Chapter One Spark Charan (เชปเตอร์วัน สปาร์ค จรัญ) เป็นคอนโดติดถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้ MRT บางพลัด 150 เมตร ที่ถือว่าทำราคาได้ดีในย่านนี้ 1 Bedroom ราคาเริ่มต้นที่ 1.69 ล้านบาท โดยมีจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้
- ทำเล : ติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนศรีรัช แหล่งชุมชน ตลาด โรงพยาบาล โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า และสถานที่ราชการหลายแห่ง
- ใกล้รถไฟฟ้า : โครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT บางพลัด 150 เมตร เชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่เมืองได้ง่าย ห่างจากสถานีเตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ 3 สถานี ห่างจากสถานี Bang Sue Grand Station 4 สถานี และอยู่ห่างจากสถานีเชื่อมต่อสวนจตุจักร 6 สถานี
- พื้นที่ส่วนกลาง : พื้นที่สีเขียวเกือบ 3 ไร่ ไฮไลต์พิเศษคือชั้น Rooftop ที่มาพร้อมสระว่ายน้ำยาวกว่า 50 เมตร และสวนส่วนกลางที่รับทั้งวิวแม่น้ำ และวิวเมือง
เชิญชมห้องตัวอย่างได้แล้ว วันนี้!! Pre-Sale 18-19 พ.ย.66 นี้
ข้อมูลโครงการ
Chapter One Spark Charan (เชปเตอร์วัน สปาร์ค จรัญ) ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566
ชื่อโครงการ | Chapter One Spark Charan (เชปเตอร์วัน สปาร์ค จรัญ) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนจรัญสนิทวงศ์ เขต บางพลัด |
ที่ดิน | 6-2-57.5 ไร่ |
ประเภทคอนโด | High Rise 26 ชั้น 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | จำนวน 1,533 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 74 ยูนิตที่ชั้น 6-24 |
ที่จอดรถ | จอดแบบ conventional จำนวน 528 ช่อง (ประมาณ 34 % ไม่ซ้อนคัน) |
วันที่เปิดขาย | 18-19 พ.ย. 2566 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | กุมภาพันธ์ 2569 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.70 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 1.69 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 87,000 บาท/ตร.ม. |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | N/A |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | EIA Approved |
เว็บไซต์โครงการ | https://bit.ly/3QUO4AP |
Call Center | 1739 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps โครงการ : 13.795005727924682, 100.50565307114498 หรือสามารถ : คลิกที่นี่
พิกัด Google Maps สำนักงานขาย : 13.792386965065578, 100.50507724207279 หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ Chapter One Spark Charan (เชปเตอร์วัน สปาร์ค จรัญ) ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 85 ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางพลัด ทำเลจัดอยู่ในจรัญฯช่วงปลาย ซึ่งมีข้อดีคือใกล้สะพานพระราม 7 สามารถใช้เส้นทางข้ามฝั่งเพื่อเข้าเมืองไปยังย่าน รัชดาภิเษก ลาดพร้าว พระราม9 ได้สะดวก นอกจากนั้นยังใกล้สะพานกรุงธนฯหรือสะพานซังฮี้อีกหนึ่งสะพานที่ใช้ข้ามฝั่งไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้ บริเวณสะพานนี้จะมีท่าเรือใช้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการเดินทาง อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกใช้หนีรถติดได้ ถือเป็นอีกความสะดวกหนึ่งในการเดินทาง เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาดังนั้นในชั้นสูงๆก็จะเห็นวิวแม่น้ำด้วย ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นๆก็สะดวกเนื่องจากโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ เรียกรถได้ง่ายทั้งแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ มีป้ายรถเมลล์อยู่หน้าโครงการเลยค่ะ
