KRAAM SUKHUMVIT 26 คอนโดระดับ Ultimate Class ติดถนนสุขุมวิท 26 จาก Nye Estate [รีวิวฉบับที่ 1279]

รีวิวฉบับที่ 1279 สวัสดีค่ะ วันนี้พาไปชมรีวิวคอนโดสุดหรูระดับ Ultimate Class กับโครงการ KRAAM Sukhumvit 26 ตั้งอยู่ทำเลใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท 26 ห่างจาก BTS พร้อมพงษ์ประมาณ 500 m. มีแนวคิดในการออกแบบ Home-Like Condominium มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งนวัตกรรมการออกแบบ เน้นการใช้งานพื้นที่ภายในส่วนพักอาศัยแต่ละยูนิตและมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งโครงการนี้จัดเป็นคอนโดมิเนียม High Rise ระดับพรีเมี่ยมโครงการแรกของ Nye Estate อีกด้วย ในรายละเอียดจะเป็นอย่างไร เราไปชมพร้อมๆกันเลยค่ะ

Fact @ 31 January 2017

• KRAAM Sukhumvit 26 (คราม สุขุมวิท 26)
• บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด
• ULTIMATE CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ในเขต : คลองเตย
• คอนโด High Rise 29 ชั้น 1 อาคาร 126 ยูนิต
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 8 ยูนิต
• ที่จอดรถประมาณ 176 คันคิดเป็น 140%
• ที่ดินประมาณ 1-3-91 ไร่
• เริ่มก่อสร้าง : ธ.ค. 2559
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ก.ย. 2562
• 1 Bedroom 61 ตร.ม. จำนวน 50 ยูนิต
• 2 Bedrooms 102 – 122 ตร.ม. จำนวน 60 ยูนิต
• 3 Bedrooms 177 – 180 ตร.ม. จำนวน 14 ยูนิต
• Penthouse 229 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต
• ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร
• ราคาห้องเริ่มต้น 17 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 280,000 บาท/ตร.ม.
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด 270,000 บาท/ตร.ม. – สูงสุด 340,000 บาท/ตร.ม.
• EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
• เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์
• เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่  
• โทร  : 02-661-2900

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.726364, 100.569666

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

ถ้าใครอยากเจาะลึกทำเลโดยรอบของโครงการแบบละเอียด สามารถอ่านได้ที่ รีวิวพาชมทำเล Kraam สุขุมวิท 26 

ที่ตั้งของโครงการ Kraam สุขุมวิท 26 ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 26 ขาเข้ามุ่งหน้าไปสยาม โดยซอยสุขุมวิท 26 มีข้อดีของถนนเส้นนี้คือเป็นเส้นที่เชื่อมถนนใหญ่ 2 ฝั่ง คือเส้นสุขุมวิท และเส้นพระราม 4 ทำให้การเข้าถึงสามารถเข้าได้จากทั้ง 2 ทางเช่นกัน การเข้าถึงโครงการจากเส้นสุขุมวิท ให้เข้าซอยสุขุมวิท 26 ไปประมาณ 400 เมตร จะเจอ Service Apartment Story @ Bangkok ที่ตั้งโครงการจะเป็นแปลงที่ดินถัดไปซึ่งจะอยู่ระหว่าง Service Apartment Story @ Bangkok กับซอยท่านหญิงพวงรัตน์ประไพ

การที่ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยทำให้เป็นทำเลที่ค่อนข้างสงบกว่าถนนใหญ่แต่ก็ Trade-off กันไปกับระยะที่ต้องเข้ามาจากถนนใหญ่นิดหน่อย ถึงแม้ว่าโครงการจะไม่ได้อยู่บนถนนใหญ่สุขุมวิท หรือตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า แต่ในบริเวณรอบๆที่ตั้งของโครงการ Kraam สุขุมวิท 26 ถือว่ามีความเจริญอยู่สูงมาก โดยเฉพาะบนถนนสุขุมวิท ที่ความเจริญค่อยๆมาตามเส้นรถไฟฟ้า โดยรอบของสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง Emporium และศูนย์การค้าที่เปิดใหม่อย่าง EmQuartier ที่เป็นทั้งห้างและอาคารสำนักงาน รวมถึงโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่อีกโครงการคือ Emsphere ทำให้พื้นที่นี้กำลังจะเป็น Hub ของแหล่งนัดพบแห่งใหม่ที่ไม่น่าจะแพ้ย่านสยามเรียกว่าย่าน EM Districtโดยย่านนี้ได้รับอานิสงค์จากย่านอโศกที่มีออฟฟิตอยู่เยอะ จะทำให้มีพนักงานออฟฟิตมา Hang Out กันหลังเลิกงาน

สำหรับพื้นที่ข้างเคียงในซอยสุขุมวิท 24 ก็มีความเจริญของโรงแรมและร้านอาหารตลอดซอย รวมไปถึงซอยตรงข้ามอย่างซอยสุขุมวิท 39 ก็ถือว่าเป็นซอยสำคัญอีกซอยในซอยสุขุทวิทเลขคี่ในย่านนี้เช่นกัน อีกเส้นหนึ่งที่มีความเจริญรองลงมาคือถนนพระรามสี่ ที่เป็นที่ตั้งของศูนย์การค้า เน้นเป็นพวกซุปเปอร์มาร์เก็ตและ Community Mall เป็นถนนเส้นขนานของสุขุทวิทตั้งแต่หัวลำโพง ยาวไปเรื่อยๆจนถึงพระโขนงจึงจะมาบรรจบกัน บนถนนพระรามสี่มีทางขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครที่คลองเตยค่ะ

ถ้าใครอยากเจาะลึกทำเลโดยรอบของโครงการแบบละเอียด สามารถอ่านได้ที่ รีวิวพาชมทำเล Kraam สุขุมวิท 26 

ส่วนการเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ มีสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ที่ใกล้ที่สุด ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท มีรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ สายสีเขียว อยู่ห่างจากปากซอยสุขุมวิท 26 เป็นระยะ 100 เมตร หรือประมาณ 500 เมตรจากโครงการ  นอกจากนี้ BTS พร้อมพงษ์ยังเป็นสถานีที่ถัดจาก BTS อโศก ซึ่งเป็นสถานี Interchange เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิทสามารถไปออฟฟิตแถวสีลม หรือไปฝั่งย่านลาดพร้าว จตุจักรได้สะดวก จากที่ตั้งโครงการมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่, Community Mall และโรงแรมอยู่ในรัศมีไม่เกิน 3 กิโลเมตร ส่วนการเรียกแท๊กซี่ แม้ว่าจะอยู่ในซอยแต่ก็หาไม่ยากนัก เพราะซอยสุขุมวิท 26 เป็นซอยลัดทำให้มีรถผ่านไปมาอยู่ตลอด สำหรับพี่วินจะอยู่ตามทางลง BTS ทางออกต่างๆ วินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดจะอยู่หน้า Condo One X ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 150 ม.

ถ้ามองในแง่คนทำงานออฟฟิตที่เกาะเส้นรถไฟฟ้าแถบเพลินจิต–อโศก ย่านพร้อมพงษ์ก็ถือเป็นย่านที่ช่วงเย็นๆคนนิยมที่จะแวะมาทานอาหารและพบปะกัน ส่วนใหญ่จะใช้รถไฟฟ้าในการเดินทาง แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่เดินทางด้วยรถส่วนตัว ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ถนนหลักสุขุมวิทในการเดินทาง แต่การใช้ถนนใหญ่อย่างเดียวจะทำให้หลีกเลี่ยงรถติดได้ยาก โดยเฉพาะถนนสุขุมวิทที่เป็นถนนตรงยาว ปริมาณรถมากทั้งวัน ทำให้ต้องอาศัยทางลัดในซอยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซอยสุขุมวิทเลขคี่หรือเลขคู่ โดยเฉพาะซอยสุขุมวิท 16, 22, 24 และ 26 ที่สามารถเดินรถได้ทั้งสองทางเป็นซอยใหญ่ เชื่อมต่อกันผ่านซอยเศรษฐีทวีทรัพย์เพื่อลัดจากซอยหนึ่งไปซอยหนึ่ง หรือลัดจากถนนสุขุมวิทไปยังถนนพระรามสี่

สำหรับความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการ อย่างที่บอกไปว่าเป็นทำเลที่ค่อนข้างสงบส่งผลให้รอบๆโครงการไม่อุดมสมบูรณ์นัก เพราะผู้คนไม่พลุกพล่าน จะมีร้านขายอาหาร ขายขนม สัก 10 ร้านในซอยที่พอให้พึ่งพิงได้ หากต้องการตัวเลือกเยอะๆต้องมองไปที่ห้างใหญ่อย่าง Emporium, EmQuatier ที่อยู่ฝั่งสุขุมวิทห่างโครงการไปประมาณ 600 เมตร หรือมองไปทางปากซอยฝั่งพระราม 4 ยังมีศูนย์การค้าที่เน้นซุปเปอร์มาร์เก็ตราคาหยิบจ่ายสบายๆอย่าง BigC และ Tesco Lotus หรือจะเป็น Community Mall อย่าง K-Village และ A Sqaure  ระยะทางประมาณ 800 เมตร จัดว่าเป็นชุมชนที่พัฒนาแล้วและจะพัฒนาเพิ่มอีกอย่างแน่นอน

มาดูพื้นที่รอบข้างของโครงการคอนโด Kraam แบบแผนที่กันบ้างค่ะ สภาพแวดล้อมภายในซอยสุขุมวิท 26 ฝั่งที่ใกล้กับถนนสุขุมวิท โดยรอบบริเวณที่ติดถนน ส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์ 4-5 ชั้น สลับกับคอนโดมิเนียม, โรงแรม, Service Apartment ที่เป็นตึกสูง มีบ้างที่เป็นบ้านพักอาศัยหรือบริษัท 2-3 ชั้น ซึ่งที่เหล่านี้เป็นที่ดินขนาดใหญ่ที่มีโอกาสในการพัฒนาในอนาคต โดยแต่ละด้านของแปลงที่ดินติดกับ

• ทิศเหนือ – ติดกับโรงแรม Story@Bangkok สูง 4 ชั้น
• ทิศตะวันออก – ติดกับ Condolette Dwell คอนโดมิเนียม 8 ชั้น
• ทิศใต้ –  ติดกับซอยท่านหญิงพวงรัตน์ประไพ ตรงข้ามซอยเป็น Kush ผับเปิดใหม่สูง 2-3 ชั้น
• ทิศตะวันตก – ติดกับถนนสุขมวิท 26 ฝั่งตรงข้ามถนนเป็น The Country Craft และบ้านพักอาศัย 2 ชั้นที่มีที่ดินขนาดใหญ่ที่มีโอกาสในการพัฒนาในอนาคต

นอกจากนั้นเรื่องวิวก็เป็นเรื่องที่มักจะต้องนึกถึงโดยเฉพาะคอนโด High rise โดยรอบโครงการ แม้ว่าในปัจจุบันจะไม่มีตึกสูงบังวิวในระยะประชิด แต่ทางทิศเหนือและทิศตะวันออกจะมีตึกในระยะที่ไม่สูงนัก คือ ทางทิศเหนือติดกับโรงแรม Story@Bangkok สูง 4 ชั้น ส่วน ทิศตะวันออกติด Condolette Dwell คอนโดมิเนียม 8 ชั้น แต่ฝั่งทิศใต้ตรงข้ามถนนก็ยังมีพื้นที่บ้านอยู่อาศัยขนาดใหญ่ที่มีความเป็นไปได้ในการสร้างเป็นอาคารสูงในอนาคต และยังมีอาคารสูงที่บังวิวในระยะไกลจากทางทิศเหนือถึงทิศใต้ ไล่มาตั้งแต่หน้าซอยจากอาคาร Noble Refine สูง 25 ชั้น, โรงแรม Double Tree สูง 23 ชั้น, อาคาร Regent on Park 34 ชั้น, Condo One X สูง 28 ชั้น ส่วนทางทิศตะวันออกจะได้วิวที่ดีที่สุดเพราะหันหน้าไปทางซอยสุขุมวิท 34 ที่อาคารส่วนใหญ่สูงไม่เกิน 8 ชั้น ทำให้ห้องพักอาศัยในทิศนี้ตั้งแต่ชั้น 8 ขึ้นไปจะได้วิวที่โปร่งกว่าด้านอื่นๆ แต่ก็จะเห็นคอนโดสูงที่อยู่ในแนวถนนหลักสุขุมวิทในระยะไกลค่ะ

พื้นที่โครงการด้านหน้าสร้างเป็นสำนักงานขาย อยู่ติดริมถนนซอยสุขุมวิท 26 มีป้ายชื่อโครงการอยู่ด้านหน้าชัเจน เมื่อเริ่มก่อสร้างตัวอาคารของดโครงการ ส่วนสำนักงานขายนี้ก็จะถูกรื้อไปและปรับพื้นที่บริเวณนี้เป็นสวนด้านหน้าโครงการ

พื้นที่ของโครงการจะอยู่ติดกับซอยท่านหญิงพวงรัตน์ประไพ ตรงข้ามซอยเป็น Kush ผับเปิดใหม่สูง 2-3 ชั้น

ปัจจุบันพื้นที่โครงการบางส่วนได้ล้อมรั่วไปเรียบร้อย และเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วค่ะ ที่เห็นเลยถัดไปจากแนวรั้วจะเป็นโครงการเพื่อนบ้านโครงการ Condolette Dwell เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• Double Tree by Hilton Hotel 180 เมตร
• Emporium 580 เมตร
• Emquartier 680 เมตร
• สวนเบญจศิริ 730 เมตร
• โรงแรม Hilton สุขุมวิท 830 เมตร
• โรงแรมอะริสตั้น 900 เมตร
• Rainhill 900 เมตร
• A Square 1 กิโลเมตร
• K-Village 1.1 กิโลเมตร
• BigC Extra พระรามสี่ 1.1 กิโลเมตร
• อาคาร UBC II 1.2 กิโลเมตร
• สถานฑูตฟิลิปปินส์ 1.2 กิโลเมตร
• 24′ Avenue 1.4 กิโลเมตร
• โรงแรม The David 1.4 กิโลเมตร
• อาคารมาลีนนท์ทาวเวอร์ 1.5 กิโลเมตร
• โรงเรียนสายน้ำผึ้งในพระอุปถัมภ์ 1.9 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลสมิติเวช 2 กิโลเมตร
• Tesco Lotus พระรามสี่ 2.4 กิโลเมตร
• สถานฑูตนอร์เวย์ 2.5 กิโลเมตร

เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ KRAAM Sukhumvit 26 เป็นคอนโด High Rise สูง 29 ชั้น 126 ยูนิต บนพื้นที่ 1-3-91 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมที่มีแนวคิดในการออกแบบที่โดดเด่นทั้งภายในและภายนอก รวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆ ในทุกรายละเอียดภายในโครงการ มี Concept หลักของโครงการคือ Home-Like Condominium เน้นพื้นใช้สอยในความเป็นบ้านอย่างเต็มที่ และตอบโจทย์ของที่พักอาศัยในระดับพรีเมี่ยม โดยได้บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) มาเป็นผู้ออกแบบงานสถาปัตยกรรม ในส่วนงานตกแต่งภายใน ออกแบบโดยบริษัท พี ไอ เอ อินทีเรีย จำกัด (PIA Interior) และงานภูมิสถาปัตยกรรม ออกแบบโดยบริษัท พี แลนด์สเคป จำกัด (P Landscape) โดยมุ่งเน้นให้โครงการในภาพรวมทั้งหมดมีเอกลักษณ์เฉพาะ ด้วยนวัตกรรมการออกแบบ และรูปแบบการใช้งานพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในส่วนของเจ้าของโครงการ บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด ที่มีแนวคิดที่มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่อสังหาริมทรัพย์โดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับรูปแบบการใช้สอย งานดีไซน์ โครงสร้าง และคุณค่า รวมทั้งความยั่งยืนในระยะยาว อีกทั้งก็จัดเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำที่อยู่อาศัยระดับ Hi-end มากมาย ได้แก่ พาร์คพรีว่า พระราม 9 , โครงการในทำเลสุขุมวิท ภายใต้แนวคิด ควอเตอร์ คอลเล็คชั่น ประกอบด้วย โครงการบ้านแบบคลัสเตอร์โฮม 2 โครงการ ได้แก่ ควอเตอร์ 31 และ ควอเตอร์ 39 และ ควอเตอร์ ทองหล่อ , โครงการเฌอคูน ดีไซน์ทาวน์โฮมบนถนนราชพฤกษ์-สาทร จึงสามารถการันตีคุณภาพจากผลงานที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี

ตัวโครงการหันหน้าโครงการออกถนนซอยสุขุมวิท 26 เน้นการออกแบบ Modern Style ตัวอาคารใช้โทนสีเข้มและอ่อนไล่โทนสีรอบตัวตึกเน้นความเรียบเท่ น่าอยู่อาศัย จัดพื้นที่ชั้นส่วนกลางที่ชั้นล่างของตัวอาคารและชั้นบนที่ชั้น 26 โดยเริ่มมีส่วนของห้องพักที่ชั้น 10 ไปจนถึงชั้น 29  ส่วนพื้นที่จอดรถจะอยู่ในโครงการที่ชั้นใต้ดินลงไป 2 ชั้น และที่บนตัวอาคารที่ชั้น 2-9 จัดที่จอดไว้ 140%  และบริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการสำหรับจอดรถ visitor ไว้เป็นสัดส่วน

ในส่วนห้องพักอาศัย มีทั้งหมด 4 แบบ ตั้ง 1 Bedroom ไปจนถึง Penthouse จะมีการแบ่งสัดส่วนของห้องพักให้ทุกชั้นมีทั้งห้อง 1 Bed , 2 Bed และ 3 Bed จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 10-29  ส่วนห้องแบบ Penthouse จะมีเฉพาะชั้นบนที่ชั้น 26 และ 29 เท่านั้น โดยมีการออกแบบในรายละเอียดต่างๆ เช่น หน้าต่างขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน (Full Height Window) เพื่อรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ กระจกหน้าต่างสามชั้น (Triple Glazed Window) เพื่อดูดซับเสียงและกันความร้อน แผงบังแดดแนวตั้ง (Vertical Façade Fin) ตลอดแนวด้านหน้าอาคารเพื่อลดความร้อนจากแสงแดด ผนังห้องที่ออกแบบให้แยกจากกันในแต่ละยูนิตเพื่อความเป็นส่วนตัวและให้เกิด Cross Ventilation ในทุกยูนิตเพื่อการถ่ายเทอากาศที่ดี และการออกแบบเพื่อการใช้ประโยชน์จากพื้นที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ในส่วนของพื้นที่ Facility เน้นการออกแบบด้วยแนวคิด Green Living ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับสภาพแวดล้อมดั้งเดิมอย่างกลมกลืน โดยเราได้รักษาต้นหางนกยูงต้นใหญ่อายุกว่า 100 ปีที่มาพร้อมกับที่ดินดั้งเดิม และสร้างพื้นที่สีเขียวไว้ที่บริเวณสนามหญ้าและสวนหน้าโครงการเพื่อให้ร่มเงาและความร่มรื่น แนวการออกแบบที่มุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อการพักอาศัยสำหรับครอบครัวควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ชั้นชั้นล่างของตัวอาคาร จะประกอบ Lobby , Library ,  Concierge Service ส่วนในชั้น 26 ประกอบด้วย Infinity-Edge swimming pool , Kid’s Pool ,  Jacuzzi Pool , Pool Deck , Fitness , Yoga room และ Steam room ในส่วนของ Landscape จะมีอยู่บริเวณรอบพื้นที่ส่วนกลาง ที่ชั้น 1  และจะอยู่ด้านของพื้นที่โครงการมีระยะร่นจากแนวโครงการเข้ามา 45 m. โดยเน้นการปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ความร่มรื่นตลอดแนวทางเข้าและพื้นที่รอบๆโครงการ มีการจัดพื้นที่ส่วน Building management และห้องควบคุมงานระบบอาคารต่างๆจะอยู่ทางด้านหลังของตัวอาคาร มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์ Service 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 42 : 1 ใช้งานแบบสบายๆไม่หนาแน่น

การจัดพื้นที่ Landscape ที่กลางพื้นที่สวนจะมีต้นหางนกยูง อายุกว่า 100 ปีที่มาพร้อมกับที่ดินดั้งเดิม ที่ทางโครงการและผู้ออกแบบภูมิสถาปัตย์มีความตั้งใจจะเก็บไว้เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่สีเขียวในโครงการ สามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นและพักผ่อนได้

ภาพและบรรยากาศจำลองบริเวณพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 26 จัดพื้นที่เป็น Infinity-Edge swimming pool , Kid’s Pool ,  Jacuzzi Pool , Pool Deck และห้อง Fitness

ภาพและบรรยากาศจำลองบริเวณพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 26 จัดพื้นที่เป็น Infinity-Edge swimming pool , Kid’s Pool ,  Jacuzzi Pool และ Pool Deck

ภาพและบรรยากาศจำลองบริเวณพื้นที่ส่วน Lobby โถงต้อนรับ ที่จะเชื่อมต่อไปยังส่วน Library ของโครงการ

ภาพและบรรยากาศจำลองบริเวณพื้นที่ Library ที่บริเวณชั้น 1 ของโครงการ

ภาพและบรรยากาศจำลองบริเวณพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 26 จัดพื้นที่เป็นห้อง Fitness สามารถมองออกไปเห็นวิวมุมสูงและสระว่ายน้ำของโครงการได้

ปัจจุบันพื้นที่โครงการด้านหน้าสร้างเป็นสำนักงานขาย อยู่ริมถนนซอยสุขุมวิท 26 เมื่อก่อสร้างตัวอาคารสำนักงานขายนี้ก็จะถูกรื้อไปและปรับพื้นที่บริเวณนี้เป็นสวนด้านหน้าโครงการค่ะ

เข้ามาทางด้านในของสำนักงานขาย ด้านหลังจะเป็นที่นั่งแบบเปิดโล่ง มีต้นหางนกยูง อายุกว่า 100 ปีที่มาพร้อมกับที่ดินดั้งเดิม ที่ทางโครงการและผู้ออกแบบภูมิสถาปัตย์มีความตั้งใจจะเก็บไว้เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่สีเขียวในโครงการค่ะ

บรรยากาศภายในสำนักงานขาย มีเจ้าหน้าคอยให้ข้อมูลและแนะนำโครงการ ภายในจัดที่นั่งสำหรับลูกค้าและผู้มาเยี่ยมชมโครงการ ด้านในจะมีห้องตัวอย่างให้ดู 2 แบบ และมีโมเดลของโครงการตั้งให้ดู

ภายในสำนักงานขายจัดที่นั่งสำหรับลูกค้าและผู้มาเยี่ยมชมโครงการ

โครงการ KRAAM Sukhumvit 26 เป็นคอนโด High Rise สูง 29 ชั้น 126 ยูนิต บนพื้นที่ 1-3-91 ไร่ ทำเลที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 สามารถเข้าออกโครงการจากถนนซอยเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิทได้สะดวก ใกล้รถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ โครงการมีการจัดพื้นที่ภายในโครงการทั้งส่วนของห้องพักอาศัย เริ่มจากชั้น 10 ขึ้นไป และพื้นที่ส่วนกลาง facility ต่างๆเอาไว้อยู่ภายในโครงการทั้งหมด เน้นพื้นที่สีเขียว มีสวนขนาดใหญ่ที่ชั้นล่างบริเวณด้านหน้าของตัวอาคาร จัดพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายสามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการ จัดที่จอดรถไว้ชั้นล่างของตัวอาคารทั้งหมดสามารถจอดได้ 140% ช่วยเพิ่มความสะดวกในการอยู่อาศัย ออกแบบ Modern Style มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเน้นนวัตกรรมการออกแบบ และรูปแบบการใช้งานพื้นที่ภายในส่วนพักอาศัยแต่ละยูนิตให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โครงการเป็นคอนโดมิเนียมสูง 29 จากรูปด้านอาคารสามารถแบ่งส่วนการใช้งานต่างๆของตัวอาคาร ไล่ตั้งแต่ชั้นล่างสุด ออกแบบเป็นที่จอดรถชั้นใต้ดินลึกลงไป 2 ชั้น ถัดมาเป็นชั้น 1 ของโครงการด้านหน้าเป็นพื้นที่สวนส่วนกลาง ตัวอาคารชั้น 1 จัดพื้นที่เป็นโถงต้อนรับ ห้องสมุด และพื้นที่ Building management ทางด้านหลัง ถัดขึ้นมาเป็นส่วนอาคารสำหรับจอดรถ ตั้งแต่ชั้น 2-9 ในส่วนของชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 10 ขึ้นไป จนไปถึงชั้น 26 จะเป็นชั้นของ Facility หลักของโครงการเกือบทั้งหมด ซึ่งชั้นนี้จะมีห้อง Panthouse อยู่ด้วย ถัดขึ้นไปในชั้น 27-29 จะเป็นที่ห้องพักทั้งหมด

โดยภาพรวมในการออกแบบของโครงการนั้นเป็นรูปแบบ Modern Style ตัวอาคารใช้โทนสีเข้มและอ่อนไล่โทนสีรอบตัวตึกเน้นความเรียบเท่ น่าอยู่อาศัย แม้เวลาจะผ่านไปนานๆ ตัวอาคารก็จะดูร่วมสมัยอยู่เสมอ ออกแบบให้หน้าต่างขนาดใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน (Full Height Window) เพื่อรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ กระจกหน้าต่างสามชั้น (Triple Glazed Window) เพื่อดูดซับเสียงและกันความร้อน แผงบังแดดแนวตั้ง (Vertical Façade Fin) ตลอดแนวด้านหน้าอาคารโดยรอบทั้ง 4 ด้าน เพื่อลดความร้อนจากแสงแดด ผนังห้องที่ออกแบบให้แยกจากกันในแต่ละยูนิตเพื่อความเป็นส่วนตัวและให้เกิด Cross Ventilation ในทุกยูนิตเพื่อการถ่ายเทอากาศที่ดี

จากชั้น 1 ของพื้นที่โครงการจะเห็นว่าตำแหน่งอาคารมีระยะร่นเข้าไปอยู่ด้านในของที่ดิน เว้นระยะจากแนวถนนซอยสุขุมวิท 26 เข้ามาถึง 45 m. เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวต่อตัวอาคารพักอาศัยที่อยู่ด้านใน จัดระบบทางเข้าของโครงการแบบ Double gate บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการสำหรับจอดรถ visitor เมื่อเข้ามาในพื้นที่โครงการจะมีจุด Drop off บริเวณด้านหน้าอาคารเพื่อให้จอดรับส่งได้ โดยรอบๆตัวตึกจัดเป็นพื้นที่สีเขียวมาให้บ้างนิดหน่อยตามที่ดินที่เหลือ ส่วนใหญ่พื้นที่สีเขียวจะเน้นไปที่ด้านหน้าอาคารของโครงการเป็นหลัก

การจัดเส้นทางเดินรถออกแบบเส้นทางเดินรถสองเลนสวนทางกันภายในโครงการไม่ให้วนรถโดยรอบได้ แต่จะจัดพื้นจอดรถและกลับรถไว้ให้วนรถกลับได้ ถ้าต้องการขึ้นไปจอดรถจะมีให้เลือกระหว่างจอดชั้นใต้ดินหรือขึ้นไปชั้นอาคารจอดรถ โดนจะมีทางลาดขึ้นไปที่จอดรถทางด้านข้างอาคาร

ถ้าต้องการขึ้นไปจอดรถจะมีให้เลือกระหว่างจอดชั้นใต้ดินหรือขึ้นไปชั้นอาคารจอดรถ โดนจะมีทางลาดขึ้นไปที่จอดรถทางด้านข้างอาคา โดยจัดที่จอดไว้ 140% ช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้พักอาศัย

ชั้นล่างสุด ออกแบบเป็นที่จอดรถชั้นใต้ดินลึกลงไป 2 ชั้น ถัดมาเป็นชั้น 1 ของโครงการด้านหน้าเป็นพื้นที่สวนส่วนกลาง ตัวอาคารชั้น 1 จัดพื้นที่เป็นโถงต้อนรับ ห้องสมุด และพื้นที่ Building management ทางด้านหลัง ถัดขึ้นมาเป็นส่วนอาคารสำหรับจอดรถ ตั้งแต่ชั้น 2-9 ในส่วนของชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 10 ขึ้นไป

ที่ชั้น 26 ของโครงการจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักๆของโครงการไว้ทั้งหมดทางฝั่งด้านหน้าของตัวอาคาร และอีกฝั่งทางทิศตะวันออกจะเป็นห้อง Penthouse 1 ห้อง โดยที่ชั้น 26 ประกอบด้วย Infinity-Edge swimming pool , Kid’s Pool , Jacuzzi Pool , Pool Deck , Fitness , Yoga room , Steam room และห้องน้ำ-อาบน้ำแยกชาย-หญิง

เริ่มกันที่ผังชั้น 1 จะเห็นว่าตำแหน่งอาคารมีระยะร่นเข้าไปอยู่ด้านในของที่ดิน จัดระบบทางเข้าของโครงการแบบ Double gate ด้านหน้าทำเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่พร้อมที่นั่งพักผ่อน รูปทรงอาคารสร้างตามรูปร่างที่ดินเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า การจัดเส้นทางเดินรถออกแบบเส้นทางเดินรถสองเลนสวนทางกันภายในโครงการไม่ให้วนรถโดยรอบได้ แต่จะจัดพื้นจอดรถและกลับรถไว้ให้วนรถกลับได้ ถ้าต้องการขึ้นไปจอดรถจะมีให้เลือกระหว่างจอดชั้นใต้ดินหรือขึ้นไปชั้นอาคารจอดรถ โดนจะมีทางลาดขึ้นไปที่จอดรถทางด้านข้างอาคาร จัดที่จอดไว้ 140%  และบริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการสำหรับจอดรถ visitor พื้นที่บริเวณชั้น 1 จะมี Lobby , Library , Meeting room และ Concierge Service ไว้คอยให้บริการ ส่วน Building management และห้องควบคุมงานระบบอาคารต่างๆจะอยู่ทางด้านหลังของตัวอาคาร มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์ Service 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 42 : 1 ใช้งานแบบสบายๆไม่หนาแน่น และมีบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่ง รอบๆตัวตึกจัดเป็นพื้นที่สีเขียวมาให้บ้างนิดหน่อยตามที่ดินที่เหลือ ส่วนใหญ่พื้นที่สีเขียวจะเน้นไปที่ด้านหน้าอาคารของโครงการเป็นหลัก ที่เว้นระยะจากแนวถนนซอยสุขุมวิท 26 เข้ามาถึง 45 m. 

ที่จอดรถของลูกบ้านจะมีทั้งแบบ Fix ตำแหน่งที่จอดและไม่ Fix ตำแหน่ง โดยสิทธิ์ในการจอดให้ลูกบ้านตามนี้ค่ะ

• ห้องแบบ 1 Bedroom ได้ Fix 1 ตำแหน่ง 
• ห้องแบบ 2 Bedroom ได้ Fix 1 ตำแหน่ง ,ไม่ Fix 1 ตำแหน่ง
• ห้องแบบ 3 Bedroom ได้ Fix 2 ตำแหน่ง ,ไม่ Fix 1 ตำแหน่ง
• ห้องแบบ Penthouse ได้ Fix 4 ตำแหน่ง

โครงการมีการจัดพื้นที่ภายในโครงการทั้งส่วนของห้องพักอาศัย เริ่มจากชั้น 10 ขึ้นไป ในชั้น 10-20 จัดแบบ Typical plan มีห้องพักทั้งหมด 8 ห้อง จำนวนยูนิตต่อชั้นไม่มากเน้นความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย โดยทั้งหมดเป็นห้องแบบ 1 Bedroom จำนวน 4 ห้อง และ 2 Bedroom จำนวน 4 ห้อง จัดวางห้องพักแบบให้หันออกโดยรอบตัวอาคารทั้ง 4 ทิศทาง ตามแนวตึกรูปตัวทรงสี่เหลี่ยม และวางส่วน Service และงานระบบไว้ตรงกลางของตัวอาคาร มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว บันไดหนีไฟในอาคาร 2 ตำแหน่ง บริเวณตรงกลางของตัวอาคาร ที่สามารถเชื่อมต่อลงไปยังชั้นที่ 1 ของตัวอาคารได้

ผังชั้น 21-25 จัดแบบ Typical plan เช่นกัน มีห้องพักทั้งหมด 6 ห้อง เน้นความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย โดยทั้งหมดเป็นห้องแบบ 1 Bedroom จำนวน 2 ห้อง , 2 Bedroom จำนวน 2 ห้อง และ 3 Bedroom จำนวน 2 ห้องจัดวางห้องพักแบบให้หันออกโดยรอบตัวอาคารทั้ง 4 ทิศทาง วางส่วน Service และงานระบบไว้ตรงกลางของตัวอาคาร มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว บันไดหนีไฟในอาคาร 2 ตำแหน่ง บริเวณตรงกลางของตัวอาคาร เหมือนในชั้น 10-20

ผังชั้น 26 ของโครงการจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักๆของโครงการไว้ทั้งหมดทางฝั่งด้านหน้าของตัวอาคาร และอีกฝั่งทางทิศตะวันออกจะเป็นห้อง Penthouse 1 ห้อง โดยที่ชั้น 26 ประกอบด้วย Infinity-Edge swimming pool , Kid’s Pool , Jacuzzi Pool , Pool Deck , Fitness , Yoga room , Steam room และห้องน้ำ-อาบน้ำแยกชาย-หญิง มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว บันไดหนีไฟในอาคาร 2 ตำแหน่ง

ผังชั้น 27 – 28 จะมีจำนวนห้องลดน้อยลงจากชั้นล่างๆ เหลือเพียง 4 ยูนิตต่อชั้น จัดเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมดโดยมีห้องพักทั้งหมด 4 ห้อง แบ่งเป็นห้องแบบ 2 Bedroom ทั้งหมด ส่วนตำแหน่งลิฟท์และบันไดหนีไฟจะตรงกับผังในชั้น 26

ผังชั้น 29 เป็นชั้นสูงสุดของโครงการ จะมีจำนวนพักอาศัยเหลือเพียง 3 ยูนิตต่อชั้น จัดเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมดโดยมีห้องพัก แบ่งเป็นห้องแบบ 2 Bedroom 2 ห้อง และห้องแบบ Penthouse 1 ห้อง ส่วนตำแหน่งลิฟท์และบันไดหนีไฟจะตรงกับผังในชั้น 26

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• Lobby
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 24 x 6 เมตร ลึก 1.2 เมตร
• สระเด็ก 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5.5 x 5.5 เมตร ลึก 0.6 เมตร
• ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่อง
• Jacuzzi
• Yoga room
• Steam room
• Library
• Multi-purpose room
• Concierge service
• Laundry service
• Room maintenance
• Doorman
• Shuttle services ไปสุขุมวิทและพระราม 4
• สวนหย่อมรอบโครงการ
• ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 42 :  1
• Service Lift 1 ตัว
• ที่จอดรถประมาณ 176 คันคิดเป็น 140%
• ระบบ CCTV / Access Card
• ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.

Product Walkthrough

เริ่มจากห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 61 ตร.ม.  ขายเป็นแบบ Fully Fitted จัดพื้นที่ภายในห้องให้สามารถจัดพื้นที่ให้มีการใช้งานในส่วนต่างๆได้สะดวก เหมาะกับผู้อยู่อาศัย 1-2 คน  ออกแบบให้สามารถดูวิวภายนอกและรับแสงธรรชาติได้ดี  ตัวห้องแบ่งโซนพื้นที่เป็น 5 โซน คือ ห้องนอน ส่วนนั่งเล่น ห้องน้ำ ส่วนครัว และระเบียง เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนครัวเป็นครัวแบบเปิด มี Pantry แบบ Built-in ขนาดพื้นที่ครัว จัดพื้นที่มาเพียงพอต่อการใช้งานไม่เน้นทำครัวจริงจัง แต่การจัดครัวเปิดแบบนี้จะต้องระมัดระวังเรื่องกลิ่นและควันจากการประกอบอาหาร และแบ่งพื้นที่เป็นช่องตรงข้ามกับ Pantry สำหรับทำที่เก็บรองเท้าหรือทำเป็นชั้นเก็บของต่างๆได้ และใกล้กับบริเวณทางเข้า

ตรงข้ามกับพื้นที่ครัวจะเป็นพื้นที่ระเบียง Yard ของตัวห้องที่ออกแบบมานอกเหนือจากใช้เป็นลานซักล้าง พื้นที่สำหรับเป็นส่วน Lauary ของตัวห้อง และวาง Condensing air ยังเป็นช่องลมที่ทำหน้าที่ระบายอากาศให้ภายในห้องมีการ Cross Ventilation ของอากาศภายในช่วยให้ห้องมีลมผ่านและลดความร้อนภายในห้องได้ ส่วนพื้นที่ส่วนครัวและส่วนรับประทานอาหารให้ใช้ร่วมกันจึงตั้งโต๊ะรับประทานอาหารชิดกับชุดครัวไปเลย ถัดเข้ามาเป็นส่วนห้องนั่งเล่น วางในตำแหน่งด้านนอกของตัวห้อง เชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง ได้แสงธรรมชาติจากภายนอกและเปิดรับลมระบายอากาศได้ดีพื้นที่ระเบียงให้พื้นที่มาใช้งานได้จริง มีประตูกั้นแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน

ถัดเข้าไปด้านในของตัวห้องจัดเป็นส่วนห้องนอนและห้องน้ำ พื้นที่ห้องนอนสามารถวางเตียงและมีพื้นที่โดยรอบไม่อึดอัด มีตู้เสื้อผ้า Built-inให้ มีกระจกบานใหญ่สามารถมองวิวแบบมุมกว้าง ห้องน้ำอยู่ด้านใน มีพื้นจัดเป็น Walk in closet เชื่อมต่อกับห้องนอน เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งานแต่การวางตำแหน่งห้องน้ำไว้ติดด้านของตัวอาคารลักษณะนี้ การระบายอากาศจะต้องใช้ระบบดูดอากาศจากภายในอาคารเท่านั้น ภายในห้องน้ำแยกพื้นที่โซนเปียกโซนแห้งชัดเจน พร้อมอุปกรณ์ภายในห้องน้ำครบชุด

ประตูทางเข้าเป็นประตูไม้ปิดผิวด้วย Veneer ติดตั้งมือจับประตูพร้อมอุปกรณ์ Digital door lock ของ Samsung

พื้นทางเข้าสู่ห้องไม่มีธรณีประตูกั้น ส่วนพื้นห้องในส่วนนี้เป็นพื้นไม้ Engineer wood มีตัวจบสแตนเลส เพื่อเก็บรอยต่อของพื้นทั้งสอง ทั้งด้านนอกและด้านในตัวห้องให้เรียบร้อย

เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่ส่วนครัวที่เชื่อมต่อไปยังส่วนห้องนั่งเล่นและพื้นที่ระเบียงของตัวห้องได้ ทางซ้ายมือของตัวห้องจะเป็นห้องนอนและห้องน้ำ ส่วนทางขวามือจะเชื่อมไปยังส่วน Yard หรือระเบียงทางด้านข้างของตัวห้อง พื้นส่วนห้องครัวจะเป็นกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน ซึ่งมีคุณสมบัติสวยงามเหมือนจริง มีความทนทานและทำความสะอาดง่าย ส่วนในห้องนั่งเล่นและห้องนอน จะเป็นพื้นไม้ Engineer wood ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีกว่าลามิเนต วัสดุมีความแข็งแรงมากขึ้นและมีความเหมือนไม้จริง ในส่วนของผนังห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 3 m. ติดไฟภายในห้องทั้งหมดแบบ downlight

ในส่วนของประตูด้านใน จะมี Door Stopper ติดอยู่ที่พื้นหลังประตู เพื่อป้องกันบานประตูเปิดมากระทบกำแพง พื้นที่บริเวณทางเข้ากว้างประมาณ 1.6 m.ทางขวามือจะเป็นตู้ Built in สำหรับเก็บของต่างๆ เมื่อเปิดตู้จะมีไฟเปิดด้านในอัตโนมัติ ซึ่งชุดตู้นี้ทางโครงการมีให้พร้อมใช้งาน

ถัดเข้ามาด้านในจะตั้งเป็นชุดโต๊ะกระจกพร้อมเก้าอี้นั้ง ซึ่งห้องจริงจะไม่มีให้ จึงทำให้มีพื้นที่เหลือกว้างพอสมควรบริเวณทางเดินในส่วนนี้ เราสามารถหาเก้าอี้แบบ Studio มาตั้งใช้คู่กับ Iceland ตรงบริเวณครัวก็ได้ หรือจะจัดวางเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้แบบวางชิดไปด้านหนึ่งแบบในห้องตัวอย่างก็ได้ค่ะ

ส่วนครัวที่จัดมาให้ เป็นครัวแบบเปิด มี Pantry แบบ Built-in ขนาดพื้นที่ครัว จัดพื้นที่มาเพียงพอต่อการใช้งานไม่เน้นทำครัวจริงจัง แต่การจัดครัวเปิดแบบนี้จะต้องระมัดระวังเรื่องกลิ่นและควันจากการประกอบอาหาร ความสูงจากพื้นถึงฝ้าตรงส่วนครัวจะสูงประมาณ 2.7 m. เพราะจะต้องลดระดับฝ้าลงมาสำหรับงานระบบปรับอากาศด้านบน สำหรับระบบปรับอากาศในโครงการจะเป็นระบบ Conceal Type ทั้งหมด

ชุดเคาน์เตอร์ครัวแบบ Island ขนาด 0.70 x 1.5 m. สูง 1.9 m. สามารถเดินรอบได้ Top เคาน์เตอร์และผนังเป็นหิน Quartz ด้านล่างทำเป็นลิ้นชักวางของแบ่ง 2 และ 3 ระดับ แบ่งช่อง Soft Close สำหรับเก็บอุปกรณ์แยกตามขนาด พร้อมมือจับ ผิวหน้าบานเป็น High Gloss สีเทา

ด้านบนของชุดเคาน์เตอร์ครัวแบบ Island จะมีอุปกรณ์ชุดปลั๊ก ที่สามารถดึงขึ้นมาใช้งานและกดเก็บกลับซ่อนไว้ในเคาน์เตอร์ได้

ส่วนครัวมีความกว้างของพื้นที่สำหรับยืนประกอบอาหารในครัว วัดจากชุดครัวถึงเคาน์เตอร์ทางขวามือ กว้างประมาณ 83 cm.

โครงการจะมีชุดครัวแบบ Built-in ความสูงจากพื้นถึงฝ้าใช้งานแบบเต็มพื้นที่ผนังครัว แบ่งช่องสำหรับเก็บของไว้หลายระดับ ให้เลือกใช้ได้ตามขนาดสิ่งของ ด้านข้างทำเป็นช่องเปิดสำหรับวางไวโครเวฟหรืออุปกรณ์เครื่องใช้ภายในครัวต่างๆ

บริเวณช่องวางของด้านข้างของชุดตู้แบบ Built-in จะมี sensor จับความเคลื่อนไหว ช่วยเปิดปิดไฟที่ตู้แบบอัตโนมัติ

อีกฝั่งของครัว ทำเป็นชุดครัวแบบ Built-in เช่นกันแบ่งเป็นชิ้นบนทำเป็นช่องมีตัวบานด้านหน้าเป็น High gloss ภายในแบ่งช่องสำหรับเก็บของไว้หลายระดับ

Top ครัวและผนังเป็นหิน Quartz มีคุณสมบัติกันรอยขีดข่วนได้อย่างดีเหมาะสำหรับประกอบอาหาร สามารถเช็ดและทำความสะอาดได้ง่าย ให้ชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ 1 ช่อง ของ Blanco steelart ขนาด 48 x 39 cm. ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับจัดเตรียมอาหาร

ติดตั้งชุดเตาแบบแม่เหล็ก Hob & Hood ดูดควันของ Gaggenau ซึ่งชุดเตานี้ทางโครงการมีให้ค่ะ

ด้านล่างติดตั้งชุดเตาอบ ของ Gaggenau ส่วนใต้อ่างล้างจานทำเป็นบานเปิดคู่ ด้านในมีพื้นที่สำหรับเก็บของและมีถังขยะมีฝาปิดเรียบร้อย

ถัดจากเคาร์เตอร์อ่างล้างจานจะเป็นชุดตู้แบบ Built-in สำหรับตู้เย็น ซึ่งทางโครงการจะมีให้ เป็นของ Samsung

ฝั่งตรงข้ามกับพื้นที่ครัวจะเป็นพื้นที่ระเบียง Yard ของตัวห้อง โดยจะมีประตูบานเลื่อนแบ่งส่วนพื้นที่การใช้งานไว้ ตัวประตูบานเลื่อนเป็นบานอลูมิเนียม ติดกระจก Insulating Glass สามารถเลื่อนตัวบานได้ 2 ทิศทาง

ตัวประตูบานเลื่อนเป็นบานอลูมิเนียม ติดกระจก Triple glazed windows ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันความร้อน และเสียงจากภายนอกได้ดี ตัวบานมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าแบบเต็มบานแต่มีน้ำหนักไม่มาก สามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้สะดวก ขอบตัวบานมีสักหลาดเพื่อป้องกันเสียงและฝุ่นจากภายนอกเข้ามาด้านในตัวห้อง

ในส่วนของพื้นที่ระเบียง Yard ของตัวห้อง จัดพื้นที่มาให้ 2.85 x 1.5 m. แบ่งเป็นสองส่วน มีประตูรั้วโปร่งกั้นแบ่งพื้นที่การใช้งาน ปูพื้นด้วยกระเบื้อง Ceramic ลายไม้ จัดเป็นระเบียงแบบ Open space ที่ออกแบบมานอกเหนือจากใช้เป็นลานซักล้าง พื้นที่สำหรับเป็นส่วน Lauary ของตัวห้อง และวาง Condensing air ยังเป็นช่องลมที่ทำหน้าที่ระบายอากาศให้ภายในห้องมีการ Cross Ventilation ของอากาศภายในช่วยให้ห้องมีลมผ่านและลดความร้อนภายในห้องได้ เมื่อเปิดประตูบานเลื่อนออก

ผนังด้านในจัดเป็นชุดตู้แบบ Built-in บานเปิด จัดพื้นที่สำหรับเป็นส่วน Lauary แบ่งช่องสำหรับเก็บของและสามารถวางเครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้าขนาด 9 kg. ได้ ตัวช่องมีขนาดประมาณ 70 x 65 cm.

ส่วนปลั๊กไฟและสวิทช์ไฟภายในห้องใช้ของ Panasonic ทั้งหมด

มาที่ส่วนของพื้นที่นั่งเล่น จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร วางตำแหน่งของพื้นที่ส่วนนี้ให้อยู่ชิดริมฝั่งระเบียงรับแสงธรรมชาติได้ดี วัสดุปูพื้นเป็นพื้นไม้ Engineer wood มีระดับพื้นถึงฝ้าสูง 3 m. ทำให้ห้องดูโปร่งไม่อึดอัด  พื้นที่ในส่วนห้องนั้งเล่นสามารถวางโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่งได้สบายๆ พื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถเลือกชุดโซฟาได้หลากหลายแบบ แต่ชุดโซฟาโครงการไม่มีให้นะคะ ผนังติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งเพื่อความสวยงาม อันนี้เราดูไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งห้องได้ค่ะ เพราะห้องจริงจะเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีค่ะ

สำหรับฝั่งตรงข้ามชุดโซฟาจะทำเป็นชุดตู้ Built in ด้านหลังกรุวัสดุไม้ตกแต่ง ด้านข้างทำเป็นชั้นวางของ ด้านหน้าแขวนทีวี แต่ชุดตู้ชั้นวางของนี้ทางโครงการไม่มีให้นะคะ เราดูไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งห้องได้ค่ะ เพราะห้องจริงจะเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสี

ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี ห่างประมาณ 3.4 m. ในระยะประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาด 40″– 50″ ได้

ส่วนประตูออกไปสู่ระเบียง เป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียมสีเทาบานใหญ่ติดกระจก Triple glazed windows สูงถึงระดับฝ้าเพดาน โดยเลื่อนไปชิดรวมกันทางซ้ายและขวามือ พร้อมซ่อนรางผ้าม่านให้เรียบร้อย

ตัวประตูเป็นบานอลูมิเนียมพร้อมตัวล็อค ยกขอบสูงจากพื้นระเบียงด้านนอกเล็กน้อย ช่วยป้องกันน้ำฝนหรือน้ำซึมเข้ามาด้านในได้ ระหว่างพื้นห้องกับรางอลูมิเนียมมีตัวจบ เก็บงานเรียบร้อย

ฝ้าเพดานด้านบนจะทำการซ่อนรางผ้าม่านให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน พร้อมติดไฟให้แบบ downlight

พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้อง Ceramic ลายไม้ พื้นที่ระเบียงมีขนาด 4.05 x 0.6 m. ไม่เล็กจนเกิน เป็นระเบียงที่สามารถสามารถใช้งานได้จริงเป็นพื้นที่นั้งพักผ่อนได้

ราวกันตกเป็นกระจกนิรภัย สูงประมาณ 1.9 m. กรอบบานทำด้วยเหล็กทาสี ซึ่งในห้องจริงจะเป็นกระจกบานใหญ่เต็มๆชิ้นเดียวค่ะ

จากพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะมีทางเชื่อมต่อไปยังห้องนอน  และห้องน้ำของตัวห้อง แนวทางเดินมีความกว้างประมาณ 1.2 m.

เมื่อเข้ามาในห้องนอนจะแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็น 2 ส่วนหลัก คือทางขวามือเป็นพื้นที่สำหรับตั้งเตียงนอน ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สำหรับ Walk in closet ที่จะเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำของตัวห้อง

มากันที่ห้องนอน สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต หรือ King Size ได้ไม่อึดอัด มีพื้นที่เหลือโดยรอบ สามารถวางตู้หรือชั้นวางของต้านข้างได้ ภายในห้องนอนปูพื้นด้วยพื้นไม้ Engineer wood ผนังในห้องนอนติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งไว้ แต่ห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี มีระดับพื้นถึงฝ้าสูง 3 m. ทำให้ห้องดูโปร่งไม่อึดอัด

ระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งด้านในตัวห้อง กว้างประมาณ 0.80 m.

ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 70 cm. มีตำแหน่งปลั๊กไฟต่างๆไว้ให้สำหรับ ทีวี ควรจะแขวนกับผนัง จะได้มีพื้นที่ทางเดินปลายเตียงได้สะดวก

ส่วนระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งหน้าต่าง กว้างประมาณ 50 cm. สามารถยืนเปิดหน้าต่างได้

หน้าต่างภายในห้องนอนจะได้ชุดกระจกบานใหญ่มีความสูงจากพื้นถึงระดับฝ้าเพดาน ทำให้สามารถมองเห็นวิวแบบมุมกว้างได้ ด้านข้างจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้สามารถเปิดรับลมระบายอากาศได้ พร้อมซ่อนรางผ้าม่านให้เรียบร้อย

หน้าต่างบานกระทุ้งมีความกว้างประมาณ 0.65 m. สามารถเปิดออกมีระยะประมาณ 60 องศา พร้อมมือจับและอุปกรณ์ตัวล็อค สามารถเปิรับลมและระบายอากาศในห้องได้

ฝั่งตรงข้ามปลายเตียงแขวนทีวีไว้ที่ผนังมีชุดปลั๊กไฟติดตั้งไว้ให้พร้อมใช้งาน ช่วยประหยัดพื้นที่จะได้มีพื้นที่ปลายเตียงเดินได้สะดวกมากขึ้น

ฝ้าเพดานภายในห้องนอน เป็นฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ติดวงไฟเป็นแบบ downlight ให้ ระบบปรับอากาศภายในห้องเป็นระบบ Conceal Type เหมือนกับห้องนั่งเล่น พร้อมทำรางซ่อนผ้าม่านให้เรียบร้อย

อีกฝั่งของตัวห้องจะจัดพื้นที่เป็น Walk in closet ที่จะเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำของตัวห้อง

พื้น Walk in closet จะอยู่ด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำ ทำเป็นชุดตู้แบบ Built-in  พื้นที่ในส่วนนี้จะมีความกว้างประมาณ 1.05 m. สามารถยืนแต่งตัวได้สะดวกไม่อึดอัด

ภายในติดตั้งตู้เสื้อผ้า แบบ Built in ตัวตู้จะสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเพดานด้านบน ออกแบบเป็นชั้นหลายระดับพร้อมราวสำหรับแขวนเสื้อผ้า ซึ่งทางโครงการมีชุดตู้นี้ให้แต่จะเป็นไม้สีอ่อนกว่าห้องตัวอย่าง และมีหน้าบานปิดให้เรียบร้อย

ภายในห้องน้ำจัดพื้นที่ไว้ค่อนข้างกว้าง มีการแบ่งการใช้งานเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้เป็นสัดส่วนน่าใช้งาน วัสดุปูพื้นและผนังกรุด้วยกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้าและมีพื้นที่สำหรับวางของให้เหนืออ่างและใต้อ่างล้างหน้า พร้อมอ่างอาบน้ำ ชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมใช้งาน

ทางเข้าห้องน้ำลดระดับ 2 cm. โดยปูกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อนทำขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านในไว้เรียบร้อย

ชุดอ่างล้างหน้า เหนืออ่างกรุกระจกบานใหญ่พร้อมซ้อนไฟด้านล่าง เคาร์เตอร์อ่างล้างหน้ามีขนาด 1.83 x 0.32 m. มีพื้นที่สำหรับวางเก็บของด้านข้างและด้านล่าง สามารถเก็บของใช้ภายในห้องน้ำได้ค่ะ

ชุดอ่างล้างหน้า และส่วนอุปกรณ์ เป็นของ TOTO ตัวอ่างล้างหน้ามีขนาด 40 x 60 cm.โดยรอบอ่างล้างหน้ามีพื้นที่สำหรับวางของได้

ชุดอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว สำหรับใช้คนเดียว พร้อมชุดอุปกรณ์ก๊อกน้ำแบบ ก๊อกผสมอ่างอาบน้ำพร้อมฝักบัว สำหรับใช้ในอ่างอาบน้ำ ของ TOTO

อีกฝั่งของห้องน้ำจะแบ่งพื้นที่ทำเป็นส่วนโถสุขภัณฑ์และพื้นที่ส่วนเปียกสำหรับอาบน้ำ โดยจะมีฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส สามารถเลื่อนสลับซ้าย-ขวา ในการใช้งานได้

ภายในมีพื้นที่ประมาณ 1 x 1.33 m. จัดพื้นที่มาให้สามารถใช้งานได้สะดวก ส่วนชุดสุขภัณฑ์ของ TOTO ที่ให้มาก็มีขนาดไม่เล็กเกินไป เหมาะสมกับการใช้งาน

อุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ สายชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู ของ TOTO

ส่วนอาบน้ำมีบานประตูบานเปิดกระจกให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส ส่วนที่ประตูกระจกตรงที่จับออกแบบให้สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้

พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.10 x 1.04 m. กว้างพอสมควรใช้งานได้สะดวก จะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยลดระดับลงมาประมาณ 3 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower Ceiling Hang  ของ TOTO ซึ่งในห้องจริง Rain Shower จะติดไว้ที่ฝ้าเพดานด้านบนค่ะ ส่วนผนังด้านข้างเจาะเป็นช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ

ชุดฝักบัวอาบน้ำ ของ TOTO สามารถปรับอุณหภูมิน้ำร้อน-เย็นได้ให้คงที่ได้ และสามารถปรับระดับสายน้ำของฝักบัวได้

อุปกรณ์อื่นในห้องน้ำที่มีให้ เช่น ราวแขวนผ้าเช็ดตัว , พัดลมระบายอากาศ  และให้ไฟแบบ Downlight

ภายในสำนักงานขายจะมีวัสดุตัวอย่างภายในห้องให้ดูเพิ่มเติม ทางซ้ายมือเป็นวัสดุปิผิวประตูทางเข้าห้อง เป็นประตูไม้ปิดผิวด้วย Veneer สีครีมเคลือบเงา ส่วนทางขวามือเป็นวัสดุปิดผิวลามิเนตลายไม้ของชุดตู้ Built-in ในส่วนของ Walk in closet ของห้องจริง

ห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 111 ตร.ม. ขายเป็นแบบ Fully Fitted ด้วยพื้นที่ของห้องที่มีขนาดใหญ่สามารถจัดแบ่งพื้นที่ให้มีการใช้งานสะดวกสบายไม่อึดอัด ออกแบบให้สามารถดูวิวภายนอกแบบมุมกว้างและรับแสงธรรมชาติได้ดี  ตัวห้องแบ่งโซนพื้นที่การใช้งานหลักๆเป็น 5 โซน คือ ห้องนอน 2 ห้อง , ห้องน้ำ 2 ห้อง , ห้องนั่งเล่น , ส่วนครัว และระเบียง 2 ตำแหน่งเมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนครัวทางขวามือ แยกโซนพื้นที่การใช้งานไว้เป็นสัดส่วน เป็นครัวแบบเปิด มี Pantry แบบ Built-in ขนาดพื้นที่ครัวกว้างสามารถใช้งานได้สะดวก การจัดพื้นที่เป็นครัวเปิดลักษณะนี้ต้องระมัดระวังเรื่องการใช้งาน เรื่องกลิ่นและควันจากการประกอบอาหารซึ่งอาจจะรบกวนพื้นที่ภายในห้องได้ มีพื้นที่สำหรับตั้งโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 3-4 คนได้

เชื่อมต่อไปส่วนห้องนั่งเล่นที่มีกระจกบานใหญ่สามารถมองวิวแบบมุมกว้าง ส่วนระเบียงจัดพื้นที่มาค่อนข้างกว้างสามารถใช้งานได้จริง มีห้องน้ำแยกการใช้งานสำหรับห้องนอนเล็ก หรือให้แขกที่แวะมาห้องใช้งานได้ ตรงข้ามกับห้องนั้งเล่นมีห้องเก็บของและพื้นที่ระเบียง Yard ของตัวห้องที่ออกแบบมานอกเหนือจากใช้เป็นลานซักล้าง พื้นที่สำหรับเป็นส่วน Lauary ของตัวห้อง และวาง Condensing air ยังเป็นช่องลมที่ทำหน้าที่ระบายอากาศให้ภายในห้องมีการ Cross Ventilation ของอากาศภายในช่วยให้ห้องมีลมผ่านและลดความร้อนภายในห้องได้

ในส่วนห้องนอนแบ่งเป็นห้องนอนหลักและห้องนอนรอง วางไว้ในตำแหน่งด้านนอกของตัวอาคาร พร้อมหน้าต่างกระจกบานใหญ่ เห็นวิวมุมกว้างและรับแสงธรรชาติ เปิดระบายอากาศได้ดี จัดพื้นที่การใช้งานสามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size  มี Walk in closet ภายในทำเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ให้พร้อมใช้งานในส่วนของห้องนอนหลักจะมีห้องน้ำในตัว มี Walk in closet แยกการใช้งานเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ภายในห้องน้ำห้องน้ำมีการแยกโซนเปียกโซนแห้งมาให้เรียบร้อย พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆครบตามการใช้งาน

ประตูทางเข้าเป็นประตูไม้ปิดผิวด้วย Veneer ติตั้งมือจับประตูพร้อมอุปกรณ์ Digital door lock ของ Samsung ซึ่งทางโครงการมีให้พร้อมใช้งาน

เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่ส่วนครัวที่เชื่อมต่อไปยังส่วนห้องนั่งเล่นและพื้นในส่วนอื่นๆของตัวห้องได้ โดยส่วนครัวจะจัดไว้ทางขวามือของตัวห้อง พื้นส่วนห้องครัวจะเป็นกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน ส่วนในห้องนั่งเล่นและห้องนอน จะเป็นพื้นไม้ Engineer woodในส่วนของผนังห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 3 m. ติดไฟให้แบบ Downlight

ส่วนทางขวามือจากประตูทางเข้า ทางโครงการจะทำเป็นชุดตู้ Built in ความสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเต็มบาน ตัวบานด้านหน้าเป็นกระจก ใช้เก็บรองเท้าและเก็บอุปกรณ์สิ่งของต่างๆได้ ซึ่งตู้อันนี้ทางโครงการมีให้ค่ะ

ส่วนครัวเป็นครัวแบบเปิด มี Pantry แบบ Built-in ขนาดพื้นที่ครัว จัดพื้นที่มากว้างสามารถใช้งานได้สะดวก เคาน์เตอร์ Island ตรงกลางส่วนครัวไว้สำหรับจัดเตรียมอาหารได้ สามารถเดินรอบได้ แต่การจัดครัวเปิดแบบนี้จะต้องระมัดระวังเรื่องกลิ่นและควันจากการประกอบอาหาร อาจจะกั้นพื้นที่เพิ่มด้วยกระจกหรือบานเลื่อน เพื่อป้องกันกลิ่นควันมารบกวนภายในห้อง ผนังภายในกรุกระจกช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้น แต่ห้องครัวจริงจะได้เป็นผนังฉาบเรียบ เราดูไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งได้ค่ะ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าตรงส่วนครัวจะสูงประมาณ 2.7 m. เพราะจะต้องลดระดับฝ้าลงมาสำหรับงานระบบปรับอากาศด้านบน สำหรับระบบปรับอากาศจะเป็นระบบ Conceal Type

ชุดเคาน์เตอร์ครัวแบบ Island ขนาด 0.90 x 1.25 m. สูง 1.9 m. สามารถเดินรอบได้ Top เคาน์เตอร์และผนังเป็นหิน Quartz ด้านล่างทำเป็นลิ้นชักวางของแบ่ง 2 ระดับ แบ่งช่อง Soft Close สำหรับเก็บอุปกรณ์แยกตามขนาด

ชุดเคาน์เตอร์ครัวแบบ Island ในห้องแบบ 2 Bedroom จะสามารถเปิดได้ 3 ด้านรอบตัว สามารถเก็บของและอุปกรณ์ต่างๆได้หลากหลาย ส่วนด้านบนของชุดเคาน์เตอร์จะมีอุปกรณ์ชุดปลั๊ก ที่สามารถดึงขึ้นมาใช้งานและกดเก็บกลับซ่อนไว้ในเคาน์เตอร์ได้

โครงการจะมีชุดครัวแบบ Built-in  ชิ้นบนตัวบานด้านหน้าเป็น High gloss แบ่งช่องสำหรับเก็บของไว้หลายระดับ ให้เลือกใช้ได้ตามขนาดสิ่งของ และมีอุปกรณ์ช่วยดึงชั้นวางของด้านบนให้ลงมาด้านล่างสามารถหยิบของใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

ด้านล่างชุดครัวติดตั้งเครื่องล้างจาน และแบ่งช่องสำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งแบบลิ้นชักและช่องเปิดให้เลือกใช้

ด้านข้างของชุดครัวแบบ Built-in ทำเป็นลิ้นชักแนวตั้ง สำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ สามารถยืนหยิบใช้งานได้สะดวก

Top ครัวและผนังเป็นหิน Quartz มีคุณสมบัติกันรอยขีดข่วนได้อย่างดีเหมาะสำหรับประกอบอาหาร สามารถเช็ดและทำความสะอาดได้ง่าย ให้ชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ 1 ช่อง ของ Blanco steelart ขนาด 48 x 39 cm. ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับจัดเตรียมอาหาร และติดตั้งชุดเตาแบบแม่เหล็ก Hob & Hood ดูดควันของ Gaggenau ซึ่งชุดเตานี้ทางโครงการมีให้ค่ะ

อีกฝั่งของห้องครัวก็ทำเป็นชุดครัวแบบ Built-in เช่นกัน ด้านข้างทำเป็นช่องวางของ 5 ระดับ โดยจะมี sensor จับความเคลื่อนไหว ช่วยเปิดปิดไฟที่ตู้แบบอัตโนมัติ

ด้านในของชุดครัวแบบ Built-in แบ่งทำเป็นชั้นวางของหลากหลายขนาด ด้านข้างเป็นตู้เย็นบานเปิดคู่ของ Samsung ซึ่งทางโครงการจะมีให้พร้อมใช้งาน

ด้านข้างติดตั้งชุดเตาอบ ของ Gaggenau ซึ่งชุดเตานี้ทางโครงการมีให้ค่ะ

ส่วนครัวมีความกว้างของพื้นที่สำหรับยืนประกอบอาหารในครัว วัดจากชุดครัวถึงเคาน์เตอร์ กว้างประมาณ 1.07 – 1.14 m.

มาที่ส่วนของพื้นที่ห้องนั่งเล่น จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนครัว วางตำแหน่งของพื้นที่ส่วนนี้ตรงกลางของตัวห้องและอยู่ชิดริมฝั่งระเบียง ทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติได้ดี วัสดุปูพื้นเป็นพื้นไม้ Engineer wood มีระดับพื้นถึงฝ้าสูง 3 m. ทำให้ห้องดูโปร่งมากยิ่งขึ้น พื้นที่ในส่วนห้องนั้งเล่นสามารถวางโซฟขนาดใหญ่ได้ เพราะจัดพื้นที่มาให้ค่อนข้างกว้างสามารถเลือกชุดโซฟาได้หลากหลายแบบ ผนังติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งเพื่อความสวยงาม เราดูไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งห้องได้ค่ะ เพราะห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีค่ะ

ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี ห่างประมาณ 4.4 m. ในระยะประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาด 40″– 50″ ขึ้นไปได้ค่ะ

จากพื้นที่ส่วนนั่งเล่นจะจัดเป็นพื้นที่สำหรับวางชุดโต๊ะทำงานติกับพื้นที่ระเบียงและกระจกบานใหญ่

มีพื้นที่กว้างประมาณ 2.45 m. ซึ่งทางโครงการตกแต่งเป็นชั้นวางของ และวางชุดโต๊ะทำงานไว้ ซึ่งในห้องจริงเราสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบริเวณให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ เพราะจะเป็นมุมที่ได้รับแสงสว่างและสามารถมองเห็นวิวแบบมุมกว้างได้เต็มที่

พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้อง Ceramic ลายไม้ พื้นที่ระเบียงมีขนาด 2.20 x 1.10 m. พื้นที่ค่อนข้างกว้างเพียงพอให้ตั้งชุดโต๊ะเก้าอี้เล็กๆ ได้สบายๆ ราวกันตกเป็นกระจกนิรภัย

จากพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะมีทางเชื่อมต่อไปยังห้องนอนทั้งสองฝั่งซ้าย-ขวา และพื้นที่ระเบียง Yard ของตัวห้อง โดยมีประตูบานเลื่อนแบ่งส่วนพื้นที่การใช้งานไว้ ตัวประตูบานเลื่อนเป็นบานอลูมิเนียม ติดกระจก Triple glazed windows

ด้านข้างก่อนออกไปพื้นที่ระเบียงจัดพื้นที่เป็นห้องเก็บของ เป็นบานเปิดสีเดียวกับผนัง ด้านในมีพื้นที่ประมาณ 1.25 x 0.97 m.

ในส่วนของพื้นที่ระเบียง Yard ของตัวห้อง จัดพื้นที่มาให้ 2.99 x 1.5 m. แบ่งเป็นสองส่วน มีประตูรั้วโปร่งกั้นแบ่งพื้นที่การใช้งาน ปูพื้นด้วยกระเบื้อง Ceramic ลายไม้ ออกแบบใช้เป็นลานซักล้าง พื้นที่สำหรับเป็นส่วน Lauary ของตัวห้อง และวาง Condensing air และเป็นช่องลมที่ทำหน้าที่ระบายอากาศให้ภายในห้อง ช่วยลดความร้อนภายในห้องได้ เมื่อเปิดประตูบานเลื่อนออก

จากพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะมีทางเชื่อมต่อไปยังห้องนอนรอง และห้องน้ำ แนวทางเดินมีความกว้างประมาณ 1 m.

พื้นที่บริเวณด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำ จะแบ่งทำเป็นช่องบานเปิดสำหรับเก็บของต่างๆ ซึ่งตู้ชุดนี้ทางโครงการไม่มีให้นะคะ ห้องจริงจะเป็นพื้นที่โล่งเป็นช่องให้เราเลือกตกแต่งเองตามการใช้งานค่ะ

ห้องน้ำจะอยู่ติดกับห้องนอนรอง ภายในมีการแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้ง วัสดุปูพื้นด้วยกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้า ติดกระจกบานใหญ่ มีพื้นที่สำหรับวางของด้านข้างอ่างและใต้อ่างล้างหน้า ทางเข้าห้องน้ำจะลดระดับ 3 cm.

พื้นที่ภายในห้องนำ้ เปิดประตูมาก็จะเจอกับชุดโถสุขภัณฑ์ มีพื้นที่ให้ยืนด้านหน้าอ่างล้างหน้าได้พอดีๆใช้งานไม่แคบไป

ชุดอ่างล้างหน้า เหนืออ่างกรุกระจกบานใหญ่พร้อมซ้อนไฟด้านล่าง เคาร์เตอร์อ่างล้างหน้ามีขนาด 1.37 x 0.36 m. ส่วนตัวอ่างล้างหน้ามีขนาด 40 x 60 cm. ของ TOTO รอบอ่างจะมีพื้นที่สำหรับวางของด้านข้างและด้านล่าง สามารถเก็บของใช้ภายในห้องน้ำได้

ส่วนชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ สายชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู ของ TOTO

ส่วนอาบน้ำมีบานประตูบานเปิดกระจกให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส

พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.26 x 0.98 m. และลดระดับลงมาประมาณ 3 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำของ TOTO สามารถปรับอุณหภูมิน้ำร้อน-เย็น  ผนังด้านข้างเจาะเป็นช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ

ทางเข้าห้องนอนรองจะเป็นแนวทางเดิน ด้านข้างผนังทำเป็นชุดตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in มีความกว้างประมาณ 90 cm.

ภายในห้องนอนจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in เป็นบานเลื่อน 2 ด้าน ด้านในมีราวสำหรับแขวนเสื้อผ้า และมีชั้นวางของด้านบนไว้เก็บของได้ ชั้นล่างจะทำเป็นลิ้นชักสำหรับเก็บของต่างๆ

ภายในห้องนอนรองจัดวางตำแหน่งของตัวห้องไว้ด้านนอกตัวอาคาร จึงสามารถเปิดมองวิวแบบมุมกว้างและรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size ได้ มีพื้นที่เหลือด้านข้างให้ตั้งชุดโต๊ะข้างเตียง และชุดตู้เสื้อผ้าได้ ห้องนอนห้องนี้จะไม่มีห้องน้ำในตัวนะคะ ต้องแบ่งใช้กับห้องน้ำด้านนอก

ส่วนพื้นที่ด้านข้างเตียง ฝั่งติดกับตู้เสื้อผ้า จะเหลือพื้นที่ประมาณ 70 cm.

ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 60 cm. มีตำแหน่งปลั๊กไฟต่างๆไว้ให้สำหรับ ทีวี ควรจะแขวนกับผนัง จะได้มีพื้นที่ทางเดินปลายเตียงได้สะดวกมากขึ้น

ส่วนระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งหน้าต่าง กว้างประมาณ 1 m. สามารถยืนเปิดหน้าต่างได้สะดวก

หน้าต่างภายในห้องนอนจะได้ชุดกระจกบานใหญ่มีความสูงจากพื้นถึงระดับฝ้าเพดาน ทำให้สามารถมองเห็นวิวแบบมุมกว้างได้ ด้านข้างจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้สามารถเปิดรับลมระบายอากาศได้ ฝ้าเพดานด้านบนจะซ่อนรางผ้าม่านให้เรียบร้อย

ภายในห้องนอนจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in เป็นบานเปิด 2 ด้าน ด้านในมีราวสำหรับแขวนเสื้อผ้า และมีชั้นวางของด้านข้างไว้เก็บของได้ ส่วนฝ้าเพดานภายในห้องนอน เป็นฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ติดวงไฟเป็นแบบ downlight ให้ ระบบปรับอากาศภายในห้องเป็นระบบ Conceal Type เหมือนกับห้องนั่งเล่น

ฝั่งตรงข้ามปลายเตียงแขวนทีวีไว้ที่ผนังมีชุดปลั๊กไฟติดตั้งไว้ให้พร้อมใช้งาน ช่วยประหยัดพื้นที่จะได้มีพื้นที่ปลายเตียงเดินได้สะดวกมากขึ้น

มากันที่ห้องนอน Masterbedroom ของตัวห้องจะอยู่อีกด้านหนึ่งของห้องนั่งเล่น ทางฝั่งระเบียง Yard ของตัวห้อง

เมื่อเข้ามาในห้องนอนจะแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็น 2 ส่วนหลัก คือทางขวามือเป็นพื้นที่ Walk in closet ที่จะเชื่อมต่อไปยังห้องนอน ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ทางเข้าห้องน้ำของตัวห้อง แนวทางเดินด้านหน้าห้องน้ำมีความกว้างประมาณ 150 cm. ส่วนนวทางเดินระหว่างตู้เสื้อผ้ามีความกว้างประมาณ 85 cm.

แนวทางเดินเพื่อเข้าไปในห้องนอนจะทำเป็น Walk in closet ในตัวโดยทำเป็น ตู้เสื้อผ้า Built-in แบบบานเลื่อน 2 ฝั่ง ความสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าใช้งานแบบเต็มพื้นที่ ภายในแบ่งช่องสำหรับแขวนเสื้อผ้าและลิ้นชักสำหรับเก็บของต่างๆ

ภายในห้องนอนหลัก สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต หรือ King Size ได้ไม่อึดอัด มีพื้นที่เหลือโดยรอบ สามารถวางตู้หรือชั้นวางของต้านข้างได้ ภายในห้องนอนปูพื้นด้วยพื้นไม้ Engineer wood ผนังในห้องนอนติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งไว้ แต่ห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี มีระดับพื้นถึงฝ้าสูง 3 m. ทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น

ระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งด้านในตัวห้อง กว้างประมาณ 90 cm.

ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 75 cm. มีตำแหน่งปลั๊กไฟต่างๆไว้ให้สำหรับ ทีวีแต่อาจปรับเปลี่ยนเป็นการแขวน TV กับผนังแทน จะได้มีพื้นที่ทางเดินปลายเตียงได้สะดวกมากขึ้น

ส่วนระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งหน้าต่าง กว้างประมาณ 1 m.

ผนังด้านฝั่งด้านในตัวห้องจะทำเป็นช่องวางของ มีหน้าบานกระจกใส แต่ห้องจริงจะเป็นช่องว่างให้เราตกแต่งพื้นที่ตรงนี้เองนะคะ ส่วนฝ้าเพดานภายในห้องนอน เป็นฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ติดวงไฟเป็นแบบ downlight ให้ ระบบปรับอากาศภายในห้องเป็นระบบ Conceal Type

ผนังฝั่งปลายเตียงภายในห้องนอนใหญ่จะทำเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in เมื่อเปิดประตูตู้จะมีไฟเปิดด้านในแบบอัตโนมัติ

หน้าต่างภายในห้องนอนเป็นชุดกระจกบานใหญ่มีความสูงจากพื้นถึงระดับฝ้าเพดาน สามารถมองเห็นวิวแบบมุมกว้าง ด้านข้างจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้สามารถเปิดรับลมระบายอากาศได้

ภายในห้องน้ำจัดพื้นที่มีการแบ่งการใช้งานเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้เป็นสัดส่วน วัสดุปูพื้นและผนังกรุด้วยกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้าและมีพื้นที่สำหรับวางของให้เหนืออ่างและใต้อ่างล้างหน้า พร้อมอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว ชุดโถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำกั้นฉากกระจกให้พร้อมใช้งาน ภายในห้องน้ำจะลดระดับ 2 cm. ทำขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านในไว้เรียบร้อย

ชุดอ่างล้างหน้า เหนืออ่างกรุกระจกบานใหญ่พร้อมซ้อนไฟด้านล่าง เคาร์เตอร์อ่างล้างหน้ามีขนาด 1.60 x 0.58 m. ชุดอ่างล้างหน้า และส่วนอุปกรณ์ เป็นของ TOTO ตัวอ่างล้างหน้ามีขนาด 40 x 60 cm. มีพื้นที่สำหรับวางเก็บของด้านข้างและด้านล่างสำหรับเก็บของใช้ภายในห้องน้ำ

ให้ชุดอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว สำหรับใช้คนเดียว พร้อมชุดอุปกรณ์ก๊อกน้ำแบบ ก๊อกผสมอ่างอาบน้ำพร้อมฝักบัว สำหรับใช้ในอ่างอาบน้ำ ของ TOTO ภายในห้องน้ำจะติดชุดกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นถึงฝ้า ช่วยให้ห้องน้ำสว่างและดูโปร่งมากขึ้น ด้านข้างมีหน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับเปิดระบายอากาศได้

ส่วนชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ สายชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู ของ TOTO

ส่วนอาบน้ำมีบานประตูบานเปิดกระจกให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส ส่วนที่ประตูกระจกตรงที่จับออกแบบให้สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้

พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.06 x 0.97 m. และลดระดับลงมาประมาณ 3 cm. เพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Rain Shower Ceiling Hang  ของ TOTO ซึ่งในห้องจริง Rain Shower จะติดไว้ที่ฝ้าเพดานด้านบนค่ะ ส่วนผนังด้านข้างเจาะเป็นช่องไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ

อุปกรณ์อื่นในห้องน้ำที่มีให้ เช่น ราวแขวนผ้าเช็ดตัว และให้ไฟแบบ Downlight

ห้องแบบ 1 Bedroom Type A ขนาดพื้นที่ใช้สอย 61 ตารางเมตร

ห้องแบบ 2 Bedrooms Type A ขนาดพื้นที่ใช้สอย 111 ตารางเมตร

ห้องแบบ 2 Bedrooms Type B ขนาดพื้นที่ใช้สอย 102 ตารางเมตร

ห้องแบบ 2 Bedrooms Type C ขนาดพื้นที่ใช้สอย 108 ตารางเมตร

ห้องแบบ 2 Bedrooms Type E ขนาดพื้นที่ใช้สอย 129 ตารางเมตร

ห้องแบบ 2 Bedrooms Type F ขนาดพื้นที่ใช้สอย 129 ตารางเมตร

ห้องแบบ 3 Bedrooms Type A ขนาดพื้นที่ใช้สอย 188 ตารางเมตร

ห้องแบบ 3 Bedrooms Type B ขนาดพื้นที่ใช้สอย 185 ตารางเมตร

ห้องแบบ Penthouse ขนาดพื้นที่ใช้สอย 229 ตารางเมตร

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 31 January 2017

• 1 Bedroom ชั้น 11 ห้อง 1160 แบบ 1A เนื้อที่ 61 ตร.ม. ราคา 17.274 ล้านบาท
• 1 Bedroom ชั้น 18 ห้อง 1860 แบบ 1A เนื้อที่ 61 ตร.ม. ราคา 18.408 ล้านบาท
• 2 Bedroom ชั้น 10 ห้อง 1008 แบบ 2B เนื้อที่ 111 ตร.ม. ราคา 29.773 ล้านบาท
• 2 Bedroom ชั้น 25 ห้อง 2508 แบบ 2B เนื้อที่ 111 ตร.ม. ราคา 35.926 ล้านบาท
• 2 Bedroom ชั้น 10 ห้อง 1004 แบบ 2C เนื้อที่ 102 ตร.ม. ราคา 29.547 ล้านบาท
• 2 Bedroom ชั้น 20 ห้อง 2004 แบบ 2C เนื้อที่ 102 ตร.ม. ราคา 32.732 ล้านบาท
• 3 Bedroom ชั้น 20 ห้อง 2002 แบบ 3A เนื้อที่ 188 ตร.ม. ราคา 58.783 ล้านบาท
• 3 Bedroom ชั้น 25 ห้อง 2502 แบบ 3A เนื้อที่ 188 ตร.ม. ราคา 60.982 ล้านบาท
• 3 Bedroom ชั้น 21 ห้อง 2106 แบบ 3B เนื้อที่ 185 ตร.ม. ราคา 56.827 ล้านบาท
• 3 Bedroom ชั้น 23 ห้อง 2306 แบบ 3B เนื้อที่ 185 ตร.ม. ราคา 57.851 ล้านบาท
• Penthouse ชั้น 26 ห้อง 2605 แบบ 4A เนื้อที่ 228.5 ตร.ม. ราคา 78.486 ล้านบาท

• Fully Fitted
• ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร
• Kitchen & Sink
• Hob & Hood
• Shuttle Bus
• จอง 100,000 – 300,000 บาท
• ทำสัญญา 10%
• ผ่อนดาวน์ 34 งวด
• ค่ากองทุน 1,200 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 100 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

ทำเลที่ตั้งของโครงการจัดว่าอยู่ในทำเลย่านสุขุวิท ซึ่งซอยสุขุมวิท 26 มีจุดเด่นนอกจากเป็นย่านใจกลางเมืองใกล้แหล่งธุรกิจต่างๆแล้ว ยังเป็นซอยที่มีความสงบร่มรื่น บรรยากาศภายในซอยน่าอยู่อาศัย ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยทำให้เป็นทำเลที่ค่อนข้างสงบกว่าถนนใหญ่แต่ก็ Trade-off กันไปกับระยะที่ต้องเข้ามาจากถนนใหญ่ประมาณ 500 m. อีกทั้งในบริเวณรอบๆที่ตั้งของโครงการ ก็ถือว่ามีความเจริญอยู่สูงมาก โดยเฉพาะบนถนนสุขุมวิท ที่ความเจริญค่อยๆมาตามเส้นรถไฟฟ้า โดยรอบของสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง Emporium และศูนย์การค้าที่เปิดใหม่อย่าง EmQuartier ทำให้พื้นที่นี้กำลังจะเป็น Hub ของแหล่งนัดพบแห่งใหม่ที่ไม่น่าจะแพ้ย่านสยามเรียกว่าย่าน EM District สำหรับพื้นที่ข้างเคียงในซอยสุขุมวิท 24 ก็มีความเจริญของโรงแรมและร้านอาหารตลอดซอย รวมไปถึงซอยตรงข้ามอย่างซอยสุขุมวิท 39 ก็ถือว่าเป็นซอยสำคัญอีกซอยในซอยสุขุทวิทเลขคี่ในย่านนี้เช่นกัน อีกเส้นหนึ่งที่มีความเจริญรองลงมาคือถนนพระรามสี่ ช่วยส่งเสริมการอยู่อาศัยให้มีความครบสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

การเดินทางโดยใช้รถทำได้โดยสองทางหลักๆ นั้นก็คือจากถนนพระรามสี่ และถนนสุขุมวิท ซึ่งมีความสะดวกในการใช้งานอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว เพราะถนนทั้งสองเส้นสามารถไปเชื่อมต่อเมือง หรือออกนอกเมืองได้สะดวก และสามารถไปขึ้นทางด่วนได้ไม่ไกลจากโครงการ ส่วนใหญ่คนที่มาจากถนนพระรามสี่จะเป็นคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว ลงมาจากทางด่วนหรือมาในเส้นทางหลักปกติ จากถนนพระรามสี่มุ่งหน้าพระโขนงเข้าซอยสุขุมวิท 26 หรือซอยถัดจาก BigC พระรามสี่ หรือมาจากซอยสุขุมวิท 16, 22 หรือ 24 และเข้าซอยเศรษฐีทวีทรัพย์เพื่อเข้าซอยสุขุมวิท 26 อีกทีหนึ่งก็ได้ ที่ตั้งโครงการอยู่ริมถนนซอยสุขุมวิท 26 เลยไม่ต้องเข้าซอยย่อยให้ซับซ้อน

ส่วนการเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ มีสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ที่ใกล้ที่สุด ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท มีรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ สายสีเขียว อยู่ห่างจากปากซอยสุขุมวิท 26 เป็นระยะ 100 เมตร หรือประมาณ 500 เมตรจากโครงการ  นอกจากนี้ BTS พร้อมพงษ์ยังเป็นสถานีที่ถัดจาก BTS อโศก ซึ่งเป็นสถานี Interchange เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิทสามารถไปออฟฟิตแถวสีลม หรือไปฝั่งย่านลาดพร้าว จตุจักรได้สะดวก

การออกแบบโครงการที่มีแนวคิดในการออกแบบที่โดดเด่นเน้นความเป็น Luxury ทั้งภายในและภายนอก มีการออกแบบในทุกรายละเอียดของโครงการ เน้นพื้นใช้สอยในความเป็นบ้านอย่างเต็มที่ และตอบโจทย์ของที่พักอาศัยในระดับพรีเมี่ยม โดยได้ A49 มาออกแบบงานสถาปัตยกรรม ตกแต่งภายในโดย PIA Interior และงานภูมิสถาปัตยกรรมโดย P Landscape ทำให้โครงการมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยนวัตกรรมการออกแบบและมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากที่ดินประมาณ 1-3-915 ไร่ จัดวางผังอาคารไว้เฉพาะด้านในของพื้นที่ เว้นพื้นที่ด้านหน้าของที่ดินให้เป็นพื้นที่สีเขียว สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับด้านหน้าตัวอาคารมากขึ้น แบ่งพื้นที่โครงการในส่วนต่างๆ ทั้งส่วนพักอาศัย และส่วน Facility ในโครงไว้เป็นสัดส่วนชัดเจนไม่รบกวนกัน เน้นวางผังโครงการให้พื้นที่ส่วนกลางใช้ร่วมกันที่ชั้นล่าง และที่ชั้น 26 ของอาคาร โครงการจัดห้องได้ 126 ยูนิต เทียบดูในแต่ละชั้น จะมีจำนวนห้องสูงสุดอยู่ที่ 8 ห้องต่อชั้น ซึ่งก็ดูแล้วไม่หนาแน่น เป็นส่วนตัวในแต่ละชั้น มีแบบห้องให้เลือกหลากหลายแบบ ตั้งแต่ 1 Bedroom – 3 Bedroom  และ Penthouse ขนาดห้องเริ่มตั้งแต่ 61-229 ตร.ม. ถือว่าจัดพื้นที่มาให้ค่อนข้างเยอะ ทำให้สามารถจัดพื้นที่การใช้งานในส่วนต่างๆง่ายขึ้น ห้องไม่ดูอึดอัด  ด้วยความสูงของตัวอาคาร ทำให้ได้วิวและมุมมองเปิดกว้าง

ในส่วนของการออกแบบและจัดพื้นที่ห้องพักอาศัย โครงการเน้นใส่รายละเอียดต่างๆ เช่น หน้าต่างขนาดใหญ่ Full Height Window เลือกใช้กระจก Triple Glazed Window ออกแบบแผงบังแดดแนวตั้ง Vertical Façade Fin เพื่อลดความร้อนจากแสงแดด ผนังห้องที่ออกแบบให้แยกจากกันในแต่ละยูนิตเพื่อความเป็นส่วนตัวและให้เกิด Cross Ventilation ในทุกยูนิตเพื่อการถ่ายเทอากาศที่ดี ในส่วนของห้องพักมีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 61 ตร.ม.ขึ้นไป จึงทำให้สามารถจัดพื้นที่ใช้งานภายในห้องได้ดีและด้วยความสูงพื้นถึงฝ้า 3 m. ทำให้ห้องดูโปร่งไม่อึดอัด การออกแบบห้องแบบหน้ากว้างและการใช้หน้าต่างกระจกบานใหญ่ทำให้รับแสงและวิวได้ดี ในส่วนของห้องตัวอย่างเน้นการจัดพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อไปยังส่วนครัวและส่วนรับประทานอาหาร มีตู้ Built-in หรือ ชั้นวางมาให้เป็นสัดส่วนพร้อมใช้งาน ห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียกแห้ง จัดพื้นที่ส่วนครัวไว้น่าใช้มีที่เก็บของและส่วนเตรียมอาหาร ระเบียงกว้างสามารถใช้พักผ่อนชมวิวได้จริง ออกแบบส่วนพื้นที่ระเบียง Yard ของตัวห้องเพิ่มเข้ามา ใช้เป็นลานซักล้าง ส่วน Lauary และวาง Condensing air เป็นช่องลมที่ทำหน้าที่ระบายอากาศให้ภายในห้อง และมีระแนงบังสายตาจากภายนอกให้ โดยรวมจัดพื้นที่ได้ลงตัวเหมาะกับการใช้งาน แต่ในห้องนอนส่วนใหญ่จะเป็นบาน fix บานใหญ่ มีหน้าต่างบานกระทุ้งให้แต่เล็กและน้อยไปหน่อยพื้นที่ห้องครัวที่เป็นครัวเปิดเหมาะกับการทำอาหารเบาๆมากกว่าไม่เหมาะกับการทำอาหารที่มีกลิ่นและควันเยอะๆ

วัสดุและอุปกรณ์เน้นเลือกใช้ของดีมีคุณภาพกับการใช้งาน ถือเป็นจุดเด่นของโครงการ ประตูหน้าห้องบานใหญ่พร้อม Digital door lock ห้องนั่งเล่นและห้องนอน เป็นพื้นไม้ Engineer wood พื้นครัวเป็นกระเบื้อง Porcelain สวยและดูสะอาดตาน่าใช้งาน ห้องน้ำใช้กระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อน ทั้งผนังและพื้น แต่โครงการขายห้องแบบ Fully Fitted น่าจะเหมาะกับลูกค้าที่ชอบแต่งห้องเอง ที่โครงการมีให้คือ ชุดตู้เสื้อผ้า Built-in ในห้องนอน และตู้ Built-in ใน Walk in closet ห้องนอนใหญ่ , ตู้ Built-in ตรงทางเข้าห้อง และได้ชุดครัว Built-in พร้อมชุด Island couter ให้ Top couter และผนังครัว เป็นหิน Quartz มีคุณสมบัติกันรอยขีดข่วนได้ดี เหมาะกับการประกอบอาหาร ทำความสะอาดง่าย ให้ชุดเตาแบบแม่เหล็กและ Hood ดูดควันของ Gaggenau ในส่วนห้องน้ำให้เหมือนห้องตัวอย่างทั้งหมด อุปกรณ์ชุดอาบน้ำเน้นรูปแบบที่เรียบหรู อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ ของ TOTO หน้าต่างภายในห้องใช้กระจกบานใหญ่เหมาะกับห้องที่ต้องการเน้นเห็นวิวแบบมุมกว้าง ระเบียงใหญ่ใช้งานได้จริง ในส่วนของความเรียบร้อยอื่นๆภายในห้องถือว่าเก็บงานได้เรียบร้อยดี

สาธารณูปโภคของโครงการ Facility มีให้เลือกใช้หลากหลาย เริ่มตั้งแต่ชั้นล่างของตัวอาคาร จะประกอบ Lobby , Library และ Concierge Service ไว้ให้บริการ เน้นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ทั้งในชั้น 1 ด้านหน้าอาคาร ส่วนกลางหลักอื่นๆ ขึ้นไปที่ชั้น 26 ประกอบด้วย Infinity-Edge swimming pool , Kid’s Pool , Jacuzzi Pool ส่วนสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 24 x 6 m. อยู่ที่ชั้น 26 ว่ายน้ำมองเห็นวิวเมืองทงาฝั่งสุขุมวิท และมี Steam room แยกห้องอาบน้ำไว้ให้  มีส่วน Fitness , Yoga Room ให้เลือกใช้งาน โครงการจัดที่จอดรถมาให้สามารถจอดรถได้ 140% ช่วยเพิ่มความสะดวกในการอยู่อาศัย ให้ลิฟท์โดยสาร 3 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 42 : 1 ใช้งานแบบสบายๆไม่หนาแน่น

Judgement

ราคาของคอนโดนี้ถือเป็นระดับ ULTIMATE CLASS ซึ่งความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ ความคุ้มค่าด้านอารมณ์คือปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งตราบเท่าที่ทางเรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ ทาง Think of Living ขอไม่ให้คะแนนฟันธงในรีวิวเจาะลึกนะครับ เพราะมีตัวเปรียบเทียบน้อย เป็นสินค้าประเภท Unique เสียส่วนใหญ่ และเราก็เชื่อว่าลูกค้าที่พร้อมจะซื้อคอนโดระดับนี้ ไม่ตัดสินง่ายๆด้วยคะแนนแน่นอน

BOTTOM LINE

โครงการ KRAAM Sukhumvit 26 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในเมืองย่านสุขุมวิท ไม่ไกลจากแหล่งธุรกิจและย่านช็อปปิ้ง เดินทางสะดวกสามารถใช้รถส่วนตัวหรือเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าได้ ชอบการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มองหาคอนโดที่มีความ Private เสมือนอยู่บ้าน เน้นพื้นที่ใช้สอย เน้นในรายละเอียดของวัสดุ มี Facility หลักๆให้ใช้ครบ มีงบประมาณระดับ 17 – 78 ล้านบาท ขึ้นไปค่ะ

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )