dcondo air Ladkrabang ( ดีคอนโด แอร์ ลาดกระบัง ) คอนโด Low Rise 8 ชั้น ติดถนนลาดกระบัง ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ จากแสนสิริ

dcondo air Ladkrabang (ดีคอนโด แอร์ ลาดกระบัง) ณ วันที่ 16 ธันวาคม 2567

Highlight

• ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ : โครงการตั้งอยู่ติดถนนลาดกระบัง ฝั่งไปสุวรรณภูมิ ไปสนามบินสุวรรณภูมิได้ง่ายมากๆ
• ใกล้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง : นักศึกษาและบุคลากรเดินทางไปเรียนหรือทำงานได้ไม่ยาก
• รายล้อมไปด้วยแหล่งความอุดมสมบูรณ์ : โครงการอยู่ติดตลาดลานบุญ ลูกบ้านหาของกินได้ง่าย นอกจากนี้ในระยะ 1.3 Km. ยังมีทั้ง Little Walk ลาดกระบัง , The Paseo Mall ลาดกระบัง , Makro ลาดกระบัง และ Robinson Lifestyle ลาดกระบัง เรียกได้ว่าลูกบ้านไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องปากท้องเลยค่ะ
• ไม่ไกลจาก Airport Rail Link ลาดกระบัง : แม้ว่าจะเกินระยะที่เดินได้สบาย แต่สามารถต่อรถไป ได้ไม่ไกลมากนัก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองได้ค่ะ เพราะรถไฟฟ้าสายนี้ ไปเชื่อมต่อกับ BTS พญาไท

พิกัด Google Maps : 13.72248874821175, 100.71872987349126
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ dcondo air Ladkrabang (ดีคอนโด แอร์ ลาดกระบัง) ค่ะ

อย่างที่เราทราบกันดีว่าหลายๆโครงการของแบรนด์ dcondo มักจากอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย แบบเดินทางได้สะดวก ซึ่ง dcondo air Ladkrabang (ดีคอนโด แอร์ ลาดกระบัง) ก็เป็นเช่นนั้นค่ะ เพียงแต่นอกจากจะใกล้มหาวิทยาลัยแล้ว ความพิเศษของโครงการนี้คือยังใกล้สนามบินด้วย

โครงการตั้งอยู่ติดถนนลาดกระบัง ซึ่งเป็นถนนหลักที่เชื่อมต่อตั้งแต่ถนนสุขุมวิท 77 ไปจนถึงถนนหลวงเเพ่งที่ออกไปทางฉะเชิงเทราเลย ทำให้ถนนเส้นนี้ใช้วิ่งเข้า-ออกเมืองได้สะดวกมากๆ เพียงแค่ขับรถตรงยาวไปตามแนวถนนก็ถึงแล้วค่ะ

ตัวโครงการตั้งอยู่ถนนฝั่งที่วิ่งเข้าสนามบินสุวรรณภูมิและสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังได้สะดวก ขับรถตรงไปประมาณ 5-7 Km. ก็ถึงแล้วค่ะ ตอบโจทย์คนที่ทำงานในย่านลาดกระบังรวมถึงบุคลากรในสนามบิน  ส่วนกลุ่มมหาวิทยาลัยเรามองว่านิสิตนักศึกษาของม.ลาดกระบังจะอยู่ตามหอพักแถวๆมหาวิทยาลัยซะมากกว่า เพราะได้อยู่ใกล้เพื่อนๆและไปเรียนง่าย แต่อาจารย์และบุคลากรในมหาวิทยาลัยที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากหน่อย ไม่ชอบความพลุกพล่านก็จะมาอยู่โซนด้านนอกกัน แต่ต้องเป็นทำเลที่เดินทางไปมหาลัยได้ง่าย ดังนั้นโครงการนี้จึงตอบโจทย์กับกลุ่มคนเหล่านี้ค่ะ

เนื่องจากถนนลาดกระบังเป็นถนนหลักของย่านนี้ จึงกลายเป็นศูนย์รวมของแหล่งความอุดมสมบูรณ์ มีห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาเก็ตตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้ โดยที่ตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับตลาดลานบุญ ซึ่งมีร้านค้าร้านอาหารรวมถึงของสดให้เลือกจับจ่าย ลูกบ้านของคอนโดไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอาหารการกินเลยค่ะ ส่วนคนที่ชอบเดินช้อปปิ้งในห้างก็จะมีทั้ง  Little Walk ลาดกระบัง , The Paseo Mall ลาดกระบัง , Makro ลาดกระบัง และ Robinson Lifestyle ลาดกระบัง ที่ห่างจากโครงการไม่เกิน 1.3 Km.

จากโครงการห่างจากมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ ฝั่งขาเข้าเมืองประมาณ 4.9 Km. สามารถใช้เดินทางเข้าไปยังเมืองโซนพระราม 9 , พญาไทได้เลย หรือใครต้องการเดินทางออกนอกเมืองไปยังฉะเชิงเทราหรือชลบุรีก็สามารถใช้มอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ ฝั่งขาออกไปชลบุรี ที่ห่างจากโครงการประมาณ 5.8 Km. ได้เช่นกัน

โซนนี้จะมีอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินคือรถไฟฟ้า Airport Rail Link ที่มุ่งหน้าเข้าเมืองไปเชื่อมต่อกับ BTS พญาไท โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีลาดกระบัง ที่ห่างออกไป 5.5 Km. แม้จะไม่ใช่ระยะทางที่เดินไปได้ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากขับรถเข้าเมือง

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ dcondo air Ladkrabang (ดีคอนโด แอร์ ลาดกระบัง) มีทั้งตลาด , อาคารสำนักงาน , อาคารพาณิชย์ , อาคารพักอาศัยและที่ว่างรอการพัฒนา ซึ่งเรามองว่าอาจสร้างเป็นอาคารพักอาศัยได้ในอนาคต  โดยข้างๆโครงการจะเป็นอาคาร 4 ชั้นแม้จะไม่อยู่ในระยะประชิด แต่ก็ทำให้บดบังวิวอยู่บ้าง ถ้าอยากได้วิวโล่งๆแนะนำให้เลือกห้องชั้น 5 ขึ้นไป ส่วนด้านหน้ากับด้านหลังเป็นอาคาร 8 ชั้นและวัด แต่มีถนนและคลองคั่น จึงไม่บังวิวระยะประชิดค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ คลองประเวศบุรีรมย์ , วัดลานบุญ , ชุมชนบ้าน 1-2 ชั้น และที่ว่างรอการพัฒนา
• ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารพักอาศัย 4 ชั้น , อาคารสำนักงาน 6 ชั้นและตลาดลานบุญ
• ทิศใต้ ติดกับ อาคารพักอาศัย 8 ชั้น , อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น และที่ว่างรอการพัฒนา
• ทิศตะวันตก ติดกับ อาคารสำนักงาน 4 ชั้นและโกดัง 1 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ตลาดลานบุญ ~ 50 m.
• Little Walk ลาดกระบัง ~ 800 m.
• The Paseo Mall ลาดกระบัง ~ 1.1 km.
• Makro ลาดกระบัง ~ 1.1 km.
• Robinson Lifestyle ลาดกระบัง ~ 1.3 km.
• Lotus’s Hypermarket ~ 6.5 km.
• ตลาดเก่าหัวตะเข้ ~ 7.8 km.
• ตลาดนัดสุวรรณภูมิ ~ 8.0 km.
• เมกาบางนา ~ 13.3 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลสิรินธร ~ 3.3 km.
• โรงพยาบาลวิภาราม ~ 11.2 km.
• โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ~ 13.0 km.

โรงเรียน

• สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ~ 7.0 km.
• โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า ~ 8.9 km.

การเดินทาง

• Airport Rail Link ลาดกระบัง ~ 5.5 km.
• ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ~ 7.4 km.

Highlight

• มีอาคารส่วนกลางแยกออกมาเป็นสัดส่วน : ทำให้การใช้งานไม่ปะปนกับส่วนที่พักอาศัย ลูกบ้านจึงได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
• ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว : โครงการมี 541 ยูนิต เมื่อเทียบกับโครงการรอบข้างที่มียูนิตตั้งแต่ 900 – 1,000 กว่าๆยูนิต ถือว่ามีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดเลยค่ะ โครงการนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว มีเพื่อนบ้านไม่มากนัก

dcondo air Ladkrabang (ดีคอนโด แอร์ ลาดกระบัง) เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคารบนที่ดินประมาณ 5 ไร่ โดยโครงการมี 541 ยูนิต แบ่งเป็นอาคาร A จำนวน 266 ยูนิตและอาคาร B จำนวน 275 ยูนิต ถือว่าเพื่อนบ้านน้อยทีเดียวค่ะ เมื่อเทียบกับโครงการรอบข้างที่มีจำนวนยูนิตอยู่ที่ 900 – 1,000 กว่าๆยูนิต เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน

เริ่มจาก Masterplan ของโครงการ สำหรับชั้นแรกเป็นส่วนกลางและโซนพักอาศัยอีกเล็กน้อย เราจะเห็นว่ามีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นลูกบ้าน แขกที่มาเยี่ยมเยือน หรือแท็กซี่ก็ต้องผ่านซุ้มประตูโครงการก่อน ภายในโครงการมีเส้นทางรถแบบ One-way โดยเข้าที่อาคาร A และมาออกที่อาคาร B ลูกบ้านสามารถจอดรถได้ทั้งใต้อาคารและกลางแจ้งบริเวณรอบๆอาคาร ซึ่งโครงการเตรียมไว้ให้ประมาณ 30% ค่ะ

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจของโครงการนี้คือ ส่วนกลางแยกจากโซนพักอาศัยอย่างชัดเจน โดยมีอาคารส่วนกลางแยกเป็นสัดส่วนไว้ให้ ทั้ง Fitness , Co-Working Space และ Meeting Room ส่วนสระว่ายน้ำอยู่ชั้น 1 ห่างจากโซนพักอาศัยเช่นกัน ช่วยให้การใช้งานไม่ปะปนกับพื้นที่พักอาศัย ทำให้ลูกบ้านของส่วนพักอาศัยได้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยมากขึ้น

โซนห้องพักอาศัยชั้น 1 จะมีแค่อาคาร B เท่านั้น ความพิเศษของห้องพักโซนนี้คือ เป็น Garden Access สามารถเข้าถึงสวนส่วนกลางได้จากห้องพักเลยค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบวิวสวนและต้นไม้ธรรมชาติ

ทางเข้าโครงการใช้ระบบ Bluetoothในการเข้า-ออกโครงการ แต่ในวันที่เราไปยังไม่ติดตั้งฝั่งขาเข้านะคะ ส่วนแขกจะต้องแลกบัตรก่อนนะ โครงการแยกทางเข้าออกอย่างชัดเจนแต่ ไม่ได้แยกช่องระหว่างลูกบ้านกับผู้มาติดต่อ จึงทำให้ต้องรอสักหน่อย หากรถคันหน้าเรามีการแลกบัตร

เมื่อเข้ามาเราจะเห็นวงเวียนสำหรับ Drop-off บริเวณหน้าอาคาร A ทำให้เราสามารถวนส่งลูกบ้านแล้วขับออกไปได้เลย ไม่ต้องขับเข้าไปในโครงการ นอกจากนี้หน้าอาคาร A ยังมีที่จอดรถสำหรับคนพิการหรือผู้สูงอายุที่ต้องใช้รถเข็นด้วยนะ อำนวยความสะดวกให้เข้าถึงอาคารได้ง่ายขึ้น

ที่จอดรถในโครงการอยู่ชั้น 1 บริเวณใต้อาคาร และมีบางส่วนที่เป็นแบบ Outdoor โครงการให้ที่จอดรถมา 30% โดยทางสัญจรจะเป็นทาง Oneway วิ่งลอดใต้อาคารเชื่อมจากอาคาร A ไปอาคาร B ส่วนตัวเราชอบที่โครงการใช้วัสดุทางเชื่อมเป็น Carpet Stone เพื่อให้รถชะลอความเร็วลง เพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นทางเดินไปสวน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุค่ะ

บริเวณที่จอดรถแต่ละอาคารมีจุด Grab & Go สำหรับให้ Rider มาส่งอาหาร ซึ่งจุดนี้ติดกับทางเข้าไปยังโถงลิฟต์ ทำให้ลูกบ้านลงมาเอาของได้ง่ายด้วยค่ะ

ก่อนเข้าไปในอาคารพักอาศัย เราขอพาทุกคนไปชม Clubhouse และพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดกันก่อนนะคะ เริ่มจากอาคาร Clubhouse ที่อยู่บริเวณหน้าโครงการ ฟังก์ชันด้านในเป็นพื้นที่สำหรับทำงานโดยเฉพาะ

พื้นที่บริเวณตรงกลางอาคารนี้เป็นพื้นที่พักคอย ที่ไม่ต้องสแกนหน้าเพื่อเข้ามาใช้งาน แขกที่มาเยี่ยมเยียนโครงการจึงสามารถมารอเพื่อนได้ที่บริเวณนี้

นอกจากนี้ยังมีมุมพักผ่อนแบบ Semi-outdoor ที่เปิดให้แขกมาใช้งานได้

ส่วนพื้นที่ Co-Working Space จริงๆจะอยู่บริเวณปีกซ้าย-ขวาของอาคาร จะมีระบบ Face Scan แปลว่าจะมีแค่ลูกบ้านเท่านั้นที่ผ่านเข้าไปใช้งานพื้นที่ด้านในได้

ภายในพื้นที่  Co-Working Space มีมุมทำงานที่หลากหลาย ตอบโจทย์คนที่ชอบทำงานเป็นกลุ่มหรืองานเดี่ยว รวมถึงมุมทำงานแบบส่วนตัวด้านในด้วย ใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงาน เดินมาใช้งานส่วนกลางตรงนี้ได้สบายๆ

นอกจากนี้ยังมี Meeting Room สำหรับ 6 คนพร้อมจอสำหรับ Present ไว้ด้วย รองรับการประชุม หากลูกบ้านต้องการใช้งานต้องจองล่วงหน้านะคะ

ภายในอาคาร Clubhouse มีห้องน้ำมาให้ 1 ห้อง ซึ่งเป็นห้องน้ำที่รองรับผู้สูงอายุด้วยค่ะ สังเกตได้จากประตูห้องน้ำเป็นบานเลื่อน และภายในห้องน้ำมีพื้นที่กว้างขวางรองรับการใช้วีลแชร์ พร้อมมีราวจับบริเวณ โถสุขภัณฑ์และโถปัสสาวะของผู้ชายค่ะ

สำหรับสระว่ายน้ำ , ฟิตเนสและสวน อยู่ระหว่างอาคารพักอาศัยทั้ง 2 อาคาร โดยโครงการทำทางเดินเชื่อมต่อจากอาคารมายังพื้นที่ส่วนกลางให้เดินมาใช้งานได้สะดวก

ลูกบ้านสามารถเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางได้จากทางที่จอดรถใต้อาคารเช่นกัน โดยต้องใช้ระบบสแกนหน้าเข้ามานะคะ คนที่เข้ามาใช้งานส่วนกลางได้จึงมีแต่ลูกบ้านเท่านั้นค่ะ

สระว่ายน้ำเป็นแบบ Outdoor ระบบเกลือขนาด 20×6 m.  ใช้ว่ายน้ำออกกำลังแบบจริงจัง แม้ว่าสระจะอยู่ด้านนอก แต่ก็ยังไม่ร้อนมาก เพราะได้เงาของอาคาร ช่วยบังทิศทางของแดดได้พอดี

ฟิสเนตของโครงการเป็นอาคารแยกออกมา ภายในห้องแบ่งเป็นส่วน Cardio และ Weight Training ครบครัน นอกจากนี้เรายังสามารถออกกำลังพร้อมกับชมวิวสวนและสระว่ายน้ำได้ด้วย

ข้างๆอาคารฟิตเนสเป็นทางเดินไปยังสวนด้านหลังโครงการ ซึ่งเป็นสวนแบบ Private สำหรับลูกบ้านเท่านั้น สวนตรงนี้จะสามารถเข้าถึงได้จากห้องพักชั้น 1 ด้วยค่ะ โครงการจึงติดตั้งประตูพร้อมระบบสแกนใบหน้าไว้บริเวณทางเข้าสวน เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน

สวนด้านหลังโครงการเรียกว่า ‘Water Front Garden’ ซึ่งบริเวณนี้จะสามารถมองเห็นคลองที่อยู่ใกล้ๆโครงการด้วยนะคะ บริเวณนี้โครงการจัดมุมนั่งเล่นในสวนไว้ให้หลายจุดเลยค่ะ มีทั้งนั่งเป็นคู่และนั่งเป็นกลุ่ม ลูกบ้านสามารถมาพบปะ พูดคุยกันได้สบายๆ

มุมมองภายนอกโครงการจาก Water Front Garden เราได้ข่าวมาว่าพื้นที่ข้างที่คลองนี้จะมีการปลูกต้นไม้ ทำเป็นสวนด้วย ถ้าข่าวที่ได้ยินมาเป็นจริง ลูกบ้านสามารถชมวิวทั้งสวนและคลองได้ง่ายๆ คลองนี้เรามองๆดูแล้วค่อนข้างสะอาด และอยู่ห่างจากโครงการพอสมควร จึงแทบจะไม่ได้กลิ่นคลองเลยค่ะ

สวนบริเวณนี้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ที่สามารถเข้าถึงได้จากห้องพักชั้นล่างเลยนะคะ ใครที่ชอบต้นไม้ชมสวน เหมาะกับการอยู่ชั้นล่างมากเลยค่ะ

อาคาร A

อาคาร A มีห้องนิติบุคคลอยู่ด้านหน้าพอดี ซึ่งมีจุดรับพัสดุจากไปรษณีย์อยู่ด้วย แต่ลูกบ้านไม่จำเป็นต้องอ้อมมาด้านนอกอาคารนะ เพราะด้านใน Lobby มีจุดรับพัสดุสำหรับลูกบ้านอยู่ สามารถรับแล้วกลับขึ้นห้องพักไปได้เลย ใครเป็นสายช้อปปิ้งมีพัสดุมาส่งบ่อยๆอยู่อาคาร A จะสะดวกมากๆเลยนะ

การเข้าถึงอาคาร A จะต้องใช้ระบบสแกนใบหน้าก่อนถึงผ่านเข้าไปได้ค่ะ

บรรยากาศ Lobby ในอาคาร มีพื้นที่ให้ลูกบ้านลงมานั่งเล่น หรือนั่งทำงานได้ ด้านข้างเป็นผนังกระจก มองออกไปเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำของโครงการ ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ผ่อนคลาย

ด้านนอกอาคารเป็นพื้นที่พักผ่อนแบบ Semi-outdoor  ลูกบ้านมานั่งเล่น ชมวิวส่วนกลางได้ด้วย

พื้นที่พักผ่อนแบบ Semi-outdoor มีตู้กดเครื่องดื่มอัตโนมัติให้บริการ มีครบทั้งเครื่องดื่ม และขนมนมเนย ลูกบ้านหิวดึกๆก็ลงมากดตู้กินได้ง่ายๆ

ด้านหลัง Lobby มีห้องน้ำรองรับผู้สูงอายุอยู่ด้วย

ห้องน้ำมีขนาดใหญ่ ผู้สูงอายุสามารถเข็นวีลเเชร์มาใช้งานได้สบายๆ ภายในมีทั้งโถสุขภัณฑ์และโถปัสสาวะให้ใช้งาน

ก่อนถึงโถงลิฟต์มี Courtyard อยู่ตรงกลาง ดูโดดเด่นทีเดียวค่ะ Courtyard นี้ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าถึงกลางอาคารได้ บรรยากาศภายในจึงดูโปร่งโล่ง

ถัดเข้ามาด้านในสุดเป็นโถงลิฟต์ ซึ่งมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่ออาคารคิดเป็น 133 : 1 ถือเป็นสัดส่วนที่ยังไม่หนาแน่นมาก แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนก้แนะนำให้เผื่อเวลารอลิฟต์สักนิดนะคะ

ภายในลิฟต์ดูกว้างขวางและมีปุ่มกดอยู่ 2 ชุด ชุดแรกมีความสูงแบบปกติและต้องสแกนใบหน้าก่อน จึงจะกดลิฟต์ได้ ชุดที่ 2 เป็นปุ่มกดสำหรับคนที่นั่งวีลแชร์ค่ะ

ห้อง Mail box แยกไว้เป็นสัดส่วน มีพื้นที่กว้างให้ยืนหยิบจดหมายสะดวก ส่วนใครที่มีพัสดุมาส่งต้องติดต่อขอรับที่นิติอีกทีนะ ส่วนห้อง Laundry มีเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ  โดยที่เครื่องซักผ้านี้มีขนาดใหญ่พอที่จะซักผ้านวมได้เลย ลูกบ้านไม่ต้องส่งไปซักรีดด้านนอก สะดวกมากๆ ด้านข้างเป็นตู้กดน้ำเปล่า อำนวยความสะดวกให้ลูกบ้าน จะได้ไม่ต้องหิ้วน้ำเป็นแพ็คๆจากซูเปอร์มาร์เก็ต

อาคาร B

ส่วนอาคาร B มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัวต่ออาคารคิดเป็น 138 : 1 ถือเป็นสัดส่วนที่ยังไม่หนาแน่นมากนัก

อาคาร B มีห้อง Mail box และห้อง Laundry เหมือนอาคาร A เลยค่ะ

ห้อง Mail box ของอาคาร B มีขนาดพอๆกับอาคาร A เลยค่ะ  ลูกบ้านมาเอาจดหมายได้สะดวก

เราชอบที่อาคาร B มีเครื่องซักผ้าและตู้กดน้ำแบบหยอดเหรียญให้เหมือนกัน ลูกบ้านไม่ต้องเดินไปแชร์กันใช้กับอาคาร A ถือว่าสะดวกมากๆเลย

โครงการกั้นประตูพร้อมติดตั้งระบบ Face Scan ไว้ก่อนเข้าถึงโซนห้องพักอาศัย ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยค่ะ

ชั้น 2-8 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด การจัดวางตำแหน่งห้องจะเหมือนกันเลยค่ะ ต่างกันตรงที่ขนาดระเบียงของฝั่งที่หันหน้าเข้าส่วนกลางแตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งเรามองว่าเป็นการทำให้หน้าตาอาคารดูมีลูกเล่นค่ะ

อาคาร A อยู่ฝั่งทิศตะวันตกได้แดดช่วงบ่าย และอยู่ใกล้กับทางเข้าโครงการมากกว่า จึงเหมาะกับคนที่ต้องการเข้าถึงห้องพักได้ไวที่สุด ส่วนอาคาร B อยู่ฝั่งทิศตะวันออกได้แดดช่วงเช้า และได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะอยู่ด้านในโครงการ

โดยเรามองว่ามีตำแหน่งห้องพักที่น่าสนใจ 4 โซนดังนี้

• โซนกรอบสีน้ำเงิน ซึ่งเป็น Rare item ของโครงการ เพราะเป็นห้องที่อยู่ตำแหน่งหัวมุมอาคาร ที่ได้วิวดีทั้ง 2 ฝั่ง และเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ที่เป็นห้องขนาดใหญ่ของโครงการอีกด้วย
• โซนสีแดง เป็นห้องพักที่หันเข้าหาส่วนกลาง ทำให้ได้วิวส่วนกลางสร้างบรรยากาศที่ดีให้แก่ลูกบ้าน
• โซนสีส้ม เป็นโซนที่อยู่ใกล้โถงลิฟต์ เหมาะกับคนที่ต้องการความรวดเร็วในการขึ้น-ลงอาคาร
• โซนสีเขียว เป็นโซนห้องพักที่จะเห็นวิวสวนนอกโครงการและคลองประเวศบุรีรมย์

โถงทางเดินดูสบายตา ประตูห้องจะเยื้องกันเล็กน้อย ทำให้แต่ละห้องได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สวนหย่อมที่ชั้น 1
• Lobby
• Co-Working Space
• Meeting Room
• สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 6 x 20 m. ลึก 1.20 m.
• ห้องออกกำลังกายขนาด ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่อง
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 136 :  1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก A  133 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 138 : 1
• ที่จอดรถประมาณ 159 คันคิดเป็น 30%
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / LIV-24 / Bluetooth / Face Scan

Highlight

• โครงการขายในรูปแบบ Fully Furnished : ได้เฟอร์ครบทั้ง Built – in และลอยตัว มีขนาดที่เหมาะสมกับตัวห้อง
• ได้ครัวปิดทุกแบบ : เราสามารถทำอาหารได้จริงจัง ไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันจะฟุ้งไปทั้งห้อง และทำให้ห้องเป็นสัดส่วนมากขึ้น
• ห้อง 1 Bedroom Plus อยู่หัวมุมอาคาร : จึงได้วิวรอบอาคาร 2 ฝั่ง

โครงการ dcondo air Ladkrabang (ดีคอนโด แอร์ ลาดกระบัง) เน้นทำห้องขนาดเล็กอย่างห้อง 1 Bedroom เป็นหลัก ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus จะมีอยู่เล็กน้อยแค่ชั้นละ 5 ห้องเท่านั้น โครงการนี้เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย 1 – 2 คน โดยตัวห้องขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบในราคาเริ่มต้น 1.75 ล้านบาท ซื้อแค่ฟูกที่นอนเพิ่มก็ย้ายเข้ามาอยู่ได้เลยค่ะ โดยห้องมีให้เลือก 4 Type หลักๆ ซึ่งห้องแต่ละ Type จะมีแบบ Garden Access ให้เลือกด้วยค่ะ

• Type A : 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 23.50 – 27.50 ตร.ม.
  Type AG : 1 Bedroom Garden Access พื้นที่ใช้สอยภายใน 27.50 ตร.ม.
• Type B : 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 36.75 – 42.00 ตร.ม.
  Type BMG : 1 Bedroom Plus Garden Access พื้นที่ใช้สอยภายใน 42.00 ตร.ม.
• Type C : 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 37.25 – 44.00 ตร.ม.
  Type CG : 1 Bedroom Plus Garden Access พื้นที่ใช้สอยภายใน 44.00 ตร.ม.
• Type D : 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 41.00 – 45.50 ตร.ม.
  Type DG : 1 Bedroom Plus Garden Access พื้นที่ใช้สอยภายใน 45.50 ตร.ม.

วัสดุภายในห้อง
– พื้นห้อง : พื้นลามิเนต หนา 8 mm.
– พื้นระเบียง : กระเบื้องเซรามิก
– ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาว
– ประตู HDF
– เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type  (จำนวนเครื่องขึ้นอยู่กับแบบห้อง)

วัสดุห้องครัว
– วัสดุพื้นห้องครัว : กระเบื้องเซรามิก
– Top Counter เป็นหินสังเคราะห์ พร้อม Built-in เคาน์เตอร์, อ่างล้างจาน , Hob , Hood จาก Teka
– บานตู้เก็บของปิดผิวด้วยเมลามีน

วัสดุห้องน้ำ
– พื้นและผนังห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิก
– ผนังห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิก
– อ่างล้างมือ , กระจกและโถสุขภัณฑ์และ จาก GELATO
– ก๊อกน้ำและฝักบัว จาก ENGLEFIELD
– บานตู้เก็บของปิดผิวเมลานีน
– ฉากกั้นกระจกอาบน้ำ จาก Shower King

ในช่วงโปรโมชันโครงการจะให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติมดังนี้

1. Smart tv Samsung 2. ตู้เย็น samsung 3.microwave samsung 4. เครื่องทำน้ำอุ่น

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะ

ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom  24.25 ตร.ม. (Type A)

ห้องแรกที่เราจะพาทุกคนมาชมคือห้อง Type A  1 Bedroom ซึ่งเป็นห้องที่มีมากที่สุดในโครงการเลยค่ะ Common Area ของห้องนี้อยู่รวมกับห้องนอน จึงเหมาะกับการอยู่อาศัยคนเดียว

• ห้องครัวปิดอยู่ด้านหน้า ทำอาหารได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นควัน และยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับ Common Area
• พื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่นอนอยู่รวมกัน ได้พื้นที่ขนาดใหญ่ และโปร่งโล่ง
• ห้องน้ำเข้าจากห้องนอนได้สะดวก
• มีระเบียงเล็กน้อย เน้นพื้นที่ใช้งานภายในมากกว่า

เริ่มต้นจากประตูทางเข้าห้องเป็นประตูบานไม้เทียม HDF กรุผิว PVC ลายไม้พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock ของ Lockman มาให้ รองรับถึง 5 ระบบ ได้แก่ ระบบ Password, Finger Scan, Key Card, Application และ กุญแจ ลูกบ้านสามารถเข้าห้องได้โดยไม่ต้องพกกุญแจห้อง เอาใจสายขี้ลืมให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น

ส่วนแรกของห้องพักคือห้องครัวแบบปิด กั้นสัดส่วนแยกกับห้องนั่งเล่นอย่างชัดเจน  พื้นที่ห้องครัวมีขนาดประมาณ 2.00 x 1.75 m. กว้างพอที่จะให้คนช่วยกันทำครัว 2-3 คน หรือเวลาที่มีคนทำอาหารอยู่ก็มีพื้นที่ให้อีกคนเดินผ่านได้สบายๆ ตัวพื้นส่วนครัวปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ทำความสะอาด เช็ดถูได้ง่ายค่ะ

ครัวปิดมีข้อดีคือ เราสามารถทำอาหารได้อย่างจริงจัง ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นควันจะลอยไปห้องอื่นๆค่ะ

ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของด้านล่าง ที่มีบานเปิดตู้เก็บของเป็นเมลามีน ทนต่อรอยขีดข่วน และความชื้น  นอกจากนี้ยังมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ใช้งานได้ในห้อง ไม่ต้องส่งเสื้อผ้าไปซักที่อื่น

ห้องครัวให้ Built-in Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ แข็งแรงทนความร้อน ทนต่อการขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย บริเวณเคาน์เตอร์แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนทำอาหาร ที่ให้เตาไฟฟ้าชนิด 2 หัวเตาพร้อมที่ดูดควันระบบหมุนเวียนของ Teka จึงเหมาะกับการทำอาหารที่กลิ่นและควันไม่ฟุ้งมากนัก

ส่วน Backsplash เป็นผนังปูนทั่วไป แนะนำให้กรุกระเบื้อง เพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ ส่วนที่สองคือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารขนาดเล็ก ส่วนสุดท้ายคือซิงค์ล้างจานที่มีความลึก ล้างจานได้สะดวก น้ำไม่กระเด็นออกมาค่ะ

ตู้ลอยด้านบนจะมีหน้าบานปิดช่วยกันฝุ่น และมีช่องวางไมโครเวฟเตรียมไว้ให้ ดูเรียบร้อยดีค่ะ

ใกล้ประตูมีตู้เก็บรองเท้าแบบ Built-in วางรองเท้าได้ประมาณ 10 คู่ เราสามารถหยิบรองเท้าออกมาใช้ได้ง่าย เพราะเป็นทางผ่านเวลาออกจากห้องพอดี และยังเหลือพื้นที่บนตู้สำหรับวางของที่ต้องหยิบใช้บ่อยๆ เวลาเข้า-ออกห้องได้อีก เช่น หมวก , กุญแจรถ เป็นต้น

ประตูระหว่างห้องครัวมายังพื้นที่นั่งเล่นเปิดได้ ประมาณ 1 m. ส่วนรางประตูฝังลงไปกับพื้นเป็นระนาบเดียวกัน จึงไม่ต้องกลัวเดินสะดุดค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่นอนอยู่รวมกันทำให้ได้พื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่ ทั้งยังติดกับบานประตูหน้าต่าง ได้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง ห้องจึงดูโปร่งโล่งค่ะ ส่วนพื้นปูด้วยลามิเนต หนา 8 mm. ทำให้แข็งแรงมากกว่าแบบ 4 mm. ที่เป็นมาตรฐานทั่วไป

โซฟาที่ให้มาเป็นแบบ 2 ที่นั่ง วัสดุเป็น Memory Foam โอบรับสรีระเรา ช่วยลดแรงกดทับ ทำให้ลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่วางโต๊ะกลางเล็กๆได้ด้วยนะ