สำหรับความอุดมสมบูรณ์นั้น ทำเลนี้ถือว่าเป็นแหล่งชุมชนที่มีตลาด โรงพยาบาล โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า และสถานที่ราชการหลายแห่ง ติดๆกับโครงการเลยก็มีตลาดและ7-11 เดินไปหาอะไรทานได้สะดวกมากๆ สถานที่สำคัญอื่นๆก็จะใกล้สำนักงานเขตบางพลัดและโรงพยาบาลยันฮี ที่ข้างๆโรงพยาบาลเป็นตลาดบางอ้อ ตลาดที่มีของขายทั้งคาวหวานเดินมาหาอะไรทานได้สะดวก มี Lotus’s สาขาบางพลัดในบริเวณใกล้เคียงเอาไว้ให้มาจับจ่ายใช้สอยกันได้ ถ้าอยากไปห้างใหญ่ๆต้องไปที่บริเวณถนนบรมราชชนนีซึ่งมีครบทั้งศูนย์การค้าอย่าง เซ็นทรัลปิ่นเกล้า Hypermarket อย่าง Lotus’s และ Community mall อย่าง The Sense นอกจากนั้นยังมีพาต้า ห้างเก่าแก่แหล่งรวมร้านอาหาร วินรถตู้ รถเมล์ และช่างชุ่ย อยู่ในทำเลใกล้ๆกัน
ตัวโครงการตั้งอยู่ห่างจาก MRT บางพลัดประมาณ 150 เมตร สามารถใช้เส้นทางเชื่อมต่อเข้าสู่เมืองได้ง่าย โดยสถานีนี้จะห่างจากสถานีเตาปูน-อินเตอร์เชนจ์เพียง 3 สถานี ห่างจากสถานี Bang Sue Grand Station เพียง 4 สถานี และอยู่ห่างจากสถานีเชื่อมต่อสวนจตุจักรเพียง 6 สถานีค่ะ
นอกจากตัวช่วยในการเดินทางอย่างรถไฟฟ้าแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของพื้นที่ในทำเลนี้คืออยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีตัวช่วยในการเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยาเพิ่มเข้ามาด้วย ก็ช่วยทุ่นเวลา ไม่ให้เราต้องอยู่บนท้องถนนนานนัก โดยท่าเรือที่ใกล้และสะดวกต่อการเดินทางคือท่าเรือสะพานกรุงธนฯ สามารถใช้เดินทางไปสาทรได้เลย
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยแนวราบ ที่อยู่อาศัยฝั่งริมถนนใหญ่จะเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์สูง 3-4 ชั้น ตัวโครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาดใหญ่ประมาณ 6-2-57.5 ไร่ ทางเข้า-ออกด้านหน้าโครงการจะติดกับถนนจรัญสนิทวงศ์ โดยลักษณะของแปลงที่ดินจะบานออกด้านใน โดยมีแต่ละด้านของที่ดินติดกับ
- ทิศเหนือ – ชุมชนบ้านพักอาศัยและแนวตึกแถว
- ทิศตะวันออก – ตลาด , 7-11 , โรงแรม 8 ชั้นและถนนจรัญสนิทวงศ์
- ทิศใต้ – ถนนจรัญสนิทวงศ์ , สำนักงานเขตบางพลัด และแนวตึกแถว
- ทิศตะวันตก – แนวตึกแถวและชุมชนที่อยู่อาศัย
สภาพแวดล้อมโครงการนี้มีความเป็นชุมชน ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบและตึกแถว มีอพาร์ทเม้นท์ โรงแรมและคอนโดอยู่บ้างแต่ไม่ได้บดบังวิวในระยะประชิด ตัวโครงการจะอยู่ห่างจาก MRT บางพลัดประมาณ 150 เมตร โดยตัวอาคารจะอยู่ลึกถัดเข้ามาด้านใน ซึ่งจะช่วยให้บรรยากาศด้านในโครงการมีความสงบจากถนนใหญ่มากขึ้น
ใครที่จะเข้าไปชมโครงการ สำนักงานขายเขาอยู่คนละที่กับที่ตั้งโครงการนะคะ คนละฝั่งกันเลยดูพิกัดดีๆ วันนี้เราเก็บภาพจากสำนักงานขายเดินไปที่ที่ตั้งโครงการมาฝากกันค่ะ
สำนักงานขายโครงการ
สำนักงานขายจะอยู่ติดกับถนนใหญ่ คนละฝั่งกับที่ตั้งโครงการ ช่วงซอยจรัญสนิทวงศ์ 74/1 มีห้องตัวอย่างและโมเดลให้ดูครบนะคะ
เดี๋ยวเราพาเดินข้ามฝั่งไปที่ตั้งโครงการกันค่ะ
จากสำนักงานขายเราเดินข้าม MRT บางพลัดไปฝั่งตรงข้าม
บรรยากาศจากสำนักงานขายไปที่ตั้งโครงการค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- 7-11 / ตลาด ∼ 0 เมตร
- Lotus’s สาขา บางพลัด ∼ 850 เมตร
- ตลาดบางอ้อ ∼ 1.1 กิโลเมตร
- เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ∼ 8 กิโลเมตร
- เมเจอร์ ปิ่นเกล้า ∼ 8 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลยันฮี ∼ 1.5 กิโลเมตร
