Escent หาดใหญ่ เป็นคอนโดเปิดใหม่ของ CPN โดยแบรนด์ Escent นี้เราจะเห็นว่าเค้าเปิดตัวมา 5-6 ปีแล้วตามจังหวัดสำคัญต่างๆ เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น และล่าสุดก็มาเปิดตัวที่หาดใหญ่ จึงเป็นโครงการหนึ่งที่มีคอนเซปต์ “1 ห้างฯ 1 คอนโด” เช่นกัน ซึ่งน้อยโครงการนักที่จะทำคอนโดในรั้วเดียวกับห้างได้แบบนี้แต่ก็มีราคาที่สูงขึ้นตามทำเลไปด้วย เราสรุปจุดเด่นของโครงการมาได้ ดังนี้

  • ทำเล : คอนโด Escent หาดใหญ่ อยู่ในเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่เลย จึงช้อปปิ้ง ดูหนัง ได้ง่าย ใช้ชีวิตได้สะดวกสบาย
  • Facility : ที่นี่เค้ายก Facility หลักๆ ของโครงการไว้ที่ 2 ชั้นบนสุดคือชั้น 35 และ 36 จึงสามารถพักผ่อนในพื้นที่ส่วนกลางพร้อมชมวิวแบบ Panoramic ได้รอบด้านเลยนะคะ
  • วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished Package ซึ่งเฟอร์ฯต่างๆ ที่โครงการ Built-in มาให้ครบครัน มีตู้และชั้นวางของเยอะมาก ออกแบบได้เข้าใจคนอยู่คอนโด โดยเฉพาะในห้อง 1- Bedroom 28 ตร.ม. มีฟังก์ชันผนังทีวีหมุนได้ ทำให้ติดตั้งทีวีเครื่องเดียวสามารถใช้ได้ 2 ห้องเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

ESCENT HATYAI (เอสเซ็นท์ หาดใหญ่) ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2564

 ชื่อโครงการ  ESCENT HATYAI (เอสเซ็นท์ หาดใหญ่)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนกาญจนวนิช อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
 ที่ดิน  3-0-34 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 36 ชั้น
 จำนวนยูนิต  666 ยูนิต (ห้องพักอาศัย 665 ยูนิต, ร้านค้า 1 ยูนิต)
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด  N/A ยูนิต
 ที่จอดรถ  238 คัน คิดเป็น 35% รวมจอดซ้อนคันอีก 38 คัน คิดเป็น 41%
 เริ่มก่อสร้าง  เดือนมกราคม ปี 2564
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2566
 ประเภทห้องพัก
  • ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้อสย 28-32 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท
  • ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 42-52 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.2 ล้านบาท

 ฝ้าเพดานสูง  2.5 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  1.9 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 69,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  N/A – N/A
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  อยู่ระหว่างการประเมิน หรือ ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ https://residential.centralpattana.co.th/th/condominium/escent-hat-yai
 Call Center  099-006-4816

ทำเลที่ตั้ง

Highlight

  • คอนโด Escent หาดใหญ่ อยู่ในเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ จะช้อปปิ้ง ดูหนัง ก็แค่เดินไปประมาณ 60 เมตรก็ถึงตัวห้างได้ง่ายๆ ใช้ชีวิตได้สะดวกสบาย

พิกัด Google Maps : 6.993348, 100.481305
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ Escent หาดใหญ่ ค่ะ

พูดถึงทำเลของคอนโด Escent หาดใหญ่ นั้นมีตำแหน่งของโครงการที่แตกต่างจากโครงการของ Developer อื่นๆ เลยนะคะ เพราะอยู่ในรั้วเดียวกับเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ ที่เป็นศูนย์การค้าหลักทั้งของจังหวัดสงขลาเองรวมถึงจังหวัดรอบๆ อย่างปัตตานี สตูล พัทลุง ด้วยเช่นกัน ทำให้ทำเลนี้จึงมีความคึกคักของคนที่มาช้อปปิ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดค่ะ

ถ้ามาดูเรื่องถนนหนทางรอบๆ แล้ว โครงการจะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่กาญจนวนิชเลยค่ะ ซึ่งเป็นถนนหลักเส้นสำคัญของชาวหาดใหญ่ที่เชื่อมกับถนนเพชรเกษมทั้ง 2 สาย ทำให้โซนนี้เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, โรงพยาบาลสงขลานครินทร์, โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ และศูนย์การค้า Hypermarket ต่างๆ ก็กระจุกตัวอยู่ในโซนนี้ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ก็เป็นทำเลที่ไม่ได้ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่มากนัก ใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณ 20 นาทีก็ถึงสนามบินแล้วค่ะ

คอนโด Escent หาดใหญ่สามารถเข้าออกผ่านศูนย์การค้าได้หลายเส้นทางนะคะ โดยตำแหน่งที่ตั้งจะอยู่บริเวณลานจอดรถเก่าหลังเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ค่ะ

ถึงแม้ว่าจะมีทางเข้าออกให้เลือกใช้ได้หลากหลาย แต่ในอนาคตทางโครงการแจ้งว่าจะจัดทางเข้าหลักไว้ตามเส้นทางสีส้มที่เชื่อมจากถนนโชติวิทยะกุล 1 ซึ่งจะเป็นทางเข้า-ออกที่แยกจากตัวเซ็นทรัลเพื่อไม่ให้ต้องรับบัตรเหมือนตอนเข้าห้างฯ ซึ่งจะยังคงเข้าออกได้ทั้ง 4 เส้นทางหรือไม่คงต้องรอดูการจัดเส้นทางจริงๆ อีกครั้งนึงค่ะ

เส้นทางการเดินทาง

สำหรับการเดินทางมายังโครงการวันนี้ เราจะเริ่มต้นจากเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ ซึ่งคงเป็นตำแหน่งที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้วสำหรับชาวหาดใหญ่ วันนี้เราจึงอยากพาเดินผ่านห้างฯ เข้าไปเพื่อพาไปดูว่าตัวโครงการใกล้เซ็นทรัลขนาดไหน ตามไปดูกันค่ะ

เริ่มจากบริเวณหน้าเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ ซึ่งอยู่ติดกับถนนกาญจนวนิช ที่เป็นถนนหลักเส้นหนึ่งของหาดใหญ่

จากเซ็นทรัลจะมีสะพานลอยที่เชื่อมเข้าตัวห้างฯ ได้ โดยเจ้าสะพานลอยนี้จะพาข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของถนนที่เป็น Makro หาดใหญ่ได้ค่ะ

บริเวณหน้าเซ็นทรัลก็จะมีรถสองแถวหลายสาย ที่คอยรับส่งตามสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, ตลาดกิมหยง เป็นต้น

