รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.341 – รีวิวคอนโด Chewathai Residence บางโพ
21 กันยายน 2017
รีวิวฉบับที่ 922 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการใหม่ของชีวาทัย ที่มีชื่อว่า ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ อยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีบางโพ ซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินประมาณ 100 เมตร และยังสามารถเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าเตาปูนซึ่งเป็นสถานี Interchage กับรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้พาไปเดินชมทำเลโครงการตอนที่ยังไม่เปิดตัวกันมาแล้ว วันนี้..โครงการกำลังจะเปิด Pre sale พร้อมให้เข้าชมห้องตัวอย่างในวันที่ 26-27 กันยายนนี้แล้ว หน้าตาของโครงการจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ^^
ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ (คลิก)
Fact @ 18 Aug 2015
- Chewathai Residence Bang Pho (ชีวาทัย เรสซิเด้นซ์ บางโพ)
- บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน)
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ถนนประชาราษฎร์สาย 2 เขตบางซื่อ กทม.
- คอนโด High Rise 24 ชั้น 1 อาคาร 172 ยูนิต
- อาคารจอดรถ 5 ชั้น 1 อาคาร
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 12 ยูนิต ที่ชั้น 7-15
- ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 80% (134 คัน)
- ที่ดินประมาณ 1-1-94.3 ไร่
- คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ ประมาณ Q4 ปี พ.ศ.2560
- 1 Bedroom(เล็ก) A1-A5 ขนาด 33.5-36 ตารางเมตร
- 1 Bedrooms (ใหญ่) B1-B5 ขนาด 42.5-49 ตารางเมตร
- 2 Bedrooms C1-C3 ขนาด 68-78.5 ตารางเมตร
- 3 Bedrooms (Penthouse) P1-P2 ขนาด 95.5-117 ตารางเมตร
- ฝ้าเพดาน ห้อง 1 Bed และ 2 Bed สูง 2.8 เมตร, ห้อง Penthouse สูง 3 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยของทั้งโครงการ 125,000 บาทต่อตารางเมตร
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเล : พาชมทำเลโครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02 912 8808
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
เนื่องจากตัวรีวิวทำเลได้ทำไปแล้วดังนั้นจะขอเริ่มในส่วนของโครงการเลยนะคะ สามารถอ่านรีวิวทำเล ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ ได้โดย (คลิกที่นี่) ได้เลยค่ะ
พิกัด :13.806306, 100.522390
ที่ตั้งโครงการชีวาทัย บางโพ สเตชั่น อยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ห่างจาก รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางโพ ประมาณ 100 เมตรค่ะ
หากโฟกัสตัวทำเลของโครงการแล้ว สมัยก่อนทำเลย่านบางโพจะเป็นแหล่งชุมชนที่เป็นตึกแถวเก่าค่ะ จริงๆในสมัยนี้ก็ยังเห็นกันอยู่บ้าง เนื่องจากเป็นชุมชนเก่าแก่ แต่พอมีการสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเข้ามาก็เลยกลายเป็นทำเลเนื้อหอม ที่บริษัทอสังหาเข้ามากว้านซื้อตึกเก่าๆเพื่อเตรียมสร้างคอนโดกันอย่างคึกคัก อีกทั้งในอนาคตอันใกล้ ตามรอยเส้นแนวประสีแดงๆในแผนที่ กำลังมีโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ ที่มีชื่อว่า”สะพานเกียกกาย” ที่มีทั้งหมด6 ช่องจราจรไป-กลับรวมระยะทาง ประมาณ 5.9 กิโลเมตร เพื่อแก้ปัญหาการจราจร
จึงไม่น่าแปลกใจที่ถ้าเดินรอบๆโครงการโดยเฉพาะบนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ตั้งแต่โครงการไปจนถึงสถานีเตาปูน จะเห็นคอนโด ขึ้นแข่งกันค่อนข้างมาก ตั้งแต่ The Tree Interchange, The Stage, Richpark เตาปูน และโครงการคู่คี่พี่น้องกันก็คือ ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ ไล่ไปบนถนนประชาราษฎร์สาย 1 เลยตลาดบางโพไปนิดนึงก็มีโครงการ The Tree บางโพ ที่สร้างเสร็จลูกบ้านเข้าอยู่เรียบร้อยแล้ว และอีกโครงการคอนโดวิวแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้ๆท่าเรือบางโพคือ 333 Reverside by Land and House
นอกจากคอนโดที่เยอะ อาหารการกินละแวกนี้ก็หาได้ไม่ยาก ที่ใกล้ที่สุดที่คนแถวนี้รู้จักกันดี คือ ตลาดบางโพ ที่มักจะคึกคักในช่วงเช้า กลับมาบนถนนประชาราษฎร์สาย 2 เลยรถไฟฟ้าสถานีเตาปูนไปหน่อยจะมีตลาดเตาปูน, Tesco Lotus ประชาชื่น ส่วนถ้าใครใช้ชีวิตอยู่แถวนี้มักจะเห็นทหารขับรถโฉบไป โฉบมาให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ เพราะถนนคู่ขนานกับโครงการอย่างถนนทหาร, ถนนประดิพัทธิ์ ไปจนถึงถนนเตชะวณิช จะเป็นที่ตั้งของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม, กองพันทหารปืนใหญ่, กรมสรรพวุธ, โรงเรียนเตรียมทหารต่างๆ เป็นผลให้ถนนละแวกที่อยู่ใกล้ๆถนนทหาร อย่างเช่นถนนประชาราษฎร์สาย 1 ใกล้ๆแยกเกียกกาย จะมีโรงเรียนกวดวิชาอยู่เยอะตามไปด้วยค่ะ
ส่วนความพิเศษอีกอย่างคือ ต้องยอมรับว่าโซนบางโพ-เตาปูน ไปจนถึงบางซื่อนี้ มีสถานีรถไฟฟ้าที่เป็นจุดเชื่อมถึง 3 สาย คือรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ที่ตอนนี้โครงการก่อสร้างเป็นรูปเป็นร่างแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2560, รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน ที่คืบหน้ากว่า 80% แล้ว
โดยรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด คือรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางโพ ที่ห่างจากโครงการเพียง 100 เมตร เป็นระยะที่เดินสบายๆค่ะ ซึ่งหากอยากเปลี่ยนเส้นทางไปรถไฟฟ้าสายสีม่วง ก็นั่งรถไฟฟ้ามาที่ สถานีเตาปูน ซึ่งเป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสีม่วง (ห่างจากโครงการประมาณ 1 กิโลเมตร) และหากอยากเปลี่ยนเส้นทางไปแถวๆชานเมืองอย่างรังสิต ก็นั่งรถไฟฟ้าจากสถานีบางโพถัดไปอีก 2 สถานี ลงที่สถานีบางซื่อ ซึ่งจะเป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสีแดงค่ะ (ห่างจากโครงการ ประมาณ 2 กิโลเมตร)
จะเห็นว่าโครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า สถานี Interchange ถึง 2 สาย(สถานีเตาปูนและสถานีบางซื่อ) ซึ่งรถไฟฟ้าแต่ละสาย ล้วนเป็นรถไฟฟ้าเส้นทางในอนาคตที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและเซ็นสัญญานะคะ ซึ่งกำหนดการต่างๆอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา แต่ค่อนข้างแน่นอนว่าจะได้ใช้กันนะ 😀
ส่วนการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะอื่นๆ การเดินทางโดยรถเมล์มีรถเมล์ให้เลือกขึ้นได้หลายสายโดยด้านถนนประชาราษฎร์สาย 2 ผ่านหน้าโครงการมีรถเมล์ สาย5, 16, 30, 66, ปอ.505 และยูโรสาย 16 ส่วนด้านถนนประชาราษฎร์ สาย 1 มีรถเมล์ สาย 117,5,64,33,90,49,ปอ.23 และ ปอ.6 ส่วนการเดินทางอื่นๆเช่นแท๊กซี่หรือพี่วินมอร์เตอร์ไซค์นี่มีวิ่งผ่านตลอดสะดวกดีค่ะ หรือจะใช้บริการนั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่าเรือบางโพ แล้วนั่งพี่วินมานิดเดียวก็ถึงโครงการ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ถือว่ามีทางเข้า- ออกได้หลายทางเลย โดยถนนประชาราษฎร์สาย 2 ซึ่งเป็นถนนหลักของโครงการ สามารถเชื่อมต่อกับถนนหลายสายเลยค่ะ เช่น ถ้าใครมาจากประชาชื่น พอถึงแยกประชาชื่นก็ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ตรงไปเรื่อยๆประมาณ 1.2 กิโลเมตร ก็จะเจอโครงการค่ะ เส้นทางนี้จะสะดวกดีตรงอย่างเดียว แต่รถจะติดหน่อยเนื่องจากกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้า
เริ่มจากใกล้ๆ หากมาจากแยกสะพานควาย สามารถวิ่งตรงมาบนถนนประดิพัทธิ์ ผ่านแยกประดิพัทธิ์ ตรงมาเรื่องๆจะเจอแยกสะพานแดง สามารถเลือกใช้ได้ 2 ทางทั้งไปทางถนนเตชะวณิชผ่านแยกวัดสะพานสูงแล้วจะเลี้ยวเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอโครงการ หรืออีกเส้นทางสามารถมาทางถนนทหารก็ได้ พอถึงแยกเกียกกายให้เลี้ยวขวาวิ่งบนถนนประชาราษฎร์สาย 1 ตรงมาเรื่อยๆ เจอสี่แยกบางโพให้เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ซึ่งจะยังเข้าโครงการไม่ไ้ด้นะคะ ต้องไปยูเทิร์นที่หน้า The Tree Interchange ซึ่งขับไปอีกประมาณ 400 เมตรแล้วยูเทิร์นกลับมา ขับมาอีก 300 เมตร จะเจอโครงการอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
หรือหากใครมาจากอีกฟากของแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างมา จากถนนจรัญสนิทวงศ์ ข้ามสะพานพระราม 7 มา เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฏร์สาย 1 จากนั้นตรงมาเรื่อยๆจนถึงแยกบางโพ ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ไปยูเทิร์นที่หน้า The Tree Interchange ก็มาถึงโครงการได้ค่ะ
หากมาจากสะพานซังฮี๊(สะพานกรุงธนบุรี) จะลงสะพานที่ถนนราชวิถี แล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสามเสน ตรงมาเรื่อยๆผ่านแยกบางกระบือ ผ่านแยกเกียกกาย แล้วตรงไปขับไปบนถนนประชาราษฎร์สาย 1 จนถึงแยกบางโพ ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ก็สามารถมาที่โครงการได้
บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ 2-4 ชั้น และคอนโด High Rise โดย
ทางทิศเหนือ จะติดกับ ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ซึ่งเป็นถนนทางเข้าออกหลักของโครงการ ห้องที่อยู่ทางทิศนี้จะได้วิวของแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และ ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 ซึ่งถ้าห้องในชั้น 7-10 กว่าๆ ก็อาจจะมีเสียงรถวิ่งหรือรถไฟฟ้าดังรบกวนอยู่เรื่อยๆ
ทิศตะวันออก ติดกับอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ห้องที่อยู่ทางทิศนี้จะได้วิวเมือง แต่ก็อาจจะมีตึกของ The tree Interchange มากวนวิวในห้องด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้อยู่บ้าง
ทิศใต้ ติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้นและที่ดินว่างเปล่า โดยห้องที่อยู่ทางทิศนี้จะเห็นวิวอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ และสะพานเกียกกาย
ทิศตะวันตก ติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น และ Napahe Place คอนโด 8 ชั้นที่อยู่ถัดออกไป โดยห้องที่อยู่ทางทิศนี้จะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งถ้าต้องการเห็นวิวควรจะเลือกประมาณชั้น 10 เป็นต้นไปเพราะห้องที่อยู่ต่ำกว่านี้จะติดวิวของ Napha Place ค่ะ
วิวจากโครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ ระดับความสูง 45 เมตร หรือประมาณชั้นที่ 16 ทางทิศตะวันตกถึงทิศใต้จะเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา
วิวจากโครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ ระดับความสูง 45 เมตร หรือประมาณชั้นที่ 16 ทางทิศตะวันออกถึงทิศเหนือจะเห็นวิวเมือง โดยห้องทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะโดนตึกของ The Tree interchange ทั้ง 2 อาคาร บังวิวบางส่วน
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- โรงพยาบาลบางโพ ~130 ม.
- ท่าเรือด่วนบางโพ ~350 ม.
- ตลาดเตาปูน ~1 กม.
- เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น ~1.3 กม.
- รัฐสภาใหม่ ~1.3 กม.
- กรมสรรพาวุธ ทหารบก ~1.7 กม.
- สุพรีม คอมเพล็กซ์ สามเสน ~2 กม.
- แมคโคร สามเสน ~2 กม.
- โรงพยาบาลยันฮี ~2.36 กม.
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตพระนครเหนือ ~2.2 กม.
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ~2.9 กม.
- โรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล ~5 กม.
- JJ Mall ~5 กม.
- สวนจตุจักร ~5.5 กม.
- JJ Green ~5.8 กม.
- ยูเนี่ยน มอลล์ 7 ~กม.
- เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว ~8 กม.
โครงการ ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ เป็นคอนโด High Rise ที่มาพร้อมกับคอนเซปต์ The Ultimate Selection คือ “Location” การเลือก ทำเล ที่เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าและสถานที่สำคัญหลายแห่ง, “River” รับวิวจากโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา และ “Product Uniqueness” การออกแบบตามบริบทของพื้นที่ โดยนำแรงบันดาลใจจากทำเลของโครงการที่อยู่ในย่านบางโพซึ่งเป็นย่านเก่าแก่ เป็นแหล่งค้าขายไม้ที่ขึ้นชื่อ โครงการจึงออกแบบงานสถาปัตยกรรมให้มีการถ่ายทอดลายไม้ฝาปะกนลงบนลวดลายตัวอาคาร ซึ่งโครงการจะใช้โทนสีขาว-น้ำตาล-เทาเข้ม มาใช้ใน Facade ของอาคาร รวมทั้งสอดแทรกพื้นที่สวนเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้อาคารด้วยค่ะ
โดยเราจะพาไปดูห้องตัวอย่างกันที่สำนักงานขาย ซึ่งบนถนนประชาราษฎร์สาย 2 อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ The Tree interchange ห่างจากโครงการประมาณ 290 เมตร
โดยตัว Sale Office อยู่ติดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2 ฝั่งขาออกไปทางสถานีรถไฟฟ้า Interchange เตาปูนค่ะ
Sale Office มีการออกแบบโดยจำลองบรรยากาศตัวอาคารที่ใช้ไม้มาเป็นองค์ประกอบ เดี๋ยวเราจะพาไปดูข้างในกันค่ะ
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ Lobby ต้อนรับ
ฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนของที่นั่งรับรองลูกค้า และโมเดลโครงการ
มาดูตัวอย่าง Model โครงการกันดีกว่าค่ะ หากอยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 มองไปที่โครงการจะได้มุมมองประมาณนี้
อาคารทางทิศเหนือ หรือด้านหน้าของโครงการจะติดกับถนนประชาราษฎร์สาย 2 ซึ่งเป็นถนนทางเข้า-ออกหลักทางเดียวของโครงการ ห้องที่เด่นๆทางทิศนี้ คือห้อง 1 Bedroom ใหญ่ ขนาด 42.5-49 ตารางเมตร อยู่ในชั้น 7-20 และห้อง Penthouse แบบ 3 Bedroom ขนาด 95.5 – 117 ตารางเมตร อยู่ในชั้น 21-22 Facilities หลักจะอยู่ที่ชั้น 23-24 และสวนหย่อมที่ชั้น 7 ให้ไปเดินเล่นได้
ทางเข้าโครงการอยู่ตรงถนนประชาราษฎร์สาย 2 ถนน รอบโครงการกว้าง 6 เมตร เข้ามาจะเจอป้อม รปภ. อยู่ทางซ้ายมือ เป็นรั้วกั้นไม้กระดก
ทางเดินรถในโครงการเป็นแบบ One way เมื่อเข้ามาแล้วจะสามารถเลี้ยวขวาจอดส่งคนที่จุด Drop off หน้า Lobby จากนั้นเลี้ยวขวามาเข้าที่จอดรถด้านข้างอาคาร โดยลานจอดรถจะอยู่ตั้งแต่ชั้น 1-6 หรือถ้าใครไม่ต้องการขึ้นตึก ก็สามารถวนไปจอดที่จอดรถใต้ตึกได้ โดยที่จอดรถทั้งหมด 134 คัน หรือคิดเป็นประมาณ 80% รวมจอดซ้อนคัน
โดยพื้นที่ด้านกหลังอาคาร จะมีพื้นที่เผื่อไว้ห้จอดรถใต้ตึก เมื่อจอดเสร็จแล้วก็เดินไปเขาอาคารที่ Lobby ด้านหน้า
พื้นที่สวนชั้น 7 ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือและทิศตะวันตกของอาคาร ซึ่งเป็นวิวด้านที่เห็นแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เนื่องจากสวนนี้อยู่ในทิศตะวันตก ตอนบ่ายอากาศจึงค่อนข้างร้อน โครงการจึงปลูกไม้ยืนต้นเพื่อสร้างร่มเงาให้เป็นทิวเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้ามาเดินเล่นตอนเย็นๆแดดร่มลมตกแล้วน่าจะอากาศดีกว่า
ห้อง Penthouse ที่อยู่ที่ชั้น 20-21 มีอยู่ทั้งหมด 4 ห้อง อยู่ทางทิศเหนือด้านนี้ ทิศตะวันตกวิวแม่น้ำ และทิศตะวันออกบางส่วน ส่วนชั้นบนจะเป็น Facilities หลัก เดี๋ยวเราจะพาไปดูในช่วงท้ายค่ะ
อาคารทางทิศตะวันออก จะติดกับอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ซึ่งจะตรงกับลานจอดรถจึงไม่ต้องกลัวเรื่องโดนบังวิว ห้องทางทิศนี้หลักๆจะเป็นห้อง 1 Bedroom เล็ก ขนาด 33.5-36 ตารางเมตร และ Penthouse แบบ 3 Bedroom ขนาด 95.5 -117 ตารางเมตร บางส่วน ซึ่งห้องที่อยู่ในด้านนี้จะได้รับแสงแดดในตอนเช้า และช่วงบ่ายก็ไม่ร้อนนัก วิวที่ได้จะเป็นวิวเมืองค่ะ แต่ก็จะมีห้องทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่โดนตึกของ The Tree Interchange บังวิวอยู่บ้าง ด้านหลังอาคารจะมีสวนหย่อมเล็กๆให้สามารถไปเดินเล่นได้
ซึ่งสวนหย่อมจะปลูกไม้ยืนต้น และเป็นลานกว้างๆให้เดินเล่น
อาคารทางทิศตะวันตก อยู่ติดกับไปรษณีย์บางโพที่เป็นอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 3 ชั้นครึ่ง ซึ่งเป็นด้านที่ติดกับลานจอดรถของอาคาร และมีตึกของ Napha Place คอนโด 8 ชั้น ที่อยู่ถัดออกไป ห้องที่อยู่ในด้านนี้จะเป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 68.78.5 ตารางเมตร ห้องฝั่งนี้จะเสียเปรียบฝั่งอื่นหน่อยตรงที่อากาศจะร้อนเลยในตอนบ่ายถีงเย็น แต่วิวที่ได้จะเป็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งแนะนำให้เลือกชั้น 10 ขึ้นไป เพราะต่ำกว่านี้จะโดน Napha Place บังวิว
อาคารทางทิศใต้ จะติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้นและที่ดินว่างเปล่าซึ่งเป็นที่ดินเดิมของโรงเรียนนวพัฒน์วิทยา ซึ่งในอนาคตอาจจะมีแนวโน้มว่าจะสร้างคอนโดหรือตึกสูงมาบังวิวเราได้นะ อันนี้ก็ต้องรอดูกันไป ซึ่งห้องที่อยู่ทางทิศนี้จะมีห้อง 1 Bedroomใหญ่ ขนาด 42.5-49 ตารางเมตร และห้อง 2 Bedroom ขนาด 68-78.5 ตารางเมตร ห้องฝั่งนี้จะร้อนหน่อยนะในช่วงบ่าย แต่จะได้ลมดี และได้วิวอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ และสะพานเกียกกายที่กำลังจะสร้างในอนาคต
ขึ้นมาดูที่ Facilities หลักในชั้น 23-24 จะประกอบด้วยสวนดาดฟ้า, สระว่ายน้ำและฟิตเนสค่ะ
สระว่ายน้ำเป็นระบบน้ำเกลือ มี Pool Deck ให้นั่งเล่นริมสระ และสวนสีเขียวรอบๆ ส่วนห้องฟิตเนสจะอยู่ด้านบนเป็นกระจกเต็มบาน สามารถมองวิวและสระว่ายน้ำขณะออกกำลังกายได้
ภาพจำลองบรรยากาศสระว่ายน้ำของโครงการค่ะ จะเห็นว่าสระว่ายน้ำมีการยกสูงขึ้นมามากว่า Pool Deck ด้านหน้า เพื่อให้สามารถมองวิวขณะที่ว่ายน้ำเล่นอยู่ในสระได้ พื้นที่ Pool Deck ด้านบนก็ยกอีก 1 ระดับ มี Day Bed ที่นั่งเล่นบนน้ำได้ด้วย ส่วนห้อง Fitness ด้านบนก็มองวิวสระว่ายน้ำ และแม่น้ำเจ้าพระยาไปด้วยเลย
มาดูกันที่ Master Plan ของโครงการ จะมีทางเข้าหลักติดถนน ประชาราษฎร์สาย2 ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือ ถนนรอบโครงการกว้าง 6 เมตร รถสามารถวิ่งสวนกันได้รอบ รวมทั้งมีที่จอดรถใต้อาคารให้ทางทิศตะวันออกและทิศใต้ พอขับรถเข้ามาในโครงการจะเจอ Drop-off ที่อยู่ด้านหน้าติดกับ Lobby ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนของ ห้องประชุม , ห้องนิติบุคคล , ห้องจดหมาย และ โถงลิฟท์ โดยจะมีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว คิดเป็นอัตราส่วน 86 : 1 ไม่ค่อยหนาแน่นมากเท่าใดนัก และมี Service Lift ให้ 1 ตัว ด้านนอกอาคารทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้มีสวนหย่อมให้ 1 จุด สามารถมาเดินเล่นออกกำลังกายได้ค่ะ
ผังอาคารชั้น 7 ขึ้นไปจะเป็นส่วนชั้นพักอาศัย โดยจะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 12 ห้อง แบ่งเป็นห้องแบบ 1 Bedroom เล็ก แบบ A1-A4 จำนวน 5 ห้องทางตะวันออกที่จะเห็นวิวเมือง , ห้องแบบ 1 Bedroomใหญ่แบบ B1-B2 ทางทิศใต้ที่จะเห็นวิวรัฐสภาแห่งใหม่และห้องแบบ 1 Bedroomใหญ่แบบ B3-B4 อยู่ทางทิศเหนือที่จะได้วิวเมืองที่เห็นถนนและรถไฟฟ้า และสุดท้ายห้องแบบ 2 Bedroom แบบ C1-C2 จำนวน 2 ห้อง ที่ห้องนี้จะพิเศษและคิดว่าน่าจะแพงกว่าห้องทิศอื่น เพราะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยตัวอาคารจะมีโถงลิฟต์และบันไดหนีไฟอยู่ตรงกลาง ทางเดินเป็น Double corridor ซึ่งชั้นนี้จะมีสวนหย่อมให้นั่งเล่น 1 จุด อยู่ทางทิศเหนือ
ชั้น 8-15 จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด แปลนห้องพักอาศัยจะเหมือนกับชั้น 7 ทุกประการค่ะ
ชั้น 17-20 ห้องพักจะลดลงมาเหลือ 11 ห้อง สังเกตว่าห้องที่หายไปคือห้องแบบ 1 Bedroom ใหญ่แบบ B3 ทางฝั่งทิศเหนือ ลดลงมาให้เหลือห้อง1 Bedroom ใหญ่แบบ B5 เพียงห้องเดียว ส่วนตำแหน่งและขนาดของห้องจะเหมือนกับชั้นพักอาศัยอื่นๆค่ะ
ชั้น 21-22เป็นชั้นที่พิเศษกว่าชั้นอื่น ๆ โดยจะเป็นชั้นที่มีห้อง Penthouse ชั้นละ2 ห้อง คือ ห้องแบบ P2 ขนาด 117 ตร.ม. วิวแม่น้ำ และแบบ P1 ขนาด 95.5 ตร.ม. สามารถมองวิวได้รอบทิศทาง ส่วนห้องที่เหลือ ก็จะมี 1 Bedroom แบบ B1-B2 จำนวน 3 ห้อง ทางฝั่งทิศใต้ และ 2 Bedroom แบบ C1 , C3 2 ห้อง หันทิศตะวันออกและตะวันตก ซึ่งห้องใน 2 ชั้นนี้ทั้งหมดจะได้ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร พิเศษกว่ากว่าชั้นอื่นๆ เพราะเป็นห้อง Type ใหญ่ค่ะ
ชั้น 23 ขึ้นไปเป็นชั้นของ Facilities แบ่งเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ มี Pool Deck ยื่นออกไปให้มองวิวทางทิศตะวันตกรับวิวแม่น้ำและทิศเหนือรับวิวเมืองที่มีถนนและแนวรถไฟฟ้า ข้างๆกันเป็นสวนพักผ่อนบนดาดฟ้า สามารถเดินรับลมชมวิวได้ทั้งฝั่งแม่น้ำและฝั่งวิวเมือง นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำส่วนกลางที่ประกอบด้วยห้องอบไอน้ำและห้องอาบน้ำให้ในตัว แยกชาย-หญิง เป็นสัดส่วน
ส่วนในชั้น 24 จะเป็นห้องออกกำลังกายที่สามารถออกกำลังกายไปมองวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและสระว่ายน้ำได้
https://youtu.be/jukvgh_9fWo
เอา Presentation จากทางโครงการมาให้ดู เพื่อจะได้เห็นภาพรวมมากขึ้นค่ะ
จากตรงนี้เราจะพาไปดูห้องตัวอย่างของโครงการกันนะ ^^
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด n/a เมตร แบ่งสระเด็กลึก n/a เมตร สระผู้ใหญ่ลึก n/a เมตร
- ห้องออกกำลังกาย
- ห้องจดหมาย
- ห้องประชุม
- ห้องอบไอน้ำ
- สวนที่ชั้น 7 และสวนดาดฟ้า
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 86 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน 134 คัน คิดเป็น 80 %
- ระบบ CCTV / Access Card
- มือจับประตูอัตโนมัติ
- เซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว
- กริ่งหน้าประตูดิจิตอล
- กล้องวงจรปิดส่วนตัว
- สิทธิ์ที่จอดรถ Type A และ B สิทธิ์ที่จอดรถไม่ประจำ 1 คัน
- Type C สิทธิ์ที่จอดรถไม่ประจำ 2 คัน
- Type Penthouse สิทธิ์ที่จอดรถประจำ 1 คัน และสิทธิ์ที่จอดรถไม่ประจำ 1 คัน
ตัวยูนิตของชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ จะขายแบบ Fully Furnish ให้เฟอร์นิเจอร์แต่งครบ, ชุดครัว, แอร์ติดผนัง, ตู้อาบน้ำ และวอลล์เปเปอร์ ขนาดห้องตั้งแต่ 33.5-36 ตารางเมตร มีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ คือ
- 1 Bedroom(เล็ก) A1-A5 ขนาด 33.5-36 ตารางเมตร มีจำนวน 65 ยูนิต ให้เฟอร์นิเจอร์แต่งครบ, ชุดครัว, แอร์ติดผนัง, ตู้อาบน้ำ และวอลล์เปเปอร์
- 1 Bedrooms (ใหญ่) B1-B5 ขนาด 42.5-49 ตารางเมตร มีจำนวน 71 ยูนิต ให้เฟอร์นิเจอร์แต่งครบ, ชุดครัว, แอร์ติดผนัง, ตู้อาบน้ำ, วอลล์เปเปอร์ และเพิ่มอ่างอาบน้ำ
- 2 Bedrooms C1-C3 ขนาด 68-78.5 ตารางเมตร มีจำนวน 32 ยูนิต ให้เฟอร์นิเจอร์แต่งครบ, ชุดครัว, แอร์ติดผนัง, ตู้อาบน้ำ, วอลล์เปเปอร์ และเพิ่มอ่างจากุซซี่
- 3 Bedrooms (Penthouse) P1-P2 ขนาด 95.5-117 ตารางเมตร มีจำนวน 4 ยูนิต ให้เฟอร์นิเจอร์แต่งครบ, ชุดครัว, แอร์ติดผนัง, ตู้อาบน้ำ, วอลล์เปเปอร์, เพิ่มอ่างจากุซซี่ แอร์ฝังฝ้าเพดาน และเพิ่มสิทธิ์ที่จอดรถฟรี
โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปดูในวันนี้ คือห้องแบบ 1 Bedrooms (ใหญ่) ขนาด 44.5 ตารางเมตร และห้อง 2 Bedrooms ขนาด 78.5 ตารางเมตร ค่ะ
เรามาเริ่มกันที่ห้องแบบ 1 Bedrooms (ใหญ่) B1-B5 ขนาด 42.5-49 ตารางเมตร ห้องมีขนาด 6.35 x 7.30 เมตร เหมาะการอยู่อาศัย 1-2 คน ถ้ามากกว่านี้ก็เริ่มอึดอัดแล้วค่ะ พื้นที่ใช้สอยของห้องนี้ค่อนข้างครบและ Fix ปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่ได้มากนัก โดยเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาเราจะเจอกับครัวเปิดที่มีการ Built-in เคาท์เตอร์รูปตัว U ให้เป็น Pantry ประกอบอาหาร และโต๊ะนั่งรับประทานอาหารได้ประมาณ 2-3 ที่นั่ง ถัดไปเป็นห้องรับแขก ที่โครงการแถมโซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางให้ขนาดพอดีๆกับพื้นที่ ถัดไปเป็นระเบียงให้สามารถออกไปนั่งเล่นมองวิวได้ ติดกันเป็นห้องนอน ที่โครงการจัดเตียงขนาด 6 ฟุตมาให้ นอนได้ 2 คนกำลังดี โดยในห้องมี Walk-in closed ที่ Built-in มาให้พร้อมห้องน้ำในตัวที่สามารถเปิดประตูบานเลื่อนออกไปทะลุห้องนั่งเล่นได้
โดยรวมแล้ว การจัดฟังก์ชั่นของห้องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น นอกจากห้องน้ำที่มีจำนวน 1 ห้อง แต่มีทางเข้าออกได้ 2 ทาง คือทางห้องครัว และห้องนอน โดยด้านที่ติดต่อกับห้องครัวจะเป็นห้องส้วม ส่วนด้านที่ติดต่อกับห้องนอนจะเป็นห้องอาบน้ำ โดยมีฉากกั้นกระจกบานเลื่อนเป็นตัวแบ่งพื้นที่ ถือว่าเป็นสัดเป็นส่วนดี เพียงแต่ห้องส้วมจะเล็กไปสักหน่อย อาจไม่ค่อยเหมาะสำหรับคนตัวใหญ่หรือคนที่ชอบนั่งส้วมกว้างๆ
เฟอร์นิเจอร์ที่แถม : ให้เฟอร์นิเจอร์แต่งครบชุดทั้งลอยตัวและ Built-in ของ Starmark, ชุดครัว, แอร์ติดผนัง, ตู้อาบน้ำ, วอลล์เปเปอร์ และเพิ่มอ่างอาบน้ำ
ประตูห้องเป็นประตูสำเร็จรูปลามิเนตลายไม้ ตาแมวให้และกลอนประตูเป็น Digilal Door Lock ของ Yale
กลอนประตู Digital door lock ของ Yale เป็นมือจับก้านโยกสแตนเลส สามารถเข้าออกได้โดยใช้ Key card เวลาเราเข้า-ออกห้องจะได้ยินสัญญาณเตือนทุกครั้ง
เปิดประตูมาจะเจอห้องครัวที่เชื่อมต่อกับห้องขนาด 2.90 x 5.80 เมตร ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร ติดวอลเปเปอร์ให้ทั้งหมด โดยโครงการจัดพื้นที่ให้เป็นครัวเปิดและห้องรับแขก ที่มีประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ให้นั่งมองวิว หรือเปิดออกไปนั่งเล่นที่ระเบียงได้
มองลงมาที่พื้นมีการยกธรณีเล็กน้อย ด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีดำ ปิดคิ้วด้วยลามิเนต ส่วนพื้นห้องครัวถึงห้องรับแขกปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 12 เซนติเมตร
ลองมองกลับไปที่หน้าห้องจะเห็นส่วนของห้องครัวและส่วนรับประทานอาหาร ด้านขวามือจะเป็นทางเข้าห้องน้ำและตู้เก็บของ ส่วนทางซ้ายมือเป็นชุดครัว Built-in และโต๊ะรับประทานอาหารค่ะ
ส่วนครัวทั้งหมดจะดูเป็นรูปตัว U โดยแบ่งพื้นที่เป็นส่วนประกอบอาหารรูปตัว L และโต๊ะรับประทานอาหารเล็กๆขนาด 2 ที่นั่งที่ Built-in มาให้ข้างๆกัน วัสดุปิดผิวบานเปิดตู้ใช้ Hi-gloss ทำให้ดูมันเงาและทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนพื้นครัวปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้ ซึ่งมีข้อเสียคือ เวลาเราประกอบอาหารหรือล้างจาน อาจจะมีน้ำหรือเศษอาหารกระเด็นลงมาที่พื้นได้ ซึ่งลามิเนตเนี่ยเวลาที่โดนน้ำหรือความชื้นสะสมไปนานๆเข้าจะบวมขึ้นได้ ดังนั้นหากทำอาหารหรือทำน้ำหกให้รีบเช็ดอย่าทิ้งไว้นะคะ
เคาท์เตอร์ครัวด้านล่างเป็นรูปตัว L จะติดตั้งฟังก์ชั่นมาให้ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งที่วางช้อน ตู้ใส่ของ เตาอบไมโครเวฟ ช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้าที่เดินงานระบบมาให้แล้ว และถังขยะแบบมีฝาปิดที่ติดตั้งมาให้ใต้ซิ้งค์ล้างจาน
ถังขยะใต้ซิ้งค์ล้างจาน
เตาอบไมโครเวฟของ Teka
บานพับของตู้ทั้งหมดเป็นแบบ Soft closed
ท็อปเคาท์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคาระห์ เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย โครงการติดตั้งเตาและที่ดูดควันและซิงค์ล้างจานมาให้ ผนังเคาท์เตอร์ครัวติดกระจกชาทอง สามารถเช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกได้ง่าย รวมทั้งติดตั้งชั้นวางของแสตนเลสมาให้ด้วย
เตาและที่ดูดควันของ Taka
ชั้นสแตนเลสสำหรับวางชามเล็กๆหรือจานรองถ้วยกาแฟได้
ซิงค์ล้างจานขนาดไม่ใหญ่มาก ก็อกน้ำแสตนเลสทรงโค้งหมุนได้ซ้าย-ขวา ของ Teka
ส่วนตู้ครัวด้านบน เปิด-ปิด ออกมาได้แบบนี้ ใส่ของได้เยอะดี
ตัวบานตู้จะไม่มีมือจับ แต่ตัวบานจะยาวลงมาเล็กน้อยเพื่อเราเปิดตู้แบบนี้ได้ค่ะ
โต๊ะรับประทานอาหาร Built-in ติดกับเคาท์เตอร์ครัว โครงการแถมเก้าอี้มาให้ 2 ตัวของ Starmark
ฝั่งตรงข้ามกับครัวเป็นห้องน้ำ ซึ่งบานประตูของจริงจะติดตั้งบานประตูสำเร็จรูปสีขาวมาให้
พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงมาเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีดำ ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ธรณีประตูปูด้วยหินแกรนิตสีดำและปิดคิ้วด้วยลามิเนตลายไม้
ห้องน้ำเป็นรูปตัว L มีขนาดค่อนข้างเล็กเหมือนห้องน้ำคนญี่ปุ่นเลยค่ะ ฟังก์ชั่นมีแค่ส่วนนั่งส้วมและอ่างล้างหน้า
อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าค่อนข้างเล็ก ของ Cristina
ก็อกน้ำของ Cristina
ฝั่งตรงข้ามเป็นโถสุขภัณฑ์ ระยะนั่งส้วมหน้ากว้างประมาณ 67 เซนติเมตร ซึ่งเป็นระยะที่ค่อนข้างแคบพอดี๊พอดีตัวเกินไปหน่อย ฝั่งขวามือติดตั้งสายฉีดชำระมาให้ ส่วนที่แขวนกระดาษทิชชู่ต้องเอื้อมมาหยิบด้านหน้าที่มีระยะเอื้อมประมาณ 60 เซนติเมตร อะหืม.. นึกถึงนะว่า เพิ่งทำธุระเสร็จ แล้วต้องเอื้อมมาหยิบกระดาษทิชชู่เพื่อไปเช็ดทำความสะอาด เราว่าเป็นฟังก์ชั่นที่ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ พอสุดท้ายแล้วอาจจะกลายเป็นว่าต้องเอาม้วนกระดาษทิชชู่มาวางบนแท๊งค์น้ำเพื่อหยิบใช้แทน แต่การติดตั้งที่แขวนกระดาษทิชชู่ตรงนี้ก็มีข้อดีตรงที่เวลาเรามาล้างมือที่อ่างล้างหน้าก็สามารถหยิบทิชชู่จากตรงนี้เช็ดมือได้เลย สะดวกดี
ฝ้าเพดานติดตั้งไฟดาวน์ไลน์มาให้ 1 ดวง
ถัดจากห้องน้ำไปจะเป็นตู้เก็บของที่โครงการ Built-in มาให้ โดยตู้ด้านบนจะมีชั้นวางของให้ 3 ชั้น ส่วนด้านล่างจะเว้นช่องว่างขนาด 0.60 x 0.70 เมตร สูง 1.80 เมตร ให้วางตู้เย็น ซึ่งตู้เย็นโครงการไม่ได้แถมให้นะ
ข้างๆกันเป็นตู้เก็บของและชั้นวางรองเท้า หน้าบานตู้เป็นกระจกเงาสีชาค่ะ
ด้านล่างของชั้นวางรองเท้า มีรูระบายอากาศให้ด้วย ป้องกันกลิ่นอับในตู้รองเท้า
เวลาเปิด-ปิด จะมีช่องว่างให้จับที่บานตู้แบบนี้นะคะ
โดยระยะห่างระหว่างตู้ Built-in กับโต๊ะรับประทานอาหาร ห่างกันประมาณ 1 เมตร เป็นระยะที่ใช้เดินผ่านสบายๆ
ถัดไปเป็นส่วนของห้องรับแขกที่โครงการ Built-in ตู้วางทีวี รวมทั้งแถมโซฟาและโต๊ะกลางให้ ระยะดูทีวีประมาณ 2.20 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาด 46″-52″ จะเป็นขนาดที่พอดีกับสายตา ถัดไปเป็นประตูกระจกเต็มบาน สามารถนั่งมองวิวจากตรงนี้และใช้เดินออกไปสู่ระเบียงได้
โซฟาที่โครงการแถมให้ เป็นโซฟาสีขาว 2 ที่นั่ง ขนาด 2.05 x 1.00 เมตร โต๊ะกลางเป็นทรงกลมท็อปลายหินอ่อน
ตรงข้ามกับโซฟา โครงการจะ Built-in ชั้นวางของด้านบน และตู้วางทีวีให้
ตู้วางทีวีที่โครงการ Built-in มาให้เปิด-ปิด ออกมาหน้าตาแบบนี้ค่ะ
ตู้วางทีวีหน้าบานเรียบ ไม่มีมือจับ แต่จะมีช่องว่างให้เปิดแบบนี้
ถัดไปเป็นประตูบานเลื่อน กระจกใสเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมสีดำ
ตัวล็อกบานประตู
โดยโครงการจะ Drop ฝ้าเพดานไว้ให้เพื่อให้ติดตั้งรางผ้าม่านด้วย
มีการยกธรณีประมาณ 17 เซนติเมตร รวมรางเลื่อนประตู พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาเข้ม ขนาด 0.60 x 0.60 เมตร
ระเบียงมีพื้นที่ 1.10 x 2.90 เมตร ค่อนข้างกว้าง สามารถวางโต๊ะ-เก้าอี้ นั่งเล่นได้ เพราะที่วาง Compressor แอร์ จะแขวนไว้ด้านบนทำให้ระเบียงไม่ร้อน ราวระเบียงเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำ สูง 1.10 เมตร
ระเบียงอีกฝั่งหนึ่งติดตั้งโคมไฟสีดำมาให้ด้วย
จากระเบียงมองเข้าไปในห้องจะเห็นพื้นที่ห้องรับแขก และห้องครัวทั้งห้อง
ถัดไปเราจะไปดูห้องนอน ซึ่งประตูห้องของจริงจะใช้ประตูสำเร็จรูปลามิเนตลายไม้
ห้องนอนขนาด 3.10 x 3.45 เมตร ขนาดของห้องไม่ใหญ่มาก แต่โครงการแถมเตียง King size ขนาด 6 ฟุตมาให้ เลยจะเต็มพอดีๆกับพื้นที่ห้องเลยค่ะ
มองเข้าไปในห้องขนาดกระทัดรัด วางเตียงก็เกือบเต็มแล้ว พื้นที่ปลายเตียงโครงการ Built-in ชั้นวางของหรือวางทีวีขนาด 0.40 x 1.50 เมตร ก็ยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงให้เดินผ่านได้สบายๆ โดยห้องนี้จะมีช่องเปิดขนาดใหญ่ให้ 1 ช่องเป็นหน้าต่างกระจกสามารถนอนมองวิวได้จากตรงนี้
หน้าต่างประตูกระจกค่อนข้างใหญ่บาน Fix โดยมีบานกระทุ้งให้ 2 บานซ้ายขวา
ฝ้าเพดาน Drop ฝ้าเพดานเพื่อให้ติดตั้งรางผ้าม่าน
โดยพื้นที่จากเตียงถึงหน้าต่างมีระยะประมาณ 0.80 เมตร สามารถเดินมาเปิด-ปิดหน้าต่างได้สบายๆหรือรูดผ้าม่านเปิด-ปิดได้สบาย โต๊ะวางของที่หัวเตียงตัวนี้โครงการแถมให้ด้วยนะ แต่โคมไฟไม่ได้ให้
พื้นที่ข้างเตียงอีกด้านเป็นพื้นที่โต๊ะทำงาน ข้างๆกันเป็น Walk-in closed
โดยพื้นที่ข้างเตียงตรงนี้มีระยะ 1.28 เมตร โครงการให้โต๊ะทำงานขนาด 0.40 x 1.50 เมตรและเก้าอี้ชุดนี้มาให้ ซึ่งถ้าเทียบขนาดพื้นที่กับเฟอร์นิเจอร์ที่แถมมากก็ลงตัวนะ เป็นระยะที่สามารถนั่งทำงานได้สบายๆไม่อึดอัด
พื้นที่ Walk-in closed ตรงผนังทั้งสองฝั่งจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าเต็มผนังมาให้แบบนี้ พื้นที่ช่องทางเดินมีระยะ 0.80 เมตร
ตู้ที่โครงการ Built-in มาให้ทั้งสองฝั่งเป็นตู้สูงถึงฝ้าเพดาน เมื่อเปิด-ปิดประตูตู้แล้วจะหน้าตาแบบนี้ ตัวหน้าบานจะเป็นกระจกสีชาดำ
เมื่อเปิดตู้ออกมาจะมีสวิตซ์ไฟเล็กๆด้านบนทางขวามือให้สามารถเปิด-ปิดไฟได้ หน้าตาสวิตซ์จะเป็นกลมๆดำๆแบบนี้ ไฟตู้เสื้อผ้าเป็น LED สีเหลือง
ด้านในตู้เสื้อผ้าจะมีราวแขวนเสื้อ และลิ้นชักให้ 2 ชั้น
ส่วนตู้เสื้อผ้าด้านบนใช้หน้าบานเป็นกระจกสีชาดำเช่นกัน ด้านในเป็นชั้นวางของ 2 ชั้น บานพับเป็นแบบ Soft closed
ข้างๆกันก็เป็นชั้นวางของอเนกประสงค์ เต็มผนังเลย
ตรงข้ามกันเป็นทางเข้าห้องน้ำ บานประตูใช้กระจกฝ้า กรอบอลูมิเนียมสีดำ
ห้องน้ำมีขนาด 1.70 x 3.10 เมตร ขนาดห้องค่อนข้างใหญ่ ประกอบด้วยพื้นที่อาบน้ำ อ่างล้างหน้า และอ่างอาบน้ำ
พื้นห้องน้ำมีการลดระดับเล็กน้อยปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา ขนาด 0.60 x 0.60 เมตร ธรณีประตูเป็นแกรนิตโต้สีดำ ปิดคิ้วด้วยลามิเนตลายไม้
ทางซ้ายมือเป็นห้องอาบน้ำขนาด 0.95 x 1.00 เมตร อาบน้ำได้สบายๆไม่อึดอัด กั้นห้องอาบน้ำให้ด้วยประตูกระจกนิรภัย มือจับค่อนข้างใหญ่ดี
ตรงประตูมีการยกธรณีขึ้นเล็กน้อยด้วยแกรนิตโต้สีดำป้องกันน้ำไหลไปสู่ส่วนแห้ง พื้นห้องอาบน้ำสี่เหลี่ยมตรงกลางเป็นทรายล้างกันลื่น รอบๆเป็นกระเบื้องเซรามิค
ท่อระบายน้ำแบบมีฝาครอบ ดูสวยงามเรียบร้อยดี สามารถเปิดฝาออกมาทำความสะอาดได้
หัวฝักบัวเป็นเหมือนโดนัทกลมๆมีรูตรงกลางใหญ่และแปลกดี
ส่วนเคาทฺ์เตอร์อ่างล้างหน้า Built-in ตู้เก็บของบานเปิดคู่มาให้ ส่วนที่ผนังติดตั้งกระจกเงาบานยาวไปจนถึงอ่างอาบน้ำด้านข้าง
อ่างล้างหน้ารูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าของ Cristina ใหญ่ดี มีพื้นที่ด้านข้างให้วางของด้วย
ก็อกน้ำของ Cristina
ถัดไปเป็นอ่างอาบน้ำขนาด 0.70 x 1.70 เมตร ที่ผนังด้านซ้ายมือติดตั้งราวแขวนผ้าไว้ให้ และมีไฟดาวน์ไลท์ให้ 1 ดวง
ก็อกน้ำสแตนเลสทรงโค้ง
ที่ผนังข้างอ่างอาบน้ำมีประตูกระจกฝ้า บานเลื่อนคู่ สามารถเลื่อนซ้ายขวาแบบนี้ได้
โดยเมื่อเปิดประตูออกไปก็จะเจอกับห้องส้วม ที่มีประตูทะลุออกไปสู่ห้องครัวได้นั่นเองค่ะ ซึ่งการออกแบบให้ที่มีประตูทะลุแบบนี้จะมีข้อดีตรงที่ เราสามารถเข้าห้องน้ำได้จากทางห้องนอนและห้องครัว รวมทั้งยังสามารถใช้งานทั้งห้องอาบน้ำและห้องส้วมพร้อมๆกันได้ค่ะ
ถัดมาเป็นห้อง 2 Bedrooms 2 Bathroom C1-C3 ขนาด 68-78.5 ตารางเมตร เหมาะกับการอยู่อาศัย 3-4 คนเป็นครอบครัวเล็กๆ โดยฟังก์ชั่นของห้องนี้ก็ค่อนข้าง Fix เนื่องจากมีการ Built-in และแถมเฟอร์นิเจอร์มาให้แล้วแต่ก็ยังปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้มากกว่าห้องแบบแรกเพราะห้องกว้างและมีลูกเล่นเยอะกว่า
โดยเข้ามาในห้องจะเจอกับห้องครัวเปิดที่มีทั้ง Pantry รูปตัว L และโต๊ะรับประทานอาหาร Buit-in ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็น Island kitchen ได้ซึ่งครัวจะเชื่อมต่อกับห้องรับแขกที่มีประตูกระจกบานเลื่อนให้สามารถนั่งมองวิว และเดินออกไปนั่งเล่นที่ระเบียงได้ ถัดไปเป็น Corridor ที่เชื่อมต่อกับห้องนอนเล็ก ห้องน้ำ และห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำขนาดใหญ่มากกกกกกก เท่าๆกับห้องนอน ซึ่งในห้องน้ำค่อนข้างกว้าง แยกเป็นสัดส่วน มีทั้งอ่างล้างหน้าแบบ 2 อ่าง ห้องส้วม ห้องอาบน้ำ และอ่างอาบน้ำที่มีผนังเป็นกระจกโปร่ง สามารถนอนแช่น้ำในอ่างมองวิวเมืองไปได้
เฟอร์นิเจอร์ที่แถม : ให้เฟอร์นิเจอร์แต่งครบชุดทั้งลอยตัวและ Built-in ของ Starmark, ชุดครัว, แอร์ติดผนัง, ตู้อาบน้ำ, วอลล์เปเปอร์ และเพิ่มอ่างจากุซซี่
ประตูทางเข้าห้องเป็นประตูสำเร็จรูปลามิเนตลายไม้ กลอนประตูใช้ Digital Door Lock ของ Yale มือจับก้านโยกสแตนเลส
เปิดเข้ามาในห้องจะเจอครัวเปิดที่เชื่อมต่อกับห้องนอน พื้นที่รวม 3.74 x 5.65 เมตร ขนาดห้องค่อนข้างใหญ่ แต่โครงการได้จัดวางเฟอร์นิเจอร์และ Built-in มาให้แล้ว ฟังก์ชั่นจึงค่อนข้าง Fix หากจะปรับเปลี่ยนก็พอทำได้แต่ไม่มาก ห้องนี้ก็ติดตั้งระบบ Sensor เปิดไฟให้อัตโนมัติเช่นกัน
เรามองกลับไปที่ประตูทางเข้า จะเห็นว่ามีการ Built-in ครัว และโต๊ะรับประทานอาหารมาให้ทางซ้ายมือ ส่วนทางขวามมือจะเป็นตู้ชั้นวางของและรองเท้า ซึ่งระยะจากโต๊ะรับประทานอาหารถึงตู้ทางขวามือจะเหลือช่องทางเดิน 1.40 เมตร เป็นระยะที่กว้างสบายๆค่ะ
ส่วนของครัวเปิด โครงการจะ Built-in ครัวรูปตัว L มาให้ รวมทั้งโต๊ะรับประทานอาหารที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็น Island kitchen ได้
เคาท์เตอร์ครัวด้านล่างเป็นรูปตัว L ความกว้าง 0.60 เมตร สูง 0.90 เมตร หน้าบานบุด้วยลามิเนตลายไม้ ส่วนท็อปเคาท์เตอร์บุด้วยหินสควอซลายหินอ่อน จะได้เฉพาะห้อง 2 Bedroom เท่านั้นนะคะ
เวลาปิด-เปิดตู้จะเปิดออกแบบนี้ค่ะ
เมื่อเปิดตู้ออกมาจะมีที่วางจาน วางช้อน ถังขยะแบบมีฝาปิดใต้ซิงค์ล้างจาน
มีช่องว่างให้วางเครื่องซักผ้าขนาด 0.60 x 0.64 เมตร ความสูง 0.90 เมตร
ท็อปเคาท์เตอร์ครัวติดตั้งเตาและที่ดูดควัน รวมทั้งซิงค์ล้างจานมาให้ 2 ช่อง ที่ผนังติดกระจกสีชาทอง เพิ่มความสวยงามและทำความสะอาดได้ง่าย
เตาและที่ดูดควันของ Teka
ชั้นวางของสแตนเลสก็ติดตั้งมาให้เหมือนห้องแบบแรก
ซิงค์ล้างจานติดตั้งมาให้ 2 ช่อง สามารถล้างน้ำยาล้างจานช่องนึง และล้างน้ำเปลาอีกช่องนึง สะดวกดี
ก็อกน้ำสแตนเลสทรงโค้งของ Teka
ตู้ครัว Built-in ด้านบนเปิด-ปิดออกมา ได้ที่วางของค่อนข้างเยอะ
ครัวอีกด้านมีการ Built-in ตู้เก็บของมาให้เต็มถึงฝ้าเพดาน รวมทั้งมีช่องว่างขนาด 0.60 x 0.70 เมตร สูง 1.90 เมตร มาให้สำหรับวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้สบายๆ
โต๊ะรับประทานอาหารขนาด 1.00 x 1.80 เมตร Built-in ติดตั้งกับพื้นให้เลย รวมทั้งแถมเก้าอี้ 4 ตัวนี้ให้ด้วย ของ Starmark
โดยระยะจากเก้าอี้ถึงเคาท์เตอร์ครัวด้านขวามือมีความกว้าง 0.83 เมตร ส่วนทางซ้ายมือ 1.40 เมตร เป็นระยะที่ค่อนข้างกว้าง นั่งรับประทานอาหารได้สบายๆเลย หรือถ้าไม่นั่งทานข้าว ตรงนี้ก็สามารถใช้เป็น Island kitchen วางเครื่องปรุงเพื่อการประกอบอาหารก็ยังได้ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกับครัว โครงการ Built-in ตู้วางรองเท้าแบบเต็มผนังมาให้ หน้าบานตู้เป็นกระจกชาทอง เพิ่มความหรูหราและทำให้ห้องดูกว้างขึ้น
เมื่อเปิดออกมา ทางขวามือจะเป็นชั้นวางรองเท้าที่มีรูระบายอากาศให้ด้วย กันกลิ่นเหม็นอับในตู้ ส่วนทางซ้ายมือเป็นตู้วางของ
ชั้นวางของเป็นกระจกสีชาดำ บานพับเป็นแบบ Soft closed ค่ะ
โดยหน้าบานตู้จะมีครีบอลูมิเนียมให้จับเพื่อเปิด-ปิดแบบนี้ค่ะ
ถัดไปเป็นห้องรับแขก พื้นที่ประมาณ 2.60 x 3.74 เมตร ขนาดกลางๆไม่กว้างมาก โครงการ Built-in ตู้วางทีวีมาให้ รวมทั้งชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลาง ขนาดพอดีๆกับห้องค่ะ จากห้องรับแขกสามารถมองวิวเมืองหรือเดินออกไปรับลมที่ระเบียงได้
โดยที่ผนังชั้นวางทีวีมีการ Built-in ตู้วางของเต็มพื้นที่ผนังให้แบบนี้เลย
ตู้วางทีวีด้านล่างเป็นตู้ยาว เมื่อเปิดออกมาจะมีพื้นที่เก็บของค่อนข้างเยอะ
บานตู้ออกแบบให้เอียง 45 องศา เพื่อให้เราสามารถ เปิด-ปิด โดยจับที่บานตู้แบบนี้ได้เลย หน้าบานจึงเรียบแบบโมเดิร์น
ซึ่งชั้นวางทีวี จะลอยขึ้นมาจากพื้นแบบนี้ เป็นที่เก็บฝุ่นชั้นดีเชียวหละ
ส่วนตู้ Built-in ด้านบนเป็นบานกระทุ้ง เวลาเปิดออกมาหน้าบานจะมีตัวค้ำเปิดได้ไม่เต็มบาน เก็บของเล็กๆน้อยๆได้
เปิดจากตัวบานได้แบบนี้เลย
โซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งขนาด 0.85 x 2.20 เมตร และโซฟา 1 ที่นั่งอีก 1 ตัวพร้อมโต๊ะกลาง
ประตูทางออกระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อนคู่ กรอบอลูมิเนียมสีดำ
ตัวล็อกประตูหน้าตาแบบนี้
มีการยกธรณีประตูขึ้นมาประมาณ 17 เซนติเมตร รวมรางเลื่อน พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ราวระเบียงเป็นเหล็กโปร่งสูง 1.10 เมตร
พื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.95 x 3.74 เมตร วาง Compressor แอร์ไว้ด้านบน ทำให้ระเบียงไม่ร้อนมากเวลาเปิดเครื่องปรับอากาศ สามารถมายืนรับลมได้ค่ะ ที่ระเบียงด้านนี้ติดโคมไฟมาให้ด้วย
ถัดไปเป็น Corridor ทางเดินที่จะพาไปสู่ห้องนอนเล็ก ห้องน้ำและห้อง Master Bedroom ขนาดช่องทางเดินกว้าง 1 เมตร
เรามาเริ่มกันที่ห้องนอนเล็ก ประตูทางเข้าของจริงจะเป็นประตูลามิเนตลายไม้ พื้นก็เป็นลามิเนตลายไม้ไม่มีการยกรณีประตู
ห้องนอนมีขนาด 3.71 x 2.60 เมตร โครงการวางเตียง Queen size ขนาด 5 ฟุตมาให้ ค่อนข้างเต็มพื้นที่
พื้นที่ปลายเตียงเหลือ 0.50 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่ค่อนข้างแคบ แต่โครงการได้ Built-in ตู้มาให้หน้าตาแบบนี้แล้ว สามารถใช้เป็นที่วางของหรือชั้นวางทีวีได้ค่ะ
ช่องเปิดเป็นหน้าต่างบาน Fix และมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้ 2 ด้าน ซ้ายกับขวา
ซึ่งเหลือพื้นที่ข้างเตียงแค่ 20 เซนติเมตร ให้เดินไปเปิดหน้าต่างหรือผ้าม่านเท่านั้น สามารถดันเตียงให้ไปชิดผนังเพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานให้พื้นที่ข้างเตียงอีกด้านหนึ่งแทนได้นะ
โดยพื้นที่ข้างเตียงอีกด้าน จะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ หน้าบานเป็นกระจกสีชาดำ ฟังก์ชั่นด้านในมีทั้งที่แขวนผ้า ลิ้นชัก และชั้นวางของ ถึงฝ้าเพดาน
ซึ่งพื้นที่ข้างเตียงด้านนี้กว้าง 90 เซนติเมตร พอเปิดตู้เสื้อผ้าออกมา ระยะของบานตู้ก็ไม่เบียดเตียงมากนักค่ะ
ถัดไปเป็นห้องน้ำและห้องนอน เดี๋ยวเราจะพาไปดูห้องน้ำก่อนนะ
ห้องน้ำมีขนาด 1.35 x 2.45 เมตร เป็นห้องน้ำรวมที่ห้องนอนเล็กและห้องรับแขกมาใช้งานร่วมกัน มีฟังก์ชั่นครบทั้งอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และส่วนอาบน้ำที่มีฉากกั้นกระจกนิรภัยให้
ส่วนธรณีประตูปิดผิวด้วยแกรนิตสีดำ พื้นห้องน้ำลดระดับเล็กน้อยปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร
ส่วนอ่างล้างหน้า มีกระจกเงาติดผนังพร้อมทำชั้นวางของยื่นออกมาให้ เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า Built-in ตู้เก็บของมาให้ด้วย
หน้าบานตูเป็นบานเปิดคู่ บานพับเป็นแบบ Soft closed เมื่อเปิดตู้ออกมาแล้วจะเป็นช่องวางของให้แบบนี้
อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดปานกลางและก็อกน้ำของ Cristina
ชั้นวางของหน้ากระจก มีการ Drop หลุมกลมๆสำหรับวางแก้วให้ด้วย
พื้นที่นั่งส้วมกว้าง 80 เซนติเมตร ขนาดกำลังดีไม่อึดอัด
ข้างๆโถส้วมติดตั้งสายชำระ และที่แขวนกระดาษทิชชู่มาให้
ส่วนฝั่งตรงข้ามกันติดตั้งที่แขวนผ้าสแตนเลสมาให้
ถัดไปเป็นฉากกั้นอาบน้ำ กระจกนิรภัยพื้นที่ขนาด 1.00 x 1.35 เมตร ขนาดค่อนข้างกว้างเลยนะ อาบน้ำได้ระยะสบายๆ
ชุดฝักบัวอาบน้ำและ Rain Shower 3 หัว ปรับระดับสูง-ต่ำได้ และติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนให้ด้วย ดีไซน์เหมือนกับห้องแบบแรก
มองชึ้นไปบนฝ้าเพดานติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 3 ดวง ที่ 3 ฟังก์ชั่น คือส่วนอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และส่วนอาบน้ำ
ถัดไปเป็น Master Bedroom ขนาด 3.45 x 4.70 เมตร โครงการวางเตียง King size ขนาด 6 ฟุตมาให้หน้าตาแบบนี้เลย จะเห็นว่าพื้นที่ข้างเตียงทั้งสองข้างค่อนข้างกว้าง ซึ่งโครงการแถมโต๊ะหัวเตียงมาให้ด้วย
โต๊ะหัวเตียงเป็นลิ้นชักเปิด-ปิดได้ หน้าตาแบบนี้เลยค่ะ ตัวโคมไฟไม่ได้แถมให้นะคะ
โดยห้องนี้จะมีหน้าต่างบานเปิดค่อนข้างใหญ่ เป็นกระจกบาน Fix และบานกระทุ้ง 2 บานซ้าย-ขวา
พื้นที่ระหว่างเตียงกับข้างหน้าต่าง มีระยะ 0.95 เมตร เป็นระยะที่ค่อนข้างกว้าง สามารถเดินไปเปิด-ปิดหน้าต่าง หรือเลื่อนผ้าม่านได้สบาย
พื้นที่ข้างเตียงอีกด้านโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ เป็นตู้เสื้อผ้า 3 ตอน จุเสื้อผ้าและ Accessory ได้ค่อนข้างเยอะดี หน้าบานตู้เป็นกระจกสีชาดำ
โดยระหว่างเตียงเดียงถึงตู้เสื้อผ้ามีระยะ 1.10 เมตร เมื่อเปิดตู้ออกมาแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ยืนแต่งตัวได้อีกสบายๆค่ะ
ส่วนปลายเตียง โครงการ Built-in ตู้วางทีวีชั้นบน-ชั้นล่าง รวมทั้งโต๊ะเครื่องแป้งมาให้เต็มพื้นที่ผนัง
ลองเปิดลิ้นชักมาให้ดู ได้พื้นที่เก็บของเยอะเลยนะ
ตู้ Built-in ด้านบน เหมือนในห้องรับแขกเลยค่ะ
ถัดไปเป็นห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่มาก ขนาด 2.60 x 4.70 เมตร ใหญ่พอๆกับห้องนอนเลย โดยห้องนี้จะมีฟังก์ชั่นเป็นสัดส่วนทั้งห้องส้วม ห้องอาบน้ำ อ่างล้างหน้า และอ่างอาบน้ำ พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร
โดยผนังทางขวามือติดตั้งที่แขวนผ้าเช็ดตัวสแตนเลสมาให้
ถัดไปเป็นส่วนของห้องส้วม ขนาด 1.05 x 1.47 เมตร มีบานประตูกระจกนิรภัยให้ มือจับสแตนเลสค่อนข้างใหญ่
ธรณีประตูค่อนข้างกว้างยกระดับขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อเป็นการกั้นพิ้นที่และไม่ให้น้ำจากส่วนนี้ไหลไปเปื้อนส่วนอื่น
ส่วนนี้จะติดตั้งโถสุขภัณฑ์ รวมทั้งติดตั้งสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่มาให้
ถัดไปเป็นส่วนของอ่างล้างหน้า ส่วนอาบน้ำ และอ่างอาบน้ำ
เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า มีการติดตั้งกระจกเงามาให้ 2 บาน ฝังไฟตกแต่งมาให้ ด้านหลังเป็นกระเบื้องโมเสก ส่วนอ่างล้างหน้ามี 2 อ่าง ด้านล่าง Built-in ตู้เก็บของมาให้ หน้าบานตู้เป็น Hi gloss สีน้ำตาล
โดยตู้จะแบ่งเป็น 2 ตอน บานพับเป็น Soft closed เปิดออกมาจะได้ชั้นวางของแบบนี้
ข้างๆเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าจะติดตั้งเต้ารับแบบกันน้ำมาให้ด้วย เผื่อใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ไดร์เป่าผม ที่ม้วนผม เป็นต้น
ฝั่งตรงข้ามกันเป็นชั้นวางของและตู้ Built-in มาให้แบบนี้เลย
ถัดไปเป็นพื้นที่อาบน้ำที่ประกอบด้วย ห้องอาบน้ำและอ่างอาบน้ำที่สามารถมองวิวเมืองได้ เพราะหน้าต่างเป็นกระจกใสเข้ามุมบานใหญ่เลย
ห้องอาบน้ำมีขนาด 1.05 x 1.10 เมตร พื้นที่อาบน้ำสบายๆไม่อึดอัด ที่พื้นมีการยกธรณีค่อนข้างหนา เพื่อกั้นน้ำไม่ให้ไหลออกไปสู่ส่วนแห้ง พื้นตรงกลางเป็นทรายล้างกันลื่น และมีท่อระบายน้ำที่มีฝาปิดเรียบร้อย สามารถเปิดออกมาทำความสะอาดได้ ที่ผนังติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำและ Rain shower รวมทั้งติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนให้ด้วยมาให้เหมือนห้องอื่นๆ มีการ Drop ผนังบางส่วนลงไปเพื่อให้เป็นที่วางสบู่หรือผลิตภัณฑ์อาบน้ำได้
ที่ติดกันเป็นพื้นที่อ่างอาบน้ำ ที่มีการก่อพื้นหินแกรนิตสีดำมาให้นั่งริมอ่างได้ โดยตัวอ่างมีขนาด 1.05 x 1.70 เมตร สามารถแช่น้ำในอ่าง พร้อมกับมองทัศนียภาพด้านนอกได้ แต่ก็อาจจะไม่ได้เห็นวิวเมืองชัดนะคะ เพราะระยะขอบหน้าต่างสูงกว่าอ่างอาบน้ำ โดยหน้าต่างเป็นบานกระจกเข้ามุมบาน Fix มีบานเปิดเป็นบานกระทุ้งทางขวามือให้บานเดียวเพื่อระบายอากาศ
มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานมีการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ทั้งหมด 4 ดวง สว่างดี
สวิตซ์ไฟของทุกห้องจะมีหน้าตาเป็นแบบนี้นะคะ
**อัพเดทโครงการ ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2558 ในส่วนของ กริ่งหน้าประตูดิจิตอลและกล้องวงจรปิดส่วนตัว โครงการไม่มีให้แล้วนะคะ
***รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 18 Aug 2015
- 1 Bedroom(แบบ A1) เล็ก ชั้น 16 ห้องที่ 3 เนื้อที่ 33.5 ตร.ม. ราคา 4,262,750 บาท หรือ 127,246 บาท/ตร.ม.
- Bedroom(แบบ A2) เล็ก ชั้น 7 ห้องที่ 1 เนื้อที่ 34.5 ตร.ม. ราคา 4,078,750 บาท หรือ 118,225 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom(แบบ A5) เล็ก ชั้น 20 ห้องที่ 2 เนื้อที่ 34.5 ตร.ม. ราคา 4,462,000 บาท หรือ 131,235บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom(แบบ A4) เล็ก ชั้น 17 ห้องที่ 10 เนื้อที่ 36 ตร.ม. ราคา 4,615,000 บาท หรือ 128,194บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom(แบบ B1)ใหญ่ ชั้น 9 ห้องที่ 5 เนื้อที่ 42.5 ตร.ม. ราคา 5,103,750 บาท หรือ 120,088บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom(แบบ B4)ใหญ่ ชั้น 12 ห้องที่ 11 เนื้อที่ 47.5 ตร.ม. ราคา 5,938,750 บาท หรือ 125,026บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom(แบบ C1)ใหญ่ ชั้น 22 ห้องที่ 8 เนื้อที่ 77.5 ตร.ม. ราคา 10,836,250 บาท หรือ 139,823 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom(แบบ C2)ใหญ่ ชั้น 9 ห้องที่ 9 เนื้อที่ 78.5 ตร.ม. ราคา 9,405,750 บาท หรือ 119,818 บาท/ตร.ม.
- Penthouse หรือ 3 Bedroom(แบบ P2)ใหญ่ ชั้น 22 ห้องที่ 9 เนื้อที่ 117 ตร.ม. ราคา 16,346,500 บาท หรือ 139,500 บาท/ตร.ม.
- Fully Furnished
- เพดานสูง 2.8-3 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง 30,000 บาท
- ทำสัญญา 70,000 บาท (7 วันนับจากวันจอง)
- ดาวน์ 9-10.6% ผ่อนดาวน์ 22 งวด
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการ ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ อยู่บนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีบางโพประมาณ 100 เมตร ทำเลโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ ตึกแถวและบ้านพักอาศัยที่ค่อนข้างเก่าแก่ค่ะ มีการทำการพาณิชย์เล็กๆในตึกของตนเองเช่น ร้านขายของชำ ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ร้านขายไม้ คลีนิค ร้านขายยา และร้านขายอาหารที่ขึ้นชื่อหลายร้าน เพราะเปิดมานานจึงมีชื่อเสียงจากรุ่นสู่รุ่น ดังนั้นแถวนี้จึงเป็นชุมชนหนึ่งที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบดี เพราะนอกจากการพาณิชย์ในตึกแล้ว ยังมีตลาดบางโพที่อยู่ไม่ไกลมากให้ไปจับจ่ายซื้อของสดของแห้งมาทำครัวกันได้
ซึ่งบนถนนประชาราษฎร์สาย 2 ช่วงหลังนี้ค่อนข้างจะบูมมาก เพราะมีการสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่มาอินเตอร์เชนจ์กันที่สถานีเตาปูนด้วย จึงเรียกได้ว่าต้นสายมีสถานีรถไฟฟ้าบางโพ ปลายสายก็ยังมีรถไฟฟ้าสถานีเตาปูนอีก คอนโดมิเนียมจึงมาเกาะตัวกันที่เส้นนี้เยอะเลยตั้งแต่ The Tree Interchange, The Stage, Richpark เตาปูน และโครงการคู่คี่พี่น้องกันก็คือ ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ นอกจากนี้หากเลยไปไปบนถนนประชาราษฎร์สาย 1 เลยตลาดบางโพไปนิดนึงก็มี The Tree บางโพ ที่สร้างเสร็จลูกบ้านเข้าอยู่เรียบร้อยแล้ว เรียกได้ว่าหากต้องการอยู่ในย่านนี้ก็มีตัวเลือกให้เลือกเยอะเลยทีเดียว ซึ่งถ้าเทียบกับความสะดวกเรื่องทำเลแล้วก็จะคล้ายๆกัน จะมีต่างกันแค่เรื่องระยะห่างจากรถไฟฟ้าเท่านั้น
ซึ่งถ้าจะเอาจุดขายที่เป็นคอนโดมิเนียมวิวแม่น้ำมาเปรียบเทียบกันแล้วก็คงต้องเทียบกับ 333 Riverside ของ Land and House ที่อยู่ใกล้กับท่าเรือบางโพเพราะเป็นคอนโดวิวแม่น้ำเหมือนกัน แต่เรื่องวิว ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ คงเป็นรองอยู่สักหน่อยเพราะเราอยู่ห่างจากแม่น้ำมากกว่า และมีห้องที่เห็นวิวแม่น้ำเพียงด้านเดียว คือห้องทางทิศตะวันตกและราคาน่าจะแพงกว่าห้องทางทิศอื่นแน่นอน แต่หากเทียบกับความสะดวกเรื่องการเดินทางแล้ว ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ ก็ยังเป็นต่ออยู่เพราะเดินไปแค่ประมาณ 100 เมตรก็ถึงรถไฟฟ้าแล้ว ดังนั้นหากไม่ซีเรียสเรื่องวิวแม่น้ำ หันมองวิวเมืองบ้างก็ได้ และยังต้องการใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก โครงการนี้ก็อาจจะตอบโจทย์
การเดินทางด้วยรถยนต์ เส้นทางหลักๆที่ติดต่อคือมาจากถนนประชาราษฎร์สาย 1 สามารถผ่านแยกบางโพแล้วเลี้ยวเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 ได้แต่ต้องยูเทิร์นนิดหน่อย ส่วนคนมาจากสะพานควายหรือประชาชื่นก็เข้าทางถนนประชาราษฏร์สาย 2 ได้เลย รถอาจจะติดหน่อยเพราะทำทาง แต่ในอนาคตถนนคงโล่งขึ้น และหากมาจากอีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาก็ข้ามสะพานพระราม 7 มาได้ใกล้สุดค่ะ
สำหรับคนไม่ใช่รถก็ถือว่าสะดวกดีเพราะรถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย พี่วิน แท๊กซี่มีหมด และที่สำคัญอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีบางโพ เพียง 100 เมตรที่เชื่อมต่อกับสถานี Interchange ถึงสองสถานี คือสถานีเตาปูน และสถานีบางซื่อ
วัสดุอุปกรณ์ที่ให้มาตามมาตรฐานสำหรับราคานี้ ขายเป็นแบบ Fully Furnished พร้อมแอร์ทุกห้อง มีทั้งเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและ Built-in ที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อพื้นที่นี้ รวมทั้งเครื่องไฟฟ้าที่จำเป็น เช่น เตาอบไมโครเวฟของ Teka พื้นไม้ลามิเนตหน้า 12 มิลลิเมตรและส่วนระเบียงและห้องนำ้ปูด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องนำ้จาก Cristina ชุดฝักบัวและ Rain Shower เป็นแบบโดนัทมีรูตรงกลาง ค่อนข้างตื่นตาตื่นใจ รวมทั้งมีระบบต่างๆที่เพิ่มเติมเข้ามาให้ เช่น ระบบ Sensor เปิดไฟแบบอัตโนมัติเหมือนโรงแรม เวลาที่เราเปิดประตูห้องไฟจะติดโดยอัตโนมัติ
การออกแบบอาคารจะใช้ไม้มาเป็นส่วนหนึ่งในการตกแต่งอาคาร เนื่องมาจากบริบทของพื้นที่ที่เป็นย่านค้าไม้เก่า โดยใช้โทนสี น้ำตาล-ขาว-เทา และมีการนำลายไม้ฝาปะกนมาใช้บน Facade ด้วย ตัวอาคารเป็นรูปตัว I สร้างเต็มพื้นที่ โดยมี Circulation สำหรับให้เดินรถรอบอาคาร 6 เมตร สามารถวิ่งสวนกันได้สบายๆ ภายในอาคารมีการตกแต่งแบบ Modern Luxury ใช้สีทอง-น้ำตาล มาใช้รวมไปถึงห้องตัวอย่างด้วย
โครงการมีห้องให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่ห้อง 1 Bedroom ที่มีให้เลือกทั้งขนาดเล็ก 30 กว่าตารางเมตร เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน ไปจนถึงแบบห้องขนาดใหญ่ 40 กว่าตารางเมตรที่เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-3 คนได้ มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบทั้งห้องนอน ห้องรับแขก ครัวเปิด และห้องน้ำรวม 1 ห้องแต่พื้นที่ของแต่ละส่วนก็จะเล็กๆมินิ ส่วนห้องแบบ 2 Bedroom จะขนาดใหญ่ขึ้นมา 68-78.5 กว่าตารางเมตร เหมาะกับครอบครัวเล็กๆประมาณ 2-4 คนกำลังสบาย ห้องนี้มีโถงกลางให้ค่อนข้างใหญ่ มีห้องน้ำรวม และห้อง Master Bedroom ก็มีห้องน้ำในตัวให้ใหญ่มากพอๆกับห้องนอน โดยรวมแล้วเป็นสัดส่วนดี ส่วนห้องแบบ 3 Bedroom หรือห้อง Penthouse ที่มีอยู่แค่ 4 ยูนิตบนชั้น 21-22 ก็เหมาะกับการพักอาศัย 3-6 คนจะสบายๆ เหมือนบ้านหลังหนึ่งที่อยู่บนตึกสูง เหมาะกับคนกระเป๋าหนักที่อยากได้ห้องวิวดีๆ ฟังก์ชั่นครบ
สาธารณูปโภค เหมือนๆกับคอนโดทั่วไปไม่ได้หวือหวา มี Facilities หลักให้ที่ชั้น 23-24 ประกอบด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ ห้องออกกำลังกาย และสวนดาดฟ้า นอกจากนี้ยังมีสวนให้อีก 2 จุด คือสวนที่ชั้น 1 ทางทิศใต้ของโครงการด้านหลังตึก และสวนที่ชั้น 7 เป็นการกระจายการใช้งานของคนเพื่อไม่ให้หนาแน่นไปที่ใดที่หนึ่งเกินไปนัก โดยโครงการมีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัวคิดเป็นอัตราส่วน 86 : 1 ถือว่าไม่หนาแน่นมาก และมี Service Lift ให้ 1 ตัว ที่จอดรถคิดเป็น 80% รวมจอดซ้อนคัน (134 คัน) ถือว่ายังโอเคเพราะโครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดินถึง ระบบรักษาความปลอดภัย เข้า-ออกโครงการและภายในอาคารเป็น Access Card Control ลิฟท์แบบล็อคชั้น ติดตั้ง CCTV ที่ทางเข้า-ออก ภายในโครงการและ มีรปภ.รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 125,000 บาท/ตร.ม., 18 Aug 2015
- ทำเล 7.75/10 -ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีบางโพประมาณ 100 เมตร ความอุดมสมบูรณ์รอบๆค่อนข้างดี มีตลาดและโลตัสอยู่ไม่ไกล
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 -เข้า-ออกได้หลายเส้นทาง เดินทางสะดวก แต่การจราจรค่อนข้างติดขัด
- ไม่ใช้รถ 8/10 -เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าสถานีบางโพ ได้ในระยะ 100 เมตร สะดวกดีค่ะ
- วัสดุ 8/10 -ขายแบบ Fully Furnished ได้เหมือนห้องตัวอย่างยกเว้น Prop จัดเต็มดี
- แบบ 7.75/10 -มีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย วางฟังก์ชั่นการใช้งานค่อนข้างดี
- สาธารณูปโภค 7.5/10 -ส่วนกลางไม่หวือหวา ให้มาพอดีๆกับยูนิตที่ไม่เยอะ มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนสและสวนให้ 3 จุด คือสวนที่หลังโครงการ, สวนชั้น 7 และสวนดาดฟ้า
- UPPER CLASS
- 7.76 / 10.00
BOTTOM LINE
Chewathai Residence บางโพ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดพร้อมหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลยในย่านบางโพ ที่มีความเป็นส่วนตัว ยูนิตไม่เยอะ ชอบใช้ Facilities อยู่บ้างแต่ไม่เน้นใช้บ่อย อยากได้คอนโดวิวแม่น้ำหรือวิวเมือง แต่ก็ต้องการให้อยู่ใกล้รถไฟฟ้าเพื่อการเดินทางที่สะดวก ใช้รถส่วนตัวบ้างสลับกับการใช้รถไฟฟ้า ชอบ Product ที่ดูหรูหราและ unique มีงบประมาณ 3.9-16 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 27,300-112,000 บาท
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิก www.thinkofliving.com พร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่ https://thinkofliving.com/register/