รีวิวโครงการ
พาชมตึกเสร็จ Maestro 02 ร่วมฤดี คอนโด Low Rise ย่านเพลินจิตในซอยร่วมฤดี 2 โดย Major Development [รีวิวฉบับที่ 1102]
17 มิถุนายน 2016
รีวิวฉบับที่ 605 … สวัสดีค่ะ : ) วันนี้เราพาท่านผู้อ่านมาชมโครงการ Maestro 02 ร่วมฤดี คอนโด Low Rise 8 ชั้น ที่ตั้งอยู่บนทำเลสงบในซอยร่วมฤดี 2 ใจกลางเมืองย่านเพลินจิต จาก Major Development ค่ะ ตัวโครงการตั้งอยู่ห่างจาก BTS เพลินจิตประมาณ 1.1 กิโลเมตร เข้าไปอยู่ในซอยร่วมฤดี 2 ซึ่งซอยนี้จะเป็นที่ดินโซนที่พักอาศัยในย่านเพลินจิต ที่ตอนนี้ก็เหลือที่ดินเปล่าอยู่ไม่กี่ผืนแล้วนะ ส่วนโครงการ Maestro 02 ร่วมฤดี แห่งนี้เป็นโครงการที่สามของแบรนด์มาเอสโตรค่ะ หลังจากมาเอสโตร สุขุมวิท 39 และมาเอสโตร 12 ราชเทวี โดยโครงการล่าสุดนี้มีมูลค่าโครงการ 590 ล้านบาทค่ะ คงคอนเซ็ปต์การออกแบบในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิคและขายแบบ Fully Furnished เหมือนเดิม รายละเอียดโครงการเป็นยังไงไปดูกันค่ะ 🙂
Fact @ 11 June 2014
- MAESTRO 02 RUAMRUDEE (มาเอสโตร 02 ร่วมฤดี)
- บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน)
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน: ซ.ร่วมฤดี 2 ถ.เพลินจิต เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10310
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร
- จำนวนห้องพักอาศัยทั้งโครงการ 126 ยูนิต
- ที่ดินประมาณ 1-0-62 ไร่
- Type A: 1 ห้องนอน 25.5 – 37 ตร.ม.
- Type B: 2 ห้องนอน 51 – 57.5 ตร.ม.
- Type D: 1 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ 47-47.5 ตร.ม.
- Type D: 2 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ 69.5 ตร.ม.
- Type D: 3 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ 87 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.7 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 150,000บาท
- เริ่มก่อสร้าง: ก.ค. ปี 2557
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ: เม.ย. ปี 2559
- www.maestroresidences.com
- Tel:02-254-4777
ช่วยกด Like เพื่อสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living กันหน่อยนะคะ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
พิกัด: 13.735873,100.550704
แผนที่เวอร์ชั่นคลาสสิคจากทางโครงการค่ะ มาเป็นภาพวาดลายแทงบอกจุดช้อปปิ้งและสถานที่สำคัญต่างๆใกล้ๆโครงการที่ตั้งอยู่ในย่านเพลินจิต โดยย่านเพลินจิตนี้เป็นจุดศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดจุดหนึ่งของกรุงเทพมหานคร เป็นย่านที่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานขนาดใหญ่,โรงแรมหรู และยังอยู่ใกล้กับสถานฑูตสหรัฐอเมริกา สถานฑูตอังกฤษ และสถานฑูตอีกมากมายค่ะ (อย่างในซอยร่วมฤดี 2 ซอยที่ตั้งโครงการก็มีสถานฑูตของสาธารณรัฐเชคตั้งอยู่) และเมื่อเดือนที่ผ่านมา (พฤษภาคม 2557) ห้างสรรพสินค้าสุดหรูขนาดใหญ่ Central Embassy ก็เพิ่งสร้างเสร็จและเปิดตัวไปค่ะ แถมเพลินจิตยังครองแชมป์กลุ่มทำเลที่มีราคาแพงที่สุดในประเทศไทย(สยามสแควร์, เพลินจิต, ชิดลม ) จากบริษัทประเมินราคาที่ดินในปีที่แล้วอีกด้วย (ผลการประเมินปลายปี ธ.ค.2556) อ่านข่าวคลิกที่นี่ค่ะ สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเจาะลึกทำเลเพลินจิต คลิกที่นี่ค่ะ
โครงการ Maestro 02 ร่วมฤดี ตั้งอยู่ในซอยร่วมฤดีซอย 2 เป็นโซนที่พักอาศัยที่เงียบสงบอยู่ห่างจาก BTSเพลินจิตและถนนเพลินจิตประมาณ 1 กิโลเมตรค่ะ ถนนเพลินจิตเป็นถนนเก่า ถูกสร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.6) ที่แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร มีระยะทางตั้งแต่ถนนราชดำริ (แยกราชประสงค์) ตัดกับถนนชิดลม (แยกชิดลม) และถนนวิทยุ ไปจนถึงทางด่วน ซึ่งถัดจากทางด่วนที่ตัดผ่านจะเป็นถนนสุขุมวิทค่ะ โดยร.6 โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “ถนนเพลินจิต” ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2464 ส่วนอีกถนนหนึ่งตัดเชื่อมถนนเพลินจิตกับถนนพระรามที่ 4และพระราชทานนามว่า “ถนนวิทยุ”
เรื่องทำเลและทางสัญจรขอยกบางส่วนของบทความใน มองหาทำเลน่าอยู่ เพลินจิต มาใช้อธิบายตามนี้ค่ะ,,,
“ถนนเส้นหลัก 2 เส้นที่ผูกติดอยู่กับ BTS เพลินจิต ที่คนใช้บ่อยที่สุดคือ ถนนวิทยุ และ ถนนเพลินจิต ซึ่งก็จะเป็นถนนสองเส้นในบริเวณนี้ที่เจริญที่สุด และมีสิ่งปลูกสร้างต่างๆที่สำคัญ (และไม่สำคัญ) มาตั้งเรียงรายอยู่โดยรอบ แล้วก็ไอ้ที่ดินที่ติดถนนใหญ่สองเส้นนี้แหละที่ได้ชื่อว่าแพงเกือบจะที่สุดของประเทศ การเดินทางไปไหนมาไหนบริเวณนี้ จะบอกว่ายากก็ยาก จะง่ายก็ง่าย ขึ้นอยู่กับว่า มาจากที่ไหน แล้วจะไปไหน ซึ่งตรงนี้ถ้าวางแผนมาดีๆ หรือคุ้นเคยกับเส้นทางแล้ว จะถือว่าสะดวกมากค่ะ เพราะอะไรๆก็อยู่ใกล้เพลินจิต ไม่ว่าจะเป็น สยาม (แยกราชประสงค์), ถนนพระราม 4, ถนนเพชรบุรี, ถนนสุขุมวิท, ทางด่วน แต่อุปสรรคที่สำคัญมากประการแรกของการจราจรบนทำเลแถวนี้คือ ทิศทางการเดินรถ และการแบ่งฝั่งการจราจรของถนนเพลินจิต ซึ่งจะเป็นยังไงขออธิบายให้ฟังแบบนี้ (ดูแผนที่ประกอบ)
ถนนวิทยุ นั้นจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือ ส่วนแรกจากแยกลุมพินีมาจนถึงแยกเพลินจิต (เส้นทึบสีม่วง) จะเป็นถนน Two-Way ปกติ รถวิ่งสวนทางได้ และส่วนที่เป็นเส้นประสีม่วง ต่อจากแยกเพลินจิตไปจนถึงแยกเพชรบุรีเป็นถนน One-Way
ถนนเพลินจิต กับ ถนนสุขุมวิท ความจริงก็เป็นถนนเส้นเดียวกัน แต่ถนนสุขุมวิทเกิดก่อน ส่วนถนนเพลินจิตนั้นเกิดทีหลัง เป็นถนนที่ตัดจากสุขุมวิทไปเชื่อมกับ ถนนพระราม 1 ที่ แยกราชประสงค์ โดยที่ถนนเพลินจิตจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือ เพลินจิตฝั่งเหนือ และ เพลินจิตฝั่งใต้
***ข้อควรระวังข้อแรก ที่มีคนผิดพลาดมากที่สุด และโดนตำรวจเรียกบ่อยที่สุด คือ ในแผนที่ตรงจุดที่ทำเครื่องหมายห้ามผ่านเอาไว้ หากขับรถวิ่งมาจากถนนเพลินจิตมุ่งหน้าไปทางทางด่วน, ห้าม! ขับผ่านทางด่วนตรงต่อไปสุขุมวิท แต่บังคับให้ขึ้นทางด่วนเท่านั้น ไม่งั้นโดนตำรวจเรียกแน่ๆ
ซอยร่วมฤดี ที่โครงการ Maestro 02 ร่วมฤดี ตั้งอยู่ เป็นซอยใหญ่ที่เชื่อมระหว่างถนนเพลินจิตและถนนวิทยุ ซอยร่วมฤดีเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ถนนเพลินจิตมันแบ่งออกเป็นสองฝั่งเนี่ยแหละ เพราะมันทำให้มีผลต่อการเดินรถ และการคมนาคมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเหตุผลที่เค้าแบ่งสองฝั่งก็เพื่อที่จะแบ่งวงจรของการจราจรออกเป็นส่วนย่อยๆที่ไม่ปนกัน ถ้ารถติดมันจะได้ติดฝั่งเดียว และอีกฝั่งสามารถ Flow ไปได้ (แต่บางทีมันก็ติดหมดทั้งสองฝั่งอ่ะนะ) แต่ในหลายจังหวะมันก็มีข้อเสีย คือถ้าเราเลี้ยวผิดทาง, มาผิดถนน, อยู่ผิดเลน ฯลฯ อาจจะทำให้ต้องวนรถใหม่รอบใหญ่เลยทีเดียว แล้วการที่มีบ้านกับที่ทำงานอยู่บนถนนคนละฝั่ง ก็อาจจะส่งผลต่อการเดินทางในชีวิตประจำวันได้เลย ตัวอย่างเช่น
(1) มีบ้านอยู่ในซอยร่วมฤดีแล้วจะไปทำงานที่เซ็นทรัลชิดลม จะขับรถออกจากซอยทางถนนเพลินจิตฝั่งใต้ไม่ได้นะคะ เพราะจากเพลินจิตฝั่งใต้จะเบี่ยงไปฝั่งเหนือไม่ได้ จนกว่าจะเลยเซ็นทรัลไปแล้ว ต้องไปออกจากซอยทางถนนวิทยุก่อนแล้วค่อยวนกลับมาเลี้ยวซ้ายที่แยกเพลินจิต หรือ
(2) ทำงานที่เซ็นทรัลชิดลมเหมือนกัน แต่มาจากแถวนานา ไกลกว่าซอยร่วมฤดีแน่ แต่วิ่งตรงๆมาได้เลยก็ถึงที่ทำงานได้”
ส่วนการการเดินทางโดยไม่ใช้รถก็ถือว่าสะดวกสบายนะ โครงการมี Shuttle Bus ส่งถึงรถไฟฟ้า BTS เพลินจิตให้ ถ้าเป็นคนชอบเดินก็จะบอกว่าซอยร่วมฤดีเป็นถนนที่เดินสนุกดีใช้ได้ ซอยเต็มไปด้วยโรงแรมหรู ร้านอาหาร และคอนโดที่พักอาศัยที่ดูดีน่ามองและถนนไม่เปลี่ยว แถมไม่เจอแดดมากเพราะตึกช่วยบังแดดไปเยอะ แต่ระยะ 1.1 กิโลเมตรถึง BTS นี่ก็ถือว่าค่อนข้างไกล คนส่วนใหญ่คงจะไม่เดิน สำหรับกรณีนี้แนะนำให้ใช้วินมอเตอร์ไซค์ (ในซอยร่วมฤดี 2 มีประจำอยู่ เรียกใช้ได้) แล้วไปนั่งรถไฟฟ้าหรือรถเมล์เอา (ป้ายรถเมล์อยู่แถวหน้าตึกมหาทุนพลาซ่าเดี๋ยวมีรูปให้ดูและอธิบายรายละเอียดอีกทีนะ ซึ่งรถเมล์จะได้รับการยกเว้นกฎระเบียบหลายข้อที่กล่าวมา เช่น รถเมล์จากเพลินจิตวิ่งตรงผ่านทางด่วนไปสุขุมวิทได้ เป็นต้น) เรียกแท็กซี่ก็มีให้เรียกอยู่เรื่อยๆค่ะ สำหรับคนขับจักรยาน มีสถานีจักรยานที่หน้า Park Venture(สถานีนี้อยู่ใกล้โครงการที่สุด), Wave Place และ หน้าธนาคารกรุงศรีค่ะ(เดี๋ยวมีภาพและรายละเอียดอธิบายอีกทีค่ะ)
อธิบายมาซะยาว อาจจะยังไม่เห็นภาพ ไปดูภาพของจริงกันดีกว่าค่ะ
เราเริ่มกันจากรถไฟฟ้า BTS สถานีเพลินจิตนะคะ
ทางออก BTS ที่ใกล้ซอยร่วมฤดีหรือที่ตั้งโครงการ Maestro 02 ร่วมฤดี ที่สุดคือทางออก 4 ค่ะ สามารถ ตรงออกทางนี้แล้วเดินเข้าซอยได้เลยนะ แต่วันนี้เราจะพาไปดูรอบสถานีเพลินจิตกันก่อนนะคะ
BTS เพลินจิต ทางออก 2 เชื่อมไปอาคารสำนักงาน Park Venture และโรงแรมดิโอกุระ เพรสทีจ
ทางซ้ายนี้ คือ ลานด้านหน้าของอาคาร Park Ventures เป็นอาคารสำนักงานที่ตั้งอยู่หัวมุมระหว่างถนนเพลินจิตและถนนวิทยุค่ะ
ด้านหน้า Park Venture จะมีสถานีจักรยานอยู่ด้วย
ขอเพิ่มเติมเรื่องโครงการ “ปันปั่น” โครงการสนับสนุนให้คนขับจักรยานของ กทม. นะคะ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.punpunbikeshare.com ได้นะคะ โดยคุณสมบัติผู้ใช้คือมีอายุไม่น้อยกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ในวันที่สมัครใช้บริการ และผู้ใช้บริการต้องสมัครลงทะเบียนเป็นผู้ใช้บริการจักรยานสาธารณะปันปั่นด้วยตนเอง โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชน บัตรข้าราชการ หรือหนังสือเดินทาง และได้ชำระค่าธรรมเนียมและค่าบริการล่วงหน้าตามที่โครงการกำหนดที่สถานีได้เลยค่ะ
ภาพอธิบายการใช้งานสถานีจักรยานค่ะ
สถานี BTS เพลินจิต อยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 1.1 กิโลเมตรค่ะ จากในแผนที่ข้างบนเราตัดช่วงสถานีจักรยานแถว สยาม ชิดลม เพลินจิต มาให้ดูกันนะคะ จะเห็นว่าบนถนนเพลินจิต มีสถานี 3 สถานี คือสถานี 21.ปาร์คเวนเจอร์ , 22.เวฟเพลส , 20.ธนาคารกรุงศรีอยุธยาค่ะ
ต่อไปทางออก 5 ทางออกนี้ปัจจุบันนอกจากจะเชื่อมไปตึกเวฟเพลส โฮมโปรพลัสแล้ว ยังเป็นทางเดินเชื่อมไป Central Embassy อีกด้วยค่ะ
วิวฝั่งขวามือเป็นโครงการ Noble เพลินจิต ที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ ตอนนี้ฐานรากเสร็จและเริ่มลงเสากันแล้ว
แปลงข้างๆ Noble มีที่ดินเปล่าอยู่ ต่อไปมีข่าวว่าจะกลายเป็นโรงแรมตึกสูง อยู่ติดสถานี BTS เด๊ะๆเลย
ถัดมาขวามือเป็นทางเชื่อมไปตึกเวฟเพลส โฮมโปรพลัสค่ะ ด้านหน้าตึกเวฟเพลสก็มีสถานีจักรยานอยู่เช่นกันค่ะ
เดินตรงต่อไปจะเห็นเสาของ Central Embassy อยู่นะคะ สังเกตว่าวัสดุหุ้มฝ้าของ Sky way ก็เปลี่ยนไป ดูล้ำๆทันสมัยขึ้นมา เพราะทางเชื่อมนี้เป็นของ Central Embassy ทำให้น่ะนะ
ใน Central Embassy มีร้านอาหารมากมายนะคะ ถือเป็นแหล่งอาหารการกินที่ใกล้โครงการนะ เนื่องจากเพิ่งเปิดตัวมาไม่นาน หลายคนยังไม่ได้แวะมาเดิน วันนี้จะพาเข้าไปชมในโซนอาหารหน่อยแล้วกันนะคะ
เข้ามาก็จะเห็นบันไดเลื่อนขึ้นด้านบน ด้านบนชั้น 5 จะเป็นโซนร้านอาหารนะ ขึ้นไปดูกัน
ถึงด้านบนแล้วค่ะ ไปเดินดูรอบกันๆ ร้านที่เห็นข้างหน้าเป็นร้าน Kyo by kyo Roll En ร้านเค้กโรลสไตล์ญี่ปุ่น
จริงๆก็เห็นพวกร้านคาเฟ่ ร้านขนมเค้กดังๆกระจายตัวอยู่ตามชั้นต่างๆแทบทุกชั้นล่ะนะ(ประมาณว่าให้นั่งพักเหนื่อย สั่งอะไรมากินได้ระหว่างช้อปในแต่ละชั้น) แต่พวกร้านอาหารจะรวมอยู่ชั้น 5 ค่ะ มีร้านอาหารดังๆมากันหลายร้านเลยนะ ร้านในดวงใจใครหลายๆคนอย่าง Audrey, Hinata, Nara, Nabe-zo, Maizen ก็มานะ เห็นข่าวร้าน Issaya ของเชฟเอียน ก็มาเปิดที่นี่ด้วย(แต่เหมือนสาขานี้เป็นร้านเบเกอรี่นะ) แต่หาร้านไม่เจอค่ะ 555+ ขอโทษด้วยนะคะ
ร้าน Love eat จัดร้านแบบชวนให้เข้าใจผิดว่าเป็นร้านดอกไม้มากๆ ร้านน่ารักดีค่ะ เหมาะเอาไว้มาถ่ายรูปเล่นกะเพื่อนสาว
ซ้ายสุดของภาพนี่ Water Library ร้านอาหารฝรั่งเศสที่เอาใจคนรักไวน์และค็อกเทลก็มา
สมบูรณ์โภชนาก็มา ใครอยากกินปูผัดผงกะหรี่มาทางนี้ ข้างๆมีร้านอาหารจีน หงเปา ร้านอาหารจีนแบบดั้งเดิมในสไตล์กวางตุ้ง มีเมนูเด็ดหอยเป๋าฮื้อและหูฉลาม มีสรรพคุณช่วยลดน้ำหนักกระเป๋าตังค์ ที่นี่ก็กำลังจะมาเปิดในไม่ช้า
ร้าน Tropical Monkey ไอศครีมโฮมเมดพรีเมี่ยม ที่ดูมีคนรอคิวกันคึกคัก เราลงไปดูชั้นล่างสุดกันต่อดีกว่าค่ะ ชั้นล่างเป็น Eathai Food court และ Eathai market ค่ะ
Eathai (อีทไทย)เป็นฟู๊ดคอร์ทพวกอาหารไทย ต้องรับการ์ดด้านหน้า แล้วชำระเงินตอนออกค่ะ เหมือน FoodLoft ถ้าใครเคยไปกินตามเซ็นทรัลชิดลม/เซ็นทรัลเวิลด์
ที่ทางเข้าจะได้รับการ์ดสำหรับใช้แทนเงินสดมูลค่า 1,000 บาท ต่อคน วิธีใช้ก็ถือการ์ดจ่ายแทนเงินสดด้านในเหมือนเวลาไปฟู้ดคอร์ทตามห้างทั่วไปแหละค่ะ แต่ที่นี่ไม่ต้องเข้าแถวจ่ายเงินแลกบัตรให้งบมาเลย 1 พัน กินเสร็จก็เดินออกไปจ่ายตามมูลค่าเงินที่ใช้ไปที่เคาเตอร์ค่ะ เก็บค่า Service Charge 5% ของมูลค่าเงินที่ใช้ไปนะ (ก็ไม่เห็นมีบริการต่างจากฟู้ดคอร์ทอื่นนะ เดาว่าเป็นค่าบริการสถานที่สวยๆ ระบบไฮๆอะไรแบบนั้น)
บรรยากาศคล้าย ๆ กับ Food Loft ชั้นบนของเซ็นทรัลชิดลม (Central Embassy มีทางเชื่อมกับ Central ชิดลม ที่ชั้น 2 นะคะ) แต่คอนเซ็ปที่นี่เป็นร้านอาหารไทยจากภาคต่างๆ อย่างอาหารทะเล อาหารอิสาน อาหารเหนือ อาหารภาคกลาง มีรถเข็นขายขนมไทย แบบน่าแนะนำเพื่อนฝรั่งมาลองเพราะรวมอาหารไทยมาให้ลองหลายอย่างนะ
อีกโซนนึงมีรถเข็นมาเปิดหลายร้าน ขายอาหารอย่างหมูสะเต๊ะ ก๋วยเตี๋ยวเป็ด กระเพาะปลา เต้าทึง โรตี ฯลฯ
และยังมีส่วนตลาด Eathai ที่คล้ายๆกับ Supermarket แต่เป็นสินค้าไทยล้วนๆ เราเดินๆดู นอกจากของสด (พวกออแกร์นิคราคาโหดเอาการ) เราเห็นพวกเครื่องเทศแบรนด์ดังๆจากร้านอาหารอย่าง Blue elephant มาที่นี่ด้วย และยังมีสินค้าโครงการหลวงอีกหลายอย่าง แต่ดูจะเน้นคอนเซ็ปความเป็นไทยเช่นกัน กลับออกไปดูข้างนอกห้างกันต่อนะ
มองจากบน Sky way จะเห็นธนาคารกรุงศรีอยุธยา (ฝั่งตรงข้าม Central Embassy) ด้านหน้าก็มีสถานีจักรยานอยู่เหมือนกัน
ข้ามจากฝั่ง Central Embassy มาที่ถนนเพลินจิตฝั่งตรงข้ามบ้าง ถัดจากธนาคารกรุงศรีไปทางขวามือ (ขวามือของคนที่มองลงมาจากบน Sky Walk นะ) จะมีทางเข้าตลาดนัดและศูนย์อาหารของพนักงานออฟฟิศย่านนี้ค่ะ อาหารถูกและมีให้เลือกหลากหลาย ขนมและเสื้อผ้า ของกิน ของใช้ต่างๆ ในช่วงเที่ยงๆจะคึกคักมากเลย เปิดมาดูดเงินในกระเป๋าพนักงานออฟฟิศแถวนี้ เราเข้าไปดูข้างในกันดีกว่า
บรรยากาศข้างในวันปกติช่วงเที่ยงๆจะมีร้านอาหารมาเปิดขายนะ แนะนำร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำปลาสดรสมะนาวภาพฝั่งขวามือค่ะ แถวยาวตลอดและสั่งได้คนละถ้วยเท่านั้นด้วย (เพื่อความยุติธรรม ถ้าอยากกินอีกต้องไปต่อแถวใหม่และห้ามสั่งเผื่อคนอื่น) รสชาดเปรี้ยวสดชื่นดีมีเนื้อปลาสดที่ดีกับสุขภาพกับแล้วก็มีปลาเส้นด้วยค่ะ
เหมือนเป็นตลาดนัดที่มีในทุกเที่ยงวันทำงานน่ะนะ คนแน่นแทบทุกวัน เราลงไปเดินดูข้างล่างกันดีกว่าค่ะ
เราเริ่มเดินกันตั้งแต่ Park Venture ไปถึงโครงการกันนะ ระยะทางจาก A ไป B ประมาณ 1.1 กิโลเมตร ค่ะ เดินประมาณ 15 นาทีนะ
Park Venture เป็นอาคารสำนักงานที่ตั้งอยู่หัวมุมระหว่างถนนเพลินจิตและถนนวิทยุ มีสถานีจักรยานด้านหน้าที่เราอธิบายรายละเอียดไปแล้วนะ เราลงไปเดินกันดีกว่า
ลานด้านหน้า Park Venture มีชุดโต๊ะเก้าอี้ด้านนอกของร้าน Dean & Deluca อยู่
ด้านในนอกจากกาแฟ อาหาร ขนม ที่สั่งได้แล้ว ก็มีอาหารและขนมแบบแพ็คทั้งของแบรนด์ร้านเองและพวกขนมนำเข้าจากอังกฤษมาขายด้วย
อีกมุมของร้านค่ะ
7-11 ของปาร์คเวนเจอร์ค่ะ เป็น 7-11 แบบ Premium โทนสีเงินเข้ากับดีไซน์อาคาร
อันนี้ภาพทางเข้าจากด้านในค่ะ 7-11 สาขานี้ใหญ่เหมือนกันนะ
เดินต่อมาอีกหน่อยจะเจอป้ายรถเมล์หน้ามหาทุนพลาซ่า มีรถเมล์สาย 2, 25, 40, 48 และ ปอ. 2, 8, 11, 13 และ ปอพ. 13, 6 วิ่งผ่านค่ะ
ถัดจากป้ายรถเมล์มีทางขึ้น BTS เพลินจิต บันไดเลื่อน จุดนี้เป็นบันไดเลื่อนขาขึ้นBTS ที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดนะ ระยะประมาณ 1.1 กิโลเมตร
เดินต่อมาอีกหน่อยเป็นป้ายอาคารมหาทุน พลาซ่า มีป้ายออฟฟิศต่างๆที่อยู่ข้างในอาคารติดอยู่ด้วย
ถัดมาเป็นร้านอาหารชื่อ Cafe’ bicycle ร้านอาหาร 2 ชั้น แนวคิดแบบ eco green
เดินต่อมาอีก จะเจอโรงแรมโนโวเทล โรงแรมนี้อยู่ตรงหัวมุมระหว่างซอยเพลินจิตกับซอยร่วมฤดีนะคะ ก็คือพอเห็นโนโวเทลก็เตรียมเลี้ยวขวาเข้าซอยร่วมฤดีได้เลย
นี่ ถึงต้นซอยร่วมฤดีแล้วค่ะ แต่เราเดินเลยไปดูรอบๆอีกหน่อยนึงก่อนเข้าซอยนะ ข้ามถนนไปเลย
ข้ามมาจะเป็นทางเดินเท้าหน้าคอนโด Q House เพลินจิต ซึ่งมีทางขึ้นลง BTS ที่ใกล้โครงการที่สุดนะ (ประมาณ 1 กิโลเมตร)
Q House เพลินจิต ซึ่งมีทางขึ้นลง BTS เพลินจิต
เดินต่อไปอีกหน่อยที่ใต้ทางด่วน จุดที่ทางด่วนตัดผ่านนี่ถือว่าสุดถนนเพลินจิตแล้วนะคะ ถนนที่อยู่ถัดจากทางด่วนไปเป็นถนนสุขุมวิทช่วงต้นค่ะ
ใต้ทางด่วนมี OTOP Gallery อยู่ค่ะ เป็นการใช้พื้นที่ใต้ทางด่วนให้เป็นประโยชน์นะ จุดนี้อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.1 กิโลเมตร
OTOP gallery นี่มีร้านกาแฟด้วยนะ เราเข้าไปดูสินค้าข้างในกันหน่อยดีกว่า
ข้างในก็มีสินค้าที่น่าสนใจหลายอย่างนะ เพิ่งสังเกตว่าสินค้า OTOP เดี๋ยวนี้ทำแพคเกจจิ้งน่าสนใจขึ้นนะ ราคาก็ไม่แพงด้วย อย่างพวกกล่องขนมโมจิ คุ้กกี้ ผลไม้อบแห้ง หรือ ภาพช่องขวาบนเป็นกล่องมะม่วงหิมพานต์เผาจากภูเก็ตค่ะ แพคเกจดีไซน์เป็นกล่องกระดาษรูปตึกแบบโปรตุกีสในภูเก็ตค่ะ น่ารักดีนะ ราคา 45 บาท พวกกระเป๋าทำมือลายแบบชาวเขาๆหน่อยใบเล็กๆราคาอยู่ในเรต 30-40 บาท จนถึงพวกงานฝีมือ เบญจรงค์ งานสาน อะไรแบบนี้ก็มีเหมือนกัน ใครผ่านแถวนั้นลองแวะไปดูกันนะคะ
เรากลับมาที่ต้นซอยร่วมฤดี ซอยที่ตั้งโครงการกันอีกครั้งค่ะ เข้าไปดูในซอยกันเถอะ
ถนนในซอยเป็นถนนสองเลน มีรถวิ่งเข้าออกตลอดเวลา มีวินมอเตอร์ไซค์ต้นซอย
เป็นวินหน้าโรงแรมโนโวเทลนะ ไปโครงการราคา 15 บาท
เดินเข้าไปดูกันต่อ ถนนสองฝั่งมีทางเดินเท้ายกขึ้นมา เดินง่ายค่ะ
เดินเข้าไปหน่อยฝั่งขวามือจะเห็น The Athenee Place ด้านหลังของโรงแรม Plaza Athenee
ทางเข้าด้านหลังของ Athenee Residence
ฝั่งซ้ายมือเป็น บ้านสิริฤดี ของแสนสิริ ตรงนี้เป็นคอนโด Low Rise รุ่นเก่า ขายหมดไปนานแล้ว
ถัดจากบ้านสิริฤดี เป็นโนเบิล09ร่วมฤดี เป็น Low Rise 8 ชั้น เหมือนกันค่ะขายหมดไปนานแล้วเหมือนกัน ถัดไปเป็น 7-11
7-11 ตอนนี้ปรับปรุงใหม่ เป็นสาขาใหญ่กว่าเดิมค่ะ
เดินมาอีกหน่อยจะเจอ ร่วมฤดี วิลเลจ ข้างในมีร้านอาหาร และ Bar&Restaurant หลายร้าน นวดเพื่อสุขภาพก็มี เข้าไปดูข้างในกันหน่อย ตรงนี้เป็นแหล่งที่คนในโครงการน่าแวะมาแฮงก์เอาท์และพักผ่อนได้ง่าย อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 600 เมตร ค่ะ
ร้านแรกสุดมุมขวามือร้าน Smiles Jazz&Bistro ร้านนี้นอกจากเป็นร้านอาหาร ใครเป็นคอแจ๊สน่าจะชอบนะคะ มีวงดนตรีเล่นสดทุกคืน 🙂
Coffee Beans By Dao สาขาแรกค่ะ มีแหล่งเค้กกับอาหารอร่อยๆไว้กินอีกหนึ่งที่ละนะ
สำหรับคนชอบนวดเพื่อสุขภาพก็มีร้านนวดร้านนี้
Witch’s Oyster Bar & Restaurant เป็นเครือเดียวกับ Witch’s Tavern หรือก๋วยเตี๋ยวแม่มด (ช่วงกลางวัน) ที่อยู่ที่ทองหล่อนะ แต่ที่นี่มีบาร์หอยนางรมด้วย เมนูอย่างอื่นและเครื่องดื่มนั้นคล้ายๆกัน
ถัดมาเป็น ร้านซูชิ Anata และ Circle restaurant
ออกมาจากร่วมฤดี วิลเลจเดินมาอีกหน่อยจะเจอ ซอยร่วมฤดี 1 ค่ะ ข้างในเป็นซอยตันนะ
ตรงข้ามปากซอยร่วมฤดี 1 เป็น Noble House ร่วมฤดี เป็นคอนโด Low Rise 7 ชั้นอายุเกิน10ปีแล้วนะ
ถัดมาหน่อยฝั่งซ้ายมือเป็น Chateau de Bangkok เป็นที่อยู่อาศัยให้เช่าอีกแห่งหนึ่ง เป็นโรงแรมด้วย
ถัดมาฝั่งขวามือเป็นด้านหลังของ All Seaons Place และ โรงแรม Conrad ค่ะ
เยื้องๆกันฝั่งซ้ายมือเป็นร้าน Lyon(ลียง)ร้านอาหารฝรั่งเศสเก่าแก่ของซอยนี้นะ ร้านนี้อยู่ติดทางเข้าซอยร่วมฤดี 2 ซอยที่ตั้งโครงการค่ะ
ติดทางเข้าซอยอีกด้านคือ The Aetas Bangkok ที่เป็นทั้งโรงแรม และ Serviced Apartment
ด้านล่างของ The Aetas ก็จะมีส่วนที่เป็นร้านอาหารด้วยค่ะ กลับไปที่ซอยร่วมฤดี 2 กันเถอะ
เข้าไปดูในซอยกัน
ถนนในซอยร่วมฤดี2 ไม่กว้างนะแค่พอรถสวนเข้าออกได้
เข้าไปหน่อยจะเห็นโรงเรียนสอนภาษาทีเอสร่วมฤดี ข้างๆมีป้ายโครงการติดอยู่
ป้ายโฆษณาของโครงการค่ะ ใครไปช่วงนี้อาจจะยังพอเห็นติดตามเสาไฟฟ้าบ้าง
บรรยากาศในซอยเงียบสงบค่ะ เต็มไปด้วยอาคารที่พักอาศัย บ้านสองชั้นที่อยู่ที่นี่ส่วนใหญ่ก็บ้านคนมีอันจะกินทั้งนั้นค่ะ แบบว่าอยู่กันมานานแล้ว คอนโด อพาร์ทเม้นท์ Low Rise ก็เยอะ
คอนโด La Maison ร่วมฤดีค่ะ สูง 14 ชั้น อยู่ติดหัวมุมทางเลี้ยว
ตรงหัวมุมทางเลี้ยวของซอยค่ะ เลี้ยวขวาตามทางเลย
เลี้ยวมาแล้วก็จะเป็นแบบนี้
มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ตรงข้างกำแพงของคอนโด La Maison ร่วมฤดี นะ จุดนี้อยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 260 เมตรค่ะ
Art Studio The Factory วาดการ์ตูนโชว์ฝีมือบนผนังอาคารเลย
เดินต่อมาฝั่งซ้ายมือเป็นอาคารสีฟ้า เป็นมูลนิธิชื่อกลุ่มปรารถนาดี ฝั่งขวาเป็นกำแพงหินของคอนโดร่วมฤดีทาวเวอร์
มูลนิธิชื่อกลุ่มปรารถนาดี หรือ ชื่อภาษาอังกฤษว่า Goodwill Group Foundation นะ มีป้ายเขียนไว้ว่า มุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของสตรีไทย
ถัดมาอีกเป็นบ้านไม้สองชั้น เหมือนมีขายของกินด้วยนะ
ถัดมาเป็นสถานฑูตสาธารณรัฐเช็กค่ะ เป็นสถานฑูตที่ขนาดเล็กที่สุดที่เคยเห็นมาเลยค่ะ
ฝั่งตรงข้ามสถานฑูตเป็นทางเข้าร่วมฤดีทาวเวอร์ค่ะ สูง 16 ชั้น
จะเห็นว่าในซอยมีคอนโด ที่พักอาศัยเรียงรายเต็มไปหมด ไม่มีที่ดินว่างเปล่าเลย
ซ้ายมือนี่ The Crest ร่วมฤดี ของ SC Asset ค่ะ ทางเราเคยทำรีวิวไว้นะ อ่านคลิก
ตรงกันข้ามเป็นคอนโดชื่อ บ้านเพลินจิต ค่ะ สูง 20 ชั้น
อันนี้คอนโดร่วมฤดี เพลส ค่ะ Low Rise 8 ชั้น(พวกคอนโดในร่วมฤดี,เพลินจิตนี่ไม่คิดจะตั้งชื่อแนวอื่นกันเลยจริงๆ แบบว่าชื่อซอยกะชื่อย่านขายได้น่ะนะ)
ถัดมาเป็นทาวน์โฮมสูง 4 ชั้น เป็นอาคารสำนักงานนะ
ถัดมาก็คือสำนักงานขายของ Maestro 02 ร่วมฤดี ที่เรามาสำรวจกันวันนี้นั่นเองค่ะ แต่ขอพาเดินดูในซอยต่ออีกหน่อยนะคะ แล้วเดี๋ยวค่อยเข้าไปชมสำนักงานขายกัน
ถัดจากสำนักงานขายจะเป็นที่ดินโครงการค่ะ อย่างที่เห็นในภาพฝั่งขวามือจะมีรั้วล้อมไว้ ฝั่งขวามือตรงข้ามที่ดินโครงการเป็นโครงการ Socio ร่วมฤดี ค่ะ
Socio ร่วมฤดี นี่ก็ขายหมดไปแล้วนะ ทางเราเคยทำรีวิววีดีโอไว้ค่ะ ดูคลิก
เดินต่อมาฝั่งขวามือถัดจากโครงการ เป็นเหมือนบ้านคน 2 ชั้นค่ะ ด้านหน้ามีติดป้าย มูลนิธิ สร้างสรรค์ชีวิต (Creative Life Foundatiom) ติดอยู่
ถัดมาเป็นบริษัทสยามเทลเทค เป็นอาคารสีฟ้าสูง 8 ชั้น
ซอยนี้เป็นซอยตันค่ะ ช่วงสุดซอยก็เป็นอาคารที่พักอาศัยและบ้านสองชั้น
สุดซอยฝั่งขวามือเป็น TENFACE Serviced Residence ค่ะ เป็นเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ ที่เราจะเห็น Shuttle bus เป็นเหมือนรถตุ๊กๆสีดำ รับส่งผู้มาเข้าพักอยู่เรื่อยๆค่ะ เดินจนสุดแล้วเรากลับไปดูตัวโครงการกันเลย
สถานที่แวดล้อมโครงการ (ระยะห่างจุดต่างๆจากโครงการ)
- โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ~ 1.7 k.m.
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ~ 3.8 k.m.
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ~ 4.3 k.m.
- โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ~ 4 k.m.
- Central Embassy ~ 1.3 k.m.
- Central Chidlom ~ 1.5 k.m.
- เกษร พลาซ่า ~ 2 k.m.
- อัมรินทร์ พลาซ่า ~ 1.2 k.m.
- Central World ~ 2.2 k.m.
- Siam Paragon ~2.8 k.m.
- Siam Discovery ~ 3 k.m.
- Siam Square ~2.7 k.m.
- มาบุญครอง ~3.2 k.m.
- สนามม้าราชกรีฑาสโมสร ~3.2 k.m.
- สมาคมราชกรีฑาสโมสรโปโลคลับ ~2.2 km.
เจาะลึกตัวโครงการ
ด้านบนไดอะแกรมฝั่งซ้ายมือเป็นแผนที่จากถนนเพลินจิตเข้ามาในซอยร่วมฤดีจนถึงโครงการเป็นระยะประมาณ 1.1 กิโลเมตรค่ะ และจากต้นซอยร่วมฤดี 2 ถึงโครงการเป็นระยะประมาณ 500 เมตร ส่วนไดอะแกรมฝั่งขวามือเป็นภาพขยายรอบโครงการค่ะ เราใส่ความสูงของอาคารโดยรอบเข้าไปด้วยค่ะ จะได้เห็นภาพมากขึ้นว่าแต่ละด้านของที่ดิน หันไปเจออะไรบ้าง
จากไดอะแกรมภาพขยายรอบโครงการด้านบนจะเห็นว่าตึกที่อยู่รอบๆโครงการมีความสูงอยู่ประมาณ 2- 8 ชั้นเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ผลจากกฏหมายอาคารและความกว้างของถนนน่ะนะ อาคารที่อยู่ใกล้ทิศเหนือ, ทิศตะวันตก,ทิศใต้ ของโครงการที่สุด เป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้นค่ะ ในซอยร่วมฤดี 2 จะมีคอนโดชื่อบ้านเพลินจิตสูง 20 ชั้น(สูงสุดที่เจอในซอยร่วมฤดี 2) ห่างจากด้าน c ของโครงการประมาณ 200 เมตรนะ ส่วนทิศตะวันออกติดถนนในซอยนะ ฝั่งตรงข้ามเป็นโครงการ Socio ค่ะ สูง 8 ชั้น เท่ากับโครงการ จากไดอะแกรมจะเห็นว่าในซอยเต็มไปด้วยที่พักอาศัยนะคะ คอนโด 8 ชั้นและบ้าน 2 ชั้นเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
รั้วที่ดินโครงการอยู่ติดกับสำนักงานขายค่ะ
ฝั่งตรงข้ามที่ดินโครงการ (วิวด้าน d) คือโครงการ Socio ค่ะ สูง 8 ชั้น
โครงการตอนนี้ล้อมรั้วไว้นะ มุดไปชะโงกดูได้หน่อยนึง ด้านล่างเป็นภาพมุมมองรอบด้านจากที่ดินโครงการที่เรามุดไปถ่ายมานะ เป็นภาพจากพื้นถนนที่อาจไม่ได้บรรยากาศจริงแบบที่อยู่บนตึกนะ แต่อย่างน้อยจะพอเห็นคร่าวๆว่ารอบๆที่ดินทั้งสี่ด้านเห็นอะไรบ้าง
ภาพจากมุมนี้จะเห็นว่า ทิศใต้ ของโครงการ อยู่ติดบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จะเห็นตึกสีฟ้าของสยามเทลเทคที่สูง 8 ชั้น ถัดๆมาตรงมุมระหว่าง ด้าน a, b ก็จะเห็นพวกตึก 8 ชั้น แถวซอยร่วมฤดี 3 แต่ต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะคะ ว่านี่เป็นมุมจากพื้นถนน ถ้าเป็นบนโครงการที่อยู่อาศัยเริ่มจากชั้น 2 ขึ้นไปจะมองเห็นได้ไกลกว่านี้นะคะ
ทิศตะวันตก ของโครงการก็อยู่ติดบ้านเดี่ยว 2 ชั้นเหมือนกัน แต่มองไม่เห็นเพราะรั้วบังน่ะนะ เราจะมองตึก 4 ชั้น และ 8 ชั้น จากซอยร่วมฤดี 3
ทิศเหนือนี่คนชอบวิวตึก วิวเมืองน่าจะชอบนะคะ ดูมีความเป็นเมืองสูง คือเราจะเห็น บ้านเพลินจิตในซอยร่วมฤดี 2 ที่สูง 20 ชั้น เห็นโรงแรม Aetas สูง 24 ชั้น ที่หน้าทางเข้าซอยร่วมฤดี 2 และกลุ่มอาคาร All Seasons Place ที่ตึกสูง 52 ชั้น และ 27 ชั้น จริงๆในกลุ่มตึกนั้นถ้าไม่มีพุ่มไม้มาบังวิว หรือเรายืนอยู่บนพื้นอาคารตามปกติ เราจะเห็นโรงแรม Conrad ในกลุ่ม All Season ด้วยค่ะ
เข้าไปดูในสำนักงานขายกันหน่อย
สำนักงานขายเปิดทุกวันนะคะ 9.30 – 18.30 น.
เข้าไปข้างในบรรยากาศเป็นแบบนี้ มีโมเดลอยู่ฝั่งขวามือ มีเคาน์เตอร์อยู่ด้านใน
เคาเตอร์พนักงานขายกำลังวุ่นๆ
เรามาดูโมเดลกันดีกว่า ลักษณะอาคารขึ้นตามทรงที่ดินซึ่งได้มาเป็นผืนรูปสี่เหลี่ยมเกือบๆจตุรัส ดีไซน์ตามคอนเซ็ปโมเดิร์น คลาสสิค รายละเอียดของเปลือกอาคารหลักๆเป็นโทนเทาอมน้ำตาล มีมิติการยุบเข้าของระเบียงในแต่ละห้องพร้อมราวกันตกสีเดียวกันกับโทนสีอาคาร ตัวตึกเป็นอาคารรูปตัว U เมื่อมองจากด้านบน เปลือกอาคารฝั่งขวามือโดดเด่นด้วยผนังปูนเซาะร่องสีขาว เหมือนเป็นผนังอิฐก้อนใหญ่สีขาว 2 ชั้นบนเป็นห้อง Duplex 2 ชั้น มีระเบียงสวนส่วนตัว อารมณ์แบบอาคารสไตล์ยุโรป, มี Courtyard หรือสวนขนาดเล็กตรงกลางอาคาร, บนดาดฟ้ามีสวน ลานบาร์บีคิวและลานโยคะ, สระว่ายน้ำอยู่ชั้นล่างสุดด้านหน้าค่ะ มาดูโมเดลกันทีละส่วน ไล่จากสระว่ายน้ำชั้นล่างกันก่อนนะ
สระว่ายน้ำของโครงการขนาด 14.5 x 5 m. ลึก 1.2 เมตร เป็นระบบน้ำล้น มีจากุซซี่ มีชายคายื่นไว้หลบแดดครึ่งนึง ล้อมรอบด้วยรั้วไม้พุ่มสูงประมาณ 5 เมตร ด้านนอกรั้วพุ่มไม้มีติดแท่งโคมไฟเป็นจังหวะ รั้วโครงการเป็นสีขาว(ข้างรั้วพุ่มไม้) สูง 3 เมตร
ที่นั่งด้านข้างสระโซน 1 ตั้งอยู่บนพื้นข้างสระที่ลดระดับลงมา ใช้น้ำล้นข้างสระเป็นเหมือนผนังน้ำตก ผนังอีกฝั่งเป็นรั้วพุ่มไม้น่าจะดูดี แต่ในแง่ Zoning ที่นั่ง โซนเบอร์ 1 จะอยู่ไกลระยะเดินไปสระไปหน่อยนะ เหมือนที่นั่งสระว่ายน้ำจริงๆอยู่โซน 2 เพราะใกล้จุดขึ้นลงสระมากกว่า ด้านหลังที่นั่งโซน 2เป็นคอร์ทยาร์ดหรือสวนเล็กๆตรงกลาง
เมื่อมองโมเดลจากด้านบน เราจะเห็นคอร์ทยาร์ดที่อยู่ชั้น 2 ค่ะ
ดาดฟ้าด้านบนจัดเป็นลานบาร์บีคิว มีศาลานั่งพักผ่อน ราวกันตกเป็นรั้วพุ่มไม้
มีสวนเล็กๆให้
สวนดาดฟ้ามีรูปร่างเป็นรูปตัว U นะ โถงลิฟต์แจกออกฝั่งซ้ายและขวา ภาพด้านบนถ่ายจากด้านหลังอาคารนะ ก็คือลานบาร์บีคิวอยู่ฝั่งซ้าย ลานโยคะอยู่ฝั่งขวา
เปลือกอาคารฝั่งขวาเป็นผนังปูนเซาะร่องสีขาว ให้ลุคแบบอาคารอิฐก้อนใหญ่สีขาวสไตล์ยุโรป ลักษณะเหมือนผนังปูนเซาะร่องของสำนักงานขายอันนี้ค่ะ
2 ชั้นบนฝั่งนี้เป็นห้องแพงสุด แบบ duplex 2 ชั้น 3 ห้องนอน ขนาด 87 ตารางเมตร มีระเบียงสวนส่วนตัว เท่าที่สอบถามราคาโดยประมาณห้องนี้ราคา 19 ล้านบาทค่ะ ตกตารางเมตรละ 218,000 บาท หรูหราราคาโหด บอกเลย เหมือนจะมีคนซื้อไปแล้วด้วย บอกเลย
ด้านข้างอาคารเป็นแบบนี้ค่ะ ไปดูรายละเอียดผังโครงการกันเลย
Product Walkthrough
ชั้นล่างสุดของอาคารทำเป็นที่จอดรถค่ะ และยังมีชั้นใต้ดินอีก 1 ชั้นที่สามารถจอดรถได้อีก จำนวนที่จอดรถประมาณ 50% แต่จอดซ้อนคันไม่ได้นะคะ เนื่องจากขนาดของที่ดินที่จำกัด ทำให้ถ้าจอดซ้อนแล้วจะกลับรถลำบาก ทางเข้าอาคารคือทางเข้าติดถนนด้านหน้า ทางเดียวกับทางเข้ารถค่ะ เข้ามาจะเห็น Rack จอดจักรยานซ้ายมือ ป้อมรักษาความปลอดภัยอยู่ขวามือ จากในแปลนมีการทำทางเท้าที่จุด drop-off หน้าทางเข้าอาคารนะคะ
หลังจาก Drop-off กันเสร็จแล้ว เข้าไปจะเจอกับ Lobby ที่มีบันไดเวียนที่เชื่อมขึ้นไปชั้น 2 ได้ วางอยู่กลางล้อบบี้เลย ส่วนโถงลิฟท์อยู่แยกออกไปอีกจุดหนึ่ง โครงการมีลิฟต์ 2 ตัวค่ะเป็นลิฟต์ล็อกชั้นนะ ชั้นนี้ติดกับโถงลิฟต์จะมีตู้จดหมายด้วย และห้องซักรีดก็อยู่ชั้นนี้เช่นกันค่ะ
ผังอาคารชั้น 2 จะเป็นชั้นที่มีพื้นที่ส่วนกลางอย่างห้องฟิตเนส, สระว่ายน้ำ และคอร์ทยาร์ดตรงกลางค่ะ มีระเบียงพักผ่อนเล่นระดับข้างสระน้ำและในสวนตรงกลาง (อธิบายไปแล้วในภาพโมเดลด้านบนนะ) สระว่ายน้ำเป็นแบบ Outdoor แต่มีชายคายื่นมาบังแดดครึ่งนึง เป็นสระแบบ Aquatic Pool พร้อมสระ Jacuzzi ขนาด 14.5 x 5 ม. ลึก 1.2 ม. มีห้อง Steam และ Sauna มีโซนแบ่งไว้ให้ซ้อมมวยด้วยนะ
ชั้นนี้จะมียูนิตที่พักอาศัยอยู่ด้วยค่ะ ข้อดีของห้องพักในชั้นนี้ คือ คนอยู่จะรู้สึกเหมือนมีสระว่ายน้ำและฟิตเนสเป็นของตัวเอง เพราะไม่ต้องขึ้น-ลงลิฟท์มาใช้งาน เปิดประตูออกจากบ้าน เดินไปกระโดดลงสระได้เลย ถ้าเป็นคนไม่ชอบใช้ลิฟต์ก็ใช้บันไดลงไปที่ล้อบบี้ได้สบายๆ แต่ก็จะมีข้อเสียคือจะเจอเสียงรบกวนจากพื้นที่ส่วนกลาง
ใน Floor Plan นี้ เราวางไดอะแกรมทิศแดดและลมมาให้ดูเพิ่มนะคะ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ทิศทางลมของประเทศไทยส่วนใหญ่ลมจะมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้ ส่วนในหน้าหนาวลมจะมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้นห้องบริเวณทิศเหนือตะวันออก ( โซนยูนิตB2-1 และ A3-6,A3-5) และทิศใต้ตะวันออก (โซนฟิตเนสและสระว่ายน้ำและA2-1) จะได้รับแดดช่วงเช้าที่ไม่จัดมาก รวมทั้งได้รับลมในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ
ชั้น 3-6 จริงๆนั้นมีผังเหมือนกันแทบทุกอย่างนะคะ ต่างกันแค่ส่วนห้อง D1-2, D1-1 ที่เป็นห้องแบบ 2 ชั้นนะ เดี๋ยวอธิบายรายละเอียดในผังห้องอีกทีนะ แต่ละชั้นจะมียูนิตที่พักอาศัยชั้นละ 23 ห้องค่ะ ห้องบริเวณทิศเหนือตะวันออกและทิศใต้ตะวันออก ( B2-1 , A3-6, A5-1, D1-1, D1-2, A1-1) จะได้รับแดดเช้าที่ไม่จัดมาก รวมทั้งได้รับลมในปริมาณที่เหมาะสม
ส่วนห้องฝั่งตะวันตก (A2-2, B3-3, B3-2, B1-1) จะเป็นห้องส่วนที่ได้รับแดดช่วงบ่าย ซึ่งร้อนกว่าและไม่ค่อยมีลมค่ะ ตัว corridor หรือโถงทางเดินแจกแต่ละยูนิตกว้าง 1.5 เมตร ฝั่งใต้ (ทางเดินหน้าห้อง A2-1, A3-1) จะสว่างกว่าส่วนอื่นด้วยแสงธรรมชาตินะ เพราะมีหน้าต่างมองลงไปเห็นคอร์ทยาร์ดชั้นล่าง
ส่วนห้องB3-1และB4-1 ระเบียงห้องนอกจากจะมองเห็นคอร์ทยาร์ดชั้นล่างแล้ว ยังมองเห็นกันเองด้วยค่ะ ระเบียงห้องทำมุมกัน 90 องศาเลยนะ โดยเฉพาะห้อง B3-1 ซึ่งถูกขนาบด้วยโถงลิฟต์ข้างนึง โถงบันไดข้างนึง จะเจอเสียงรบกวนจากลิฟต์และคนเยอะหน่อย อีกอย่างที่สังเกตเห็นคือ ประตูทางเข้าห้อง (A1-1, D1-2,D1-1) คือใกล้กันมากไปหน่อยด้วย แบบเปิดมานี่เป็นระยะตกใจเลยนะ อันนี้ก็ลองพิจารณาดูนะคะ
ผังอาคารชั้น 7 -8 การจัดผังเหมือนกับชั้น 3-6 ค่ะ ต่างกันตรงที่ชั้นนี้ส่วนด้านหน้า หรือปลายของตัว C เป็นห้องแบบ Duplex Type D หรือห้องที่ควบสองชั้น ทั้ง 2 ฝั่ง ที่อลังคือห้อง D3-1G, D2-1G ห้องบริเวณทิศเหนือตะวันออก ที่ชั้น 7 จะมีระเบียงใหญ่หรือสวนส่วนตัวเล็กๆของแต่ละห้องด้วย (ชั้น 8 ไม่มีส่วนระเบียงนี้นะ) ห้องโซนนี้และทิศใต้ตะวันออก (D1-1, D1-2, A1-1) จะได้รับแดดเช้าที่ไม่จัดมาก รวมทั้งได้รับลมในปริมาณที่เหมาะสมกว่าโซนอื่นๆ
Rooftop หรือชั้นดาดฟ้า จัดเป็นพื้นที่สำหรับผ่อนคลาย มีมุมบาร์บีคิวปาร์ตี้ มีสนามหญ้าเล็กๆ และลานโยคะ Outdoor เป็นเหมือน Relaxing Zone ของลูกบ้าน ที่ทุกคนสามารถขึ้นมาใช้ Rooftop Facilities ชั้นบนนี้ได้
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
- Free-wifi
- มุมบาร์บีคิวปาร์ตี้ สนามหญ้า และลานโยคะ ชั้นดาดฟ้า
- สวนกลางอาคาร (Courtyard) ชั้น 2
- สระแบบ Aquatic Pool พร้อม Jacuzzi ขนาด 14.5 x 5 ม. ลึก 1.2 ม. ชั้น 2
- ห้อง Steam และซาวน่า ชั้น 2
- Fitness & Boxing ชั้น 2
- ลิฟต์ล็อกชั้น
- ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- บริการรถรับส่งโครงการ – BTS เพลินจิต
ภาพจำลองสระแบบอควาติกพูลพร้อมจากุซซี่ขนาด 14.5 x 5 ม. ลึก 1.2 ม. ชั้น 2
ภาพจำลองมุมมองชั้นล่าง ที่นั่งข้างสระเป็นลานต่างระดับ ล้อมรอบด้วยรั้วไม้พุ่มสูงประมาณ 5 เมตร ด้านนอกมีติดแท่งโคมไฟเป็นจังหวะ
ภาพจำลองมุมมองชั้นดาดฟ้า มีมุมบาร์บีคิวปาร์ตี้ สนามหญ้า ลานโยคะ และศาลานั่งเล่น
ภาพจำลองมุมมองศาลานั่งเล่นชั้นดาดฟ้า
ภาพจำลองมุมมอง Lobby ชั้นล่าง และบันไดเวียนขึ้นชั้นบนที่ดูหรูหรา
ภาพจำลองมุมมองห้องฟิตเนสและมีโซนซ้อมมวยให้
แบบห้อง
***โครงการ MAESTRO นี้ไม่มีห้องตัวอย่างนะคะ มีแต่ภาพจำลองห้องตัวอย่างนะ เราถ่ายภาพวัสดุมา เดี๋ยวจะอธิบายเทียบให้ดูนะคะ***
Type A: 1 ห้องนอน ขนาด 25.5-37 ตร.ม.
ขอยกตัวอย่างห้อง Type A2-1 ขนาด 28 ตร.ม. นะคะ
เรามาดู Floor Plan ของห้องนี้กันก่อน ผังห้องนี้เป็นห้องสตูดิโอค่ะ แต่มีบานเลื่อนกระจกใสกั้นส่วนห้องนอนมาให้ จึงจะดูเหมือนเป็นห้อง 1-Bedroom โดยจะเอาไว้กั้นเพื่อกันกลิ่นเวลาทำอาหาร แต่จะใส่เป็นบานกระจกใสสร้างมุมมองที่มีความต่อเนื่องไปที่ระเบียง และรับแสงธรรมชาติต่อจากช่องหน้าต่างที่ระเบียงด้วย เปิดประตูเข้าห้องมาจะมีห้องน้ำอยู่ด้านข้างอ่างล้างมืออยู่ชิดผนังฝั่งขวาเกินไปนะ เวลาใช้งานอย่างล้างหน้าแปรงฟัน ข้อศอกชน มีที่สำหรับวางรองเท้า โซนพักผ่อน, ทานอาหาร และเตรียมอาหารจัดไว้ในโซนเดียวกัน คือเวลาทานข้าวก็จะดูทีวีไปด้วยได้เหมือนนั่งอยู่โซฟาตามปกติ เวลาลำเลียงอาหารก็ง่าย โซนครัวมีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าและส่วนเตรียมอาหารเล็กๆมาให้ มีที่วางตู้เย็น โดยรวมแล้วก็ถือว่าให้ฟังก์ชั่นมาครบตามมาตรฐานสำหรับห้อง 1 ห้องนอน 28 ตารางเมตรค่ะ
โครงการนี้ไม่มีห้องตัวอย่างมาให้ แต่เป็น Fully Furnished ที่ได้เฟอร์นิเจอร์ตามภาพจำลองที่เห็น ไม่รวมพร๊อพและเครื่องใช้ไฟฟ้า รูปแบบของเฟอร์นิเจอร์นี่โครงการออกแบบเอง แบบตามภาพตัวอย่าง มีชื่อเรียกเฟอร์นิเจอร์เซต Fully Furnished ที่ให้ว่าแบบ Milano เท่าที่เราดูจากลุคในภาพตีฟคือเป็น แนว Modern contempolary สไตล์ Italian แต่เรื่องคุณภาพอันนี้เป็นสิ่งที่ผู้ซื้อต้องรับความเสี่ยงเองนะ เพราะไม่มีของจริงให้ดู และโครงการทำเอง เรื่องรายละเอียดวัสดุและดีเทลของเฟอร์นิเจอร์เราจึงไม่สามารถอธิบายอะไรได้มากนะ เราไปดูภาพประกอบกันค่ะ
ภาพจำลองการตกแต่งห้องตัวอย่าง
ภาพจำลองมุมมองจากทางเข้าห้องค่ะ มีบานเลื่อนกระจกใสกั้นส่วนห้องนอนมาให้เพื่อกันกลิ่นเวลาทำอาหาร และมุมมองที่มีความต่อเนื่องไปที่ระเบียง และรับแสงธรรมชาติจากช่องแสงระเบียงด้วย ชุดครัวไม่มีภาพที่ชัดกว่านี้ ได้ชุดครัวของ Haffele ได้ Hob, Hood ของ Electrolux, แอร์มองไม่เห็นว่าติดไว้ตรงไหน แต่ถามมาได้เป็นยี่ห้อ Trane ห้องแบบ 1 ห้องนอน จะได้แอร์ 2 เครื่องค่ะ ( 2 ห้องนอน ได้ 3 เครื่อง, และ 3 ห้องนอนได้ 4 เครื่อง)
พื้นเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ค่ะ ห้องครัวผนังเป็นกระเบื้องลายหินสีเบจ ท้อปของชุดครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาวลายเทาแบบหินอ่อนไวท์คาราร่า ผนังห้องนอนห้องนั่งเล่นเป็นผนังปูนทาสีขาวเรียบค่ะ
นี่เป็นภาพบอร์ดวัสดุที่เราถ่ายมาค่ะ ขอพิมพ์เพิ่มไปให้เห็นภาพง่ายขึ้นนะคะ ว่าส่วนไหนใช้วัสดุอะไร
โซนห้องนอนค่ะ เตียงคู่หุ้มหนังสีดำ มีโต๊ะทำงานผิวไม้ เซตโต๊ะข้างเตียงเป็นท้อปไม้โครงเหล็ก ตู้เสื้อผ้าเป็นไฮกลอสสีอมน้ำตาล พื้นเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังห้องนอนทาสีขาว
A3-3 ขนาด 32.5 ตร.ม.
ผังแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 32.5 ตารางเมตรนี้หน้าห้องจะกว้างขึ้นกว่าแบบ 28 ตารางเมตรนะ และกั้นห้องเป็นสัดส่วนด้วยผนังทึบค่ะ แยกโซนของห้องนอนและห้องทำงาน กับโซนพักผ่อนกับทานอาหารออกจากกัน โดยทั้งสองส่วนได้รับแสงธรรมชาติทั้งคู่ค่ะ ประตูทางเข้าห้องน้ำอยู่ในห้องนอนนะ
Type B: 2 ห้องนอน ขนาด 51-57.5 ตร.ม.
B1-1 ขนาด 57.5 ตร.ม.
ห้องType B แบบ 2 ห้องนอนส่วนใหญ่จะอยู่ตรงหัวมุมค่ะ ได้เป็นห้องหน้ากว้างด้วย การออกแบบสามารถนำแสงธรรมชาติเข้ามาได้ทั้งในส่วนห้องนอนใหญ่, ห้องนอนเล็ก และส่วนพักผ่อน เปิดประตูเข้าห้องมาจะเจอโซนครัวก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งพื้นที่บริเวณครัวนี้น่าจะมืดหน่อย เพราะแสงธรรมชาติน่าจะเข้ามาไม่ถึง แต่ครัวได้มาใหญ่ขึ้นเป็นรูปตัว C มีพื้นที่เตรียมอาหารเยอะขึ้น และมีเคาน์เตอร์บาร์ที่ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นด้วย ใกล้ๆกับครัวและทางเข้าห้องจะมีพื้นที่สำหรับวางตู้รองเท้า และเครื่องซักผ้า โต๊ะรับประทานอาหาร วางอยู่ในห้องนั่งเล่น สามารถนั่งได้ 4-6 คน
ห้องนอนเล็กกับห้องนอนใหญ่มีหน้าต่างทั้งคู่ แต่ว่าห้องนอนเล็กหน้าต่างจะบานเล็กกว่า เนื่องจากเสียพื้นที่ให้กับผนังระเบียงไปเยอะ เพราะต้องวางคอมเพรสเซอร์แอร์ด้วย ระเบียงของห้องนอนเล็กกับห้องนั่งเล่นจะยาวเชื่อมต่อกันเป็นระเบียงใหญ่ ในขณะที่ห้องนอนใหญ่จะมีระเบียงส่วนตัวแยกออกไป ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนเล็กมีห้องน้ำอยู่ด้านนอก ใช้ห้องน้ำร่วมกับส่วน Living
Type D: Duplex ขนาด 47-87 ตร.ม. เป็นห้องแบบ 2 ชั้น นะ
ห้อง D3-1G ขนาด 87 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอนค่ะ ห้องนี้เป็นห้อง Duplex และเป็นห้องที่พิเศษมาก เพราะที่ชั้นล่างของห้องจะมาพร้อมกับพื้นที่สวนและระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ ทั้งโครงการมีแค่ 2 ยูนิตที่มีระเบียงลักษณะนี้
เมื่อเปิดประตูเข้าห้องมาแล้ว ติดกับประตูมีที่วางเครื่องซักผ้าอยู่หน้าห้อง อยู่ใกล้กับโถงบันไดขึ้นชั้นสองพอดี สามารถเปิดประตูเข้าห้องมาปุ๊บ ก็เดินขึ้นชั้นบนได้เลย โดยที่ไม่ต้องเดินผ่านห้อง Living ตรงข้ามกับโถงบันไดเป็นพื้นที่ครัวซึ่งอยู่ติดกับทางเข้าห้องเหมือนกัน ครัวอันนี้ระยะเตรียมอาหารและระยะเปิดตู้เย็นดูจากแปลนนี้อาจจะแคบไปหน่อย เกรงว่าอาจจะใส่ตู้เย็นได้ขนาดค่อนข้างจำกัด พื้นที่ครัวอยู่ค่อนข้างห่างจากโต๊ะอาหารด้วย การลำเลียงอาหารจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ส่วนโซนโต๊ะอาหารแอบเสียดายนิดนึงตรงที่มองไม่เห็นวิวสวนแบบเต็มๆ เนื่องจากผนังข้างๆเป็นผนังทึบ (เข้าใจว่าเพื่อให้ลิ้งค์กับดีไซน์ด้านนอกและเป็นจุดวางแอร์คอมเพรสเซอร์) แต่ยังดีที่มีเจาะช่องแสงเป็นกระจกเข้ามุมมาให้นิดหน่อย โซนห้องนั่งเล่นอลังการด้วยวิวสวนและขนาดที่วางโซฟาเต็มชุดได้สบายๆ
ห้องนอนชั้นล่างทั้งสองห้องอยู่ถัดจากโซนครัวลึกเข้าไปด้านใน มีโถงทางเดินหน้าห้องเล็กๆก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปยังห้องแต่ละห้อง ห้องนอนทั้งสองห้องนี้ดูจากแปลนแล้ว ระยะปลายเตียงค่อนข้างแคบ อาจจะติดทีวีที่ผนังได้ไม่สะดวกนัก ต้องรอดูระยะของจริงอีกทีว่าจะเป็นแบบไหน
มาดูผังชั้น 2 ของห้องนี้กันต่อค่ะ พื้นที่ชั้น 2 นี้จะมีส่วนที่เปิดโล่งแบบ Double Volume ต่อเนื่องขึ้นมาจากบริเวณห้องนั่งเล่น ตรงโซฟาดูทีวีที่อยู่ ชั้นล่าง กลายเป็นผนังสูงราวๆ 6 เมตร สามารถมองมุมกดจากชั้น 2 ลงไปเห็นพื้นที่สวนที่ระเบียงได้เต็มๆ จากในห้องนอน Master Bedroom ที่กินพื้นที่ยาวตลอดทั้งชั้นเลย ชั้นนี้ขึ้นมามีประตูเปิดเข้าห้องอีกทีเพื่อความเป็นส่วนตัว ห้องนอน Master Bedroom นี้มีห้องน้ำในตัว แต่ขนาดห้องค่อนข้างเล็กนะ ใส่ตู้เสื้อผ้าไปก็เต็มแล้ว ถ้าวางเตียง 6 ฟุต ระยะปลายเตียงก็จะยังแคบอยู่เหมือนเดิม (เพราะห้องมาเป็นห้องหน้าแคบอยู่แล้ว)
รายละเอียดการจองห้องชุด @ 11 June 2014
ใบราคายังไม่ออกค่ะ ราคาสอบถามรายละเอียดจากทางโครงการนะคะ
- ค่าใช้จ่ายส่วนกลางนิติบุคคลอาคารชุดประมาณ 50 บาท/ตร.ม. ชำระล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
- เงินกองทุนบำรุงรักษาอาคารประมาณ 500 บาท/ ตร.ม. ชำระ ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
- Fully Furnished
เจาะลึกรวบยอด
โครงการ Maestro 02 ร่วมฤดี ตั้งอยู่ในซอยร่วมฤดี 2 ซึ่งเป็นซอยโซนที่พักอาศัยที่เงียบสงบของย่านเพลินจิตที่เต็มไปด้วยโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์และคอนโดมิเนียม ซอยร่วมฤดีเป็นซอยใหญ่ที่เชื่อมระหว่างถนนเพลินจิตและถนนวิทยุ ที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากจุดขึ้นลงทางด่วนประมาณ 1.1 กิโลเมตร ด้วยที่ตั้งที่อยู่ในใจกลางเมืองย่านธุรกิจอย่างเพลินจิต บวกกับถนนย่านนี้(สยาม,ชิดลม,เพลินจิต,นานา,อโศกเป็นย่านที่มีสี่แยกเยอะนะ ซึ่งส่งผลให้รถติดต่อเนื่องกันไปตามธรรมชาติ ถนนวิทยุเองก็เชื่อมระหว่างสี่แยกเพลินจิตและสี่แยกสารสินทำให้เป็นถนนที่รถติดสุดๆโดยเฉพาะในช่วงเวลาเข้าออกเช้าเย็น คนขับรถเวลาจะไปไหนต้องเผื่อเวลากันหน่อยนะคะ
ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถก็ถือว่าสะดวกสบายนะ โครงการมี Shuttle Bus ส่งถึงรถไฟฟ้า BTS เพลินจิตให้ ถ้าเป็นคนชอบเดินก็จะบอกว่าซอยร่วมฤดีเป็นถนนที่เดินสนุกดีนะ ซอยเต็มไปด้วยโรงแรมหรู ร้านอาหาร และคอนโดที่พักอาศัยที่ดูดีน่ามองและถนนไม่เปลี่ยว แถมไม่เจอแดดมากเพราะตึกช่วยบังแดดไปเยอะ แต่ระยะ 1.1 กิโลเมตรถึง BTS นี่ไม่ใช่ระยะเดินที่ใกล้นะ ถือว่าเป็นระยะเหงื่อตกค่ะ สำหรับกรณีนี้แนะนำใช้วินมอเตอร์ไซค์ที่ประจำอยู่แถวต้นซอยร่วมฤดี ฝั่งโรงแรม Novotel แล้วไปนั่งรถไฟฟ้าหรือรถเมล์เอา (ป้ายรถเมล์อยู่แถวหน้าตึกมหาทุนพลาซ่าเดี๋ยวมีรูปให้ดูและอธิบายรายละเอียดอีกทีนะ ซึ่งรถเมล์จะได้รับการยกเว้นกฎระเบียบหลายข้อที่กล่าวมา เช่น รถเมล์จากเพลินจิตวิ่งตรงผ่านทางด่วนไปสุขุมวิทได้ เป็นต้น) เรียกแท็กซี่ก็มีให้เรียกอยู่เรื่อยๆค่ะ สำหรับคนขับจักรยาน มีสถานีจักรยานที่หน้า Park Venture(สถานีนี้อยู่ใกล้โครงการที่สุด), Wave Place และ หน้าธนาคารกรุงศรีค่ะ
อาคารถูกออกแบบตามทรงที่ดินซึ่งได้มาเป็นผืนรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ดีไซน์ตามคอนเซ็ปโมเดิร์น คลาสสิค รายละเอียดของเปลือกอาคารหลักๆเป็นโทนสีน้ำตาลเทาขรึม มีมิติการยุบเข้าของระเบียงในแต่ละห้องพร้อมราวกันตกสีเดียวกันกับโทนสีอาคาร เปลือกอาคารฝั่งขวามือโดดเด่นด้วยผนังปูนเซาะร่องสีขาว เหมือนเป็นผนังอิฐก้อนใหญ่สีขาว 2 ชั้นบนยุบเข้าไปเป็นห้อง duplex 2 ชั้น มีระเบียงสวนส่วนตัว ระเบียงและผนังอิฐขาวนี่ทำให้อาคารดูมีรายละเอียดที่น่าสนใจขึ้นนะ มีความเป็นโมเดิร์นคลาสสิคตามคอนเซ็ปเพิ่มขึ้นด้วย มีคอร์ทยาร์ดหรือสวนขนาดเล็กตรงกลาง บนดาดฟ้าหรือรู้ฟท้อปมีสวน ลานบาร์บีคิวและลานโยคะ สระว่ายน้ำอยู่ชั้นล่างสุดด้านหน้าค่ะ ล้อมด้วยรั้วต้นไม้สูง 5 เมตร รั้วโครงการสูง 3 เมตร โครงการให้พื้นที่ส่วนกลางมาเยอะนะ ถ้าเทียบกับที่อื่น สระให้มาแบบอควาติกพูลพร้อมจากุซซี่ขนาด 14.5 x 5 ม. ลึก 1.2 ม. มีห้องสตรีมและซาวน่า ห้องFitnessมีโซนให้ซ้อมต่อยมวยได้ด้วย
ขนาดพื้นที่ใช้สอยในยูนิตโดยรวมถือว่าให้มาค่อนข้างงเล็กนะ ถ้าเทียบกับห้องโครงการอื่นๆในย่านเดียวกัน แต่ 1 Bedroom ขนาด 28 ตารางเมตรจัดพื้นที่ใช้สอยมาได้ลงตัวดีนะ ห้องDuplex 2 ชั้นขนาดใหญ่สุดอยู่ที่ 87 ตารางเมตร ที่มีระเบียงสวนส่วนตัว อันนี้ระยะเตรียมอาหารและระยะเปิดตู้เย็นดูยังไม่ค่อยลงตัวนะ และค่อนข้างห่างจากโต๊ะอาหารด้วย โซนโต๊ะอาหารผนังฝั่งสวนที่ระเบียงเป็นผนังทึบแอบเสียดายนะ ไม่เห็นวิวสวน (แต่ก็เข้าใจว่าลิ้งค์กับดีไซน์ด้านนอกและเป็นจุดวางแอร์คอมเพรสเซอร์) แต่มีเจาะช่องแสงเป็นกระจกเข้ามุมมา โซนห้องนั่งเล่นอลังการด้วยวิวสวนและขนาดที่วางโซฟาเต็มชุดได้สบายๆ ห้องนอนชั้นล่างทั้งสองห้อง ไม่มีระยะวางทีวีที่เหมาะสมนะ แคบไปบ้าง ผนังไม่เต็มบ้าง ห้องนอนชั้น 2 ค่อนข้างเล็กนะ ใส่ตู้เสื้อผ้าไปก็เต็มแล้วถ้าใช้เตียงคู่ ระยะวางทีวีปลายเตียงก็แคบค่ะ
วัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่ได้ถือว่าธรรมดานะถ้าเทียบกับราคาระดับนี้ ชุดครัวของ Haffele ท้อปเป็นหินสังเคราะห์ ผนังครัว พื้นและผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องผิวด้านอิตาเลียที่ดูดีนะ ชุดโต๊ะและชั้นเป็นไฮกลอส แต่พื้นเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ห้องน้ำ American Standard และผนังห้องนอกจากผนังครัวและห้องน้ำเป็นผนังปูนฉาบเรียบทาสีขาวธรรมดา
โดยรวม Maestro 02 ร่วมฤดี จัดเป็นโครงการที่ทำออกมาได้น่าอยู่ อยู่ในย่านที่พักอาศัยที่เงียบสงบและทำเลราคาสูงอย่างเพลินจิต จุดขายหลักของโครงการคือขายทำเลนั่นเอง บวกกับในซอยร่วมฤดีที่เงียบสงบนี้ที่ดินเปล่าเริ่มหายากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยราคาที่สูงระดับนี้ ทางเลือกที่คุ้มค่าทางด้านการเงินมากกว่าจึงมีอยู่มากมาย คนที่จะเลือก Maestro 02 ร่วมฤดี จะต้องเป็นคนที่ใจรัก เห็นแล้วชอบดีไซน์ของอาคาร และมองหาที่อยู่ย่านเพลินจิต ไม่ได้เน้นที่หาของถูก มีงบประมาณ ระดับ 4.5 – 8 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 30,000 – 50,000 บาท ขึ้นไป
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 150,000 บาทต่อตารางเมตร, 11 June 2014
- ทำเล 8/10 – ทำเลดี สำหรับคนมองหาบ้านในย่านนี้ ครบเครื่องและอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมือง ขณะเดียวกันก็มีความเงียบสงบในซอยที่เป็นย่านที่พักอาศัยราคาแพง
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – อยู่ห่างจากจุดขึ้นทางด่วนประมาณ 1 กิโลเมตรและอยู่ใจกลางเมืองอยู่แล้ว แต่หักคะแนนรถติด
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – เรียกรถง่ายมีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ ปลอดภัยไม่เปลี่ยว เดินไป BTS เพลินจิตได้ แต่ไกลหน่อย
- วัสดุ 7 /10 – ธรรมดาถ้าเทียบกับราคาระดับนี้ (คะแนนนี้ให้ขณะที่ไม่มีห้องตัวอย่างนะคะ จากลิสต์วัสดุที่ได้)
- แบบ 7.5/10 – ออกแบบมาค่อนข้างลงตัว แต่ก็มีจุดให้ติอยู่บ้าง เช่นช่องแสง ตำแน่งการวางของต่างๆ
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – ให้เยอะถ้าเทียบกับโครงการอื่นที่เป็น Low Rise ด้วยกัน
- HIGH CLASS
- 7.7 / 10.00
BOTTOM LINE
Maestro 02 ร่วมฤดี เหมาะกับคนมองหาบ้านย่านเพลินจิตต้องการโครงการที่เดินทางสะดวก จอดรถพอเพียง พอจะเดินไปรถไฟฟ้าได้ และมีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ห้าง และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ เป็นคนซื้อของดูของที่ชอบและเหมาะกับตัวเอง ไม่ได้เน้นที่หาของถูก มีงบประมาณ ระดับ 4.5 – 8 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 30,000 – 50,000 บาท ขึ้นไป