เราเดินเข้ามาตากแอร์ฯเย็นๆ ในเซ็นทรัลกันต่อนะคะ หากพูดถึงแบรนด์ร้านแฟชั่นที่มาลงสาขานี้ก็ถือว่าตามเทรนด์วัยรุ่นเป็นหลัก มีสินค้าหลายระดับราคาดี มีร้านเสริมความงามจำนวนมาก, มีร้านขายอุปกรณ์ IT, อุปกรณ์การเรียน

ชั้นล่างมีซุปเปอร์มาร์เก็ตให้ซื้อของกินของใช้เข้าบ้าน ชั้นบนมีร้านอาหาร โรงหนัง ก็ถือว่าครบครันสำหรับชีวิตประจำวันและการพักผ่อนในวันหยุดด้วยนะคะ

ในตัวเซ็นทรัลเองยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานขายโครงการ Escent หาดใหญ่ด้วยเช่นกัน จะอยู่บริเวณชั้น 3 ติดกับร้าน Samsung ซึ่งเราสามารถมาชมห้องตัวอย่างและขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากที่นี่เลยนะคะ

เดินมาถึงบริเวณหลังเซ็นทรัลแค่ข้ามถนนก็ถึงคอนโดแล้วค่ะ โดยประตูทางเข้าคอนโดจะอยู่บริเวณลูกศรที่เราชี้ไว้ ซึ่งห่างจากทางเข้าเซ็นทรัลตรงที่เรายืนอยู่ (ในรูป) ประมาณ 60 เมตรเองนะ ใกล้มากๆ เลย

เราวงพื้นที่โครงการไว้ในเส้นประสีเหลืองนะคะ Site เป็นตัว L ลึกเข้าไปด้านใน ซึ่งตัวอาคารก็จะวางค่อนเข้าไปทางด้านในนั่นแหละค่ะ จึงช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยได้ด้วยนะ

อย่างที่บอกไปว่าโครงการเข้าถึงได้หลายเส้นทาง เราจึงอยากพาไปเดินชมรอบๆ กันหน่อยค่ะ เริ่มจากตัวโครงการแล้วเดินออกทางถนนโชติวิทยะกุล 1 จากนั้นก็เดินกลับมาเข้าประตู 4 ที่เป็นประตูด้านหลังสุดค่ะ

บรรยากาศบริเวณถนนโชติวิทยะกุล 1 เป็นชุมชนพักอาศัยซะเป็นส่วนใหญ่

ซึ่งซอยนี้ก็ไม่ได้เงียบสนิทนัก เพราะยังมีบรรยากาศของร้านค้าราคาย่อมเยา ที่เปิดชั้น 1 ของตึกเป็นร้านขายของ ขายอาหารอยู่ตลอดนะคะ

เข้ามาด้านในซอยจะเจอกับสถานีขนส่งผู้โดยสาร ที่นี่เป็นจุดขึ้นรถที่ใช้เดินทางไปยังปลายทางต่างๆ มีรถตู้ รถทัวร์ รถสองแถว รถแท็กซี่ วินมอไซต์คอยให้บริการ ก็เลือกเดินทางกันเอา

เมื่อเดินเข้าในซอยเรื่อยๆ จะสัมผัสได้ถึงความสงบที่มากขึ้นเป็นโซนหมู่บ้านอยู่อาศัย ซึ่งหากเป็นวันหยุดผู้คนทั้งชาวหาดใหญ่และจังหวัดใกล้เคียงก็นิยมมาพักผ่อนที่เซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่กันไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งซอยลัดเลาะรอบห้างก็จะเต็มไปด้วยรถยนต์ และดูคึกคักกว่านี้นะ

ก่อนจะถึงทางเข้าด้านหลังก็เจอกับร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นร้านใหญ่ทีเดียวคงมีราคาที่น่าดึงดูดกว่าปกติแน่เลยค่ะ ถึงกล้าตั้งอยู่ติดกับทางเข้า-ออกเซ็นทรัลเลยนะ

เข้ามาจากประตู 4 ไม่ไกลก็จะเห็นคอนโด Escent หาดใหญ่ที่ล้อมรั้วก่อสร้างอยู่ทางขวา ติดกันเป็นที่ดินเปล่าของ CPN ที่ยังคงใช้เป็นลานจอดรถอยู่ ก็คงต้องรอดูว่าในอนาคตจะถูกสร้างเป็นอะไรค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ Escent หาดใหญ่ ในปัจจุบันยังเป็นโซนที่พักอาศัยแนวราบอยู่เกือบทั้งหมดจึงไม่ได้มีตึกสูงบังวิวในระยะประชิด แต่ก็มีประเด็นเรื่องของที่ดินเปล่าด้านข้าง ซึ่งขนาดแปลงใหญ่พอสมควร สามารถขึ้นอาคารสูงได้นะคะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • สถานีขนส่ง จังหวัดหาดใหญ่ ~ 550 m.
  • ท่าอากาศยานนานาชาติ หาดใหญ่ ~ 15.6 km.

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Central Festival หาดใหญ่ ~ 60 m.
  • ตลาดกรีนเวย์ ~ 1.1 km.
  • Makro หาดใหญ่ ~ 1.3 km.
  • Tesco Lotus หาดใหญ่ ~ 2.5 km.
  • ตลาดกิมหยง ~ 3 km.
  • Homepro หาดใหญ่ ~ 3.4 km.

โรงเรียน

  • โรงเรียนแสงทองวิทยา ~ 2.7 km.
  • โรงเรียนธิดานุเคราะห์ ~ 3.6 km.
  • มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ~ 3 km.
  • มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ~ 6.4 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี ~ 2.2 km.
  • โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ~ 2.8 km.
  • โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ ~ 3.7 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlight

  • จุดเด่นของที่นี่คือการยก Facility หลักๆ ของโครงการไว้ที่ 2 ชั้นบนสุดคือชั้น 35 และ 36 จึงสามารถพักผ่อนในพื้นที่ส่วนกลางพร้อมชมวิวแบบ Panoramic ได้รอบด้านเลยนะคะ

ใครยังจำคอนเซปต์ 1 “ห้างฯ 1 คอนโด” ได้บ้างมั้ยคะ? เมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อนคอนเซปต์นี้เป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์คอนโด “Escent” จาก CPN มีจุดขายอยู่ที่ทำเลติดศูนย์การค้าเซ็นทรัลทุกโครงการ ส่วนโปรดักส์ตั้งใจให้ดีกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เพราะเค้าตั้งใจจะเคาะราคาให้สูงกว่าตามศักยภาพของทำเลติดเซ็นทรัลด้วยเช่นกัน เปรียบเทียบไปถ้าเป็นกรุงเทพฯ คอนโดที่ทำเลดีก็คงไม่พ้นทำเลติดรถไฟฟ้า เมื่อเป็นต่างจังหวัดทำเลที่มีศักยภาพก็คงไม่พ้นห้างฯใหญ่เป็นแน่ ดังนั้น ทำเลถือว่าเป็นจุดแข็งของแบรนด์นี้เลย