โครงการให้ชั้นวางของมาด้วย เรามองว่าจะใช้เป็นชั้นวางทีวีหรือ ทำเป็นโต๊ะทำงานก็ได้

ตู้เสื้อผ้าที่โครงการให้มาเป็นแบบ Built-in ภายในมีราวแขวนเสื้อผ้าแยกเสื้อกับกางเกงมาให้เรียบร้อย พร้อมบานกระจกให้เช็คความเรียบร้อย ด้านบนยังมีพื้นที่เก็บของชิ้นใหญ่ๆ เช่น กระเป๋าเดินทางได้ด้วยค่ะ ซึ่งตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าจะอยู่ใกล้กับห้องน้ำพอดีค่ะ ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง เวลาอาบน้ำเสร็จเราก็เดินออกมาเเต่งตัวได้เลย

ทางเข้าห้องน้ำมีการยกขอบธรณีประตูขึ้นสูง ช่วยกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าสู่ห้องพัก ทำให้เราสามารถทำความสะอาดห้องน้ำได้อย่างเต็มที่

ภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งที่ชัดเจน ทำให้ใช้งานได้ง่าย พร้อมมีชุดสุขภัณฑ์ของ GELATO และ ENGLEFIELD มาให้ โครงการติดตั้งที่แขวนสายชำระไว้ให้เรียบร้อย แต่สายชำระต้องซื้อเข้ามาติดตั้งเองนะคะ

ฉากกั้นอาบน้ำเป็นแบบบานเลื่อน 3 ตอนของ Shower King เดินผ่านเข้าไปอาบน้ำได้สะดวกกว่าแบบ 2 ตอน  และโครงการยกธรณีประตูขึ้นช่วยกันไม่ให้น้ำจากพื้นที่ส่วนเปียกกระเด็นออกมาในพื้นที่ส่วนแห้ง

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.1 x 0.95 m. ถือว่าใช้อาบน้ำได้สะดวกเลย ภายในส่วนอาบน้ำมีที่วางของหรืออุปกรณ์อาบน้ำที่แข็งเเรง มั่นคง ทำให้คนหยิบจับได้สะดวก

โซนเตียงนอนโครงการให้เตียง 5 ฟุตวางเตียงเข้ามุมแบบนี้ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องมากขึ้น

หน้าต่างบานเลื่อนติดกับเตียง ทำให้เเสงธรรมชาติเข้าถึงห้องได้ง่าย ห้องจึงดูสว่าง

ปลายเตียงเป็นระเบียงให้ออกไปสูดอากาศได้

แม้ว่าโครงการจะติดตั้ง Condensing Unit แบบแขวนไว้ด้านบน แต่พื้นที่ระเบียงก็มี ขนาดประมาณ 1.1 x 1.7 m. จึงแนะนำให้ติดราวตากผ้าแบบแขวนเพิ่มเติม ระหว่างพื้นห้องและพื้นระเบียงมีธรณีประตูกั้นไว้ กั้นน้ำไหลย้อนและฝุ่นจากภายนอก

นอกจากนี้โครงการยังมีห้อง 1 Bedroom ที่ตกแต่งเป็นสไตล์อื่นๆให้เราได้ดูเป็นไอเดียกันด้วยค่ะ

ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Plus  37.25 ตร.ม. (Type C)

ห้อง 1 Bedroom Plus เป็นห้องไซส์ใหญ่ของโครงการ จะมีเพียงชั้นละ 5 ห้องเท่านั้น และจะอยู่ที่ตำแหน่งหัวมุมอาคารเท่านั้น จึงได้วิวรอบๆอาคารถึง 2 ฝั่ง จุดเด่นของแปลนนี้คือ

• ห้องอเนกประสงค์ที่สามารถจัดเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนรองก็ได้
• ครัวปิดติดระเบียง ทำอาหารได้เต็มที่ไม่ต้องกลัวกลิ่นควันลอยไปห้องอื่นๆ
• ห้องนอนอยู่หัวมุมอาคาร พร้อมมีหน้าต่าง 2 ฝั่ง ห้องจึงดูสว่างและได้วิว 2 ฝั่ง
•  Common Area มีขนาดกว้าง ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง

เริ่มจากประตูทางเข้าห้องเป็นประตู HDF เปิดผิวด้วย PVC ลายไม้ ที่ติดตั้งระบบ Digital Door Lock ของยี่ห้อ Lockman ซึ่งสามารถเปิดได้ 5 ระบบ คือ สแกนนิ้ว , กุญแจ , คีย์การ์ด , กดรหัส และApplication Wifi. ลูกบ้านสามารถเข้าห้องได้โดยไม่ต้องพกกุญแจห้องเลย เอาใจคนที่ชอบลืมกุญแจบ้านบ่อยๆ

แม้ไม่มีธรณีประตูที่คอยช่วยกันน้ำ กันฝุ่น แต่โซนพื้นหน้าห้องก็เป็นกระเบื้องที่มีความทนทานและเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

Common Area รวมพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารเข้าด้วยกัน ทำให้พื้นที่ใช้งานโล่งและดูมีขนาดใหญ่ พื้นที่ตรงนี้ได้แสงธรรมชาติทั้งจากพื้นที่นั่งเล่นและห้องอเนกประสงค์ แสงจึงเข้าถึงห้องอย่างทั่วถึง ส่วนพื้นปูด้วยลามิเนต หนา 8 mm. ทำให้แข็งแรงมากกว่าแบบ 4 mm. ที่เป็นมาตรฐานทั่วไป

ข้างๆประตูห้องเป็นตู้รองเท้า เราสามารถเก็บ-ใส่ได้สะดวกเวลาจะออกหรือกลับมาถึงห้องค่ะ ตู้รองเท้าจริงๆที่โครงการให้จะเป็นตู้เตี้ยแบบห้อง 1 Bedroom นะคะ

สำหรับห้องนั่งเล่นมีระยะดูทีวีประมาณ 2.4 m. เหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาด 40-43 นิ้ว โครงการให้โซฟา 2 ที่นั่ง ที่มีวัสดุเป็น Memory Foam โอบรับสรีระได้ดี ช่วยลดแรงกดทับนอกจากนี้ยังมีพื้นที่พอที่จะวางโต๊ะเล็กๆไว้วางของกินขณะดูทีวี

ข้างๆพื้นที่นั่งเล่นเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ข้อดีคือเราสามารถนั่งทานอาหารพร้อมกับดูทีวีไปพร้อมๆกัน ซึ่งโครงการจะเตรียมโต๊ะทานอาหารไว้ให้ 4 ที่นั่ง แต่โต๊ะที่โครงการให้เป็นโต๊ะเหลี่ยมนะคะ ไม่ใช่โต๊ะกลมแบบห้องตัวอย่าง นอกจากนี้พื้นที่ทานอาหารยังติดกับห้องครัวอีกด้วยค่ะ ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง

ห้องครัวมีประตูบานเลื่อนกั้นอยู่ ช่วยกันกลิ่นควันไม่ให้ลอยออกมาด้านนอกห้องครัว รวมถึงกันกลิ่นจากห้องน้ำที่อยู่ในโซนครัวด้วยค่ะ

ห้องครัวติดกับระเบียง เราสามารถเปิดระบายอากาศได้ง่าย โดยห้องครัวมีขนาดประมาณ 1.5 x 2.4 m. กว้างพอที่จะให้คนช่วยกันทำครัว 2-3 คน หรือเวลาที่มีคนทำอาหารอยู่ก็มีพื้นที่ให้อีกคนเดินผ่านได้สบายๆ ตัวพื้นส่วนครัวปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ทำความสะอาด เช็ดถูได้ง่ายค่ะ

ด้านล่างแบ่งเป็นช่องเก็บของชิ้นใหญ่ใต้อ่าง อีกฝั่งเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ใครที่ไม่ชอบส่งเสื้อผ้าไปซักด้านนอก เราสามารถซื้อเครื่องซักผ้ามาติดตั้งได้ ทำให้ใช้งานได้สะดวก

Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ ทนต่อการขีดข่วนเวลาใช้งานและทนความชื้น เคาน์เตอร์แบ่งเป็น 3 ส่วนคือส่วนซิงค์ล้างจาน , ส่วนเตรียมอาหารและส่วนทำอาหารที่ให้เตาไฟฟ้าชนิด 2 หัวเตาพร้อมที่ดูดควันระบบหมุนของ Teka แนะนำให้กรุกระเบื้องที่ Backsplash เพื่อให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

ตู้ลอยด้านบนเป็นตู้เก็บของและชั้นวางของ ที่วางไมโครเวฟได้พอดี

ประตูระเบียงเป็นบานเลื่อน 3 ตอน เปิดประตูได้กว้าง เดินเข้า-ออกได้สะดวก

ติดกับห้องครัวเป็นระเบียง สามารถเปิดประตูเพื่อระบายอากาศได้เวลาทำอาหารค่ะ พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.6 x 1.1 m. แนะนำให้ติดตั้งราวตากผ้าแบบแขวน เพื่อประหยัดพื้นที่ค่ะ ส่วนพื้นระเบียงมีการลดระดับลงมาเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลย้อนค่ะ

ทางเข้าห้องน้ำมีการยกขอบธรณีประตูขึ้นสูง ช่วยกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าสู่ห้องครัว ทำให้เราสามารถทำความสะอาดห้องน้ำได้อย่างเต็มที่

ห้องน้ำวางผังห้องน้ำมาเหมือนห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ ภายในมีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งที่ชัดเจนทำให้ใช้งานได้ง่าย พร้อมมีชุดสุขภัณฑ์ของ GELATO และ ENGLEFIELD มาให้ โครงการติดตั้งที่แขวนสายชำระไว้ให้เรียบร้อย

ฉากกั้นอาบน้ำเป็นแบบบานเลื่อน 3 ตอนของ Shower King เดินผ่านเข้าไปอาบน้ำได้สะดวกกว่าแบบ 2 ตอน  และโครงการยกธรณีประตูขึ้นช่วยกันไม่ให้น้ำจากพื้นที่ส่วนเปียกกระเด็นออกมาในพื้นที่ส่วนแห้ง

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.15 x 0.95 m. ถือว่าใช้อาบน้ำได้สะดวกเลย ภายในส่วนอาบน้ำมีที่วางของหรืออุปกรณ์อาบน้ำที่แข็งเเรง มั่นคง ทำให้คนหยิบจับได้สะดวก

สำหรับห้องอเนกประสงค์มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นอยู่ ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าถึงพื้นที่ทานอาหารได้ แต่ถ้าใครชอบความเป็นส่วนตัว แนะนำให้ติดตั้งผ้าม่านนะคะ

ห้องอเนกประสงค์มีขนาดประมาณ 2.15 x 2 m. เหมาะกับการจัดเป็นห้องทำงานหรือห้องทำงานอดิเรก ภายในห้องนี้โครงการจะไม่มีเฟอร์นิเจอร์ Built-in มา เพื่อให้เราจัดสรรพื้นที่ได้ตามไลฟ์สไตล์ตัวเองค่ะ

จากห้องอเนกประสงค์ในห้องพักที่อยู่บนชั้น 3 ของอาคาร B จะมองเห็นทั้งวิวสวนส่วนกลาง , พื้นที่ปลูกต้นไม้ในอนาคตด้านนอกและคลองประเวศบุรีรมย์

สำหรับห้องนอนกั้นด้วยผนังทึบและประตูลายไม้ ทำให้เจ้าของห้องได้ความเป็นส่วนตัว

ห้องนอนมีขนาดประมาณ 2.8 x 3.25 m. วางเตียง 5 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่เดินรอบๆเตียอีกสบายๆ ภายในห้องมีหน้าต่าง 2 ฝั่ง ทำให้เราเห็นวิวรอบอาคารได้หลากหลาย

เตียงที่โครงการให้มามีช่องเก็บของด้านล่างมาด้วย เหมาะกับคนที่ข้าวของเยอะต้องการจัดเก็บให้เป็นระเบียบมากๆเลย

ส่วนหัวเตียงก็มีโต๊ะข้างเตียงให้เก็บข้าวของอีกด้วย

ตู้เสื้อผ้าที่โครงการให้มาเป็นแบบ Built-in ภายในแยกเสื้อกับกางเกงมาให้เรียบร้อย พร้อมบานกระจกให้เช็คความเรียบร้อย ด้านบนยังมีพื้นที่เก็บของชิ้นใหญ่ๆ เช่น กระเป๋าเดินทางได้ด้วยค่ะ

dcondo air Ladkrabang (ดีคอนโด แอร์ ลาดกระบัง) ราคา ณ วันที่ 16 ธันวาคม 2567

• ห้อง 1 Bedroom  พื้นที่ใช้สอยภายใน 23.50-25.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.75 ล้านบาท
• ห้อง 1 Bedroom  Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 36.75-41.00 ตร.ม.
• รูปแบบการขาย Fully Furnished
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 m.
• Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ TEKA
• ห้อง 1 Bedroom จอง 5,000 บาท / ห้อง 1 Bedroom Plus จอง 10,000 บาท
• ห้อง 1 Bedroom ทำสัญญา 20,000 บาท / ห้อง 1 Bedroom Plus ทำสัญญา 25,000 บาท
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลางปีแรก 49 บาท/ตร.ม./เดือน ปีที่ 2 และ 3 ค่าส่วนกลางปีแรก 55 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล : จุดเด่นของโครงการ dcondo air Ladkrabang (ดีคอนโด แอร์ ลาดกระบัง) คือติดถนนใหญ่อย่างถนนลาดกระบัง และอยู่ฝั่งมุ่งหน้าไปสนามบินสุวรรณภูมิและสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังได้ง่ายมากๆ รอบข้างโครงการในระยะ 1.3 Km. มีทั้งห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาเก็ตมากมาย ทั้ง Little Walk ลาดกระบัง , The Paseo Mall ลาดกระบัง , Makro ลาดกระบัง และ Robinson Lifestyle ลาดกระบัง

การเดินทางโดยใช้รถ : ถนนลาดกระบังเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิท 77 ใช้เดินทางไปโซนสุขุมได้นอกจากนี้จากทำเลโครงการห่างจากมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ประมาณ 4.9 Km.  สามารถใช้เดินทางเข้าไปยังเมืองโซนพระราม 9 , พญาไทได้เลย หรือใครต้องการเดินทางออกนอกเมืองไปยังฉะเชิงเทราหรือชลบุรีก็ได้เช่นกัน

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : อีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางคือรถไฟฟ้า Airport Rail Link ที่มุ่งหน้าเข้าเมืองไปเชื่อมต่อกับ BTS พญาไท โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีลาดกระบัง ที่ห่างออกไป 5.5 Km. แม้จะไม่ใช่ระยะทางที่เดินไปได้ แต่ก็สามารถต่อรถไปได้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากขับรถเข้าเมือง

วัสดุ : โครงการขายแบบ Fully Furnished ได้มาทั้งเฟอร์ Built – in และแบบลอยตัว วัสดุได้ตามมาตรฐานระดับราคา พร้อมต่อการย้ายเข้าอยู่ ที่พิเศษคือเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มา เน้นวัสดุคุณภาพ เช่น โซฟาที่ใช้เป็น Memory Foam รองรับสรีระของคนเรา ลดการกดทับและอาการปวดเมื่อย

การออกแบบโครงการ : โครงการ dcondo air Ladkrabang (ดีคอนโด แอร์ ลาดกระบัง) มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดในย่าน ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว โครงการจัดผังโครงการได้ดี แยกระหว่างโซนพักอาศัยและโซนส่วนกลางได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังมี Access Control อยู่ทุกจุดก่อนจะเข้าถึงพื้นที่พักอาศัยหรือ Facility ส่วนกลาง เพื่อเสริมความปลอดภัยให้ลูกบ้าน

อาคารพักอาศัยโอบล้อม Main Facility ที่อยู่กลางโครงการทำให้ลูกบ้านส่วนใหญ่ได้วิวส่วนกลางไปด้วย ส่วนเรื่องการวางผังห้องพักอาศัยในโครงการจัดให้ห้อง 1 Bedroom Plus จะอยู่ตำแหน่งหัวมุมโครงการ ได้วิวทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนห้องพักอาศัยชั้น 1 จะเป็น Garden Access สามารถเข้าถึงสวนส่วนกลางได้จากห้องพักเลยค่ะ

การออกแบบห้อง : ห้องในโครงการออกแบบมารองรับการอยู่อาศัยได้ 1 – 2 คน เน้นห้องขนาดเล็กอย่างห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ภายในห้องมีการกั้นสัดส่วนอย่างชัดเจน เน้นพื้นที่ Common Area ที่มีขนาดใหญ่ซึ่งเป็นโซนที่เรามักใช้เวลาอยู่มากที่สุดในแต่ละวันทำให้ รู้สึกว่าอยู่สบาย ห้องทุกแบบได้ครัวปิด  ทำอาหารได้จริงจังไม่ต้องกลัวกลิ่นควันฟุ้งไปส่วนอื่น

สาธารณูปโภค : ส่วนกลางจัดมาให้มากกว่าโครงการรอบข้างเล็กน้อย Facility ส่วนกลางสวยงามน่าใช้งาน ทั้งสวน , สระว่ายน้ำ , ฟิตเนส , Co-Working Space และ Meeting Room มีอาคาร Clubhouse แยกจากโซนพักอาศัย ทำให้การใช้งานไม่ปะปนกัน

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 78,000 บาท/ตร.ม., วันที่ 16 ธันวาคม 2567

• ทำเล 7.5/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ ไปสนามบินและม.ลาดกระบังสะดวก
• เดินทางด้วยรถ 7/10 – ไม่ไกลจากมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ เดินทางเข้าเมืองหรือออกจากเมืองไปโซนชลบุรีได้ไม่ยาก
• ไม่ใช้รถ 7/10 – ไม่ไกลจาก Airport Rail Link ลาดกระบังมากนัก
• วัสดุ 8/10 – Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ ทั้ง Built – in และลอยตัว วัสดุเฟอร์นิเจอร์ดีต่อสุขภาพ
• แบบ 7.5/10 – ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัวสูง เน้นห้อง 1 Bedroom อยู่อาศัย 1-2 คนลงตัว
• สาธารณูปโภค 7.75/10 – มีอาคาร Clubhouse แยกจากอาคารพักอาศัย มี Facility เยอะกว่าโครงการในระดับเดียวกัน

• ECONOMY CLASS
• 7.67 / 10.00

dcondo air Ladkrabang (ดีคอนโด แอร์ ลาดกระบัง) เหมาะกับใคร

โครงการ dcondo air Ladkrabang (ดีคอนโด แอร์ ลาดกระบัง) เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ไม่อยากได้ยินเสียงเครื่องบิน รวมถึงใกล้สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง แต่ก็อยู่ในโซนที่หาของกินของใช้ได้ไม่ยาก คนที่ทำงานในสนามบินหรือในสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ถือว่าไปทำงานได้สะดวกมากๆเลยค่ะ  พื้นที่ส่วนกลาง มี Facility มาให้หลากหลาย เหมาะกับคนที่ชอบโครงการยูนิตไม่เยอะ เป็นส่วนตัว ห้องพักของโครงการเหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน ห้องแบ่งฟังก์ชันการใช้งานเป็นสัดส่วน มีงบเริ่มต้นประมาณ 1.75 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,250 บาท/เดือน

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่