รีวิวฉบับที่ 686 … สวัสดีค่าวันนี้เราขอพาทุกท่านมาชมโครงการสร้างเสร็จแล้วย่านบางนากันค่ะ กับโครงการ dcondo campus resort คอนโด Low Rise 8 ชั้น 5 อาคาร จากแสนสิริ โครงการนี้ทำมาสไตล์มหาวิทยาลัยในยุโรปเอาใจนักศึกษาเนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยABAC บางนา นอกจากนี้ก็ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถีและนิคมอุตสาหกรรมบางพลี จึงเหมาะสำหรับคนที่มองหาคอนโดใกล้ที่เรียนหรือที่ทำงานย่านนี้และหาซื้อคอนโดไว้ลงทุนค่ะ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1.39 ล้านบาท รายละเอียดโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยค่า : )
Fact @ 3 October 2014
- dcondo campus resort bangna (ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท บางนา)
- บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
- SUPER ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในอำเภอบางบ่อ สมุทรปราการ
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 5 อาคาร 1,210 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 33 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 484 คันคิดเป็น 40% รวมจอดซ้อนคัน 13% คิดเป็น 53%
- ที่ดินประมาณ 15-3-1 ไร่
- สร้างเสร็จ : สิงหาคม 2557
- Studio เนื้อที่ 29.77 – 30.52 ตร.ม. ราคา 1,402,125 – 1,991,006 บาท หรือ 47,100 – 65,240 บาท/ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.39 ล้านบาทหรือประมาณ 46,800 บาทต่อตารางเมตร
- http://www.sansiri.com/condominium/dcondo_campus_resort_bangna/th/index.aspx
- โทร 1685
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.603612,100.847018
แผนที่จากทางโครงการค่ะ ที่ตั้งโครงการเป็นจุดสีแดงนะคะ
โครงการนี้ตั้งอยู่ในซอย มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC บางนา) ตัวโครงการอยู่ห่างจากปากซอยประมาณ 3 กิโลเมตรค่ะ ถนนหลักที่ใช้ในการเดินทางคือถนน บางนา-ตราด ซึ่งเป็นถนนหลักในการเดินทางไปยังจังหวัด ชลบุรี ช่วงที่ตั้งของโครงการอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 26 ซึ่งเป็นช่วงที่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมบางพลี ทำให้มีรถบรรทุกวิ่งกันค่อนข้างเยอะ การเดินทางเข้าตัวเมืองชั้นในใช้เส้นทางบางนาไปยังถนนสุขุมวิท หรือถ้าจะไปโซนรามคำแหงก็ใช้ถนนศรีนครินทร์ได้ ทางด่วนสามารถใช้ทางด่วนบางนา หรือใช้ทางด่วนวงแหวนอุตสาหกรรมบนเส้นกาญจนาภิเษกก็ได้ ถ้าจะไปถนนพระราม 9 ก็สามารถใช้เส้นทางวงแหวนกาญจนาภิเษกแล้วเข้ามอเตอร์เวย์ได้ ส่วนห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆที่คนย่านนี้ไปช้อปปิ้งกันคือห้าง Mega Bangna ค่ะ
การเดินทางเริ่มจากเซ็นทรัลบางนา ตรงไป กม. 26 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตรถึงโครงการ ถ้าใครทำงานบนเส้นบางนาก็ถือว่าค่อนข้างสะดวกค่ะ ไปชมภาพการเดินทางกันเลย
เรามาเริ่มต้นกันที่เซ็นทรัล บางนา นะคะ
ถัดมาจะเจอ Big C ติดๆกันเลย ตรงนี้มีทางออกจากถนนหลักเป็นทางออกสุดท้ายสำหรับขึ้นสะพานเข้าเส้นศรีนครินทร์(ไปทางเทพารักษ์)
ถึงจุดตัดถนนศรีนครินทร์ให้ตรงไป
ก่อนถึงทางแยกที่ตัดกับ ถนนกาญจนาภิเษก จะเจอ Tesco Lotus อยู่ซ้ายมือถ้าใช้ทางออกนี้จะมีสะพานกลับรถและเทางเชื่อมต่อเข้า Mega bangna ได้โดยตรง
วิ่งมาเรื่อยๆจะเห็นมหาวิทยาลัยหัวเฉียวอยู่ทางซ้ายมือ
ช่วงนี้(ต.ค. 2014 )ถนนหลักมีการซ่อมแซมเป็นระยะๆค่ะ ทำให้รถที่วิ่งอยู่ถนนหลักต้องออกมาใช้เส้นคู่ขนานทั้งหมด ทำให้ช่วงนี้รถก็จะติดเป็นระยะๆ
หากใช้ทางด่วน ทางลงจะอยู่ก่อนถึงปากซอยไม่ไกล ลงมาจะเจอกับโชว์รูม Mitsubishi ก็แสดงว่าใกล้ถึงแล้วค่ะ
ที่กม.26 หรือซอย ABAC บางนา ที่บริเวณทางเข้าจะมีซุ้มประของวัดศิริเสาธงเป็นจุดสังเกตค่ะ พอเห็นก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย
ซอยทางเข้าโครงการอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 26 หรือที่เรียกกันว่า ซอย ABAC บางนาค่ะ ตัวโครงการอยู่ห่างจากปากซอยไปประมาณ 3 กิโลเมตร สภาพแวดล้อมในซอย ABAC บางนา ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยและเต็มไปด้วยคอนโดและอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าสำหรับนักศึกษาและคนที่ทำงานในย่านนี้ โดยแบ่งออกได้เป็น 3 โซน โซนแรกคือโซนบริเวณปากซอยเป็นช่วงที่มีความคึกคักมากที่สุดเพราะมีคอนและอพาร์ทเม้นท์อยู๋ในโซนนี้เยอะ และมีร้านสะดวกซื้อและแหล่งร้านอาหารต่างๆอยู่บริเวณวัดศิริเสาธงด้วย ถัดเข้ามาหน่อยก่อนถึง ทางเลี้ยวแยกไปยัง ABAC บางนาก็มี Community Mall อยู่
โซนที่สองคือบริเวณทางแยกไปจนถึงปากซอยทางเข้ามหาวิทยาลัยหรือโซนที่โครงการตั้งอยู่นั่นเองค่ะ โซนนี้เริ่มคึกคักมากขึ้นเพราะมีอพาร์ทเม้นท์ใหม่ๆมาเปิดกันเยอะและยังมี Community Mall เปิดเพิ่มอีกแห่งซึ่งมีขนาดใหญ่พอสมควรมีร้านอาหาร Inter Brand มาเปิดมากมาย ถ้าสร้างเสร็จผู้คนที่อาศัยอยู่ในซอยนี้ก็สามารถมาใช้บริการได้โดยที่ไม่ต้องไปถึงห้างสรรพสินค้า โซนที่สาม คือบริเวณที่เลยปากทางเข้า ABAC บางนาไปแล้วจะเริ่มเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบไม่ค่อยมีคอนโดหรืออพาร์ทเม้นท์แล้ว อาหารการกินก็จะมีน้อยกว่าช่วงต้นซอยมาก เราไปดูบรรยากาศในซอยกันดีกว่าค่ะ
เลี้ยวเข้ามาต้นซอยจะเห็นวินมอเตอร์ไซค์อยู่ฝั่งขวามือ (ซอยนี้เห็นวินมอเตอร์ไซค์น้อยมากค่ะ ส่วนมากจะเน้นขับรถกันมากกว่า) ฝั่งซ้ายมือเปนกลุ่มหอพัก มี 7-11, CP Freshmart
ขับตรงมาอีกหน่อย โซนก่อนถึงวัดศิริเสาธงมีร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำมะนาวสด ร้านหมูย่างเกาหลี ศูนย์อาหารตลาดนายน้อย
ตรงมาอีกนิดจะเห็น Tesco Lotus ฝั่งซ้ายมือ 7-11 ฝั่งขวามือ ก่อนถึงวัดศิริเสาธง
วัดศิริเสาธง เป็นวัดเดียวที่เห็นในถนนซอยABAC บางนานี้นะคะ เป็นวัดหนึ่งที่มีการบวชเณรภาคฤดูร้อน และมีการเวียนเทียนในวันวิสาขบูชา ทุกๆปีจะมีการประดับไฟสวยงามสวยงาม โซนรอบๆหน้าวัดก็ดูมีร้านขายของชำ ร้านขายอาหารการกินอยู่หลายร้าน
ขับตามทางไปอีกหน่อยจะเห็น โรงพักบางเสาธงอยู่ทางขวามือ ตรงข้ามก็มีร้านอาหารและร้านค้าต่างๆอยู่พอสมควร
ถัดมาเจอตลาดเกษมสุขอยู่ทางซ้ายมือ
ขับมาอีกหน่อยจะเจอหอพัก GVC เป็นหอพักใหญ่ มีร้านมินิมาร์ท เอทีเอ็ม ร้านซักอบรีดอยู่ ตรงข้ามมีตลาดโต้รุ่งนายน้อยไว้รอขายบรรดานักศึกษาที่ชอบทานมื้อดึก
ถัดมาเป็นหอพัก Brighton หอนี้ก็ใหญ่เหมือนกัน ฝั่งตรงข้ามมีร้านอาหาร บาร์เล็กๆ หลายร้าน
ตรงต่อมาจะเจอร้านขาหมูเหม่งจ๋าย ที่ขายอาหารตามสั่งด้วย ให้เลี้ยวขวาตามลูกศร
เลี้ยวขวาแล้วก็ตรงตามทางไปเรื่อยๆนะคะ
ตรงตามทางมาจะเจอ Peles Castle อยู่ซ้ายมือตรงหัวโค้ง แสดงว่ามาถูกทางแล้ว
ผ่านหัวโค้งมาจะเจอ หอพัก ฌ เฌอ ซึ่งใต้หอมี Community mall อยู่ค่ะ จากตรงนี้เราจะเห็นกลุ่มอาคารของ dcondo campus resort กันแล้วค่ะ ถ้าจะเข้าโครงการก็เตรียมเลี้ยวขวาเข้าไปได้เลย
ที่วงแดงไว้คือป้ายโครงการ dcondo campus resort ค่ะ จะเห็นว่าป้ายบอกทางให้เลี้ยวขวาเข้าโครงการได้เลย แถวด้านหน้าโครงการจะมีบาร์และร้านอาหารเล็กๆอยู่ค่ะ จากตรงนี้ขอขับเลยไปดูข้างหน้าอีกนิดนึงก่อนนะคะ แล้วค่อยกลับมาดูในโครงการกันต่อ
ขับเลยโครงการไปประมาณ 600 เมตรจะเจอ View Point community mall เห็นมีร้านอาหารอย่าง Yayoi, MK, และร้านอาหารอื่นๆมาเปิดอยู่นะ
ขับต่อไปซ้ายมือจะเจอทางเข้า ABAC บางนา แล้วค่ะ จากที่ตั้งโครงการ dcondo campus resort ถ้าจะขับเข้าไปด้านใน ABAC ก็ประมาณ 2 กิโลเมตรถึงจะถึงโซนตึกเรียนค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ฌ เฌอ Community Mall ประมาณ 150 ม
- View point Community Mall ประมาณ 600 ม.
- มหาวิทยาลัย ABAC บางนา ประมาณ 2 กม.
- โรงพยาบาลบางนา ประมาณ 10 กม.
- สนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณ 32 กม
- HomePro & Lotus ประมาณ 20 กม.
- Mega บางนา ประมาณ 26 กม.
- Central บางนา ประมาณ 26 กม.
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
รูปร่างของที่ดินโครงการมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางตัวตามแนวยาว อาคารทั้ง 5 ก็วางตัวไปตามความยาวที่ดินค่ะ โดยหันด้านยาวรับแนวทิศเหนือใต้ ข้อดีคือยูนิตที่อยู่ฝั่งค่อนไปทางทิศเหนือก็จะได้รับแสงตอนเช้าที่เป็นแดดอ่อนๆไม่ร้อนมากทั้งด้าน แต่ข้อเสียก็คือยูนิตฝั่งค่อนไปทางทิศใต้ก็จะได้รับแสงช่วงบ่ายที่ร้อนกว่าทั้งด้านเช่นกันค่ะ พื้นรอบข้างทั้งสามฝั่งยังเป็นที่ดินเปล่า สังเกตทิศเหนือถัดจากที่ดินโครงการเป็นที่ดินเปล่าผืนดินมีการถมทรายเคลียร์ที่เรียบร้อย ต่อไปจะเกิดเป็นโครงการอะไรก็ต้องมาลุ้นกันค่ะ ฝั่งทิศตะวันตกเป็นถนนฝั่งขาออกไปถนนใหญ่บางนา ฝั่งตรงข้ามถนนโครงการก็ยังเป็นที่ดินเปล่าอยู่เหมือนกัน ใกล้ๆโครงการริมถนนจะมีบาร์และร้านอาหารอยู่ตอนกลางคืนอาจมีเสียงดังเข้าไปที่ตึกโซนA, E และ D ได้ค่ะ ห่างออกไปประมาณ 150 เมตร มี ฌ เฌอ Community Mall อยู่ เป็นระยะที่คนในโครงการสามารถเดินไปซื้อของเล็กๆน้อยๆที่มินิมาร์ทได้สบายๆค่ะ
ทางเข้าออกหลักของโครงการเป็นถนนแบบ One Way วนรถเข้าทางซ้ายออกทางขวาค่ะ ทำที่จอดรถรอบข้างถนนและด้านหลังมีลานจอดรถเพิ่ม ทั้งหมดเป็นลานจอดรถกลางแจ้ง ทำทางเดินเข้าอาคารด้านหน้าผ่าน Park หรือสนามหญ้าที่มีที่นั่งเล่นและบ่อน้ำพุบางส่วนอยู่ตรงกลางระหว่างอาคาร A, B, D, E ถัดเข้ามาด้านในจะเป็น Club House ที่มี หอนาฬิกาเป็นจุดชมวิว, สระว่ายน้ำและห้องฟิตเนสอยู่ค่ะ ซึ่งที่ Club House นี่จะมี Wifi ให้บริการด้วย ถัดจาก Club House คือตึก C ที่อยู่ด้านหลังสุดซึ่งเป็นส่วนของ Sales Office ด้วย ข้อเสียของตึก C คืออยู่หลังสุดซึ่งถ้าเดินเข้าออกก็ลึกกว่าตึกอื่นและไม่มีพื้นที่สวนที่ต่อเนื่องตรงกลางเหมือนตึก A, B, D, E แต่ข้อดีที่ได้คือมีลานจอดรถใหญ่ด้านหน้า เวลาขนของ หรือมีคนมาหาก็จอดรถ แล้วเดินเข้าตึก C ได้ง่ายกว่าตึกอื่นค่ะ วิวของยูนิตบนๆของตึก C จะไม่ชนตึกด้านข้างให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวกว่า (ถ้าอยากจะรู้สึกเป็นส่วนตัวนะ) และก็อยู่ใกล้ Club House มากกว่าตึกอื่นๆด้วยค่ะ
ดูการจัดผังอาคารรวมมาแล้ว มาดูตัวผังอาคารกันต่อค่ะ อาคาร 5 อาคารนี่จริงๆแล้วผังอาคารเหมือนกันทุกอย่างนะคะ แค่ Mirror Plan หรือสลับด้านกันไปมาเท่านั้นเอง ผังอาคารที่เราจะยกตัวอย่างให้ดูคือ อาคาร C ที่เป็นสำนักงานขายนี่ล่ะค่ะ ใครจะมาดูห้องตัวอย่างก็มาดูได้ที่อาคารนี้ค่ะ เริ่มจากทางเข้าที่ Lobby เข้าได้ 2 ทาง ผู้ปกครองหรือเพื่อนหรือคนนอกสามารถเข้ามานั่งรอใน Lobby ได้ค่ะ มีห้องน้ำชายหญิงอย่างละห้องไว้บริการ ที่ชั้นล่างนี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางคือ Common Room ที่ทำเป็นห้องสมุดใช้ Wifi ได้ มี Laundry มาให้ ทางเข้า Laundry นี่จะเข้ามาจากด้านข้างอาคารค่ะ ด้านข้างอาคารฝั่งนึงทำเป็นที่จอดรถค่ะ
ถัดจาก Lobby จะเข้าสู่โถงลิฟต์จะเป็น Access Key Card ค่ะ เข้าไปเป็นโถงลิฟต์ล็อคชั้นนะคะ และที่ชั้น 1 ทางเข้าระหว่างโถงลิฟต์กับทางเข้าโซนที่พักอาศัยชั้น 1 จะเป็น Access Key Card เช่นกันค่ะ ถือว่าการรักษาความปลอดภัยโครงการนี้สูงกว่า dcondo ตัวอื่นๆนะคะ เพราะ dcondo อื่นๆส่วนมากจะไม่มีลิฟต์ล็อคชั้นค่ะ ยูนิตที่พักอาศัยชั้น 1 ข้อดีคือเดินเข้าออกง่ายค่ะ ไม่ต้องใช้ลิฟต์ และแชร์โถงทางเดินกับยูนิตเพียง 12 ยูนิตซึ่งน้อยกว่าชั้นอื่นๆ ข้อเสียคือเสียงรบกวนจากลานจอดรถและผู้คนที่เข้าออกและใช้งานพื้นที่ส่วนกลางชั้นล่างที่จะมีมากกว่าชั้นอื่นๆค่ะ
ชั้น 2 – 8 จริงๆก็จัดผังเหมือนกันแทบทุกอย่างค่ะ จะต่างกันแค่ชั้น 2 นี้มีจำนวนยูนิตน้อยกว่าชั้น 3 – 8 อยู่ 1 ยูนิต คือมี 32 ยูนิตค่ะ โถงลิฟต์มีลิฟต์ 2 ตัวตั้งอยู่ฝั่งทิศเหนือและบันไดหนีไฟและห้องทิ้งขยะอยู่ทิศใต้แต่ตั้งเอาไว้โซนเดียวกันค่ะ ยูนิตที่อยู่ใกล้ๆโซนนี้ก็จะเจอเสียงรบกวนจากคนที่มาใช้ลิฟต์หรือบันไดหรือมาทิ้งขยะมากกว่ายูนิตอื่นๆที่อยู่ไกลออกไปนะคะ ยูนิตที่นี่ทั้งหมดเป็นยูนิตแบบสตูดิโอค่ะ ขนาดแต่ละห้องต่างกันไม่มากอยู่ที่ประมาณ 29.7 – 30.07 ตารางเมตรค่ะ มียูนิตขนาด 29.70 ตารางเมตร หรือยูนิตสีเหลืองอ่อนเยอะสุด ตัวอาคารวางตัวตามแนวทิศเหนือใต้ค่อนข้างชัดเจนนะคะ ยูนิตที่อยู่ฝั่งค่อนไปทางทิศเหนือก็จะได้รับแสงตอนเช้าที่ไม่ร้อน และยูนิตฝั่งค่อนไปทางทิศใต้ก็จะได้รับแสงช่วงบ่ายที่ร้อนกว่า
ชั้น 3 – 8 เหมือนกันกับชั้น 2 แทบทุกอย่างค่ะ ต่างกันแค่จำนวนยูนิตที่มากกว่า 1 ห้องคือ 33 ห้องต่อชั้นเท่านั้นค่ะ เราไปดูภาพตัวโครงการกันเลยดีกว่าค่ะ
ทางเข้าโครงการเป็นไม้กระดกค่ะ เข้าออกรถลูกบ้านติดสติ้กเกอร์ค่ะ ถ้าขับรถเข้าไปก็เลี้ยวซ้ายไปตามทาง ถ้าเดินเท้ามาก็ตรงเข้าไปเลย
ถนนโครงการเป็น One Way วนซ้ายแบบนี้ค่ะ ถ้าจะไป Sales Office ก็ขับตามทางไป
ที่จอดรถอยู่ติดริมรั้วรอบโครงการ ขับรถตรงเข้าไปตามทางก็จะถึงลานจอดรถด้านหลังกับ Sales Office ของโครงการแล้วค่ะ
แต่เราเดินเท้าพาไปให้ดูพื้นที่สวนส่วนกลางของโครงการกันก่อน เข้าไปดูกันเลยค่ะ
เข้ามาก็จะเจอสวนส่วนกลางที่อยู่ตรงกลางของอาคารแบบนี้ค่ะ มีทางเดินแจกเข้าอาคารด้านข้าง สังเกตอาคารแต่ละตึกทาสีไม่เหมือนกัน มีสีแดง, น้ำเงิน, เขียว, เหลือง คือจริงๆข้างในอาคารเหมือนกันนะคะ ต่างกันแค่สีกับตำแหน่งอาคาร
จากสีอาคารภาพข้างบน ป้ายบอกทางดูจะมีการตั้งชื่ออาคารแต่ละสีเป็นชื่อตามฤดูกาลต่างๆ ประมาณว่าสีเขียวคือ Spring นะ สีน้ำเงินคือ Rainy นะ
ทำที่นั่งเล่นในสวนมาให้ บางอันก็เป็นสนามหญ้าเล่นสเต็ปขึ้นไป
อาคาร B จะมีบ่อน้ำอยู่ติดทางเดินด้านข้างอาคารให้ด้วย
รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
ทุกๆอาคารจะมีล้อบบี้, Laundry และห้องสมุดเป็นของตัวเองค่ะ ในภาพเป็นจากสวนมองไปด้านนอกส่วนห้องสมุดค่ะ
เดินจากทางเดินข้างสวนกลางอาคารออกมาจะเจอ Club House ที่มี หอนาฬิกาเป็นจุดชมวิว, สระว่ายน้ำและห้องฟิตเนสอยู่ค่ะ
ภาพบนเป็นภาพมุมสูงจากแสนสิริค่ะ จะเห็นภาพรวมส่วนด้านหลังของโครงการ ถัดจาก Club House ไปจะเป็นอาคาร C และที่จอดรถด้านหลังอาคารค่ะ
กลับมาดูที่ Club House กันต่อค่ะ สระว่ายน้ำเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 25 x 7.22 m. ระบบคลอรีนค่ะ เวลาว่ายจะเห็นวิวฝั่งนึงเป็นหอนาฬิกาบอกเวลาอยู่ ฝั่งตรงข้ามหอนาฬิกาจะเป็นวิวสวนส่วนกลางค่ะ
มีรั้วพุ่มไม้ด้านข้างสระฝั่งถนนเพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ
มีที่นั่งข้างสระจัดมาให้เยอะเหมือนกัน เป็นเฟอร์นิเจอร์ชุดหวายเทียมสีดำ สีน้ำตาล
ถัดเข้ามาโถงทางเดินด้านในก็เตรียมที่นั่งไว้ให้ด้วย โถงทางเดินส่วนนี้เป็นแบบเพดานสูงค่ะ
ถัดเข้ามาด้านในอีกเป็นทางขึ้นไปฟิตเนสและหอนาฬิกาชั้น 2 ค่ะ มีที่นั่งชุดใหญ่ๆไว้ให้หลายชุด
ข้อดีคือเวลานัดเพื่อนมารอเยอะๆ(อย่างเช่นมาออกกำลังกายด้วยกัน หรือมาเล่น MV ด้วยกัน) ก็มานั่งรวมตัวกันคุยกันง่ายดี มีที่ให้เลือกหลายจุด
ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อเลยค่ะ
ขึ้นมาชั้น 2 ก็จะเจอทางเข้าห้องฟิตเนสแบบนี้ หน้าห้องฟิตเนสมีเก้าอี้ให้นั่งเล่นวางไว้หลายตัว ขนาดพอยกไปนั่งเล่นกินลมชมวิวที่โซนริมระเบียงใกล้หอนาฬิกาได้
ห้องฟิตเนสขนาด 16 x 6 เมตร วางเครื่องออกกำลังกายมาให้ 7 – 8 เครื่อง
วางบาร์ดัมเบลมาให้อีก 1 เครื่อง
ออกจากห้องฟิตเนสมา หน้าห้องฟิตเนสจะมีระเบียงและหอนาฬิกาอยู่ เย็นๆลมดีค่ะ ถ่ายรูปวิวรอบๆหอนาฬิกามาให้ดูค่ะ
วิวทิศตะวันตกจะเห็นสระว่ายน้ำ ถัดออกไปเป็นกลุ่มอาคารด้านหน้ากับสวนที่อยู่ตรงกลาง โครงการปลูกต้นไม้เอาไว้ให้ร่มรื่นดีค่ะ ทั้งริมสระและสวนก็ลงแนวต้นไม้มาให้
วิวทิศใต้ติดโครงการเป็นที่ดินบุคคลอื่น เป็นบ่อน้ำค่ะ วิวฝั่งทิศใต้นี่ค่อนข้างโล่งเลยค่ะ ถัดๆไปก็เป็นที่ดินเปล่า
วิวทิศเหนือติดโครงการก็เป็นที่ดินเปล่ามีบ่อน้ำเหมือนกันค่ะ ถัดไปอีกเป็นที่ดินเปล่าผืนดินมีการถมทรายเคลียร์ที่เรียบร้อย ต่อไปจะเกิดเป็นโครงการอะไรก็ต้องมาลุ้นกันนะ ถัดออกไปอีกเป็นอาคาร Low Rose สูง 5 – 8 ชั้นอยู่ ส่วนมากเป็นอาคารที่พักอาศัยค่ะ พวกหอพัก อพาร์ทเม้นท์ คอนโดมิเนียม ที่จะเห็นโครงการขึ้นทางทิศเหนือของอาคารเยอะ เพราะทิศเหนือขึ้นไปจากโครงการประมาณ 2 กิโลเมตรก็ถึงด้านในม. ABAC แล้วค่ะ ก็คือเป็นโซนที่ดินที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยนั่นเอง
วิวทิศตะวันออกเป็นลานจอดรถด้านหลังและอาคาร C ค่ะ เข้าไปดูในตัวอาคารกันต่อเลยดีกว่า
ทางเข้าอาคารปูกระเบื้องเซรามิกสีเทา ทางเข้า Lobby มีสองฝั่งค่ะ คือเข้าทางด้านข้างของตึกได้ทั้งสองฝั่งค่ะ
ฝั่งขวาของอาคาร C เป็นเฉลียงทางเดินข้างห้องสมุดค่ะ จากตรงนี้เดินไป Club House ได้ค่ะ ไม่ต้องไปเดินกลางแดด
ฝั่งซ้ายของอาคาร C เป็นพื้นที่สีเขียว ปลูกต้นไม้มาให้เป็นแนว ข้อดีคือช่วยเพิ่มระยะห่างระหว่างระเบียงยูนิตชั้น 1 กับลานจอดรถได้ค่ะ แต่จะบอกว่าทำหน้าที่เป็นเหมือนฟิลเตอร์กรองควันเสียหรือช่วยกันเสียงจากลานจอดรถให้ระเบียงของยูนิตชั้น 1 ก็คงทำได้ไม่มากนัก เพราะลักษณะของลำต้นต้นไม้เป็นแบบลำต้นสูง พุ่มของกิ่งก้านใบที่จะช่วยกันฝุ่นกับดูดคาร์บอนไดออกไซด์หรือผลิตออกซิเจนให้นั้น จะไปอยู่ช่วงยูนิตชั้น 2 – 3 มากกว่าค่ะ
เข้ามาดูด้านในกันต่อนะคะ Lobby เป็นแบบเข้าได้ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ ด้านในจัดที่นั่งไว้ให้หลายจุด
ฝั่งขวามืชั้นล่างเป็นส่วนพื้นที่ส่วนกลาง มีสแตนด์ยูนิตให้เช่าประกาศอยู่ บริหารโดยบริษัท PLUS ซึ่งจะรับเป็นเอเจนซี่บริการเรื่องปล่อยเช่าให้ สัญญาเช่าขั้นต่ำ 1 ปี สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ชอบซื้อยูนิตไว้ปล่อยเช่าค่ะ
ถัดมาเป็นตู้จดหมายของอาคารค่ะ ทำมาเป็นโทนขาวดำสลับลายไปมา
ถัดจากตู้จดหมายเป็นห้องน้ำชายหญิงอย่างละห้องเอาไว้บริการชั้นล่าง
เปิดประตูห้องน้ำหญิงให้ดูค่ะ มีกระถางต้นสาวน้อยปะแป้งมาให้
ถัดจากห้องน้ำจะมีทางเข้าไปห้องสมุดอยู่ค่ะ เข้าไปดูกันเลย
ห้องสมุดจัดเอาไว้ดีเลยค่ะถ้าเทียบกับโครงการ dcondo อื่นๆนะคะ ดียังไง คือมีโต๊ะใหญ่ให้นั่งคุยงานกันเบาๆได้
จัดที่นั่งไว้ให้เยอะ และเผื่อเต้าเสียบโน้ตบุ้คไว้ที่พื้นให้หลายจุด
ด้านหลังมี Bean Bag ไว้นอนอ่านหนังสือสบายๆ บรรยากาศโซนนี้ดูน่าสบายดีค่ะ
ชั้นหนังสืออันนี้ต้องขอชมว่ามีหนังสือใหม่ๆอัพเดตค่อนข้างเยอะถ้าเทียบกับที่อื่นๆค่ะ
ไม่ได้มีแค่นิตยสาร แต่มีหนังสือดีน่าอ่านวางมาให้หลายเล่มเหมือนกัน
เข้าไปดูโถงลิฟต์กันต่อค่ะ จาก Lobby เข้าไปโถงลิฟต์ต้องสแกนบัตรค่ะ
โถงลิฟต์เป็นลิฟต์ล็อคชั้น อาคารละ 2 ตัว ตัวโถงลิฟต์ทำหน้าต่างบานใหญ่เพื่อนำแสงธรรมชาติเข้ามาภายใน
ฝั่งตรงข้ามโถงลิฟต์เป็นประตูออกไปบันไดหนีไฟค่ะ ส่วนประตูฝั่งซ้ายมือเป็นห้องทิ้งขยะ
ภายในห้องทิ้งขยะค่ะ
ที่โถงลิฟต์จะมีทางเข้าโซนยูนิตที่พักอาศัยชั้นล่างอยู่ ตรงนี้ก็ต้องสแกนบัตรเข้าไปเหมือนกันค่ะ
โถงทางเดินกว้าง 1.5 เมตร ปูกระเบื้องเซรามิกธรรมดา ชั้นล่างนี่เพราะว่าผนังฝั่งขวามือติดที่จอดรถค่ะเลยจะเห็นว่ามีเจาะช่องแสงมาให้ ชั้นบนๆจะไม่มีช่องแสงที่ผนังด้านข้างแบบนี้นะคะ เพราะผนังฝั่งขวามือก็เป็นยูนิตที่พักอาศัยเหมือนกัน
ประตูหนีไฟ และบันไดหนีไฟค่ะ
ประตูทางเข้าห้องเป็นประตูไม้ทาสีขาวมีตาแมว มีอจับเป็นแบบเขาควายค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำระบบคลอรีน ขนาด 25 x 7.22 เมตร สระลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย ขนาด 16 x 6 ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 – 8 เครื่อง
- พื้นที่สีเขียวรวมประมาณ 1 ไร่
- รั้วโครงการสูง 2.5 เมตร
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 121 : 1
- ที่จอดรถ 484 คัน คิดเป็น 40% รวมจอดซ้อนคันอีก 13% คิดเป็น 53%
- ระบบ CCTV / Access Card
- ระบบลิฟต์ล็อคชั้น
โครงการ dcondo campus resort นี้มีห้องแบบเดียว คือแบบ Studio ขนาด 29.7 – 30.07 ตารางเมตร ห้องตัวอย่างนี้จะอยู่ที่ชั้น 1 อาคาร C โดยระเบียงจะหันไปทางด้านทิศเหนือ ทางโครงการขายเป็นแบบ Fully Furnished ค่ะ ก็จะมีเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและ Built-in ให้ มีฉากกั้นห้องมาให้ แต่ไม่มีผ้าม่านและพวกฟูกที่นอนให้ การจัดผังห้องก็เป็นแบบเดียวกับ dcondo ที่อื่นๆใช้ค่ะ เราไปดูภาพห้องตัวอย่างกันเลย
เข้ามาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่น และฉากกั้นส่วนห้องนอนค่ะ ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.5 เมตร พื้นเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ไฟเป็นโคมซาลาเปา มี Heat Detector หรือระบบตรวจจับความร้อนติดเพดานมาให้ ผนังห้องของจริงเป็นผนังปูนฉาบเรียบทาสีขาวนะคะ เดี๋ยวเราจะพาไปดูกันทีละส่วน นะคะ แต่จากภาพนี้จะเห็นระยะห่างจากโซฟาและชั้นวางทีวีประมาณ 2.5 เมตรและจัดโซฟาไม่อยู่ Center ของทีวีนะคะ จัดไว้ตรงข้ามประตูห้องครัว เวลามองทีวีต้องมองเฉียงๆ
แต่โซฟาที่จัดไว้ติดกับฉากกั้นห้องจริงๆจัดให้ตั้งอยู่ Center กับชั้นวางทีวีได้ค่ะ โดยสลับที่กับชุดโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งที่จัดไว้ติดผนังประตู แต่ผนังด้านหลังจะไม่เรียบเพราะติดเสานะคะ เฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้ โซฟาโทนสีขาวดำที่เห็นของจริงได้ตามนี้ ไม่รวมพร็อพหรือพวกของตกแต่งนะคะ แต่ถ้าไม่ใช่คนชอบดูทีวี จัดเฟอร์นิเจอร์แบบที่ห้องตัวอย่างจัดมาให้ก็ลงตัวดีค่ะ โต๊ะอาหารเลื่อนเก้าอี้เข้าออกได้ไม่อึดอัดและไม่ขวางทางเดิน
ส่วนโซฟามาเป็นแบบสองที่นั่งหุ้มหนังเทียมสีดำ มีพนักพิงและที่วางแขน ขนาดที่ให้มาวางระหว่างช่วงผนังกับฉากกั้นห้องและเสาได้พอดี มีที่ด้านข้างให้หาโคมไฟเก๋ๆมาวางเพิ่มได้ อีกข้างของโซฟาโซนหน้าเสาจะวางชั้นหนังสือเพิ่มก็เหมาะเหมือนกัน
โต๊ะกาแฟให้มาเป็น ไม้ mdf สี่เหลี่ยมจตุรัสสีขาว ด้านในวางของเพิ่มได้
ภาพนี้ถ่ายจากโซฟามองไปที่ชั้นวางทีวีค่ะ ด้านล่างของชั้นวางทีวีวางรองเท้ามาให้ดูเป็นไอเดียว่าทำเป็นที่เก็บรองเท้าได้ จะเห็นว่าทีวีถูกวางค่อนมาทางประตูครัวให้คนที่นั่งบนโซฟาไม่ต้องมองเฉียงมากนัก ด้านบนชั้นวางทีวีมีชั้นลอยที่มีที่วางของและที่แขวนหมวกมาให้
ถัดมาเป็นห้องนอนค่ะ วางเตียงคู่หัวเตียงหุ้มหนังเทียมสีดำมาให้ของจริงได้ตามนี้ ไม่รวมพวกฟูกหมอนผ้าห่มนะคะ
ส่วนห้องนอนทำฉากกั้นกระจกฝ้ากรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติมาให้ เวลาปิดเป็นแบบนี้ค่ะ
มือจับเวลาเปิดปิดฉากกั้นห้องเป็นพลาสติกสีดำแบบนี้
ระยะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งประมาณ 30 เซนติเมตร ฝั่งติดหน้าต่างวางจักรยานมาให้ดูเป็นไอเดีย
ระยะปลายเตียงพอวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งไปแล้วเหลือระยะเดินประมาณ 40 เซนติเมตรค่ะ
ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะปลายเตียงสีขาวของจริงได้ตามนี้ค่ะ ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อนข้อดีคือไม่กินที่เวลาเปิดใช้งาน ให้แอร์มา 1 ตัว ติดในห้องนอนเป็นของ Daikin 12,000 BTU ค่ะ
โต๊ะที่ให้มีลิ้นชักเก็บของเพิ่มได้ ชอบเก้าอี้สีดำนี่นะ เท่ดี แต่ของจริงไม่ได้นะคะ เป็นพร๊อพแต่งห้องเหมือนกระจกเงาติดผนังในภาพ คือของจริงต้องไปซื้อเองนะ ด้านข้องโต๊ะวางตะกร้าผ้าซักทรงแคบสูงมาให้ แต่จะวางไซส์ปกติก็มีที่พออยู่นะจากระยะที่มี
ไปดูห้องครัวกันต่อค่ะ ฉากกั้นห้องครัวเป็นประตูบานเลื่อนกระจกฝ้ากรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติเหมือนกัน ธรณีประตูก่อขึ้นมาสูงพอสมควร เวลาเดินไปเดินมาระวังสะดุดกันด้วยนะคะ
พื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องเซรามิกสีขาว ชุดเคาท์เตอร์ครัวพร้อมอ่างล้างจานแบบ 1 หลุม บานเปิดเคาท์เตอร์ครัวปิดผิวลายไม้ ชั้นลอยบานเปิดเป็นสีขาวของจริงได้ตามนี้ค่ะ ไม่รวมพร๊อพและเครื่องใช้ไฟฟ้านะ ลองเปิดลิ้นชักและบานเปิดให้ดูจะได้เห็นระยะการใช้งานนะคะ มีชั้นด้านบนไว้ให้เก็บจานวางซีอิ้วได้ ที่ผนังมีเต้าเสียบมาให้ไว้เสียบปลั๊กตู้เย็น ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า
ท้อปเคาท์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีขาว ด้านหลังเป็นผนังปูนฉาบเรียบทาสีใครชอบทำอาหารแนะนำให้ติด Back Splash หรือวัสดุอื่นๆที่ง่ายต่อการเช็ดทำความสะอาดเพิ่มนะคะ แต่เวลาทำอาหารถ้าวางเตาไฟฟ้าเพิ่มคงต้องหากระดานมาปิดส่วนอ่างล้างจานไว้ จะได้มีพื้นที่เตรียมอาหารเพิ่มค่ะ
ธรณีประตูห้องน้ำยกสูงขึ้นจากพื้นประมาณ 5 เซนติเมตร ตู้เย็นเวลาเปิดปิดจะเห็นว่าขวางทางเข้าห้องน้ำอยู่ค่ะ บวกกับโซนที่วางตู้เย็นอยู่ติดผนังห้องน้ำที่ด้านบนเจาะช่องหน้าต่างและสวิตช์เปิดปิดไฟอยู่ทำให้ความสูงและขนาดของตู้เย็นถูกจำกัดให้เป็นแบบขนาดกะทัดรัดเท่านั้นค่ะ ใหญ่เกินไประยะวางไม่พอค่ะ
เข้าไปดูห้องน้ำกันต่อค่ะ พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเบจเหมือนกัน แต่ที่ผนังมีตกแต่งโมเสคสีเหลือบมุกเพิ่มทำให้ดูดีขึ้นเยอะ ผนังปูกระกระเบื้องจนสุดเพดานค่ะ ก่อแนวกั้นส่วนเปียกมาให้ โซนอาบน้ำไม่มีที่วางของนะ ติดที่วางสบู่มาให้ตามที่เห็น หน้าตาฝักบัวก็มาตรฐานค่ะ
ห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ของ American Standard มีช่องระบายน้ำมาให้ 2 จุด และทำ Low Wall ด้านหลังโถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างมือมาให้วางของเพิ่ม
อ่างล้างมือเป็นทรงสี่เหลี่ยมค่ะ แต่ไม่มีที่วางของรอบๆนะ แต่มี Low Wall ด้านหลังมาให้ก็โอเค กระจกเงาได้ตามที่เห็น ห้องน้ำไม่มีพัดลมดูดอากาศแต่เจาะช่องทำหน้าต่างบานกระทุ้งเพื่อระบายอากาศตรงผนังระหว่างส่วนอาบน้ำกับครัวค่ะ แนะนำให้ติดพัดลมดูดอากาศเพิ่มในห้องน้ำเพื่อกำจัดกลิ่นจากห้องน้ำที่อาจโชยออกไปที่ครัวได้
ออกไปดูที่ระเบียงกันต่อค่ะ ประตูระเบียงเป็นประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติแบบ 3 ตอนค่ะ ระเบียงมีราวกันตกเป็นเหล็กทาสีดำอย่างที่เห็นในภาพ
ขนาดของระเบียงจะสังเกตได้ว่ามีพื้นที่ไม่มาก แต่วางเครื่องซักผ้าได้ค่ะ พื้นปูกระเบื้องชนิดเดียวกับห้อครัว
ผนังระเบียงฝั่งนึงติดราวตากผ้าอลูมิเนียมแบบพับได้มาให้ ช่วยอำนวยความสะดวกเวลาตากผ้าเล็กๆน้อยๆได้ดีค่ะ อันนี้ดีนะคะ เพราะคอนโดอื่นๆจะไม่ค่อยให้มาแบบนี้ แล้วคนส่วนมากก็จะไม่ค่อยเจาะผนังเพื่อทำราวตากผ้าแบบพับแบบนี้ค่ะ แต่จะวางราวตากผ้าไว้บนพื้นเลย ซึ่งทำให้เสียพื้นที่ใช้งานระเบียงไปตลอดค่ะ
ที่ระเบียงเตรียมท่อไว้ให้สำหรับเครื่องซักผ้า, เดินท่อน้ำทิ้งมาที่ท่อระบายน้ำ และมีเต้าเสียบพร้อมฝาปิดกันน้ำ
คอมเพรสเซอร์แขวนด้านบน เพดานระเบียงเป็นโคมซาลาเปาอย่างที่เห็นค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 3 October 2014
- Studio เนื้อที่ 29.77 – 30.52 ตร.ม. ราคา 1,402,125 – 1,991,006 บาท หรือ 47,100 – 65,240 บาท/ตร.ม.
** โปรโมชั่น (รายละเอียดสอบถามทางโครงการ) สำหรับลูกค้าชำระเงินจอง + ทำสัญญา (โดยบัตรเครดิตหรือเงินสด) จะได้รับ
- Fully Furnished พร้อมติดตั้งฉากกั้นห้อง (ยกเว้นห้องหัวมุม)
- ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 1%
- ฟรีค่าส่วนกลาง (28 บาทต่อตร.ม.) นับจากวันโอนกรรมสิทธิ์ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557
- ฟรีค่ากองทุนส่วนกลาง ชำระครั้งเดียววันโอน (500 บาทต่อตร.ม.)
- ฟรีค่าประกันและติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า
- ฟรีค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
เจาะลึกรวบยอด
ทำเลของ dcondo campus resort บางนา ตั้งอยู่ในซอย มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC บางนา) ตัวโครงการอยู่ห่างจากปากซอยประมาณ 3 กิโลเมตรค่ะ ถนนหลักที่ใช้ในการเดินทางคือถนน บางนา-ตราด ซึ่งเป็นถนนหลักในการเดินทางไปยังจังหวัด ชลบุรี ช่วงที่ตั้งของโครงการอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 26 ซึ่งเป็นช่วงที่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมบางพลี ทำให้มีรถบรรทุกวิ่งกันค่อนข้างเยอะ การเดินทางเข้าตัวเมืองชั้นในใช้เส้นทางบางนาไปยังถนนสุขุมวิท หรือถ้าจะไปโซนรามคำแหงก็ใช้ถนนศรีนครินทร์ได้ ทางด่วนสามารถใช้ทางด่วนบางนา หรือใช้ทางด่วนวงแหวนอุตสาหกรรมบนเส้นกาญจนาภิเษกก็ได้ ถ้าจะไปถนนพระราม 9 ก็สามารถใช้เส้นทางวงแหวนกาญจนาภิเษกแล้วเข้ามอเตอร์เวย์ได้
สำหรับคนที่ไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวจะมีรถสาธารณะให้ใช้แค่วินมอเตอร์ไซด์หน้าปากซอย ABAC เท่านั้นค่ะ เนื่องจากผู้อาศัยในซอยนี้ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ABAC ที่มีรถยนต์ส่วนตัวกัน ถ้าจะใช้บริการรถสาธารณะก็จะเรียก Taxi เอา หรือไม่ก็ใช้รถตู้ที่รับส่งนักศึกษาภายในซอยนี้ ซึ่งเรียกว่า AU Loop แต่เนื่องจากโครงการอยู่ห่างจากปากซอยประมาณ 7 กิโลเมตร และโดยรอบไม่มีรถสาธารณะเลย ก็ต้องบอกว่าลำบากค่ะ
สภาพแวดล้อมในซอย ABAC บางนา ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยและจะเต็มไปด้วยคอนโดและอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าสำหรับนักศึกษาและคนที่ทำงานในย่านนี้ค่ะ ช่วงปากซอยเป็นช่วงที่มีความคึกคักมากที่สุดเพราะมีคอนและอพาร์ทเม้นท์อยู่ในโซนนี้เยอะ และมีร้านสะดวกซื้อและแหล่งร้านอาหารต่างๆอยู่บริเวณวัดศิริเสาธงด้วย ถัดเข้ามาหน่อยโซนที่ตั้งโครงการก็มี Community Mall อยู่ และเริ่มคึกคักมากขึ้นเพราะมีอพาร์ทเม้นท์ใหม่ๆมาเปิดกันเยอะและยังมี Community Mall เปิดเพิ่มอีกแห่งซึ่งมีขนาดใหญ่พอสมควรมีร้านอาหาร Inter Brand มาเปิดมากมายเพราะเป็นโซนที่อยู่ใกล้ม.ABAC ค่ะ ถ้าสร้างเสร็จผู้คนที่อาศัยอยู่ในซอยนี้ก็สามารถมาใช้บริการได้โดยที่ไม่ต้องไปถึงห้างสรรพสินค้า แต่ถ้าอยากจะไปเดินเที่ยวห้างก็ต้องไป Mega Bangna จะอยู่ใกล้มากที่สุดค่ะ
วัสดุอุปกรณ์ของโครงการถือว่าดีกว่ามาตรฐานโครงการ dcondo ทั่วๆไปค่ะ ตามมาตรฐานที่ได้คือ Fully-Furnished ให้ชุดครัวกับตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in มาให้ พร้อมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องปรับอากาศ ตัวหน้าต่างประตูเป็นวงกบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ พื้นเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. โคมไฟแบบซาลาเปา ส่วนห้องน้ำเลือกใช้กระเบื้องเซรามิก สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ค่ะ ตัวห้องมีฉากกั้นห้องประตูกระจกฝ้าบานเลื่อนมาให้ กระเบื้องห้องน้ำมีแต่งโมเสคสีเหลือบมุกทำให้ดูดีขึ้น และส่วนระเบียงมีราวตากผ้าอลูมิเนียมพับเก็บได้เพิ่มมาให้
แสนสิริทำการออกแบบมาได้ดีค่ะ แปลนห้องโอเค แปลนอาคารโอเค การออกแบบทำออกมาในสไตล์มหาวิทยาลัยยุโรป ซึ่งเป็นสไตล์ที่เป็นที่ทำมาตอบรับกับย่านนี้ได้ดี ตัวอาคารหน้าตาและโทนสีที่ใช้เรียบง่ายมีกลิ่นอายความเป็นยุโรปหน่อยๆ มีหอนาฬิกาที่เป็นจุดชมวิวด้วย สนามหญ้าก็ทำที่นั่งเล่นไว้และปลูกแนวต้นไม้ไว้เยอะดูร่มรื่น ล็อบบี้และห้องสมุดก็ใส่ใจรายละเอียด มีที่นั่งให้หลายแบบ และหนังสือในห้องสมุดก็เลือกมาเป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่นิตยสารไม่กี่เล่ม สระว่ายน้ำยาว 25 เมตรถือว่าว่ายกันแล้วเหนื่อยเลยทีเดียว และมีที่นั่งเล่นกระจายอยู่รอบๆสระ บรรยากาศดี มีรั้วพุ่มไม้กันตรงส่วนถนนเพื่อความเป็นส่วนตัว
สาธารณูปโภคจึงนับเป็นจุดเด่นของโครงการนี้ค่ะ เพราะมีทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนสและสโมสรแยกต่างหากจากตัวอาคาร รวมทั้งความปลอดภัยที่นอกจากเป็น Access Key Card แล้ว ลิฟต์ยังเป็นระบบล็อคชั้นทุกอาคาร ซึ่งอันนี้ก็ถือว่าดีกว่า dcondo ตัวอื่นๆและโครงการในเรตราคาเดียวกันทั่วๆไปค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 50,000 บาทต่อตารางเมตร, 3 October 2014***
- ทำเล 7.25/10 – ซอย ABAC บางนา 3 กิโลเมตรจากปากซอย
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – รถติดบ้างเป็นระยะ มีมหาวิทยาลัยและอุตสาหกรรมบางพลีอยู่ในระยะใกล้
- ไม่ใช้รถ 7/10 – ต้องพึ่งพาพี่วินหรือ Shuttle Bus
- วัสดุ 8/10 – มาตรฐานค่อนไปทางดี สเป็ควัสดุเลือกมาสวย
- แบบ 8.5/10 – ทำได้ดี ใส่ใจรายละเอียด
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – พื้นที่ส่วนกลางทำมาดี มีลิฟต์ล็อคชั้น, Lobby, ห้องสมุด, Laundry ทุกอาคาร
- ECONOMY CLASS
- 7.61 / 10.00
BOTTOM LINE
dcondo campus resort บางนา เหมาะสำหรับคนที่มีงบประมาณไม่เกิน 2 ล้านบาทและต้องการที่อยู่อาศัยในย่านบางนา ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เหมาะกับคนที่ชอบบรรยากาศแบบยุโรป ยอมเดินทางเข้าออกไกลหน่อยจากถนนใหญ่แต่ก็แลกมาด้วยความปลอดภัยและบรรยากาศดีๆของพื้นส่วนกลาง