ใครกำลังมองหาคอนโดย่านเกษตร-นวมินทร์ ที่เดินทางขึ้นทางด่วนได้ง่าย วันนี้ Think of Living เราพามาเจาะลึกโครงการ Chewathai Hallmark Ekkamai-Raminthra (ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค เอกมัย-รามอินทรา) คอนโดใหม่จาก ชีวาทัย กันค่ะ ซึ่งโครงการนี้ทำออกมาราคาจับต้องได้ง่าย เริ่มต้นอยู่ที่ 1.89 ล้านบาท หรือประมาณ 78,000 – 81,000 บาท/ตร.ม. ราคานี้จะได้อะไรบ้างเราไปดูกันเลย
- ทำเล : ใกล้ทางด่วน 2 เส้นทาง ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีคู้บอน ระยะทางประมาณ 4 กม. พร้อมสาธารณูปโภคครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล สถานศึกษา ร้านค้า ตลาด และศูนย์การค้าขนาดใหญ่อยู่ในระยะทางไม่เกิน 5 กม.
- พื้นที่ส่วนกลาง : พื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย 14 ฟังก์ชัน พร้อม Facility รองรับกิจกรรมยุคใหม่ เช่นห้อง Live & Streaming วางผังแยกส่วนกลางกับห้องพักอาศัยออกจากกัน ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
- วัสดุ : มีรูปแบบการขาย Fully Furnished ได้เครื่องปรับอากาศ 2 ตัว/ห้อง พร้อมเฟอร์นิเจอร์ Built-in และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวครบ ไม่ต้องเสียเวลาและงบประมาณในการเลือกซื้อเอง
- ห้องพักอาศัย : ห้องพักอาศัยให้เลือก 4 แบบ เน้นห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 25.16 – 37.91 ตร.ม. เหมาะกับอยู่ 1 – 2 คนได้สบายๆ
ข้อมูลโครงการ
Chewathai Hallmark Ekkamai-Raminthra (ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค เอกมัย-รามอินทรา) ณ วันที่ 13 พฤษภาคม 2567
ชื่อโครงการ | Chewathai Hallmark Ekkamai-Raminthra (ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค เอกมัย-รามอินทรา) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท ชีวาทัย เอสเตท จำกัด |
SEGMENT CLASS | ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร |
ที่ดิน | 4-2-6.8 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 413 ยูนิต (อาคาร A จำนวน 210 ยูนิต / อาคาร B จำนวน 203 ยูนิต) |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 29 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 153 คัน คิดเป็น 37% (ไม่รวมซ้อน) |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2567 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ประมาณเดือนธันวาคม ปี 2568 |
ประเภทห้องพัก |
|
ราคาเริ่มต้น | 1.89 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 78,000 – 81,000 บาท/ตร.ม. |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1260 กด 23 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.816065889504305, 100.64535117303656
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
Highlight
- Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา ตั้งอยู่บนถนนนวลจันทร์ ใกล้ทางด่วน 2 สาย คือ ทางพิเศษฉลองรัช ระยะทางประมาณ 2.7 กม.และถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก ระยะทางประมาณ 6.3 กม.
- ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า 3 สาย สายสีชมพู สถานีคู้บอน ระยะทางประมาณ 4 กม. (เปิดให้บริการแล้ว) และแผนพัฒนาในอนาคต รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล สถานีนวลจันทร์, รถไฟฟ้าสายสีเทา สถานีคลองลำเจียก
- สาธารณูปโภครอบๆโครงการครบครัน ไม่ว่าจะเป็นตลาด ห้างสรรพสินค้า Community Mall โรงพยาบาล และสถานศึกษาชั้นนำ เดินทางไปได้สะดวกในระยะทางไม่เกิน 5 กม.
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
ถนนเกษตร-นวมินทร์ เป็นถนนเส้นที่ยาวเชื่อมต่อถนนพหลโยธิน ผ่านถนนประดิษฐ์มนูธรรมและเชื่อมต่อไปจนถึงถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออกเลยนะคะ ความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่ก็จะแผ่ขยายมาจากโซนลาดพร้าว-รัชดาภิเษก ทำให้ทำเลนี้มีครบครันทั้งแหล่ง Lifestyle, สถานศึกษา และสถานพยาบาลชั้นนำ ส่วนใหญ่ที่อยู่อาศัยในย่านนี้จะเป็นบ้านแนวราบ มีคอนโดมิเนียมไม่เยอะนัก (คอนโดจะเยอะในโซนใกล้แยกเกษตร และใกล้กับถนนรามอินทราค่ะ)
โครงการ Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา ตั้งอยู่บนถนนนวลจันทร์ ซึ่งเป็นถนนเส้นที่ตัดกับถนนเกษตร-นวมินทร์ ไปเชื่อมต่อกับทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา (ทางพิเศษฉลองรัช) หรือจะวิ่งใต้ทางด่วนผ่านถนนประดิษฐ์มนูธรรมเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษกได้เลย จึงทำให้โครงการนี้ นอกจากจะเหมาะกับคนที่ทำงานในย่านนวลจันทร์, เกษตร-นวมินทร์แล้ว ยังเหมาะกับคนที่มองหาคอนโดราคาเข้าถึงง่ายที่ทำงานในย่านรัชดาฯ, ลาดพร้าว, พระราม 9 ได้อีกด้วย