เราจะเห็นคอนโด Escent อยู่ติดเซ็นทรัลในหลายๆ จังหวัด เช่น Escent เชียงใหม่, Escent ระยอง, Escent ขอนแก่น ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชมรีวิวคอนโดเปิดใหม่กับ Escent หาดใหญ่ ที่อยู่ในเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่เลยค่ะ

โครงการ Escent หาดใหญ่ เป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น จำนวน 666 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 3 ไร่กว่าๆ โดยจุดเด่นของที่นี่คือการยก Facilities หลักๆ ของโครงการไว้ที่ 2 ชั้นบนสุดคือชั้น 35 และ 36 จึงเปิดรับวิวแบบ Panoramic ได้รอบด้านเลยนะคะ ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 6-34 สูงพอสมควรที่จะพ้นการบล็อกวิวจากอาคารรอบข้างมาได้

นอกจากนี้พื้นที่สวนหลักๆ จะอยู่ที่ชั้น 1 และชั้น 6 ในส่วนของที่จอดรถรวมซ้อนคันแล้วรองรับได้ 41% ถือว่าไม่มากไม่น้อยสำหรับคอนโดทำเลต่างจังหวัด รวมถึงมีที่จอดรถมอเตอร์ไซค์บริเวณชั้น 1 ให้ด้วย เผื่อใครขับบิ๊กไบค์ก็มีที่จอดไม่ต้องห่วงค่ะ

ถึงแม้ว่าจุดเด่นของโครงการจะเป็นทำเลที่อยู่ในเซ็นทรัลเลยก็จริง แต่ที่ดินด้านข้างโครงการเรายังเห็นว่าว่างอยู่และมีขนาดพอให้ขึ้นตึกสูงได้นะ ซึ่งก็เป็นที่ดินของ CPN อีกเช่นเดียวกัน ในอนาคตจะพัฒนาเป็นอะไรนั้นคงต้องรอดูกันต่อไปค่ะ

คอนเซปต์ในการออกแบบคอนโด Escent หาดใหญ่คือ Genetic Diversity ที่หมายถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม เนื่องจากเมืองหาดใหญ่ในปัจจุบันมีการผสมผสานของวัฒนธรรมที่หลากหลายทั้งชาวจีน, ชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวมุสลิม

พอได้ยินคอนเซปต์ เราเองในฐานะอดีตนักเรียนสถาปัตย์ ก็ยังนึกภาพได้ไม่ชัดเลยว่าหน้าตาอาคารจะสื่อออกมาอย่างไร ซึ่งทางโครงการอธิบายว่าเค้าทำผสมผสานความหลากหลายนี้ให้ลงตัวด้วยสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย + การใช้ลายเส้นที่ดูเรียบง่ายตรงไปตรงมา ในสไตล์ Modern Contemporary ซึ่งเราให้คำนิยามสั้นๆ ได้ว่า เรียบ โก้ มีดีเทลนิดหน่อยพอให้กรุบกริบไม่เยอะเกินไปค่ะ

มาดูรายละเอียดโครงการ Escent หาดใหญ่ทีละชั้นกันนะ เริ่มจาก Masterplan จะมีทางเข้าออกเพียงทางเดียว รักษาความปลอดภัยด้วยระบบ Pass Card (เหมือน Easy Pass ทางด่วน) สำหรับรถยนต์เข้ามาปุ๊บก็ขับวนซ้ายรอบอาคารไปยังทางเข้า Parking บนอาคารได้เลย ส่วนใครที่แค่มาส่งลูกบ้านก็มี Drop-Off หน้าอาคารให้วนส่งได้สะดวก

การเข้าอาคารจะใช้เป็น Face Scan เข้ากับช่วงโควิดที่เน้น No Touch นะคะ เมื่อเข้ามาในอาคารส่วนแรกจะเป็น Lobby กว้างๆ ให้เป็นหน้าเป็นตารับแขกได้ ถัดเข้าไปด้านในจึงจะเป็น Residential Zone ที่จะต้องผ่านประตูเข้าไปอีกชั้นเพื่อรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้าน

นอกจากนั้นในชั้นนี้ยังมี Laundry และ Shop 1 ร้าน ซึ่งทางโครงการแจ้งว่าน่าจะจัดเป็น Cafe’ สำหรับนั่งคอยเวลาซักผ้าค่ะ โครงการนี้มีลิฟต์ให้ใช้ 4 ตัว แยกเป็น 2 โซน โดย 2 ตัวแรกจะเข้าได้จาก Lobby และอีก 2 ตัวหลังจะมีขนาดใหญ่หน่อยให้ใช้ขนของได้ด้วย ซึ่งสามารถเข้าได้จากในลานจอดรถโดยไม่ต้องเดินวนมาเข้าอาคารเลย อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 166 : 1 ถือว่าเยอะอยู่นะคะ

ส่วนที่เราว่าเค้าออกแบบมาได้น่าสนใจคือ ตำแหน่งของซุ้มประตูหน้าโครงการที่จะเขยิบเข้ามาด้านในนิดหน่อย ไม่ได้ติดถนนซะทีเดียว ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยมากขึ้น และบรรยากาศของ 2 ข้างทางยังได้ความร่มรื่นจากแนวต้นไม้เขียวๆ ทั้ง 2 ฝั่ง

ถ้ามองจากในโมเดลจะเห็นได้ชัดว่าบริเวณทางเข้าโครงการทั้ง 2 ฝั่งจะมีสวนหย่อม ซึ่งเค้าทำรั้วโปร่งล้อมไว้เรียบร้อยจึงได้ความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนในสวนแน่นอนค่ะ

เข้ามาด้านในโครงการจะมี Drop-Off ให้วนส่วนลูกบ้านได้สะดวก เป็นแบบ Semi-Outdoor ลงจากรถก็อยู่ใต้ชายคา ถึงฝนตกก็ไม่เปียก แดดออกก็ไม่ร้อน รูปแบบนี้ใช้งานได้ดีค่ะ

หากเป็นลูกบ้านก็ขับรถเข้ามาอีกหน่อยก็ถึงทางเข้า Parking ซึ่งเค้าออกแบบมาให้เป็นที่จอดรถในอาคารทั้งหมดนะคะ

ขึ้นมาที่ชั้น 6 เป็นห้องพักอาศัยเกือบทั้งชั้น และมีสวนในชั้นนี้ด้วยซึ่งเค้าวางสวนไว้ในมุมที่ติดกับที่ดินเปล่าข้างเคียง คิดเล่นๆ หากกรณี Worst Case ที่ดินข้างๆ แปลงนี้ขึ้นเป็นอาคารสูงก็จะยังมีสวนที่เป็น Buffer Zone ให้ไม่อยู่ติดกับอาคารข้างๆ โดยตรง สำหรับตำแหน่งห้องพักที่เราชอบของโครงการนี้มีอยู่ 3 ส่วนตามที่เราเส้นประไว้ 3 สี

