..สำหรับชาวเพชรบุรีที่มีแพลนอยากแยกครอบครัว และเปลี่ยนมาใช้ชีวิตแบบคอนโดมิเนียมกันบ้าง วันนี้เรามีโครงการใหม่ Escent เพชรบุรี ซึ่งถือเป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมเจ้าตลาดชื่อดังจากกรุงเทพรายแรกเลย ที่ได้เข้ามาบุกเบิกในจังหวัดแห่งนี้ และแน่นอนว่าแบรนด์นี้ต้องมาพร้อมกับทำเลที่ใกล้ห้างสรรพสินค้าในเครือ CPN ที่คราวนี้ก็คือ ‘ห้างโรบินสันไลฟ์สไตล์ เพชรบุรี’ ที่ตั้งอยู่บนถนนใหญ่เพชรเกษมนั่นเองครับ โดยจุดเด่นหรือความน่าสนใจของโครงการจะมีดังต่อไปนี้
- ทำเลใกล้ห้างโรบินสันไลฟ์สไตล์ เพชรบุรี 70 m. มีความอุดมสมบูรณ์สูง สามารถเดินไปช้อปปิ้งได้สบายๆ
- ถนนห้วยเสือที่โครงการตั้งอยู่ สามารถเชื่อมต่อเพื่อเข้า-ออกเมืองได้สะดวก โดยไม่ต้องเสียเวลากลับรถบนถนนใหญ่ให้ยุ่งยาก
- โครงการจัดเต็ม Full Facilities แบบครบทุกฟังก์ชันเหมือนคอนโดในกรุงเทพ ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส พื้นที่นั่งทำงาน และพื้นที่สีเขียว เรียกได้ว่ามีให้ใช้งานครบและสวยงามดีทีเดียว
- ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบไม่ต้องเสียเวลาแต่งห้องเอง
- มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน (Premium Security) ทำให้การอยู่อาศัยมีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย
ข้อมูลโครงการ
Escent Phetchaburi (เอสเซ็นท์ เพชรบุรี) ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2566
ชื่อโครงการ | Escent Phetchaburi (เอสเซ็นท์ เพชรบุรี) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา เรซซิเด้นซ์ จำกัด |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถ.ห้วยเสือ ต.สมอพลือ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี |
ที่ดิน | 2-1-7.9 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร และอาคาร Clubhouse 2 ชั้น 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 196 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 28 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 70 คัน คิดเป็น 35% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน (หรือคิดเป็น 44%รวมจอดซ้อนคัน) |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2566 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2567 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.5 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 1.69 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 72,000 บาท/ตร.ม. |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | https://residential.centralpattana.co.th/th/condominium/escent-phetchaburi |
Call Center | 098-262-4356 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlights :
- ใกล้ห้างโรบินสันเพชรบุรี 70 m. สามารถเดินไปกินข้าว ช้อปปิ้ง ดูหนังได้ทุกวัน ความอุดมสมบูรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าครบครันมาก
- ตั้งอยู่ห่างจากถ.เพชรเกษมเส้นหลักเพียง 150 ม. สามารถลัดเลาะและเชื่อมต่อไปเข้าตัวเมือง หรือจะออกเมืองไปโซนหาดเจ้าสำราญก็ได้
- เป็นคอนโดแบรนด์เจ้าตลาดรายแรกจากกรุงเทพ ที่เข้ามาบุกเบิกในจังหวัดแห่งนี้ ซึ่งเป็นคอนโดที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบ และจัดเต็มกว่าเจ้าอื่นในย่านมากขึ้น
พิกัด Google Maps : 13.064908, 99.947461
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
..สำหรับ ‘จังหวัดเพชรบุรี’ นอกจากจะมีความเจริญและคึกคักตรงแถวๆใจกลางเมืองแล้ว ก็ยังมีแนวโน้มการเติบโตบนถนนเพชรเกษมที่เป็นถนนเส้นใหญ่อีกด้วยครับ ซึ่งตัวห้างโรบินสันและโครงการ Escent เองก็ตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้ด้วยเช่นกัน รวมถึงยังมีถนนเส้นรองที่สามารถใช้ลัดเลาะไปยังทำเลข้างเคียงได้อีกด้วย
โดยที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ก็จะเป็นบ้านแนวราบและชุมชนดั้งเดิม แต่หากเป็นกลุ่มคอนโดมิเนียมในปัจจุบันก็จะมีเป็นเจ้า Local ที่พวกฟังก์ชันส่วนกลางต่างๆ อาจยังสู้มาตรฐานคอนโดในกรุงเทพที่เราคุ้นเคยกันไม่ได้สักเท่าไหร่
ซึ่ง CPN ก็ถือเป็นเจ้าตลาดแบรนด์ใหญ่รายแรกเลย ที่ได้เข้ามาบุกเบิกคอนโดมิเนียมในทำเลแห่งนี้ โดยเน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ที่อยากแยกครอบครัวออกมาอยู่เอง ในทำเลที่ใกล้ห้างสรรพสินค้า และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแบบนี้ครับ
..โครงการ Escent เพชรบุรี ตั้งอยู่ใกล้ห้างโรบินสันไลฟ์สไตล์ เพชรบุรี ในระยะที่เราสามารถเดินไปช้อปปิ้ง กินข้าว และดูหนังได้สบายๆทุกวัน ถือได้ว่าเป็นทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและอุดมสมบูรณ์มาก ซึ่งเป็นห้างที่มักจะคุ้นเคยกันอยู่บ่อยๆ เวลาที่ขับรถไปเที่ยวหัวหินเราก็จะได้ผ่านห้างแห่งนี้ ที่ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษมที่เป็นถนนเส้นหลักนั่นเองครับ