ใกล้ทางด่วน 2 สาย
- ทางพิเศษฉลองรัช ระยะทางประมาณ 2.7 กิโลเมตร : ใช้วิ่งเข้าเมืองไปทางพระราม 9, สุขุมวิท, สีลม-สาทร หรือออกเมืองไปย่านสายไหมได้
- ถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก ระยะทางประมาณ 6.3 กิโลเมตร : ใช้วิ่งรอบนอกไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ หรือวิ่งออกเมืองไปลำลูกกาได้
นอกจากการเดินทางด้วยรถยนต์แล้ว ยังมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) โดยสถานีใกล้สุดคือ สถานีคู้บอน ในอนาคตยังมีแผนการพัฒนารถไฟฟ้าอีก 2 สาย (แต่ยังไม่มีกำหนดการที่แน่นอน) นั่นก็คือ รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล และรถไฟฟ้าสายสีเทาค่ะ
เส้นทางรถไฟฟ้า
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี โดยสถานีใกล้สุดคือ สถานีคู้บอน ระยะห่างประมาณ 4 กิโลเมตร
- รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-ลำสาลี) สถานีที่ใกล้โครงการคือ สถานีนวลจันทร์ (คาดว่าปี พ.ศ. 2571) ระยะห่างจากโครงการประมาณ 500 เมตร
- รถไฟฟ้าสายสีเทา (วัชรพล-ทองหล่อ) สถานีที่ใกล้โครงการคือ สถานีคลองลำเจียก (แผนในอนาคต) มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 2.3 กิโลเมตร
ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ในทำเลนี้ก็ถือว่าคึกคักพอสมควร เนื่องจากใกล้กับตลาดขนาดใหญ่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ตลาดปัฐวิกรณ์, ตลาดหัวมุม, เดอะ วอร์ค เกษตร-นวมินทร์ ในระยะทางไม่เกิน 3 กิโลเมตร นอกจากนั้นทำเลนี้ยังเต็มไปด้วยแหล่งจับจ่ายซื้อของตกแต่งบ้าน เช่น บุญถาวร เกษตร-นวมินทร์, ชิค รีพับบลิค, คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) รวมถึงศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ ที่ห่างจากโครงการประมาณ 4.9 กิโลเมตรเท่านั้นเอง
นอกจากแหล่งชอปปิ้งแล้ว ทำเลนี้ยังใกล้กับโรงพยาบาลชั้นนำไม่ว่าจะเป็น รพ.นวเวช, รพ.พญาไท นวมินทร์, รพ.สินแพทย์ รามอินทรา, รพ.นพรัตนราชธานี และสถานศึกษาชื่อดัง เช่น ร.ร.เลิศหล้า, ร.ร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๒, ร.ร.นวมินทราชูทิศ เป็นต้น
ทำให้โครงการ Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา ตอบโจทย์คนที่มองหาคอนโดใกล้ที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริษัท คุณหมอ พยาบาล บุคคลที่ทำงานในโรงพยาบาล และในสถานศึกษา มีโอกาสทั้งการซื้ออยู่เองและซื้อปล่อยเช่าค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา ส่วนใหญ่เป็นอาคารแนวราบ ทำให้ห้องพักอาศัยในโครงการสามารถมองเห็นวิวได้เปิดโล่ง ไม่มีอาคารสูงมาบดบังวิวในระยะประชิด
- ทิศเหนือ ติดกับ ถนนนวลจันทร์, แยกถนนนวลจันทร์ตัดกับถนนรัชดา-รามอินทรา
- ทิศตะวันออก ติดกับ ตึกแถวสูง 4 ชั้น, บ้านแถวสูง 2 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับ อีซูซุสยามซิตี้ สาขาเกษตร-นวมินทร์
- ทิศตะวันตก ติดกับ อาคารพาณิชย์และร้านค้า สูงประมาณ 2 ชั้น, ที่ดินเปล่า
บรรยากาศด้านหน้าโครงการ บริเวณถนนนวลจันทร์
สำนักงานขายจะตั้งอยู่ข้างๆ กับที่ดินของโครงการ บริเวณใกล้กับแยกถนนนวลจันทร์ตัดกับถนนรัชดา-รามอินทรา มองเห็นได้ชัดเจน เลี้ยวเข้าไปจอดรถด้านหน้าได้เลยค่ะ
บรรยากาศภายในสำนักงานขาย
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- บุญถาวร เกษตร-นวมินทร์ 1.8 กม.
- เจซี มอลล์ นวมินทร์ 1.8 กม.
- ตลาดปัฐวิกรณ์ 2.5 กม.
- ตลาดหัวมุม 2.5 กม.
- เดอะ วอร์ค เกษตร-นวมินทร์ 2.8 กม.
- ชิค รีพับบลิค 4.0 กม.
- คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) 4.3 กม.
- เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ 4.9 กม.
โรงพยาบาลชั้นนำ
- รพ.นวเวช 500 ม.
- รพ.พญาไท นวมินทร์ 2.8 กม.
- รพ.สินแพทย์ รามอินทรา 4.5 กม.
- รพ.นพรัตนราชธานี 5.5 กม.
สถานศึกษา
- ร.ร.เลิศหล้า 950 ม.
- ร.ร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๒ 2.4 กม.
- ร.ร.นวมินทราชูทิศ กรุงเทพมหานคร 2.9 กม.
- ม.เกษตรศาสตร์ ประมาณ 9 กม.
การคมนาคม
- ถ.รัชดา-รามอินทรา 100 ม.
- ถ.เกษตร-นวมินทร์ 500 ม.
- ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม 2.4 กม.
- ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ 2.6 กม.
- รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีคู้บอน 4.0 กม.