  • เริ่มจากโซนสีส้มที่ชอบมากสุดก่อน โซนนี้ได้ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะหมดปัญหาเรื่องห้องร้อนช่วงกลางวันไปเลย และที่ดินข้างๆ ที่ติดกันเป็นที่ดินเปล่าและอาคารพาณิชย์ 2-4 ชั้น ช่วยการันตีเรื่องวิวได้ระดับนึงว่ามีอาคารมาขึ้นบังวิวยากอยู่นะคะ และวิวที่ได้ยังเห็นเขาคอหงส์อยู่ไกลๆ ด้วย โซนนี้มีห้องให้เลือกทั้งแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom เลย ลองเลือกดูกันได้
  • ความชอบรองลงมาคือโซนสีน้ำเงิน แนะนำเป็นห้องชั้น 7-8 จะกำลังดี ชั้น 6 อาจจะเสีย Privacy จากลูกบ้านที่มาเดินเล่นในสวนไปบ้าง อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าห้องพักโซนนี้ทั้ง 6-8 น่าจะมีราคาสูงกว่าห้องอื่นเนื่องจากเป็นห้องติดสวนด้วยนะ
  • ถัดมาคือห้องพักโซนสีม่วง ที่เราชอบเพราะได้วิวสวนเช่นกัน แต่ก็มีตำหนิที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยได้อยู่ห้องช่วงกลางวัน เช้าไปทำงานเย็นค่อยกลับมาพักผ่อนมากกว่าค่ะ

ในส่วนของห้องพักในชั้นนี้มีทั้งหมด 21 ยูนิต ถือว่าเป็นจำนวนต่อชั้นที่เยอะนะ แต่เค้าจัดแปลนตึกเป็นตัว L และแยกลิฟต์ไว้ 2 โซน โซนละ 2 ตัว ทำให้ห้องพักทั้งหมดไม่ได้ไกลจากลิฟต์มาก

สำหรับสวนบนชั้น 6 จัดเป็น Sky Garden มีขนาดพอให้มาพักผ่อนได้สบายๆ มีการใช้ต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม ซึ่งจะสร้างบรรยากาศมาได้ร่มรื่นขนาดไหน คงต้องขอมาชมตอนตึกเสร็จกันอีกทีค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 7 – 34 ผังจะคล้ายกับที่ชั้น 6 เลยค่ะ แต่จะมีจำนวนยูนิตเยอะขึ้นเป็น 22 ยูนิตและเป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้น ห้องพักในชั้นนี้เรามองว่าตำแหน่งที่น่าสนใจยังคงเป็นกลุ่มห้องพักในเส้นประสีส้ม ที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือนะคะ

ขึ้นมาที่ชั้น 35 จัดเป็นชั้น Facility หลักของโครงการทั้งชั้น ซึ่ง Highlight ก็คงเป็นสระว่ายน้ำที่เค้ายกขึ้นมาไว้บนชั้นนี้ด้วย มีขนาด 4 x 25 เมตร ลึก 1.20 เมตร แยกสระเด็ก ขนาด 4.6 x 3.6 เมตร ลึก 0.7 เมตร ภายในมี Jacuzzi ด้วยนะคะ โดยตัวสระวางไว้แบบ Outdoor จึงเหมาะกับการมาใช้งานช่วงเย็นที่แดดร่มแล้ว ซึ่งพอว่ายน้ำเสร็จก็จะมีห้องอาบน้ำและ Sauna เตรียมไว้ให้ที่ชั้นนี้ด้วย

พื้นที่รอบๆ สระจัดไว้เป็นสวนลอยฟ้าอีกเช่นกัน ซึ่งเค้าออกแบบมุมพักผ่อนต่างๆ ไว้ให้เกิดความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ หรือใครที่ชอบส่วนกลางแบบ Indoor เปิดแอร์เย็นๆ ให้เหมาะกับสภาพอากาศของไทยก็จะมี Sky Lounge ให้นั่งเล่น ชมวิวกันได้

เราให้คะแนนเพิ่มกับ Facility ส่วนกลางหลักที่เค้าเลือกวางไว้บนชั้น 35-36 ทำให้การใช้ส่วนกลางที่นี่ได้วิวเมืองแบบ Panoramic ได้เลย

โดยเฉพาะเจ้าสระว่ายน้ำบนชั้น 35 ที่ค่าก่อสร้างต้องแพงกว่าการวางสระไว้ชั้นล่างๆ แลกมากับ Benefit ของลูกบ้านที่สามารถว่ายน้ำพร้อมชม Skyline ของเมืองไปด้วย

Sky Garden บนชั้น 35 มีการเล่นระดับและออกแบบมุมที่นั่งไว้หลายตำแหน่ง เพื่อให้สามารถแชร์กันพักผ่อนได้อย่างเป็นส่วนตัว ชมวิวได้แบบไม่บังกัน

ส่วน Facility Indoor จะมีทั้งชั้น 35 และ 36 คือ Sky Lounge และ Sky Fitness ที่ออกแบบไว้เป็นห้องกระจกเพื่อให้วิวภายนอกได้ค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1

  • สวนหย่อม
  • Multi Purpose Room
  • Laundry Cafe’ พื้นที่พักผ่อนระหว่างรอซักผ้า
  • Jogging Track

  • ชั้น 6
    • สวนหย่อม

  • ชั้น 35
    • Sky Pool ระบบ เกลือ ขนาด 4 x 25 เมตร ลึก 1.20 เมตร แยกสระเด็ก ขนาด 4.6 x 3.6 เมตร ลึก 0.7 เมตร
    • Jacuzzi
    • ห้องออกกำลังกาย
    • Sauna
    • Sky Park View
    • Sky Lounge

  • ชั้น 36
    • Sky Fitness

  • ลิฟต์โดยสาร 4 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 166 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 238 คันคิดเป็น 35% (ถ้ารวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 41%)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card / Sticker
  • แบบห้อง

    Highlight

    • Detail in Room : ออกแบบดีเทลในห้องดี เช่น ท่อระบายน้ำที่ซ่อนเอาไว้ใต้เคาน์เตอร์ครัว, ห้องน้ำแบบ Smart Design ที่ออกแบบโดยรวบรวมระบบท่อไว้ในห้องของเราเองจึงซ่อมบำรุงง่าย
    • Fully Furnished : เฟอร์ฯต่างๆ ที่โครงการ Built-in มาให้ มีช่องเก็บของเยอะ เข้าใจคนอยู่คอนโด โดยเฉพาะในห้อง 1- Bedroom 28 ตร.ม. มีฟังก์ชันผนังทีวีหมุนได้ ทำให้ติดตั้งทีวีเครื่องเดียวสามารถใช้ได้ 2 ห้องเลยค่ะ

    โครงการ Escent หาดใหญ่ มีห้องให้เลือกหลักๆ อยู่ 4 แบบ ดังนี้

    • ห้อง 1-Bedroom พื้นที่ใช้อสย 28 ตร.ม.
    • ห้อง 1-Bedroom พื้นที่ใช้อสย 32 ตร.ม.
    • ห้อง 2-Bedroom พื้นที่ใช้สอย 42 ตร.ม.
    • ห้อง 2-Bedroom พื้นที่ใช้สอย 52 ตร.ม.

    โครงการขายแบบ Fully Furnished พร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in ครบถ้วน พร้อมเครื่องปรับอากาศ มีวัสดุที่ได้ ดังนี้

    • พื้นไวนิลระบบคลิกล็อค ของ SCG
    • ประตู Digital Door Lock ของ Colt
    • เฟอร์นิเจอร์ Built-in ทั้งห้อง เช่น ตู้รองเท้า เคาน์เตอร์ครัว ชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน โต๊ะ+เก้าอี้ทานอาหาร ซึ่งเราจะพาไปดูของจริงแต่ละ Type กันต่อไปนะคะ

    โซนครัว

    • Top เคาน์เตอร์ครัวเซรามิค
    • Hob&hood จาก Teka
    • Sink จาก Teka

    ห้องน้ำ

    • สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Cotto
    • ก๊อกและฝักบัวของ Cotto

    โครงการมีห้องตัวอย่างให้ดู 2 ห้องคือห้อง 1-Bedroom ทั้ง 2 แบบที่เป็นยูนิตส่วนใหญ่ในโครงการ ไปชมกันเลยค่ะ

    ห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. ของที่นี่ เรามองว่าเหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับ Living Area และ Bedroom เป็นหลัก เพราะเค้าวางตำแหน่งไว้ให้ติดกับหน้าต่าง จึงได้วิวและแสงธรรมชาติจากภายนอกอย่างเต็มที่ ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง

    แต่ก็ต้องแลกมากับพื้นที่ครัวและห้องน้ำที่ต้องไปอยู่ด้านในอาคารแทน ประสิทธิภาพใช้งานครัวและห้องน้ำจึงลดลง เพราะต้องพึ่งพาระบบระบายอากาศของตัวอาคารล้วนๆ เหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นทำครัวเยอะ ใช้พื้นที่นั่งเล่นและเตียงนอนเป็นหลัก อยู่อาศัย 1-2 คนกำลังดี อย่างไรก็ตามแบบห้องจะดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยแต่ละคนนะคะ

    สำหรับห้องของที่โครงการขายแบบ Fully Furnished จะได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in และเฟอร์ฯ ลอยตัวตามลิสต์นี้ ถือว่าครบถ้วนมากๆ เลย ซื้อฟูก+ชุดเครื่องนอนเพิ่มอีกหน่อยก็คืออยู่ได้สบายแล้วค่ะ

    ประตูหน้าห้องได้บานไม้ลามิเนต พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ของ Colt แบบ 4 ระบบ ใช้ได้ทั้งรหัสผ่าน, Key card, กุญแจและ Bluetooth

    พื้นห้องจะสูงกว่าโถงทางเดินภายนอกประมาณ 2 cm. การออกแบบนี้เป็นประโยชน์ต่อลูกบ้านมากๆ ในกรณีที่เกิดเหตุว่าห้องอื่นบนชั้นเดียวกัน เปิดน้ำทิ้งไว้ทำให้น้ำไหลออกมาท่วมทางเดิน ก็จะไม่ไหลเข้ามาสร้างความเสียหายให้ภายในห้องพักของเรานะคะ

    เข้ามาจะเจอกับครัวเป็นโซนแรก ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็น Living Area ซึ่งเค้าออกแบบให้มีประตูกั้นปิดระหว่างห้องไว้ด้วย ทำให้กลิ่นควันในห้องครัวไม่เข้าไปรบกวนพื้นที่อยู่อาศัยด้านใน

    พื้นห้องครัวที่ได้เป็นพื้นกระเบื้องพอร์ซเลน จึงง่ายต่อการทำความสะอาด ส่วนประตูห้องครัวเป็นแบบบานพับ 3 ตอน ทำให้เปิดได้กว้าง

    Counter ครัวได้เป็นตัวครัวตัว I (ไอ) พอเหมาะกับการใช้งานในคอนโดแบบ 1 ห้องนอน โดยเจ้าเคาน์เตอร์ครัวที่ให้มาก็จะมีตู้เก็บของด้านล่าง ทั้งตู้บานเปิดปิดและลิ้นชัก ซึ่งบานพับจะเป็นแบบ Soft Close ทั้งหมด

    ส่วนที่เค้าออกแบบดีเทลเพิ่มขึ้นมาก็คือ ท่อระบายน้ำที่ซ่อนเอาไว้ใต้เคาน์เตอร์ เผื่อในกรณีที่เราลืมปิดน้ำ น้ำล้นออกมาบนพื้นก็จะได้มีช่องทางระบายไปได้ ช่วยลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นค่ะ

    มาดูส่วนบนของเคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง ให้ช่องเคาน์เตอร์มา 3 ช่องนะคะ ช่องหนึ่งเป็นซิงค์ล้างจาน อีกช่องเป็นเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน อีกช่องเป็นเคาน์เตอร์โล่งไว้ให้เป็นพื้นที่เตรียมอาหาร Top Counter ได้วัสดุเป็นเซรามิค เวลาปรุงอาหารแล้วกระเด็นก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

    ถัดไปเป็นซิงค์ล้างจานของ  Teka มีขนาดพอให้ล้างกระทะได้ และมีความลึกพอสมควรที่จะล้างแล้วน้ำไม่กระเด็นออกมา

    เตาไฟฟ้าของ Teka มาพร้อมเครื่องดูดควันของ Teka เช่นเดียวกัน ตัวนี้เค้าเลือกใช้เป็นระบบปล่อยควันออกไปด้านนอกจึงระบายอากาศได้ดีกว่าแบบหมุนเวียนะคะ

    ตู้ลอยสำหรับเก็บของด้านบนมีตู้บานเปิด 2 ตู้ + ช่องโล่งให้วางของได้ ตัวบานพับเปิดปิดเป็นแบบ Soft Close เช่นเดียวกับตู้ใต้เคาน์เตอร์ครัวนะคะ

    อีกฝั่งหนึ่งของห้องครัวเป็นตำแหน่งสำหรับวางตู้เย็น ซึ่งขนาดตู้เย็นในห้องตัวอย่างคือ 8.7 คิว พอดีๆ กับพื้นที่ว่างมุมนี้ ส่วนตัวคิดว่าพอใช้สำหรับ 1-2 คนนะคะ

    เข้ามาดูห้องน้ำกันต่อ ภายในแบ่งพื้นที่ไว้อย่างเป็นสัดส่วน ผนังและพื้นโดยรอบปูกระเบื้องไว้ทั้งหมด และยัง Built-in ชั้นวางของและสุขภัณฑ์ต่างๆ ไว้แบบในห้องตัวอย่างค่ะ จุดเด่นของห้องน้ำที่นี่คือเป็น Smart Design ที่ออกแบบโดยรวบรวมระบบท่อไว้ในห้องของเราเอง เวลาซ่อมห้องน้ำก็ไม่ต้องไปรบกวนห้องชั้นล่างตามแบบระบบอาคารเก่าค่ะ

    อ่างล้างหน้าของ Cotto มีขนาดมาตรฐาน ซึ่งด้านข้างอ่างมีพื้นที่ให้วางของใช้ได้อีกนะคะ

    ส่วนที่เราชอบเลยคือ ชั้นวางของที่เค้า Built-in มาให้หลายช่อง สามารถวางทั้งของใช้และของตกแต่งได้เยอะเลยค่ะ

    โถสุขภัณฑ์ของ Cotto มาพร้อมสายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่

    ต่อไปมาดูพื้นที่ส่วนเปียกกันบ้าง จะถูกกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำ ซึ่งเป็นแบบบานเลื่อน 3 ตอน มีมือจับสามารถจับเปิดได้สะดวก และเค้ายกธรณีขึ้นช่วยกันไม่ให้น้ำจากพื้นที่ส่วนเปียกกระเด็นออกมาในพื้นที่ส่วนแห้ง จึงเป็นสัดส่วนดีทีเดียว

    เสียดายนิดนึงเรื่องความสูงของฉากกั้นอาบน้ำที่ไม่สูงถึงฝ้าเพดาน ถ้าเป็นคนตัวสูงแบบ 180 cm. ก็ต้องมีก้มหลบกันหน่อยนะ พื้นที่อาบน้ำขนาดกระทัดรัดประมาณ 0.8 x 1 m. ใช้งานได้สะดวกพอสมควรค่ะ

    ดีเทลอีกจุดหนึ่งก็คือ ตรงท่อระบายน้ำจะมียางซิลิโคน สำหรับใช้ปิดกันกลิ่นมาให้ด้วย

    ภายในติดตั้งอุปกรณ์อาบน้ำมาให้เรียบร้อย ฝักบัวของ Cotto ตามมาตรฐาน

    นอกจากนี้ใน Shower Box ยังมีพื้นที่สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำไว้ให้พร้อมเลยค่ะ

    ถัดเข้ามาใน Living+Dining Area ที่รวมกันไว้จึงสามารถนั่งเล่น ทานอาหาร ดูทีวีไปพร้อมๆ กันได้หมด / ความสูงพื้นถึงฝ้าที่ 2.55 เมตร พื้นเป็นไวนิลระบบคลิกล็อค ของ SCG ซึ่งทนความชื้นมากกว่าพื้นลามิเนต ช่วยลดปัญหาเรื่องพื้นบวมน้ำนะคะ ส่วนผนังจะได้เป็นฉาบเรียบทาสีขาวค่ะ

    เมื่อเข้ามาถึง Living+Dining Area ปุ๊บอย่างแรกเราจะพบกับตู้เก็บของที่โครงการ Built-in มาให้ เราสามารถใช้เก็บรองเท้า เก็บของที่ใช้ประจำอย่างพวกกุญแจรถ กุญแจบ้านได้ตั้งแต่หน้าห้องเลย ซึ่งตู้จะช่วยเก็บกลิ่นของรองเท้าได้รวมถึงพื้นภายในห้องยังไม่เลอะอีกด้วยนะ

    ถัดเข้ามามีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าวได้ 2 ที่นั่ง ซึ่งจะได้โต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้มาแบบนี้เลยนะคะ

    ติดกับโต๊ะทานอาหาร จะเป็นตำแหน่งวางโซฟาสำหรับ 2 ที่นั่ง ซึ่งเจ้าโซฟาตัวนี้พร้อมชั้นวางทีวีก็จะติดตั้งมาให้แบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ ซึ่งโซนนี้จะมีระเบียงในตัวด้วย ทำให้ได้วิวและแสงธรรมชาติ

    ความพิเศษของชั้นวางทีวีที่นี่จะสามารถหมุนผนังได้ แบบนี้ติดตั้งทีวีเครื่องเดียวในห้องก็สามารถใช้ได้ทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอนเลยนะคะ

    ติดกับโซฟาเป็นประตูระเบียงแบบบานเลื่อน 3 ตอน กรอบบานอลูมิเนียม + กระจกติดฟิล์มช่วยลดความร้อนเข้ามาในห้องพัก ซึ่งระเบียงนี้เราสามารถใช้งานได้จริงเลยนะ เพราะเค้าแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบนค่ะ

    ระเบียงมีขนาดประมาณ 2.35 x 0.65 m. ใช้วางราวตากผ้าได้เต็มพื้นที่เลย เพราะเครื่องซักผ้าเค้าติดตั้งไว้ใต้เคาน์เตอร์ครัวแล้วนะคะ

    ปิดท้ายด้วยห้องนอนที่ได้ความเป็นส่วนตัวด้วยประตูบานทึบ ภายในห้องค่อนข้างกว้าง วางเฟอร์ฯ ได้ครบตั้งแต่เตียงนอน 5 ฟุต ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งโครงการจะติดตั้งมาให้ครบถ้วนเลย

    ตำแหน่งของเตียงนอนจะถูกวางไว้ชิดหน้าต่าง จึงนอนชมวิวพร้อมดูทีวีไปได้ ส่วนชั้นวางทีวีนั้นเป็นแบบที่สามารถหมุนผนังใช้แชร์ทีวีกับห้องนั่งเล่นได้ ไม่ต้องซื้อทีวี 2 เครื่องนะ

    เตียงนอนที่โครงการให้มามี 5 ฟุตมาด้วย ซึ่งดีไซน์จะมีช่องเก็บของซ่อนไว้ที่ปลายเตียงด้วย

    หน้าต่างในห้องนอนนอกจากบาน Fix แล้วยังได้บานกระทุ้งมาด้วย จึงเปิดระบายอากาศได้

    สำหรับตู้เสื้อผ้าที่ Built-in จะได้ตามแบบในห้องตัวอย่างเลยนะคะ ทั้งตู้เสื้อผ้า+โต๊ะเครื่องแป้ง+เก้าอี้สตูล+ราวแขวนผ้า เชื่อว่าคุณผู้หญิงต้องชอบอย่างแน่นอน

    ภายในตู้เสื้อผ้าจะแบ่งเป็นราวแขวนผ้าทั้งบนล่าง จึงเก็บเสื้อผ้าได้เยอะ และมีลิ้นชักเก็บของแยกไว้ให้เก็บของได้เป็นสัดส่วน

    ส่วนที่โต๊ะเครื่องแป้งก็มีลิ้นชักไว้ให้เก็บของกระจุกกระจิกได้อีก เรามองว่าเฟอร์ฯต่างๆ ที่โครงการ Built-in มาให้เก็บดีเทลได้เข้าใจคนอยู่คอนโดดีทีเดียวค่ะ

    ไฟในห้องจะได้เป็นดาวน์ไลท์นะคะ


    ถัดมาที่ห้อง 1 Bedroom 32 ตร.ม. อีกแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องหน้ากว้างทำให้ฟังก์ชันทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว มีหน้าต่างและช่องระบายอากาศในตัวทั้งหมด จึงลงตัวในการใช้งานมากขึ้นแลกมากับราคาที่ขยับขึ้นมาประมาณ 4 แสนบาท เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 1-2 คนกำลังดีค่ะ

    เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ก็จะครบถ้วนไม่แพ้กับห้องแบบแรกเลยนะคะ

    เข้ามาภายในห้องจะเจอกับ Living+Dining Area กันก่อน ซึ่งโซนนี้จะเป็น Common Area ตรงกลาง และแยกห้องครัวกับห้องนอนไว้คนละฝั่งอย่างเป็นสัดส่วน

    สำหรับห้องนี้จะได้ตู้รองเท้าและตู้เก็บของ Built-in มาให้เป็นตู้ใหญ่เลย ทำให้ใช้งานพื้นที่ได้คุ้มค่า

    ห้องนี้จะได้โซฟาขนาดใหญ่ขึ้นนั่งได้ 2-3 ที่นั่ง ส่วนด้านข้างจะได้โต๊ะทานอาหารเข้ามุม พร้อมเก้าอี้ 2 ตัวค่ะ ซึ่งห้องนี้นอกจากจะมีหน้าต่างในตัวแล้ว ยังดูโปร่งขึ้นจากประตูห้องครัวที่เค้าเลือกมาเป็นบานเลื่อนกระจกด้วยนะคะ

    สำหรับ Living Area ของห้องนี้มีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.5 m. เหมาะกับการวาง TV ขนาด ประมาณ 46 นิ้ว จะเป็นระยะที่สบายตา

    พอตำแหน่งของโต๊ะทานอาหารอยู่ติดกับโซฟาแบบนี้ก็ทำให้เราสามารถทานอาหารพร้อมดูทีวีไปพร้อมกันได้ด้วยค่ะ

    สำหรับห้องครัวของ Type นี้จะเป็นครัวปิด มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นเป็นสัดส่วน วางตำแหน่งไว้ติดกับโต๊ะทานอาหารจึงใช้งานต่อเนื่องกันได้ดีเลยค่ะ

    ภายในห้องครัวจะติดตั้งเคาน์เตอร์ พร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันและซิงค์น้ำ แบบพร้อมใช้งาน สเปกเดียวกับห้องแบบแรกที่ได้เป็นของ Teka ทั้งหมด

    พื้นที่วางตู้เย็นของ Type นี้จะกว้างกว่าแบบแรกจึงวางตู้ที่ใหญ่กว่า 8.7 คิวได้นะคะ

    ข้อดีอีกอย่างของห้องครัวแปลนนี้ก็คือ ติดกับระเบียง เราจึงระบายกลิ่นควันออกทางระเบียงได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งเป็นประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนจึงสามารถเปิดประตูได้กว้าง

    โครงการเดินงานระบบสำหรับวางเครื่องซักผ้าไว้ให้เรียบร้อย และแขวน Condensing Unit ไว้เหนือเครื่องซักผ้า ทำให้ใช้งานพื้นที่ระเบียงได้เต็มที่

    ปิดท้ายกันด้วยห้องนอนที่ได้ความเป็นส่วนตัวด้วยประตูเปิดปิดบานทึบ ซึ่งห้องน้ำ Type นี้จะอยู่ด้านในห้องนอนนี่แหละ ทำให้พื้นที่ผนังบางส่วนลดลงไปเป็นทางเดินในการเข้าห้องน้ำ จึงจะไม่ได้ตู้เสื้อผ้าแบบ Full Option เหมือนแบบแรกนะคะ แต่ก็วางเฟอร์ฯมาให้ครบทั้งเตียงนอน ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง

    ห้องนอนให้เตียงขนาด 5 ฟุตมาเช่นเดียวกับแบบแรก วางตำแหน่งไว้ติดหน้าต่างเช่นกัน ส่วนผนังปลายเตียงของห้องนี้จะหมุนไม่ได้นะ ต้องซื้อทีวีมาติดตั้ง 2 เครื่อง หากอยากดูทีวีทั้งในห้องนอนและห้องนั่งเล่นค่ะ

    ข้างเตียงจะมีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเก้าอี้สตูล ซึ่งอยู่หน้าห้องน้ำเลย เวลาอาบน้ำเสร็จก็มาแต่งตัวต่อได้สะดวกดี

    ส่วนในห้องน้ำจะเป็น Smart Design เช่นกัน ภายในห้องน้ำมีการแบ่งฟังก์ชันส่วนเปียก-แห้งไว้ชัดเจน มาพร้อมโถสุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ จาก Cotto

    ส่วนที่เป็นจุดเด่นของห้องน้ำที่นี่เลยก็คือ มีช่องวางของได้เยอะค่ะ

    หน้าตาของปลั๊กและสวิตซ์ไฟที่ได้ของ Schneider ค่ะ


    ถัดมาที่แบบเริ่มต้นของ 2 Bedroom ซึ่งห้องนี้จะต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันเพราะมี 1 Bathroom นะคะ ส่วนพื้นที่ Dining จะแยกโซนกับ Living มาอยู่ติดกับ Pantry ครัวแทน ได้เป็นครัวเปิด แต่พอดูตำแหน่งของหน้าต่างและระเบียงแล้ว ถ้าเปิดพร้อมกันก็น่าจะช่วยระบายอากาศในห้องได้ดีเลยค่ะ เหมาะสำหรับสมาชิก 2-3 คนแบบพ่อแม่ลูก ก็กำลังดีเลย

    ขนาดห้องใหญ่สุดคือ Type นี้ค่ะ 2 Bedroom 2 Bathroom ซึ่งเรามองว่าเหมาะกับจำนวนสมาชิก 2-3 คนเท่าห้อง 2 Bedroom Type แรกนั่นแหละ แต่ห้องนี้จะมีห้องน้ำ 2 ห้องและระเบียง 2 ตำแหน่งเพิ่มเข้ามาค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคา

    ESCENT HATYAI (เอสเซ็นท์ หาดใหญ่) ราคา ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2564

    • ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้อสย 28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท
    • ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้อสย 32 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท
    • ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 42 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท
    • ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 52 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท

    • รูปแบบการขาย Fully Furnished
    • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 เมตร
    • Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
    • Hob & Hood / ของยี่ห้อ TEKA
    • จองเริ่มต้น 20,000 บาท
    • ทำสัญญาเริ่มต้น 30,000 บาท
    • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
    • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

    บทสรุป

    ทำเล :

    ทำเลของคอนโด Escent หาดใหญ่ นั้นมีตำแหน่งของโครงการที่แตกต่างจากโครงการของ Developer อื่นๆ เลยนะคะ เพราะอยู่ในรั้วเดียวกับเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ ที่เป็นศูนย์การค้าหลักทั้งของจังหวัดสงขลาเองรวมถึงจังหวัดรอบๆ อย่างปัตตานี สตูล พัทลุง ด้วยเช่นกัน ทำให้ทำเลนี้จึงมีความคึกคักของคนที่มาช้อปปิ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดค่ะ แต่ถ้า Zoom Out ออกมามองพื้นที่รอบๆ เซ็นทรัลก็ถือว่าเป็นโซนอยู่อาศัยที่มีความสงบมากกว่าโซนรอบๆ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์นะคะ จึงเรียกได้ว่าอยู่ในโซนสงบที่ได้ความสะดวกสบายจากการอยู่ในเซ็นทรัลค่ะ

    การเดินทางโดยใช้รถ :

    ด้วยความที่ตัวโครงการอยู่หลังเซ็นทรัลซึ่งติดกับถนนใหญ่กาญจนวนิชและถนนเส้นนี้ก็ไปเชื่อมกับถนนเพชรเกษมได้  ดังนั้นการเดินทางด้วยรถยนต์จึงค่อนข้างสะดวก นอกจากนี้ถนนซอยรอบๆ โครงการยังสามารถลัดเลาะได้ เข้าออกได้หลายเส้นทาง ซึ่งตัวโครงการให้พื้นที่จอดรถรวมซ้อนคันมาทั้งหมด 41% ถือว่ามาตรฐานสำหรับโครงการในต่างจังหวัดนะคะ

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

    ถือว่าสะดวกพอสมควรแค่เดินออกมาหน้าเซ็นทรัล หรือเดินออกไปทางซอยโชติวิทยะกุล 1 ก็มีรถสองแถว รถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซต์ให้ขึ้นแล้วในระยะประมาณ 300-400 เมตร นอกจากนี้ในซอยโชติวิทยะกุล 1 ยังมีสถานีขนส่งผู้โดยสาร ที่นี่เป็นจุดขึ้นรถที่ใช้เดินทางไปยังปลายทางต่างๆ มีรถตู้ รถทัวร์ คอยให้บริการด้วยค่ะ

    วัสดุ :

    ภายในห้องส่วนที่เป็นมาตรฐานถือว่าให้มาค่อนข้างไปทางดี ให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ทั้งห้อง เช่น ตู้รองเท้า เคาน์เตอร์ครัว ชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน โต๊ะ+เก้าอี้ทานอาหาร ซึ่งเฟอร์ฯแต่ละชิ้นจะมีพื้นที่เก็บของ ช่องใส่ของต่างๆ เยอะทีเดียวนะ ซื้อเพิ่มแค่ฟูก,ชุดเครื่องนอนและเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ยกกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย นอกจากนั้นยังมีวัสดุพิเศษที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆทั่วไปเช่น พื้นห้องเป็นไวนิลคลิกล็อคของ SCG ที่ทนต่อความชื้นได้ดีกว่าพื้นลามิเนตทั่วไป

    การออกแบบ :

    ตัวอาคาร – จุดเด่นของการออกแบบที่นี่คือการยก Facilities หลักๆ ของโครงการไว้ที่ 2 ชั้นบนสุดคือชั้น 35 และ 36 จึงเปิดรับวิวแบบ Panoramic ได้รอบด้าน ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 6-34 สูงพอสมควรที่จะพ้นการบล็อกวิวจากอาคารรอบข้างมาได้ โดยอาคารออกแบบเป็นรูปตัว L แต่ละชั้นมีจำนวนยูนิตพอสมควรประมาณ 21- 22 ห้อง แต่ก็แยกโถงลิฟต์ออกเป็น 2 ตำแหน่ง จึงทำให้ห้องพักแต่ละยูนิตอยู่ไม่ไกลจากลิฟต์นัก

    ตัวห้อง – สำหรับห้องพักมีให้เลือกทั้งแบบ 1-Bedroom และ 2-Bedroom ซึ่งเรามองว่าเค้าออกแบบดีเทลในห้องมาดี เช่น ท่อระบายน้ำที่ซ่อนเอาไว้ใต้เคาน์เตอร์ครัว, ห้องน้ำแบบ Smart Design ที่ออกแบบโดยรวบรวมระบบท่อไว้ในห้องของเราเองจึงซ่อมบำรุงง่าย

    สำหรับแปลนห้อง 1-Bedroom เราชอบการจัดแปลนที่ทำให้ทุกห้องได้เป็นสัดส่วน ได้ห้องครัวปิด ห้องนอนก็เป็นประตูทึบ ส่วน Living&Dining Area ได้พื้นที่รวมกันทำให้ดูกว้าง ส่วนแปลนห้อง 2-Bedroom จะมีให้เลือกทั้งแบบมีห้องน้ำเดียว กับมี 2 ห้องน้ำ ได้เป็นครัวเปิดเชื่อมต่อกับ Living&Dining Area เหมือนกันทั้ง 2 Type ก็อาจจะมีปัญหากลิ่นควันเวลาทำอาหารบ้าง ซึ่งพอดูแปลนแล้วห้อง 2-Bedroom จะเป็นห้องมุมทั้งหมด มีหน้าต่าง 2 ฝั่ง อากาศจึงถ่ายเทได้ดีขึ้น

    าธารณูปโภค :

    เนื่องจากโครงการมีจำนวนยูนิตเยอะพอสมควร จึงได้ Facility ค่อนข้างหลากหลาย ฟังก์ชัน น่าใช้งาน ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกบ้านที่ชอบส่วนกลางเยอะๆ ชอบการชมวิวบนชั้นสูงๆ แต่อัตราลิฟต์จะเยอะไปหน่อยถึง 166:1 เลยค่ะ

    Judgement

    เนื่องจากโครงการ Escent หาดใหญ่ เป็นคอนโดมิเนียมในทำเลที่ทาง Think of Living ไม่คุ้นเคยจึงไม่สามารถให้คะแนนเปรียบเทียบความคุ้มค่ากับโครงการอื่นๆในทำเลเดียวกันได้นะคะ

    Escent หาดใหญ่ เหมาะกับใคร

    คอนโด Escent หาดใหญ่ เหมาะกับคนมองหาคอนโดที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความสะดวกสบาย อยากอยู่ติดเซ็นทรัล ชอบโครงการที่ยกส่วนกลางไว้บนชั้นสูงสุด น่าใช้งาน ว่ายน้ำไปชมวิวเมืองไปได้ ยอมจ่ายราคาสูงได้ถ้าสินค้าคุณภาพดี มีงบประมาณเริ่มต้น 1.9 -3.9 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนเริ่มต้น 13,000-27,000 บาทต่อเดือน


    ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
    ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc