รีวิวฉบับที่ 2061 …CLOUD Residences – SKV23 คอนโด High Rise ระดับ LUXURY ที่เพิ่งเปิดใหม่ในย่านอโศก-พร้อมพงษ์ จาก Risland โครงการเปิดตัวมาด้วยราคาเฉลี่ย 200,000 บาท/ตร.ม. จุดที่น่าสนใจของโครงการนี้เป็นเรื่องของวัสดุที่โดดเด่นกว่าเพื่อนๆ ให้ของมาดีเมื่อเทียบกับราคา มีห้องให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ 29-99 ตร.ม. หรือใครที่มองหาห้อง Loft / Penthouse ก็มีให้เลือกด้วย ในงบประมาณระดับ 5.99 – 29 ล้านบาทค่ะ
ข้อมูลโครงการ
25 March 2020
- CLOUD Residences – SKV23 (คลาวด์ เรสซิเด้นท์ สุขุมวิท 23)
- SKV 23 Co., Ltd.
- LUXURY – SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: ซอยสุขุมวิท 23 เขตวัฒนา
- ที่ดินประมาณ 1-3-27.6 ไร่
- คอนโด High Rise 43 ชั้น 1 อาคาร 372 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 14 ยูนิตที่อาคาร
- ที่จอดรถประมาณ 249 คัน คิดเป็น 67% (เป็น Automatic Parking ทั้งหมด)
- เริ่มก่อสร้าง : ปี 2563
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปี 2567
- 1 Bedroom 29-30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท
- 1 Bedroom Extra 41-43 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.4 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 57-60 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาท
- Loft 47-95 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท
- Penthouse 79-99 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.8-4.5 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 200,000 บาท/ตร.ม.
- ช่วงราคาต่อตารางเมตร ต่ำสุด – สูงสุดประมาณ 17x,xxx – 228,xxx บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
- เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-026-6888
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มค่ะ
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.738935, 100.565222
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ
โครงการ CLOUD Residences – SKV23 ตั้งอยู่ในย่านอโศก – พร้อมพงษ์ ที่เรียกว่ามีไลฟ์สไตล์โดดเด่น และเต็มไปด้วยชาวต่างชาติโดยเฉพาะ Expat หรือคนต่างชาติที่มาทำงานในไทยอาศัยกันอยู่หนาแน่น ดังนั้นจึงไม่ต้องเเปลกใจไปเลยว่าทำไมแถวนี้จะมีคนที่หลากหลายเชื้อชาติอยู่ และมีการค้าขายที่อำนวยความสะดวกให้กับคนกลุ่มนี้มากเช่นกันค่ะ
อย่างในย่านพร้อมพงษ์จริงๆ เลยก็เป็นย่านที่มีชาวญี่ปุ่นมาอาศัยกันเป็นส่วนมาก ดังนั้นบรรยากาศภายในซอยเรื่อยไปจนถึงทองหล่อก็จะมีที่พักประเภท Apartment or service apartment ให้เช่าระยะยาวอยู่เยอะมาก และก็มีร้านรวงต่างๆ ตามตรอกซอกซอยที่ขายอาหารอย่างอาหารญี่ปุ่น, อาหารไทย, Fine dining หรือแม้กระทั่งคาเฟ่เเทรกตัวอยู่ตามตรอกซอกซอยกันเยอะเลย
แหล่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะกับโครงการเราหลักๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น Terminal 21 ที่ติดกับรถไฟฟ้าอโศก และ Em District ที่แค่ก้าวออกมาจากรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ ก็จะเจอกับห้างใหญ่ถึง 2 ห้าง EmQuatier กับ Emporium ที่เเม้ว่าจะดูหรูหราแต่ก็ไม่น่าจะเกินกว่าฐานะของคนที่อาศัยอยู่แถวนี้ใช้จ่ายกันนะคะ
และที่น่าสนใจมีสวนสาธารณะอยู่ไม่ไกลจากโครงการ (แต่ต้องขับรถหรือต่อรถไปอีกที) ถึง 2 สวน ได้แก่ สวนเบญจกิติ และสวนเบญจสิริ เป็นสวนที่สะอาด ปลอดภัย และผู้คนที่มาใช้บริการดูเป็นมิตรมากค่ะ
ในส่วนของการบริการทางด้านสุขภาพ ย่านนี้ถือว่ามีตัวเลือกทั้งโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงอย่างโรงพยาบาลสมิติเวช และมีสถานที่ออกกำลังกายเช่นสตูดิโอต่างๆ กับ Fitness Center เปิดให้บริการหนาแน่นที่สุดในกรุงเทพเลยก็ว่าได้ ดังนั้นภาพรวมของทางด้านความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการนี้จัดว่าดีเลยนะคะ
โครงการ CLOUD Residences – SKV23 ตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 23 ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมย่านอโศกกับพร้อมพงษ์เข้าด้วยกัน ตัวโครงการจะลึกเข้าไปจากปากซอยสุขุมวิท 23 ประมาณ 650 เมตรค่ะ ในแง่ของถนนหนทางเเละการเดินทางโดยทั่วไปของทำเลนี้ จะสามารถเดินทางได้แทบทุกระบบการเดินทางเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว หรือจะเป็นระบบขนส่งสาธารณะ อย่างรถไฟฟ้า รถเมล์ รถกะป้อ หรือแม้กระทั่งเรือด่วนก็ยังมีให้บริการด้วยนะคะ
เราขอเริ่มต้นเล่าจากถนนหนทางกันก่อนเลยดีกว่า ซอยสุขุมวิท 23 เนี่ย เป็นถนนสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ ที่จะอยู่ฝากเดียวกันกับย่านอโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัยนั่นเอง ความน่าสนใจของสุขุมวิทฝั่งเลขคี่นี้คือ จะมีเส้นทางลัดเลาะต่างๆมากมาย ที่ทำให้เราไม่ต้องออกไปใช้ถนนใหญ่เลย ก็ยังสามารถเดินทางผ่านเส้นทางเล็กๆเหล่านี้ตั้งแต่อโศกไปยังเอกมัยเลยก็ได้ ถือว่าเป็นเส้นทางตัวเลือกที่เราสามารถเลือกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดบนถนนในช่วงเวลาเร่งด่วนเลยก็ได้
ที่ตั้งโครงการสามารถเข้าออกจากถนนหลักได้ 3 ทาง ได้แก่ ถนนสุขุมวิท, ถนนอโศกมนตรี และถนนเพชรบุรี สำหรับถนนสุขุมวิทนี้จะเป็นถนนที่สามารถใช้เดินทางเข้าเมืองไปยังย่านสยามได้ หรือจะใช้เพื่อเดินทางออกเมืองไปยังโซนกรุงเทพตะวันออกก็ได้เช่นกัน / ส่วนถนนอโศกมนตรีเป็นถนนที่ใช้เดินทางไปพระราม 4 หรือถนนรัชดาภิเษก / ส่วนถนนเพชรบุรีนั้น จะเป็นถนนที่สามารถเดินทางไปยังโซนพญาไทได้ง่ายและใช้เดินทางไปยังเเถบพัฒนาการได้สะดวก
ภาพรวมด้านถนนหนทางจึงถือว่าเป็นทำเลที่สามารถเลือกใช้เส้นทางได้หลากหลาย เเละสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังถนนหลักภายในกรุงเทพได้หลายเส้น จะเข้าเมืองหรือออกเมืองก็สบายค่ะ
สิ่งที่ต้องรู้สำหรับคนที่จะใช้รถใช้ถนนในทำเลนี้คือ “One-Way” โดยเฉพาะในซอยสุขุมวิท 39 ซึ่งเราทำเส้นสีแดงไว้ให้ดูง่ายขึ้นนะคะ
นอกจากนั้นยังมีเส้นทางลัดอื่นๆในซอย เช่น ซอยพร้อมศรี หรือซอยพร้อมมิตร ที่ลัดเลาะทะลุไปออกได้ตั้งแต่ อโศก ประสานมิตร สวัสดี พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย จากภาพได้ทำลูกศรกำหนดเส้นทางการเดินรถเอาไว้ให้แล้ว เห็นระยะทางเหมือนไม่ไกล แต่ถ้าในช่วงบ่ายๆ เย็นๆ ที่โรงเรียนและออฟฟิศเลิกงาน ย่านนี้นี่รถติดไม่เบาเลยนะคะ
เรื่องการเดินทางโดยไม่ใช้รถสำหรับทำเลแถวนี้จะมีรถไฟฟ้า BTS วิ่งผ่าน โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ MRT สุขุมวิท ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับ BTS อโศก มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 700 ม. สำหรับคนที่ไม่ชอบเดินไกลไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะทางโครงการมี Shuttle Bus คอยให้บริการด้วย แต่รับ-ส่งตรงไหนยังต้องรอคอนเฟิร์มจากทางโครงการก่อนนะ
แต่ถ้าใครเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่ไม่ได้ใช้เส้นรถไฟฟ้า ตัวเลือกอื่นๆก็เช่นการเรียกใช้บริการผ่าน Application ก็ได้ น่าจะใช้เวลาเรียกไม่นานด้วย เพราะทำเลนี้อยู่ในใจกลางเมืองจริงๆ หรือถ้าจะโบกเรียกก็ไม่ยากเลยค่ะ มีรถสาธารณะผ่านหน้าโครงการตลอดเวลา ทั้งพี่วินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่เลยค่ะ
การเดินทางมาโครงการวันนี้จะเริ่มจากบริเวณแยกอโศก บริเวณหน้า Terminal 21 ตรงมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 23 ตามทางใน Map ไปจะเจอโครงการทางฝั่งซ้ายของซอย มีระยะจากจุดเริ่มต้นประมาณ 850 ม. ค่ะ
เริ่มเดินทางจากบริเวณแยกอโศกมนตรี มุ่งหน้าไปทางพร้อมพงษ์
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
แปลงที่ดินของโครงการเป็นรูปตัว T โดยตัวอาคารจะตั้งอยู่ด้านใน และมีห้องพักอาศัยที่หันออก 2 ทิศ คือทิศตะวันตกและตะวันออก เมื่อดูจากบริบทของโครงการทั้ง 2 ทิศแล้วจะเห็นว่า ไม่ได้มีการบังวิวในระยะประชิดเลยนะคะ เพราะอาคารที่รายล้อมส่วนใหญ่เป็นอาคาร Low Rise ไม่เกิน 23 ม. ซึ่งห้องพักของโครงการนี้จะเริ่มต้นที่ชั้น 5 สูงประมาณ 35 ม. เลย
จึงสรุปได้ว่าอาคารข้างเคียงไม่มีผลกระทบต่อห้องพัก แต่ในระยะไกลก็มีบ้างนิดหน่อย ได้แก่ คอนโด High Rise 28 ชั้นทางทิศตะวันตก และคอนโด High Rise 30 ชั้นทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคอนโดใจกลางเมืองแบบนี้นะคะ
เราเดินเข้ามาใน Site ของโครงการ เพื่อพามาดูบรรยากาศของอาคารข้างเคียงกัน ทางทิศตะวันออก จะติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบและคอนโด 8 ชั้น (สูงไม่เกิน 23 ม.) ไม่ได้บังวิวห้องพักอาศัยของเรา เพราะห้องพักเริ่มต้นที่ชั้น 5 สูงประมาณ 35 ม. ในระยะไกลหน่อยจะเห็นคอนโด High Rise 30 ชั้น แต่ก็ไม่ได้บล็อกวิวในระยะประชิด
ทางทิศตะวันตก จะอยู่ติดกับ Apartment 7 และ 8 ชั้น จึงไม่ได้บล็อกวิวในระยะประชิด แต่ถามว่าได้วิวโล่งๆ กว้างๆ ไหม ก็คงไม่ได้โล่งขนาดนั้น เพราะทางขวายังมีคอนโดสูง 22 ชั้น ที่ไม่ได้บล็อกวิวตรงๆ แต่ก็ทำให้บังวิวระยะไกลอยู่บ้างเหมือนกัน
ทิศใต้ ฝั่งนี้จะติดกับ Service Apartment 14 ชั้น ทำให้โครงการออกแบบให้ด้านนี้เป็นส่วนของลิฟต์ทั้งหมด อาคารนี้จึงไม่บังวิวห้องพักแน่นอนค่ะ
ทิศเหนือ ด้านนี้จะติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบ และเมื่อมองไประยะไกลจะเห็นคอนโด 8 ชั้น แน่นอนว่าไม่มีอาคารบล็อกวิวระยะประชิด แต่ก็มีคอนโด 22 ชั้นที่บังวิวระยะไกลอยู่นิดหน่อย ไม่ได้บล็อกตรงๆค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Urban Lifestyle
- Soi Cowboy ~ 500 m.
- Terminal 21 ~ 1.4 km.
- EmQuartier ~ 1.5 km.
- EmPorium ~ 1.7 km.
- J-Avenue ~ 3.4 km.
- The Commons ~ 3.6 km.
- Donki Mall ~ 4 km.
- Sino Thai Tower ~ 600 m.
- Jasmine Tower ~ 600 m.
- PS Tower ~ 700 m.
- Sermmit Tower ~ 1.2 km.
- Interchange Tower ~ 1.2 km.
- Exchange Tower ~ 1.2 km.
- Ocean Tower2 ~ 1.5 km.
- GMM Tower ~ 1.5 km.
- Singha Complex ~ 2.7 km.
- Maefahluang Hospital ~ 1.3 km.
- Srinakarinviroj University ~ 800 m.
- Satid Prasarnmid Primary School ~ 300 m.
- NIST International School ~ 2.2 km.
- Anglo Singapore International School ~ 1 km.
- Australian International School ~ 900 m.
- MRT Asoke/ BTS Asoke ~ 1.1 km. (700 m. by foot)
- ARL Makkasan ~ 2.6 km. (2.2 km. by foot)
รายละเอียดโครงการ
โครงการ CLOUD Residences – SKV23 คอนโดเปิดใหม่ในทำเลอโศก-พร้อมพงษ์ ที่เปิดตัวมาด้วยราคาเฉลี่ย 200,000 บาท/ตร.ม. จัดเป็นคอนโดราคากลางๆ ในทำเลนี้ ซึ่งมีการแข่งขันสูง แต่ละโครงการก็จะมีการสร้างคอนเซปต์ที่ทำให้เกิดเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน
สำหรับโครงการนี้เราคิดว่าเป็นเรื่องของวัสดุที่โดดเด่นกว่าเพื่อนๆ ให้ของมาดีเมื่อเทียบกับราคา และเป็นโครงการที่มีห้อง Loft และ Penthouse ขนาดไม่เกิน 100 ตร.ม. ให้เลือก จึงเป็นทางเลือกที่แตกต่างออกมาจากโครงการอื่นๆ ภายนอกอาคารดูทันสมัย ออกแบบโดยใช้กระจกเป็นหลัก มีการนำ Facilities หลักๆ ขึ้นไปไว้บนชั้น 28-30 และเปิดให้ชมวิวได้แบบ 270 องศา
มาดูภาพรวมของโครงการกันก่อน CLOUD Residences – SKV23 เป็นคอนโด High Rise มีความสูง 43 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวนยูนิตในโครงการ 372 ยูนิต บนที่ดินเกือบ 2 ไร่ครึ่ง ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 5 (สูงจากพื้นดินประมาณ 35 ม. ซึ่งสูงเกินอาคาร Low Rise รอบๆ ) และจะยกพื้นที่ส่วนกลางหลักๆ ไปไว้บนชั้นชั้น 28-30 เพื่อให้ได้เห็นวิวเมืองโดยรอบได้
บนอาคารมีสวนหย่อม และ Facilities ส่วนกลางแทรกอยู่บนชั้น 5, 28-30 และ Rooftop ทำให้รองรับกิจกรรมตามความต้องการของลูกบ้านที่หลากหลาย ส่วนกลางบนชั้นเหล่านี้ก็ดูจะเป็นคำตอบที่ดี สำหรับห้องพักถูกออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัดหน่อย ซึ่งห้องพักส่วนใหญ่ของโครงการจะเป็นห้อง 1-Bedroom ขนาด 29-30 ตร.ม. ส่วนห้อง Lot และ Penthouse จะอยู่ในชั้นบนๆ ตั้งแต่ชั้น 26 ขึ้นไป ค่ะ
ทางเข้าออกของโครงการจะมีประตูกั้นในชั้นแรกที่ติดกับซอยสุขุมวิท 23 ซึ่งทางโครงการแจ้งว่ากำลังหาระบบรักษาความปลอดภัยที่จะทำให้ลูกบ้านเข้าออกได้อย่างรวดเร็ว จึงยังไม่ได้สรุปว่าใช้เป็น Key Card หรือ Easy Pass หรือระบบไหนนะคะ
ส่วนที่เราคิดว่าลูกบ้านน่าจะได้ประโยชน์คือ สวนด้านหน้าโครงการ ที่จะเป็น Buffer Zone ชั้นดี ทำให้การอยู่อาศัยมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
เส้นทางการเดินรถยนต์ในโครงการเข้าใจง่ายคือ มีทางเดินรถ One-Way วนขวารอบโครงการ หรือหากใครต้องการวนส่งลูกบ้านบริเวณ Drop-Off ก็อยู่ด้านหน้าสุดเลย รับ-ส่งกันได้สะดวก
สำหรับลูกบ้านที่ต้องการจอดรถก็วนมาด้านหลังอาคาร จะมีช่องจอดรถ Auto Parking ให้ขึ้น 2 ช่อง จำนวนช่องจอดคิดเป็น 67% ของทั้งโครงการ ก็ถือว่ากลางๆ ไม่น้อยไม่มากสำหรับคอนโดระดับนี้
ขึ้นมาที่ชั้น 24-25 เป็น Facilities หลักของโครงการ แต่ละชั้นก็จะมีฟังก์ชันส่วนกลางที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยให้ได้มากสุด ส่วนที่เราคิดว่าเป็นไฮท์ไลท์คือ สระว่ายน้ำที่ชั้น 28 และ Fitness บนชั้น 29 ที่ออกแบบมาเป็นห้องกระจก ให้ชมวิวได้ทั้ง 3 ด้านของอาคาร
ส่วนชั้น 30 จะเป็นพื้นที่สวน ที่จัดมุมนั่งเล่น ชมวิว / มุมกิจกรรม BBQ ไว้ให้
มาดู Master Plan ของโครงการ CLOUD Residences – SKV23 กันต่อ ดูจากรูปของที่ดินจะเป็นแปลงที่ดินหน้าแคบที่เข้าไปขยายพื้นที่ด้านใน เรามองว่าแปลงที่ดินแบบนี้เหมาะกับการทำเป็นที่อยู่อาศัยนะ เพราะอาคารด้านในจะได้ความสงบมากกว่าอาคารที่อยู่ติดถนน แถมพื้นที่ด้านหน้าโครงการยังเป็นสวนที่ยาวถึง 36 ม. ก็จะช่วยสร้าง Privacy ให้ตัวอาคารด้านในได้ดีเลย
เข้ามาในโครงการจะเจอ Lobby ก่อนเป็นลำดับแรก และเมื่อเข้ามาในอาคารจะมี Lift Lobby อยู่ทางซ้าย ซึ่งโครงการวางไว้ด้านข้างทางฝั่งนี้ เพราะเค้าเข้าใจถึงบริบทว่าที่ดินข้างเคียงฝั่งนี้เป็นอาคารสูง 14 ชั้น ซึ่งจะบังวิวของห้องพักอาศัยได้ จึงออกแบบให้เป็นตำแหน่งของลิฟต์แทน ให้ลิฟต์มา 3 ตัว มีสัดส่วนลิฟต์อยู่ที่ 124 :1 ถ้าเทียบกับคอนโดอื่น ในทำเลนี้ก็ถือว่าเป็นอัตราส่วนที่พอๆ กัน ซึ่งจะต้องใช้ Key Card ในการเข้าออก Lift Lobby
โครงการให้ที่จอดรถมา 67% เป็นแบบ auto Parking ทั้งหมด ถือเป็นการจัดการที่จอดรถที่ดีเพราะช่วยลดปัญหาแขกของลูกบ้านเข้ามาจอด จนเจ้าของร่วมไม่มีที่จอดรถได้ แต่สำหรับใครที่มีเพื่อนมาหาบ่อยๆ ก็คงต้องจอดรอบอาคารแทน ซึ่งก็รองรับได้ไม่เยอะนักนะคะ
ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 5 เป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตต่อชั้น 13 ยูนิต ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 29 – 34.5 ตร.ม. ทั้งหมด 7 ห้อง / แบบห้อง 1 Bedroom Extra ขนาด 41 – 41.8 ตร.ม. 3 ห้อง และห้อง 2 Bedroom 3 ห้อง
ห้องที่น่าสนใจคือห้องที่ได้หน้าต่างแบบ Bay Window ที่เราวงกลมตำแหน่งของหน้าต่างไว้ทั้ง 3 ห้อง และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ในชั้นนี้จะมีห้องพักที่ได้วิวสวนด้วย จึงเป็นห้องที่ได้ Value มากขึ้น
โถงลิฟต์ที่อยู่ฝั่งซ้ายสุด ทำให้ห้องพักทางฝั่งขวาต้องเดินไกลจากลิฟต์หน่อย แต่ด้วยขนาดอาคารที่ไม่ใหญ่นัก ทำให้ห้องที่ไกลสุดมีระยะทางจากลิฟต์ประมาณ 40 ม.
การเลือกห้องพักอาศัย จะมีให้เลือก 2 ทิศคือ ห้องทางทิศตะวันออกและห้องทางทิศตะวันตก ซึ่งแน่นนอนว่าห้องทางทิศตะวันตกจะรับแดดมากหน่อย สำหรับเรื่องวิว..ไม่ได้มีอาคารบล็อกวิวในระยะใกล้ทั้ง 2 ทิศ แต่วิวในระยะไกลก็จะเห็นอาคารสูงบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติของคอนโดในเมืองอยู่แล้วนะคะ
ผังชั้น 6-25 ก็จะคล้ายๆ กับชั้น 5 ต่างกันแค่จำนวนห้องพักอาศัยที่มีมากขึ้นเป็น 14 ยูนิตต่อชั้น สำหรับชั้นนี้จะไม่ได้มีสวน แต่ยังมีห้องที่ได้ Bay Window อยู่นะคะ
ขึ้นมาที่ชั้น 26-27 ก็จะมีผังคล้ายๆ กับชั้น 25 เลย แต่ในชั้นนี้เค้าทำเป็นห้อง Loft ค่ะ
ชั้น 28 จัดเป็นหนึ่งในชั้น Facilities หลักของโครงการ โดยส่วนกลางที่จัดไว้ให้ ได้แก่ Swimming Pool ขนาดประมาณ 1.9 x 10.5 ม. ภายในสระออกแบบให้มี Jacuzzi, Kid Pool และ มุมนั่งเล่นในสระ สำหรับพื้นที่รอบๆ สระจัดมุมนั่งเล่นในสวน และมี Sunbed ให้นั่งชมวิวเมืองกันอีกด้วย
นอกจากพื้นที่ส่วนกลางแล้ว บนชั้นนี้ก็จะมีห้องพักอาศัย จำนวน 4 ห้อง ซึ่งทางโครงการออกแบบไว้ให้ทั้ง 4 ยูนิตได้ความเป็นส่วนตัวไม่แพ้ชั้นอื่นๆ โดยมีประตูกั้นพื้นที่พักอาศัยออกจากสระว่ายน้ำ และมีเพียงลูกบ้านในชั้นนี้ที่เปิดเข้าออกได้ จึงเป็น Value สำหรับห้องพักในชั้นนี้ เหมาะกับคนที่ชอบว่ายน้ำเป็นประจำ และคนที่ชอบมาใช้ส่วนกลางบ่อยๆ
สำหรับลูกบ้านในชั้นอื่นๆ จะต้องกดลิฟต์ไปที่ชั้น 29 แล้วค่อนเดินลงมาใช้สระว่ายน้ำในชั้น 28 ได้นะคะ
ขึ้นมาที่ชั้น 29 จัดเป็นชั้น Facilities ทั้งชั้น ส่วนกลางที่จัดไว้ให้ในชั้นนี้มีความหลากหลาย ได้แก่ Fitness & Yoga ที่เป็นผนังกระจกรอบทั้ง 3 ด้าน สามารถชมวิวเมืองได้แบบ 270 องศา / มีห้อง Steam / Yoga Room / Sky Lounge และ Co-Working Space ซึ่งแต่ละฟังก์ก็จะมีขนาดพื้นที่ที่ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าให้มาเยอะดีค่ะ
บนชั้น 30 จะมีผังที่คล้ายกับชั้น 28 คือมีทั้งพื้นที่ส่วนกลางที่เป็น Sky Garden และส่วนที่เป็นห้องพักอาศัย ซึ่งห้องพักอาศัยทั้ง 4 ยูนิตของชั้นนี้ จะเป็นห้อง Loft นะคะ
ขึ้นมาที่ชั้น 31-39 จะเป็นชั้นที่เน้นความ Private ในการพักอาศัย มีเพียง 4 ยูนิตต่อชั้น และเป็นห้อง Loft ทั้งหมด
ใครที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ แนะนำชั้น 40-42 ที่มีมีเพียง 2 ยูนิตต่อชั้น เป็นรูปแบบ Penthouse ที่มีขนาดกลางๆ ไม่เกิน 100 ตร.ม.
สำหรับชั้น 43 จะเป็น Penthouse แบบห้อง Loft ที่มีเพียงยูนิตเดียวในอาคารค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- สวนหย่อมที่ชั้น 1, 5, 30 และ Rooftop
- สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาดกว้างยาว 10.5 x 19 เมตร ขนาด ลึก 1.20 เมตร ที่ชั้น 28
- Jacuzzi ที่ชั้น 28
- ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ รูปตัว U ที่ชั้น 29
- Sauna ที่ชั้น 29
- Yoga ที่ชั้น 29
- Sky Lounge ที่ชั้น 29
- Co-Working Space ที่ชั้น 29
- ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 124 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 249 คัน คิดเป็น 67% (เป็น Automatic Parking ทั้งหมด)
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card
แบบห้อง
โครงการ CLOUD Residences – SKV23 มีห้องให้เลือกหลักๆ อยู่ 5 แบบ คือ
- 1 Bedroom 29-30 ตร.ม.
- 1 Bedroom Extra 41-43 ตร.ม.
- 2 Bedrooms 57-60 ตร.ม.
- Loft 47-95 ตร.ม.
- Penthouse 79-99 ตร.ม.
โครงการขายแบบ Fully Fitted คือให้ชุดครัว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ตู้เก็บรองเท้า และตู้เสื้อผ้า ตามแบบในห้องตัวอย่างค่ะ
ห้องแรกคือ Type 1 Bedroom 41 ตร.ม. ภายในแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วน โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือโซน Living Area และ โซนห้องนอน จุดที่น่าสังเกตของห้องนี้คือเป็นห้องตอนลึก หลายคนอาจกังวลว่าแสงธรรมชาติจะเข้ามาด้านในพอหรือเปล่า ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบหน้าต่าง และกระจกในส่วนที่รับแสงทั้งหมดเป็นแบบ Full Height เต็มบาน ได้กระจกสูงจากพื้นถึงฝ้ามาชดเชยกัน
เข้ามาในห้องส่วนแรกเป็นครัวเปิด เหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นทำอาหารหนักๆ เพราะกลิ่น ควัน จะฟุ้งไปทั่วห้อง ด้านในเป็น Living Area ได้พื้นที่กว้างไปจนติดหน้าต่าง เป็นของแปลกเพราะคอนโดส่วนใหญ่จะออกแบบให้ Living Area ติดกับระเบียง ก็เป็น Design ที่คนชอบนั่งเล่น ดูทีวีอยู่ในห้องน่าจะชอบกัน จะได้ชมวิวไปได้ด้วย สำหรับตัวระเบียงจะย้ายไปอยู่ในห้องนอน และส่วนที่เราชอบอีกอย่างคือห้องน้ำที่สามารถเข้าได้ 2 ฝั่ง ทั้งจากทาง Living Area และห้องนอน ทำให้เวลามีแขกมาหาก็สามารถเดินเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องผ่านห้องนอนเรา จึงไม่เสียความเป็นส่วนตัวไปค่ะ
ประตูหน้าห้องเป็นไม้ MDF มีระบบ Digital Doorlock ของ Yale ติดตั้งให้ตามมาตรฐาน / สีประตูจะดูเข้ม เป็นผู้ใหญ่หน่อย ซึ่ง Theme ในการตกแต่งห้องหลักๆ ก็จะออกมาในสไตล์นี้นะคะ
เข้ามาส่วนแรกจะเป็น Living & Dining Area ที่เชื่อมต่อกัน ห้องจึงดูโล่งมองทะลุไปจนถึงหน้าต่างได้ / ระดับฝ้าเพดานของห้องสูง 2.8 m. / พื้นได้เป็น Engineering Wood และ กระเบื้องแกรนิตโต้ลายหิน ตามมาตรฐานของคอนโดระดับนี้
ส่วนที่เราชอบเป็นอย่างแรกคือตู้เก็บของด้านข้างประตู ที่โครงการจะ Built-in มาให้แบบนี้เลย
ภายในแบ่งเป็นช่องเก็บรองเท้า และมีที่เก็บของได้หลายช่อง ภายในตู้จะติดไฟมาให้แบบนี้นะคะ
พื้นที่ครัวถูกออกแบบมาให้มีพื้นที่ยืนทำครัวได้พอดีๆ สำหรับ 1 คน ซึ่งโครงการจะ Built-in มาให้ทั้งตู้เก็บของและ Pantry ครัวตัว L ตามแบบในห้องตัวอย่าง ส่วนที่เราคิดว่าพิเศษขึ้นมากว่าโครงการอื่นๆ คือ ที่นี่แถมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวมาให้ครบทั้งตู้เย็น / เตาไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้าด้วย เราจะค่อยๆ อธิบายทีละส่วนนะคะ
เคาน์เตอร์ครัวด้านล่างเป็นตู้มีบานปิดหลายตู้ ไว้สำหรับใส่เครื่องซักผ้า และเก็บของใช้ในครัว หน้าบานเป็นไม้ลามิเนต / ส่วนตู้ใต้อ่างล้างจานมีพื้นที่ให้ใช้เก็บของเล็กๆ น้อยๆ ได้ แต่ใส่ของเต็มไม่ได้ เพราะต้องเว้นพื้นที่ไว้เผื่อซ่อมแซมอ่างล้างจานด้วยค่ะ
มาดูส่วนบนของเคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง แบ่งพื้นที่ใช้งานมาได้ครบทั้งล้างจาน, เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน และมีพื้นที่โล่งอีกเล็กน้อยไว้ให้เตรียมอาหาร /Top เป็นหินสังเคราะห์ / ให้ Backsplash เหมือนห้องตัวอย่างแบบนี้ มีข้อดีคือเวลาปรุงอาหารแล้วกระเด็นก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวของ Gorenje จะใช้อุ่นอาหารเล็กๆ น้อยๆ หรือ ทำอาหารทานกันในห้องก็ได้ มาพร้อมเครื่องดูดควันที่เป็นระบบต่อท่อออกด้านนอก ก็จะช่วยระบายกลิ่นควันได้ดีกว่าแบบหมุนเวียน
สำหรับแบรนด์ Gorenje เห็นชื่อไม่คุ้นจะขออธิบายเพิ่มนิดนึงว่าเป็นแบรนด์สัญชาติฝรั่งเศส เคยเป็นแบรนด์ Top ของ Hafele ปัจจุบันได้ข่าวว่าแยกบริษัทกันแล้ว เราลองไปอ่านรีวิวหลายๆ คนที่เคยใช้ก็บอกว่ามีเทคโนโลยีดี ใช้งานได้หลากหลาย ใครเคยใช้ก็มาแชร์ให้เพื่อนๆ ฟังกันได้นะคะ
ซิงค์ล้างจานของ Teka มีขนาดและความลึกพอสมควรที่ล้างจานแล้วน้ำไม่กระเด็นออกมา แต่ด้วยตำแหน่งที่ไม่ได้ติดผนัง เวลาใช้งานก็ต้องระวังน้ำกระเด็นมากขึ้นหน่อยนะ
โครงการนี้จะติดตั้งเตาไมโครเวฟมาให้ด้วยของ Gorenje เช่นกัน
ตู้ลอยสำหรับเก็บของด้านบนเป็นตู้บานเปิดปิด ภายในแบ่งเป็นช่องเก็บของย่อยๆ
อีกส่วนที่เราชอบเลยคือ ตู้เย็นที่โครงการติดตั้งมาให้จะถูก Built-in ไว้ในตู้ตามแบบในห้องตัวอย่าง และให้มาของแบรนด์ Gorenje เช่นกัน
ในห้องตัวอย่างจะ Built-in โต๊ะทานอาหารมาให้ดู ซึ่งของจริงจะไม่ได้มีโต๊ะมาแบบนี้นะคะ แต่เราก็สามารถเก็บเป็นไอเดียในการตกแต่งได้
ถ้าจัดวางเป็นโต๊ะทานอาหารแบบห้องตัวอย่างจะช่วยประหยัดพื้นที่ในห้องไปได้ แต่สำหรับเราชอบทานอาหารไปด้วยดูทีวีไปด้วย ก็จะไม่สะดวกนัก ><
ถัดเข้ามาในส่วนของพื้นที่นั่งเล่น เป็นพื้นที่โล่งๆ ยาวไปจนถึงหน้าต่างเลย เราจะแต่งแบบห้องตัวอย่างที่แบ่งพื้นที่ออก 2 ส่วน สำหรับนั่งเล่นดูทีวี และมีมุมอเนกประสงค์ติดหน้าต่างก็ได้
หรือใครจะวางชุดโซฟาติดหน้าต่างเลย ก็ดีไปอีกแบบ เพราะสามารถนั่งดูทีวีและชมวิวไปได้ในเวลาเดียวกันได้ ระยะดูทีวีประมาณ 2.2 m. มีขนาดทีวีที่เหมาะสมประมาณ 50 นิ้ว
สำหรับใครที่ชอบโต๊ะญี่ปุ่นแบบห้องตัวอย่าง สามารถสั่งทำกับทางโครงการได้นะคะ ชุดนี้ประมาณ 80,000 บาท จะได้ทั้งโต๊ะและตู้เก็บของด้านข้าง / ส่วนที่อยากให้สังเกตคือหน้าต่าง Full Height บานใหญ่ที่รับแสงธรรมชาติเข้าห้องมาได้แบบเต็มๆ และมีบานกระทุ้งให้เปิดระบายอากาศได้ด้วย
โต๊ะญี่ปุ่นสามารถปรับระดับได้ จึงใช้เป็นโต๊ะทานอาหารและใช้เป็นมุมนั่งเล่น นอนเล่นได้ด้วย
มาดูห้องนอนกันบ้าง..เป็นห้องตอนลึกอีกเช่นกัน ภายในมีพื้นที่ใช้สอยพอสมควรให้วางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบทั้งเตียงนอน โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า
ภายในมีพื้นที่ใช้สอยพอสมควรให้วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ และมีพื้นที่ให้วางโต๊ะ้างเตียงได้ทั้ง 2 ด้าน แต่พื้นที่ปลายเตียงจะเหลือน้อยหน่อย ถ้าจะติดทีวีต้องติดแบบแขวนผนังแทน ตำแหน่งวางเตียงสำหรับห้องนี้จะอยู่ติดระเบียง ทำให้สามารถนอนมองวิวจากบนเตียงนอนได้ค่ะ
ติดกับพื้นที่วางเตียงมีประตูบานเลื่อนสำหรับเปิดออกไประเบียงได้ แต่ทางเดินเข้าออกที่ต้องผ่านเตียงก็จะแคบหน่อย เวลาหิ้วตะกร้าผ้ามาตากอาจจะลำบากสักนิด
โครงการเก็บรายละเอียดของโครงประตู, Fitting กลอน และ มีกำมะหยี่ติดกันเสียงรบกวนด้านนอกมาให้เรียบร้อย และมีไฟดาวไลท์ติดมาให้ด้านบนด้วย / ส่วนที่ดีของโครงการนี้คือราวระเบียงที่เป็นกระจกใส จึงไม่บังสายตาในการชมวิวค่ะ
ส่วนที่เราคิดว่าดีอีกอย่างคือการลดระดับพื้นระเบียงลงเล็กน้อย ช่วยให้น้ำจากระเบียงไม่ไหลเข้าด้านในห้อง ซึ่งโครงการส่วนใหญ่มักจะทำเป็นธรณีกั้นขึ้นมา แต่เราว่าแบบนี้สะดวกกว่าเยอะเลย
ระเบียงมีขนาดกะทัดรัดพอให้วางราวตากผ้าได้ ส่วน Condensing Unit จะแยกพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วน มีประตูเหล็กปิดไว้ดูเรียบร้อยดี
อีกฝั่งหนึ่งของเตียงนอนจะมีพื้นที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้ง/ โต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้า จากจุดนี้เราจะสังเกตได้ว่าแอร์ของโครงการให้เป็นแบบฝังฝ้า ดูเรียบร้อย แต่ก็จะบำรุงรักษายากนิดนึง ต้องใช้ช่างดูแลให้นะ
ในห้องตัวอย่างจัดมาเป็นโต๊ะทำงานขนาดกะทัดรัด ส่วนตัวคิดว่าการวางโต๊ะตรงนี้จะทำให้เปิดตู้เสื้อผ้ายากสักหน่อย เพราะตู้เสื้อผ้าที่ Built-in มาให้เป็นบานเปิดปิด มี 2 ทางออกคือ เปลี่ยนบานตู้เสื้อผ้าเป็นบานเลื่อน หรือเอาโต๊ะหัวเตียงด้านข้างออก แล้วขยับโต๊ะทำงานมาชิดเตียง ก็จะลงตัวมากขึ้น
ตู้เสื้อผ้า 2 ตู้ที่ทางโครงการ Built-in มาให้ เป็นตู้บานเปิดปิด ขนาดกลางๆ ซึ่งเค้าจะ Built เต็มผนังให้ถึงฝ้าเลย และจะอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำแบบนี้ ทำให้การใช้งานต่อเชื่อมกันได้สะดวกดีค่ะ
ภายในตู้เสื้อผ้าแบ่งเป็นลิ้นชักเก็บของ และมีช่องโล่งๆ ด้านบนให้เก็บหมอน / ผ้านวมชิ้นใหญ่ๆ ได้ / ตู้เสื้อผ้ามีดีเทลของมือจับ ที่ฝังมากับตู้เลย ทำให้ดูเรียบร้อย / ภายในตู้ติดไฟมาให้แบบนี้ / หน้าบานก็เป็นกระจกชาดำ ดูหรูดี แต่ส่องลองชุดไม่ถนัดนัก ต้องติดกระจกเพิ่ม
สุดท้ายที่จะพาไปชมคือห้องน้ำ มีตำแหน่งอยู่ด้านในห้องจึงต้องพึ่งงานระบบของอาคารล้วนๆ ภายในมีสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ติดตั้งให้ครบตามอย่างห้องตัวอย่าง รวมถึงช่องวางของแบบ Built-in ด้วยค่ะ
ภายในห้องน้ำแบ่งแยกส่วนเปียกแห้งไว้ด้วยฉากกั้นอาบน้ำและขอบธรณี ทำให้สามารถใช้งานได้เป็นสัดส่วน พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด แต่ในส่วนพื้นจะเป็นแบบผิวด้านเพื่อกันลื่น
ห้องน้ำสามารถเข้าได้จากทั้งทาง Living Area และห้องนอน เวลามีแขกมาเยี่ยมก็สามารถเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนเรา
อ่างล้างมือขนาดกลางของ TOTO มีพื้นที่ขอบอ่างให้วางของได้นิดหน่อย และให้กระจกมาด้วย ขนาดตามในห้องตัวอย่างเลยนะคะ
ใต้อ่างล้างมือมีตู้บานเปิดปิด ให้เก็บของเพิ่มได้นิดหน่อย / ส่วนที่น่าสังเกตคือ โครงการติดเครื่องทำน้ำร้อนของ Stebel Eltron ไว้ให้ด้วย ทำให้ก๊อกของโครงการนี้จะได้เป็นก๊อกผสมทั้งหมด
สุขภัณฑ์ของ TOTO เป็น Washlet มาพร้อมแกนใส่กระดาษทิชชู่
สำหรับพื้นที่อาบน้ำจะมีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เป็นแบบบานเปิดปิด โครงการเก็บรายละเอียดมาให้เรียบร้อย มือจับฉากกั้นมีขนาดใหญ่ดี จับได้ถนัดมือ และเราสามารถแขวนผ้าเช็ดตัวไว้ที่ราวจับได้ด้วย / มีติด Stopper และขอบยางกันกระแทกไว้ให้
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.9 x 1.2 m. เป็นขนาดที่ยืนอาบน้ำแล้วพอจะหมุนตัวได้ ไม่อึดอัดนัก พื้นที่ตรงนี้จะถูกลดระดับลงจากพื้นห้องน้ำปกติ ทำให้น้ำไม่ไหลออกไปภายนอก เราชอบดีไซน์แบบนี้มากกว่าแบบที่เป็นขอบธรณีสูงขึ้นมา เพราะใช้งานได้ง่ายกว่า ซึ่งแน่นอนว่าค่าก่อสร้างแบบนี้ก็แพงกว่าด้วย
ภายในพื้นที่อาบน้ำ จะติดตั้งฝักบัวอาบน้ำและ Rain Shower มาให้ของ Kohler ข้อดีของห้องน้ำนี้คือ มี Built-in ผนังเป็นช่องสำหรับวางของใช้ในห้องน้ำมาให้ด้วย จึงไม่ต้องเจาะเพิ่มเองเลย
หน้าตาของไฟดาวน์ไลท์ที่ได้ ไม่รวมโคมไฟห้อยๆ สำหรับตกแต่งนะคะ
ส่วนสวิตซ์และปลั๊กไฟจะมีส่วนที่เป็น Home Autometic ได้ของ B-link และแบบปกติจะใช้ของ Schneider
ถัดมาที่ห้องเพดานสูง (Loft) ของโครงการนี้ มีความพิเศษที่ได้เป็นห้องแบบหน้ากว้าง และเป็นห้องมุม ซึ่งแน่นอนว่าห้องลักษณะนี้จะได้เปรียบเรื่องของการได้แสงธรรมชาติเข้ามาในตัวห้องมากเป็นพิเศษ และได้มุมมองของวิวมากกว่าด้วย
พื้นที่ใช้สอยภายในห้องทั้งหมด 74.3 ตร.ม. เป็นพื้นที่ชั้นล่าง (ตามโฉนด) 42.3 ตร.ม. และพื้นที่ชั้นบน 32 ตร.ม. ราคาประมาณ 14 ล้านบาท ถ้าหารเฉลี่ยพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด คิดเป็นราคาประมาณ 188,xxx บาท/ตร.ม. ก็ถือว่าเป็นราคาที่น่าสนใจสำหรับทำเลนี้นะ ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 2-3 คน
ความน่าสนใจของห้องนี้คือ เน้นพื้นที่ Living Area ขนาดใหญ่ที่ชมวิวได้ ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ระเบียงถูกดันไปไว้ด้านข้าง เราจึงได้พื้นที่นั่งเล่นที่ติดหน้าต่างตลอดแนวค่ะ
เข้ามาส่วนแรกจะมีตู้เก็บรองเท้า เก็บของเหมือนกับห้องแบบแรกที่พาไปชม แต่ตู้ของห้องนี้จะมีขนาดใหญ่กว่า รองรับสมาชิกที่มากกว่า
เข้ามาด้านในจะเป็น Living&Dining Area ที่เชื่อมต่อเป็นพื้นที่เดียวกัน บริเวณนี้จะได้รับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้ดูโปร่งดี / ฝ้าเพดานในส่วนครัวจะมีความสูงที่ 2.1 ม. ส่วนของพื้นที่นั่งเล่นสูง 4.5 ม. / วัสดุของพื้นและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ จะเหมือนกับห้องแบบแรกที่พาไปชม จะต่างกันหน่อยตรงขนาดที่ใหญ่ขึ้น
อย่างเช่นชุดครัวของห้องนี้จะได้เป็นครัวตัว L ที่ Built-in เต็มผนัง 2 ฝั่งแบบนี้เลย จึงมีพื้นที่เตรียมอาหารกว้างๆ และโครงการจะติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวมาให้ครบเช่นกัน
ส่วนที่ต่างจากห้องแบบแรกคือ ขนาดของเตาไฟฟ้าที่จะได้เป็นขนาด 4 หัว และได้ของแบรนด์ Gorenje เหมือนเดิมนะคะ
ในส่วนของอ่างล้างจานจะได้แบบติดผนัง และตู้เย็นก็จะได้แบบ Built ไว้ในตู้นะคะ
ติดกับครัวจะมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหาร ซึ่งสามารถวางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งตามแบบในห้องตัวอย่างได้
ถัดมายังพื้นที่ Highlight ของห้อง Loft เป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ได้ฝ้าเพดานสูง สามารถวางชุดโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งได้
ส่วนที่เราชอบของห้อง Loft โครงการนี้คือ เค้าพยามยามออกแบบมาให้ดูโปร่งที่สุด ด้วยการทำเป็นชุดกระจกเข้ามุม จะบอกว่าเป็น Bay Window ก็พูดไม่ได้เต็มปาก เพราะหน้าต่างด้านขวาจะติดกับพื้นที่ระเบียง ทำให้เวลาใช้งานจริง เราคงต้องมองวิวผ่านระเบียงออกไปอีกที แต่โดยรวมคือ ดูโปร่งโล่งมากๆ เลย
ประตูระเบียงจะอยู่ด้านหลังโซฟา เป็นประตูบานเลื่อนกระจกที่มีความสูงเป็นพิเศษ
พื้นที่ระเบียงเก็บรายละเอียดมาให้ดีเช่นเดียวกับห้องแบบแรก ส่วนที่น่าสังเกตคือราวกันตกที่เป็นกระจกใส จึงไม่บังสายตาเวลามองผ่านออกไปชมวิวค่ะ
มองกลับเข้ามาบริเวณชั้นวางทีวี จะได้เป็นผนังสูงๆ ซึ่งเป็นส่วนที่คนอยู่ห้อง Loft จะได้ตกแต่งกันแบบสวยๆ เป็นหน้าเป็นตาของห้อง
พื้นที่ดูทีวีของห้องนี้มีระยะ 2.8 ม. มีขนาดทีวีที่เหมาะสมเกือบ 60 นิ้วเลย
ถัดมายังโซนพักอาศัยอื่นๆ ในชั้นนี้ ฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำ ตรงกลางเป็นบันได้ขึ้นชั้นบน และทางขวามือเป็นห้องนอนค่ะ
ห้องน้ำใน Type นี้จะจัดฟังก์ชันและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ มาครบเหมือนห้องแบบแรกที่พาไปชม
ภายในแบ่งโซนเปียกและโซนแห้งไว้อย่างเป็นสัดส่วน
ด้านในสุดเป็นห้องอาบน้ำที่ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำไว้ให้เรียบร้อย
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกะทัดรัดประมาณ 0.9 x 0.9 ม. ถ้าเป็นคุณผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นคุณผู้ชายจะหมุนตัวก็ระวังกระแทกหน่อยค่ะ
ห้องนอนในชั้นล่าง มีขนาดให้พอวางเตียง 5 ฟุตได้เลยนะคะ และได้หน้าต่างเต็มผนังฝั่งหนึ่งด้วย
พื้นที่ปลายเตียงเป็นตำแหน่งสำหรับวางทีวีในห้องนอนได้ และโครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ 2 ตู้ตามแบบในห้องตัวอย่าง แต่จะไม่ได้ชั้นวางทีวีนะคะ
ใต้บันไดจะมีตู้ Built-in ไว้ให้ด้วย
เป็นตำแหน่งสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า ซึ่งทางโครงการก็จะติดไว้ให้เรียบร้อยของ Bosch ขนาด 8 kg. และด้านบนเครื่องซักผ้ายังมีพื้นที่เหลือให้เก็บของได้อีกด้วย
บันไดของห้อง Loft ออกแบบมาให้ใช้งานได้สะดวกดีนะคะ เราลองวัดลูกตั้งลูกนอนแล้วได้มาตรฐานดีค่ะ
ติดนิดนึงที่ตรงชานพักจะเป็นขั้นสามเหลี่ยม แต่ก็เป็นการออกแบบเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ในส่วนของบันได เพื่อให้พื้นที่ในส่วนอื่นๆ ของได้ใช้งานเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น
ราวบันไดจะได้มาเป็นกระจก ช่วยลดความทึบตัน ทำให้บริเวณบันไดไม่อึดอัด
พื้นที่บนชั้นลอยของห้อง Loft จะมีโครงสร้างแบบเดียวกับเฟอร์นิเจอร์คือ เป็นโครงเหล็กซะส่วนใหญ่ แน่นอนว่าความแข็งแรงไม่เท่ากับพวกห้อง Duplex ก็แลกมากับราคาที่หยิบจับง่ายกว่า
สำหรับห้อง Type นี้จะมีพื้นที่ชั้นบนค่อนข้างกว้าง มีพื้นที่อเนกประสงค์ให้สามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนที่ชั้นบน หรือจะใช้เป็นฟังก์ชันอื่นๆ ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยเลย
ข้อดีของห้อง Loft ก็คือ เราสามารถมองลงไปเห็นพื้นที่นั่งเล่นในชั้นล่าง ได้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน 2 ชั้นเลย
อีกฝั่งหนึ่งของชั้นนี้จะมีห้อง Walk-in Closet ที่ทางโครงการจะทำมาให้แบบนี้เลย ส่วนทางขวาเป็นห้องนอนอีกห้องบนชั้นนี้ค่ะ
ภายใน Walk-in Closet จะเป็นชั้นแขวนเสื้อผ้าตัว L และมีลิ้นชัก ตู้ช่องโล่งไว้ให้เก็บของได้เยอะทีเดียว ส่วนตัวคิดว่าใส่เสื้อผ้า ของใช้ที่จำเป็น สำหรับ 2 คน น่าจะพอนะคะ
ปิดท้ายด้วยห้องนอนชั้นบน มีพื้นที่ใช้สอยพอๆ กับห้องนอนชั้นล่างเลย แต่ห้องนี้ไม่ต้องใส่ตู้เสื้อผ้าเข้ามา ทำให้ห้องดูโล่งขึ้น และได้หน้าต่างบานใหญ่แบบ Full Height เต็มผนังเช่นกัน
พอไม่ต้องใส่ตู้เสื้อผ้าเข้ามาแล้ว เราจึงสามารถทำชั้นวางทีวีเต็มผนังได้ ห้องก็ดูกว้างขึ้นด้วยค่ะ
นอกจากห้องตัวอย่างที่พาไปชมทั้ง 2 ห้องแล้ว ก็ยังมีห้องแบบอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกนะคะ เรายกขึ้นมาให้ดูเป็นตัวอย่าง เช่นห้อง 1 Bedroom ขนาด 33 ตร.ม. ที่จัดวางระเบียงไว้ในห้องนั่งเล่น ทำให้เราสามารถวางเตียงนอนชิดหน้าต่างได้ เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับคนที่ชอบนอนชมวิวจากบนเตียง ซึ่งห้อง Type นี้ก็ยังได้ห้องน้ำที่เข้าได้ 2 ทางเช่นกัน
อีกแบบนึงที่อยากนำมาฝากกัน คือห้อง 1 Bedroom Extra ที่จะมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา ความน่าสนใจของห้องนี้คือเป็นห้องหน้ากว้างที่ได้ช่องแสงตลอดแนว ห้องนี้จะได้รับแสงธรรมชาติมากกว่าห้องแบบอื่นๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่นที่ติดหน้าต่างค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
25 March 2020
- 1 Bedroom 29-30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท
- 1 Bedroom Extra 41-43 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.4 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 57-60 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาท
- Loft 47-95 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท
- Penthouse 79-99 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.8-4.5 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ Gorenje
- Built-in ตู้เสื้อผ้า
- Digital Door Lock ของ Yale
- มีรถ Shuttle Bus ไปกลับ BTS (รอรายละเอียดจากทางโครงการ)
- จอง 20,000 บาท
- ทำสัญญา 3-5%
- ดาวน์ + (เงินทำสํญญาและเงินจอง) = 10% ผ่อนดาวน์ 45 งวด
- ค่ากองทุน 800 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 80 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล : CLOUD Residences – SKV23 ตั้งอยู่บนซอยสุขุมวิท 23 ในย่านอโศก-พร้อมพงษ์ ทำเลนี้ถือเป็นทำเลใจกลางเมืองที่ดีทำเลหนึ่ง มีความอุดมสมบูรณ์รายรอบทั้งในเรื่องแหล่งความเจริญ แหล่งอาหารการกินก็มีหลากหลายสัญชาติมาก ตามซอยย่อยๆ ในย่านนี้จะมีร้านอาหาร ขนม ขึ้นชื่อตามรายทางเลย โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่มักเลือกย่านนี้เป็นที่พักอาศัย จนกลายเป็นแหล่งรวมร้านอาหารญี่ปุ่นอีกย่านนึงก็ว่าได้ รวมถึงยังใกล้แหล่ง Hangout ในเวลากลางคืนอย่างซอย Cowboy และยังทะลุไปย่านทองหล่อ, เอกมัย ได้โดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่เลยด้วย
ถ้าจะหาแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆ อย่างศูนย์การค้า ก็แค่ออกมาถนนใหญ่ในระยะประมาณ 1 กม. ก็จะมีตั้งแต่ Terminal 21 ที่แยกอโศก ไล่มาที่พร้อมพงษ์จะมี The District Em ซึ่งประกอบด้วยห้าง ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และ ดิ เอ็มสเฟียร์ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 3 โครงการศูนย์การค้าระดับเวิร์ลคลาสใจกลางสุขุมวิท
การเดินทางโดยใช้รถ : แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ติดกับถนนใหญ่ที่รายรอบ แต่จากโครงการก็มีเส้นทางลัดไปออกถนนหลักได้หลายเส้นทาง ไปได้หมดทั้งอโศก สุขุมวิท ทองหล่อ และเพชรบุรี เป็นทำเลที่เป็นย่านออฟฟิศของแท้ เวลากลางวันจะมีความคึกคักมาก เวลากลางคืนก็จะสงบหน่อย เพราะคนกลับบ้านกันหมดแล้ว ที่จอดรถ 67% ถือว่าให้มากลางๆ สำหรับคอนโดระดับนี้
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 จากสถานี MRT สุขุมวิทก็มีระยะทางมาถึงโครงการประมาณ 700 ม. เอาจริงๆ คือเกินระยะเดิน 500 ม. แล้วนะ แต่ด้วยบรรยากาศการเดินในซอยที่มีร่มไม้ ผ่านหน้าร้านค้าต่างๆ ตลอดทาง ทำให้หลายคนก็บอกว่าเดินไหว สำหรับเรารู้สึกว่าแดดช่วงนี้มันแรงมากจริงๆ ขอเรียกใช้พี่วินดีกว่า จาก MRT สุขุมวิทแถวหน้าตึก Interchange ก็มีราคาประมาณ 10-15 บาทเท่านั้น แถมในซอยพี่มีพี่วินและ Taxi ผ่านหน้าโครงการอยู่ตลอด จึงมีทางเลือกในวันที่ไม่ต้องการใช้รถได้ค่ะ
วัสดุ : เราดูแล้วว่ามีวัสดุบางอย่างที่ให้มาดีกว่ามาตรฐาน และวัสดุส่วนใหญ่ก็เหมาะสมกับราคา ได้แก่ พื้นที่ให้มาทั้งกระเบื้องแกรนิตโต้ และ Engineering Wood / ฝ้าเพดานมีทั้งแบบธรรมดาสูง 2.8 ม. และแบบ Loft 4.5 ม. / ได้ Digital Door Lock / เฟอร์บิวท์อินบางส่วนเป็นชุดตู้เก็บรองเท้าและตู้เสื้อผ้า / ชุดครัวท็อปหินสังเคราะห์ / อ่างล้างจานของ Teka / สุขภัฑณ์ได้ของ TOTO เป็น Washlet
ส่วนที่เราต้องชมเลยคือ ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวมาครบตั้งแต่ตู้เย็น / ไมโครเวฟ / Hob&Hood ของแบรนด์ Gorenje ทั้งหมด แถมให้เครื่องซักผ้าของ Bosch มาด้วยค่ะ
การออกแบบ : โครงการได้สถาปนิกมือดีอย่าง Tandem Architects ที่ออกแบบคอนโดชื่อดังมาแล้วหลายแบรนด์ เป็นอาคารที่สูงที่สุดในซอยสุขุมวิท 23 อยู่ที่ประมาณ 200 ม. ส่วนกลางมีความน่าสนใจ ที่ออกแบบมาให้ชมวิวได้ 270 องศา เราจึงเห็นการเลือกใช้กระจกค่อนข้างเยอะ และมีการออกแบบขนาดห้องพักอาศัยที่หลากหลายตั้งแต่ 29-99 ตร.ม.
ส่วนที่เราคิดว่าเป็นจุดเด่นคือ ห้องพักชั้นบนๆ ของอาคาร ที่ออกแบบให้เป็นห้อง Loft ซึ่งเป็น Type ที่ไม่ค่อยได้เห็นจากคอนโดในทำเลนี้สักเท่าไหร่ สุดท้ายคือ Penthouse ขนาดกลาง 79-99 ตร.ม. ที่ต่างจากคอนโดส่วนใหญ่ในทำเลนี้ ที่จะทำ Penthouse ขนาดใหญ่เกิน 100 ตร.ม. ขึ้นไปจนเกือบ 200 ตร.ม.
สาธารณูปโภค : ถือว่าให้มาตามมาตรฐานของคอนโดราคาสูงในย่านนี้ ซึ่งจะยก Facilities ส่วนกลางขึ้นมาไว้ชั้นบนๆ ทั้งสระว่ายน้ำ, Jacuzzi, Fitness, Sauna, Yoga Room, Co-Working Space, Skylounge และ Rooftop Garden ส่วนที่เราว่าน่าสนใจของโครงการนี้ เราคิดว่าเป็นการออกแบบให้ส่วนกลางได้วิว 270 องศา เน้นทำเป็นห้องกระจก แต่ก็ต้องแลกมากับค่าส่วนกลางที่ไม่ธรรมดาเพราะมีเรื่องต้องบำรุงดูแลเยอะหน่อยนะคะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 200,000 บาท/ตร.ม., 25 March 2020
- ทำเล 7.75/10 – ทำเลในเมือง เข้าซอยไม่ลึก ใกล้ห้างใหญ่ ใกล้สวน ในระยะเดินเดินทางด้วยรถ
- เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – สะดวกมาก ทางลัดเยอะ ออกถนนหลักสำคัญได้หมด ที่จอดรถ 67%
- ไม่ใช้รถ 7.25/10 – ห่าง MRT สุขุมวิท 700 ม. เรียกพี่วินและแท็กซี่จากหน้าโครงการได้
- วัสดุ 9/10 – มีทั้งของที่สมราคาและให้มาเกินมาตรฐาน เช่น แถมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว ตู้เย็นของ Gorenje และเครื่องซักผ้า Bosch
- แบบ 8.5/10 – แบบอาคารมีความสูงเด่น ห้องพักมีหลากหลาย Type และหลายขนาด
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – มีให้เลือกเยอะ น่าใช้งาน อยู่บนชั้นสูง เปิดวิว 270 องศา
- LUXURY – SUPER LUXURY CLASS
- 8.1 / 10.00
BOTTOM LINE
CLOUD Residences – SKV23 เหมาะสำหรับคนที่กำลังหาคอนโดย่านอโศก-พร้อมพงษ์ เดินทางโดยใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก หวังพึ่งพารถไฟฟ้าบ้าง ไปใช้ได้ไม่ยาก ชอบโครงการที่มี Facilities อยู่ชั้นบนๆ เน้นชมวิวได้หลายจุด และอยากได้โครงการที่ให้วัสดุภายในห้องดี มีห้องให้เลือกหลายขนาด หรือใครที่มองหาห้อง Loft / Penthouse ก็มีให้เลือก ในงบประมาณระดับ 5.99 – 29 ล้านบาทค่ะ
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving