dcondo สาธุประดิษฐ์ 49 คอนโดแสนสิริใกล้วงแหวนอุตสาหกรรม [รีวิวฉบับที่ 215]

รีวิวฉบับที่ 215  … เป็นรีวิว dcondo สาธุประดิษฐ์ 49 ตึก Low Rise ราคาล้านปลายๆที่ตั้งอยู่บนถนนสุดคลาสสิกแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร นั่นก็คือถนนสาธุประดิษฐ์ ที่เป็นทางเชื่อมจากถนนพระราม 3 ไปถึงถนนจันทน์ ที่สามารถวิ่งลัดเข้าออกถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ตัดมายังถนนสาทรได้ในระยะไม่ไกลนัก โครงการนี้เปิดตัวเมื่อวาน หรือวันที่ 18 สิงหาคม 2555 ซึ่งทาง Think of Living เราก็ได้นำรีวิวมาให้อ่านกันในสองวันต่อมาละครับ

Fact @ 19 August 2012

• dcondo สาธุประดิษฐ์ 49
• บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
• MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 396 ยูนิต
• ที่จอดรถประมาณ  141 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน 
• ที่ดินประมาณ 4-2-0 ไร่
• Studio
• พื้นที่ใช้สอย 29.7 ตารางเมตร
• ราคาประมาณ 1.8 – 2 ล้านบาท
• ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 62,000 – 68,000 บาท

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

ดีคอนโด สาธุประดิษฐ์ 49 ตั้งอยู่ในซอยสาธุประดิษฐ์ 49 หรือซอยเศตะพราหมณ์ เข้าจากหน้าปากซอยประมาณ 650 เมตร ด้านหลังซอยสามารถทะลุไปออกถนนใต้วงแหวนอุตสาหกรรมได้

ตำแหน่งที่ดินคือตำแหน่งของลูกศรสีเขียวนะครับ จะเห็นว่าถ้าวิ่งออกไปทางวงแหวนอุตสาหกรรมก็สามารถเลือกได้ว่าจะวิ่งต่อไปออกเส้นพระราม 3 หรือถนนยานนาวาได้

แปลงที่ดินเป็นสีเขียวๆบริเวณลูกศรรูปร่างแปลงจะคล้ายๆกับตัว S

เราวิ่งกันมาจากถนนสาธุประดิษฐ์ครับ ผ่านแยกบริเวณถนนหน้าเซ็นทรัลพระราม 3 ตรงนี้ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะถึงเซ็นทรัล ตรงไปสามารถเลือกได้ว่าจะขึ้นทางด่วนฝั่งไหน ฝั่งซ้ายไป ท่าเรือ-บางนา-ดินแดง ฝั่งขวาไป ดาวคะนอง-พระราม 9-แจ้งวัฒนะ

นี่คือทางขึ้นฝั่งขวานะครับ

เราตรงข้ามแยกกันไปเพื่อที่จะไปช่วงสาธุประดิษฐ์ตอนปลาย

หน้าตาถนนก็เป็นแบบนี้ เส้นสุดคลาสสิกที่อยู่ของชาวบ้านตั้งแต่สมัย 20-30 ปีก่อน

ตึกที่เห็นเหลืองๆคือคอนโดเลอริช สาธุประดิษฐ์ ที่อยู่ติดถนนใหญ่

วิ่งตรงไปนิดนึงจะเจอแยกซอยสาธุ 44 – 45

ว่ิงตรงไปเรื่อยๆจะถึงสามแยกยานนาวา

วิ่งตรงข้ามสามแยกยานนาวาไปนะครับ

ตรงนี้มีปั๊ม Esso อยู่ก่อนถึงซอยทางเข้าโครงการ

ด้านซ้ายคือซอย 49 นะครับ เราจะวิ่งเลยกันไปนิดนึงก่อนเพื่อสำรวจเส้นทาง

ตรงไปอีกนิดนึงจะเจอตลาดสดอยู่ด้านซ้ายครับ คึกคักทีเดียว

เรากลับรถกันมาใหม่เพื่อที่จะเข้าซอย 49

ตามป้ายที่เขียนว่าคอนโดสาธุประดิษฐ์ 49 ไปเลยครับ

สภาพซอย 49 หน้าตาเป็นแบบนี้

มีตึกแถวปนบ้านเดี่ยวไปเรื่อย เข้าไปลึกเอาเรื่องเหมือนกัน

ถึงข้างในซอยจะแคบนิดก็ยังวิ่งสวนกันได้

เข้าไปอีกหน่อยจะแคบลง เพราะตึกแถวทั้งหลายตั้งร้านค้ากันบนถนนเลย สังเกตไก่ย่างด้านซ้ายมือ แต่ก็ยังวิ่งสวนกันได้อยู่

ผ่านซุ้มนี้ไปจะโดนเก็บเงิน เพราะเป็นถนนส่วนบุคคล … dcondo สาธุประดิษฐ์ก็ตั้งอยู่ในนี้

สอบถามทางโครงการพบว่าถ้าเป็นลูกบ้านจะไม่ต้องจ่ายเงิน ถ้ามีเพื่อนมาหาก็จะสามารถมาประทับตรงที่โครงการได้

ตรงนี้คือไซต์โครงการอยู่ฝั่งขวา ที่มีท่อผ้าสีส้มๆลอยออกมา ฝั่งซ้ายเป็นกึ่งๆโรงงาน

หน้าตาหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่ด้านหน้าโครงการ บริเวณทางเข้าสำนักงานขาย ไม่แน่ใจว่าต่อไปจะย้ายหรืออะไรอย่างไร

ฝั่งตรงข้ามโครงการด้านโน้นเป็นบ้านสองชั้น

มองย้อนกลับไปทางหน้าปากซอย

ผมลงมาเดินเก็บภาพและสถานที่โดยรอบ

ฝั่งนี้เป็นเหมือนโรงงานอะไรสักอย่าง

หน้าที่ดิน dcondo ตัว d ทาสีดำ เลยมองแทบไม่เห็น

เดินต่อไปจากหน้าที่ดินคอนโด ทางซ้ายเห็นที่ดินเปล่าไถเรียบอยู่ไม่รู้เอาไว้ทำอะไร

ฝั่งที่ติดกับคอนโดเป็นบ้านประตูสีแดงกับตึกข้างๆหลังหนึ่งสูง 2-3 ชั้น ถามเซลล์ก็ตอบว่าเป็นโกดังเก็บผลไม้ ตึกที่อยู่ไกลๆลิบๆนั่นคือ The Pano ใกล้ๆวงแหวนอุตสาหกรรม

วิ่งตรงออกไปเรื่อยๆจะไปออกเส้นใต้วงแหวนได้

นี่ละครับใกล้แล้ว

สุดทางเป็นแบบนี้พอดี

ถ้ากลับรถก็จะไปพระราม 3 ตรงไปก็ไปถนนยานนาวา

สุดถนนยานนาวาก็จะวกกลับมาที่สามแยกยานนาวา-สาธุประดิษฐ์ที่เราพึ่งจะวิ่งผ่านกันมาครับ

จากตำแหน่งของที่ดิน (จุดสีเขียว) จะเห็นว่าถูกโอบล้อมด้วยแม่น้ำเจ้าพระยาโค้งเป็นตัว U เลย แต่ด้วยความสูงของตึกที่สูงเพียง 8 ชั้น การที่จะเห็นวิวแม่น้ำงามๆในระยะ 1.3 กิโลเมตรนั้นคงจะเป็นไปได้ยาก

วิวที่เล็งไว้ก็ควรจะเป็นวิววงแหวนอุตสาหกรรม สะพานภูมิพล และตึก The Pano ที่อยู่ริมน้ำมากกว่า จุดสีแดงในภาพด้านบนก็คือตึก The Pano ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของโครงการครับ

เจาะลึกตัวโครงการ

dcondo สาธุประดิษฐ์ 49 มีทั้งสิ้น 3 ตึก เป็นอาคารพักอาศัย 2 ตึกและอาคารสโมสร 1 ตึก ห้องพักทั้งสิ้น 396 ยูนิต ที่จอดรถแบบจอดเข้าซอง 141 คัน คิดเป็น 35% จากจำนวนห้องทั้งหมด