โรงเรียน / สถานศึกษา
- โรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์ ∼ 2.2 กิโลเมตร
- โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ ∼ 3.4 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้านครเหนือ ∼ 4.4 กิโลเมตร
- โรงเรียนทิวไผ่งาม ∼ 3.9 กิโลเมตร
- โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ∼ 3.9 กิโลเมตร
- โรงเรียนราชินีบน ∼ 4.8 กิโลเมตร
สถานที่ราชการ
- สำนักงานเขตบางพลัด ∼ 230 เมตร
- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ∼ 4.1 กิโลเมตร
- รัฐสภาใหม่ ∼ 5.8 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
Chapter One Spark Charan (เชปเตอร์วัน สปาร์ค จรัญ) เป็นคอนโด High Rise 1 อาคาร จำนวน 1,533 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต การออกแบบโครงการนี้ดีไซน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ Craft Of Work”
โครงการนี้มีทั้งหมด 26 ชั้น พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1 , ชั้น 5 และชั้นดาดฟ้า จุดเด่นโครงการคือพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มาแบบจัดเต็มและพื้นที่สีเขียวเกือบ 3 ไร่ ที่จอดรถจะอยู่ชั้น 1-4 ส่วนห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 5 โดยจะมีให้เลือกทั้ง 1 Bedroom 1 Bedroom Plus 2 Bedroom และห้อง Loft
ทางเข้า-ออกโครงการจะอยู่ติดกับถนนจรัญสนิทวงศ์ โดยตัวอาคารจะอยู่ห่างถนนใหญ่ไปพอสมควร บริเวณหน้าโครงการจะมีถนนตัดเข้าไปแบบนี้ค่ะ
สังเกตว่าตัวโครงการจะมีจุดเด่นคือทางเข้าติดถนนใหญ่แต่ได้ความเป็นส่วนตัวจากตัวอาคารที่หลบเข้ามาด้านใน มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ และในชั้นสูงๆจะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ด้วย ซึ่งเป็นเสน่ห์ของโครงการ High Rise ในย่านนี้เลย
ดูจาก Master Plan จากถนนใหญ่จะมีถนนตัดเข้ามาด้านใน ที่จอดรถจะสามารถจอดได้รอบอาคารและที่ชั้น 1-4 โดยที่จอดจะเป็นแบบ conventional จำนวน 528 ช่อง หรือประมาณ 34 % แบบไม่ซ้อนคัน มี EV Charger มาให้ รอบๆอาคารจะมีสวนหย่อม จัดเป็นกิจกรรมต่างๆ เช่นสนามเด็กเล่นที่พัฒนาและออกแบบร่วมกับรพ. Vimut Jogging Track ความยาวรวมประมาณ 150 เมตร แบ่งฟังก์ชันกันจัดเจน กระจายการใช้งานกันไป สามารถเดินไปใช้ได้รอบโครงการค่ะ
ภายในอาคารจะมี Sparkling Lobby (พื้นที่สำหรับลูกบ้านพักคอย) Shining Lounge (ส่วนต่อเนื่องจาก Sparkling lobby มีโซนสำหรับนั่งทำงาน และที่นั่งเล่น) Gather & Glow Room (ห้องประชุม) Chill & Shine Space (มุมที่นั่งแบ่งสัดส่วนเป็นส่วนตัว) Mail Room Delivery & Vending machine room (ห้องสำหรับให้ Food delivery มาส่งของ และห้องวางเครื่องดื่ม food and beverage vending machine)
ถนนจากด้านหน้าที่ตัดเข้ามาในโครงการ
โครงการมีพื้นที่สีเขียวเกือบ 3 ไร่ อย่างชั้นล่างถ้ามองจากโมเดลจะเห็นว่ามีการจัดสวนหย่อมอยู่โดยรอบเลย
SPARKLING EDEN พื้นที่สีเขียวเกือบ 3 ไร่ จัดเป็นไม้ต้นและไม้พุ่มบรรยากาศร่มรื่น เหมาะกับการเดินเล่นพักผ่อนตอนเช้าหรือเย็นค่ะ
SHINE ZONE เป็นสนามเด็กเล่น พัฒนาและออกแบบร่วมกับรพ. Vimut มีคอกกั้นเอาไว้รอบ คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกๆมาเล่นได้อย่างอุ่นใจ ภายในมีของเล่นกลางแจ้งที่ดีต่อพัฒนาการและกล้ามเนื้อของน้องๆ โดยที่บรรยากาศโดยรอบยังรายล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจีค่ะ
เข้ามาด้านในอาคารจะเจอกับ SPARKLING LOBBY พื้นที่สำหรับลูกบ้านพักคอย บรรยากาศโปร่งโล่งด้วยฝ้าเพดานสูงและมีการตกแต่งที่น่าสนใจ ด้วยสีสันที่สดใสและฟอร์มของฝ้าเพดานค่ะ
ชั้น 5 จะเริ่มเป็นโซนพักอาศัยผสมกับพื้นที่ส่วนกลาง ชั้นนี้เหมาะกับคนที่ชอบใช้ส่วนกลางพวกสวนหย่อมและห้องทำงาน ไม่ชอบความวุ่นวายเพราะเป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตต่อชั้นยังไม่มากเท่าไหร่ โดยห้องพักจะแบ่งออกเป็น 2 โซนฝั่งทิศเหนือและทิศใต้ แบ่งกันด้วยพื้นที่ส่วนกลาง โถงลิฟต์ก็จะแบ่งเป็น 2 โซนเช่นเดียวกัน เพื่อกระจายการใช้งานไปยังห้องพักอาศัยทั้ง 2 ฝั่ง รวมๆแล้วมีลิฟต์โดยสาร 7 ตัว Service Lift 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 219 : 1 ถือว่าหนาแน่นพอสมควร ส่วนห้องพักที่อยู่บริเวณมุมอาคารจะได้ความสงบและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ด้วยตำแหน่งที่ไม่ติดกับใคร แต่อาจจะเดินไกลลิฟต์นิดนึงค่ะ
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางจะมี Café Glow (Co working นั่งทำงานชิวสไตล์ร้านกาแฟคาเฟ่ ชิวๆ วิวสวน) Glow-Working Space (นั่งทำงานเงียบๆ ใช้สมาธิ + โซนที่นั่งทำงานเป็นห้องส่วนตัว พร้อมวิวสวน) Luminous Pavilion (สวนที่มีชิงช้านั่งมองวิวได้) และ Sparkling Ciné (ห้องดูหนัง)
บรรยากาศสวนบริเวณชั้น 5 หรือ LUMINOUS สวนที่มีชิงช้านั่งมองวิวได้
สำหรับคอหนังถ้าอยากดูจอใหญ่แบบเต็มตาเราก็มี SPARKLING CINE ห้องดูหนังมาให้
GROW – WORKING SPACE จะเป็นมุมนั่งทำงานเงียบๆ ใช้สมาธิ และจะมีโซนที่นั่งทำงานเป็นห้องส่วนตัว พร้อมชมวิวสวนอีกด้วย
CAFE GLOW เป็น Co working นั่งทำงานชิวสไตล์ร้านกาแฟคาเฟ่ สามารถทำงานชมวิวสวนในบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น
ชั้น 6 – 24 จะเป็น Typical Floor Plan สังเกตว่าแปลนจะเป็นรูปตัว H มีโถงลิฟต์อยู่ 2 ฝั่ง ซึ่งถ้าห้องใกล้ฝั่งไหนใครขึ้นทางฝั่งนั้นดีกว่าจะได้ไม่ต้องเดินไกล สำหรับห้องพักที่อยู่ฝั่งด้านหน้าโครงการฝั่งทิศเหนือ ทิศตะวันออก ชั้นสูงๆจะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยค่ะ
ชั้น 25 จะมีจำนวนยูนิตต่อชั้นน้อยลงเพราะมีการแบ่งพื้นที่บางส่วนเป็นงานระบบสระว่ายน้ำ แต่การจัดผังต่างๆยังคล้ายของเดิม
พื้นที่ส่วนกลางชั้น 26
ชั้น 26 เป็นพื้นที่ส่วนกลางยกชั้นซึ่งจะมี Active Sky Ride (ที่ปั่นจักรยานบนชั้นดาดฟ้า และ Jogging Track ความยาวประมาณ 90 m.) Energetic Gym (Fitness มี 2 ฝั่ง วิวเมืองกับวิวแม่น้ำ แบ่งเป็นห้องอุปกรณ์ฟิตเนส, ห้อง TRX, ห้อง Yoga) Swimming Sparkling Pool (สระระบบเกลือยาวขนาดโอลิมปิก 50 m., Kid’s pool, Jacuzzi) Steam room (แยกชาย-หญิง เห็นวิวเมือง) Sparkling Bridge (สะพานบริเวณสระว่ายน้ำ มีจุดชมวิวพื้นกระจก สามารถยืนชมวิวแม่น้ำได้) Sparkling Sky Lounge (Sky Lounge วิวแม่น้ำ) Game Galaxy (Game Room) และ Grow & Glow Garden (สวนผัก)
ENERGETIC GYM ห้อง Fitness มี 2 ฝั่ง วิวเมืองกับวิวแม่น้ำ แบ่งเป็นห้องอุปกรณ์ฟิตเนส, ห้อง TRX และห้อง Yoga สามารถขึ้นมาออกกำลังกายพร้อมชมวิวไปด้วยได้
GAME GALAXY (Game Room) เป็นมุมพักผ่อนสบายๆ มาใช้อ่านหนังสือ นัดพบปะเพื่อนๆ หรือมาเล่นเกมส์ก็ได้ บรรยากาศจะดูโปร่งโล่งเพราะหน้าต่างบานใหญ่
SPARKLING SKY LOUNGE หรือห้อง Sky Lounge ที่สามารถชมวิวแม่น้ำมาด้วย ภายในมีชุดที่นั่งมาให้ค่อนข้างเยอะทั้งแบบนั่งกันไม่กี่คนและนั่งเป็นกลุ่มใหญ่
ไฮไลต์พิเศษคือชั้น Rooftop ที่มาพร้อมสระว่ายน้ำยาวกว่า 50 เมตร และสวนส่วนกลางที่รับทั้งวิวแม่น้ำ และวิวเมือง
ตรงบริเวณสระจะมีสะพานบริเวณสระว่ายน้ำ (SPARKLING BRIDGE ) มีจุดชมวิวพื้นกระจก สามารถยืนชมวิวแม่น้ำได้
มองมุมสูงจะเห็นทั้งวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและแนวรถไฟฟ้าค่ะ วิวตอนกลางคืนมองวิวสะพานแล้วสวยดี
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้น 1 :
– Sparkling Eden (สวนหย่อม)
– Shine Zone (สนามเด็กเล่น พัฒนาและออกแบบร่วมกับ รพ. Vimut)
– Active Glow Path (Jogging Track)
– Visitor Waiting Area
– Sparkling Lobby (พื้นที่พักคอย)
– Shining Lounge (โซนสำหรับนั่งทำงานและที่นั่งเล่น)
– Gather & Glow Room (ห้องประชุม)
– Chill & Shine Space
– Mail Room
– Delivery & Vending machine room
– EV Charger - ชั้น 5 :
– Café Glow (Co working)
– Glow-Working Space (ห้องทำงานเงียบๆ + ห้องส่วนตัว)
– Luminous Pavilion (สวนที่มีชิงช้านั่งมองวิวได้)
– Sparkling Ciné (ห้องดูหนัง) - ชั้น 26 :
– Active Sky Ride (ที่ปั่นจักรยานและ Jogging Track)
– Energetic Gym
– Swimming Sparkling Pool
– Steam room (แยกชาย-หญิง)
– Sparkling Bridge (สะพานบริเวณสระว่ายน้ำ มีจุดชมวิวพื้นกระจก)
– Sparkling Sky Lounge (Sky Lounge)
– Game Galaxy (Game Room)
– Grow & Glow Garden (สวนผัก) - ลิฟต์โดยสาร 7 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 219 : 1
- Service Lift : 1 ตัว
- จอดแบบ conventional จำนวน 528 ช่อง (ประมาณ 34 % ไม่ซ้อนคัน)
แบบห้อง
ห้องพักอาศัยในโครงการนี้มีให้เลือกหลายแบบ ดังต่อไปนี้
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.00 – 30.75
- 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.50
- 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 55.30 – 55.75
- Loft พื้นที่ใช้สอย 22.00 – 55.30 ตร.ม.
โดยรูปแบบการขายเป็นแบบ Fully Fitted ให้สุขภัณฑ์ห้องน้ำและเคาน์เตอร์ครัว โดยห้องครัวมีการออกแบบเป็นครัวปิด ขึ้นอยู่กับว่าตำแหน่งครัวจะอยู่หน้าห้องหรืออยู่เชื่อมต่อกับระเบียง สามารถทำอาหารในห้องได้ ส่วนห้องนอนจะมีการกั้นเป็นสัดส่วนค่ะ ห้องตัวอย่างในวันนี้เราจะพาไปชมห้อง 1 Bedroom 26.50 ตารางเมตรและห้อง 1 Bedroom Plus 34.50 ตารางเมตร
1 Bedroom 26.50 ตารางเมตรเป็นห้องที่เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน ฟังก์ชันกั้นแยกเป็นสัดส่วนทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัวและห้องน้ำ สามารถวางโซฟา 2-3 ที่นั่งและโต๊ะรับประทานอาหารได้ โดยโต๊ะอาหารสามารถใช้งาน Multi-Function ปรับใช้เป็นโต๊ะทำงานได้อีก สำหรับครัวจะอยู่ติดกับระเบียงทำให้สามารถเปิดประตูระบายอากาศเวลาทำอาหารได้ เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหาร ส่วนห้องนอนก็มีประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอนกั้นเป็นสัดส่วนค่ะ
เข้ามาในห้องจะเจอกับห้องนั่งเล่นที่สามารถวางโซฟาได้ 2-3 ที่นั่ง ถัดไปจึงเป็นห้องนอน ห้องครัวและห้องน้ำ ฝ้าเพดานสูง 2.7 ม. พื้นเป็น SPC หนา 5 มม. ซึ่งเป็นวัสดุที่ทนทานต่อความชื้นและรอยขีดข่วน
Digital Door Lock ได้เป็นของ Secuon ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งการตั้งรหัส คีย์การ์ด และกุญแจ
ฝั่งหน้าห้องจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่สามารถวางโซฟาตัวใหญ่ได้ 1 ตัวจะใช้เป็นที่นั่งดูทีวีหรือนอนพักผ่อนก็ได้ โดยโครงการขายแบบ Fully Fitted พวกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เราจะไม่ได้นะคะ แต่สามารถดูห้องตัวอย่างเป็นไอเดียในการตกแต่งได้
ผนังฝั่งตรงข้ามโซฟาสามารถ Built-in ชั้นวางทีวีและตู้เก็บของได้ทั้งแผงค่ะ
ติดกับโซฟาจะมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะอาหารได้แบบนี้ หรือจะปรับมุมนี้ไปใช้เป็นโต๊ะทำงานก็ได้ค่ะ
พื้นที่ Common Area จะถูกกั้นเป็นสัดส่วนออกจากพื้นที่พักผ่อนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน
ประตูบานเลื่อนกระจก
ห้องนอนพักผ่อนกั้นแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกกรอบบานอลูมิเนียมแบบ 3 ตอน ซึ่งข้อดีคือภายในห้องนอนจะได้ความโปร่ง โล่งในขณะเดียวกันถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็สามารถปิดม่านหรือติดสติกเกอร์ฝ้าได้ค่ะ
ภายในห้องนอนวางเตียงได้แบบ Queen Size มีบานหน้าต่างให้ความสว่างบริเวณข้างเตียง ส่วนทางฝั่งขวาจะเป็นตู้เสื้อผ้า สำหรับแอร์ 1 Bedroom 26.5 sq.m. จะได้แอร์ 2 ตัว
ทางฝั่งขวาของเตียงมีพื้นที่สามารถวางเป็นตู้เสื้อผ้าได้
ส่วนปลายเตียงมีระยะให้เดินผ่านและสามารถติดตั้งทีวีแขวนผนังได้
ห้องครัวเป็นครัวปิดมีประตูกั้นเป็นสัดส่วน สามารถเปิดประตูระบายอากาศเชื่อมต่อกับระเบียงได้ ซึ่งทำให้ช่วยลดกลิ่นได้ดีขึ้นค่ะ โดยวัสดุพื้นจะเป็นกระเบื้องแกรนิโต้ 60×60 ( ยกเว้นครัวห้อง 1 Bedroom Type D เป็น SPC)
เคาน์เตอร์ครัว
ห้องนี้จะได้แต่เคาน์เตอร์ครัวนะคะ ตู้อื่นๆเป็นเพียงแค่ตกแต่งเพิ่มเติม อย่างเคาน์เตอร์ด้านล่างหน้าบานที่ได้จะเป็น Particle Board ปิดผิวเมลามีนสีขาวผิว gloss
เตาไฟฟ้า 2 หัวเหมาะกับการใช้งานในห้อง 1-2 คนของ Hafele
อ่างล้างหน้าแบบหลุมเดียวของ Hafele เช่นเดียวกัน
ตู้ด้านบนพร้อมช่องเก็บของ
ตู้ด้านบนทางโครงการติดตั้งเครื่องดูดควันมาให้พร้อมมีช่องเอาไว้วางของ
พื้นที่ระเบียงสามารถออกมาใช้งานได้เต็มที่ เพราะเครื่องซักผ้าถูกวางไว้ในครัวแล้วและ Condensing Unit ของแอร์ก็ถูกแขวนไว้ด้านบนค่ะ
ห้องน้ำจะอยู่บริเวณเดียวกับห้องครัวค่ะ
ห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจน ผนังโดยรอบกรุด้วยกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 cm. แต่ฉากกั้นอาบน้ำทางโครงการไม่ได้ให้นะคะ เราสามารถซื้อมาติดเพิ่มเติมได้ค่ะ
อ่างล้างมือ
อ่างล้างมือได้มาพร้อมตู้ใต้อ่าง สามารถเปิดออกมาเก็บของได้
ชักโครกได้ตามแบบในห้องตัวอย่างเลย พร้อมด้านข้างทางโครงการทำช่องเก็บของไว้ให้
พื้นที่อาบน้ำ อาบน้ำได้สบายๆ มีเตรียมระบบรองรับลูกบ้านมาติดเครื่องทำน้ำอุ่นเองภายหลังขนาดไม่เกิน 3,500 วัตต์ค่ะ
ต่อมาเป็นห้อง 1 Bedroom Plus 34.50 ตารางเมตร เข้ามาจะเจอ Common Area ขนาดใหญ่ซึ่งสามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารได้ ห้องครัวจะเป็นครัวปิดอยู่ฝั่งด้านหน้าห้องเป็นสัดส่วนดีแต่จะไม่เชื่อมต่อกับระเบียงเหมือนห้อง 1 Bedroom Type ก่อนหน้า ซึ่งเวลาทำอาหารทางโครงการจะมีเครื่องดูดควันแบบดูดออกนอกอาคารมาให้ค่ะ สำหรับห้องนอนจะมีการกั้นเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวด้วยผนังทึบ ตำแหน่งอยู่ด้านในสุด ทำให้มีความเป็นส่วนตัว ห้องนี้จะมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาอีก 1 ห้องด้วย สามารถใช้งานเป็นห้องนอนหรือห้องทำงานอีก 1 ห้องได้ โดยห้องน้ำจะวางไว้ตรงกลาง ไม่ว่าจะใช้งานฟังก์ชันไหนก็เดินมาเข้าได้สะดวกค่ะ
เข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ซึ่งสามารถจัดฟังก์ชันได้ทั้งนั่งเล่นและรับประทานอาหาร
เราจะรู้สึกว่าบริเวณนี้กว้างมากๆ สามารถวางโซฟายาวๆได้เลย อย่างในห้องตัวอย่างก็จัดโต๊ะอาหารให้เป็นทรงสูงทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งทานข้าวและทำงาน ใครชอบไอเดียนี้ก็ลองไปจัดห้องตามได้นะคะ
ตำแหน่งของห้องครัวของห้องแบบ 1 Bedroom Plus จะอยู่บริเวณหน้าห้อง กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียม ซึ่งสามารถกันกลิ่นออกมารบกวนได้บางส่วน พื้นจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 cm. ทำความสะอาดง่ายเหมาะกับการใช้งาน