..อีกหนึ่งความน่าสนใจของที่ตั้งโครงการบน ‘ถนนห้วยเสือ’ เป็นถนนเส้นด้านข้างติดกับโรบินสัน ที่คนในพื้นที่ใช้สัญจรเป็นเส้นทางหลักในการเชื่อมต่อไปยังถนนภูมิรักษ์ และถนนราชดำริห์ได้ ซึ่งคนในพื้นที่มักจะใช้เป็นทางลัดช่วยประหยัดเวลาในการกลับรถบนถนนใหญ่ได้ดี ทำให้เราสามารถตรงเข้าสู่ตัวเมืองเพชรบุรี รวมถึงออกเมืองไปทางโซนหาดเจ้าสำราญได้สะดวกมากๆครับ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บริบทโดยรอบของโครงการเนื่องจากอยู่บนถนนเส้นรอง จึงค่อนข้างมีความเงียบสงบและไม่วุ่นวาย อีกทั้งยังใกล้ห้างสรรพสินค้าโรบินสันในระยะเดินได้สบายๆเพียง 70 m. อีกด้วยครับ ส่วนที่ดินที่ติดกับตัวโครงการก็จะไม่ได้มีอาคารสูงมาบังอะไรมากนัก ส่วนใหญ่เป็นบ้านและอาคารไม่เกิน 2 – 3 ชั้น สามารถสรุปได้ดังนี้
- ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ว่าง บ้านพักอาศัย และอาคารเก็บสินค้าที่สูงประมาณ 2 – 3 ชั้น
- ทิศใต้ : เป็นทางเข้าหลักของโครงการ ติดกับ ถนนห้วยเสือ และฝั่งตรงข้ามก็คือห้างโรบินสัน
- ทิศตะวันออก : ติดกับ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสมอพลือ ที่เป็นอาคารสูง 2 ชั้น
- ทิศตะวันตก : ติดกับ ที่ว่างและบ้านพักอาศัยสูง 1 – 2 ชั้น
เรามาเดินดูทำเลรอบๆโครงการกันสักหน่อยครับ ซึ่งปัจจุบันเค้าได้มีการล้อมรั้วเตรียมที่จะก่อสร้างเอาไว้แล้วเรียบร้อยแบบนี้เลย
โดยทางด้านขวาของที่ดินโครงการ จะอยู่ติดกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสมอพลือ และถนนเส้นนี้ก็จะมุ่งหน้าไปเชื่อมต่อกับถนนราชดำริห์ และถนนภูมิรักษ์ ซึ่งจะสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดเข้าเมืองและไปแถวๆหาดเจ้าสำราญได้ง่ายนั่นเอง
ส่วนทางด้านซ้ายของที่ดินโครงการจะติดกับบ้านและชุมชนแนวราบ โดยเส้นทางนี้จะเป็นซอยแยกย่อยที่ตรงเข้าไปในชุมชน และใช้ไปออกถนนใหญ่เพชรเกษมได้ครับ
จะเห็นว่าบริเวณปากซอยจะอยู่ก่อนถึงทางเข้าห้างโรบินสันเพียง 50 m. เท่านั้น โดยมีจุดสังเกตหลักๆคือ ป้ายทางเข้า อบต. สมอพลือ และทางไปวัดท่าไชยศิริ
หรือจากตัวโครงการเราก็สามารถเดินไปยังห้าง ได้จากทางเข้าด้านข้างแบบนี้ก็ได้ครับ โดยมีระยะห่างเพียง 70 m. เท่านั้น
ซึ่งปัจจุบันสำนักงานขายก็จะตั้งอยู่บนชั้น 2 ของห้าง ข้างๆธนาคารกสิกรแบบนี้เลย
บริเวณด้านหน้าจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลอยู่ตลอดเวลา รวมถึงยังมีโมเดลและห้องตัวอย่างให้เราได้ชมกันด้วย หากใครที่สนใจก็สามารถแวะเข้ามาสอบถามได้ตลอดเวลาเลยนะครับ
นอกจากนี้ภายในสำนักงานยังมีระบบ Smart Technology ของ CPN ที่จะนำมาใช้กับโครงการให้ได้ชมกันด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น Digital Door Lock / Smart Drain และห้องตัวอย่างที่ไม่ได้มีของจริงให้ดู ก็สามารถดูได้จากโมเดลจำลองทั้ง 3 นี้เลยครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เพชรบุรี ~ 70 m.
- บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เพชรบุรี ~ 2.1 km.
- โฮมโปร เพชรบุรี ~ 4.4 km.
โรงพยาบาล
- รพ.กรุงเทพสาขาเพชรบุรี ~ 2.2 km.
- รพ.มหาชัย เพชรรัชต์ ~ 4.9 km.
- รพ.พระจอมเกล้า ~ 7 km.
โรงเรียน
- วิทยาลัยเทคนิค เพชรบุรี ~ 3.4 km.
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ~ 4.3 km.
สถานที่ราชการและอื่นๆ
- ศาลากลาง จังหวัดเพชรบุรี ~ 5.6 km.
- หาดเจ้าสำราญ ~ 15 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- มีฟังก์ชันส่วนกลางสวยๆให้ใช้งานครบ เรียกได้ว่าจัดเต็มเยอะที่สุดของย่านในปัจจุบัน
- แยกอาคาร Clubhouse และส่วนกลางทั้งหมดออกมาจากอาคารพักอาศัยหลัก ทำให้ห้องพักที่หันเข้ามาใน Court ด้านในสามารถมองเห็นวิวส่วนกลางสวยๆได้
- มีการจำกัดมุมมองและโซนการเข้าถึงของ Visitor ให้ไม่รบกวนพื้นที่ส่วนกลางของลูกบ้านได้อย่างชัดเจน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น
..โครงการ Escent เพชรบุรี เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ที่มีเพื่อนบ้านทั้งหมด 196 ยูนิต ถือเป็นโครงการขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ครับ ซึ่งคอนโดแห่งนี้ได้แรงบันดาลใจการออกแบบมาจาก ของเด่นของดีประจำจังหวัดเพชรบุรีอย่าง ‘ขนมเมืองเพชรบุรี และต้นตาลโตนด’ จึงออกมาเป็นรูปแบบของอาคารสีน้ำตาลอ่อนที่ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมเส้นสายของผนังที่ช่วยทำให้อาคารดูมีรายละเอียดไม่เรียบจนเกินไป
ผังโครงการบริเวณชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถใต้อาคารและพื้นที่ส่วนกลาง โดยจุดเด่นก็คือ ‘สามารถแบ่งโซนได้อย่างชัดเจน’ เพราะอย่างที่ทราบกันว่าคอนโดแห่งนี้จะอยู่ใกล้ห้างโรบินสันที่เป็นที่สาธารณะ บางครั้งก็อาจมีคนภายนอกเข้ามาได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นคนที่เป็นเพื่อนลูกบ้านก็ดี หรือคนที่เห็นคอนโดแล้วสนใจเข้ามาติดต่อก็ตาม
ดังนั้นทางโครงการจึงได้จำกัดโซนการเข้าถึงของบุคคลภายนอกเอาไว้ทั้ง 2 จุดหลักๆ ตั้งแต่บริเวณประตูทางเข้า Lobby ที่ต้องใช้ระบบ Face Scan และมีไม้กั้นกระดกก่อนเข้าที่จอดรถใต้อาคารอีกจุดหนึ่งด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้ผู้พักอาศัยมี ‘ความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากที่สุด’ นั่นเองครับ
ขออธิบายส่วนที่เราอาจมองไม่เห็นในแปลนเพิ่มอีกนิด คือบริเวณพื้นที่สีเขียวและรอบๆส่วนกลาง จะมีการทำแนวรั้วต้นไม้โอบล้อมเอาไว้ทั้งหมดเลย ดังนั้นบุคคลภายนอกจะไม่สามารถเดินดุ่มๆเข้ามาได้หากไม่ผ่าน Lobby หรือพี่ยามก่อน ซึ่งจะต้องรอให้ลูกบ้านมารับที่บริเวณ Drop-Off ด้านหน้าเท่านั้น โดยส่วนกลางชั้น 1 จะเน้นเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนและนั่งทำงานเป็นหลักครับ ประกอบด้วย สวนสีเขียว / Lobby และ Co-Working Space
จากโมเดลเราจะเห็นว่าโครงการนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 อาคาร โดยการแยก Clubhouse ออกมาที่บริเวณตรงกลาง ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับอาคารพักอาศัยแล้ว ยังทำให้ห้องพักต่างๆสามารถมองเห็นวิวของ Facilities สวยๆได้อีกด้วย เพียงแต่การใช้งานก็อาจต้องมีระยะเดินเชื่อมอาคารเพิ่มมาสักหน่อยนั่นเอง
นอกจากนี้บริเวณด้านขวาของโมเดล เราจะเห็นว่ามีประตูเล็กๆที่เป็นช่องทาง Service ของโครงการอยู่ด้วย โดยบริเวณนี้ก็จะเป็นทางเข้า-ออกของแม่บ้าน และเป็นทางที่รถเก็บขยะจะมาจอดรับบริเวณนี้ ซึ่งจะแยกออกมาจากเส้นทางหลักของลูกบ้าน และช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
หากพูดถึงจังหวัดเพชรบุรี ก็ต้องนึกถึงของฝากขึ้นชื่ออย่าง น้ำตาลจากต้นตาล ฝอยทอง หมี่กรอบ ข้าวตัง และขนมหม้อแกง เป็นต้น ซึ่งทางโครงการก็ได้หยิบยกเอาภูมิปัญญาชาวบ้านเหล่านี้ มาเป็นไอเดียในการออกแบบและตกแต่งอาคารด้วย
อย่างโทนสีน้ำตาลของผนังก็มาจากสีของน้ำตาลจากต้นตาลที่เป็นสีน้ำตาลอ่อน และแนวเส้นตรงที่เกิดจากการเซาะร่องก็จะได้แรงบันดาลใจมาจากมะพร้าวขูดนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีการสอดแทรกพื้นที่สีเขียวบนอาคารเป็น Pocket Garden ตามชั้นต่างๆด้วย ซึ่งช่วยทำให้ตัวอาคารดูมีรายละเอียดที่น่าสนใจดีทีเดียวครับ
ภาพจากโมเดลบริเวณ Drop-Off ด้านหน้าโครงการ ซึ่งจะเห็นว่าคนภายนอกที่ถึงแม้จะผ่าน Gate 1 เข้ามาได้แล้ว ก็จะยังไม่สามารถเดินเข้าไปหรือมองเห็นพื้นที่ส่วนอื่นๆของโครงการได้ เพราะมีอาคาร Clubhouse และแนวรั้วทางเดินช่วยพรางสายตาเอาไว้แบบนี้ จึงทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวที่ดีทีเดียวครับ
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณพื้นที่สวนที่อยู่ด้านในโครงการ ซึ่งจะมีการทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่มีธรรมชาติโอบล้อมเอาไว้ร่มรื่น สามารถออกมานั่งเล่นพักผ่อนกันได้เกือบตลอดทั้งวันเลย
ส่วนตัวอาคาร Clubhouse ก็จะเน้นใช้ผนังกระจกขนาดใหญ่ เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อกับธรรมชาติภายนอก รวมถึง Lobby และ Co-Working Space ก็จะสามารถชมวิวสวยๆไปด้วยได้นั่นเอง
อีกด้านหนึ่งของโมเดลเราจะเห็นว่า พื้นที่สวนจะยาวต่อเนื่องเข้ามาจนถึงด้านหลังอาคาร Clubhouse แบบนี้ ซึ่งเป็นพื้นที่ของ Outdoor Dining และ Edible Garden ให้สามารถมาใช้งานแบบส่วนตัวกันได้ครับ
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Lobby จะเป็นพื้นที่ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume บวกกับรอบๆจะเป็นผนังกระจกทั้งหมด จึงทำให้มีความโปร่งโล่งมากๆครับ โดยด้านในก็จะมีชุดโซฟาให้มานั่งเล่นพักผ่อนกันได้หลายจุด ซึ่งเค้าก็เลือกใช้เป็นโทนสีพาสเทลที่ดูน่ารักสดใสดีทีเดียวครับ
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณ Co-Working Space บริเวณนี้จะมีการเพิ่มฟังก์ชันโต๊ะเข้ามาด้วย เพื่อให้เราสามารถเอาคอมพ์ขึ้นมากดนั่งทำงานได้สะดวกมากขึ้นครับ
ส่วนภาพนี้จะเป็นบรรยากาศจำลองของห้อง Laundry ที่นอกจากจะมีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าหยอดเหรียญให้บริการแล้ว ก็จะมีโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งคอยเตรียมไว้ให้ด้วยครับ
แปลนชั้น 2 จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมดเลยครับ โดยต้องบอกก่อนว่าห้องที่หันหน้าเข้ามาใน Court พื้นที่ส่วนกลางด้านในของชั้นนี้ จะมองเห็นแค่พื้นที่สวนและอยู่ในระดับเดียวกับพุ่มไม้พอดีเท่านั้น
