รีวิว LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว) คอนโดพร้อมอยู่ใกล้เซ็นทรัลลาดพร้าวและรถไฟฟ้า ในระยะเดินได้สบายๆ เพียง 200 – 350 เมตร เท่านั้นค่ะ ใครสนใจโซนนี้คงทราบว่ามีหลายโครงการให้เลือกเลยทีเดียว ซึ่งแม้ว่าโครงการนี้จะมีราคาสูงกว่าโครงการข้างเคียงเล็กน้อย แต่ของที่ให้มาก็น่าสนใจกว่าโครงการรอบๆ ด้วยเช่นกัน ราคา 1 ห้องนอนเริ่ม 5.29 ล้านบาท* เบื้องต้นเราลิสต์ประเด็นที่น่าสนใจของโครงการมาให้ ดังนี้ค่ะ

  • ทำเลเดินไปเซ็นทรัลและรถไฟฟ้าได้ : โครงการอยู่ติดถนนพหลโยธินเลยค่ะ ใกล้ทั้งรถไฟฟ้าและเซ็นทรัลลาดพร้าว เพียง 200 – 350 เมตร เท่านั้น นอกจากนี้ทำเลยังอยู่เยื้องๆ กับเซ็นทรัลพหลโยธิน (เซ็นทรัลใหม่ ชื่อยังไม่เป็นทางการ) ให้เดินไปได้ประมาณ 350 เมตร อีกทั้งไม่ไกลจากสวนจตุจักร และสวนรถไฟ 700 ไร่
  • เงียบสงบ เป็นส่วนตัวสูง : เพื่อนบ้านเพียง 598 ยูนิต ถือว่าไม่เยอะเลยสำหรับคอนโด High Rise ในโซนนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เพื่อนบ้านเกือบ 1,000 ยูนิตกันเลยค่ะ
  • ส่วนกลางหรูหรา เทควิวมุมสูง : มีส่วนกลางให้ใช้งานครบครันถึง 6 ชั้น กระจายตัวอยู่หลายจุด เข้าถึงได้ง่าย ไฮไลต์คือ ส่วนกลาง 4 ชั้นบนสุด ที่เทควิวมุมสูงได้กว้างและออกแบบหรูหราน่าใช้งาน ฟังก์ชันตอบโจทย์ทั้งการพักผ่อนและทำงาน
  • ห้องฝ้าเพดานสูง 4.4 เมตร (Vertiplex) : ถือเป็นโปรดักส์ที่ไม่ค่อยมีในโซนนี้ แถมยังมีแบบให้เลือกเยอะทีเดียว อยู่ตั้งแต่ชั้น 35-39 ได้วิวมุมสูงทุกห้องเลย
  • แบบห้องหลากหลาย : ทั้งแบบปกติ และฝ้าเพดานสูง เน้นเป็นห้อง 1 Bedroom ที่เหมาะสำหรับ 2 คน ไปจนถึงห้องที่รองรับครอบครัวขยาย 2-3 คนได้สบาย ส่วนใหญ่ได้ครัวแบบปิด และห้องนอนขนาดใหญ่พร้อม Walk-in Closet ในตัว

รายละเอียดจะเป็นอย่างไรตามไปชมกันเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว) ณ วันที่ 23 เมษายน 2567

 ชื่อโครงการ  LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  UPPER-HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร
 ที่ดิน  2-2-92.2 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 40 ชั้น
 จำนวนยูนิต  598 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด  19 ยูนิต
 ที่จอดรถ  ประมาณ 283 คัน หรือคิดเป็น 47% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน )
 เริ่มก่อสร้าง  Q4 ปี 2564
 สถานะปัจจุบัน  สร้างเสร็จพร้อมอยู่ Q2 ปี 2567
 ประเภทห้องพัก
  • Studio ขนาด 28.5 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 42.5 ตร.ม.
  • 2 Bedroom ขนาด 57-65 ตร.ม.
  • Vertiplex – 1 Bedroom  ขนาด 28.5 ตร.ม.
  • Vertiplex – 1 Bedroom  ขนาด 35-40.5ตร.ม.
  • Vertiplex – 2 Bedroom  ขนาด 42.5 ตร.ม.
  • Vertiplex – 3 Bedroom  ขนาด 57-65 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง Simplex 2.55 เมตร ในแบบห้องปกติ /Vertiplex 4.4 เมตร ในแบบห้องฝ้าเพดานสูง
 ราคาเริ่มต้น ห้องแบบปกติ Simplex เริ่ม 5.29 ล้านบาท*
ห้องฝ้าเพดานสูง Vertiplex เริ่ม 8.89 ล้านบาท*
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ ประมาณ 150,000 บาท/ตร.ม.
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่
 Call Center  1623

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.818961, 100.563693
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว) ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน “ทำเลห้าแยกลาดพร้าว” ซึ่งมีจุดที่น่าสนใจอยู่หลายประเด็นเลย เราสรุป Highlight ให้เห็นภาพรวมกันก่อนดังนี้

  • จุดตัดของถนนวิภาวดีรังสิต พหลโยธิน และลาดพร้าว เดินทางสะดวกเชื่อมต่อได้หลากหลาย
  • ใกล้รถไฟฟ้าหลายสาย ที่ใกล้สุดคือสายสีเขียวที่ BTS ห้าแยกลาดพร้าวเพียง 200 เมตรเท่านั้น อีกทั้งยังใกล้สายสีน้ำเงิน และสายสีเหลืองด้วยค่ะ
  • ทำเลเดินไปห้างใหญ่ได้ ทั้งเซ็นทรัลลาดพร้าว, Union Mall และเซ็นทรัลพหลโยธิน (ในอนาคต ชื่อยังไม่เป็นทางการ)
  • ใกล้สวนจตุจักร และสวนรถไฟ ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 700 ไร่
  • ย่าน Office Building ทำเล CBD ของกรุงเทพตอนเหนือ ใกล้สำนักงานใหญ่หลายแห่ง

ห้าแยกลาดพร้าว : เป็นจุดตัดของถนนสำคัญหลายเส้นอย่างถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพหลโยธิน และถนนลาดพร้าว สามารถใช้เข้า – ออกเมืองได้สะดวก ภาพรวมการเดินทางถือว่าสะดวกสบาย แต่อย่างที่รู้กันว่าการจราจรถือว่าหนาแน่นมาก จึงควรเผื่อเวลาการเดินทางสักหน่อยค่ะ

  • ถนนวิภาวดีรังสิต : เป็นเส้นทางที่ใช้เดินทางเข้าเมืองไปยังดินแดง ต่อเนื่องไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้ หรือจะใช้เดินทางเพื่อออกไปยังรังสิตก็ได้ และยังเป็นถนนหลักที่ใช้เดินทางไปยังท่าอากาศยานดอนเมืองได้อีกด้วย
  • ถนนพหลโยธิน : เป็นถนนหลักด้านหน้าโครงการขาออกเชื่อมต่อไปยังบางเขน ส่วนขาเข้าเมื่อผ่านห้าแยกนี้ไปก็จะเป็นโซนอารีย์, สะพานควาย ซึ่งเป็นอีกแหล่งงาน และความอุดมสมบูรณ์ที่สำคัญอีกโซนหนึ่งเลย
  • ถนนลาดพร้าว : ถนนเส้นนี้จะยาวต่อเนื่องไปยังบางกะปิ, ลำสาลี และสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนรัชดาภิเษก, ถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เชื่อมต่อกับถนนรามคำแหงได้

ใกล้รถไฟฟ้าหลายสาย : นอกจากห้าแยกลาดพร้าวจะเป็นจุดตัดของถนนหลายสายแล้ว เส้นทางรถไฟฟ้าเองก็เป็นสถานี Interchange เชื่อมต่อกันหลายสายเช่นกัน การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจึงถือเป็นตัวเลือกในการเลี่ยงรถติดที่น่าสนใจค่ะ

  • สายสีเขียว ที่สถานี BTS ห้าแยกลาดพร้าว ห่างจากโครงการประมาณ 200 เมตร เท่านั้น ใช้เดินทางเข้าเมืองไปอารีย์, พญาไท, สยาม, อโศก, ทองหล่อ, เอกมัย, สุขุมวิทได้สะดวกเพียงต่อเดียวเท่านั้น
  • สายสีน้ำเงิน ที่สถานี MRT สถานีพหลโยธิน ห่างจากโครงการประมาณ 700 เมตร เป็นระยะที่เดินเหนื่อยหน่อย แต่สามารถนั่งไปย่านรัชดา พระราม9 อโศก ได้สะดวกเลย
  • สายสีเหลือง สามารถใช้เดินทางไปตามเส้นลาดพร้าว-ลำสาลี-ศรีนครินทร์-สำโรงได้ โดยสถานีต้นสายคือสถานีรัชดา จากโครงการนั่ง MRT ไปเพียง 1 สถานีเท่านั้นค่ะ (ตรงบริเวณอาคารจอดรถใต้ดินลาดพร้าว)

ทำเลเดินไปห้างใหญ่ได้ : โดยโครงการตั้งอยู่เยื้องกับเซ็นทรัลลาดพร้าว และเซ็นทรัลพหลโยธิน (โครงการใหม่) แบบเดินไปได้สบาย หรือจะห้าง Union Mall ก็อยู่ฝั่งเดียวกับโครงการเลยเดินไปง่ายเช่นกัน ถือเป็นทำเลที่ไม่ว่าจะ shopping หาของกิน ของใช้ Entertainment อะไรก็ถือว่าสะดวกสบายเลย หรือใครทำอาหารเอง อยากซื้อของสดเข้าบ้าน โครงการก็ใกล้กับ Lotus ลาดพร้าว เลย หรือถ้าชอบแนวตลาดนัด เดินเลยไปอีกหน่อยก็มี  JODD FAIRS แดนเนรมิต หาของกินกันได้ใกล้ๆ ไม่มีเบื่อเลยค่ะ

ใกล้สวนสาธารณะขนาดใหญ่กว่า 700 ไร่ : จากคอนโดชั้นสูงหน่อย…ทั้งจากพื้นที่ส่วนกลาง และห้องพัก(บางยูนิต) จะมองเห็นสวนจตุจักร และสวนรถไฟได้ หรือใครจะไปวิ่ง ออกกำลังกาย Picnic สูดอากาศ ทำกิจกรรมต่างๆกันที่สวนก็ได้เช่นกัน ซึ่งระยะทางจากโครงการเดินไปถึงสวนจตุจักร ประมาณ 1 กม. ถือเป็นการวอร์มร่างกาย ก่อนเอาจริงที่สวนนะคะ

ย่าน Office Building : ทำเล CBD ของกรุงเทพตอนเหนือ บนเส้นวิภาวดีรังสิตจะมีกลุ่มอาคารสำนักงานใหญ่ๆ อยู่เป็นจำนวนมาก ถือเป็นแหล่งงานที่สำคัญของกรุงเทพ ซึ่งหลายๆสำนักงานสามารถเดินไปได้จากที่ตั้งโครงการเลยค่ะ ทั้งตึก TTB, SJ, Sun Tower, TST Tower, ตึกเล้าเป้งง้วน, สนง.ใหญ่การบินไทย รวมไปถึงโครงการเมกะโปรเจคอย่าง S-OASIS OFFICE BUILDING ที่กำลังจะเปิดใช้งานเร็วๆนี้ และ Mochit Complex ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ ซึ่งหากใครที่ทำงานอยู่บริเวณนี้ ก็ถือว่าสะดวกทีเดียว จะเดินก็มีสะพานลอยข้าม หรือนั่งรถสาธารณะก็ไม่ไกล

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ… ถ้าพูดในแง่ของทำเลที่เป็นทั้งย่าน Office Buildingใกล้รถไฟฟ้าใกล้ห้าง และสวนสาธารณะ ในกรุงเทพก็จะมีโซนอโศกที่ใกล้สวนเบญจกิติ และโซนสีลม-ศาลาแดงที่ใกล้สวนลุมพินี ซึ่งคอนโดในโซนเหล่านี้จะมีราคาเฉลี่ยสูงถึง 2XX,000-3XX,000 บาท/ตร.ม. ไปแล้ว ถือว่าสูงทีเดียวเมื่อเทียบกับคอนโดในโซนห้าแยกลาดพร้าวซึ่งใกล้กับสวนจตุจักร+สวนรถไฟ และย่าน Office Building ตอนเหนือของกรุงเทพ ที่คอนโดส่วนใหญ่ในโซนนี้จะมีราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ อยู่ในช่วงประมาณ 110,000-190,000 บาท/ตร.ม.ทำให้สำหรับใครที่มองหาคอนโดสำหรับอยู่อาศัยเอง หรือเพื่อลงทุนปล่อยเช่า คอนโดในโซนใกล้ห้าแยกลาดพร้าวถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ

LIFE Phahon-Ladprao ปัจจุบันมีราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 150,000 บาท/ตร.ม. เริ่มต้น 5.29 ล้านบาท* ซึ่งถือว่าสูงกว่าหลายโครงการในโซนนี้เหมือนกัน แต่ก็แลกมาด้วยความสะดวกสบายทั้งใกล้รถไฟฟ้า และห้างใหญ่แบบเดินไปได้สบาย อีกทั้งในอนาคตตรงข้ามโครงการจะมี Mega project อย่างโครงการ Mixed use ขนาดใหญ่ของ CPN ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเซ็นทรัลลาดพร้าว บนที่ดินกว่า 48 ไร่ เชื่อม ถ.พหลโยธิน และ ถ.วิภาวดี ที่กำลังจะเกิดขึ้น ส่งผลให้การพัฒนาทำเลรอบๆ ห้าแยกลาดพร้าวก็จะสูงขึ้น ทำให้ในอนาคตที่ดินในโซนนี้ก็คงมีมูลค่าที่สูงขึ้นตามไปด้วยค่ะ

Zoom เข้ามาให้เห็นตำแหน่งโครงการชัดๆ หากเดินลง Skywalk (เส้นสีแดง) จาก BTS ห้าแยกลาดพร้าว จุดที่ใกล้โครงการที่สุดจะอยู่แถวหน้า Lotus ลาดพร้าวเลย เดินไปประมาณ 100 เมตร ก็ถึงโครงการแล้วค่ะ ซึ่งตรงนี้หากนับจาก BTS ทางออก 4 (สีเหลือง) จะมีระยะประมาณ 200 เมตรนะคะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการ LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว) ทางทิศเหนือ และทิศตะวันตกส่วนใหญ่เป็นอาคารแนวราบ และห้างสรรพสินค้า ซึ่งห้องพักของโครงการจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 8 ขึ้นไปได้วิวค่อนข้างโล่งเลย ส่วนทิศตะวันออก และทิศใต้ จะตรงกับอาคารสำนักงาน และคอนโดสูง แต่ก็อยู่ในระยะห่างประมาณหนึ่งไม่ได้ประชิดจนมีประเด็นที่น่าเป็นห่วงอะไรค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ ลานจอดรถ กองบังคับการปราบปราม และที่ว่าง
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ที่จอดรถ อาคารสำนักงาน และคอนโดสูง
  • ทิศใต้ ติดกับ Lotus ลาดพร้าว และคอนโดสูง
  • ทิศตะวันตก ติดกับถนนพหลโยธิน แนวรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ตรงข้ามถนนเป็น ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพหลโยธิน (โครงการใหม่) และ เซ็นทรัลลาดพร้าว

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Tesco Lotus ~ 110 m. (ระยะเดิน)
  • เซ็นทรัลลาดพร้าว ~ 350 m. (ระยะเดิน)
  • เซ็นทรัลพหลโยธิน (โครงการในอนาคต ชื่อยังไม่เป็นทางการ) ~ 350 m. (ระยะเดิน)
  • Union Mall ~ 550 m. (ระยะเดิน)
  • Big C Extra ~ 1.6 km.
  • Major รัชโยธิน ~ 3.2 km.
  • ตลาดนัดจตุจักร ~ 3.3 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลเปาโล สะพานควาย ~ 3.5 km.
  • โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ~ 6 km.
  • โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ~ 6.4 km.
  • โรงพยาบาลวิภาวดี ~ 8.6 km.

โรงเรียน

  • โรงเรียนหอวัง ~ 230 m. (ระยะเดิน)
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 10.4 km.
  • มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น ~ 1.1 km.

สถานที่ราชการ

  • กองบังคับการปราบปราม ~ 45 m.
  • สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาจตุจักร ~ 2.5 km.

รายละเอียดโครงการ

LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว) ตอนนี้คอนโดสร้างเสร็จเกือบจะ 100% ใกล้ให้เข้าอยู่ได้แล้ว โดยจะเริ่มโอนในช่วงปลายเมษานี้ค่ะ ซึ่งคอนโดแบรนด์ LIFE ในโซนใกล้เซ็นทรัลลาดพร้าวก็จะมีรุ่นพี่อย่าง LIFE ลาดพร้าว ที่ Sold Out ไปเป็นที่เรียบร้อย ส่วน LIFE Ladprao Valley ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกัน

สำหรับโครงการ LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว) ที่จะพาไปชมในวันนี้นั้นออกแบบมาได้แตกต่างจาก 2 โครงการรุ่นพี่ โดยจะเน้นตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ชอบความสงบ มีเพื่อนบ้านเพียง 598 ยูนิต ซึ่งถือว่าน้อยกว่าคอนโด LIFE โครงการก่อนหน้ามากทีเดียว และน้อยกว่าโครงการรอบข้างที่ส่วนใหญ่มีจำนวนเกือบ 1,000 ยูนิตด้วยค่ะ

อีกประเด็นนึงคือ Facility ส่วนกลางของแบรนด์ LIFE ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความโอ่อ่า หรูหราอยู่แล้ว ซึ่งที่นี่มีส่วนกลางให้ใช้งานครบครันถึง 6 ชั้น เทควิวได้กว้าง ได้ทั้ง Park view และ City view เอาจริงๆ เรามองว่าส่วนกลางขนาดใหญ่ไม่แพ้คอนโด 1,000 ยูนิตเลย แต่ที่นี่มีเพื่อนบ้านเพียง 598 ยูนิต เรียกว่าแชร์กันใช้ได้สบายๆ แต่ราคาห้องก็จะสูงกว่าคอนโดส่วนใหญ่ในละแวกนี้ด้วยเช่นกัน

LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว) เป็นคอนโด 40 ชั้น บนที่ดินเกือบ 3 ไร่ ในจำนวน 598 ยูนิต ซึ่งฟังก์ชันในแต่ละชั้น เราสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้

  • ชั้น 1 ชั้นส่วนกลาง : Entrance, Green Pavilion, Drop off, The Parlour, Exclusive Lobby, Cozy Lounge, Privilege Lounge, Shop, Juristic Room
  • ชั้น 2-7 ที่จอดรถ
  • ชั้น 8 ชั้นพักอาศัยห้อง Simplex  + ชั้นส่วนกลาง : The Cardio Club, Sky Garden
  • ชั้น 9 – 34 ชั้นพักอาศัยห้อง Simplex
  • ชั้น 35 – 37 ชั้นพักอาศัยห้อง Vertiplex
  • ชั้น 38 ชั้นพักอาศัยห้อง Vertiplex + ส่วนกลาง : Exclusive Sky Club, The sky wing, The sunset wing, The entertainment
  • ชั้น 39 ชั้นพักอาศัยห้อง Vertiplex + ส่วนกลาง : Social Club, The Cloud Corner, Private Meeting, Family Meeting, Social Meeting, Private Living
  • ชั้น 40 ชั้นส่วนกลาง : Sky Pool Bed, Sky Pavilion Seat, Sky Lap Pool, Kids Pool, Sky Jacuzzi, Active Club, Burning Club, Private Gym, Steam/Sauna
  • ชั้น Rooftop – ชั้นส่วนกลาง : Sky Private Seat, Panoramic Sky Hill, Sky Courtyard, Sky Rooftop Bar, Private Sky Yard, Private Backyard

Master Plan เมื่อเข้าโครงการมาแล้วจะเจอกับส่วน Drop Off เป็นลำดับแรก เราสามารถแวะส่งสมาชิกในครอบครัวก่อนได้เลย แล้วค่อยขับเอารถไปจอดก็ได้ หรือกรณีที่เพื่อนแวะมาส่งก็วนรถออกได้เลย สะดวกดีค่ะ ที่จอดรถอยู่บนชั้น 1-7 รวมทั้งหมดประมาณ 283 คันคิดเป็น 47% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน ) ไม่เยอะมากแต่ก็ถือว่าโอเคเลยสำหรับโครงการที่ใช้รถไฟฟ้าได้สะดวก

สำหรับ Facility ส่วนกลางในชั้นนี้จะเน้นเป็นพื้นที่ต้อนรับ, นัดพบปะ, นั่งทำงาน, นั่งพักผ่อนอย่าง Entrance, Green Pavilion, Drop off, The Parlour, Exclusive Lobby, Cozy Lounge, Privilege Lounge พร้อมทั้งมีนิติบุคคลและ Shop 1 ร้าน ซึ่งในอนาคตจะเป็นร้านอะไรต้องสอบจากทางโครงการอีกครั้งค่ะ

ทางเข้าโครงการปูด้วยคอนกรีตแสตมป์ทำให้ดูเรียบร้อยสวยงาม มีต้นไม้ทั้ง 2 ฝั่งช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูร่มรื่นด้วยไม้พุ่ม และไม้ยืนต้น

รถยนต์จะผ่านเข้าออกด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน ดังนั้นรถที่ผ่านเข้าออกได้แบบอัตโนมัติจะเป็นรถของลูกบ้านที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้น สำหรับรถของ Visitors จะต้องแลกบัตรค่ะ ซึ่งลูกบ้านสามารถแสตมป์บัตรผ่านระบบ KATSAN ในมือถือได้สะดวก

แม้ว่าโครงการจะอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน แต่อาคารพักอาศัยจะขยับเข้ามาด้านในประมาณ 60 เมตร ทำให้ได้ความสงบ ช่วยลดเสียงรบกวนและฝุ่นจากถนนใหญ่ไปได้ ดีต่อการพักอาศัยมากขึ้น

เมื่อเข้ามาด้านในจะเจอกับ Drop-Off เพื่อให้วนรับ-ส่งหน้าอาคารได้เลย พอแวะส่งเสร็จก็สามารถวนไปจอดรถได้ ซึ่งที่จอดรถจะมีทั้งรอบอาคารและบนอาคารเลยค่ะ

ก่อนทางขึ้นอาคารจอดรถจะมีช่องจอดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่โครงการเตรียมไว้ให้ 2 ช่อง

ที่จอดรถในอาคาร

Image 1/4
ที่จอดรถในอาคาร

ที่จอดรถในอาคาร

ช่องจอดรถมีขนาดมาตรฐาน ได้แสงธรรมชาติรอบข้าง จากที่จอดรถจะมีทางเข้าอาคารในแต่ละชั้นอยู่นะคะ ซึ่งต้องใช้ Face Scan ในการเข้าอาคาร ส่วนตัวเราชอบมากกว่าการใช้ Keycard เพราะสะดวกดีไม่ต้องพกบัตรค่ะ

สวนส่วนกลางหน้าอาคาร

Image 1/7
สวนส่วนกลางหน้าอาคาร

สวนส่วนกลางหน้าอาคาร

พื้นที่สวนบริเวณหน้าอาคารดูร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม ภายในสวนจะจัดแบ่งพื้นที่นั่งเล่นออกเป็นมุมต่างๆ หลายมุมเลยค่ะ ไม่ว่าจะมาเดินเล่นเป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม ก็สามารถหามุมที่เป็นส่วนตัวกันได้

เข้ามาดูพื้นที่ภายในอาคารกันบ้าง ที่ชั้น 1 นี้จะแบ่งเป็น 2 โซนหลักๆ โดยฝั่งซ้ายจะเป็น Lobby, ลิฟต์ขึ้นห้องพักอาศัย ส่วนฝั่งขวาจะเป็น The Parlour ห้องรับรองแขกขนาดใหญ่ ที่ตกแต่งไว้สวยทีเดียวค่ะ

การเข้าอาคารทุกประตูจะต้องใช้ Face Scan ทั้งหมด รวมถึง The Parlour ที่เป็นห้องรับแขกด้วยนะคะ

The Parlour

Image 1/8
The Parlour

The Parlour

The Parlour ห้องรับรองแขกที่ตกแต่งด้วยสีสันสดใส ดูสนุกสนาน  ห้องนี้จะแบ่งออกเป็น 3 โซนคือมุมนั่งพักผ่อน, มุมนั่งทำงาน และมุมเคาน์เตอร์ครัว รองรับการจัดปาร์ตี้ได้ดีเลยเพราะมีห้องน้ำในนี้ด้วยค่ะ

Exclusive Lobby

Image 1/6
Exclusive Lobby

Exclusive Lobby

ถัดมาที่ Exclusive Lobby เป็นโถงต้อนรับขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้ได้ความเป็นส่วนตัว โดยจะมีผนังตกแต่งขนาดใหญ่ บังสายตาจากประตูทางเข้าหลักเอาไว้ชั้นหนึ่ง และพื้นที่ส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับ Cozy Lounge และ Privilege Lounge ที่ออกแบบมาสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เช่น ใช้รับรองแขก เป็นต้น

Cozy Lounge

Image 1/2
Cozy Lounge

Cozy Lounge

เป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor ให้บรรยากาศที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่ก็มีหลังคาคลุมกันแดดกันฝน ทำให้มาใช้งานได้ตลอดวัน

Privilege Lounge

Image 1/3
Privilege Lounge

Privilege Lounge

โซนนี้สามารถจองใช้งานแบบเป็นส่วนตัวได้ หากแขกที่มาหาไม่สนิทก็สามารถใช้พื้นที่บริเวณนี้รับรองแขก ไม่ต้องพาขึ้นห้องพักก็ได้

เข้ามาด้านในจะเป็นทางเดินไปยัง Lift Lobby เพื่อขึ้นไปยังชั้นพักอาศัย

Mail Box

Image 1/3
Mailbox

Mailbox

ตู้จดหมายของที่นี่จะอยู่บริเวณทางเดินผ่านเข้า-ออกโถงลิฟต์พอดี จึงสามารถแวะรับจดหมายและพัสดุได้สะดวก

Lift Lobby

Image 1/3
Lift Lobby

Lift Lobby

โถงลิฟต์ของโซนพักอาศัยมีการเลือกใช้ Finishing , การตกแต่ง และ Lighting ที่ทำให้บรรยากาศดูเรียบหรู ในส่วนของตัวลิฟต์จะเป็นแบบล็อคชั้น ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ความเป็นส่วนตัว ลูกบ้านจะเข้าถึงได้เฉพาะชั้นที่ตัวเองพักอาศัยและชั้นที่มีส่วนกลาง

ชั้น 8 เป็นชั้นแรกที่มีห้องพักอาศัยและมี Facility ส่วนกลางบนชั้นนี้ด้วย ซึ่งอยู่ในระดับความสูงพ้นจากอาคารรอบข้างแล้วค่ะ ไม่ได้มีอาคารบล็อกวิวในระยะประชิด สำหรับ Sky Garden จะอยู่ตำแหน่งทิศตะวันออก เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่ภายในมีการออกแบบเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักเอาไว้ให้ครบเลย เหมาะกับคนที่อยากได้ห้องใกล้สวน เดินออกมาสูดอากาศกันได้ง่ายๆ ห้องชั้นนี้เหมาะเลยนะคะ

นอกจากนี้จะมี The Cardio Club เป็นห้องที่เตรียมเครื่องออกกำลังกายแบบ Cardio ไว้ล้วนๆ ตอบโจทย์คนที่ชอบวิ่งโดยเฉพาะเลย สำหรับห้องวิวสวน…หลายคนอาจจะรู้สึกว่าเสียความเป็นส่วนตัวไปสักหน่อย ซึ่งทางโครงการก็ได้วางแนวไม้พุ่มบังสายตาไว้ให้ค่ะ

The Cardio Club

Image 1/4
The Cardio Club

The Cardio Club

ภายใน The Cardio Club ออกแบบไว้ให้สามารถวิ่งได้อย่างเป็นส่วนตัว เพราะเค้ามี Partition กั้นแต่ละลู่วิ่งเอาไว้ หรือใครที่มากับแฟนก็จะมีโซนเฉพาะที่มีลู่วิ่ง 2 เครื่องอยู่ข้างกัน วิ่งไปชมวิวสวนกันไป หรือใครที่ชอบดูหนังก็เลือกใช้โซนที่มีจอทีวีติดไว้ให้ก็ได้ ซึ่งเราสามารถจองใช้งานแต่ละเครื่องเล่นไว้ล่วงหน้าได้ด้วยนะคะ

ห้องน้ำใน The Cardio Club

Image 1/4
ห้องน้ำใน The Cardio Club

ห้องน้ำใน The Cardio Club

ห้องน้ำจะเป็นแบบ Powder Room ไม่ได้มีที่อาบน้ำมาให้ และรองรับการใช้งานของผู้สูงอายุด้วยค่ะ

Sky Garden

Image 1/5
Sky Garden

Sky Garden

Sky Garden เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่มีมุมนั่งเล่นพักผ่อนหลายจุด ภายในลงไม้ยืนต้น ไม้พุ่มไว้เยอะทีเดียว วิวทางทิศตะวันออกก็ยังโปร่ง ไม่มีอาคารบล็อกวิวในระยะประชิดนะคะ

ชั้นพักอาศัย

ชั้นพักอาศัยของโครงการนี้จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 8-39 โดยจะมีชั้น 8, 38 และ 39 ที่อยู่ชั้นเดียวกับส่วนกลางทำให้ชั้นเหล่านี้จะเหมาะสำหรับคนที่อยากได้ห้องใกล้ส่วนกลาง เดินไปใช้งานได้ใกล้ๆ โดยห้องพักแบบปกติ (SIMPLEX) และ ห้องฝ้าเพดานสูง (VERTIPLEX)  จะแยกชั้นกันชัดเจน โดยห้อง VERTIPLEX อยู่สูงกว่าทำให้ได้วิวมุมสูงทั้งหมดดังนี้

  • ชั้น 8 – 34  ห้องพักแบบปกติ (SIMPLEX)
  • ชั้น 35-39  ห้องฝ้าเพดานสูง (VERTIPLEX)

Typical Floor Plan ออกแบบเป็น L-shapeโดยผังอาคารเป็นแบบ Double corridor มีห้องพักสองฝั่ง ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 19 ยูนิต ไม่เยอะมาก ส่วนลิฟต์มี 4 ตัว(สีเหลือง) อัตราส่วน 150 : 1 เยอะพอสมควรเลย ในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจต้องเผื่อเวลารอลิฟต์สักหน่อยค่ะ ส่วนการวางผังของห้องก็มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ ขอสรุปดังนี้

  • Studio ขนาด 28.5 ตร.ม. – เป็นห้องขนาดเริ่มต้นในเส้นประสีฟ้า ที่มีจำนวนไม่เยอะมาก 3 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น ซึ่งปัจจุบัน Sold Out* แล้ว (*สอบถามจากทางโครงการอีกครั้งหนึ่งเผื่อมีห้องหลุดโอน) เทควิวทางทิศตะวันออกทั้งหมด ซึ่งจะได้ city วิว เห็นกลุ่มคอนโดโซนลาดพร้าว แต่ไม่ได้กระชั้นชิดจนน่าเป็นห่วงอะไร
  • 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. (สีครีม) – เป็นห้องที่มีสัดส่วนเยอะที่สุดภายในโครงการ และมีแบบให้เลือกหลากหลาย เทควิวอยู่ทุกทิศทาง โดยห้องที่น่าสนใจ คือห้องที่อยู่ในเส้นประสีแดง ติดเพื่อนบ้านฝั่งเดียวได้ความเป็นส่วนตัวดี และห้องทิศตะวันตกในเส้นประสีม่วง เฉพาะห้องพักบนชั้นสูงจะได้วิวสวน 700 ไร่ เช่น ห้องตัวอย่างบนชั้น 24 ก็มองเห็นสวนใหญ่นี้ค่ะ
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 42.5 ตร.ม. (สีน้ำตาล) – เป็นห้องที่อยู่มุมอาคารทั้งหมดภายในห้องได้หน้าต่างสองด้านเลย มีช่องเปิดหลายจุดรับลมรับแสงได้ดี เหมาะต่อการอยู่อาศัย อีกทั้งเป็นส่วนตัวดีด้วยค่ะ เทควิวทางด้านทิศใต้ และทิศตะวันตก ซึ่งได้ City view เห็นตึกสูงเป็นส่วนใหญ่
  • 2 Bedroom ขนาด 57-65 ตร.ม. (สีเทา) – เป็นห้องไซส์ใหญ่ ในตำแหน่งมุมเช่นกัน มีช่องเปิดเยอะ โดยหน้าต่างส่วนใหญ่เทควิวทางทิศตะวันตก ซึ่งห้องบนชั้นสูงจะมองเห็นสวน 700 ไร่ ห้อง Type นี้จึงได้วิวดีทีเดียวค่ะ

วิวจากห้องพักอาศัยทิศต่างๆ

Image 1/5
วิวทิศตะวันออกจากชั้น 8 มองเห็นอาคารสูงในระยะไกล แต่ในระยะประชิดจะอยู่ใกล้กับอาคารของกองปราบที่สูงประมาณ 8 ชั้น พอๆ กัน มองออกไปชมวิวได้ไม่อึดอัดค่ะ

วิวทิศตะวันออกจากชั้น 8 มองเห็นอาคารสูงในระยะไกล แต่ในระยะประชิดจะอยู่ใกล้กับอาคารของกองปราบที่สูงประมาณ 8 ชั้น พอๆ กัน มองออกไปชมวิวได้ไม่อึดอัดค่ะ

Rooftop Facilities 4 ชั้น ถือเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของโครงการเลย เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่เชื่อมต่อกัน 4 ชั้น ตั้งแต่ชั้น 38 จนถึงชั้น Rooftop เทควิวได้กว้าง ได้ทั้ง Park view และ City view เราจะพาไปชมทีละชั้นกันค่ะ

Image 1/2
แปลนชั้น 38

แปลนชั้น 38

ชั้น 38 และชั้น 39 มีทั้งพื้นที่ส่วนกลาง และส่วนพักอาศัยซึ่งเป็นห้องฝ้าเพดานสูง Vertiplex ทั้งหมด ดังนั้นใครที่อยากได้ห้องฝ้าเพดานสูงและชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง 2 ชั้นนี้เหมาะเลยค่ะ สำหรับพื้นที่ส่วนกลางชั้นบนสามารถใช้งานเชื่อมต่อกันด้วยลิฟต์ และบันได(สีส้ม)นี้ได้ ใช้งานต่อเนื่องกันได้ดี

Exclusive Sky Club, The sky wing, The sunset wing

Image 1/5
Exclusive Sky Club

Exclusive Sky Club

พื้นที่ส่วนใหญ่จัดเป็นมุมนั่งเล่นชมวิวมุมสูง เนื่องจากเป็นห้องมุมล้อมด้วยผนังกระจกขนาดใหญ่ แต่ละมุมจะได้วิวต่างกัน แบ่งออกเป็น 3 โซนคือ Exclusive Sky Club พื้นที่ขนาดใหญ่รองรับกลุ่มเพื่อนที่มากันหลายคน, The sky wing เป็นเก้าอี้คู่ มองวิวทางทิศตะวันออกและ The sunset wing ที่เทควิวทางทิศตะวันตก

The Entertainment

Image 1/2
The Entertainment

The Entertainment

ภายในโซนนี้จะมีโต๊ะพูลและชุดโซฟา เป็นอีกกิจกรรมในห้องแอร์ที่รองรับกลุ่มเพื่อนได้

สำหรับห้องพักบนชั้น 38 จะเป็นชั้นที่มี Facility ส่วนกลาง จึงมีประตูกั้นโซนแยกห้องพักอาศัยออกจากพื้นที่ส่วนกลางอย่างเป็นสัดส่วน ต้องใช้ Face Scan ในการผ่านเข้าออก ทำให้ลูกบ้านไม่เสียความเป็นส่วนตัว

ในโซน Facility ชั้น 38-40 และ Rooftop จะมีลิฟต์แยกให้ขึ้นลงใช้งานต่อเนื่องกันได้สะดวก ซึ่งเป็นลิฟต์แก้วเปิดรับวิวเมืองภายนอกด้วยนะคะ

ขึ้นมาที่ชั้น 39 ฟังก์ชันบนชั้นนี้จะแยกออกเป็นห้องย่อยๆ เพื่อให้ลูกบ้านจองก่อนใช้งาน จะมีห้องอะไรบ้างนั้นตามไปดูกันค่ะ

เดินเข้ามาจะมีทางเดินแยกพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่ง ตรงกลางเป็นจุดนั่งชมวิว มีชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า The Cloud Corner

Social Club

Image 1/5
Social Club

Social Club

เป็นอีกฟังก์ชันหนึ่งที่สามารถใช้จัดปาร์ตี้เล็กๆ เลี้ยงสังสรรค์พร้อมชมวิวเมืองมุมสูง การตกแต่งผนังในห้องก็ออกแบบมาพิเศษ Onyx Van Gogh Marble แต่หากต้องการใช้เคาน์เตอร์ครัวด้วยแนะนำเป็น The Parlour ที่ชั้นล่างจะเหมาะกว่าค่ะ

Private Meeting

Image 1/3
Private Meeting

Private Meeting

ถัดมาที่ Private Meeting ออกแบบเป็นห้องทำงานแบบส่วนตัว รองรับยุค Work From Home หากวันไหนต้องการความสงบในการประชุมก็สามารถจองใช้ห้องนี้ได้ วิวดีมากเลยค่ะ

Family Meeting, Social Meeting, Private Living

Image 1/5
Family Meeting

Family Meeting

อีกโซนนึงของชั้น 39 จัดฟังก์ชันรองรับการทำงานอีกเช่นกัน โซนนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ห้อง คือ Family Meeting ภายในจะมีโต๊ะชุดเดียว รองรับการประชุมเล็กๆ แบบ 3-4 คน และมีจอทีวีไว้รองรับการ Present งานได้ด้วย, Social Meeting ฟังก์ชันคล้ายกัน แต่ขนาดห้องจะใหญ่ขึ้นรองรับได้ 6 คน และอีกห้องหนึ่งคือ Private Living มีชุดโซฟาให้นั่งพักคอยได้ เราว่าดีนะที่มีห้องแบบนี้อยู่ใกล้ห้องประชุม เพราะหากสามียังประชุมไม่เสร็จภรรยาหรือลูกๆ ก็นั่งคอยในห้องใกล้ๆ กันได้สะดวกค่ะ

ชั้น 40 เป็นชั้นส่วนกลางที่เน้นกิจกรรมเพื่อการออกกำลังกาย และการพักผ่อนแบบเทควิวได้กว้าง  ไฮไลต์ คือ Sky Pool Pavilion & Jacuzzi สระว่ายน้ำยาว 30 เมตร และห้องฟิตเนส พร้อมอุปกรณ์ครบครันที่เปิดใช้งานได้ 24 ชม. เลยค่ะ

Sky Pool Pavilion & Jacuzzi

Image 1/8
Sky Lap Pool

Sky Lap Pool

สระว่ายน้ำของที่นี่แบ่งออกเป็น 5 ฟังก์ชัน ยาวกว่า 30 เมตร จะว่ายออกกำลังกายได้จริงจังหรือจะแช่ Jacuzzi เพื่อผ่อนคลายก็ได้เช่นกัน ตัวสระเทควิวเมืองได้กว้างเลย ซึ่งออกแบบให้มองเห็นสวนใหญ่ 700 ไร่ได้ถนัดตาด้วยนะคะ

ห้องน้ำส่วนกลาง, Steam/Sauna

Image 1/5
ห้องน้ำ, Steam/Sauna

ห้องน้ำ, Steam/Sauna

ห้องน้ำส่วนกลางบนชั้นนี้จะแยกห้องทั้งหญิง/ ชาย/ ผู้สูงอายุ ไว้เป็นสัดส่วน มีห้องอาบน้ำและตู้ล็อคเกอร์เพิ่มมาด้วย ใช้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังลงสระได้สะดวกดี โดยในห้องน้ำหญิงจะมี Steam และในห้องน้ำชาย จะมีห้อง Sauna ให้ใช้งานกันด้วยค่ะ

Active Club

Image 1/4
Active Club

Active Club

สำหรับโซนออกกำลังกายจะแบ่งออกเป็น 3 ห้อง ห้องแรกนี้คือ Active Club ซึ่งโครงการจะรวมเครื่องออกกำลังกายแบบ Weight Training ไว้ในนี้

Burning Club

Image 1/3
Burning Club

Burning Club

โดยจะแยกห้อง Burning Club ที่ออกกำลังกายแบบ Cardio ไว้อีกห้องหนึ่ง เพื่อช่วยลดเสียงรบกวนจากการ Weight Training

ด้านในสุดจะมีทางเดินเชื่อมไป Private Gym

Private Gym

Image 1/2
Private Gym

Private Gym

ห้องนี้เตรียมไว้รองรับการออกกำลังกายแบบ Yoga โดยทางลูกบ้านสามารถจองใช้ห้องได้แบบเป็นส่วนตัว

Rooftop จัดเป็นพื้นที่สวนแบบ 2 ชั้น ภายในมีการออกแบบเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนชมวิวได้ทั้งแบบกลุ่มและแบบเดี่ยว เทควิวเมืองได้รอบแบบ Panorama เลยค่ะ

Image 1/7
Sky Park Rooftop

Sky Park Rooftop

บน Rooftop เองก็จะแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นมุมนั่งเล่นชมวิว ซึ่งโครงการวางตำแหน่งให้เทควิวไปทางทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้เป็นหลัก เพื่อให้มองเห็นสวน 700 ไร่ในโซนจตุจักร

Image 1/7
Panoramic Sky Hill, Sky Courtyard, Private Sky Yard, Private

Panoramic Sky Hill, Sky Courtyard, Private Sky Yard, Private

จาก Rooftop จะมีบันไดให้ขึ้นมาชมวิวทางฝั่งตะวันออกกันได้ โดยแบ่งจุดชมวิวออกเป็นโซนต่างๆ ได้แก่ Panoramic Sky Hill, Sky Courtyard, Private Sky Yard, Private Backyard โดยสร้างบรรยากาศในแต่ละจุดให้แตกต่างกัน เช่น เป็นสนามหญ้ากว้างๆ, เป็นทางเดินราวกันตกกระจก, เป็นมุมนั่งเล่นที่มีชุดโซฟา

สำหรับค่าส่วนกลางที่นี่อยู่ที่ 60 บาท/ตร.ม./เดือน หรือตกประมาณ  1,700-3,900 บาท/เดือน ขึ้นอยู่กับขนาดโฉนดห้องค่ะ ทำให้ห้องฝ้าเพดานสูง Vertiplex จะได้เสียค่าส่วนกลางโดยคำนวณเฉพาะชั้นล่าง ไม่นับชั้นลอยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1 : Entrance, Green Pavilion, Drop off, The Parlour, Exclusive Lobby,
    Cozy Lounge, Privilege Lounge, Shop, Juristic Room
  • ชั้น 2-7 : ที่จอดรถ
  • ชั้น 8 : The Cardio Club, Sky Garden
  • ชั้น 38 : Exclusive Sky Club, The sky wing, The sunset wing, The entertainment
  • ชั้น 39 : Social Club, The Cloud Corner, Private Meeting, Family Meeting, Social Meeting, Private Living
  • ชั้น 40 : Sky Pool Bed, Sky Pavilion Seat, Sky Lap Pool, Kids Pool, Sky Jacuzzi, Active Club, Burning Club, Private Gym, Steam/Sauna
  • Rooftop : Sky Private Seat, Panoramic Sky Hill, Sky Courtyard, Sky Rooftop Bar, Private Sky Yard, Private Backyard
  • EV Charger 2 ช่อง
  • รถยนต์เข้าออกด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียนรถยนต์ ตามมาตรฐาน KATSAN
  • เข้าอาคารและลิฟต์ด้วยระบบ Face Scan ปุ่มกดลิฟต์แบบ Touchless
  • ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 150 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 283 คันคิดเป็น 47% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน )

แบบห้อง

LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว) มีโปรดักส์ให้เลือกทั้งห้องแบบปกติ (SIMPLEX) และห้องฝ้าเพดานสูง 4.4 เมตร (VERTIPLEX) แบบห้องมีให้เลือกเยอะมากเลยค่ะ เน้นเป็นห้อง 1 Bedroom ที่เหมาะสำหรับ 2 คน ไปจนถึงห้องที่รองรับครอบครัวขยาย 2-3 คนได้สบาย ส่วนใหญ่ได้ครัวแบบปิด และห้องนอนขนาดใหญ่พร้อม Walk-in Closet ในตัว ดังนี้

Image 1/17
แบบห้อง Simplex

แบบห้อง Simplex

ห้องพักแบบปกติ (SIMPLEX)

  • Studio ขนาด 28.5 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 42.5 ตร.ม.
  • 2 Bedroom ขนาด 57-65 ตร.ม.

Image 1/18
แบบห้อง Vertiplex

แบบห้อง Vertiplex

*แปลนห้อง Vertiplex จากทางหน้า Website โครงการจะไม่ได้แสดงผังชั้นลอยนะคะ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโปรดสอบถามข้อมูลจากทางโครงการอีกครั้งหนึ่งค่ะ

ห้องฝ้าเพดานสูง (VERTIPLEX)

  • Vertiplex – 1 Bedroom ขนาด 28.5 ตร.ม.
  • Vertiplex – 2 Bedroom ขนาด 53-40.5ตร.ม.
  • Vertiplex – 2 Bedroom ขนาด 42.5 ตร.ม.
  • Vertiplex – 3 Bedroom ขนาด 57-65 ตร.ม.

วัสดุภายในห้อง

ห้องของโครงการ LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว) ขายแบบ Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์บางส่วน ได้แก่ เคาน์เตอร์ครัว, ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนหลัก และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ พร้อมเครื่องปรับอากาศ  ทำให้เราสามารถตกแต่งและเลือกซื้อเฟอร์ฯ อื่นๆ ได้ตามความชอบของผู้อยู่อาศัยเลยค่ะ สำหรับวัสดุอื่นๆ เราสรุปมาให้ดังนี้

  • พื้นห้องปูลามิเนตลายไม้
  • ห้องน้ำสำเร็จรูป / สุขภัณฑ์ Kohler/ พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจก
  • ผนังทั่วไปเป็น ฉาบเรียบทาสีขาว
  • Built-in ครัว ท็อปหินสังเคราะห์
  • Hob&Hood จาก Teka
  • Built-in ตู้เสื้อผ้า บานสไลด์ เต็มความสูงฝ้าเพดาน
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.55 เมตร ในแบบ Simplex / 4.4 เมตร ในแบบ Vertiplex
  • ฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว
  • เครื่องปรับอากาศ Wall Type (จำนวนเครื่องขึ้นอยู่กับแบบห้อง)

เฉพาะห้อง Vertiplex

  • โครงสร้างบันไดเป็นโครงเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้จริงทำสี
  • พื้นชั้น 2 ปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom 35 ตร.ม.

1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. เป็นห้องแบบหลักของโครงการที่คนให้ความสนใจกันเยอะ โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม. เป็นแบบ Simplex ชั้นเดียว เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 1-2 คน ปัจจุบันห้องนี้มีราคาเริ่มต้น 5.29 ล้านบาท ออกแบบมาให้ใช้งานได้ลงตัว ดังนี้

  • ครัวแบบปิด สามารถทำอาหารได้โดยไม่มีกลิ่นไปรบกวนในส่วนพื้นที่พักผ่อนอื่นๆ เพราะมีประตูกั้นเป็นสัดส่วน ซึ่งเป็นประตูกระจกทำให้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามาได้
  • ให้ความเป็นส่วนตัวกับโซนพักผ่อน จัดให้ห้องครัว และห้องน้ำอยู่โซนหน้าห้อง ติดกับโถงทางเดิน ช่วยเป็น Buffer กันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี ดันโซนนั่งเล่นไว้ติดหน้าต่างด้านในเพื่อความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นค่ะ
  • ห้องน้ำ Double Access มีประตูเข้าออก 2 ทาง เข้าถึงได้สะดวกทั้งจากโซนพักผ่อน และโซนห้องนอน เวลามีเพื่อนมาหาก็สามารถเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องต้องเดินผ่านห้องนอน
  • Living Area ใหญ่ จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น + พื้นที่ทานอาหารได้สบายๆ อีกทั้งอยู่ติดระเบียงทำให้ได้ประตูกระจกขนาดใหญ่ รับแสงรับลม เปิดระบายอากาศได้ดี
  • ห้องนอนใหญ่ กั้นแยกด้วยผนังทึบเป็นส่วนตัว ภายในจัดวาง เตียง 5 ฟุตแบบมีทางเดินรอบได้สบาย พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง + ตู้เสื้อผ้าเลยค่ะ อีกทั้งเชื่อมต่อห้องน้ำได้เลยในตัว ใช้งานต่อเนื่องกันดีเลย
  • ห้องน้ำสำเร็จรูป ในส่วนของห้องน้ำนั้นจะค่อนข้างแตกต่างกว่าโครงการทั่วไปเนื่องจากเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป (สร้างและประกอบที่โรงงาน ค่อยมาติดตั้งหน้างาน) ข้อดีของห้องน้ำประเภทนี้คือคุณภาพค่อนข้างดีเพราะประกอบจากโรงงานมีการ QC ไม่เหมือนห้องน้ำทั่วไปที่ต้องแล้วแต่โชคว่าช่างที่ทำให้ห้องเรานั้นทำเก่งรึเปล่า การซ่อมแซมง่าย ไม่รั่วซึม ทำความสะอาดง่าย แต่ข้อเสียก็มีนะคะ คือเรื่องราคาที่สูงกว่าห้องน้ำธรรมดา และขนาดที่ไม่มีให้เลือกได้มากนัก พื้นห้องน้ำจะยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้อง ออกแบบมากะทัดรัด เพื่อประหยัดเนื้อที่ใช้สอยส่วนอื่นๆ ซึ่งยากที่จะต่อเติมหรือขยับขยายแน่นอน สำหรับใครที่สนใจในการศึกษาห้องน้ำสำเร็จรูปเพิ่มเติม (คลิกที่นี่)

ประตูหน้าห้องเป็นไม้สำเร็จรูป มาพร้อม Digital Door Lock ยี่ห้อ Kaadas รองรับทั้งระบบ Keyword, Finger Scan และ Card ในส่วนของพื้นห้องจะยกระดับสูงกว่าทางเดินส่วนกลางเล็กน้อยและมีธรณีประตูกั้นไว้เพื่อช่วยกันฝุ่นและน้ำไหลเข้าตัวห้อง

ฟังก์ชันแรกที่เข้ามาเจอก็คือโซนครัว ซึ่งโครงการออกแบบไว้ให้เป็นครัวปิด ..พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้จึงทำความสะอาดง่าย

ห้องมาตรฐานจะมีชุดครัว Built-in มาให้เหมือนในห้องตัวอย่าง ยกเว้นไมโครเวฟ, เครื่องซักผ้าและตู้เย็น

ด้านล่างเคาน์เตอร์ครัวจะมีตู้เก็บช้อนส้อม, ช่องใส่ไมโครเวฟและตู้เก็บของต่างๆ ให้ใช้งานกันได้พอสมควร

มือจับตู้ถูกออกแบบให้สอดมือไปเปิดบานตู้ออกได้ ซึ่งแบบนี้มีข้อดีที่ไม่ต้องกลัวมือจับตู้หลุดอีกต่อไปค่ะ

ในส่วนของเคาน์เตอร์ครัวแบ่งพื้นที่ใช้งานมาได้ครบทั้งอ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันจาก Teka และมีพื้นที่รอบๆ ให้เตรียมอาหาร โดย Top เคาน์เตอร์จะเป็นหินสังเคราะห์ที่ทนน้ำ ทนความร้อนได้ดี และโครงการจะติด Backsplash ที่ผนังหลังเคาน์เตอร์มาให้ช่วยกันเปื้อนและทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

Hob&Hood ดูดควัน ของ Teka โดยเครื่องดูดควันจะต่อท่อออกด้านนอก ทำให้ระบายอากาศได้ดีกว่าระบบหมุนเวียน

นอกจากนี้โครงการจะ Built-in ตู้ลอยมาให้ใช้เก็บของเพิ่มเติมได้ด้วยค่ะ

ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวเป็นตำแหน่งสำหรับวางตู้เย็น ซึ่งฝ้าเพดานของห้องสูงประมาณ 2.55 เมตร จึงเหลือพื้นที่ให้ Built-in ตู้ลอยหลังตู้เย็นเพื่อใช้เก็บของเพิ่มเติมได้นะคะ ติดกันเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำค่ะ

ในส่วนของห้องน้ำค่อนข้างพิเศษจากโครงการอื่นคือเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป ซึ่งเราได้อธิบายข้อดีข้อเสียไว้ก่อนหน้าแล้ว ที่อยากให้เพื่อนๆ สังเกตคือระดับพื้นห้องน้ำจะสูงกว่าพื้นส่วนอื่นแบบเห็นได้ชัด เนื่องจากการติดตั้งพื้นห้องน้ำสำเร็จรูปจะต้องซ้อนทับลงบนพื้นห้องอีกที ทำให้พื้นห้องน้ำสูงกว่าพื้นห้องขึ้นไปอีก การใช้งานในช่วงแรกๆ อาจจะยังไม่ชินต้องระวังสะดุด ส่วนตัวเราเคยอยู่คอนโดแบรนด์ LIFE ที่ใช้ห้องน้ำสำเร็จรูปเหมือนกัน ก็ปรับตัวสักพักอยู่เหมือนกัน ต้องก้าวสูงขึ้นหน่อย แต่ไม่นานก็ชินค่ะ

ห้องน้ำเข้าได้ 2 ฝั่งทั้งจากห้องครัวและห้องนอน หากมีแขกมาหาก็สามารถเข้าจากทางห้องครัวได้ ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน

ภายในแบ่งพื้นที่ไว้อย่างเป็นสัดส่วน ผนังและพื้นโดยรอบปูกระเบื้องไว้ทั้งหมด มาพร้อมกระจกเงาบานใหญ่ ใช้งานได้สะดวกและทำให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้น

อ่างล้างหน้าของ Kohler มีขนาดมาตรฐาน ส่วนที่เราชอบคือ มี Low Wall ให้วางของใช้เพิ่มเติมได้

โถสุขภัณฑ์ของ Kohler มาพร้อมสายฉีดชำระ

Shower Box จะมีฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาให้เป็นแบบบานเปิดปิด พร้อมติดตั้งฝักบัวอาบน้ำและเดินระบบไฟรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

ในห้องน้ำจะมีการยกธรณีขึ้นช่วยกันไม่ให้น้ำจากพื้นที่ส่วนเปียกไหลออกมาในพื้นที่ส่วนแห้ง จึงเป็นสัดส่วนดีทีเดียว โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.1 x 1 m. หมุนตัวอาบน้ำได้สะดวก

ประตูเชื่อมไปห้องนั่งเล่นจะเป็นประตูกระจกสูงจากพื้นจรดฝ้าเลย ช่วยให้ห้องดูโปร่ง บานเลื่อนเป็นแบบ 3 ตอน ทำให้เปิดออกได้กว้างถึง 1.55 เมตรเลย

เข้ามาด้านในจะเป็น Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่นและทานอาหารเข้าไว้ด้วยกัน พื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้ครบ

โต๊ะทานอาหารที่เหมาะกับห้องไซส์นี้คือแบบ 2 ที่นั่ง มีระยะให้เดินใช้งานได้พอประมาณ และจากโต๊ะอาหารก็สามารถมองเห็นทีวีได้ ใครที่ชอบกินข้าวไปดูหนังไปพร้อมๆ กันก็สะดวกเลยค่ะ

พื้นที่ดูทีวีสามารถวางชุดโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่งได้พอดีๆ มีระยะดูทีวีประมาณ 2.4 m. ใช้ทีวีขนาดใหญ่แบบ 60 นิ้วได้เลยนะคะ

ด้านในสุดของห้องเป็นระเบียง ซึ่งประตูให้มาเป็นบานเลื่อนแบบ 3 ตอนจึงเปิดได้กว้างประมาณ 1 เมตร เดินผ่านเข้าออกได้สะดวก เปิดรับลมได้เต็มที่ แนะนำให้ติดมุ้งลวดแบบจีบเพิ่มอีกหน่อย เพื่อช่วยกันยุงกันแมลงได้

พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1 x 1.6 m. ให้ใช้วางราวตากผ้าได้

ในส่วนของ Condensing Unit จะแขวนไว้ด้านบนเรียบร้อย ทำให้ใช้งานพื้นที่ส่วนอื่นได้เต็มที่

พื้นระเบียงจะลดระดับลงมาจากพื้นห้องส่วนอื่น เพื่อกันไม่ให้น้ำฝนไหลย้อนเข้าตัวห้องค่ะ

ต่อไปเราจะพาไปชมห้องนอน ซึ่งมีประตูบานทึบกั้นโซนไว้ เรามองว่าประตูบานทึบแบบนี้ให้ความเป็นส่วนตัว เหมาะกับการพักผ่อนมากกว่าประตูกระจกบานเลื่อนที่หลายๆ โครงการในยุคนี้ชอบออกแบบกันนะคะ

ภายในห้องนอนกว้างพอสมควรเลยค่ะ สามารถวางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุต ได้ และมีพื้นที่เหลือให้เดินขึ้นเตียงได้โดยรอบ การวางตำแหน่งห้องนอนลักษณะนี้ จะมีข้อดีตรงตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี สามารถนอนรับวิวจากเตียงนอนได้เลย

หากใครชอบนอนดูทีวีก็สามารถติดทีวีเพิ่มที่ปลายเตียงได้

อีกฝั่งหนึ่งของห้องนอนเป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัว ดูจากขนาดพื้นที่แล้วเราว่ากว้างเพียงพอสำหรับการแต่งหน้าแต่งตัวได้สบาย ซึ่งโครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ เป็นตู้บานเลื่อนสูงจากพื้นถึงฝ้าเลยค่ะ

ภายในตู้ก็จัดมาให้ทั้งราวแขวนผ้าและลิ้นชักเก็บของเลยค่ะ


Vertiplex – 2 Bedroom พื้นที่โฉนด 40.5 ตร.ม. ส่วนชั้นลอยจะประมาณ 20 ตร.ม. ทำให้ห้องนี้มีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 60 กว่าตร.ม. เลยทีเดียว ซึ่งข้อดีของห้องแบบนี้ คือเราจะเสียค่าส่วนกลาง เฉพาะพื้นที่โฉนดเท่านั้น จุดที่น่าสนใจนอกจากพื้นที่ใช้สอยที่เยอะแล้ว ยังจัดแปลนภายในห้องมาได้ดูโปร่งดีเลยค่ะ ส่วนฟังก์ชันจะอยู่อาศัย 2-3 คน แบบพ่อแม่ลูกได้ โดยมีจุดที่เรามองว่าน่าสนใจ ดังนี้

  • ห้อง 2 ชั้น ได้ช่องหน้าต่างบานใหญ่ รับแสง รับลมได้ดี ทั้งห้องครัว ห้องนอน ห้องนั่งเล่น มีช่องหน้าต่างเปิดระบายอากาศได้สะดวก เหมาะต่อการอยู่อาศัย
  • Pantry ครัวเปิด แต่สามารถกั้นประตูเพิ่มได้
  • ให้ความเป็นส่วนตัวกับโซนพักผ่อน โดยการวาง Service Area ไว้โซนหน้าห้อง ช่วยเป็น Buffer ป้องกันเสียงรบกวนจากโถงทางเดินได้ดี ช่วยให้พื้นที่พักผ่อนได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
  • ห้องน้ำ Double Access มีประตูเข้าออก 2 ทาง เข้าถึงได้สะดวก ทั้งจากโซนนั่งเล่น และห้องนอน
  • Living Area ฝ้าสูง 4.4 เมตร ดูโอ่อ่า พร้อมหน้าต่างกระจกสูง รับแสงได้เยอะ ทั่วถึงชั้นลอย ภายในจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น + พื้นที่ทานอาหารได้สบายๆ
  • 2 ห้องนอนใหญ่ ใช้งานได้สะดวก โดยห้องนอนชั้นล่างกั้นด้วยผนังทึบได้ความเป็นส่วนตัวดี อีกทั้งมีห้องน้ำในตัวรองรับผู้สูงอายุได้ แต่ห้องนอนชั้นบนต้องมาใช้ห้องน้ำที่ชั้นล่างนะคะ
  • ชั้นลอยขนาดใหญ่ กั้นห้องนอนด้วยกระจกบาน Fixed เป็นส่วนตัวมากขึ้นแต่ยังคงดูโปร่ง และมีพื้นที่อเนกประสงค์หน้าห้องนอน จัดเป็นมุมทำงานหรือพื้นที่ทำงานอดิเรกได้เป็นสัดส่วน

เปิดเข้ามาส่วนแรกจะเป็นครัวเช่นเดียวกับห้องตัวอย่างแบบแรก ได้เคาน์เตอร์ครัว, ชั้นเก็บของ และพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นอยู่ในโซนเดียวกัน

ห้อง Type นี้จะเป็นแบบครัวเปิด ซึ่งหากใครต้องการห้อง Vetiplex แบบครัวปิด ทางโครงการก็มีให้เลือกอยู่เหมือนกันนะคะ หรือถ้าชอบ Type นี้จะกั้นประตูเพิ่มให้เป็นครัวปิด (ตามแนวเส้นประ) ก็ได้ค่ะ

ห้องน้ำจะอยู่บริเวณหน้าห้องเหมือนกัน ภายในมีการแบ่งฟังก์ชันส่วนเปียก-แห้งไว้ชัดเจน มาพร้อมโถสุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ จาก Kohler

มีประตูเปิดเข้าได้ 2 ฝั่งทั้งจากห้องครัวและห้องนอน หากสมาชิกชั้นบนจะลงมาเข้าห้องน้ำ ก็สามารถเข้าจากทางห้องครัวได้ ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนชั้นล่างค่ะ

พื้นที่อาบน้ำกั้น Shower Box มาให้ มีขนาดประมาณ 0.9×1.1 m. ใช้งานได้พอดีๆ

เข้ามาในส่วนของ Common Area เป็นพื้นที่ฝ้าเพดานสูง 4.4 m. เปิดรับวิว รับแสงธรรมชาติผ่านกระจกบานใหญ่ และมองเห็นพื้นที่บนชั้นลอยด้วยจึงได้อารมณ์คล้ายอยู่บ้าน 2 ชั้น

ตำแหน่งวางโต๊ะรับประทานอาหารอยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่น จึงสามารถดูทีวีและทานอาหารไปพร้อมกันได้

ขนาดพื้นที่วางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งกำลังดีค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นมีระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2.4 เมตร สามารถใช้ทีวีขนาด 60 นิ้วได้เลยค่ะ อีกทั้งยังอยู่ติดหน้าต่างแบบนี้ ก็เลยทำให้สามารถดูทีวีไปด้วยและชมวิวภายนอกไปด้วยได้

ข้างทีวีเป็นทางเข้าห้องนอน ซึ่งได้ความเป็นส่วนตัวสูงเพราะเป็นกำแพงและประตูทึบ

ภายในห้องนอนมีพื้นที่ให้วางเตียงใหญ่ 5-6 ฟุต และมีพื้นที่เหลือให้เดินขึ้นเตียงได้โดยรอบ ตำแหน่งจะอยู่ฝั่งริมติดระเบียง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี สามารถมองวิวเมืองภายนอกจากเตียงนอนได้เลย

ที่ระเบียงโครงการจะแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน จึงเหลือพื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 1 x 2.4 เมตร ให้ใช้วางราวตากผ้า หรือวางกระถางต้นไม้ได้เต็มพื้นที่

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่แต่งตัว ซึ่งจะอยู่ติดกับห้องน้ำจึงใช้งานเชื่อมต่อกันสะดวก

ในส่วนของบันไดจะ Built-in มาให้พร้อมราวจับตามแบบในห้องตัวอย่าง โครงสร้างบันไดเป็นโครงเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้จริงทำสีให้เป็นโทนอ่อนเข้ากับพื้นห้อง

โครงการพยายามออกแบบให้ตัวบันไดใช้พื้นที่น้อยที่สุด จึงไม่ได้มีชานพักบันไดเป็นกิจจะลักษณะ และเนื่องจากฝ้าเพดานชั้น 1 สูงถึง 2.15 เมตร ทำให้ตัวขั้นบันไดจะชันนิดนึง ต้องระมัดระวังสักนิดนึงค่ะ

จากชั้นบนมองลงมาก็จะเห็นบริเวณห้องนั่งเล่นพอดี ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้น

พื้นที่อเนกประสงค์บนชั้นลอยมีขนาดประมาณ 1.8×2.6 เมตร ใหญ่พอให้จัดเป็นมุมทำงานได้สบายๆ ดูจากพื้นที่แล้วเราคิดว่าวางโต๊ะทำงาน 2 ตัว สำหรับ 2 คนก็ยังได้ค่ะ

ปิดท้ายด้วยห้องนอนบนชั้นลอย เป็นห้องที่กั้นด้วยผนังกระจก ทำให้บรรยากาศโดยรวมดูโปร่ง ไม่อึดอัด ประตูเป็นบานเลื่อนเปิดได้กว้างใช้งานสะดวก

ภายในห้องนอนมีขนาดพอๆ กับห้องนอนชั้นล่างเลยค่ะ จึงอยู่อาศัยได้สบายๆ สามารถวางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุต ได้ และมีพื้นที่เหลือให้เดินขึ้นเตียงได้โดยรอบ พร้อมตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งครบครัน

ตัวห้องมีหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี สามารถนอนรับวิวจากเตียงนอนได้เลย

โครงการจะ Built-in ตู้เสื้อมาให้เป็นตู้ขนาดใหญ่ที่สูงจากพื้นจรดฝ้า น่าจะใช้เก็บเสื้อผ้าได้เยอะทีเดียวค่ะ


ห้องตัวอย่าง 2 Bedroom 57 ตร.ม.

Image 1/13
ห้องตัวอย่าง 2 Bedroom 57 ตร.ม.

ห้องตัวอย่าง 2 Bedroom 57 ตร.ม.

ราคา

LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว) ราคา ณ วันที่ 23 เมษายน 2567

  • ห้องแบบปกติ Simplex 1 Bedroom 35 ตร.ม. เริ่ม 5.29 ล้านบาท*
  • ห้องฝ้าเพดานสูง Vertiplex 2 Bedroom 40.5 ตร.ม. เริ่ม 8.89 ล้านบาท*

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 20,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล : จุดเด่นของโครงการ LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว) คือใกล้ทั้งเซ็นทรัลลาดพร้าวและเซ็นทรัลพหลโยธิน (ในอนาคต) ซึ่งสามารถเดินไปถึงได้เลยมีระยะจากโครงการประมาณ 350 เมตรเท่านั้น นอกจากนี้โครงการยังตั้งอยู่ในโซนห้าแยกลาดพร้าว เป็นย่าน Office Building ทำเล CBD ของกรุงเทพตอนเหนือ ใกล้สำนักงานใหญ่หลายแห่ง ใครทำงานในโซนนี้ก็สามารถเลือกที่นี่เป็นที่พักใกล้อออฟฟิศได้ค่ะ

อีกประเด็นคือ จากโครงการจะได้วิวสวนจตุจักร และสวนรถไฟ ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 700 ไร่ ซึ่งหากใครเป็นสายวิ่ง ชอบออกกำลังในสวน ก็สามารถเดินไปถึงสวนจตุจักรประมาณ 1 กม. ถือเป็นการวอร์มร่างกาย ก่อนเอาจริงที่สวนนะคะ

การเดินทางโดยใช้รถ : โครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน บนทำเลห้าแยกลาดพร้าวจึงเดินทางเชื่อมต่อถนนหลักได้หลากหลายทั้ง ถนนวิภาวดีรังสิต, พหลโยธิน และลาดพร้าว สามารถใช้เข้า – ออกเมืองได้สะดวก ภาพรวมการเดินทางถือว่าสะดวกสบาย แต่อย่างที่รู้กันว่าการจราจรถือว่าหนาแน่นมาก จึงควรเผื่อเวลาการเดินทางสักหน่อย โดยมีที่จอดรถรวมทั้งหมดประมาณ 283 คันคิดเป็น 47%

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : นอกจากนี้โครงการยังใกล้รถไฟฟ้าหลายสายทั้งสายสีเขียว, น้ำเงินและเหลือง สำหรับที่ใกล้สุดคือสายสีเขียวที่ BTS ห้าแยกลาดพร้าวเพียง 200 เมตรเท่านั้น หรือจะเรียกแท็กซี่, พี่วินมอเตอร์ไซค์ก็ไม่ยากเพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่เลย

วัสดุ : ขายแบบ Fully Fitted ได้เฟอร์นิเจอร์บางส่วน ได้แก่ เคาน์เตอร์ครัว, ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนหลัก และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ พร้อมเครื่องปรับอากาศ ทำให้เราสามารถตกแต่งและเลือกซื้อเฟอร์ฯ อื่นๆ ได้ตามความชอบของผู้อยู่อาศัยเลย และใช้ห้องน้ำเป็นแบบสำเร็จรูปเพื่อให้ได้งานก่อสร้างที่มีมาตรฐาน ประเด็นนึงที่น่าสังเกตคือ ปกติแล้วคอนโดแบรนด์ LIFE จะไม่ได้มีตู้เสื้อผ้ามาให้ แต่ LIFE โครงการนี้ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้แบบเต็มพื้นที่สูงจากพื้นถึงฝ้าเลย ดูหรูหราขึ้นตามราคาที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน

การออกแบบโครงการ : LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว) ออกแบบมาโดยเน้นความเงียบสงบ เป็นส่วนตัวสูง จึงมีเพื่อนบ้านเพียง 598 ยูนิต ถือว่าไม่เยอะเลยสำหรับคอนโด High Rise ในโซนนี้ ตัวอาคารเป็นทรงตัว L รับวิวจากทุกทิศทาง ซึ่งทางโครงการออกแบบได้ดี ไม่โดนบล็อกวิวจากตึกสูงในระยะประชิดเลยค่ะ

การออกแบบห้อง : มีห้องฝ้าเพดานสูง 4.4 เมตร (Vertiplex) ให้เลือก ซึ่งถือเป็นโปรดักส์ที่ไม่ค่อยมีในโซนนี้ แถมยังมีแบบให้เลือกเยอะทีเดียว อยู่บนชั้นสูงตั้งแต่ 35-39 ได้วิวเมืองมุมสูงทุกห้อง และห้องแบบปกติ (Simplex) ก็มีแบบห้องหลากหลายให้เลือก เน้นเป็นห้อง 1 Bedroom ที่เหมาะสำหรับ 2 คน ไปจนถึงห้องที่รองรับครอบครัวขยาย 2-3 คนได้สบาย ส่วนใหญ่ได้ครัวแบบปิด และห้องนอนขนาดใหญ่พร้อม Walk-in Closet ในตัว

สาธารณูปโภค : ส่วนกลางออกแบบหรูหราน่าใช้งาน เทควิวมุมสูง มีส่วนกลางให้ใช้งานครบครันถึง 6 ชั้น กระจายตัวอยู่หลายจุด เข้าถึงได้ง่าย ไฮไลต์คือ ส่วนกลาง 4 ชั้นบนสุด ที่เทควิวมุมสูงได้กว้างมองเห็นสวน 700 ไร่ ฟังก์ชันตอบโจทย์ทั้งการพักผ่อนและทำงาน เก็บค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.ม./เดือน ถือว่าสมเหตุสมผลเพราะแชร์กับลูกบ้านไม่เยอะเลยค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 150,000 บาท/ตร.ม., 23 เมษายน 2567

  • ทำเล 9/10 – ใกล้เซ็นทรัล และ รถไฟฟ้าในระยะเดิน
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – ติดถนนใหญ่พหลโยธิน
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – ใกล้รถไฟฟ้า Interchange
  • วัสดุ 7.75/10 – fully fitted พร้อม Built-in ครัว, ตู้เสื้อผ้า
  • แบบ 8/10 – หรูหรา เป็นส่วนตัว มีแบบห้องให้เลือกเยอะทั้ง Simplex และ Vertiplex
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ครบครัน ให้มาเยอะรวม 6 ชั้น

  • UPPER-HIGH CLASS
  • 8.31 / 10.00

LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว) เหมาะกับใคร

โครงการ LIFE Phahon-Ladprao (ไลฟ์ พหลฯ-ลาดพร้าว) เหมาะกับคนที่ชอบความสะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้า, เซ็นทรัลลาดพร้าว และเซ็นทรัลพหลโยธิน (โครงการใหม่) แบบเดินไปได้เพียง 350 เมตรเท่านั้น ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว ชอบโครงการที่มียูนิตไม่เยอะนัก มีแบบห้องให้เลือกเยอะทั้งแบบปกติและฝ้าเพดานสูง ซึ่งมือหนึ่งในโซนนี้หาได้ยากทีเดียว

เหมาะกับคนที่อยากได้คอนโดหรูหรา มีส่วนกลางให้ใช้งานได้แบบเต็มที่ รองรับทั้งการพักผ่อน, ออกกำลังกาย และ Work From Home เทควิวเมืองมุมสูงได้โล่งกว้าง มองเห็นสวน 700 ไร่ ในงบประมาณ 1 Bedroom Simplex เริ่ม 5.29 ล้านบ้านหรือผ่อนเริ่มเดือนละ 37,000 บาท และ 2 Bedroom Vertiplex เริ่ม 8.89 ล้านบาท หรือผ่อนเริ่มเดือนละ 62,000 บาท


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่