หน้าตาของคอนโดออกโทนขาว-ดำ มีคอนเซปท์ Modern Classic รูปทรงตึกก็ออกแบบให้ดูย้อนยุคนิดๆ แต่โดยรวมก็ยังออกเหลี่ยมๆอยู่เพราะเป็น dcondo แบรนด์ประหยัดที่สุดของแสนสิริต้องคำนึงถึงต้นทุนเช่นกัน

Master Plan อย่างที่บอกเป็นรูปตัว S แบบนี้ ตึกด้านหน้าคือตึก A ตึกด้านหลังคือตึก B หันหน้าเฉียงๆตะวันตก-ตะวันออก เชื่อมกันด้วยสระว่ายน้ำและ Club House ตรงกลาง

ฝั่งด้านบนของภาพคือฝั่งตะวันออก และฝั่งด้านล่างของภาพคือฝั่งตะวันตก

วิวที่น่าจะ Note เอาไว้หน่อยก็คือวิวของตึก A ฝั่งตะวันออก ชั้นที่ 6-7-8 ฝั่งใกล้ Club House ที่จะหันไปเจอ The Pano และสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมพอดี เล็งๆดูจากสำนักงานขายน่าจะเห็นชัดเพราะอยู่ใกล้ แต่บอกไว้ก่อนว่าเนื่องจากตึกนี้เป็นตึกเตี้ยสูง 8 ชั้น ดังนั้นก็อย่าคาดหวังอะไรกับวิวมากนะครับ

แผนผังชั้น G ของตึก A ก็มีห้องพักอยู่กับส่วนของ Lobby ซึ่งตัว Lobby ทำเป็น Double Volumn สูงกินไปถึงชั้น 2 เลย ห้องพักชั้นล่างจะถูกที่สุดในโครงการ

ตึก B ยาวกว่าตึก A เล็กน้อย มี Lobby สูงเท่ากับสองชั้นเช่นกัน ลิฟท์สองตัวทั้งสองตึก ไม่มี ลิฟท์บริการขนของแยกต่างหาก

ตึก A มีความหนาแน่นต่ำกว่าตึก B โดยมีความหนาแน่นอยู่ที่ 23 ยูนิตต่อชั้น

ตึก B มีความหนาแน่นอยู่ที่ 28 ยูนิตต่อชั้น

• อัตราส่วน Lift ของตึก A อยู่ที่ 178 ยูนิตต่อลิฟท์ 2 ตัว = 1:89 ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ดีทีเดียว
• อัตราส่วน Lift ของตึก B อยู่ที่ 218 ยูนิตต่อลิฟท์ 2 ตัว = 1:109 ก็ยังไม่แย่เท่าไร

เรามาดูโมเดลกัน ถนนกว้าง สองฟากของถนนเป็นที่จอดรถ ตึก A หน้าตาแบบนี้ มีสโมสรอยู่ตรงกลาง

ตึก B อยู่ด้านหลัง ตั้งขนานกับแนวที่ดิน มีห้องบางส่วนสามารถมองลงมาที่วิวสโมสรตรงกลางได้

หน้าตาสโมสรของ dCondo สาธุประดิษฐ์ 49 เป็นแบบนี้ มีสระว่ายน้ำอยู่ด้านล่างสุด ชั้น 2 เป็นฟิตเนส

ตัดภาพจากเวปไซต์ของแสนสิริมาแปะ จะได้รู้กันไปว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง

Product Walkthrough

โครงการ dcondo สาธุประดิษฐ์ 49 มีห้องแบบเดียว คือ Studio Type 29.7 ตารางเมตร ขนาดอาจจะบวกลบหน่อยเพราะว่าแบ่งให้เป๊ะๆๆเลยคงจะไม่ได้ มีความคลาดเคลื่อน +- 0.2 ตารางเมตร

ห้องตัวอย่างมีทั้งหมด 2 ห้อง แต่เราเก็บมาให้ดูแค่ห้องเดียว เพราะว่าสิ่งที่ได้นั้นเหมือนๆกันแค่สไตล์การแต่งห้องที่แตกต่างออกไป ทางโครงการใช้คอนเซปท์ขาวดำ Black & White ห้องที่เราเก็บมาให้ดูคือห้อง Black ครับ ซึ่งโครงการนี้เป็นการตกแต่งแบบ Fully Furnished นะครับ

เนื่องจากเป็นห้อง Studio (ห้องนอนรวมกับห้องพักผ่อน) จึงไม่มีประตูเปิดเข้าห้องนอน ภาพแรกที่มองเห็นก็คือเตียงกับหน้าต่างนะครับ ผ้าม่านและวอลล์เปเปอร์ทั้งหลายไม่มีให้

ด้านขวาของห้องนอนมีทางเข้าห้องครัว มีบานเลื่อนให้กั้นระหว่างครัวและห้องนอน ด้านล่างมีธรณีประตูยกสูงขึ้นมา ก้าวข้ามไปก็จะเป็นพื้นครัวที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องขนาดกลาง

ตู้ Counter ครัวหน้าตาเป็นแบบนี้ มีแต่ซิงก์สแตนเลสหลุมเดี่ยวพร้อมที่พักจาน หลุมไม่ลึกเท่าไร ครัวท๊อปและหน้าบานเป็นลามิเนตลายไม้ ไม่มีเตาให้ ด้านหลังมีปลั๊กไฟ 1 จุด

ในห้องน้ำเป็นแบบนี้ มีซิงก์ โถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง

ซิงก์เป็นแบบโค้งๆ ดูแปลกตาดี หัวก๊อกจัดว่าสวยกว่าคอนโดระดับเดียวกัน ด้านหลังของอ่างล้างหน้ามีชั้นวางของเล็กๆ

ห้องอาบน้ำไม่มีการกั้นให้ แต่แยกให้ว่าเป็นส่วนเปียกกับส่วนแห้ง กระเบื้องปูผนังเป็นกระเบื้องขาว ไม่มีการเล่นลวดลาย

โคมไฟเป็นโป๊ะซาละเปา ไม่มีพัดลมดูดอากาศ

ชิ้นนี้ดูสวยที่สุดในห้องน้ำ นั่นก็คือโถสุขภัณฑ์ แต่ขอบ่นนิดนึงว่ากระเบื้องพื้นทำได้ลายตามาก ตารางหมากรุกขาวสลับดำ

ที่ปิดฝาโถเป็นระบบ Soft Close

สุขภัณฑ์ยี่ห้อง Siri GHM ที่ดีไซน์ร่วมกัน

จุดดีอีกจุดของห้องน้ำก็คือการที่มีก๊อกเตี้ย ช่วยในการรองน้ำใส่ถังได้สบาย ฟลอร์เดรนสองจุดแยกกันระหว่างห้องอาบน้ำและห้องน้ำ

กลับมาดูครัวเมื่อครู่อีกนิด ตรงนี้เป็นทางออกระเบียงด้วย จะตากผ้าก็ทำกันตรงนี้

กระจกที่ระเบียงเป็นบาน Slide สามตอน

ตัวล็อก และวงกบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ พร้อมกับสวิทช์ไฟ

ด้านนอกมีปลั๊กกันน้ำอยู่ 1 จุด คอมฯแอร์แขวนให้อยู่ด้านบน มีระแนงเหล็กเอาไว้กันตกและกรองแสงแดดบางส่วน

หน้าบานของครัวที่เลื่อนเปิดปิดจากห้องนอน ด้านโน้นเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ถ้าจะเข้าห้องน้ำก็ต้องเปิดบานนี้เหมือนกันนะครับ

เฟอร์ที่ให้อีกก็มีตู้เสื้อผ้า

กระจกในห้องนอนเป็นบานใหญ่ แต่รอยต่อเยอะ เวลามองก็จะเกะกะลูกตาบ้าง

โต๊ะข้างเตียงมีให้ 1 ชิ้น เพราะอีกฝั่งไม่เห็น โคมไฟข้างบนไม่มีให้

ชั้นวางของบนทีวีและชั้นวางทีวีก็มีให้ครบเตียง, โต๊ะกลาง โซฟา โต๊ะกินข้าว เก้าอี้ทานข้าว มีให้หมด ไม่มีพรม ไม่มีฟูก ไม่มี Wall Paper