ห้องครัวเราได้เคาน์เตอร์ด้านล่าง ตู้ด้านบน และ Backsplash กระเบื้องเซรามิกลายหิน Terrazzo พร้อม Hob Hood Sink ของ Hafele ส่วนตู้ที่ปิดสติกเกอร์เพิ่มเติมทางโครงการไม่ได้ให้ เป็นการตกแต่งห้องตัวอย่างเท่านั้นนะคะ
เคาน์เตอร์ครัว
เคาน์เตอร์ครัวด้านล่างได้ตามแบบนี้ มีตู้เอาไว้เปิดเก็บของได้ ตำแหน่งของเครื่องซักผ้าจัดวางไว้อยู่ตรงนี้เช่นเดียวกัน
ตู้ด้านบน
ตู้ด้านบนพร้อมเครื่องดูดควันออกด้านนอกโครงการของ Hafele
ห้องอเนกประสงค์
ห้องอเนกประสงค์กั้นเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน
ห้องนี้มีหน้าต่างและระเบียงดังนั้นถึงแม้ว่าห้องจะเล็กหน่อยแต่ก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยค่ะ
มีพื้นที่จัดเป็นมุมทำงานและวาง Daybed สำหรับนั่งพักผ่อนได้ 1 ตัวค่ะ
ระเบียงมีขนาดกว้างขวางสามารถไปยืดสูดอากาศหรือนั่งพักผ่อนได้ โดย Condensing Unit ของแอร์มีการแขวนไว้ด้านบนเช่นเดียวกับห้องก่อนหน้า ทำให้สามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่
ถัดไปอีกฝั่งของห้องจะเป็นห้องนอนและห้องน้ำค่ะ
ห้องนอน
ห้องนอนสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้และมีพื้นที่เหลือโดยรอบ มีหน้าต่างขนาดใหญ่เอาไว้ให้นอนชมวิว
ด้านข้างเตียงทางฝั่งซ้ายสามารถจัดเป็น Walk-in Closet ได้แบบนี้
บรรยกาศและสุขภัณฑ์ของห้องน้ำเหมือนกับห้องก่อนหน้า แบ่งเป็นสัดส่วนแต่ไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำนะคะ
เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า
อ่างล้างหน้าได้แบบมีตู้เปิดออกมาเก็บของได้
โถสุขภัณฑ์ได้ตามนี้ค่ะ
พื้นที่อาบน้ำที่เป็นสัดส่วนมาพร้อมกับฝักบัวและเดินงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
Chapter One Spark Charan (เชปเตอร์วัน สปาร์ค จรัญ) ราคา ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566
- 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 22.00 – 30.75 ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.50 ราคาเริ่มต้น 2.72 ล้านบาท
- 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 55.30 – 55.75 ราคาเริ่มต้น 4.60 ล้านบาท
- Loft พื้นที่ใช้สอย 22.00 – 55.30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.28 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร
- Kitchen ท็อป Composite Stone / Sink ของยี่ห้อ Hafele
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ Hafele
- จอง 990 บาท
- ทำสัญญา 4,010 บาท
- ผ่อนดาวน์ 24 งวด
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล : Chapter One Spark Charan (เชปเตอร์วัน สปาร์ค จรัญ) เป็นคอนโด High Rise ติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ (บริเวณช่วงซอยจรัญสนิทวงศ์ 85) ที่ราคาถือว่าไม่แรงในย่านนี้ และยังเป็นทำเลที่มองเห็นวิวแม่น้ำได้อีกด้วย สำหรับความอุดมสมบูรณ์นั้น ทำเลนี้ถือว่าเป็นแหล่งชุมชนที่มีตลาด โรงพยาบาล โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า และสถานที่ราชการหลายแห่ง ติดโครงการมีตลาด มี 7-11 ไม่ไกลจากถนนบรมราชชนนีซึ่งมีครบทั้งเซ็นทรัลปิ่นเกล้า Lotus’s The Sense และ พาต้า
การเดินทางโดยใช้รถ : สามารถใช้ถนนจรัญสนิทวงศ์เชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักอื่นๆได้ง่าย ทำเลจัดอยู่ในจรัญฯช่วงปลาย ซึ่งมีข้อดีคือใกล้สะพานพระราม 7 สามารถใช้เส้นทางข้ามฝั่งเพื่อเข้าเมืองไปยังย่าน รัชดาภิเษก ลาดพร้าว พระราม9 ได้สะดวก นอกจากนั้นยังใกล้สะพานกรุงธนฯหรือสะพานซังฮี้อีกหนึ่งสะพานที่ใช้ข้ามฝั่งไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้ บริเวณสะพานนี้จะมีท่าเรือใช้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการเดินทาง อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกใช้หนีรถติดได้ ถือเป็นอีกความสะดวกหนึ่งในการเดินทาง
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ถือว่าสะดวกมากๆเพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ เรียกรถได้ง่ายทั้งแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ มีป้ายรถเมลล์อยู่หน้าโครงการ อีกทั้งตัวโครงการตั้งอยู่ห่างจาก MRT บางพลัดประมาณ 150 เมตร สามารถใช้เส้นทางเชื่อมต่อเข้าสู่เมืองได้ง่าย โดยสถานีนี้จะห่างจากสถานีเตาปูน-อินเตอร์เชนจ์เพียง 3 สถานี ห่างจากสถานี Bang Sue Grand Station เพียง 4 สถานี และอยู่ห่างจากสถานีเชื่อมต่อสวนจตุจักรเพียง 6 สถานีค่ะ
วัสดุ : ให้มาตามมมาตรฐาน พื้นปูด้วย SPC หนา 5 มม. และ กระเบื้องแกรนิโต้ 60×60 รูปแบบการขายเป็นแบบ Fully Fitted ได้สุขภัณฑ์และเคาน์เตอร์ครัว Backsplash กระเบื้องเซรามิกลายหิน Terrazzo / Hob Hood Sink มีเตรียมระบบรองรับลูกบ้านมาติดเครื่องทำน้ำอุ่น
การออกแบบ : โครงการออกแบบได้ดีทั้งการวางผังตัวอาคารและห้องพัก โดยห้องพักส่วนใหญ่ออกแบบเป็นครัวปิด สามารถทำอาหารในห้องได้ กั้นห้องเป็นสัดส่วน ส่วนพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ออกแบบได้น่าใช้งาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ Craft Of Work”
สาธารณูปโภค : พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1 , ชั้น 5 และชั้นดาดฟ้า ชั้นล่างLobby Lounge ห้องประชุม ห้องสำหรับให้ Food delivery มาส่งของ และห้องวางเครื่องดื่ม ส่วนชั้น 5 จะมี Café Glow (Co working นั่งทำงานสไตล์ร้านกาแฟ) Glow-Working Space (พื้นที่นั่งทำงาน) Luminous Pavilion (สวนที่มีชิงช้านั่งมองวิวได้) และ ห้องดูหนัง จุดเด่นโครงการคือพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มาแบบจัดเต็มและพื้นที่สีเขียวเกือบ 3 ไร่
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 80,000 – 120,000 บาท/ตร.ม., 9 พฤศจิกายน 2566
- ทำเล 7.5/10 – ตั้งอยู่บนนถนนจรัญฯ เป็นย่านชุมชมอยู่อาศัยเดิม
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – เดินทางสะดวก ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน
- ไม่ใช้รถ 8.5/10 – ใกล้ MRT บางพลัดประมาณ 150 เรียกแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ รถเมลล์ได้ง่าย
- วัสดุ 7.5/10 – ได้มาตามมาตรฐาน
- แบบ 7.5/10 – ออกแบบได้ดี แบบห้องจัดมาได้เป็นสัดส่วน
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – จัดเต็มมาให้ ไฮไลต์พิเศษคือชั้น Rooftop ที่มาพร้อมสระว่ายน้ำยาวกว่า 50 เมตร และสวนส่วนกลางที่รับทั้งวิวแม่น้ำ และวิวเมือง
- MAIN CLASS
- 7.83 / 10.00
Chapter One Spark Charan (เชปเตอร์วัน สปาร์ค จรัญ) เหมาะกับใคร
โครงการ Chapter One Spark Charan (เชปเตอร์วัน สปาร์ค จรัญ) เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า เห็นวิวแม่น้ำ ส่วนกลางเยอะในย่านจรัญสนิทวงศ์ โดยอาจเป็นคนที่เน้นใช้รถไฟฟ้าเดินทางไปทำงานในเมือง หรือ คนที่ชอบทำเลและความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ ชอบห้องครัวปิด มีงบประมาณระดับ 1.69 – 4.6 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,000 – 32,000 บาท/เดือน
ส่งท้ายปีด้วยโปรโมชั่นคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าและสินเชื่อพิเศษกับงาน Living Expo 2023 อย่าลังเลจนพลาดเป็นเจ้าของคอนโดราคาดีๆ
ลงทะเบียนรับฟรี หนังสือและโพย ที่จะพลิกทุกวิธีการหาบ้านเดิมๆให้ตรงใจและประหยัดเวลามากขึ้น
Living Expo 2023 วันที่ 23 – 26 พฤศจิกายน 2566 ชั้น 1 สยามพารากอน
ลงทะเบียนเลย คลิกที่นี่