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- ออกแบบภายใต้แนวคิด STAYCATION LIFESTYLE SUMMER RESORT ให้ความรู้สึกเหมือนพักผ่อนในรีสอร์ต โดยการนำเส้นสายของคลื่นทะเลเป็นส่วนประกอบในการออกแบบและใช้โทนสีภายในอาคารที่ได้กลิ่นอายของ Summer
- พื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย มี Facility รองรับกิจกรรมยุคใหม่ เช่นห้อง Live & Streaming
- แยกพื้นที่ส่วนกลางออกจากห้องพักอาศัย ทำให้ห้องพักได้ความเป็นส่วนตัวไม่พลุกพล่าน
- อาคารวางผังเป็นตัว L ทั้ง 2 อาคาร ทำให้มีพื้นที่คอร์ทส่วนกลาง 2 ด้าน ทำให้บรรยากาศภายในโครงการดูโปร่ง มองเห็นวิวได้มากขึ้น
วันนี้เราพามาเจาะลึกโครงการ Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา คอนโด Low Rise แห่งใหม่บนถนนนวลจันทร์ จาก ชีวาทัย กันค่ะ โดยโครงการนี้มีทั้งหมด 2 อาคาร จำนวนรวม 413 ยูนิต บนที่ดิน 4-2-6.8 ไร่ ปัจจุบันกำลังจะเริ่มก่อสร้าง (EIA ผ่านแล้ว) โดยมีกำหนดการสร้างเสร็จประมาณเดือนธันวาคมปี 2568 เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดเป็นของตัวเอง สามารถเข้าอยู่ได้ในช่วงปลายปีหน้าเป็นต้นไป
Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา มี Concept ในการออกแบบคือ STAYCATION LIFESTYLE SUMMER RESORT ให้ลูกบ้านได้พักผ่อนเหมือนไปท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อน มีการนำเส้นสายของคลื่นทะเลเป็นส่วนประกอบในการออกแบบอาคาร ดึงสีมาจากทะเลในตอนกลางคืน โดยน้ำทะเลในตอนกลางคืนจะมีสีเทาเข้ม และในส่วนที่สะท้อนกับแสงของดวงจันทร์จะมีสีขาว-ครีม โดยสีเหล่านี้ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และเงียบสงบ
การตกแต่งภายในอาคาร มี Concept จาก SUMMER RESORT ให้ความรู้สึกเหมือนพักผ่อนในรีสอร์ต โดยการนำเส้นสายของคลื่นทะเลเป็นส่วนประกอบในการออกแบบอาคาร และโทนสีภายในอาคารแบบ Summer Tropical Style โทน เหลือง น้ำเงิน แซมด้วยสีส้ม และสีน้ำตาลลายไม้ ดูเป็นธรรมชาติที่มีความสดใส (ภาพประกอบด้านล่างนะคะ)
ลักษณะการวางผังเป็นตัว L แยกออกจากกัน 2 อาคาร (อาคาร A อยู่ด้านหน้า, อาคาร B อยู่ด้านใน) จัดวางอาคารโดยโอบล้อมคอร์ดกลางของตัวเอง ด้านยาวของอาคารหันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ อาคารสามารถรับลมธรรมชาติที่ไหลผ่านมายังบริเวณส่วนกลางได้ดี
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งในการวางผังแบบนี้ก็คือ จะได้พื้นที่คอร์ท 2 ฝั่ง ทำให้วิวค่อนข้างเปิดโล่ง มองเห็นสวนส่วนกลางได้ทั้ง 2 คอร์ทเลยค่ะ
Facility ส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้กับ Clubhouse บนคอร์ทระหว่างอาคาร A และอาคาร B นะคะ ออกแบบให้เป็นพื้นที่กิจกรรมที่หลากหลาย มีสระว่ายน้ำ, ห้องออกกำลังกายวิวสระว่ายน้ำ, พื้นที่สวนส่วนตัว เชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนกลางในอาคาร A ชั้น 1 ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์ Trend การใช้ชีวิตปัจจุบัน เช่น Co-Working Space, Private Meeting Room, Creative Pod, Terrace Lounge เป็นต้น
สำหรับการขับรถมาจอดในอาคารทางฝั่งซ้ายมือ (ทิศใต้) จะเป็นทางเดินรถแบบ One way ตามเข็มนาฬิกาค่ะ วนเข้าไปจอดรถที่ใต้อาคาร A และ B ได้เลย ส่วนขาออกให้มาทางขวา(ทิศเหนือ) เดินรถแบบ Two Way หรือใครที่ต้องการรับ-ส่งคน สามารถวนรอบวงเวียนต้นไม้ด้านหน้าโครงการ ส่งคนเดินเชื่อมต่อไปยัง Lobby ได้สะดวก
โครงการมีจำนวนที่จอดรถ 153 คัน พร้อมช่องจอด EV Charger รวมที่จอดเป็น 153 คัน คิดเป็น 37% (ไม่รวมซ้อน) ถือว่าให้มาตามมาตรฐานคอนโดทั่วไป
มี Facility ทั้งหมดในโครงการ ดังนี้
Clubhouse / Outdoor
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 5 x 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- สระว่ายน้ำเด็กระบบเกลือ ขนาด 5 x 2.40 เมตร ลึก 0.6 เมตร
- Fittness Pool view
- Play yard
- Jogging Track
- Garden
อาคาร A
- Juristic Office
- Lobby & Mailbox
- Co-Working Space
- Private Meeting Room
- Hallmark Pavilion
- Creative pod
- Terrace Lounge
- Delivery area (A,B)
อาคาร B
- Lobby & Mailbox
สระว่ายน้ำของโครงการจะอยู่ตรงคอร์ทกลางระหว่างอาคาร A และ B สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจังได้ ประกอบด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด5 x 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร และสระว่ายน้ำเด็กระบบเกลือ ขนาด 5 x 2.40 เมตร ลึก 0.6 เมตร มีพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนด้านข้าง เป็นวิวที่มองเห็นได้จากห้องพักอาศัยในอาคาร A และบางส่วนของอาคาร B ที่หันเข้าฝั่งนี้ค่ะ
ห้องออกกำลังกายจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลยค่ะ มีเครื่องเล่นครบทั้ง Weight Training และ Cardio มีผนังกระจกขนาดใหญ่ที่ทำให้บรรยากาศภายในโปร่งสบาย มองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้
ใกล้ๆ กับสระว่ายน้ำเป็นพื้นที่สีเขียวที่มีการตกแต่งเป็นมุมนั่งเล่นภายในสวน โดยมีชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งพักผ่อนให้ลูกบ้านออกมากินลมชมวิวยามเย็นหรือออกมานั่งคุยเล่นกับเพื่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติค่ะ