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 19 Aug 2012

• Studio อาคาร A ชั้น 6 เนื้อที่ 29.70 ตารางเมตร ราคา 1.98 ล้านบาท หรือ 66,600 บาทต่อตารางเมตร
• Studio อาคาร B ชั้น 3 เนื้อที่ 29.70 ตารางเมตร ราคา 1.97 ล้านบาท หรือ 66,600 บาทต่อตารางเมตร

• Fully Furnished
• จอง 5,000 บาท
• ทำสัญญา 20,000 บาท
• ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
• ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

เจาะลึกรวบยอด

dcondo สาธุประดิษฐ์ 49 เห็นชื่อโครงการนี้ในราคา 1 ล้านปลายๆ ก็ต้องบอกว่าแปลกเลยครับ เพราะแสนสิริตั้งราคาแบบกระโดด “ข้ามรุ่น” จาก dcondo ที่เคยมีมา โดยตั้งไว้ที่ 66,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งจะตกอยู่ใน MAIN CLASS แทนที่จะเป็น ECONOMY / SUPER ECONOMY เหมือนที่เคยเป็น ทำให้ไปทับเส้นกับแบรนด์ The BASE ที่มีราคาต่อตารางเมตรอยู่แถวๆ 60,000 – 70,000 บาท ในขณะที่ใช้คุณภาพวัสดุและการออกแบบเป็นของ dcondo ที่มีเกรดต่ำกว่า ทำให้คุณภาพวัสดุไม่สมกับราคาที่ตั้ง คาดว่าเป็นเพราะเรื่องของราคาขายที่ต้องการทำให้ราคาโดยรวมอยู่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท จึงต้องลดสเปคลงมาใช้แบรนด์ล่างสุด และในขณะเดียวกันก็เป็นแบรนด์ dcondo ที่แพงที่สุดที่เคยเห็นละครับ

ทำเลของ dcondo สาธุประดิษฐ์ 49 อยู่ในเมืองและเป็นทำเลที่ดีที่สุดของแบรนด์ dcondo เท่าที่เคยมีมา แต่เมื่อเอามาเทียบกับคอนโดมิเนียมของคู่แข่งขันในละแวกใกล้เคียงก็ต้องจัดว่าไม่ได้ดีมาก เพราะเป็นตึกที่อยู่ในซอยเข้าลึกไป 650 เมตร และเป็นซอยที่ไม่ใช่ซอยหลักที่ใช้ในการคมนาคม เนื่องเพราะติดพื้นที่ส่วนบุคคลที่ตั้งบล็อคการจราจรด้วยด่านเก็บเงินอยู่กลางซอย หากมองในมุมกลับกันก็เป็นเรื่องดีที่จะได้ความปลอดภัยเพิ่มอีกหน่อย ไม่มีรถคนนอกวิ่งไปวิ่งมาพลุกพล่าน ไม่รบกวนการอยู่อาศัยของลูกบ้าน

การเดินทางด้วยรถยนต์ทำได้สะดวก เนื่องเพราะซอยสาธุประดิษฐ์ 49 นี้สามารถเข้าออกได้ทั้งสองทาง คือถนนสาธุประดิษฐ์ หรือถนนใต้วงแหวนอุตสาหกรรมที่จะเชื่อมไปยังถนนพระราม 3 หรือถนนยานนาวาได้ แต่ต้องบอกว่าถนนสาธุประดิษฐ์นี้รถติดนะครับ เพราะเป็นทำเลชุมชนเก่าแก่ จะมีรถจอดสองข้างทางตลอดเห็นเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะแวะซื้อของหรืออะไรก็ตาม หากเทียบกับถนนพระราม 3 หรือถนนสาธุประดิษฐ์ตอนต้นที่สามารถขึ้นทางด่วนได้สะดวก ก็จะเป็นรองครับ

ที่พิเศษของทำเลนี้คือวงแหวนอุตสาหกรรม หรือสะพานภูมิพล 1 & 2 ที่เชื่อมตัวเมืองฝั่งพระราม 3 ไปยังสมุทรปราการและพระประแดง ทำให้ผู้ที่มีที่ทำงานอยู่แถวนั้นหรือต้องไปกลับแถวนั้นบ่อยๆเดินทางสะดวกขึ้น และส่งผลเรื่องวิวสวยงามในทางอ้อมๆให้กับยูนิตบางยูนิตด้วย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถอันนี้ลำบากนิดนึง เนื่องจากอยู่ในซอยลึก 650 เมตร ไม่มีรถไฟฟ้า ไม่มีป้ายรถเมล์ แถมเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลอีกทำให้รถ Taxi ไม่สามารถวิ่งผ่านไปมาได้ ต้องเดินออกไปสักระยะจะเจอกับวินมอเตอร์ไซค์ หรือใช้รถ Shuttle Bus ของโครงการ ที่บอกว่าจะไปรับส่งให้ที่ BRT แต่ก็อาจจะไม่ใช่คำตอบของหลายๆคน ในขณะที่ข้อดีของการเดินเท้าแถวนี้ก็คือมีชุมชน ตลาด และร้านค้าอยู่ในซอยสาธุฯ 49 ทำให้เดินออกไปซื้อของเล็กๆน้อยๆได้โดยที่ไม่ต้องใช้รถ

วัสดุอุปกรณ์ของโครงการ dcondo สาธุประดิษฐ์ 49 ก็ใช้เหมือนกับเกรด dcondo ทั่วๆไป ดังนั้นจะเหมือนกับคอนโดราคา 4 หมื่นกว่าบาทต่อตารางเมตร ไม่สมกับราคา 6 หมื่นกว่าบาทต่อตารางเมตรที่เป็นเกรดของ The BASE อันนี้อาจจะต้องติดลบนะครับ

แสนสิริทำการออกแบบได้ดี แปลนห้องโอเค แปลนอาคารโอเค การออกแบบมีคอนเซปท์ของ Modern Classic ที่เข้ากับทำเล คือเป็นทำเลคลาสสิกอย่างสาธุประดิษฐ์ที่เอามาพัฒนาในยุค Modern แต่รายละเอียดเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลายก็ไม่ได้เข้ากับ Modern Classic เท่าไร หลายๆชิ้นก็เป็น Standard dcondo เหมือนกับที่ให้กับ dcondo ทำเลอื่น ส่วนสิ่งที่เห็นในห้องตัวอย่างก็เป็นเพราะ prop ทั้งนั้นที่ทำให้ห้องเกิดความเป็น Modern Classic ขึ้นมา

สาธารณูปโภคเป็นจุดที่รับได้ของโครงการนี้ เพราะมีทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนสและสโมสรแยกต่างหากจากตัวอาคาร วางอยู่ตรงกลางคือจุดเชื่อมต่อของอาคาร A และ B ทำให้ทั้งสองอาคารสามารถเดินมาใช้งานได้ใกล้พอๆกัน

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 66,000 บาทต่อตารางเมตร, 19 August 2012

• ทำเล 7.5/10 – สาธุประดิษฐ์ตอนปลาย ในซอย 650 เมตร
• เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – เข้าออกสองทาง รถติดบ้างเป็นระยะ มีวงแหวนอุตสาหกรรมอยู่ในระยะใกล้
• ไม่ใช้รถ 7/10 – ต้องพึ่งพาพี่วินหรือ Shuttle Bus
• วัสดุ 6.5/10 – น่าจะได้ดีกว่านี้
• แบบ 7.5/10 – ทำได้โอเค
• สาธารณูปโภค 8/10 – สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สโมสร แชร์กันจาก 2 ตึก

• MAIN CLASS
• 7.44 / 10.00

BOTTOM LINE

dcondo สาธุประดิษฐ์ 49 เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแบรนด์แสนสิริ มีที่ทำงาน โรงเรียนลูกหรือบ้านเดิมอยู่ในทำเลสาธุประดิษฐ์หรือบริเวณใกล้เคียง งบประมาณไม่เกิน 2 ล้านบาท

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