ซึ่งจะยังมองไม่เห็นสระว่ายน้ำนะครับ เพราะทางด้านของตัวอาคาร Clubhouse จะมีความสูงฝ้าเพดานแบบ Double Volume ดังนั้นชั้นนี้จึงจะเหมาะกับคนที่ชอบอยู่ใกล้ชิดต้นไม้และธรรมชาติเป็นพิเศษนั่นเอง
แปลนชั้น 3 ของอาคารพักอาศัย จะมีความสูงเทียบเท่ากับชั้น 2 ของอาคาร Clubhouse และจะมีสะพานทางเดินเชื่อมต่อกันที่ชั้นนี้ด้วย ซึ่งบริเวณหน้าโถงลิฟต์จะมีประตูกระจกที่ต้องใช้ Key Card Access กั้นแยกโซนพักอาศัยเอาไว้แล้วเรียบร้อย เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยของลูกบ้านชั้นนี้ครับ
ภาพรวมของห้องพักอาศัยชั้นนี้ก็จะเหมาะกับคนที่ชอบใช้งาน Facilities บ่อยๆ โดยเฉพาะสระว่ายน้ำ / Fitness / Jacuzzi และ Sauna เพราะสามารถเดินเชื่อมต่อในชั้นเดียวกันเพื่อไปใช้งานได้สะดวกมาก รวมถึงยังเป็นชั้นที่สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำและ Fitness ได้อีกด้วย
แต่ก็ต้องแลกมากับความเป็นส่วนตัวที่ลดลงอยู่บ้าง เพราะคนที่มาใช้งานส่วนกลางเค้าก็สามารถมองตรงมาเห็นห้องเราได้ง่ายเช่นกัน ซึ่งก็อาจต้องพึ่งการปิดม่านในห้องพักแทนนะครับ
จากโมเดลเราจะเห็นว่า ตัวอาคาร Clubhouse จะอยู่แยกออกมา และถูกโอบล้อมด้วยอาคารพักอาศัยหลักอีกที จึงทำให้ห้องที่หันเข้ามาใน Court ด้านในสามารถมองเห็นวิวส่วนกลางได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสวนชั้น 1 สระว่ายน้ำ และ Fitness
โดยแลกกับความเป็นส่วนตัวในเรื่องมุมมองของคนจาก Clubhouse ก็สามารถมองเข้ามาในห้องพักได้ง่ายเช่นกัน กับความสะดวกในการไปใช้งาน Facilities ก็จะลดลงนิดหน่อย เพราะเราต้องใช้สะพานข้ามไปเท่านั้น อาจไม่ได้สะดวกเหมือนแบบที่อยู่ในอาคารเดียวกัน ที่ขึ้น-ลงลิฟต์ไปก็เจอทันทีครับ
ภาพบรรยากาศจำลองของพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ซึ่งห้องพักที่ส่วนใหญ่ที่หันหน้าเข้ามาใน Court ตรงกลางทางทิศนี้ ก็จะได้มองเห็นวิว Facilities ตรงๆแบบนี้นั่นเองครับ มองดูแล้วก็เหมือนกับเป็น Oasis ส่วนตัวภายในโครงการเลยทีเดียว
ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้อง Fitness ซึ่งจะมีอุปกรณ์หลักๆให้ใช้งานครบ รวมถึงยังมีผนังกระจกที่สามารถมองออกไปชมวิวสระว่ายน้ำและสวนด้านนอกได้อีกด้วย
แปลนชั้น 4 – 8 จะเป็นชั้นพักอาศัยที่เหมือนกันหมดเลยครับ (จริงๆก็ตั้งแต่ชั้น 2 มาเลยแหละ) โดยจุดที่ต่างกันนิดหน่อยก็คือ Pocket Garden บริเวณหน้าโถงลิฟต์ ที่จะมีกระถางอยู่เฉพาะชั้น 3 และ 6 เท่านั้น ส่วนชั้นอื่นๆก็จะเป็นช่องแสงที่มองเห็นพุ่มไม้สีเขียวๆแทนนะครับ
ลักษณะผังอาคารจะเป็นรูปตัว C โอบล้อมส่วนกลางเอาไว้ และมีการแบ่งโถงลิฟต์โดยสารออกเป็น 2 จุด เพื่อให้มีความสะดวกในการใช้งานขึ้น-ลง ซึ่งอัตราส่วนลิฟต์ทั้งหมดคือ 98 : 1 และมีเพื่อนบ้าน 28 ห้อง/ชั้น ถือว่าไม่หนาแน่นมากนะครับ ส่วนตำแหน่งห้องที่น่าสนใจผมก็คัดมาให้ดังนี้เลย
- กรอบสีแดง : เป็นห้อง 2 Bedrooms ที่อยู่ในตำแหน่งที่รับวิวดีที่สุดของโครงการ เพราะจะมองเห็นสวนและสระว่ายน้ำเป็นแนวลึก รวมถึงยังเป็นด้านที่มุมมองไม่ปะทะกับคนที่มาใช้งานส่วนกลางตรงๆอีกด้วยครับ
- กรอบสีน้ำเงิน : เป็นตำแหน่งของห้องที่หันหน้าเข้ามายัง Court ด้านใน ซึ่งจะมองเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำสวยๆของโครงการได้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นห้องไซส์ 32 ตร.ม. และแน่นอนว่าอาจมีราคาที่สูงกว่าห้องที่หันออกไปด้านนอกโครงการอยู่สักหน่อยนะครับ
- กรอบสีเขียว : สำหรับใครที่ต้องการเป็นห้องวิวด้านนอก ผมแนะนำเป็นห้อง 2 ตำแหน่งนี้ เพราะจะได้ Single Corridor บริเวณหน้าห้องที่มีความเป็นส่วนตัวสูงมากๆ
- กรอบสีชมพู : เป็นห้องไซส์เล็กสุดของโครงการขนาด 25 ตร.ม. ซึ่งจะมีอยู่เพียง 2 ห้อง/ชั้นเท่านั้น เหมาะสำหรับคนสายงบน้อยที่ต้องการห้องราคาเป็นมิตรมากที่สุดในชั้น หรือชื่นชอบฟังก์ชันของห้องแบบนี้อยู่แล้วนั้นเอง
ส่วนภาพจากโมเดลนี้จะแสดงให้เห็นถึงวิวของห้องที่หันเข้ามายัง Court ด้านในโครงการ ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าห้องทางปีกอาคารฝั่งทิศตะวันออก (ด้านขวาของ Clubhouse) จะมีวิวที่สวยที่สุด เพราะได้มุมมองส่วนหนึ่งที่เปิดโล่งออกไปสู่ภายนอกได้ด้วย
ในขณะที่ห้องทางปีกอาคารฝั่งตะวันตก (ด้านซ้ายของ Clubhouse) ที่จะเป็นห้อง 2 Bedrooms เพียงห้องเดียวโดดๆเลย เค้าจะได้วิวที่มองตรงเข้ามาด้านในของโครงการอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทั้งนี้ใครมีความชอบแบบไหนก็ลองเลือกดูกันได้นะครับ
***เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า***
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse ประกอบด้วย
ชั้นที่ 1
- Co-Working Space
- Panoramic Courtyard
- Outdoor Dining
- Edible Garden
- Laundry Cafe
- EV Charger
ชั้นที่ 2
- Lap Pool ระบบเกลือ ขนาด 5 x 25 m.
- Kids Pool
- Jacuzzi
- Sauna
- Fitness
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 98 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 70 คัน คิดเป็น 35% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน (หรือคิดเป็น 44%รวมจอดซ้อนคัน)
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / 24-hour Security System / License Plate Recognition / Face Scan / Key Card Access / VMS Security / Digital Door Lock
แบบห้อง
Highlights :
- ส่วนใหญ่เป็นห้องหน้ากว้าง และกั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ มีความเป็นส่วนตัวสูง
- มีการใส่ระบบต่างๆที่ไม่มีในโครงการอื่นๆเข้ามา เช่น ระบบป้องกันอัคคีภัย / ระบบ Drain น้ำในห้องครัว และผนังทีวีที่สามารถปรับหมุนใช้งานได้ 2 ฟังก์ชัน
- ขายแบบ Fully Furnished พร้อม Built-in มาให้พอดีกับพื้นที่ห้อง สามารถเข้าอยู่ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาแต่งห้องเอง
..แบบห้องของโครงการ Escent เพชรบุรี มีทั้งหมด 4 Type โดยจะเน้นเป็นห้อง 1 Bedroom เป็นส่วนใหญ่ และขายแบบ Fully Furnished จากแบรนด์ SB Furniture พร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันที ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาตกแต่งห้องเอง แถมยังได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดพอดีกับพื้นที่ใช้สอยเปะๆเลยอีกด้วย ซึ่งแบบห้องต่างๆก็จะมีดังนี้ครับ
- 1 Bedroom ขนาด 25 ตร.ม.
- 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม.
- 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.
- 2 Bed 2 Bath ขนาด 52 ตร.ม.
ความน่าสนใจของห้องนี้นอกจากจะเป็น ‘ห้องหน้ากว้าง 7.6 ม.’ และยังเป็นห้องส่วนใหญ่ที่หันหน้ารับวิว Court ส่วนกลางที่อยู่ด้านในโครงการอีกด้วยครับ ซึ่งภายในแต่ละฟังก์ชันผมก็มองว่าค่อนข้างมีจุดเด่นที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไปดังนี้
- Living Area : มีบรรยากาศที่กว้างขวางและโปร่งโล่งมากๆ เพราะห้องครัวที่อยู่ด้านข้างจะถูกกั้นด้วยผนังกระจก จึงทำให้พื้นที่ทั้ง 2 ดูเชื่อมต่อถึงกัน และยังได้ช่องแสงทั้ง 2 ทางอีกด้วย
- ห้องครัว : ได้เป็นครัวปิดที่อยู่ติดกับระเบียง จึงสามารถเปิดประตูเพื่อระบายอากาศได้โดยตรง และทำอาหารได้อย่างเต็มที่เลยครับ
- ระเบียง : มีขนาดใหญ่และกว้างขวางกว่าระเบียงทั่วไป ทำให้เราสามารถออกไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นการซักผ้า/ตากผ้าแบบปกติ รวมถึงยังทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นและปลูกต้นไม้เล็กๆบนห้องได้อีกด้วย
- ห้องนอน : มีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะกั้นด้วยผนังทึบแยกออกจากโซน Living Area อีกทั้งยังมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานได้สะดวกอีกด้วย เพียงแต่เวลาที่มีแขกมาหาที่ห้องแล้วต้องการเข้าใช้งาน ก็อาจต้องมีช่วงที่เสียความเป็นส่วนตัวอยู่บางครั้งนะครับ
- ผนังทีวีปรับหมุนได้ : เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชัน Signature ของโครงการ Escent ในทุกๆที่เลยก็ว่าได้ ซึ่งช่วยให้เราประหยัดพื้นที่ติดตั้งทีวี และใช้งานได้ 2 ฟังก์ชันเลยนั่นเองครับ
เข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับ Living Area ที่ดูกว้างขวางมากๆ เพราะครัวที่อยู่ด้านซ้ายมือเป็นผนังกระจกขนาดใหญ่นั่นเอง จึงทำให้พื้นที่ดูเชื่อมต่อกันดี อีกทั้งยังมีแสงสว่างจากทั้ง 2 ทางอีกด้วยครับ
โดยพื้นจะเป็น SPC (Stone Plastic Composite) ที่ทนน้ำและความชื้นได้ดีกว่าพื้นลามิเนตหรือไวนิลแบบสมัยก่อน ส่วนความสูงฝ้าก็จะอยู่ที่ 2.5 m. ซึ่งจะมีการติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัยพวก Sprinkler และ Smoke detector มาให้ด้วย
ปล.ปกติแล้วคอนโด Low Rise จะไม่ได้มีกฎหมายกำหนดว่าต้องติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยเหล่านี้นะครับ แต่ทาง CPN เค้าต้องการใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยของผู้พักอาศัยเป็นพิเศษ ก็เลยติดตั้งมาให้ด้วยแบบนี้นั่นเอง
บริเวณด้านหน้าห้องจะมีตู้ Built-in สำหรับเก็บของต่างๆ เช่น ตู้รองเท้า ชั้นวางของ ที่แขวนของจุกจิก และตู้เสื้อผ้าที่เอาไว้แขวนพวกเสื้อคลุมต่างๆ เพื่อให้เราสามารถหยิบใช้งานก่อนออกจากห้องได้สะดวกนั่นเอง (แนะนำให้ติดกระจกเงาเพิ่มเติม เพื่อใช้ส่องดูความเรียบร้อยได้ด้วยก็น่าจะดีนะครับ)
ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารและโซฟาดูทีวี ซึ่งมีระยะกว้าง 2.7 m. สามารถใช้ทีวี 40 – 50 นิ้วได้ครับ
โดยผนังติดทีวีนี้ก็ถือเป็น Signature ของคอนโดแบรนด์ Escent เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นแบบ Multi-Function ที่สามารถปรับหมุนได้ 180 องศา ทำให้เราสามารถใช้งานได้ 2 ฟังก์ชัน ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้เป็นอย่างดีทีเดียว
บริเวณกรอบของผนังหมุนจะมีผ้ากำมะหยี่ติดเอาไว้โดยรอบ เพื่อช่วยป้องกันเสียงและแอร์ไม่ให้ผ่านมาได้ในระดับหนึ่ง และทำให้สามารถปิดได้แนบสนิทมากขึ้น รวมถึงยังมี Stopper ที่ช่วยหมุนให้พอดีกับผนังห้องได้ง่ายๆด้วยครับ
หน้าต่างของห้องจะเป็นกรอบอลูมิเนียม Powder Coat สีขาว พร้อมกระจกติดฟิล์มลามิเนตที่ช่วยในเรื่องความปลอดภัยได้ดี เพราะเวลากระจกแตกก็จะไม่มีเศษกระจกออกมาเป็นอันตรายนั่นเองครับ
อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นครัวที่มีประตูกระจกกั้นแยกออกไป โดยโต๊ะทานอาหารก็จะมีพื้นที่ตั้งอยู่ใกล้ๆแบบนี้เลยครับ เวลายกอาหารมานั่งทานก็จะค่อนข้างสะดวกดีทีเดียว
ประตูกระจกนี้นอกจากจะช่วยทำให้ห้องดูกว้างขวางโปร่งโล่งแล้ว ยังช่วยป้องกันกลิ่นและควันจากการทำอาหาร ไม่ให้เข้ามารบกวนพื้นที่พักผ่อนในห้องได้ด้วย จึงทำให้เป็นครัวที่สามารถทำอาหารได้อย่างจริงจังเลยครับ
ภายในครัวมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มาพร้อมกับเคาน์เตอร์ครัว Built-in และอยู่ติดกับระเบียงแบบนี้ ดังนั้นเวลาทำอาหารก็สามารถเปิดระบายอากาศได้โดยตรงเลยครับ
พื้นที่ครัวกว้าง 1.1 m. พร้อมพื้นที่วางตู้เย็นกว้าง 1.25 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ โดยจะมีการเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ทำให้ไม่กลัวน้ำหรือคราบสิ่งสกปรก และสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายมากๆครับ
เคาน์เตอร์ครัวจะ Built-in มาให้ตามนี้เลย ภายในมีพื้นที่เก็บของเพียงพอสำหรับการอยู่อาศัย 1 -2 คน Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ที่ทนน้ำและความร้อน
รวมถึงได้ Hob+Hood จาก Teka แบบดูดควันไปด้านนอก และยังกรุกระเบื้องที่ผนังเพื่อให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย
จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครของคอนโดแบรนด์ Escent ก็คือระบบ Drain น้ำต่างๆ ที่นอกจากพื้นที่ส่วนกลางแล้ว เค้ายังใส่เข้ามาในห้องพักอาศัยอีกด้วย
โดยจะอยู่บริเวณใต้เคาน์เตอร์ครัวที่มีการยกพื้นสูงขึ้นมา เผื่อกรณีที่ท่อน้ำมีปัญหาและมีน้ำรั่วออกมา ก็จะสามารถระบายลงสู่ท่อได้โดยตรง และไม่ไหลเข้าไปทำความเสียหายแก่พื้นหรือเฟอร์นิเจอร์ส่วนอื่นในห้องนั่นเองครับ
ส่วนระเบียงจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ภายนอกกว้าง 1.8 x 1.6 m. สามารถวางเครื่องซักผ้าและยังมีพื้นที่เหลือให้ใช้งานได้อีกสบายๆ เช่น อาจทำเป็นมุมนั่งเล่นริมระเบียง และทำเป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้เล็กๆของเราได้ครับ
อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นห้องนอน ซึ่งกั้นด้วยผนังทึบทำให้มีความเป็นส่วนตัวที่ดีมากๆ
ภายในมีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้แบบพอดีๆ อีกทั้งยังมีช่องแสงขนาดใหญ่ให้ชมวิวภายนอกได้ด้วย
โดยจุดเด่นของห้องนี้ก็คือ ผนังติดทีวีปลายเตียงที่สามารถปรับหมุนได้ ซึ่งเราสามารถนอนดูซีรีส์บนเตียงก่อนนอนได้สบายๆแบบนี้เลยครับ เรียกได้ว่าเป็นฟังก์ชันที่ 2 in 1 เลยทีเดียว
พื้นที่รอบเตียงจะกว้าง 80 – 90 cm. สามารถใช้งานได้แบบพอดีๆ และด้วยขนาดของห้องก็จำเป็นต้องเลื่อนเตียงข้างหนึ่งให้ไปชิดกับหน้าต่างแบบนี้ครับ แต่ก็ยังมีพื้นที่ปลายเตียงให้คนด้านในขึ้น-ลงได้สะดวกอยู่นะ
อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นพื้นที่แต่งตัว ซึ่งจะมีการ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะแต่งหน้ามาให้แล้วแบบนี้ ภายในก็สามารถเก็บเสื้อผ้าสำหรับ 1 – 2 คนได้พอดีๆ (ถ้าไม่พอก็ยังมีตู้ที่หน้าประตูห้องสำรองได้อีกนิดหน่อย)
สุดท้ายจะเป็นห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องนอน ซึ่งเวลาที่เราอาบน้ำแต่งตัวตอนกลางคืนก็จะสะดวกมากๆ ภายในมีสุขภัณฑ์ต่างๆจาก Cotto ให้ใช้งานครบ โดยมีพื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.15 x 1.7 m. แต่ที่ชอบมากๆก็คือ เค้าจะมีการเจาะช่องที่ผนังให้เราวางของได้เยอะเลยครับ
นอกจากนี้เค้ายังมีการออกแบบพวกท่องานระบบต่างๆของโถสุขภัณฑ์ ให้ย้ายไปอยู่ที่ผนังด้านหลังแบบนี้ด้วย ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการรั่วซึมของห้องน้ำไม่ให้กระทบกับเพื่อนบ้านชั้นล่างได้ดี และช่างก็สามารถเปิดฝาที่ผนัง Low Wall ด้านหลังเพื่อซ่อมแซมได้สะดวกอีกด้วย
ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้าง 90 x 85 cm. สามารถใช้งานได้พอดีๆ พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย เพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นออกมาด้านนอก รวมถึงมีการเจาะช่องสำหรับวางของ และบนฝ้าก็ติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้แล้วแบบนี้เลยครับ
สำหรับห้องนี้ฟังก์ชันครัวจะย้ายมาอยู่บริเวณด้านหน้าห้อง จึงทำให้เหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นการทำอาหารด้วยตัวเองมากนัก แต่ก็ยังคงได้เป็นครัวปิดที่เป็นสัดส่วน และพอจะอุ่นหรือทำอาหารเบาๆได้อยู่บ้างเหมือนกัน อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็น Buffer คอยกันเสียงจากนอกประตูห้อง และเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่พักผ่อนด้านในอีกชั้นหนึ่งด้วยครับ
ส่วนห้องนอนก็จะกั้นด้วยผนังทึบและมีความเป็นส่วนตัวมากๆเหมือนเดิม เพียงแต่ห้องน้ำจะย้ายมาอยู่ด้านหน้าห้องเช่นเดียวกับครัว ทำให้การใช้งานตอนกลางคืนหรืออาบน้ำแต่งตัว ก็อาจมีความสะดวกน้อยกว่าห้องก่อนหน้านี้นิดหน่อย แต่ถ้ามีแขกมาหาที่ห้องก็จะไม่เสียความเป็นส่วนตัวในห้องนอนเลยนั่นเองครับ
เมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับส่วนครัวก่อนเป็นอันดับแรกครับ
โดยครัวนี้จะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นพื้นที่เอาไว้ จึงทำให้กลายเป็นครัวปิดที่พอจะอุ่นอาหารเบาๆได้ ซึ่งประตูนี้จะช่วยกันกลิ่น/ควัน รวมถึงกันเสียงรบกวนจากคนที่ผ่านไป-มาหน้าห้อง ไม่ให้เข้ามารบกวนพื้นที่พักผ่อนด้านในอีกด้วย
เคาน์เตอร์ครัวจะ Built-in มาให้เหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลยครับ เพียงแต่อาจมีขนาดเล็กลงนิดหน่อยตามไซส์ของห้อง รวมถึงที่ด้านล่างก็จะเพิ่มที่วางเครื่องซักผ้าเข้ามาด้วย
ซึ่งพื้นห้องจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ แถมยังมีระบบท่อ Drain น้ำบริเวณใต้เคาน์เตอร์แบบนี้มาด้วย จึงหมดกังวลว่าพื้นห้องจะเสียหายจากความชื้นต่างๆได้นั่นเองครับ
ฝั่งตรงข้ามของเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งภายในก็จะมีขนาดและฟังก์ชันที่เหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลยครับ
ถัดเข้ามาด้านในจะมีตู้รองเท้า Built-in มาให้ในผนังที่อยู่กลางห้อง ซึ่งเราสามารถถอดรองเท้าบริเวณพื้นกระเบื้องของครัว และหยิบมาเก็บในตู้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้พื้น SCP เลอะนั่นเอง ส่วนด้านบนก็มีพื้นที่ให้วางของจุกจิกให้หยิบใช้ก่อนออกจากห้องได้สะดวกแบบนี้เลย
สำหรับ Living Area จะอยู่ติดกับระเบียงและช่องแสงด้านในสุด ซึ่งเหมาะกับคนที่เน้นใช้งานนั่งดูทีวีและชอบมองวิวด้านนอกไปด้วยมากๆ
โดยตรงกลางห้องจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร เพื่อให้อยู่ใกล้ครัวและจะได้ยกอาหารมานั่งทานได้สะดวก ส่วนระยะดูทีวีด้านในจะกว้าง 2.35 m. น้อยกว่าห้องที่แล้วนิดหน่อย แต่ก็ยังใช้งานได้ดี สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้ตามปกติครับ
ระเบียงภายนอกกว้าง 2.35 x 0.65 m. พอที่จะออกไปยืนสูดอากาศและตากผ้าเล็กๆน้อยๆได้ (ด้วยเหตุนี้เค้าเลยย้ายตำแหน่งเครื่องซักผ้าไปอยู่ในครัวแทน เพราะพื้นที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก)
ส่วน Condensing Unit จะแขวนอยู่ด้านบน และเป่าลมร้อนออกไปด้านนอก ทำให้เราสามารถออกมาใช้งานระเบียงได้อย่างเต็มที่
ห้องนอนจะถูกกั้นด้วยผนังทึบแยกออกจาก Living Area ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากๆ
ภายในห้องนอนมีขนาดใหญ่และกว้างกว่าห้องก่อนหน้านี้ซะอีกครับ จึงมีบรรยากาศที่โปร่งโล่ง และมีพื้นที่รอบเตียงให้ใช้สอยได้สะดวกเลย
แน่นอนว่าผนังปลายเตียงจะสามารถหมุนทีวีได้เหมือนเดิม จึงทำให้เรานอนดูทีวีบนเตียงได้สบายๆ
พื้นที่รอบเตียงกว้าง 50 – 60 cm. ทำให้เดินผ่านได้พอดีๆ โดยที่คราวนี้จะมีพื้นที่เหลือตรงริมหน้าต่างให้คนด้านในขึ้น-ลงเตียงได้สะดวกมากขึ้นแล้วครับ
ส่วนอีกด้านของห้องจะเป็นมุมแต่งตัวที่มีตู้เสื้อผ้า Built-in และโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ครบเหมือนเดิม
ห้องนี้จะเป็นห้องขนาดเล็กสุดของโครงการ ที่มีเพียงชั้นละ 2 ห้องเท่านั้น จุดเด่นคือนอกจากราคาที่จับต้องได้ไม่ยากแล้ว ภายในห้องเรียกได้ว่ากว้างขวางและโปร่งโล่งมากๆครับ เพราะดีไซน์การออกแบบจะคล้ายๆกับห้อง Studio ที่ฟังก์ชันต่างๆจะมีพื้นที่เชื่อมต่อกันหมด ซึ่งต้องแลกมากับความเป็นส่วนตัวของห้องนอนที่จะไม่ได้มีเหมือนห้องแบบอื่นๆ แต่จะยังได้ครัวปิดด้านหน้าที่เป็นสัดส่วนอยู่บ้างนั่นเอง
ห้องนี้จะเป็นห้องไซส์ใหญ่ที่สุดของโครงการ จุดเด่นคือเป็น 2 ห้องนอนที่มี 2 ห้องน้ำให้ใช้งาน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวและสะดวกมากๆ เหมาะสำหรับคนที่มีครอบครัวหรือมีลูก เพราะห้องนอนที่ 2 ก็ใหญ่มากพอที่จะอยู่อาศัยได้ตั้งแต่เด็ก-โตเลยครับ
ส่วนพื้นที่ Common Area ที่อยู่ตรงกลางก็มีขนาดใหญ่ เพื่อรองรับจำนวนสมาชิกหลายคนได้ โดยที่เราอาจได้เป็นฟังก์ชันครัวเปิดด้านหน้าห้องแทน จึงไม่ค่อยเหมาะที่จะทำครัวจริงจังที่มีกลิ่น/ควันแรงๆเท่าไหร่นัก
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคา
Escent Phetchaburi ราคา ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2566
- 1 Bedroom ขนาด 25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
- 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.97 ล้านบาท
- 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท
- 2 Bed 2 Bath ขนาด 52 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ TEKA
- จอง 12,000 – 25,000 บาท
- ทำสัญญา 15,000 – 50,000 บาท
- ดาวน์ 5% ผ่อนดาวน์ 17 งวด
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
บทสรุป
ทำเล : ตั้งอยู่ใกล้ห้างโรบินสันไลฟ์สไตล์ เพชรบุรีเพียง 70 cm. สามารถเดินมาช้อปปิ้ง กินข้าว และดูหนังได้ทุกวัน ถือเป็นทำเลที่อุดมสมบูรณ์และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน นอกจากนี้ยังถือเป็นคอนโดแบรนด์เจ้าตลาดใหญ่รายแรกจากกรุงเทพ ที่เข้ามาบุกเบิกที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดในจังหวัดแห่งนี้อีกด้วยครับ
ซึ่งก็จะจัดเต็มพวกฟังก์ชันส่วนกลาง และเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องครบตามมาตรฐานคอนโดในกรุงเทพเลย ในขณะที่เจ้า Local ท้องถิ่นปัจจุบันอาจยังไม่ได้ให้ Full Facilities เยอะเท่านี้มากนัก อีกทั้งยังมีระบบ Security ที่ได้มาตรฐาน จึงทำให้ลูกบ้านมีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยในการอยู่อาศัย ทั้งนี้ก็ต้องแลกกับ ‘ราคา’ ที่ค่อนข้างสูงกว่าเพื่อนบ้านด้วยเช่นกัน แต่หากใครที่กำลังมองหาคอนโดทำเลใกล้ห้างแบบนี้ และจัดหนักจัดเต็มส่วนกลางไม่เหมือนใครแบบนี้ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกเดียวในปัจจุบันที่น่าสนใจทีเดียวครับ
การเดินทางโดยใช้รถ : ถนนห้วยเสือเป็นถนนเส้นรองที่อยู่ด้านข้างของห้างโรบินสันเพชรบุรี ซึ่งเป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสำคัญอื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็นถนนเพชรเกษมที่ห่างเพียง 150 m. ถนนราชดำริห์ และถนนภูมิรักษ์ จึงทำให้สามารถเข้าเมืองและออกเมืองไปทางหาดเจ้าสำราญได้ง่าย รวมถึงคนในพื้นที่เองก็มักจะชอบใช้ถนนต่างๆเหล่านี้ในการเดินทางเป็นประจำ เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลากลับรถบนถนนใหญ่ไกลๆนั่นเอง โดยที่จอดรถของโครงการจะมี 70 คัน คิดเป็น 35% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน (หรือคิดเป็น 44%รวมจอดซ้อนคัน)
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : เนื่องจากเป็นทำเลต่างจังหวัดและไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว จึงทำให้รถสาธารณะในพื้นที่อาจมีไม่มากนัก แต่หลักๆก็พอจะมีแท็กซี่วิ่งผ่านที่ห้างโรบินสันอยู่บ้างครับ หรือปัจจุบันนี้เราก็สามารถใช้ Application ในการเรียกรถมาใช้บริการได้ไม่ยากนักก็ได้นะ
การออกแบบโครงการ : มีเพื่อนบ้าน 196 ยูนิต ถือเป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่มาก มีการแบ่งอาคาร Clubhouse แยกออกมาจากอาคารพักอาศัยหลัก ทำให้ห้องพักที่หันมายัง Court ด้านใน จะสามารถมองเห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางสวยๆได้ทั้งหมดเลย โดยผมแนะนำเป็นชั้น 4 ขึ้นไปกำลังดีครับ เพราะเราจะอยู่พ้นระยะส่วนกลางขึ้นมาชั้นหนึ่งพอดี ซึ่งจะไม่เสียความเป็นส่วนตัวเหมือนชั้นที่อยู่ระดับความสูงเดียวกันมากนัก แถมยังทำให้มองเห็น Facilties เป็นมุมกว้างทั้งหมดได้อีกด้วย
และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมว่าเค้าทำได้ดีก็คือ การแยกโซนระหว่างผู้พักอาศัยและ Visitor ออกจากกันชัดเจน เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยในการอยู่อาศัย เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าคอนโดที่อยู่ใกล้ห้างจะมีคนพลุกพล่าน และอาจมีเพื่อนหรือแขกที่ผ่านไป-มาแล้วสนใจ แวะเวียนเข้ามาชมกันได้บ่อยครั้ง ดังนั้นทางโครงการจึงทำทั้งแนวรั้วพรางสายตา และใส่ระบบ Safety ต่างๆมาให้หลายจุดเลย รวมถึงยังมีการแยกโซน Service ของแม่บ้านออกไปไม่ให้รบกวนลูกบ้านอีกด้วยครับ
การออกแบบห้องพักและพื้นที่ใช้สอย : มีห้องให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ซึ่งเหมาะกับคนที่มี Lifestyle แตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่จะเน้นเป็นห้อง 1 Bedroom สำหรับอยู่อาศัย 1 – 2 คน เป็นห้องหน้ากว้างที่มีความเป็นสัดส่วน และผนังห้องนอนก็จะกั้นด้วยผนังทึบ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวที่ดีมากๆ
โดยเฉพาะตรงผนังติดทีวีจะมีระบบ Multi-Function ที่สามารถปรับหมุนได้ 180 องศา ทำให้เราสามารถดูทีวีได้จากทั้ง 2 ห้อง และยังช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้ดีเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีห้อง 2 Bedrooms ที่มี 2 ห้องน้ำให้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งจะมีความสะดวกและเป็นส่วนตัวมากๆ เหมาะกับคนที่มีครอบครัวหรือมีลูกที่อยู่ได้ตั้งแต่เด็ก-โตเลยครับ
วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบพร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ อีกทั้งยังช่วยทำให้เราประหยัดเวลาในการตกแต่งห้องไปได้เยอะเลย แถมยังได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดพอดีกับพื้นที่ใช้สอยอีกด้วย โดยเกรดวัสดุก็ได้มาตรฐานเหมาะกับการใช้งาน
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มระบบต่างๆ ที่คอนโดทั่วไปไม่ค่อยมีเข้ามาด้วย เช่น ระบบป้องกันอัคคีภัย / ระบบ Drain น้ำในพื้นห้องครัว และระบบท่อน้ำในผนังด้านหลังสุขภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ก็แสดงให้เห็นว่าทาง CPN ค่อนข้างใส่ใจ และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการอยู่อาศัยของลูกบ้านมากๆเลยทีเดียวครับ
สาธารณูปโภค : เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยก็ว่าได้ครับ เพราะเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ที่เป็นเจ้า Local ในพื้นที่ของจังหวัดเพชรบุรี มักจะเป็นคอนโดที่ไม่ค่อยได้มี Facilities สวยงามและจัดเต็มมาให้ขนาดนี้เท่าไหร่ ซึ่งคนที่ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการให้ใช้งานครบทั้ง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส พื้นที่นั่งทำงาน และพื้นที่สวน ก็จะต้องมองโครงการนี้เป็นอันดับแรกๆของย่านอย่างแน่นอน
Judgement
เนื่องจากเป็นทำเลต่างจังหวัดที่ Think of Living ไม่คุ้นเคย จึงไม่สามารถให้คะแนนเปรียบเทียบความคุ้มค่าได้ครับ
Escent Phetchaburi เหมาะกับใคร
โครงการ Escent เพชรบุรี เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใกล้ห้างโรบินสันในจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อีกทั้งยังเป็นโครงการที่มี Full Facilities ให้ใช้งานครบ พร้อมห้องหน้ากว้างที่ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์มาครบเข้าอยู่ได้เลย มีงบประมาณระดับ 1.69 – 3.9 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,000 – 27,000 บาท/เดือน
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc