอยปรีดีพนมยงค์ 2 หรือเราสามารถขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้ด้วย

DSCF1227

เลี้ยวขวามาตามทาง สองข้างทางจะปลูกต้นไม้ไว้ตลอดเส้นทางให้ความรู้สึกร่มรื่นดีค่ะ

DSCF1228 DSCF1230

เข้ามาเรื่อย ๆ จะเจอกับโครงการ Garden Square สุขุมวิท 77 ภายในเป็นโครงการแนบราบ ลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ 4 ชั้นของแสนสิริเช่นกัน

ถัดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ของโครงการโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep International school ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ส่วนทางฝั่งขวามือเห็นเป็นแนวรั้วสีน้ำตาลคือโครงการ hasu HAUS เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise

ตรงเข้ามาจะเจอกับทางแยกเพื่อไปโครงการ mori HAUS ใน T77 community ของ Sansiri โดยจะต้องวิ่งไปทางซ้ายค่ะที่เห็นล้อมรั้วโครงการสีเขียว ๆ อยู่ ส่วนทางขวามือที่เห็นล้อมรั้วสีขาวติดกัน จะเป็นโครงการพักอาศัยสูง 7 ชั้นของ บ.มั่นคงโดยมีระยะห่างจากโครงการโมริ เฮาส์ ประมาณ 20 เมตร ส่วนแนวรั้วสีน้ำตาลจะเป็นโครงการ hasu HAUS

บริเวณด้านหน้าโครงการ hasu HAUS  เป็นอีกหนึ่งโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise ในกลุ่ม T77 ของ Sansiri ที่สร้างเสร็จแล้วและกำลังอยู่ในช่วงเก็บรายละเอียดงานต่าง ๆ อยู่ค่ะ

แนวรั้วสีขาวติดกัน จะเป็นโครงการพักอาศัยสูง 7 ชั้น ของ บ.มั่นคง ซึ่งตอนนี้ก็กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

เดินมาตรงบริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ mori HAUS จะอยู่ทางขวามือ อาณาเขตตามแนวรั้วสีเขียวเลยค่ะ ตัวโครงการด้านในก็กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างเช่นกันค่ะ

ในส่วนของสำนักงานขายของโครงการ mori HAUS จะอยู่ที่ชั้น 3 ของโครงการ Habito

DSCF1301 DSCF1307

บรรยากาศภายในสำนักงานขาย มีเจ้าหน้าคอยให้ข้อมูลและแนะนำโครงการ ภายในจัดที่นั่งสำหรับลูกค้าและผู้มาเยี่ยมชมโครงการ ด้านในจะมีห้องตัวอย่างให้ดู 1 แบบ

DSCF1303

บรรยากาศภายในสำนักงานขาย จะมีโมเดลของโครงการตั้งให้ดู

แผนที่ทิศระยะใกล้

บริเวณโดยรอบโครงการ mori HAUS ในกลุ่ม T77 จาก Sansiri นี้พื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่แล้วยังคงเป็นพื้นที่ว่างไม่มีสิ่งปลูกสร้าง จะมีเฉพาะทางทิศใต้ของโครงการที่จะเป็นโครงการอาคารพักอาศัยสูง 7 ชั้น ของ บ.มั่นคง แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด เพราะจะมีถนนกั้นกลางอยู่ เลยลงมาเป็นโครงการ hasu HAUS เป็นโครงการ Low rise สูง 7 ชั้น เช่นกัน ฝั่งตรงข้ามกับพื้นที่โครงการทางทิศตะวันตกปัจจุบันยังเป็นที่ว่างอยู่ แต่ในอนาคตจะสร้างเป็นโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งจะเป็นอาคารแนบราบ โดยภาพรวมสิ่งปลูกสร้างรอบ ๆ โครงการไม่มีอาคารสูงมาบดบังทัศนียภาพ หรือมีแหล่งเสื่อมโทรม หรือโรงงานที่ก่อให้เกิดมลภาวะทางกลิ่นและเสียง

จากภาพแสดงตำแหน่งของอาคารข้างเคียงที่ติดกับโครงการ ตามทิศได้ดังนี้

  • ทิศเหนือ ด้านหน้าติดกับ พื้นที่ว่าง
  • ทิศตะวันออก ติดกับ พื้นที่ว่าง
  • ทิศใต้ ติดกับ โครงการอาคารพักอาศัยสูง 7 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ พื้นที่ว่าง

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Habito
  • Big C Extra
  • ตลาดอ่อนนุช
  • โลตัสอ่อนนุช
  •  BTS อ่อนนุช
  • โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท
  • Gateway เอกมัย
  • เมเจอร์เอกมัย
  • โรงพยาบาลสุขุมวิท


เจาะลึกตัวโครงการ

ภาพจำลองภายนอกด้านหน้าของโครงการ mori HAUS เป็นคอนโด Low Rise สูง 7  ชั้น 2 อาคารในกลุ่ม T77 community ของ Sansiri มีจำนวน 262 ยูนิตง จัดเป็นคอนโดมิเนียมขนาดกลาง ตัวอาคารทั้ง 2 อาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าโครงการออกถนนซอยในกลุ่มโครงการ T77 community ที่เชื่อมต่อมาจากถนนอ่อนนุชอีกที ตัวอาคารใช้โทนสีเข้มและอ่อนไล่โทนสี เน้นให้มีการปลูกต้นไม้ในระหว่างชั้นของอาคาร ตามแนวคิดการออกแบบที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ให้พื้นที่ชั้น 1 เป็นชั้นจอดรถ เริ่มมีส่วนของห้องพักที่ชั้น 2-7 โดยจะมีการแบ่งสัดส่วนของห้องพักให้ทุกชั้นมีทั้งห้อง 1 Bedroom – 3 Bedroom ในส่วนของ Facilities ส่วนกลางที่มีให้ ได้แก่ มี Glass house เป็นอาคารสูง 2 ชั้น ชั้นล่างภายในจะเป็น Lobby, fitness และส่วนของนิติบุคคลโครงการ ส่วนชั้นบนจะทำเป็นพื้นที่สวนหย่อมและที่นั่งพักผ่อน ในส่วนของส่วนกลางอื่น ๆ ได้แก่ สระว่ายน้ำ สระเด็ก และ Jacuzzi โดยรอบเป็นที่นั่งพักผ่อน Pavilion และ Pool deck เน้นการปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นในบริเวณรอบ ๆ พื้นที่โครงการ

ภาพและบรรยากาศจำลองบริเวณพื้นที่ส่วนกลางและสระว่ายน้ำของโครงการ

ภาพและบรรยากาศจำลองบริเวณพื้นที่ส่วนกลางที่นั่งพักผ่อน Pavilion, Pool deck, สระว่ายน้ำ และ Jacuzzi ของโครงการ

ภาพและบรรยากาศจำลอง พื้นที่ส่วนกลางจะมี Glass house เป็นอาคารสูง 2 ชั้น ชั้นล่างภายในจะเป็น Lobby , fitness และส่วนของนิติบุคคลโครงการ ส่วนชั้นบนจะทำเป็นพื้นที่สวนหย่อมและที่นั่งพักผ่อน

ภาพและบรรยากาศจำลองของรูปด้านอาคารด้านข้างจะเห็นการจัดพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ในแต่ละชั้น เพื่อให้ความร่มรื่นแก่ผู้อยู่อาศัย

โมเดลจำลองโครงการ mori HAUS เป็นคอนโด Low Rise สูง 7  ชั้น ตำแหน่งที่ตั้งโครงการจะอยู่ถัดเข้ามาด้านในสุดของพื้นที่ T77 community  ตัวอาคารพื้นที่ชั้น 1 จัดเป็นพื้นที่จอดรถ ส่วนชั้น 2-7 จัดเป็นส่วนอยู่อาศัย จัดพื้นที่ส่วนกลางของโครงการไว้บริเวณตรงกลางของพื้นที่โครงการ ด้านหน้าทางเข้าติดกับถนนซึ่งเป็นถนนตัดใหม่เชื่อมต่อมาจากพื้นที่โครงการ T77 community ค่ะ

บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ ทางขวามือจะเป็นโครงการอาคารพักอาศัยสูง 7 ชั้นของ บ.มั่นคง แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด เพราะจะมีถนนกั้นกลางอยู่ค่ะ

เลยจากบริเวณทางเข้าโครงการมาด้านข้างของโครงการฝั่งนี้จะเป็นด้านอาคาร A จะหันออกไปทางถนนภายในโครงการ T77 community ของ Sansiri ซึ่งถนนเส้นนี้ยังไม่สามารถขับไปทะลุเชื่อมตรงไหนได้นะคะ

อีกฝั่งของโครงการทางด้านอาคาร B ฝั่งนี้จะติดกับพื้นที่ว่าง ยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างค่ะ

โครงการ mori HAUS ในกลุ่ม T77 จาก Sansiri จะมีเพื่อนบ้านใกล้เคียงอยู่ทางด้านนี้เพียงด้านเดียวค่ะ จะเป็นโครงการที่พักอาศัยสูง 7 ชั้น แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดติดกันมากนะคะ จะมีแนวถนนกั้นกลางอยู่

DSCF1279 a

เข้ามาดูพื้นที่ภายในตัวโครงการกันค่ะ เมื่อเลี้ยวเข้าสู่โครงการ จะมีเส้นทางเชื่อมไปยัง ที่จอดรถใต้อาคารทั้งสองอาคาร ถัดเข้ามาทางซ้ายมือจะเป็นทางเข้า Glass house ซึ่งภายในจะเป็น Lobby , fitness และส่วนของนิติบุคคลโครงการค่ะ

พื้นที่โดยรอบโครงการจะจัดเป็นพื้นที่สีเขียว เป็นสวนหย่อมและปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่น ใต้อาคารทำเป็นที่จอดรถทั้งหมด มีลานจอดแบบเปิดโล่งบ้างบางส่วน สำหรับจำนวนที่จอดรถภายในโครงการสามารถจอดได้ประมาณ 154 คันคิดเป็น 59% ไม่รวมจอดซ้อนคัน

DSCF1292 a

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ mori HAUS ทั้งหมดจะจัดไว้ตำแหน่งตรงกลางของพื้นที่โครงการค่ะ มี The Glass Haus เป็นอาคารสูง 2 ชั้น ชั้นล่างภายในจะเป็น Lobby , fitness และส่วนของนิติบุคคลโครงการ ส่วนชั้นบนจะทำเป็นพื้นที่สวนหย่อมและที่นั่งพักผ่อน ในส่วนของส่วนกลางอื่นๆ ได้แก่ สระว่ายน้ำ สระเด็กและ Jacuzzi ระบบเกลือ โดยรอบเป็นที่นั่งพักผ่อน Pavilion และ Pool deck 

พื้นที่ส่วนกลางจะมี The Glass Haus เป็นอาคารสูง 2 ชั้น ชั้นล่างภายในจะเป็น Lobby , fitness และส่วนของนิติบุคคลโครงการ ส่วนชั้นบนจะทำเป็นพื้นที่สวนหย่อมและที่นั่งพักผ่อน

MasterPlan

เริ่มกันที่ผังชั้น 1 ของทั้ง 2 อาคาร จะเห็นว่าตำแหน่งอาคารวางเป็นแนวยาวตามรูปที่ดินทั้งสามด้านของพื้นที่โครงการและมีระยะร่นรอบอาคาร ทางเข้าหลักของโครงการจะเข้าจากถนนซึ่งเป็นถนนตัดใหม่เชื่อมต่อมาจากพื้นที่โครงการกลุ่ม T77 community ของ Sansiri เป็นถนนรถวิ่งสวนทางกัน จัดพื้นที่ไว้สำหรับจอดรถในร่มใต้อาคาร สามารถจอดรถประมาณ 154 คันคิดเป็น 59% ไม่รวมจอดซ้อนคัน เมื่อจอดรถแล้วสามารถใช้ลิฟท์จากชั้นที่จอดรถขึ้นไปยังส่วนพักอาศัยได้เลย  มีบันไดหนีไฟเชื่อมต่อมาจากด้านบนของตัวอาคารแต่ละอาคาร พื้นที่โดยรอบจัดเป็นพื้นที่สวนและปลูกต้นไม้ไว้ให้ความร่มรื่นภายในโครงการ ในส่วนของพื้นที่ชั้น 1 มีการแบ่งพื้นที่บริเวณตรงกลางของโครงการออกแบบเป็นพื้นที่ส่วนกลาง Facility ทั้งหมด ได้แก่ The Glass Haus เป็นอาคารสูง 2 ชั้น ชั้นล่างภายในจะเป็น Lobby, fitness และส่วนของนิติบุคคลโครงการ ส่วนชั้นบนจะทำเป็นพื้นที่สวนหย่อมและที่นั่งพักผ่อน ในส่วนของส่วนกลางอื่น ๆ ได้แก่ สระว่ายน้ำ สระเด็ก และ Jacuzzi ระบบเกลือ โดยรอบเป็นที่นั่งพักผ่อน Pavilion และ Pool deck

มาที่ผังชั้น 2 ของโครงการ พื้นที่บริเวณชั้น 2-7 ของทั้งสองอาคารจะจัดเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด โดยเน้นจัดวางห้องพักแบบ Double Corridor ตามแนวตึกรูปตัวทรง L และเน้นการวางตำแหน่งห้องที่มีขนาด 2 Bedroom มีมุมมองเข้าสู่ด้านในของพื้นที่โครงการ และวางที่ตำแหน่งมุมของตัวอาคาร ในส่วนของห้องที่มีขนาดเล็กลงมา เช่น 1 Bedroom จะจัดวางไว้ในตำแหน่งที่มุมมองมองออกภายนอกโครงการเกือบทั้งหมด สำหรับจำนวนห้องในแต่ละชั้นของแต่ละอาคารนั้น สามารถแบ่งได้ ดังนี้ เริ่มจากอาคาร A ที่ชั้น 2 มีทั้งหมด 23 ห้อง โดยมีแบบห้องทั้งหมด 2 แบบ คือ  1 Bedroom จำนวน 18 ห้อง และ 2 Bedroom จำนวน 5 ห้อง ในส่วนของ อาคาร B ที่ชั้น 2 มีทั้งหมด 19 ห้อง  โดยมีแบบห้องทั้งหมด 2 แบบ คือ  1 Bedroom จำนวน 9 ห้อง และ 2 Bedroom จำนวน 10 ห้อง

มีลิฟท์โดยสารอาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์อาคาร A 2 : 71.5 , อาคาร B 2 : 59.5 ซึ่งความหนาแน่นของอัตราส่วนลิฟท์ของทั้งสองอาคารจัดมาให้ใช้งานได้ไม่แน่นไป มีบันไดหนีไฟทุกอาคาร อาคารละ 3 ตำแหน่ง ที่ตำแหน่งหัว-ท้ายอาคาร และตรงกลางของตัวอาคาร สามารถเชื่อมต่อไปยังชั้นที่จอดรถได้ทั้งหมด

ในส่วนของวิวในทิศต่างๆรอบอาคาร เมื่อพิจารณาดูจากผังพบว่า ไม่มีวิวของอาคารสูงบดบังวิว จะมีแต่วิวทางทิศใต้ ติดกับโครงการอาคารพักอาศัยสูง 7 ชั้น แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด จะมีแนวถนนกั้นกลางอยู่ โดยหลักๆแล้ว ตัวอาคารแบ่งห้องออกเป็นสองฝั่งจึงจะมีห้องที่มีมุมมอง มองเข้าด้านในอาคาร มองเห็นพื้นที่ส่วนกลางของตัวโครงการ และห้องที่มองออกนอกพื้นที่โครงการ ซึ่งโดยรอบก็ยังคงเป็นพื้นที่ว่างอยู่ จึงไม่มีอะไรมาขวางมุมมองและทัศนียภาพ

มากันที่ชั้น 3  ของอาคารทั้ง 2 อาคารกันค่ะ โดยภาพรวมแล้วยังมีการจัดวางตำแหน่งห้องในลักษณะเดิม แต่จะมีการปรับขนาดห้องที่มีขนาดแตกต่างจากในชั้น 2 ขึ้นมาเล็กน้อยประมาณ 1-2 ตารางเมตร เช่น ในตำแหน่งของห้องมุมในแต่ละอาคาร สำหรับจำนวนห้องในแต่ละชั้นของแต่ละอาคารนั้น สามารถแบ่งได้ ดังนี้ เริ่มจากอาคาร A ที่ชั้น 3 มีทั้งหมด 24 ห้อง โดยมีแบบห้องทั้งหมด 2 แบบ คือ  1 Bedroom จำนวน 18 ห้อง และ 2 Bedroom จำนวน 6 ห้อง ในส่วนของ อาคาร B ที่ชั้น 3 มีทั้งหมด 20 ห้อง โดยมีแบบห้องทั้งหมด 3 แบบ คือ  1 Bedroom จำนวน 9 ห้อง, 2 Bedroom จำนวน 10 ห้อง และ 3 Bedroom จำนวน 1 ห้อง

ที่ชั้น 4  ของอาคารทั้ง 2 อาคาร โดยภาพรวมแล้วยังมีการจัดวางตำแหน่งห้องในลักษณะเดิม แต่จะมีการปรับขนาดห้องที่มีขนาดแตกต่างจากในชั้น 3 เพิ่ม-ลด เล็กน้อยประมาณ 1-2 ตารางเมตร เช่น ในตำแหน่งของห้องมุมในแต่ละอาคาร และห้องแบบ 2 Bedroom สำหรับจำนวนห้องในแต่ละชั้นของแต่ละอาคารนั้น สามารถแบ่งได้ ดังนี้ เริ่มจากอาคาร A ที่ชั้น 4 มีทั้งหมด 24 ห้อง โดยมีแบบห้องทั้งหมด 2 แบบ คือ  1 Bedroom จำนวน 18 ห้อง และ 2 Bedroom จำนวน 6 ห้อง ในส่วนของ อาคาร B ที่ชั้น 4 มีทั้งหมด 20 ห้อง โดยมีแบบห้องทั้งหมด 3 แบบ คือ  1 Bedroom จำนวน 9 ห้อง , 2 Bedroom จำนวน 10 ห้อง และ 3 Bedroom จำนวน 1 ห้อง

ที่ชั้น 5 ของอาคารทั้ง 2 อาคาร ภาพรวมแล้วยังมีการจัดวางตำแหน่งห้องพักคล้ายกับในชั้น 4 แต่จะมีการปรับขนาดห้องที่มีขนาดแตกต่างจากเดิม ขนาดเพิ่ม-ลด เล็กน้อยประมาณ 1-2 ตารางเมตร เช่น ในตำแหน่งของห้องมุมในแต่ละอาคารและห้องแบบ 2 Bedroom สำหรับจำนวนห้องในแต่ละชั้นของแต่ละอาคารนั้น สามารถแบ่งได้ดังนี้ เริ่มจากอาคาร A ที่ชั้น 5 มีทั้งหมด 24 ห้อง โดยมีแบบห้องทั้งหมด 2 แบบ คือ  1 Bedroom จำนวน 18 ห้อง และ 2 Bedroom จำนวน 6 ห้อง ในส่วนของ อาคาร B ที่ชั้น 5 มีทั้งหมด 20 ห้อง โดยมีแบบห้องทั้งหมด 3 แบบ คือ  1 Bedroom จำนวน 9 ห้อง, 2 Bedroom จำนวน 10 ห้อง และ 3 Bedroom จำนวน 1 ห้อง

ที่ชั้น 6 ของอาคารทั้ง 2 อาคาร ภาพรวมแล้วยังมีการจัดวางตำแหน่งห้องพักคล้ายกับในชั้น 5 มีจำนวนห้องในแต่ละชั้นของแต่ละอาคารนั้น สามารถแบ่งได้ดังนี้ เริ่มจากอาคาร A ที่ชั้น 6 มีทั้งหมด 24 ห้อง โดยมีแบบห้องทั้งหมด 2 แบบ คือ 1 Bedroom จำนวน 18 ห้อง และ 2 Bedroom จำนวน 6 ห้อง ในส่วนของ อาคาร B ที่ชั้น 5 มีทั้งหมด 20 ห้อง โดยมีแบบห้องทั้งหมด 3 แบบ คือ 1 Bedroom จำนวน 9 ห้อง, 2 Bedroom จำนวน 10 ห้อง และ 3 Bedroom จำนวน 1 ห้อง

ที่ชั้น 7 ของอาคารทั้ง 2 อาคาร ภาพรวมแล้วยังมีการจัดวางตำแหน่งห้องพักคล้ายกับในชั้น 5 มีจำนวนห้องในแต่ละชั้นของแต่ละอาคารนั้น สามารถแบ่งได้ ดังนี้ เริ่มจากอาคาร A ที่ชั้น 7 มีทั้งหมด 24 ห้อง โดยมีแบบห้องทั้งหมด 2 แบบ คือ 1 Bedroom จำนวน 18 ห้อง และ 2 Bedroom จำนวน 6 ห้อง ในส่วนของ อาคาร B ที่ชั้น 7 มีทั้งหมด 20 ห้อง โดยมีแบบห้องทั้งหมด 3 แบบ คือ 1 Bedroom จำนวน 9 ห้อง , 2 Bedroom จำนวน 10 ห้อง และ 3 Bedroom จำนวน 1 ห้อง

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 10 x 25 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย
  • Jacuzzi
  • The Glass Haus
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • Net seat
  • Limited edition bicycles (Haus x Tokyo bike)
  • ปล่อยสัญญาณ Wifi ที่ส่วนกลาง
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อ/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 2 : 71.5
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 2 : 59.5
  • ที่จอดรถประมาณ 154 คันคิดเป็น  59% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • Shuttle bus
  • Plus concierge
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

Screen Shot 2559-08-03 at 9.42.27 PM

ห้องตัวอย่างแบบ 2 Bed ขนาด 68.5  ตารางเมตร ขายเป็นแบบ Fully Fitted ด้วยพื้นที่ของห้องที่มีขนาดใหญ่สามารถจัดแบ่งพื้นที่ให้มีการใช้งานสะดวกสบายไม่อึดอัด ออกแบบให้สามารถดูวิวภายนอกแบบมุมกว้างและรับแสงธรรมชาติได้ดี  ตัวห้องแบ่งโซนพื้นที่เป็น 6 โซน คือ ห้องน้ำ ครัว ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องเก็บของ และระเบียง เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนครัวทางขวามือ เป็นครัวแบบปิด มี Pantry แบบ Built-in ขนาดพื้นที่ครัวกว้างสามารถใช้งานได้สะดวก การจัดพื้นที่เป็นครัวปิด มีประตูบานเลื่อนกั้นแบ่งพื้นที่ใช้งาน ทำให้สามารถป้องกันเรื่องกลิ่นและควันจากการประกอบอาหารไม่ให้ไปรบกวนพื้นที่ภายในห้องได้ และแบ่งพื้นที่เป็นที่เก็บรองเท้าไว้บริเวณทางเข้า มีพื้นที่สำหรับตั้งโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 3-4 คนได้ และเชื่อมต่อไปส่วนห้องนั่งเล่นที่มีกระจกบานใหญ่สามารถมองวิวแบบมุมกว้าง ส่วนระเบียงจัดพื้นที่มาค่อนข้างกว้างสามารถใช้งานได้จริง เป็นส่วนซักล้างและใช้ตากผ้าได้

ในส่วนห้องนอนแบ่งเป็นห้องนอนหลักและห้องนอนรอง วางไว้ในตำแหน่งทั้งสองฝั่งของตัวห้อง  จัดพื้นที่การใช้งานมาให้ใกล้เคียงกันโดยทั้ง 2 ห้อง สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size มีตู้เสื้อผ้า Built-in ในส่วนของห้องนอนหลักจะมีห้องน้ำในตัว แยกการใช้งานเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ส่วนห้องนอนรองจะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับห้องในส่วนห้องนั่งเล่น ภายในห้องน้ำห้องน้ำมีการแยกโซนเปียกโซนแห้งมาให้เรียบร้อยตามการใช้งาน

เริ่มจากประตูทางเข้า สำหรับห้องจริงจะเป็นบานประตูไม้ พร้อม Digital door lock ประตูหน้าของ Samsung ให้นะคะ

พื้นทางเข้าสู่ห้องไม่มีธรณีประตูกั้น แต่จะมีตัวจบเพื่อเก็บรอยต่อของพื้นทั้งสองให้สวยงามเรียบร้อย ส่วนพื้นห้องในส่วนนี้เป็นพื้นลามิเนตลายไม้ทั้งหมด

เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ส่วนครัว ซึ่งจะทางขวามือและมองตรงไปจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อไปส่วนระเบียงของตัวห้องได้ ส่วนห้องนั่งเล่นจะใช้วัสดุพื้นเป็นพื้นลามิเนต ในส่วนของผนังห้องตัวอย่างจะทำเป็นผนังตกแต่งและติด Wallpaper ไว้ แต่ในห้องจริงจะเป็นยิปซัมบอร์ดฉาบสีเรียบ ระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.7 m. ติดดวงไฟแบบดาวน์ไลท์

ในส่วนของประตูด้านใน จะมี Door Stopper ติดอยู่ที่พื้นหลังประตู เพื่อป้องกันบานประตูเปิดมากระทบกำแพง พื้นที่บริเวณทางเข้ากว้างประมาณ 1.1 ม.ทางซ้ายมือจะเป็นตู้ Built in สำหรับเก็บของและรองเท้า

ตู้Built in ออกแบบมาให้ใช้งานพื้นที่ตรงส่วนนี้ได้เต็มประสิทธิภาพ สามารถใช้เก็บรองเท้าและมีลิ้นชักด้านบนสำหรับเก็บอุปกรณ์สิ่งของต่างๆได้ ความกว้างของตัวตู้ประมาณ 34 cm. สูงประมาณ 90 cm. ทางขวามือของตัวตู้แบ่งพื้นที่ไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้า มีพื้นที่ประมาณ 80 x 65 cm. สามารถวางเครื่องซักผ้าขนาด 7 kg. โดยความลึกของตำแหน่งเครื่องซักผ้าจะกินพื้นที่เข้าไปในพื้นที่ครัวด้านในบางส่วน ได้ซึ่งตู้ชุดนี้ทางโครงการมีให้ค่ะ

ห้องนั่งเล่นออกแบบให้มีขนาดกว้างจัดวางชุดโซฟาแล้วยังมีพื้นที่ทางเดิน และรอบๆ หน้าต่างบานใหญ่ได้แสงธรรมชาติ มองเห็นวิวภายนอกและสามารถเปิดระบายอากาศได้ดี ห้องจึงดูโปร่งไม่อึดอัด

แนวทางเดินจากห้องนั่งเล่นไปทางอีกด้านของตัวห้องเพื่อไปยังห้องนอนหลัก

ถัดมาอีกฝั่งของห้องนั่งเล่นจะเป็นประตูทางเข้าห้องนอนรอง สำหรับบริเวณห้องนั้นเล่นในห้องตัวอย่างจะทำชุดตู้ แขวนทีวีและชั้นวางของ Built-in  ด้านหน้าเป็นบานเปิดสามารถเก็บของด้านในได้ แต่ทีวีและชั้นวางของชุดนี้ทางโครงการ ไม่มีให้ แต่เราใช้เป็นไอเดียตกแต่งห้องได้ เพราะการติด TV กับผนังแบบนี้ช่วยประหยัดเนื้อที่ภายในห้องนั่งเล่นได้  ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 1.4 m. ในระยะประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาดประมาณ 40″ ได้ค่ะ

ถัดเข้ามาอีกด้านของห้องนั่งเล่น จัดพื้นที่เป็นส่วนรับประทานอาหารสามารถตั้งชุดโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่งได้ไม่อึดอัดจนเกินไป มีหน้าต่างบานกระทุ้งให้ 1 ตำแหน่งให้สามารถเปิดรับลมได้

จากห้องนั่งเล่นสามารถเปิดประตูบานเลื่อนออกไปพื้นที่ระเบียงได้ ประตูเป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียม กรอบบานสูงเกือบถึงฝ้าเพดาน ลักษณะการเลื่อนเป็นแบบ 2 บาน โดยเลื่อนไปชิดรวมกันทางด้านขวา ซึ่งเมื่อลองเลื่อนเปิดก็ไม่มีปัญหาในการใช้งาน ดูแข็งแรงดี ตัวกระจกบานใหญ่รับแสงธรรมชาติและเห็นวิวได้ดีค่ะ

เป็นประตูกระจกใส บานเลื่อนอลูมิเนียมทำสีดำ พร้อมตัวล็อค

พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิค ผนังฉาบปูนเรียบทาสี พื้นที่ประมาณ 3.6 x 0.9 m. ราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กทำสีดำ

ด้านข้างของพื้นที่ระเบียงผนังด้านบนแขวน  Compressor แบบเป่าลมร้อนออกด้านนอกระเบียง ส่วนของคอมแอร์จะมี Fin ระแนงเหล็กบดบังสายตาจากภายนอกเอาไว้ อีกฝั่งจะทำเป็นพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้

ปลั๊กไฟ และสวิทช์ไฟภายในห้องใช้ของ Siemens

มาที่ส่วนพื้นที่ห้องครัวกันค่ะ ในส่วนของห้องครัวจะมีการกั้นพื้นที่การใช้งานที่เป็นสัดส่วน เป็นครัวแบบปิดมีประตูบานเลื่อนกั้นแบ่งพื้นที่ ครัวลักษณะนี้เราสามารถประกอบอาหารหนัก ๆ ที่มีกลิ่นควันได้ เพราะจะไม่เข้ามารบกวนห้องนั่งเล่นด้านใน ในส่วนของประตูบานเลื่อนที่ให้มาเป็นบานเลื่อนอลูมิเนียมบานกระจก ด้านข้างทำเป็นกระจกเข้ามุม ทำให้ห้องครัวดูโปร่งไม่อึดอัด รับแสงธรรมชาติผ่านทางห้องนั่งเล่นได้และทำให้คนที่อยู่ด้านนอกครัวสามารถมองเห็นคนที่ทำครัวอยู่ด้านใน ชุดครัวแบบปิดนี้โครงการมีให้ค่ะ

ทางเข้าส่วนครัวจะมีประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอนโดยเลื่อนไปชิดรวมกันทางซ้ายมือ ลักษณะเป็นบานอลูมิเนียมสีดำ การใช้ประตูกระจกลักษณะนี้ทำให้ห้องไม่ดูทึบจนเกินไป ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติจากทางห้องนั่งเล่น

พื้นด้านล่างมีรางอลูมิเนียมและตัวล็อคประตูบานเลื่อน ระหว่างพื้นห้องกับรางอลูมิเนียมมีตัวจบ รวมๆแล้วเก็บงานเรียบร้อยดี

พื้นที่ที่จัดให้มาค่อนข้างดีไม่แคบสามารถใช้งานได้สะดวก มีพื้นที่ให้ยืนประกอบอาหารกว้างประมาณ 1.2 m. พื้นครัวทั้งหมดปูกระเบื้อง ซึ่งเหมาะกับการประกอบอาหาร เพราะเช็ดถูและทำความสะอาดได้ง่าย

แบ่งพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น โดยเว้นพื้นที่ไว้ขนาดประมาณ 60 x 60 cm. สามารถวางตู้เย็นขนาดกลางได้

ในส่วนของอุปกรณ์ของใช้ต่าง ๆ ภายในครัว ทางโครงการคอนโด mori HAUS ในกลุ่ม T77 ของ Sansiri มีชุดครัวแบบ Built in ส่วน Top เคาน์เตอร์เป็นหินเแกรนิตเหมาะสำหรับประกอบอาหาร สามารถเช็ดและทำความสะอาดได้ง่าย ให้ชุดเตาแบบแม่เหล็ก และ Hood ดูดควันของ Mex พร้อมราวและชั้นวางของสำหรับแขวนและวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ผนังครัวกรุกระจก

ให้ชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยมขนาดกลาง 1 ช่อง ของ Mex ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับจัดเตรียมอาหาร

ชุดครัวแบบด้านบนแบ่งช่องสามารถเก็บอุปกรณ์ได้ ขอบบานเปิดเก็บมุมเรียบร้อย ด้านในทำเป็นชั้นวางของ 3 ระดับซึ่งจะมี  1  ช่องด้านข้างทางซ้าย ที่ด้านในจะเป็น ตู้ Breaker ควบคุมระบบไฟฟ้าภายในห้อง

ส่วนลิ้นชักด้านล่างเมื่อดึงออกมาจะมีการแบ่งช่อง 2 ระดับ ชั้นบนสุดมี Soft Close สำหรับเก็บอุปกรณ์แยกตามขนาดซึ่งโครงการมีให้แบบในรูปเลยค่ะ

มีพื้นที่สำหรับให้วางไมโครเวฟไว้ด้านล่างของชุดครัว ซึ่งการวางไว้ในตำแหน่งนี้ จะต้องใช้ความระมัดระวังในการยกอาหารเพราะต้องย่อตัวลงในการใช้งานไม่ได้อยู่ในระดับที่สามารถยืนใช้งานได้ตามปกติ

ภายในห้องครัว ที่ฝ้าเพดานจะติดพัดลมระบายอากาศ เพื่อช่วยดูดกลิ่นและควันจากการประกอบอาหาร และมีติดไฟแบบ downlight อีก 2 ตำแหน่ง

มากันที่ทางฝั่งซ้ายของตัวห้อง จะเป็นห้องนอนรอง และห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำนี้จะมีประตูเข้า-ออกได้ 2 ด้าน คือจากฝั่งห้องนอนรอง และจากทางห้องนั่งเล่นค่ะ

ทางเข้าสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทางค่ะ ห้องน้ำลดระดับประมาณ 3.5 cm. ทำขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านใน พื้นภายในห้องน้ำจะปูกระเบื้องเซรามิคลายหิน

ห้องน้ำภายในจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุปูพื้นด้วยกระเบื้อง ผนังกรุกระเบื้องกระเบื้องเซรามิค ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาด้านหลังสามารถเปิดเป็นตู้เก็บจอง มีตู้สำหรับเก็บของใต้อ่างล้างหน้า และสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ

เหนืออ่างจะเป็นชุดตู้สำเร็จกรุกระจกด้านหน้า ภายในแบ่งชั้นสำหรับงานของต่างๆไว้ 3 ระดับ เหมาะสำหรับเก็บของชิ้นเล็กๆไม่ใหญ่มากได้ค่ะ

ชุดอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์ ของ Cotto ขนาดอ่างประมาณ 48 x 60 cm. เหนืออ่างมีพื้นที่สำหรับวางของได้ ส่วนชั้นวางของด้านล่างเป็นลิ้นชัก แบ่งช่องเก็บของตามขนาดต่างๆ สามารถเก็บของใช้ภายในห้องน้ำได้ค่ะ

ชุดโถสุขภัณฑ์และที่ใส่กระดาษทิชชู เป็นของ Cotto

ส่วนบริเวณที่อาบน้ำมีบานประตูบานเปิดกระจกให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส ส่วนที่ประตูกระจกตรงที่จับออกแบบให้สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้

พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.2 x 0.9 m. ค่อนข้างกว้างพอสมควร จะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยยกขอบสูงขึ้นมาประมาณ 3.5 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำ ด้านบนเป็น Rain Shower   ของ Cotto

ผนังด้านข้างเจาะเป็นช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ มีความกว้างประมาณ 45 x 40 cm.

มากันที่ห้องนอนรองกันค่ะ มีขนาดเล็กกว่าห้องนอนหลัก แต่ก็ไม่อึดอันนะคะ สามารถตั้งเตียงแบบ 5 ฟุต หรือ Queen Size ได้สบาย ๆ ยังมีพื้นที่โดยรอบเตียง ผนังเหนือหัวเตียงทำเป็นผนังลายกราฟฟิกไล่สีสวยแปลกตาดีค่ะ ซึ่งเราดูเป็นไอเดียไปตกแต่งห้องได้นะคะ เพราะห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ตรงข้ามเตียงจะทำผนัง Built in เป็นช่องสำหรับแขวนทีวี ซึ่งการแขวนขึ้นกับกำแพงแบบนี้ช่วยประหยัดพื้นที่  มีพื้นที่เหลือปลายเตียงเดินได้สะดวก

ส่วนพื้นที่ด้านข้างเตียง ฝั่งติดกับหน้าต่าง จะมีพื้นที่ประมาณ 70 cm.

พื้นที่ระหว่างปลายเตียงไปถึงผนังกว้างประมาณ 65 cm.

อีกฝั่งของเตียงมีพื้นที่กว้างประมาณ 1 m. สามารถยืนแต่งตัวได้สะดวก และสามารถตั้งชั้นวางของเล็กๆข้างเตียงได้ค่ะ

ห้องนอนห้องนี้จะมีชุดหน้าต่างให้ 1 ชุดค่ะ เป็นหน้าต่างบาน fix และบานกระทุ้งกรอบอลูมิเนียมสีดำ รับแสงจากภายนอกได้ดีแต่สามารถเปิดรับลมได้มีเพียงบานเดียว ตัวบานกระทุ้งมีกว้างประมาณ 60 cm.

หน้าต่างบานกระทุ่งมีรัศมีการเปิดกว้างได้ประมาณ 30 องศา มีตัวล็อคแบบก้านโยก

ภายในห้องนอนจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in เป็นบานเปิด 2 ด้าน ด้านหน้ากรุด้วยกระจกสำหรับยืนแต่งตัว เช็คความเรียบร้อยของเครื่องแต่งกาย มีชั้นวางของด้านบนไว้เก็บของได้ ชั้นล่างจะทำเป็นลิ้นชัก 2 ระดับสำหรับเก็บของต่าง ๆ เหนือประตูห้องน้ำติดเครื่องปรับอากาศของ Daikin ซึ่งทางโครงการ mori HAUS ใน T77 community จาก Sansiri เค้ามีให้ค่ะ

ด้านหน้าตู้ทำเป็นมือจับตรงบานเปิดช่วยให้จับเปิดตู้ได้ง่ายขึ้น

เปิดตู้ด้านในจะมีไฟ ซึ่งจะสว่างอัตโนมัติเมื่อเปิดประตูตู้ มีชั้นวางของด้านบนไว้เก็บของได้ ชั้นล่างทำเป็นลิ้นชัก 2 ระดับสำหรับเก็บของต่าง ๆ ซึ่งชุดตู้นี้ทางโครงการเค้าก็มีให้อีกเช่นกันค่ะ

ไปกันที่ห้องนอนใหญ่ ซึ่งจะอยู่อีกฝั่งของตัวห้องกันค่ะ

มากันที่ห้องนอนหลัก สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size ได้ มีพื้นที่เหลือด้านข้างให้ตั้งชุดโต๊ะเก้าอี้และชุดตู้เสื้อผ้าได้ ห้องนอนห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัวนะคะ ไม่ต้องแบ่งใช้กับห้องนั่งเล่น ซึ่งทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ภายในห้องปูพื้นด้วยลามิเนตเหมือนกับห้องนั่งเล่นด้านนอก มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.7 m. ห้องจึงดูโปร่งไม่อึดอัด และภายในห้องมีการติดดวงไฟแบบดาวน์ไลท์ให้ด้วยค่ะ

มีระยะด้านข้างทางฝั่งด้านติดหน้าต่างประมาณ 70 cm. กว้างและเดินได้สะดวกค่ะ

ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 70 cm. ผนังตรงข้ามเตียงจะทำเป็นผนัง Built in เป็นช่องสำหรับแขวนทีวี เหมือนกันกับห้องนอนรองนะคะ

ส่วนพื้นที่ด้านข้างเตียง ฝั่งติดกับตู้เสื้อผ้า จะเหลือพื้นที่ประมาณ 1.4 m. กว้างและสามารถยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าได้สะดวกค่ะ

ห้องนอนห้องนี้จะมีชุดหน้าต่างให้ 1 ชุดค่ะ เป็นหน้าต่างบาน fix และบานกระทุ้งกรอบอลูมิเนียมสีดำ เหมือนในห้องนอนรองค่ะ ตัวหน้ากว้างรับแสงจากภายนอกได้ดี

บานกระทุ้งกรอบอลูมิเนียมสีดำ ตัวบานกระทุ้งมีกว้างประมาณ 60 cm.

หน้าต่างบานกระทุ่งมีรัศมีการเปิดกว้างได้ประมาณ 30 องศา มีตัวล็อคแบบก้านโยก

อีกด้านของตัวห้องจะเป็นทางเข้าห้องน้ำและแบ่งพื้นที่ไว้สำหรับตั้งตู้เสื้อผ้า เหนือประตูห้องน้ำติดเครื่องปรับอากาศของ Daikin ซึ่งทางโครงการ mori HAUS ในกลุ่ม T77 ของ Sansiri มีให้ค่ะ

เปิดตู้ด้านในจะมีไฟ ซึ่งจะสว่างอัตโนมัติเมื่อเปิดประตูตู้ มีชั้นวางของด้านบนไว้เก็บของได้ ชั้นล่างทำเป็นลิ้นชัก 2 ระดับสำหรับเก็บของต่างๆ ตัวตู้จะเหมือนกันกับในห้องนอนรองค่ะ

มีชั้นวางของด้านบนไว้เก็บของได้สองฝั่ง

ด้านล่างทำเป็นลิ้นชักสำหรับเก็บของต่าง ๆ ที่ชิ้นไม่ใหญ่มากได้และทำเป็นลิ้นชักมีราวด้านในสำหรับแขวนเสื้อผ้า

ห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิก ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้าของ Cotto มีตู้กระจกสำหรับวางของให้เหนืออ่างและใต้อ่างล้างหน้า

ห้องน้ำลดระดับประมาณ 3.5 cm. ทำขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านใน

เหนืออ่างจะเป็นชุดตู้สำเร็จกรุกระจกด้านหน้า ภายในแบ่งชั้นสำหรับงานของต่าง ๆ ไว้ 3 ระดับ เหมาะสำหรับเก็บของชิ้นเล็ก ๆ ไม่ใหญ่มากได้ค่ะ

ชุดอ่างล้างหน้าและอุปกรณ์ ของ Cotto ขนาดอ่างประมาณ 48 x 60 cm. เหนืออ่างมีพื้นที่สำหรับวางของได้ ส่วนชั้นวางของด้านล่างเป็นลิ้นชัก แบ่งช่องเก็บของตามขนาดต่างๆ ไว้เก็บของใช้และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ

ชุดโถสุขภัณฑ์และที่ใส่กระดาษทิชชู เป็นของ Cotto เหมือนกันกับห้องนอนรอง

ส่วนอาบน้ำมีบานประตูบานเปิดกระจกให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส ส่วนที่ประตูกระจกตรงที่จับออกแบบไว้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ค่ะ

พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.15 x 0.9 m. ค่อนข้างกว้างพอสมควร จะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยยกขอบสูงขึ้นมาประมาณ 3.5 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำ ด้านบนเป็น Rain Shower ของ Cotto

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำ ฝักบัวอาบน้ำและที่เปิด-ปิด ของ Cotto

ผนังด้านข้างเจาะเป็นช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ มีความกว้างประมาณ 45 x 40 cm.

มีอ่างอาบน้ำพร้อมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำของ Cotto โดยตัวอ่างจะยกพื้นสูงจากพื้นประมาณ 50 cm.

อุปกรณ์อื่นในห้องน้ำที่โครงการ mori HAUS ใน T77 community จาก Sansiri มีให้ เช่น ราวแขวนผ้าเช็ดตัว, พัดลมระบายอากาศ และให้ไฟแบบ Downlight 2 ตำแหน่ง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ขนาดและประเภทห้องต่าง ๆ ในโครงการ mori HAUS ใน T77 ของ Sansiri นี้จะมีทั้งหมด 14 แบบ ตั้งแต่ขนาด 1 Bedroom – 3 Bedroom เราได้เลือกแบบบางส่วนจากทั้งหมดมาให้ดูในแต่ละประเภทกันก่อนค่ะ

1A-1

ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 35 – 35.75 ตารางเมตร

2D-1

ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 82 ตารางเมตร

3A-1T

ห้องแบบ 3 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 117.5 ตารางเมตร

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 10 August 2016

  • 1 Bedroom 35-47.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 66.25-83 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.7 ล้านบาท
  • 3 Bedrooms 116.5-117.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 16 ล้านบาท

  • Fully Fitted
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • Shuttle Bus ไปกลับ BTS อ่อนนุช
  • จอง 30,000 – 100,000 บาท
  • ทำสัญญา 12,000 – 250,000 บาท
  • ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 12 งวด
  • ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 75 บาท/ตร.ม. (จ่ายล่วงหน้าทุก 1 ปี)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้คะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลโครงการ mori Haus จัดเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลอ่อนนุชอยู่ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ ไม่ว่าจะเข้าจากเส้นสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) หรือจากซอยประดีพนมยงค์ 2 ที่ตั้งโครงการจัดอยู่ในพื้นที่ของกลุ่ม T77 community ของ Sansiri ซึ่งมองภาพรวมแล้วถือเป็นเมืองเล็ก ๆ ของแสนสิริเลยก็ว่าได้ ภายในประกอบด้วยที่อยู่อาศัยตั้งคอนโด High rise, Low rise, ทาวโฮมส์ และยังมีโครงการ Habito เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อความสะดวกแก่ลูกบ้านในกลุ่ม T77 community ของ Sansiri อีกด้วย โครงการอนาคตเมื่อทุกโครงการสร้างเสร็จ มีคนเข้าอยู่ครบก็จะเพิ่มความคึกคักในซอยมากขึ้น สำหรับการเดินทางโดยใช้รถยนต์ถือสะดวกนะ เพราะอยู่ติดถนนหลักอย่างอ่อนนุช เข้าเมืองง่าย แต่ก็ต้องระวังเรื่องการจราจรที่ติดขัดหน่อย อีกจุดนึงที่สำคัญจะมาเสริมการเดินทางโดยใช้รถยนต์คือ มีถนนส่วนบุคคลของแสนสิริที่ตัดผ่านกลุ่มโครงการ T77 community ไปทะลุโผล่ออกซอยปรีดีพนมยงค์ 2 และซอยสุขุมวิท 71 ได้ หรือสามารถใช้ขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ก็ได้เช่นกัน

ความอุมสมบูรณ์ที่ใกล้ที่สุดจะเป็น Habito ที่ห่างจากโครงการประมาณ 200 m. มี 7-11 ร้านกาแฟ และร้านอาหารให้เลือกพอสมควร ส่วนถนนเส้นสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) ก็หาของกินของกินของใช้ง่าย มีให้เลือกมากมาย มีตลาดอ่อนนุช, BigC หรือออกไปถนนใหญ่สุขุมวิทตรงสถานี BTS ก็จะมี Tesco Lotus

การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ไม่สะดวกเท่าไหร่ เนื่องจากตัวโครงการอยู่ในซอยลึกพอสมควร ซึ่งถึงแม้ทางโครงการจะมีรถตู้บริการรับ/ส่งถึงสถานี BTS อ่อนนุชโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะรวมอยู่ในค่าส่วนกลางแล้ว แต่ในอนาคตจะมีบริการรถตู้แบบนี้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับนิติบุคคลที่เข้ามาบริหารต่อนะคะ  แต่ถ้าใครรีบไม่อยากรอรถตู้ก็อาศัยรถสาธารณะอื่น ๆ เพื่อเข้าสู่โครงการได้ค่ะ เพราะแถวนี้คนอยู่กันเยอะมีทั้งพี่วินมอเตอร์ไซค์ รถสองแถว และ taxi ให้ใช้บริการค่ะ

บริเวณโดยรอบของโครงการ mori HAUS ในพื้นที่ T77 ของ Sansiri พื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่แล้วยังคงเป็นพื้นที่ว่างไม่มีสิ่งปลูกสร้าง จะมีเฉพาะทางทิศใต้ของโครงการที่จะเป็นโครงการอาคารพักอาศัยสูง 7 ชั้น ของ บ.มั่นคง แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด เพราะจะมีถนนกั้นกลางอยู่  ฝั่งตรงข้ามกับพื้นที่โครงการทางทิศตะวันตกปัจจุบันยังเป็นที่ว่างอยู่ แต่ในอนาคตจะสร้างเป็นโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งจะเป็นอาคารแนบราบ โดยภาพรวมสิ่งปลูกสร้างรอบ ๆ โครงการไม่มีอาคารสูงมาบดบังทัศนียภาพ หรือมีแหล่งเสื่อมโทรม หรือโรงงานที่ก่อให้เกิดมลภาวะทางกลิ่นและเสียง

การออกแบบของโครงการจากที่ดินประมาณ 4 ไร่ จัดวางผังอาคาร 2 และพื้นที่ส่วนกลางไว้เต็มพื้นที่ของที่ดิน จัดห้องได้ 262 ยูนิต ซึ่งโดยรวมก็ไม่หนาแน่นจนเกินไป มีการแบ่งพื้นที่ใต้อาคารบริเวณชั้น 1 ทั้งหมดทำเป็นอาคารจอดรถ วางผังโครงการให้พื้นที่ส่วนกลางใช้งานและเข้าถึงได้ง่ายทั้งหมดจะจัดไว้ตำแหน่งตรงกลางของพื้นที่โครงการ เน้นการใช้พื้นที่สีเขียวให้ตรงตาม Concept ของโครงการ

ในส่วนของการออกแบบและจัดพื้นที่ห้องพักอาศัย มีแบบห้องให้เลือกหลากหลายแบบ ตั้งแต่ 1 Bedroom, 2 Bedroom และแบบ 3 Bedroom ขนาดห้องเริ่มตั้งแต่ 35 ตร.ม. ไปจนถึง 117.5 ตร.ม. เน้นทำห้องใหญ่ มีให้เลือกหลายแบบและจัดพื้นที่มาให้ค่อนข้างเยอะ ทำให้สามารถจัดพื้นที่การใช้งานในส่วนต่าง ๆ ง่ายขึ้น ห้องไม่ดูอึดอัด เน้นห้องหน้ากว้างทำให้สามารถเห็นวิวและรับแสงธรรมชาติได้ดี การจัดพื้นที่ภายในห้องจัดพื้นที่ในส่วนต่าง ๆ มาแบบงานได้แบบสบาย ๆ พื้นที่ห้องนอนจัดพื้นที่เพียงพอใช้งานได้ ดูเน้นไปที่พื้นที่ส่วนนั่งเล่นมากกว่า ให้กระจกบานใหญ่เห็นวิวจากภายนอกได้เต็มที่  จัดพื้นที่ในส่วนต่าง ๆ ไว้ดี มีประตูกั้นแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน ครัวแบบปิดเหมาะกับการประกอบอาหาร การจัดพื้นที่แยกส่วนเปียกแห้งในห้องน้ำ และการเว้นช่องสำหรับวางอุปกรณ์ภายในห้องน้ำไว้ให้ และพื้นที่ระเบียงที่ยังพอใช้งานได้จริง ไม่เล็กจนเกินไป

วัสดุอุปกรณ์ของที่โครงการ mori HAUS ใน T77 community จาก Sansiri ให้มามีแค่บางส่วนเท่านั้น เนื่องจากห้องขายแบบ Fully จึงเหมาะกับคนที่เน้นแต่งห้องเองมากกว่า โครงการให้เฟอร์นิเจอร์ใช้งานหลัก ๆ ภายในห้องนอน ให้ชุดตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in พร้อมแอร์ภายในห้อง มีชุดครัวพร้อมใช้ มี Hob & Hood ทำครัวจริงจังได้ ตู้เก็บของและรองเท้าตรงบริเวณประตูทางเข้า พื้นที่ในห้องทั้งหมดเป็นลามิเนตลายไม้ พื้นของส่วนครัวปูกระเบื้องมาให้เหมาะกับการใช้งาน ผนังครัวติดกระเบื้องมาให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ให้ชุดสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำพร้อมอุปกรณ์ชุดอาบน้ำครบ

พื้นที่ส่วนกลาง Facility ก็จัดมาให้ครบตามมาตรฐาน มี The Glass Haus เป็นอาคารสูง 2 ชั้น ชั้นล่างภายในจะเป็น Lobby, fitness และส่วนของนิติบุคคลโครงการ ส่วนชั้นบนจะทำเป็นพื้นที่สวนหย่อมและที่นั่งพักผ่อน ในส่วนของส่วนกลางอื่น ๆ ได้แก่ สระว่ายน้ำ สระเด็ก และ Jacuzzi ระบบเกลือ โดยรอบเป็นที่นั่งพักผ่อน Pavilion และ Pool deckให้เลือกหลากหลาย และเน้นพื้นที่สีเขียวให้ความร่มรื่นภายในโครงการ ส่วนที่จอดรถถือว่าจัดมาให้กลาง ๆ จอดใต้อาคารรถไม่ต้องจอดตากแดดตากฝน มีที่จอดรถ 154 คันคิดเป็น  59% ไม่รวมจอดซ้อนคัน จากที่จอดรถสามารถขึ้นลิฟท์ขึ้นไปส่วนพักอาศัยได้เลย มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่ออาคาร อัตราส่วนลิฟท์อาคาร A 2 : 71.5 , อาคาร B 2 : 59.5 ซึ่งความหนาแน่นของอัตราส่วนลิฟท์ของทั้งสองอาคารจัดมาให้ใช้งานได้ไม่แน่นไป

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 130,000 บาท/ตร.ม., 10 August 2016

  • ทำเล 7.25/10 – ทำเลย่านอ่อนนุช แต่ต้องเข้าซอยพอสมควร
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เดินทางสะดวก มีทางเข้าออกสองเส้นทาง
  • ไม่ใช้รถ 7/10 –  ไกลจากรถไฟฟ้า มีรถตู้ไปส่งแต่ไม่รับกลับ ขากลับต้องใช้รถสาธารณะ
  • วัสดุ 7.5/10 – เหมาะสมตามมาตรฐานของคอนโดในระดับราคานี้
  • แบบ 8/10 – น่าอยู่อาศัย ห้องใหญ่ มีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีมาให้ครบตามมาตรฐาน เน้นพื้นที่สีเขียวน่าใช้งาน

  • HIGH CLASS
  • 7.38/ 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ mori HAUS ในกลุ่มพื้นที่ T77 community จาก Sansiri เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านอ่อนนุชหรือสุขุมวิทตอนปลาย แต่สามารถเดินทางโดยใช้รถยนต์ ใช้ทางด่วนสะดวก หรือครอบครัวที่มองหาคอนโด 2-3 ห้องนอน ต้องการคอนโดที่มีความ Private บรรยากาศร่มรื่น เน้นพื้นที่สีเขียว มี Facility หลัก ๆ ครบ มีงบประมาณ 4-16 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 28,000 – 112,000 บาท/เดือน ยังไงก็ลองพิจารณากันดูนะคะ

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปคะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )

unnamed