ใกล้กับที่จอดรถจะเป็นพื้นที่ Hallmark Pavilion สำหรับนั่งพักคอย รอรถมารับ ตกแต่งสวยงามเหมือนเป็น Semi-Outdoor Lobby เดินเชื่อมต่อไปยัง Lobby ด้านในอาคาร A ได้
บรรยากาศจำลองภายใน Co-Working Space ที่มีพื้นที่นั่งแบ่งเป็นโซนๆ สำหรับเปลี่ยนบรรยากาศออกมานั่งทำงานชมวิวส่วนกลางได้ โดยมีให้เลือกทั้งพื้นที่ Indoor ในแอร์เย็นๆ และพื้นที่ Semi-Outdoor อากาศธรรมชาติ (Terrace Lounge)
ใครที่ต้องการพื้นที่ทำงานจริงจัง ก็สามารถใช้ Private Meeting Room ได้ค่ะ ภายในมีการตกแต่งสีสันสดใส เพิ่มไอเดียในการทำงาน เหมาะกับมานั่งทำงาน ติวหนังสือเป็นกลุ่ม หรือจะจัดประชุมแบบเป็นส่วนตัวก็ทำได้สะดวก
นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์เทรนปัจจุบัน เป็นห้อง Creative Pod สำหรับจัด Live & Streaming โดยมีอุปกรณ์พร้อมฉากมาให้ใช้งานได้เลยค่ะ
Mail Box จะอยู่บริเวณโถงลิฟต์ มีการตกแต่งให้กลิ่นอายแบบ Summer ด้านข้างเป็นพื้นที่นั่งพักคอย ก่อนจะเข้าลิฟต์ไปยังชั้นพักอาศัยค่ะ
มาดูผังชั้นพักอาศัยกันบ้างค่ะ โดยจะมีการวางผังเหมือนตั้งแต่ชั้น 2 – 8 โครงการจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom Exclusive และ 1 Bedroom Extra เป็นจำนวนเยอะที่สุดค่ะ
- 1 Bedroom (Type A) พื้นที่ใช้สอย 25.16 – 26.12 ตร.ม. สีชมพู
– อยู่ในตำแหน่งที่ไม่เน้นวิวมากนัก เหมาะกับคนที่ต้องการคุมงบประมาณ - 1 Bedroom Exclusive (Type B) พื้นที่ใช้สอย 30.07 – 30.67 ตร.ม. สีครีม
– ตำแหน่งส่วนใหญ่จะเห็นวิวด้านนอกโครงการ - 1 Bedroom Extra (Type C) พื้นที่ใช้สอย 33.42 – 34.29 ตร.ม. สีเขียว
– อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางได้มากที่สุด - 1 Bedroom Plus (Type D) พื้นที่ใช้สอย 37.64 – 37.91 ตร.ม. สีส้ม
– อยู่ในตำแหน่งมุมอาคารมองเห็นวิวได้ 2 ฝั่งผ่านกระจกเข้ามุมในห้องอเนกประสงค์
มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร อัตราส่วนลิฟต์รวมประมาณ 103 : 1 ซึ่งถือว่าพอดีๆ กับคอนโด Low Rise ไม่ต้องรอลิฟต์นานมากค่ะ
อาคาร A
อาคาร A เหมาะกับคนที่ชอบอยู่ใกล้กับทางเข้า-ออก เข้าสู่ห้องพักอาศัยได้สะดวก มองเห็นวิวส่วนกลาง ใช้ Facility ต่างๆ ของโครงการบ่อย ต้องการเดินไปส่วนกลางง่ายๆ ค่ะ
อาคาร A วางผังเป็นตัว L มีโถงทางเดินแบบ Double Corridor ซึ่งทางโครงการออกแบบให้ประตูห้องทั้ง 2 ฝังไม่หันหน้าชนกัน มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลาง ทำให้เดินไปยังห้องริมทั้ง 2 ฝั่งได้ไม่ไกล ใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวสูงๆ จะเหมาะกับห้องที่ไม่อยู่ติดกับใครเลย เช่น A227 รองลงมาเป็นห้องที่ติดกับเพื่อนฝั่งเดียว เช่น A208, A209, A210, A219, A220, A226, A228, A230 เป็นต้น
อาคาร B
อาคาร B เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวสูง ไม่ชอบคนเยอะ อาจจะไม่เน้นใช้งานพื้นที่ส่วนกลางบ่อยมากนัก ไม่เน้นวิวมากนัก ชอบความคุ้มค่าราคาดี
อาคาร B วางผังเป็นตัว L ทำมุมแหลมขึ้นมาหน่อย ส่วนใหญ่เป็นห้อง 1 Bedroom Exclusive ซึ่งจะมองเห็นวิวภายนอกโครงการ และวิว Clubhouse ตรงกลางค่ะ มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลาง โถงทางเดินแบบ Double Corridor และประตูห้องพักอาศัยไม่ตรงกันเหมือนกับอาคาร A มีห้องที่ไม่ติดกับใครเลยที่ตำแหน่ง B221 รองลงมาคือ B205, B206, B212, B213, B220, B229 และ B222 ค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนหย่อม
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาดประมาณ 5 x 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- สระว่ายน้ำเด็กระบบเกลือ ขนาดประมาณ 5 x 2.40 เมตร ลึก 0.6 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย
- Play yard
- Jogging Track
- Lobby & Mailbox
- Co-Working Space
- Private Meeting Room
- Hallmark Pavilion
- Creative pod
- Terrace Lounge
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 103 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 105 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 101 : 1
- ที่จอดรถ 153 คัน คิดเป็น 37% (ไม่รวมซ้อน)
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card
แบบห้อง
Highlight
- แบบห้องเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิดขนาดใหญ่, มีพื้นที่วางโต๊ะทำงาน, ประตูห้องนอนทึบได้ความเป็นส่วนตัวสูง
- Fully Furnished ได้เครื่องปรับอากาศ 2 ตัว/ห้อง, Built-in และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ไม่ต้องเสียเวลาเลือกซื้อเอง
- ห้องพักอาศัยให้เลือก 4 แบบ เน้นห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 25.16 – 37.91 ตร.ม. เหมาะกับอยู่ 1 – 2 คนได้สบายๆ
โครงการ Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 4 แบบ เหมาะกับการอยู่ 1 – 2 คนค่ะ ฟังก์ชันการใช้งานลงตัว แยกห้องนอนได้ความเป็นส่วนตัวสูง และครัวปิดทุกแบบกลิ่นไม่ฟุ้งกระจาย
- 1 Bedroom (Type A) พื้นที่ใช้สอย 25.16 – 26.12 ตร.ม.
- 1 Bedroom Exclusive (Type B) พื้นที่ใช้สอย 30.07 – 30.67 ตร.ม.
- 1 Bedroom Extra (Type C) พื้นที่ใช้สอย 33.42 – 34.29 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus (Type D) พื้นที่ใช้สอย 37.64 – 37.91 ตร.ม.
ห้องพักอาศัยทุกแบบจะได้เฟอร์นิเจอร์ครบมาให้เลยค่ะ (Fully Furnished) มีเครื่องปรับอากาศ, ฉากกั้นอาบน้ำ, ตู้เสื้อผ้า, ชั้นวางทีวี, ฐานเตียง, โซฟา, ชุดโต๊ะ+เก้าอี้ รับประทานอาหาร, ชุดครัว Built-in พร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน
รายการวัสดุ
- พื้นห้องนอน ห้องนั่งเล่น : SPC ลายไม้ จาก LogWood
- พื้นห้องครัว ระเบียง ห้องน้ำ : กระเบื้อง Ceramic 0.30×0.30 ม.
- สุขภัณฑ์ : Cotto และ Accessories จาก VRH , Victor หรือเทียบเท่า
- ชุดครัว : Built-In สำเร็จรูป พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า Hob Hood Sink จากแบรนด์ TEKA
- กรอบบานหน้าต่าง : กรอบบานอะลูมิเนียม Powder Coat
- กระจก : กระจกลามิเนต
เครื่องปรับอากาศแบบ Split Wall Mounted Type (2 เครื่อง/ยูนิต)
- Type A ขนาดแอร์ที่ให้ 9,000 – 18,000 BTU ขึ้นอยู่กับขนาดห้องนอนและห้องนั่งเล่น
- Type B ขนาดแอร์ที่ให้ 9,000 – 18,000 BTU ขึ้นอยู่กับขนาดห้องนอนและห้องนั่งเล่น
- Type C ขนาดแอร์ที่ให้ 9,000 – 18,000 BTU ขึ้นอยู่กับขนาดห้องนอนและห้องนั่งเล่น
- Type D ขนาดแอร์ที่ให้ 9,000 – 18,000 BTU ขึ้นอยู่กับขนาดห้องนอนและห้องนั่งเล่น
เราพามาดูห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการกันก่อนนะคะ นั่นก็คือ 1 Bedroom Exclusive (Type B) พื้นที่ใช้สอย 30.07 – 30.67 ตร.ม. เป็นห้องที่อยู่คนเดียวได้สบายๆ ฟังก์ชันการใช้งานแบ่งเป็นสัดส่วน
- ห้องนั่งเล่นอยู่ด้านหน้า สามารถวางโซฟายาวได้
- ห้องน้ำเข้าจากห้องนั่งเล่น แบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน
- ครัวปิดอยู่ติดกับระเบียง ช่วยระบายอากาศได้ดี สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารในครัวได้เลย
- ห้องนอนได้ความเป็นส่วนตัว เหมาะกับเตียงขนาด 5 ฟุต
บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom Exclusive จะค่อนข้างโปร่งสบายค่ะ ห้องนั่งเล่นจะได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากฝั่งครัวเพราะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก ส่วนห้องนอนเป็นประตูทึบเพื่อความเป็นส่วนตัว
พื้นห้องปูด้วย SPC ลายไม้ มีความทนทานต่อความชื้น (บวมได้ยากกว่าลามิเนต) ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร ซึ่งเป็นความสูงมาตรฐานทั่วไปของคอนโด Low Rise 8 ชั้น ได้เครื่องปรับอากาศ 2 ตัว ที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน
ห้องนั่งเล่นทางโครงการมีโซฟามาให้แล้วนะคะ (คนละแบบกับในห้องตัวอย่าง) ด้านข้างเหลือพื้นที่วางโต๊ะทำงานหรือตู้เก็บของเพิ่มเติมได้ เพราะมีพื้นที่กว้างประมาณ 2.3 เมตรเลย
ห้องนี้มีระยะดู TV ประมาณ 3.30 เมตร วางโต๊ะกลางได้สบายๆ ไม่ขวางทางเดิน ใครที่เป็นคอหนัง,ซีรีส์ ก็สามารถวาง TV ขนาดประมาณ 50 นิ้วขึ้นไปได้เลย (แต่ต้องระวังไม่ให้ใหญ่จนบังประตูห้องน้ำนะคะ)
ห้องน้ำจะอยู่ด้านหลัง TV ใกล้ประตูห้องนอน เดินไปใช้งานได้สะดวกจากทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่น มีข้อดีคือความชื้นจากห้องน้ำจะไม่ปะปนในห้องนอนค่ะ
ห้องน้ำเลือกใช้กระเบื้องโทนสีครีมเรียบๆขนาด 30x 30 เซนติเมตร มีการกั้นส่วนเปียก-แห้งมาให้แล้ว วัสดุสุขภัณฑ์ที่ได้จะเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ
พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อยทำให้เวลาล้างห้องน้ำไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะไหลออกมาเปียกด้านนอก อ่างล้างหน้ามีช่องวางของด้านล่าง พร้อมกระจกเงาสี่เหลี่ยม โถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์จากแบรนด์ COTTO
พื้นที่อาบน้ำกั้นฉากกั้นกระจกมาให้เปิดได้กว้าง (แบบ 3 ตอน) พื้นที่ประมาณ 0.75 x 1.2 เมตร ยืนอาบได้สบายพร้อมเดินระบบเครื่องทำน้ำอุ่นและติดตั้งฝักบัวสายอ่อนมาให้ จาก COTTO เช่นเดียวกันค่ะ แนะนำให้ซื้อชั้นวางสบู่แชมพูมาเพิ่มเติมก็จะใช้งานได้เลยค่ะ
ห้องครัวออกแบบให้อยู่ด้านในติดกับระเบียงถือว่าดีมากเลยค่ะ เพราะสามารถระบายอากาศลดกลิ่นอับในครัวได้ดี นอกจากนั้นครัวยังได้แสงธรรมชาติเข้ามาเยอะ ทำให้ห้องสว่าง น่าใช้งานมากขึ้นด้วย
ห้องครัวใน Type นี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะ สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งได้สบายๆ ยืนทำอาหารวางของต่างๆ ก็สะดวกมากขึ้น พื้นครัวปูด้วยกระเบื้องมีความทนทานและทำความสะอาดง่าย
เคาน์เตอร์ครัวหน้าบานลายไม้ Top สีขาวดูสวยงาม พร้อมติดกระเบื้องที่ผนังเป็น Backsplash มาให้ทำความสะอาดได้ง่ายด้วยค่ะ ข้างล่างมีช่องลิ้นชักเก็บช้อนส้อม ช่องสำหรับวางไมโครเวฟ และลิ้นชักด้านล่างมาให้ ถ้าจะวางถังขยะก็สามารถวางในช่องเก็บของใต้อ่างได้เลย ส่วนตู้ด้านบนสามารถวางของที่หยิบใช้บ่อยๆ ได้สะดวก
เคาน์เตอร์ครัวจะมีอุปกรณ์มาให้ครบทั้งอ่างล้างจาน ก๊อกน้ำสเตนเลส 304 เหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ ได้เตาเซรามิก 2 หัวเป็นระบบให้ความร้อน มีข้อดีคือใช้กับหม้อ กระทะได้ทุกแบบ และได้เครื่องดูดควัน (ในห้อง Type A,B จะไม่มีท่อ Exhaust นะคะ) อุปกรณ์ครัวทั้งหมดจากแบรนด์ Teka
ระเบียงมีขนาดประมาณ 1 x 2.3 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกทำความสะอาดได้ง่าย มีระบบน้ำรองรับสำหรับวางเครื่องซักผ้า ส่วน Condensing Unit (CDU) จะแขวนไว้ เพื่อให้ใช้งานระเบียงได้เต็มที่ แนะนำให้ติดแผงเปลี่ยนทิศทางลมบน CDU เพื่อให้ระเบียงไม่ร้อนนะคะ
ห้องนอนเป็นห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวที่สุด มีพื้นที่ประมาณ 2.80 x 3.40 เมตร (รวมตู้เสื้อผ้า) ได้แสงธรรมชาติเข้ามาทั่วถึง หน้าต่างติดตั้งสูงจากพื้นจึงทำให้ไม่เปิดกว้างจนเกินไป สามารถนอนเปิดหน้าต่างชมวิวแล้วยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่ค่ะ
ห้องนอนมีฐานเตียง 5 ฟุตมาให้ ขนาดพอดีกับห้องนะคะ โดยด้านข้างเหลือพื้นที่วางชั้นวางของเล็กๆ ได้ 1 จุด
ถ้าใครที่ชอบห้องดูกว้างหน่อยแนะนำให้วางเตียงชิดกับหน้าต่าง จะทำให้ได้พื้นที่ยืนแต่งตัวกว้างมากขึ้นค่ะ
ทางโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ขนาดค่อนข้างใหญ่เลย เปิดได้ 3 บาน แบ่งแขวนเสื้อ กางเกงและชุดเดรสหรือกางเกงขายาวได้ ด้านบนมีช่องเก็บผ้านวมและหมอน พร้อมลิ้นชักเล็กๆมาให้อีก 2 จุดค่ะ
ถัดมาห้อง 1 Bedroom (Type A) พื้นที่ใช้สอย 25.16 – 26.12 ตร.ม. เป็นห้องที่มีการวางผังคล้ายกับ 1 Bedroom Exclusive เลยค่ะ แต่พื้นที่ใช้สอยแคบลงมาหน่อย เหมาะกับคนที่เน้นราคาเข้าถึงง่าย
- ห้องนั่งเล่นอยู่ด้านหน้า สามารถวางโซฟายาวได้
- ห้องน้ำเข้าจากห้องนั่งเล่น แบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน
- ครัวปิดอยู่ติดกับระเบียง ช่วยระบายอากาศได้ดี
- ห้องนอนได้ความเป็นส่วนตัว เหมาะกับเตียงขนาด 5 ฟุต
บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom
ห้องถัดมาเป็นห้อง 1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอย 33.42 – 34.29 ตร.ม. เป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น เหมาะกับคนที่ชอบห้องดูโปร่งกว้าง มีการวางผังแตกต่างจากห้องที่ผ่านมา โดยเน้นพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่ ไม่เน้นทำอาหารมากนัก
- ครัวปิดอยู่ด้านหน้าห้อง ทำให้ภายในห้องได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่จะไม่เหมาะกับการทำอาหารที่มีกลิ่นมากนัก
- พื้นที่นั่งเล่นกว้าง สามารถวางชุดโซฟาและโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งได้สบายๆ
- ห้องนั่งเล่นติดระเบียงได้แสงสว่าง และมองเห็นวิวได้ดี
- ห้องนอนขนาดใหญ่วางเตียง 5 – 6 ฟุต มีพื้นที่ Walk-in Closet แต่งตัวได้สะดวก
- ห้องน้ำเข้าได้จากห้องนอน แบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน
ห้อง Type นี้เข้ามาแล้วจะเจอกับครัวก่อนค่ะ การที่มีครัวอยู่ด้านหน้ามีข้อดีคือเวลาที่ซื้อของเข้ามาก็สามารถจัดเก็บในตู้ได้เลย ไม่ต้องหิ้วของเดินผ่านห้องนั่งเล่น และพื้นที่ครัวด้านหน้ายังเป็นเหมือน Buffer กั้นพื้นที่ส่วนตัว เวลาเปิดประตูอยู่คนข้างนอกที่เดินผ่านมาก็จะมองไม่เห็นภายในห้องของเรามากนัก
วัสดุอุปกรณ์ภายในครัว
เคาน์เตอร์ครัวคล้ายกับในห้องที่แล้วเลยค่ะ แต่จะมีความกว้างเพิ่มมากขึ้น มีหน้าบานลายไม้ Top สีขาวพร้อมติดกระเบื้อง Backsplash มาให้ ข้างล่างมีช่องลิ้นชักเก็บช้อนส้อม ช่องสำหรับวางไมโครเวฟ และช่องเก็บของใต้อ่าง เพิ่มเติมคือชั้นวางขวดซอส ขวดน้ำมันต่างๆ ให้หยิบใช้งานได้สะดวกและดูเรียบร้อยมากขึ้นค่ะ
ทางฝั่งขวามือเป็นพื้นที่วางตู้เย็น สามารถเลือกเป็นตู้เย็นขนาดใหญ่ 4 ประตูได้เลย แต่ถ้าใครมีตู้เย็น 2 ประตูแบบในห้องตัวอย่างก็จะเหลือพื้นที่ด้านข้างสำหรับวางตู้เก็บรองเท้า หรือเก็บของเพิ่มเติมได้ค่ะ
เข้ามาด้านในห้องมีพื้นที่ค่อนข้างโปร่งโล่งเชื่อมต่อไปจนถึงระเบียง มองเห็นวิวได้เลย สามารถแบ่งได้เป็น 2 โซน คือ พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น
พื้นที่รับประทานอาหารวางโต๊ะได้ 2 ที่นั่งสบายๆ หรือใครจะปรับเป็นโซนนั่งทำงานส่วนตัวก็ได้เหมือนกันนะคะ
พื้นที่นั่งเล่นจะได้แสงสว่างเข้ามาทั่วถึงเพราะอยู่ติดกับระเบียง (แต่ในห้องตัวอย่างจะค่อนข้างมืดเพราะเขาปิดระเบียงด้านนอกค่ะ) สามารถวางโซฟา 2 ที่นั่งได้สบายๆ ระยะดู TV ประมาณ 2.40 เมตร เหมาะกับ TV ขนาดประมาณ 43 – 50 นิ้วค่ะ
ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอนทำให้เปิดได้กว้าง ระเบียงมีขนาดประมาณ 1 x 2.4 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกทำความสะอาดได้ง่าย มีระบบน้ำรองรับสำหรับวางเครื่องซักผ้าได้ ส่วน Condensing Unit เป็นแบบแขวน ทำให้ใช้งานพื้นที่ระเบียงได้ทั้งหมด
บรรยากาศในห้องนอน
ห้องนอนใน Type นี้จะได้ความโปร่งกว้างมากขึ้นค่ะ มีพื้นที่ประมาณ 2.70 x 4.80 เมตร (รวมตู้เสื้อผ้า) ได้แสงธรรมชาติเข้ามาทั่วถึง หน้าต่างติดตั้งสูงจากพื้นสามารถนอนเปิดหน้าต่างชมวิวแล้วยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่
ทางโครงการมีห้องนอนมีฐานเตียง 5 ฟุตมาให้ ขนาดพอดีกับห้อง โดยด้านข้างเหลือพื้นที่วางชั้นวางของหรือโต๊ะข้างเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง
ภายในห้องนอนจะมีพื้นที่ Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำ ตรงข้ามตู้เสื้อผ้าสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ บริเวณนี้ค่อนข้างกว้างสามารถยืนแต่งตัวได้สะดวกเลยค่ะ
ทางโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ขนาดค่อนข้างใหญ่เปิดได้ 3 บาน แบ่งแขวนเสื้อ กางเกงและชุดเดรสหรือกางเกงขายาวได้ ด้านบนมีช่องเก็บผ้านวมและหมอน พร้อมลิ้นชักเล็กๆ มาให้ 2 จุดค่ะ
บรรยากาศในห้องน้ำ
ห้องน้ำเหมือนในห้อง 1 Bedroom Exclusive เลยค่ะ ใช้กระเบื้องโทนสีครีมเรียบๆ ขนาด 30x 30 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อยทำให้เวลาล้างห้องน้ำไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะไหลออกมาเปียกด้านนอก อ่างล้างหน้ามีช่องวางของด้านล่าง พร้อมกระจกเงาสี่เหลี่ยม โถสุขภัณฑ์และอุปกรณ์จากแบรนด์ COTTO
พื้นที่อาบน้ำกั้นฉากกั้นกระจกมาให้เปิดได้กว้าง (แบบ 3 ตอน) พื้นที่ประมาณ 0.75 x 1.2 เมตร ยืนอาบได้สบายพร้อมเดินระบบเครื่องทำน้ำอุ่นและติดตั้งฝักบัวสายอ่อนมาให้ จาก COTTO แนะนำให้ซื้อชั้นวางสบู่แชมพูมาเพิ่มเติมนะคะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่า
ราคา
Chewathai Hallmark Ekkamai-Raminthra (ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค เอกมัย-รามอินทรา) ราคา ณ วันที่ 13 พฤษภาคม 2567
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25.16 – 26.12 ตร.ม.ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท*
- รูปแบบการขาย Fully Furnished : ตู้เสื้อผ้า, ชุดครัว, เครื่องปรับอากาศ และ เฟอร์นิเจอร์ โซฟา, ชั้นวางทีวี, โต๊ะอาหาร, เก้าอี้สำหรับโต๊ะอาหาร, เตียงนอน 5 ฟุต**
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
- Kitchen & Sink / Hob & Hood จากแบรนด์ TEKA**
- สุขภัณฑ์ จากแบรนด์ Cotto และ Accessories จาก VRH , Victor หรือเทียบเท่า**
- จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 15,000 บาท
- ดาวน์ 5 % ผ่อนดาวน์ 15 งวด
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
*ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นที่กำหนดหรือเทียบเท่านะคะ
บทสรุป
ทำเล :
โครงการ Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา ตั้งอยู่บนถนนนวลจันทร์ ใกล้กับถนนรัชดา-รามอินทรา และถนนเกษตร-นวมินทร์ ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อถนนพหลโยธินไปจนถึงถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก บรรยากาศทำเลค่อนข้างคึกคักมีครบครันทั้งตลาด, แหล่ง Lifestyle, สถานศึกษา และสถานพยาบาลชั้นนำ
หาซื้อของกินของใช้ง่าย ใกล้กับตลาดขนาดใหญ่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ตลาดปัฐวิกรณ์, ตลาดหัวมุม, เดอะ วอร์ค เกษตร-นวมินทร์ ในระยะทางไม่เกิน 3 กิโลเมตร รอบๆมีแหล่งซื้อของตกแต่งบ้านอย่าง บุญถาวร เกษตร-นวมินทร์, ชิค รีพับบลิค, คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) รวมถึงศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง เซ็นทรัล อีสต์วิลล์
การเดินทางโดยใช้รถ :
การเดินทางโดยใช้รถยนต์ทำได้สะดวกทีเดียวค่ะ เนื่องจากอยู่ใกล้กับทางด่วน 2 เส้นทาง 1 ทางพิเศษฉลองรัช ใช้วิ่งเข้าเมืองไปทางพระราม 9, สุขุมวิท, สีลม-สาทร หรือออกเมืองไปย่านสายไหมได้ 2 ถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก ใช้วิ่งรอบนอกไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ หรือวิ่งออกเมืองไปลำลูกกาได้
สำหรับคนที่ไม่ใช้ทางด่วนสามารถวิ่งเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรมเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษกได้เลย ทำให้โครงการนี้นอกจากจะเหมาะกับคนที่ทำงานในย่านนวลจันทร์, เกษตร-นวมินทร์แล้ว ยังเหมาะกับคนที่มองหาคอนโดราคาเข้าถึงง่ายที่ทำงานในย่านรัชดาฯ, ลาดพร้าว, พระราม 9 ด้วยค่ะ
โครงการมีที่จอดรถมาให้ 153 คัน คิดเป็น 37% (ไม่รวมซ้อน) ถือว่าให้มาตามมาตรฐานทั่วไป
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
สำหรับคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว บนถนนเส้นนี้สามารถเรียกรถผ่าน Application ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น Taxi หรือ Grab วิน นอกจากนั้นยังไม่ไกลจากรถไฟฟ้า 3 สาย สายสีชมพู สถานีคู้บอน ระยะทางประมาณ 4 กม. (เปิดให้บริการแล้ว) และแผนพัฒนาในอนาคต รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล สถานีนวลจันทร์, รถไฟฟ้าสายสีเทา สถานีคลองลำเจียก
วัสดุ :
โครงการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ ทั้งเครื่องปรับอากาศ 2 ตัว, ฉากกั้นอาบน้ำ, ตู้เสื้อผ้า, ชั้นวางทีวี, ฐานเตียง, โซฟา, ชุดโต๊ะ+เก้าอี้ รับประทานอาหาร, ชุดครัว Built-in พร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน ปูพื้นด้วย SPC ลายไม้ และกระเบื้อง Ceramic
สุขภัณฑ์ จาก Cotto และ Accessories จาก VRH , Victor Hob Hood Sink จากแบรนด์ TEKA พร้อม Backsplash ถือว่าให้มาค่อนข้างคุ้มค่ากับราคา 78,000 – 81,000 บาท/ตร.ม.
การออกแบบ :
โครงการออกแบบภายใต้แนวคิด STAYCATION LIFESTYLE SUMMER RESORT ให้ความรู้สึกเหมือนพักผ่อนในรีสอร์ต โดยการนำเส้นสายของคลื่นทะเลเป็นส่วนประกอบในการออกแบบและใช้โทนสีภายในอาคารที่ได้กลิ่นอายของ Summer ดูสดใสมากขึ้น มีการวางผังอาคารเป็นตัว L ทั้ง 2 อาคาร ทำให้มีพื้นที่คอร์ทส่วนกลาง 2 ด้าน ทำให้บรรยากาศภายในโครงการดูโปร่ง มองเห็นวิวได้ทั้ง 2 ด้าน แยกพื้นที่ส่วนกลางออกจากห้องพักอาศัย ทำให้ห้องพักได้ความเป็นส่วนตัวไม่พลุกพล่าน
ห้องพักอาศัยออกแบบให้เป็นสัดส่วน ได้ครัวปิดขนาดใหญ่ ทำอาหารได้เต็มที่ กลิ่นไม่ฟุ้งกระจาย, มีพื้นที่วางโต๊ะทำงาน, ประตูห้องนอนทึบได้ความเป็นส่วนตัวสูง ฯลฯ มีแบบห้องให้เลือก 4 แบบ เน้นห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 25.16 – 37.91 ตร.ม. เหมาะกับอยู่ 1 – 2 คนได้สบายๆ
สาธารณูปโภค :
พื้นที่ส่วนกลางมีความหลากหลาย ประกอบไปด้วย มีสระว่ายน้ำ, ห้องออกกำลังกายวิวสระว่ายน้ำ พื้นที่นั่งเล่นในสวน เชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนกลางในอาคาร A ชั้น 1 ซึ่งเป็น Facility ที่ตอบโจทย์ Trend การใช้ชีวิตปัจจุบัน เช่น Co-Working Space, Private Meeting Room, Creative Pod, Terrace Lounge รวม Facility กว่า 14 ฟังก์ชัน ถือว่าค่อนข้างเยอะ เมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียม Low Rise ใน Segment เดียวกัน
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 70,000 – 80,100 บาท/ตร.ม., วันที่ 13 พฤษภาคม 2567
- ทำเล 7.75/10 – สาธารณูปโภครอบๆโครงการครบครัน ทั้งตลาด โรงเรียน และโรงพยาบาล
- เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – ติดถนนนวลจันทร์ ไม่ไกลจากทางด่วน 2 สาย
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีคู้บอน
- วัสดุ 8.50/10 – Fully Furnished วัสดุมีความคุ้มค่า
- แบบ 8.50/10 – เน้นความเป็นส่วนตัว ฟังก์ชันเป็นสัดส่วน
- สาธารณูปโภค 8.50/10 – พื้นที่ส่วนกลางหลากหลายน่าใช้งาน
- ECONOMY CLASS
- 8.10 / 10.00
Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา เหมาะกับใคร
โครงการ Chewathai Hallmark เอกมัย – รามอินทรา เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเองย่านเกษตร-นวมินทร์, นวลจันทร์ เดินทางไปย่านรัชดา, ลาดพร้าวได้สะดวก หรือต้องการคอนโดปล่อยเช่า บุคลากรที่ทำงานโรงพยาบาลในละแวกนั้น ชอบโครงการที่ได้พื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย บรรยากาศน่าใช้งาน ชอบห้อง 1 Bedroom ที่แบ่งเป็นสัดส่วน ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ ไม่ต้องเสียเวลาแต่งเอง มีงบประมาณ 1.89 – 2.5 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,000 – 15,000 บาท/เดือน
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่